#Re2love •10
- 50 เปอร์เซ็นต์ -
พิกเล็ตยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ตอนที่วิ่งตุบตับพุงกระเพื่อมเข้ามาเกาะขาบิดาเล่าเอาพุฒิถึงกับเซถอยหลังเพราะน้ำหนักตัวของลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“พ่อจ๋า”
เจ้าหมูเงยหน้าช้อนตามองเขาแล้วฉีกยิ้ม
“ว่าไงครับ”
“พ่อจ๋าดูซี่” มือป้อมๆ ยื่นสมุดภาพเล่มหนึ่งมาตรงหน้าแล้วใช้นิ้วจิ้มไปที่กระดาษปอนด์ท่าทางกระมิดกระเมี้ยนชวนเอ็นดู
“โอ้โหได้ห้าดาวเลยเหรอเนี่ย”
“ครูพี่กายบอกว่าหนูเก่ง”
เจ้าหมูได้ทีอวดอ้างตัวเองทันที เพราะภาพวาดสีน้ำในหัวข้อ "ครอบครัว" นั่นถูกประทับดาวตั้งห้าดวงจากครูสอนศิลปะคนคุ้นเคย
“ครับพ่อเชื่อว่าหนูเก่ง”
พุฒิยิ้มขำเด็กขี้โม้แล้วอ้าแขนรับลูกชายที่ยิ้มปะเหลาะขอนั่งตัก
“พ่อจ๋าดูซี่ นี่พ่อ นี่หนู นี่ย่าจ๋าแหละ”
“อ้าวแล้วสองคนที่เหลือนี่ล่ะครับ”
พุฒิพิจารณาตามภาพเห็นก้อนกลมๆ อีกสองก้อนก็พออุปมาได้ว่าน่าจะเป็นคนอีกสองคน และถ้าเดาไม่ผิดสองคนที่ว่าน่าจะเป็นส้มที่ยืนอยู่ใกล้กับมารดาของเขาตามจินตนาการของเจ้าหมู ส่วนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆ เขาคงจะเป็น...
“นี่พี่ส้ม ส่วนนี่อาโฬม”
“หือ?”
นึกว่าเจ้าหมูวาดภาพน้องสาวเขาที่แต่งงานไปกับสามีชาวต่างชาติซะอีก
“นี่อาโฬม”
พุฒิเผลอยิ้มออกมาเมื่อนิ้วป้อมจิ้มไปก้อนกลมๆ ที่อยู่เคียงข้างเขา
“ทำไมถึงวาดอาโฬมด้วยล่ะครับ”
“ก็ครูพี่กายบอกให้วาดรูปครอบครัว”
ครอบครัวงั้นเหรอ?
พุฒิชะงักก่อนจะรู้สึกอุ่นวาบในอกเมื่อคำพูดไร้เดียงสาของลูกนั่นบ่งบอกว่าโฬมก็เป็นครอบครัวของเจ้าหมูเหมือนกัน
“อาโฬมใจดี พาหนูไปดูวีนัสบ่อยๆ อาโฬมเลยเป็นครอบครัวของหนู”
“แล้วหนูชอบอาโฬมมั้ย?”
พิกเล็ตมุ่นหัวคิ้วเหมือนไม่ค่อยเข้าใจคำถามนั้นเท่าไหร่ แววตาใสแจ๋วจ้องมองบิดาจนพุฒิแอบกลืนน้ำลาย
“หนูชอบ”
พุฒิแอบถอนหายใจโล่งอก
โธ่ลูก!
“วีนัสสวยนะพ่อจ๋า หนูชอบวีนัส ชอบอาโฬม”
เจ้าหมูจับเอาสิ่งต่างๆ มาพูดรวมๆ กันจนยุ่งเหยิงก่อนจะหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว พุฒิเลยฟัดแก้มไปหนึ่งที
“แล้วพ่อจ๋าอ่า?”
“พ่อจ๋าทำไมครับ”
“พ่อจ๋าชอบอาโฬมรึเปล่า”
ฮะ!
พุฒิหายใจสะดุดกับคำถามไร้เดียงสานั่น เจ้าหมูดูจะไม่สนใจเอาคำตอบเท่าไหร่หรอกเพราะสายตาจ้องที่ผลงานครอบครัวของตัวเองอย่างใจจดใจจ่อ
..พ่อชอบอาโฬมรึเปล่า..
พ่อลูกหนึ่งเผลอนึกถึงคนในหัวข้อสนทนาที่พักหลังๆ ชักจะเข้ามาอยู่ในความคิดถึงของตัวเอง
ไม่ชอบ!
พ่อไม่ใช่
‘แค่ชอบ’ หรอก
.
.
.
“พี่พุฒิ”
“เฮ้ย”
ชายหนุ่มสะดุ้งโหยงเผลอปัดแก้วบนชั้นวางเกือบร่วงดีว่าใครบางคนปฏิกิริยาไวพอรีบคว้ามันเอาไว้ได้ทัน พุฒิรู้ดีว่าช่วงนี้ตัวเองมึนๆ เบลอๆ แค่ไหน ยิ่งวันนี้คุณพรรณีเธอบ่นว่าไม่สบายเขาเลยให้ส้มดูแลอยู่บ้าน วันนี้พุฒิเลยรับอาสาเฝ้าร้านกับป้องเท่านั้น
“เกือบไปแล้ว”
พุฒิพ่นลมหายใจแรงๆ
“ขอบใจมากนะกาย”
“พี่เหม่ออะไรครับเนี่ย”
ครูสอนศิลปะของเจ้าหมูถามยิ้มๆ ขณะที่มือก็เรียงแก้วที่เอียงกระเท่เร่ให้เข้าที่เข้าทาง
“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย”
เจ้าหมอนี่หรี่ตามองเขาท่าทางสงสัย
“ท่าทางพี่เหมือนคนมีความรักยังไงยังงั้น ดูเหม่อๆ ใจลอย”
“พี่เปล่า”
พุฒิปฏิเสธลิ้นรัว
“เหรอครับ”
กายกดยิ้มมุมปากก่อนหน้านี้ก็แค่เอ่ยแซ็วเฉยๆ ไม่ได้คิดว่าการโยนหินถามทางจะทำให้ผู้สูงวัยกว่าแสดงอาการประหลาดเช่นนี้ ท่าทางหลุกหลิกดูตื่นๆ เหมือนกระต่ายนั่นทำให้เด็กหนุ่มยิ้มถูกใจ ก็พอจะรู้อยู่บ้างว่าพ่อลูกหนึ่งนี่มีท่าทางน่ารักน่าเอ็นดูไม่สมวัย แต่ไม่นึกว่าพอทำแบบนี้จริงๆ แล้วมันโคตรน่ามอง
“ทำไมมองพี่แบบนั้น”
“พี่รู้ตัวรึเปล่าว่าเวลาตัวเองเขินชอบเกาจมูก”
พุฒิรีบเก็บมือที่เกาจมูกตามที่อีกฝ่ายว่าอย่างรวดเร็ว
“พอถูกจับได้พี่จะเกาหัวแทน”
พ่อลูกหนึ่งอ้าปากพะงาบๆ มือที่ยกขึ้นเตรียมเกาศีรษะถึงกับสะบัดไปด้านหลังแทบไม่ทัน
“พี่นี่เหมือนเด็กชะมัด”
“เด็กอะไรเล่าจะสี่สิบอยู่แล้ว”
“สี่สิบกำลังแจ๋ว”
เด็กหนุ่มพูดจบก็ยักคิ้วให้เขาทีหนึ่งท่าทางกวนๆ พุฒิได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะหันกลับไปจัดของที่ชั้นเหนือศีรษะ เพราะไม่ระวังมือจึงเอื้อมไปปัดแก้วที่ยังเก็บไม่เรียบร้อยจนมันไปดันกล่องกระดาษบรรจุภัณฑ์ห่อใหญ่หล่นลงมาอย่างรวดเร็ว
“พี่ระวัง”
“เฮ้ย”
โครม!
“โอ๊ย”
“ฉิบหาย”
พุฒิตาเหลือกเมื่อกระดาษบรรจุภัณฑ์ห่อใหญ่หล่นใส่กายเต็มๆ แล้วไม่ใช่หล่นใส่ธรรมดาดันไปโดนแผลรถล้มที่ข้อมือเมื่อหลายวันก่อนของอีกฝ่ายอีกต่างหาก
“กายเลือดออก”
ผมตกใจเมื่อเห็นเลือดซึมจากข้อมือเด็กหนุ่ม จึงรีบคว้าข้อมือเตรียมไปทำแผลทันที
“เกิดอะไรขึ้นพี่”
ป้องที่ไปทำสะอาดหลังร้านโผล่หน้าออกพอดี
“กาย”
เสียงแผ่วเบาจากลำคอบุคคลที่สามที่เห็นข้อมือกายที่มีเลือดไหลซึมออกมาถึงกับหน้าเสียไม่ต่างจากพุฒิ
สองคนนั้นสบตากับแวบหนึ่งก่อนจะเบือนหนีไปคนละทาง
พุฒิมาคนโน้นทีคนนี้ทีก็ได้แต่ถอนใจก่อนจะประคองกายไปนั่งที่โซฟาหน้าเคาน์เตอร์ ไม่นานป้องก็หยิบกล่องปฐมพยาบาลจากหลังร้านมาสมทบ
“ขอโทษนะกาย พี่ไม่ระวังทำให้นายเจ็บตัวแบบนี้”
“อย่าทำหน้าแบบนั้นสิพี่ ผมไม่เป็นไร”
พุฒิหลุบตามองต่ำอย่างรู้สึกผิด
“ขอโทษนะ”
กายกดยิ้มมองมุมปากจ้องมองใบหน้าเนียนของคนมีอายุแล้วยิ้มน้อยๆ จังหวะนั้นหางตาดันเหลือบไปเห็นใครบางคนที่ยืนอยู่เบื้องหลังพ่อลูกหนึ่ง แววตาคู่นั้นเหม่อมองเขาราวกับว่าห่วงใย แม้จะเห็นเพียงเสี้ยววินาทีก่อนที่ฝ่ายนั้นจะรู้ตัวว่าถูกมอง กายก็มั่นใจว่าเขาเห็นบางอย่างในแววตาคู่นั้น
ชายหนุ่มหรี่ตามองอีกทีก่อนจะวนสายตามาที่พ่อลูกหนึ่งที่สาละวันทำแผลให้เขาอยู่
“หอมแก้มผมสักฟอดแค่นี้ก็หายเจ็บแล้วครับ”
พุฒิชะงักไปก่อนจะก่อนกดสำลีที่แผลคนหน้ากวนแรงๆ
“โอ๊ยพี่”
“เอาอีกสักฟอดมั้ยล่ะ”
กายหัวเราะร่วน และยิ่งรู้สึกสมใจที่เห็นสีหน้าใครคนเดิมชักสีหน้าใส่เขาตอนที่กายพูดประโยคเมื่อกี้กับพุฒิ และพ่อลูกหนึ่งเหมือนจะจับสังเกตอะไรบางอย่างเพราะหางตาเห็นคนสองคนกำลังทำหน้าเหม็นเบื่อใส่กัน ทั้งที่ก่อนหน้ามีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเหมือนจะแสดงออกว่ากำลังห่วงใยด้วยซ้ำ
“ป้องมาทำแผลให้กายแทนพี่หน่อยสิ”
“ครับ?”
“พี่ลืมไปว่าต้มน้ำกระเจี๊ยบอยู่หลังร้าน”
“แต่ว่า...”
พุฒิไม่รอให้ป้องปฏิเสธเจ้าตัวคว้ามือเด็กหนุ่มที่อ้ำอึ้งๆ อยู่ไปนั่งแทนที่ตัวเองทันทีก่อนจะผละออกมา พอลับหลังพ่อลูกหนึ่งแล้วคนที่ทำตัวเหมือนเป็นปฏิปักษ์กันก็จ้องกันอยู่เงียบๆ ก่อนที่ร่างโปร่งจะคว้ามือคนเจ็บมาสำรวจแล้วลงมือทำแผลต่อ
“มือหนัก”
กายพูดขึ้นลอยๆ
“เนื้อหยาบๆ แบบนี้คงไม่ระคายหรอกมั้ง”
“ปากเก่งขึ้นนะ”
“ขอบคุณที่ชม”
กายจ้องอีกฝ่ายนิ่ง
“กูด่ามึงอยู่”
“งั้นมึงก็ปากเสียไม่เปลี่ยนสินะ”
ป้องสวนกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
“ปากกูไม่เสียหรอก กูว่ามันหอมด้วยซ้ำ” กายแค่นยิ้ม “มึงก็เคยชิมแล้วนี่”
ป้องเม้มปากแน่นรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนวูบวาบ
“กูไม่ชอบจมปลักอยู่กับอดีตหรอก”
“ก็ดี..แต่ระวังอดีตมันจะวิ่งเข้าหาไม่รู้ตัว”
ทั้งคู่สบตากันนิ่ง ก่อนที่ป้องจะทำแผลต่อจนเสร็จ
“ระวังอย่าให้แผลโดนน้ำล่ะ”
“อืม”
“แล้วก็..” ป้องสูดลมหายใจลึกๆ “อย่ายุ่งกับพี่พุฒิ”
กายชะงักไป เขาพยายามจ้องมองแววตากลมโตนั่นแต่มองยังไงก็ไม่เห็นอะไรนอกจากความว่างเปล่า
“มึงหึง?”
ป้องถอนหายใจแรงๆ
“พี่พุฒิเป็นคนดี ขอร้องล่ะอย่ายุ่งกับพี่พุฒิอีก คนดีๆ ไม่ควรมีเรื่องให้วุ่นวายใจ”
“ทำไมแค่กูชอบพี่พุฒิแล้วต้องมีเรื่องให้วุ่นวาย”
ป้องไม่ตอบและหลุบตามองต่ำ
“ตอบกู”
“...”
กายเขย่าแขนอีกฝ่ายแรงๆ
“มันมีเรื่องอะไรที่กูยังไม่รู้”
“อย่ายุ่งกับพี่พุฒิ อย่าทำให้ครอบครัวพี่เขาต้องวุ่นวาย”
“กูไม่เคยรับปากในสิ่งที่ทำไม่ได้”
ป้องกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอ แล้วผละหนีออกมา ทิ้งให้ร่างสูงได้แต่มองอย่างคับข้องใจในคำพูดของอดีตคนคุ้นเคย
★ ☆★ ☆★ ☆
แวะมาหย่อนครึ่งนึงก่อนค่ะ ช่วงนี้ไม่ค่อยว่างค่ะ สปีดเราตกมากๆ
แต่ยังไงจะพยายามมาทุกจันทร์ให้ได้ รอกันหน่อยเนอะ จะพยายามปั่นให้ไวค่ะ
หวีดในทวิตติด #Re2love ด้วยน้า
รออ่านเม้นท์ของทุกคนอยู่นะคะ