ตอนที่ 14“ทำไมมึงไม่พาพี่ดินมางานแต่งพี่ดาวด้วยวะ” ไอ้เต๋าถามผม ในขณะที่มันก็เอาแต่นอนดูแฟนมันช่วยผมเช็คของชำรวยงานแต่ง
“พี่มันดันติดงานที่บ้านเหมือนกัน”
“อยากให้ป๋ามึงเห็นจริงๆว่าลูกชายหาเขยได้หล่อขนาดไหน”
“กูโดนฆ่าก่อนดิ”
“ไม่โดนแน่ เพราะป๋ามึงคิดไว้แล้วว่าชาตินี้อาตี๋น้อยของแกคงหาเมียไม่ได้” ดูปากไอ้เต๋า พอไอ้สิงห์ไม่อยู่มันก็ปากเสียกับผมเชียว
“แต่ว่าตอนนี้กูเริ่มห่วงไอ้สิงห์แล้ววะ มันจะมางานพี่ดาวไหม”
“มาดิ แต่คงมางานกลางคืนวันพรุ่งนี้นะ”
“กูไม่คิดว่าแฟนมันจะหักอกมันได้ คนอย่างไอ้สิงห์ไม่ควรมีสาวมาหักอกเปล่าวะ เพื่อนกูก็ออกจะหล่อ”
“เราก็ไม่รู้เบื้องหน้าเบื้องหลังของคู่มัน ตอนนี้ก็ปล่อยให้มันทำใจไปก่อนคบกันมาตั้งสองปีเป็นใครๆ ก็เศร้าวะ”
“ปานนี้เพื่อนกูเมาหัวราน้ำแน่”
“เออ”
สิงห์พาร์ท“พี่ขอเหล้าหน่อยดิ” ผมเป็นคนที่เคยคิดว่า ถ้าอกหักเมื่อไรกูจะไม่มีวันทำตัวเป็นพระเอกมิวสิคแน่นอนพันเปอร์เซนต์ ไอ้พวกเมาหัวราน้ำ เปิดน้ำในฝักบัวใส่หัว กูจะไม่ทำแน่ แต่พอมันเกิดขึ้นในชีวิตผมจริงๆ ผมแม่งทำทุกอย่างเลยวะมันเฟล มันทำใจไม่ได้ ความรักที่ผมอุตสาห์เฝ้าหวงแหนมาสองปีเต็ม สุดท้ายมาพังทลายลงเพราะว่าเธอมีคนใหม่
“อย่ากินมากนะไอ้สิงห์” ไอ้พี่เหนือปู่รหัสของพี่ดินเข้ามาเตือนผม
“ผม ผมไม่อยากกิน แต่ผมไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้ลืมหมวย ผมอยากลืมหมวยพี่ พี่เข้าใจผมใช่ไหม” น้ำตากูไหลอีกแล้ว ไม่อยากร้องไห้แต่แม่งรักมาก คบกันมาตั้งสองปีไม่ให้รักก็ยังไงอยู่ แต่ที่ช๊อคสุดคือหมวยแม่งทิ้งผมไปมีคนใหม่แบบไม่มีการร่ำลาเลยสักนิด
“เออ กูเข้าใจ แต่พวกไอ้ดินมันบอกให้กูดูแลมึงด้วย อย่าแดกเยอะ พี่ๆมันหวง”
“ขออีกแก้วดิ พี่เหนือ” ผมไม่สนใจอะไรทั้งนั้นล่ะ ตอนนี้แค่อยากเมา แค่อยากแดกๆมันให้ลืมอีกคน
“พี่เหนือหวัดดี เอ้าไอ้สิงห์เป็นไรของมึงเนี่ย” พี่ลมเข้ามาทักผมกับพี่เหนือ
“น้องมันอกหัก”
“ถูกดาวคุรุเทเหรอวะ”
“เออ”
“กูก็ว่าอยู่ ว่าสักวันหนึ่งมึงต้องโดนเทแน่ๆ เพราะเจ้หมวยแกไม่ธรรมดา”
“พี่มาพูดงี้ได้ไงวะ หมวยเขาดีกับผมนะเว้ย ผมรักหมวย หมวยก็รักผม”
“มันเมาแล้วนิหว่าพี่เหนือ” พี่ลมหันไปคุยกับพี่เหนือแทน ส่วนผมก็เทเหล้าลงคอกินแบบไม่กลัวตายต่อไป
“อือ มันเมาแล้วแต่กูก็ทำไรไม่ได้ แม่งแดกตั้งแต่เย็น” ถ้ากูเมากูไม่รู้หรอกว่าพวกพี่มึงพูดอะไรกันอยู่ “เออ งั้นมึงไปเตรียมตัวหลังร้านเถอะ เดี๋ยวได้ออกมาร้องเพลง”
“ครับ ฝากไอ้สิงห์ด้วยนะพี่ น่าเป็นห่วงวะ”
“เออ ไอ้ห่านิอยู่กับพวกไอ้ดินมาก มันคงไม่ล้มตึงง่ายๆเพราะเหล้าหรอก ตอนนี้กูว่ามันคงกรึมๆ”
“งั้นผมไปเตรียมตัวก่อนนะ”
“เดี๋ยว แล้ววันมะรืนมึงไปงานพี่ชายไอ้ดินป่ะ”
“ไปดิพี่ แต่กำลังลังเลว่าจะไปงานใครดี ฟ้าก็ชวนผมเหมือนกัน พี่สาวเขาแต่งงาน”
“ไปงานเมียไอ้ดินมึงคงโดนมันเตะ”
“แต่ไปทางเมียมันก็ยังดี อาหารตาวะพี่”
“ระวังบ้านบรึ้ม”
“ผมล้อเล่น งั้นผมไปเตรียมตัวก่อนนะพี่”
“เออ”
พี่ลมพี่เหนือแยกย้ายไปจากผม ผมรู้ว่าพวกพี่มันมองผมอยู่ห่างๆ แต่จะทำยังไงได้ผมแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้จริงๆ คนอกหักทำไมมันต้องเจ็บแบบนี้ด้วยวะ เพียงไม่นานพี่ลมมันก็ออกมาหน้าเวที เซ็ตกีตาร์เซ็ตเสียงสักพักพี่มันก็เริ่มร้องเพลง ผมฟังพี่มันไปเรื่อยๆ บางเพลงฟังแล้วแม่งยิ่งเจ็บกว่าเดิม บางเพลงก็ทำให้นึกถึงวันเก่าๆที่อยู่กับหมวย สมัยคบกันเราสองคนไม่เคยทะเลาะกันเลย หมวยอยากได้อะไรผมให้ หมวยอยากให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองผมเปลี่ยน ผมทำเพื่อเธอทุกอย่าง แต่ดูสิ่งที่เธอทำให้ผมสิ ทำไมกันวะ ทำไม!
“มักมีคนบอกกับผมเสมอว่า คนที่ซื่อสัตย์ในความรักมักเป็นคนที่โง่และต้องเจ็บเสมอ” พี่ลมมันพูดขึ้นมาพลางมองหน้าผม ผมจ้องพี่มันด้วยสายตาที่เลือนราง “แต่ผมไม่เคยเชื่อคำพูดนี้เลยนะครับ ผมว่าคนที่ซื่อสัตย์ในความรักของตัวเองเท่ห์จะตาย พวกเขาไม่ได้โง่แต่พวกเขาเชื่อมั่นในความรักของเขาต่างหาก ผมอยากให้ทุกคนได้ลองฟังเพลงนี้กันนะครับ หวังว่าจะชอบและอาจโดนใจใครหลายๆคนที่อยู่ตรงนี้”
นอน ฉันก็ยังนอนคนเดียวอยู่ ฉันก็ยังตัวคนเดียวอยู่
ไม่มีอะไร มีก็แต่ใจที่ยังมั่นคงต่อเธอ
เหมือนวันที่เคยมีกันอยู่ แม้วันนี้เธอจะไม่อยู่
ก็ไม่ได้คิด จะให้ชีวิตมีใคร
ยังเหมือนเดิม ยังไงก็ยังอย่างนั้น
เวลาไม่เคยเปลี่ยนฉัน ที่มันยังมีแต่เธอทั้งใจ
ยังเก็บเธอไว้อย่างดี ยังมีรักเดียวเสมอ
ทุกอย่างยังเหมือนว่าเธอ ไม่จากไป
ยังอยู่กับรักที่มี ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจ
ฉันยังซื่อสัตย์ ยังไม่อาจรักใคร ยังรักได้แค่เธอ
จำ ฉันก็ยังจำแค่เรื่องเก่า ฉันก็ยังทำเหมือนๆเก่า
ยังมีชีวิต ติดอยู่กับความทรงจำและคำว่ารัก
แม้ต้องมีฉันเพียงผู้เดียว ฉันก็ยังคงจะรักเดียว
ต่อให้มันเหงา ต่อให้ปวดร้าวเพียงใด
ยังเหมือนเดิม ยังไงก็ยังอย่างนั้น
เวลาไม่เคยเปลี่ยนฉัน ที่มันยังมีแต่เธอทั้งใจ
ยังเก็บเธอไว้อย่างดี ยังมีรักเดียวเสมอ
ทุกอย่างยังเหมือนว่าเธอ ไม่จากไป
ยังอยู่กับรักที่มี ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจ
ฉันยังซื่อสัตย์ ยังไม่อาจรักใคร ยังรักได้แค่เธอ
ยังรักเธอเสมอ ยังรักเธอคนเดียว
ยังเก็บเธอไว้อย่างดี ยังมีรักเดียวเสมอ
ทุกอย่างยังเหมือนว่าเธอ ไม่จากไป
ยังอยู่กับรักที่มี ไม่เคยคิดจะเปลี่ยนใจ
ฉันยังซื่อสัตย์ ยังไม่อาจรักใคร
แม้คนที่ซื่อสัตย์ต้องไม่เหลือใคร แต่ฉันก็รักเธอ
[ความซื่อสัยต์ - bodyslam]
เพลงจบอารมณ์กูไม่จบ พอสิ้นเสียงเพลงผมก็ก้มหน้าร้องไห้ปิดบังน้ำตาตัวเอง ไอ้เชี่ยทำใจไม่ได้โว๊ยยยย
พาร์ทลมไอ้สิงห์น่าเป็นห่วง! นี่คือสิ่งที่ผมคิดได้ในตอนนี้ อือหื้อน้องกูอาการหนัก ไม่รู้ว่าเพลงที่ผมร้องมันจะไปกระแทกใจมันรึเปล่า เดี๋ยวเลิกงานต้องไปดูแลมันสักหน่อยตามประสาพี่ข้างบ้าน
“ไอ้ลมมีคนส่งกระดาษให้มึงอ่ะ มึงเหม่ออะไรของมึงวะ” เพื่อนร่วมวงดนตรีของผมสะกิดไหล่ผมให้หันไปรับแผ่นกระดาษที่สาวๆยื่นมาให้ทางด้านหน้า
“อ๋อ เออ ขอโทษครับ” ผมยิ้มรับกระดาษที่ด้านหน้าเวที พอผมอ่าน ผมก็เห็นเบอร์โทรและเพลงที่อยากให้ร้อง แถมยังมีไอดีไลน์โผล่มาอีกสองสามไอดี “ส่วนมากสาวๆอยากให้ผมร้องเพลงเศร้าเนอะ” ผมพูดพลางยิ้ม หลายคนหันมากรี๊ดให้ แถมยังเรียกชื่อผมไม่หยุด เออ โซฮอตจริงๆเลยกู
“งั้นเพลงต่อไปนี้ก็ตามใจสาวๆหน่อย แต่เพลงนี้มันคงจะไปกระแทกใจน้องชายของผมที่กำลังอกหักอยู่ตอนนี้แน่ๆ”
ไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไร ก็ได้
เก็บคำพูดที่มีเหล่านั้นในใจ
ไม่ต้องพยายามแสดงว่าเธอเสียใจ ก็ได้
เก็บความรู้สึกที่มีไว้
*เพราะ ที่เธอกำลังบอกฉัน ที่แสดงอาการเหล่านั้น
คือการบอกฉันว่าเธอต้องไป
**อย่าบอกว่าเธอเสียใจ
คนที่เสียใจวันนี้ต้องเป็นฉัน
อย่าเสียเวลาฟูมฟายแทนกัน
เธอยังมีเขารออยู่
คนที่ต้องเสียใจถึงเมื่อไรก็ไม่รู้ คือฉันไม่ใช่เธอ
แค่เธอเดินจากไปกับเขาเลย ก็ได้
บอกกับฉันคำเดียวว่าเธอจะไป
ไม่ต้องสาธยายว่ารู้สึกผิดแค่ไหน ก็ได้
มันไม่มีประโยชน์อะไร*,**
(อะตอม- อย่าบอก)
02.00เวลาตีสอง ร้านปิดผมรีบเก็บข้าวของแล้วเดินไปหาไอ้สิงห์ สภาพรุ่นน้องต่างคณะแทบดูไม่ได้ มันนอนจมแก้ว
เหล้า นอนบ่นนอนพร่ำเพ้ออะไรของมันไปเรื่อย กูจะปลอบก็ไม่รู้จะทำยังไง ทำได้แต่นั่งมองมันอยู่เงียบๆ
“พี่เหนือ ผมว่าผมจะพามันกลับวะพี่”
“เฮ้ยไม่ต้อง เมื่อกี้มันโทรให้น้องชายที่เรียนมหาลัยใกล้ๆมารับแล้ว”
“เฮ้ย ที่จริงกลับกับผมก็ได้นะเว้ย”
“มันบอกมันจะกลับบ้านที่ต่างจังหวัด ไม่อยากอยู่แล้ว เห็นว่าอยากไปหาพวกไอ้ฟ้า”
“แล้วกลับดึกๆดื่นแบบนี้เนี่ยนะ ผมว่าให้มันนอนพักที่บ้านก่อนก็ได้มั้ง”
“กูก็ไม่รู้มันวะ”
“ผมเข้าใจนะ อาการอกหักมันเป็นยังไง แต่แบบ.. ผมอยากให้มันตั้งสติให้ได้มากกว่านี้ ดูดิทำเหมือนโลกทั้งใบมีเจ๊หมวยแค่คนเดียว” ผมมองไอ้สิงห์อย่างสงสาร ก่อนจะหันไปมองทางหน้าร้าน เมื่อได้ยินเสียงใครเปิดเข้ามา
“พี่สิงห์อยู่ร้านนี้รึเปล่าครับ” คนมาใหม่ตะโกนถาม พี่เหนือเลยรีบตอบกลับไปและเรียกน้องชายไอ้สิงห์ให้เข้ามาด้านใน
“พี่สิงห์ของน้องอยู่นี่” อาจเป็นเพราะแสงไฟในร้านมันสลัวมองอะไรไม่ค่อยชัด แต่พอน้องไอ้สิงห์เดินเข้ามาใกล้โต๊ะที่มีศพไอ้สิงห์อยู่เท่านั้นแหละ โอ้พระเจ้า น่ารักสัด!! ผมแทบสบถอยู่ในใจ คนเชี่ยไรจะน่ารักได้ขนาดนี้ ว่าน้องฟ้าขาวแล้วนะ ไอ้เด็กนี่แม่งเรืองแสง
“เออ คือผมเป็นน้องชายพี่สิงห์ ชื่อสรนะครับพอดีไอ้พี่บ้ามันโทรให้ผมมารับมันกลับบ้าน..” คนเป็นน้องมองสภาพพี่ชายตัวเองตั้งแต่หัวจรดเท้า “เฮ้อ! คนอกหักมันเป็นได้ขนาดนี้เลยเหรอวะ ไอ้พี่สิงห์ไหวไหมเนี่ย” น้องไอ้สิงห์พูดเจื้อยแจ้วแต่ตาก็มองพี่ชายด้วยความระอา ผมมองน้องไอ้สิงห์ที่อยู่ในชุดบอล ไอ้เด็กนิตัวเท่าๆฟ้าเลย เผลอๆเล็กกว่าฟ้านิดนึงด้วยมั้ง
“น้องจะพามันกลับบ้าน... บ้านไหน? บ้านเช่าหรือว่าบ้านต่างจังหวัด” ผมแกล้งถามน้องมันไป ขณะที่น้องมันก็กำลังจะจับแขนพี่ชายของมันพาดบ่า แหมหน่วยก้านไอ้เด็กนี่ไม่เลวนิหว่า
“บ้านต่างจังหวัด”
“หืม ไกลเลยดิ”
“ครับ ก็มันร้องห่มร้องไห้อยากกลับบ้านไปหาพวกพี่เต๋าพี่ฟ้า ผมเลยกะจะพามันไป อีกอย่างจะถึงงานแต่งพี่นับดาวแล้วด้วย ไปตั้งแต่คืนนี้ก็ดีเหมือนกัน โอ๊ยหนักโว๊ย ไอ้พี่บ้ามึงเมาแล้วทำไมไม่ดูแลตัวเองให้ดีวะ”น้องไอ้สิงห์ตะโกนใส่พี่มัน
“สรพากูกลับบ้านทีเด๊ะ” สติสตังมึงไปหมดแล้วไอ้สิงห์ กูละสงสารน้องมึงจริงๆ
“พี่ช่วยผมหน่อยดิ” น้องไอ้สิงห์มองผม
“เออ ได้ๆๆ” ผมรีบเข้าไปช่วยแบกไอ้เต๋าไปที่รถ ก่อนไปผมก็ลาพี่เหนือเพราะกะว่าคงจะกลับบ้านไปพักเลย
“พี่เป็นเพื่อนในคณะเดียวกับพี่สิงห์เหรอ”
“เปล่า กูเป็นพี่ที่อยู่ข้างบ้านมัน อยู่กันคนละคณะ”
“อ๋อ เป็นพี่” ไอ้เด็กสรหันหน้ามาหาผม
“รู้จักพี่ฟ้าไหม”
“รู้จัก”
“ไปงานแต่งพี่สาวพี่ฟ้าไหม”
“คงไม่ได้ไป เพราะต้องไปงานเพื่อนอีกคน”
“โอ๊ยเสียดาย”
“ทำไมอ่ะ”
“กลางคืนผมขับรถไม่แข็งอ่ะดิพี่ ใบขับขี่ก็ไม่มี ไอ้ห่าพี่สิงห์บอกว่าปิดเทอมค่อยไปทำ”
“เอ้าถ้ามึงเจอตำรวจมึงทำไง?” ผมถามพลางยัดไอ้สิงห์ให้เข้าไปนอนเบาะหลัง
“ตั้งแต่ขับมายังไม่เคยเจอเลยพี่ แต่ถ้าเจอไอ้พี่สิงห์ให้บอกตำรวจไปว่า รู้ไหมกูน้องใคร”
“แล้วมึงจะตอบตำรวจว่าน้องใคร”
“น้องไอ้เชี่ยสิงห์ พ่อชื่ออู๊ดแม่ชื่อส้มบ้านขายของ”
“เพื่อ?”
“ไอ้พี่สิงห์บอกว่าตำรวจได้งง แล้วก็ให้ผมก็ขับหนีไป”
“ตลกละพี่มึงอ่ะ”
“ผมก็ว่าอยู่ แต่ยังไม่ได้เอามาใช้สักที”
“ที่พูดมาทั้งหมดคือ อยากให้ขับไปให้ใช่ไหม”
“ถ้าพี่จะกรุณา”
“เอาก็เอาวะ คิดว่าช่วยไอ้สิงห์ละกัน งั้นก่อนไปขอกลับไปเอาเสื้อผ้าก่อนนะ”
“ไม่ต้องหรอก เอาของพี่สิงห์ก็ได้ ตัวพี่สองคนยักษ์พอๆกัน”
“เอางั้นเลยเหรอ แล้วกางเกงในกูอ่ะ”
“ซื้อเซเว่น”
“ฮึ! โอเคๆ ก็ได้” เห็นว่าแม่งยิ้มน่ารักหรอกนะกูถึงยอมเชื่อ ไอ้เชี่ยลมจุดอ่อนมึงคือแพ้คนน่ารักเหรอวะ
“ขอบคุณนะพี่”
“พูดเก่งนะมึงอ่ะ”
“มีแต่คนบอกกับผมแบบนี้”
“ตอนเด็กมึงคงถูกแม่ฟาดปากด้วยเขียด”
“พี่รู้!?” ไอ้เด็กเรืองแสงทำท่าตกใจ นี่คือผมแค่พูดเล่นนะไม่คิดว่าจะจริง
“กูเดา” เด็กนั่นทำหน้าตกใจในขณะที่มันก็ยื่นกุญแจรถมาให้ผม
“เดาเก่งมากเลยอ่ะ ขอฝากตัวด้วยนะครับ”
“ฝากตัวเพื่อ?” ผมเปิดรถเข้าไปนั่ง ส่วนไอ้เด็กเรืองแสงก็มานั่งข้างๆ
“พี่สิงห์บอกว่า ถ้ามีคนขับรถให้ ให้บอกไปว่าฝากตัวด้วยนะครับ ลูกมีพ่อมีแม่ขับดีๆนะ อนาคตอีกยาวไกล”
“กวนตีน”
“เนอะ พี่สิงห์แม่งกวนตีน”
“มึงก็ด้วย!!”
ระหว่างทางน้องไอ้สิงห์ก็ชวนผมคุนตลอดเส้นทาง ปากนิเจื้อยแจ้วไม่หยุด พูดจ้อแบบไม่มีนอนสต๊อป ถ้าคนอื่นฟังคงรำคาญแต่สำหรับผม ฟังไอ้เด็กนีออนมันพูดก็เพลินดี
“พี่ลม”
“หืม”
“พี่มีแฟนยัง”
“ถามทำไม จะจีบกูเหรอ”
“เช๊อะ พี่ไม่ใช่สเป็คผมสักหน่อย”
“แล้วสเป็คมึงเป็นแบบไหน”
“พี่ฟ้า น่ารัก ขาว ใส ยิ้มทีแม่งดอกไม้บานไสวไปสองแปลง” นั่นคนหรือว่าเจ้าหญิงดีสนีย์วะ
“มึงชอบผู้ชาย?”
“ก็ไม่เชิง สาวๆน่ารักก็มอง แต่พี่ฟ้าแม่งเป็นข้อยกเว้น แบบพี่เขาทำลายล้างทุกกฎ... ผู้ชายเชี่ยอะไรน่าเอา” ผมกินน้ำอยู่ดี น้ำแทบพุงออกจากปากเพราะคำพูดของไอ้เด็กสร มึงนิกล้ามาก!
“ดูพูดเข้า ถ้าแฟนฟ้าได้ยินมึงคงโดนตบเกรียน”
“พี่ฟ้ามีแฟนแล้วเหรอ!!!”
“เออ ก็ขนาดมึงยังอยากเอา ฟ้ามันคงไม่รอดอ่ะ”
“โธ่ เดี๋ยวก็เลิก วัยรุ่นสมัยนี้คบกันไม่นานหรอก แฟนพี่ฟ้าก็คงงั้นๆ”
“ปากดีจังเลยนะมึงเนี่ย” ผมส่ายหน้าระอากับไอ้เด็กเรืองแสง แหมปากหมาได้พี่จริงๆ
“เออ เมื่อกี้ผมถามพี่มีแฟนยัง พี่ยังไม่ได้ตอบผมเลย”
“ยัง”
“ทำไมอ่ะ หน้าตาก็ออกจะดีทำไมยังไม่มีแฟน”
“ยังไม่เจอคนที่ทำให้กูใจเต้นแรงมั้ง”
“อ๋อ”
“แล้วมึงอ่ะ มีแฟนยัง”
“ยัง ผมกะจะตามจีบพี่ฟ้า” มันยักคิ้วให้ผม ผมยืนยันว่ายังไงไอ้เด็กเรืองแสงแม่งก็น่าตบเกรียนจริงๆ
“เออ กูถามไรหน่อยทำไมมึงไม่เรียนมหาลัยเดียวกับไอ้สิงห์วะ”
“พี่น้องกันอยู่ด้วยกันบ่อยๆเบื่อตาย อีกอย่างไอ้พี่สิงห์ก็ไม่ได้เป็นพี่ชายแสนดีขนาดนั้น โมโหทีไรไล่เตะตูดผมทุกที”
“สมควรอยู่”
น้องไอ้สิงห์หันมามองค้อนผม ผมเลยแกล้งยีผมไปด้วยความหมั่นเขี้ยว ไอ้เด็กนี่มีส่วนคล้ายฟ้าเหมือนกัน เพราะน่าเอ็นดูและน่าเตะในคราวเดียวกัน
หลังจากขับมาได้สองสามชั่วโมง ผมก็ถึงบ้านไอ้สิงห์ บ้านไอ้สิงห์มันเป็นร้านมินิมาร์ท หน้าบ้านเปิดร้านขายของด้านหลังก็เป็นบ้านธรรมดาสองสามชั้น พอมาถึงบ้านก็เกือบเช้าพอดี ผมพยุงไอ้สิงห์ให้ขึ้นไปนอนบนห้อง ก่อนที่ไอ้เด็กสรจะพาผมลงมาไว้พ่อกับแม่มัน
“ลมขึ้นไปพักผ่อนเถอะลูก หนูยังไม่ได้นอนเลยไม่ใช่เหรอ”
“ครับ”
“ไปนอนห้องสรก็ได้ เพราะห้องสิงห์ แม่ว่ามันรกไปนิด เดี๋ยวสรพาพี่เขาไปนอนห้องหนูนะ”
“ครับ แต่เดี๋ยวผมไปนอนห้องแม่นะ คิดถึงแม่อยากดมกลิ่นแม่เยอะๆ” ไอ้เด็กสรเข้าไปเกาะแม่ตัวเอง ก่อนจะหอมแก้มแม่มันดังฟอด
“ไอ้แสบนิ อยากจะนอนก็นอนไปเถอะ แต่อย่าลืมพาพี่เขาไปพักก่อน”
“ครับ”
ไอ้เด็กสรพาผมไปที่ห้องมัน ภายในห้องก็ไม่มีอะไรมาก เหมือนห้องเด็กผู้ชายธรรมดาทั่วไป
“พี่จะอาบน้ำก่อนไหม เดี๋ยวผมไปเอาชุดพี่สิงห์ให้”
“เอาดิ” เพียงไม่นานไอ้เด็กเรืองแสงก็เอาชุดบอลของไอ้สิงห์มาให้ผมใส่ ผมเลยรีบเข้าไปอาบน้ำ ขับรถมาทั้งคืนก็เพลียเหมือนกัน ถ้าได้นอนพักสักงีบอาการคงจะดีขึ้นหน่อย พออาบน้ำเสร็จผมก็เห็นร่างของไอ้แสบนอนหลับอยู่บนเตียง นี่คงเหนื่อยมากจริงๆ ก็เล่นคุยมาตลอดทางไม่ได้พักมันก็ต้องมีเพลียกันบ้าง
ผมจัดน้องให้นอนชิดด้านใน ส่วนตัวเองก็นอนด้านนอก ไอ้เด็กเรืองแสงครางอู้อี้ในลำคอเมื่อผมไปยุ่งกับตัวมัน พอจัดอีกฝ่ายเข้าทีเข้าทางเรียบร้อย ผมก็ทิ้งตัวนอนบ้าง บอกตามตรงวันนี้เป็นวันที่เหนื่อยที่สุด พอหัวถึงหมอนสติก็เริ่มเลือนราง สุดท้ายผมก็หลับตามไอ้เด็กตัวแสบไปติดๆ
“....”
“พี่ลมวะมึง เห้ยไอ้พี่ลมจริงๆวะ” รู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงกระซิบกระซาบของใครบางคนคุยกันก็ไม่รู้
“ไอ้ฟ้าเบาๆดิ กูว่าไอ้ห่าสิงห์แม่ง ได้พี่ลมเป็นพี่เขยแน่ๆเลย”
“กูก็ว่างั้น แต่ไอ้สรมันก็น่ารักเหมาะกับพี่เขาอยู่นะเว้ย”
“ไอ้เชี่ยต้องชง”
“อยากชงแต่กูกลัวโดนไอ้สิงห์ต่อยปาก เห็นแบบนั้นหวงน้องจะตาย!!!”
“ก็เบ้าหน้าคนละเบ้าขนาดนั้น พี่ก็แมนซะ ส่วนน้องก็มุ้งมิ้งเกินคน”
“กูขอถ่ายรูปเก็บไว้ดีกว่า ไอ้เชี่ยภาพหายาก เอาไว้แกล้งไอ้สิงห์”
“ร้ายจริงๆเลยนะ เมียพี่ดิน”
“ฆวย”
“ไปเถอะ ให้พี่ลมเขานอนต่อไปเถอะ ได้เด็กขาวๆอย่างไอ้สรเป็นหมอนข้างคงหลับสบาย”
“เออๆๆ ไปดูใจไอ้สิงห์ดีกว่า เห็นว่าเมื่อคืนแม่งอาการหนัก”
“แล้วมึงรู้ได้ไง ว่าไอ้สิงห์อาการหนัก ผัวโทรบอกอ่ะดิ”
“ก็...เออหน่ากูรู้ล่ะกัน” เสียงปิดประตูดังไล่หลังบทสนทนาของไอ้สองแสบคณะนิเทศ ผมเริ่มรู้สึกตัวตั้งแต่ไอ้สองแสบคุยกันตั้งแต่แรกๆแล้ว แต่ไม่อยากตื่นเพราะถ้าตื่นขึ้นมาคงต้องมานั่งฟังพวกไอ้แสบมันมาล้อเลียนไม่ก็มาจ้องจับผิดผมแน่ๆ
ผมลืมตาตื่น ก่อนจะหันไปมองเด็กเรืองแสงที่อยู่ข้างกาย ดูสิมันแสบแค่ไหนนอนดิ้นจนเอาแขนมากอดผมเอาไว้ มันคงคิดว่าผมเป็นหมอนข้างแน่ๆ เล่นนอนอิงแอบจนตะคริวจะกินที่แขนผมไปหมด อยากจะผลักหัวให้ออกไปไกลๆ แต่ก็เสียดายกลิ่นหอมบนตัวมัน ว่าแต่คนอื่นน่าเอามึงมันก็ไม่ต่างกับเขาเลยไอ้เด็กเรืองแสงเอ๊ย หน้าตาก็จิ้มลิ่ม จริงอย่างที่ฟ้ากับไอ้เต๋าว่า สรคนละเบ้าหน้ากับไอ้สิงห์เลย พี่ก็แมนอย่างกับนักมวย น้องก็ดูขาวตี๋ซะจนน่าหยิก
ช่วงบ่ายพอผมตื่น ไอ้เด็กเรืองแสงก็พาผมไปกินข้าวเที่ยงแล้วก็พาตะเวรไปบ้านคนนู่นทีคนนี้ที ไปทั้งบ้านไอ้เต๋าแล้วก็มาจบที่บ้านฟ้า ที่ตอนนี้กำลังวุ่นวายเพราะพรุ่งนี้จะมีงานแต่ง
“สวัสดีพี่ลม กินอะไรมายัง” ฟ้าเดินมาทักผม ก่อนจะถูกไอ้ตัวแสบเรืองแสงเข้าไปเกาะเข้าไปกอดจนถูกอีกฝ่ายผลักออกมา
“กินมาแล้ว สรพาพี่ไปกิน”
“อืม... เออพี่ดินบอกว่า ที่จริงพี่ต้องไปงานบ้านมัน”
“เออ มันชวนพี่อยู่ แต่ไอ้สิงห์ดันเป็นงี้ไงพี่ก็เลย..”
“ขอบคุณมากพี่ ไอ้สิงห์มันเสียใจจริงๆมันรักของมันมาตั้งนาน”
“เออ พี่ก็เข้าใจ...”
“เข้ามาด้านในก่อนพี่”
“น่าเสียดายเนอะ พวกไอ้ดินน่าจะมาด้วย”
“ผมชวนมาแล้ว แต่ดันติดงานแต่งเหมือนกันไง เห็นว่าพี่ชายไปทำสาวท้องเลยต้องรีบจัดงาน”
“พี่ดินคือใคร?” สรถามขึ้นมา
“พี่ข้างบ้าน” ฟ้ารีบตอบ ก่อนจะยิ้มให้ผม
“อ๋อ นี่บ้านพวกพี่อยู่ใกล้กันหมดเลยเหรอ”
“อืม เช่าใกล้ๆกัน”
“เออ พี่ฟ้า พี่ลมบอกว่าพี่ฟ้ามีแฟนแล้ว”
“ก็...ประมาณนั้น”
“ทำงี้ได้ไงวะ สรบอกแล้วไงว่าสรจองพี่ฟ้าไว้ก่อนแล้ว เรียนจบเมื่อไรขอแต่งงานเลย”
“มาวะกับพี่ได้ไงไอ้สร เดี๋ยวโบก”
“โหดเหมือนเดิม สรขอให้แฟนมีกิ๊ก”
“ปากดีทั้งพี่ทั้งน้องจริงๆ” ฟ้ายกมือขึ้นเคาะหัวเด็กสรเบาๆ ก่อนจะเรียกผมให้เข้าไปทำความรู้จักญาติในบ้าน “ทุกคนนี่พี่ลม รุ่นพี่ที่มหาลัยฟ้า”
“สวัสดีครับ”
“อุ๊ย หล่อจัง!”
“พรุ่งนี้เป็นเจ้าสาวแล้ว อาเจ้เลิกมองชายอื่นได้เลย เออพี่ลมนั่นเจ้าสาว พี่สาวของฟ้าชื่อแสนดาว ส่วนเจ้ที่นั่งทำตาปริบๆ ยิ้มแก้มแตกชื่อนับเดือน พี่สาวคนที่สองของบ้าน ส่วนคนที่อยู่ในครัวก็ม๊าฟ้า คนที่ทำงานอยู่ข้างหน้าร้านนั่นป๊า” ร้านฟ้าเป็นร้านทอง ด้านหลังก็เป็นบ้านเหมือนของไอ้สิงห์ ทุกคนในบ้านของฟ้าดูเป็นคนใจดี ยิ้มแย้มตลอด
“บ้านฟ้ามีสามคนพี่น้องเหรอ”
“ครับ ฟ้าคนเล็ก”
“น่ารักทั้งบ้านเลย”
“อยากมาเป็นลูกเขยม๊าไหมล่ะ นับเดือนเพิ่งเรียนจบ ยังว่างนะ แฟนก็ไม่มี”
“ม๊า หนูบอกแล้วไงว่าพูดแบบนี้เกรงใจแฟนหนูที่อยู่ในโปสเตอร์ด้วย”
“เรานิมัน” ม๊าของฟ้ามองคาดโทษพี่คนกลาง “งั้น... นี่ไงลม ชอบม่ะ ลูกคนเล็กน่ารักเหมือนกันนะ”
“ม๊า ทำไมชอบยัดเยียดให้กับผู้ชาย”
“อย่ามาพูด! พวกเต๋ามาฟ้องม๊าหมดแล้วว่าเรา....ไม่พูดดีกว่า ไม่รู้คนทางนั้นจะหล่อเท่าลมรึเปล่า” แม่ของฟ้ายังพุดไม่ทันจบดี ฟ้าก็ยกมือห้ามแม่ตัวเองไว้ก่อน ผมได้แต่ฟังสองแม่ลูกคุยกัน บอกตามตรงผมรู้สึกชอบจริงๆเพราะว่า ดูแล้วคนในครอบครัวฟ้าจะเข้าใจลูกตัวเองเอามากๆ
“ม๊า! เลิกพูดเลย”
“ลมรับน้องไว้พิจารณาได้นะ ตัวจริงของฟ้าแม่ว่าไม่หล่อเท่าลมแน่” แม่ของฟ้าเดินเข้ามาจับมือผม ผมเลยหัวเราะเบาๆ คืออย่าย้ำครับแม่เพราะผมจะรู้สึกเจ็บ ก็ลูกแม่นี่แหละที่ผมตามจีบแล้วทำเอากินแห้วมาก่อนแล้ว
“ผมก็อยากรับไว้พิจารณานะครับแม่ แต่กลัวโดนตัวจริงของฟ้าต่อยเอา”
“ขนาดนั้นเลย มันจะเก๋าขนาดไหนนะอยากเจอจริงๆ มาแย่งพี่ฟ้าไปจากสรได้” ไอ้เด็กสรยกมือขึ้นกอดอก ทำท่าทางเหมือนแค้นมาก
“เก๋าไม่เก๋าก็ตบเกรียนเราแตกได้ล่ะกัน”
“พี่ลมก็พูดไป ป่ะไปนั่งคุยกันหลังบ้าน” ฟ้าหัวเราะ ก่อนจะพาพวกผมไปนั่งที่สวนด้านหลัง
“เออพี่ฟ้า เจ้าบ่าวพี่แสนดาวหล่อไหม” สรถามฟ้าที่นั่งฟังตรงข้ามผม
“หล่อมั้ง พี่ไม่เคยเห็นตัวจริงนะ เห็นแต่ในรูป”
“เอ้า ตอนฝ่ายชายมาขอพี่ไม่ได้อยู่เหรอ”
“ไม่อยู่ พี่เรียนเพิ่งจะรู้ว่าพี่สาวตัวเองจะแต่งงานเมื่อไม่กี้อาทิตย์นี่เอง”
“อ๋อ แล้วเจ้าบ่าวทำงานอะไรอ่ะ”
“เห็นม๊าพี่บอกว่าเป็นสัตวแพทย์”
“อ๋อ” ไอ้เด็กพูดมากพยักหน้า ก่อนที่เสียงแจ๋นๆของมันจะดังขึ้นอีกครั้ง เมื่อเห็นไอ้เต๋าเดินเข้ามา
“หวัดดีลูกเพ่!”
“มาเรียกลูกพงลูกเพ่ น่าเตะจริงๆเลยนะมึง”
“ผมสิอยากเตะพี่เต๋า”
“เตะกูทำไม”
“ผมบอกแล้วไง ว่าให้เฝ้าพี่ฟ้าเอาไว้ ว่าอย่าให้มีใครมาจีบ เดี๋ยวผมจบผมจะมาขอ”
“โอ๊ย กูห้ามได้เหรอ ไอ้พี่ฟ้าของมึงเสน่ห์แรงจะตาย หนุ่มตามขายขนมจีบตั้งหลายคน”
“เหรอพี่ลม!”
“ห๊ะ แล้วหันมาถามกูทำไม” ผมสะดุ้ง ก่อนจะยกมือไปเคาะหัวของไอ้เด็กแสบไปที ส่วนไอ้เต๋าก็หัวเราะกร๊ากไปดิ ชอบอกชอบใจเลยนะมึง
“พี่ลมของมึงก็ตัวดีไอ้สร นี่แหละคนจีบพี่ฟ้าหมายเลขหนึ่ง” ไอ้เต๋าพูดเสริม
“หมายเลขหนึ่งแล้วทำไมไม่ติด พี่ลมไม่ตรงสเป๊คพี่ฟ้าเหรอ ผมว่าพี่ลมเขาก็หน้าตาพอไปวัดไปวาได้นะเว้ยพี่”
“มึงพูดมาได้ไงว่าหน้าหล่อของๆพี่ลม พอไปวัดไปวา เนี่ยเดือนคณะวิศวะมหาลัยกู”
“จริงดิ ไม่ธรรมดาวะ” พอเห็นไอ้เด็กแสบมันหันมายักคิ้วให้ผม ผมเลยยัดขนมที่อยู่ตรงหน้าให้น้องมันกินแทน เด็กอะไรน่าหมั่นไส้จริงๆ
“เออ แอวอำไออึงอีบไอ่อิดอะ” ดูมันพูด อยากแช่งให้ขนมติดคอจริงๆ
“สรมึงกินให้หมดก่อน” ฟ้าพูดขึ้นมา ทำเอาน้องมันรีบเคี้ยวรีบกลืนทันที
“เออ แล้วทำไมพี่ลมถึงจีบพี่ฟ้าไม่ติดอ่ะ”
“ก็พี่ฟ้าของมึงแพ้เด็กเกษตรไง ซ้อนท้ายกันทุกวัน เลยยกใจให้เขาไปซะงั้น” ไอ้เต๋าพูดแซวขึ้นมา ทำเอาฟ้ายกนิ้วกลางให้
“ช้ำวะ” ไอ้เด็กแสบพูดจบมันก็หยิบขนมเข้าปากต่อ
“ช้ำก็มาคู่กับคนช้ำก็ได้นะ”
“หืม” ไอ้เด็กเรืองแสงขมวดคิ้วทำท่างง
“อะไรของมึงไอ้เต๋า ไม่ต้องมาชงกู” ผมพูดเบาๆ ก่อนจะยกนิ้วกลางให้ไอ้เต๋า ไอ้ห่านิหางานสร้างรายได้ให้กูจริงๆ
“เหมาะกันดีออก”
“ฆวยเถอะ” ผมพูดแบบไม่มีเสียง ไอ้เต๋ากับฟ้าเลยแท๊กมือกัน ก่อนจะนั่งกุมท้องหัวเราะท้องขดท้องแข็ง ส่วนไอ้เด็กแสบก็เอาแต่มองพวกผมไปมา
“โอเคๆ เดี๋ยวไก่ตื่นเนอะ”
“พี่ฟ้าเลี้ยงไก่ด้วยเหรอ” ไอ้เด็กสรถามฟ้าอย่างสงสัย
“เปล่าๆ พี่ลมเลี้ยง” ฟ้ารีบโบยมาทางผม
“พี่ลมเลี้ยงไว้ที่บ้านเช่าเหรอ?”
“อือ อยากกลับไปดูด้วยกันไหมล่ะ”
“ฮั่นแหน่” ไอ้เต๋ากับฟ้าชี้มาทางผม ก่อนที่ผมจะแกล้งตีหน้าซื่อหันไปทางอื่น ตอนนี้ผมสู้ไอ้พวกตัวแสบๆไม่ได้หรอก
“ผมรู้ว่าพี่น่ะแพ้ทางคนแบบไหน เชื่อผมคนนี้ติด” ไอ้เต๋าจับไหล่ผม ก่อนจะดึงผมไปกระซิบใกล้ๆ
“ถ้ากูจะจีบมึงไม่ต้องชง เดี๋ยวกูจีบเอง”
“เจ๋งอีกแล้วพี่กู!!!”
...............tbc...................
ตอนหน้าจบแล้วนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอด