( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ( จบแล้ว ) Throw UP #ผับชั้นสาม :: {ตอนพิเศษ: up! 31-12-62} #หน้า 58  (อ่าน 485010 ครั้ง)

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พี่อาฟกับพี่เจสมเป็นเพื่อนกันมาก เข้าขากันมองตาก็รู้ใจ น้องวิวจะทำไงจ๊ะเจอคู่กรณีจังๆขนาดนี้ ความลับจะแตกกับพี่เมดมั๊ย? รอตอนต่อไปค่ะกำลังสนุกเลย :pig4:

ออฟไลน์ WaterProof

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 91
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
รอค่ะ ขำมาก  :katai3:

ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
เจมันร้าย~555

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
เซียนปราบเซียน   เจ วิว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 23-06-2018 01:14:31 โดย Chompoo reangkarn »

ออฟไลน์ singalone

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 381
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-2
หูวววว พี่เจ ร้ายยยย

ออฟไลน์ kms

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1061
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-14
โอ้ยยยยยย แซ่บบบบบ พี่เจจัดการน้องวิวหนักๆ

ออฟไลน์ ma-prang

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 469
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สงสารน้อง เจอเล่นแท็กทีมอาฟ-เจ 5555555

ออฟไลน์ no.fourth

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 888
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-1
พี่เจคนจริงค่ะ :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ ammchun

  • Don't Worry,Be Happy
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1389
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +54/-4
ชอบความเพื่อนของอาฟกับเจ ชอบที่เค้าคุยกันแบบทันกัน

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
ปะกันแย้ววววว  o18

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8893
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
อยากอ่านตอนต่อไปแล้ว ดูซิพี่เจจะจัดการกับน้องวิวยังไง

ออฟไลน์ Nung66669

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 418
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สมใจแล้วสินะเจ  :hao3:

ออฟไลน์ ่jum

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +53/-4
นิสัยของวิวตอนเจอพี่เจก็ทำเอาคนอ่านเงิบไปทีนึงละ  มาดูกันว่าจะเจอพี่เจดัดนิสัยยังไง

ออฟไลน์ buathongfin

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1244
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-3
น่ารักกก พี่เจจจ

ออฟไลน์ klaew

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1237
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-2
พี่เจโดยพื้นฐานเป็นคนขี้ห่วงเหรอเนี่ย
เอ...หรือเฉพาะบุคคลเอ่ย

เมดน่ารักกกก

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11
วิว โดนเอาคืนหนักแน่ๆ

ออฟไลน์ absolutepoison

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 51
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
น้องวิวโดนพี่เจกำราบแน่นอน  :katai2-1:

ออฟไลน์ tipppppp

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 132
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
กรี้ดดดดดดน้องวิวโดนพี่เจปราบแน่ๆเลยย

ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26
อิน้องเดย์มันฮา ฮ่า ๆๆๆๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ chaotic69

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 225
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-0
ทำไมพี่อาฟไม่สอนพี่เจไปละคะ 'หวง' สะกดแบบนี้ !!555
อ้อ... ลืมไป ปากหนักสมเป็นเพื่อนซี้กันตั้งแต่สมัยเล่นเบย์เบลด  :laugh:

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
ชอบบบบบบบบบบบบบ   :mew1:
ไรท์ เขียนแบบให้มันสุดๆไปเล้ย   :z3:

วิว คงค้างชะงักงัน ที่เห็นเจ อะจ๊ากกกกก  o22 o22 o22
 :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ: เพื่อนที่ร้ายทั้งคู่แท็คทีมกันแล้ว  :katai2-1:

อาฟ เมด   :กอด1: :กอด1: :กอด1:
       :L1: :L1: :L1:
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ songte

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1414
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +20/-1
สนุกน่าติดตาม อ่านแล้ววางไม่ลงเลย
รอตอนต่อไปๆๆๆ

ออฟไลน์ ซีเนียร์

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-0

ออฟไลน์ idoloveyou555

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 87
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
สนุกค่าาาาาา รอติดตาม ยาวๆเลยก็ได้

ออฟไลน์ anythinginitt

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 184
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
พี่อาฟกับพี่เจเค้าเป็นพยาธิในช่องท้องของกันและกันรึป่าวคะ 555555

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27
 

ตอนที่ 27

 

“ สวัสดีครับน้องวิว แล้วก็ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งนะครับ “  เสียงของผมที่เอ่ยทัก ชวนให้ทุกคนเงียบไป อาจเพราะรูปประโยคนั้นดูเหมือนว่าผมเคยรู้จักกับอีกฝ่ายมาก่อน เลยทำให้ทุกคนรู้สึกแปลกใจโดยเฉพาะพี่ชายของคนที่ผมเอ่ยทัก

 

“ เจทักเหมือน เคยรู้จักวิวเลย “ เมดพูดขึ้นแต่ผมที่ยังไม่ทันจะตอบ น้องชายของคนถามก็ตะโกนปฎิเสธออกมาจนมีพิรุธ

 

“ ไม่ร้จัก! ” มันทำหน้าตึงใส่ผมตอนที่พูดออกมา ฉายแววความก้าวร้าวจนคนเป็นพี่ต้องปราม

 

“ วิว ทำไมพูดแบบนั้นว่ะ นั่นพี่เจนะ เค้าเป็นผู้ใหญ่กว่ามึงให้เกียรติเค้าหน่อย “ วิวมองหน้าพี่ชายตัวเองที่เอ่ยติมัน พลางหันมองผมด้วยท่าทางตกประหม่า แววตาที่เคยใช้ขู่ผมด้วยสายตาไม่สนใจ มาบัดนี้มันกลับมองผมด้วยสายตาที่กำลังรู้สึกกลัวอย่างที่สุด

 

แววตาเรียวนั่นสั่นไหว มีคำขอร้องเป็นร้อยเป็นพันหลั่งไหลออกมาจากแววตานั้น ผมยกยิ้มให้มันตอนที่สบสายตานั้น ก่อนจะหมุนเก้าอี้กลับมาหาบาร์เทนเดอร์สองคนที่ยืนอยู่ หยิบมือถือที่อยู่ข้างตัว ผมกดส่งข้อความเข้าไปในกลุ่ม ‘ ชมรมคนรักแฟนพี่อาฟ ’ 

 

[ @dday @ai มึงสองคนช่วยพาไปเมดออกไปหน่อย กูมีธุระจะคุยกับไอ้เด็กวิวนี่ ]

 

[ พี่มึงรู้จักเด็กนี่มาก่อนเหรอวะ ] ไอ้อัยย์ถามกลับ ผมก็ตอบ

 

[ เดี๋ยวกูเล่าให้ฟัง ตอนนี้จัดการเอาไปเมดออกไปก่อน กูมีเรื่องจะคุยกับเด็กนี่ ]

 

“ พี่เมด ไอ้หมูตุ๋นมันจะคลอดรึยังอะ “ ไอ้เดย์พูดขึ้นหลังจากที่เงยหน้าขึ้นจากหน้าจอมือถือ

 

หมูตุ๋น เป็นแมวจรจัดสีเทาแซมดำที่เข้ามาอยู่ในบริเวณผับเมื่อสองวันก่อน มันเป็นแมวท้องแก่ใกล้คลอดที่แอบเข้ามาอยู่หลังตู้ยามเพื่อหาที่พักพิงในการคลอดลูก เวลานั้นเราเลิกงานพอดีเมดหันไปเห็นยามพยายามไล่มันไปเพราะกลัวว่าไอ้อาฟจะดุที่มีแมวมาอยู่ในเขตผับ แต่ไอ้เมดก็ออกตัวช่วยไว้ก่อน

 

‘ ไม่เป็นอะไรหรอกลุงยอด ให้มันอยู่ตรงนั้นแหละ อาฟไม่ว่าอะไรหรอก สงสารมัน ’ พูดกับลุงยามออกไปแบบนั้นโดยไม่ถามแฟนตัวเองสักคำ เมดหันมายิ้มให้ไอ้อาฟก่อนจะพูดสั้นๆแค่ว่า ‘ เนอะ มึงให้อยู่แหละ อาฟใจดีจะตาย ’ พูดรวบหัวรวบหางแฟนตัวเองเรียบร้อย  พลางยื่นมือมาจับมือไอ้อาฟไว้ แกว่งเบาๆ ใช้สายตายิ้มมองอ้อนหน่อยๆ สุดท้ายก็ไปไหนไม่รอดต้องอนุญาติทำตามความต้องการของอีกคนไป

 

ผมที่ตอนนั้นได้แต่ยิ้มแซวกับความใจอ่อนจนไอ้อาฟได้แต่หันไปทางอื่น แต่มาตอนนี้ผมก็ชักไม่แน่ใจแล้วว่า เรากำลังให้ที่พักพิงกับแมวท้องแก่หรือเลี้ยงแมวท้องแก่กันแน่

 

เพราะหลังจากวันนั้น เมดก็ตั้งชื่อให้มันว่าหมูตุ๋น จัดการอาบน้ำให้เรียบร้อย ส่วนไอ้เดย์ทาสแมวอยู่แล้วก็จัดการซื้อปลอกคอให้ ไอ้อัยย์ก็ซื้อชามใส่อาหารอย่างดี ส่วนพนักงานเสิร์ฟทุกคนก็ช่วยกันออกค่าอาหารแมว จนตอนนี้จากหลังตู้ยาม มันก็ย้ายตัวเองไปอยู่ให้ห้องสต๊าฟผับแล้ว

 

โดยมีเงื่อนไขเดียวคือจากไอ้อาฟคือ ทุกคนต้องช่วยกันดูแล และห้ามสร้างความเดือดร้อน เพราะถ้าเกิดขึ้นเมื่อไหร่มันจะเตะแมวท้องกลมนี่ออกไปจากผับทันทีและไม่สนด้วยว่าจะท้องแก่แค่ไหน

 

“ ยังเลยมั้ง แต่อีกไม่นานแล้วละพี่เมดว่า ท้องมันใหญ่จนเดินจะไม่ไหวแล้วอะ “

 

“ อ้วนด้วยแหละ “ ไอ้อัยย์เสริม “ กินวันละห้ามื้อได้ “

 

“ พวกพี่ยามมื้อแรก พี่ซองมื้อสอง เด็กเสิร์ฟมื้อสาม กูสี่ พี่เมดก่อนกลับห้า ไม่รู้อ้วนเพราะท้องหรือเพราะแดกแล้วตอนนี้ “

 

“ หมูตุ๋นมันน่ารักไง รู้จักฝากตัว ขี้อ้อนด้วย จับอาบน้ำยังนิ่งเลยโคตรผิดวิสัยแมว ”

 

“ จริง โคตรเชื่อง  น่าจะถูกทิ้งมาอะกูว่า “ เดย์บอก “ แต่ก็ยกเว้นสัดพี่นะ เจียมตัวมากเหมือนรู้ว่าไอ้นี่แหละ ตัวอันตรายถ้าเผลอไปยุ่งมันต้องเตะกูออกจากผับแน่นอน “

 

“ เมื่อวานตอนพี่เมดเข้าไปหามันก็กระโดดมานั่งตักนะ “ ไอ้อัยย์เสริม “ อ้อนกันตั้งนาน แต่พอเฮียเดินเข้ามาตามพี่เมดไอ้หมูตุ๋นมันก็เดินลงไปแล้วก็ไปนั่งเบียดมุมห้องตรงที่นอนเลย น่าเอ็นดู “

 

“ สมกับฉายา ผู้ชายที่น่ากลัวที่สุดใน throw up กลัวกันตั้งแต่พนักงานทุกระดับ ยันแมวตัวเล็กๆที่เลี้ยงไว้ “

 

“ ก็ไม่ได้ดุขนาดนั้น ขี้เว่อร์กันไปเอง “ เมดมันเถียงแทนไอ้อาฟ “ คนมันแค่ไม่ชอบยิ้ม “

 

“ ส่วนคนนี้ก็ใจดีที่สุดใน throw up แล้ว “ ไอ้เดย์เดินออกจากส่วนบาร์ไปกอดแขนแฟนพี่ชายตัวเองไว้ “ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งเป็นนางฟ้า throw up .ต้นแบบนางเอกของดิสนีย์ทุกตัวบนโลก เป็นที่รักของทุกคน ยันสัตว์ทุกชนิดในผับ “

 

“ ก็มากไปละ ก็ไม่ขนาดนั้นมั้งน้อง วันก่อนพี่เมดยังด่าพี่แม่บ้านที่ทำความสะอาดโถส้วมไม่สะอาดอยู่เลยมั้ยละ “

 

“ เป็นการด่าที่หยาบมากอะบอกเลย“ อัยย์เสริมขึ้นมา “ พี่แม่บ้านทำไมทำแบบนี้ครับ ยังเป็นคราบเหลืองอยู่เลยมันดูไม่น่าเข้านะครับ เราต้องให้ห้องน้ำสะอาดตลอดเวลา พร้อมใช้งานสำหรับแขกนะ เพราะถ้ามันไม่สะอาดแขกก็ไม่อยากจะมาอีก ห้องน้ำเป็นภาพลักษณ์สำคัญนะครับ ถ้ามันไม่น่าเข้าก็จะไม่มีใครมา มาครับพี่ แล้วพี่เมดใส่ถุงมือยาง ข้างนึงจับที่ขัดส้อม อีกข้างน้ำยาล้าง ก่อนจะหันไปพูดกับพี่แม่บ้าน เมดจะทำให้ดูเอง!  แล้วซ้อกูก็ลงมือขัดส้วมเลยจ้า ” ทุกคนหลุดหัวเราะออกมาเสียงดังแม้แต่คนหน้าเครียดอย่างไอ้วิว ก็ยังหลุดยิ้มกับเรื่องที่ถูกเล่าขึ้นมาก่อนยิ้มนั้นจะหุบลงในตอนที่ผมพูดเสริม

 

“ แต่วันนั้นได้ใจพี่แม่บ้านกันมากเลยนะ ถึงขั้นมาชมกับพี่ซองว่า น้องเมดน่ารักมากลงมาช่วยขัดส้วมให้ดูเป็นตัวอย่างด้วย แถมยังบอกอีกว่า พี่แม่บ้านคือคนสำคัญนะ ถ้าขาดไปสักคนผับก็จะไม่สะอาดเพราะความสะอาดมันคือหน้าตาของสถานที่และที่พักผ่อนทุกที่ แถมพอขัดส้อมเสร็จก็ออกไปซื้อขนมมาฝากพี่ๆอีก  สุดที่เลิฟของทุกทีม ทุกวันนี้แม่บ้านขัดส้วมกันลืมตาย กลัวน้องเมดรู้สึกไม่ดีที่ส้วมไม่สะอาด “ ผมหันไปแซวอีกคนก็ส่ายหน้าไปมาเหมือนจะปฎิเสธแบบทุกที่

 

“ ก็ทำไปตามหน้าที่ อยากให้มันออกมาดีไง “

 

“ งั้นพี่เมดไปดูไอ้หมูตุ๋นกับน้องเดย์หน่อย น้องเดย์คิดว่าจะเอามันไปหาหมอดูว่า มันคลอดเองได้มั้ย ถ้าไม่ได้จะได้เอาไปไว้ที่โรงพยาบาลสัตว์ “

 

“ เอางั้นก็ได้ “ เมดตอบรับก่อนจะหันไปหาน้องชายตัวเอง “ ไปด้วยกันวิว ไปดูแมวกัน ไอ้หมูตุ๋นน่ารักมากๆ “

 

“ ไม่เอาอะพี่เมด วิวแพ้ขนแมว “ คนที่ยืนนิ่งอยู่นานเอ่ยพูดขึ้น คนเป็นพี่ก็พยักหน้ารับ

 

“ อ่า จริงด้วยนะ งั้น.. “

 

“ เดี๋ยววิวอยู่ตรงนี้แหละ จะนั่งคุยกับพี่เจสักหน่อย ”

 

“ สองคนนี้เหมือนรู้จักกันมาก่อนเลย ตอนแรกทักกันก็เหมือนรู้จักกันมาก่อน “

 

“ ก็รู้จักกันมาก่อนนะ “ ผมบอกออกไปเสียงเรียบๆ ก่อนที่เด็กคนที่ยืนข้างไอ้เมดจะตะโกนตัดคำนั้นออกมาอีกครั้ง

 

“ ไม่รู้จัก! ” มันเถียงผมก่อนจะหันไปบอกพี่ชายตัวเอง “ ไม่รู้จักนะพี่เมด “ ผมยกยิ้มกับท่าทางที่มีพิรุธของมัน ถ้าพี่มันจะรู้เรื่องของเรา ผมไม่คิดว่าเมดมันจะรู้จากผมหรอก แต่รู้จากท่าทางมีพิรุธของน้องชายตัวเองมากกว่า และถ้าเป็นแบบนั้นแผนที่วางไว้ก็คงจะพังไม่เป็นท่า

 

“ ก็รู้จักกันตอนที่เมดแนะนำให้รู้จักผ่านรูปเมื่อวันก่อนไง “ ผมบอกเมดออกไปแบบนั้นก่อนจะยิ้มให้อีกคน “ ที่บอกว่า ยินดีที่ได้รู้จักอีกครั้งก็เพราะว่า ตอนนั้นเมดแนะนำให้รู้จักแล้ว ตอนนี้ก็เหมือนได้รู้จักอีกครั้งแต่เป็นตัวจริงไง “

 

“ งั้นเหรอ “ เมดถามแบบไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่ ก่อนไอ้เดย์ไอ้อัยย์จะพามันเดินลากออกไปเพื่อไม่ให้ถามต่อ

 

“ ไปๆ ไปหาไอ้หมูตุ๋นกันดีกว่า เดี๋ยวสัดพี่มาไม่ทันได้ทำอะไรกันพอดี  “

 

เหลือทิ้งไว้แค่ผมกับอีกคนที่ยังยืนนิ่งไม่ได้เอ่ยอะไรออกมา เรามองหน้ากันนิ่งๆจนสุดท้ายเป็นผมที่หลุดยกยิ้มขึ้นมาก่อน

 

“ เป็นไง เชื่อในทฤษฎีโลกกลมขึ้นมาบ้างมั้ย “

 

“ มึงมันเหี้ย “ นั่นคือประโยคแรกที่อีกคนเอ่ยออกมา “ กูแม่งน่าจะเอะใจตั้งแต่ที่มึงบอกว่ามาที่ผับนี้ทุกวันแล้ว น่าจะคิดได้ว่า คนบ้าอะไรจะไปผับทุกวัน ถ้าเป็นแบบนั้นมันก็ต้องพวกที่ทำงานที่ผับแล้ว ”

 

“ ฉลาดช้าไปหน่อยก็ช่วยไม่ได้นะครับ “

 

“ โชคแค่เข้าข้างมึงมากกว่าก็เท่านั้น “ อีกฝ่ายว่าเสียงเรียบผมก็พยักหน้ารับยิ้มๆกับคำพูดนั้น

 

“ ก็ตามนั้น กูก็คิดแบบนั้นเหมือนกัน “

 

“ กูรู้นะว่ามึงกำลังคิดจะทำอะไร “

 

“ ทำอะไรดีละ “ ผมถามมันกลับ “ แบบว่าบอกเรื่องของเรากับพี่ชายมึงดีมั้ย “

 

“ อย่านะไอ้สัด “

 

“ ทำไมละ น่าตื่นเต้นดีออก “ ยักคิ้วให้มันที่นิ่งไป ใบหน้าที่กำลังโกรธมือเล็กนั่นกำมือตัวเองไว้แน่น “ เจอกันมาก่อนที่ผับแห่งนึง แล้วก็ได้กันที่คอนโดของเมดด้วยนะ แถมคนที่ชวนยังเป็นน้องชายที่สุดแสนจะน่ารัก หนำซ้ำยังขโมยเงินกูไปอีกห้าพัน ..อ้อ ไม่สิ มึงขายตัวให้กูห้าพัน “

 

“ กูไมได้ขาย! ”

 

“ จุ๊ๆ เสียงดัง เมดได้ยินขึ้นมากูไม่รับผิดชอบนะ “

 

“ มึงจะเอายังไงก็ว่ามาเลยดีกว่า จะเอาคืนใช่มั้ย ส่งเลขบัญชีมาสิกูจะโอนเงินคืนให้ “ มือล้วงเข้าไปในกางเกงที่ใส่ หยิบมือถือของตัวเองขึ้นมาก่อนจะมองหน้าผม “ บอกเลขบัญชีมึงมาสิ กูจะโอนให้เดี๋ยวนี้เลย “

 

“ ใครบอกว่ากูอยากจะได้เงินคืน “

 

“ แล้วมึงต้องการอะไร “ อีกคนถามด้วยแววตาหาเรื่อง

 

“ ไม่รู้สิ อะไรก็ได้สักอย่างที่ทำให้กูมีเรี่ยวแรงมากพอที่จะปิดความลับนี้ละมั้ง “

 

 “ มึงแม่งเหี้ยวะ มึงทำแบบนี้เพื่ออะไรวะ กูแม่งก็ยังเด็กมั้ย ทำไมถึงต้องคิดถึงขั้นจะเอาเรื่องนี้มาแบล็คเมล์กู “

 

“ เด็ก เหรอวะ ? “ ผมถามย้ำ “ ตอนมึงทำ คิดมั้ยว่าเป็นเด็ก มึงกล้าขโมยเงินกู กล้าเรียนตำรวจ กล้าทำทุกอย่างเพื่อที่จะทำให้กูจนตรอก แต่พอมึงจนตรอกบ้างมึงก็เอาคำว่า มึงเป็นเด็กมาอ้างกับกู หนูน้อยมึงไม่เด็กตั้งแต่ขายตัวให้กูแล้ว “

 

“ กูบอกว่ากูไม่ได้ขาย แล้วเงินพวกนั้นมันก็แค่ค่าที่พักมันก็เท่านั้น “ อีกฝ่ายเถียงออกมาแบบไม่ยอมกัน “ มึงไม่มีทางเอาเรื่องนี้มาขู่กูได้หรอก จำไว้ “

 

“ งั้นเหรอ “ ผมพยักหน้ารับยิ้มๆกับอีกคนที่จ้องมองแบบไม่วางตา มือของมันกำกันแน่น รวมทั้งริมฝีปากที่ก็เม้มเข้าหากันด้วยความโกรธ มันรู้ว่ามันกำลังแพ้และกำลังดิ้นพล่านอย่างสุดตัวเพื่อที่จะไม่ต้องยอมจำนนให้ผม “ ไม่กลัว งั้นก็ไปหาไอ้เมดกัน “ ทำทีเป็นจะลุกจากเก้าอี้ที่นั่งแต่ทว่าอีกคนกลับมาขวางไว้

 

“ มึงจะไปไหน “

 

“ ไปหาไอ้เมดไง ก็มึงบอกมึงไม่กลัว กูจะไปบอกมันด้วยว่าน้องมันขายตัวให้กูเมื่ออาทิตย์ก่อน “

 

“ อย่าเสือก “

 

“ คิดให้ดีก่อนจะพูดไอ้หนู “ ผมย้ำมัน “ กูไมได้เสือกแต่กูเป็นผู้เสียหายที่โดนเด็กอย่างมึงขโมยเงินไปตั้งห้าพัน มึงบอกว่ามึงยังไม่บรรลุนิติภาวะเพราะงั้นกูต้องบอกผู้ปกครองมึงนั่นมันก็ถูกแล้ว ไอ้เมดมันดูแลน้องชายตัวเองยังไงถึงปล่อยให้มาขโมยเงินคนอื่นได้ แล้วปล่อยเข้าผับไปได้ยังไงตั้งแต่อายุแค่นี้ “

 

“ พี่เมดไม่เกี่ยวอะไรด้วย แล้วเรื่องนี้มันก็เรื่องของกู ชีวิตกูไม่เกี่ยวอะไรกับพี่เมด “ อีกฝ่ายเสียงสั่นมันคงกลัวอยู่มาก ในแววตาของมันบอกกับผมว่า สิ่งที่มันกลัวที่สุดตอนนี้ก็คือ กลัวที่พี่ชายมันต้องเสียใจ มันมีคำถามอีกหลายข้อที่ผมอยากจะถามมัน คือถ้าเค้าสำคัญกับมึงขนาดนี้ทำไมมึงไม่ทำตัวเองให้ดี พ่อแม่ก็เลี้ยงดูอย่างดีมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำอะไรแบบนั้น “ มึงจะเอายังไงก็ว่ามาเลยดีกว่า “

 

“ เอางั้นเลย “ ผมถามย้ำ

 

“ มึงไม่ต้องเอาพี่เมดมาขู่กู พูดมาเลยดีกว่า มึงมีแผนอะไร จะให้กูทำอะไรก็ว่ามา “ อีกฝ่ายบอกก่อนจะจ้องตาผม

 

“  ฉลาดดีจังเลย “ เอื้อมมือไปจับคางมันอีกคนก็สะบัดออก ผมยกยิ้มให้มันที่อีกคนมองตาผมด้วยความโกรธที่เหมือนจะมากขึ้น

 

“ อย่ามาแตะต้องตัวกู ”

 

“ สายไปแล้วมั้ง คำนั้นน่ะ เพราะกูแตะต้องมึงมาลึกซึ้งกว่าที่มึงจะพูดอะไรแบบนั้นได้แล้วนะ แล้วอีกอย่างคือมึงไม่ได้อยู่ในฐานะที่จะต่อรองอะไรกับกูได้นะวิว แล้วที่กูอยากจะให้มึงจำไว้อย่างนึงก็คือ มึงควรทำตัวเป็นเด็กดีอย่างที่กูบอกให้ทำ ไม่อย่างงั้นกูอาจจะพลั้งปากบอกไอ้เมดก็ได้ “

 

“ หมายความว่ายังไง มึงคิดจะทำอะไรกู “  ผมยกยิ้มให้กับคำพูดของอีกคน พลางทำท่าคิด “ ตอนนี้กูยังคิดไม่ออกหรอก ว่าจะให้มึงทำอะไร เอาเป็นว่า เอาไลน์มึงมาดีกว่า “ หยิบมือถือขึ้นมาอีกคนก็ถาม

 

“ ทำไมกูต้องให้ “

 

“ เพราะมึงไม่มีสิทธิ์ปฎิเสธกูไง เอาไลน์มึงมา “ ยื่นมือถือไปให้มันอีกคนก็ถอนหายใจออกมาก่อนจะกดจิ้มอยู่สองสามครั้งแล้วส่งกลับมาให้ผม ภาพดิสขึ้นโชว์เป็นรูปของอีกคน “ แล้วถ้าเกิดว่ากูทักไป มึงตอบกูช้า บล็อก หรือว่าไม่ทำตามคำสั่ง คงรู้นะว่าจะเกิดอะไรขึ้น “ อีกฝ่ายไม่ตอบอะไรในตอนนั้นมันทำได้แค่มองหน้าผมด้วยสายตาโกรธเคืองอย่างที่สุด แววตาเรียวที่จ้องมาสาบานเลยว่าถ้าตอนนี้มันมีมีดก็คงจ้วงแทงผมไม่ยั้งมือแน่นอน  “ มึงเล่นผิดคนแล้ว รู้ไว้ซะ “

 

“ ถ้ากูทำตามมึง มึงจะไม่บอกพี่เมดใช่มั้ย “

 

“ ใช่ “

 

“ แล้วกูเชื่อมึงได้แค่ไหน ว่ามึงจะไม่หักหลังกู “

 

“ มากกว่าตัวมึง ที่หลอกกูขึ้นไปนอนด้วยแล้วสุดท้ายขโมยเงินกู “ ผมตอบมันอีกคนก็ถอนหายใจออกมา

 

“ กูจะบอกให้นะ ว่ากูไม่ได้หลอกมึงขึ้นไปที่คอนโด เรื่องเซ็กส์มันก็วันไนท์ “

 

“ แล้วเรื่องเงินห้าพันของกูที่มึงเอาออกจากกระเป๋าไปมันหมายความว่าไง “ มันที่กำลังจะเอ่ยเถียงผมก็พูดดักขึ้นก่อน “ ไม่ใช่ค่าโรงแรม กูรู้ ขอเหตุผลอื่น ทำไมมึงร้อนเงิน หรือมีอะไรที่มึงอยากจะได้ “

 

“ กูแค่เห็นเงินในกระเป๋าแล้วก็อยากได้ ก็เลยขโมย “ มันตอบออกมาสั้นๆ แต่ผมกลับรู้สึกว่ามันไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย รู้สึกเหมือนแค่พื้นฐานจิตใจมันไม่ใช่คนร้ายกาจ มันยังรู้สึกแคร์ครอบครัว และที่สำคัญคือมันรักพี่ชายอย่างไอ้เมดมาก แต่เหตุผลที่มาทำตัวแบบนี้ มันเพราะอะไรวะ

 

เรามองหน้ากันอยู่แบบนั้นสักพัก ผมมีคำถามที่อยากจะถามมันอีกเยอะ ถ้าเป็นไปได้อยากจะจับมันมานั่งคุยให้รู้เรื่องในสิ่งที่มันคิด ที่มันทำ แต่ทว่าทุกอย่างกลับถูกริดรอนออกไปจากความคิดอย่างฉับพลันเมื่อเสียงเอะอะที่หายไปนานจะดังขึ้นมาจากด้านหลัง ทั้งสามคนที่ไปดูไอ้หมูตุ๋นคงกลับออกมาแล้ว ตอนนั้นผมเลยทำได้แค่ทิ้งท้ายด้วยการยกยิ้มให้มัน ก่อนจะเดินเข้าไปใกล้ พลางกระซิบที่ข้างหูนั้น

 

“ แต่จะว่าไป โลกเรามันกลมกว่าที่คิดนะ มึงว่ามั้ย “

 

“ คุยอะไรกันอยู่ “ คนที่เดินเข้ามาเอ่ยถาม เมดหันมองผมทีมองน้องชายตัวเองอีกที มันที่ยิ้มกว้างด้วยความสุข ตอนนั้นวิวก็หันไปมองพี่ชายตัวเองก่อนจะเอ่ยถามเรื่องอื่น

 

“ หมูตุ๋นเป็นยังไงบ้างอะพี่เมด ตกลงจะคลอดยัง “

 

“ ยังหรอกมั้ง ยังแข็งแรงเลย แต่พรุ่งนี้คิดว่าพี่เมดกับน้องเดย์จะพาไปหาหมอน่ะ จะได้รู้ว่ามันท้องลูกกี่ตัวด้วย “

 

“ อื้ม อย่างงั้นเหรอ “ มันยิ้มให้พี่ชายตัวเอง เมดก็เอื้อมมือมากอดคอน้องชายไว้ แววตาเรียวที่มองไปทางอีกคนด้วยความรู้สึกรัก มองจากมุมนี้ผมก็พอเข้าใจว่า มันไม่แปลกหรอกที่เด็กคนนั้นจะยอมทำตามผมโดยที่ไม่รู้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น แทนการบอกความจริงกับพี่ชายตัวเอง

 

            ขนาดเป็นคนนอกที่ไม่ใช่ครอบครัว อย่างผมยังรู้สึกเลยว่า เมดมันเป็นคนที่ทั้งใจดี แล้วก็ใส่ใจความรู้สึกของคนอื่น และเพราะแบบนั้นผมเลยรู้สึกว่า ไม่อยากทำให้มันรู้สึกไม่ดี เลยออกปากเตือนไอ้อาฟเรื่องความปากหมาอยู่บ่อยๆ ขนาดตัวผมยังรู้สึกแบบนี้ แล้วน้องชายมันที่เป็นถึงคนในครอบครัวที่ถูกเมดเอาใจใส่มาตั้งแต่เด็ก ทำไมจะรู้สึกไม่เหมือนกัน บางทีอาจจะยิ่งกว่าด้วยซ้ำ แต่ก็นั่นแหละ ไม่ว่ายังไงก็หาเหตุผลไม่ได้เลยว่า ทำไมมันถึงมาทำอะไรแบบนี้

 

“ หิวยัง เดี๋ยวเราไปกินอะไรอร่อยๆกันมั้ย ก่อนกลับคอนโด “ เมดถามน้องชายตัวเอง มือที่ลูบหัวอีกคนไม่หยุด แต่อีกฝ่ายก็แค่ส่ายหน้า

 

“ ยังไม่ค่อยหิว แต่ถ้าพี่เมดพี่อาฟอยากกิน ก็ได้เลย “

 

“ แล้วเราจะกินอะไร “

 

“ อะไรก็ได้ “

 

“ มาแปลก “ เมดแซวน้องชายตัวเอง “ ปกติเรื่องเมนูมึงชอบเลือก แล้วทุกคนต้องตามใจมึงไม่ใช่เหรอ “

 

“ นั่นมันพ่อกับแม่มั้ยละพี่เมด “

 

“ ไปกัน “ เสียงที่ดังมาจากฝั่งประตูสต๊าฟที่ปิดลง ไอ้อาฟเดินออกมาพร้อมสายชาร์จมือถือที่มันบอกจะมาเอาแต่ทว่าของแค่นั้นกับเวลาใช้ไปก็ดูไม่ค่อยสมดุลกันสักเท่าไหร่ น้องชายมันก็เลยเอ่ยแซว

 

“ กูคิดว่าสัดพี่มึงไปนั่งผลิตสายชาร์จอยู่ซะอีก โคตรนาน “

 

“ กูขี้อยู่ “ มันตอบสั้นๆก่อนจะหันไปหาน้องมัน “ มึงมีปัญหามั้ย “

 

“ อ๋อ ไม่มีจ้ะ “ ยกไหว้พี่ชายตัวเองหลังจากตอบเสร็จ ทั้งไอ้เดย์ไอ้อัยย์วิ่งเข้าไปในส่วนของบาร์เหมือนกำลังหาที่กำบัง ก่อนที่อาฟจะหันหันมาหาผมที่ยักคิ้วให้มันแค่ครั้งเดียว เป็นการตอบรับว่าสิ่งที่ตั้งใจจะทำก็ได้ทำเรียบร้อยแล้ว

 

“ ไป “ หันไปบอกไอ้เมดที่ก็พยักหน้ารับ แล้วตอนนั้นวิวก็หันมาทางเรามันยกมือไหว้ตามมารยาทของคนอายุน้อยกว่า

 

“ วิวไปแล้วนะพี่เดย์ พี่อัยย์ แล้วก็ พี่เจ “

 

“ เจอกันครับ “ ผมตอบมันยิ้มๆ แต่อีกคนก็แค่มอง ไม่ได้ตอบอะไร ก็แน่นอนว่ามันไม่สิทธิ์ที่จะปฎิเสธอะไรอยู่แล้ว เพราะความลับของมันตอนนี้อยู่ในกำมือผม

 

..............................................................

ออฟไลน์ patwo

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 989
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +932/-27


ภายในรถเสียงเพลงเบาๆดังคลอไประหว่างทางทำให้ทุกอย่างไม่เงียบจนเกินไป ผมมองออกไปนอกหน้าต่างรถที่กำลังจอดนิ่งเพราะรถติด เหลือบมองคนขับกับคนนั่งข้างที่ไม่ได้คุยอะไรกันมากมาย พี่ชายผมนั่งก้มหน้าก้มทำอะไรบางอย่างอยู่กับไอแพตเครื่องนึง ส่วนพี่อาฟก็แค่มองอยู่แบบนั้นจนกระทั่งชี้ชวนให้อีกคนเงยหน้าขึ้นมา

“ เมด มึงดูอะไรนั่นสิ “

“ อะไร “ พี่เมดเงยหน้าขึ้นมองไปตามมืออีกคนที่ชี้ผ่านกระจกรถฝั่งคนขับไป ผมที่มองตามไม่เห็นอะไรสักอย่างก็มีแค่ฟ้าโปร่งๆของช่วงเย็นเท่านั้น “ ไหน “

“ นั่นไง มึงมองไม่เห็นเหรอ “ คว้ามืออีกคนมาจับก่อนจะทำทีเป็นชี้ให้ดูจุดที่ต้องดู แต่คนมองก็แค่หรี่ตามองงงๆเหมือนเดิมก็เท่านั้น

“ ไม่เห็นจะมีอะไรเลยมึง “

“ งั้นเหรอ คงไปแล้วมั้ง “ พูดตัดจบแบบง่ายแต่มือคู่นั้นกลับก็ไม่ยอมปล่อยกันไปไหน พี่อาฟจับมือพี่เมดไว้แบบนั้นแล้วนั่นมันก็ทำให้ผมเผลอยิ้มออกมาก่อนจะแบะปากหมั่นไส้ขึ้นมาอย่างอัตโนมัติ ‘ ก็แค่อยากจะจับมือแฟนระหว่างรถติด คนเรามันต้องฟอร์มขนาดนี้เลยเหรอวะ ’ บ่นกับตัวเองในใจแต่ตอนที่มองผ่านกระจกข้างไปก็เห็นว่าพี่ชายตัวเองจะแค่ยิ้มอย่างมีความสุขออยู่

“ งั้นก็ปล่อยมือกู “

“ ขี้เกียจ “ พูดแค่นั้นสั้นๆมือของพี่เมดก็ถูกกำแน่นขึ้นอยู่บนตักของพี่อาฟ จะว่าหวานก็หวาน จะบอกว่าไม่หวานก็ไม่หวาน เพราะทั้งตลกและน่ารักไปในเวลาเดียวกัน

ผมไม่รู้ว่าคนอย่างพี่อาฟเป็นยังไง แต่เท่าที่รู้คือ เค้าไม่ใช่คนช่างพูดอะไร ก็เอาเป็นว่าตั้งแต่เจอกัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว แต่ผมก็ได้พูดกับเค้าแค่คำว่า ‘ สวัสดีครับ ’ เท่านั้น แต่พี่เมดก็เคยบอกเหมือนกันว่า พี่อาฟใจดีแค่หน้าดุแล้วก็ไม่ค่อยพูดเท่านั้น ก็คงจริงอย่างงั้น อย่างน้อยก็ยังใจมากกว่าไอ้เหี้ยบินแฟนเก่าอยู่มาก เพราะอย่างน้อยเค้าก็ไม่ทำหน้ารำคาญผม ไม่เคยใช้ท่าทางรังเกียจมองกันเหมือนผมเป็นส่วนเกินอะไร หนำซ้ำยังตามใจ

“ ตกลงเราแวะกินอะไรกันดี “

“ ตามใจมึงกับน้องแล้วกัน “ พี่อาฟบอกสั้นๆ พี่เมดก็หันมามองผม

“ วิวกินอะไรกันดี “

“ พี่เมดอยากจะกินอะไรละ “ ผมถามกลับอีกคนก็คิดก่อนจะถอนหายใจออกมา

“ ไม่รู้เหมือนกัน กินได้ทั้งนั้นแหละ “

“ กลัวเลือกไปแล้วพี่อาฟกับพี่เมดจะไม่อยากกิน “

“ เลือกมาเลย “ พี่เมดย้ำ “ อาฟมันกินอะไรก็ได้ทั้งนั้นนั่นแหละ เอาที่มึงอยากกินน่ะ “

“ ของแพงได้มั้ย “ ผมแซวคนขับที่ก็แค่ยิ้มก่อนจะพูดสั้นๆ

“ ตามใจมึง “

“ อยากกินเอ็มเคไลฟ์ “ ทุกอย่างในรถเงียบไปตอนที่ผมบอก ไม่ใช่ว่าไม่อยากกินหรอกแต่หน้าตาพี่เมดมันบอกกับผมว่า ‘ คืออะไรวะ ’ “ พี่เมดไม่รู้จักเอ็มเคไลฟ์เหรอ คือมันดังมาสักพักแล้วนะ เอ็มเคเพื่อสุขภาพไง ที่มันมีสวนผักในร้านแล้วมันก็มีหมูแบบนึ่งด้วยอะ วิวอ่านรีวิวมาโคตรรรรน่ากิน  “

“ พึ่งเคยได้ยินครั้งแรกจากมึงนี่แหละ  ”

“ ไปๆ วิวอยากกิน ไปกันนะพี่อาฟ “ หันไปบอกแฟนพี่ชายตัวเองผมเห็นอีกคนยิ้มก่อนจะพยักหน้ารับ “ เย้ๆ ไปๆ พี่เมดหาร้านดิ มีสาขาไหนบ้าง “

“ แพงเปล่าวะ “

“ ไม่แพงเท่าเอ็มเคโกลด์อะ เคยอ่านรีวิวมา “

“ ท่าทางจะอยากกินมากนะมึง “ พี่ชายผมบอกก่อนจะหันไปหยิบมือถือแล้วกดยุกยิกอยู่สองสามครั้งแล้วยื่นให้พี่อาฟดู ผมสังเกตเห็นว่ามันเป็นแผนที่ พี่อาฟมองมันอยู่สักพักก่อนจะพยักหน้ารับลง

“ เอาสาขาในห้างแล้วกัน ใกล้ถึงพอดี “

“ โอเค “

“ ถ้าห้างข้างหน้าตรงชั้นล่างมันมีไอติมรังผึ้งด้วยนะพี่เมด แล้วก็มีไก่ทอดที่ดังๆอะ ที่มันอันใหญ่ๆอะ “
 
“ คือมึงจะกินกี่อย่างวะวิว “

“ กินทุกอย่างที่อยากจะกิน “ หมายมั่นไว้แบบนั้นด้วยรอยยิ้มกว้างที่ส่งไปหาคนตรงหน้า “ พี่เมดเลี้ยงด้วยนะ “

“ เออ ได้ กินให้หมดแล้วกับ “

“ รับทราบ  “ตอบรับเสียงมั่นใจก่อนที่ผมจะกลับมานั่งนิ่งเหมือนเดิมตอนที่มันหมดเรื่องคุย มองไปที่คนตรงหน้าอีกครั้ง มือที่ยังจับกันไว้แน่นไม่มีปล่อย จะว่าไปผมก็ชอบเวลาที่พี่อาฟจับมือพี่เมดอยู่เหมือนกัน มันไม่ใช่แค่จับเฉยๆ เพราะเค้าจับแล้วใช้นิ้วโป้งลูบเบาๆที่หลังฝ่ามือ อะไรแบบนั้นสำหรับผม มันดูน่ารักดี

   หันไปมองนอกหน้าต่างรถที่ยังติด เผลอถอนหายใจออกมาตอนที่คิดถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีก่อน คิดถึงหน้าของผู้ชายคนนั้น ผมกำลังคิดว่าตัวเองจะโทษใครดี โทษตัวเองที่โง่ โทษไอ้เชี้ยนั่นที่มันจะเอาคืนผมด้วยวิธีเลวๆ หรือว่าโทษตัวเองที่คิดจะทำอะไรแบบนั้นตั้งแต่แรกดี

ผมจำไม่ได้แล้วว่ามันเริ่มต้นขึ้นเมื่อไหร่กันสำหรับความรู้สึกที่ทำอะไรแบบนั้น ไม่รู้ว่าจุดเริ่มต้นของมันคือตอนไหน อาจจะเป็นช่วงที่ผมอยู่ม.สองแล้วก็พี่เมดอยู่ม.หกก็ได้มั้ง ช่วงที่พี่เมดมีแฟนคนแรก ตอนนั้นผมเป็นแค่เด็กผู้ชายคนนึงที่ติดพี่ชายตัวเองมากๆเพราะโตมาด้วยกันอยู่มาด้วยกันตลอด  แต่พอพี่เมดเริ่มมีแฟน จากที่เราเคยอยู่ด้วยกันตลอดช่วงปิดเทอมก็กลายเป็นว่าพี่เมดก็เริ่มที่จะไปเที่ยวกับแฟนบ้าง

ตอนนั้นผมก็เกิดอาหารน้อยใจเหมือนเด็กทั่วไป แต่แม่ก็พูดแค่ว่า พี่เมดรักใครก็อยากจะให้ผมรักด้วย เพราะว่าถ้าเป็นแบบนั้นก็จะทำให้พี่เมดมีความสุข และเพราะพี่เมดใจดีแล้วก็ตามใจกันมาตลอดเลยคิดว่า ตัวเองคงต้องเปิดใจให้กว้างแล้วรับ ผู้ชายคนนั้นที่เป็นแฟนพี่เมดเข้ามาในชีวิตด้วยเหมือนกัน แต่ทว่ามันก็ไม่ง่ายอย่างงั้น

เพราะความจริง ไอ้เชี้ยนั่น อยากได้แค่พี่เมดไม่ใช่ผม ต่อให้พยายามทำดีมากแค่ไหน ทำตัวน่ารักยังไง ทุกอย่างมันก็ยังเหมือนเดิม ‘ ไปกินข้าวด้วยกันนะเมด แต่ไม่เอาวิวไปนะ บินอยากอยู่กับเมดแค่สองคน ’ มันเป็นคำพูดสั้นๆที่ผู้ชายคนนั้นพูดกับพี่ชายผม ตอนที่มารับกันที่คอนโด ตอนนั้นผมที่แต่งตัวแล้วทำทีเป็นไม่ได้ยินอะไร แล้วก็ขอตัวไปนอนแบบเงียบๆ และบอกเหตุผลแค่ว่า ปวดท้องกะทันหัน

ก็เคยคิดว่าอาจจะแค่ครั้งเดียวที่เป็นอย่างงี้ แต่สุดท้ายมันกลับเป็นแบบนั้นเสียทุกครั้ง มันเหมือนผมเป็นคนที่เค้าไม่ต้อนรับจะให้เข้ามาอยู่ในความสัมพันธ์ ไม่ได้นับเป็นน้องชายของแฟน ออกจะรังเกียจด้วยซ้ำ และคำพูดที่ทำให้ผมรู้สึกเกลียดผู้ชายคนนั้นที่สุดก็คงตอนที่มันพูดว่า ‘ วิวมันก็แค่ลูกติดแม่เลี้ยงเปล่าวะเมด จะไปสนใจความรู้สึกอะไรมากมายวะ เป็นน้องแท้ๆก็ว่าไปอย่าง ’

 ตอนนั้นจำได้ว่าพี่เมดโกรธมันไปเลย แต่สุดท้ายเพราะรักมากง้อนิดหน่อยสัญญาจะไม่พูดอีกก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม แต่นั่นก็ไม่ใช่ผมที่ยังเกลียดมันแบบไม่เผาผี เคยพยายามจะดึงพี่เมดออกมาแต่เหมือนจะสู้แรงแห่งรักไม่ได้ เพราะหลังจากนั้นพี่เมดก็ถูกดึงออกไปให้ห่างจากชีวิตผมเรื่อยๆ

จากนอนคอนโดเดียวกันบ้าง กลายเป็นนานๆครั้งพี่เมดถึงกลับ จนสุดท้ายพอผมขึ้นม.สี่ พี่เมดก็ย้ายไปอยู่กับพี่บินจนแทบจะเรียกว่าถาวรเลยก็ว่าได้ เค้ากลับมาแค่ตอนที่ทะเลาะกันแรงๆเท่านั้น  ส่วนผมที่กำลังเหงาก็เริ่มหาอะไรทำด้วยการ มีแฟนคนแรก แต่มันก็ดูมันจะไม่เวิร์คเท่าไหร่ สุดท้ายก็เลยเลิกกันตอนอยู่ม.ห้า จากนั้นผมก็เริ่มเข้าผับตามคำชวนของกลุ่มเพื่อนทั้งๆที่อายุไม่ถึง ลองมีอะไรกับผู้ชายที่ถูกใจแบบไม่ผูกมัดคนแรก  แล้วเมื่ออาทิตย์ก่อนก็ไปถูกใจผู้ชายคนนึงมีวันไนท์เป็นครั้งที่สอง

แล้วนั่นก็เป็นเหมือนความผิดพลาดของชีวิตที่ดันไปถูกใจคนแบบนั้นเข้า

“ ถึงละ ลงมาได้แล้ว “ เสียงของพี่เมดเรียกให้ผมได้สติจากที่เหม่ออยู่นาน ก้าวขาลงไปจากรถผมเอื้อมมือไปจับมือพี่ชายตัวเองอย่างที่ทำทุกที เราชอบเดินจับมือกันเป็นแบบนี้มาตั้งเด็กจนโต  ส่วนพี่อาฟก็แค่เดินนิ่งๆอยู่ที่อีกข้างของพี่เมด

   แวะเข้าไปกินร้านทีผมเลือก บรรยากาศเหมือนนั่งในซุ้มสวนผักยังไงอย่างงั้น ร้านตกแต่งโทนสีสุภาพดูอุ่นตา เราเลือกนั่งตรงที่นั่งด้านในสุดของร้านและแน่นอนว่าพี่เมดก็เลือกนั่งข้างผม เมนูที่ถูกยื่นให้แต่เหมือนมีแค่พี่เมดกับผมเท่านั้นที่สั่ง

“ พี่อาฟไม่สั่งเหรอ “ ผมถามอีกคนที่จับมือถือแล้วดูอะไรบางอย่างอยู่ในนั้น

“ เดี๋ยวเมดก็สั่งให้เองละ “ คำตอบที่ทำให้ผมหันไปมองพี่ชายตัวเอง เออ ก็แปลกดีเหมือนกัน เพิ่งเคยเห็นคนกินง่ายขนาดนี้

“ พี่เมด ปกติพี่อาฟก็ทำแบบนี้เหรอวะ “ ถามอีกคนเสียงเบาๆอีกคนก็ขมวดคิ้ว

“ แบบนี้คือ “ พี่ชายผมถามกลับแบบงงๆ “ หมายถึงให้พี่เมดสั่งอาหารคนเดียวอะนะ “

“ อื้ม “

“ อื้ม มันไม่ค่อยชอบสั่ง อีกอย่างมันกินได้ทั้งนั้น ไม่มีของที่ไม่ชอบกินเท่าไหร่ “

“ ง่ายดีนะ “ พยักหน้ารับอีกคน

“ ชีวิตแบบขี้เกียจแม้จะคิดว่าจะแดกอะไรก็แบบนี้แหละมึง “ คนเป็นพี่ว่าก่อนจะหันไปถามแฟนตัวเอง “ มึงจะกินเป็ดย่างกับหมูกรอบมั้ย ถ้าไม่กูจะสั่งจานเล็ก “

“ กิน “

“ โอเค หมี่หยกก็กินเนอะ “

“ อื้ม “

“ ประหยัดคำดีจัง กิน อื้ม จบละ “ ผมล้อคนตรงหน้า พี่เมดก็หลุดหัวเราะตอนที่พี่อาฟเงยหน้าขึ้นมาเหลือบมองผม แต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร  ผมยกมือขึ้นเรียกพนักงานให้มารับออเดอร์ที่จะสั่ง  เอาจริงๆมันก็เหมือนกับเอ็มเคทั่วไปแต่ก็แค่มีเมนูนึ่งให้กินด้วยก็เท่านั้น และที่พิเศษเลยทุกเมนูทำสดใหม่ “ พี่เมดอยากกินเนื้อวากิวญี่ปุ่น “

“ ไว้มากินกับพ่อนะ “ อีกคนหันมาบอกผมก็หลุดหัวเราะแล้วก็พยักหน้ารับ    

เข้าใจอยู่ว่าเพราะพี่อาฟคงเป็นเจ้ามื้อเลี้ยงอีกมื้อแน่นอน และถึงเค้าจะมีฐานะยังไงแต่ก็น่าเกรงใจอยู่เพราะเมนูที่อยากจะกินก็แพงเหลือเกิน ราคาแบบชนิดที่ว่า ถึงมากับพ่อก็ยังเกรงใจอยู่ดี

เราเลือกน้ำซุปเป็นแบบต้มยำกับน้ำดำ พร้อมด้วยเมนูลงหม้อต่างๆ และที่ขาดไมได้คือ ข้าวสวย หมี่หยก แล้วก็หมูกรอบเป็ดย่างจานใหญ่ สั่งน้ำผักผลไม้คนละขวด ส่วนพี่อาฟ พี่เมดสั่งกาแฟเย็นให้พร้อมทั้งกำชับไปว่าอย่างให้เข้มมากจนเกินไป

“ แค่นี้ครับ “ พับเมนูยื่นคืนพนักงานและตอนที่พนักงานจะเดินไปพี่อาฟก็ขอเมนูมาอีกครั้ง

“ เอาสุกี้นึ่งเนื้อวากิวญี่ปุ่นด้วยครับ “ คำพูดที่ทำให้ผมกับพี่เมดมองหน้ากัน ก่อนที่พี่อาฟจะเอ่ยถามผม “ จะเอาอะไรอีกมั้ยวิว ที่มึงอยากกิน สั่งได้เลย “

“ เอ่อ “ หันมองหน้าพี่เมดเพื่อขออนุญาตแต่คนถามก็แค่ย้ำกับผม

“ ไม่ต้องหันไปมองพี่มึง กูถาม อยากกินก็สั่ง “

“ อยากกินสุกี้ยากี้หมูคุโรบุตะด้วย แล้วก็เผือกทอดหอยเซลล์ “

“ สั่งตามที่น้องบอกครับ “ พี่อาฟหันไปบอกพนักงานที่ก็พยักหน้ารับแล้วเดินออกไป

“ ดีจังเลยวะ มีพี่เขยรวยเนี้ย จะกินอะไรก็ได้ พี่อาฟใจดี๊ใจดี“

“ อาการมึงออกไปมั้งวิว “ พี่เมดเอ่ยเรียกผมเหมือนจะปรามไม่ได้พูดอะไรอย่างงั้น แต่เอาจริงก็แค่เขินหรอกผมรู้

“ ก็พี่เมดสั่งแต่อะไรไม่รู้เหมือนไปกินเอ็มเคธรรมดาเลย มากินเอ็มเคไลฟ์มันต้องสั่งของนึ่ง สุกี้ยากี้ อะไรแบบนี้ตังหาก “

“ มันแพง เดี๋ยวไอ้อาฟมันก็ชิงเลี้ยงอีกให้หารก็ไม่เอา “ พี่ชายผมบ่นก่อนจะหันมามองหน้าผม มือที่ยกขึ้นบีบแก้มก่อนจะส่ายหน้าไปมา “ ถ้ารู้ว่าเค้าเลี้ยงเราก็ควรมีความเกรงใจด้วยเข้าใจมั้ยไอ้เด็ก “

“ เมื่อกี้พี่อาฟถามนะ วิวไม่ได้สั่งไปโดยพลการเลย “

“ครับๆ  แล้วเป็นไงที่ไปสอบวันนี้ “ คำถามที่ชวนให้ผมเซ็งถูกถามขึ้นมา คนถามหลุดหัวเราะ “ มึงจะเรียนจะเรียนเอกชนก็ไม่มีใครว่ามึงหรอกวิว แต่ว่าความต้องการของแม่เล็กมันก็ไม่ได้เสียหายอะไร ก็สอบไปแม่เล็กจะได้สบายใจด้วย “

“ วิวไม่ได้เก่งเหมือนพี่เมดที่สอบตรงได้สักหน่อย แม่คาดหวังว่าวิวจะเป็นแบบพี่เมดเกินไปรึเปล่าเถอะ “ เบือนหน้าหนีพี่ชายตัวเอง ตอนที่น้ำถูกเอามาเสิร์ฟ ผมรินน้ำผลไม้ใส่แก้วตัวเองทำทีเป็นไม่สนใจ

“ แม่เล็กเค้าแค่อยากจะให้มึงได้ลองทำมั้ย มึงดูเหมือนไม่อยากแม้จะลองทำ คือพี่ไม่ได้เข้าข้างแม่เล็กนะแต่มึงเหมือนไม่อยากจะทำอะไรเลย ตอนนี้มึงอยากจะทำอะไรมึงต้องคิดได้แล้วมั้ยวะ “

“ คนเราสามารถรู้ความฝันตัวเองได้ภายในไม่กี่เดือนเลยเหรอวะ  เรียนพื้นฐานมาสิบสองปี บวกกับอนุบาลอีกสามปี เรียนแบบตั้งหน้าตั้งตาเรียนในวิชาที่เค้าให้เรียน แต่ไม่เคยสอนเลยว่าอาชีพอะไรเป็นแบบไหนมีข้อเสียอะไรข้อดีอะไร ก็น่าจะให้หยุดค้นหาตัวเองก่อนว่าชอบอะไร ค่อยไปสอบ ค่อยไปเรียนต่อ “ ผมถอนหายใจออกมาเซ็งๆ “ คือวิวไม่เก่งอะไรอะพี่เมด ไม่มีวิชาไหนที่รู้สึกเรียนแล้วมีความสุขเลย แล้วก็ไม่มีงานอดิเรกด้วย “

“ ก็ค่อยๆคิด เดี๋ยวมึงก็คิดออกเองแหละ ลองเขียนเป็นข้อๆในกระดาษก็ได้ว่าชอบทำอะไรบ้าง “ มือขาวเอื้อมขึ้นมาลูบหัว ผมยิ้มให้พี่ชายตัวเองก่อนจะเอียงลงไปซบไหล่ ก่อนจะเหลือบมองพี่อาฟที่กำลังจ้องอยู่ด้วยสายตาที่ดูไม่ค่อยชอบใจเท่านั้น แล้วตอนนั้นผมก็เลยดึงตัวเองขึ้นหอมแก้มพี่เมดไปเต็มฟอด

“ อะไรของมึง “ พี่เมดบอกก่อนจะยิ้มให้แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่แฟนเจ้าตัว

“ วิว มึงยังจะกินมั้ยของที่กูสั่งให้ “ พี่อาฟถามผมก็รีบเด้งตัวเองขึ้นนั่งตัวตรงก่อนจะยิ้มกว้างให้

“ กินครับ แหมมม แค่หอมแก้มพี่ชายตัวเอง ถึงกับต้องยั๊วะเลยอะพี่อาฟ ขี้หวงสุด “ คนโดนแซวไม่ได้ตอบอะไรพี่อาฟแค่ก้มหน้าลงเล่นมือถือตัวเองต่อ ผมก็หันไปคุยกับพี่เมดอีกครั้ง “ แล้วตอนนั้นทำไมพี่เมดถึงเลือกบัญชีอะ “

“ ก็ชอบเรียนเลข ” คำตอบสั้นๆของอีกคนชวนให้ผมถอนหายใจออกมา

“ แล้วพี่อาฟละ ทำไมถึงเลือกเรียนคณะที่เรียน แล้วพี่อาฟเรียนคณะอะไร “

“ เรียนบริหาร “ อีกคนตอบสั้นๆ “ ที่เรียนเพราะพ่อกูมีธุรกิจ กูเลยเรียนจะได้ช่วยพ่อกูทำงาน “

“ ทุกคนดูมีเป้าหมายกันไปหมดเลยเนอะ “ ตอบคนตรงหน้าสั้นๆก่อนจะหันไปมองทางอื่น “ นี่ถ้าวิวเป็นเหมือนพี่เมดก็ดีสิ แค่เก่งหรือชอบอะไรสักอย่างแบบพี่เมดก็ได้ แต่นี่เหมือนไม่มีอะไรที่วิวชอบเลย ทำไมวิวไม่เหมือนพี่เมดบ้างน้า “

   เผลอสบสายตากับพี่อาฟที่จ้องผมตอนที่พูดแบบนั้น ในแววตาที่แปลความรู้สึกอะไรไม่ออก แต่ทว่าผมก็ไม่ได้ถามอะไรกลับอีกคนไป เพราะเมนูที่สั่งดันถูกยกเข้ามาเสิร์ฟเสียก่อน

“ น่ากินจังว่ะ โดยเฉพาะไอ้เนื้อนึ่งนี่ “ พี่เมดเผลอพูดออกมาตอนที่เห็นเนื้อที่พี่อาฟสั่งไปให้ ผมกดถ่ายสตอรี่ตอนที่มันถูกเปิดออกมาหลังครบเจ็ดนาทีที่นึ่งไป แล้วตอนที่กำลังจะเอาตะเกียบไปคีบ พี่เมดก็ชิงเอาชิ้นแรกไปก่อนใคร

“ ไม่ให้พี่เมดกินเนื้อนึ่งนะ เพราะพี่เมดไม่ให้สั่งตั้งแต่ทีแรก อันนี้ของพี่อาฟกับน้องวิวไง “ พูดแซวอีกคนที่กินเข้าไปเต็มปากก่อนจะเคี้ยวด้วยสายตาที่บอกกันว่า อร่อยมากมาย

“ เรื่องอะไรที่จะมาห้ามให้กูไม่กิน แฟนกูจ่ายตังค์มั้ย “

“ หูย กล้าขึ้นเยอะ นี่ทำงานในผับจนเป็นคนแบบนี้ไปแล้วเหรอ “ ผมแซวพี่ชายตัวเองที่ก็ยิ้มกว้างก่อนจะเชิดหน้าไปที่แฟนตัวเอง “ ไอ้เชี้ยนั่นอะ หล่อหลอมกูให้ต้องเป็นคนแบบนี้ ต้องร้าย “

“ เออ งั้นไม่ต้องแดก “ พี่อาฟบอกอีกคนก็ส่ายหน้าไปมาก่อนจะหยิบกินไปอีกชิ้น

“ เรื่องอะไร แฟนกูจ่ายเงินไง ” พี่ชายบอกก่อนจะหันมาพูดเสียงจริงจังกับผม “ มัวช้าอดแดกนะมึง ไอ้อาฟกินทีสองชิ้นนะเห็นมั้ย “

“ รอวิวด้วยเว้ย อีพวกพี่แม่ง แดกไม่คอยเลย “

“ ก็มึงมัวช้าเอง กูไม่สั่งให้เพิ่มนะบอกไว้ก่อน  “ พี่อาฟบอกก่อนเสียงหัวเราะเบาๆของพี่ทั้งสองคนจะดังขึ้นมา

จะว่าไปนี่ก็เป็นครั้งแรกเลยที่มากินข้าวกับแฟนพี่ชายแล้วรู้สึกไม่เป็นส่วนเกิน รู้สึกว่าถ้าหนหน้าชวนมาอีกก็อยากจะมา เพราะรู้สึกว่าเรามากินข้าวกันสามคนจริงๆ พี่เมดที่ดูแลทั้งผมแล้วก็พี่อาฟให้ความรู้สึกดีเป็นที่สุด ต่างกับเมื่อก่อนลิบลับ ตอนนั้นในโต๊ะโคตรเงียบ เวลาคุยก็ชวนคุยแค่พี่เมดเหมือนไม่เห็นอยู่ในสายตาเลยสักนิด

เราลงมือกินอาหารตรงหน้าที่ก็ขอบอกเลยว่า อร่อยมาก พรีเมี่ยมสมกับที่อยากจะกินมานาน ผมจัดการอัพเฟสบุ๊คด้วยภาพอาหารหน้าตาน่ากิน เพื่อนสองสามคนที่เข้ามาเม้นท์แบบอยากกินบ้างแต่ตอนนี้ก็ได้แต่ส่งอีโมมีความสุขตอบกลับไปไม่ได้ตอบอะไรยืดยาวเท่าไหร่  ก่อนที่ไลน์ของกลุ่มของเพื่อน ‘ นิดหน่อยไม่เมาหรอก ’ ที่ชวนกันไปเที่ยวบ่อยๆจะดังขึ้นมา

[ พวกมึงเที่ยวกันปะ คืนนี้ที่เลโก้ ] บี้ เพื่อนของผมคนนึงทักขึ้นมาในกลุ่มนั้น จริงๆเพื่อนกลุ่มนี้ไม่ใช่เพื่อนที่เรียนด้วยกันในห้อง แต่เราก็สนิทเพราะเที่ยวด้วยกันแล้วก็เคยเรียนห้องเดียวกันสมัยอยู่ประถมปลาย

[ เลโก้ผับใหญ่นะเว้ยเข้าได้เหรอ ] คลู เพื่อนอีกคนเสริมผมก็คิดตามมันเหมือนกัน อายุยังไม่ถึงส่วนใหญ่ผับที่ไปก็เลยไปได้แค่ผับเล็กๆเพิ่งเปิดไม่ก็ผับกลางแต่ก็ต้องหาเส้นสายกันวุ่นวายทุกที

[ กูได้เส้นมา เค้าพาเข้าได้ ทางหลังร้าน ไปมั้ยสนใจเปล่าถ้าสนกูจะได้บอกพี่เค้าว่าไป ] บี้ย้ำ ผมก็ตอบออกไปบ้าง

[ กูไม่ไปนะ ขี้เกียจ ] ว่าแบบนั้นเพื่อนสนิทในกลุ่มเที่ยวของผมอย่างไอ้ชิวก็ส่งข้อความเข้ามาทันที

[ ทำไมมึงไม่ไปอะวิว ไปเถอะ กูอยากไป ]

[ กูจะตั้งใจอ่านหนังสือแล้ว ] ผมเลือกที่จะตอแหลพวกมัน ไม่อยากจะบอกความจริงเลยว่า ช่วงนี้รู้สึกโลกมันกลมแปลกๆ

[ ไหนมึงบอกจะเข้าเอกชนไง ] ไอ้คลูถามขึ้นมาผมก็ได้แต่กัดฟันกับความเซ้าซี้ของพวกมัน จะถอนหายใจเซ็งๆก็ไม่ได้ เดี๋ยวพี่เมดก็หันมาสนใจพอดีว่ากำลังคุยกับใคร

[ แม่กูบังคับให้สอบ เลยจะอ่านหนังสือไปสอบหน่อย ]

[ ไม่ใช่ว่ามึงไปสอบวันนี้แล้วเหรอ ]

[ วันนี้กูไปสอบบัญชีเพราะแม่กูอยากจะให้สอบ แต่กูก็สมัครอักษรไปด้วย พี่กูให้สมัคร ]

[ แล้วเป็นไงทำได้มั้ย ]

[ ได้กับผีสิไอ้เหี้ย ] ผมตอบไอ้คลูที่ยังคงถามผมเรื่องของผมอยู่ไม่หยุดด้วยความอยากรู้ [ ยากจะตายห่า ]

[ มึงเรียนเก่งถ้าขยันอ่านหนังสือก็คงได้นะกูว่า ] ไอ้ชิวเพื่อนอีกคนเสริม ผมก็ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ผมไม่ใช่คนเรียนดีหรอกถ้าเทียบกับพี่เมดที่ก็เรียนเก่งมากก็คงจะเป็นพวกเรียนกลางซะมากกว่า

[ แล้วตกลงไปกันมั้ยไอ้สัด นอกเรื่องเก่งพวกมึง ]  คนชวนอย่างไอ้บี้ถามย้ำเข้ามาก่อนที่ทั้งไอ้คลูและไอ้ชิวจะส่งข้อความตกลงไปจนเหลือแค่ผม [ ไม่ไปเหรอไอ้วิวมึง ]

[ ไม่อะ ]

[ ไปเถอะคิดว่าครั้งสุดท้ายแล้วพวกกูจะปล่อยให้มึงไปอ่านหนังสือเลย ] ไอ้ชิวพิมพ์ขึ้นมาอ้อนผม [ นะๆมึงไปนะ ไม่มีมึงมันไม่สนุกอะ กูอยากให้มึงไปด้วย ] ตรงไหนวะ ผมแอบคิดในใจ ไปทีไรกูไม่คุยอะไรมึงก็สนุกกับคนอื่นทุกทีแล้วเอากูมาอ้าง ส้นตีนจริง

[ เออๆ ไปก็ไป แต่ครั้งสุดท้ายแล้วนะ ไม่มีครั้งหน้าแล้ว กูจะขยันอ่านหนังสือแล้ว ]

[ โอเค งั้นก็ไปกันครบ กูไปรับสักสองทุ่มแล้วกันนะ ละเจอกัน ] ส่งสติกเกอร์ง่ายๆเข้าไปในกลุ่มก่อนจะปิดหน้าจอลง ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะหันไปมองพี่เมดที่คีบบะหมี่หยกกับหมูกรอบมาไว้บนจานให้ผม

“ ของชอบมึง กินซะ มัวแต่เล่นโทรศัพท์ “

“ จ้า แม่ “ ผมแซวอีกคนก่อนจะก้มหน้าลงกินของตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม อยู่ๆก็รู้สึกอยากจะหยุดเรื่องไร้สาระที่กำลังทำนั่นแล้ว เพราะตอนนี้ผมเองก็ยังไม่รู้เลยว่าจะจัดการกับไอ้เจหน้าเหี้ยนั่นยังไง ไม่รู้ด้วยว่ามันจะเอายังไงกับผม ขืนยังมัวเที่ยวอยู่แบบนั้นแล้วเผลอไปเจอคนรู้จักพี่เมดอีก ก็คงตายซ้ำซ้อนยิ่งตอนนี้พี่เมดเป็นแฟนพี่อาฟที่สายผับต่างรู้จักก็ยิ่งไม่ปลอดภัย อีกอย่างอยากจะลองสอบตรงเข้ามหาลัยพี่เมดดูด้วยเผื่อว่า ชีวิตที่เป็นอยู่มันจะดีขึ้น

จัดการกินของหวานตบท้ายมื้ออาหารก่อนจะเดินออกจากร้านด้วยความรู้สึกที่ว่า ถ้ากลิ้งได้ก็กลิ้งไปขึ้นรถ และมื้อนี้ก็ตามที่คิดไว้ไม่มีผิดพี่อาฟเป็นคนเลี้ยงทั้งหมดเหมือนเดิม ส่วนพี่ชายผมก็อยู่ในอาการเกรงใจสุดๆเพราะราคาที่เห็นในบิลก็สูงแบบชนิดที่ว่าถึงมากับครอบครัวก็ยังเกรงใจพ่ออยู่ดี

“ ให้พี่ขึ้นไปส่งมั้ย “ พี่เมดหันมาเอ่ยถามผมที่อยู่ด้านหลังตอนที่รถจอดสนิทลงที่ใต้คอนโด

“ ไม่ต้องอะ ขึ้นไปเองได้พี่เมดกับพี่อาฟไปทำงานเถอะ สายแล้วมั้ง “ ก้มหน้าลงดูนาฬิกาตอนที่ยิ้มให้อีกคนพี่เมดก็เอื้อมมือมาลูบหัวผม

“ อ้อนพี่บ้างก็ได้ “ เค้าพูดแค่นั้นผมก็ยิ้มออกมา

“ ไม่อ้อนหรอก อ้อนได้ตายอะเดี๋ยวพี่อาฟเตะวิวปลิว ไปละ “ บอกพี่ชายตัวเองแบบนั้นก่อนจะหันไปหาคนขับรถที่ก็หันมาตอนที่ผมเรียก “ พี่อาฟ ขอบคุณนะครับที่มาส่ง ที่เลี้ยงข้าวด้วย วิวฝากดูแลพี่เมดด้วยนะ “

“ อื้ม “ เค้าตอบสั้นๆเหมือนอย่างเคยผมก็แซว

“ ก็ยังคงขอยืนยันคำเดิมนะครับ มีพี่เขยรวยนี่มันสุดยอดจริงๆ “ เปิดประตูออกไปนอกรถ แต่ไม่พี่ชายผมก็เหมือนยังมีอะไรให้พูดอีกเยอะ กระจกรถถูกเปิดลงก่อนจะพูดสั่งด้วยความเป็นห่วง

“ พรุ่งนี้ไปโรงเรียนด้วยนะ แล้วก็ตั้งใจอ่านหนังสือด้วยสมัครสอบไปแล้วน่ะ “

“ รู้แล้วครับ รู้แล้ว บ่นจังเว้ย “ ว่าแบบนั้นก่อนจะดึงตัวเองเข้าไปกอดอีกคนไว้ “ รักพี่เมด ดูแลตัวเองดีๆนะ เดี๋ยวเจอกัน “

“ อื้ม “ หอมแก้มนุ่มแบบที่ชอบทำประจำตั้งแต่เด็กสองครั้งซ้ายขวาก่อนที่ผมจะดึงตัวเองออกมาแล้วก็ต้องพบว่าคนขับรถจ้องผมแบบไม่วางตา

“ พี่อาฟหน้าพร้อมต่อยวิวมากอะ หอมนิดหอมหน่อยน่าพี่น้องกัน หวงไปได้ เค้าก็หอมกันมาตั้งแต่เด็กแล้วมั้ย “ ผมแซวอีกคนที่ก็หันไปอีกทางทันที “ ไปดีกว่า ขับรถกันดีๆนะครับ “

“ ขึ้นห้องไปเลยไป “  พยักหน้ารับพี่ชายตัวเองแล้วโบกมือบ๊ายบาย จนกว่ารถคันที่ขับมาส่งจะขับออกไป ผมมองรถคันนั้นขับไปจนสุดสายตาก่อนจะหันหลังไปพยักหน้าให้กับรถอีกคันที่ก็เหมือนมาคอยอยู่สักพักแล้ว ขับเข้ามาใกล้ เปิดประตูขึ้นไปนั่งข้างคนขับแบบทุกที ก่อนที่ไอ้บี้เพื่อนผมที่มารับจะมาถามขึ้นมา

“ มึงคนขับรถคันที่มึงลงมาใช่พี่อาฟเจ้าของผับ throw up มั้ยวะ “

“ ใช่ “ ผมพยักหน้ารับ

“ เรื่องจริงดิ ที่มึงบอกว่าเค้าเป็นแฟนพี่ชายมึง “

“ มึงคิดว่ากูจ้อจี้เหรอวะ “

“ แล้วเมื่อไหร่พวกกูจะได้ไป throw up ละ มึงเล่นเส้นพี่มึงให้หน่อยสิ “

“ รออายุครบแล้วกูพาเข้าไปแบบสวยๆเลย “ ผมบอกปัดมันแต่เหมือนอีกคนจะทำหน้าเสียดายแบบไม่พอใจเท่าไหร่ “ กูไม่อยากมีเรื่องกับพี่กู เอาน่า ไปที่ที่สบายใจกันดีกว่า “

“ คืนนี้อย่าหิ้วผู้ชายแล้วหนีกลับไปก่อนเหมือนเมื่ออาทิตย์ก่อนก็แล้วกัน “ ผมหลุดยกยิ้มแต่ยังไม่ทันจะตอบอะไร ข้อความในหน้าจอนั้นก็ฉายขึ้นมา เป็นข้อความจากผู้ชายคนที่กุมความลับของผมไว้อย่างไอ้พี่เจ ผู้ชายเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ไอ้บี้พูดถึง [ อยู่ไหน ทำอะไรอยู่ ]   

“ ถ้าน่าสนใจก็ไม่แน่หรอก แต่หนนี้ต้องดูในดีหน่อย คนสมัยนี้แม่งร้าย  “ ผมบอกก่อนจะหันไปมองเพื่อนตัวเอง “ บี้ มึงว่าโลกเรามันกลมมั้ย “

“ กลมสิวะ มึงตกความรู้ทั่วไปเหรอ “

“ ไม่ใช่สิ กูหมายถึงโลกกลมแบบพวกที่เหวี่ยงให้คนที่คิดว่าไม่น่าจะเจอให้มาเจอเรา อะไรแบบนั้น “

“ อ๋อ อันนั้นกูว่าโคตรกลมเลย ก็อย่างวันก่อนกูยังเจอไอ้ไนท์แฟนเก่ากูที่ผับเลยทั้งๆที่ว่ามันเป็นเด็กเรียนแบบไม่เข้าผับอะ โคตรช็อคอีเหี้ย เสือกโคจรมาเจอกูอีก “

“ ที่วันนั้นมึงกลับกับมันเพื่อไปย้ำความหลังกันอะนะ “

“ สัดวิวไม่ต้องย้ำได้มั้ย “ หลุดยิ้มออกมา บี้มันก็ถามผมต่อ “ แล้วมึงถามทำไมวะ “

“ ก็แค่กูไม่เชื่อเรื่องโลกกลมเท่าไหร่ แต่ตอนนี้เหมือนจะเชื่อหน่อยๆแล้ววะ ว่ามันกลม “

“ อะไรของมึง “

“ ว่าแต่มันกลมแค่ไหนวะมึง จะกลมเหมือนวงกลมมั้ย “

“ ไม่รู้สิ เรื่องแบบนี้มันก็แล้วแต่ประสบการณ์คน แต่กูว่ามันกลมอยู่นะ กลมแบบเหี้ยๆอะ “ ไอ้บี้หลุดหัวเราะ “ มึงลองสังเกตสิ คนเราอะเวลาอยากจะเจอใครมันไม่ค่อยเจอหรอก มันชอบเจอคนที่เราไม่อยากเจอทั้งนั้น นั่นแหละ ความโลกกลมแบบเหี้ยๆที่กูบอก “

“ ก็คงจะจริงอย่างงั้น “


.......................................................................

สรุปแล้วเหมือนเขียนตอนที่ 26 27 มาเกริ่นเพื่อเข้าตอนหลังที่เมามันส์ในตอนที่ 28 #ปลอบใจตัวเองอย่างที่สุด
ฮือออออ ตอนที่ 28 ขอให้สัญญาว่าจะสนุกสนานกว่านี้ ทุกคนอ่านแล้วรู้จักยังไงบอกหนมด้วยเน้อ ตื่นเต้นน
รอความเห็นของทุกคนสุดๆ
ยังไงฝากแท็ก #ผับชั้นสาม ด้วยนะคะ
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านและคอมเม้นท์
สุดท้ายนี้ อยากกินเอ็มเคไลฟ์ ใครก็ได้เลี้ยงหน่อย ไม่มีพี่เขยรวยแบบพี่อาฟ ก็เศร้าหน่อย

ออฟไลน์ Noname_memi

  • 7 or never, 7 or nothing
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1324
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +18/-1
สาเหตุนึงที่วิวเป็นแบบก็มาจากบินสินะ  :z6: คดีเยอะนะบินนะ

แล้วเรากลัวจังว่าการไปผับครั้งนี้ของวิวมันจะไม่ราบรื่น

กลัวมันจะมีเรื่องวุ่นวายเข้ามาจาได้

ออฟไลน์ B52

  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 13215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +420/-26

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด