ตอนที่ 19
ห่วง
เจ้าชู้ ใครๆ ก็ชอบพูดกับโยแบบนั้น ซึ่งเขาเองก็ไม่คิดจะปฏิเสธ เขาหน้าตาดี รูปร่างดี เรียนก็อยู่ในขั้นดี การที่เขาจะ ‘เลือก’ ในสิ่งที่เขาชอบ เขาไม่ถือว่ามันเป็นความผิด
และการที่จะรู้ว่าสิ่งนั้นเหมาะไหม มันก็ต้องมีการทดลองใช้
ใช่แล้ว สำหรับเขา การเลือก คนควง ก็เป็นแบบนี้มาตลอด จนกระทั่งวันหนึ่งเมื่อปีก่อน
โยที่ย้ายมาเรียน ม.ปลายที่โรงเรียนใหม่ตามโจ้เพื่อนสนิทตั้งแต่ประถมต้องพบกับคำว่าตกหลุมรักเป็นครั้งแรกในรอบหลายปี
“ของพี่ทำตกไว้หรือเปล่าฮะ”
ทั้งน้ำเสียง แววตา และรอยยิ้มน้อยๆ ที่มุมปากของอีกฝ่าย ก็ทำให้เขา นึกถึง เพื่อนเล่นวัยเด็กที่เขา เคยหลงรักในวัยเด็ก
เขาชอบผู้ชาย
และรุ่นน้องคนนี้ก็ตรงตามภาพสมมติในใจเขาทุกอย่าง
ภาพที่เขาสร้างขึ้นตามเด็กคนนั้น
“เป้ กูจะกลับแล้ว มาเร็ว”
เสียงตะโกนเรียนดังมาจากลานจอดจักรยานที่อยู่ไม่ไกล ‘เป้’ ทำท่าลุกลี้ลุกลนก่อนจะยัดกระเป๋าเงินใส่มือเขาแล้ววิ่งไป
เขาไม่เคยเชื่อพรหมลิขิตมาก่อน จนกระทั่งวันนี้ เพราะแม้แต่ชื่อของเด็กคนนั้น ก็ยังเหมือนกัน ‘น้องเป้’ เด็กน้อยคนนั้น ได้เจอกันอีกแล้ว
“มีแฟนแล้ว!!!” ข่าวที่โจ้คาบมาบอก ช่างทำร้ายจิตใจ ทั้งๆ ที่ได้เจอ แต่กลับมีเจ้าของแล้ว เขาควรสาปแช่งใคร มันถึงจะสาสมกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“เอ่อ น้องเขามีแฟนแล้ว เห็นว่าเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน ที่เป็นหัวหน้าห้องอ่ะ ชื่ออะไรสักอย่างขึ้นต้นด้วย ก.ไก่”
เรือรักของเขาล่มตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม คิดแล้วก็เจ็บใจนิดๆ
“เศร้าขนาดนั้น ไม่เห็นมึงเคยสนใจใครแบบนี้”
“เปล่าซะหน่อย กูรูปหล่อขนาดนี้ จะควงใครก็ได้ทั้งนั้น ทำไมต้องสนคนมีแฟนแล้วด้วย”
ไม่ว่าเปล่า เด็กหนุ่มยังหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาก่อนจะกดโทรออกเบอร์ที่โทรเขามาล่าสุด
“เตครับ คืนนี้ว่างไหม โยอยากเจอ”
คนในสตอร์กเขามีเป็นสิบไม่จำเป็นต้องง้อ คนที่มีเจ้าของแล้ว ถึงจะเป็นคนที่เขาติดค้างอยู่ในใจมาตลอดก็เถอะ
ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเลย
ซะที่ไหนกันล่ะ ผ่านไปเป็นปี เขาก็ยังสน แม้ว่าเขาจะคบคนอื่นไปเรื่อยๆ ก็ไม่ได้หมายความว่า เขาจะไม่สน ไม่รู้ว่าทำไม ความรักของอีกฝ่ายถึงได้ดูยั่งยืนนัก
เมื่อไหร่จะเลิกกันวะ
เป็นคำถามที่ดูทุเรศแต่เขาก็หวังลึกๆ ให้สองคนนั้นเลิกกัน
แล้วทำไมไม่ทำเองล่ะ....
ความคิดวูบนึงบอกเขาแบบนั้น
และเมื่อเขาลงมือ เขาก็พบว่าทุกอย่างมันง่ายกว่าที่คิด
ก็ในเมื่อ ความจริงแล้ว อีกฝ่าย ไม่ได้คบกับใคร มีแต่หมาหวงก้างเท่านั้นที่คอยขวาง ทั้งๆ ที่เจ้าของไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
“น้องเป้”
เขาส่งเสียงเรียก ‘แฟน’ ที่นั่งคุยกับ ‘หมา’ อยู่ที่หน้าห้องสอบ เด็กหนุ่มหันมาส่งยิ้มหวานให้เขาเหมือนทุกที
“ไปนะกอล์ฟ”
ถึงจะมีช่วงเวลาที่สนใจคนอื่นบ้าง
แต่สุดท้าย คนที่ได้เดินคู่กับเป้ก็จะเป็นเขาคนเดียว
กอล์ฟตรวจทานข้อสอบเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะคว่ำหน้ากระดาษคำตอบลง แล้วเดินออกจากห้องสอบ เพื่อมาพบกับเพื่อนสนิทที่พึ่งจะเดินออกมาได้ไม่นาน
“วิชาสุดท้ายแล้ว ทำไมออกเร็วจังวะ ทำได้เปล่าเนี่ย”
พูดพลางทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ
“ทำได้...ก็เหี้ยละ”
เป้ตอบหน้ายู่ จัดที่นั่งสอบวันนี้ไม่ดีเลย ไปนั่งเอาซะมุมหน้าห้อง อย่าว่าแต่เล็งข้อสอบกอล์ฟเลย ของเพื่อนข้างๆ ก็ยังมองไม่เห็น
“เอาน่าพึ่งมิดเทอม ฮึดๆ หน่อย เดี๋ยวปลายภาคก็ดีเอง”
“อ่อ”
เป้ตอบรับ ก่อนที่ความเงียบ จะกินพื้นที่อีกครั้ง พักนี้เขาสองคนไม่ค่อยมีโอกาสได้พูดเล่นกันแบบเมื่อก่อนสักเท่าไหร่
กอล์ฟมองอีกฝ่ายที่พึ่งกดเปิดมือถือ ก่อนจะนึกถึงเรื่องที่คุยกับไอ้ก้องไอ้ปอนด์เมื่อต้นสัปดาห์ สุดท้ายก็อดไม่ได้ที่จะถาม
“พี่โย...”
“หืม”
“พี่โยกับมึงไปกันได้ดีไหม”
ทำให้เหมือนการไต่ถามปกติ แต่เขารู้ดีแก่ใจ ว่ามันเป็นการหยั่งเชิง
“ก็ดีนะ พี่เขารักกู เอาใจใส่กูดี กูเองก็รักเขา มีอะไรเปล่า”
“เปล่าหรอก แค่ถามดู”
สีหน้าเป้ตอนพูดยังมีความสุขดี ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาต้องพูดออกไปให้เป้ไม่สบายใจ
“มึงได้ยินเรื่องพี่เขาเจ้าชู้ใช่ไหมล่ะ”
กอล์ฟมองหน้าเป้อย่างแปลกใจ ที่อีกฝ่ายก็ได้ยินเรื่องนี้มาเช่นกัน ปกติ เป้กับเขา จะเป็นพวกไม่ค่อยทันข่าวสารนินทาวงในกันเท่าไหร่
อาจเป็นเพราะ ความจริง เมื่อก่อนเรื่องเดียวที่เขาสนใจคือเรื่องของคนตรงหน้าก็ได้
“มึงรู้”
“อื้อ ได้ยินมาเหมือนกัน”
“แล้ว”
“ก็ไม่ยังไง มันก็จริง”
“เห้ย แล้วมึงยอม”
“ไม่เชิง แต่พี่เขาบอกว่าเลิกแล้ว กูเชื่อเขานะ”
แววตาของเป้ไม่มีความลังเลเลยสักนิด บงบอกชัดเจนว่ามันเชื่อใจพี่โยขนาดไหน
แล้วเขาล่ะเชื่อการตัดสินใจของเป้ขนาดไหน
“น้องเป้”
เสียงเรียกที่ไม่ต้องบอกกอล์ฟก็รู้ว่าเป็นใคร
...แม่งตายยาก... เป้หันไปยิ้มให้อีกฝ่าย ก่อนจะเอ่ยคำลา
“ไปนะกอล์ฟ”
“อ่อ ไว้เจอกัน”
เขาโบกมือลามันก่อนจะหันมาเก็บของใส่กระเป๋าของตัวเอง
“เห้ย ออกมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
แล้วก็ต้องร้องเสียงหลงเมื่อพบว่า คนที่ยืนอยู่ข้างๆ กระเป๋าของเขาเป็นใคร
เพียวหลี่ตามอง คนออกมาก่อนอย่างรู้ทันก่อนจะทิ้งตัวนั่งลง
“ก็ออกมานานพอให้เจอถ่านไฟเก่าที่กำลังครุกรุ่น”
น้ำเสียงและสีหน้าของอีกฝ่ายทำให้คนฟังรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ อย่างบอกไม่ถูก
“เพื่อนกัน”
ทั้งๆ ที่เพียวก็รู้สถานะของเขากับเป้ดี แต่ใจก็สั่งให้ย้ำออกไปแบบนั้น
“ก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”
“เพียวโกรธ?”
ฟังจากน้ำเสียง เพียวโกรธเขาขัดๆ แบบไม่ต้องคิดให้มากความ
“ก็ใช่”
แถมเจ้าตัวก็ยังยอมรับออกมาง่ายๆ แบบนั้น
“ตอนนี้กอล์ฟคบกับเพียวอยู่...”
“กอล์ฟก็ควรพูดความจริงกับเพียว”
พอโดนแทรกขึ้นมาแบบนั้น เขาก็ถึงบางอ้อ มันไม่ใช่เรื่องหึงหวงอย่างที่เขาใจในตอนแรก แต่มันเป็นเรื่องที่เขาไม่ได้บอก
“ก็กลัวเพียวคิดมาก”
“เป้ก็เพื่อนเรา เป็นมานานพอๆ กับที่เรารู้จักกัน ถึงจะไม่ได้เจอกันนาน แต่ก็ยังเป็นเพื่อน เราเองก็ห่วงเป้เหมือนกัน ไม่ใช่กอล์ฟคนเดียว”
เขาผิดไปแล้ว ที่ไม่เล่าก็เพราะกลัวว่าเพียวจะคิดว่าเขาตัดใจจากเป้ไม่ได้ กลายเป็นว่า เขาดูถูกน้ำใจของอีกฝ่าย
“ขอโทษครับ”
ลูกผู้ชายทำผิดก็ต้องกล้าขอโทษ
และเพียวเองก็แมนพอ
“อั๊ก”
ที่จะต่อยอีกฝ่ายพอเป็นพิธี
“หายกันนะ”
กอล์ฟทำหน้าเบ้ โดนต่อยอีกแล้ว ทำไม เพียวถึงได้มือหนักขนาดนี้นะ เอะอะตี เอะอ่ะต่อย แต่ก็ต้องกัดฟันตอบไป
“อื้อ”
“งั้นไปกันเถอะ เดี๋ยวคนอื่นจะรอ”
สุดท้าย คนตัวเล็กก็หันมายิ้มร่า ก่อนคว้ากระเป๋าเดินนำลิ่วลงบัดไดไปสบายใจเฉิบ ปล่อยให้เขาที่จุกจนพูดไม่ออกค่อยๆ ลากสังขารตัวเองตามลงไป
เห็นทีหลังจากนี้เขาคงไม่ต้องห่วงเป้เท่าไหร่
เป็นห่วงให้ตัวเองไม่โดนต่อยจนตายคงจะดีกว่า
TBC…..
TaLkสวัสดีตอนที่ 19 ค่ะ สำหรับตอนนี้เราลองมามองโลกกันด้วย อีกหนึ่งตัวละครที่โดนสาปแช่งเอาบ่อยๆ ดูละกันนะคะ 55555
หายเกลียดนายโยกันบ้างหรือเปล่าคะ อย่าพึ่งรีบตัดสินใจค่ะ มีเรื่องให้เกลียดกันอีกมาก #เดี๋ยวนะ
สำหรับตอนนี้ อยากให้ความสัมพันธ์ของตัวละครของเราพัฒนาขึ้นไปอีกในระดับหนึ่ง (ไม่แน่ใจว่าระดับไหน 5555)
ยินดีต้อนรับทุกคนที่ผ่านเข้ามาใหม่ และขอบคุณทุกคนที่ยังอยู่ด้วยกันนะคะ จากนี้ไป มาม่าชามนี้ก็จะขอใส่ผงปรุงรสที่หอใหญ่ขึ้น ยังไงก็ฝากด้วยนะคะ รักคนอ่านค่ะ –อี้หลิง
ปล.บทจะไม่ว่างเขียนก็ไม่ว่างเลย พอว่างเขียนเท่านั้นแหละ สองชั่วโมงรวดออกมาทั้งตอน 55555