Special [Phupha x Filter]
ลอยกระทง
[Filter’s part]
~ วันเพ็ญเดือนสิบสองน้ำก็นองถึงหัวเข่า เราทั้งหลายชายหญิงสนุกกันจริงๆนั่งวิดน้ำกัน~
เอ่อ บางทีน้ำก็ขึ้นเยอะไปนะท่วมบ้านกูเลย-.- ด้วยเหตุนี้ผมเลยต้องออกมาลัลล้านอกบ้านทิ้งบ้านให้กระทงลอยเข้า เช้าค่อยมาเก็บตังค์ ยุดนี้ต้องอยู่อย่างฉลาดเมื่อกี้ก่อนออกจากบ้านเก็บได้ 50 สตางค์พอดีเอาจ่ายค่ารถเมล์เลย
“ลอยโคมดีกว่าๆ” ไอ้คาร์ลบอกอย่างกระริกกระรี้
“แพงกว่ากระทงตั้ง250-.-” ผมบอก
“หนึ่งปีมีครั้ง!”
“แต่ถ้ากูจ่ายครั้งนี้กูจะอดแดกข้าวไปสองวัน-o-”
“เป็นคนงกตั้งแต่เมื่อไหร่วะ”
“เขาเรียกใช้ชีวิตอย่างพอประมาณเว้ย>O<!”
“โฮะ! วันเดียวเอง”
“แค่กระทงก็พอแล้ว! เขารณรงค์ 1 กระทง 1 ครอบครัว มากัน4คนกระทงเดียวพอ>O<”
“กูไม่ใช่ผัวมึงครับกูจะซื้อโคมต่างหาก แล้วมึงมาอะไรกับกูเนี่ยกูเอาตังค์มึงจ่ายหรอ-.-”
“ตังค์เพื่อนก็เหมือนตังค์กู นี่กูสอนให้มึงประหยัดมึงนี่ก็-o-!”
“ชาติหน้าอย่ามาเกิดเป็นแม่กูนะกูขอล่ะ-/\-”
“เชี่ยนี่...-*-”
ดูปากแม่งครับ ไม่ต้องบอกเลยบ้านทำฟาร์มอะไร-*-
“กูลอยโคม ไอ้คิระมึงอ่ะ” ไอ้เฟียสหันไปถามคิระ
ไอ้คิระกระพริบตาหนึ่งทีบวกกับก้มหัวเล็กน้อย บางทีผมก็สงสัยนะว่ามันเป็นใบ้หรือเปล่า มึงจะประหยัดคำพูดไปมั้ย แค่อ้าปากพูดนิดหนึ่งมันคงไม่ทำให้แบคทีเรียในปากมึงโดนแสงไฟตายหรอกมั้ง-o-
“มติเอกฉันท์ ลอยโคมนะ”ไอ้คาร์ลบอก
“กูจะลอยกระทง-o-!” ค้านเว้ย!
“งั้นมึงไปลอยคนเดียว!!”
ไอ้เพื่อนสามตัวหันมาพูดพร้อมกัน ผมมองหน้าไอ้คิระ เอ่อ..มึงก็เอาด้วยหรอT^T ไอ้เพื่อนเลวเสียทีที่เคยดื่มน้ำ(ส้วม)ร่วมสาบานกันที่ใต้ต้นมะยมหน้าห้องน้ำชาย
“กูไปลอยคนเดียวก็ได้-o-!”
ผมสะบัดหน้าเชิดเดินไปอีกทาง กะอีแค่ลอยกระทงคนเดียวทำมาเกือบทุกปีอยู่แล้วเว้ย
“เสร็จแล้วไปเจอลานน้ำพุนะเว้ย!”
ไอ้เฟียสตะโกนไล่หลังมา
“เออ!!”
ผมตอบกลับไปก่อนจะเดินไปเลือกกระทงที่ขายอยู่ริมแม่น้ำ ผมจำได้ว่าสมัยก่อนกระทงใบละ 20 เองนะทำไมเดี๋ยวนี้มัน 50 บาท-.- ผมเลือกกระทงพลับพลึงสีขาวสลับกับใบตองสีเขียวเข้ม โดนใจผมมากเลยผมก็พับแบบนี้ได้นะ เอาใบนี้แล้วกัน
“ขอบคุณคร้าบบบ”
คนขายบอก หลังจ่ายเงินผมก็หอบกระทงลงไปยืนริมตลิ่ง น้ำในแม่น้ำซัดกระเซ็นเข้ามากระทบบันได ผมมองแม่น้ำที่สว่างไสวไปด้วยแสงเทียน ถ้าเป็นกระทงสายคงจะสวยกว่านี้อีกล่ะนะ ก่อนอื่นต้องจุดธูปเทียนถวายรอยพระพูทธบาทกับขอขมาพระแม่คงคา แล้วก็ตามด้วย...
“..ขอให้ต้องพบเจอกันกันทุกชาติไป”
เฮ้ย! เสียงใคร ไม่ใช่เสียงผม-o-!
“เสร็จแล้วก็ลอยสิ”
ผมอ้าปากหวอมองใบหน้าคมที่ก้มต่ำมองกระทงก่อนจะเงินช้อนดวงตาสีเข้มสบตาผม คิ้วเข้มหนายกสูงขึ้นเหมือนสงสัยอะไรบางอย่าง มือใหญ่จับมือผมให้วางกระทงลอยบนผิวน้ำพร้อมกับมัน เฮ้ยแล้วมันมาได้ยังไง>O<!!
“เฮ้ย!! ยังไม่ได้ขอพรเลย>O<!” ผมร้อง
“ฉันขอแล้วไง” ไอ้ผีหน้าหล่อบอก
“แล้วทำไมไม่ไปซื้อมาลอยเองล่ะ>O<!”
“ลำพังเงินปากผีแค่ 5 บาทคงซื้ออะไรไม่ได้หรอก”
มันวักน้ำไล่กระทงให้ลอยออกไป เฮ้ย! ไอ้ที่มันขอเมื่อกี้ เดี๋ยวเป็นจริงขึ้นมาแกะหายเลยนะครับ เอากระทงกูมา จะลอยไปไหนกลับมา>O<!!
“จะโดดน้ำตายหรือไง!!”
ไอ้คุณผีร้องเมื่อเห็นผมตะเกียดตะกายจะลงน้ำ
“ใจเย็นมาหิวอะไรตอนนี้ กลับบ้านไปเดี๋ยวฉันเลี้ยงไก่น่า”
“ผมไม่ใช่จระเข้นะครับ-*-” ผมย้อน
“ฉันหมายถึงตัวที่เล็กกว่าจระเข้”
“ตะกวด”
“ตัวเงินตัวทองต่างหาก-o-”
“จะด่าคนทั้งทีช่วยด่าอ้อมๆหน่อยได้มั้ยครับ>O<!”
“ฉันคิดว่าพูดอะไรตรงๆน่าจะเข้าใจได้ง่ายกว่า-_-”
“อยากตายอีกรอบใช่มั้ยครับ-*-”
กระทงผมลอยไปไกลเกินไขว่คว้าล่ะ ทะ...ทำไมต้องมาลอยกระทงเดียวกันด้วยวะ-*- ช่างมัน! แต่ผมไม่อยู่ล่ะตรงนี้ ผมรีบลุกเดินฝ่าผู้คนขึ้นไปบนทางเลียบริมแม่น้ำ แต่เสียงฝีเท้าหนักๆก็ยังเดินตามผมไม่หยุด
“มีพระนะครับ-o-!!”
ผมหันควับไปชูพระที่ห้อยคอขึ้นมา ร่างสูงผงะตัวถอยหลังเหมือนเจอลำแสงพิฆาต
“ถ้าตามมาอีกล่ะก็โดนดีแน่-o-!!”
เห็นหน้าแบบนี้กูสวดนะโมตัสสะได้นะเว้ย อรหังก็สวดได้นะเก่งมั้ยล่ะ><
“โดนอะไรไม่ทราบ?”
ใบหน้าหล่อยักคิ้วถามอย่างกวนๆ
“ผะ..ผมจะเอา..พระคล้องคอคุณ!”
เหยดดดด โคตรน่ากลัว คุณมึงช่วยทำหน้าเกรงกลัวพระกูซักนิดได้มั้ยครับT^T
“คล้องสิ!”
มันท้าครับ
“เอาจริงนะบอกให้ ร่างคุณต้องแตกเป็นเสี่ยงๆแน่>O<!”
“ดูหนังมากไปนะ สมงสมองไปหมดละ-o-”
กร๊าซซซซซซซซ!! ไม่ไหวแล้ว อยู่ร่วมโลกกันไม่ได้แล้ว ผมถอดพระที่ห้อยคอคล้องคอคนตัวสูงที่ยืนนิ่ง
“อ๊ากกก...ร้อนนนนนนน!!”
มันดิ้นหมุนไปมา มือก็เหนี่ยววดึงสร้อยที่คล้องคอมัน เฮ้ย! ได้ผลจริงหรอเนี่ย
“คัน....ชะมัด!”
มันกระตุกสร้อยพระผมขาดแล้วยื่นสร้อยกลับมาหาผม เฮ้ย! ดะ...ดะ..ดึงได้ไงอ่ะ-o-!!
“ฉันแพ้สร้อยทอง!”
“-o-!!”
ผมรับพระกลับมาอย่างงๆ อะหยังเนี่ย?
“จริงๆแล้วเป็นผีคริตส์สินะ ไม้กางเขนก็มีนะ>O<!”
ผมหยิบไม้กางเขนอันจิ๋วออกมาจากระเป๋ากางเกงแล้วชูขึ้น มือใหญ่ตะบบมือผมก่อนจะกระชากตัวผมเข้าไปแนบชิดติดลำตัว
“ของแบบนี้ไม่กลัวหรอก” มันบอก
“ละ..แล้วกลัวอะไรล่ะ! กระเทียม! กระเทย! มายยองเนส!”
“จะบอกให้ก็ได้....ที่ห้องนะ”
วงแขนใหญ่กระชับเอวผมเข้าไป มันก้มหัวลงมาข้างหัวผมระยะเผารูขุมขน ถึงคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะพยายามทำเป็นไม่สนใจผู้ชายสองคนที่กำลังจะกลืนร่างกัน แต่ผมก็อดอายไม่ได้ มึงทำอะไรประเจิดประเจ้อจังวะ! หวังว่าผมจะไม่มาเสียบริสุทธิ์วันลอยกระทงนะ อุส่าห์รักษามาชั่วชีวิต แต่ไอ้ผีนี่แม้แต่จูบมันยังเอาไป เลวที่สวดดดดดด>O<!!
“ไอ้ผีโรคจิต!!”
ผมด่าพลางผลักมันออก
“เกลียดคำนี้ที่สุดเลย...”
บรรยากาศเย็นๆเริ่มโอบรอบตัวผม จะ...จะมาเข้าโหมดดาร์กอะไรตอนนี้ ตอนกลางคืนด้วยนะ พระก็ไม่กลัว ไม่กางเขนก็ไม่กลัว มีผีอย่างมันมนุษย์อย่างผมอยู่ยากเลยนะเนี่ยT^T
“ขะ...ขะ..ขอโทษครับT^T”
อย่าเพิ่งหักคอผมเลยนะ ผมอยากแก่ตายTOT
“...ฉันไม่ใช่ผี...”
“ครับ-_-”
ก็แค่พี่แกเปลี่ยนสีตาได้ เรียกลมกระโชก ทำสายฟ้าฟาดได้ ครับไม่ใช่ผี.......กูไม่เชื่ออออTOT
“ก็บอกว่าไม่ใช่ไงยังจะไม่เชื่อ เคยโดนผีกัดหัวมั้ย-_-”
“มะ...ไม่ครับ ไม่มีให้กัดด้วย-o-;”
“จินตนาการสูงนะ -_-”
“ไอเคยตายบอกว่าจินตนาการสำคัญว่าฟาร์มหนูครับ-_-;”
“ม.อะไรเนี่ย”
“ม.5-o-”
“ผ่านมาได้ยังไง-_-”
“ผมเพิ่งรู้ซึ้งถึงคำว่า(ผี)หลอกด่าก็วันนี้แหละ-*-”
“ฉันมองเห็นคำในวงเล็บนะ...”
ไม่ทันขาดคำลมก็กระโชกเข้าหน้าผม กระทงนี่แทบจะปลิวใส่หน้าเลย
“แล้วเป็นตัวอะไร” ผมถาม
“อยากรู้หรอ?”
“อือ”
“ไปที่ห้องสิ”
ห้องอีกล่ะ ถ้าผมไปฟังเขาพูดผมจะรอดกลับมามั้ยเนี่ย-*-
“ไม่อยากรู้ละ เลิกตามผมซะทีเหอะผมกลัว-o-;” ผมบอก
“เลิกตามไม่ได้หรอก...”
ดวงตาสีเข้มเรืองแสงออกสีแดงจ้องหน้าผมนิ่ง ผมรู้สึกอึดอัดในใจจนทำตัวไม่ถูก ไม่เคยถูกคน(?)ทำหน้าจริงจังมาพูดใส่
“..ทำไม”
“..มีแค่นายคนเดียวที่ช่วยฉันได้....เพราะนายปลุกฉันขึ้นมา”
อะ! ผม! ไปปลุกเขาขึ้นมาหรอ
“แล้วผม..ต้องทำยังไง”
“....นายอยากให้ฉันหายไปหรอ”
ทำไมถึงถามแบบนั้น ในอกผมมันปั่นป่วนเหมือนมือใครเอามือมาทุบมัน ชั่วครู่ผมรู้สึกเหมือนน้ำถูกสูบออกจากร่าง ดวงตาที่สอดประสานดวงตาว่างเปล่าพาเอาใจผมกระส่ำกระส่าย ทำไมผมต้องรู้สึกกระวนกระวายด้วยล่ะ
“ถ้าอยากให้ฉันไปฉันก็..”
“ไปเดินเที่ยวกันมั้ยครับ!!”
ผมพูดแทรก นี่กูบ้าหรือเปล่าไปชวนผีเดินเที่ยว-o-;;
…ไม่รู้สิ...
แผ่นหลังอ้างว้างนั่นทำให้ผมรู้สึกสงสาร ทำไมตัวเขาดูว่างเปล่าอย่างนี้นะ ผมยังพอมีเพื่อนมีพี่มีน้องคุยอยู่ตลอดเวลา แต่เขาไม่รู้จะได้คุยกับใครบางหรือเปล่า เขาอยู่คนเดียวตลอดหรอ
“หึๆ ว่าแล้วว่าใช้ไม้นี้ได้ผล”
ใบหน้าหล่อเหยียดยิ้มมุมปากอย่างมีชัย อะ..ไอ้..-o-!!
“นี่...”
“เอาล่ะไปกันเถอะ!”
มือใหญ่ฉุดข้อมือผมให้เดินตามไป เฮ้ย! ขอกูพูดอะไรมั่งสิครับ ไอ้ผีนี่มันเชื่อไม่ได้จริงๆ โดนผีหลอกซะแล้วซวยจริงๆ
วี๊ดดดดดดดดดดดดดด~
ปัง!!
สะเก็ดไฟสีเขียวแตกกระจายอยู่บนท้องฟ้า ผมยืนเอามือยันรั้วริมแม่น้ำพลางเงยหน้ามองท้องฟ้าที่ย้อมดวยแสงนวลทอง โคมไฟสีแสดแข่งกันลอยขึ้นเหนือท้องฟ้า ส่องสว่างซะจนกลบรัศมีของดวงดาวแห่งค่ำคืนนี้ ลมเหนือน้ำพัดโกยเอาความเย็นเข้ามาปะทะร่างผม ผมขยับมือซุกเข้ากับอกตัวเองให้คลายหนาว พลันเหลือบสายตามองดวงตาเวิ้งว้างที่ทอดมองแม่น้ำผมก็อดคิดไม่ได้ว่าตอนนี้เขากำลังคิดอะไรอยู่
“ถ้ามีแบบนี้ทุกวันคงดี”
“แบบนั้นก็ดีเนอะ แต่ว่าบ้านอาจไฟไหม้ได้-.-” ผมเสริม
“หมายถึง..พระจันทร์เต็มดวง”
ผมเงยหน้ามองพระจันทร์ดวงใหญ่สีเหลืองอร่าม จะว่าไปครั้งแรกที่ผมเจอเขาก็เป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงสินะ มันมีความหมายอะไรกับเขาหรือเปล่า
“ทำไมถึงอยากให้พระจันทร์เต็มดวงทุกวันล่ะ” ผมถาม
“..เพราะมันจะทำให้ฉันได้เป็นฉันน่ะสิ”
“ขอตรงๆ-.-”
“เทอมนี้ได้เกรด 4 แล้วค่อยมาว่ากัน”
“เรื่องมากจริง -*-”
ผมหยิบมือถือขึ้นมาเก็บภาพบรรยากาศสวยๆบนท้องฟ้าและแม่น้ำ นานๆจะได้เห็นบรรยากาศดีๆ
“ถ่ายรูปคู่กันหน่อยสิ”
ผมหันควับมองคนข้างๆ เอิ่มมมมมมม-.-
“หลอนไปมั้ย...-o-”
“ฟิลเตอร์-_-”
เอะอะลมกระโชก ไอ้ผีบ้าT^T
“ก็ได้ แต่อย่าขี่คอแล้วกันT^T”
“ดูหนังมากสมงสมอง..”
“เงียบเลยนะ>O<!!”
ถะ...ถ่ายรูปกับผี เอาล่ะครับวันนี้เราจะมาล่าท้าผีกันนะครับ ดูเหมือนว่าเราจะอยู่กับผีแล้วล่ะครับไม่ต้องไปล่าที่ไหนมันตามผมมาT^T
“จะให้เก็บไว้เป็นที่ระทึกใช่มั้ยเนี่ยT^T”
“พูดมากจริง”
“-*-”
มันยกแขนกอดคอผม มืออีกข้างก็ยกกล้องขึ้นข้างบนประมาณ 45 องศา ทำไมต้องกอดคอวะ! ผมพยายามจะแงะมือมันออกแต่มันล็อกคอผมแน่นเลยแถมยื่นหน้าเข้ามาใกล้แก้มผมด้วย>///<
“1...2..”
“3อ่ะ เฮ้ย!”
จมูกโด่งกดลงบนแก้มผมจนยุบลงไปพร้อมกับเสียงแชะที่ดังขึ้นมา ผมยืนค้างคอเอียงเหมือนคนคอหักจนกระทั่งใบหน้าหล่อถอนออกไป
...มะ..มันหอมแก้มผม..มันหอมแก้มผม..มันหอมแก้มผมมมมม>///<…
“ไอ้บ้า!”
“หึ”
ยังมีหน้ามาหัวเราะอีกนะ จบกันชีวิตผม เกิดมาเพื่อให้โดนล่วงเกินชัดๆ ทำไมล่ะTOT
“ลบเลย>O<!!”
“ถ้าลบจะตามไปหลอกถึงห้องน้ำเลย”
“นี่เป็นผีจริงๆใช่มั้ย!!”
ฟิ้วววววว~ ครืดดด~ เปรี้ยง!!
อย่ามาทำฝนฟ้าคะนองนะเว้ย>O<!!
“หยุดเลยนะ>O<!!!”
“พูดไม่เข้าหู-*-”
“ใจเย็นหน่อยสิ”
“ใจเย็นหน่อยสิ แค่หอมแก้มเอง”
“เรื่องแบบนี้มันเย็นได้หรอห๊ะ>///<”
“แล้วเรื่องแบบนั้นมันเย็นได้หรอ”
“เออยอม!”
จุ๊บ!
มันก้มลงมาจูบปากผม ผมรีบผลักตัวมันออก แต่มือปลาหมึกก็ยุ่มย่ามชายเสื้อพยายามจะรั้งมันออกจากตัวผม เฮ้ย! กลางคืนแสกๆ>O<///
“ไอ้! หยุดเลยนะ!!”
“บอกยอมแล้วนี่”
“ไม่ใช่ยอมแบบนี้เว้ยยยย..ครับ>O<!!”
มันทำหน้านิ่งๆก่อนจะถอยตัวออกห่างผม 3 เซนติเมตร โคตรไกลอ่ะ ไกลกว่านี้อีกหน่อยได้มั้ย-o-
“..ว่าจะถาม..นานแล้วล่ะ คุณน่ะเป็นอะไรกับพี่พายุกันแน่”
ทำไมถึงเหมือนกันขนาดนี้ ทั้งหน้าตา น้ำเสียง ที่จะต่างก็คงแค่บุคลิกที่ดู..หื่น-.- กว่าพี่พายุผู้ใจดีของผม ร่างสูงทอดมองไปยังผืนน้ำ สายลมโบกสะบัดพัดเส้นผมสีดำออกจากใบหน้าคม เขาหันหน้ามาหาผมช้าๆก่อนที่ริมฝีปากสลักคู่นั้นจะเอ่ยบอกผมด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับจะกลืนไปกับสายลม
“...ไม่นานก็จะรู้เอง...”
++++++++++++++
เห็นลอยกระทงก็เลยอยากจะแต่งเกี่ยวกับลอยกระทงอ่ะนะ55
ไปลอยที่ไหนันบ้างเอ่ย ข้าน้อยลอยบ่อกลางหมู่บ้านค่ะ
แค่เดินออจากบ้านก้าวนึงก็ว่าไกลแล้ว รักบ้านนน ลอยใกล้ๆพอ555
เป็นตอนคั่นเวลา ไม่เชื่อมโยงกับคู่อื่นนอกจากคู่นี้อ่ะค่ะ
ปล. มีชื่อตอนด้วย555