ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์ และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม
กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0สวัสดีค่ะ... ได้ตามอ่านเรื่องของคนอื่นมาเยอะแล้ว เลยอยากจะโพสบ้าง
เป็นนิยายนะค่ะเขียนโดย"น้องมีร์" เนื้อหามันน่ารักดีเลยอยากมาแบ่งปั้นให้คนอื่นได้อ่านบ้างค่ะ
โดยมีการเปลี่ยนชื่อตัวละครเล็กน้อยเพื่อความเหมาะสมค่ะ
น้องเค้าเขียนจบแล้ว จะทยอยลงให้นะค่ะ ฝากฟิคเรื่องนี้ด้วยนะค่ะ ขอยืนยันว่านิยายเรื่องนี้ได้รับอนุญาติจากผู้แต่งแล้วค่ะ
ตอนที่ 1
รักคือบางสิ่งที่ยากจะเข้าใจ คือความมหัศจรรย์ที่เข้ามาในชีวิต เมื่อได้รักจะได้รู้ถึงคุณค่าและความหมายของการมีลมหายใจ ...
คุณเชื่อในพรหมลิขิตหรือเปล่า..
เชื่อไม่เชื่อไม่รู้ล่ะ..แต่วันนี้บางสิ่งบางอย่างกำลังเกิดขึ้นในชีวิตอันแสนสดใสของใครบางคน ...
ต้น ยืนมองทะเลเบื้องหน้าด้วยความสับสนว้าวุ่นใจ ตอนนี้เหมือนข้างในมันกำลังจะระเบิดออกมาเป็นเสี่ยงๆ ความทุกข์ไหลมารวมกันที่เดียว เขาเจ็บหนักถึงขนาดร่ำว่าอยากตาย ยิ่งได้ฤทธิ์ของมารร้ายอย่างแอลกอฮอล์ที่โหมดื่มเข้าไปเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อนยิ่งทำให้สติเขาเตลิด ภาพรอบกายหลากสีหลายแสง จนเขาไม่รู้เลยว่าตอนนี้ ฤทธิ์เหล้าและความเสียใจกำลังถาโถมเข้ามาอย่างหนักจนไม่สามารถควบคุมประสาทการรับรู้ของเขาไว้ได้
เท้าของชายหนุ่มสืบไปเบื้องหน้าเรื่อยๆ โดยไม่สนอะไรเลย ยิ่งเดินก็ยิ่งรุกล้ำเข้าสู่แผ่นน้ำ ท้องฟ้ามีเสียงหลัวระรัวลั่น ราวกับจะร้องห้ามไม่ให้ชายหนุ่มเดินต่อ แต่สติที่ขาดหายยากยิ่งจะกู้กลับคืน เขาหารู้หรอกว่าตอนนี้น้ำกำลังสูงเกือบถึงอกเขาแล้ว
นนท์ หยุดยืนตั้งแต่แรกที่เห็นเงาคนไหวๆ ในแผ่นน้ำก็นึกสังหรณ์ใจ ยามค่ำๆมืดๆเช่นนี้ใครกันล่ะจะมาเล่นน้ำทะเล ในใจก็พลอยคิดหวาดกลัวไปว่าภาพที่เห็นคือวิญญาณ ความตกใจระคนเสียวสันหลังวิ่งไหลไปมาทั้งร่าง อยากจะก้าวขาวิ่งออกไป แต่ก็ทำไม่ได้ ... มันเหมือนบีบบังคับให้คนร่างเพรียวลมต้องมองภาพของใครคนนั้นต่อไป แต่แล้วทุกความกลัวที่เคยเกาะกินหัวใจก็ถูกกระชากดึง เพราะภาพคนตรงหน้าที่เริ่มสำลักน้ำขาดอากาศหายใจ ..นั้นมันคนนี่หว่า
ร่างบางของคนเห็นเหตุการณ์กระโจนลงน้ำอย่างไม่รอช้า ทุกวินาทีที่เสียไปคือลมหายใจที่ลดน้อยลงทุกขณะ ชายหนุ่มเข้าประชิดตัวอีกฝ่ายจากด้านหลังใช้แขนเรียวเล็กล็อคคอเขาไว้ ดีนะที่ยังพอจะจำบทเรียนสุขศึกษาชั้นป.ห้าได้ไม่เช่นนั้นไม่อยากคิดเลยว่าจะเป็นยังไง ..นนท์ใช้แรงที่มีทั้งหมดพาร่างนั้นขึ้นมาบนฝั่งอย่างทุลักทะเล ดีที่มีแรงหนุนจากน้ำทะเลเลยทำให้น้ำหนักค่อนข้างถ่ายเทไปได้มาก...
ชายหนุ่มผลักร่างของคนเกือบตายลงบนพื้นทรายข้างหน้า ส่วนเขาก็นั่งลงข้างๆอย่างเหนื่อยอ่อน ..โธ่ ..วันนี้เล่นบทพระเอก จนชุดที่ใส่มาเปียกปอนจนหมด ไหนจะแอฟโฟ่อีกล่ะ..ถูกน้ำคลอจนลีบน่าเกลียดเชียว ..
“ รูปร่างหน้าตาก็ดี การแต่งตัวก็โอเคทำไมคิดสั้นได้นะ ” เสียงพึมพำของคนหัวเคยฟู เหมือนเป็นตัวปลุกให้อีกคนพอจะมีสติเล็กๆขึ้นบ้าง ร่างนั้นสำลักน้ำออกมาเล็กน้อยก่อนจะพล่ามในบางสิ่งที่ทำให้นัทแทบอยากฉีกอกเขา
“ จะยุ่งทำไม คนเขาจะตายแล้วมายุ่งทำไม” เสียงเขาบอกชัดว่าฤทธิ์เหล้ายังครอบงำความคิดทั้งหมดไว้ สติจะพูดจะจาก็น้อยนิด
“ ไอ้บ้า ฉันอุตส่าห์ลงไปช่วยทำไมถึงพูดเช่นนี้” อารมณ์ของฮีโร่หมาดๆขาดผึงสายตามองจ้องอย่างเหลืออด นนท์ผลักร่างของคนที่นอนทอดกายข้างๆด้วยความไม่พอใจ ชายหนุ่มหันมองนนท์เล็กน้อยแล้วจับกายบางที่นั่งบ่นลงมานอนข้าง คนเกือบตายพลิกร่างของเขาขึ้นคร่อมนนท์ไว้ จ้องมองอย่างดีใจ
“ แพท ...แพท..กลับมาหาเราแล้วเหรอ” ชายหนุ่มเรียกเสียงเว้าวอน หรือเพราะชื่อนี้ที่ทำให้ชายหนุ่มขาดสติจนคิดฆ่าตัวตาย ภาพต้องหน้าเบลอมัวจนทำให้ชายหนุ่มเข้าใจไปว่าคนช่วยชีวิตแฟนสาวที่เพิ่งบอกเลิกเขาเมื่อชั่วโมงก่อน
“ ฉันไม่ใช่แพทของแกนะ…” นนท์บอกเสียงขุ่น จนเขาชะงักไปเล็กน้อยฉายแววเศร้าจับจ้องมายังร่างที่นอนติดพื้นทราย
มือที่ตั้งกำเป็นรูปหมายจะตีทุบให้อีกกายได้สติจำต้องลดลง เพราะสายตาแสนเศร้าที่ส่งกลับมา..ดวงตาคู่กลม หากมันร่าเริงคงน่ามองมากกว่านี้..
ในความงุนงงของโชคชะตา..ต้นโน้มหน้าลงหาอีกฝ่ายจบปากของทั้งสองชิดติดกัน..นนท์โกรธจัดที่ถูกกระทำเช่นนั้น รวบรวมแรงทั้งหมดผลักคนที่คร่อมอยู่ให้ล้มลง
“ ไอ้บ้า ฉันไม่ใช่แพทของแกนะ” คนตัวเล็กแผดเสียง พร้อมมือที่ฟาดออกไปเตือนสติ แม้จะรู้ว่าเขากำลังเศร้าแต่นนท์ก็ไม่มีกะจิตกะใจจะนึกถึงเขาแล้วล่ะเมื่อถูกทำเช่นนี้ แรงที่ตบลงบนหน้าพอจะเรียกสติบางส่วนของชายหนุ่มให้กลับคืนมา เขาเริ่มมองหน้านนท์อย่างพิเคราะห์
“ เธอไม่ใช่แพทนี่” “ ก็ใช่นะสิไอ้บ้า ฉันอุตส่าห์ลงทุนว่ายน้ำไปช่วยแต่ดูสิว่ามันคุ้มไหม คนบ้าอะไรนะเป็นผู้ชายเสียเปล่าทำไมขี้ใจน้อยอย่างกะผู้หญิง เคยคิดบ้างไหมว่าพ่อแม่จะรู้สึกยังไง ทำอะไรไม่มีสมอง” พูดจบก็ตบเขาไปอีกครั้ง
“ นี่สำหรับพ่อและแม่ของแก” ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้าตัวเองอย่างไม่เข้าใจ นนท์มองตอบอย่างไม่กลัวเกรง คนหน้าหวานเสียพ่อไปตั้งแต่เด็ก ย่อมรู้ว่าการเสียคนที่เรารักไปมันทรมานมากแค่ไหน เขากล้าดียังไงที่จะทำร้ายตัวเองเช่นนี้
“ ฉันหวังว่า คงไม่คิดสั้นอีกจำไว้ชีวิตของเรามีอีกยาว อย่าคิดอะไรสั้นๆด้วยเรื่องเล็กน้อย” คนตัวบางตั้งท่าจะบอกลา นนท์ช่วยเขาได้มากที่สุดก็แค่นี้ ที่เหลือเขาต้องคิดเองแล้ว
“ เดี๋ยว” ชายหนุ่มดึงมือของนนท์ไว้
“ ทำไม” ตาคู่เรียวมองกลับอย่างสงสัย คนถูกตบยื่นมือใหญ่มาปัดไรแอฟโฟ่ที่ตกลงมาปรกหน้าขาวอย่างแผ่วเบา ดวงตาของเขาต่างจากเมื่อครู่สิ้นเชิง เหมือนมันกำลังบอกอะไรบางอย่างกับนนท์
“ จะทำอะไร..” เจ้าของหน้าหวานถามเสียงอ่อนเพราะท่าทางของเขาเปลี่ยนไป แล้วคนที่นั่งตรงข้ามก็ถาเข้ามาใกล้นนท์อีกครั้งแล้วก้มลงจุมพิตเบาๆ ครั้งนี้มันนุ่มนวลและอ่อนหวานจนนนท์สัมผัสได้
“ ขอบคุณ” ปากที่ถอนออกขยับอีกครั้งเพื่อบอกคำนี้กับคนช่วยชีวิต นนท์ผลักร่างของเขาออกอย่างแรงแล้วรีบวิ่งจากไปด้วยความรู้สึกสับสน ... ก่อนหน้านี้เพียงหนึ่งชั่วโมงต้นยังมีความสุขที่ได้มาร่วมงานส่งท้ายอำลาของนักศึกษาที่จบการศึกษาทุกคนต่างยิ้มแย้มและมีความสุขอย่างมาก วันนี้เขาตั้งใจไว้แล้วว่าจะขอแฟนสาว แพทตี้ แต่งงาน
-
-
-
-
“ ได้ข่าวว่า เอกมันขอยัยจุ๋มแต่งงานแล้วว่ะ” เพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มกล่าวขึ้น ประเด็นนี้กลายเป็นที่ฮือฮาอย่างมาก ไม่นึกว่าเพื่อนที่เรียนกันมาจะชิงแต่งงานไปก่อน คนที่มีความตั้งใจเลยเริ่มรู้สึกกล้าๆกลัวๆ ใจลนลานไปหมดจนไม่ได้ยินสิ่งที่เพื่อนเอ่ยถาม
“ เป็นไรไปว่ะ ต้น” เพื่อนอีกคนเข้ามาเขย่าร่างเรียกสติให้ชายหนุ่ม
“ อะไรเหรอ” เขาถามเสียงหลง เมื่อทุกสายตาจับจ้องมายังเขาเพียงผู้เดียว จีรนันท์แฟนสาวจึงเฉลยให้เขาหายสงสัย
“ เมื่อกี้นิลเขาถามว่าถ้าไม่ใช้แหวนจะใช้อะไรขอแต่งงาน” เสียงของเธอทำให้ใจเขาสั่นระรัวไปหมด ชายหนุ่มเอื้อมมือไปกุมกล่องใส่สร้อยในกระเป๋ากางเกง
“ ต้นเหรอ......คงเป็นสร้อยมั้งดูดีเหมือนมีพันธะ” ชายหนุ่มแสร้งตอบติดตลก เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกแท้จริงในตอนนี้
“ จริงอย่างต้นมันว่า แสดงพันธะมีโซ่ล่ามคอ” คนอื่นต่างสนับสนุนความคิดของชายหนุ่ม หารู้ไม่ว่าเขาตื่นเต้นจนนั่งไม่ติด กว่าจะปลีกตัวออกมาจากกลุ่มเพื่อนได้ก็แทบแย่
“ เรามีอะไรจะบอก” ทั้งสองพูดขึ้นพร้อมกัน จนต่างฝ่ายต่างมองอย่างขันๆไม่นึกว่าทั้งสองจะใจตรงกันขนาดนี้ แต่มีบางสิ่งที่ต่าง แววตาของจีรนันท์ไม่ได้ฉายวาวแช่มชื่นเช่นเขาเลยสักนิด เธอกำลังมีเรื่องบางอย่างปิดบังเขาอยู่ วันนี้คือวันส่งท้ายเธอจึงอยากจะบอกเขา
“ งั้นแพทบอกก่อน” ชายหนุ่มเปิดโอกาส
“ ไม่ให้ต้นบอกก่อน” หญิงสาวเกี่ยงงอนเธอไม่กล้าจริงๆที่จะบอกเขาก่อน เพราะมันยากนักที่จะเอื้อนเอ่ยคำรำพันที่ทำร้ายใจอีกฝ่าย ชายหนุ่มจ้องมองอย่างสงสัยในที่สุดก็ให้บอกพร้อมๆกัน
“ หนี่ง สอง สาม” ชายหนุ่มบอกให้สัญญาณ
“ แต่งงานกันนะ/ เราเลิกกันเถอะ” สองประโยคออกจากปากคนสองคน แต่ความรู้สึกต่างขั้วกันสุดๆ ต่างคนต่างตะลึงกับสิ่งที่ได้ฟัง แพทเกิดความละอายขึ้นมาในทันที เธอทำร้ายเขาเข้าจนได้เธอบอกเลิกในวันที่เขาแสดงความจริงใจต่อเธอ
“ แพทต้องไปเมืองนอกเพื่อช่วยงานคุณพ่อ” หญิงสาวบอกเป็นประโยคส่งท้ายก่อนเดินจากไป เธอไม่อยากทนเห็นหน้าที่แสนเจ็บปวดของชายหนุ่มอีกแล้ว มันคงรบกวนใจเธอไปตลอดชีวิตแน่นอน
ภาพของคนรักที่ถูกเธอทำร้าย เหมือนเธอกำลังผลักเขาให้ตกลงไปในเหวลึก เหวที่ยากจะปีนกลับขึ้นมา
เหมือนมือของเธอหยิบใจเขาติดไปด้วย ร่างที่ยืนอยู่รู้สึกราวถูกเหวี่ยงออกไปในอวกาศไร้
น้ำหนัก ไร้ความรู้สึกลอยไปมาด้วยกระแสของสุญญากาศ ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งเช่นนั้นอยู่หลายนาที สุดท้ายความบอบช้ำเจ็บปวดก็ระบายออกด้วยการดื่มเหล้า เขาดื่มหนักจนทุกคนแปลกใจเพราะต้อลไม่ใช่พวกคอทองแดง ขาเมาสักหน่อย แต่วันนี้เขากลับดื่มเอาดื่มเอาราวกับเหล้าในแก้วคือน้ำเปล่า …..
เขาออกเดินไปเรื่อยๆ จนมาหยุดตรงทะเลข้างๆรีสอร์ต ในความคิดสับสนไปหมด
“ ทำไมวะ ทำไม” เขาตะโกนออกมาอย่างบ้าคลั่ง หัวใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักที่ปั้นมาหลายปีจบลงด้วยเพราะเหตุผลง่ายๆของแฟนสาว ...แพทตี้...
-
-
-
-
นนท์เดินกลับออกมาด้วยความเจ็บใจ ...สวรรค์ นะสวรรค์ ทำไมต้องให้น้อง เดย์ ดราวิโก ..เฮ้ย ไม่ใช่ น้องนนท์แอฟโฟ่ว์แมน เจอเรื่องอย่างนี้ด้วยล่ะ ...
มันเหมือนฟ้าแกล้ง สวรรค์สาป ถูกคนไม่รู้จักขโมยจูบแรกไป
แถมคนจูบยังเป็นผู้ชาย
“ ไอ้บ้าหน้ากบอย่าให้ฉันเจอแกอีกนะ..ฉันจะ...จูบแกคืน ..เฮ้ย บ้าๆ ...ฉันจะเตะแกต่างหากไอ้ทุเรศสิ้นคิด กล้าดียังไงมาขโมยจูบแรกแสนสำคัญของฉันไป ไม่ยอม..ๆ” นนท์รำพันอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ ทำไมโชคชะตาถึงได้กลั่นแกล้งเขามากมายอย่างนี้ล่ะ...ฮือ ..อารมณ์ไม่ต่างจากนารินหลังจากเสียความบริสุทธิ์แรกให้กับคาวี
โธ่ ชีวิตฉัน..
“ เป็นอะไรไป นนนี่..” เสียงหวานใสจากใครบางคนดังขึ้น สลัดนนท์ให้ออกจากห้วงอารมณ์ฟุ้งซ่าน นนท์หันกลับไปมองหญิงสาวผมยาวดำสยายในชุดสีขาวอ่อน ...นานๆกิ่งจะแต่งตัวสวยขนาดนี้..ดูๆไปก็น่ารักเหมือนกัน แต่ก็ติดที่ตรงยัยคนผมยาวปากร้ายยิ่งกว่าอะไร ขืนนัทจับทำแฟนได้กลายเป็นเรื่อง..โธ่พ่อคุณแอฟโฟ่วจะจับเขาทำแฟน ถามเขาหรือยังว่าจะเอาตัวหรือเปล่า ...
“ เปล่าไม่มีอะไร แค่มาเดินหน้าตาดีริมหาดเท่านั้นเอง..” ความมั่นใจของพ่อหนุ่มดูจะเกินร้อย( ไปหรือเปล่า) เล่นพูดยืดอกเสียเต็มกระบวน ..ไม่เกรงหน้าอินทร์หน้าพรหม เชียว ..
“ แล้วเป็นอะไรหรือเปล่านี่” กิ่งส่ายหน้าให้กับความทะเล้นของเพื่อนเล็กน้อย ก่อนจะเอ่ยถาม
“ อะไรเหรอ” นนท์ทำหน้าเหรอเข้าใส่
“ ดูตัวแกสิ ...แอฟโฟ่ว์ทรงใหม่เหรอย่ะ..ปรกเสียขนาดนั้น แล้วชุดก็เปียกปอน ทำอย่างกับไปฟัดกับใครกลางทะเลมางั้นแหละ...”
“ บ้าแกเหรอ ฉันจะไปฟัดใครกลางทะเล หน้าตาอย่างนี้ต้องชาเลอตัน ห้าดาวเท่านั้น ไม่มีทาง outdoor ริมหาดอย่างนี้หรอก มันไม่ได้อารมณ์..” “ กล้าพูด...!!!! “
“ แล้วทำไม ก็คนมันมั่นใจนี่หว่า ไปดีกว่าไม่อยากคุยกับแกแล้ว คุยไปก็เข้าเนื้อฉันทุกอย่าง อารมณ์เสีย เบื่อคนเกือบสวย...” นนท์รีบหาทางชิ่ง ก่อนที่กิ่งจะได้สวนกลับ ...หญิงสาวได้แต่ยืนชี้นิ้วตามไป ผู้ชายอะไรปากร้ายเสียไม่มี มาว่ากิ่งว่าเกือบสวยได้ยังไง ไม่ย้อมไม่ยอม...
“ อย่าหนีนะไอ้ฟูจัง” คนสวยในชุดราตรีรีบวิ่งตามเพื่อนหนุ่มหน้าหวานแต่หัวแสนฟูทันที แต่วิ่งไปได้พักเดียวก็ต้องเลิกตาม เพราะนนท์นั้นวิ่งไวยังกับนักแข่งมาราธอน ..
“ เป็นอะไรไปกิ่ง..”
“ อ้าวไอ้ต่อ..”
“ เรียกแฟนแกอย่างนี้เหรอไอ้ลิง...” คนหน้าเหมือนคิงคองเอ่ยตอกกลับไป นนท์ กิ่ง และต่อ รู้จักกันมาตั้งแต่มัธยมต้น ดูจะสนิทสนมกลมเกลียวกันอย่างมาก โดยเฉพาะ คู่เพื่อนสนิทที่เพิ่งชิดใกล้แปรสถานะมาเป็นคนรู้ใจอย่างต่อและกิ่ง ...
“ อ้าวจะให้เรียกยังไงไอ้คิงคอง..”
“ เอ่อ..”
“ อย่ามาทำตูดลิงใส่ฉัน..รีบไปจับไอ้ฟูจังมาให้ฉันก่อน..”
“ อะไรเล่นเป็นเด็กๆอีกแล้ว...นนท์นี่นะ..เมื่อไหร่จะเปลี่ยนตัวเองเสียที..เฮ้ย...” ต่อส่ายหน้าเล็กน้อย ออกอาการหนักใจกับเพื่อนสนิทอีกคนของเขา
“ ทำไมวะ”
“ ก็ดูสิ...ผมแอฟโฟว์ฟูแนว แต่แต่งตัวหวานเว่อร์ มันเข้ากับบุคลิกไหม” ต่อเอ่ยเสียงลากยาน ..ก็จริงของเขา นนท์ทำตัวเป็นเด็กแน้วแนว แต่การแต่งตัวหลุดโลกมาก..ถึงมากที่สุด เสื้อเชิ้ตสีหวาน ..กางเกงขาเดปลายหวานเย็น โธ่ ไม่รู้เหมือนกันว่าแนวไหน แต่ความมั่นใจในตัวเองเป็นที่หนึ่ง..
คุณหนูนนท์หรือนายชญานนท์ ศิลปการ ทายาทเพียงคนเดียวของคุณนันทภัค ศิลปการ ...เฮ้อ...