**ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: **ตกหลุมหัวใจ** แผนสุดท้าย ยกเลิกแผนการ (17/5/63)  (อ่าน 37148 ครั้ง)

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
Re: **ตกหลุมหัวใจ** แผนที่ 4 รุก ( 10/6/61)
«ตอบ #30 เมื่อ10-06-2018 18:42:40 »

ตอนนี้คุณพี่หาทางของลายเซ็นคุณพ่อน้องไม้แบบคูล ๆ ได้ยังคะ 5555

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5



แผนที่ 5 ผิดแผน


อินทัช


แอสตั้นมาติน db10 สีเทากราไฟท์ จอดนิ่งสนิท ในลานจอดรถของคอนโดสักพักแล้ว แต่ไม่มีทีท่าว่าใครจะลงจากรถ

ผมยังนั่งมองหน้าน้องเฟรชชี่ที่ยังหลับสนิท  แอบควักโทรศัพท์ออกมากดถ่ายภาพนั้นไว้ พลางยิ้มน้อยๆ

เพราะคนนอนหลับดูท่าทางจะมีความสุขหรือไม่ก็กำลังฝันดี รอยยิ้มน้อยๆประดับที่มุมปากของน้องไม้  ผมจะทำไงดีล่ะทีนี้ ปลุก หรือ อุ้ม

อย่างหลังนี่คงทำยาก แม้น้องไม้จะตัวเล็กกว่าผม แต่ ก็ดูมีกล้ามเนื้อเหมือนคนเล่นกีฬา 

ไม่ใช่หนุ่มน้อยร่างบางอ้อนแอ้นอย่างหลายคนที่ผมเคยรู้จัก   ไม่อยากปลุกเลย ผมได้แต่คิดในใจ  ท่าทางเป็นเอามาก


  ก็แค่เอ็นดูล่ะน่า ก็น้องมันน่ารักนี่  ผมไม่เคยมีน้อง มีแต่พี่ชาย  พอได้รู้จักน้องไม้ก็อดที่จะเอ็นดูน้องไม่ได้ล่ะนะ  มันต้องเป็นอย่างนั้นอยู่แล้ว

   
“ไม้ครับ ถึงแล้วครับ”


ค่อยๆปลุก  เสียงเบาๆแต่ดูเหมือนคนหลับจะไม่อยากตื่นน้องไม้ค่อยๆปรือตาขึ้นมองหาที่มาของเสียง สิ่งแรกที่ผมทำได้คือยิ้มครับ   

ท่าทางงัวเงียตาปรือแบบนั้นมัน....ฮื่ออออ น่ารักชมัด !!   

“หึหึ “ผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้กับท่าทางเหวอๆเมื่อเห็นหน้าผมชัดๆ 

“ขอโทษครับ หลับไม่รู้เรื่องเลย”


น้องได้แต่เอ่ยขอโทษผมเหมือนจะเกรงใจ  น่ารักจริงๆนั่นแหละ .ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้กับความน่ารักของคนตรงหน้า .

แต่พอคิดว่าถ้าตรงนี้ไม่ใช่ผมล่ะ น้องจะมาหลับมาง่วงกับคคนแปลกหน้าได้ยังไง หากโดนพาเข้าไปทำมิดีมิร้าย จะทำยังไง

ไว้ใจคนง่ายเกินไปแล้ว  ยิ่งคิดหน้าผมยิ่งเครียดรู้สึกคิ้วขมวดเป้นปมเลยล่ะครับ มันน่าโมโหนะว่าไหม


 ...น้อง ไม้ค่อยๆลุกนั่งและเปิดประตูรถลงแบบยังมึนๆ


 ผมจัดการกับข้าวของทั้งของผมและของผู้โดยสารหน้าสวยที่ยังคงมึน เพราะเหมือนไม้จะเดินตัวเปล่าออกไปโดยที่ลืมหันกลับมามองจนถึงลิฟท์


“อ๊ะ!! ขอโทษครับพี่” นั่นไงหลอกให้ผมหอบของเต็มมือ มาจนถึงลิฟท์ มันน่าลงโทษเสียจริง     

“ไม่เป็นไร  “ ท่าทางตกใจเด๋อด๋า มันน่าหยิกแก้มสักที..คีพลุคไว้โอ๊ตคีพลุค   

“พี่โอ๊ตพักที่นี่เหมือนกันเหรอครับ”ก็คงต้องถามแบบนั้นเพราะของที่แบกมามีทั้งของน้องและของผมด้วย 
 
 “ครับชั้น 10 น่ะ”ผมพยายามพูดให้น้อยๆ เพราะผมกำลังโมโห กลัวไปลงอารมณ์ที่น้อง และเรื่องที่โมโห

 นี่ก็เรื่องตัวน้องที่ไม่ระแวงอะไรเลยนั้นแหละ คนเขาเป็นห่วงจะรู้ไหมเนี่ย เอาไว้ อารมณ์เย็นลงค่อยเตือนน้องมันจะดีกว่า 

“หือ...ทำไมผมไม่เคยเจอพี่เลยล่ะ “

“นั่นสิ”


ติ๊ง..เสียงเตือนของลิฟท์เมื่อถึงที่หมาย พร้อมๆกับไฟที่หมายเลข 8 ดับลง

“ขอบคุณพี่โอ๊ตอีกครั้งนะครับ ที่มาส่ง “

“ไม่เป็นไร ทางเดียวกันอยู่แล้ว”

ผมส่งยิ้มให้น้อง ก่อนจะกดปุ่มปิดประตู ก่อนหน้า น้อง ไม้ยิ้มกับคำตอบเหมือนคนโล่งใจอะไรสักอย่าง ที่ผมก็ไม่รู้ว่ามันคืออะไร

ผมถอนหายใจราวกับว่ากลั้นไว้นานเกินเมื่อมาถึงหน้าห้องตัวเอง   และทันทีที่เข้ามาในห้องผมก็ทิ้งตัวลงนอนที่โซฟา แทบจะทันที

 เหมือนหมดพลังงานไปดื้อๆ  จากที่เห็นน้องไม้ ผมเดาได้ว่าน้องไม่ระวังตัวอะไรเลย ท่าทีระแวงผมตอนแรกๆ เท่านั้น

 น้องคงไม่คิดอะไรมากออกจะมองโลกแง่ดีมากเกินไปด้วยซ้ำ  อีกอย่างน้องคงไม่รู้ตัว ว่าตัวน้องนั้น ฮ็อตขนาดไหน 

ก็หน้าตาแบบนี้คงโดนผู้ชายเข้ามาจีบเยอะกว่าผู้หญิงแน่นอน  ผู้หญิงคงไม่กล้าเข้าหาน้องมันเพราะมีน้องบัวอยู่แล้ว 

แต่ผู้ชายนี่ผมไม่แน่ใจ อย่างน้อยก็มีผมคนหนึ่งล่ะที่หาญกล้าเข้ามาจีบน้องมัน แม้จะหวั่นๆว่าจะได้ตีนกลับมาแทน

 ก็ได้แต่หวังว่าความเป็นคนมองโลกแง่ดีของน้องจะทำให้ผมเข้าใกล้ตัวน้องได้มากกว่าคนอื่นๆล่ะนะ


ติ๊งติ๊ง


เสียงเตือนจากแอ๊พสีเขียวดังให้ผมฉวยมาดู ปรกติผมปิดเสียงแจ้งเตือนไว้นะครับ จะเปิดเฉพาะของกลุ่มเพื่อนไว้เท่านั้นเวลามีงาน   

โอมจงลง: โอ๊ต ดูเมลยังมึง

ไอ้นายไม่ใช่คุณนาย: กูว่ามันยังไม่ถึงห้อง

ต่ายหมายจันทร์ :หรือมันไปส่งน้องไม้ที่ห้องนอนเลยวะ 555555

Upปีย์คนหล่อ : มึงงงงงงง กูมีเรื่องงงงงง

โอมจงลง:อ้าว มึงไม่ได้ไปส่งสาวเหรอปีย์

ต่ายหมายจันทร์ :หรือโดนตีนว่าที่พ่อตา



แรกๆว่าจะไม่สนพวกมันหรอกครับอยากคิดอะไรเพลินๆ แต่เห็นข้อความสุดท้ายของไอ้ปีย์ ผมก็อดสงสัยไม่ได้ มันไปส่งน้องบัวนี่นา ทำไมมันไปมีเรื่องอะไร 


อินทัช 
 
ปีย์มีเรื่องไรวะ


Upปีย์คนหล่อ: กรุ๊ปคอลเถอะเพื่อนกูอยากพูดดดดดดด


UPปีย์คนหล่อ เริ่มการโทรแบบกลุ่ม :



“มึง  กูเจอเซอร์ไพรส์ แงงงกูจะตาย”

“อย่าโอดครวญไอ้ห่ากูอยากรู้เกิดอะไรขึ้น “ไอ้โอมเป็นคนเบรคก่อนที่ปีย์มันจะพาเพื่อนออกทะเล

“คือ กูพึ่งรู้ ไอ้เหี้ยโอมแม่งมึงทำไมไม่บอกกูวะ “เสียงไอ้ปีย์โอดครวญจนผมสงสัย

“บอกอะไรวะ”ไอ้โอมยังงเลยครับ

“มึงน้องบัวน่ะ  ลูกสาวคนเดียวของคุณเดโช จิรชัยกุล อ่ะมึง ฮือออทำไมกูมารักลูกตระกูลนี้วะ กูอยากตายย”

อยากสมน้ำหน้ามันครับ  ตระกูลจิรชัยกุล นี่ แถวหน้าทางธุรกิจเลยครับ แต่ไอ้ปีย์คงไม่กลัวตรงนั้น
 
“อ้อ..หวงลูกสาวสุดๆ”ไอ้นายย้ำจนไอ้ปีย์แทบกระอัก  ไม่ใช่อะไรหรอกครับแฟนเก่ามันก็โดนพ่อตากีดกัน

 หาคู่หมั้นให้ลูกสาวถีบมันกระเด็นออกจากชีวิตลูกสาวเขาอย่างรวดเร็ว  เพียงเพราะไอ้ปีย์ลงแข่งรถในรายการหนึ่งที่มันชอบ


 ครอบครัวฝั่งผู้หญิงเลยคิดว่ามันเป็นพวกสร้างปัญหาให้สังคม  ง่ายๆคือเขาแอนตี้พวกนักแข่งรถครับ 

ก็ไม่รู้ว่า ครอบครัวน้องหนูบัวนั่นจะคิดยังไง



“มึงใจเย็นๆดิวะ อาจจะไม่เหมือนกันก็ได้นะ พ่อน้องไม้เขาเป็นอดีตแชมป์แข่งรถมาก่อน นะ ไม่เห็นคุณเดโช เขาจะว่าเลยนี่"

“อันนั้นเพื่อนพ่อเว้ย แต่นี่ตัวกูนะโอ๊ต “เสียงมันแผ่วเหมือนๆจะปลง

“มึงยอมแพ้?”ไอ้ต่ายกระตุ้นมันแบบน้ำเสียงกวนตีนสุด

“ไม่!”

“แล้วมึงจะมาร้องหาพระแสงอะไรวะ”

“ก็กูเครียดไง มาปลอบกูเลย”

“......”

“กูว่าเรื่องที่มึงควรเครียดเนี่ย คือน้องไม้กับน้องบัวเขาเป็นแฟนกันมากกว่านะปีย์”ผมอดไม่ได้ที่จะตอกย้ำความจริงกับมันแต่ทำไมใจผมกระตุกแปลกๆล่ะวะ

“ไม่..กูว่าไม่ใช่...ถ้าเป็นแฟนกันจริง น้องบัวจะให้กูไปส่งทำไม จะให้น้องไม้ไปกับมึงทำไม แฟนที่ไหนจะยอมแยกกันวะ อีกอย่างนะ ถ้ากูเป็นน้องไม้นะ กูไม่มีวันยอมให้แฟนกูไปกับผู้ชายอื่นหรอก “เสียงขึงขังของไอ้ปีทำผมชะงัก

“กูว่าถ้ามึงมั่นใจแบบนั้นไอ้โอ๊ตก็ไม่ต้องจีบน้องไม้แล้วดิ “ถูกของมึงว่ะนาย

“งั้นกูถอนตัว”ผมรีบตะครุบโอกาสที่มาถึงมือ

“ไม่ได้โว้ย ยังไม่แน่นอนนี่หว่า “

“งั้นพวกมึงคุยกันไปเลยกูจะอาบน้ำละเหนื่อยง่วง” 




ผมรีบตัดบทวางสายปล่อยพวกมันคุยกันไป  แต่ผมกลับไม่ได้ไปอาบน้ำอย่างที่บอกพวกมัน ใบหน้าเหนื่อยอ่อนของใครบางคนลอยมา
 
น้องไม่ได้น่ารำคาญอย่างหลายๆคนที่พยายามเข้าหาผม  น้องไม่ได้สนใจด้วยซ้ำว่าผมจะเป็นเดือนมหาวิทยาลัยหรือขับรถอะไร

 แหงล่ะ บ้านน้องก็ไม่ได้กระจอกแถมมีพันธมิตรอย่างตระกูลจิรชัยกุลด้วย ไม่ธรรมดา   แต่ก็นั้นแหละเหตุผลที่น้องไม่สนผม

 เพราะน้องมีแฟนแล้วไง ดาวอักษรเลยนะ  ทั้งสวยทั้งนิสัยดี   เป็นเหตุผลที่ผมไม่อยากยอมรับเลยให้ตายสิ



เฮ้อ..ทำไงดีเนี่ย  ...รู้สึกเหมือนหน้าที่ๆโดนเพื่อนบังคับมามันช่างยากเย็น  หรือต้องปรึกษาพี่อาร์ตวะ

ไอ้พวกเพื่อนๆผมมันไม่ค่อยให้คำปรึกษาเลย ดูท่ามันจะรอให้ผมแพ้อย่างเดียวล่ะมั้ง เหอะไม่มีทางครับ

งานนี้ต้องรุกอย่างเดียวเท่านั้น  คิดแบบนั้ผมก็ไม่ลังเลที่จะคว้าเอาโทณศัพท์มากดหาพี่อาร์ตทันที

//ไง ดึกดื่นไม่หลับไม่นอน อยู่ผับหรืออยู่สนาม”

“โหยยพี่อาร์ต อยู่ห้องเถอะ  ผมก็คนดีบ้างอะไรบ้าง”

// มีอะไรว่ามา //

“ไม่คิดว่าผมจะโทรหาเพราะคิดถึงบ้างเหรอ”

//อย่าลีลา “

“โอเคๆ คือผม..ผมกำลังจีบคนๆนึงอยู่ว่ะพี่”

//ห๊ะ!! ใครมันดวงซวยวะ//

“โห่ ไม่ให้กำลังใจกันเลยว่ะ “

//ฮ่าๆๆ ว่ามาๆไปถูกใจสาวที่ไหนปรกติเห็นบอกรักอิสระไม่ใช่หรือไง//

“ก็ ..แต่ว่าน้องเขาเป็นผู้ชายว่ะพี่”

//...........//

“พี่อาร์ต?”

//.......//

“เฮ้ยยยพี่ ยังอยู่ไหมเนี่ย”

//มึงล้อกูเล่นแน่เลยไอ้น้องชาย//

“ไม่ได้ล้อเล่นพี่ แต่แบบ คืองี้..”



ผมตัดสินใจเล่าเรื่องที่รับปากไอ้ปีย์ให้พี่อาร์ตฟังเพราะต้องการคำแนะนำจากคาสโนว่าตัวพ่อหรอกนะ เลยยอมเล่า

//โอ๊ต//

“ครับพี่อาร์ต”

//อย่าเล่นกับความรู้สึกคนแบบนี้ไม่ดีเลยนะ  ถ้าอยู่ใกล้ๆกูจะกระทืบทั้งปีย์ทั้งมึงเลยไอ้น้องเลว//

“อ่า..แหะๆ น่านะพี่อาร์ต ผมแค่ทำหน้าที่กันๆน้องไม้ออกจากหนูบัวแค่นั้นเอง”

//กันได้แล้วจะทำไงต่อไหนบอกพี่ซิ//นั่นสิ ถ้าน้องไม้ เลิกกับหนูบัวเพราะชอบผมแล้วทีนี้ทำไงต่อ


//โอ๊ต พี่ไม่เคยสอนให้มึงเล่นกับความรู้สึกคนนะ มึงจะแข่งรถ จะเหี้ยฟันหญิงไม่ซ้ำอะไรพี่ไม่เคยห้าม

 เพราะนั้นต้องเต็มใจไม่มีใครเดือดร้อนแต่ เรื่องนี้ อย่าว่าพี่เลยนะที่ให้คำแนะนำไม่ได้   อ้อ วันพรุ่งนี้บอกปีย์มาหาพี่ที่ ม.Yด้วยนะ //


“โห่ พี่อาร์ตคร๊าบบบน้องผิดไปแล้วน่า ก็แค่สนุกๆเองนะ”

//แต่น้องคนนั้นเขาไม่ได้สนุกกับโอ๊ตกับปีย์นะ  ไม่รู้ล่ะ พรุ่งนี้ทั้งโอ๊ตทั้งปีย์มาหาพี่ที่ มY โอเค๊//




เป็นไงล่ะครับพี่ชายผม  เฮ้อ เอาจริงๆไม่คิดว่าพี่อาร์ตจะมีความคิดอะไรแบบนี้นะเนี่ย ตอนโสดๆก็เหี้ยพอๆกับผมเนี่ยแหละ

ตั้งแต่มีอิงฟ้า พี่ชายผมก็เป็นผู้เป็นคนขึ้นกว่าเดิม นอกจากพ่อแล้วผมก็เคารพพี่ชายคนนี้มาก

แต่เรื่องของน้องไม้ นี่ สงสัยต้องหาวิธีใหม่หรือไม่ก็พรุ่งนี้ถ้าโดนพี่อาร์ตกระทืบสักที  อาจจะคิดอะไรดีๆออกก็ได้นะ




.คืนนั้นผมเฝ้าคิดหาวิธีจีบน้องมัน คิดหาวิธีเข้าหาทำคะแนน  แบบจริงจัง


จนลืมเสียงหัวใจของตัวเองที่เต้นผิดจังหวะบ่อยครั้งที่นึกถึงน้องไม้  เดือนอักษรคนนั้น


…………………….




วนันต์



ผมเดินเข้าห้องพร้อมความง่วงระดับสิบ แต่ถึงอย่างนั้นผมก็อดคิดเรื่องพี่โอ๊ตไม่ได้  ก็มันน่าคิดนี่ครับ ผมเป็นประเภท คิดเยอะอยู่แล้ว

โดยเฉพาะผู้ชายที่เนียนเข้ามาจีบผม  แม้ว่าผมจะแสดงออกชัดเจนว่าผมชอบผู้หญิง และมีแฟนแล้วอย่างหนูบัว

แต่ผู้ชายเหล่านั้นกลับไม่คิดจะสนใจข้อนี้กันเลย ผมเคยบ่นกับพ่อ ได้แต่เสียงหัวเราะกลับมา   

พ่อเข้าใจผมเพราะพ่อก็เคยเจอมาแบบเดียวกัน ถึงขั้นมีพนันกับผมว่า สักวันพ่ออาจจะมีลูกเขยแทนลูกสะใภ้ก็ได้


 บอกเลยว่าผมไม่ตลกนะครับ  ยิ่งยัยบัวเทอร์โบ ที่พยายามจับผู้ชายใส่พานให้ผมด้วยแล้ว มันยิ่งทำให้ผมระแวง 

บางครั้งผมอยากจะร้องตะโกนดังๆ ว่าถ้าพรหมลิขิตมีจริง

ได้โปรดส่งสาวน้อยที่เป็นเนื้อคู่มาให้ผมสักที   และยิ่งตอนนี้ พี่โอ๊ต ที่เข้ามาทำตัวแปลกๆกับผม

แต่เพราะเป็นพี่โอ๊ตผมถึงไม่ได้ระแวงอะไร

 ก็ เดือนมหาวิทยาลัย ควงหญิงเป็นว่าเล่น สาวๆแย่งกันแทบจะตบกันตาย

 เพราะพี่เขาชัดเจนว่าชอบผู้หญิงล่ะมั้งผมเลยไม่ได้คิดว่าพี่เขาจะมาจีบคนอย่างผม 




เพราะแบบนั้น ความโล่งใจ ก็ยังพอมีให้หายใจสะดวก แม้ว่าจะแอบคิดว่าพี่มันเนียนมาจีบเหมือนหลายคนที่เข้าหาผม

 แต่ด้วยหลายๆอย่างที่เป็นพี่โอ๊ตทำให้ผมบอกตัวเองในใจว่าผมคิดมากไป เพราะพี่โอ๊ตหล่อ รวย เรียนเก่ง

 และที่สำคัญ พี่เขาฮ็อตมากๆ ในหมู่สาวๆและที่ผ่านๆมา พี่โอ๊ตมีข่าวแต่กับผู้หญิงไหนจะพี่อิงฟ้าคนสวยอีก 

 เคยมีหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่เข้าหาพี่แกเหมือนกันเป็นข่าวพอสมควร แต่พี่โอ๊ตไม่เล่นด้วย

แถมออกอาการว่าไม่ชอบผู้ชายที่เข้าหาพี่มันอย่างชัดเจนแบบนั้น  ทำให้ผมเลิกคิดเรื่องที่พี่มันจะมาจีบผม

 เพราะความเป็นไปได้เท่ากับศูนย์   ผมวางข้าวของไว้บนโต๊ะที่ห้องรับแขก




 ก่อนจะโทรฯหาเพื่อนรักตัวแสบเพื่อแน่ใจว่าหนูบัวถึงบ้านโดยปลอดภัย เอาเข้าจริงผมเป็นห่วงหนูบัวเพราะว่าเป็นผู้หญิง

 แต่ถ้าเทียบจริงๆแล้วไม่คำนึงเรื่องเพศล่ะก็ หนูบัวไม่น่าห่วงเลยสักนิดเพราะเพื่อนรักคนนี้ มีพ่อเป็นนักแม่นปืน มีคุณอาเป็นมาเฟีย

แถมเจ้าตัวก็เรียนต่อสู้กับทางคุณอาที่เปิดโรงเรียนสอนการต่อสู้ทุกชนิด  เพราะงั้น หนูบัวไม่น่าห่วง ผิดกับผม ที่ไม่ชอบการต่อสู้ 


ผมชอบเล่นกีฬามากกว่า หมัดมวยนั่นผมแค่ เล่นไปตามหนูบัวเท่านั้นไม่ได้เก่งกาจเท่ายัยหนูบัวเลยแต่ก็พอป้องกันตัวเองได้ระดับหนึ่งล่ะนะ 

 แต่เรื่องกีฬานี่ผมชอบเทนนิสชอบสควอช และกอล์ฟ ว่างเมื่อไหร่ถ้าไม่ไปตีสควอชกับหนูบัว

หรือมีเวลาสักหน่อยก็เข้าชมรมเทนนิชกับเพื่อนๆ หากมีเวลามากกว่านั้นผมก็ไปตีกอล์ฟกับพ่อ


มันเลยทำให้ผมค่อนข้างที่จะตัวติดกับเพื่อนสาวคนนี้มาตลอดจนทุกคนคิดว่าเราจะต้องลงเอยกันอย่างแน่นอน

ผมเองก็เคยคิดอย่างนั้น แต่ตอนนี้ยังคงมีแค่ผมกับหนูบัวและคนใกล้ชิดในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าเราสองคนเป็นได้แค่เพื่อนกัน 

ถึงแม้บางครั้งผมยังแอบหวังให้เป็นมากกว่านั้นอยู่ก็ตาม




“ไงยัยตัวแสบถึงบ้านหรือยังครับ”


//ไม้จ๋า พี่โอ๊ตไปส่งถึงห้องป้ะ //


“อย่ามาทำเสียงแบบนี้นะหนูบัว   พี่เขาอยู่ชั้น สิบน่ะ แยกกันที่ลิฟท์”


//ว้ายยยย อยู่ที่เดียวกันด้วย กรี๊ดด พรหมลิขิตของแท้//


“ เพ้อเจ้อน่า ว่าแต่พี่ปีย์ไปส่งบัวถึงบ้านไหม ยังไม่ตอบไม้เลย “


//ถึงสิ  พี่ปีย์ก็น่ารักนะ หล่อด้วย เอ จับคู่กับน้องเงินหรือน้องเพชรดีน๊า//


“พอเลยๆ ที่เตือนๆไปนี่ไม่จำเลยใช่ไหม  เมื่อไหร่จะเลิกเล่นแผลงๆสักทีห๊ะ คอยดูนะ จะแช่งให้คนที่บัวรักไปชอบผู้ชาย”

ผมล้อเพื่อนทีเล่นทีจริง ด้วยความหมั่นไส้ล้วนๆ


//ดีสิ บัวจะฟินให้หนักเลย คิคิ //ลืมไป ว่าเลือดวายของเพื่อนผมมันข้นแค่ไหน

“แค่นี้นะ ไม้จะอาบน้ำ แล้ว”

//จ้าๆ วันจันทร์เจอกันนะไม้ ฝันดีเพื่อน //

“ครับๆ ฝันดีครับบัว“


วางสายจากเพื่อนรัก ผมเดินเข้าห้องนอนไปจัดการอาบน้ำให้ร่างกายได้สดชื่น    อีกนิสัยหนึ่งที่ผมต่างจากบัวคือ

ไม่ว่าจะเหนื่อยร่างแทบแหลกแค่ไหน ก็ขอให้ได้อาบน้ำก่อนนอน  บางทีเขาก็ไม่เข้าใจคนที่เหนื่อยแล้วหลับไปโดยไม่อาบน้ำ

โดยเฉพาะหนูบัว เป็นสาวสวยที่ซกมกมากผมบอกเลยรายนั้นถ้าเหนื่อยๆนี่หลับทั้งชุดนักศึกษาก็ทำ 

ถ้าผมทำแบบนั้นผมคิดว่าถ้าเป็นผมคงต้องสลบไปเลยแบบไม่มีสติถึงจะหลับลง


กว่าจะอาบน้ำเสร็จ ก็ล่วงเข้าวันใหม่ แต่ผมก็ยังคงได้พักเพราะเป็นวันเสาร์  ก็ยังดี ที่งานเมื่อคืนไม่ถึงกับดึกมากมายนัก

 คิดอะไรสะระตะ พลางให้คิดถึงรุ่นพี่ปีสามคนนั้น อืม ใจดีเหมือนกันแฮะทั้งที่หน้าออกจะดูดุๆ ไม่น่าเข้าใกล้สักเท่าไหร่


ผมคิดพลางล้มตัวลงนอนและหลับไปพร้อมกับความเหนื่อยล้า หวังว่าพรุ่งนี้จะตื่นมาเจอแต่สิ่งดีๆ


  เพราะวันนี้ผมเจอคนใจดีมาทั้งวัน อย่ารุ่นพี่วิศวะคนนั้น ใจดีจริงๆน๊า


.......................................


TBC ........




อิพี่มีความงงในจิต  แค่คิดว่าอยากมีน้องชายไม่ต้องลงทุนขนาดนี้มั้งพี่โอ๊ต

พี่อาร์ตนี่ก็ตัวพ่อเหมือนๆน้อง แต่หยุดที่สาวสวยนามอิงฟ้าแล้วเลยดูมีความคิดความอ่านมากกว่าคนน้อง

กับพีร่ชายพี่โอ๊ตดูเป็นเด็กน้อยไปเลย  แต่พออยู่กับกลุ่มเพื่อน พี่มันก็เด่นสุดอยู่ดี  มาเอาใจช่วยและลุ้นไปกับพี่โอ๊ตน้องไม้ ว่าใครจะตกหลุมใครก่อน 


ดูจากความมึนของทั้งคู่ มันตัดสินกันไม่ได้เลยสินะ5555555


ขอบคุณทุกคอมเม้นท์  1 คอมเม้นท์ เป็นอ๊ออกซิเจน 1ถังให้คนเขียนค่าาาาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2018 05:57:35 โดย พันวา »

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0
อ่านตอนรุ่นพ่อทั่งสามเรื่องสนุกค่ะอ่านอยู่หลายรอบเหมือนกันเลยได้ตามมาอ่านรุ่นลูกอีกน้องไม้กับพี่โอ๊ต :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ iceman555

  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8196
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +149/-11

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
จะรออ่านนะคะ สู้ๆค่ะ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
แผนที่  6 เปลี่ยนแผน



อินทัช


ผมกับไอ้ปีย์นั่งตัวลีบ ที่ร้านกาแฟในมหาลัยY  ระหว่างรอพี่อาร์ตก็เหล่สาวไปด้วย สาวๆม.นี้แจ่มๆทุกคนเลย

แต่ตอนนี้ไม่มีกะใจจะอ่อยใครครับ เพราะคนที่ผมมารอคือพี่ชายจอมโหดของผมเอง   พี่อาร์ตน่ะใจดีแค่กับอิงฟ้าเท่านั้นแหละ

รอไม่นานร่างสูงในชุดนักศึกษา ทับด้วยเสื้อกาวน์แขนสั้นก็เดินตรงเข้ามาที่ร้านกาแฟ

“หวัดดีพี่”

“พี่อาร์ตหวัดดีครับ”
 
ผมกับไอ้ปีย์ยกมือไหว้แทบจะพร้อมกัน

“กินไรกันยัง”

“เรียบร้อยแล้วพี่ ว่าแต่พี่อาร์ตจะกินอะไรเดี๋ยวผมไปสั่งให้นะๆ”

“ไม่ต้องมาประจบลบความผิดเลย ไปสั่ง คาปูฯเย็นมาแก้วดี๊”ไอ้ปีย์กระวีกระวาดไปสั่งกาแฟให้พี่อาร์ต  มันคงหวังว่าพี่อาร์ตจะบ่นมันน้อยลง

“อ่ะ ทีนี้มาเรื่องเมื่อคืนซิ  ปีย์”เสียงเย็นกดดันจนไอ้ปีย์ต้องปาดเหงื่อ

“คร๊าบแหะๆ”ไอ้ปีย์ค่อยเล่ารายละเอียดทั้งเรื่องที่มันคิดมันวางแผน ตั้งแต่ต้นจนถึงเมื่อคืน

“พี่อาร์ตอย่าว่าไอ้โอ๊ตมันเลยครับ ผมผิดเองแหละที่คิดง่ายไปหน่อย”

“เฮ้อ...พวกมึงนี่น๊า ตามที่ปีย์กับโอ๊ตเล่ามานะ พี่ว่า น้องบัวกับน้องไม้คงเป็นแค่เพื่อนสนิทเท่านั้นแหละ  ถ้าปีย์อยากรู้พี่แนะนำให้ถามตรงๆจีบตรงๆ  ดูจากที่ปีย์บอกพี่ว่า น้องผู้หญิงก็คนจริงไม่น้อยนะ ส่วนโอ๊ตถ้าจะจีบเพราะทำตามแผนไอ้ปีย์มันพี่ว่าเลิกเถอะ  โอ๊ตคิดดูนะ ถ้ามีคนมาทำแบบนี้กับโอ๊ต ถ้าโอ๊ตรักเขาเข้าจริงๆแล้วมารู้ว่ามันเป็นแค่เกมส์น่ะ มึงจะรู้สึกยังไง”

คนอื่นอาจจะงงกับคำพูดพี่อาร์ตแต่ก่อนพี่อาร์ตจะพูดกูๆมึงๆกับพวกผมตลอดแต่เพราะแม่ห้ามพวกผมพูดไม่เพราะกับครอบครัว

เวลาอยู่ที่บ้านก็จะแทนตัวเองซะดิบดีไม่มีหลุด แต่พออยู่ข้างนอกก็ตามตัวตนที่แท้จริงครับ พอสลับบ่อยๆเลยกลายเป็นลูกครึ่งแบบนี้ครับ

 มั่วไปหมดเดี๋ยวกูเดี๋ยวมึงเดี๋ยวพี่ เดี๋ยวน้อง ฮ่าๆๆๆ ผมชินแล้วครับ

ผมคิดตามที่พี่อาร์ตว่า    มันก็จริงถ้าใครมาทำกับผมแบบนี้รับรองกระทืบไม่เลี้ยง 

“หงอยเลยสิ เฮ้ออ อยู่ปีสามแล้วนะเมื่อไหร่จะโตกันสักทีวะ ฮึ”

“แล้วผมต้องทำยังไงครับ คนนี้ผมจริงจังนะพี่”ไอ้ปีย์ไม่ลดละความพยายาม ที่จะหาคำแนะนำจากเดือนแพทย์คนนี้ 

“ความจริงใจไง  รู้อะไรไหม แต่ก่อนพี่ก็คะนองเหมือนๆพวกมึงแหละ แต่พอรู้ว่ารักอิงฟ้าแล้ว มันหยุดเองทุกอย่างเลย  ไม่ต้องหาคำแนะนำจากใครหรอก ฟังเสียงหัวใจตัวเองสิ  มันจะบอกเองว่าต้องทำยังไง  สำคัญคืออย่าหลอกกันก็พอ”


“โห เจ๋งว่ะพี่  ถ้างั้นวันจันทร์ผมจะถามหนูบัวตรง ๆโอ๊ตมึงไม่ต้องจีบน้องไม้แล้วก็ได้ ขอโทษว่ะเพื่อน ที่ทำให้ลำบากใจ”

ทีกูพูดกรอกหูมึงชิปหายไม่เห็นหยุดง่ายๆแบบนี้วะ ไอ้ปีย์มันรักพี่อาร์ตเหมือนพี่ชายมันเลยครับ

เอาจริงพี่อาร์ตเป็นแบบอย่างของพวกเราหลายเรื่องเลยแถมยังช่วยให้พวกผมเป็นผู้เป็นคนมากขึ้น

ตอนไอ้ปีย์อกหักครั้งนั้นก็ได้พี่อาร์ตนี่แหละที่ช่วยให้มันไม่เฮิร์ทจนเสียการเรียน   ไม่แปลกใจที่ไอ้ปีย์มันจะเชื่อฟังพี่อาร์ตมาก

“เอาล่ะ ปีย์เข้าใจ..แล้วโอ๊ตล่ะ ?” ผมนั่งฟังพี่อาร์ตกับไอ้ปีย์คุยกัน   

ผมควรจะดีใจที่ปีย์มันบอกว่าไม่ต้องไปจีบน้องไม้แล้ว แต่ไม่รู้ทำไมพอได้ยินแบบนั้น ใจผมมันกระตุกแปลกๆ


“อ่า..ไม่รู้สิพี่ น้องไม้ก็น่ารักดี คบแบบพี่น้องก็ไม่เสียหายไม่ต้องจีบแล้วก็ไม่จำเป็นต้องเลิกคบนี่นาจริงไหมเปลี่ยนแผนได้ น่าจากจีบเป็นแฟนจีบ เป็นน้องชายผมก็ได้นี่ ”มันต้องแบบนั้นอยู่แล้วนี่แหละสิ่งที่ผมคิด 


“ผมว่าไม้เหมาะจะเป็นน้องชายผมมากเลย  เดี๋ยววันหลังพามาให้พี่รู้จักดีกว่า เอหรือจะพาเข้าบ้านไปไหว้พ่อกับแม่ดีนะ พาลูกชายคนเล็กไปให้โดยที่แม่ไม่ต้องคลอดเองฮ่าๆๆ”


ผมไม่รู้หรอกว่าที่ผมพูดๆไปพี่อาร์ตกับไอ้ปีย์จะเข้าใจไหม แต่ผมน่ะ อยากได้น้องไม้มาเป็นน้องชายมากๆ

เพราะงั้น ผมจะมีน้อง ไม่เห็นแปลกนี่นาจริงไหมครับ พอสรุปได้ก็คุยเรื่องจิปาถะกันซะเยอะ พี่อาร์ตไม่ค่อยว่าหรอกครับ

นักศึกษาแพทย์ ปี 6แล้วเวลาก็ไม่ค่อยมี ขนาดมีแฟนคนอื่นเขาเข้าใจว่าอิงฟ้าเป็นแฟนผมก็เพราะพี่ผมมันไม่ค่อยว่างนี่แหละครับ   


กว่าจะแยกจากพี่อาร์ตก็ปาไปครึ่งวันละ  หิวชิปหาย 

ว่างก็ว่าง เบื่อๆเลยคิดว่าไปเดินตากแอร์เล่นๆที่ห้างใกล้ๆดีกว่า  เอ หรือจะไปชวนน้องไม้มาด้วยกันนะ  เอาไว้วันหลังดีกว่า


 วันนี้ขอตั้งหลักก่อนละกัน แต่ว่านะ ไม่ต้องจีบแล้ว อืมม มันก็จะแปลกๆหน่อย ทำไมรู้สึกว่าอยากเจอน้องมันจังก็ไม่รู้ เฮ้อผมนี่ท่าจะบ้า


...



วนันต์


ตื่นเช้ามาหวังจะมีวันหยุดที่แสนสบายใจ แต่ก็ต้องคิ้วกระตุกแทบจะทันทีที่เห็นลิ้งค์ ของเพื่อนในเฟสแท็กมาหาผม 


// เดือนมหาลัย ปี 3 ฉกเดือนมหาลัย ปี 1 จากอกดาวมหาลัย //

#โอ๊ตไม้
#เดือนxเดือน

4,612 Like
1,201 แชร์

แค่แคปชั่นก็ทำเอาผมสะดุด แต่ยอดไลค์ยอดแชร์กับภาพถ่ายที่ขึ้นหราอยู่บนจอมือถือนี่ทำเอาผมแทบจะหายใจไม่ออก  เป็นภาพที่พี่โอ๊ตถือกระเป๋าของผม

 ที่ในอ้อมแขนผมมีแต่ช่อดอกไม้เต็มอ้อมแขนไปหมด  มือพี่โอ๊ตที่จับเอาข้อมือผมเอาไว้และดึงให้เดินตามคนตัวใหญ่ไป

ภาพถ่ายจากด้านข้าง หน้าผมออกสีเรื่อๆไม่รู้เพราะร้อนหรือเพราะแสงจากกล้อง ผมเองก็จำไม่ได้เพราะเมื่อคืนผมง่วงจนไม่ได้สนใจสิ่งรอบข้าง 

 แต่รอยยิ้มของพี่โอ๊ตนี่สิแม้จะถ่ายด้านข้างมันก็เห็นชัดเจนว่าพี่เขายิ้มกว้างแค่ไหน เหมือนกำลังหัวเราะมากกว่ายิ้มเสียอีก   

อ่า...ภาพมันจะหวานไปไหมครับ สงสัยคงหัวเราะหน้าง่วงๆของผมล่ะมั้ง

 ตั้งแต่ตอนที่พี่โอ๊ตลากผมออกมา จนถึงตอนนี้ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมง  แต่ยอดไลค์มันเยอะจนผมตกใจ  ยิ่งคอมเม้นท์ข้างล่างนี่



@ติ่งคนหล่อ**เป็นผู้ชายคนแรกที่ไม่ใช่เพื่อนในแก้งค์ แต่พี่โอ๊ตเข้าใกล้ขนาดนี้ จับมือแบบนี้ ฮืออออใจน้องจะขาด

@pornข้อสุดท้าย** พี่โอ๊ตคร๊า หน้าบานขนาดนั้น มันบอกอะไรบ้างคร๊า

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**  น้องไม้จะหน้าแดงไปไหนเขินพี่เหรอจร๊า  //ผมร้อนหรอก หรือไม่ก็แสงไฟ เหอะ ช่างมโนกันเสียจริง

@แหนมมัด**อุ๊ยคู่จิ้น หรือคู่จริง คริคริ

@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**สองคนจะไปไหนกันไม่รู้ รู้แต่หนูน่ะ ฟิน.....

@ทองหล่อทองหล่อ**เดือนมหาลัยปี1 @ เดือนมหาลัยปี3 ตายๆ มันอิจ.....จริงๆว้อยยยยย

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**ขนาดดาวยังแพ้ แล้วอิขุ่นแม่อย่างฉันจะเหลือเหรอ เชียร์วนไป   #โอ๊ตไม้

@เมียเดือน** น้องไม้ของช้านนนนน โดนคาบไปแล้ว ฮือ... //ผมยังอยู่ครับ   -  -“

@รับได้ถ้าให้รุก **เรามันไม่หล่อเหมือนเดือนมหาลัย เลยต้องหลั่งน้ำตา..

@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**ไปเถิดทั้งคู่วววววว

@สมาคมชมดาว**ตัดคู่แข่งจีบดาวไปอีกหนึ่ง อิอิ

@นางฟ้าหน้าหม้อ**พี่โอ๊ตคะ เอาอิงฟ้าไปไว้ตรงไหนคะ  ไม่ยอมนะบอกเลย #โอ๊ตอิง

@ฝันกลางแจ้ง**น้องมีแฟนแล้ว ดาวมหาลัยปีนี้ไง  #ไม้บัว เราเชียร์คู่นี้




ผมไล่อ่านดูคอมเม้นท์ บางอัน แต่โดยส่วนมากมันทำให้ผมขำซะมากกว่า  เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนมาแนวยัยหนูบัวกันเยอะแล้วสินะ

 ไอ้ตัวแสบคงยังไม่เห็น  หรือไม่ก็หวีดลืมตายอยู่ที่ไหนสักแห่ง

ผมไม่ได้ซีเรียสเรื่องแบบนี้นัก จะว่าไปเพราะผมเหนื่อยและง่วงมากเลยไม่ทันได้คิด แต่ช่างเถอะ สำหรับผมชินแล้ว แต่พี่โอ๊ตจะรู้สึกยังไงนะ

พี่เขาจะโกรธไหม คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพราะพี่ เขาเป็นคนดึงผมมาเองนะจะโทษผมไม่ได้ แล้วแฟนพี่เขาล่ะ

พี่อิงฟ้า  เป็นผู้หญิงที่สวยครบเครื่องมาก บางทีผมล่ะอยากให้ไอ้หนูบัวมันเอาพี่อิงฟ้าเป็นแบบอย่างกุลสตรีที่ดีบ้าง 

กำลังเป็นห่วงพี่โอ๊ตแต่มีเม้นท์อีกอันที่พึ่งพิมพ์ลงมาเมื่อกี้ ทำให้ผมถอนหายใจ เฮ้อ แบบนี้คงไม่ต้องห่วงล่ะมั้ง คงสนุกเขาล่ะ


@Intouch  ** ไม่ได้ฉกครับ แค่..ฉุด..^^

@ขุ่นแม่**ถ้าลูกจะมาแบบนี้แม่โยนไม้พายทิ้งก็ได้ค่ะ**  #โอ๊ตไม้

@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**หลีกไปเรือกูจะบิน** #โอ๊ตไม้

@pornข้อสุดท้าย**กรี๊ดดดดดด !!!พี่โอ๊ต  ยอมรับเลยเหรอค๊า 

@จีบได้ผัวยังไม่เกิด**จะไม่ปฏิเสธหน่อยเหรอคะพี่

@แหนมมัด** หมดกันสามีช้านนนนนน

@โอมจงลง** หึหึ  เรารู้เราเห็น  หึหึ

@Upปีย์**เค้าได้กัน เค้าได้กันกรี๊ดดดดดดดด

@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**ดีกูจะได้ดามใจพี่อิงฟ้าคนสวย หึหึ


แม้จะไม่เข้าใจว่าพี่โอ๊ตจะเม้นท์แบบนั้นทำไม แต่ผมก็เลิกสนใจโพสต์นั้นแล้ว  เพราะมีเรื่องที่ต้องรับมือหากหนูบัวเห็นโพสต์นี้เข้า 


Rrrrrrrr

ตายยากจริงๆ

“ครับ”

//ไม้จ๋า ตะเองเห็นโพสต์เพจ Cute Boy ของ เพื่อนเค้ายัง //

“อ่า..”

//บัวคิดว่า วันนี้เรามีนัดทานข้าวกับพี่ปีย์และพี่โอ๊ตล่ะ คิคิ//จนได้สิน่า  มาแนวนี้รับรองว่าผมหนีไม่ได้แน่ๆ

“แต่ว่า วันนี้ไม้เหนื่อยนะบัว ขอนอนได้ไหมนะๆ นะครับไม้เหนื่อยมากเลย ไว้วันหลังดีไหม”ทำได้แค่ยืดเวลาออกไปครับ โอยใครจะช่วยผมจากยัยตัวแสบนี่ได้นะ ผมล่ะกลุ้ม


//ก็ได้ๆ งั้นวันนี้บัวให้ไม้พักผ่อนก็ได้ แต่พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ไม้ห้ามเบี้ยวนะโอเค้ อ้ออย่าลืมของรางวัลเค้านะ คิกคิก //


“ครับๆ”

แม้จะรู้ว่าสักวันต้องได้ไปกินข้าวกับพี่สองคนนั่น แต่ผมขอยืดเวลาตั้งหลักสักแป้บนะครับ กว่ายัยตัวแสบจะวางสาย ผมก็เหนื่อยจะปฏิเสธ 

ยังดีที่เป็นวันเสาร์เพราะหนูบัวต้องอยู่บ้าน  ผมเลยมีเวลาคิดว่าจะรับมือหนูบัวยังไง  ตั้งแต่เด็กจนโต ผมแพ้ทางยัยเทอร์โบนี่ตลอด

 เฮ้อ...หิวแล้วสิ  ตื่นสาย แถมตู้เย็นก็ว่างเปล่า  คงต้องพึ่งร้านสะดวกซื้อสินะ  ไหนๆก็ว่างละ ไปห้างใกล้ๆนี่ละกัน

เผื่อหาหนังสือมาอ่านสักเล่ม

 บ่ายโมงเล็กน้อยผมเดินเตร่อยู่ที่ห้างสรรพสินค้าใกล้ห้องพัก  ผมชอบเดินเที่ยวคนเดียวแบบนี้

แม้ว่าชีวิตผมส่วนมากจะหนีบหนูบัวตัวติดกันบ่อยๆ แต่บัวก็มีเพื่อนในกลุ่มของเธอ ผมซะอีกไม่ค่อยมีเพื่อนกับใครเขา

เหตุเพราะผู้ชายส่วนมากไม่อยากเป็นเพื่อนผม  หลายคนอยากเป็นมากกว่าเพื่อน ซึ่งเป็นสถานะที่ผมให้ไม่ได้   

บ่อยๆเข้าผมเลยไม่อยากคบเพื่อนผู้ชาย  เพราะเหนื่อยเกินไปที่จะต้องมาแบกรับความรู้สึกของคนอื่น มันไม่ใช่เรื่องง่าย

ที่จะทนเห็นเพื่อนมารักมาชอบในแบบที่เราไม่ต้องการ  และเราตอบสนองไม่ได้  มันอึดอัด มันเลยลงเอยที่ผมจะชอบใช้ชีวิตคนเดียวแบบนี้

 ก็ไม่ได้เหงานะครับ ดีเสียอีก อิสระดี   อีกอย่างตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้นผมแทบจะไม่คบเพื่อนผู้ชายอีกเลย


“ไม้”เสียงเรียกใกล้ๆทำให้ผมต้องหันไปมอง ผู้ชายตัวสูงกับกางเกงยีนส์สีซีด มีรอยขาดๆทั่วเข่าทั้งสองข้างกับเสื้อยืดสีเข้ม

 สะพายเป้ใบขนาดกลางสีดำสนิท   ยืนส่งยิ้มบางเบามาให้ จะดูดีไปไหนกันนะ

“หวัดดีครับพี่โอ๊ต”

“มากับใคร”

ผมพยายามเข้าใจ คำถามห้วนๆของพี่เขา แม้หน้าตาพี่จะหล่อมากๆ  แต่ผมกลับรู้สึกเกร็งๆเวลาอยู่กับพี่โอ๊ต

 แล้วยิ่งไอ้โพสต์เมื่อเช้าลอยเข้าหัวมาทำให้ผมถอยห่างออกจากพี่โอ๊ตแทบจะทันที 

“อ่า..มาคนเดียวครับ “ผมตอบไปแบบไม่ได้คิดอะไร มากไปกว่าบังเอิญมาเจอพี่โอ๊ตที่นี่

“พี่หิว”

“หืม?”

“ไปกินข้าวเป็นเพื่อนพี่หน่อยสิ กินคนเดียวไม่อร่อย โดนเพื่อนเท “

พี่เขาว่าเนิบๆ หน้ายังนิ่งๆ เหมือนจะเซ็งๆมากกว่าจะเซ้าซี้ผม  ทำให้ผมอดที่จะยิ้มน้อยๆไม่ได้ ก็ผมดันคิดเยอะไปนี่น๊า

พี่โอ๊ตไม่ใช่คนไม่ดีสักหน่อย จะคิดมากเกินไปละ

"พี่อยากกินอะไรล่ะครับ พอดีผมก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน ดีเลย เดี๋ยวผมเลี้ยงนะ ขอบคุณที่เมื่อคืนไปส่งครับ”

ผมบอกจุดประสงค์ไป ไหนๆก็ไหนๆ เลี้ยงข้าวพี่เขาตอบแทนที่ช่วยเมื่อคืนก็แล้วกัน เรื่องโพสต์บ้าบอนั่นช่างมันเหอะ

 ดูท่าแล้วพี่โอ๊ตไม่ได้คิดอะไรอย่างที่ผมกังวล ก็สบายใจไปเปราะหนึ่งล่ะ   

“ไม้อยากกินอะไรล่ะ”พี่ยังคงนิ่งๆเหมือนใช้ความคิด นั่นสิกินอะไรดีนะ ตอนนี้หิวๆ กินอะไรก็ได้ แต่จะตอบแบบนั้นเดี๋ยวพี่จะโกรธเอา

“ฟูจิไหมครับ“เอาอย่างที่ตัวเองอยากกินก่อนเผื่อพี่มีทางเลือก

“ก็ได้ป่ะ “ง่ายจังแฮะ ไม่เหมือนไอ้หนูบัว ถ้าบอกเรื่องกินกว่าจะได้กินเลือกมากเป็นชั่วโมง และเพราะแบบนั้นผมเลยยิ้มอีกแล้ว พี่ใจดีจัง

“ดีเลยผมชอบกินซูชิ”

แล้วผมก็เผลอบอกของชอบตัวเองไปแบบไม่ตั้งใจ แต่พี่มันก็ยิ้มนะ แต่ถ้ายิ้มแบบในโพสต์นั่นดูดีไปอีกแบบ

เราสองคนเดินเข้าร้านอาหารญี่ปุ่น อย่างที่ตั้งใจ  ผมหิว และสั่งซูชิ สามเซ็ตพี่มันมองยิ้มๆ ก่อนจะสั่งข้าวหน้าปลาไหลมา

กับข้าวหน้าปลาซะบะย่างซีอิ๊ว  แล้วก็สั่งซูชิเพิ่มอีกสองเซ็ต กินเยอะเหมือนกันแฮะ 


“ พี่โอ๊ตสั่งอีกได้นะครับผมเลี้ยง “

“ไม่หรอก พี่เลี้ยงเองพี่ชวนเรามานะ “

“ไม่ได้ๆ ผมเลี้ยงๆ “รีบปฏิเสธเพราะผมสั่งมาซะเยอะ รู้สึกเกรงใจถ้าพี่จะเป็นคนจ่าย

“เอาน่า แค่นี้เอง ไม้ค่อยเลี้ยงพี่คืนวันหลังนะ กินๆ “พี่ตัดบทแล้วหันไปสนใจข้าวหน้าปลาไหล และเลื่อนชุดข้าวหน้าปลาซะบะย่างมาให้ผม

“?”

“ยังไม่ได้กินข้าวไมใช่เหรอ กินข้าวด้วยเดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก “

“อ่า..ซูชินี่ก็ข้าวนะครับ”ผมไม่ได้กวนนะ มันมีข้าวอยู่แล้วไง เห็นพี่สั่งนึกว่าพี่จะกินหมด ข้าวสองถ้วย นี่สั่งมาให้ผมเหรอ

“ช่วยกันกินนะ “รอยยิ้มที่ส่งมาให้ทำให้ผมถอนหายใจ ใครจะปฏิเสธลงล่ะ มาแบบนี้ จริงๆผมก็กินเยอะอยู่แล้วครับ

ดูท่าพี่ก็ไม่ใช่คนกินน้อยแน่ๆ

“ว่าแต่ วันนี้ว่างเหรอ “เสียงพี่ถามขึ้นเมื่อผ่านเวลาหิวมาสักพัก เราสองคนยังคงนั่งกินเรื่อยๆ ไม่ได้รีบร้อนอะไร

“ว่างครับ บัวไม่อยู่เลยไม่รู้จะไปไหน “

“ดูหนังกัน”

“หืม?”ชวนผมเหรอ

“พี่ว่าง เหนื่อยๆมาหลายวันแล้ว จริงๆนัดพวกไอ้ปีย์ไว้ แต่มันมีธุระด่วนเลยทิ้งพี่ ไม่รู้จะไปไหน กว่าจะค่ำ”

ผมมองพี่ที่พูดเรื่อยๆเหมือนเซ็งๆ ไม่ค่อยใส่ใจอะไรมาก  เอาเถอะ อย่างน้อยก็มีเพื่อนล่ะนะ


“ก็ได้ครับ แต่ผมเลี้ยงหนังนะ พี่จ่ายซูชิแล้วผมไม่อยากเอาเปรียบ”


“ก็ได้ครับ “

ว่าง่ายแบบนี้ค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย พอรู้สึกดีไม่ได้อึดอัดเหมือนตอนแรก ก็เผลอส่งยิ้มให้พี่ไปอีกครั้ง


ถือว่าเริ่มต้นมีเพื่อนใหม่ ช่วงปีหนึ่งก็ดีเหมือนกัน ถึงจะเป็นเพื่อนรุ่นพี่ ที่ดูดีมากก็เถอะนะ ก็ไม่มีอะไรเสียหายนี่นา   



...........คล้อยหลังสองหนุ่มที่ซื้อตั๋วเข้าดูหนัง เพียงไม่นาน ........


“แกเมื่อกี๊พี่โอ๊ตกับน้องไม้อ่ะ กรี๊ด   ฮือ ได้ถ่ายไว้ไหม “

“ถ่ายทันแค่ข้างหลังว่ะ เนี่ย”

ภาพผู้ชายสองคนเดินคุยกันไปคนที่ตัวเล็กกว่าเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้พี่รอยยิ้มหวานจนคนมองตาพร่าเบลอไปชั่วครู่ 

 คนตัวโตก้มลงไปมองเหมือนคุยอะไรกันอยู่แต่รอยยิ้มมุมปากนิดๆของคนตัวโต ก็ทำเอาสองสาวหน้าแดงก่ำอย่างขัดเขิน

นี่ขนาดพวกเธอแค่ดูรูป ยังเขินจนตัวแทบแตก ไม่แปลกที่เดือนอักษรคนนั้นจะยิ้มได้สวยขนาดนี้ โอ๊ยยยยอยากละลายมันตรงนี้ 

“ลงเลยๆ มาๆกูช่วยคิดแคปชั่น “



Y2U @YloveU

เมื่อคืนพี่ฉุดน้องไป เช้านี้ เขามาด้วยกัน ฮืออออใจน้อง

#เดือนชนเดือน

**แนบรูป **

1.5K  รีทวิต 


.
.
.
โปรดติดตามตอนต่อไป

เค้าลางความยุ่งเหยิงมาเยือนน้องแบบไม่ตั้งตัว พี่ก็เนียนๆไป ทำเป็นเข้ม พ่อคนขี้เก๊ก   :hao7: :hao7:

ดูท่าแล้วเหมือนน้องจะตามเล่ห์อิพี่ไม่ทัน ก็นะ พ่อคนกะล่อนเพล์บอยตัวพ่อแบบนั้นลูกล่อลูกชน มันเยอะกว่าน้องอยู่แล้ว

แต่ว่านะ คนที่ไม่คิดอะไรก็จะไม่ค่อยรู้เรื่อง ซื่อๆอึนๆไป แต่คนเจ้าเล่ห์ ส่วนใหญ่จะตกหลุมที่ตัวเองขุดเอาไว้เยะแยะนา เตือนไว้ก่อนนะพี่โอ๊ต

:hao3: :hao3: :hao3:


แม้ว่าอิพี่จะเปลี่ยนแผน แต่ไม่มีใครเขาจีบคนอื่นมาเป็นน้องชายนะพี่โอ๊ตรู้ยัง :hao3: :hao3:

ก็ยังคงซึนต่อไป ทั้งพี่ทั้งน้องนั่นแหละ  เรื่องนี้ไม่ยาวนะคะไม่ยาวเท่าไหร่ แหะๆ ตั้งไว้คร่าวๆไม่เกิน 20 ตอน 

ไม่มีมาม่าเนาะ มีแค่ซุปใสๆร้อนนิดหน่อยพอ กิกิ



ขอบคุณสำหรับกำลังใจ  1คอมเม้นท์ = 1กำลังใจให้คนเขียนปั่นต่อนะค๊าาาาาาา  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2018 05:58:51 โดย พันวา »

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
พี่โอ๊ตอยากให้ไม้เป็นแค่น้องชายจริงๆหรอ :hao3:

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5

แผนที่  7 เริ่มแผนใหม่




 วนันต์


เป็นเช้าวันอาทิตย์ที่เงียบมากแต่แบบนี้ก็ดี ผมไม่ชอบอะไรที่อึกทึกครึกโครมเท่าไหร่   เมื่อวานกว่าจะกลับจากห้างก็มืดแล้ว

ผมแยกกับพี่โอ๊ต ตรงร้านหนังสือ  เป็นอีกเรื่องที่ผมวางใจว่าพี่เขาคงไม่ได้คิดจะจีบผมอย่างที่ หลายคนในสังคมโซเชี่ยลคิด

เพราะถ้าคนคิดจะจีบต้องเซ้าซี้ ไปส่งหรืออยู่ต่ออะไรประมาณนั้นใช่ไหมล่ะครับ แต่พี่โอ๊ตไม่เป็นแบบนั้น

แค่ผมบอกว่าแยกกันตรงนี้ก็ได้ผมจะไปซื้อหนังสือก่อนกลับ พี่เขาก็ยอมแยกไปโดยง่ายดาย ไม่เหมือนคนที่เคยเข้ามาจีบผมอย่างที่ผ่านๆมา   

ทำให้ผมสบายใจขึ้นมากโข อีกอย่าง หนังที่ไปดู ก็ชอบการ์ตูนเหมือนผมเลย อนิเมชั่นเป็นหนังโปรดที่ผมชอบดู ยัยหนูบัวชอบว่าผมต๊อง

คนที่เข้ามาจีบผมทั้งชายทั้งหญิงต่างลากผมไปดูหนังรักหรือไม่ก็หนังผี  แต่หนังวันนี้พี่โอ๊ตพาผมไปดูการ์ตูน

 อืม..น่ารักเนอะ แหะๆ ผมคิดว่าผู้ชายตัวใหญ่ๆแบบพี่เขาน่ารักนี่ก็ แปลกอยู่เหมือนกันนะครับ

เช้านี้ตื่นมาแบบยังมึนหัว ผลมาจากที่อดหลับอดนอนมาหลายวัน แม้ว่าเมื่อวานผมจะได้นอนไปบ้างแล้ว แต่ก็ยังมึนหัวอยู่ดี
 
ผมเป็นคนชอบนอนครับ ถ้าว่างๆ ผมจะนอนอ่านหนังสือเรื่อยเปื่อยหรือไม่ก็นอนคิดอะไรเพลินไปจนหลับ  เช้านี้ไม่มีอะไรทำมากนัก


 หนูบัวยังไม่กลับ โทรมาบอกผมว่าต้องพาสองแฝดไปเรียนพิเศษ แล้วแวะรับน้องตังค์ด้วย  เพราะแบบนั้น วันนี้ผมเลยว่างมาก   

ตื่นมาไม่มีอะไรที่อยากจะกินเลย ต้องพึ่ง ร้านสะดวกซื้อตรงข้ามคอนโด จริงๆพวกร้านกาแฟในคอนโดก็มีครับ

แต่ผมชอบเข้าร้านสะดวกซื้อมากกว่า ถูกกว่ากันเยอะและมีหลายอย่างให้เลือกกิน




“น้องไม้”ผมเงยหน้าขึ้นจากการก้มเลือกพวกขนมกรุบกรอบเมื่อมีคนทัก พี่ปีย์ยืนยิ้มแฉ่งอยู่ตรงหน้า  เหมือนจะอารมณ์ดีเหลือเกิน

“ครับพี่”

“ซื้ออะไรเหรอ”ท่าทางชวนคุยแบบเกร็งๆของพี่ปีย์ทำให้ผมยิ้มขำ ก็ท่าทางพี่มันตลกนี่นา

“ก็พวกขนมปังน่ะครับ แล้วก็พวกขนมขบเคี้ยวหนูบัวชอบกิน”ผมอดที่จะพูดถึงยัยตัวแสบไม่ได้

“จริงเหรอ บัวชอบขนมพวกนี้เหรอครับ...อ่า..”

ท่าทางกระตือรือล้นชะงักแทบจะทันทีที่พี่เขาหันมาสบตากับผม  หึหึ ตลกจริงๆ ยัยหนูบัวจะรู้ไหมนะ ว่ามีคนเครซี่มันขนาดนี้  น่าแกล้งชะมัด


“ทำไมเหรอครับ บัวเขาก็ชอบกินอะไรจุกจิกแบบนี้แหละครับ บางทีผมก็ไม่อยากให้เขากินสักเท่าไหร่ไม่มีประโยชน์แต่ก็อดที่จะตามใจไม่ได้เวลาเห็นบัวอ้อนจะกินน่ะครับ มันน่ารักมากเลยนะ”


ผมว่ายิ้มๆแอบเห็นหน้าพี่ปีย์แดงๆไม่รู้ว่าเขินหรืออายที่โดนผมจับได้ว่าแอบชอบเพื่อนผมกันแน่ 

“แหะๆ นั่นสินะ  “

มือไม้เก้งก้างท่าทางเกร็งๆจนผมสงสาร เลยเดินไปจ่ายเงินค่าขนม พี่ปีย์เดินตามหลังมาติดๆถือพวกเครื่องดื่มชูกำลังหลายขวดเชียว

“จริงๆบัวก็ชอบพวกอาหารไทยด้วยนะพี่   อย่างร้านเรือนไทย ผมไม่มีเวลาพาบัวไปกินสักที”

ก็บอกไปแค่นั้นเปรยๆไป ที่เหลือคิดเอาเองนะพี่ อย่าว่าแต่หนูบัวอยากให้ผมมีคู่เลยผมก็อยากจะให้บัวมีแฟนเหมือนกัน

จะได้เลิกจับผู้ชายมาคู่ผม สักที

“อ่า..น้องไม้ว่างไหมครับ”พี่ปีย์รับเอาถุงใส่เครื่องดื่มจากพนักงานเก็บเงิน  ก่อนจะหันมาถามผม 

“ก็ว่างครับทำไมเหรอครับ”

“คือพี่จะวานอะไรสักหน่อยช่วยพี่ได้ไหมครับ “

“...”

“คือน้องไม้ช่วยเอาถุงนี่ไปให้เพื่อนพี่ได้ไหมครับ   ห้อง 1010 พอดีพี่ลืมของไว้ที่ ม. แหะๆ “

ผมหรี่ตามองอย่างจับผิดแต่ก็ไม่เห็นพิรุธอะไรนอกจากพี่มันจะส่งสายตาอ้อนวอนมาให้

“เฮ้อ..ก็ได้ครับ “


ผมยื่นมือไปรับถุงเครื่องดื่มมา พี่ปีย์วิ่งไปโบกวินมอเตอร์ไซค์ข้างร้านสะดวกซื้อ ผมเดินเข้าตัวตึกมาพลางคิดในใจ

พี่ปีย์รู้ได้ยังไงว่าผมอยู่คอนโดเดียวกันกับพี่โอ๊ต  ช่างเถอะเพื่อนกันเค้าคงบอกกันล่ะมั้งนะ

ผมเดินเข้าลิฟท์โดยสารกดมันขึ้นไปชั้น10   เพียงไม่นานผมก็มายืนอยู่ที่หน้าห้อง 1010

ผมยื่นมือไปกดปุ่มสีน้ำตาลข้างห้อง  สักพักก็มีคนมาเปิดประตู


แกร๊ก.


“อ้าว ? “คนที่มาเปิดไม่ใช่พี่โอ๊ต แต่เป็นพี่อีกคนที่อยู่ในกลุ่มคนที่ตัวเล็กๆ น่ารัก ปากแดงๆแก้มอูมๆ

ยืนทำหน้างงๆเมื่อเห็นผมทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ นี่ถ้าไม่บอกว่าเป็นเพื่อนพี่โอ๊ตผมคงคิดว่าพี่เขาเป็นเด็กม.ปลาย

ท่าทาง งงๆ น่ารักจนผมอยากจะหัวเราะแต่ก็กลั้นไว้เพราะยังไม่รู้จักพี่เขาอยู่ดีๆจะไปหัวเราะใส่หน้าพี่เขาก็กะไรอยู่


“เอ่อ พี่ปีย์ฝากให้ผมเอานี่มาให้ครับ “ผมยื่นถุงจากร้านสะดวกซื้อให้พี่คนน่ารัก แต่พี่กลับไม่รับถุงจากผม แต่ตะโกนเรียกอีกคนที่อยู่ในห้องแทน

“โอ๊ต มีคนมาหา  “

ห๊ะ! ผมเปล่าสักหน่อย 

ผมได้แต่ยืนนิ่งค้างเมื่อเสียงใครสักคนเดินมาที่ประตูทั้งยังผลักพี่คนน่ารักซะกระเด็นไปอีกฝั่ง

“ไอ้เหี้ยโอ๊ต แม่ง ไม่ถนอมกูบ้างเลยกูจะฟ้องศาลข้อหาทำร้ายร่างกายแบบไตร่ตรองไว้ก่อน “

เสียงโวยวายของพี่คนนั้นทำผมหลุดหัวเราะออกมาจนได้

“เข้ามาก่อนสิ”

“อ่า..ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวจะรบกวน..”

ยังพูดไม่ทันจบพี่มันก็ดึงมือผมเข้าห้องไปแบบงงๆ  ทันทีที่เห็นห้องพี่มันผมก็ต้องตกใจกับซากมนุษย์

ที่เกลื่อนกลาดอยู่กับพื้นพรมในห้อง  บางคนนั่งตัดกระดาษ บางคนนั่งขีดเขียนอะไรก็ไม่รู้ 

แต่สภาพแต่ละคนเหมือนซอมบี้ในซีรี่ส์ที่ผมชอบดู 

“นั่งตรงนี้ก่อนครับ “พี่มันพูดเบาๆพลางกดไหล่ผมลงที่โซฟา


“แต่ ผมว่า..”

“โหย น้องไม้คนหล่อแห่งอักษร  มาโปรดคนบาปแบบพี่เลยกำลังหิว ไอ้เหี้ยปีย์แม่งหายไปไหนวะ “

พี่อีกคนที่ถลาเข้ามาคว้าเอาถุงพวกเครื่องดื่มจากผมไปและอีกสองคนก็กรูเข้าไปแย่งดูแล้วตลกชะมัด


“คือผมเจอพี่ปีย์ ที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างน่ะครับ เห็นบอกว่าลืมของไว้ที่ ม. เลยฝากผมเอาของมาให้ครับ”


“ขอบใจมากครับน้องไม้น่ารักมากเลย งือออ “


ครับ เสียงที่ได้ยินคือ งืออ อะไรคือ งือครับ พี่คนน่ารักทำเสียงแบบนั้นท่าทางแบบนั้น โอยพี่เขาน่ารักจริงๆนั่นแหละ 

ผมนี่ไม่อยากละสายตาจากพี่เขาเลย คนอะไรน่ารักชะมัด แบบนี้ถ้ายัยหนูบัวมาเห็นนะ จับปล้ำแน่ๆ หน้าตาน่าน้วยมากเลยครับฮ่าๆๆ


“ไอ้เตี้ยนั่นชื่อโอม  นิติ ปี3  ไอ้หัวแดงๆนั่น  ไอ้นาย เครื่องกลปี 3  ไอ้ตัวควายดำนั่นชื่อกระต่าย ถาปัตถ์ปี3  ส่วนไอ้ปีย์  ก็โยธาปี3เหมือนพี่  ไม้รู้จักแล้ว  แล้วก็อย่ามองมันมากนักไอ้เตี้ยนั่น มองทางนี้สิ   “



ผมนั่งกระพริบตาปริบๆกับการแนะนำเพื่อนของพี่โอ๊ตแบบไม่ทันได้ตั้งตัวแถมเอามือจับหน้าผมให้หันหนีจากพี่โอม อีก 

ไม่เข้าใจเท่าไหร่แต่พี่เขาคงหวงเพื่อนมั้ง เหมือนผมชอบหวงหนูบัว บางครั้ง   

 เพื่อนๆของพี่เขาก็ไม่ต่างจากผมทุกคนชะงักมือที่กำลังยื้อแย่งของกินแล้วหันมามองผมเป็นตาเดียว


“อ่า..ยินดีที่ได้รู้จักครับ เอ่อ..ผมชื่อไม้ครับ อยู่อักษร ปี 1ครับ “ผมไม่รู้จะพูดอะไรเลยแนะนำตัวเองไปแบบงงๆ

“โอยยย น้องไม้ น่ารักว่ะ   ไม่ต้องแนะนำก็ได้ครับพี่ๆรู้จักน้องไม้ทุ้กคนเลย  เดือนอักษร  คนดัง ยินดีที่ได้รู้จักครับ ถ้าไอ้โอ๊ตแกล้งอะไรน้องมาฟ้องพี่ได้นะ ไม่คิดค่าฟ้องร้องแต่อย่างใด  พี่ว่าความให้ฟรีครับ “


ผมหัวเราะไปกับพี่โอม ที่ดูจะร่าเริงสุดๆในกลุ่มดูแล้วเหมือนเจ้าชายตัวน้อยๆท่ามกลางองครักษ์เลยครับ น่ารักจริงๆนั่นแหละ



ว่าแต่ผมจะเข้ามาทำไมเนี่ย เอาจริงๆผมไม่ได้สนิทกับพวกพี่ๆ ที่จะเข้ามานั่งเฉยในห้อง 

แต่จะขอตัวกลับก็เกรงใจ เพราะพี่โอ๊ตดึงผมเข้ามา  อ่า..เอาไงดี



“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ “ทันทีที่ผมพูดจบ  ทุกคนก็หันมามองผมเป็นตาเดียว เอ่อ..ผมพูดอะไรผิดไปหรือเปล่านะ 

“โอ๊ตตตตต กูชอบคนนี้ กูจะเอา งืออออ “มาอีกแล้วครับเสียงงือออ นั่น น่ารัก เป็นผู้ชายที่น่ารักกว่าผู้หญิงอย่างหนูบัวเลยล่ะ 

“ไปไกลเลยมึงน่ะ งานมึงยังไม่เสร็จนะโอม ถ้ามึงตัดโมอันนั้นไม่เสร็จ มึงต้องเลี้ยงข้าวพวกกูสามเดือน”

“โห่ ไอ้ขี้หวง เหอะ  กูจะคอยดูคนตกหลุม ชิส์ “ไม่รู้พี่ๆเขาคุยอะไรกันผมไม่เข้าใจ

“น้องไม้ ตัดกระดาษเป็นไหมครับ  มาช่วยพี่ตัดโมดีกว่าเนอะ “

พี่คนตัวใหญ่ๆ ที่ชื่อกระต่ายเรียกผมเข้าไปตรงที่พี่มันนั่งอยู่กับกองกระดาษกองใหญ่ นี่ก็แปลกครับชื่อซะน่ารักเลย

 แต่ตัวพี่มันน่าจะเหมาะกับชื่อหมี มากกว่า   



ผมหันมามองพี่โอ๊ตอย่างขอความเห็น พี่โอ๊ตพยักหน้าให้ผมถึงกล้าเดินเข้าไปนั่งลงข้างๆพี่กระต่าย  พี่โอ๊ตเดินมานั่งลงข้างๆผมอีกที

 และคอยสอนให้ผมตัดกระดาษที่พวกพี่ๆเรียกว่ากระดาษชานอ้อย   เป็นอะไรที่แปลกใหม่ดีครับ

 เป็นวันหยุดที่ไม่น่าเบื่อเลยสำหรับผมที่นั่งช่วยงานพวกพี่ๆ จากนั้นไม่นานพี่ปีย์ก็หอบเขากระดาษอีกกองใหญ่  มาสมทบ


 พี่กระต่ายกางโมเดลที่พี่ปีย์หอบมาลงกลางห้อง อันนี้ผมตื่นตาตื่นใจมากครับ เป็นครั้งแรกที่เห็นโมเดลแบบใกล้ๆ สวยมากเลยครับ   

ผมขลุกอยู่กับพี่ๆจนค่ำ   ทั้งวันนี้ผมใช้ชีวิตอยู่ในห้องพี่โอ๊ต กินข้าวเที่ยงด้วยฝีมือพี่โอ๊ต ที่เพื่อนๆพี่เขาบอกว่าเป็นบุญของผมที่ได้กิน

 เพราะพี่โอ๊ตทำอาหารอร่อยแต่ไม่ค่อยทำเพราะขี้เกียจ  อ่า ผมทำให้พี่เขาลำบากหรือเปล่านะ  แต่ว่ากับข้าวฝีมือพี่โอ๊ตก็อร่อยจริงๆแหละ

“ขอบใจมากนะที่มาช่วยพวกพี่วันนี้”พี่โอมคนน่ารักดึงมือผมไปจับเขย่าๆยิ้มจนตาหยี  เอ่ยขอบใจผมบ่อยจนผมเกรงใจ

“ผมไม่ค่อยได้ช่วยอะไรเลยครับ  ผมต่างหากที่ต้องขอบคุณพี่ๆ  วันนี้สนุกมากเลย “

“โอยน้องไม้ครับ ถ้าน้องบอกว่าตัดโมสนุกได้โปรดซิ่วครับ มาเรียนกับพวกพี่ดีกว่ามา “

พี่กระต่ายเจ้าของโปรเจค เอ่ยด้วยน้ำเสียงเหมือนจะตาย  ผมว่าน่าสนุกดี แต่ดูท่าทางและสภาพพวกพี่ๆ

ก็คงไม่สนุกอย่างที่พี่ว่านั่นแหละครับ อย่างผมช่วยนิดๆหน่อยๆมันก็สนุกดี แต่ถ้าต้องมานั่งคิดนั่งทำขึ้นโมเป็นรูปเป็นร่างแบบนี้

ก็คงทำไม่ได้หรอกครับ




“พอๆพวกมึงนี่น้องอยากกลับไปพักแล้ว”พี่โอ๊ตเอ่ยขัดพวกพี่กระต่ายที่ยังคงดึงผมเอาไว้ไม่ยอมปล่อย

“ไปครับเดี๋ยวพี่ไปส่ง”

“ไม่เป็นไรครับพี่  แค่ชั้น 8 เอง   ไม่ได้ออกไปไหนไกล “

“เอาน่า ไปเหอะ”

“ไอ้ขี้หวง “

“ยังๆมันยังไม่รู้ตัว ไอ้เพื่อนเลว”


พี่โอ๊ตดึงแขนผมออกจากห้องมาผมยังได้ยินเสียงแว่วๆของพี่โอมตามหลังมาครับ สงสัยพี่จะหวงเพื่อนหรือเปล่านะ

อย่างพี่โอมคนน่ารักก็น่าหวงอยู่หรอก ถ้าผมมีเพื่อนน่ารักๆแบบนี้ผมก็คง หวงเหมือนกัน


ผมเดินตามหลังพี่โอ๊ตมาเรื่อยๆจนถึงลิฟท์  อีกอันที่ผมสังเกตพี่โอ๊ตจะพูดเยอะมากถ้าอยู่กับเพื่อน

 แต่พออยู่กับผมพี่จะเงียบมากพูดน้อยด้วย  อาจจะเพราะเรายังไม่สนิทกันล่ะมั้งนะ

ติ๊ง!เสียงสัญญาณดังบอกว่าลิฟท์มาถึงแล้ว ผมเดินเข้าลิฟท์ไปพี่โอ๊ตตามเข้ามาติดๆ 


นี่พี่เขาจะไปส่งผมจริงๆเหรอเนี่ย  พอเป็นแบบนี้ผมชักจะระแวงหน่อยๆ ก็ผมเป็นผู้ชายนะ มาจับมาจูง มาส่งถึงห้อง มันก็แปลกๆนะ

แต่พอเห็นพี่มันกดเลข 8 ชั้นที่เป็นห้องผม และกดตัวG ที่เป็นชั้นล่างสุด ผมก็ถอนหายใจโล่งอก แถมยังแอบหน้าแตกหน่อยๆ

 ที่คิดว่าพี่มันจะมาจีบเหมือนคนอื่นๆ  พอคิดแบบนั้นก็เผลอยิ้มอีกจนได้ ดีจัง ไม่เคยสบายใจเวลาไปไหนมาไหนกับเพศเดียวกัน นานแล้ว

 
ไฟที่เลข 8 ดับลง ผมยกมือไหว้ขอบคุณพี่โอ๊ต  ซึ่งพี่เขาก็รับไหว้และยิ้มบางๆมาให้  ประตูลิฟท์ปิดลงพร้อมกับพี่โอ๊ต

ผมเดินฮัมเพลงไปที่ห้องพักด้วยความสบายใจ  ดีจัง คำๆนี้ผุดขึ้นมาในหัวผมนับครั้งไม่ถ้วน



จากวันนั้นผมก็ได้เจอพี่โอ๊ตบ่อยขึ้น  บางทีก็เจอพี่ๆ ในกลุ่ม บางคน บางทีก็เจอทั้งกลุ่มเลย

แม้จะมีคนมองแปลกๆเวลาที่ผมอยู่กับกลุ่มวิศวะกลุ่มนี้  แต่ผมกลับไม่อึดอัดเลยสักนิด
 
เพราะตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันพี่โอ๊ตทำผมประทับใจหลายรอบ  บรรยากาศรอบๆตัวพี่มันไม่อึดอัดอย่างที่คิด

 ก็นะครั้งนี้ ผมคงมีเพื่อนผู้ชายกับเขาบ้างพวกพี่ปีย์ก็น่ารัก คนนั้นเห็นได้ชัดเจนว่ามาจีบหนูบัวแน่นอน ไม่มีทางมาคิดอะไรกับผม


 แม้จะคาใจเรื่องที่พี่มันไม่รู้ข่าวที่ลือว่าผมกับหนูบัวเป็นแฟนกันหรือไงนะ  ถึงได้มาจีบหนูบัวน่ะ แต่ช่างเถอะ คนดีๆคบไว้ไม่เสียหายนี่นา 

นานแค่ไหนแล้วนะที่ผมไม่ค่อยได้ทำตัวตามสบายกับผู้ชายคนอื่นๆ นอกจากครอบครัวของหนูบัว 


ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น ผมก็ไม่คิดจะคบหาผู้ชายที่ไม่ใช่คนในครอบครัวอีกไม่ว่าจะสถานะไหน   


ก็ได้แต่หวังว่าคราวนี้มันคงไม่มีเหตุการณ์แย่ๆแบบนั้นเกิดขึ้นอีก



Rrrrrrr


กลับเข้ามาในห้องเพียงไม่นาน เสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นเหมือนนกรู้ ว่าผมกลับมาแล้ว
 
ผมยกมือถือขึ้นเช็คเมื่อเห็นว่ามีสายเข้า  ชื่อของคนที่โทรมาทำให้ผมยิ้มกว้างอย่างยินดี

“พ่อ..ว่างเหรอครับ “

“ไงเจ้าหมู ขี้แย   ทำไมปล่อยบัวกลับบ้านคนเดียวล่ะ ฮึ “


คำเรียกขานของพ่อที่ได้ยินทีไรผมก็อดที่จะหัวเราะไม่ได้  เพราะตอนเป็นเด็กผมอ้วน และโดนหนูบัวชกจนร้องไห้

น่าอายชะมัดโดนผู้หญิงต่อยจนร้องไห้  สูเด็กผู้หญิงไม่ได้เลยผม  ตั้งแต่นั้นพ่อชอบล้อผมแบบนี้ประจำ


“หนูบัวฟ้องพ่อล่ะสิ     ไม้เหนื่อยน่ะครับกิจกรรมเยอะ เลยคิดว่าผ่านปีหนึ่งไปก่อน แล้วค่อยกลับบ้านบ่อยๆดีไหมครับ “


“ครับๆ ว่าแต่ เข้ามหาลัยแล้ว มีสาวมาจีบหรือเปล่าหรือว่ามีแต่หนุ่มๆ “


“โธ่..พ่อครับ ก็อยากจะมีสาวๆนะ แต่ไอ้หนูบัวมันก็หาแต่ผู้ชายมาให้ เฮ้อออ”ได้ทีฟ้องเลยดีกว่า

“ฮ่าๆๆ เอาเถอะ พ่อเชื่อว่าสักวันลูกชายพ่อจะเจอคนที่ใช่ จำไว้นะไม้  อย่ากะเกณฑ์อะไรให้มาก ปล่อยไปบ้าง 

เรื่องที่เคยเกิดเก็บเอาไว้เป็นบทเรียนนะลูก อย่าเอามันมาเป็นตัวกำหนดชีวิตเรา เข้าใจไหม”


“ครับพ่อ  นี่ไม้รู้จักพวกพี่ๆที่อยู่ ต่างคณะหลายคนเลยนะพ่อ พวกพี่เขาเป็นเพื่อนกัน วันนี้ไม้พึ่งไปช่วยพี่ๆตัดกระดาษชานอ้อยมา สนุกดี
 ไม้คิดว่า จะลองเปิดใจดูครับ แต่ยังไม่ได้คุยกับหนูบัวเลย “



“ดีแล้ว เพื่อนน่ะ ถ้าเจอคนดีๆ เป็นแล้วไม่หายหรอกนะไอ้ลูกหมู   มันอยู่ที่การวางตัวของเราด้วย  พ่อเชื่อว่าลูกหมูของพ่อทำได้ “

“ครับพ่อ ไม้จะจำไว้  “

“ส่วนเรื่องแฟน พ่อไม่ซีเรียสนะลูก  เรื่องเรียนต้องมาก่อน อย่าไปคิดอะไรให้มาก มีคนมาจีบก็เปิดใจดู  ฟังเสียงหัวใจให้มากๆ ถึงเวลาของมันลูกจะรู้เองนะ “



“ทำไมวันนี้พ่อดูซีเรียสจังครับ”


ผมอดที่จะถามไม่ได้ ผมไม่ค่อยได้คุยกับพ่อนักเพราะพ่องานยุ่ง มีแต่แม่ และครอบครัวของหนูบัว ที่ผมไปขลุกอยู่ด้วยประจำ 

“ก็ เป็นห่วงไง สังคมวัยรุ่นพ่อก็ผ่านมา ก่อนไม้  ยิ่งหน้าตาแบบไม้นี่ พ่อล่ะเครียดเลย “

“ฮ่าๆๆๆ แล้วพ่อทำยังไงล่ะครับ บอกไม้หน่อย นี่เจอทุกวันแต่อาศัยความเงียบเข้าช่วยและมีหนูบัวคอยกันไว้ให้ “


“แรกๆพ่อก็เซ็งนะ  ต่อยกันปากแตกไปก็มี พวกสตอล์คเกอร์ยิ่งอันตราย   ดูแลตัวเองดีๆนะลูก “

ผมรู้ว่าพ่อเป็นห่วง พ่อเคยเล่าวีรกรรมสมัยพ่อเป็นนักศึกษาให้ผมฟัง

พ่อเป็นคนร่าเริง พูดเก่งเพื่อนเยอะ ซึ่งผิดกับผม  ผมเข้าหาคนไม่เก่ง ผมชอบอยู่คนเดียวมากกว่ายกเว้นไอ้หนุบัวไว้คน

ตอนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัย  ผมเองก็หนักใจเหมือนกันหากสอบติดคนละที่กับหนูบัวผมคงกลายเป็นคนที่ไม่มีเพื่อนจริงๆ

แต่โชคดีที่เราสองคนไม่ได้แยกจากกันอย่างที่คิด แต่ถึงอย่างนั้นการที่ได้มารู้จักกับกลุ่มพี่โอ๊ตก็ถือเป็นเรื่องดีๆของผมอีกเรื่องเช่นกัน


“ พ่อครับไม้ถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“สงสัยอะไรอีกเจ้าหนูจำไม”

“ไม้กลัวทำตัวไม่ถูก กลัวว่าเรื่องมันจะซ้ำรอยเดิม ..ไม้ต้องทำตัวยังไงดีครับ”

เสียงถอนหายใจของพ่อทำให้ผมอดที่จะคิดไม่ได้ ว่าผมคงยึดติดอะไรมากไปพาลจะทำให้พ่อแบแม่ไม่สบายใจไปด้วย

ผมควรจะโตได้แล้ว

“ไม้..ลูกเป็นตัวของลูกเองดีที่สุดแล้ว  อย่าให้เรื่องแย่ๆเหล่านั้นมาปิดกั้นตัวตนของลูกเอง  แม้ว่าในอนาคตมันจะซ้ำรอยเดิม แต่มันไม่ใช่ความผิดของไม้นะลูก”

“แต่”

“ลูกของพ่อเข้มแข็งจะตาย ใช้ชีวิตให้คุ้มไม้ อะไรจะเกิดมันก็ต้องเกิดเราห้ามไม่ได้ ความคิดคนก็เหมือนกัน เราจะไปห้ามไม่ให้เขาคิดอะไรกับเราไม่ได้ อยู่ที่ไม้เองลูก  อย่าคิดมากเลย ลูกพ่อทำได้พ่อเชื่ออย่างนั้น”

“ขอบคุณครับพ่อ”


พ่อวางสายไปแล้วผมยังคงนั่งคิดถึงคำที่พ่อพูด ก็นั่นสินะ ถ้ามัวแต่กลัว ผมคงไม่ต้องมีเพื่อน หากว่าความกลัวทำให้ผมต้องเสียเพื่อนดีๆไป

มันก็คงไม่คุ้มกันอย่างแน่นอน  หากว่าเรื่องแบบนั้นมันจะเกิดขึ้นอีก ผมคงโตพอที่จะแก้ไขให้เรื่องร้ายๆมันคลี่คลายไปทางที่ดีได้บ้าง 


ผมจะลองดูสักตั้ง คงไม่ยากเกินไปที่จะเก็บความกลัวเอาไว้เป็นแค่บทเรียน ประสบการณ์ข้างหน้าจะช่วยสอนให้ผมรับมือกับมันได้ 

หวังว่ามันจะมีแต่เรื่องราวดีๆล่ะนะ ผมต้องผ่านจุดนี้ไปให้ได้ ถ้าเพียงแต่ผมเอาชนะความกลัวนั้นได้เมื่อไหร่ ผมคง

ใช้ชีวิตได้มีความสุขกว่านี้


....

TBC


น้องไม้จะเป็นเด็กเรียบร้อย พูดเพราะ ยิ้มง่าย แต่โลกส่วนตัวสูง  เพราะเรื่องราวในอดีต เลยทำให้น้องปิดกั้นตัวเองออกจากคนรอบข้าง

ส่วนเรื่องอดีตของน้อง ค่อยมาเปิดทีหลังเนาะ กิกิ

อิพี่โอ๊ต จะเป็นพวกเจ้าเล่ห์ตัวพ่อ  เป็นคนพูดน้อย แต่ไม่ถึงกับปิดกั้นตัวเองเหมือนน้องไม้ 

พี่โอ๊ตจะเป้นคนพูดมากทันทีที่อยู่กับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท 

เป็นคนชอบความท้าทาย ชอบความเร็วเป็นชีวิตจิตใจ  เพราะมีพ่อทิวไผ่ เป็นไอดอล 

ทั้งคู่เป็นความต่างที่ดูพอเหมาะนะ 5555 แต่พี่โอ๊ตกับน้องไม้เหมือนกันอยู่อย่าง คือ ซึน  ความรู้สึกช้ากับเรื่องใกล้ตัว 

หากเป็นเรื่องของคนอื่นจะดูออกง่ายมาก แต่พอเป็นเรื่องของตัวเอง กลับไม่เคยเข้าใจอะไรเลย ชอบคิดไปอีกมุมเสมอๆ ปวดหัวดีค่ะ 555


ขอบคุณสำหรับกำลังใจ 1 คอมเม้นท์ เท่ากับอ๊อกซิเจน 1 ถัง ค่า  :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

มาต่อชีวิตพันวาด้วยเม้นท์ของท่านผู้อ่านกันนะ  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2018 05:59:45 โดย พันวา »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
หวังว่าพี่โอ๊ตจะชนะใจน้องไม้ได้


 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
แผนที่ 8  แผนล่อลวง


วนันต์



“ไม้จ๋า เค้ามาทวงของรางวัล”เสียงแจ้วๆของเจ้าตัวแสบดังมาก่อนตัวอีกครับ

เหมือนผ่านกิจกรรมเฟรชชี่มาได้ไม่นาน แต่ปีหนึ่งก็ยังมีกิจกรรมเรื่อยๆ ไม่ค่อยมีเรื่องเรียนสักเท่าไหร่

 แต่วันนี้หลังจบคลาสก็มีรวมกลุ่มทำกิจกรรมของสโมฯครับ  พวกผมเหมือนเป็นคนที่ต้องเข้าร่วมกิจกรรมอย่างเลี่ยงไม่ได้

ทั้งเดือนทั้งดาว ทุกชั้นปี จะมีกิจกรรมประชาสัมพันธ์และการโฆษณา และช่วยงานในส่วนกลางด้วย

 ส่วนมากก็จะเป็นถ่ายแบบ ลงโบชัวร์และช่วยงานกองศึกษา เล็กๆน้อยแล้วแต่อาจารย์จะให้ทำครับ ผมเลยไม่ค่อยลงตารางเรียนมากเท่าไหร่

 เพราะยังไม่ชินกับระบบมหาวิทยาลัย  พ่อบอกว่า เทอมสองจะเริ่มเข้าใจอะไรมากขึ้น   ค่อยไปลงเพิ่มตอนนั้นก็ได้


เพราะแบบนี้หลังจากช่วยงานสโมฯราวๆบ่ายโมง ผมเลยว่าง  ยัยหนูบัวเลยวิ่งโร่มาทวงของรางวัล


“จะเอาอะไรล่ะ “ผมถามพลางตักข้าวเข้าปากไปด้วย โรงอาหารของคณะไม่กว้างเท่าไหร่ แต่ช่วงบ่ายโมงนิดๆแบบนี้ไม่ค่อยมีนักศึกษาอยู่หรอกครับ

 อากาศร้อนๆแบบนี้ทุกคนเลิกคลาสแล้วก็เลือกที่จะเข้าห้างไปรับแอร์เย็นๆแทนลมร้อนๆที่โรงอาหารของมหาวิทยาลัย

“อืมมมม อะไรดีน๊า”ท่าทางครุ่นคิดจนคิ้วขมวดทำให้ผมหัวเราะจนต้องยื่นมือไม่จิ้มๆคิ้วสวยๆนั่นให้คลายออกจากกัน 

“หึหึ”ผมอดจะขำกับท่าทางของหนูบัวไม่ได้  เจ้าตัวแสบที่ป่วนชีวิตผมมาตั้งแต่เล็กจนโต ยังไงหนูบัวก็เป็นคนสำคัญของผม 

“งั้น ทวงสัญญานัดเดทคู่กัน “

“ห๊ะ!”คำว่าเดทคู่ ทำให้ผมขมวดคิ้วด้วยความไม่ไว้ใจเพื่อน


“ก็ ไม้จำพี่โอ๊ตกับพี่ปีย์ได้ไหมอ่า นะนะ ไปเดทกัน”ผมถอนหายใจแทบจะทันที ด้วยความโล่งอก ก็ตอนนี้ผมไม่ได้กคิดอะไรเยอะมาก

หากเป็นพี่โอ๊ตกับพี่ปีย์ อย่างแรก พี่ปีย์จีบไอ้หนูบัวแน่นอน อย่างที่สอง พี่โอ๊ตเป็นรุ่นพี่ที่ดี ไม่มีทางคิดไม่ดีกับผมแบบนั้น 

แบบนี้ถือว่าสบายใจมากอีกอย่างคำว่าเดทคู่ แสดงว่ายัยหนูบัวไม่คิดจะจับพี่ปีย์คู่ผม  ก็ดีเผื่อว่าหนูบัวมีแฟนอย่างพี่ปียืก็ดีเหมือนกัน


“บัวว่าพี่ปีย์เป็นคนยังไง”ผมถามกรุยทางดูว่าเพื่อนผมจะสนใจหนุ่มๆบ้างไหม


“หล่อ เหมาะกับน้องตังค์ เอ๊ะไม่สิ หรือว่าจะเพชรหรือเงินดีนะ “ท่าทางครุ่นคริดของหนูบัวทำเอาผมมึนหัว ยัยบ๊องเอ๊ย น้องตังค์พึ่งจะอยู่ประถมเองนะ

“บัวไม่คิดจะมองพี่ปีย์แบบคบหากันบ้างเหรอครับ หืม”

“ทำไมคะที่รัก ไล่เค้าแล้วเหรอ ตัวไม่อยากเป็นแฟนเค้าแล้วเหรอ”ท่าทางเสแสร้งแกล้งบีบน้ำตาทำให้ผมยื่นมือไปบีบจมูกเล็กรั้นๆนั่นด้วยความมันเขี้ยว


“มีแต่บัวแหละชอบยกไม้ให้คนอื่นน่ะ หล่อขนาดนี้ยังอกหักเลยเนอะ “

“จ้าๆ พ่อคนหล่อ   งั้นวันพรุ่งนี้ นัดพี่สองคนเลย และไม้ต้องเป็นคนโทรไปนัด บัดเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”

รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหนูบัวทำเอาผมเสียวสันหลังวาบๆ แต่ก็ยอมควักโทรศัพท์มือถือมากดเบอร์พี่โอ๊ตโทรออก 

เสียงสัญญาณดังแค่ตื๊ดเดียวคนปลายสายก็รับทันที เหมือนพี่มันนั่งจ้องจอรออยู่ยังไงยังงั้นเลย


//ครับผม//

“อ่า..พี่โอ๊ตครับ คือ..พรุ่งนี้ว่างไหมครับ”ผมตะกุกตะกักถามออกไปเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวว่าพี่มันจะรับเร็วแบบนี้

//ว่างครับ //

“คือ ผมกับหนูบัวอยากเลี้ยงข้าวเอ่อ..ที่เคยนัดไว้น่ะครับ “ผมไม่รู้จะพูดยังไงไม่ให้ดูน่าเกลียด

//ที่ไหนครับ //

 คำถามสั้นๆไม่ได้มีอะไรมากมายในความหมายแค่อยากรู้แ ค่นั้น  ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้ ก็คงมีแค่ผมที่คิดเยอะไป

 เคยตั้งใจไว้ว่าจะลองเปิดรับเพื่อนผู้ชายบ้างแล้ว แต่ผมก็ยังกังวลอยู่ดี


“ เจอกันที่ร้าน  Café’ Blue ตอนสิบเอ็ดโมงนะครับฝากบอกพี่ปีย์ด้วยนะครับ  “


//ครับ// ประหยัดคำพูดเสียจริง  นึกค่อนขอดในใจก่อนจะวางสายจากพี่โอ๊ต แล้วหันมามองเพื่อนตัวเล็กที่นั่งฟังตาแป๋วอยู่ตอนนี้

“เรียบร้อยครับ”

“ไม้”เสียงใสๆของหนูบัวมาพร้อมกับความกังวลบนสีหน้า ทำให้ผมต้องหันมาสนใจเพื่อนแทนงานตรงหน้า

“ว่าไงครับ เป็นอะไร”


“ไม้ อย่าคิดมากนะ บัวอยากให้ไม้ลองเปิดรับเพื่อนใหม่ๆดูบ้าง อย่างพี่ปีย์กับพี่โอ๊ตน่ะ  บ้านบัวสืบประวัติมาหมดแล้ว ไม่ได้เลวร้ายอะไรนะ “

“บัวครับ อย่ากังวลเลย คนที่คิดมากนี่คงเป็นหนูบัวคนดื้อมากกว่าไม้ล่ะมั้งเนี่ย หืม “

ผมบีบแก้มนิ่มๆด้วยความเอ็นดู ไม่ว่าจะยังไงหนูบัวก็ยังกังวลกับเรื่องของผมชอบดูแลผมเหมือนผมเป็นเด็กสามขวบเสมอ

 
“บัวเป็นห่วงไม้นี่นา  “

เสียงงุ้งงิ้งของคนขี้อ้อนทำให้ผมหัวเราะออกมา อย่างอดไม่ได้ หนูบัวน่ะ เป็นคนสวยที่ขี้อ้อนที่หนึ่ง ใครๆก็หลงความขี้อ้อนนี้มาตั้งแต่เด็ก

 แต่อย่าให้ร่างจริงปรากฏนะครับ  คำว่าโหดยังน้อยไปเลย ขนาดบางครั้งผมยังกลัวหนูบัวในร่างนั้น  แอบนึกสงสารพี่ปีย์อยู่ในใจ

 ท่าทางหลงหนูบัวขนาดนั้น จะรู้ไหมหนอว่านางฟ้าแบบที่ทุกคนเห็นนั้นแค่ความปลอมเท่านั้นเถอะ  ร่างจริงๆของยัยหนูบัวเนี่ย นางมารชัดๆ


ผมได้แต่ไว้อาลัยให้แฟนในอนาคตของยัยตัวแสบนี่



เรากลับถึงห้องพัก ก็สี่โมงเย็นแล้ว จริงๆผมไม่มีอะไรมากนักค่ำนี้แค่คิดว่าจะอ่านหนังสือที่ซื้อมาใหม่สักหน่อย

 หากวันไหนว่างๆผมว่าจะไปช่วยมัมวาดที่ร้านกาแฟ  วันนี้ไม่รู้หนูบัวจะว่างไปหรือเปล่ารายนี้ชอบหนีเที่ยวมากกว่า

เหตุผลเจ้าหล่อนคือให้น้องๆทำเพราะตัวเองเกิดก่อนทำมาเยอะแล้วถึงเวลาพักบ้าง  ผมได้แต่ขำเหตุผลข้างๆคูๆของเพื่อน


“บัวไม่ไปรับน้องตังค์เหรอวันนี้”


“เงินไปรับให้แล้ว  ว่าแต่หนังสือที่ไม้บอกอยากได้น่ะ ได้มาหรือยัง”

“ยังเลยไปดูกี่ร้านๆก็ไม่มี ว่าจะสั่งซื้อจากเว็ปเอาก็กลัวว่าจะได้ของไม่ดีมา”

“เห็นว่าหนังสือหายากนี่นา ให้ลุงยูหาให้ไหมน่าจะได้มาง่ายๆนะ”

“หาเองดีกว่า บัวว่างใช่ไหมมาช่วยไม้เลย”ผมเรียกยัยตัวแสบที่เกลือกกลิ้งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ให้เดินเข้าครัวมาช่วย

ผมทำครัวไม่เก่งครับแต่ก็ชอบทำกินเอง แม้ว่ามันจะไม่อร่อยก็เถอะ อย่างน้อยก็ได้ความสะอาดและคุณค่าทางอาหารล่ะนะ

“หาแฟนที่ทำอาหารเก่งๆสิ  ได้ข่าวว่าพี่โอ๊ตทำอาหารอร่อยไม่ใช่เหรอ”

“อย่ามาชงตอนนี้ มาช่วยเลย”

“ไม้ทำอะไร”

“น้ำตะไคร้”

ผมชอบน้ำหวานแต่ไม่ชอบแบบที่มีขายอยู่เพราะไม่ได้รสชาติแท้ๆ เลยฝึกทำเอง  ถึงแม้ผมทำกับข้าวไม่ได้เรื่อง

แต่พวกของหวานผมว่าผมมีฝีมือไม่น้อยนะ อาจจะเพราะชอบดื่มน้ำพวกนี้ผมเลยตั้งใจเป็นพิเศษ

เราสองคนเพลินกับการตักนุ่นเติมนี่จนเวลาล่วงเลยไป พระอาทิตย์ที่มองไม่ค่อยเห็นนักในเมืองกรุงกำลังลับหายไปกับตึกสูงๆ

 และตอนนี้ท้องกำลังร้อง แต่อยากกินอะไรแบบเมนูเส้นๆแทนการกินข้าวมื้อหนัก


“ไปกินเตี๋ยวกันป่ะ หิวแล้ว “

ผมผละจากตู้เย็นที่นำน้ำตะไคร้เข้าแช่ เดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์และคีย์การ์ดก่อนจะพาคนสวยออกจากห้องไปหาอะไรกิน

 ผมชอบคอนโดของพ่อเดย์มากเลยครับ เพราะรอบๆแถวนี้อาหารการกินสมบูรณ์มากโดยไม่ต้องหอบร่างไปหากินไกลๆ

วันไหนเหนื่อยๆ ผมแค่เดินลงมาข้างหน้าคอนโด ก็มีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกกินแทบไม่หวาดไม่ไหว โดยเฉพาะก๋วยเตี๋ยวต้มยำร้านดังข้างคอนโด


“เค้าอยากกินเกี๊ยวร้านหน้าเซเว่นอ่า”เป็นร้านที่อยู่ตรงข้ามคอนโดครับ  ปรกติผมไม่ค่อยชอบกินพวกเกี๊ยวหรือบะหมี่หรอกครับ

แต่ถ้าเป็นพวกก๋วยเตี๋ยวน้ำตกน้ำไส อะไรอย่างนั้นผมกินได้ มีแต่หนูบัวที่ชอบกินเกี๊ยว วั

นนี้เลยเปลี่ยนร้านจากก๋วยเตี๋ยวต้มยำเจ้าดังมาเป็นเกี๊ยวหน้าเซเว่นแทน


“ก็ได้ครับ เส้นหมี่น้ำใสก็มีให้กินอยู่ร้านนี้อ่ะนะ  “

“ใจดีจังน้า แฟนใครเนี่ย ฮิฮิ “

ผมโคลงศรีษะด้วยความอ่อนใจ  แต่ผมก็ตามใจเจ้าตัวแสบจนบางครั้งมัมวาดยังบอกให้ผมเพลาๆความตามใจยัยตัวแสบนี่บ้าง

 แต่ว่าก็ว่าเถอะครับ ลองได้เจอยัยหนูบัวอ้อนนะ ร้อยทั้งร้อยสยบแทบเท้าคุณเธอทั้งนั้นล่ะ

ติ๊ง !

เสียงสัญญาณลิฟท์ดังพร้อมประตูตู้โดยสารเปิดออก คนที่ยืนอยู่ภายในทำเอายัยตัวแสบเบิกตากว้างพร้อมทั้งส่งยิ้มให้คนที่ยืนอยู่ข้างในด้วยความยินดี


“พี่โอ๊ตไปไหนเหรอคะ”

ผมกับหนูบัวเข้ามายืนในลิฟท์และเจ้าตัวแสบก็เลิกเกาะแขนผมไปเกาะแขนพี่โอ๊ตแทน จนผมต้องดึงมือยัยหนูบัวมาจับไว้เอง

 ไม่ใช่หวงนะครับ แต่เป็นห่วงมากกว่ากลัวว่าจะมองเพื่อนผมไม่ดี บัวเป็นคนที่สนิทคนง่ายและชอบสกินชิป

เป็นนิสัยที่ผมรู้ดีและรับมือมาตลอดตั้งแต่เด็กจนโต  คนอื่นที่ไม่รู้จักนิสัยส่วนนี้อาจจะมองดูไม่ดีต่อเพื่อนผม

เพราะบัวเคยโดนตามตื๊อเพียงเพราะไปจับมือถือแขนคนอื่นง่ายๆ โดนหาว่าอ่อยไม่เลือกด้วย แต่เจ้าหนูบัวไม่เคยแคร์



กลายเป็นผมเนี่ยที่ต้องคอยระวังให้ตลอด  ยอมโดนยัยหนูบัวจับๆกอดๆไปกำไรผม หึหึ

“กำลังลงไปหาอะไรกินน่ะครับ  “

“ไปกินเกี๊ยวด้วยกันไหมคะ  บัวกับไม้กำลังไปเหมือนกันร้านนี้อร่อยนะคะ “

“เอาสิ”พี่โอ๊ตตอบรับทั้งยังยิ้มน้อยๆจนยัยหนูบัวต้องส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดจนผมอดทที่จะหมั่นไส้ไม่ได้

เราสามคนเดินตรงไปที่ร้านขายเกี๊ยวน้ำ เป็นเพียงแค่ร้านรถเข็นข้างทางธรรมดา แต่ยัยหนูบัวชอบนักหนา

“เอาเกี๊ยวน้ำไม่เอาหมูแดง พิเศษเกี๊ยวค่า”

“พี่โอ๊ตเอาอะไรครับผมจะได้สั่งให้”ดูท่าทางเหมือนพี่มันไม่เคยมากินร้านแบบนี้

“เอาเหมือนไม้ก็ได้ครับพี่กินได้”

“แหมมมมมมมมมมมมม”

เราสองคนหันไปมองหนูบัวที่นั่งเอามือเท้าคางส่งสายตากรุ้มกริ่มแปลกมาให้ทั้งยังเสียงแหมยาวจนน่าตีสักเผียะ

“ครับๆ บัวนั่งเฉยๆอย่าซนผมอดที่จะดุไม่ได้อีกแล้ว ก็แม่ตัวแสบเริ่มเอามือไปจิ้มแขนพี่โอ๊ตจิ้มแก้มบ้าง

 เลยต้องดุครับไม่รู้จะแก้นิสัยนี้ของหนูบัวได้ยังไงพี่โอ๊ตก็นั่งนิ่งให้หนูบัวจิ้มเล่นอยู่นั่นเหมือนไม่รู้สึกรู้สาอะไร


ผมยืนสั่งก๋วยเตี๋ยวน้ำไสของผมกับพี่โอ๊ต สองชามและเกี๊ยวน้ำพิเศษของหนูบัว ระหว่างรอสั่งผมก็ต้องหันมามองหนูบัวกับพี่โอ๊ตเรื่อยๆ

 กลัวเพื่อนไปทำพี่เขารำคาญ 


“ไม้จ๋า พี่โอ๊ตบอกว่าพรุ่งนี้ว๊างว่างล่ะ “


“แล้ว?”ก็ต้องว่างอยู่แล้วเพราะพี่เขารับนัดแล้วนี่นา

“คืองี้ ไหนๆก็ไหนๆละ  กินข้าวเสร็จไม่มีโปรแกรมไหนใช่หรือเปล่า”

“ก็..ใช่ ไม่มี “ผมพูดนิ่งๆพลางเหลือบมองพี่โอ๊ตที่นั่งเงียบเหมือนไม่ได้มาด้วย

“พี่โอ๊ตอยากไปไหนต่อร่างโปรแกรมได้เลยนะคะบัวอยากดูหนัง”

“พี่โอ๊ตครับ อย่าไปฟังยัยนี่มากนักนะครับ ตามใจเกินเสียคนหมด “

“ไม่หรอก พี่ว่างน่ะ “ผมว่าผมเจอคนทำยัยตัวแสบเคยตัวอีกคนแล้วล่ะครับ

“ครับๆ  “ผมก็ได้แต่รับคำไปก็ดีจะได้มีคนมารับภาระแทนผมบ้าง เราสามคนเลิกคุยลงมือจัดการก๋วยเตี๋ยวตรงหน้า  ด้วยความหิว

กว่าจะจัดการเมนูเส้นตรงหน้าหมด ก็มืดแล้ว วันนี้กินเตี๋ยวฟรีครับ พี่โอ๊ตจ่าย แม้ผมจะแย้งแค่ไหน แต่ภายใต้ท่าทางนิ่งๆนั่น

พี่มันก็ดื้อพอสมควรครับ ยังคงมีแค่แม่หนูบัวที่ยิ้มแป้นไม่รู้สึกรู้สาใดๆเช่นเคย



“แล้วจะไปไหนกันต่อ หืม”พี่โอ๊ตมองยัยหนูบัวที่เกาะแขนผมเป็นลูกลิงตอนที่เราเดินมาถึงหน้าคอนโดแล้ว

ท่าทางของผมกับบัวเหมือนจะไปไหนหรือไงพี่เขาถึงได้ถามแบบนั้น ผมอดที่จะมองตัวเองไม่ได้ กางเกงยีนส์ห้าส่วนกับเสื้อยืดธรรมดา

ไม่ได้บ่งบอกว่าผมจะไปต่อที่ไหน



“ก็พี่เห็นหนูบัวมองดูนาฬิกาบ่อยเหมือนมีนัด”พี่โอ๊ตบอกทันทีที่เห็นผมขมวดคิ้ว 

“บัว”ยังไม่ทันที่ผมจะได้เอ่ยอะไรเสียงเรียกยัยตัวแสบก็ดังขึ้นด้านหลังจนพวกเราต้องหันไปมอง

“อ้าวเพชร มาไงเนี่ย”น้องแฝดของบัวที่ยังอยู่ในชุดนักเรียนเดินเข้ามาหาก่อนจะมองมาที่ผม

“ไม้คิดถึงจังครับ “ว่าพลางเดินเข้ามากอดผมแน่น แทนที่จะเดินเข้าไปหาพี่สาวของตัวเอง

 น้องเพชรตัวพอๆกับผมเลยครับ นี่น้องยังโตได้อีก สงสัยได้คุณพ่อเดย์มาเยอะ ตัวใหญ่ๆกันทั้งนั้น 


“อย่ามาอ้อนครับ มาพาพี่บัวไปร้านใช่ไหมล่ะ พาไปเลยพี่เบื่อจะแย่แล้ว”

น้องชายของบัวไม่เคยเรียกพวกเราว่าพี่ต่อหน้าคนอื่นครับ แปลกๆใช่ไหม ถ้าอยู่กับครอบครัวจะเรียกพี่

แต่ถ้าอยู่ข้างนอก คำว่าพี่หายไปทันที เหตุผลแค่บอกว่าจะปกป้องบัวกับผม  เด็กหนอเด็ก 

“อย่ากอด “เสียงดุๆเอ่ยขึ้นทำให้เจ้าเพชรถึงกับชะงัก

“พี่โอ๊ต นี่น้องเพชรน้องชายบัวเองค่า  กอดได้ๆเนอะๆไม่หวงเนอะ คิกคิก”

“บัว มัมให้มารับไปร้าน ต้องการคนช่วยบอกไว้แล้วเมื่อบ่ายคิดเบี้ยวเหรอ”เพชรหันไปสนใจพี่สาวคนสวยแทนผม

ผมมองหน้าหนูบัวที่ยู่ปากเหมือนขัดใจ และนั่นคงเป็นสาเหตุที่เจ้าตัวแสบคอยมองนาฬิกาบ่อยๆคงหาทางชิ่งอยู่แน่ๆ

“พี่โอ๊ตว่างไหมๆ”

“บัว”ผมรู้ทันทีว่าเจ้าตัวแสบจะทำอะไรเลยรีบปรามเจ้าตัวยุ่งที่ชอบก่อเรื่อง แต่เหมือนพี่โอ๊ตจะไม่รู้

“ว่างครับ”

“งั้นไปกินกาแฟร้านมัมวาดกันนะคะ นะๆ “พนันได้เลยครับไม่ได้ชวนไปกินแต่ชวนไปใช้งานแน่ๆ

“หนูบัว มันค่ำแล้วนะพี่เขาต้องพักผ่อน  พี่โอ๊ตมีงานหรือเปล่าครับ อย่าตามใจเจ้าหนูบัวมากนัก”

“ไม่เป็นไร พี่ว่าง มานี่มา”ผมโดนพี่โอ๊ตดึงแขนให้ห่างจากน้องเพชรมายืนข้างๆพี่เขาอย่างงงๆ น้องเพชรหรี่ตามองพี่โอ๊ตแปลกๆ ส่วนเจ้าหนูบัวหัวเราะคิกคักดูอารมณ์ดี 

“แต่พี่ขอไปเปลี่ยนเสื้อแป๊บนึงนะครับ ไม้ไปด้วยกัน บัวไปก่อนได้เลยเดี๋ยวพี่กับไม้จะตามไปนะ “

พี่โอ๊ตจัดการเสร็จสรรพ ทั้งยังดึงแขนผมให้เดินกลับเข้าคอนโด เจ้าตัวแสบแค่โบกมือให้ทั้งยังยิ้มแปลกๆอีก

ขนาดโดนน้องเพชรลากตัวไปยังจะหันมาโบกไม้โบกมือไม่หยุด


“ผมว่าพี่ใส่ชุดนี้ก็ไม่น่าเกลียดนะครับ ถ้าพี่เปลี่ยนดีกว่านี้ผมคงไม่ได้เกิด แต่เอาจริงๆพี่ไม่ต้องไปดีกว่านะครับโดนหนูบัวใช้งานแน่ๆ”

ผมว่าไปพร้อมกับหัวเราะพลางมองดูร่างสูงที่ใส่กางเกงยีนส์ขาสั้นสีเข้มกับเสื้อยืดแขนสั้นสีเทา แม้จะเป็นชุดอยู่กับบ้านแต่พี่มันก็ยังดูดี 

นี่แค่ไปกินก๋วยเตี๋ยวยังดูดีขนาดนี้แล้วนี่พี่ยังจะเปลี่ยนชุดอีกเหรอครับ


“ซ้อมเดททั้งทีขอพี่เปลี่ยนชุดจะดีกว่านะ”รอยยิ้มแปลกๆที่พี่โอ๊ตส่งมาไม่ทำให้ผมฉงนใจเท่ากับคำว่าซ้อมเดทของพี่มันเลยสักนิด 

ผมเดินเอ๋อๆตามพี่มันเข้าห้องจนออกจากห้องมาขึ้นรถพี่มันแล้วบอกเส้นทางอย่างงงๆ คงมีแค่เสียงหัวเราะเบาๆของพี่โอ๊ตที่ทำให้ผมดึงสติกลับมาทัน


“อ่า ขอโทษครับ  เหม่อไปหน่อย”

ก็พี่โอ๊ตใส่กางเกงยีนส์สีเข้มขายาว ที่มีร่องรอยขูดขีดพอเป็นลายสวยตัดกับเสื้อเชิ้ตแขนยาวสีน้ำทะเลแลดูสดใส

ยิ่งพี่มันพับแขนรั้งดึงไปจนถึงข้อศอก ปลดกระดุมเม็ดบนๆลงตั้งสองเม็ด แลเห็นอกแน่นๆรำไรดูชวนมองอย่างบอกไม่ถูก

อ่า ผมเป็นผู้ชายยังอดมองไม่ได้เลยครับ น่าอิจฉาคนหุ่นดีชะมัดเลย


“หึหึ ไม่หน่อยหรอก พี่ถามยังไม่ตอบพี่เลย”

“ถาม?”

“ว่าแล้วเชียว ใจลอยแบบนี้บ่อยๆไม่ดีนะครับ เกิดมีคนจับแบกขึ้นรถไปทำยังไง ฮึ”

ท่าทางที่ดูเหมือนเป็นห่วงผมแต่แววตาแพรวพราวทำให้ผมหันไปถลึงตาใส่ด้วยความลืมตัว


“ฮ่าๆ “และพี่โอ๊ตก็ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นในรถ กับแค่ผมถลึงตาใส่น่าขำตรงไหนกัน แต่ว่า พี่โอ๊ตหัวเราะนี่ดูดีจัง

 รู้สึกดีจนต้องยิ้มตามแทนที่จะโกรธ เฮ้อ  ผมนี่ก็แปลกๆเหมือนกันนะ วันนี้มีอะไรแปลกๆหลายอย่างจนงงไปหมดแล้วล่ะครัะบ

  ไม่นานพี่โอ๊ตก็พาผมมาที่ร้านกาแฟของมัมวาด

ร้านนี้เปิดมานานแล้วครับเป็นคาเฟ่เล็กๆแต่น่านั่งเพราะมัมวาดทำไม่ได้หวังกำไรอะไรแต่ผมดูว่ากำไรคงล้นหลามมากครับ เพราะคนเยอะทุกวัน

ร้านนี้ตั้งอยู่ระหว่าง ม.Y กับ ม.XS แถมยังมีโรงเรียนสาธิตนาวา ที่อยู่ถัดม.XS ไปไม่ไกล  วัยรุ่นวัยเรียนแวะเวียนมาร้านนี้ประจำ

หลักๆเลย เจ้าของร้านคือคนที่ดึงดูดลูกค้ามากสุด แม้ว่ามัมวาดจะมีอายุสามสิบหกปีแล้ว ไหนจะพ่อเดย์วัยสี่สิบปี แต่หล่อจนสาวๆมาจองโต๊ะทุกวัน

เพื่อรอพ่อเดย์มา   หนุ่มจากสองม.มาส่องลูกสาวคนสวยดีกรีดาวมหาลัยก็ไม่ใช่น้อย แทบทุกครั้งที่หนูบัวมาช่วยงานที่ร้านวันนั้นคนจะแน่นร้านเป็นพิเศษ

บวกกับสองแฝดด้วยแล้ว ขายแทบไม่ทันเลยล่ะครับ แล้ววันนี้ ไม่ต้องเดาว่าคนจะเยอะแค่ไหน เพราะเดือนปีสามจากมหาวิทยาลัย XS ก็ดังไม่ใช่เล่น



Cute Boy XS  อยู่ที่ พบรักค่าเฟ่

มาค่ะคุณขา วันนี้เป็นวันรวมสามีแห่งชาติที่นี่เลยค่า ใครไม่มาวันนี้บอกเลยว่าพลาดแรง

แอดแทบไม่รู้รสกาแฟเพราะในปากเต็มไปด้วยน้ำลายที่รอการระบายเมื่อเห็นหนุ่มๆเค้ามาเสิร์ฟกาแฟ อูยปาดน้ำลายแป๊บบบบ

แซ่บมากกกกก แม่ขาแอดอยากได้แอดอยากโดน #โอ๊ตไม้ #แฝดหล่อบอกต่อด้วย #เดือนชนเดือน  #เดือนชนดาว #ไม้บัว

แนบรูป

6,541 ไลค์
947 แชร์


เวลาแค่ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงยอดไลค์ยอดแชร์พุ่งสูงจนน่ากลัว ผมส่งมือถือคืนหนูบัวที่ยังยิ้มแก้มปริ 

เพราะคนส่งรูปไปให้เพจนั้นต้องเป็นหนูบัวอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะยัยตัวแสบบอกว่าเพื่อนเป็นแอดมินเพจ

ดีไม่ดีผมว่ายัยหนูบัวตัวแสบนี่แหละเป็นหนึ่งในแอดมิน ก็ชงซะเข้มขนาดนี้ เฮ้อออ

 
“พี่โอ๊ตพักก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมทำเอง ไปนั่งตรงนั้นเลยครับ “

ผมรีบดันหลังพี่มันให้ไปนั่งตรงมุมที่เป็นชุดโซฟาขนาดใหญ่ ตรงจุดนี้เป็ฯมุมสำหรับพวกผมครับ 

วันนี้เห็นพี่โอ๊ตช่วยเสิร์ฟน้ำเสิร์ฟขนมแล้วผมล่ะเกรงใจ โดยหนูบัวโขกสับขนาดนี้ผมเหนื่อยแทน


“ไม้มาเอาขนมไปให้เพื่อนด้วยนะลูก”

เสียงมัมวาดดังขึ้นโดยไม่ได้หันมามองผมเพรามัมวาดยังคงสาละวนกับเมนูปั่นตรงหน้า แต่ก็ยังอุตส่าห์เตรียมขนมไว้สำหรับพวกผม

“เพชรครับเงินครับ มาช่วยมัมตรงนี้ก่อนให้พี่เขาพัก  บัว ไปรับออเดอร์เลยอย่าอู้นะ “

เสียงมัมวาดยังคงสั่งการไปเรื่อยๆ ผมได้แต่หัวเราะ ด้วยความขำที่เจ้าตัวแสบแอบถ่ายแต่รูปจนโดนมัมดุ


“พี่ช่วยได้นะครับไม่เหนื่อยอะไร”

“นั่งเลยครับตั้งแต่มาถึงพี่ยังไม่ได้พักเลย อีกหน่อยพ่อเดย์ก็จะมาแล้ว ไม่ยุ่งหรอกครับ  พี่โอ๊ตชอบกินอะไรครับ”

“อืม พี่ชอบพวกเค้กนมสดหรือเค้กพวกมะพร้าวน้ำมะพร้าวน่ะครับ อะไรก็ได้พี่กินได้หมดถ้าทำจากมะพร้าว”

“หืม ชอบเหมือนผมเลย แล้วพวกน้ำตะไคร้หรือพวกน้ำใบเตยอะไรพวกนี้พี่โอ๊ตชอบไหมครับ”

ผมพยายามชวนพี่คุย เพราท่าทางพี่มันเงียบเกินไป นึกได้ว่าผมชอบทำน้ำดื่มเพื่อสุขภาพพวกนั้นถ้าพี่มันชอบเผื่อเอาไปให้ที่ห้องแบ่งๆกันกินครับ

“ก็ดีนะ กินได้ครับถ้าไม่หวานมาก”

“ดีเลย ผมทำเองนะ ทำอร่อยด้วย เดี๋ยวผมเอาไปให้ที่ห้อง แบ่งแช่ตู้เย็นไว้ เวลาพวกพี่ๆทำงานเหนื่อยๆผมว่ามันชื่นใจดีนะครับ”

ผมยิ้มแก้มปริเมื่อมีคนชอบสิ่งเดียวกัน  คุยกับพี่โอ๊ตไม่ได้อึดอัดอย่างที่คิด เราสองคนแลกเปลี่ยนกันถาม

“น้องไม้ครับ คือพี่จะขอน้องไม้สักอย่างได้ไหมครับ”

ท่าทางดูไม่มั่นใจแถมเหมือนจะเกรงใจ ของพี่โอ๊ตทำผมสงสัยคนแบบพี่มันมีอะไรให้ผมช่วยงั้นเหรอ

“อะไรครับ ถ้าผมช่วยได้ก็จะช่วย”

“อย่าขำพี่นะบอกก่อน”ท่าทางเหมือนเขินๆของพี่โอ๊ตยิ่งทำให้ผมสงสัย

“คือว่า พี่ฝากขอลายเซ็นคุณทิวไผ่ได้ไหมครับ”ผมนั่งนิ่งอย่างนึกไม่ถึง ริ้วแดงๆพาดผ่านแก้มของพี่โอ๊ตจางๆ อ่า พี่เขาเขิน น่ารักแฮะ

 ผมนี่ท่าจะบ้ามองเห็นผู้ชายตัวใหญ่ๆน่ารักได้ยังไง ก็...พี่มันน่ารักจริงๆนี่นา

ท่าทางที่เอานิ้วชี้เกาจมูกเบาๆหันหน้าไปทางอื่นทั้งๆที่แก้มยังมีสีเรื่อๆอยู่ หึหึ น่ารักจริงๆนั่นแหละ



“พี่โอ๊ตเป็นแฟนคลับพ่อเหรอครับ”ใช่แล้วครับ พ่อทิวไผ่ของผมมีแฟนคลับไม่น้อย แต่ผมแปลกใจก็ตรงที่พ่อออกจากวงการมานานมากแล้ว

 ยังมีคนรู้จักพ่ออีก ที่สำคัญ เป็นคนรุ่นใหม่ด้วยพ่อคงปลื้มไม่น้อย

“อ่า..ครับ”ผมยิ้มจนตาปิด ดีใจแทนพ่อจัง มีคนชื่นชอบขนาดนี้เอแล้วพี่เค้าอยากถ่ายรูปกับพ่อหรือเปล่าน๊า

“วันพรุ่งนี้พี่โอ๊ตว่างใช่ไหมครับ”

“ก็ว่างนะ ถึงได้รับนัดเรากับน้องบัวไง”

“หลังจากกินข้าวแล้ว ผมมีแพลนใหม่ ที่ดีกว่าแพลนดูหนังของหนูบัว พี่สนหรือเปล่าครับ”

“แพลนใหม่ ?”

“ไปหาพ่อไผ่กัน ไปขอเองเลยครับถ่ายรูปได้ด้วยนะ  “ผมยิ้มกว้างเมื่อเห็นสีหน้าตกตะลึงของพี่โอ๊ต

โอ๊ยพี่ครับ มาดโหดๆที่ใครๆเห็นนี่ หลอกลวงแน่ๆเลย รอยยิ้มดีใจของพี่โอ๊ตที่ปิดไว้ไม่มิด ทำให้ผมดีใจไปด้วย


“ไอ้ปีย์ต้องอิจฉาพี่แน่ๆเลย หึหึ “และความเจ้าเล่ห์ก็กลับมาเมื่อเอ่ยถึงเพื่อน เราสองคนคุยกันไปเรื่อยกินขนมไปเรื่อยจนลืมเวลา

 เขาว่ากันว่า ถ้าได้อยู่กับคนที่เราถูกใจคุยกันได้ถูกคอด้วยเนี่ย เวลามักจะผ่านไปไวเสมอ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะตอนนี้ได้เวลาปิดร้านแล้ว

 เหมือนว่าพวกผมพึ่งจะได้นั่งคุยกันแป๊บเดียวเอง พวกเราลามัมวาดพร้อมกับเค้กกล่องใหญ่สองกล่องทั้งของผมและของพี่โอ๊ต 


“ไม้ เค้าจะกลับเข้าบ้านพร้อมมัม ไม้กลับห้องไปกับพี่โอ๊ตเลยนะ พี่โอ๊ตคะ ฝากแฟนบัวด้วยนะคะ อย่าให้แวะห้องสาวไหนนะ คนนี้บัวหวงค่ะ”

ผมเลิกคิ้วสูงเมื่อยัยตัวแสบอ้างว่าเป็นแฟนผม  เอาจริงๆการกระทำของเราสองคนเหมือนแฟนก็จริงแต่ไม่เคยบอกออกมาเป็นคำพูดเลยสักครั้ง

หนนี้ผมเลยอดที่จะแปลกใจไม่ได้ที่หนูบัวพูดไปแบบนั้น มีแผนอะไรอีกหนอยัยตัวยุ่ง

“ไปช่วยมัมเก็บร้านเลย ไม้กลับเองได้ไม่แวะห้องใครอยู่แล้วล่ะ มีบัวอยู่คนเดียวเนี่ย”ผมเลยอดแหย่ไปนิดๆไม่ได้ ยัยตัวแสบเอ๊ย

“กลับกันเถอะ “เสียงนิ่งๆของพี่มันเรียกให้ผมต้องโบกมือให้เพื่อน และเดินตามพี่โอ๊ตไปที่รถ

ท่าทางตึงๆของพี่โอ๊ต แปลกไปจนผมใจเสียว่าไปทำอะไรให้พี่เขาไม่พอใจหรือเปล่านะ 

ทั้งๆก่อนหน้านี้ยังอารมณ์ดีอยู่เลย สงสัยจะเหนื่อย  คงต้องบอกพ่อให้ถ่ายรูปกับพี่โอ๊ตเยอะๆไถ่โทษที่วันนี้ใช้แรงงานพี่มันไปจนเหนื่อยแบบนี้

พรุ่งนี้คงได้เห็นพี่ยิ้มเขินๆเหมือนวันนี้แน่ๆเลย หึหึ อยากเห็นซะแล้วสิ คืนนี้ต้องโทรไปบอกพ่อไว้ก่อนเดี๋ยวพาเซอร์ไพรส์ไปให้ พรุ่งนี้ต้องสนุกแน่ๆเลย

.
.
.
.
TBC

 น้องไม้ยังไม่ได้คิดอะไรนอกจา่กความซื้อและบื้อของน้อง แต่อิพี่นี่ ชักสงสัยแฮะ เหมือนจะหวงๆน้องนะว่าไหม

สถานะอยากได้เขาไปเป็นน้องชาย แต่จากพฤติกรรม พี่มันยังไม่รู้ตัวค่ะ :hao3: :hao3:

เงียบเหงาอะไรเช่นนี้หนอ  พันวาก็ยังตาม #ถ้ำหลวง อยู่เป็นห่วงเหมือนกัน แต่ก็ไม่ลืมที่จะพาน้องไม้คนหล่อกับพี่โอ๊ตคนซึนมาส่งน๊าา

ขอบคุณทุกกำลังใจที่เม้นท์ให้พันวาค่าาา  :L2: :L2: :L2: :L2:









« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2018 06:01:13 โดย พันวา »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น่าสงสารพ่อคนขี้หวง เจอหนูบัวแกล้งเข้าหน่อยทำหน้าตึงเชียว

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
เหมือนพี่จะออกอาการหึงน้องนะ 55555

ออฟไลน์ netich

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 227
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5



แผนที่ 9 เข้าทางผู้ใหญ่



  อินทัช



เมื่อวานผมได้เห็นอีกมุมของน้องไม้  น้องดูเป็นคนเรียบร้อยพูดจาเพราะหู ไม่มีหลุดคำหยาบมาสักนิด ยิ่งพูดกับหนูบัวนี่ไม่ต้องพูดถึงเลยครับ

หวานจนเลี่ยน หันมามองผมเอง เวลาอยู่กับพวกไอ้ปีย์นี่ถ้าได้อยู่กันครบ สวนสัตว์เปิดยังอายครับ สารพัดสัตว์จะพ่นใส่กัน

ดูแล้วเป็นคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจและดูได้เพลินตามองได้ไม่เบื่อยิ่งได้คุยยิ่งรู้สึกว่า ผมโชคดีที่ได้รู้จักเขา 

ว่าที่น้องชายผมน่ารักจนอยากอุ้มเอาไปเลี้ยงที่บ้าน แต่ถึงน้องจะน่ารักยังไง ผมกลับไม่ชอบใจตอนที่มีคนกอดน้องเต็มอ้อมแขนแบบนั้น

แม้ว่าผู้ชายคนนั้นจะตัวพอๆกันกับน้องก็ตาม สงสัยจะหวงน้องแน่ๆเลยผมนี่ขนาดไม่ได้มีสายเลือดเดียวกันยังหวงน้องขนาดนี้

 ไม่อยากคิดถ้าเป็นน้องชายผมจริงๆผมจะหวงน้องขนาดไหน

และยิ่งถ้าแม่ได้เจอน้องนะ คงเฉดหัวผมออกจากบ้านแทบไม่ทัน แม่ชอบให้ผมพูดเพราะๆ กับพี่อาร์ตด้วยพวกเราจะพูดเพราะตอนอยู่บ้านเท่านั้นแหละครับ ทำให้แม่สบายใจ


  เพราะแบบนี้เมื่อวานผมเลยไม่ค่อยกล้าพูดมากเท่าไหร่กลัวจะหลุดพูดไม่เพราะให้ระคายหูคนฟัง

 เมื่อวานจึงเป็นวันที่ผมพูดเพราะมากที่สุดในชีวิตเลย  กลับถึงห้องผมส่งรูปถ่ายให้ไอ้ปีย์มันอิจฉาเล่น สมน้ำหน้ามัน 

อยากจะบอกไอ้ปีย์ว่า แม่น้องบัวน่ะ น่ารักมากครับ ผมพอจะรู้อยู่บ้างว่าคุณเดโช มีภรรยาเป็นผู้ชาย ลูกๆคงเกิดจากการอุ้มบุญตามข่าวให้ไว้แบบนั้น

คุณภวัตแม่น้องบัวเป็นผู้ชายตัวเล็ก ที่ดูแล้วอายุไม่น่าจะถึงสามสิบเลย แต่มีลูกสาวเข้ามหาวิทยาลัยแล้วแบบนี้ ก็คงไม่ต่ำกว่าสามสิบล่ะ

แต่หน้าใสๆอ่อนเยาว์แบบนั้น มิน่าพวกเด็กวิศวะม.Y ถึงได้นั่งกันเต็ม ร้านนี้จะอยู่ใกล้ม.Y มากว่า ม.XS ที่ผมเรียนอยู่


 แต่ถึงอย่างนั้นผมก็ยังเห็นพวกนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยเดียวกันนั่งอยู่ในร้านไม่น้อย
 
ผมอยู่ช่วยน้องไม้กับน้องบัวเสิร์ฟกาแฟจนลืมเวลา    พูดถึงของหวานเป็นอะไรที่ผมไม่ชอบเลยครับ  แต่คงไม่ใช่กับอีกคน 

ท่าทางมีความสุขเมื่อพูดถึงของกิน  น้องไม้เป็นผู้ชายตัวสูงโปร่ง ที่ดูแล้วเหมือนพวกนักร้องเกาหลี ที่มีร่างเพรียวบางผิวขาว หน้าใส

รอยยิ้มน่ามองจนถอนสายตาไม่ได้  น้องมันมีเสน่ห์มากครับ สาวๆมองกันตาลอยเลยครับ ไม้ไม่ใช่คนคนตัวเล็กๆน่ารักเหมือนไอ้โอม 

ไม้เป็นผู้ชายทั่วๆไปที่ยิ้มง่ายแถมยังยิ้มสวยและหน้าตาดีมาก  เหมาะจะเป็นน้องชายผมอย่างยิ่ง ฮ่าๆๆ

ก่อนกลับคำฝากฝังให้ดูแลไม้ของน้องหนูบัวทำให้ผมรู้สึกขัดเคืองใจแปลกๆ   ก็แหมน้องชายทั้งคนผมต้องดูแลดีอยู่แล้วนี่ 

อยากดูแลเพราะเป็นน้องไม้ไม่ใช่ต้องดูแลเพราะเป็นแฟนของดาวมหาลัยหรอกนะ  เหอะ หงุดหงิดชิบหายเลย 

 เช้านี้ตื่นมาพร้อมกับความรู้สึกแปลกๆ อย่างแรกตื่นเต้นแปลกๆ ที่จะได้ไปเดทกับน้อง ไม่ใช่ๆ ผมหมายถึง น้องนัดเลี้ยงข้าว

แต่ที่ผมตื่นเต้นคงเป็นเพราะผมจะได้เจอกับไอดอลของผมหรอก  เพราะนอกจาก มิเชล ชูมาร์คเกอร์นักแข่งฟอร์มูล่าวัน (F-1) ระดับตำนาน คนนั้น

และ  มาร์ค มาร์เกซ แชมป์โลกโมโตจีพีคนล่าสุด  คุณทิวไผ่ก็เป็นหนึ่งในไอดอลที่ผมชอบมากที่สุด

เมื่อสิบปีก่อนที่พวกผมยังเป็นเด็กวัยรุ่นหัวรุนแรง มีโอกาสได้ชมการแข่งขันของมืออาชีพอย่างคุณทิวไผ่ มันถือเป็นสุดยอดที่คนไทยยังมีนักแข่งระดับนี้

และแน่นอน วันนี้ผมตื่นเต้นที่จะได้เจอคุณทิวไผ่ตัวเป็นๆ  ผมจะต้องทำตัวยังไงไม่ให้หลุดลุคมันยากยิ่งกว่าอะไร

กับการยืนนิ่งๆต่อหน้าคนที่เราปลื้ม โอยผมไม่อยากหลุดมาดต่อหน้าน้องนะ  เอ๊ะ นี่ผมห่วงอะไรอยู่เนี่ย


ผมมองดูร่างสูงเพรียวของน้องไม้  ที่นั่งรอที่ล็อบบี้ของคอนโด น้องนุ่งยีนส์สีซีดที่ขาดตรงหัวเข่าเหมือนตัวที่ผมใส่ราวกับนัดกันไว้

 นับเป็นกางเกงคู่ได้ไหม เอ๊ะ นั่นน้องครับน้อง อะแฮ่ม!!!

อาจจะเป็นยีนส์แบรนด์ดังที่ขายดีเลยซื้อมาซ้ำกันก็ได้อ่ะนะ ก็แค่กางเกงยีนส์ธรรมดาๆที่มีขายทั่วไป   

แต่พอน้องใส่กลับดูดีเสียจนผมมองไม่ละสายตา แถมวันนี้น้องยังใส่ใส่เสื้อเชิ้ตสีเหลืองอ่อนๆพับแขนมาถึงข้อศอก

 กระดุมเสื้อเปิดไว้สองเม็ดด้านบนมองเห็นแผงอกขาวๆ ที่ดูพอมีกล้ามเนื้อสวยไม่ได้เยอะแยะเหมือนผมแต่ดูลีนดูดี อ่า ขาวจัง  เฮ้ยๆม่ใช่ๆไม่ใช่

ผมแอบเห็นสาวๆที่เดินผ่านหน้าน้องไปเหล่มองน้องไม้จนคอจะหักตาจะกลับแล้วนั่น สาวๆตายเป็นเบือล่ะครับทำไมชอบเปิดกระดุมเสื้อจังก็ไม่รู้ 

ผมอดที่จะมองตัวเองไม่ได้ แม้ว่าความสูงที่ดูยังไงผมก็สูงกว่าน้องมากตัวหนากว่า กล้ามเนื้อมีเยอะกว่า หากถอดเสื้อโชว์ผมไม่อายใครแน่นอน

กับหุ่นแน่นๆของผม   แต่ว่าคนเข้าหาผมกลับไม่ค่อยมี คงเป็นเพราะผมชอบตีหน้านิ่งๆ ไม่สนโลก

ผิดกับน้องไม้ที่ส่งยิ้มสวยละลายใจไปให้คนอื่นบ่อยๆทั้งๆที่ไม่รู้จักกันสักนิด ยิ้มอยู่นั่นแหละ ฮึ่ม!

ผมเหมือนหมีตัวโต ที่ผู้คนหวาดกลัวแต่น้องมันเหมือนแมวน้ำหน้ายิ้มที่ทุกคนชอบมอง   .. อุ๋งๆเอ๊ยน่าบีบชะมัด 

เฮ้อ...ทำไมน้องถึงดูเหมือนเด็กวัยใส ที่ยังไม่พ้นมัธยมเลยนะ   ดูต่างกันขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ สาวๆสมัยนี้ยิ่งชอบผู้ชายแบบนี้ด้วย

ดูอย่างบอยแบนด์เกาหลี Got 7 อะไรนั่น  หรือไม่ก็นักร้องดังซุปตาร์คนดังอย่างเป๊กผลิตโชคนั่นสิ  สาวๆคลั่งใคล้กันทั่วบ้านทั่วเมือง 
 
ผมถอนหายใจก่อนจะเดินเข้าไปหาน้องไม้ที่นั่งจิ้มมือถืออยู่บนโซฟาตัวใหญ่ 

“ไง..มารอนานหรือยัง”

“พี่โอ๊ต สวัสดีครับ”

“...เอ่อ..หวะ หวัดดี “กระดุมเสื้อน้องงงงงงงงง จะเปิดกว้างไปไหน โว้ยยยยยยอยากจะบอกให้ติดกระดุมซะก็ไม่กล้ากลัวน้องหาว่าผมหื่น

ผมเปล่าหื่นนะ แค่เป็นห่วงน้องแค่นั้นเองจริงๆนะ   o8 o8

 น้องทักทายทั้งยังยกมือไหว้แบบที่น้องเคยชินแต่ผมไม่ชิน ผมยกมือรับไหว้แทบไม่ทันสายตาพยายามไม่โฟกัสอกขาวๆนั่น ฮึ่ม!!

เราห่างกันแค่สามปีเองครับ อย่าไหว้บ่อยสิ ผมดูเป็นตาแก่ไปเลยนะ ถ้าน้องจะไหว้ผมบ่อยๆแบบนี้ 

ไหนจะส่งยิ้มหวานมาให้แบบไม่เกรงใจอีก จะน่ารักไปไหนนะ 

 “ขอโทษที่ให้รอนานนะ “

“ไม่หรอกครับ ผมพึ่งมานั่งเองแป๊บเดียวไม่ถึงสิบนาทีเลย “

น้องรีบลุกขึ้ยืนและเดินเข้ามาหาผม  แต่สีหน้าที่ดูเหมือนคิดอะไรอยู่แถมคิ้วสวยๆนั่นขมวดแน่นจนผมอดที่จะทักออกไปไม่ได้
 
“ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”

“อ๊ะ ...เอ่อ คือแบบอิจฉาความสูงครับ ทำไมผมไม่สูงแบบพี่บ้างล่ะ ทั้งๆที่พ่อผมสูงเหมือนพี่เลยแท้ๆ “

น้องบ่นงึมงัมเบาๆแต่ผมก็ได้ยิน หึหึ   

“แบบนี้แหละหล่อแล้ว”แค่นี้แหละพอดีเลยเหมาะ

“โหย สู้พี่โอ๊ตไม่ได้หรอกครับ  “ท่าทางถอนหายใจไหนจะทำหน้าเซ็งๆแบบนั้นมันก็น่าเอ็นดูดีนะ

“หึหึ ไปเถอะเดี๋ยวสองคนนั้นจะรอนาน”

ผมเดินนำน้องไปที่ลานจอดรถของคอนโด  วันนี้น้องสองคนบอกจะเลี้ยงข้าวครับ เอาจริงๆ ผมว่าไอ้ปีย์คงไม่ยอมให้หนูบัวจ่ายหรอก

ผมเองก็ไม่ยอมแต่ที่ยอมมาด้วยเพราะคนนัดต่างหากหาใช่ของฟรีที่ไหน   จริงๆผมไม่รู้ว่าไอ้ปีย์มันไปทำวีรกรรมอะไรให้หนูบัวต้องขอโทษขอโพย

ด้วยการเลี้ยงข้าว ถามมันก็ไม่บอก มีความลับดีนักเดี๋ยวไม่ช่วยซะเลย  นี่ก็เลื่อนนัดมาจนจะครบเดือนแล้ว  ทันที่ที่เดินมาถึงรถของผม 

น้องมองดูรถด้วยความแปลกใจ  วันนี้ผมเอาPorsche Taycan มาครับ เป็นคันโปรดผมเลย แย่งกับพี่อาร์ตมาได้ 

ดูท่าทางน้องเองก็ชอบรถไม่น้อย



“เล่นรุ่นล่าสุดเลยแฮะ”เสียงน้องพึมพึมเบาๆเหมือนพูดกับตัวเอง ผมเลยได้ยินไม่ถนัด พอเข้าไปในรถได้ว่าจะถามแต่


เสียงโทรศัพท์มือถือน้องก็ดังราวกับต้องการขัดผมซะอย่างนั้น

Rrrrrrrrr

“ไงตัวแสบ โทรมาตามหรือไง  กำลังออกไปครับ “เสียงพูดไพเราะเสนาะหู ทำให้ผมรู้ได้ทันทีว่าหนูบัวโทรมา

//.ที่รักเค้าทวงสัญญาหน่อย วันนี้ตัวไปเดตกับพี่โอ๊ตสองคนเลย เค้าจะพาพี่ปีย์ไปโรงฝึกลุงพี .//

“อะไร..อย่ามาเนียน”

.//น้าๆๆๆ ถือว่าเป็นคำขอที่ตัวติดค้างเค้าไง แฟนขอแค่นี้ไม่ได้เหรอคะ ..//


คำว่าแฟนที่เล็ดรอดออกมาจากโทรศัพท์ทำให้ผมหงุดหงิดชอบกล 


“ครับๆ นี่วางแผนไว้ก่อนแล้วใช่ไหมตอบมานะ”

.//ไม่มี๊..วางแผนอะไร ไม่มีสักหน่อย แค่ลุงพีเรียกไปซ้อม เลยจะพาใครบางคนไปแนะนำตัวด้วย คิกคิก //

“เฮ้อ ตัวแสบเอ๊ย อย่าเล่นแรงล่ะ ไม้สงสารพี่เขา ไม่ไม่ได้แนะนำให้บัวรังแกคนอื่นนะ ”

 เสียงถอนหายใจคล้ายๆว่าจะปลงอะไรสักอย่างของน้องไม้ ทำให้ผมเหลือบไปมองเล็กน้อยก่อนจะตั้งใจขับรถและกางหูแอบฟังน้องคุยกับแฟน เหอะ ห่างกันไม่ได้เลยนะ 


.//เค้าจะลองดู ไม้ก็ต้องลองเหมือนกัน พี่โอ๊ตน่ารักนะไม้ แต่บัวก็ยังไม่ไว้ใจเต็มร้อยหรอก  //

“พูดแบบนี้ เรามีเคลียร์กันนะตัวยุ่ง จะซักให้ขาวเลยคอยดู “น้องไม้กดวางสายก่อนจะหันมาหาผมที่ทำเป็นไม่ได้ยิน

ถึงแม้ว่าจะได้ยินเสียงเล็ดลอดมาบ้างแต่ก็จับต้นชนปลายไม่ถูกอยู่ดีครับ

“พี่โอ๊ตครับ”

“ครับ”

“คือหนูบัวต้องรับเข้าโรงฝึกวันนี้ครับ และคงพาพี่ปีย์ไปด้วย  วันนี้คงเหลือแค่เราสองคนที่ต้องไปกินข้าวแล้วล่ะครับ “

ยะฮู้วววววววววว ไม่มีก้างแล้วโว้ยยยทางสะดวก เอ๊ย ไม่ใช่สิ จะดีใจทำไมเนี่ย แต่เดี๋ยว..ก่อน โรงฝึกเหรอ ฝึกอะไร?


“โรงฝึกเหรอครับ?”


“ครับ คือ ..บ้านลุงพีจะเป็นโรงเรียนน่ะครับ เป็นโรงเรียนสอนศิลปะการป้องกันตัวและการต่อสู้ครับเลยมีโรงฝึก
บัวต้องไปสอนเด็กๆบางวันน่ะครับสงสัยยัยตัวแสบจะลืมวัน เลยนัดซ้อนพี่ๆน่ะครับต้องขอโทษด้วย เอาเป็นว่า ผมเลี้ยงพี่เองละกันนะครับขอโทษที่ทำให้เสียเวลา “


“หึหึ ได้ครับเอาตามที่น้องไม้สะดวกเลย”

แม้ว่าผมจะดีใจที่ไอ้ปีย์และน้องบัวมาไม่ได้ (ไม่รู้จะดีใจทำไไม) แต่โรงเรียนฝึกศิลปะป้องกันตัวงั้นเหรอ ความรู้ใหม่เลยนะ

แล้วไอ้ปีย์มันรู้หรือยังล่ะหนอ ก็พอจะรู้ว่าข้อมูลที่ไอ้ปีย์หามา ครอบครัวน้องบัวโหดไม่ใช่น้อย แต่ถึงขั้นมีโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้นี่

ผมว่าไม่ธรรมดาแล้วครับ  ขอไว้อาลัยให้เพื่อนรักของผมสักสิบนาที ฮ่าๆๆๆ


“เอางั้นเหรอครับเอ..อืม... พี่โอ๊ตชอบกินอาหารไทยไหมครับ “

“ก็ชอบนะ พี่เป็นคนไทย”ไม่ได้ตั้งใจจะกวนน้องนะครับ พูดจริงๆเลย ผมชอบอาหารไทย แบบไทยแท้ๆ เลย

“งั้นจะเป็นไรไหมถ้าไม้ขอเปลี่ยนแผนนิดหน่อยขอเปลี่ยนจาก Cafe'Blue เป็นร้านอาหารไทยได้ไหมครับ”


“ได้ครับ บัญชามาเลย ครับผม”


น้องไม้หัวเราะเสียงใสมันน่าจับแก้มบิดๆให้หายมันเขี้ยวจริงๆ อ่า..ผมว่าผมชักจะกลัวตัวเองแล้วล่ะครับ

มีผู้ชายที่ไหนเขาอยากบิดแก้มผู้ชายด้วยกันบ้าง แล้วน้องไม้ก็ไม่ใช่ผู้ชายแก้มเยอะเหมือนไอ้โอม แต่ผมก็มองว่าน้องมันน่ารักน่าเอ็นดู

“งั้น พี่โอ๊ตชิดขวาแล้วเทิร์นด้านหน้าเลยครับ”

“รับทราบครับ”ได้รับรอยยิ้มกว้างพร้อมเสียงหัวเราะเป็นรางวัล มีความสุขจริงๆ ต้องพาน้องไปบ้านผมให้ได้สักวันคุณนายคงชอบ
 
เราสองคนแวะร้านอาหารไทยที่น้องไม้บอกว่าอร่อยมากๆ เป็นร้านที่หนูบัวชอบชื่อร้านเรือนไทย   

เฮ้อ มากับผมแต่พูดถึงแต่แฟน ไอ้คนไม่มีแฟนแบบผมมันไม่เข้าใจน่ะครับอะไรจะพูดถึงกันได้ตลอดเวลาขนาดนี้ เซ็ง :onion_asleep:



น้องสั่งเมนูขึ้นชื่อมาสองเมนู ผมสั่งเพิ่มอีกสองอย่าง อาหารสี่อย่างคนสองคน อย่าคิดว่าเยอะครับ แต่น้องไม่บอกว่า


“อย่าพึ่งกินเยอะครับ เดี๋ยวพี่ต้องไปชิมฝีมือคนๆนึง ผมจะบอกว่าอร่อยมาก ที่แวะร้านนี้ก่อนกลัวพี่จะหิว  รองท้องไปก่อนเนอะ”

น้องว่าแบบนั้นผมก็ตามใจครับ วันนี้ไม่ขัดน้องเลยสักอย่าง เราสองคนกินข้าวไปคุยกันไปเรื่อยๆ ส่วนมากก็เรื่องของไอ้ปีย์กับน้องบัว

รู้สึกว่าน้องไม้จะถามเรื่องของปีย์มากกว่าผมล่ะกลัวว่าน้องจะรู้ว่าไอ้ปีย์มันคิดไม่ซื่อกับแฟนน้อง เฮ้อ .เครียด

ใช้เวลาไม่นานเราสองคนก็จัดการอาหารตรงหน้าซะเกลี้ยง จากที่คิดว่าจะรองท้องไหงกลับอิ่มตื้อซะขนาดนี้ 

ผมไม่ได้ทวงเรื่องที่น้องบอกว่าจะพาไปหาคุณทิวไผ่  แต่หลังจากเช็คบิล ที่น้องเป็นคนจ่ายเพราะให้เหตุผลว่าเลี้ยงผมตามเจตนาเดิม

 ผมก็เลยปล่อยให้น้องจ่าย  แต่ผมมีข้อแม้ว่าคราวหน้าผมจะเลี้ยงน้องเอง ซึ่งเจ้าตัวก็เอาแต่หัวเราะราวกับถูกใจนักหนา ไม่รู้มีอะไรให้ขำ


เราออกจากร้านอาหารหลังจากอิ่มหนำสำราญดี  น้องไม้บอกทางให้ผมขับไปเรื่อยๆ

 ผมขับตามคำบอกทางของน้องไม้  ผมไม่รู้ว่าน้องจะพาผมไปไหน เส้นทางที่ไม่คุ้นเคย แต่ผมก็ขับไปเรื่อยๆ จนมาถึงหมู่บ้าน

 ที่ผมต้องขมวดคิ้ว เหมือนจะเคยมาแต่นึกไม่ออก  ผมขับเข้าไปด้านในไม่ไกลเท่าไหร่ก็เจอบ้านหลังใหญ่

เป็นบ้านสไตล์ร่วมสมัยที่ผสมผสานระหว่างบ้านยุคก่อนกับการตกแต่งสมัยใหม่ที่ดูเรียบง่ายแต่หรูหรา

 เป็นบ้านที่รู้สึกว่าเป็นบ้านจริงๆเมื่อผมจอดรถ มีผู้หญิงวัยกลางคนที่ยังดูสวยอ่อนกว่าวัยรูปร่างเพรียวบางมีรอยยิ้มสวยเหมือนคนที่นั่งข้างๆผมนี่

 ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเป็นแม่น้องไม้ชัวร์พาผมเข้าบ้าน โอ้มายพระ !! ผมไม่ทันตั้งตัวเลยให้ตายเถอะ 

แม้จะรู้อยู่แล้วว่าน้องจะพามาหาคุณทิวไผ่ แต่ผมก็ยังตั้งตัวไม่ทันอยู่ดี

น้องไม้เปิดประตูรถลงไปพร้อมกับเดินเข้าไปสวมกอดสาวสวยที่มีวงหน้าละม้ายคล้ายคลึงกัน


“แม่ครับ นี่พี่โอ๊ต ที่ไม้เล่าให้ฟังไง “เล่าให้ฟัง ? น้องมันเล่าอะไรให้แม่ฟังกันนะ รอยยิ้มของแม่ถึงได้กว้างขนาดนั้น

“สวัสดีครับ “ผมยกมือไหว้พร้อมทั้งยิ้มส่งไปให้เห็นรอยยิ้มแล้วอยากฝากตัวเป็นลูกบ้านนี้ชะมัดเลย

“สวัสดีจ้ะ พี่โอ๊ตได้เจอตัวสักทีนะ “


คุณแม่ของน้องรับไหว้และคำขานรับที่ผมต้องชะงักในความคิด แต่แทนที่จะเดินเข้าบ้านแม่กลับเดินเข้ามากอดผมจนผมสะดุ้งตั้งตัวไม่ทัน
 
“แม่ครับ ไปกอดพี่เค้าได้ไง “

น้องไม้หน้าตาตื่นมาดึงแขนแม่ออกไป แต่คนสวยที่กอดผมอยู่ไม่ยอมปล่อยแถมยังหัวเราะชอบใจ มีแต่ผมที่ยืนเกร็งเพราะไม่รู้จะทำยังไง

มือไม้มันเกะกะ จะกอดตอบหรือก็ไม่แน่ใจว่าควรหรือเปล่าจะผลักไสก็ใช่เรื่อง ผมเลยได้แต่ยกมือเกาจมูกด้วยความเคยชินเวลาทำอะไรไม่ถูก

“อะแฮ่ม...ปล่อยเลยครับแม่นุ่นเดี๋ยวนี้พาชู้เข้าบ้านต่อหน้าผมเลยเหรอครับ”

เสียงทุ้มดังขึ้นตรงประตูบ้านเล่นเอาผมสะดุ้งโหยงสุดตัว ผู้ชายตัวสูงใหญ่ ในชุดกางเกงขาสั้นสีครีมกับเสื้อยืดสีขาวพอดีตัว

 ทำเสียงเข้มใส่ผม แต่ใบหน้านั้น โอ้..มายพระ!!!  น้องไม้เวอร์ชั่นกัปตันอเมริกาครับ หน้าสวยก๊อปปี้กันมาเลยต่างแค่ร่างกายเท่านั้น

คุณทิวไผ่ที่มีรูปร่างสูงใหญ่กว่าผมแถมกล้ามแขนที่โผล่พ้นเสื้อยืดแขนสั้นมานั้นทำผมรู้สึกสยองๆยังไงไม่รู้

 “เอ่อ..สวัสดีครับ”ผมรีบยกมือไหว้คุณทิวไผ่ พ่อน้องไม้ทั้งๆที่ยังโดนคุณแม่กอดไม่ปล่อย

“พ่อครับแม่ครับ เลิกแกล้งพี่เค้าได้แล้ว ไม้หิว เข้าบ้านๆ พี่โอ๊ตมาทางนี้ดีกว่าครับ”

น้องไม้ช่วยชีวิตผมโดยแท้ น้องมาดึงเอามือผมแล้วลากเข้าบ้านต่อหน้าต่อตาของพ่อกับแม่ น้องครับ มือๆ มื๊ออออออ


 สายตาผมจ้องที่มือน้องที่ยังจับมือผมเอาไว้แล้วลากเข้าบ้านด้วยความรู้สึกแปลกๆ โอยผมหัวใจจะวาย สายตาคุณทิวไผ่ที่มองมา

เหมือนจะเขมือบหัวผมเลยเพราะน้องมันเล่นจับมือผมลากจูงเข้าบ้านแบบนี้ มีเพียงแม่น้องไม้ที่ หัวเราะคิกคักเหมือนอารมณ์ดี 



 “พาพี่เขาไปห้องทีวีเลยลูก “

“ครับๆ”น้องไม้รับคำกับเสียงตะโกนไล่หลังมาของแม่

ด้านนอกว่าบ้านสวยแล้ว ด้านในนี่สวยมากจนผมอดที่จะมอมงรอบๆไม่ได้ ถ้าไอ้ต่ายมาเห็นมันต้องชอบบ้านหลังนี้มากๆแน่เลย

ไอ้ต่ายมันชอบออกแบบบ้าน มันรับจ็อปเรื่อยๆได้เงินมากโขเลยทีเดียว บ้านที่มันออกแบบก็แนวๆนี้เลยครับ แนวร่วมสมัยที่มันชอบ


“กินอะไรกันมาหรือยังคะลูก  เดี๋ยวรอแม่แป๊บนึงนะ พ่อไผ่มาช่วยแม่นุ่นเลยค่ะ ให้เด็กๆเขาคุยกันไป”

“กินมาแล้วครับแม่ แต่มื้อเย็นฝากแม่แสดงฝีมือด้วยนะครับ “


เพราะตอนนี้มันบ่ายแล้วครับ น้องไม้เลยบอกไปแบบนั้นซึ่งผมเห็นด้วยเพราะตอนนี้ท้องผมยังแน่นอยู่เลย 

แม่น้องไม้รับคำแล้วจูงมือคุณทิวไผ่ออกไปจากห้อง


สองสามีภรรยาเดินเคียงคู่กันออกไปแล้วคงเหลือแค่ผมกับน้องที่นั่งดูทีวีเหมือนไม่มีอะไรทำ    ผมมองสำรวจบ้านที่ตกแต่งเรียบๆแต่ดูหรูหรา

“พีโอ๊ตไปหลังบ้านกันดีกว่าครับผมมีเพื่อนอยากแนะนำให้รู้จัก  “

น้องไม้ลุกเดินนำผมออกไปทางประตูหลังบ้าน  แค่เพียงเปิดประตูออกสู่สนามหญ้าหลังบ้าน เราสองคนก็ถูกจู่โจมทันที

“มาลี !! มาร์ค !! พอเลยอย่าเลีย โอ๊ยยยฮ่าๆ “ เสียงหัวเราะทั้งยังทิ้งตัวลงไปคลุกกับพื้นหญ้าโดยมีเจ้าตัวสีส้มสองตัวคลุกวงในไม่หยุด


“พอๆ นั่งๆ พี่ไม้มีแขกครับ เห็นไหมนั่งเลยๆ”

เหมือนคนกับหมาจะคุยกันรู้เรื่อง โกลด์เด้นสองตัวนั่งลงข้างๆน้องไม้หน้ามันทั้งคู่เหมือนส่งยิ้มมาให้ผม

 เจ้าตัวยักษ์ใจดีขี้เล่นสองตัวนั่งนิ่งได้เพียงครู่เดียวก็กระโจนเข้าหาผม


“เฮ้ย!!”

“ฮ่าๆๆ”


เสียงหัวเราะของน้องไม้ที่เห็นผมเพลี่ยงพล้ำให้เจ้าสีส้มสองตัว เหมือนจะรู้สึกสะใจที่เห็นผมลงไปคลุกกับพื้นหญ้าเหมือนเขา

เราเล่นกันสักพัก ก็นอนแผ่หลาบนผืนหญ้า เงยหน้ามองท้องฟ้าที่มีแมกไม้ปกคลุมให้ร่มเงา  อากาศไม่ร้อนอย่างที่คิด

คงเพราะต้นไม้นานาพันธุ์ที่ปลูกเรียงรายรอบๆสนามหญ้า เราสองคนนอนหอบหายใจด้วยความเหนื่อยอ่อน

มีเจ้าตัวสีส้มสองตัวนอนขนาบเราทั้งคู่ แถมพวกมันยังเอาหัวเกยที่ท้องของผมกับน้องไม้อย่างสบายใจ

ผมยกมือลูบหัวเจ้าตัวโตเมื่อเห็นน้องไม้ทำ  น้องโกลด์เด้นหลับตาพริ้มราวกับกำลังมีความสุขเสียเหลือเกิน


“เจ้าตัวที่นอนทับพี่อยู่เป็นสุดหล่อชื่อมาร์ค ส่วนตัวนี้สาวสวยชื่อมาลี “ผมหัวเราะเบาๆกับชื่อที่ต่างกันราวฟ้ากับเหวของเจ้าสี่ขา

“ใครเป็นคนตั้งชื่อเนี่ย”

“พี่ทายสิครับ”

“อืม...มาลีนี่ ไม้ตั้งแน่ๆ ส่วนมาร์ค คุณพ่อตั้งใช่ไหม”ผมเดาจากบุคลิกครับ

“เก่งๆ “น้องมันหัวเราะเบาๆเมื่อผมตอบออกไป

“แต่ ..ถูกครึ่งเดียวครับ มาลีน่ะผมตั้งชื่อเอง ใช่  แต่มาร์คน่ะไม่ใช่พ่อผมหรอกครับ  เจ้าหนูบัวตัวแสบเลยครับ ขานั้นเป็นติ่ง Got 7 ชอบพี่มาร์คมากเลยเอาชื่อมาตั้งให้หมา ฮ่าๆๆ ผมล่ะสงสารมาร์คมากเลยนะ  หึหึ “


ดูเหมือนสองคนจะมีสตอรี่ร่วมกันมายาวนาน  จนผมชักจะอิจฉา ซะแล้วสิ


“พี่โอ๊ตครับ “จู่ๆน้องมันก็เงียบไป ทำให้ผมที่นอนหงายมองท้องฟ้าอยู่ต้องหันหน้ามามองน้องที่นอนอยู่ข้างๆ

พอผมขยับตัวไอ้ตัวส้มก็หรี่ตาข้างหนึ่งขึ้นมองผมจนผมต้องตบหัวมันเบาๆ


“ว่าไงครับ”

“พี่กับเพื่อนๆ เป็นเพื่อนกันมานานหรือยังครับเล่าให้ผมฟังมั่งสิ”

“อืม..กับปีย์น่ะ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆเลยครับ  ส่วนไอ้นายกับไอ้ต่ายมารู้จักกันตอนเรียนมัธยมแต่ไอ้เตี้ยโอมนี่พึ่งจะรู้จักกันตอนเข้าเรียนปีหนึ่ง อยากฟังวีรกรรมพวกมันไหมล่ะ “


“ฮะๆ ดีจังเลยนะครับ ผมน่ะ เคยมีเพื่อนแบบพี่ๆเหมือนกันแต่มันก็...ช่างเถอะ ผมน่ะดีใจที่ได้รู้จักพวกพี่ๆนะ เหมือนผมพึ่งจะมีเพื่อนตอนเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเลย เจ้าบัวตัวยุ่งต้องติดแหง็กกับผมมานานมากคงถึงแวลาปล่อยมันสักที”


คำพูดที่ฟังดูแปลกๆ น้ำเสียงเศร้าๆ  สายตาที่เหม่อมองไปที่ท้องฟ้ากว้างข้างบนนั่นเหมือนน้องกำลังทุกข์ใจ

 และท่าทางอยากจะเล่าอะไรบางอย่างของน้องแต่ตัดฉับเปลี่ยนเรื่องทำให้ผมต้องเก็บความสงสัยเอาไว้ในใจ

 คงต้องให้เวลาอีกสักพัก กว่าน้องจะเล่าอะไรให้ผมฟัง แต่ผมกลับอยากเล่าทุกเรื่องให้น้องฟังนะ

 ผมว่าถ้าผมเปิดรับน้องเข้ามาในกลุ่มของพวกผมก็ต้องเล่าเรื่องราวของตัวผมให้น้องได้รู้จักบ้าง

อย่างน้อย เรื่องที่ผมเล่าคงทำให้น้องยิ้มมากกว่าจะทำหน้าเศร้าๆแบบนั้นผมไม่ชอบเลย  แม้ว่าเราจะสนิทกันแบบงงๆ

แต่ผมก็รู้สึกเอ็นดูน้องชายต่างสายเลือดคนนี้พอสมควร    ผมเล่าเรื่องที่เจอกับไอ้โอมครั้งแรกให้น้องฟัง

 เสียงหัวเราะ ดังเป็นระยะๆ เจ้าสี่ขาสีส้มสองตัวลุกออกไปวิ่งเล่นกับสปริงเกอร์ที่ฉีดน้ำอยู่อีกมุมของสนามหญ้า   

ผมเล่าไปเรื่อยๆ จนรู้สึกว่า น้องเงียบไปไม่โต้ตอบผมเหมือนเดิมจนผมต้องชะโงกหน้าไปมอง    หึหึ หลับไปได้ยังไง นะ น่ารักจริงๆให้ตายเถอะ


“ชู่ว์ “เสียงจุ๊ปากเบาๆดังขึ้นเมื่อผมลุกขึ้นนั่ง พ่อน้องไม้มายืนอยู่ข้างหลังผมตอนไหนไม่รู้ 

ร่างสูงใหญ่ก้มลงช้อนเอาตัวลูกชายไว้ในอ้อมแขนท่าทางอ่อนโยนและเต็มไปด้วยความอบอุ่น

ที่ปฏิบัติกับลูกชายที่เข้าเรียนมหาวิทยาลัยแล้ว เหมือนเด็กชายตัวน้อยวัยอนุบาลผมอมยิ้มกับภาพนั้น 



“หลับทิ้งแขกได้ยังไงนะเจ้าลูกชาย”เสียงคุณแม่นุ่นที่เดินตามมาเอ่ยเบาๆ

“พี่โอ๊ตเข้าบ้านกันค่ะ ให้น้องไม้นอนพักสักหน่อยดีกว่าเนอะ พี่โอ๊ตไม่รีบไปไหนใช่ไหมคะ”

“ไม่รีบครับ “

“ถ้าอย่างนั้น ไปนั่งตรงนู้นกัน แม่มีผลไม้กับของว่างระหว่างรอเจ้าลูกหมูตื่น “


ผมเดินตามคุณแม่ของน้องเข้ามาที่ห้องเดิม  ด้านข้างมีโซฟาเบดตัวใหญ่ที่คุณทิวไผ่คงกางรอลูกชาย

 เขาวางน้องไม้ลงเบาๆก่อนจะเดินมานั่งที่โซฟาตรงข้ามกับผมและคุณแม่
 
ห้องนี้เป็นกึ่งๆห้องรับประทานอาหารและห้องบันเทิง  ทีวีจอยักษ์ที่ติดอยู่ผนังบ้านในแบบบิวท์อิน 

เสียงเพลงบรรเลงเบาๆบรรยากาศเหมือนอยู่ในร้านอาหารมากกว่าอยู่บ้าน แต่ผมก็ยังคงเกร็งเพราะสายตาที่จ้องมาของคุณทิวไผ่


“เรียนอะไรอยู่น่ะเรา”ผู้ใหญ่ที่คงกลัวผมเกร็งจนตัวแข็งเป็นฝ่ายเริ่มชวนพูดคุยเสียก่อน

“วิศวะครับ ปีสามแล้วครับ”

“จบแล้วคิดจะไปทำอะไร”

“ก็วางแผนไว้ว่าจะช่วยพ่อทำงานน่ะครับ”

“ที่บ้านมีธุระกิจเองเหรอ”

“ครับ “

“พ่ออย่าทำเสียงแข็งแบบนั้นสิพี่โอ๊ตตกใจหมด “คุณแม่นุ่นหันมายิ้มกับผม ราวกับว่าจะปลอบใจที่ผมนั่งตัวเกร็งเหมือนโดนสอบสวน


“นานแล้วนะที่พ่อกับแม่ไม่ได้เห็นไม้หัวเราะเต็มเสียงแบบนี้กับเพื่อนผู้ชาย  ขอบใจพี่โอ๊ตนะคะ  ที่เข้ามาเป็นเพื่อนกับน้อง “

ผมว่ามันต้องมีอะไรแน่ๆ ท่าทางแปลกๆกันทั้งบ้านทำให้ผมแอบสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆก่อนจะกลั้นใจเอ่ยประโยคที่คาใจของผมออกไป

“บอกผมได้ไหมครับว่าเกิดอะไรขึ้นกับน้อง”พ่อน้องไม้จ้องหน้าผมเขม็งต่างจากคุณแม่ที่ยังส่งยิ้มอ่อนโยนมาให้

“พี่โอ๊ตพอจะมีเวลาฟังสักหน่อยไหมล่ะคะ ระหว่างรอเจ้าลูกหมูตื่น”


“ครับ”


ผมรับคำเสียงหนักแน่น ผมต้องรู้ให้ได้ว่าเพราะอะไรน้องไม้ถึงได้มีสีหน้าเศร้าสร้อยขนาดนั้น

ผมอยากเห็นรอยยิ้มของน้อง อยากเห็นน้องมีความสุขมากกว่าท่าทางเป็นทุกข์แบบนั้น มันไม่เหมาะกับน้องเอาเสียเลย 

.
.
.
.
TBC....

 อิพี่ยังไม่รู้ตัวว่าทั้งหวงทั้งห่วงน้องมากกว่าสถานะ ที่อยากได้น้องไป อยากจะแหมมมมมยา่วไปจนรถึงดาวอังคาร 55555


ส่วนน้องก็มีปมเล็กๆ แต่ดูท่าทางพ่อกับแม่แล้ว พี่โอ๊ตว่าปมนั้นคงไม่เล็กแน่ๆเลย

น้องไม้เป็นลูกคนเดียว และปมของน้องทำให้พ่อกับแม่ค่อนข้างทนุถนอมน้องมากกว่าปรกติ  แต่ภาพลักษ์น้องไม้นี่ก็เหมือนผู้ชายแมนๆ ที่ค่อนข้างสำอางค์อ่ะนะ 555

ขอบคุณทุกคนที่ยังติดตามและเม้นท์ให้กำลังใจเนอะ  เจอคำผิดสะกิดพันวาด้วยนะค๊าาาาาา


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2018 06:02:32 โดย พันวา »

ออฟไลน์ oki

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 300
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +14/-0
เพิ่งเห็นว่ามีตอนใหม่ ติดตามนะคะ รอ น้องไม้ใจอ่อนน

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
ยกมืออยากรู้อดีตน้องไม้ด้วยจังเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Chompoo reangkarn

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1089
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-0

ออฟไลน์ lcortsess

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 173
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-3
 อดีตไม้เป็นยังไงน้ออออออออ
งื้ออออออออ
รออออออออ
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ปมในใจนี่คงเกี่ยวกับเพื่อนวัยเด็กหรือวัยรุ่นหว่า

แล้วก็อาจจะเป็นแบบเพื่อนที่คิดเกินเพื่อนจนเกิดปัญหาแบบเลือดตกยางออกมั้ง

ป.ล. อย่าถือสา  มโนล้วน ๆ

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5
แผนที่ 10   ผูกมิตร



วนันต์


ผมรู้สึกโล่งไปหมดทั้งหัว สมองสดชื่นแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อน คงเพราะได้หลับแบบเต็มอิ่ม ผมมองไปทั่วห้องที่มีแสงไฟ สลัวๆ

ทีวีไม่ได้ถูกเปิดแต่ม่านบังแสงถูกดึงลงมาทั้งห้อง คงกันแสงรบกวนตอนผมหลับ  ความเงียบภายในห้องนั่งเล่นทำให้ผมลุกขึ้นนั่ง 

พ่ออุ้มมานอนแน่ๆเลย  ทำเหมือนผมเป็นเด็กชายตัวน้อยเมื่อครั้งยังเด็ก อันที่จริงผมไม่ใช่คนตัวเล็กนะครับ

สูง 177 เซ็นติเมตร น้ำหนัก 68  กิโลกรรม ผมไม่ได้อ้วนครับแต่มีกล้ามเนื้อจากการเล่นกีฬา

 เพราะแบบนี้ผมไม่ได้ตัวเบาๆนะครับ แต่พ่อผมน่ะ ตัวใหญ่มากต่างหาก นี่เป็นข้อที่ผมอิจฉากระทั่งพ่อตัวเอง 



บ่อยครั้งที่ผมหลับนอกห้องนอนแล้วตื่นขึ้นมาในห้องนอนตัวเอง บอกได้เลยพ่ออุ้มผมมา ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกัน

แต่ที่ต่างออกไปคือผมนอนโซฟาเบดตัวใหญ่ในห้องนั่งเล่นไม่ใช่ห้องนอนอย่างที่เคย   

ผมลุกเดินตรงไปห้องรับแขกอีกห้องที่เอาไว้ต้อนรับคนมาเยือน  ดูเหมือนพ่อแม่จะมีลูกชายคนใหม่ ผมอดที่จะยิ้มไม่ได้

 เพราะพี่โอ๊ตแลดูเป็นเหมือนพี่ชาย เหมือนคนที่เป็นผู้ชายที่เข้มแข็ง และแข็งแรง รอยยิ้มน้อยๆ ที่ถูกส่งให้ทั้งพ่อและแม่ดูละมุนตา 

พี่เขามีเสน่ห์อย่างหาตัวจับยาก หล่อด้วยนิสัยดีอีก โอ๊ยนี่ผมจะมาบรรยายความดีพี่เขาทำไมกันนะ  คงเป็นเพราะความสบายใจ

เวลาอยู่กับพี่โอ๊ต  ทำให้ผมไม่ต้องกังวลว่าเหตุการณ์พวกนั้นมันจะกลับมา



“อ้าวตื่นแล้วเหรอลูก ดูซิมาหลับทิ้งพี่เขาได้ยังไง น่าตีจริงๆเลย”แม่เอ็ดผมแบบไม่จริงจังนัก แต่ผมก็ทำได้เพียงหัวเราะแห้งๆอย่างสำนึกผิดจริงๆ

“แหม ไม้เปิดโอกาสให้พี่โอ๊ตคุยกับพ่อเถอะ  “แถไปครับ ก็มันเขินนี่อยู่ดีๆหลับกลางอากาศเลย

แม่หัวเราะคิกคักอารมณ์ดี พ่อได้แต่กระแอม เหมือนมีอะไรติดคอ  เขินล่ะสิ หึหึ มีแฟนคลับมาหาถึงบ้าน

พี่โอ๊ตก็เอาแต่ยิ้ม แต่ว่านะ สายตาพี่มันแปลกๆไม่รู้สิครับ ผมรู้สึกว่าพี่เขามองผมแปลกไป  มันดูอ่อนโยนแปลกๆ
 
“ขอโทษครับ เมื่อคืนคงนอนดึก  เผลอหลับไม่รู้ตัวเลย”

ผมยกมือเกาหลังคอแก้เก้อ รู้ดีว่านั่นคือข้ออ้าง ที่จริง คงเพราะความสบายใจที่ไม่ได้รู้สึกมานานแล้ว จึงทำให้ผมเผลอหลับไปแบบนั้น

 ผมอยู่กับพี่โอ๊ตแบบไม่ต้องระวังอะไร ไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ใครเจ็บปวดหรือทำใครเสียใจอีก 


“อืม ไม้ต้องเลี้ยงข้าวไถ่โทษนะ..และต้องเป็นฝีมือไม้ด้วย  “

ท่าทางขี้เล่นของพี่โอ๊ตผมไม่ชินเอาเสียเลย ดูท่าพ่อกับแม่จะเข้าข้างพี่โอ๊ตเสียด้วย เพราะทันทีที่พี่มันพูดแบบนั้น

ทั้งพ่อและแม่ก็พร้อมใจกันพยักหน้ารัวๆ เลย



“ไหงเป็นงั้นล่ะครับ นี่ผมพาพี่มาหาไอดอลเลยนะ ทั้งถ่ายรูปคู่ทั้งได้ลายเซ็น ยิ่งกว่าแฟนมีตอีก นี่มันพิเศษสุดๆเลยน๊า”

ผมว่ากลั้วเสียงหัวเราะ เพราะพี่โอ๊ตทำหน้าเขินๆเมื่อผมจับถูกจุด หึหึ พี่เขาก็น่ารักดีนะครับมีมุมแบบนี้ด้วย


“ไปแซวพี่เขา ดูสิ  เดี๋ยวแม่ไปทำมื้อเย็นก่อนนะ วันนี้พี่โอ๊ตคงต้องกินฝีมือแม่ไปก่อนนะคะ  ไม้ไปอาบน้ำเจ้าสองแสบให้ก่อนเลยครับ ก่อนจะค่ำ “

แม่บอกผมพลางชี้ไปที่เจ้าสองแสบที่เล่นโคลนจนเลอะเทอะไปทั้งตัว

“โหยยยยย  “ผมโอดครวญทันทีที่มองเห็นสภาพเจ้าเพื่อนซี้สองตัวของผม

“เดี๋ยวพี่ช่วย”รอยยิ้มอ่อนโยนของพี่โอ๊ตที่มองดูเจ้าสองตัวนั่นทำผมสะดุดลมหายใจ  ไปชั่วครู่ อย่ามาแย่งเพื่อนผมนะ

  นั่นเป็นความคิดแว่บแรกที่เห็นเจ้าสี่ขาสองตัวแกว่งหางใส่พี่โอ๊ตราวกับจะกระโจนเข้าหาชวนไปเล่นด้วย

 โดนหมาเมินล่ะ เจอเพื่อนใหม่ล่ะแกว่งหางให้เขาเลยนะ เฮ้อ..


“ทำหน้าแบบนั้นเหมือนเจ้ามาร์คเลย หึหึ”


มือหนาที่ตบปุๆลงบนหัวผมทำให้ผมยิ้มกว้าง อือ..รู้สึกดีแฮะ

“ถ้าจะช่วยผม พี่โอ๊ตต้องไปเปลี่ยนชุดก่อนครับ ชุดนี้อาบน้ำเจ้าสองตัวนี้ไม่ได้หรอกเยินหมดแน่ๆ  “

ผมมองดูสภาพเจ้าสองแสบของผมที่มีแต่โคลนเต็มตัว  และด้วยนิสัยชอบเล่นน้ำของพวกมันแน่นอนว่าพี่โอ๊ตต้องเปียกแบบไม่เหลือดีแน่ๆ


ผมเอาเสื้อยืดและกางเกงวอร์มขาสั้น ของผมให้พี่โอ๊ตเปลี่ยน แม้ว่าพี่เขาจะตัวโตกว่าผม แต่เพราะผมชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆอยู่แล้ว

 เสื้อผ้าของผมจึงไม่เป็นปัญหาของพี่โอ๊ต แค่แลดูพอดีตัวนิดหน่อย   เจ้าสองแสบวิ่งรี่เข้าหาทันที่ที่พวกผมจับสายยาง

และลากกะละมังใบใหญ่ไซส์พิเศษที่เป็นสระน้ำขนาดย่อมของเจ้าสองแสบที่ชอบลงแช่ ยังไม่ทันที่จะใส่น้ำมาลีก็เข้าไปนั่งรอในกะละมังแล้ว

มีมาร์ควิ่งวนรอบอ่างราวกับจะประท้วง ว่ามาลีไม่รอ  พี่โอ๊ตยืนหัวเราะท่าทีของเจ้าตัวส้มสองตัวที่เตรียมพร้อมจะเล่นน้ำ 



กว่าจะช่วยกันปล้ำเจ้าสองตัวสำเร็จ ดวงอาทิตย์ก็เริ่มจะลับขอบฟ้า  พ่อช่วยลากมาร์คไปเป่าขน ส่วนมาลีก็มีพี่โอ๊ตช่วยเป่า
 
“พี่อยากเลี้ยงบ้างจัง แต่พี่อาร์ตไม่ให้เลี้ยง”จำได้ว่าพี่เขามีพี่ชายนี่นา  ดีจังน้ามีพี่มีน้องเนี่ย  พ่อกับแม่ไม่เห็นมีน้องให้ผมเลย
 
“อ้าวทำไมล่ะครับ  “

“พี่อาร์ตเคยเลี้ยงคอร์กี้น่ะ ตอนที่พี่ยังเป็นเด็ก  มันป่วยตาย  พี่อาร์ตกับพี่ ทอย กอดกันร้องไห้อยู่สามวันสามคืน  จนพี่ทอยเพื่อนรักพี่อาร์ตน่ะ ผันตัวเองจากที่จะเรียนหมอรักษาคนไปเรียนหมอรักษาสัตว์แทน   “

ผมนั่งฟังพี่โอ๊ตเล่าเรื่องพี่ชายและเพื่อนรักด้วยความสนใจ  อย่างที่บอก ผมลูกคนเดียว และไม่มีเพื่อนผู้ชายเลยตั้งแต่เกิดเรื่องคราวนั้น 

“เฮ้อ”ผมเผลอถอนหายใจจนพี่โอ๊ตชะงักแล้วหันมามองผม


“เป็นอะไรเบื่อเรื่องเล่าของพี่เหรอ ”

“ปล่าวครับ อิจฉาพวกพี่จัง มีเพื่อนที่วิ่งตามฝันด้วยกันมันต้องดีมากแน่ๆเลย ..แต่ผม..”

มือหนาๆวางปุลงบนหัวผมจนต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง แววตาพี่โอ๊ตที่มองมาทำให้ผมต้องยิ้มส่งไปให้


“  ตอนนี้ไม้ก็มีพี่ไง พวกไอ้ปีย์ด้วยนะ ว่างๆก็แวะไปหาพวกพี่ได้เลย เดี๋ยววันไหนไม่มีเรียนหรือว่างตรงกันจะพาไปหาพี่อาร์ตที่บ้าน”

“หืมม์  ไปบ้านพี่โอ๊ตเหรอครับ ?”

“ครับ พี่มีแวนคันใหญ่ มารับมาร์คกับมาลีไปเที่ยวที่บ้านได้นะ พี่ทอยต้องหลงรักเจ้าสองตัวนี้แน่ๆ “

“ชักอยากรู้จักพี่ๆของพี่โอ๊ตแล้วสิ ท่าทางใจดีกันทั้งบ้านเนอะ “ผมส่งยิ้มกว้างไปให้ด้วยความดีใจ  ได้รู้จักพี่โอ๊ตนี่ดีจริงๆด้วย

“แฮ่ม...พี่ใจดีที่สุดนะ”เสียงพึมพำไม่ได้ศัพท์บวกกับเสียงไดร์เป่าขน ทำให้ผมต้องถามซ้ำ

“พี่โอ๊ตว่าอะไรนะครับ “

“ปล่าว ไม่มีอะไร”พี่โอ๊ตยื่นไดร์คืนผมเมื่อมาลีเริ่มนอนกลิ้งไปมาที่พื้นพรม ใกล้ๆ

“ตัวแห้งแล้ว  ค่ำแล้วด้วย พาพี่โอ๊ตไปอาบน้ำดีกว่าลูก เดี๋ยวค่อยลงมาทานมื้อค่ำ”เสียงแม่ดังขึ้นเมื่อพ่อจูงมาร์คกับมาลีออกไป

“ งั้นตามผมมาทางนี้เลยครับ  “

ผมพาพี่โอ๊ตไปที่ห้องของผมที่ไม่เคยรับแขกคนไหน นอกจากเจ้าหนูบัว ที่เคยเข้ามาตอนเด็กๆ พอโตขึ้นพ่อกับแม่บอกว่าไม่เหมาะเท่าไหร่

ที่ผู้หญิงจะเข้าห้องนอนผู้ชาย ห้องของผมเลยไม่มีใครมาเยี่ยมอีกเลย  พี่โอ๊ตนั่งลงที่โต๊ะอ่านหนังสือข้างเตียง

รอผมหาผ้าหาชุดให้อาบน้ำ  อันที่จริง พี่โอ๊ตมีมุมที่ผมนึกไม่ถึงอยู่เยอะ


พี่โอ๊ตที่ผมรู้จักผ่านสิ่งที่ได้ยินมา คือ เป็นคนเงียบๆ หน้านิ่งโลกส่วนตัวสูงแบบไม่สนใจใคร  จนได้ฉายาเจ้าชายน้ำแข็ง

 เพราะออร่าความเย็นชารอบๆตัวพี่โอ๊ตมันมีมากจนคนทั่วไปไม่กล้าเข้าหา  แต่เพราะพี่เขามีเพื่อนสนิทอีก สี่คน เลยยังพอดูมีความเป็นคนธรรมดาอยู่บ้าง


แต่ถึงอย่างนั้นกิตติศัพท์ความเข้าถึงตัวยากของพี่โอ๊ตเดือนวิศวะปีสาม ก็ยังเลื่องลือ แต่พี่โอ๊ตคนนี้ที่อยู่กับผมคนนี้เป็นคนยิ้มง่าย แววตาอ่อนโยน

 พูดเก่งด้วยพี่โอ๊ตเล่าเรื่องนุ่นนี่ให้ฟังไม่เบื่อเลย โดยเฉพาะเรื่องเพื่อนๆหรือเรื่องพี่ชายกับเพื่อนสนิทของพี่ชาย 

ขนาดผมยังไม่เคยเจอพี่ชายของพี่โอ๊ตผมยังรู้สึกได้ว่าพี่อาร์ตกับพี่ทอยต้องใจดีมากๆแน่เลย 


“ไม้”เสียงเรียกทำให้ผมสะดุ้งเพราะมัวแต่ใจลอยคิดไกล

“ครับพี่ “

“พี่รู้สึกว่าชุดมันเล็กไปหน่อย”

“อุ๊ป ฮ่าๆๆ “ก็จะไม่ให้ขำได้ไงครับ พี่โอ๊ตที่อาบน้ำเรียบร้อย อยู่ในชุดลำลองของผมที่เป็นกางเกงขายาวเนื้อนิ่ม

และเสื้อยืดตัวที่ผมคิดว่ามันใหญ่พอสำหรับพี่โอ๊ต มันรัดจนเหมือนพี่โอ๊ตเป็นแหนมมัด


“ยังจะขำนะคนเรา มีตัวอื่นไหมครับ ขนาดเท่าตัวที่ใส่อาบน้ำให้มาร์คกับมาลีก็ได้ “

“อ่า...ถ้าใหญ่มีแต่ชุดนอนครับ งั้นใส่ชุดนอนเลยเนอะ พี่โอ๊ตก็นอนที่นี่เลยละกัน  ไหนๆก็ไหนๆละ พรุ่งนี้พี่มีเรียนไหมครับ “

“มีบ่ายครับ ค้างได้”จะตอบไวเกินไปละพี่

“โอเคงั้นพี่โอ๊ตใส่ชุดนี้ เดี๋ยวผมอาบน้ำก่อน “

ผมว่าพลางเดินไปหยิบชุดนอนที่ผมจะใส่ให้พี่โอ๊ตก่อน เดี๋ยวผมค่อยหาใหม่  ผมเดินเข้าห้องน้ำ พร้อมผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่

ปรกติผมอยู่คนเดียวจะเอาแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเล็กเข้าห้องน้ำ เดินโทงๆมันทั้งอย่างนั้นแหละครับก็อยู่คนเดียวนี่นาในห้องส่วนตัว 

แต่คราวนี้มีพี่โอ๊ตอยู่ด้วยคงต้องนุ่งผ้าเช็ดตัวบ้างเดี๋ยวพี่เค้าช็อกฮ่าๆ


ผมอาบน้ำแบบเร่งรีบเพราะเกรงใจกลัวพ่อกับแม่รอกินข้าวอีกอย่างมีพี่โอ๊ตด้วยให้แขกรอไม่ดี  ทันที่ที่ออกมาเจอพี่โอ๊ตนั่งรอบนเตียง

“........”

“ฮ่าๆๆๆ”

“ขำเข้าไป”

“โอ๊ยยพี่ น่ารักฮ่าๆๆ”

ก็จะไม่ให้ผมขำได้ไงครับ ชุดนอนผมมันเป็นเสื้อเชิ้ตลายผึ้งน้อยที่ยัยบัวซื้อมาบังคับใส่  ผมน่ะใส่จนชิน เลยไม่คิดอะไร

แต่พอมันอยู่บนตัวพี่โอ๊ต คือแบบผู้ชายตัวโตร่างใหญ่ ใส่เสื้อสีเหลืองลายผึ้งน้อยทั้งเสื้อและกางเกง มันดูมุ้งมิ้งมากครับ โอยยยยไม่ไหว ขำจนปวดท้อง


“ไม่มีชุดอื่นแล้วเหรอครับ พี่อายพ่อกับแม่”เหมือนพี่โอ๊ตจะอ้อนแฮะ เสียงอ่อยๆแบบนี้อ่า..รู้สึกวูบๆที่หน้าแฮะ 


“น่ารักจะตาย เดี๋ยวผมใส่เป็นเพื่อน ลายผึ้งน้อยถือว่าเบาสุดนะพี่ ยัยหนูบัวตัวแสบบังคับซื้อให้ผมใส่หรือพี่จะเอาลายคิตตี้ล่ะ ฮ่าๆๆ  “

ผมหันหลังให้พี่โอ๊ตเดินไปเลือกชุดที่ตู้เสื้อผ้า  หยิบเอาชุดลายคิตตี้กับลูกเป็ดสีเหลืองมายื่นให้พี่โอ๊ตเลือกอีกที

“อ่ะเลือกเลยครับ สามชุดนี้เบาสุดแล้วพี่ ”


“ไม่ต่างกันเลย..เฮ้อ เอาเถอะ ใส่ได้ครับ ไม้รีบใส่เสื้อผ้าเลย เดี๋ยวพ่อกับแม่จะรอกินข้าวนะ”

“ครับๆ รีบแล้วครับ ใครเป็นเจ้าของบ้านเนี่ย”ผมเย้าพี่โอ๊ตพร้อมกับหัวเราะเบาๆเมื่อมองดูชุดคิตตี้ หึหึถ้าพี่เขาใส่คิตตี้จะเป็นยังไงนะ 

เหมือนว่าพี่เขาจะทำใจกับชุดผึ้งน้อย ได้แล้ว  ผมเปลี่ยนชุดเสร็จพี่โอ๊ตหันมามองพร้อมกับยิ้มให้

“น่ารักนะเราน่ะ น้องเป็ด“

“เห..สู้พี่ไม่ได้หรอกครับพี่ผึ้งน้อย ฮ่าๆ”โอยขำพี่..หน้างอได้อีก

พี่โอ๊ตยกมือถือขึ้นมาถ่ายรูปผมแบบตั้งตัวไม่ทันครับ หัวเราะค้างเลย

“เฮ้ยๆ พี่ไม่เอา อย่าเอาไปให้ใครดูนะ พี่อ่ะ อายเค้า ลบเลยๆ“ผมรีบพุ่งเข้าไปแย่งมือถือพี่โอ๊ตที่ทำหน่ายิ้มกริ่มมีชัยขนาดนั้น

"ไม่ลบ น่ารักจะตาย พี่ไม่ให้ใครดูหรอกน่า”

“ไม่เชื่อๆลบเลยครับ นะๆอายจริงๆเนี่ย”

“งั้นมาถ่ายรูปคู่มา จะได้อายคู่....ฮ่าๆๆๆ ”

พี่โอ๊ตว่าพลางคว้าเอาแขนผมดึงลงไปนั่งที่เตียงด้วย  แต่แรงดึงคงมากไปนิดทำให้เราทั้งคู่หงายหลังลงบนที่นอน

ผมที่ไม่ทันได้ตั้งตัวก็ล้มลงไปทับอกพี่โอ๊ตเต็มๆ กำลังจะขยับออกแต่พี่มันกอดคอไว้แน่นทั้งยังหัวเราะเสียงดัง ที่แกล้งผมได้

 
“เป็นภาพเซลฟี่ที่น่าอายที่สุดในโลกเลย พี่โอ๊ตห้ามให้ไอ้หนูบัวเห็นภาพนี้นะครับ ไม่งั้นงานเข้าเราทั้งคู่แน่ๆ”

ใช่ครับ งานเข้าแน่ๆในรูปที่ผมนอนเกยบนอกพี่โอ๊ตแขนแข็งแรงของพี่กอดคอผมไว้แน่นกันผมลุกหนี  หน้าผมที่ยิ้มโดยอัตโนมัติเมื่อเห็นกล้อง

 ท่าทางล่อแหลมแถมใส่ชุดนอน ยัยหนูบัวเห็นนี่เลือดวายข้นคลั่กแบบนั้นมีหวังเอาไปลงเพจแน่ๆ

และต้องจับผมกับพี่โอ๊ตถ่ายรูปแนบชิดแบบนี้อีกแน่นอน ตัวผมไม่เท่าไหร่ครับชินแล้ว รูปผมกับสองแฝดที่โดนยัยตัวแสบบังคับถ่ายมีเยอะมากจนชิน

คุณลองมาถูกจับถ่ายรูปตั้งแต่อนุบาลยันมหาลัย ดูสิครับไม่ชินก็แปลกแล้ว  เพราะแบบนั้นผมเลยยิ้มอัตโนมัติเมื่อเห็นกล้อง 

ผิดกับพี่โอ๊ต ผมกลัวเขารับไม่ได้  ยิ่งมาให้หนูบัวจิ้นคู่ผมนี่ ผมกลัวจะเสียพี่ชายดีๆไป เพราะงั้นต้องแอบครับ  ห้ามเผยแพร่รูปเด็ดขาด



“ทำไมงานจะเข้าล่ะ “พอฟังคำถามแบบนั้นผมจะเล่าให้พี่เขาฟังดีไหมนะ 

พี่จะรับได้ไหมถ้าเพื่อนผมอย่างหนูบัวมันชอบจับคู่จิ้นน่ะ เฮ้อ...ผมนอนหนุนแขนพี่มันอยู่แบบนั้น อย่างเงียบๆ

เราสองคนยังไม่ลุกจากเตียงแม้ว่าพี่โอ๊ตจะถ่ายรูปผมไปเยอะแล้ว มือหนาๆที่ลูบหัวผมเล่นไปเรื่อย ผมเองก็ไม่ได้คิดอะไร

รู้สึกสบายดีเวลามีคนมาลูบผมลูบหัวเล่น  ยัยหนูบัวก็ชอบให้ผมลูบหัวเล่นบ่อยๆเหมือนกัน บางทีมีพี่ชายให้อ้อนนี่ก็ดีเหมือนกันนะ 


“ก็..เป็นความลับครับ  เอาไว้ผมจะเล่าให้ฟังเนอะ ตอนนี้ลงไปกินข้าวก่อนที่แม่จะมาตาม ไปเร็ว “

ผมผุดลุกนั่งและดึงแขนพี่มันให้ลุกตาม เราสองคนลงมาที่โต๊ะอาหาร พ่อกับแม่มองเราทั้งคู่เหมือนไม่เคยเห็นแถมยังหัวเราะแบบไม่เกรงใจอีก

“โถ...พี่โอ๊ตคะโดนน้องแกล้งเหรอ ทำไมไม้ไม่ไปเอาชุดพ่อมาให้พี่เขาใส่ล่ะลูกฮึ “

“ไม่เป็นไรครับ แบบนี้ก็น่ารักดี “พี่โอ๊ตตอบแม่พร้อมรอยยิ้ม ดูสิ เขาเห่อลูกชายคนใหม่กันแค่หาชุดนอนให้ใส่ยังว่าผมแกล้งพี่เลย

“วันนี้ค้างที่นี่เลยก็ได้นะลูก นานๆจะมีเพื่อนน้องไม้มาบ้านสักครั้งเนอะพ่อเนอะ “

“เอาที่แม่ชอบเลยจ้ะ “พ่อผู้ไม่เคยขัดแม่สักครั้ง ฮ่าๆ

"ขอบคุณครับ รบกวนด้วยนะครับ"

"ไม่เลยจ้ะ โอ๊ตจะมาค้างตอนไหนก็ได้นะ บ้านเรายินดีต้อนรับ "


เป็นมื้ออาหารที่เฮฮามากเลยครับ เสียงหัวเราะของแม่กับพ่อ และพี่โอ๊ต ทำให้ผมอยากมีพี่ชายสักคน

 บางทีพ่อกับแม่ก็กังวลกับเรื่องของผมมากเกินไป  บรรยากาศดีๆแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยนัก  หวังว่าจากนี้จะมีแต่เรื่องดีๆ


หลังมื้ออาหาร เรารวมตัวมานั่งดูหนังที่ห้องนั่งเล่น   พ่อกับพี่โอ๊ตคุยกันกระหนุงกระหนิงน่าอิจฉาครับ

 ผมร่วมแจมด้วยแต่ไม่รู้เรื่องพวกรถความเร็วอะไรที่พ่อกับพี่โอ๊ตชอบ ผมก็ชอบรถนะครับ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่อง อะไรมาก รู้แค่คันไหนสวยไม่สวย ฮ่าๆๆ

แต่ถ้าคุยเรื่องกอล์ฟ ผมก็พอรู้แต่พี่โอ๊ตดันตีกอล์ฟไม่เป็น เฮ้อ...เลยปล่อยคุณพ่อกับคุณลูกคนใหม่เขาคุยกันไป

ผมก็นอนซุกมาลีกับมาร์คดูหนังรอ อืมมม ง่วงแฮะ ดูท่าแล้วพ่อกับพี่โอ๊ตคงคุยกันอีกนาน

“ง่วงแล้วเหรอลูก”แม่คงทนเห็นผมอ้าปากหาวทุกสามนาทีไม่ไหว 

“ครับ งั้นไม้ไปนอนก่อนนะ พี่โอ๊ตอยู่คุยกับพ่อไปเลย”ผมงัวเงียลูกขึ้นยืนโอนเอน ด้วยความง่วง

“งั้นโอ๊ตก็ไปนอนพร้อมน้องก็ได้ พ่อปล่อยลูกๆไปนอนได้แล้วไป ดึกแล้วพรุ่งนี้เด็กๆมีเรียนอีก”

เสียงแม่นุ่นหันไปคุยกับพ่อ พี่โอ๊ตพยักหน้ารับคำแม่พร้อมทั้งเดินมาหาผมที่ดูเหมือนจะยืนหลับรอ ก็มันง่วงนี่นา

“ลืมตาก่อนครับ เดี๋ยวเดินชนบันไดหรอก “

“ฮื่อ ง่วง Zzzz” ผมเดินเตาะแตะ คลำทางมาจนถึงห้องนอน โดยมีพี่โอ๊ตเป็นคนจูง

“ไม้ไปแปรงฟันก่อนค่อยนอน”พี่โอ๊ตดึงแขนผมเข้าห้องน้ำตอนที่ผมพยายามจะทิ้งตัวลฃงบนเตียง

ผมเดินหน้ายุ่งๆ แต่พยายามยิ้มให้พี่ ก็เข้าใจครับต้องแปรงฟันก่อนนอน ต้องหาแปรงให้พี่ด้วย อือออ ฮ้าววววง่วงจริง


“พี่โอ๊ตแปรงใหม่อยู่ในตู้ข้างกระจกนะครับ  “ผมว่าพลางชี้มือไปที่ตู้เล็กๆสำหรับเก็บของในห้องน้ำ

ตอนนี้เราสองคนยืนอยู่หน้ากระจกในห้องน้ำ ผมหรี่ตาที่ปรือๆพยายามแปรงฟัน แก้ง่วง

“เมื่อกลางวันก็นอน ตอนนี้ยังง่วงอีกเหรอเราน่ะฮึ”

“ไม่รู้เหมือนกันครับ สงสัยจะง่วงสะสมตั้งแต่งานเฟรชชี่”

พี่โอ๊ตมายืนข้างๆไหล่เราสองคนเบียดกันเพราะต้องยืนหน้ากระจก  และอ่างล้างหน้า กว่าจะแปรงฟันเสร็จก็ทำให้ผมตาสว่างแล้ว


“พี่อ่ะขี้แกล้งนะ”เสียงหัวเราะทุ้มในลำคอบอกว่าพี่มันอารมณ์ดีที่ได้แกล้งผม 

ก็แค่พี่กระแซะไหล่จนผมเซหน้าเกือบคะมำลงอ่างล้างหน้าดีที่พี่เขาคว้าเอวผมเอาไว้ทัน นั่นแหละหายง่วงเลยครับ

 เพราะผมตกใจจนสำลักยาสีฟัน พี่โอ๊ตก็ลูบหลังไปหัวเราะไป เดี๋ยวผมเอาคืนรอจังหวะก่อนเถอะ 

วันนี้แปลก ที่ยัยตัวแสบไม่โทรหาผม ปรกติเวลาค่ำๆแบบนี้หนูบัวจะคอลมา กว่าจะได้นอนก็ดึก 

เราคุยกันทุกวัน รู้ทุกซอกทุกมุมชีวิตของกันและกัน  และแน่นอน ยัยตัวแสบก็กังวลเรื่องของผมไม่ต่างจากพ่อแม่

ทำไมทุกคนชอบคิดว่าผมมีปัญหากันนักนะ  เอาจริงๆผมก็ยังรู้สึกแย่นะกับเหตุการณ์ครั้งนั้น  แต่ผมก็พยายามลืมมันเพื่อไม่ให้ทุกคนเป็นห่วง

รอยยิ้มที่ผมจะยิ้มทุกครั้งทุกวันเพื่อให้ทุกคนเห็นว่าผมมีความสุขผมยิ้มได้ผมไม่ได้คิดมาก


แต่ทุกครั้งที่ยิ้ม ผมไม่เคยรู้เลยว่าผมไม่ได้ยิ้มแบบเต็มใจเท่าไหร่ จนวันนี้ รอยยิ้มที่มีพี่โอ๊ตร่วมด้วย

เสียงหัวเราะและเรื่องราวที่มีพี่โอ๊ตอยู่ด้วย มันรู้สึกดี  จนยิ้มได้โดยไม่ต้องฝืน พ่อกับแม่คงรับรู้เช่นเดียวกับผม เลยต้อนรับพี่โอ๊ตดีเป็นพิเศษ



“ไม้”

“ครับ”ผมหันมาตามเสียงเรียก ผมปิดไฟนอนไปได้ไม่ถึงสิบนาที  เอาจริงๆตอนนี้ไม่ง่วงแล้วครับ  ดีเหมือนกันถ้าพี่โอ๊ตไม่ง่วงจะชวนคุยยันเช้าเลย

“มีอะไรเล่าให้พี่ฟังได้นะ บางอย่างพี่อาจจะช่วยไม่ได้ แต่ พี่ช่วยรับฟังได้นะครับ”เสียงทุ้มนุ่มหูและคำพูดเป็นทางการซะจนผมอดที่จะหัวเราะไม่ได้

“ทำไมพูดแบบนั้นล่ะครับ ..พ่อกับแม่เล่าอะไรให้พี่ฟังหรือไง“

“ก็...ครับ”พี่โอ๊ตรับคำสั้นๆ และนั่นทำให้ผมถอนหายใจออกมาก่อนจะพลิกตัวนอนตะแคงหันหน้าไปหาพี่โอ๊ตที่นอนอยู่ข้างกัน

“ผมไม่เป็นไรหรอกครับ  พ่อกับแม่น่ะ กังวลเกินไป  ผมดีขึ้นเยอะแล้วดีกว่าเมื่อก่อนมาก  ต้องยกความดีให้ยัยตัวแสบ  เอ ..เล่าดีไหมนะ”

ผมสะดุดความคิดไปชั่วครู่ ผมพึ่งจะรู้จักพี่โอ๊ต แต่พี่เขาเหมือนเป็นพี่ชาย ที่พร้อมจะรับฟังทุกเรื่อง  ถ้าพ่อกับแม่เล่าไปแล้ว แต่เล่าแค่ไหนกันล่ะ

“ถ่าไม้ไม่สบายใจที่จะเล่าก็ไม่เป็นไร นอนเถอะ “มือหนาๆยื่นมาลูบหัวผมอีกแล้ว

“ไม่ได้อยากปิดบังครับเพียงแต่ผมไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหนดี”

“เริ่มที่ งานจะเข้าเราสองคน ถ้าหนูบัวเห็นรูปดีไหมครับ”ดูเหมือนพี่จะขี้สงสัย หึหึ

“ก็ได้ ก็ได้  ผมเล่าแล้วอย่าหัวเราะผมนะ แต่มันต้องท้าวความไกลหน่อยนึงถึงจะเข้าใจ “

แล้ววีรกรรมเรื่องราวตั้งแต่คราวโดนหนูบัวต่อยตอนอยู่อนุบาลก็ถูกเรียบเรียงให้พี่โอ๊ตฟัง แลกกันไงครับ พี่เขาเล่าเรื่องเพื่อนๆพี่ๆ

ผมมีแค่หนูบัวก็ต้องเล่าเรื่องหนูบัวสิ  ผมไม่รู้ว่าพี่โอ๊ตมีสีหน้ายังไงตอนฟังเรื่องเล่าของผมเพราะมันมืด

 แต่เสียง หึหึ ดึงมาเรื่อยๆ ก็แปลว่าพี่มันโอเค 


“ที่จริงผมน่ะอกหักล่ะ”มาถึงตอนนี้ก็คงต้องบอกพี่เขาไป คนเราพอจะคบหาเป็นเพื่อนคงไม่ต้องปิดบังอะไรกันหรอก ผมคิดแบบนั้น

“อกหัก ? ยังไงพี่ก็เห็นแฮ้ปปี้กันดีนี่นา”

“ไม่ใช่หรอกพี่ บัวน่ะ เป็นเพื่อนสนิท เป็นเพื่อนรัก เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวของผม ที่ไม่มีวันเป็นอย่างอื่น”

ผมคงต้องเล่าทั้งหมดสินะ แล้วคืนนี้  ผมจะได้นอนกี่โมงล่ะเนี่ย 

....



.
.
TBC....

มาสั้นๆอย่าว่าเค้าน๊าาาาาาา

พึ่งกลับจาก ตปท เลยแวะมาลงพี่โอ๊ตกับน้องไม้ก่อน   พอเหยียบแผ่นดินไทย งานก็เข้าอย่างต่อเนื่อง  :hao5: :hao5: :hao5: :hao5:

อาจจะได้แวะมาลงน้องอาทิตย์ละครั้งแต่กำหนดวันไม่ได้ แงงงงงงง o9 o9

งานรัดตัวเหลือเกินเจ้าค่ะ  แต่จะพยายามมาอัพถี่ๆน๊าาาาาา นานๆอัพที นี่ไม่ใช่พันวาเลย ฮรึก :hao5: :hao5: :hao5:

 ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่าาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ปล. เรื่องราววัยอนุบาลของน้องหนูบัวกับน้องไม้ เป็นตอนพิเศษในเรื่องตามใจนะคะ ใครสนใจ จิ้มเลยค่าาาซีรี่ส์ เพราะหัวใจไม่ไร้รัก

 


« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 21-07-2018 06:03:31 โดย พันวา »

ออฟไลน์ MayA@TK

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4991
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-7
น้องเล่าให้พี่ฟังแล้ว แล้วพี่ล่ะจะว่ายังไงที่ได้รู้ว่าน้องกับบัวไม่ได้เป็นแฟนกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
 :pig4: :pig4: :pig4:

ความรู้สึกที่ปั๊ดตะนาไปอีกหลายขั้น

แต่ก็ดันไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกอะไรกันเนอะ

อึนซึนกันทั้งพี่ทั้งน้อง  อิอิ

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปนะคู่พี่กับน้อง

ออฟไลน์ พันวา

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 126
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-5

คั่นเวลาสักครู่นะเจ้าคะ  :hao7: :hao7:


ค่อยๆพัฒนาความสัมพันธ์กันไปนะคู่พี่กับน้อง

โอ๊ต//ทุกอย่างจะต้องดีขึ้นครับ

ตอนนี้คุณพี่หาทางของลายเซ็นคุณพ่อน้องไม้แบบคูล ๆ ได้ยังคะ 5555

โอ๊ต // ดูเหมือนจะได้เยอะกว่าลายเซ็นนะครับจะอัดรูปคู่ใส่กรอบไปอวดไป้ปีย์ หึหึ


อ่านตอนรุ่นพ่อทั่งสามเรื่องสนุกค่ะอ่านอยู่หลายรอบเหมือนกันเลยได้ตามมาอ่านรุ่นลูกอีกน้องไม้กับพี่โอ๊ต :pig4: :pig4:


พันวา // จะมีรุ่นลูกของพี่โตมร ในไร้ใจด้วยนะคะ แหะๆ พันวาดองไว้ก่อนนิดนึง แล้วเจอกันนะ  :mew1: :mew1:

พี่โอ๊ตอยากให้ไม้เป็นแค่น้องชายจริงๆหรอ :hao3:


โอ๊ต // น้องชายจริงๆครับ ผมอยากมีน้อง จริงๆนะ  เชื่อสิ  :z3: :z3:


น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องเลย

 โอ๊ต // ขอบคุณครับ  :m1: :m1:
ไม้ // ขอบคุณครับ:m13: :m13:


น่าสงสารพ่อคนขี้หวง เจอหนูบัวแกล้งเข้าหน่อยทำหน้าตึงเชียว

โอ๊ต // ผมเปล่าหวงนะ แค่ไม่ชขอบใจนิดหน่อยเอ๊ง จริงจริ๊งงง

พันวา // เสียงสูงไปนะพี่โอ๊ต   :m26: :m26:


เหมือนพี่จะออกอาการหึงน้องนะ 55555

โอ๊ต // ผมเปล่านะ ไม่ได้หึงสักหน่อย แค่ ..เอ่อ..แค่ .. :m29: :m29: :m29: :m29:

เพิ่งเห็นว่ามีตอนใหม่ ติดตามนะคะ รอ น้องไม้ใจอ่อนน

ไม้ // เห ?? ผมเปล่าใจแข็งนะครับ ทำไมต้องใจอ่อน  แล้วใจอ่อนเรื่องอะไรครับ  :confuse: :confuse: :confuse: :confuse:


ยกมืออยากรู้อดีตน้องไม้ด้วยจังเลย

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ไม้ // ไม่น่าจดจำเท่าไหร่ครับ แต่ผมก็จำไม่ลืม
โอ๊ต // เฮ้ๆ อย่าเศร้าสิ พี่อยู่ตรงนี้นะ   :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

:pig4: :pig4: :pig4:

ปมในใจนี่คงเกี่ยวกับเพื่อนวัยเด็กหรือวัยรุ่นหว่า

แล้วก็อาจจะเป็นแบบเพื่อนที่คิดเกินเพื่อนจนเกิดปัญหาแบบเลือดตกยางออกมั้ง

ป.ล. อย่าถือสา  มโนล้วน ๆ

ไม้ // โห...มโนได้ใกล้เคียงมากครับ  มาเขียนแทนพันวาได้เลยครับ พล็อตใกล้กันมาก555

พันวา // กำลังตันเลยหาผู้ช่วยเขียนได้ละ 55555

รอติดตามตอนหน้าเลยค่ะ เราจะได้รู้ ปมน้องไม้พร้อมๆกัน  กิกิ

น้องเล่าให้พี่ฟังแล้ว แล้วพี่ล่ะจะว่ายังไงที่ได้รู้ว่าน้องกับบัวไม่ได้เป็นแฟนกัน

 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:


โอ๊ต // รู้สึกอยากกำมือแน่น แล้วชูขึ้นฟ้า ตะโกนดังๆว่า  Yes !!!!  :a2: :a2: :a2: :a2: :a9: :a9: :a1: :a1: :a2: :a2: :a2: :a2:

:pig4: :pig4: :pig4:

ความรู้สึกที่ปั๊ดตะนาไปอีกหลายขั้น

แต่ก็ดันไม่รู้ว่าเป็นความรู้สึกอะไรกันเนอะ

อึนซึนกันทั้งพี่ทั้งน้อง  อิอิ


โอ๊ต // รู้สึกอยากมีน้องชายครับ น้องน่ารัก น้องหล่อ น้องน่าขย้ำ น่าขยี้ น่า... :hao6: :hao6: :hao6:

พันวา //ไม่ใช่ละ พี่โอ๊ต ดึงสติหน่อย สติ ค่ะ สติ  :z6: :z6:

ไม้ //  :confuse: :confuse: :confuse: :confuse:


พันวา // ขอลางานสามวัน เดี๋ยวมาอัพ ปมน้องไม้ วันเสาร์นะคะ  ขอบคุณทุกคอมเม้นท์ค่าาาาา :กอด1: :กอด1: :กอด1: :L2: :L2:




ออฟไลน์ Maleewong

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 19
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
ใกล้ชิดกันมากขึ้นแล้ว รอวันที่ความสัมพันธ์จะมากกว่าคำว่าพี่น้อง :katai2-1:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด