ตอนที่ 23ผมไม่อยากตื่นไปเรียนเลยสิ ให้ตายเถอะครับ เพราะผมไม่อยากจะเจอหน้าไอ้บาสยังไงก็ไม่รู้ ผมไม่เข้าใจในสิ่งที่มันทำเลยว่าทั้งหมดที่มันทำไปเพื่ออะไร ประชดผมงั้นหรอ หรือว่ามันชอบปูจริงๆ อย่างหลังผมว่ามันเป็นไปไม่ได้เพราะตอนม.4ก็เห็ฯๆกันอยู่ว่ามันไม่ค่อยจะชอบปูสักเท่าไหร่ ถึงแม้ว่าเหมียวจะเชียร์ขนาดไหนก็ตาม
วันนี้ผมไปเรียนแบบเรียกว่า เกือบไร้วิญญาณ ครับ คือ เหมือนว่าตัวไปเรียนไปแต่ใจมันลอยหายไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ อาจจะเป็นที่เก้าอี้หน้าบังกะโลในคืนนั้นก็ได้ ผมไม่ค่อยอยากเห็นภาพบาสกับปูนั่งสวีทกันสักเท่าไหร่ เช้านี้ผมเลยหนีมานั่งในห้องสมุด ทั้งๆที่ไม่เคยเข้ามาชาติกว่าๆ พอนั่งไปได้สักพัก เพจผมก็ดังขึ้น
“อยู่ไหนมาเจอที่โรงอาหารหน่อย/เหมียว”
อะไรกันอีกเนี่ย ผมอุตส่าห์จะหลบหน้าพวกเพื่อนๆไปสักพักแล้วนะเนี่ย ต้องไปเจอเหมียวอีก มีอะไรกันอีกล่ะ
ผมเดินไปที่โรงอาหาร โต๊ะประจำของพวกผมจะอยู่ข้างห้องช่างยนต์ครับ เป็นโต๊ะที่ไม่ได้อยู่ในโรงอาหารซะทีเดียวแต่อยู่ติดๆกัน ซึ่งพวกผมนั่งกันประจำมาตั้งแต่ม.1 แล้ว และผมก็เดาไม่ผิด บาสกับปูกำลังเดินถือข้าวราดแกงมานั่งที่โต๊ะ ผมกำลังจะหันหลังกลับเพราะไม่อยากเห็น ไม่อยากรับรู้กับภาพนั้นแต่ก็ได้ยินเสียงเหมียวที่ตะโกนเรียกผมมาแต่ไกล
“ต๋อง ทางนี้ เหมียวซื้อข้าวให้แล้ว”
เหมียวซื้อข้าวหมกไก้เจ้าโปรดเอาไว้ให้ผมเรียบร้อยแล้วครับ แต่ทำไมไม่รู้สิ ข้าวหมไก่ของโปรดของผมวันนี้ ผมกลืนมันไม่ลงเอาซะเลย ผมวางช้อนหลังจากที่ผมกินไปได้แค่ 2-3 คำ
“ไม่อร่อยหรอ” เหมียวหันมาถาม
“อึ่ม วันนี้มันหวานๆ ไม่ค่อยอร่อยอ่ะ ไม่รู้ทำไม” ผมพูดพลางมองไปฝั่งตรงข้ามของโต๊ะ “สงสัยว่ามันจะแผ่ออกมาจากฝั่งตรงข้ามของโต๊ะล่ะมั๊ง” ผมประชด
“นั่นสิ หวานกันจัง คู่นี้” เหมียวพูดพลางหัวเราะ
ปูก็เอาแต่หน้าแดง ส่วนไอ้บาสมันก็ทำหน้าตาไม่รู้ไม่ชี้ ทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อนที่ผมประชดมันเอาซะเลย ผมคงนั่งตรงนี้ต่อไม่ไหวแล้วครับ อะไรก็ไม่รู้มันแน่นอยู่ข้างใน อึดอัดจนพูดอะไรไม่ออก จู่ๆน้ำตามันก็เหมือนจะไหลออกมาซะงั้น ผมเลยขอตัวไปเข้าห้องน้ำ โดยอ้างว่าเมื่อเช้าตื่นสาย เลยไม่ได้เข้าห้องน้ำมา
ผมรีบเดินกึ่งวิ่งมาที่ห้องน้ำหลังอาคาร 2 ที่ไกลจากโรงอาหารที่สุด เพราะผมไม่อยากจะอยู่ใกล้ๆมันเลย ผมน้อยใจ ผมทำอะไรไม่ถูก ผมไม่รู้ว่ามันเป็ฯอะไร ทำไมมันทำกับผมอย่างนี้ ที่ผ่านมาตอนไปทะเลมันคืออะไร ผมเฝ้าถามตัวเอง
เสียงเพลงที่ดังไปทั่วโรงเรียนบอกเป็นสัญญาณว่า ได้เวลาเข้าแถวแล้ว แต่ผมยังยืนอยู่ในห้องน้ำที่เดิม วันนั้นผมเซ็งมากๆจนไม่อยากเข้าเรียน ผมไม่อยากเข้าไปเจอหน้ามัน ไม่อยากรู้ว่ามันย้ายที่นั่งเรียนไปนั่งกับคนอื่น ไม่อยากเห็นมันไปนั่งกินข้าวกับปูตอนกลางวัน ไม่อยากเห็นมันขับรถไปส่งปูตอนเลิกเรียนแทนที่จะเดินไปเอารถที่บ้านผมพร้อมๆกัน ตอนนี้มันเอารถมารึเปล่า ไปจอดรถที่ไหนผมยังไม่รู้เลย มันดูเหมือนจะกลายเป็นคนแปลกหน้าไปอีกครั้ง
ผมไม่รู้จะไปเอาตัวเองอยู่ที่ไหนดีที่จะไม่รับรู้เรื่องของมันได้ เลยกะว่าวันนี้ผมขอโดดเรียนดีกว่า แล้วพรุ่งนี้ผมจะตัดใจ จะไม่สนใจมันสองคนอีก ผมจะเป็นแฟนที่ดีของเหมียว เป็นเพื่อนที่ดีของมันถ้ามันยังอยากให้เป็น ถ้าไม่ผมก็จะขอแยกตัวออกมาห่างๆ
ผมกะว่าจะเข้ามาเปลี่ยนเสื้อที่บ้านแล้วไปนั่งเล่นที่ขั้นบันไดหน้าสยาม นั่งคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย พอเที่ยงก็ดูหนังที่สกาลา เรื่องอะไรจะเป็นเรื่องอะไรผมไม่รู้ ไม่สนใจด้วยรู้แต่ว่าเป็นโรงหนังที่ผมเคยมาดูบาส จากนั้นค่อยเดินไปวัดปทุมฯ ไปนั่งเล่นเพราะมันเป็นที่ๆเงียบดี แล้วก็ใกล้สยามดีด้วย ผมมันอยู่กับยายมาตั้งแต่เด็กครับ เข้าวัดอยู่บ่อยๆเพราะฉะนั้นเวลามีเรื่องไม่สบายใจ ผมก็ชอบไปนั่งในวัด ให้ใจมันไม่ฟุ้งซ่านมาก เวลาเราอยู่ในที่ที่มันสงบ นิ่งๆ มันทำให้เราคิดอะไรได้เยอะเลยนะครับ
พอคิดวางแผนว่าจะไปไหนมั่งวันนี้ ผมก็ตัดสินใจโดดเรียนในวันนั้นเลยครับ
ห้องน้ำหลังอาคาร 2 ที่ผมมายืนอยู่ตอนนี้ เป็นที่รู้กันของนักเรียนหลายๆคนอยู่แล้วว่าหลังห้องน้ำมีช่องให้ปีนออกไปนอกโรงเรียน แต่จะต้องแหวกรั้วหนามออกนิดนึงแล้วก็เสี่ยงหน่อยเพราะช่องนี้จะใกล้ห้องของฝ่ายปกครอง ประมาณว่าถ้าอาจารย์บังเอิญมองลงมาตอนปีนอยู่ก็เสร็จเลย ต้องเสี่ยงดวงเอา ถ้าแจ๊คพอตก็ซวยไป
แต่ผมคงเจอแจ๊คพอตยิ่งกว่านั้น เพราะในตอนที่ผมกำลังแหวกรั้งลวดหนาวแล้วลอดตัวออกมา ตอนที่ผมหย่อนตัวลงมาจากขอบรั้ว จู่ๆก็มีมอเตอร์ไซค์วิ่งมาจากที่ไหนก็ไม่รู้ วิ่งเข้ามาเฉี่ยวผมเต็มๆ ทำให้ผมล้มลงไปฟาดกับถนนอย่างแรง
======================================================
ขอโทษที่ช้าหน่อยนะครับ เพิ่งเขียนเสร็จแบบสดๆเลย