-17-
“ลืมบอกไอ้พวกนั้นเลยว่าออกมากับมึง” หลังจากที่นั่งได้สักพักผมก็นึกขึ้นมาได้ ว่าออกมาโดยที่ไม่ได้บอกใครเลย กำลังจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทร แต่คนที่นั่งข้างๆ ก็พูดขึ้นมาก่อน
“พี่ฟานโทรมาหาผมเอง แล้วผมก็ไลน์ไปบอกแล้วครับว่าพี่อยู่กับผม” เออ เรื่องนี้ด้วย ผมกำลังจะถามพอดีว่ามันมายังไง สงสัยต้องกลับไปตกรางวัลให้ไอ้ฟานงามๆซะแล้ว
“ดึกแล้วนะ พรุ่งนี้มีเรียนรึเปล่า” ผมหันไปถามอีกครั้งหลังจากดูเวลาในโทรศัพท์และพบว่าเป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
“พรุ่งนี้วันเสาร์ครับ” พอพยักหน้ารับ เราก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีก แต่ในความเงียบนี้ ก็รู้สึกสบายใจเพราะรับรู้ว่ามีใครอยู่ข้างๆกัน
“รันต์ ถามอะไรหน่อยสิ”
“ครับ”
“ชอบกูตรงไหนหรอ?”
ไม่รู้อะไรดลใจ แต่ผมก็ถามมันไปแล้ว คนถูกถามมีสีหน้าประหลาดใจนิดหน่อย ก่อนจะคลี่ยิ้มบางๆ แล้วมองตาผมด้วยสายตาพราวระยับ
“ชอบพี่”
“ฮื่อ ถามว่าชอบตรงไหน ไม่ได้ให้บอกชอบ”
“ก็ชอบพี่ไง ชอบทุกอย่างเลย” คนพูดขยับเข้ามาใกล้ จนผมเห็นดวงตาคู่สวยนั่นชัดเจน
“ผม ตา จมูก แก้มผมก็ชอบ” พูดไป ฝ่ามือแข็งๆของอีกฝ่ายแต่กลับสัมผัสผมด้วยความอ่อนโยนอย่างไม่น่าเชื่อ มันเกี่ยวปอยผมที่ระข้างแก้มออก ปลายนิ้วอุ่นลูบบริเวณหางตาอย่างแผ่วเบา จิ้มตรงปลายจมูกและแก้มทั้งสองข้าง ก่อนจะไล้มาสัมผัสริมฝีปากผมเบาๆ เคล้นคลึงมุมปากให้ผมผ่อนคลายช้าๆ ก่อนจะพูดออกมา
“ปากนี่ก็ด้วย” สัมผัสที่อีกฝ่ายมอบให้ทำให้ผมเชิดหน้าขึ้น เผยอริมฝีปากตัวเองอย่างคนตกอยู่ในภวังค์ ซึ่งคนด้านบนก็ทาบทับริมฝีปากอุ่นจัดลงมาอย่างแผ่วเบา ไม่ได้ลุกล้ำอะไร แต่แค่นี้ก็ทำใจผมเต้นแรงกว่าครั้งไหนๆ
“แต่ที่ชอบที่สุดก็ตรงนี้” พอสัมผัสอุ่นๆหายไป คนสร้างความปั่นป่วนก็วางฝ่ามือลงตรงหน้าอกข้างซ้ายของผม แล้วจ้องหน้ากัน ผมได้แต่หลบตามันเพราะไม่สามารถต้านทานสายตาแบบนั้นได้จริงๆ
“ผมชอบพี่ ชอบจนจะบ้าตายอยู่แล้ว อย่าปฏิเสธผมอีกเลยนะพี่วา”
“อื้อ แล้วก็กลับกันเถอะ ดึกแล้ว” ผมส่งเสียงตอบรับในลำคอ แล้วยิ้มให้ผู้ชายตัวโตๆที่ตอนนี้ซุกหน้าลงกับอกผมเหมือนเด็กๆ สักพักถึงยอมขยับออกและพาผมกลับบ้าน
วันนี้มันคงจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีถ้าไม่ใช่เพราะ…
“ให้ผมนอนด้วยเหอะนะพี่” น้ำเสียงอ้อนสุดฤทธิ์กับสายตาลูกหมาถูกงัดมาใช้แบบไม่ยั้งตั้งแต่ สิบนาทีที่แล้ว ในสภาพที่ผมใช้กำลังทั้งหมดดึงประตูห้องไว้
แต่ไอ้คนที่พยายามบุกรุกก็เอามือกันไว้ด้วยท่าทางสบายๆ เถียงกันปากเปียกปากแฉะด้วยหัวข้อเดิมๆคือ ขอนอนด้วย
“ไม่! มึงกลับห้องมึงไปเลย”
"โถ่ ผมเป็นห่วงพี่นะครับ ให้ผมนอนด้วยเหอะนะ" แต่ไอ้คนตื๊อก็ยังไม่ยอมแพ้งัดเอาเเม่น้ำทั้งห้ามาเกลี้ยกล่อม
"มึงนอนกับกูเนี่ยแหละที่น่าเป็นห่วง!”
“ใจร้ายจัง”
"กลับห้องไปเลยไป ดึกแล้วเนี่ย" ผมเอ่ยปากไล่อีกครั้ง จริงๆก็เป็นห่วงไม่อยากให้ขับรถตอนกลางคืนนะ แต่มันเขินนี่หว่า
ถ้าจะให้มันนอนด้วยอ่ะ!
"ถ้าไม่อยากให้ผมกลับดึก พี่ก็ให้ผมนอนด้วยสิ จะได้กลับตอนเช้าไม่อันตรายไง ไม่เป็นห่วงผมหรอ" นั่นไง เปิดทางให้ไม่ได้เลย การเถียงยาวนานทำให้ผมถอนหายใจออกมาเฮือกหนึ่ง ทำหน้าปลง ก่อนจะปล่อยมือที่ยึดลูกบิดประตูไว้ออก
อีกฝ่ายยิ้มร่าอย่างอารมณ์ดี และกำลังจะแทรกตัวเข้ามา แต่ผมก็อาศัยตอนที่มันขยับตัวออกจากประตู ดันประตูปิดแล้วกดล็อคเรียบร้อย ด้วยสีหน้าของผู้มีชัยชนะ
"เฮ้ย! ทำงี้ได้ไงอ่ะ" ผมหัวเราะออกมาเสียงดังทันทีที่คนข้างนอกโวยวาย สมน้ำหน้า ดื้อดีนัก!
"ไม่ก็คือไม่เว้ย หึๆ ฝันดีนะที่ร้ากกก จุ๊บๆ อยากนอนกับเค้า ตัวเองก็หาทางเอานะ กร๊ากกกก" พูดจบผมก็ผิวปากส่งท้ายให้อีกฝ่ายเจ็บใจเล่น แล้วเข้าไปอาบน้ำอย่างอารมณ์ดีสุดๆ
เสียงฝีเท้าและเสียงหัวเราะที่แสดงออกถึงความสะใจห่างออกไป แต่จิตใจของคนโดนหลอกหน้าห้องไม่ได้คลายความเจ็บแสบและคันยุบยิบเลย
เห็นตัวเล็กๆแบบนั้น แตพลิกเกมได้อย่างรวดเร็ว ต้องแสบๆ ปากร้ายๆแบบนี้สิ ถึงจะสมกับเป็นพี่วา เศร้าๆแบบเมื่อกี๊ไม่เข้าเลยสักนิด
สงสัยวันนี้คงต้องถอยทัพไปก่อนละมั้ง
"อ้าว น้องรันต์ มาส่งไอ้วาหรอ?" แล้วก็เหมือนเทวดาจะเป็นใจส่งกุญแจเข้าห้องมาให้ได้พอเหมาะพอเจาะจริงๆ คนถูกเรียกยิ้มให้เจ้าของห้องอีกสองคนด้วยเเววตาอิดโรย
"ครับ พี่วาเข้าห้องไปแล้ว ฮ้าวววว" นี่ แถมการหาวยาวๆเป็นพร็อพ
"แล้วนี่จะขับรถไหวหรอ ดึกแล้วนะ นอนนี่มั้ย" ประโยคที่ต้องการมาแล้ว ทำเอาห้ามปากตัวเองไม่ให้ยกยิ้มแทบไม่ทัน
ก่อนจะตีหน้าเศร้าน่าสงสาร
"ขอพี่วาแล้วครับ แต่เขาไม่ให้นอนด้วย"
"อ้าว ช่างหัวไอ้วามัน สงสัยเมนส์แม่งจะมา ป่ะ เข้ามาสิ" เจ้าของห้องทั้งสองขยับมากดรหัสผ่านอยู่ไม่นาน ประตูก็เปิดออก
รอยยิ้มชั่วร้ายที่กักเอาไว้เมื่อกี๊ก็ผุดพรายขึ้นมา คนตัวสูงเดินไปนั่งที่โซฟากลางห้องก่อนจะแกล้งทำเป็นมองหาอุปกรณ์การนอนของตัวเอง เจ้าของห้องเห็นแบบนั้นก็เลยส่งผ้าเช็ดตัวกับเสื้อผ้าชุดใหม่ที่ไปรื้อมาจากของอีกคนให้
"ขอบคุณมากครับ เอ่อ พี่ฟานพอจะมีผ้าห่มให้ผมมั้ยครับ"
"มีสิ ในห้องนู่นไง รู้น่า เข้าไปเหอะ ตื๊ออีกนิดเดี๋ยวมันก็ให้นอนด้วย ปากแข็งไปงั้นแหละ" อีกฝ่ายตอบอย่างคนรู้ทัน ทำเอาเเขกพิเศษยิ้มกริ่ม แล้วเดินเข้าห้องเป้าหมายไปอย่างเงียบเชียบ
ตัดภาพมาที่เป้าหมาย…
ไอ้คนไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรกำลังยืนแต่งตัวอย่างอารมณ์ดีอยู่ในห้อง เห็นแสงไฟที่ส่องเข้ามาก็ไม่ได้เอะใจ จนกระทั่ง
หมับ
"เฮ้ย!"
แรงกอดรัดจากทางด้านหลังทำเอาเจ้าของห้องขวัญกระเจิง แหกปากออกมาดังลั่น เตรียมตัวหยิบกระป๋องเเป้งในมือประทุษร้ายผู้บุกรุก แต่อีกฝ่ายแสดงตัวก่อนเลยรอดไป
"ผมเอง"
"เข้ามาได้ไง" หน้าเหวอ ตาโตๆ ริมฝีปากที่อ้าๆหุบๆอย่างคนประติดประต่อเรื่องราวไม่ได้ กับหัวฟูๆที่ยังไม่แห้งดีทำให้คนมองยิ้มแป้น
ก็พี่วาน่ารักอีกแล้ว
"พี่ฟานให้นอนนี่ครับ เขาบอกว่าไม่อยากให้ขับรถกลับดึกๆ" พอได้ยินประโยคนี้ คนน่ารักก็แบะปากออกอย่างหมั่นไส้ เพราะอะไรๆก็ดูจะเป็นใจให้อีกฝ่ายซะเหลือเกิน
"แล้วตกลงให้ผมนอนด้วยรึเปล่าครับ?"คนตัวสูงถามย้ำพร้อมกับรอยยิ้ม แต่เจ้าของห้องก็เฉไฉไม่ตอบอีกจนได้
"ไม่รู้ ไม่ตอบ"
จุ๊บ
ในเมื่อไม่ตอบดีๆก็คงต้องใช้กำลัง ด้วยการตีปาก ด้วยปากอ่ะนะ
"ให้พูดใหม่"
"ไอ้..."
จุ๊บ
"ไอ้อะไรครับ อ๊ะๆ ต่อไปไม่ใช่จุ๊บแล้วนะ"
ถ้าใครได้เห็นสีหน้าของนายวาทิตย์ตอนนี้คงตลกพิลึก คิ้วเรียวขมวดมุ่น ริมฝีปากบางอ้าๆหุบๆอย่างตัดสินใจไม่ถูกว่าจะด่าหรือจะอนุญาติดี ถึงโดยรวมจะดูบึ้งตึง แต่แก้มขาวๆก็แดงก่ำอย่างน่ารัก
บอกแล้วว่าพี่วาน่ารัก น่ารักมากจริงๆ
"เออ! จะนอนจะอะไรก็เรื่องของมึงเถอะ" พอรู้ว่าสู้ไม่ได้ก็เลยถอยทัพ สะบัดตัวออกจากวงแขนแล้วโดดลงเตียง คลุมโปงหนีเอาดื้อๆ แต่คนบุกรุกก็สรุปรวบว่าอนุญาติแล้ว เลยเข้าไปอาบน้ำอย่างสบายใจเฉิบ
ร่างเล็กที่นอนกบดานแบบไม่ปลอดภัย ใจเต้นตุบตับ ใบหน้าก็แดงก่ำแบบห้ามไม่อยู่ ถ้าเพื่อนคนอื่นมานอนด้วยไม่เคยตื่นเต้นขนาดนี้ แต่เข้าใจมั้ยว่านี่แฟนมานอนด้วยอ่ะ แล้วมันจะ...
"อ๊ากกกกก คิดเหี้ยอะไรของมึงเนี่ยไอ้วา!"
"คิดอะไรหรอครับ?" เสียงนุ่มๆกระซิบที่ข้างหู พร้อมกับสัมผัสยวบยาบที่ข้างตัว เงาที่พาดทับลงมา ทำเอาใจรัวเป็นกลองเพล ได้แต่ซุกตัวกับผ้าห่มที่ดูเหมือนจะไม่ช่วยอะไรเท่าไหร่
"ผ้าห่มแค่นี้ช่วยอะไรไม่ได้หรอกนะครับ หึๆ" แรงดึงเบาๆทำให้ผ้าห่มเปิดออก แล้วคนใต้ร่างก็ทำหน้าช็อคปนสยองขวัญ เมื่อเห็นดวงตาสีนิลคู่คมฉายแววเจ้าเล่ห์อย่างปิดไม่มิด
น้ำลายเหนียวมาจ่ออยู่ที่คอ เมื่อไล่สายตาจากใบหน้าคมเข้มเรื่อยมาจนถึงหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามหนาหนั่นเกินวัย แต่ให้ตายเถอะ รอยสักลายไทยรูปใบหน้ายักษ์ที่ดุดันเข้ากันดีกับผิวสีน้ำผึ้งคร้ามแดดบริเวณขอบกางเกงทำให้คนมองกลืนน้ำลายอย่างยากเย็น
เด็กนี่มันกำลังทำให้เขาสติแตก!
"ขยับออกไปเดี๋ยวนี้นะ" ประโยคเหมือนออกคำสั่ง แต่น้ำเสียงกลับสั่นพร่าแบบควบคุมไม่อยู่ คนโดนไล่ยกยิ้มและนิ่งเฉยอยู่กับที่ คนไล่เลยดันแผ่นอกอีกฝ่ายออกแรงๆ แต่กำแพงหนาๆนั่นก็ไม่สะเทือนสักนิด
"อย่าไล่ผมสิครับ" น้ำเสียงออดอ้อนถูกงัดมาใช้อีกครั้ง ฝ่ามือร้อนกอบกุมมือบางไว้แล้วบังคับให้มาเกี่ยวประสานกันที่คอทั้งสองข้าง
ระยะห่างที่ลดลงจนปลายจมูกชิดกัน ทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้ง ไม่ทันจะได้ต่อว่าอะไร ริมฝีปากอุ่นจัดก็ทาบทับแนบสนิทลงบนริมฝีปากบาง ความร้อนลามเลียไปทั่วกลีบปากบนและล่างอย่างดุดัน ก่อนสัมผัสชื้นแฉะจะถูกแทรกเข้ามาหยอกล้อกับลิ้นเล็กภายในอย่างอ่อนโยนหากแฝงไปด้วยความเอาแต่ใจ จนเผลอตวัดเกี่ยวปลายลิ้นตอบรับ
เมื่ออีกฝ่ายกวาดต้อนจนพอใจ ฟันคมก็ทำหน้าที่ขบกัดหยอกเย้ากลีบปากบางสลับกับดูดดึงจนเเดงก่ำ ฝ่ามือร้อนๆเลิกชายเสื้อนอนยืดย้วยขึ้น สัมผัสผิวนุ่มลื่นมือด้วยความร้อนรุ่ม
การกระทำที่คนได้รับอ่อนระทวยเป็นขี้ผึ้งลนไฟ แต่ความอดทนของคนทำใกล้หมดลง ดวงตากลมโตที่ฉายแววดื้อรั้นอยู่เสมอ ตอนนี้กลับฉ่ำเยิ้ม หรี่ปรือมองคนรุกรานด้วยความสับสน แต่เชิญชวนโดยไม่ได้ตั้งใจ
แก้มขาวๆที่ขึ้นสีแดงไม่รู้ว่าเพราะเขินหรืออะไรกันแน่ ริมฝีปากที่บวมแดงเผยอหอบหายใจ ไหนจะผิวขาวนวลเนียนโผล่พ้นชายเสื้อที่ถูกร่นขึ้นไปอยู่เหนืออกด้วยฝีมือเขา
พี่วาในตอนปกติน่ารัก แต่ตอนนี้คงต้องบอกว่า 'น่าเอา'
"จะทำให้ผมหลงไปถึงไหนวะ"
คนด้านบนเค้นเสียงพูดอย่างทนไม่ไหว บดเบียดริมฝีปากลงบนกลีบปากบ่วมเจ่อแรงๆอีกที แล้วไล่เลียลงมาซอกคอขาว ที่อีกคนก็ให้ความร่วมมืออย่างดี เชิดใบหน้าขึ้นเปิดทางให้ คนทำยิ่งได้ใจ ดูดเม้มจนเกิดรอยแดง
หิรันต์ระงับอารมณ์ตัวเองไม่อยู่แล้วตอนนี้
"รันต์" เสียงที่เปล่งเรียกออกมาสั่นพร่าตามแรงอารมณ์
"ครับ" มีเสียงตอบกลับเบาๆจากคนที่เริ่มจะรุกรานจุดอ่อนไหวบนแผ่นอก ที่แค่แตะเบาๆอีกฝ่ายก็บิดกายเร้ารัญจวน แต่ก่อนจะได้ก้มลงไปชิม คนตัวเล็กก็ผวามากอดรัดหยุดยั้งการกระทำทั้งหมดลง
"ไม่เอานะ ไม่เอา"น้ำเสียงที่สั่นเหมือนจะร้องไห้ ทำใจคนอารมณ์พุ่งสูงใจตกไปที่ตาตุ่ม รีบรวบร่างเล็กกว่าเข้าสู่อ้อมกอดแน่น
"ไม่ร้องนะครับ ผมขอโทษ" เสียงทุ้มปลอบประโลมที่ข้างหูพึมพำแต่คำว่าขอโทษ พลางโทษตัวเองในใจ แน่นอนว่าอารมณ์อยากทำน่ะมีแน่ๆ มีมากด้วย
แต่การบังคับไม่ใช่เรื่องดี ถ้าคนที่เขารักไม่พร้อมเขาก็ยินดีหยุด ไม่ว่ากับเรื่องอะไร ถ้าพี่วาไม่ชอบ เขาก็จะไม่ทำ ขอเพียงแค่อีกฝ่ายเอ่ยปาก
"ขอโทษนะ แต่กูกลัว"คนที่อยู่ในอ้อมกอดเงยหน้ามามองด้วยสายตารู้สึกผิดเต็มเปี่ยม หากอีกคนยิ้มให้อย่างอ่อนโยนแล้วบอกด้วยน้ำเสียงจริงจัง
"ผมอยากคบกับวาเพราะอยากดูแลครับ ไม่ได้อยากเอามาเป็นตุ๊กตายาง ผมจะไม่พูดว่าผมรอได้ เพราะพูดตรงๆผมเองก็ไม่อยากหยุด แต่ถ้าวาไม่ชอบ ผมก็จะไม่ทำ ขอแค่วาบอกผม ไม่ใช่กับเรื่องนี้ เรื่องอื่นหรืออะไรก็ตาม ที่วาไม่ชอบ ผมก็จะไม่ทำแน่ๆ"
ความจริงใจถูกส่งผ่านมาทั้งคำพูดและแววตา คนตัวเล็กเอ่ยขอโทษอีกครั้งแล้วซุกหน้าลงกับแผ่นอกหนาอย่างอุ่นใจ
มันจริงจังกับเขา มันไม่ได้หวังเเค่เซ็กซ์
มันให้ความจริงใจมาเต็มร้อย ในขณะที่ผมให้มันได้แค่ความโลเล
รอกูอีกนิดนะรันต์ กูจะเป็นคนที่ชัดเจนกับมึงให้ได้
มาเเล้วค่าาาาา รู้สึกถึงการรุกหนักของน้องรันต์ 55555555555
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านมากนะคะะะะ
รักทุกคนค่ะ
จุ๊บๆ