๕๑ ชะอำ“พี่ชัย เป็ดอะ ฝูงเบ้อเร่อเลย” ตั้ม ส่งเสียงเรียกเมื่อมองเห็นฝูงเป็ดที่ว่ายน้ำอยู่ในบึงข้างทางรถไฟ
“ปอ ปอ ควาย” ตั้ม ร้องอีก
“มึงสิควาย หนอยอยู่ๆมาว่ากู” ปอ ที่นั่งอยู่ตรงข้ามตวาด ท่ามกลางเสียงหัวเราะของเพื่อนๆ
“ม่ายช่ายอะ ปอ โน่น” ตั้ม ชี้ออกไปนอกหน้าต่างรถไฟ “โน่นตะหากอะ ควายตั้งหลายตัว ว้า ไม่เห็นแล้ว”
“ฮ่าๆๆ ตั้ม เอ็งทำยังกะเด็กบ้านนอกนั่งรถไฟเข้ากรุง” เชียรว่า
“นั่งรถไฟไปชะอำตะหากอะ” ตั้ม หันมาเถียง พลางหันหน้ากลับไปสนใจกับทิวทัศน์ต่างๆ ผ่านทางหน้าต่างรถไฟต่อไป
ชัย มองดู ตั้ม ที่นั่งอยู่ข้างๆด้วยความเอ็นดู หยิบถุงถั่วตัดแล้วเอนตัวเข้าไปโอบไหล่ ตั้ม ชวนกันดูวิวไปกับ ตั้ม แล้วก็หยิบถั่วตัดกินเองบ้าง ส่งให้ ตั้ม บ้าง ด้วยความเพลิดเพลิน บางทีก็หันมามอง ปอ แล้วยักคิ้วให้
... เออใช่ กูอิจฉามึง ไม่ต้องมาเยาะเย้ยกู ... ปอส่งสายตาดุๆกับไปให้ ชัย
...........................................................................
.................................
ขบวนรถหวานเย็นที่ออกจากสถานีหัวลำโพงตั้งแต่เวลา ๗ โมงเช้า มาถึงชะอำเวลาเที่ยงพอดี นักเรียนทั้ง ๔๐ ขึ้นรถสองแถวที่มารอรับ ไปยังที่พักริมหาด เมื่อไปถึงก็พากันเอาสัมภาระไปเก็บยังห้องพัก ที่มีลักษณะเป็นห้องพักรวม พักได้ห้องละ ๑๐ คน แล้วเปลี่ยนจากชุดนักเรียนเป็นชุดลำลอง จากนั้นก็พากันไปรับข้าวกล่องที่ครูแจกมารับประทานกัน
“เอ้าเดี๋ยวกินข้าวกลางวันกันเสร็จแล้ว พักพ่อนตามสบายไปก่อนนะ เดี๋ยว บ่าย ๒ ก็เตรียมอุปกรณ์มารวมกันที่นี่นะจ๊ะ” ครูท่านหนึ่งตะโกนบอก
ดูๆไปแล้วการเข้าค่ายครั้งนี้เหมือนเป็นการพานักเรียนมาเที่ยวกันมากกว่า หลังจากที่วาดรูปกันเสร็จแล้ว นักเรียนก็พากันเดินเล่นบ้าง เล่นน้ำทะเลกันบ้าง หลายๆคนจับกลุ่มเตะบอลกันที่ชายหาดนั้นเอง หลังจากอาหารเย็นผ่านไป นักเรียนบางส่วนที่เอากีตาร์มาด้วย ก็ตั้งวงกันร้องเพลง ตั้ม ก็เข้าไปร้องเล่นกับเขาด้วย เสียงใสๆคล้ายเสียงของเด็ก ทำเอาครูหลายท่านชอบอกชอบใจ ยิ่ง ตั้ม ร้องเพลงสากลที่พวกครูชอบได้ ก็ยิ่งสนุกกันใหญ่ เพราะเพลงเหล่านั้นไม่ใช่เพลงที่เป็นที่ชื่นชอบกันของเด็กในวัยขนาดนี้
“ตั้ม เล่นกีตาร์ได้บ้างมั๊ยเนี่ย” เจ้าของกีตาร์ถามขี้นพลางยื่นให้ผม “ไหนมาลองซักเพลงดิ๊”
“ง่า.....เล่นได้นิดหน่อยเองอะ อย่าเลย” ตั้ม ส่ายหน้า
“เอาหน่อยน่า หนุกๆ โชว์พี่ชายหน่อยเร็ว” ชัย เชียร์
“เอาหน่อยเว๊ย ตั้ม อย่าให้เสียชื่อห้อง ๘” เชียร พูด แล้วพวก โอ นึง ดม ก็เชียร์กันใหญ่
ตั้ม จึงได้รับกีตาร์มาอย่างเสียไม่ได้ แล้วก็ลองเกาสายกีตาร์ดูเพื่อลองเสียง
... เล่นเพลงอะไรดีล่ะ ... ตั้มคิด แล้วเสียงเพลงที่คุ้นเคยก็ดังขึ้นมาในหัว ... เพลงที่ ป๊ะป๋า ชอบเล่นกีตาร์แล้วร้องให้ฟัง เมื่อ ตั้ม โตพอจะจับคอร์ดกีตาร์ได้ถนัดมือ ป๊ะป๋า ก็ซื้อกีตาร์ตัวเล็กๆให้ ตั้ม เอาไว้หัดเล่น ... มือของตั้มจีงเริ่มเกาสายกีตาร์เป็นทำนองขี้นต้นของเพลงนั้นออกมาโดยไม่รู้ตัว ครู ๒-๓ ท่านปรบมือขึ้นมาเมื่อจำได้ว่าเป็นเพลงอะไร
http://media.imeem.com/m/7dv70mfbXN/aus=false/Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Little jackie paper loved that rascal puff,
And brought him strings and sealing wax and other fancy stuff. oh
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.
Together they would travel on a boat with billowed sail
Jackie kept a lookout perched on puffs gigantic tail,
Noble kings and princes would bow wheneer they came,
Pirate ships would lower their flag when puff roared out his name. oh!
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.
A dragon lives forever but not so little boys
Painted wings and giant rings make way for other toys.
One grey night it happened, jackie paper came no more
And puff that mighty dragon, he ceased his fearless roar.
His head was bent in sorrow, green scales fell like rain,
Puff no longer went to play along the cherry lane.
Without his life-long friend, puff could not be brave,
So puff that mighty dragon sadly slipped into his cave. oh!
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee,
Puff, the magic dragon lived by the sea
And frolicked in the autumn mist in a land called honah lee.... ทำไมทำนองมันคุ้นๆวะ อ้อ เพลงที่เคยได้ยินจากกล่องเพลงบนโต๊ะ ในห้องของ ตั้ม นี่เอง ... ปอ คิดแล้วตั้งอกตั้งใจฟัง ตั้มร้องเพลงนั้นได้ไพเราะ ดวงตาของตั้มที่ทอแววมีความสุขอย่างประหลาด เหมือนกับมีความสุขไปด้วยกับเจ้ามังกรในเพลง แต่เมื่อถึงท่อนท้ายๆของเพลง ดวงตาคู่นั้นค่อยๆเปลี่ยนเป็นหงอยเหงาลงทีละนิด ทีละนิด เสียงเริ่มแตกพร่า ราวกับเป็นเสียงร่ำร้องด้วยความเศร้าสร้อยของเจ้ามังกร ปอ ฟังอย่างตั้งใจไปจนจบเพลง
“ขอโทษค๊าบ ขอตัวเดี๋ยวนะค๊าบ” แล้ว ตั้ม ก็ยื่นกีตาร์คืนให้เจ้าของ แล้ววิ่งออกจากตรงนั้นไป
“เฮ๊ย กูว่ามันต้องมีอะไรหว่ะ กูตามไปดูหน่อยดีกว่า” ปอ พูดแล้วก็ลุกขึ้นวิ่งตาม ตั้ม ไปโดยที่มี ชัย ตามไปอีกคนหนึ่ง
ปอ และ ชัย มองดู ตั้ม เอามือเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาไม่ยอมหยุด พลางสั่งน้ำมูกแล้วเปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างหน้า เพื่อล้างสิ่งต่างๆในมือ และล้างคราบน้ำตาบนใบหน้า แต่มันก็ไม่หมดไปง่ายๆ
“มึงเข้าไปดูหน่อยสิวะ” ชัย กระซิบบอก
“มึงดีกว่า มันไว้ใจมึงมากกว่ากู” ปอ กระซิบกลับ
“เข้าไปด้วยกันแหละวะ” ชัย ตัดสินใจแล้วเดินนำ ปอ เข้าไปหา ตั้ม
“ตั้ม เป็นอะไรรึเปล่า” ชัย ถามด้วยความเป็นห่วง
“พี่ชัย ปอ” เสียงตกใจนิดๆ “ไม่มีอะไรอะ ตั้ม สงสารมังกร” ตั้ม ก้มหน้า
“อย่าโกหกพี่ชาย นั่นมันแค่เพลง มันจะทำให้ ตั้ม ร้องไห้ขนาดนี้ได้ยังไง”ชัย พูดแล้วเอามือจับคาง ตั้ม ให้เงยหน้าขึ้น ดวงตาแดงกล่ำทำให้รู้ว่าเพิ่งจะผ่านการร้องไห้มา
“นั่นดิ กูเคยบอกแล้วไง มีอะไรห้ามโกหกพวกกู” ปอ ทำเสียงดุๆ
“ตั้ม...ตั้ม คิดถึง...” ตั้ม อ้ำอึ้ง “คิดถึงคนที่ชอบร้องเพลงนี้ให้ ตั้ม ฟังน่ะ”
“คิดถึงใครวะ ถึงขนาดร้องไห้แบบนี้” ปอ ถามด้วยความสงสัย
“ตั้ม” ชัย พูดแล้วดึงตัว ตั้ม เข้ามากอดไว้ ...กูรู้ว่ามึงคิดถึงใคร กูรู้ ...
“กลั้นไม่ไหวก็ร้องซะนะ พี่ชัย กับ ปอ จะอยู่เป็นเพื่อน พี่ชัย ว่าคนคนนั้นต้องคิดถึง ตั้ม มากๆเหมือนกัน” แล้วชัยก็เอามือลูบหัว ตั้ม ที่ซบอยู่กับไหล่เบาๆ ตั้มเอามือกอดเอว ชัย ไว้แล้วเริ่มร้องไห้ออกมาอีก โดยที่ ปอ ได้แต่ยืนมองด้วยความงุนงงอยู่สักพัก จึงเข้าไปจับไหล่ ตั้ม ลูบเบาๆด้วยความสงสารปนไปด้วยความห่วงใย
...........................................................................
.................................
“เฮ๊ย ตกลงมันคิดถึงใครวะ” ปอ ถามขึ้นขณะที่ทำธุระส่วนตัวอยู่ในห้องน้ำก่อนที่จะเข้านอน
“บอกไม่ได้หว่ะ” ชัย ตอบ
“ทำไมวะ” ปอ สงสัยมากขึ้น
“เอาเป็นว่า เป็นญาติผู้ใหญ่ที่รักมันมากที่สุดในโลก แล้วญาติมันคนนี้เสียไปได้สัก ๒ ปีแล้ว” ชัยบอกยิ้มๆ
“งั้นเหรอวะ แล้วมึงเสือกรู้ได้ยังไงว่าเป็นใคร” ปอ ซักอีก
“อันนี้กูไม่บอก ฮ่าๆๆ ไว้มึงเรียกกูพี่เมื่อไหร่ กูอาจจะเปลี่ยนใจ” ชัย ยักคิ้วให้
“เชี่ย ไม่มีทางหรอกมึง” ปอ โต้กลับ
“งั้นกูไม่ยกน้องกูให้มึงดีกว่า เก็บไว้ยกให้คนอื่นที่ยอมเรียกกูพี่” พูดจบ ชัย ก็ต้องวิ่งหนี เพราะ ปอ ยกขาขึ้นทำท่าจะเตะใส่
“สาดนี่ ไอ้ราญ ยกให้กูแล้วเว๊ย ยังไงก็ของกู” ปอ ตะโกนบอกไป แต่ชัยก็เดินเข้าห้องพักไปซะแล้ว