▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover  (อ่าน 95103 ครั้ง)

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
หายป่วยเร็วๆนะ
ลุ้นจนตัวโก่งแล้วเนี่ย

ถ้าเป็งจำสาวเขี้ยวตัวจริงได้
ก็แสดงว่าเป็งยังฝังใจอยู่มากเลย
แล้วคานินของฉันจะทำไงล่ะทีนี้
ต้มน้ำรอคนเขียนหายป่วยดีกว่า
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 29-02-2016 20:34:01 โดย snowboxs »

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
โอ้ม่ายน้าาาาาาาา :serius2: :serius2: :serius2:

หายป่วยไวๆเน้อ :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Poseidon

  • Unconditional love
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5081
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +260/-12

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
หายไว ๆ น่ะจ้ะ เราไม่รีบน่ะจ้ะ เพราะช่วงนี้ก้อยุ่ง ๆ เหมือนกัน ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาในเล้าเท่าไหร่  :mew1:

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
ไม่ได้มาอ่านนาน แต่ไม่ลืมนะ ว่างมาอ่านยามดึก บรรยากาศเงียบมาก อินกับตัวละครมากๆ


เริ่มพัฒนามาไกลละนะ ถึงขั้นมีอะไรกัน ทั้งคู่ต้องจริงจังแน่ๆ
อย่างน้อยก็คานินที่เปิดใจรับเป็งขนาดนี้
ถ้าเกิดเป็งเจอสาวเขี้ยวจริงๆ จะทำให้เปลี่ยนใจไหม ตรงนี้น่าลุ้น
แต่อย่าเพิ่งเจอในเร็ววันนะ ต้องสร้างความผูกพันลึกๆก่อน





และผมขอดราม่าๆๆๆๆ หนักๆๆ 5555+ 


ปล.  หายไวๆนะครับพี่วัต

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
งือออออ ถ้ายังไม่มาจะร้องแล้วนะ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
ฮือๆ เป็นไข้หวัดใหญ่น่ะครับ ทั้งไอ ทั้งน้ำมูก ทั้งปวดเมื่อย
คาดว่าอีกสองสามวันจะหายครับ ตอนนี้พยายามพักผ่อนอย่างเต็มที่เลย

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
ฮือๆ เป็นไข้หวัดใหญ่น่ะครับ ทั้งไอ ทั้งน้ำมูก ทั้งปวดเมื่อย
คาดว่าอีกสองสามวันจะหายครับ ตอนนี้พยายามพักผ่อนอย่างเต็มที่เลย

พักผ่อนเยอะๆนะคะ

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ฮือๆ เป็นไข้หวัดใหญ่น่ะครับ ทั้งไอ ทั้งน้ำมูก ทั้งปวดเมื่อย
คาดว่าอีกสองสามวันจะหายครับ ตอนนี้พยายามพักผ่อนอย่างเต็มที่เลย

นึกว่าเป็นเบาๆ เป็นหนักเชียว พักผ่อนมากๆ หายเร็วๆนะคร้าบบบ  :hao5: :hao5: :hao5:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ nongrak

  • ยังไงก็รักคาเมะจังที่สุด
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4168
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +912/-14
มาอ่านตามที่แนะนำ น่ารักมาก ชอบเป็งจัง

ขอให้หายป่วยเร็วๆ นะ พักผ่อนมากๆค่ะ
+1จ้า

ออฟไลน์ ▶August5th◀

  • it was fate
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2215
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +184/-2
นึกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา

เป็นหนักนะนี่พี่ หายไวๆนะ พักผ่อนเยอะๆ กินผลไม้เยอะๆ
จำได้ตอนผมเป็นไข้อยากกินแต่ส้มกับแตงโม  555+


ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1

ออฟไลน์ zuu_zaa

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +115/-1

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอนานนะครับ ผมกำลังจะหายดีแล้ว เป็นไข้หวัด 2009 (H1N1)
แทบแย่เลยครับ ดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่งั้นคงนานกว่านี้
ตอนนี้ไข้ลดแล้ว ไอนิดหน่อย เสมหะเริ่มน้อยลงไปมากแล้ว แต่ยังต้องกินยาอยู่ กินแล้วจะง่วงๆ
พอยาหมดก็น่าจะเขียนนิยายได้แล้วครับ น่าจะอีกสองสามวันนี้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่รอนะครับ

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอนานนะครับ ผมกำลังจะหายดีแล้ว เป็นไข้หวัด 2009 (H1N1)
แทบแย่เลยครับ ดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่งั้นคงนานกว่านี้
ตอนนี้ไข้ลดแล้ว ไอนิดหน่อย เสมหะเริ่มน้อยลงไปมากแล้ว แต่ยังต้องกินยาอยู่ กินแล้วจะง่วงๆ
พอยาหมดก็น่าจะเขียนนิยายได้แล้วครับ น่าจะอีกสองสามวันนี้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่รอนะครับ

หายป่วยไวๆนะครับ ว่าแล้วก็น่ากลัวจัง ปีนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันเลย :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง



คานิน...

ถ้าสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือการเข้าใจผิด ก็นับว่าสัญชาตญาณของผมคงทำงานผิดพลาดมาก
ผมรู้สึกได้ว่าภูริชแสดงความสนใจแนนจนผู้ชายอย่างผมที่เคยมีแฟนและจีบหญิงมาแล้วดูออก
แม้จะไม่ดูหวือหวาและมีท่าทางระมัดระวัง แต่ผมก็พอสังเกตเห็นแววตาที่ไม่ธรรมดาของภูริชได้

ผมกับเป็งจึงปล่อยให้หนุ่มสาวสองคนเข็นรถเข็นเด็กและเดินพูดคุยกันตามลำพังสองคนกันไป
แม้ว่าผมจะกลัวแนนเจ็บอีกครั้ง แต่ผมก็คิดเสมอว่าแนนคงอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้นานหรอก
อย่างน้อยๆ การที่แนนมีใครสักคนอาจทำให้เจ้าแฟนเก่าของแนนเลิกคิดที่จะตอแย
แม้ว่าผมไม่อยากกะเกณฑ์เรื่องความรักของน้องสาว แต่ผมก็ยอมรับผู้ชายคนนั้นไม่ได้เลย
ถ้าผมเจอหน้ามันอีกครั้ง ไม่ใครก็ใครคงต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

ผมกับเป็งเปลี่ยนจากเดินเล่นมาขี่จักรยานบ้าง ผมเป็นคนปั่น เป็งซ้อนท้ายเพราะขี่ไม่เป็น
นอกจากกลัวจิ้งจกสุดๆ แล้วยังขี่จักรยานไม่เป็นอีกต่างหาก คนอะไรมีมุมตลกๆ เยอะจัง

สวนรถไฟวันนี้มีคนค่อนข้างบางตาไปหน่อย แต่ก็ดีแล้วที่จะได้พักผ่อนสงบๆ อย่างนี้
ตอนแรกกะว่าจะพากันไปเที่ยวห้าง แต่แนนก็มาเปลี่ยนใจเอานาทีสุดท้ายว่าอยากมาสวนรถไฟ
ผมว่าเป็นการเลือกที่ไม่เลวเลยเพราะทำให้เราได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์และเห็นที่โล่งกว้าง
แต่ก็กะว่าจะไปหาอะไรกินที่ห้างตอนเที่ยงๆ ถ้าวินไม่งอแงเกินไปก็จะดูหนังสักเรื่องตอนบ่ายๆ

"คุณภูริชนี่เขามีแฟนหรือยังครับ" ผมเอ่ยถามขึ้นเมื่อปั่นออกมาค่อนข้างไกลจากสองคนนั้นแล้ว

"ตอนนี้ยังไม่มี" เป็งตอบแล้วก็ซบหน้าลงที่หลังผมเบาๆ เป็นเชิงหยอกเล่น

ผมถองศอกไปข้างหลังเบาๆ เพราะกลัวคนมอง เป็งไม่ว่าอะไร หัวเราะแล้วก็นั่งตัวตรงอย่างเดิม

"กลัวเขาจะจีบแนนเหรอ" เป็งถามอย่างรู้ทัน

"อืม" ผมยอมรับตามตรง "น้องสาวผมไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยแล้ว ผู้ชายที่ไหนจะจริงใจด้วย"

"ไอ้ภูเนี่ยมันเป็นคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวนะคานิน แล้วมันก็เป็นคนจิตใจดี ใจดีมากไปด้วยซ้ำ
แล้วที่สำคัญนะ มันก็รักเด็กด้วย ไม่เห็นมันเล่นกับวินเมื่อกี้เหรอ เล่นยังกะเป็นลูกของมันเองเลย
อ้อ...อีกอย่างนะ ผู้หญิงรูปร่างหน้าตาอย่างแนนน่ะ สเป็คมันเลยล่ะ"

ข้อมูลที่เป็งบอกทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นในสิ่งที่เพิ่งเห็นมากขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือกังวลใจดี

"คุณภูริชเขาเป็นคนดีใช่ไหมครับ"

"แล้วคานินคิดว่าไงล่ะ เจอครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าภูริชเป็นคนยังไง"

ผมไม่ตอบคำถามแต่ค่อยๆ ชลอรถจักรยานเมื่อปั่นมาถึงบริเวณสระน้ำทางด้านหลังสวน
มีม้านั่งอยู่สองสามจุดที่พอจะแวะนั่งคุยกันและชมนกชมไม้ด้วยได้ ที่สำคัญ ว่างอยู่พอดี
ผมกับเป็งเดินมานั่งคู่กันที่ม้านั่งริมน้ำตัวหนึ่ง ลมเย็นสบายจนผมต้องเผลอสูดลมหายใจลึกๆ สักรอบ

"คนเราเดี๋ยวนี้ดูยากนะครับ รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ ผมก็เลยไม่อยากเดา แต่ถ้าจะต้องตอบคำถามเมื่อกี้
ผมว่าเขาก็ดูเป็นคนใช้ได้นะครับ ไม่แสดงท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์ที่เห็นแนนมีลูกติด
แถมยังเล่นกับเด็กอย่างไม่ถือตัวอีก"

เป็งพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับยิ้มมุมปาก

"ผมก็เคยคิดว่าผมรู้จักเพื่อนผมดีนะ แต่ว่า...ตั้งแต่รู้กันมา ผมก็เพิ่งเห็นไอ้ภูสนใจผู้หญิงมีลูกติดนี่แหละ
แต่คานินไม่ต้องห่วงนะ ยังไงๆ ผมก็ไม่ปล่อยให้เพื่อนผมทำอะไรไม่ดีไม่งามกับแนนแน่ๆ"

พอได้ยินอย่างนั้นผมจึงค่อยสบายใจขึ้นมาได้หน่อย อย่างน้อยเป็งก็น่าจะรู้จักเพื่อนของตัวเองดี
ถ้าหากเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ก็คงไม่คบกันมาได้นานขนาดนี้

"ครับ ยังไงๆ ผมก็ฝากช่วยดูให้ผมหน่อยละกัน ผมไม่อยากให้น้องสาวผมต้องผิดพลาดอีก"

เป็งพยักหน้าและยิ้มกว้าง "ยินดีครับ น้องสาวของคานินก็เหมือนน้องสาวของผมแหละ
ไอ้ภูมันก็เป็นเพื่อนผม กินนอนด้วยกันมาตั้งหลายปี ช่วยเหลือกันมาตั้งหลายเรื่องจนนับไม่ถ้วน
ถ้ามันไม่ใช่คนที่ไว้ใจได้ ผมไม่ให้มันเข้าใกล้แนนหรอก คานินไม่ต้องห่วงนะ มีผมอยู่ทั้งคน"

เป็งเอื้อมมือมาโอบไหล่ผมไว้พร้อมกับเขย่าเล่นเบาๆ เราสบสายตากันสักครู่ ส่งผ่านความรู้สึกดีๆ ให้กัน
แต่ไม่นานเท่าไหร่เป็งก็ปล่อยมือลง

"คุยเรื่องของคนอื่นแล้ว แล้วเรื่องของเราล่ะคานิน"

ผมเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย จะว่าไม่เข้าใจคำถามก็คงไม่ใช่ "ทำไมเหรอครับ"

"อ้าว คนเราน่ะ...ถ้าชอบกัน รักกัน ก็ต้องอยากอยู่ด้วยกัน ใช่ไหม"

"แต่เราเพิ่งรู้จักกันนะครับคุณเป็ง ผมยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้นหรอก ดูใจกันไปสักพักก่อนดีกว่า"

"ก็ไม่มีปัญหาหรอก หัวใจน่ะต้องดูอยู่แล้ว" พูดแล้วเป็งก็เอานิ้วมาจิ้มหัวใจผม ก่อนจะหัวเราะชอบใจเบาๆ

"แต่ผมว่า...เรามองไปไกลๆ หน่อยก็ดีนะ ไม่ต้องไกลมากหรอก อีกซักปีสองปีก็ได้ ที่ผมคิดไว้นะ...
ผมอยากให้คานินมาอยู่กับผม มาช่วยกันทำธุรกิจ ผมยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรนะ แต่ต้องมีสักธุรกิจ
ผมคุยกับที่บ้านแล้วนะ เตี่ยผมโอเคเลยถ้าผมจะมีแฟน...แบบคานิน ขอแค่ช่วยกันทำมาหากินก็พอ
คานินเคยได้ยินไหม...ผัวหาบ เมียคอน แบบนั้นแหละ"

"จะชวนผมไปเผาถ่านขายเหรอครับถึงต้องหาบต้องคอน" ผมแซวเล่นอย่างอารมณ์ดี

"เปล่า แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ คานินจะได้เห็นภาพไง"

"ภาพชัดมากเลยครับ"

ผมกับเป็งหัวเราะพร้อมกัน เราสองคนแหงนมองดูท้องฟ้าใสและใช้ความคิดกับตัวเองสักพัก
แต่อีกเพียงครู่เดียวเราก็หันหน้ามาหากันอีกครั้ง

"คานินมีความสุขหรือเปล่าที่อยู่กับผม ผมมีความสุขที่อยู่กับคานินนะ"

สีหน้าจริงจังของเป็งทำให้ผมค่อยๆ หุบยิ้มและทำหน้าจริงจังบ้าง ตอนตื่นนอนเป็งก็ถามคำถามนี้
ผมยิ้มบางๆ แล้วก็พยักหน้าให้เป็งแทนคำตอบ เจ้าตัวยิ้มอย่างโล่งอกที่ผมไม่ตอบเป็นอย่างอื่น

"แล้ว...อยากมาอยู่กับผมไหมล่ะ"

ผมมองเป็งอย่างใช้ความคิด สีหน้าที่จริงจังของเป็งทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ควรจะตอบเล่นๆ

"ขอโทษที ผมก็ลืมไป เราต้องศึกษาดูใจกันก่อนเนอะ" เป็งขำตัวเองเมื่อนึกขึ้นมาได้

"แต่...ผมก็อยากให้คานินรู้ไว้นะว่าผมน่ะ...กำลังเตรียมทุกอย่างไว้สำหรับเราสองคน
ผมคุยกับที่บ้านแล้ว เตี่ยโอเคแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ไม่ยากหรอกเพราะทุกคนฟังเตี่ยผมหมด
เตี่ยบอกผมด้วยนะว่าถ้าเราอยากทำธูรกิจอะไรสักอย่าง เตี่ยก็พร้อมจะลงทุนให้
ผมว่าก็ดีนะ เราจะได้มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันไง"

"อ้าว แล้วร้านอาหารของคุณเป็งที่เชียงรายล่ะ" ผมถามอย่างสงสัย

"ก็ให้เฮียดูแลไป ผมอยากอยู่ที่กรุงเทพมากกว่า อยู่จนชินแล้ว เตี่ยก็โอเคนะ เค้าไม่ว่าอะไรผมหรอก
แค่ให้ผมทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ใช่ลอยไปลอยมา มีธุรกิจของตัวเอง แค่นี้เตี่ยก็พอใจแล้ว"

"อ้าว แต่ว่าตอนนี้คุณเป็งก็ทำงานอบรมอยู่ไม่ใช่เหรอครับ"

"อ๋อ...สำหรับครอบครัวคนจีนนะ แบบนั้นเขาไม่เรียกธุรกิจหรอก ออกแนวรับจ้างทำงานมากกว่า
แต่ผมก็ชอบนะเพราะว่าทำให้ได้เจอคนเยอะ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากคนหลายรูปแบบ
แต่พอถึงวันหนึ่ง ผมก็คงหนีไม่พ้นต้องมีธุรกิจที่เป็นธุรกิจจริงๆ สักอย่าง ไม่งั้นเตี่ยไม่ยอมแน่
ก็ไม่เป็นไรหรอก ผมยอมนะ ถ้าทำธุรกิจแล้วเตี่ยยอมให้ผมคบกับคานิน ผมว่ามันก็คุ้มสุดๆ แล้วล่ะ"

ถ้าไม่ติดว่าเป็นที่สาธารณะ ผมคงจะกอดหนุ่มตี๋สุดหล่อแสนดีคนนี้แน่ ก็เลยได้แต่เรียกชื่อไปเบาๆ

"คุณเป็ง..."

"พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผมละกัน ผมน่ะ...พร้อมเสมอ" เป็งยักคิ้วหนึ่งครั้งแล้วก็ยิ้มหวานให้

"คานินอ้าปากนิดนึงดิ"

ผมมองอย่างงงๆ แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี พออ้าปากแล้วเป็งก็เอาหลังข้อนิ้วชี้มาแตะตรงฟันเขี้ยวผม
ก่อนจะทำท่าสะดุ้งโหยงเล็กน้อยให้ดูพอตลก

"โห...เขี้ยวของคานินคมมาก ใครได้เป็นแฟนแล้วคงไม่กล้านอกใจหรอก เดี๋ยวโดนกัดตาย"

"บ้า ผมไม่ใช่หมาซะหน่อย" ผมว่าพลางเอามือผลักไหล่เป็งเบาๆ

พอหยุดหัวเราะแล้วผมก็นึกถึงเรื่องที่อยากจะปรึกษาเป็งขึ้นมาได้พอดี

"คุณเป็ง จำได้ใช่ไหมครับที่ผมบอกว่าพ่อผมจะขึ้นมาหาผมเดือนหน้า ผมเครียดมากเลย"

"แล้วแนนรู้เรื่องหรือยัง"

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

"งั้น...คุยกับแนนด้วยดีกว่าไหม แล้ว...คานินอยากให้มันเป็นยังไงล่ะ อยากให้พ่อกับแม่รู้หรือเปล่า"

ผมครุ่นคิดสักพักก็พยักหน้าเป็นเชิงยอมรับ

"ยังไงๆ ก็ต้องรู้แหละครับ แต่ผมก็สงสารแนน ความจริงก็สงสารทุกคนแหละ พ่อกับแม่ก็คงช็อกน่าดู"

"ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของคานินเข้มงวดเรื่องนี้แค่ไหนนะ แต่ถ้ารู้เรื่องขึ้นมาก็คงช็อกนั่นแหละ
แต่ยังไงๆ ผมก็เชื่อว่าพ่อแม่เขารักเรา สุดท้ายเขาก็จะให้อภัย แต่เราต้องผ่านวันที่แย่ที่สุดให้ได้ก่อน
ที่เหลือก็จะง่ายขึ้น เอาเป็นว่า...เราคุยกับแนนด้วยดีกว่า ผมว่าแนนคงคิดไว้บ้างแล้วล่ะ"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย ผมกับแนนเคยคุยกันเรื่องนี้บ่อยๆ ว่าจะบอกความจริงกับพ่อแม่ยังไงดี
แม้ว่าจะไม่ได้คำตอบที่พอใจ ผมก็รู้ว่าเธอคิดหาทางหนีทีไล่ไว้บ้าง คงไม่ถึงกับว่างเปล่า
เพราะยังไงๆ มันก็เป็นชีวิตของแนนที่แนนต้องตัดสินใจเลือกเอง ผมปกป้องน้องตลอดเวลาไม่ได้
ก็อย่างที่เป็งว่าล่ะนะ ผมกับแนนต้องอดทนผ่านช่วงวิกฤติให้ได้เสียก่อน แล้วมันก็จะผ่านไปเอง



บรรยากาศในการกินอาหารเที่ยงของเราที่ร้านอาหารชื่อดังในห้างแห่งหนึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น
แม้ว่าบางคนเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงครึ่งวันแต่ทุกคนก็พูดคุยสนิทสนมกันดีเหมือนรู้จักกันมานาน
ผมนั่งฝั่งเดียวกับเป็ง ส่วนแนนกับภูริชนั่งอีกฝั่ง มีรถเข็นเด็กจอดอยู่ข้างๆ โต๊ะที่เรานั่ง
วินนอนหลับไปแล้วจึงทำให้แนนพอมีเวลาพูดคุยและกินข้าวได้อย่างสบายใจมากขึ้น

เป็งเลือกพาเรามาที่ร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเพราะแนนเกิดอยากจะลองกิน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟังเป็งเล่าเรื่องร้านอาหารจีนที่เชียงรายหรือเปล่า ฟังไปฟังมาก็เลยอยากกินดูบ้าง
เนื่องจากวันนี้เป็นวันของแนน แนนอยากไปไหน อยากกินอะไรเราจึงไม่ขัดใจเธอเลย

"คานินนี่ทำให้เพื่อนผมเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ" ภูริชหันมาคุยกับผมในช่วงจังหวะหนึ่ง

"เหรอครับ เมื่อก่อนคุณเป็งเขาไม่ใช่แบบนี้เหรอครับ" ผมเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

"ไม่รู้สิ ผมว่าเป็งดูมีความสุขมากขึ้นนะ ยิ้มมากขึ้น ไม่ค่อยเครียดด้วย เมื่อก่อนมันชอบเครียดบ่อยๆ
บางทีก็มานอนบ่นนั่นบ่นนี่ที่คอนโดผมเป็นวันๆ จริงไหมวะไอ้เพื่อนรัก"

ภูริชหันไปทางเพื่อนรักในตอนท้าย พวกเราที่นั่งอยู่ขำเบาๆ ด้วยความชอบใจ
เป็งพยักหน้าแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ การไม่ตอบโต้ก็น่าจะแปลว่าเจ้าตัวยอมรับ
ส่วนภูริชก็พูดสืบไป

"แต่ก็พูดตรงๆ นะ ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าเพื่อนผมมันจะชอบผู้ชาย เห็นมันเพ้อถึงแต่สาวมีเขี้ยว
เพ้อมาเป็นสิบๆ ปีแต่ไม่เห็นเคยเจอสักคน มาเจออีกทีแทนที่จะเป็นสาวมีเขี้ยว ดันเป็นหนุ่มซะงั้น"

ภูริชพูดจบแล้วก็ขำเบาๆ

"แต่กูก็รักจริงนะเว้ยไอ้ภู" เป็งรีบพูดขึ้นมาขัดเพื่อนรักพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อน

"เออ...กูก็ยังไม่ได้บอกว่ามึงไม่รักคานินนี่หว่า" แล้วภูริชก็หันมาทางผม

"ผมยังไม่เคยเห็นเป็งรักใครอย่างนี้เลยนะครับ"

"แล้วมึงเคยเห็นกูมีแฟนไหมล่ะ" เป็งแทรกขึ้นมาอีก เรียกเสียงหัวเราะได้ดีทีเดียว

"เออว่ะ กูลืมไป แสดงว่ากูเปรียบเทียบมึงเรื่องนี้ของมึงกับเมื่อก่อนไม่ได้ใช่ไหม"

"ก็เออดิ แล้วมึงจะเอาไปเปรียบเทียบกับอะไรล่ะ"

"เออๆ กูไม่เถียงมึงหรอก แต่ยังไงๆ กูก็ว่ามึงเปลี่ยนไปอยู่ดีนั่นแหละ ถ้ามีแฟนแล้วมีความสุขอย่างงี้
มึงก็น่าจะมีตั้งนานแล้วนะไอ้เป็ง ไม่ใช่รอจนอายุยีบห้า อืม...แต่จะว่าไปมึงก็โคตรอดทนแน่วแน่เลยว่ะ"

ผมกับแนนนั่งฟังเพื่อนสองคนคุยกันแล้วก็อมยิ้มด้วยความเอ็นดู หรือจะเรียกว่ากึ่งคุยกึ่งทะเลาะก็พอได้

"แล้วแนนล่ะ ไม่รู้สึกอะไรมั่งเหรอที่พี่ชายมาชอบคุณเป็ง" ภูริชหันไปคุยกับแนนหลังจากที่คุยกับเป็งแล้ว

แนนหันมาสบตาผมแล้วก็หัวเราะเบาๆ "ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันค่ะ แต่แนนเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า...
คนที่พี่คานินเลือกต้องเป็นคนดีแน่ๆ ไม่ว่าพี่คานินจะรักใคร แนนก็ไม่มีปัญหาหรอก"

"ปกติผู้หญิงเขาจะรับเรื่องพวกนี้ได้ง่ายกว่าผู้ชายนะ" เป็งพูดเสริม

"ยกเว้นที่บ้านมึง" ภูริชหันไปพูดหยอกกับเพื่อน เป็งถึงกับหัวเราะอย่างรู้ทันกัน

"เห็นแนนบอกว่า...คานินไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนเลยเหมือนกัน แล้วทำไมถึงชอบเป็งล่ะ
อ้อ...เดี๋ยวนะ ถามได้หรือเปล่าเนี่ย" ภูริชทำหน้าไม่แน่ใจ

"ถามได้ครับ" ผมตอบพลางยิ้ม

"คานินเขาประทับใจที่กูยอมกินส้มตำเผ็ดๆ แล้วก็ท้องเสียเกือบตายวันนั้นไง" เป็งแทรกขึ้นมาอีก

"ร้ายนะพี่นินน่ะ ถ้าแนนรู้นะแนนไม่ยอมพี่นินแกล้งคุณเป็งอย่างงั้นหรอก" แนนหันมาว่าผมไม่จริงจังนัก

พวกเราจึงหัวเราะชอบใจกัน สักพักก็ต้องหยุดเพราะวินเกิดตื่นขึ้นมาและร้องงอแง

"สงสัยจะหิวนมแน่ๆ เลย เดี๋ยวแนนพาลูกไปกินนมก่อนนะคะ"

แนนบอกพลางวางช้อนส้อมลงแล้วรีบลุกขึ้นมาดูลูก

"ให้ผมไปช่วยไหมครับ" ภูริชกุลีกุจอถาม

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณภูกินข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวแนนมาค่ะ"

แนนปฏิเสธแล้วก็เข็นรถเข็นเด็กออกไปจากร้านก่อนที่วินจะร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม
ภูริชวางช้อนส้อมลงแล้วก็เดินแกมวิ่งตามไป

"เดี๋ยวผมช่วยเข็นดีกว่า"

ดูเหมือนแนนจะไม่กล้าปฏิเสธเสียแล้ว จึงยอมให้ภูริชเข็นรถเด็กพาไปที่ห้องน้ำที่มีห้องสำหรับป้อนนมลูก
ผมกับเป็งได้แต่มองตามอย่างสนใจ แน่นอนว่าเราสงสัยและเห็นในเรื่องเดียวกันอยู่แล้ว

ถ้าภูริชยอมรับแนนได้ ไม่รังเกียจที่จะสร้างครอบครัวกับผู้หญิงที่มีลูกติดอย่างแนน
พ่อกับแม่ผมอาจจะโกรธแนนน้อยลง เพราะอย่างน้อยแนนก็ไม่ถูกตราหน้าว่าท้องไม่มีพ่อ
เรื่องแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้าในสังคมชนบทมากทีเดียว รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

แต่ผมก็กลัวแทนน้องสาวเหลือเกิน ผมไม่อยากให้แนนเจ็บแบบคราวนั้น แนนเจ็บเกินพอแล้ว
ผมยังจำภาพที่แนนร้องห่มร้องไห้หัวซุกหัวซุนอุ้มหลานมาร้องขอความช่วยเหลือจากผมได้ดี
แม้ว่าอาจจะดูจุ้นจ้าน ผมก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องไม่ให้น้องสาวของผมเจอสภาพอย่างนั้นอีก

เป็งเอื้อมมือมาบีบมือผมเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้บางๆ ราวกับล่วงรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

"ชีวิตของแนนก็เป็นของแนนนะคานิน สุดท้ายแนนก็ต้องเป็นคนเลือกว่าเขาจะเอายังไง
ผมรู้ว่าคานินเป็นห่วงน้องสาวนะ เป็นห่วงหลานด้วย แต่วันหนึ่งเขาก็จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง
แนนเขาต้องการใครสักคนนะ ภูริชเขาเป็นคนดีนะ ลองให้โอกาสเขาสองคนดูหน่อยไหม
ชีวิตของแนนต้องมีความหวังบ้างนะคานิน ถ้าไม่มีความหวังแล้วแนนจะอยู่ยังไง"

ผมหันไปมองเป็งด้วยสีหน้าเรียบเฉยในตอนแรก แต่สักพักก็ค่อยๆ คลี่ยิ้มให้
คล้ายกับจะบอกว่ายอมรับในความคิดนั้นที่เป็งเพิ่งพูดมา

นั่นสินะ ผมจะกีดกันน้องสาวไม่ให้พบเจอคนใหม่ที่อาจจะดีกว่าเก่าไปทำไม
ผมดูแลชีวิตแนนในฐานะพี่ชายได้ก็จริง แต่ผมก็ทดแทนสิ่งที่แนนขาดไม่ได้
ชีวิตของแนนควรจะมีความหวังที่จะเจอกับใครสักคนที่ดีๆ บ้าง

ที่เป็งพูดมาก็ทำให้ผมฉุกใจคิดได้หลายอย่าง เป็นสิ่งที่แฟนคนก่อนทำให้ผมไม่ได้เลย
แล้วผมก็แอบขำคนเดียวเบาๆ จนเป็งมองอย่างสงสัย ทำไมน่ะเหรอครับ

เพราะผมได้เปรียบเป็งไงครับ เป็งไม่เคยมีแฟนก็เลยเปรียบเทียบตอนนี้กับเมื่อก่อนไม่ได้
แต่ผมเคยมีแฟนมาแล้วก็เลยเปรียบเทียบได้ แถมพอเปรียบเทียบแล้วยังรู้อีกด้วยว่า...

นี่แหละ...คนที่ผมรอคอย!



เป็ง...

หลังจากที่ขับรถวนหาอยู่นานผมก็เจอเสียทีอาคารที่ว่า แม้จะไม่ดูเก่าแต่ก็ไม่แลดูทันสมัยหรอก
ก็เป็นธรรมดาของสถานที่ราชการสมัยเก่า แต่กระนั้นมันก็แฝงมนต์ขลังบางอย่างเอาไว้

พอหาที่จอดรถได้แล้วผมก็พาน้องทีมงานอีกสองคนตรงปรี่ขึ้นไปยังชั้นสามของอาคารทันที
เพราะความที่หลงทางจึงทำให้เสียเวลาไปจนเกือบมาสายกว่าเวลานัด ดีที่ว่ายังพอทันเวลาอยู่

พอขึ้นมาถึงก็พบห้องทำงานขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพาร์ทิชั่นแบ่งเป็นล็อกๆ สำหรับแบ่งโซนทำงาน
พนักงานราชาการที่อยู่ในห้องต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างแข็งขัน มีจับกลุ่มคุยกันบ้าง
ผมเดินนำเจและแอนเข้าไปก่อน พอสอบถามข้อมูลกับพนักงานคนหนึ่ง เราก็ถูกพาไปยังห้องที่นัดไว้

"เดี๋ยวคุณกัญชพรมานะคะ พอดีติดประชุมอยู่อีกห้อง แต่ประชุมใกล้เสร็จแล้วค่ะ"

น้องที่เดินมาส่งเราสามคนบอก ผมหันไปยิ้มกับน้องอีกสองคนอย่างโล่งใจเพราะคนนัดมาสายกว่า

"รับชา กาแฟหรือโอวันตินดีคะ"

น้องที่มาส่งถามตามมารยาท เราสามคนแจ้งไปแล้วก็นั่งคุยกันไปพลางๆ ระหว่างรอ

เจเป็นรุ่นน้องผมที่อเมริกา ตอนเรียนที่นั่นผมกับเจเคยไปเรียนคอร์ส nonviolent communication ด้วยกัน
พอเจกลับมาเมืองไทย ผมก็เลยชวนเจมาทำงานด้วยเพราะรู้ว่าคนที่อบรมเรื่องนี้ได้มีไม่มากนัก
เจเป็นหนุ่มหน้าหวานอยู่หน่อยๆ ท่าทางไม่ตุ้งติ้งหรอกแต่ก็พอสัมผัสได้ว่ากระเดียดไปทางนั้น
เจชอบเล่นโยคะและทำอาหารมังสวิรัติมาก ตลกตรงที่ใครมาเสนอขายเครื่องครัวทีไรเป็นต้องซื้อบ่อยๆ
สุดท้ายก็มีเต็มบ้านจนไม่รู้จะเอาไปเก็บที่ไหน

ส่วนแอนก็เป็นเพื่อนของเจอีกที ถึงจะไม่ได้เรียนเรื่องการสื่อสารอย่างสันติจากอเมริกามาอย่างผมกับเจ
แต่เธอก็เคยเข้าคอร์สเรียนที่กรุงเทพกับมูลนิธิแห่งหนึ่งหลายครั้ง เจเห็นแววก็เลยชวนมาร่วมทีมด้วย
แอนชอบทำอาหารเช่นกัน แต่ไม่ใช่อาหารมังสวิวัติอย่างเจหรอก แล้วก็ชอบเล่นโยคะเหมือนกัน
คงเป็นเพราะโดนเจชวนไปบ่อยๆ ก็เลยชอบตามไปด้วย ผมก็เคยไปเล่นด้วย แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ไปเล่นโยคะกับเจและแอนทีไรผมก็อยากจะวิ่งออกไปเตะบอลกับเพื่อนทุกที

พวกเรารออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงจนแก้วกาแฟพร่องและมีแม่บ้านมาเก็บไป คุยกันจนไม่รู้จะคุยอะไรกันอีก
นั่นแหละคุณกัญชพรจึงประชุมเสร็จและได้ฤกษ์มาหาหาพวกเราเสียที มาถึงก็โทษขอโพยใหญ่

"ขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอ พอดีท่านปลัดสั่งงานไว้ยาวเลย ก็เลยต้องอยู่คุยกับท่านก่อน"

หญิงสาวในชุดข้าราชการสีกากีเอ่ยขึ้นเมื่อโผล่เข้ามาในห้องประชุมเล็กที่เรานั่งรอกันอยู่
ถ้าเห็นคนใส่ชุดแบบนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นวันจันทร์เพราะเป็นวันที่พนักงานราชการต้องใส่ชุดข้าราชการ
หญิงสาวที่ชื่อกัญชพรดูเด็กกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ดูๆ ไปก็น่าจะพอๆ กับผมหรือไม่ก็คานิน
ตอนแรกผมนึกว่าเธอจะอายุสักสี่สิบเสียอีก เพราะเห็นชื่อแล้วน่าจะเป็นชื่อคนรุ่นนั้นมากกว่า

"ทานน้ำชากาแฟกันหรือยังคะ"

กัญจพรถามพลางส่งยิ้มให้พร้อม ก่อนจะวางเอกสารจำนวนหนึ่งที่เธอหอบมาด้วยลงบนโต๊ะ
จะว่าไปแล้วมันก็ไม่น่าจะมีอะไรกับรอยยิ้มธรรมดาๆ ตามมารยาทสังคมของกัญชพรเลย
อีกอย่าง วันนี้ผมก็แค่ตั้งใจมาคุยงานเพราะว่าหน่วยงานของเธอสนใจให้เราจัดอบรมให้

แต่ให้ตายเถอะ!

เมื่อผมเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวที่ชื่อกัญจพรแล้ว ผมก็กลับตกตะลึงจนนั่งนิ่งไปนานเลย

นี่ไง!

หญิงสาวมีเขี้ยวเสน่ห์ที่ผมตามหามาตั้งนานแสนนาน แบบนี้นี่ไงที่ผมหลงใหลคลั่งไคล้มาเป็นสิบปี

แล้วทำไมผมเพิ่งมาเจอเอาตอนนี้!!!

"พี่เป็งๆ" เสียงใครบางคนเรียกผมพร้อมกับสะกิดที่แขนเบาๆ นั่นแหละผมจึงได้สติขึ้นมา

"อ้อ ครับเจ" ผมหันไปมองเจที่กำลังมองดูผมอย่างสงสัย แอนที่นั่งถัดไปก็สงสัยไม่แพ้กัน

"คุณกัญชพรให้แนะนำตัวพวกเราครับ" เจบอกเบาๆ

ผมหันไปมองกัญชพรแล้วก็ยิ้มอย่างเขินๆ ไม่รู้ว่าตกตะลึงไปนานแค่ไหน
น่าอายเสียจริงๆ เป็นอย่างนี้อีกแล้ว นี่ผมเป็นอะไรกับคนมีเขี้ยวนักหนา ฝังใจอะไรขนาดนั้น!

"เอ่อ...อ๋อ...ผมชื่อป้องเกียรติครับ"

ผมบอกชื่อจริงของตัวเองไป ชื่อที่ผมแทบไม่เคยได้ใช้เลย พอบอกชื่อไปแล้วผมก็ดูงงๆ กับตัวเองอีก
กัญชพรคงนึกขำแต่ด้วยมารยาทเธอก็เลยแค่อมยิ้ม เจเห็นท่าไม่ดีจึงถือโอกาสแนะนำกลุ่มของเราแทน
พอช่วยชีวิตผมให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้หน่อย แต่ก็เล่นเอาผมเสียลุคผู้นำไปเหมือนกัน

"ดีเลยค่ะ" กัญชพรพูดขึ้นหลังจากที่ฟังเจแนะนำทีมงานและงานของเราจนหมด

"ปัญหาหลักๆ ที่เราอยากจะให้ช่วยก็เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ของเราเป็นผู้หญิง มีเรื่องทะเลาะกันจุกจิก
ทำให้บรรยากาศการทำงานไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่เพราะความขัดแย้งกันค่ะ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ
ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละค่ะ เจอคนมากก็เลยเครียด ก็มีปัญหากับประชาชนที่มารับบริการบ่อยๆ
ทางเราก็เลยอยากหาทางแก้ปัญหาพวกนี้ให้ลดลงไปบ้าง พอดีกัญรู้จักกับพี่หริ่งก็เลยปรึกษากัน
พี่หริ่งแนะนำเรื่องการสื่อสารอย่างสันติให้ฟังคร่าวๆ แล้วก็ให้ข้อมูลติดต่อทีมของคุณป้องเกียรติมา
ทีนี้กัญก็เลยอยากจะฟังก่อนว่าปัญหาที่กัญเล่าให้ฟังเมื่อกี้ เราจะใช้การสื่อสารอย่างสันติช่วยได้ยังไง
แล้วถ้าจะต้องจัดอบรม จะจัดแบบไหน จัดกี่วัน กี่ครั้ง จัดที่ไหน งบประมาณเท่าไหร่ ต้องเตรียมอะไร
ทางทีมงานของคุณป้องเกียรติเตรียมข้อมูลมาพร้อมแล้วใช่ไหมคะ"

"ครับ"

ผมพยักหน้าอย่างช้าๆ สายตาคอยจับจ้องมองดูเขี้ยวเสน่ห์ที่เผยให้เห็นเป็นระยะๆ อย่างลืมตัว
พอเจสะกิดอีกทีผมจึงได้สติและปรับสมองให้หันมาจดจ่อกับงานแทน แต่ก็ยอมรับว่าไม่มีสมาธิเลย

ในระหว่างที่คุยงานกัน พอเผลอเมื่อไหร่ผมก็มักจะมองหน้าคมสวยและเขี้ยวเสน่ห์ของกัญชพรทุกที
ดูท่าว่าผมจะแสดงออกถึงความสนใจมากไปแน่ๆ เพราะเจกับแอนเริ่มเหล่มองสงสัยหรือไม่ก็คงรู้แล้ว

จนกระทั่งนึกถึงคานินขึ้นมาได้ ผมก็เริ่มสับสนเมื่อคำพูดของคานินเมื่อวานตอนเช้าแว่วลอยมา

"คุณเป็งอย่าทำให้ผมเสียใจนะ ไม่ใช่พอเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงแล้วก็ทิ้งผมซะล่ะ"

ผมชักกลัวแล้วสิ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา คนที่มีเขี้ยวเสน่ห์คนแรกที่ผมเจอโดยบังเอิญก็คือคานิน
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะความฝังใจที่มีมาสิบปีกว่าหรือเปล่าที่ทำให้ผมหลงใหลได้ปลื้มกับคานินขนาดนั้น
หวังว่าจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิด หวังว่าผมจะรู้สึกดีกับคานินจากหัวใจที่แท้จริง ไม่ใช่เพราะเพ้อฝัน
ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมก็อาจจะทำร้ายหัวใจของใครอีกคนอย่างไม่น่าให้อภัยเลยทีเดียว

ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยสงสัยความรู้สึกของตัวเองเลย จนกระทั่งวันนี้ที่ผมเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงเสียที

คานิน...ผมจะทำยังไงดี ทำไมผมถึงได้สับสนอย่างนี้ล่ะ!

ตกลงว่าผมชอบคานินเพราะคานินเป็นคานิน?

หรือว่าผมชอบคานินเพราะคานินเป็นตัวแทนของสาวมีเขี้ยวคนนั้นกันแน่!?

แล้วเธอก็ปรากฎตัวขึ้นโดยบังเอิญแล้วเสียด้วยสิ!!!

TBC...

ออฟไลน์ snowboxs

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5445
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +124/-7
 :z13:

อ่านความรู้สึกของเป็งแล้วจุกเลย
ถ้าไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองที่ทีให้คานิน
เป็งควรบอกคานิน ก่อนที่จะผูกพันธ์กันมากกว่านี้นะ
ส่วนที่เป็งรู้สึกกับสาวเขี้ยวตัวจริง
เหมือนจะเริ่มเป็นการนอกใจได้เลยนะ
โอ้ยเครียด แต่อยากให้คานินรู้เรื่องนี้

คนเขียนหายดียังคะ 2สู้นะคะ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 16-03-2016 22:13:09 โดย snowboxs »

ออฟไลน์ Wut_Sv

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 902
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +21/-1
อ้ากกกก มาแล้ว โผล่มาก็มีเรื่องเข้ามาเลย 5555 :laugh: :laugh: :laugh:

เครียดแทนเป็งเลย เพิ่งคุยกันวันก่อนก็มาเจอสถานการณ์ชวนลังเลมาเลย  :hao5: :hao5: :hao5:

เป็งจะทำไงให้รู้ใจตัวเองนะ ว่าชอบคานินที่เป็นคานิน หรือ ชอบคานินที่เป็นตัวแทน  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ส่วนแนนนี่ให้ภูริชชอบแนนก็ดี จะได้หลุดพ้นจากเรื่องแย่ๆ :mew2: :mew2: :mew2:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบ ดีใจด้วยที่หายป่วยแล้ว เป็นหนักเป็นนานเชียว  :mc4: :mc4: :mc4:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ GuoJeng

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1267
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +44/-1
เอาละสิ เป็ง เจอสาวมีเขี้ยวแล้ว แต่ขอโทษ คุณเธอมีแฟนแล้วและจะแต่งงานกลางปีนี้แล้วคับ ขอให้เป็นแบบนี้ทีเถอะ  คุณเธอ อย่าเป็นโสดนะ ๕๕๕ เดี่ยวเป็งทิ้งคานิน
  รอ รออ่านตอนใหม่คับ หายไข้ดีแล้ว อย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะคับ จะได้มีแรง

ออฟไลน์ inxsara

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 137
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +69/-0
หายเกือบดีแล้วครับ ตอนนี้เหลือแต่มีน้ำมูกกวนใจนิดหน่อย ไม่มีใข้ ไม่ค่อยไอ
ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะแรงขนาดนี้ รวมเวลาที่เป็นแล้วก็ร่วมเดือนครับ
ช่วงนี้จะได้อ่านกันไวขึ้นแล้วนะครับ จะพยายามมาวันเว้นวัน เพื่อให้จบก่อนเรื่องใหม่มา

ออฟไลน์ Billie

  • "Let come what comes, let go what goes and see what remains. That is what is real"
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3327
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +78/-6
 :L2: :pig4:

จุก

อยากอ่านไวไว แต่คุณนักเขียนดูแลตัวเองดีดี นะ

ออฟไลน์ yowyow

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4188
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +139/-7

ออฟไลน์ twinmonkey0311

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5480
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +110/-9
เป็งก็ถามใจตัวเองดีดีนะ อ่านตอนนี้แล้วสงสารคานินเลย

ออฟไลน์ kitty08

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1952
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +48/-4
 :mew2:พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเฟลเลยน่ะ ช่วงแรกกับช่วงหลังนี่คนละงานเลยน่ะ แต่เราก้อว่าดีน่ะก่อนที่ความรู้สึกมันจะลึกไปมากกว่านี้น่ะ เราว่ากับสาวคนนี้คงเป็นความฝังใจมากกว่าน่ะ ส่วนของคานินน่าจะชอบเพราะตัวเขามากกว่า เพราะถึงจะชอบคนมีเขี้ยวมากแค่ไหนแต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายก้อไม่น่าจะหลงรักได้น่ะ งานนี้คงต้องพิสูจน์แหละแต่ระหว่างนี้ถ้าคานินรู้คงช้ำมากน่ะ :katai1:

ออฟไลน์ seaz

  • รักอยู่ไหน...ใจเรียกหา
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5383
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +381/-9
จะเปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณเป็ง? แล้วคานินล่ะครับ เห็นเป็นตัวแทนเหรอ หรือว่าแค่คั่นเวลา? ยังไงครับ จัดการความรู้สึกตัวเองด้วยนะครับ

ออฟไลน์ mild-dy

  • ☆ ทาสแมว ☆
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 8891
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +389/-80

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
ได้แต่หวังว่าจะเห็นคานินเป็นตัวจริง ไม่หลงไปกับสาวเขี้ยวเสน่ห์คนใหม่ที่เพิ่งพบและหวังว่าสาวเจ้าจะไม่โสด

ไม่งั้นคานินคงน่าสงสารมาก เพราะเป็งพูดซะดิบดีวาดฝันเอาไว้ซะสวยว่าต้องมีคานินอยู่ข้างๆ

ร่วมกันทำธุรกิจร่วมกัน แต่ไหนกับมาหวั่นไหวได้ก็ไม่รู้

ออฟไลน์ Magis

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-1
ได้กลิ่นมาม่าเลยอะแบบนี้ - -

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด