▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Loverตอนที่ 10 งอนนักจัดหนักซะเลย (NC) ถ้านับจากวันแรกที่พบกันจนถึงวันนี้ ผมกับเป็งรู้จักกันมาไม่ถึงสามสัปดาห์ด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกของผมกลับดูเหมือนว่าเรารู้จักกันมานานกว่านั้น น่าแปลกไม่น้อยเลย ถ้าไม่รู้สึกอย่างนั้นจริง ผมคงไม่ยอมอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้ตอนนี้หรอก กระนั้น ผมยังรู้สึกว่าการมีความสัมพันธ์ทางกายตอนนี้ดูจะเร็วเกินไปหน่อย แม้จะมีความรู้สึกว่าอยากลองสัมผัสที่แปลกใหม่ดูบ้าง แต่ผมยังมีความกลัวและกังวลอยู่ แล้วสัญญาณอะไรล่ะที่จะบอกได้ว่าเราพร้อมแล้ว ผมไม่รู้ จะเกิดขึ้นเมื่อไหรก็ไม่รู้
"คานินรู้ไหมว่าทำไมผมต้องประกาศตัวว่าเป็นแฟนของคานินในงานวันเกิดอัญ"
คนถามถามไปพร้อมกับมือที่ลูบไล้เล่นเบาๆ ไปมาอยู่แถวๆ หน้าท้องของผม เล่นเอาผมรู้สึกปั่นป่วนและใจเต้น เก็บอาการหายใจไม่ทั่วท้องไว้ไว้อย่างยากลำบาก
"ถ้าไม่รู้...ผมคงเป็นแฟนคุณเป็งไม่ได้หรอกมั้งครับ" ผมพูดติดตลก เรื่องอย่างนี้ผมเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเดาออก
"เรื่องอะไรผมจะยอมล่ะ ผมไม่ยอมให้ใครมางาบคานินไปง่ายๆ หรอก"
"โหคุณเป็ง ผมไม่ใช่ใส้กรอกซะหน่อย งาบไม่ได้ง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกครับ"
"เข้าใจเปรียบเทียบนะเนี่ย" เป็งหัวเราะชอบใจเบาๆ
"ผมน่ะ...ไม่กลัวสาวๆ งาบหรอกครับ ถ้าจะกลัว...กลัวหนุ่มใกล้ตัวงาบซะมากกว่า"
เป็งคงตกใจที่ผมรู้ทันจึงปล่อยมือออก จับผมพลิกตัวให้หันมาเผชิญหน้ากัน หนุ่มตี๋ยิ้มกรุ้มกริ่มพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้
"แล้วอยากให้งาบหรือเปล่าล่ะ"
น้ำเสียงและสายตาเสน่หานั้นทำเอาผมวาบหวามใจไม่น้อย หนุ่มตี๋หน้าหล่อใสจ้องผมไม่วางตา ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะละลายลงตรงนี้ให้ได้ ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างคงเสร็จแน่ๆ
"คุณเป็งเห็นแสงเลเซอร์ที่เขายิงขึ้นฟ้าตรงนั้นไหมครับ เขามีงานหรือเปล่า"
ผมออกอุบายด้วยการชี้ไปที่แสงเลเซอร์ที่กำลังฉายเป็นลำแกว่งกวาดขึ้นฟ้าไปมาอยู่ไกลๆ เป็งมองตามแล้วทำท่านึก
"อ๋อ...เขาน่าจะมีงานมั้ง"
พอเป็งเผลอผมจึงอาศัยจังหวะนี้วิ่งผลุนเข้ามาในห้อง ได้ยินเสียงเป็งเอะอะโวยวายตามมาข้างหลัง ผมกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วหยิบไอแพดของเป็งมาเล่นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
เป็งเดินตามเข้ามาในห้อง พอเหลือบตาไปมองจึงเห็นหนุ่มตี๋ตัวขาวยืนหันรีหันขวางไปมาเก้ๆ กังๆ ผมยักคิ้วท้าทายให้หนึ่งครั้งแล้วหันกลับมาเล่นเกมส์ต่อ แต่แทบกลั้นหัวเราะไม่ไหวทีเดียว
เป็งขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงบ้าง มองแล้วมองอีกแต่จนแล้วจนรอดก็ยังนั่งเงียบๆ คงเห็นผมทำตีมึนอยู่นานเกินไป หนุ่มตี๋จึงอดรนทนไม่ไหว ที่สุดจึงยอมเป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อน
"ชอบเล่นเกมส์เหรอ" คนถามเขยิบตัวเข้ามาใกล้อีกนิด ชำเลืองดูเกมส์ที่ผมเล่นด้วย
"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ นานๆ ทีจะได้เล่นกับเขามั่ง คุณเป็งชอบเล่นเหรอ มีเกมส์เยอะเลย" ผมพูดโดยไม่หันไปมองหน้า สายตาจับจ้องที่เกมส์ซับเวย์เซิร์ฟเฟอร์อย่างเอาจริงเอาจัง
"เอาไว้เล่นเวลาว่างๆ ก็ไม่ถึงกับติดหรอก ถ้าคานินชอบก็เอาไปเล่นที่บ้านได้นะ"
"ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวคุณเป็งไม่มีใช้" ผมแย้งโดยไม่ละสายตาจากจอไอแพด
"ผมมีสองเครื่อง คานินเอาเครื่องนี้ไปยืมใช้ก่อนก็ได้"
ผมกดหยุดเกมส์แล้วหันไปมองเป็ง "ไม่ดีกว่าครับ ถึงเอาไปผมก็ไม่ค่อยมีเวลาเล่นหรอก เอาไว้มาเล่นที่ห้องคุณเป็งดีกว่า"
ผมคิดว่าเป็งคงเห็นด้วยเพราะไม่ถามเซ้าซี้เรื่องนี้อีก ได้แต่นั่งมองผมเล่นเกมส์ต่อเงียบๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าเป็งกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมอายจนทำอะไรไม่ถูกเลยต่างหาก
พอเห็นผมทำเป็นไม่สนใจ เป็งจึงทำหน้าเศร้าๆ และค่อยๆ ลดตัวลงนอน หันหลังให้ผม ผมเหลือบตาไปมองอย่างสงสัย แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงจึงเล่นเกมส์ต่อ
นานเข้าผมชักจะทนไม่ไหวซะเอง จึงหยุดเล่นเกมส์และวางไอแพดไว้ที่โต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวจนเตียงยวบยาบ หนุ่มตี๋ตัวขาวของผมกลับไม่ยอมหันมามองเลย
ผมรูดตัวนอนลงบนเตียงอย่างเสียดาย คิดไปคิดมาแล้วไม่น่าทำเป็นไม่สนใจเป็งเลย ยอมรับว่าลังเลตอนแรก แต่พอเห็นเป็งงอน ไม่รู้ว่างอนจริงหรืองอนเล่น แต่ผมใจอ่อนไปแล้ว ความจริงผมคงไม่ปฏิเสธหรอกว่าอยากมีความสุขกับคนรักเหมือนคนทั่วไปบ้าง แต่ผมยังไม่เคยกับผู้ชายจึงกลัวบ้างเป็นธรรมดา ที่ทำเป็นไม่สนใจเพราะยังตัดสินใจไม่ได้ต่างหาก
"คุณเป็งนอนแล้วเหรอครับ" ผมตัดสินใจถามไป
"ครับ ง่วงแล้ว" เป็งตอบไม่เต็มเสียง ท่าทางดูเหมือนงอนผมเข้าให้แล้ว
"อ้อ...เอ่อ...งั้น...ผมปิดไฟนะครับ" ผมเอ้ออ้าและมองอย่างเสียดาย
"ครับ" เป็งตอบสั้นๆ
แทนที่ผมจะปิดไฟตามที่บอกไปเมื่อกี้ ผมกลับทำใจดีสู้เสือเขยิบเข้าไปใกล้ เห็นแขนขาวเนียนละเอียดและมีกล้ามพองามแล้วผมชักอยากลองลูบไล้เล่นดูบ้าง แต่มือไม้ที่ยื่นออกไปหมายว่าจะลองทำอย่างที่คิดกลับสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้
เอาไงดี เป็งจะโกรธผมหรือเปล่าถ้าผมลวนลาม ถ้าลูบไปแล้วเกิดเป็งมีอารมณ์ขึ้นขึ้นมาล่ะ!? ผมพร้อมแล้วหรือยังที่จะข้ามผ่านเรื่องนั้นไปกับเป็ง แต่ถ้าไม่พร้อมแล้วผมจะพร้อมเมื่อไหร่? ทำไมผมไม่พร้อมเสียตอนนี้เลย ต่างคนต่างเป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว คนรักกันคงอยากสัมผัสแนบชิด หยอกล้อ ออดอ้อนและเติมเต็มความสุขให้กันเป็นธรรมดา
เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!
พอคิดได้ดังนั้นผมจึงยื่นมือไปหาเป็งอีกที กว่าจะกล้าเอามือแตะที่แขนของเป็งก็สั่นอยู่นานทีดียว
"แขนคุณเป็งขาวจัง ผมชอบ"
ว่าแล้วผมจึงค่อยๆ ลูบไล้ไปตามแขนของเป็งที่โผล่พ้นเสื้อคลุมออกมาอย่างเบามือ ถ้าจะบอกว่าเป็นการอ่อยผู้ชายครั้งแรกของผมคงไม่ผิดนัก เกิดมาไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย
ไม่รู้ว่าคนนอนหันหลังอยู่รู้สึกสยิวขึ้นมาบ้างหรือเปล่า แต่นอนนิ่งเฉยน่าจะแปลว่ายังไม่ได้ผล แปลว่าผมต้อง "แรง" ขึ้นกว่านี้อีกนิดซะแล้วสิ เอาเถอะ ถือว่าง้อหนุ่มตี๋ขี้งอนเขาหน่อยละกัน จะปล่อยให้นอนหลับไปพร้อมกับความน้อยใจก็ดูจะใจจืดใจดำไปหน่อย
ผมตัดสินใจเขยิบตัวไปนอนบนหมอนใบเดียวกับเป็ง จากนั้นสวมกอดเป็งทางด้านหลัง ซุกหน้าลงหอมที่ต้นคอเบาๆ หนึ่งฟอด มือที่กอดอยู่เริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้บริเวณท้องของเป็งเล่น
"คุณเป็ง จะนอนแล้วเหรอ ผมยังไม่อยากนอนเลย"
"แล้วคานินจะทำอะไรล่ะ ดึกแล้วนะ" น้ำเสียงที่ตอบกลับมาฟังดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ผมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย
"ก็เห็นคุณเป็งบอกว่าจะพาผมข้ามผ่านอะไรคืนนี้ไง ผมอยากรู้ว่าคุณเป็งจะให้ผมทำอะไรหรือเปล่า"
"ถ้าคานินไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรหรอก เล่นเกมส์ต่อเหอะ"
ว่าแล้วต้องน้อยใจเรื่องนี้ ผมเกือบหลุดหัวเราะแล้วเชียว งอนอย่างนี้ต้องเจอดีแน่นอน "ไม่เล่นแล้ว ผมอยากข้ามผ่านอะไรบางอย่างกับคุณเป็งมากกว่า คุณเป็งจะไม่บอกผมหน่อยเหรอ ผมอยากรู้จะแย่แล้วเนี่ย"
ในเมื่ออ่อยมาถึงขนาดนี้แล้วผมคงไม่สามารถหยุดได้นอกจากเพิ่มดีกรีความแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็งเงียบไม่ยอมตอบ ผมจึงเลื่อนมือต่ำลงไปอีก และต่ำลงไป พอถึงขอบกางเกงในจึงหยุดชั่วคราว ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ เลือดสูบฉีดพล่านจนตัวแดงไปหมด เริ่มหายใจติดๆ ขัดๆ เพราะความตื่นเต้น
ผมลูบไล้เล่นเหนือขอบกางเกงในอยู่สักพักจึงเพิ่มดีกรีความแรงขึ้นไปอีกด้วยการขยับลงต่ำกว่านั้น คราวนี้ได้สัมผัสเป็งน้อยที่ไม่น้อยอย่างเต็มไม้เต็มมือแล้ว แต่ผมกลับไม่กล้าขยับมือเลยแม้แต่น้อย ใจเต้นโครมครามจนเกือบจะหลุดออกมาข้างนอก รู้ดีแก่ใจว่าถ้าเลยจุดนี้ไปแล้วผมคงเสร็จแน่ๆ
"หยุดทำไมล่ะ"
เสียงที่บอกมาฟังดูกระเส่าชอบกล ครั้นผมจะบอกว่าตื่นเต้นก็ดูจะเสียเชิงไปหน่อย ถ้าพูดมาขนาดนี้คงแปลว่าไม่ขัดข้อง งั้นผมก็ไม่เกรงใจแล้ว จับท่อนนั้นคลึงเล่นภายนอกซะเลย เบียดตัวเข้าหาจนส่วนนั้นที่กระด้างกระเดื่องของผมแนบไปกับร่องทางด้านหลังของคนที่นอนอยู่ เอาล่ะ นี่คงเลยจุดที่แรงที่สุดของผมไปแล้ว จากนี้ไปคงไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเหตุการณ์ที่เหลือได้
ผมคลึงเคล้นสนุกมือ จากภายนอกค่อยๆ สอดมือเข้าควานหาภายใน คนตัวขาวถึงกับครางฮือ ต่างคนต่างรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและเสียวกระสันอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เป็งควานมือมาทางด้านหลังบ้าง พอเจอส่วนนั้นของผมที่กระด้างกระเดื่องก็คว้าหมับเข้าให้ แค่รูดขึ้นลงเบาๆ ผมยังเสียวซ่านจนแทบจะปลดปล่อยออกมาในเพียงสัมผัสแรกจนเผลอคราง ผมปล่อยให้เป็งเล่นตรงนั้นของผมตามอำเภอใจ ชอบหนักเบาแค่ไหนก็เชิญตามสบาย
จู่ๆ เป็งหยุดมือไปซะเฉยๆ ผมยังไม่ทันรู้สึกเสียดาย หนุ่มตี๋ตัวขาวรีบพลิกตัวขึ้นทาบทับผมไว้ เป็งใช้ปลายนิ้วลากไปตามเส้นรอบปากของผมอย่างช้าๆ และนุ่มนวลจากบนลงล่าง ช่างยั่วเย้าจริงๆ มันเพิ่มความสยิวและความต้องการของผมให้มากขึ้นไปอีก พอลากมาถึงจุดกึ่งกลางริมฝีปากล่าง เป็งใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบริมฝีปากล่างของผมให้ห่อแคบ จากนั้นโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะใช้ลิ้นชิมริมฝีปากของผมที่เป็งบีบเอาไว้ ให้ความรู้สึกรุนแรงและหยาบกระด้างเล็กน้อย แต่ผมว่ามันโคตรให้ความรู้สึกดิบและซ่านเสียวได้มากทีเดียว รักเลยจูบนี้!
ลิ้นอุ่นๆ ค่อยๆ ดุนเปิดปากผมให้อ้าออกอย่างช้าๆ ความรู้สึกตอบสนองของผมเพิ่มเป็นทวีคูณ ลิ้นของเป็งเข้ามาทักทายกับลิ้นของผมอย่างนิ่มนวล ค่อยเป็นค่อยไป จนผมแทบจะอดใจไม่ไหว จากนั้นเป็งค่อยๆ ใช้ลิ้นเขยิบเข้ามาสัมผัสตวัดกัน ลิ้นอุ่นๆ ของเป็งสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียวกับผม เราผลัดกันดันลิ้นไปมา อารมณ์เสียวซ่านและความร้อนในร่างกายพลุ่งพล่านจนเขื่อนแทบทะลัก
เป็งจูบบดบี้ที่ปากของผมอย่างดูดดื่มอยู่สักพักจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ติ่งหูของผมแทน เป็งทั้งดูด จูบและดุนเข้ามาในหูผมเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนมาเลียที่ติ่งหู ใช้ปลายลิ้นไต่เล่นไปตามสันหู เพิ่มความรู้สึกเสียวซาบซ่าให้ผมจนหยุดไม่อยู่ ผมเผลอตัวกอดเป็งซะแน่นอย่างลืมตัว
"คานินชอบหรือเปล่า" เป็งกระซิบถามที่ใบหูด้วยเสียงเบาปนเสียงลมหายใจแห่งความต้องการ เจ้าตัวคงต้องการความมั่นใจจึงถามอย่างนั้น
"ชอบครับ" ผมบอกไปตามตรงด้วยเสียงสั่นสะท้าน คราวที่แล้วยังจูบไม่เป็นอยู่เลย คราวนี้ทำไมเก่งขึ้น
ช่างเถอะ! เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสงสัย
"คานินพร้อมหรือยัง" เป็งหยุดถาม ใบหน้าแดงก่ำจากความต้องการอยู่ห่างแค่คืบ ผมไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเป็งเลย
ผมพยักหน้าตอบรับอย่างช้าๆ เดาว่าหน้าผมคงแดงก่ำด้วยความต้องการไม่ต่างกัน
"ไม่กลัวนะ" เป็งถามย้ำ
ผมดึงใบหน้าของเป็งลงมาจูบแทนการตอบคำถาม ความต้องการแผ่ซ่านไปทั่วทุกขุมขนแล้ว เราแลกลิ้น ดูดดึงและขบกัดริมฝีปากกันเบาๆ อย่างเพลิดเพลิน เป็งเก่งขึ้นจนผมยอมแพ้เลย
ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของเราหลุดไปตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็มีลิ้นอุ่นวนๆ เลียๆ อยู่บนปุ่มบนหน้าอกผม ส่วนมืออีกข้างของเป็งไม่ปล่อยให้ว่าง เขี่ยเจ้าเม็ดที่เหลือเล่นไปด้วย ผมครางเสียวจนตัวงอ เคยได้ยินเพื่อนผู้ชายบอกสมัยเรียนเหมือนกันว่ามันเสียวมาก ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามากแค่ไหน
ผมร้องครางเสียงหลงจนเป็งต้องเอามือปิดปากผมไว้ เราขำกันเบาๆ ก่อนเป็งจะก้มลงไปจัดการต่อ มือไม้ของผมควานหาส่วนนั้นของเป็งบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าผมเอาเปรียบที่มีความสุขอยู่คนเดียว ผมรูดมันขึ้นลงอย่างช้าๆ บางจังหวะขยับเร็วๆ อย่างมันมือจนเป็งครางชอบใจใหญ่เลย
ช่วงสำคัญใกล้เข้ามาแล้ว เป็งลุกขึ้นนั่งและเอาส่วนนั้นมาจ่อใกล้ปากผม น้ำใสซึมย้อยหยดเป็นทาง ผมครุ่นคิดเพียงครู่เดียวจึงตัดสินใจกลืนกันมันลงไปอย่างหิวกระหาย เป็งเผลอร้องครางหน้าเหยเก ช่วงแรกๆ ปล่อยให้ผมคุมจังหวะเข้าออกคนเดียว แต่สักพักกลับจับหัวผมโยกตามจังหวะที่ต้องการ เมื่อเป็งพอใจจึงโน้มตัวลงไปหาส่วนนั้นของผมบ้าง แม้ไม่บอกผมก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
เราอยู่ในท่ากลับหัวกลับหางและป้อนความสุขให้แก่กันอย่างเมามันจนเผลอหยุดครางเป็นระยะๆ เป็งคงศึกษามาถึงทำได้ดีขนาดนี้ ผมเองยังนึกไม่ออกเลยว่าผู้ชายกับผู้ชายจะทำอะไรกันได้บ้าง แต่บทเรียนสอนรักที่แปลกใหม่คราวนี้คือประสบการณ์ที่ผมจะเอามาใช้คืนให้เป็งอย่างแน่นอน ของแบบนี้เรียนครั้งเดียวทำเป็นตลอดชีวิต แถมยังคุ้มสุดๆ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าเรียนสักบาท
เชื่อไหมครับว่าเป็งเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นไว้พร้อมหมดแล้ว ทั้งเจล ทั้งถุงยางอนามัย แต่พอมันชำแรกแทรกซึมเข้ามาได้หน่อยเท่านั้น ผมกลับน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บจนต้องใช้มือยันไว้ เป็งพยายามจูบเล้าโลมแต่ผมยังรู้สึกเจ็บมากอยู่ดี จนในที่สุดผมจึงไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไป ความรู้สึกที่ค่อยเก็บสะสมจนเกือบถึงจุดสูงสุดหายไปแทบหมดสิ้น เจ็บจนเกือบหมดสนุกเลยทีเดียว
"คุณเป็ง ผมเจ็บจริงๆ ครับ เอาไว้คราวหลังดีกว่า"
สีหน้าเจ็บปวดของผมคงบ่งบอกได้ดีอยู่แล้วว่าผมเจ็บจริงๆ ไม่ได้แกล้งเจ็บเล่นๆ เป็งพยักหน้ารับรู้อย่างสียดาย แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมว่าเรายังมีวิธีอื่นอีกมากมายที่จะไปถึงสวรรค์
เราสองคนช่วยกันใช้ทั้งมือและปากหลังจากนั้น มีความสามารถเท่าไหร่ใส่กันมาแบบไม่ยั้ง ผมไปถึงสวรรค์ก่อนด้วยชิวหาพาพลินของเป็ง น้ำขาวขุ่นถูกกลืนหายไปโดยไม่รังเกียจ ก่อนที่เป็งจะปิดท้ายด้วยการอาศัยช่องหนีบตรงหว่างขาของผมพาไปจนถึงสรวงสวรรค์
เป็งอุ้มผมไปล้างตัวในห้องน้ำ แต่แทนที่จะได้กลับมานอน อารมณ์สวาทของเรากลับคุขึ้นอีก ห้องน้ำจึงกลายเป็นวิมานสุขาวดีชั่วคราว เราขึ้นสวรรค์กันอีกคนละรอบโดยไม่รุกล้ำกันเช่นเคย
ส่วนเรื่องนั้น เอาเป็นว่า ผมขอติดเป็นการบ้านไว้ก่อนนะคุณเป็ง รับรองว่าไม่นานเกินรอ
ไม่รู้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีที่ผมได้นอนตื่นสายเกือบเก้าโมง แม้ไม่ถึงกับเต็มอิ่มแต่ก็สบายมาก พอนึกได้ว่าเมื่อคืนผมกับเป็งข้ามผ่านอะไรมาด้วยกันก็นอนยิ้ม เผลอๆ คงจะหน้าแดงไปด้วย หน้าแดงทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนี้สักคน เป็งคงอยู่ในห้องน้ำหรือไม่ก็ไปทำอะไรสักอย่าง ผมกำลังจะลุกขึ้นอยู่แล้วเชียว หนุ่มตี๋ในชุดเสื้อคลุมเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วร้องห้าม
"อย่าเพิ่งลุกๆ"
ผมจึงนอนต่ออย่างงงๆ เป็งวิ่งหายไปแล้วกลับมาพร้อมโทรศัพท์มือถือของตัวเอง
"เวลาคานินหัวยุ่งๆ เซ็กซี่ดี ผมขอถ่ายรูปไว้ดูหน่อยนะ"
เป็งย่อตัวลงข้างเตียงแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมถ่าย ผมนอนคว่ำแล้วเงยหน้าสู้กล้อง ยิ้มทั้งที่ยังง่วง เป็งเอามือมายีหัวผมเล่นเบาๆ เจ้าตัวยิ้มและหัวเราะเบาๆ ชอบใจ ก่อนถ่ายเอามือลูบๆ จัดทรงผมให้ใหม่
เป็งถ่ายไปสองสามรูปแล้วกระโดดขึ้นมาบนเตียงกับผม สอดตัวเข้าใต้ผ่าห่มอย่างเร็วไว เรานอนคว่ำหน้าคู่กัน เอาหัวชิดกันแล้วถ่ายรูปเซลฟี่ของเราสองคน ถ่ายได้สามสี่รูปจึงหยุด จากนั้นจึงเลื่อนดู ดูไป วิจารณ์ไป หัวเราะไป มีความสุขจนเพิ่งนึกได้ว่าไม่เคยมีความสุขอย่างนี้นานแล้ว
"เห็นไหม บอกแล้วว่าคานินดูเซ็กซี่มากเลยเวลาง่วงนอน"
"จริงเหรอครับ แสดงว่าต่อไปถ้าผมจะถ่ายรูป ผมควรจะถ่ายตอนตื่นนอนใช่ไหครับ"
"อื้ม แต่คานินต้องให้ผมถ่ายรูปให้คานินคนเดียวนะ ห้ามคนอื่นถ่าย"
ผมหันไปยิ้มกับเป็งแล้วพยักหน้า ก่อนจะยิ้มมีเลศนัยบ้าง "เมื่อคืน...เก่งนะครับ ทำไมดูเก่งขึ้นล่ะครับ"
เป็งหันหน้าหนี ยิ้มอายๆ แล้วเลื่อนดูรูปแก้เก้อ "นี่ๆ...คานินดูรูปนี้สิ เขี้ยวคานินสวยมากเลย ผมชอบ"
ผมพยายามจ้องหน้าแต่เป็งยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่น่าเชื่อว่าอายเป็นด้วย
"อ่านจากเว็บมา...หรือว่าดูจากหนังมาครับ ต้องดูจากหนังแน่ๆ เลย" ผมถามต่อโดยไม่สนใจดูรูปที่เจ้าตัวภูมิใจนำเสนอ
คราวนี้เป็งคนจะทนความเขินไม่ไหว วางโทรศัพท์ลงแล้วจับผมพลิกตัวนอนหงาย ก่อนจะโถมตัวลงมาซบลงตรงอกผมหนีหน้า เจ้าตัวคงยอมรับแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ ผมจึงไม่เซ้าซี้ถามอีก
ถ้าผมไม่ยอมมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อคืนเป็งคงเซ็งแย่เลย อุตส่าห์ไปหาดูและฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี กะว่าจะ เอามาใช้ให้ประทับใจจนลืมไม่ลงซะหน่อย แต่ผมดันทำเป็นไม่สนใจจนเจ้าตัวงอนไปเลย
เป็งสอดมือกอดผมอย่างอ่อนโยน ใบหน้าที่ซุกไซร์ด้วยความเขินตรงอกผมทำให้ผมรู้สึกดีเหลือเกิน สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นช่างเต็มไปด้วยความรัก สัญชาตญาณบอกผมว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่รักใครรักจริง ถ้ารักแล้วคงจะรักมากๆ ด้วย น่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นคงไม่ทนเป็นโสดรอคนในฝันมานานถึงสิบปี
"คุณเป็งเขินเหรอ ผมชอบจริงๆ นะเมื่อคืน"
ผมกอดเป็งตอบเบาๆ แล้วก็ลูบผมดำขลับเล่น สัมพันธ์ทางกายเมื่อคืนทลายกำแพงที่อาจมีหายสิ้น แม้ยังไปไม่ถึงที่สุดของเรา แต่ผมกับเป็งแทบไม่เหลือช่องว่างยามอยู่ใกล้ชิดกันเลยในเวลานี้
"ผมมีความสุขมากนะคานิน คานินมีความสุขหรือเปล่า" เป็งเอียงหน้าขึ้นมาถาม
ผมงงเล็กน้อย บทจะหายเขินก็หายกันดื้อๆ ไม่มีปี่มีขลุ่ย "มีสิครับคุณเป็ง มีความสุขมากๆ ด้วย" ไม่ใช่แค่ตอบเอาใจเท่านั้น แต่ผมรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
"ผมดีใจนะที่คานินมีความสุขนะ ผมอยากให้เราสองคนมีความสุขด้วยกันอย่างนี้ไปนานๆ ดีไหม"
ผมพยักหน้าตอบรับ เป็งยิ้มละไมแล้วซบลงบนอกผมตามเดิม สักพักจึงเงยหน้ามาคุยด้วยอีก
"ผมทำอาหารเช้าเสร็จแล้วนะ...ไข่เบเนดิก ไม่รู้ว่าเคยกินหรือเปล่า อร่อยนะ ทำง่ายด้วย"
ผมกอดเป็งแน่นขึ้นอีกนิดอย่างรักใคร่ ดูแลผมดีอย่างนี้ เอาหัวใจผมไปหมดเลยละกัน "คุณเป็งน่ารักจัง ทำอาหารให้ผมกินด้วย ประทับใจสุดๆ เลย"
เป็งยิ้มตาหยีแล้วเขยิบตัวออก ใช้ศอกยันกายไว้ ยิ้มให้ผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม "ผมว่าคานินต้องติดใจแน่ๆ ถ้าได้กิน มันบำรุงกำลังดีนะ แต่ผมว่าคานินคงอิ่มตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ"
ผมนอนเท้าคางมองไปทางเป็งบ้าง ขมวดคิ้วสงสัยและถามอย่างพาซื่อ "อิ่มอะไรเหรอครับ"
เป็งทำท่ากลั้นหัวเราะ คงต้องมีอะไรบางอย่างที่น่าขำมากแน่ๆ "ก็...อิ่มใส้กรอกไง"
"บ้า!"
เป็งหัวเราะชอบใจใหญ่ ผมไม่รู้จะแก้แค้นคืนยังไงจึงลุกขึ้นนั่งแล้วเอาหมอนตีคนที่นอนอยู่ เป็งยกมือปัดป้องเป็นพัลวัน เสียงหัวเราะดังไปทั่วห้อง แต่สุดท้ายผมกลับเสียท่าจนได้ เป็งจับหมอนผมได้แล้วเหวี่ยงลงไปที่ปลายเตียง คว้าตัวผมลงไปกอดทับตัวเป็งไว้ เป็งเลื่อนตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง พอถนัดจึงดึงผมเข้าไปนั่งตรงหว่างขา ให้ผมหันหลังแล้วกอดไว้
ผมเอาหัวทุบลงไปข้างหลังบนอกเป็งเล่นเบาๆ สองสามครั้ง เป็งไม่ว่าอะไร แถมลูบหัวผมเล่นอีก
"ผมหลงคานินแล้วนะเนี่ย คานินมาอยู่กับผมทุกวันได้หรือเปล่า ไม่งั้นผมคลั่งแน่เลย"
"ขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณเป็ง" ผมขำเบาๆ
"ใช่น่ะสิ ขนาดนั้นเลย"
"แต่ผมมีภาระต้องดูแลไง ถ้าเกิดแนนกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ ค่อยว่ากันอีกทีได้ไหมครับ"
เป็งพยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงยอมรับ ผมรับรู้ได้จากการสั่นไหวหงึกๆ ข้างหลัง "แล้วคานินล่ะ หลงผมหรือเปล่า"
ดูถามเข้าสิ ผมตะลึงจนต้องหันไปมองคนถามเลยทีเดียว "แล้วคิดว่าหลงหรือเปล่าล่ะ" ผมถามแทนที่จะตอบ
เป็งหัวเราะเบาๆ คนอะไรทำอะไรก็มีเสน่ห์ไปหมด ผมชอบทุกอย่างบนใบหน้าของเป็ง ไม่ว่าจะเป็นรูปหน้า คิ้วหนาๆ ตาคมๆ จมูกโด่งๆ ปากบางมีรอยหยักชัด และสายตาแบบนี้
"ผมไม่ใช่คนหลงตัวเองนะ แต่ถ้าใครลองรักผมเข้า ผมเชื่อว่าหลงผมโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ ผมน่ารักใช่ไหมล่ะคานิน ใช่ป่าว หลงผมเข้าให้แล้วใช่ไหมล่ะ"
ผมแทบกลั้นหัวเราะคนหลงตัวเองไว้ไม่ไหว แต่ก็จริงของเขานั่นแหละ ผมไม่เถียงหรอก
"ก็คงงั้น แต่ว่า...คุณเป็งอย่าทำให้ผมเสียใจนะ ไม่ใช่พอเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงแล้วก็ทิ้งผมซะล่ะ"
แม้ว่าพูดเล่น แต่ผมกลับทันได้เห็นสายตาวิบไหวคู่นั้นของเป็ง จริงสิ เราไม่เคยคิดเรื่องนี้กันเลย ถ้าเกิดเป็งเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงขึ้นมาล่ะ! เป็งจะทำยังไง!? เป็งจะทิ้งผมหรือเปล่าหนอ?TBC...