พ่อผมเป็นนักเลงตัวเล็ก
(เฮียป๊อกXน้องจุก 2 )
“มึงอย่าลืมไปงานพบผู้ปกครองไอ้จุกมันนะ”
“เออ ๆ ”
ผมตกปากรับคำไอ้โทน ที่เดินออกมาส่งผมที่รถ แม่ง กะจะมากินข้าวอย่างเดียวเสือกหาบ่วงคล้องคอให้กูเฉย ไม่คิดบ้างเหรอไงว่า ผมจะนัดสาวที่ไหน จะทำงานหรือเปล่า บังคับกูจัง นี้ถ้ากูไม่ไปให้คงหักคอให้ตายตรงนี้แหละ
“กูไปละ มึงไปกรุงเทพ ก็ไปดีมาดี สำลีแปะหัวนะสาดดดด” ไอ้ห่าเตี้ยชูมะเหงกให้ผมกำปั้นใหญ่ ผมรีบชิงปิดประตู และออกรถออกมาซะก่อนที่ไอ้ห่าโทนจะทำร้ายผู้ชายตัวเล็ก ๆ อย่างผม หึ ตัวเล็กกว่าเสาเข็มหน่อยเดียวแหละมึง ฮ่าๆๆๆ
ผมป๊อกไงจำได้ปะ แหม บทน้อยหน่อยเดียวทำเป็นลืม เดี๋ยวปั๊ด จูบซะนี้ หึหึ อายุ อานามก็ 30 ละ แก่พอ ๆ กับไอ้โทนนั้นแหละ รุ่นเดียวกัน หน้าที่การงานของผมก็เปิดบริษัทสถาปนิกรับออกแบบ ตกแต่งภายใน บลาๆๆๆๆ ไปตามภาษา รายได้ค่อนข้างดี
ล่าสุดเจองานยักษ์ สถาปนาวัดป่า ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้สายผมโดยตรงแต่ก็มีเพื่อนในวงการที่คร่ำหวอดในวงการนี้อยู่หลายชีวิตและบริษัท นั้นแหละครับหลังจากตกลงกับหลวงตาได้แล้วไม่ต้องรอให้ทำเรื่องถึงกรมศิลปกรเพื่ออนุมัติ เจ้าหน้าที่ อิฐ หิน ดิน ปูน หลายต่อหลายคันถูกขนมาไว้ที่วัดอย่างปริศนา และทุกอย่างถูกกฎหมาย พอสืบไปสืบมาก็เจอทางตัน พูดง่าย ๆ คือผมไม่รู้ว่าใครเป็นคนจ้าง งานโหดเลยละครับ ได้เงินล้านที่ได้มาแบบงงๆ เป็นค่าจ้างล็อกแรก ที่ผมใช้เลี้ยงช่างและลูกน้องทีมออกแบบหลายชีวิต จนมีความรู้สึกว่าทำไมค่าจ้างแม่งเสมอตัว ๆ แปลก ๆ วะ ไม่ค่อยเหลือกำไรให้กูเท่าไหร่ แต่ล่าสุดแม่งมีโอนเข้าบัญชีบริษัทมาอีก 5 ล้าน!!!! แต่พอตรวจสอบต้นตอแล้วก็เป็นบัญชีที่ไม่สามารถตรวจสอบได้เพราะธนาคารเก็บข้อมูลทุกอย่างเป็นความลับ ผมสงสัยจนเลิกสงสัย พยายามทำงานออกมาให้มันดีที่สุดนั้นแหละ ได้บุญด้วยได้เงินด้วย กำไร ๆ
“พี่ป๊อก แวะตลาดหน่อยได้ไหม จุกอยากกินไอติมอะ”
เอี๊ยดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!
“มะมึง ไอ้เชี้ยตกใจหมด นึกว่าลูกกรอกที่ไหน” ผมหันไปมองไอ้ห่าเด็กจุกที่โผล่หน้าหลอน ๆ มาจากเบาะด้านหลัง มึงขึ้นมาได้ยังไง!!! ตั้งแต่เมื่อไหร่!!!! แล้วถ้ากูตกใจเบรกถลาตกคันนาไปกูจะกลายเป็นผีไหม ไอ้เด็กปิศาจ!!!!
“พี่ป๊อกเป็นอะไรจ๊ะ?”
“มึงไม่ต้องมาหน้าซื่อ ! ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ก็โทนจะเอาของพวกนี้มาใส่รถพี่ป๊อก แต่รถออกก่อนเลยไม่ได้ลงอะจ้ะ”
มันชูถูกข้าวเกรียบที่ผมนั่งจิ้มน้ำพริกกินเมื่อกี้อย่างอร่อยแดกข้าวไป 3 จานพูน ๆ เรียกได้ว่ามากินข้าวบ้านไอ้โทนอิ่มไป 3 วันเพราะมันหุงข้าวเยอะอยู่แล้ว แต่ถ้าอยู่ในช่วงนักมวยลดน้ำหนัก ได้อดแดกของฟรีกันหลายวันเลยทีเดียว เดี๋ยวนะก่อนนอกเรื่องไปไกล ขอเคลียกับไอ้เด็กหน้าเต่านี้ก่อน
“แล้วทำไมมึงไม่โวยวายตั้งแต่แรกวะ นี้ขับมาจะครึ่งทางและมึงเห็นไหม”
“ก็หนูอยากมาซื้อขนมพอดีนี้” เดี๋ยว เดี๋ยวเหอะมึงก็พากลับไปบ้านแดกไอติมกูนี้แหละ! กวนตีนหน้าแบ๊วดีนัก
“กูเกือบหัวใจวายมึงรู้ไหม”
“ทำไมล่ะจ๊ะ” มันเอียงคอมองผมตาแป๊ว แล้วป่านนี้ไอ้โทนไม่ตามหามึงวุ่นแล้วหรอวะ!
“กูบอกให้พูดแทนตัวเองว่า ผม และลงท้ายด้วย ครับ!” ผมดุมันและถวายมะเหงกให้ไอ้เด็กอื้อไป 2 ทีเน้น ๆ
“เอ่อ …ครับ อย่าดุจุกสิจ…ครับ”
“เออ ๆ กูไม่ดุมึงแล้ว ดุไปก็เท่านั้นกูเพลีย”
“งั้นไปกินไอติมกันนะครับ” หึ เดี๋ยวก็พาไปแดกที่บ้านกูจริง ๆ หรอกไอ้เด็กบ้า
“อยากจะไปก็ไป แต่มึงหาทางกลับบ้านเองนะ”
“งั้นพาจุกกลับบ้านเถอะ”
“ห๊ะ!”
“กะ กะ ก็จุกไม่อยากกลับคนเดียวนี้ ไม่กินไอติมแล้วก็ได้” ยัง ยังจะมาทำหน้าซื่อก้มหน้าทำตาละห้อย
“ยังไงกูต้องไปส่งมึงสินะ” ผมหันไปถามมันอย่างอ่อนใจ ก่อนที่ตาแป๋วจะเงยขึ้นมองผมยิ้มแป้นจนปากจะฉีก หึ ผมละเชื่อมันเลย
.
.
.
“เอาไอติมใช่ไหม” ผมจูงมือมันมาที่ร้านขายของชำในตลาด ไอ้จุกเงยหน้ามองผมทีมองอาแปะเจ้าของที ก่อนจะควักมือเรียกให้ผมก้มลงไป ถึงจะขมวดคิ้วผม ก็ต้องก้มครับไม่งั้นมันก็ทำอยู่แบบนั้นไม่เลิก
“จุกอยากกินไอติมตักแบบไฮโซฮะ” มันกระซิบ
“แดกไอติมแทงเหอะมึงอ่ะ” ผมกระซิบตอบกลับ
“แต่จุกอยากกิน พี่ป๊อกใจดีเลี้ยงจุกหน่อยจิ” ไอ้จุกจับมือผมที่ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่แกว่งไปมา น่ารักตายห่าละมึง แค่นี้เขาก็หาว่ากูเป็นโชตะคอนแล้วไอ้เด็กเต่า
“ตกลงลื้อจะซื้อกันไหม ดึกดื่นแล้วอั๊วจะปิดร้าน”
“งั้นเอาบุหรี่ XXX ซองครับเฮีย” ผมว่าก่อนที่จะโดนแปะแกเหวี่ยงมากกว่านี้ ก่อนจะเดินไปจ่ายตังที่โต๊ะไม้มีขนมลูกกวาดหลากรสวางอยู่
“จุกเอานี้ด้วยฮะ” ผมเลิกคิ้วมองไอ้จุกที่ถือขนมห่อมาถุงนึงวางข้าง ๆ บุหรี่ผม
“มีตังค์ ?”
“มีฮะ พี่ป๊อกไง” มันว่าแล้วคว้าเอาขนมไปถือไว้ ยืนส่งยิ้มตาหยีมาให้ผมตามเดิม … เห็นกูเป็นธนาคารเคลื่อนที่ได้เหรอ ?
“100 พอดี” ผมหยิบแบงค์ร้อยส่งให้อาแปะอย่างไม่มีทางเลือก ก่อนที่จะดันหัวเล็ก ๆ ของไอ้จุกให้ถลาไปด้านหน้านิด ๆ มันหน้ามุ่ยมองผมที่เลิกคิ้วอย่างมีคำถาม มันหัวเราะและรีบเดินไปยืนข้างๆรถกระบะคันใหญ่ของผม
“ว่าไงไอติมไม่แดกล่ะ แดกขนมแทน ?”
“กินฮะ จุกยังไม่เคยเข้าร้านตรงหัวมุมเลย”
มือเล็กชี้ไปที่ถนนหัวมุมอีกมือก็ถือขนมถุงเอาไว้แนบอก แหมทำอย่างกับมึงอดอยาก กูเห็นไอ้โทนก็เลี้ยงดี ไปไหนมาไหนซื้อขนมของเล่นมาฝากตลอดแถมเบี้ยเลี้ยงยังได้เยอะกว่ากูตอนเด็ก ๆ อีกนะเฮ้ย!
“ไอ้โทนไม่พามึงไปเหรอไง”
“พี่โทนเคยจะพาเข้า แต่จุกกลัวพี่โทนลำบากเลยหนีไปเล่นตลอดฮะ”
“แล้วกูเกี่ยวไร ?” ผมชี้มาที่ตัวเอง … งงมันครับ
“ก็พี่ป๊อกใจดี … พี่ป๊อกรวยด้วย นะฮะ เลี้ยงจุกหน่อย จุกตัวเล็กกินไม่เยอะหรอก” มันทำหน้าอ้อน … อ้อนตีนกูนี้แหละ
“หึ อยากไปก็ไปขึ้นรถ แต่ถ้ากวนตีนกูกูถีบลงนะ”
ผมว่าก่อนจะเปิดประตูให้มันกระโดดขึ้นไปนั่ง ส่วนตัวเองก็เดินไปฝั่งคนขับและพาไอ้เด็กหน้าด้านไปที่ร้านคาเฟ่แมวหน้าขนที่มันอยากมาเหลือเกิน … ตอนแรกผมก็นึกว่าร้านไอติมธรรมดา ๆ ที่ไหนได้หาเรื่องให้กูตลอดดดดดดดดดดด
“กูแพ้ขนหมา”
“… งะ งั้นจุกไปกินไอติมแท่งก็ได้”
“กูล้อเล่น”
พูดเสร็จผมก็ผลักประตูเข้าร้านไปทันที หึ อึ้งสิมึงเจอกูกวนตีนกลับบ้าน เพราะมึงเป็นเด็กนั้นแหละกูถึงรังแก ถ้าเป็นผู้ใหญ่เหมือนกัน กูจะมีปัญญาไปทำอะไรล่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆ … ทำไมประโยคเมื่อกี้มันดูน่าสมเพชจังวะ
“สวัสดีค่า อ้าวหนูจุก วันนี้โทนไม่มาเหรอจ๊ะ” ผมหันขวับไปมองไอ้ตัวดีที่กำลังเอานิ้วจ่อปากทำเสียงจิ้งจกส่งให้แม่ค้าคนสวย … มันเหลือบมามองผมก่อนจะหัวเราะแหะ เกาหัวทำตาใสกิ๊ก … กะล่อน ไอ้เด็กคนนี้ไม่ธรรมดาจริง ๆ
“คะ คือว่า … แหะ ๆ จุกอยากกินนี้หน่า …”
“โกหกตกนรกหลวงตาไม่เคยสอนหรือไง” ผมตามและนั่งลงบนเก้าอี้ริมกระจก มีไอ้แมวหน้ามึน 2 ตัววิ่งไล่ขับกันผ่านหน้าไป
“แต่เจตนาจุกไม่โหดร้ายนะฮะ”
ไอ้ตัวเล็กขึ้นมานั่งข้างผม ท่าทางมันก็ดูสำนึกผิดอยู่หรอกแต่ผมชักจะไม่เชื่อใจไอ้เด็กคนนี้ซะแล้ว หน้าซื่อตาใสแบบนี้แสบซะเหลือเกิ๊น แต่ก็แปลกนะครับไอ้จุกมันกล้าเข้าใกล้ผม ทั้งที่เด็กคนอื่นออกจะกลัวกันซะหมด มันบอกหน้าผมโหด ท่าทางจิ๊กโก๋ แล้วยังเสียงดังด้วย … เออก็จริงของมันแต่มันลืมพูดอีกข้อไป กูหล่อไงครับ ฮ่าๆๆๆ
“เออ ๆ จะกินอะไรก็กินซะจะได้พาไปส่งบ้าน กูอยากพักผ่อน” พอผมพูดจบไอ้จุกก็เอื้อมไปหยิบเมนูและตะบี้ตะบันสั่งของมาเต็มโต๊ะ เดี๋ยวนะ นี้มึงกินหรือยันนุ่น ตัวก็ออกจะเล็กเอาไปเก็บไว้ไหนหมดวะ
“ของคุณป๊อกรับเป็นน้ำเปล่าหรือเป็นกาแฟร้อนดีคะ”
“นมจืดร้อนแล้วกันครับ” ผมหันไปสั่งแม่คนสวยเจ้าของร้าน ที่เดินมาเสริฟเค้กช็อกชิพชิ้นสุดท้ายให้ไอ้จุก ส่วนมันตอนนี้ไปอุ้มลูกแมวสีน้ำตาลใหญ่กว่าฝ่ามือผมหน่อยขึ้นมาเล่นแล้วเรียบร้อย
“แดกไม่หมดกูฆ่า”
ผมพูดและดันหน้าไอ้แมวตัวยักษ์ขนฟูสีดำที่สลอนหน้าเข้าจากด้านหลังออก ความจริงผมก็ชอบแมวนะครับเพราะมันนิสัยหยิงอินดี้ไม่ค่อยสุงสิงเท่าไหร่นัก แต่ตอนนี้มีไอ้จุกมาด้วยไม่อยากให้เด็กมันได้ใจ
“อิอิ จุกชอบกินขนมหวานมาก กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม” แน่สิ แต่ถ้าเค้ก 6 ชิ้นกับ ไอศกรีมถ้วยใหญ่ที่มึงสั่งมาไม่อิ่ม กูว่าควรจะหาขี้เถ้ายัดใส่ปากจะได้อิ่ม ๆ
“เออ ๆ ไหนมันอร่อยตรงไหนวะ ไอ้เค้กเนี้ย กูเห็นชอบกินกันจัง”ผมแกล้งมันหยิบเอาเค้กสตอเบอรี่ใกล้ ๆ ขึ้นมาทั้งชิ้นและยัดลงปากในคำเดียว … เออก็อร่อยดีนะ เปรี้ยว ๆ หวาน ๆ
“อ่า ชิ้นนั้นจุกจะเก็บไว้กินชิ้นสุดท้ายอะ คัตเตอร์จัดการเลย!”
ม้าว!
แหมะ!
แล้วไอ้แมวผีตัวเล็กก็มามาแหมะอยู่บนหัวผมไดยที่มีไอ้จุกเป็นตัวการ ไอ้เด็กตะไล กูละจะบ้าตาย แต่ผมก็ต้องหัวเราะออกมาเมื่ออยู่ ๆ ไอ้จุกก็ถูกแมวผีขนฟู ที่วิ่งไล่กันอยู่เมื่อกี้พุ่งเข้าหน้าเสียหลักแทบหล่นจากเก้าอี้แต่ดีที่ผมคว้ามันไว้ได้ทัน
“เอ๊า เลิกเล่นกินซะดึกแล้ว พรุ่งนี้มึงต้องไปโรงเรียนแต่เช้าไม่ใช่เหรอไง”ผมว่าก่อนจะจัดให้มันนั่งให้เรียบร้อยเอาไอ้คัตเตอร์ที่อยู่บนหัวลงเพราะเริ่มเจ็บหนังหัวด้วยคมเล็บของมัน กูละอยากจะบ้าตาย ทั้งแมวทั้งเด็กก่อกวนกูดีจริง ๆ
พอมันยัดทุกสิ่งทุกอย่างลงกระเพราะของมันได้หมด ผมก็ให้มันเล่นกับแมวอีกสักพักแล้วก็พอมันขึ้นรถกลับมาส่งที่บ้านมันอีกรอบ ทั้งบ้านปิดไฟหมดแล้ว มีแต่ไอ้แสงกับไอ้เมฆที่ยืนรออยู่หน้าบ้านเพราะผมโทรบอกมันว่าไอ้จุกอยู่กับผมก่อนหน้านี้ ทำเอาคนทั้งบ้านมันโหวกเหวกโวยวายเพราะเด็กหายสบถกันระงมโดยเฉพาะไอ้โทนที่ด่าพ่อล่อแม่อยู่เหยง ๆ
“ไปเลยมึงอะ โดนไอ้แสงเขกหัวแน่”
“จุกจะบอกว่าพี่ป๊อกลักพาตัวจุกไป แฮ่ ฝันดีนะฮะ”
ฟอด!
ผมนิ่งมองมันที่กระโดดลงจากรถไปโบกมือโบกไม้ให้ผมไปมา ก่อนจะวิ่งหนีไอ้แสงที่ใส่ตะครุบเข้าบ้านไป ก่อนยกมือขึ้นมาจับแก้มตัวเองที่ถูกไอ้เด็กปิศาจขโมยหอมไปเมื่อกี้ … สาดดดดดดดดดดดดดด ทำไมปากมึงนิ่งแบบนั้นวะ!!!!
“น่ารักฉิบ … เป็นห่าอะไรไอ้ป๊อก โชตะคอนหรือไง” ผมหัวเราะกับตัวเองก่อนจะสตาร์ทเครื่องมุ่งหน้ากลับบ้านทันที … ไอ้เวร แล้วมึงจะยิ้มให้ปากฉีกถึงรูหูเลยหรือไง!!!!
.
.
.
Rrrrrrrrrrrrrrr Rrrrrrrrrrrrrr
“ครับน้องลูกจันทร์”
ผมรับสายของคู่ขาคนล่าสุดที่โทรมาแต่เช้าตรู่ในขณะที่กำลังเลือกเสื้อใยตู้เพื่อไปงานพบผู้ปกครองที่โรงเรียนไอ้จุก แม่ง ทำกูตื่นเช้าเป็นประวัติการณ์เพราะต้องวนไปรับไอ้จุกที่บ้านอีก ปกติมันก็มีรถโรงเรียนไปรับ หรือขี่จักรยานไปเองแหละครับ แต่ไอ้ไม้ไงโทรมาจิกผมตั้งแต่หกโมง เพราะกลัวว่าลูกของมันจะไม่มีคนขับรถเทียวไปเทียวมาส่ง ไอ้ห่า ขอค่าจ้างด้วยฮะคุณพ่อ
“พี่ป๊อกอยู่ไหนแล้วคะ วันนี้มารับลูกจันทร์ไปเที่ยวใช่ไหมคะ?”ตายห่า … ลืมแม่เจ้าประคุณนมโตจนสนิท …
“เอ่อ ลูกจันทร์ครับ วันนี้พี่ป๊อกมีงานด่วนสุด ๆ เลยครับ ขอโทษด้วยนะ พี่คงไปหาเราไม่ได้”
“อะไรกัน เรานัดกันแล้วนี้” ผมขมวดคิ้วเมื่อเสียงขอเธอแข็งกระด่างขึ้นมา ซึ่งเป็นแบบที่ผมไม่ชอบซะด้วย มันจะอะไรกันนักกันหนา
“ถ้าพูดไม่รู้เรื่องก็แค่นี้” ผมว่าแล้วกดวางสายในทันที
แม่เจ้าประคุณก็โทรมาอีกยิก ๆ ด้วยความรำคาญจึงปิดเครื่องทิ้งแม่งไว้นี้และคว้าเอาโทรศัพท์สำรองอีกเครื่องติดมาแทน สาดดดด แค่ไปงานโรงเรียนเด็กคงไม่ต้องแต่งสูทหรอกมั่งเอาแค่เสื้อเชิ๊ตกับกางเกงยีนต์ก็พอ คิดได้แบบนั้นก็แต่งตัวอย่างเร่งรีบโดยทันที
“พี่ป๊อกมาแล้ววววววววววววววววววววววว” เสียงแจ๋วของไอ้จุกดังต้อนรับผม พร้อมกับเสียงเห่าของไอ้หมาบ้านนี้ผสมโรงกัน มันอยู่ในชุดนักเรียนเรียบร้อยนั่งหง่อยอยู่ที่แคร่หน้าบ้าน ก่อนที่ผมจะเดินเข้ามา ตามันยังใสกิ๊กอยู่เหมือนเดิม
“คนอื่นล่ะ”
“พี่เมฆพี่แสงลุงทายไปชกมวยจ้ะ ส่วนพี่ไม้กับพี่โทนออกเดินทางไปตั้งแต่จุกยังไม่ตื่นเลย”
“อืม ปะ ไปกันได้แล้ว”
“เดี๋ยวสิ เหลือเวลาอีกตั้งเยอะนะจ๊ะ หนูทำข้าวผัดเอาไว้ กินข้าวเช้ากันก่อนก็ได้”
“เออ งั้นไปยกมา กูก็ต้องร้องอยู่พอดี” มันยิ้มก่อนจะวิ่งเข้าไปในครัว สักพักก็ออกมาพร้อมกับข้าวผัดสองจานหอมฉุยมาแต่ไกล หึ ไอ้โทนมันสอนลูกมันมาอย่างดีครับงานบ้านงานเรือนไม่ขาดอยู่แล้ว
“จุกใส่ใจลงไปด้วยนะ กินให้อร่อยนะฮะ” ผมพูดก่อนจะวางจานลงบนมือผม หึหึ เข้าใจพูดนี้ไอ้เด็กคนนี้
“รีบแดกจะได้รีบไป” ผมว่าก่อนจะลงมือกินโดยมีไอ้เด็กหน้าซื่อตาใสนั่งกินอยู่ข้าง ๆ นี้มึงใช้สบู่อะไรทำให้หอมนักวะ แล้วมึงใส่ใจลงไปเยอะแค่ไหนข้าวผัดธรรมดาของมึงถึงอร่อยนักฮะไอ้จุก
.
.
.