“ครับ” ผมตอบรับเสียงรื่นหูนั้นอีกครั้งก่อนหันหลังไป
“มึงกวนเขาทำเหี้ยไรวะ” เพื่อนเขาพูดขึ้น
“เปล่ากรูไม่ได้กวน” เสียงยังไล่หลังผมตามมาซึ่งผมยังคงได้ยินนั้น
กะว่าจะเอาคืนใช่ไหม มันไม่ง่ายแบบนั้นหรอกครับลุง
ปอร์ขอท้า...........ผมคิดในใจ แล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะทำงานผมทันที
เสิร์ฟจานที่ 10 ส้มตำไทย
“ออย น้ำเปล่า แก้ว 3 แถวซ้าย โต๊ะ 3” ผมตะโตนบอกเจ้าออย
สั่งเจ้าออยไม่ทันไร อยู่ดีๆ ไฟทั้งร้านก็ดับพรึบลงอย่างน่าตกใจ
เหลือ เพียงตรงครัวที่พ่อครัว แม่ครัวใช้ทำกับข้าวเท่านั้นครับ ที่ยังสว่างไสว
สร้างความตกใจให้ลูกค้าไม่น้อย รวมทั้งตัวผมด้วย ลางสังหรณ์เริ่มมา
“เอาแล้วไหมล่ะ” ผมอุทานขึ้น ความมืดมาเยือนกรูอีกแล้ว แล้วมันจะเกิดอะไรขึ้นกับกรูอีกนี่
อีกไม่ถึง 2 นาที แสงสว่างจากเทียนถูกจุดขึ้นทีล่ะเล่มๆ จนครบทุกเล่ม
จากโต๊ะใหญ่ตรงกลางร้าน มันเป็นคำตอบว่าทำไมทั้งร้านเต็มไปด้วยความมืดมนต์
เสียงร้อง ผัว ผัว ผัว เอ้ย เพลงสุขสันต์วันชะนีเกิด จากชะนีนางสนมร้องให้กับชะนีนางพญาก็ดังขึ้น
ท่านกลางสายตาคุณลูกค้าทั้งร้าน
ผมล่ะอยากเข้าไปร่วมอวยพรเธอเหลือเกินครับ ว่า ขอให้สุขภาพแข็งแรงนะครับน้องนี
โดยเฉพาะสุขภาพแขนและฝ่ามือ มาถึงตรงนี้ผู้อ่านคงสงสัยแล้วว่าทำไม ผมถึงอวยพรแบบนั้น
ผมเฉลยก็ได้ ครับ
เวลาโหนกิ่งไม้ จะได้ไม่พลาดท่าตกลงมายังไงล่ะ เดี๋ยวมันจะเจ็บตัวเข้าให้ 555555555
ตอนนี้เพลงสุขสันต์วันชะนีเกิดก็ได้จบลงไปพร้อมกับแสงสว่างที่กลับคืนมาอีกครั้ง
ด้วยความร่วมมือร่วมใจจากพี่ชายผมนั้นเอง ทำหน้าที่ปิดเปิดไฟ
เค้กถูกตัดเป็นชึ้นเล็ก ๆ แจกจ่ายไปทั่วทั้งโต๊ะใหญ่
แต่ที่ทำให้คุณผู้อ่าน ตกตลึงไป 3 ถึง 8 วินาที คือ ผมน้องปอร์ผู้น่ารัก บักเดชเพื่อนสุดเลิฟ
ได้รับเค้กวันเกิดกับเขาด้วยเหมือนกัน สร้างความตกตะลึง งึงงวยเล็กน้อย
แล้วที่ทำให้ผมตกตะลึงมากไปกว่านั้น ครับ
พี่เอกของผม ...........คิดแล้วอยากร้องไห้ ฮือ ฮือ
ก็ได้รับเค้ก จากมือชะนีนางพญาที่ผมอยากอวยพรให้มันเหลือเกิน............ยอมมันไปก่อน รอให้มันเกิดเสร็จ รวมทั้งเช็คบิลแล้วเมื่อไร...........เห็นดีกันแน่มึง
แล้วโต๊ะ 3 แถวซ้ายจะเหลือรอดปลอดภัยเหรอครับ เสร็จมันหมด..............มึงจะแดกทั้งร้านเลยใช่ไหม หือออ
และตอนนี้ เตาเล็ก ๆ ถูกเติมถ่านลงไปพัดด้วยพัดลม พร้อมที่จะตั้งด้วยหมอจุ่มแล้ว
ผัก สด น้ำจิ่ม จานรอง ช้อนส้อม ตะเกียบ ถ้วยน้ำซุป
วุ้นเส้น รวมทั้งไส้ย่าง ตับหวาน ข้าวเหนียว 1กระติบ และหม้อจุ่ม
ได้พร้อมแล้วที่จะยกไปเสิร์ฟแล้วโดยเจ้าออย
“พี่ปอร์ หมูกับเครื่องในยังไม่ได้นะ” ออยเตือนผม
“เออ เดี๋ยวพี่จัดไปเอง แกเอาน้ำตกหมูไปส่ง โต๊ะหน้าที่วีด้วย” ผมบอกเจ้าออย
ผมจัดแจงสิ่งที่เจ้าออยเตือนผมเสร็จก็ดินไปพร้อมกับถาดใบใหญ่ ตรงไปที่โต๊ะซ้ายแถว3 ทันที
โดยยิ้มพิฆาตให้พี่เอกอย่างเช่นเคย
แต่ผมต้องหยุด ใจและเท้าไว้แค่นั้น เพราะของที่ยกมาต้องเสิร์ฟโต๊ะ3
“นี่ครับหัวใจห้องบนซ้าย
นี่ครับ ตับด้านซ้าย
แล้วนี่ครับ
ไส้ขดที่ 3” ผมพูดไปพรางยกของที่สั่งลงทีล่ะจาน ทีล่ะจาน
“ทานให้อร่อยนะครับ”
“เดี๋ยว” เสียงผมเบรกดังเอี๊ยดๆๆๆๆ หลังจากเขาทักขึ้น
“แล้วผมจะรู้ได้ยังไงว่าของที่คุณมาเสิร์ฟได้ตามที่ผมต้องการ
เอาแล้วไหมล่ะกรู งานเข้าอีกแล้ว ยังเจือกจำได้อีกนะมึง ว่าสั่งอะไรไป
ผมถอนหายใจ 1ครั้ง
“คืออย่างงี้ครับ บลาๆๆ.” ผมสาทยาย
“หัวใจห้องบนซ้ายมีขนาดเล็กที่สุดในห้องหัวใจทั้งสี่ห้อง
และวางตัวอยู่ทางด้านหลังสุด
โดยหัวใจห้องนี้จะรับเลือดที่ได้รับออกซิเจนจากปอดผ่านทางหลอดเลือดดำพัลโมนารี
และจึงส่งผ่านให้หัวใจห้องล่างซ้ายทางลิ้นไมตรัล” ผมสาทยายต่อ
“ที่ผมรู้ว่านี้คือหัวใจห้องซ้ายบนเพราะผมเลือกดูแล้วว่าห้องนี้เล็กที่สุดในบรรดาหัวใจ4ห้องที่ผมมี
และอีกอย่าง เลือดมันยังสดๆ อยู่แสดงว่ามันอุดมไปด้วย ออกซิเจน”
ทุกคนอยู่ในความเงียบสงัด รับฟังอย่างตั้งใจ…………ยังกะเป็นครูวิทย์ยังไงยังงั้น อิอิอ
แต่ก็ยังมีรอยยิ้มที่มุมปากของเพื่อน อีก2คน ทำให้รู้ว่าพอจะมีมิตรที่แฝงอยู่ในหมู่ศัตรูบ้าง555555555
“ส่วนนี่ ตับด้านซ้าย ผมก็ได้เสิร์ฟโดยวางไว้ที่ด้านซ้ายของคุณ อย่างที่คุณบอก
และยืนเสิร์ฟด้านซ้ายด้วย คุณได้ถึง 2ต่อเลยนะ
รอยยิ้มยังอยู่ที่มุมปากของเพื่อน 2 คนนั้นตามเดิม….แน่ใจนะว่ามาด้วยกัน555
“แล้วไหนล่ะไส้ ขดที่ 3 ที่คุณยกมาผมจะรู้ได้ยังไง” เขาถามกลับด้วยหน้าตาที่เอาจริงเอาจัง….แต่มีเหรอจะกลัว
รอยยิ้มที่มุมปากของ 2 คนนั้นได้หายไปแล้ว
“แล้วที่วางในจาน คุณเห็นมันเรียงกันอยู่กี่ขด แล้วขดที่เท่าไรมันว่างไว้.”
“คำตอบก็คือ ขดที่ 3” ผมตอบแทนเขาทันทีกลัวเขาเถียงกลับ
พูดจบผมก็ยกจานเล็กๆ อีกจานที่ใส่ไส้ อีก1 ขด ลงไปที่หน้าเจ้าลุงนั้นทันที
นี่ครับ ขดที่3 ที่มันว่างไว้เพราะ ขดนี้ สำหรับคุณ
“แล้วจะไม่ถามเหรอครับว่านี่เนื้อหมูตัวผู้หรือตัวเมีย.” สะอึกล่ะสิครับท่านผู้อ่าน
ผมรีบหันหลังให้ทันที่ หลังจากทิ้งระเบิดไว้ --------------------( ตอกกลับกวนครั้งที่1 )
เหลือไว้แค่ร่องรอยของความโกรธแค้นทีตอนนี้ไม่แผ่กระจายไปทั่วใบหน้าของลุงเข้าแล้ว
“กรูว่าแล้ว มึงกวนดีนักเป็นไงล่ะมึง เจอของแข็งเข้าให้ สมน้ำหน้า”
เสียงนั่นยังตามไล่หลังผมมาให้ได้ยิน
ผมนั่งลงโต๊ะตัวเดียวกับไอ้เดช ตอนนี้มันกำลังกินเค้กของน้องนีอยู่
“เป็นไรมึง หน้าตายังกำลังโดนปอบ แดก” บักเดชถามผม
“กินเค้กต่อไปเลยมึง ถ้าไม่อยากโดนกรูแดก” มันหัวเราะ คิก คิก แต่ผมอารมณ์เสีย จินตนาการต่อไปว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับชีวิตกรูนี่
สัญญาณมือยกขึ้นเป็นอันรู้ว่าลูกค้าต้องการเรียกใช้บริการ
ครับ มันคือโต๊ะ ซ้าย แถว 3นี่เอง ก็จะใครอื่นอีกล่ะครับท่านผู้อ่าน
ผมเดินไปหยุดที่หน้าเขาคนนั้น ที่หน้าตาเขาไ่ม่้ได้มองมาที่ผมเลย
แต่เราต้องต่อสู้กันด้วยลำแสง แห่งความดีกับความเลวร้าย
โดยมีผมเป็นเทพ อีกคนเป็นมาร โดย 2 ลำแสงนี้ไม่มีใครสามารถมองเห็นได้นอกจากเราสองคน
“ขอตะเกียบใหม่ มันหล่น” เขาออกคำสั่ง ----------------------(กวนที่ 2)
มันหล่นจริงๆ ครับ อันนี้ยอมให้เพราะเห็นหลักฐาน
ผมเดินจากไปและกลับมาใหม่ด้วย ตะเกียบคู่ใหม่ที่ยังอยู่ในซองพลาสติก
“นี่ครับ ตะเกียบ” ผมยื่นให้พร้อมกับเดินจากไป
สัญญาณมือยกขึ้นเป็นอันรู้ว่าลูกค้าต้องการเรียก(จิก)ใช้บริการ แต่มันคือโต๊ะเดิมครับ
“ขอช้อนใหม่ ช้อนหล่น” คำสั่งเหมือนเดิม --------------------(กวนที่3 )
หน้าตาของคนออกคำสั่งนั้น ยังจ้องมองที่หม้อจุ่มเหมือนเดิม
ผมกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับ ช้อน 1 คัน
“นี่ครับช้อน” พร้อมกับยื่นให้เขาไปอีกครั้ง
“หวังว่า ครั้งต่อไป ส้อมคงไม่หล่นอีกนะครับ” ผมกวนกลับบ้าง
พูดยังไม่ทันขาดคำ ส้อมก็หล่นลงพื้นเสียแล้ว โดยเขา (มัน) จงใจแกล้งผมต่อหน้าต่อตา -----------กวนที่ 4
ผมพยายามเก็บความรู้สึกสุดชีวิต
“ไม่เป็นไรครับ” ผมตอบ แต่น้ำเสียงเบาลงอย่างเห็นได้ชัด …………กรูทนไม่ไหวแล้วนะนะ
เพื่อน 2 คนนั้นตกอยู่ในอาการ เหว่อ สิครับ มองหน้ากันทำตา ปริบๆ
ผมเดิมกลับไปที่ครัว
แล้วกลับมาอีกครั้ง พร้อมกับ
จานรอง 3ใบ
ถ้วยน้ำซุป 3ใบ
ช้อนและส้อม 3คู่
ตะเกียบ 3คู่ -------------------( ตอกกลับ กวนที2-4 รวมกัน )
“นี่ครับ ผมเอามาให้เยอะๆๆ เผื่อว่าที่คุณมีอยู่ จะใช้ไม่พอ”
เขาเปลี่ยนจากมองที่หม้อหมูจุ่ม มามองที่หน้าผมแทน.............สะใจจริงกรู
คราวหน้าคงไม่ใช่หม้อจุ่มหล่นนะครับ ถ้าหล่นอันนี้คิดตังค์เพิ่ม” ผมดักคอแล้วสะบัดบ๊อบเดินจากไป
“กรูว่าพอเถอะกอล์ฟ เดี่ยวเขาจะหาว่ามึงมาหาเรื่องเขานะ” เพื่อนเขาเอ่ยปากเตือน
ผมได้ยิ้ม ยิ้ม แล้วเดินกลับไปที่โต๊ะตามเดิม…………..ใช่สิแต้ม กรูนำอยู่
แล้วอะไรจะเกิดขึ้นอีกนะ ชักมีลุ้นแล้วล่ะสิเรา...........
***
****
สูตรเด็ด..............ส้มตำไทย
พริกขี้หนู 3 เม็ด กระเทียม 3 กลีบ ถั่วฝักยาว 3 – 4 ท่อนหักพองาม ตำรวมกันในครกให้แตก อย่าละเอียดมาก
ใส่น้ำตาลปีบ ¼ ทัพพี น้ำปลา ¼ ทัพพี ชูรสเล็กน้อย น้ำมะหนาวครึ่งลูก(ปีบสด ๆ) กุ้ง ถั่วลิสง มะเขีอเทศ ใส่ลงไปในครก ตำให้เข้ากัน แล้วใส่ เส้นมะละกอ 1 กำมือใหญ่ๆ แล้วคนให้เข้ากัน ชิมตามใจชอบ
**********
มาต่อให้แล้วนะครับกลัวคนรีบเข้านอนไม่ได้อ่าน
ยังไงถ้ามีคำผิดเดี๋ยวจะกลับมาแก้ให้นะคัรบขออาบน้ำก่อน อิอิิอ