ตอนที่ 12
T W I N K L E L I T T
ไอดีไลน์ของสตาร์ต้องเป็นคำว่าทวิงเกิ้ลลิตเติ้ลสตาร์แหงเลย ผมที่นอนแอ้งแม้งอยู่ที่บ้านว่างจัดและก็ยังมีเรื่องคาใจที่ต้องเคลียร์กับสตาร์ ก็เลยเสิร์ชชื่อไอดีสตาร์ตามที่ผมคาดเดา (ขอโกงนิดนึง)
แต่ไม่ใช่ว่ะ มันเป็นไอดีของใครก็ไม่รู้
อยากจะโหวกเหวกโวยวายว่าทำไมต้องใช้ไอดีที่ยาวปานสะพานพระรามแปดแบบนี้วะ กลัวคนแอดไปหาหรือไง ทำไมต้องทำให้เรื่องยุ่งยากแบบนี้
แล้วที่บอกว่าจะมาง้อที่บ้าน จะมาวันไหนกันแน่ล่ะวะ!
ผมคาดเดาไปเองว่าน่าจะเป็นคืนเมื่อวาน วันเดียวกับที่ผมกับสตาร์ไปหาไอ้เรย์ที่สยาม แต่ผิดคาดแฮะ ไม่ใช่เมื่อวาน ผมก็เลยตั้งความหวังเอาไว้ว่าน่าจะเป็นวันนี้ ทุกอย่างเหมาะเจาะลงตัวพอดีเด๊ะ เพราะเป็นวันที่เพื่อนห้องสองของผมประกาศกร้าวผ่านกรุ๊ปไลน์ของห้องว่า
'ใครไปโรงเรียน กูแบน!'
เนื่องจากอาทิตย์นี้จะมีการสอบตรงเข้ามหา'ลัยแห่งหนึ่งครับ เป็นมหา'ลัยฮอตฮิตที่เพื่อนผมส่วนใหญ่อยากจะเข้า ก็เลยนัดกันโดดยกห้อง ผมไม่ได้สมัครมหา'ลัยนี้ แต่ผมก็ไม่อยากโดนเพื่อนแบน (จริงๆ ก็ขี้เกียจด้วย) ก็เลยไม่ไปโรงเรียน ไม่รู้สตาร์จะสงสัยหรือเปล่าว่าผมหายไปไหน
ในเมื่อมันบอกว่าจะมาง้อผมถึงที่บ้าน ผมก็รออยู่บ้าน ให้มันมาง้อผมอยู่นี่ไง
"ดิน" แม่ที่วันนี้อยู่บ้านเอ่ยทักผมซึ่งกำลังนอนอยู่บนโซฟา "พี่พิงค์กลับมาแล้วนะรู้ยัง"
ไอ้พิงค์มาแล้วเหรอ ผมไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ครับเพราะอย่างเคยบอก พี่ชายฝาแฝดแม่งไม่ค่อยมีผลกับชีวิตผมเท่าไหร่ สนิทกันก็จริงแต่ก็ไม่ได้แคร์อะไรกันขนาดนั้น
เอ่อ ก็ได้ครับ ผมสารภาพก็ได้ว่าผมโกรธพวกมัน มีอย่างที่ไหนไปเรียนนอกกันหมด แถมยังไปเรียนคนละที่ ที่สำคัญยังปล่อยให้ผมอยู่กับพ่อแม่ที่เมืองไทย อีกทั้งยังทำให้ผมโดนพ่อแม่บังคับให้เรียนที่ไทยอีก โคตรตัดตัวเลือกผมอ่ะ
สรุปคือผมงอนมันสองคนนั่นแหละ
ไอ้พานไปเรียนวิศวะ ส่วนไอ้พิงค์ไปเรียนถ่ายรูป คนหลังมันจะติสต์ๆ หน่อย ยุ่งด้วยไม่ค่อยได้เท่าไหร่ครับ เดี๋ยวมันจะเตะไข่เอา ถ้าจะถามว่ามันว่ามันติสต์มากขนาดไหนก็ดูตอนที่มันกลับมาไทยสิครับ ไม่ยอมบอกพ่อกับแม่ให้ไปรับเลย
ที่แน่ๆ ไม่ยอมบอกผมด้วย
ไอ้พี่เหี้ยยยยย
"ตื่นเต้นจังเลย" ผมพูดอย่างเฉยเมย
"จะไปโกรธพี่เขาทำไมล่ะ พี่เขาไปเรียนนะ"
"ไม่โกรธแล้ว"
"ถ้างั้นก็ไปทักทายพี่เขาหน่อย"
"ไม่เอาครับ เดี๋ยวมันลงมามันก็ทักดินเอง" ผมพูด ฟอร์มของผมสำหรับพี่น้องสูงเท่าเพดาน ขอบอกไว้ ณ ตรงนี้เลย
"แล้วเป็นไงบ้าง แม่ยังไม่มีโอกาสได้ถามเลย"
"เรื่องไหนครับ" รู้สึกระแวงเล็กน้อย กลัวแม่รู้ว่ามีความรัก
"ก็เรื่องที่ไปสอบมอ C ไง"
"..."
"เป็นไงบ้าง คิดว่าจะมีโอกาสติดมั้ย"
"ผมคิดว่าสมัครที่อื่นเผื่อไว้ดีกว่า อีกอย่างหนึ่งพ่อก็อยากให้เข้ามอ A มากกว่าไม่ใช่เหรอครับ"
"ใช่ พ่อเขาเป็นศิษย์เก่า แต่แม่ก็อยากให้สมัครมอ D ด้วย อย่าลืมนะว่าแม่จบมอ D มา"
"เอาเป็นว่าผมจะสมัครทุกที่ให้พ่อกับแม่เลยก็แล้วกัน"
"นี่แม่ไปคุยโวกับบ้านน้องฟืนมาแล้วนะว่าลูกชายแม่ต้องติดมอ C แน่ๆ"
"แม่จะไปคุยทำไมเล่า" ผมร้อง
"ยังไงลูกแม่ก็ติด แม่มั่นใจ"
แม่ไม่รู้หรอกวันนั้นการสอบในภาคเช้าของผมเละไม่มีชิ้นดี เพราะผมมัวแต่โมโหเรื่องที่สตาร์อยู่กับเรย์ จะว่าไปมันก็ไม่ดีเลยนะครับที่ผมมีความรักตอนผมอยู่ ม.6 เนี่ย แต่ทำไงได้ล่ะ เวลาคนที่ใช่มา มันไม่เลือกหรอกครับว่าจะเป็นตอนไหนเวลาไหน แล้วมันก็ขึ้นอยู่กับเราว่าเราจะตัดสินใจคว้าเขาเอาไว้หรือไม่
แน่นอนว่าคนนี้โดนใจมาก และผมไม่อยากปล่อยมันไป
ตอนนี้เป็นเวลาเกือบสิบเอ็ดโมงแล้ว แม่กลับไปดูแลสปา ร้านที่เป็นกิจการของแม่ ส่วนพ่อผมทำอีกธุรกิจหนึ่งครับเกี่ยวกับการท่องเที่ยว ทั้งคู่ยุ่งมากแต่ก็ยังพยายามหาเวลามาอยู่กับผม
ในที่สุดไอ้พิงค์ได้ฤกษ์เสด็จลงมาจากห้องนอนสักที
"ไง" มันทักผม ดูหล่อขึ้นมากจากเมื่อปีก่อน ผมนึกว่ามันจะไว้หนวดไว้เครา ที่ไหนได้ใบหน้าของมันเกลี้ยงเกลาแถมทรงผมก็ยังดูดีมากอีกต่างหาก อะไรกัน พี่ผมไม่ใช่ศิลปินสายเซอร์ๆ เหรอวะ "ได้ข่าวว่างอนกู"
"ไม่ได้งอน" ผมโวย "ข้าวอยู่ในครัว แม่ฝากบอก"
"มาแดกด้วยกันดิ"
"ไม่แดก แดกไม่ลง"
"นั่นไง งอนกูอยู่ชัดๆ"
"ไม่ได้งอนโว้ย แต่มีเรื่องให้คิดอยู่ต่างหาก"
"เรื่องผู้หญิงเหรอ มึงเลิกกับหยกแล้วไม่ใช่หรือไง"
คิดดูครับว่าหยกเคยมีอิทธิพลกับผมขนาดไหน พี่ผมยังรู้จักอ่ะ
"ไม่ใช่หยก"
"..."
"ไม่ใช่ผู้หญิงด้วย"
คำพูดของผมทำเอาพิงค์มันสตัน จากนั้นก็เดินมาหาผมด้วยใบหน้าตื่นตกใจก่อนจะยิ้มแป้น
"เด็ดว่ะน้องกู"
"ของมันแน่"
มันเป็นคนเปิดกว้าง ถึงแม้จะทำตัวเข้าใจยากไปสักหน่อย แต่ข้อดีของมันก็คือมันเชื่อว่าทุกคนมีสิทธิ์เลือกว่าตัวเองจะใช้ชีวิตแบบไหน
"ว่างๆ เอามาอวดหน่อย กูอยากรู้ว่าจะหล่อกว่ามึงมั้ย"
"ใครจะหล่อสู้กูได้"
"กูนี่ไง"
"พี่ดินครับ" เสียงตื่นๆ เสียงหนึ่งดังขึ้นแทรกระหว่างผมกับพิงค์ ผมรีบลุกขึ้นนั่งมองดูสตาร์ที่อยู่ในชุดนักเรียนด้วยความตกตะลึง นอกจากมันจะโดดเรียนมาหาผมในเวลากลางวันแสกๆ แล้ว มันยังเข้ามาในบ้านผมได้ง่ายๆ เฉยเลย
ใครเปิดประตูให้เนี่ย
"หืมมม" ไอ้พิงค์เอียงคอเป็นเชิงถามผม ผมทำปากขมุบขมิบไร้เสียงบอกพี่ชายตัวเองว่า 'คนนี้แหละๆ'
"เข้ามาได้ยังไง" ผมถามสตาร์
"คุณแม่พี่ดินเปิดให้ครับ พอดีสวนกันน่ะ"
"นี่ภูพิงค์นะ พี่ชายของพี่"
"เอ่อ หวัดดีครับ" สตาร์ยกมือไหว้ ไอ้พิงค์มองสตาร์เหมือนมองปู ไปรยา นัยน์ตาเป็นประกายฉิบหาย
"แฟนมึงเหรอ" พิงค์ถามผมอย่างไม่เกรงใจผู้มาใหม่
"ใช่" ผมตอบ "รู้แล้วก็ไปได้แล้ว อย่ามากวน"
"ไปไหนล่ะ นี่บ้านกู"
"นี่บ้านกูเหมือนกันอ่ะ เอาของกินขึ้นไปกินในห้องนอนไป๊"
"มึงสองคนก็ขึ้นไปบนห้องนอนมึงสิ กูจะแดกข้าวแถวนี้"
ผมอ้าปากพะงาบๆ ขณะที่สตาร์หน้าแดงเป็นลูกตำลึงสุก เดี๋ยวก่อนนะ เพิ่งจะจับสัญญาณอะไรบางอย่างได้ว่าพี่ผมมันกำลังช่วยผมอยู่นี่หว่า ดูจากสายตาที่เต็มไปด้วยความนัยของพิงค์แล้ว มันกำลังเปิดโอกาสให้ผมชัดๆ
สตาร์ดูวางตัวไม่ค่อยถูกเท่าไหร่ ผมควรจะแก้สถานการณ์นี้ยังไงดี ไอ้พิงค์เดินไปหยิบของกินมานั่งกินที่โซฟาเรียบร้อยแล้ว (ในครัวก็มีโต๊ะกินข้าวไม่ใช่หรือไง) เหมือนมันกำลังพยายามให้ผมพาสตาร์ขึ้นห้องนอนให้ได้
"คงต้องไปคุยกันข้างบนแล้วล่ะ" ผมรำพึง
น้องจะยอมมั้ยวะ ผมคิดในใจอย่างลุ้นๆ ที่แน่ๆ ผมไม่ได้จะทำอะไรมันหรอกครับ เดี๋ยวไก่ตื่นหมด
แต่ไอ้นั่นของผม...มันก็เริ่มจะมีความรู้สึกนิดๆ
"ก็ได้ครับ"
นั่นยังไงล่ะ! ผมชูมือดีใจลับหลังสตาร์กับพี่ชายตัวเอง ก่อนจะเดินนำสตาร์ไปยังห้องนอนของผมที่อยู่บนชั้นสอง
ไอ้พิงค์ไลน์มาบอกผมระหว่างที่กำลังเดินขึ้นบันได
PING : ขอโทษที่ทิ้งมึงไปนอก ไอ้น้อง
PING : เมื่อกี้ถือซะว่ากูไถ่โทษละกันผมยิ้มก่อนจะกดตอบ
Din : กูหายโกรธนานแล้วสัด กูแค่ไม่พูด
Din : ขอบคุณนะผมภาวนาในใจ...ขอให้ตัวเองไม่ใจร้อน เผลอทำอะไรบางอย่างกับน้อง...
"ห้องพี่ดินกว้างว่ะ" สตาร์มองดูห้องผมอย่างตื่นตาตื่นใจ ผมรู้สึกเก้อเขิน แต่ก็พยายามเก็บอาการนั้นเอาไว้ "โอ้โห" มันตกตะลึงกับกองหนังสือเรียนบนโต๊ะของผมมาก "นี่อ่านทุกวันจริงป่ะเนี่ย"
"ก็จริงน่ะสิ เห็นพี่เป็นคนขี้เกียจเหรอ"
"ประมาณนั้นแหละ"
"เฮ้ย" ไอ้นี่แม่งกวนประสาทแล้ว
"ล้อเล่น"
ผมปล่อยให้สตาร์สำรวจห้องผมตามใจชอบ ก่อนจะลงมือปิดประตู รู้สึกทั่วร่างกายวูบไหวไปหมด อาจเป็นเพราะผมตื่นเต้นที่สตาร์อยู่ในห้องนอนตัวเองก็เป็นได้
เอ๊ะ หรือมันจะมีอะไรมากกว่านั้นวะ
ไอ้นั่นของผมมันเริ่มส่งสัญญาณเมื่อผมตั้งคำถามให้ตัวเอง ครับ ผมยังเป็นเด็กหนุ่มที่ฮอร์โมนแม่งโคตรจะพลุ่งพล่าน การที่มีเด็กผู้ชายซึ่งผมมีความรู้สึกพิเศษด้วยมาอยู่ในที่ลับหูลับตากันสองต่อสอง ผมเชื่อว่าผมต้องมีความรู้สึกตรงนั้นแน่นอนอยู่แล้ว
สัดดิน มึงอย่าเชียวนะ น้องมันยังเด็กโว้ยยย!
อึดอัดจนต้องระบายออกมาด้วยการกลืนน้ำลายซ้ำแล้วซ้ำอีก
"นี่คือมาง้อพี่ใช่ป่ะ" ผมทิ้งตัวนั่งลงบนเตียง ยกขาข้างหนึ่งขึ้นมาพาดเข่า มองดูสตาร์ที่เดินเหินไปทั่วห้อง นึกสวดมนต์ได้ใจว่าอย่าให้น้องเห็นความผิดปกติของผม คือตอนนี้เหงื่อเริ่มจะตกแล้วครับ
สตาร์แม่งก็เหมือนสตาร์คนเดิม แต่ผมนี่แหละที่ไม่เหมือนเดิม จริงๆ แล้วสตาร์ไม่ควรมาอยู่ในห้องผมเวลานี้เลย
บรรยากาศแม่งโคตรเป็นใจ ไม่มีใครรบกวน มีเตียง มีแอร์เย็นฉ่ำ...
เย็นไว้ดินน้อย มึงเย็นไว้"ไหนล่ะ ไม่เห็นง้อเลย" ผมถามเพื่อกดอารมณ์ตัวเอง
"พี่อยากรู้อะไรก็ถามมาสิครับ" สตาร์ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรหันมาตอบ
"คนง้อก็ควรจะรู้สิว่ามาง้อเรื่องอะไร"
"โอเค ยอมแพ้ก็ได้" สตาร์ยืนนิ่งๆ มองผมอย่างรู้สึกผิด
"มานั่งนี่" ผมตบลงที่ว่างข้างตัวเอง อีกฝ่ายเดินมานั่งอย่างว่าง่าย ไม่คิดว่าน้องมันจะมาง่ายขนาดนี้ นี่มันไม่กลัวว่าผมจะทำอะไรมันเลยหรือไงวะ ถ้ามันยอมล่ะก็...ผมนี่จบทุกอย่างได้เลยนะ
เดี๋ยว ผมคิดอกุศลอะไรอยู่ ดินมึงช่วยเอาใจมาโฟกัสกับบทสนทนาด้วยสาดดด
"สิ่งที่ผมอยากจะพูดก็คือเรื่องพี่เรย์ผมมีเหตุผล มันเป็นข้อตกลงเมื่อนานมาแล้วว่าผมจะต้องอยู่กับเขา อยู่ให้เขาจีบไปเรื่อยๆ เพราะเพื่อนในห้องหนึ่งของผมติดหนี้พี่เขา"
"ห้องหนึ่งเนี่ยนะ เพื่อนสตาร์นั่นน่ะนะ" ผมร้องเสียงหลง หน้าตาแต่ละคนเหมือนเรียนหมอกันตั้งแต่มัธยมอ่ะ ไม่น่าจะมีปัญหาเรื่องหนี้สินไม่ใช่เหรอ
ผมลืมเรื่องของส่วนนั้นของผมไปชั่วครู่
"ไม่น่าเชื่อใช่ป่ะ"
"แล้วทำไมต้องเป็นสตาร์วะ" ผมโวยวาย ก่อนจะนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ "เพราะไอ้เรย์มันชอบสตาร์งั้นสิ"
"ก็ประมาณนั้นแหละครับ" คนข้างๆ ผมยักไหล่ "จริงๆ แล้วสตาร์ก็ยังไม่แน่ใจว่าพี่เรย์ชอบสตาร์จริงเปล่า"
น้องมันควรแน่ใจได้แล้วล่ะ ตอนอยู่กัน 3 คนเชี่ยเรย์มันเกือบจะแดกหัวผมอยู่แล้ว ยังไงมันก็ชอบคนคนนี้ของผมจริงๆ แน่
ผมกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว
"ติดหนี้เท่าไหร่" กัดฟันถามอย่างนึกแค้น
"น่าจะหลายแสน"
"แล้วทำไมไม่มีใครจ่ายให้เพื่อน สตาร์ก็น่าจะจ่ายได้ไม่ใช่เหรอ"
สตาร์มองผมเหมือนผมพูดอะไรบางอย่างที่โง่มาก ไม่รู้สิวะ ผมก็พูดตามอารมณ์ของผมอ่ะ "เงินหลายแสนหายไปจากบัญชี พี่ดินคิดว่าพ่อกับแม่ผมจะสงสัยมั้ยครับ อีกอย่างหนึ่งไอ้ตือมันก็ไม่อยากยืมเงินเพื่อน ช่วงนี้มันก็พยายามรวบรวมเงินและก็พูดกับทางครอบครัวอยู่"
"ใช้ความพยายามนานเกินไปแล้วมั้ง"
"ยังไงตอนนี้ผมก็ต้องดึงเรื่องพี่เรย์ให้ยืดออกไปให้ได้ จนกว่าตือจะหาเงินมาได้ครบ"
"นี่สตาร์กำลังใช้ตัวเองแทนเงินอยู่รู้ตัวใช่มั้ย"
"สตาร์รู้ แต่ไอ้ตือมันก็เป็นเพื่อนอ่ะ จะให้ทำไง"
"..."
"มันไม่มีทางไหนที่จะช่วยเพื่อนได้อีกแล้ว"
ตอนนี้ผมเข้าใจอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋แล้วว่าทำไมไอ้พวกเด็กห้องหนึ่งถึงหวงสตาร์มาก เพราะสตาร์ทำเพื่อเพื่อนโดยเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง มิน่าล่ะไอ้บู้มันถึงออกตัวว่าหวงนักหวงหนา
ให้ตายสิวะ ผมเซ็งตรงห้องรวยๆ อย่างห้องคิงแม่งทำได้แค่นี้ ทั้งๆ ที่ควรจะทำอะไรได้มากกว่านี้แท้ๆ
"อีกอย่างหนึ่งพี่เรย์ก็คงไม่ทำอะไรสตาร์แน่ๆ พี่เขาก็ดูเป็นคนดีคนหนึ่งนะครับ"
อันนี้ขอเถียงหน่อยเถอะ "เพราะมันชอบสตาร์มันถึงทำตัวเป็นคนดีไง เนื้อแท้มันจริงๆ มันร้ายมาก รู้มั้ยว่าปีก่อนเด็กโรงเรียนเราต้องซวยเพราะมันเยอะมากแค่ไหน"
"ก็พอจะรู้อยู่ครับ แต่พี่เรย์ก็พยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นอยู่"
"..."
"หลังๆ ไม่ค่อยมีใครวิ่งไปฟ้องพี่ดินเรื่องที่ถูกหาเรื่องเลยใช่มั้ยครับ ผมนี่แหละเป็นคนขอร้องพี่เรย์เอง"
"นี่เรากำลังจะบอกพี่ว่า..."
"ผมอาจจะช่วยให้พวกโรงเรียนพี่เรย์เลิกหาเรื่องเด็กโรงเรียนเราก็ได้ครับ"
เดี๋ยวสิ...
"จริงๆ แล้วสตาร์ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นก็ได้นะ" ผมพูดอย่างเป็นกังวล ทำไมเด็กตัวเล็กๆ คนนี้ต้องลงทุนทำอะไรขนาดนั้น "ไอ้เรย์มันไม่ทำอะไรสตาร์และมันก็ไม่ทำอะไรเด็กโรงเรียนเราก็จริง แต่เพื่อนๆ ของมันล่ะ มีแต่ตัวอันตรายๆ ทั้งนั้นเลยนะ"
"พี่เรย์ก็พยายามช่วยเท่าที่ช่วยได้อยู่ครับ เขาสัญญากับสตาร์เอาไว้ว่าจะทำตัวดีขึ้น"
"..."
"ทำเพื่อสตาร์น่ะ"
หัวของผมเริ่มรู้สึกร้อนรุ่ม อะไรคือการที่ผมจะต้องมานั่งฟังคนที่ผมชอบเล่าถึงสรรพคุณเด็กวัยรุ่นคนหนึ่งที่มีสถานะเป็นศัตรูของผมด้วย ผมชักจะไม่เข้าใจซะแล้ว
"แบบนี้ก็ต้องมีสักวันที่สตาร์ใจอ่อนให้มันอ่ะดิ มันทำทุกอย่างเพื่อสตาร์ขนาดนี้"
"สตาร์แค่อยากให้โอกาสคนคนหนึ่งได้กลับตัวกลับใจน่ะครับ อีกอย่างหนึ่งพี่เรย์ก็อยู่ ม.6 แล้วด้วย สตาร์เป็นคนเกลี้ยกล่อมให้พี่เรย์ไปสอบโควตามอ C เอง ทั้งๆ ที่เขาไม่เคยคิดจะไปสอบด้วยซ้ำ"
ผมเริ่มหน้าบึ้งตึงขึ้นเรื่อยๆ ทำไมฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ วะ เหมือนคนที่สตาร์สนิทด้วยมากกว่าคือไอ้เรย์ ไม่ใช่ผม สองคนนี้ผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะมากกว่าผมงั้นเหรอ
ความโกรธของผมแล่นไปสู่ฝ่ามือที่เริ่มกำแน่น มองหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตาไม่เข้าใจ
"พี่ดิน" สตาร์ทำตัวไม่ถูก "ถ้าสตาร์อยู่ใกล้พี่เรย์ พี่เรย์จะนิสัยดีขึ้นนะครับ"
"ช่างหัวมันสิ!" ผมร้อง "บ้าป่ะเนี่ย ทำไมต้องไปยุ่งกับมันขนาดนั้น ปล่อยมันไปซะ!"
"พี่ดินครับ"
"ใครรับได้ก็บ้าแล้ว"
สตาร์ตกใจจนก้มหน้าก้มตา ผมหายใจฟึดฟัด อารมณ์โมโหยังมีอยู่อย่างเต็มเปี่ยม
"บอกแล้วไงว่าให้เชื่อใจ" สตาร์พึมพำ
"พี่เชื่อใจ แต่มันก็หึง แค่นั้น"
"แต่ว่า..."
"เอางี้" ผมเชยใบหน้าสตาร์ให้เงยขึ้น จากนั้นก็ประทับริมฝีปากของตัวเองลงไป
ทุกอย่างเกิดขึ้นไวมาก ทว่าเมื่อเกิดขึ้นแล้วเวลากลับเชื่องช้าลงไปถนัดตา ผมส่งสัมผัสอ่อนหวานให้คนตัวเล็กที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความรู้สึกที่เอ่อล้นออกมาจากจิตใจ มันเป็นสัมผัสที่หวานมากสำหรับผม และผมไม่เคยรู้สึกว่าต้องทะนุถนอมใครขนาดนี้มาก่อน
ผมผละริมฝีปากออก มองดูใบหน้าของสตาร์ที่แดงแจ๋ยิ่งกว่าตอนอยู่ข้างล่างบ้านซะอีก
จริงๆ อยากทำมากกว่านั้นเยอะแต่มันไม่ได้...ผมได้แต่กล้ำกลืนฝืนทนเก็บโทสะตัวเองเอาไว้ไม่ให้ระบายออกมาด้วยการปล้ำเด็กคนนี้ตอนนี้
"ถ้าจะไปกับมัน สตาร์ต้องมาจูบพี่ก่อนทุกครั้ง" ตอนนี้ผมคงทำได้แค่นี้จริงๆ
"บะ บ้าป่ะ"
"ตามนั้น" ผมทำเป็นลอยหน้าลอยตา แต่หัวใจกลับเต้นแรงแทบบ้าเมื่อสายตาไปเจอะเข้ากับริมฝีปากแดงที่เผยอนิดๆ ของฝ่ายตรงข้าม
เมื่อตะกี้ผมจูบสตาร์จริงๆ ด้วยแฮะ
คนในกรุ๊ปไลน์แม่งจะต้องไชโยโห่ฮิ้ว
"แต่ว่าพี่ดิน..."
"ไม่มีแต่"
"..."
"อยากให้พี่เชื่อใจ ก็ต้องทำให้พี่เชื่อใจก่อน"
"..."
"คนชอบกันต้องจูบกันบ่อยๆ นะ จำไว้" ผมกลืนน้ำลายก่อนพูด
"แบบนี้มันเห็นแก่ได้นี่หว่า" สตาร์ทุบไหล่ผม ผมไม่ได้สะเทือนอะไรกับกำปั้นเล็กๆ นั่นเลย ในใจรู้สึกอยากรวบสองมือนั่นเอาไว้แล้วทำอะไรต่อมิอะไรต่อไป
ได้แต่ย้ำกับตัวเองเป็นครั้งที่ล้านว่า...
เย็นไว้ดินน้อย มึงเย็นไว้ "..."
"จะให้บอกอีกกี่ครั้งว่ามันไม่มีอะไร"
"พูดไปเหอะ ยังไงพี่ก็ไม่เปลี่ยนความคิดว่ะ"
"..."
"จะไม่จูบก็ได้นะ แต่กอดแทนได้" แขนยาวๆ ของผมโอบรอบไปที่เอวของสตาร์ แต่อีกฝ่ายดีดตัวออกไปจากผมอย่างรวดเร็วไปนั่งอยู่อีกฝั่ง
โธ่ เวรกรรม...
"คนที่อันตรายกว่าพี่เรย์ก็คือพี่ดินนี่แหละ สตาร์ไม่น่ามาเลย" มันหยิบกระเป๋าเป้เตรียมกลับ เห็นมั้ยครับว่าเด็กมันเหมือนไก่ตื่น เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ
"โอเคๆ ไม่แต๊ะอั๋งแล้วก็ได้ ยอมแพ้แล้ว" ผมยกมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อโชว์ว่าผมจะไม่ทำอะไรมันอีกแล้ว
สตาร์มองผมอย่างไม่ไว้ใจ จากนั้นก็นั่งลงที่เดิม
มันไม่รู้หรอกว่าผมต้องหักห้ามใจตัวเองมากแค่ไหน
"สตาร์นี่ก็บ้า"
"..."
"รู้ว่าจะโดนทำอะไรก็ยังยอมมา"
มันรู้เว้ย แล้วมันจะทำท่าตกใจทำไมกัน ผมหัวเราะก๊าก ลูบหัวอีกฝ่ายอย่างเอ็นดู "ก็เพราะเราชอบพี่เหมือนกันไง"
"ใช่" สตาร์ทำหน้าเหนื่อยใจ "นี่คิดแทบตายเลยนะว่าจะง้อพี่ดินยังไง"
"ไม่เห็นยาก แค่พูดกับพี่ตรงๆ ก็โอเคแล้ว" ผมเอ่ย "แต่เอาจริงๆ นะ พี่ว่าสตาร์ไม่จำเป็นต้องเอาตัวเข้าไปใกล้ไอ้เรย์มันขนาดนั้น มันอายุเท่าไหร่แล้ว น่าจะคิดเองได้แล้วว่าอะไรดีหรือไม่ดี"
"..."
"หรือว่าสตาร์ชอบอยู่ใกล้มัน" ผมหรี่ตามองอีกฝ่าย
"จากที่กลัวๆ เกรงๆ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นเฉยๆ ไปแล้ว ที่สตาร์ยอมไปเจอ ก็เพราะกลัวพี่เรย์จะเอาเรื่องไอ้ตือเข้าสักวันด้วยนั่นแหละ ก็เลยต้องกันเอาไว้ก่อน"
"นี่รักเพื่อนมากเลยใช่ป่ะ" ผมแซวอย่างประชดประชัน
"ใครไม่รักเพื่อนบ้าง"
"สรุปก็คือถ้าจะไปเจอไอ้เรย์ ต้องมาจูบพี่ก่อนนะ"
"ประเด็นนี้ยังไม่ตกไปอีกเหรอวะ" สตาร์โวย
"พี่ถึงจะเชื่อไงว่าสตาร์มีใจให้พี่จริงๆ"
สตาร์หรี่ตามองผมอย่างหมั่นไส้ ผมถือวิสาสะดึงตัวของอีกฝ่ายโน้มเข้ามาใกล้คล้ายกับนอนตักผมกลายๆ
"ทีตัวเองล่ะ ไม่มีอะไรจะพูดเลยเหรอ"
"หืม" ผมส่งเสียงอย่างสงสัย
"ก็ที่ไปกับฟืนสองคน"
"..."
"ไหนบอกลืมแล้วไง ทำไมโคตรสวีต แล้วยังไปกันแค่สองคนอีก"
ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้ "ตอนนั้นไอ้สิกก็อยู่ด้วย"
สตาร์เงยหน้ามองผมด้วยสายตามีคำถาม "หา"
"สตาร์ลองนึกดูดีๆ ซิว่าคนอย่างสิกมันจะปล่อยให้ฟืนมาอยู่กับพี่สองคนได้ไง มันสองคนตัวติดกันจะตาย ยังไงมันก็ต้องมาด้วยกันอยู่แล้วป่ะ"
"นี่อย่าบอกนะว่า..."
"พวกมันช่วยกันคิด คงอยากให้พี่เรียกร้องความสนใจจากใครบางคน" ผมมองตาอีกฝ่ายที่พยายามหลบตาผม
"แล้วได้ผลมั้ย" สตาร์ถาม
"ไม่ได้ผลนะ"
"..."
"แต่ตามมาหาพี่ที่บ้านเลย" สตาร์ต่อยคางผมอย่างหมั่นไส้ จากนั้นก็ปล่อยให้ผมกอดกลายๆ อย่างตามใจ "เหลือเชื่อเนอะ คนที่ไม่มีไอดีไลน์ ไม่ค่อยได้คุยกันจะมีใจให้กันขนาดนี้ได้"
"คิดไปเอง"
"หรือไม่จริง"
"ก็จริงนั่นแหละ"
"เมื่อไหร่จะใจอ่อนให้พี่มาหมดทุกตัวล่ะ"
"ใจร่มๆ ดิ" สตาร์ยื่นโพสต์อิตใส่ปากให้ผมคาบ "เรื่องพี่หยกก็ยังไม่ได้เคลียร์ไม่ใช่เหรอ"
ผมกระพริบตาปริบๆ มองใบหน้าอีกฝ่ายด้วยสายตามึนงง มันยังคิดมากเรื่องหยกอยู่เหรอเนี่ย สตาร์ทำหน้าหงอยไปเล็กน้อย ขณะที่ผมคลี่โพสต์อิตออกอ่าน
ไอดีไลน์ตัวที่ 12
L
มาง้อแล้ว คนขี้หึงเอ๊ยยยยยยยย เฮ้ยชอบว่ะ
เพราะมันคือความจริง ผมคือคนขี้หึงที่สุดในโลกกกกกกกก แต่ไม่แน่อาจจะแพ้ไอ้สิกนิดนึง ไอ้นั่นแม่งหึงเข้าขั้นโรคจิต
"คนที่พูดถึงแฟนเก่าพี่ไม่ใช่คนขี้หึงเลยเนอะ" ผมยิ้มมุมปาก
สตาร์มองผมอย่างนึกหมั่นไส้ "ไม่เคยเถียงสักหน่อยว่าไม่ใช่คนขี้หึงอ่ะ"
กรุ๊ปไลน์ 'น้องดาวของพี่ดิน'
Din : จงอภิปรายกันมาว่าทำไมสตาร์ถึงยังคิดมากเรื่องหยกอยู่ได้?
FUEN : หืมมมมม
AOF : คงเป็นเพราะพี่ดินเคยคบด้วยมานานมั้ง
TANG : วันนี้พี่ดินไม่มา แต่พี่หยกมาหาพี่ดินที่โรงเรียนนะ
Din : จริงดิ
TANG : ผมกับอ๊อฟช่วยส่งพี่เขาขึ้นแท็กซี่เนี่ย
Din : ขอบใจนะเว้ย
CHOK : มึงมันไม่น่าไว้ใจไง ไอ้เสือออออ
PHYSICS : พี่อาจจะคิดว่าตัวเองชัดเจนมากพอแล้ว
PHYSICS : แต่ลองชัดเจนกว่านี้ดูซิ
PHYSICS : เบื่อจริงพวกทำอะไรไม่ชัดเจนเนี่ย
FUEN : แต่ก่อนมึงชัดมากเนอะ...
PHYSICS : ชัดดิ แต่มึงโง่ คิดว่ากูทำไปเพราะมึงเป็นเพื่อนเฉยๆ ไง
Din : สิกอย่าร้องไห้
PHYSICS : ยุ่งไรวะพี่
AOF : มันด่าว่าพี่เสือกอ่ะ
Din : กูรู้แล้ว!