SPECIAL II ลัก(?)แรกพบอากาศร้อน..
เที่ยงตรงในวันที่อากาศร้อนจัด ร่างสูงโปร่งยืดตัวขึ้นหน้ากระโปรงรถถอนหายใจเฮือกใหญ่หลังจากทำใจได้ว่าตัวเองไม่มีความรู้ในการซ่อมรถสักนิด มือเรียวขาวซีดปิดฝากระโปรงลงแล้วเดินอ้อมไปที่นั่งข้างคนขับที่ถูกจับจองด้วยสาวสวยเจ้าของผมดัดเป็นลอนกับใบหน้าบึ้งตึง
“เดี๋ยวแบงก์ไปถามป้าร้านข้าวตรงนั้นก่อนว่าแถวนี้มีอู่ไหม แพมรอตรงนี้แป๊บเดียวนะ”
‘แบงก์’ หรือ ปวเรศ ชายหนุ่มเจ้าของรถถอนหายใจเฮือกเมื่อแฟนสาวไม่ตอบคำแต่กลับสะบัดหน้าหนีไปอีกทางก่อนจะยกมือปาดเหงื่อที่ซึมเนื่องจากอากาศที่แสนอบอ้าวแล้วสาวเท้าไปยังร้านข้าวแกงที่อยู่ไม่ไกลออกไป
“ป้าครับ รถผมเสีย แถวนี้มีอู่ไหม?”
ป้าที่กำลังตักแกงมือเป็นระวิงเงยหน้าขึ้นมองแล้วยิ้มปากกว้างให้ก่อนจะพยักหน้ารัวๆ
“มีอู่ใหญ่ตรงปากซอยนู่นแน่ะ ติดถนนใหญ่เลย เดี๋ยวเอาเบอร์ไปให้เขามาลากให้แล้วกัน” ป้าบอกก่อนจะหันไปค้นถังเล็กๆกุกกักอยู่สักครู่ก็ส่งกระดาษขนาดเท่านามบัตรแต่มีเพียงตัวเลขสิบตัวเขียนอยู่
ไม่มีชื่อร้าน
หรือแม้กระทั่งชื่อคน
เชื่อได้ไหมเนี่ย?ปวเรศคิดในใจแต่ก็ยอมรับเอาเบอร์โทรศัพท์มากดตามแล้วโทรออก ยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหูขณะส่งกระดาษจดเบอร์คืนให้ป้าแล้วผงกหัวขอบคุณ รอไม่นานสัญญาณก็เปลี่ยนเป็นเสียงทุ้มห้าวที่ฟังดูแหบนิดๆของใครที่คิดว่าน่าจะเป็นเจ้าของอู่หรือไม่ก็ช่างในอู่ตอบกลับมา
‘ครับ?’“เอ่อ ..”
จะพูดมากกว่านี้ไม่ได้หรือไง อย่างน้อยก็ควรบอกชื่อร้านหน่อยสิ “..อู่ใช่ไหมครับ? คือรถผมเสียอยู่ในซอย 17 ตรงเกือบสุดซอยเลย มาลากไปหน่อยได้ไหม?”
‘หืม? ..อ๋อ รถทะเบียนอะไร?’“บอใบไม้อออ่าง 39 XXXX ครับ จอดอยู่ใกล้ๆร้านข้าวแกง เอ่อ.. ป้าช้อยครับ” ป้าช้อยเจ้าของร้านหันมาบอกชื่อร้านก่อนจะก้มลงตักแกงใส่ถุงขนาดใหญ่พิเศษทั้งที่ไม่ได้มีลูกค้ายืนรอซื้อ
ปลายสายส่งเสียงลากยาวในลำคอก่อนจะบอกโอเคแล้วตัดสายไป ปวเรศจ้องโทรศัพท์ด้วยความงุนงงก่อนจะบอกขอบคุณป้าช้อยอีกรอบแล้วเดินกลับไปรอที่รถ
“ไอ้แม็กโว้ย! ไปลากรถที่ร้านป้าช้อย!”ร่างสูงใหญ่ในชุดช็อปที่เพิ่งกดตัดสายแบบไม่รักษามารยาทใส่ลูกค้าหนุ่มที่โทรมาเรียกรถลากตะโกนเรียกลูกน้อง หนึ่งในบรรดาช่างประจำอู่ผ่านประตูกระจกที่เปิดกว้างขณะที่เจ้าตัวนอนเลื้อยอยู่บนโซฟาหนานุ่มไม่มีทีท่าว่าจะลุก
จะทำไม? กูแฮงค์ มีปัญหาอะไร?
แล้วนี่มันเบอร์ส่วนตัวไม่ใช่เบอร์อู่ ให้ป้าช้อยไว้เผื่อเวลาสั่งข้าว ไม่ได้ให้คนอื่นไว้เรียกไปซ่อมรถ“ทะเบียนล่ะเฮีย?” แม็ก โผล่หน้าเข้ามาถามคนที่นอนหลับตาเอาขายาวๆพาดไปกับโต๊ะกระจกในห้องทำงานส่วนตัว
“จำไม่ได้ กูจำได้แต่จังหวัดเรานี่แหละ”
‘เฮีย’ ตอบหน้ามึนเพราะฤทธิ์เหล้ายังค้างอยู่ตั้งแต่เมื่อวานก่อนจะโบกมือไล่ให้ชายหนุ่มออกไปทำงาน แว่วเสียงพึมพำของแม็กแต่เจ้าตัวก็ไม่คิดจะใส่ใจ
“เออดี รถจังหวัดเรานี่มันขายกันคันสองคันหรือไงวะเฮีย” ปากบ่นแต่ก็ยอมเดินไปกระโดดขึ้นรถกระบะคันโตพร้อมช่างคู่หูขับออกไปรับลูกค้ายังท้ายซอยฝั่งตรงข้าม
ไม่นานนักรถกระบะที่เพิ่งออกไปจากอู่ก็กลับเข้ามาอีกครั้งพร้อมกับรถเก๋งฮอนด้าสีขาวถูกพ่วงกลับมาด้วย
วิศวะ ลืมตาขึ้นมองออกไปนอกห้องกระจกสีทึบเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างภายใต้เสื้อยืดสีเทาที่บางส่วนเปียกชุ่มด้วยเหงื่อ
ท่อนขายาวตวัดลงจากโต๊ะก่อนจะดันตัวลุกขึ้น ก้าวออกไปนอกห้องทำงาน สายตาปะทะเข้ากับสาวร่างสูงแล้วผิวปากหวือเบาๆแต่ก่อนจะได้สบกับดวงตาสวยคมก็หันไปหาคนที่ดูเหมือนจะเป็นเจ้าของสายเรียกเข้า
!
ร่างสูงชะงักไปชั่วครู่กับอาการใจกระตุกเมื่อคนตรงหน้าหันมาสบตา ใบหน้าหล่อที่ฉายแววยุ่งยากใจหน่อยๆเรียกให้เลือดลมสูบฉีดแรงจนหัวใจเต้นระรัว
วิศวะรับรู้ได้ถึงอาการมือสั่นของตัวเองจนต้องรีบเบนปลายเท้าออกไปนอกอู่แทน มือใหญ่ตบกระเป๋ากางเกงจนไปเจอกล่องเหล็กใส่บุหรี่กล่องบางที่สอดแนบอยู่ในกระเป๋าด้านหลัง หยิบออกมาทั้งที่มือสั่นก่อนจะรีบเปิดควักบุหรี่นอกขนาดสลิมออกมาจรดริมฝีปากภายใต้หนวดเครารกครึ้ม ป้องลมจุดไฟสูดเข้าไปแรงๆแล้วพ่นออกเฮือกใหญ่
เวลาผ่านไปจนบุหรี่มวนที่สองหมดพร้อมกับอาการใจสั่นที่สงบลงได้ซักพัก ชายหนุ่มจึงหมุนตัวกลับเข้าไปในภายในตัวอาคารอีกครั้ง นิ่วหน้าเมื่อได้ยินเสียงแหลมดังทะลุเสียงเครื่องยนต์ขึ้นมา
“นานแล้วนะ เมื่อไหร่จะเสร็จสักทีเนี่ย!”..สาวขาสวยที่มากับรถคันนั้นนี่เอง“ใจเย็นๆครับกำลังดูอาการ ..เชิญพักที่ห้องรับรองก่อนดีกว่าครับ ตรงนี้ร้อน”
หนึ่งในช่างที่เป็นเวรรับรถวันนี้เดินไปพูดกับหญิงสาวด้วยท่าทางสุภาพ ดวงตาคมสวยตวัดมองก่อนจะเดินกลับขึ้นไปในส่วนของตัวอาคารตึกใหญ่ที่มีห้องรับรองลูกค้า ส่วนแฟนหนุ่มยังยืนเกาหัวอยู่ข้างรถตัวเองขณะมองไปรอบๆอู่ซ่อมรถขนาดใหญ่ที่เป็นส่วนหนึ่งของโชว์รูมนำเข้ารถนอก
น่ารักเหี้ย! วิศวะคิดในใจ ปากบางยิ้มกริ่มก่อนเดินตรงเข้าไปหาลูกค้าหนุ่มหน้าหล่อ สอบถามอาการคร่าวๆจากช่างรุ่นน้องด้วยภาษาเทคนิครัวเร็วจนปวเรศฟังไม่ทัน หรือพูดอีกอย่างคือเพราะไม่มีความรู้ทางนี้เลยก็เลยฟังไม่เข้าใจต่างหาก
นายช่างประจำอู่เหลือบตามองเจ้าของรถที่ตีหน้ายุ่งมองรถตัวเองสลับกับช่างที่รับรถก่อนจะมองทะลุกระจกเข้าไปในห้องรับรองที่มีแฟนสาวหน้างอนั่งกอดอกอยู่ ก่อนจะกลับมาจ้องช่างอีกรอบ
“วันนี้จะเสร็จไหมครับ?”
เสียงก็เพราะ“คงอีกหลายวันครับ” วิศวะโพล่งออกมาเมื่อเห็นช่างเจ้าของเคสซ่อมขยับอ้าปากจะตอบจนหนุ่มรุ่นน้องได้แต่ตีหน้างง “มึงไปดูคันนู้นไป” ว่าพลางชี้โบ้ชี้เบ้ไปทางรถที่ตัวเองต้องเป็นคนดูแลให้ลูกน้องได้งงอีกรอบ ก่อนจะหันกลับมาหาเจ้าของรถคันที่สวมรอยซ่อมแทน
“ถ้ามีธุระต้องใช้รถคงต้องยืมรถอู่ก่อนนะ เชิญกรอกรายละเอียดทางนี้”
วิศวะลอบยิ้มขณะก้าวเท้านำร่างสูงโปร่งไปยังห้องทำงานของตน ค้นเอาเอกสารออกมาให้ปวเรศกรอกรายละเอียดโดยไม่ลืมสำทับ “เบอร์ตรงนี้ขอเป็น
เบอร์ที่ติดต่อได้ง่ายที่สุดนะครับ เผื่อมีปัญหาฉุกเฉิน”
อยากได้เบอร์ก็ต้องพูดให้น่ากลัวไว้ก่อน เดี๋ยวได้เบอร์บ้านมาจะยุ่งคิดอย่างอารมณ์ดีก่อนจะยื่นมือไปเอกสารมากวาดสายตา
..ปวเรศ? ชื่อเพราะเว้ย เสียดายไม่มีช่องให้กรอกชื่อเล่น หึๆ กดยิ้มมุมปากเพียงแวบเดียว(ถึงนานก็มองไม่ออกเพราะติดหนวด) ก่อนจะผายมือเชิญคุณปวเรศออกนอกห้องไปยังรถยืมใช้สำหรับลูกค้าที่จอดเรียงรายอยู่ไม่ไกล มือใหญ่คว้าพวงกุญแจได้โตโยต้าราคาแพงลิ่วมาก็กรอกเลขทะเบียนลงในเอกสารและขอบัตรประชาชนไปถ่ายสำเนาแนบไว้ท้ายสัญญายืมใช้รถก่อนยื่นกุญแจให้อีกฝ่าย
โดยไม่ลืมแอบสัมผัสมือขาวซีดนั่นอย่างเนียนๆ
เกือบเผลอเอาขึ้นมาดมแล้วมั้ยล่ะกู“เอ่อ แคมรี่เลยหรอพี่? ถ้าผมเอารถพี่ไปถูทำยังไงเนี่ย?” ปวเรศว่าติดตลกขณะกดโทรศัพท์หาแฟนสาว “แพม รถแบงก์ซ่อมไม่เสร็จอ่ะ ต้องใช้รถของอู่ไปก่อน .............ครับๆ”
ดีไง จะได้มาบ่อยๆ..ไม่นาน
‘ภัทรธีรา’ ก็ก้าวเท้าเข้ามาใกล้ทั้งที่หน้ายังบึ้งตึง ริมฝีปากอิ่มยังคงค่อนขอดด้วยความหงุดหงิด ปวเรศยิ้มเจื่อนให้ช่างหนุ่มเคราครึ้มก่อนจะสอดตัวเข้าไปในรถตามเสียงเร่งของแฟนสาวแล้วค่อยๆเคลื่อนออกไป
แปะ!
“เปลี่ยนรสนิยมเหรอเฮีย? มองขนาดนั้นไม่ขอเบอร์ไปเลยวะ?” วิศวะเหลือบมองน้องชายที่เดินมาหยุดยืนข้างกันพร้อมกับตบบ่าหนาเบาๆ ริมฝีปากใต้เครารกๆยกยิ้มแต่ไม่ได้ตอบคำถาม
“หึ ..
ป๋าเรียกแน่ะ” น้องชายตบบ่าซ้ำก่อนเดินแยกไปยังออดี้คันหรูของตัวเองที่จอดปะปนกับรถของลูกค้าที่เอามาซ่อม
วิศวะถอนหายใจเบื่อหน่อยก่อนจะหมุนตัวกลับไปทางตึกใหญ่ ร่างสูงเดินเอื่อยๆไปตามทางเดินก่อนจะผลักประตูไม้สักบานสุดท้ายเข้าไปโดยไม่เคาะประตู สบตากับเจ้าของห้องที่เงยหน้าจากเอกสารแล้วก้าวไปทิ้งตัวบนโซฟานุ่ม
“จ้องลูกค้าตาเป็นมัน?”
“ก็น่ารักดี”
“เปลี่ยนรสนิยมว่างั้น?”
“หึๆ ป๋าว่าไงล่ะ”
“..อยากจีบเขาก็ไปเอาไอ้เคราอุบาทว์ๆนี่ออกก่อนแล้วกัน พ่อแกฝากมาบอกว่ารับไม่ได้ว่ะเอแคลร์”
เออนะ ในเมื่อป๋าเสนอมาอย่างนี้ลูกชายจะสนองให้แล้วกันSPECIAL II Love(?) at first sight - END
เย้ เค้ามาแล้ว มีคนรออ่านไหม? (ฮะฮ่า)
ตอนนี้เป็นตอนรำลึกจ้า สมัย(เห?) เฮียกับเด็กเขาเจอกันใหม่ๆ
อ่ะ ทีนี้ก็ได้รู้ชื่อเฮียแบบเต็มๆเสียที
'เอแคลร์' หวานแหววเนาะ
เป็นความชอบส่วนตัว ชอบเมะที่ชื่อหวานๆ น่ารัก ><
เพ้อตลอด ฮี่
ขอไปทำใจอ่านหนังสือก่อนนะ
(ทำตัวเหมือนสอบเสร็จแล้วมาทั้งวัน T T)
เจอกันคราวหน้าจ้า