ตอนที่ 53ผมลืมตาตื่นขึ้นในห้องนอนใหม่ที่ตัวเองยังไม่คุ้น เบลล์นอนอยู่อีกห้อง มันไม่ได้นอนห้องเดียวกับผม มองออกไปนอกหน้าต่าง ตอนนี้ท้องฟ้ายังเป็นสีฟ้าครามอยู่เลย หยิบนาฬิกาข้อมือมาดูพบว่าเพิ่งหกโมงกว่า ผมเอนตัวนอนลงอีกครั้ง นี่เหละครับคนเราต่อให้มีเรื่องทุกข์ใจแค่ไหนแต่พอถึงเวลานอนแล้วก็ต้องหลับ
มองโทรศัพท์ตัวเองที่ไม่มีการเคลื่อนไหว ตั้งแต่เมื่อคืนที่พูดกัน ไอ้ฮิมก็ไม่ได้โทรมาหาผมอีก ดีแล้วครับ กำลังอยากอยู่เงียบๆ ผมกดดูทีวี ทุกอย่างใหม่หมด บางอย่างยังเคลือบพลาสติกไว้อยู่เลย เปิดรายการเพลงดู เป็นช่องเพลงฝรั่งเช้าๆแบบนี้ เอาเพลงเก่าๆมาเปิดเพราะดีครับ
ผมคว้าเอาโทรศัพท์มาเล่น ดูความเคลื่อนไหวของสังคมทั่วไป ในเฟสมีคนส่งมาถามว่าผมอยู่ไหนกันทั้งนั้น มาหมดเท่าที่ผมกับไอ้ฮิมรู้จักนั่นละครับ เสียงเพลงนึงดังขึ้น เสียงที่คุ้นหูผมเงยหน้าขึ้นดู เพลง I'm your ครับ เพลงที่ไอ้ฮิมมันชอบ
“ เห้อออออ " ผมถอนหายใจยาวเปลี่ยนช่องเป็นการ์ตูน คราวนี้มึงคงไม่มีอะไรมากวนใจกูอีกนะ ไม่ได้ตอบใครในเฟสผมกดปิด นอนลงตามเดิม วันนี้ไม่มีเรียนครับ และต้องการอยู่อย่างสงบ ไอ้เบลล์ตื่น ผมจะไล่มันกลับบ้าน เมื่อคืนก่อนจะนอนได้ยินเสียงมันทะเลาะกับไอ้เชนเรื่องผม
เราพึ่งพาใครไปไม่ได้ตลอดหรอกครับ ต่างคนต่างก็มีชีวิตเป็นของเค้า ถ้าไม่ได้เกิดมาเพื่อคู่กัน ก็อย่าไปหวังอะไรแบบนั้นเลย เมื่อคืนกับพี่เทมไอ้ไฟผมก็รู้แล้ว ชีวิตพวกมันคงมีความสุขขึ้น ถ้าไม่มีผมอยู่ตรงนั้น เป็นความรู้สึกที่สบายใจ ผมเข้าใจนะ เพราะถ้าให้พี่เฟย์มาอยู่ในห้อง ผมก็คงไม่ชอบ ไอ้เบลล์ก็เหมือนกัน มันเป็นแฟนเก่าผม ไอ้เชนไม่หึงก็บ้าแล้ว
“ มึงตื่นยัง " เสียงจากหน้าประตู ทำให้ผมตอบรับไป มันเปิดประตูเข้ามา นั่งลงบนเตียงข้างผม " หิวว่ะ แต่แม่งยังเช้าอยู่เลย โคตรอยากจะกิน ข้าวต้มหมูใส่ไข่กับปาท่องโก๋ แถวนี้ ตรงไหนมีขายบ้างว่ะ "
“ ไม่รู้ว่ะ "
“ เออว่ะ กูถามคนแบบมึงได้ไง ปกติพี่ฮิมแม่งเลี้ยงเหมือนลูก ทำให้ทุกอย่าง "
“ เวลามันใช้กูเหมือนทาสทำไมมึงไม่มาดูบ้างว่ะ " ผมสวนกลับไอ้เบลล์ยิ้ม " ยิ้มเหี้ยไร "
“ ไม่คิดถึงพี่ฮิมบ้างเหรอว่ะ มึงนอนกับเค้าทุกคืน มานอนคนเดียวแล้วรู้สึกไง "
“ เฉยๆ สบายๆมากกว่า " ว่าไปครับ ใครมันจะบอกว่าผมนะคิดถึงเหี้ยๆมันเลย เมื่อคืนผมฝันถึงมันด้วย ในฝันแม่งโคตรดราม่า ผมกับมันยืนกอดกันผมร้องไห้เหมือนจะตายไอ้ฮิมลูบหัวผม ไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นเอาแต่กอดแน่น
“ หึ ตอแหลจริงๆ ช่างเถอะ มึงจะทำอะไรก็เรื่องมึง ถ้าคิดว่าดีก็ทำไป "
“ กูว่าพรุ่งนี้ กูจะคุยกับไอ้ฮิมว่ะ "
“ แล้วทำไมมึงไม่คุยวันนี้ "
“ ขี้เกียจออก อยากอยู่บ้าน " ไอ้เบลล์ถอนหายใจ มันส่ายหน้าให้ผม " ทำไมว่ะ "
“ ไอ้เหี้ยมึงรู้มั๊ยคนที่เค้ารอนะ เค้าเป็นยังไง ป่านนี้พี่ฮิมแม่ง ไม่หลับไม่นอน เอาแต่คิดว่าเมื่อไหร่มึงจะมาเคลียร์มั้ง แล้วนี่เหี้ยไร แค่ไม่อยากจะออกจากบ้าน "
“ ก็เรื่องกู มึงเสือกไร "
“ เออๆ แม่งสันดานแก้ไม่หายจริงมึง "
“ มึงว่า ทำไมพี่เนยถึงทำแบบนั้นกับไอ้ฮิม กูหมายความว่าถ้ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด "
“ ไม่รู้สิ กูบอกตรงๆนะ กูพยายามถามแล้ว แต่พี่ฮิมก็ไม่บอกอะไรกูมาก เค้าคงอยากจะเคลียร์กับมึงก่อน "
“ แล้งมึงจะเชื่อคำอธิบายที่ไม่มีหลักฐานนั่นได้เหรอว่ะ "
“ บางทีนะมึง เรื่องของความรักมันไม่ต้องมีหลักฐานหรอก แต่สิ่งที่มึงต้องมี คือ ความไว้ใจ ชั่งเอาเองดิว่ะ ว่าตอนที่มึงคบเค้า เค้าเป็นยังไง มีสิทธินอกใจมึงมากแค่ไหน แต่ช่วยเป็นกลางด้วยนะ อย่าเข้าข้างตัวเอง "
“ ถามจริงๆ ถ้าเป็นมึง มึงทำไง "
“ ถ้าตอบแบบเพื่อน เพราะมันไม่ใช่เรื่องของกูจริงๆถูกป่ะ กูคงตอบว่า กูต้องฟังเหตุผลของมันก่อนแล้วค่อยว่ากัน แต่ว่าเอาจริงๆเถอะ ถ้ากูเห็นแบบนั้น อย่ามาแต่หน้าเลย โทรศัพท์กูคงไม่รับ กูทำใจไม่ได้อะมึง เหี้ย มันเอากันนะเว้ย ไม่ได้นั่งจูบกัน "
“ ก็จริงของมึง "
“ อะ เอ่อ.. เอ้ยย แต่มึง พี่ฮิมไม่ใช่ไอ้เชี้ยเชนนะเว้ย "
“ กูว่าไอ้เชนดีกว่าไอ้ฮิมอีกนะ "
“ มึงคบไอ้เชนมานานไง "
“ ก็เออไง เลยรู้ว่ามันดี " ไอ้เบลล์เริ่มพูดพัน คือมันคงอยากให้ผมเข้าใจพี่ฮิม แต่ผมรู้ครับตัดสินใจเองได้ ก็ไม่ได้ฟังใครคนอื่นมากนัก ผมฟังหัวใจผมมากกว่า
“ มึงฟังพี่ฮิมเถอะ จบ "
“ ไอ้ฮิมมันแฟนกู ถ้ากูไม่ฟังมัน กูจะไปใครว่ะ แต่ตอนนี้ใจกูยังไม่เป็นกลาง กูยังโกรธ ใจกูเป็นกลางเมื่อไหร่จับเข่าเคลียร์ "
“ เออดีแล้ว อย่าเศร้านาน ชีวิตมึงเหมาะกับความสุขเท่านั้น " เบลล์ตบไหล่ผม มันเดินออกไปจากห้องก่อนจะตะโกนเข้ามา " กูจะไปซื้อโจ๊กมาให้ เดี๋ยวมา มึงจะเอาอะไรมั๊ย "
“ ไม่อะ มึงซื้อเหี้ยไรมา กูแดกได้ทั้งนั้น "
ไอ้เบลล์ออกไปข้างนอกไม่นานสักชั่วโมงเห็นจะได้ ผมสงสัยว่าที่นี่มีโจ๊กเหรอ แต่คนอย่างมันถ้าจะแดกก็ไม่มีอะไรยากหรอกครับ ออกไปเปิดประตูให้มันที่กลับมาพร้อมของกินถุุงใหญ่ คือมีทั้งโจ๊กกับปาท่องโก๋ที่มันจะกิน ขนมขบเคี้ยว นำ้เปล่า น้ำอัดลม ข้าวกลางวันแบบแช่แข็งมันก็ซื้อมา แล้วก็.. ชาเขียวฝาแดงของร้านนั้น
“ เบลล์ "
“ ว่า "
“ กูถามอะไรมึงหน่อย "
“ เออว่ามา " มันจัดของที่ยังไม่กินเข้าตู้เย็นกับตู้ชั้นบน ทำเหมือนคอนโดตัวเองไม่มีผิด
“ มึงบอกเรื่องคอนโดกูกับไอ้ฮิมรึเปล่า " มันหันมามองหน้าผม เม้มปากซะสนิท ถอนหายใจก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ มันมาพร้อมถ้วยใส่โจ๊ก
“ ด้วยความสัจจริง กูไม่ได้บอก ตอนที่กูเห็นพี่แกยืนอยู่หน้าคอนโดกูก็สงสัยเหมือนกัน ว่ามาได้ไง "
“ แล้วมันบอกอะไรมึงบ้าง "
“ เค้าไม่ถามกูด้วยซ้ำไป " มันเชิดหน้าไปที่แก้วชาเขียว " แค่ยื่นถ้วยแก้วนั่นมาให้กูแล้ว แกก็ไป "
“ แค่นั้นเหรอว่ะ "
“ เออ ทำไม กูอยากรู้ว่ามึงมีความสัมพันธ์อะไร กับชาเขียวร้านนี้นักว่ะ "
“ อร่อย กูชอบกิน " ไอ้เบลล์พยักหน้า ผมเอาแก้วนั้นไปใส่ไว้ในตู้เย็น กลับมานั่งกินโจ๊กที่มันซื้อมาให้ คุยกันไปกินกันสักพักโทรศัพท์ไอ้เบลล์ดังขึ้น ภาพหน้าจอเป็นภาพไอ้เชนครับ มันถอนหายใจกดปิดเสียงไม่รับซะงั้น
“ ทำไมมึงไม่รับสายมัน "
“ เบืิ่อ ขี้ทะเลาะด้วย คนงี่เง่าปัญญาอ่อน "
“ ยังไงว่ะ " ผมถามมันก็ถอนหายใจ
“ เมื่อคืนก็คุยโทรศัพท์อยู่กับมัน ก็พูดกันเรื่องมึงนั่นละ แล้วมึงก็โทรมา กูก็ตัดสายแม่งมาหามึงเลย มันก็คงหงุดหงิดมั้ง ที่กูเห็นมึงสำคัญกว่า แต่มึงเป็นเพื่อนกูไง มึงกำลังแย่ "
“ แดกเสร็จมึงกลับไปเลย " ผมบอกมันที่ถอนหายใจออกมา
“ เหี้ย อะไร มึงเพื่อนกูนะ "
“ มึงยังจำมิวแฟนเก่าไอ้เชนได้เปล่าว่ะ " มันพยักหน้า ก่อนจะยื่นมือมาห้ามปากผม
“ กูรู้มึงจะพูดอะไร ไม่ต้องพูด "
“ รู้แล้วก็กลับไปได้แล้ว กูดีขึ้นแล้ว เดี๋ยวกูก็กลับไปหาไอ้ฮิมแล้ว มึงกลับไปเถอะไป "
“ แต่มึง "
“ ถ้ามึงเองก็ยังไม่ชอบที่ไอ้เชนมันนัดเจอกับแฟนเก่า ไปคุยกับแฟนเก่า แล้วเห็นแฟนเก่าดีกว่ามึง มึงกลับไปเถอะ กูอยู่ได้ มึงต้องเห็นไอ้เชนสำคัญกว่ากูดิว่ะ มันรักมึงนะ แต่กูนะ รักไอ้ฮิม เรามันก็แค่เพื่อน ถ้ากูหายเศร้าแล้วมึงก็ควรกลับไปดูคนที่มึงรัก "
“ กูยอมรับ กูแคร์มึงมาก ส่วนเชนกูรักมันในแบบแฟนก็จริง แต่มึงกูกับมันคบกันไม่ถึงปีเลย ก็รักแต่ไม่ผูกพันเท่ามึง ส่วนมึง กูคบกับมึงตั้งนานมันผูกพันเหมือนพี่เหมือนน้องไปแล้ว แต่ไม่ใช่ว่ากูยังรักมึงแบบนั้น แค่กูไม่อยากให้มึงมีทุกข์ เวลามึงทุกข์ทุกอย่างมันดู สีเทาๆยังไงไม่รู้ว่ะ "
“ กูทุกข์เหรอ " ถามมัน มันก็ถอนหายใจใส่
“ ถ้าความรักมันมีแต่เรื่องดีๆ โลกนี้คงไม่มีเพลงอกหักหรอก "
“ มึงกลับไปได้แล้ว ไอ้เชนเป็นห่วง "
“ ทำไมว่ะ กูไม่ได้คิดอะไรกับมึงสักหน่อย ทำไมมันต้องหึง "
“ รักไง ถามอะไรโง่ๆ มึงอย่าเก่งแต่เรื่องกู หัดสนใจเรื่องตัวเองบ้าง ถ้ามันไม่รักมันไม่หึงหรอก เหมือนกู ถ้ากูไม่รักไอ้เชี้ยฮิม กูไม่เจ็บขนาดนี้หรอก "
“ หยุ่น "
“ กูอยู่ได้ มึงเลิกเป็นห่วงกูสักทีเถอะว่ะ ที่กูอยู่คนเดียวไม่ได้เพราะคนรอบข้างก็ชอบทำแบบนี้กับกูนั่นเหละ มึงสอนกูให้ยืนด้วยขาของตัวเองบ้างดิว่ะ "
“ เออ กูไปก็ได้ " มันลุกขึ้น ไม่ได้เก็บถ้วยโจ๊กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ ไปหยิบกระเป๋าเสื้อผ้าของตัวเองเดินไปที่ประตูห้องผม ผมเดินไปส่ง มันก็หันมากอดผม
“ มึงเลิกรักคนอื่นมากกว่าตัวเองเถอะ กูรู้ที่มึงไล่กูเพราะไม่อยากให้ไอ้เชนไม่สบายใจ "
“ รู้ ก็ไปได้แล้ว " ลูบหัวมันแต่มันก็ไปยอมปล่อยผม " สนใจคนที่เค้ารักมึงเถอะ คนอย่างกูก็รักแค่ตัวเอง "
“ หยุ่น "
“ มึงไปเถอะ " ผมสะบัดมือไล่มัน มันก็เดินออกไปจากห้อง
“ แล้วกูจะโทรหา มึงรับด้วยนะ "
“ เออ " เบื้องหลังนั้นจากผมไปแล้ว เสียงเงียบงันลอยผ่านหูความเหงากำลังมาเยือน แต่มันดีแล้วที่เป็นแบบนั้น นี่มันปัญหาของผมจะให้คนอื่นมามีปัญหาด้วยมันก็ไม่ใช่
ผมเดินเข้ามาเปิดตู้เย็น รู้สึกอยากจะกินน้ำหลังกินข้าวเสร็จ เดี๋ยวล้างจานเสร็จแล้วกะจะดูนู้นดูนี่ในคอนโดสักหน่อย คือสารภาพว่ายังดูห้องไม่ครบทุกจุดเลย มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้างผมก็ไม่รู้ สระว่ายน้ำ สวนหย่อม อยู่ตรงไหนก็ยังไม่รู้เลย ไม่รู้อะไรสักอย่าง หยิบแก้วชาไข่มุกขึ้นมากิน รสชาติจืดไปหน่อยอาจเพราะน้ำแข็งมันละลายหมดแล้ว เดินมานั่งที่โต๊ะเปิดถุงขนม
สายตาของผมมองไปที่แก้วน้ำ ไอ้ฮิมเคยบอกผมว่ามันง้อใครไม่เป็น น่าตลกดีนะ กอดอกมองแก้วที่ตั้งนิ่ง คิดถึงจุดเริ่มต้นของการกินน้ำแก้วนี้วันแรกขึ้นมาได้ วันที่ผมไม่กล้าเข้าไปซื้อ วันที่มีใครนึงซื้อมันมาให้ คนที่คอยซื้อให้ทุกวัน ไล่ก็ไม่ไป บอกว่าเบื่อก็ยังเอามาให้ คนที่รอผมเลิกเรียน รอจนน้ำแข็งละลาย บางวันก็ฝากเพื่อนให้เอามาให้ รอยยิ้มของผม ผุดขึ้นมาช้าๆ
“ กูคิดถึงมึงจริงๆ คิดถึงเหี้ยๆเลย มึงรู้มั๊ย " กดโทรศัพท์โทรออกไปหา รอสัญญาณดังอยู่นานจนผมเอ๊ะใจ แต่ในที่สุดมันก็กดรับ
“ หยุ่น "
“ มึง ชาเขียวอร่อยดี " มันไม่ตอบอะไรแต่ผมได้ยินเสียงมันยิ้มเหมือนเป็นลมที่พ่นออกมาจากจมูก " เดี๋ยวกูไปหาที่คอนโดนะ "
“ กูจะรีบไปหามึงนะ แต่ตอนนี้กูเรียนอยู่ อีกครึ่งชั่วโมงเลิก แล้วกูจะรีบไป "
“ กูจะรอแล้วกัน "
“ เฮอร์อยู่ห้อง วันนี้มันไม่ได้ไปเรียน "
“ อื้ม "
“ หยุ่น ชาเขียวกูมันยังอร่อยอยู่เหมือนเดิมใช่มั๊ยว่ะ " ผมเงียบถึงแม้จะรู้ว่ามันหมายถึงอะไรก็ตาม เรามีจุดเริ่มต้นที่ชาเขียวแก้วเล็กๆที่ขายตรงบีทีเอส ทุกอย่างเริ่มต้นที่ตรงนั้น รวดเร็วเหมือนรถไฟหอมหวานอร่อยเหมือนชาเขียว แต่วันนี้มันคงอยากถามผมว่า ทุกอย่างมันยังเหมือนเดิมมั๊ย ทุกอย่างในความรักของเรา
“ กูชอบกินชาเขียว บางทีกูก็ไม่รู้หรอกว่ะ ว่ามันอร่อยขึ้นหรือเหี้ยลงรึเปล่า เพราะกูชอบมันมาก กูเลยคิดว่า กูสนใจแค่เพราะมันเป็นชาเขียวที่กูชอบเท่านั้นจะดีกว่าว่ะ "
“ เจอกันที่คอนโดมึง "
“ อื้ม "
“ หยุ่น " มันเรียกผม " กูรักมึง " มันกดตัดสายไปโดยที่ยังไม่ฟังเสียงผมเลยด้วยซ้ำ ตั้งมือถือไว้บนโต๊ะ ผมตะโกนออกไป
“ กูก็รักมึง " และเพราะรักมากเลยไง มันถึงเป็นแบบนี้
หลับตาลง ยังคิดถึงภาพนั้น ภาพเหี้ยไรโคตรอุบาทส์ ลุกขึ้นไปอาบน้ำ เคลียร์ให้มันจบก่อนความสุขจะหายไปจนกลายเป็นเงา ผมบอกกับตัวเองแบบนั้น เอาเถอะ กูจะไม่คิดเหี้ยอะไรทั้งนั้นอีกแล้ว คิดมากกูก็รู้สึกคนรอบข้างกูหวั่นๆ ไอ้ไฟมันคงลังเลถ้าผมยังเป็นแบบนี้ ถ้าผมโสดขึ้นมามันคงมีเรื่องกับพี่เทมทุกวันแน่ แล้วกูก็มาเสือกอยู่คอนโดเดียวกันด้วย ไอ้เชนก็คงเหมือนกัน
((( อ่านต่อที่หน้า 51)))