พิมพ์หน้านี้ - ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Boy's love => Boy's love story => นิยายที่โพสจนจบแล้ว => ข้อความที่เริ่มโดย: inxsara ที่ 14-01-2016 07:54:49

หัวข้อ: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 14-01-2016 07:54:49
"เป็ง" หลงเสน่ห์สาวมีเขี้ยวตั้งแต่มอสาม ผ่านมาสิบปีไม่เคยเจออีกเลยจึงครองตัวเป็นโสด จนกระทั่งมาเจอ "หนุ่มมีเขี้ยว" อย่าง "คานิน" ที่ทำให้กามเทพต้องแผลงศร 180 องศา แต่หนุ่มมีเขี้ยวจะทดแทนสาวมีเขี้ยวได้มั้ย เชิญติดตามอ่านกันเลยครับ

อ้างถึง
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ด กรุณาอ่านทุกคน
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วย

ประกาศ กฎที่อื่นมีไว้แหก แต่ห้ามมาแหกที่นี่

1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
การสนใจและชื่นชอบนิยายและเรื่องเล่าของคนในเรื่องควรมีขอบเขตที่จะไม่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้าของเรื่อง เช่นเดียวกับเป็ดที่ตอนนี้ถูกรังควานตามหาตัวจากคนด้านต่างๆ จนตัดสินใจไม่เล่าเรื่องต่อ.........เนื่องจากบางเรื่องเป็นเรื่องเล่า.....................บางคนไม่ได้เปิดเผยตัวตน  เขาพอใจจะมีความสุขในที่เล็กๆแห่งนี้โดยไม่ได้ตั้งใจให้คนภายนอกได้รับรู้เรื่องราวแล้วนำไปพูดต่อ   เพราะปฎิเสธไม่ได้ว่าสังคมไม่ได้ยอมรับพวกเราสักเท่าไหร่

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท,
หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง
หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์
และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด
การกระทำเช่นนั้นอาจทำให้คุณแบนทันที และถาวร . หมายเลข IP ของทุกโพสต์จะถูกบันทึกเพื่อใช้เป็นหลักฐาน
ในความเป็นจริงเป็นไปได้ยากมากที่จะให้แต่ละคนมีความคิดเห็นตรงกันทั้งหมด   คนเรามากมายต่างความคิดต่างความเห็น เติบโตมาภายใต้ภาวะแวดล้อมต่างกันการแสดงความคิดเห็นที่แตกต่าง   จึงควรทำเพื่อให้เกิดความเข้าใจกัน แบ่งปันประสบการณ์และมิตรภาพเพื่ออาจเป็นประโยชน์ในการใช้ชีวิต  และไม่ว่าจะอย่างไรก็ควรเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของบุคคลอื่นช่วยกันสร้างให้บอร์ดนี้มีแต่ความรักนะครับ   

เรื่องบางเรื่องอาจจะเป็นทั้งเรื่องแต่งหรือเรื่องเล่าใดๆก็ขอให้ระลึกเสมอว่า  อ่านเพื่อความบันเทิงและเก็บประสบการณ์ชีวิตที่คุณไม่ต้องไปเจอความเจ็บปวดเล่านั้นเองเพื่อเป็นข้อเตือนใจ สอนใจในการตัดสินใจใช้ชีวิต   จึงไม่ต้องพยายามสืบหาว่าเรื่องจริงหรือเรื่องแต่งส่วนการพูดคุยนั้น   ก็ประมาณอย่าทำให้กระทุ้กลายพันธุ์ห้ามเอาเรื่องส่วนตัวมาปรึกษาพูดคุยกันโดยที่ไม่เกี่ยวพันกับเรื่องในกระทู้นิยาย  ถ้าจะวิจารณ์หรือแสดงความคิดเห็นทุกคนมีสิทธิแต่ขอให้ไปตั้งกระทู้ที่บอร์ดอื่นที่ไม่ใช่ที่นี่นะครับ

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อเจ้าของเรื่องเท่าที่จะทำได้หรือแจ้งมายังบอร์ดนี้ก่อนนะครับ  เนื่องจากเจ้าของเรื่องบางครั้งไม่ต้องการให้คนที่ไม่ได้ชื่นชอบนิยายชายรักชายเข้ามารับรู้  ลิขสิทธิ์ทั้งหมดเป็นของเจ้าของคนที่ทำขึ้นและเวปแห่งนี้นะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ส่งหรือติดต่อกันทางพีเอ็มจะปลอดภัยกว่าแล้วเมื่อมีการติดต่อสื่อสารกันให้พึงระวังถึงความปลอดภัย ความไม่น่าไว้ใจของผุ้คนทุกคนแม้จะมีชื่อเสียงในบอร์ดเป็นเรื่องส่วนตัวของแต่ละคนไป เพื่อลดความขัดแย้งภายในเล้า จึงไม่สนับสนุนให้มีการจีบกันในบอร์ดนะครับ

5.ห้ามจั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียวให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตาม
เพราะแม้จะเป็นเรื่องที่เขียนจากเรื่องจริง เมื่อนำมาพิมพ์เป็นเรื่องผ่านตัวอักษร ย่อมเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดสีสันในเนื้อเรื่อง ทางเล้าถือว่านั่นคือการเพิ่มเติมเนื้อเรื่อง จึงไม่อนุญาตให้จั่วหัวกระทู้ว่าเป็น “เรื่องเล่า” แต่สามารถแจ้งว่าเป็น “นิยายที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริง” ได้  มีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว

6.การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย  ทำได้  แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว  โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute  ได้    ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน

7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
      7.1 นิยาย 1 ตอน  จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
      7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
      7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
            - 1 Reply ที่เกินมานั้น โมทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ

8.Administrator และ moderator ของ forum นี้ มีสิทธิ์อ่าน, ลบ หรือแก้ไขทุกข้อความ. และ administrator, moderator หรือ webmaster ไม่สามารถรับผิดชอบต่อข้อความที่คุณได้แสดงความคิดเห็น (ยกเว้นว่าพวกเขาจะเป็นผู้โพสต์เอง).

9.คุณยินยอมให้ข้อมูลทุกอย่างของคุณถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล. ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะไม่ถูกเปิดเผยต่อผู้อื่นโดยไม่ได้รับการยินยอมจากคุณ .Webmaster, administrator และ moderator ไม่สามารถรับผิดชอบต่อการถูกเจาะข้อมูล แล้วนำไปสร้างความเดือดร้อนต่างๆ

10.ห้ามลงประกาศลิงค์โปรโมทเวป  โฆษณา หรือโปรโมทในเชิงธุรกิจใดๆ ทุกชนิด ลงได้เฉพาะในห้องซื้อขาย ในเมื่อแนะนำเวปอื่นที่บอร์ดเรา ก็ช่วยแนะนำบอร์ดเราโดยลงลิงค์บอร์ดเรา เวป http://www.thaiboyslove.com  ในบอร์ดที่ท่านแนะนำมาให้เราด้วย  เมื่อจำเป็นต้องแนะนำลิงค์ให้ส่งลิงค์กันทาง personal message หรือพีเอ็มแทนนะครับจะสะดวกกว่า ส่วนในกรณีอยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนๆได้อ่านจริงๆนั้นพยายามลงให้ห้องซื้อขายซะ หรือถ้าม๊อดเดอเรเตอร์จะพิจารณาเป็นกรณีๆไป ถ้ารู้สึกว่าไม่ได้โปรโมทเวป แต่อยากแนะนำสิ่งดีๆให้เพื่อนด้วยใจจริงจะให้กระทู้นั้นคงอยู่ต่อไป

11.บอร์ดนิยายที่โพสจนจบแล้วมีไว้สำหรับนิยายที่โพสในบอร์ด boy's love จนจบแล้วเท่านั้น จึงจะถูกย้ายมาเก็บไว้ที่นี่ หาอ่านนิยายที่จบแล้ว หรือคนเขียนไม่ได้เขียนต่อ แต่โดยนัยแล้วถือว่าพล็อตเรื่องโดยรวมสมควรแก่การจบแล้ว หากนักเขียนท่านใดได้พิมพ์เล่มกับสำนักพิมพ์ ต้องการลบเรือ่งบางส่วนออก โดยเฉพาะไคลแม๊ก หรือตอนจบที่สำคัญ ให้แจ้ง moderator ย้ายนิยายของท่านสู่ห้องนิยายไม่จบ เพื่อที่หากระยะเวลาเกินหกเดือนแล้ว เราจะได้ทำการลบทิ้ง หรือท่านจะลบนิยายดังกล่าวทิ้งเสียก็ได้ เนื่องจากบอร์ดนี้เก็บเฉพาะนิยายที่จบแล้ว

บอร์ดนิยายที่ยังไม่มาต่อจนจบไว้สำหรับ
นิยายที่คนเขียนไม่ได้มาต่อนาน หายไปโดยไม่มีเหตุผลสมควร ไม่ได้แจ้งไว้หรือแจ้งแล้วก็ไม่มาต่อ 3 เดือน จะย้ายมาเก็บในนี้เมื่อครบหกเดือนจะทำการลบทิ้ง ส่วนเรื่องไหนที่จะต่อก็ต่อในนี้จนกว่าจะจบ แล้วถึงจะทำการย้ายไปสู่บอร์ดนิยายจบแล้วต่อไป

12.ห้ามนำเรื่องพิพาทต่างๆมาเคลียร์กันในบอร์ด

13.ผู้โพสนิยาย และเขียนนิยายกรุณาโพสให้จบ ตรวจสอบคำผิดก่อนนำมาลงด้วยครับ

14.ส่วนคนอ่านทุกท่าน เวลาอ่านนิยาย เรื่องที่คนเขียนเขียน  ก็ไม่ต้องไปอินมากนะครับ ให้เก็บเอาสิ่งดีๆ ประสบการณ์ ข้อคิดดีๆไปนะครับ

15. การนำรูปภาพ บทความ ฯลฯ มาลงในเวปบอร์ด  ควรจะให้เครดิตกับ...
(1) ผู้ที่เป็นต้นตอเจ้าของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ
(2) เวปไซต์ต้นตอที่อ้างอิงถึง
....ในกรณีที่เป็นบทความที่ถูกอ้างอิงต่อมาจากเวปไซต์อื่นๆ
- ถ้ามีแหล่งต้นตอของเจ้าของบทความ  ให้โพสชื่อเจ้าของต้นตอของบทความหรือรูปภาพนั้นๆ  พร้อมทั้งเวปไซต์ที่อ้างอิง
  (กรณีนี้จะโพสอ้างอิงชื่อผู้โพสหรือเวปไซต์ที่เรานำมาหรือไม่ก็ได้ แต่ควรมั่นใจว่าชื่อต้นตอของที่มาถูกต้อง)
- ถ้าไม่สามารถหาชื่อต้นตอของรูปภาพหรือเวปไซต์ที่นำมาได้ ควรอ้างอิงชื่อผู้โพสและเวปไซต์จากแหล่งที่เรานำมาเสมอ
- ควรขออนุญาติเจ้าของภาพหรือเจ้าของบทความก่อนนำมาโพสค่ะ(ถ้าเป็นไปได้) ยกเว้นพวกเวปไซต์สาธารณะ เช่น  หนังสือพิมพ์ออนไลน์ ฯลฯ ที่เปิดให้คนทั่วไปได้อ่านเป็นสาธารณะ ก็นำมาโพสได้ แต่ให้อ้างอิงเจ้าของชื่อและแหล่งที่มาค่ะ
- ไม่ควรดัดแปลงหรือแก้ไขเครดิตที่ติดมากับรูปหรือบทความก่อนนำมาโพส
- ถ้าเป็น FW mail  ก็บอกไปเลยว่าเอามาจาก FW mail

16.นิยายเรื่องไหนที่คิดว่าเมื่อมีการรวมเล่มขายแล้วจะลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออก กรุณาอย่าเอามาลงที่นี่ หรือสำหรับผู้ที่ขอนิยายจากนักเขียนอื่นมาลง ต้องมั่นใจว่าเรื่องนั้นจะไม่มีการลบเนื้อเรื่องไม่ว่าบางส่วนหรือทั้งหมดออกเมื่อมีการรวมเล่มขาย อนึ่ง เล้าไม่ได้ห้ามให้มีการรวมเล่มแต่อย่างใด สามารถรวมเล่มขายกันได้ แต่อยากให้เคารพกฎของเล้าด้วย เล้าเปิดโอกาสให้ทุกคน จะทำมาหากิน หรืออะไรก็ตามแต่ขอความร่วมมือด้วย เผื่อที่ทุกคนจะได้อยู่อย่างมีความสุข

17.ห้ามแจ้งที่หัวกระทู้เกี่ยวกับการจองหรือจัดพิมพ์หนังสือ แต่อนุโลมให้ขึ้นหัวกระทู้ว่า “แจ้งข่าวหน้า...” และลงลิงค์ที่ได้ตั้งเอาไว้ในแล้วในห้องซื้อขายลงในกระทู้นิยายแทน  ถ้านักเขียนต้องการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการจอง หรือจัดพิมพ์หนังสือของตนเองผ่านกระทู้นิยายของตนเอง  นิยายเรื่องดังกล่าวจะต้องลงเนื้อหาจนจบก่อน (ไม่รวมตอนพิเศษ) จึงจะทำการประชาสัมพันธ์ในกระทู้นิยายได้ (ศึกษากฏการซื้อขายของเล้่าก่อน ด้วยนะคะ)
ว่าด้วยเรื่องการจะรวมเล่มนิยายขายในเล้า จะต้องมี ID ซื้อขายก่อน ถึงจะสามารถประกาศ ..แจ้งข่าว.. ที่บนหัวกระทู้ของนิยายได้ ในกรณีที่ รวมเล่มกับ สนพ. ที่มี  ID ซื้อขายของเล้าแล้ว นักเขียนก็สามารถใช้ หมายเลข  ID ของ สนพ. ลงแจ้งในหน้าที่มีเนื้อหารายละเอียดการสั่งจองนิยายได้

18.ใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดเรื่องสั้น ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที  ส่วนเรื่องสั้นที่จบแล้วให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้วจะได้ไม่ถูกลบทิ้งและจะเก็บไว้ที่บอร์ดเรื่องสั้นไม่ย้ายไปไหน   เช่นเดียวกับนิยายทุกเรื่องเมื่อจบให้แก้ไขโพสแรก และต่อท้ายว่าจบแล้ว จะได้ย้ายเข้าสู่บอร์ดนิยายจบแล้ว ไม่เช่นนั้นม๊อดอาจเข้าใจว่าไม่มาต่อนิยายนานเกินจะโดนลบทิ้งครับ

▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


(http://bit.ly/1RX8ogL)


"เป็ง" เคยเจอสาวมีเขี้ยวเสน่ห์ตอนเรียนมอสาม จึงฝังใจอยากมีแฟนเป็นสาวมีเขี้ยวเสน่ห์
แต่ก็ไม่เคยเจอสาวอย่างที่ฝันไว้อีกเลย แต่กระนั้น เป็งก็ตั้งใจแน่วแน่ว่าจะต้องเจอสาวมีเขี้ยวเสน่ห์ให้ได้
ยอมไม่มีแฟนจนกระทั่งอายุย่างยี่สิบห้า

แต่แล้วฟ้าดินก็เล่นตลก เป็งได้เจอกับ "คานิน" หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ที่ร้านกาแฟที่เป็งไปใช้บริการบ่อยๆ
จาก "สาวเขี้ยวเสน่ห์" กลายมาเป็น "หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์" แทน หนุ่มเป็งจะทำอย่างไรกับกามเทพเล่นตลกครั้งนี้



นำแสดงโดย


(http://bit.ly/1UYDJgL)

(http://s5.postimg.org/a6a0tered/eddiepeng2.png)

เอ้ดดี้ เผิง รับบทเป็น "เป็ง"

(http://bit.ly/1PyVyz0)

(http://bit.ly/25Cwbaw)

โอ อนุชิต สพันธุ์พงษ์ รับบทเป็น "คานิน"

สารบัญ

บทนำ (http://bit.ly/1ZQbGqB)
ตอนที่ 1 ☂ ฝากร่มฝากรัก (http://bit.ly/1PHVddm)
ตอนที่ 2 ☂ จีบหรือเปล่า (http://bit.ly/1PrOJyS)
ตอนที่ 3 ☂ อกหักก่อนรักเป็น (http://bit.ly/1TcINzJ)
ตอนที่ 4 ☂ คะแนนสงสาร (http://bit.ly/1OPK78t)
ตอนที่ 5 ☂ Cotton Candy (http://bit.ly/1Q5mmHb)
ตอนที่ 6 ☂ ความลับของเป็ง (http://bit.ly/1L5jGYy)
ตอนที่ 7 ☂ เซลฟี่และจูบบนหนังสือ (http://bit.ly/20V9ACX)
ตอนที่ 8 ☂ อย่าจับแขนแฟนผม (http://bit.ly/1mC6gwM)
ตอนที่ 9 ☂ เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน (http://bit.ly/1QSBZSJ)
ตอนที่ 10 ☂ งอนนักจัดหนักซะเลย (NC) (http://bit.ly/1OuksOV)
ตอนที่ 11 ☂ สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง (http://bit.ly/1UfOSge)
ตอนที่ 12 ☂ ตัวจริงของเธอ (http://bit.ly/1UJ20Jx)
ตอนที่ 13 ☂ บททดสอบหัวใจ (http://bit.ly/1UsCLx4)
ตอนที่ 14 ☂ ตัวจริงของเป็ง (http://bit.ly/1pQLmwu)
ตอนที่ 15 ☂ ใครกันที่โลเล (http://bit.ly/1RzwSb2)
ตอนที่ 16 ☂ รักที่ห่างไกล (http://bit.ly/1orFU1D)
ตอนที่ 17 ☂ รักคำแรกของผม (http://bit.ly/1qrtnNj)
ตอนที่ 18 ☂ เปรี้ยวใจของพี่เป็ง (NC) (http://bit.ly/1WcD2Du)
ตอนที่ 19 ☂ พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย (http://bit.ly/26m518k)
ตอนที่ 20 ☂ เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ) (http://bit.ly/1rs1d50)

https://www.youtube.com/v/UWgg9r2u4PI


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦16.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 14-01-2016 07:55:07
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


บทนำ


(http://bit.ly/1RX8ogL)


ผมไม่ได้กลับมาที่ร้านกาแฟร้านโปรดซะนานเพราะมัวแต่ไปเที่ยวต่างประเทศช่วงปีใหม่ ก็มันน่าเบื่อไหมล่ะ กรุงเทพช่วงปีใหม่ร้อนจะตาย คนกรุงแทบไม่เคยได้สัมผัสอากาศหนาวเลยอย่างมากก็แค่รู้สึกเย็นๆ วันสองวันแล้วก็ร้อนตับแตกเหมือนเดิม ผมจึงชอบนัดก๊วนเพื่อนๆ ที่รู้จักกันไปเที่ยวต่างประเทศช่วงนี้ ไปทีก็ไปกันเป็นเดือนๆหนนี้ไปไกลถึงฟินแลนด์ ประเทศในฝันอีกประเทศหนึ่งที่ผมเพิ่งมีโอกาสได้ไปไม่ผิดหวังกับความหนาวสุดขั้วหัวใจและความสวยงามของประเทศนี้เลย คงได้ไปอีกแน่นอน

ช่วงนี้คนเริ่มกลับมาทำงานกันบ้างแล้ว แต่ยังออกมาข้างนอกกันน้อยอยู่ตามปกติของต้นเดือนมกราคม ลูกค้าที่เข้ามาที่ร้านกาแฟจึงค่อนข้างบางตา แต่ก็ไม่ถึงกับโหรงเหรงยี่ห้อเฟรนไชส์ชื่อดังของร้านนี้ยังพอดึงดูดขาประจำและคนใหม่ๆ ให้แวะเวียนเข้ามาได้เรื่อยๆ ถ้าเป็นร้านกาแฟธรรมดาทั่วไปคงลำบากหน่อยที่ต้องขาดรายได้ช่วงนี้ไปพอสมควร

ผมยืนต่อคิวกับลูกค้าคนอื่นๆ เพื่อที่จะซื้อกาแฟอเมริกาโน่และแซนด์วิชแฮมชีสสไตล์ฝรั่งเศสของโปรด ขณะที่ดูมองดูเมนูและอาหารเพลินๆ สายตาของผมพลันมาหยุดที่ชายหนุ่มคนหนึ่ง อายุรุ่นๆ ผมนี่แหละ ผมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยจึงเดาว่าคงเป็นพนักงานใหม่ มาที่นี่บ่อยจึงจำหน้าพนักงานได้เกือบทุกคน ท่าทางพนักงานคนนี้ดูกระฉับกระเฉงและเป็นมิตรกับลูกค้ามากทีเดียว แต่ผมไม่ได้สนใจมากนักหรอก เพราะถ้าผมเกิดสนใจผู้ชายขึ้นมาคงแปลกเต็มที จึงดูเมนูและอาหารอื่นๆ ที่อยากลองสั่งมากินดูบ้าง แต่คิดว่าคงไม่พ้นสั่งอย่างเดิมตามเคย

พอถึงคิวผม พนักงานคนใหม่ยิ้มทักทายอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะเอ่ยปากถาม

"รับอะไรดีครับ"

เชื่อไหมครับว่าผมไม่ได้ยินคำถามของพนักงานหนุ่มคนนั้นเลย เพราะมัวแต่ตกตะลึงจังงังกับบางอย่าง

ผู้ชายคนนี้มี "เขี้ยวเสน่ห์"!!!

ผมเผลอมองสองเขี้ยวเล็กๆ ที่โผล่พ้นไรฟันออกมาพร้อมกับรอยยิ้มอย่างหลงใหล หนุ่มร่างเกือบเล็กผิวเกือบขาวคนนั้นถามผมซ้ำๆ อยู่สองสามรอบ แต่ผมกลับไม่ได้ยินเลยจนกระทั่งคนที่ยืนต่อคิวข้างหลังต้องเอานิ้วมาสะกิดที่ไหล่ผมเบาๆ นั่นแหละถึงได้รู้ตัว ผมได้ยินเสียงคนหัวเราะคิกคักข้างหลังผมด้วย คงจะขำที่ผมยืนเหม่อจนใครเรียกก็ไม่ได้ยิน

"จะรับอะไรดีครับ"

"อ้อ เอ่อ...ทอล ไอซ์ อเมริกาโน่ แล้วก็แซนด์วิชแฮมชีสสไตล์ฝรั่งเศสครับ"

ผมรีบบอกไปอย่างตะกุกตะกัก รู้สึกอายมากทีเดียวเพราะไม่รู้ว่าคนอื่นๆ คิดยังไงบ้าง หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ยิ้มแล้วขำเบาๆ ผมยิ่งต้องกุมขมับอีกรอบเพราะดันรู้สึกว่า...

น่ารักอ้ะ!!!

ตอนอยู่มอต้น ผมเคยเจอสาวน้อยเขี้ยวเสน่ห์คนหนึ่งโดยบังเอิญแถวๆ สยาม ผมจำได้ว่าตัวเองตกตะลึงมองเธอตาค้างเพราะไม่เคยคิดมาก่อนว่าสาวมีเขี้ยวน่ารักขนาดนี้ พอรู้ตัวอีกทีก็พบว่าเธอเดินหายไปซะแล้ว ผมพยายามวิ่งตามไปแต่กลับไม่เจอเธอเลย

ตั้งแต่นั้นมาผมจึงตั้งใจแน่วแน่ว่าถ้าจะมีแฟน แฟนของผมต้องเป็นสาวมีเขี้ยวเสน่ห์เท่านั้น แต่เชื่อไหมครับ หลังจากนั้นผมไม่เคยเจอสาวไหนมีเขี้ยวเสน่ห์อย่างเธอคนนั้นอีกเลย จึงทำให้ผมไม่มีแฟนจนอายุจะยี่สิบห้าอยู่แล้ว ใครๆ ก็ชักสงสัยว่าผมเป็นเกย์หรือเปล่า โดยเฉพาะเพื่อนๆ มักถามผมบ่อยๆ เพราะไม่เคยเห็นผมจีบใครเลยตั้งแต่นั้น หน้าตาก็ดี ฐานะก็พอใช้ได้ เรียนหนังสือก็โอเค งานการก็ดี ดูเพียบพร้อมพอสมควร ผมจึงได้แต่บอกพวกเพื่อนๆ ไปเหมือนกับท่องสคริปต์แทบทุกครั้งว่า

"กูรอสาวเขี้ยวเสน่ห์คนนั้นอยู่เว้ย"

ผมฝังใจเรื่องอยากมีแฟนเป็นสาวเขี้ยวเสน่ห์มาก รอมาเป็นสิบปี คงไม่ต้องบอกว่าฝังใจแค่ไหน แต่ฟ้าดินกลับไม่เคยเห็นใจคนโสดที่อยู่คนเดียวๆ เหงาๆ มาตั้งหลายปีอย่างผมเลย

"มาใหม่เหรอครับ ไม่เคยเห็นเลย" ผมถามขณะที่ชายหนุ่มคนนั้นกำลังคิดราคาให้ผมอยู่

"ครับ" เงยหน้ามาตอบแล้วก็บอกจำนวนเงินที่ผมต้องจ่าย

ผมหยิบเงินจากกระเป๋าสตางค์จ่ายไปแล้วถามต่อ

"ชื่ออะไรเหรอครับ พอดีผมมากินที่นี่บ่อยๆ จะได้รู้จักไว้"

"คานินครับ" ชายหนุ่มตรงหน้าตอบอย่างไม่ลังเลแล้วส่งเงินทอนและใบเสร็จให้ ยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยว

"อ้อ ผมชื่อเป็งนะครับ" ผมบอกชื่อตัวเองไปพลางยิ้มเขิน

"ครับ รอสักครู่นะครับ"

"ครับ"

คนผิวไม่ถึงกับขาวยิ้มบางๆ ให้ก่อนจะเดินไปเตรียมกาแฟและอาหารตามที่ผมสั่ง แม้จะรู้ว่ายิ้มตามมารยาทการบริการ แต่ผมกลับแพ้เขี้ยวมหาเสน่ห์ของหนุ่มคนนี้จนใจสั่นเต้นรัวซะแล้ว 

ปกติผมไม่เคยถามชื่อพนักงานคนไหนที่นี่เลย แค่จำหน้าได้ก็พอให้พูดคุยกันได้แล้ว พนักงานที่นี่จำผมได้เพราะผมมาสองสามครั้งต่อสัปดาห์เป็นประจำเนื่องจากอยู่ใกล้คอนโด

ช่างน่าแปลกเหลือเกิน ผมรอสาวมีเขี้ยวเสน่ห์มาตั้งหลายปีแต่กลับไม่เคยเจออีกเลย ดันมาเจอกับหนุ่มหน้าคม ดูขยัน รูปร่างพอเหมาะ ยิ้มหวานแถมยังมีเขี้ยวเสน่ห์คนนี้แทน ตั้งแต่เกิดมา ยังไม่เคยมีใครทำให้ผมตกตะลึงจนเกิดเหตุการณ์น่าขายหน้าอย่างเมื่อกี้ได้เลย

อย่าบอกนะว่าผมกำลังสนใจหนุ่ม "คานินเขี้ยวมหาเสน่ห์" คนนี้เข้าให้แล้ว!?

So random!!!


หัวข้อ: Re: ▼▼'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦16.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: route rover ที่ 14-01-2016 08:03:16
น่าสนใจค่ะ รออ่านต่อ

แต่ลงวันที่ 16 หรอคะ
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: darinsaya ที่ 14-01-2016 09:31:33
 :o8: :o8: :o8:
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: san ที่ 14-01-2016 09:40:59
 :pig2: :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 14-01-2016 10:00:56
จะจีบหรอคะคุณเป็ง  o18
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 14-01-2016 10:12:16
ปิ้งรักหนุ่มมีเขี้ยวซะแล้วเหรอเป็ง  มารออานเรื่องใหม่ :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 14-01-2016 12:31:55
รอออ :)


สไตล์การเขียนเปลี่ยนไป เพราะคนละไอดี?
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-01-2016 13:03:02
 :pig4:
ตังตารออ่าน :L2:
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 14-01-2016 19:02:42
เปิดมาน่าสนใจดีค่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 14-01-2016 23:15:07
อ่านชื่อเรื่องตอนแรกคิดว่าจะเป็นแนวลึกลับ เสือสมิง ๕๕๕ แต่ไม่ใช่
  รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ จะเป็นไงต่อไป จะจีบคานินยังไง แค่คิดก็ลุ้นละคับ
หัวข้อ: Re: ▼ ▼ 'คานิน' เขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ บทนำ ▦14.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 14-01-2016 23:27:41
จะรอติดตาม และเป็นกำลังใจให้นะคะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ▦ 15.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 15-01-2016 09:20:50
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก


(http://bit.ly/1RX8ogL)


ผมนั่งจิบกาแฟไปพร้อมกับคอยมองดูคานินที่กำลังบริการลูกค้าที่เคาน์เตอร์ไปด้วยอย่างเพลินๆ ผู้ชายคนนี้ไม่หล่อมากหรอก ผิวไม่คล้ำแต่ไม่ขาว เวลายิ้มเห็นเขี้ยวแลดูน่ารัก ท่าทางที่คล่องแคล่วว่องไวและท่าทียิ้มแย้มแจ่มใสทำให้ผมเผลอคอยมองจนลืมตัว หัวใจผมแทบละลายทุกครั้งที่เจ้าตัวยิ้มแล้วเห็นเขี้ยวเสน่ห์

ความจริงชอบคนน่ารักคงไม่แปลกหรอก แต่มันแปลกที่คนน่ารักที่ผมแอบมองเป็นผู้ชายนี่แหละ ผมไม่เคยมีประวัติชอบผู้ชายมาก่อนเลย ไม่เคยอยู่ในความคิดแม้แต่เสี้ยววินาทีเดียวด้วยซ้ำ แต่จู่ๆ ดันมาหลงเสน่ห์ผู้ชายมีเขี้ยวซะแล้ว ถ้าเกิดเพื่อนๆ ผมรู้เข้าคงหัวเราะขบขันกันน่าดูเลย จะไม่น่าขำได้ยังไง เพราะสาวเขี้ยวเสน่ห์ในฝันของผมกลายเป็นขั้วตรงข้ามไปซะแล้ว ภาพสาวน้อยคนนั้นเมื่อหลายปีก่อนแทบจะหายไปจากภาพในความทรงจำของผมเลยก็ว่าได้ เหลือแต่เขี้ยวเสน่ห์ของนายคานินที่ผมเห็นอยู่ไม่ไกลนี่แหละที่เข้ามาแทนที่ได้เกือบสนิท

ผมละสายตาจากคานินแล้วใช้มีดตัดชิ้นขนมปังให้เป็นชิ้นขนาดพอดีคำแล้วส่งเข้าปาก กินไปสองสามคำจึงหันไปมองหาคานินอีก แต่คราวนี้เจ้าตัวไม่อยู่ที่เคาน์เตอร์แล้ว มีคนอื่นมาอยู่แทน

ผมชะเง้อหาสักพักจึงเลิกสนใจ หันกลับมากินกาแฟและขนมปังสไตล์ฝรั่งเศสของโปรดของผมต่อ สักครู่ใหญ่ๆ ผมได้ยินเสียงเอะอะโวยวายจากโต๊ะข้างๆ คล้ายเสียงผู้หญิงที่คงไม่พอใจอะไรสักอย่าง

"ตาบอดหรือไง ก็เห็นอยู่ว่านั่งอยู่ตรงนี้ นี่ถุงใส่ขยะนะคะ ให้โดนตัวลูกค้าได้ยังไง ยี้"

"ผมขอโทษครับ"

"ฉันไม่รับคำขอโทษจากคนไร้การศึกษาแล้วก็ทำงานต่ำๆ อย่างงี้หรอก ผู้จัดการอยู่ไหน ถ้าไม่อยากเดือดร้อน ไปเรียกผู้จัดการออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้เลย"

เสียงด่าดังลั่นไปทั่วร้าน ใครๆ ต่างหันมามองเป็นตาเดียวกัน แม้กระทั่งผมยังอดอยากรู้ไม่ได้ พอหันไปดูจึงเห็นคานินหน้าซีดเหลือแค่สองนิ้ว ยืนถือถุงคล้ายถุงขยะอยู่ น่าจะกำลังเอาไปทิ้งพอดี

"ไปเรียกผู้จัดการมาสิยะ ยืนเซ่ออะไรอยู่ล่ะ"

เสียงตวาดแหวทำให้หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมหน้าซีดด้วยความกลัวจนดูน่าสงสาร ตั้งแต่ผมมากินกาแฟที่ร้านนี้หลายปี ครั้งนี้เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ผมเห็นเหตุการณ์อย่างนี้เกิดขึ้น ไม่น่าเชื่อว่าคนแต่งตัวดีและดูมีการศึกษากล้าด่าคนอื่นเสียๆ หายๆ ในที่สาธารณะด้วย

"ครับๆ เดี๋ยวผมไปเรียกผู้จัดการให้ครับ"

ก่อนคานินจะเดินเข้าไปตามผู้จัดการในร้านออกมาคุยกับผู้หญิงวัยกลางคนสองคนที่กำลังโวยวายอยู่ สายตาของเราบังเอิญมาเจอกัน แม้เป็นเพียงเวลาสั้นๆ แต่ผมทันได้เห็นแววตาที่น่าสงสารนั้น ผมยิ้มอ่อนโยนให้คานินอย่างเห็นใจ เจ้าตัวคงอายมากที่ถูกใครไม่รู้ด่าทอในที่สาธารณะเสียๆ หายๆ

ไม่นานผู้จัดการของร้านจึงเดินออกมาพบกับผู้หญิงสองคนนั้นด้วยสีหน้ายุ่งยากใจ

"อบรมพนักงานยังไงคะ ไม่มีมารยาท ไม่เป็นมืออาชีพเลย พวกเรานั่งทนโท่อยู่แท้ๆ ทำไมไม่รู้จักระวัง นั่นมันถุงขยะนะคะ ไม่ควรจะให้มาโดนตัวลูกค้า"

หญิงวัยกลางคนคนนั้นไม่มีทีท่าว่าจะลดราวาศอกง่ายๆ ผู้จัดการหนุ่มจึงโดนด่าหน้าซีดไปด้วยอีกคน

"ทางเราต้องขอโทษจริงๆ ครับ พอดีน้องเขาเพิ่งมาใหม่"

"แล้วทางร้านไม่ได้อบรมพนักงานก่อนเหรอคะ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ไม่น่าพลาดนะคะ ถ้าบริการแย่อย่างงี้ ต่อไปคงไม่มากินที่นี่อีกแล้วค่ะ..."

หญิงสองคนนั้นช่วยกันรุมด่าผู้จัดการหนุ่มอีกชุดใหญ่ ก่อนจะลุกออกไปจากร้านอย่างไม่สบอารมณ์ ไม่นานร้านจึงกลับเข้าสู่ภาวะปกติ แต่ผมไม่เห็นคานินแล้ว คงโดนผู้จัดการเทศนาอีกรอบแน่ๆ

คิดแล้วผมอดสงสารไม่ได้ ไม่รู้ว่าจะร้ายแรงถึงขั้นให้ออกหรือจะมีผลต่อการผ่านโปรหรือเปล่า แต่จะว่าไป...ผมจะไปห่วงชีวิตคนแปลกหน้าที่ผมไม่รู้จักทำไม เป็นใครยังไม่รู้ด้วยซ้ำ แต่ทำไมผมยังคิดถึงแววตาเศร้าๆ ของคานินเมื่อกี้อีกหนอ ป่านนี้คงขวัญกระเจิงไปแล้ว หวังว่าจะยังอยู่ให้ผมเห็นหน้าต่อไปนะคานิน เข้มแข็งเข้าไว้ เดี๋ยวมันก็ผ่านไป

(http://bit.ly/1S1zfGS)

ดื่มกาแฟเสร็จแล้วผมจึงเดินกลับมาที่คอนโด ใช้เวลาไม่ถึงห้านาทีเพราะคอนโดอยู่ใกล้ๆ ผมแค่เดินออกไปปากซอยนิดเดียวก็จะถึงร้านกาแฟร้านโปรด

พอเข้ามาในตัวอาคารได้แล้ว ในหัวของผมยังอดคิดถึงหนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ผู้น่าสงสารไม่ได้ ถ้าผมโดนแบบคานินบ้างคงอับอายจนแทบแทรกแผ่นดินหนี เผลอๆ วันรุ่งขึ้นผมคงยื่นใบลาออกไปแล้ว ผู้หญิงสองคนนั้นก็เหลือเกิน

ผมไม่ได้เข้าห้องพักแต่ขึ้นไปยังลานจอดรถ ไม่นานจึงขับรถบีเอ็มดับเบิ้ลยูสีขาวคันโปรดออกไป เวลามีเรื่องไม่สบายใจหรือต้องการคนปรึกษา ผมมักไปหาเพื่อนสนิทคนหนึ่งของผมบ่อยๆ ไม่รู้ว่าอยู่ที่คอนโดหรือเปล่า แต่ผมชอบไปหาโดยบอกล่วงหน้าไม่เกินครึ่งชั่วโมงเป็นประจำ แต่เพื่อนผมคนนี้ไม่เคยว่าอะไร แถมยังอนุญาตให้ผมไปนอนกลิ้งที่ห้องมันได้เป็นวันๆ อีกด้วย

พอมาถึงห้องเพื่อน ผมทิ้งตัวลงนอนบนโซฟาในห้องมันอย่างคุ้นเคย หยิบหมอนมากอดเล่นด้วย เพื่อนผมเดินตามลงมานั่งแล้วยิ้มเอ็นดู คงขำที่ผมทำยังกะเป็นห้องของตัวเองยังไงยังงั้น

"ดีนะมึงที่วันนี้กูไม่มีธุระไปไหน"

"ปกติกูมาหามึงแบบนี้บ่อยๆ นี่หว่า เห็นมึงอยู่ทุกที"

"แล้ววันนี้มึงไม่ทำอะไรเหรอ"

"ไม่อ่ะ พอดีกูมีเรื่องอยากจะปรึกษามึงหน่อยว่ะไอ้ภู"

เพื่อนผมชื่อภูริช มีชื่อเล่นเหมือนกันแต่ผมไม่ชอบเรียก ชอบเรียกว่าภูมากกว่า

"อะไรวะ อย่าบอกนะว่าเรื่องสาวมีเขี้ยวอีก กูเห็นมึงคลั่งมาตั้งแต่มอสามแล้ว ไม่เห็นเจอซักกะคน กูว่าดวงมึงคงไม่เหมาะกับคนมีเขี้ยวหรอกเป็ง หาแฟนธรรมดาๆ ได้แล้ว จะรอให้เหงาไปทำไมวะ" เพื่อนผมพูดอย่างรู้ทัน

"กูคิดว่ากูเจอแล้ว" ผมบอกพลางดีดตัวลุกขึ้นนั่ง ภูริชทำหน้าตกใจใหญ่เลย

"จริงเหรอวะ!"

ผมพยักหน้าแต่กลับทำสีหน้าคล้ายยุ่งยากใจ "อืม...กูก็คิดว่างั้น"

"อ้าว แล้วทำไมมึงทำหน้างั้น ไม่ดีใจเหรอวะที่เจอซะที กูเห็นมึงตามหามาเป็นสิบปีแล้วนะเว้ย"

"ไอ้ดีใจก็ดีใจอยู่หรอก แต่...กูไม่รู้ว่าจะบอกมึงว่ายังไงว่ะ"

"ทำไมวะ เค้ามีเขี้ยวแต่ว่าฟันหรอเหรอ" ภูริชพูดแล้วหัวเราะตลก

"เปล่า ไม่ใช่อย่างงั้น เอางี้ กูถามอะไรมึงหน่อย" ผมหยุดเว้นจังหวะเพราะไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไง

"มึง...รู้จักกูมานานแล้วใช่มั้ยวะไอ้ภู"

"อื้อ" ภูริชพยักหน้าแล้วเอียงคอมองอย่างสงสัย

"แล้วมึงเคยเห็นกู....ยังไงดีล่ะ"

ผมพยามนึกหาวิธีสื่อสาร แต่กลับรู้สึกประหม่ากว่าเดิมเพราะกลัวเพื่อนตกใจ แต่ไหนๆ ถ่อสังขารมาถึงนี้แล้วคงไม่ยอมให้เสียค่าน้ำมันรถเปล่าๆ

"เอางี้ เวลามึงอยู่กับกู มึงเคยรู้สึกว่ากูแปลกๆ มั้ย"

ภูริชขมวดคิ้วมุ่น "มึงหมายถึงอะไรวะไอ้เป็ง กูไม่เห็นว่ามึงจะแปลกตรงไหนนี่หว่า"

"เหรอ ไม่แปลกเลยเหรอ"

ภูริชส่ายหน้า แต่ผมยังไม่เชื่ออยู่ดี

"เอางี้...แม่งพูดยากจริงๆ ว่ะ มึงเคยเห็นกูมีอะไรบางอย่างที่...ที่...เอ่อ...ที่ไม่เหมือนผู้ชายมั้ยวะ" ผมกลั้นใจถามออกไปจนได้ คนถูกถามถึงกับสะดุ้งโหยง หน้าเหวอยังกับโดนผีหลอก

"เฮ้ย ทำไมมึงถามกูอย่างงี้วะไอ้เป็ง!"

"มึงตอบมาก่อนสิวะ" ผมนิ่วหน้าแล้ววางหมอนลงไปข้างๆ ตัว

"ก็ไม่นี่หว่า มึงดูเหมือนผู้ชายปกตินั่นแหละ"

"จริงเหรอ"

"เออ" ภูริชยืนยัน

ผมถอนหายใจแล้วทำหน้าเครียด คิดไปคิดมาคงต้องเล่าให้เพื่อนรักฟังไปตรงๆ แล้วล่ะ

"ไม่ใช่อะไรหรอก ที่กูถามมึงอย่างงี้เพราะว่า...กูจะบอกมึงคนเดียวนะเว้ย มึงอย่าไปบอกใครล่ะ มึงน่ะ...เป็นเพื่อนที่กูไว้ใจมากรู้เปล่า ไม่งั้นกูไม่มาปรึกษามึงเรื่องนี้หรอก"

"เออๆ กูไม่เคยหักหลังมึงอยู่แล้วนี่หว่าไอ้เป็ง ว่าแต่มันเรื่องอะไรวะ ทำไมมึงดูเครียดๆ"

"จะไม่ให้กูเครียดได้ไงล่ะ วันนี้...กูไปกินกาแฟที่ร้านหน้าปากซอยแถวบ้านกูมา แล้วเจอพนักงานใหม่"

"เป็นสาวมีเขี้ยวเหรอ!" ภูริชถามอย่างตื่นเต้น

"เปล่า"

"อ้าว!"

ผมทำท่าลังเลใจ พอจะบอกไปตรงๆ กลับกลัวว่าเพื่อนจะไม่เข้าใจ

"ถ้าไม่ใช่สาว...ก็ต้องเป็นผู้ชายสิ"

ผมถึงกับหน้าเหวอเมื่อภูริชเดาถูก แต่สดท้ายจึงพยักหน้ายอมรับอย่างอายๆ

"ผู้ชายมีเขี้ยวเหรอ" ภูริชถามทวนให้แน่ใจ

ผมพยักหน้ายืนยันอีกรอบ จะว่าไปก็อายเหมือนกันที่เพื่อนรักรู้เรื่องนี้

"กูว่า...กูน่าจะชอบพนักงานที่มาใหม่คนนี้เข้าให้แล้วว่ะ"

"มึงชอบผู้ชายเหรอ!" ภูริชพูดเสียงดังแถมยังทำตาค้างอีก

"เฮ้ย...แล้วมึงจะพูดเสียงดังทำหอกอะไรวะ" ผมว่าเพื่อนอย่างไม่จริงจังนัก

"ไอ้เป็ง มึงแน่ใจนะเว้ย" ภูริชทำหน้าแหย

"กูไม่รู้ว่ะ แต่กูเห็นเค้าแล้วกูใจสั่น ตอนต่อคิวซื้อกาแฟนะมึง เค้าถามกูว่ากูจะเอาอะไรกูก็ไม่ได้ยิน จนคนที่ยืนต่อคิวข้างหลังต้องเอามือมาสะกิดกูเลย กูตกตะลึงตาค้างขนาดนั้น มึงจะให้กูคิดว่าไงวะ แถมตอนกูไปนั่งกินกาแฟ กูยังคอยมองเขาอีก"

"จริงเหรอวะไอ้เป็ง มึงเป็นขนาดนั้นเลยเหรอ" ภูริชทำหน้าไม่เชื่อ

"เออสิวะ กูจะโกหกมึงไปเพื่ออะไรล่ะ"

ผมทำหน้าเศร้า มองหน้าเพื่อนที่ยังคงอึ้งอย่างประหม่า ก่อนจะตัดสินใจถามอีก

"ไอ้ภู มึงรับได้หรือเปล่าวะถ้ากู...ชอบผู้ชายขึ้นมาจริงๆ แต่ไม่ใช่มึงนะเว้ย"

ผมรีบออกตัวก่อนเพราะกลัวภูริชระแวงผม คราวนี้เพื่อนรักผมคิดหนัก แต่สักพักกลับยิ้มเม้มปาก

"ไอ้รับได้น่ะมันรับได้อยู่แล้ว มึงไม่ได้ชอบกูนี่หว่า"

"รับได้ง่ายๆ อย่างงี้เลยเหรอ" ผมเลิกคิ้ว

ภูริชพยักหน้า "เออ แล้วทำไมกูต้องคิดมากด้วยล่ะ กูไม่ได้ชอบผู้ชายนี่"

"ไอ้เวร" ผมว่าเพื่อนไม่จริงจังนักแล้วจึงพูดต่อ "กูไม่เคยชอบผู้ชายมาก่อนเลยนะเว้ย"

"อืม...กูรู้ แล้วมึงจะจีบเค้าเหรอวะ"

"ไม่รู้ว่ะ สงสัยจะอย่างงั้นแหละ เนี่ย...หน้าเขายังลอยไปลอยมาในหัวกูอยู่เลย"

"แล้วมึงจีบผู้ชายเป็นเหรอวะ"

ผมอึ้งไปทันที ก่อนจะส่ายหน้าเดียะ "หึ! ไม่เป็น ผู้หญิงกูยังไม่เคยจีบเลย จะจีบผู้ชายได้ไงวะ"

"มึงอย่าบอกนะว่าที่มึงมาหากูวันนี้เพราะว่ามึงจะปรึกษากูเรื่องจีบผู้ชาย"

ภูริชถามอย่างรู้ทัน ผมจึงพยักหน้ายอมรับอย่างอายๆ "เออ"

"ไอ้บ้า กูเคยจีบผู้ชายที่ไหนล่ะ จีบไม่เป็นเว้ย"

"แล้วมึงรู้จักใครที่จีบผู้ชายเป็นมั่งมั้ยวะ"

ภูริชครุ่นคิด สักพักจึงนึกออก "กูมีเพื่อนเกย์อยู่สองสามคน เท่าที่ยอมเปิดเผย ส่วนที่ยังไม่เปิดเผยนี่กูไม่รู้"

ผมสะดุ้งนิดหน่อยเพราะกลัวตัวเองจะเป็นหนึ่งในเพื่อนที่ "ยังไม่เปิดเผย"

"งั้นดีเลย" ผมบอกอย่างตื่นเต้น "มึงช่วยนัดให้กูหน่อยดิ กูอยากปรึกษาเพื่อนมึงเรื่องนี้"

"วันนี้เหรอ" ภูริชคงอึ้งไปเหมือนกันที่ผมใจร้อนขนาดนี้

"เออ วันนี้เลย เดี๋ยวกูพาไปเลี้ยงข้าวเย็นก็ได้ กูเป็นเจ้ามือเอง อยากจีบน้องเขาจะแย่อยู่แล้วนานๆ กูจะเจอคนถูกใจซะที ช่วยกูหน่อยละกันเพื่อน มึงไม่อยากเห็นกูมีแฟนเหรอ"

"เป็นเอามากนะมึง เออๆ เดี่ยวกูลองโทรนัดดูก่อนนะเว้ย ถ้าไม่ได้วันนี้เป็นวันอื่นได้มั้ยวะ"

"เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้" ผมบอกเสียงหนักแน่น

ภูริชหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วโทรหาเพื่อนที่ว่า คุยกันอยู่สักพักจึงวางสายไปแล้วหันมายิ้มกว้างให้ผม

"มันว่างเย็นนี้พอดีเลย มึงจะไปร้านไหน เดี๋ยวกูจะได้โทรไปบอกมันอีกที"

"สุดยอดเลยเพื่อน" ผมตะโกนออกมาด้วยอาการตื่นเต้น แทบจะกระโดดกอดเพื่อนเลย

"เว่อร์แล้วมึง จะดีใจอะไรขนาดนั้นวะไอ้เป็ง มึงอยากจีบผู้ชายขนาดนั้นเลยเหรอ"

ผมหัวเราะแหะๆ อย่างอายๆ ไม่คิดว่าตัวเองจะลืมตัวได้ขนาดนี้ "เออ นั่นสิ"

ดูท่าผมจะกู่ไม่กลับซะแล้ว ไม่เคยเป็นเอามากถึงขนาดนี้เลย กระนั้น ผมยังสงสัยตัวเองนิดหน่อย ระหว่างสาวมีเขี้ยวกับหนุ่มมีเขี้ยว ใครจะทำให้ผมใจเต้นรัวได้มากกว่ากัน!?

(http://bit.ly/1mD2rHH)

ผมคุยปรึกษากับเพื่อนของภูริชจนถึงสามทุ่ม ได้คำแนะนำดีๆ มาเยอะเลย คุยเพลินจนห้างปิด กลับมาถึงคอนโดเกือบๆ สี่ทุ่ม ปรากฎว่าฝนเทกระหน่ำลงมาอย่างไม่ลืมหูลืมตาทันที่ที่เข้ามาในซอย เดี๋ยวนี้ฤดูกาลในบ้านเราชักเพี้ยนไปกันใหญ่ ช่วงนี้ควรเป็นหน้าหนาวแท้ๆ แต่ดันมีฝนตกยังกับพายุเข้า

พอลงจากรถและกำลังจะขึ้นไปบนห้องตามความเคยชิน ผมพลันนึกถึงคานินขึ้นมาโดยไม่รู้สาเหตุ ว่าแล้วจึงหยิบร่มในรถติดมือมาด้วย ก่อนจะลงลิฟต์มาที่ชั้นล่าง จากนั้นจึงกางร่มเดินออกไปปากซอย

ไม่นานนักจึงมาถึงร้านกาแฟชื่อดังที่ผมชอบมากินบ่อยๆ ร้านคงปิดไปตั้งแต่สองทุ่มแล้ว แต่กว่าพนักงานจะเคลียร์ทุกอย่างและทำความสะอาดเสร็จคงดึกกว่านั้น

ฝนลดลงบ้างแต่ยังตกหนักพอสมควร พื้นทางเท้าเปียกฝนสะท้อนแสงไฟหลากสีเป็นประกายระยิบระยับ คนสัญจรบนทางเท้าบางตาลงไปมาก ต่างคนต่างรีบเร่งหรือไม่ก็หาที่หลบซ่อนฝนเท่าที่จะพอหาได้ ทุลักทุเลกันหน่อยเพราะส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมร่มมา คงเป็นเพราะไม่คาดคิดมาก่อนว่าฝนจะตกคืนนี้

ผมสอดส่ายสายตามองหาคนที่อยากเจอแต่ไม่เห็น ไฟในร้านปิดสนิท คนในร้านน่าจะกลับบ้านหมดแล้ว พอรู้ว่าไม่มีหวัง ผมจึงตัดสินใจเดินกลับ แต่สายตาพลันเหลือบไปเห็นเงาดำๆ ของใครสักคนไม่ไกลนัก

ผมเพ่งดูเงาตะคุ่มๆ ที่ยืนหลบฝนอยู่ใต้ร่มสีเขียวๆ สำหรับบังแดดให้ลูกค้าที่ชอบนั่งกินกาแฟด้านนอก พอรู้ว่าใช่คนที่ผมกำลังมองหาจึงยิ้มดีใจ ก่อนจะรีบเดินเข้าไปหาพร้อมกับร้องเรียก

"คานิน ยังไม่กลับบ้านอีกเหรอ"

คนถูกเรียกหันมามองผมแล้วทำหน้าแปลกใจ ก่อนจะยิ้มบางๆ ให้ด้วยท่าทางประหม่าไม่รู้ว่าเป็นเพราะเห็นผมเป็นลูกค้ามีระดับหรือเปล่า

"รอฝนหยุดอยู่ครับ พอดีผมไม่ได้เอาร่มมา ไม่คิดว่าฝนจะตกคืนนี้"

"อ้อ แล้วจะไปที่ไหนล่ะ ให้ผมเดินไปส่งเอามั้ย ผมมีร่ม" ผมอาสา

เห็นหน้าเศร้าๆ แล้วนึกถึงเหตุการณ์ตอนสายๆ ผมนึกอยากปลอบใจคนตรงหน้าขึ้นมาทั้งๆ ที่ไม่รู้จักกันเลยด้วยซ้ำ

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวฝนก็หยุดแล้ว"

"ไม่ต้องเกรงใจหรอก แล้วปกติกลับยังไงล่ะ" ผมถามเสียงดังแข่งกับเสียงฝนตก

คานินยังคงดูประหม่า ปกติคนที่มากินกาแฟที่ร้านในซอยนี้มักมีฐานะหรือได้เงินเดือนสูง ต่างจากพนักงานในร้านที่เป็นเพียงคนธรรมดา จึงไม่แปลกที่คานินจะมีระยะห่างกับผม

"รถเมล์ครับ" คานินตอบในที่สุด

"ถ้างั้นเดี๋ยวผมเดินไปส่งที่ป้ายรถเมล์ละกัน"

"ไม่เป็นไรหรอกครับคุณเป็ง"

ผมอดยิ้มดีใจไม่ได้ที่คานินจำชื่อผมได้อยู่ แสดงว่าคงมีบางอย่างสำคัญจนให้คานินจำผมได้

"มาๆๆ ไม่ต้องเกรงใจหรอก ดึกแล้ว คานินจะได้กลับบ้านไปพักผ่อน พรุ่งนี้ต้องมาทำงานอีก"

เมื่อผมยืนยันเป็นมั่นเหมาะ คานินจึงพยักหน้าตกลง แม้จะดูเกรงใจอยู่ก็ตามที

พอร่างของคนตรงหน้าเดินเข้ามาอยู่ในร่มเดียวกันกับผม หัวใจของผมพลันเต้นสั่นหวั่นไหวใครเห็นหน้าและรอยยิ้มของผมตอนนี้คงเดาได้ไม่ยากว่ากำลังคิดอะไรกับคนข้างๆ

ในระหว่างที่เดินไปที่ป้ายรถเมล์ที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่ร้อยเมตร ผมจึงชวนคานินคุยไปด้วย

"แล้วเพื่อนๆ คนอื่นๆ ล่ะ กลับกันหมดแล้วเหรอ ทำไมเหลือคานินคนเดียวล่ะ"

"กลับกันหมดแล้วครับ"

"อ้าว แล้วทำไมคานินกลับช้ากว่าคนอื่นล่ะ"

คานินแค่นหัวเราะเบาๆ "เรื่องเมื่อตอนสายนั่นแหละครับ ผมโดนลงโทษให้เอาขยะไปทิ้งคนเดียวทั้งวัน เลยได้กลับเป็นคนสุดท้าย"

ผมหยุดเดินแล้วมองหน้าคานินด้วยความเห็นใจ แม้ว่าผมไม่เคยลำบากถึงขนาดนั้น แต่เหตุการณ์เมื่อตอนสายทำให้ผมพอเข้าใจชีวิตของคนที่โอกาสน้อยกว่าว่าลำบากแค่ไหน ไม่ใช่ลำบากเพราะทำงานหนักอย่างเดียว แต่ยังโดนคนที่ไม่มีความคิดดูถูกเอาอีกด้วย

"ผู้หญิงสองคนนั้นแย่นะ เรื่องเล็กแค่นี้ไม่เห็นต้องทำเป็นเรื่องใหญ่เลย แล้วผู้จัดการโกรธมากหรือเปล่า"

คานินยิ้มเศร้าๆ ก่อนจะแค่นหัวเราะอีก "ก็โมโหพอสมควรครับ ไม่รู้ว่าผมจะผ่านโปรหรือเปล่า"

"สู้ๆ นะคานิน"

ผมยิ้มให้กำลังใจ ยังไม่สนิทกันมากพอจึงไม่รู้จะให้กำลังใจมากกว่านี้ได้ยังไง คานินพยักหน้าแล้วยิ้มตอบกลับมา เผยให้เห็นเขี้ยวเสน่ห์ที่ทำเอาผมใจสั่นจนแทบลืมหายใจ

"แล้วมาทำงานที่นี่นานหรือยัง น่าจะไม่นานนะ เพราะผมมากินที่นี่บ่อยๆ เพิ่งเห็นวันนี้เอง"

ผมสาวเท้าเดินสบายๆ ไม่รีบมาก ถ่วงเวลาให้นานที่สุดเท่าที่จะพอทำได้

"อาทิตย์เดียวครับ ผมอยากเป็นบาริสต้าเลยลองมาสมัคดู พอทำจริงไม่ได้เป็นแค่บาริสต้าอย่างเดียวหรอก บางทีต้องช่วยทำอย่างอื่นด้วย อย่างเช่น เอาถุงขยะไปทิ้งนี่แหละ"

ผมพยักหน้ารับรู้

"แล้วคุณเป็งล่ะ อยู่แถวๆ นี้เหรอครับ" คานินเป็นฝ่ายถามผมกลับบ้าง

"ครับ คอนโดผมอยู่ในซอยนี่เอง เดินไปไม่ถึงห้านาทีก็ถึงแล้ว"

"โห...คอนโดแถวๆ นี้เหรอครับ ผมได้ยินมาว่าราคาเป็นสิบๆ ล้านเลย" คานินทำตาโต

ผมพยักหน้าแล้วขำเบาๆ "อย่าไปสนใจเรื่องนั้นเลย แล้วคานินล่ะ พักอยู่ที่ไหน"

"อพาร์ทเมนต์แถวๆ ลาดพร้าวครับ แต่...ค่าเช่าไม่กี่พันหรอก"

"รถไฟฟ้าใต้ดินไปถึงไหม ทำไมไม่ใช้รถไฟฟ้ามาทำงานล่ะ ไวกว่าด้วย"

"มันแพงครับ"

พอได้ยินอย่างนั้นผมจึงชะงักไปเล็กน้อย

"อ้อ" คงแพงสำหรับคนรายได้ประมาณนี้ แต่สำหรับผมถือว่าถูกมากๆ ใช้บ่อยกว่ารถยนต์ด้วยซ้ำ

พอเดินมาถึงป้ายรถเมล์แล้ว รถเมล์สายที่คานินต้องการมาถึงพอดีราวกับนัดไว้ล่วงหน้า

"เอาร่มไปด้วยนะคานิน"

"ไม่เป็นไรครับคุณเป็ง" คานินหันมาบอกอย่างเกรงใจ

ผมจับมือคานินมาแล้วยัดร่มสีขาวใส่มือให้ ก่อนจะเดินแกมวิ่งออกมาและหันไปโบกมือให้

"เอาไว้มาคืนวันหลังนะ แล้วเจอกันนะคานิน" ผมตะโกนบอก ไม่ถึงกับดังมาก แค่พอให้ได้ยิน

คานินยืนมองผมอย่างงงๆ แต่ไม่มีเวลาให้คิดนานจึงต้องรีบก้าวขาขึ้นรถเมล์ก่อนมันจะวิ่งออกไป ไม่อย่างนั้นคงต้องรออีกนานกว่าจะได้กลับบ้าน

ผมหยุดยืนมองคานินที่อยู่ในรถเมล์ที่กำลังวิ่งออกไปอย่างช้าๆ หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์หันมาเจอผมพอดียิ้มเขินๆ นั้นทำให้ผมเผลอยิ้มตามอย่างลืมตัว เราโบกมือให้กันเป็นเวลาสั้นๆเพียงครู่เดียวรถเมล์คันนั้นจึงหายลับตาไปกับสายฝน

ฝากร่มสื่อรักเอาไว้ก่อนนะคานิน แล้ววันหลังจะกลับมาเอาคืน!

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼▼ เขี้ยวเสน่ห์เล่ห์รัก ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ▦ 15.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 15-01-2016 10:49:26
ชอบๆ คานินไม่เบาแห่ะ ไหนบอกเพื่อนว่าจีบใครไม่เป็นไง ๕๕๕ นี่แค่เริ่มต้นนะ ทำเอาผมอ่านไปยิ้มไปเลย
     
         ตอนใหม่มาเร็วๆนะคับ
หัวข้อ: Re: ▼▼ เขี้ยวเสน่ห์เล่ห์รัก ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ▦ 15.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-01-2016 11:01:37
กะให้คานินมาคืนร่มให้ทีหลังซินะแล้วค่อยสานต่อน่ะ ดีค่ะค่อยเป็นค่อยไปเดี๋ยวไก่ตื่นแล้วหนีจะแย่ค่ะ

เรายังไม่รู้เลยว่าคานินชอบผู้ชายด้วยหรือเปล่านี่
หัวข้อ: Re: ▼▼ เขี้ยวเสน่ห์เล่ห์รัก ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ▦ 15.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 15-01-2016 11:38:35
ฝากร่มแล้ววันหลังก็จะมาเอาคืนใช่ไหมคุณเป็ง? ร้ายกาจจจจจ 55555555  o13
หัวข้อ: ▼▼ คานินเขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦ 15.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 15-01-2016 19:50:49
น่ารักจังเลย ชอบ ชอบ เขาจีบกันน่ารักไม่หวานหวือหวา แต่นี้แอบหยอดๆ
ชอบตรงมุขฝากร่มนี่แหละ  ฝากร่มสื่อรัก เขินอ่านไปเขินไป  :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ▼▼ คานินเขี้ยวมหาเสน ☂ My First Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦ 15.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 15-01-2016 23:37:37
ฝากร่มนี่ถือว่าจีบได้มั้ยครับ  คุณเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼▼ คานินเขี้ยวมหาเสน ☂ My First Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦ 15.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: nevergoodbye ที่ 16-01-2016 00:06:48
ค่อยเป็นค่อยไปเนอะ
หัวข้อ: Re: ▼▼ คานินเขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My First Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 16-01-2016 00:53:34
 :impress3: น่ารักดีจ้ะ นาน ๆ จะเจอรักในวัยทำงานบ้างน่ะ มันดูได้อารมณ์ร่วมสมัยมาก ๆ ท่าทางคานินจะลำบากน่ะเนี่ย  :เฮ้อ: ยายผู้หญิงสองคนนั้นก้อเยอะ แต่ก้อมีคนประเภทนี้ในสังคมเยอะน่ะ พวกคนมีฐานะทำอะไรก้อต้องรู้สึกว่าตัวเองมีสิทธิพิเศษเสมอน่ะ ไม่เห็นใจคนทำงานบ้างเลยน่ะ  :katai1: คานินคงต้องสะดุดกับเป็งบ้างแหละ แต่ชื่อพระเอกแปลก ๆ ดีน่ะ มันมาจากคำอะไรเรอะ  :o8:
เป็งเอาจริงแฮะ ลงทุนไปถามวิธีจีบจากเกย์เลยแฮะ  :mew4: รอตอนต่อไป เรื่องราวดูกระฉับดี ชอบจ้ะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ▼▼ คานินเขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My First Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Rabity ที่ 16-01-2016 05:33:30
ชอบๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาต่อเร็วๆน้าาา
หัวข้อ: Re: ▼▼ คานินเขี้ยวมหาเสน่ห์ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 16-01-2016 15:07:56
ได้โอกาสนี่ รุกเลยนะคะ
เป็นกำลังใจให้คุณเป็งจีบหนุ่มมีเขี้ยวค่าาา
 :mew3:
หัวข้อ: Re: ▼▼ เสน่ห์เขี้ยวคานิน ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 16-01-2016 15:59:02
น่ารักจัง ชอบๆๆๆ รีบจีบหนุ่มมีเขี้ยวไวๆนะคุณเป็ง  :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ▼▼ เสน่ห์เขี้ยวคานิน ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 16-01-2016 16:30:07
 :mc4: เจิมเรื่องใหม่
หัวข้อ: Re: ▼▼ เสน่ห์เขี้ยวคานิน ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Kaemmiizz ที่ 16-01-2016 16:59:20
จีบให้ติดไวๆนะเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼▼ เสน่ห์เขี้ยวคานิน ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 16-01-2016 22:37:23
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 17-01-2016 13:18:34
นี่ขนาดจีบไม่เป็นนะอิตาเป็ง อิอิ
มีการฝากร่มไว้ด้วยแหะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: p_phai ที่ 17-01-2016 13:28:28
 :hao3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: B52 ที่ 17-01-2016 13:47:40
ค่อยๆรุกเนอะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 17-01-2016 14:20:38
ตอนแรกเห็นชื่อเรื่องนึกว่าเป็นพวกแนวแฟนตาซี ดีนะกดเข้ามาอ่านบทนำก่อน 555+


จีบน่ารักดีอ่ะ
มุขฝากร่มนี่แบบว่าคลาสสิคดี
ฝากร่มไว้แบบนี้ยังไงก็ได้เจอกันอีกแน่ๆ อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 17-01-2016 15:04:18
เราก็มีเขี้ยวนะ ทำไมไม่เจอกับพระเอกเลย5555555555

นายเอกดูน่าสงสารจัง สู้ๆนะลูกนะ :mew2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: boonpa ที่ 17-01-2016 17:40:04
 :hao3: เปลี่ยนจากสาวมาเป็นหนุ่ม รุกจีบเร็วเหมือนกันนะเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 17-01-2016 20:35:17
เพ้อหนักถึงขนาดต้องหาที่ปรึกษาเพื่อจีบผู้ชายกันเลยทีเดียว เหอๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 18-01-2016 01:42:26
ขอให้สมหวังนะ ^^
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 18-01-2016 02:24:31
 :L2: :pig4:

เราก็เป็นเหมือนคุณเป็งนะ ไม่ว่าจะร้านอาหาร หรือร้านกาแฟ เราจะใช้เวลาอ่านเมนูทุกครั้ง ...แต่ก็สั่งแบบเดิมตลอด (เพี่อ?)
ปกติจะเกลียดวันฝนตก(ที่ กรุงเทพฯ) ..แต่ว่าบางทีฝนก็พาอะไรดีดีมาเหมือนกัน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 18-01-2016 08:44:06
 เป็งแกนิคิดการณ์ไกลเลยน่ะ
 เจ้าเล่ห์จริงๆ
 กลับมาใช้ไอดีนี้แล้วหรอค่ะ
 ขอบคุณนะค่ะที่ชวนอ่านเป็งน่ารักจริงๆค่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: patee ที่ 18-01-2016 08:54:48
น่ารักดีค่ะเรื่องนี้  ชอบนะ  :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 18-01-2016 17:11:26
เขียนไดน่ารักดีครับ เขียนตกอยู่หนึ่งที่ มี่ถามว่าทำงานที่นี่นานหรือยัง แต่คนเขียนเขียนว่า ทำงานนานที่นี่นานหรือยัง  ไม่คิดว่าคนแต่งจะเขียนเรื่องน่าๆได้ด้วย ดูอบอุ่นดีนะ ดูจะมีอุปสรรคตรงฐาน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 1 ฝากร่มฝากรัก ▦15.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 18-01-2016 21:30:58
น่าติดตาม
จีบเนียนแบบนี้เพื่อนเทรนมาดีหรือมันมาจากอินเนอร์กันนะพ่อพระเอก

ปล.ขอบคุณสำหรับบัตรเชิญอ่านมากครับ  :pig4:
ชื่อพระเอกผมอ่านผิดๆถูกๆ ฮ่าๆ เปลี่ยนเป็นเป็กได้ไหม
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 19-01-2016 10:28:39
คานินเหมือนไม่ชอบแต่ก็อ่อยโทรหาเขาก่อน ไปนัดเจอกับเขา คุยโทรศัพท์ไม่ตัดบทวางสาย
คิดว่าเจ้าตัวก็คงเหงาเหมือนกัน
 :katai3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 19-01-2016 13:05:01
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า


(http://bit.ly/1RX8ogL)


กว่าผมจะลากสังขารมาถึงหน้าห้องพักของตัวเองได้ก็ปาเข้าไปห้าทุ่มกว่าแล้ว ฝนตกทีไรได้กลับบ้านช้าทุกที แถวลาดพร้าวขึ้นชื่อเรื่องรถติดอยู่แล้ว พอเจอฝนเข้าหน่อยยิ่งทำให้รถติดไปกันใหญ่ กำลังไขกุญแจห้องอยู่พลันคิดถึงใครอีกคนที่อยู่ห้องข้างๆ จึงเปลี่ยนใจเดินไปเคาะประตูห้องนั้น ไม่กี่อึดใจประตูห้องจึงถูกเปิดออก หญิงสาวในชุดสำหรับใส่นอนส่งยิ้มบางๆ มาให้อย่างคุ้นเคยกันดี

"ยังไม่นอนอีกเหรอ" ผมถามพลางชำเลืองมองเข้าไปในห้อง

"ยังค่ะ แนนเพิ่งหมักหมูเสร็จ วินมันร้องงอแงด้วย เพิ่งหลับไปได้ไม่ถึงชั่วโมงเอง ไมรู้ว่าไม่สบายหรือเปล่า"

"แล้วพาลูกไปหาหมอหรือยัง"

ผมถือวิสาสะเข้ามาดูในห้อง ตรงไปยังเปลเด็กที่อยู่ข้างเตียง ก่อนจะเอามือแตะหน้าผากเด็กทารกวัยหกเดือน

"ตัวไม่ร้อนนี่" ผมบอกพลางหันมามองแม่ของเด็กที่เดินตามมาหยุดยืนใกล้ๆ กัน

"ตัวไม่ร้อนหรอก แนนเลยไม่ได้พาลูกไปหาหมอไง"

ผมหันมามองแนนแล้วพยักหน้าเข้าใจ

"แล้วพี่ไปเอาร่มใครมา ไม่เคยเห็นเลย ซื้อใหม่เหรอ" แนนถามพลางมองดูร่มสีขาวที่ผมถือติดมือมาด้วย

"เปล่าๆ ไม่ใช่ของพี่หรอก พอดีลูกค้าที่ร้านให้ยืมมาใช้"

พอพูดถึง ภาพหนุ่มตี๋หน้าทะเล้นคนนั้นจึงแวบเข้ามาในความคิด ใจดีจนผมรู้สึกว่าผิดปกติไปหน่อย

"โห...เพิ่งไปทำงานได้อาทิตย์เดียว พี่สนิทกับลูกค้าขนาดนี้เลยเหรอ"

"ไม่สนิทหรอก เพิ่งเจอกันวันนี้นี่เอง"

"เหรอ แล้วทำไมเขาให้พี่ยืมร่มล่ะ แล้วเขาเอาร่มที่ไหนใช้"

ดูเหมือนแนนสงสัยเรื่องเดียวกับผม ผู้ชายคนนั้นดูเหมือนจงใจออกมาหาผมมากกว่าบังเอิญเจอกัน แถมยังยอมเดินตากฝนกลับคอนโดอีก ป่านนี้คงเปียกมะล่อกมะแล่กหมดแล้ว ไม่รู้จะไม่สบายหรือเปล่า

"พี่ไม่รู้เหมือนกัน เจอเขาตอนที่พี่ยืนรอให้ฝนหยุดอยู่หน้าร้านนั่นแหละ พอเห็นพี่ เขาก็ให้ร่มพี่มา แล้วเขาเดินตากฝนกลับบ้านไป"

"จริงเหรอ เขาจีบพี่หรือเปล่าเนี่ย แนนว่าพี่คานินคงโดนลูกค้าคนนั้นจีบแล้ว" แนนหัวเราะชอบใจ

"เฮ้ย จะบ้าเหรอแนน เขาเป็นผู้ชายนะ จะมาจีบพี่ได้ไง"

"ผู้ชายเหรอคะ" แนนทำหน้าแปลกใจ

ผมพยักหน้า "ใช่...ผู้ชาย"

"ชายรักชายสมัยนี้มีเยอะนะพี่ ว่าแต่เขารวยหรือเปล่าล่ะ แนนว่าลูกค้าที่มากินของแพงๆ แบบนี้ได้ ต้องรวยอยู่แล้วล่ะ" แนนสรุปเองเออเอง

"คงรวยมั้ง เขามีคอนโดอยู่ในซอยนั้น คงรวยแหละ"

"งั้นพี่ก็ยอมให้เขาจีบไปเลยสิ ต่อไปพี่จะได้สบายไง ไม่ต้องทำงานหนักแบบนี้ทุกวัน" แววตาของแนนเป็นประกายเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ แต่ผมกลับสะดุ้งด้วยความตกใจ

"จะบ้าเหรอแนน" ผมแย้งอย่างตกใจ แม้จะรู้ว่าแนนหยอกเล่น "พี่เป็นผู้ชายนะ แล้วพี่ยังไม่คิดจะเปลี่ยนรสนิยมด้วย"

"ชู่ เดี๋ยววินตื่น แนนล้อเล่น" แนนจุ๊ปาก แต่ไม่วายยุอีก "สมัยนี้เขาไม่ถือกันแล้วพี่"

"ไม่เอาหรอก อย่าไปยุ่งกับคนรวยดีกว่า เรากับเขาอยู่กันคนละโลกกัน อ้อ พรุ่งนี้เวลาเดิมนะ" ผมตัดบทแล้วเปลี่ยนไปถามเรื่องอื่นแทน ไม่งั้นคงคุยเรื่องนี้ไม่จบ

"ค่ะ แต่...พี่คานินกลับดึกน่ะ พรุ่งนี้ให้แนนออกไปขายคนเดียวก็ได้ พี่จะได้นอนเต็มที่ไง"

"ไม่เป็นไรหรอกแนน พี่ชินแล้ว"

"เอางั้นเหรอ" แนนถามด้วยท่าทางเกรงใจ

ผมพยักหน้า พอนึกอะไรขึ้นมาได้จึงถาม "อ้อ แล้วมันโทรมารังควานแนนอีกหรือเปล่า"

"เพิ่งวางสายไปเมื่อกี้เอง" สีหน้าของแนนเครียดขึ้นมาทันที

"แล้วแนนจะเอายังไง พี่ไม่อยากให้แนนกลับไปหามันอีก" ผมบอกเสียงเข้ม

"แนนไม่กลับไปหาคนเลวๆ อย่างมันหรอก" แนนยืนยันหนักแน่น

"ดีแล้ว"

"แต่แนนไม่สบายใจเลย พี่คานินไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ยังอุตส่าห์มาช่วยรับผิดชอบให้ แนนเกรงใจพี่มากๆ เลย พี่เหนื่อยกับแนนเยอะแล้ว" แนนทำหน้าเศร้าและรู้สึกผิด

"อย่าคิดมากสิแนน ถ้าพี่ไม่ช่วยแนนแล้วใครจะช่วย ไม่เอาๆ อย่าพูดเรื่องนี้อีก เดี๋ยวพี่จะไปอาบน้ำนอนแล้ว พรุ่งนี้ตอนตีห้าเจอกันนะ"

แนนทำท่าเหมือนอยากพูดต่อ แต่พอผมตัดบทดื้อๆ จึงจำใจต้องหยุดการสนทนาไว้ "ค่ะ"

ผมเดินออกไปจากห้องของแนนแล้วถอนหายใจ นี่คืออีกหนึ่งปัญหาที่ทำเอาผมเครียดมาหลายเดือนแล้ว แนนหนักใจและเกรงใจผมมาก แต่ผมไม่อยากให้เธอคิดอย่างนี้เลย

พอเข้ามาในห้องผมจึงเอาร่มวางพิงไว้ข้างๆ ประตูให้เห็นชัดๆ เพราะรู้ว่านิสัยตัวเองดีว่าค่อนข้างขี้ลืม มองดูร่มแล้วใบหน้าหล่อเหลาของหนุ่มตี๋เจ้าของร่มพลันแวบเข้ามาในความคิด นึกไม่ออกเลยว่าคนฐานะระดับนั้นมาสุงสิงกับผมทำไม หวังว่าคงจะไม่ใช่อย่างที่แนนบอกละกัน เกิดมายังไม่เคยโดนผู้ชายจีบเลย ถึงจะอยู่เหงาๆ คนเดียวมาหลายปี แต่ผมยังไม่คิดมีแฟนเป็นผู้ชายหรอก

ผมสลัดความคิดนั้นทิ้งไปแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ดึกมากแล้วจึงรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จเร็วที่สุด ยิ่งโยกโย้มากยิ่งเสียเวลานอนที่มีอยู่เพียงน้อยนิด

(http://bit.ly/1mD2rHH)

"เอากี่ไม้ครับ"

"ไม้ละกี่บาทคะ"

"สองไม้ยี่สิบ ห้าไม้สี่สิบห้าครับ"

"อ้อ ถ้างั้นเอาสองไม้ล่ะกันค่ะ"

"เอาข้าวเหนียวด้วยไหมครับ"

"ขายยังไงคะ"

"ถุงละสิบบาทครับ"

"งั้นเอามาถุงหนึ่งค่ะ"

แนนส่งหมูปิ้งสองไม้ที่ปิ้งสุกแล้วให้ผม ผมรับมาใส่ถุงพลาสติกใสแล้วใส่รวมไปกับข้าวเหนียวอีกที ก่อนจะส่งให้ลูกค้าคนนั้นพร้อมกับรอยยิ้มขอบคุณ

"ขอบคุณนะครับ โอกาสหน้าเชิญใหม่ครับ"

ลูกค้าคนนั้นรับของไปแล้วยิ้มให้ก่อนจะเดินจากไป ลูกค้าคนถัดไปเข้ามาต่อทันที

"วันนี้ลูกค้าเยอะดีนะพี่ ท่าจะขายหมดเร็ว" แนนหันมาบอกพลางยิ้มอย่างมีความหวัง

ผมยิ้มบางๆ แล้วหันมาคุยกับลูกค้าที่ยืนออกันอยู่สามสี่คน ถามตอบกับลูกค้าเรื่องเดิมๆ เหมือนเมื่อครู่นี้ ลูกค้าส่วนมากมักเป็นหนุ่มสาววัยทำงานที่ต้องรีบออกไปทำงาน มีนักศึกษาบ้างประปราย อาหารที่ผมกับแนนขายพอช่วยประทังความหิวยามเช้าในช่วงเวลาเร่งรีบได้บ้าง แม้ไม่ครบห้าหมู่แต่ดีกว่าไม่ได้กินอะไรเลย

ตั้งแต่แนนมาอยู่ห้องข้างๆ กับผมได้สามเดือนกว่า ผมกับเธอต้องลุกขึ้นมาขายหมูปิ้งตอนตี้ห้าอย่างนี้ทุกวัน แนนถูกสามีทิ้งทั้งที่เพิ่งมีลูกด้วยกัน เธอจึงบากหน้ามาหาผม ครั้นผมจะไม่ช่วยคงใจดำเกินไปหน่อย ยังไงๆ แนนก็เป็นน้องสาว ลูกของเธอเป็นหลานผม ผมจึงให้แนนเช่าห้องข้างๆ ที่ว่างอยู่พอดี ตอนแรกว่าจะให้กลับบ้าน แต่กลัวพ่อกับแม่จะว่า ผมจึงให้อยู่ที่นี่ไปก่อน แล้วค่อยว่ากันอีกที

เธอไม่กลับบ้านปีกว่าแล้ว อ้างว่าเรียนหนักและทำกิจกรรมช่วงปิดเทอม แต่ที่แท้เธอท้องและดร็อปการเรียนไว้ อยู่กับสามีไม่ทันไรก็เลิกกัน เจ้าหมอนั่นมีแฟนใหม่ไปแล้วและทิ้งให้แนนอยู่กับลูกสองคน ผมเกลียดความใจจืดใจดำของมันมากทีเดียว ถ้าเห็นหน้ามันเมื่อไหร่ผมคงอดทำร้ายมันไม่ได้แน่ๆ

แนนยังเรียนหนังสือไม่จบจึงไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไร แถมยังต้องคอยดูแลลูกเล็กทั้งวันอีก ผมจึงเสนอให้เธอขายหมูปิ้งตอนเช้า เราคิดสูตรหมักหมูกันเอง ลงทุนซื้อหม้อหุงข้าวใหญ่ๆ มานึ่งข้าวเหนียว ซื้อรถเข็นอีกคันหนึ่ง แค่นี้ก็พอทำมาหากินได้แล้ว

ลูกค้าแทบไม่ต้องไปหาเลยเพราะแค่ในอพาร์ทเมนต์อย่างเดียวก็เยอะแล้ว ขายกันไม่หวาดไม่ไหว กรุงเทพคนเยอะ ถ้ารสชาติไม่แย่เกินไปยังไงก็มีคนซื้อ วันหนึ่งจึงขายได้เกือบๆ สองพันบาท หักลบต้นทุนแล้วเหลือประมาณหนึ่งพันหน่อยๆ บางวันอาจจะได้มากน้อยกว่านี้บ้าง แต่ขายได้ทุกวัน ตอนแรกแนนว่าจะแบ่งรายได้กับผมคนละครึ่ง แต่ผมเห็นวเธอต้องดูแลลูกจึงแบ่งมาแค่สามสิบเปอร์เซ็นต์ แนนไม่สามารถขายคนเดียวได้เพราะต้องคอยวิ่งขึ้นมาดูลูกเล็กบ่อยๆ ผมจึงต้องอยู่โยงช่วยขายเป็นหลัก ถ้าลูกโตกว่านี้หน่อยอาจจะสะดวกขึ้น

ประมาณเก้าโมงเช้าเราขายหมูปิ้งหมดพอดี แต่ถ้ายังไม่หมดแนนจะขายต่อเอง ส่วนผมปลีกตัวไปทำงาน แม้ว่าเวลาทำงานของผมเริ่มสิบเอ็ดโมง แต่ผมต้องไปถึงก่อนเสมอ จึงเผื่อเวลาเดินทางไว้สองชั่วโมง ถ้าวันไหนรถติดมากจริงๆ ผมถึงจะยอมใช้รถไฟฟ้าเพื่อให้ไปถึงร้านกาแฟประมาณสิบโมงครึ่ง

พอเปิดร้านปุ๊บคนมาปั๊บ หลายๆ คนที่อาศัยอยู่แถวๆ นี้เป็นลูกค้าประจำจนผมเริ่มจำได้หลายคนแล้ว หนุ่มตี๋คนนั้นมายืนต่อคิวอยู่ด้วยเช่นเคย แต่งตัวซะอย่างดี พอเห็นหน้าแล้วทำให้ผมนึกถึงร่มคันนั้น อุตส่าห์วางเอาไว้ในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดแท้ๆ ยังลืมจนได้ ไม่รู้จะเรียกว่าขี้ลืมยังไงแล้ว

พอถึงคิวของเป็ง หนุ่มร่างสูงเพรียวจึงทดสอบผมทันที

"เหมือนเดิมครับ"

ถ้าเป็นลูกค้าคนอื่นบอกอย่างนี้ผมคงจำไม่ได้ทุกคนหรอก แต่ผมจำเมนูที่เป็งสั่งได้แม่นเลย

"ผมลืมเอาร่มมา" ผมบอกเบาๆ เพราะไม่อยากให้ลูกค้าคนอื่นๆ ได้ยินด้วย

"ยิ้มหน่อยสิ"

เป็งไม่ได้สนใจเรื่องผมลืมร่มเลย แต่กลับบอกให้ผมยิ้มซะงั้น ไม่รู้เหมือนกันว่าจะให้ยิ้มทำไม ผมจึงยิ้มอย่างงงๆ แต่กลับถูกใจหนุ่มตี๋ลูกค้าคนพิเศษของผมมากทีเดียว

เป็งควักกระเป๋าตังค์ออกมาจ่ายเงินตามราคาที่ผมบอก ไม่ใช่มีแค่เงินเท่านั้น มีนามบัตรติดมาด้วย ผมรับมาแล้ววางไว้ใกล้ๆ เครื่องคิดเงิน จากนั้นจึงส่งเงินทอนกับใบเสร็จให้เป็งไป

กำลังยื่นมือมารับใบเสร็จ เป็งกลับชักมือกลับแล้วเอามือปิดจมูก ก่อนจะจามออกมาเบาๆ ผมหรี่ตามองด้วยความสงสัย ไม่แน่ใจว่าเป็งไม่สบายจากการเดินตากฝนเมื่อคืนนี้หรือเปล่า แต่พออยู่ตรงนี้ผมคงถามนอกเรื่องมากไม่ได้ จึงได้แต่แอบมองด้วยความเป็นห่วง

เป็งนั่งกินกาแฟกับขนมปังแฮมชีสสไตล์ฝรั่งเศสของโปรดตรงมุมเดิม ได้ยินเสียงจามเบาๆ มาเป็นระยะๆ ผมหันไปมองทีไรเห็นยิ้มให้ตลอด จึงอดนึกถึงที่น้องสาวบอกไม่ได้ว่าผู้ชายคนนี้น่าจะกำลัง "จีบ" ผมอยู่ น่าแปลกแท้ๆ ดูท่าทางไม่เห็นเหมือนเกย์ตรงไหนเลย ทำไมถึงชอบผู้ชายด้วยกันได้ ประมาณเกือบเที่ยงเป็งจึงออกจากร้านไป จากนั้นผมไม่ได้นึกถึงเป็งอีกเลยจนกระทั่งเลิกงาน

(http://bit.ly/1S1zfGS)

พอขึ้นรถเมล์สายเดิมที่คุ้นเคยแล้วผมจึงหยิบนามบัตรของเป็งออกมา ไม่ได้อ่านรายละเอียดอื่นเลย มองหาเบอร์มือถือเป็นอันดับแรก พอเจอแล้วผมจึงหยิบมือถือของตัวเองออกมา กดเบอร์ของเป็งตามที่เขียนไว้บนนามบัตร จากนั้นกดโทรออก เพียงอึดใจเดียวเป็งก็รับสาย

"สวัสดีครับ ผมเป็งพูดครับ"

"สวัสดีครับคุณเป็ง ผมคานินนะครับ ที่ทำงานที่ร้านกาแฟหน้าปากซอยบ้านคุณนั่นแหละ"

"อ๋อ" เป็งลากเสียงยาว "นึกว่าใคร เสียดายวันนี้ผมมีธุระทั้งวันเลยไม่ได้แวะไปอีก"

"ครับ" ผมรับคำอย่างงงๆ เพราะไม่แน่ใจว่าบอกเป็งให้มาหาผมอีกหรือเปล่า แต่ช่างเถอะ เข้าเรื่องดีกว่า

"ผมขอโทษด้วยที่ลืมเอาร่มมาคืน ผมลืมสนิทเลย"

"ไม่เป็นไรหรอกครับ เอาไว้คืนผมเมื่อไหร่ก็ได้"

"ครับ" ผมรับคำ ลังเลอยู่ครู่จึงค่อยถามไป "เอ่อ...คุณเป็งไม่สบายเหรอครับ"

"เป็นหวัดนิดหน่อย ไปหาหมอแล้วล่ะ ตอนนี้ดีขึ้นเยอะแล้ว"

"ขอโทษนะครับที่ทำให้คุณเป็งเป็นหวัด"

"ใช่ความผิดคานินที่ไหนล่ะ อย่าคิดมาก อ้อ ทีหลังเรียกผมว่าเป็งเฉยๆ ก็ได้นะ คานินอายุเท่าไหร่ล่ะ"

"อ๋อ...ยี่สิบสี่ครับ"

"อ้อ งั้นก็อายุน้อยกว่าผมปีหนึ่ง เรียกผมว่าเป็งเฉยๆ ก็ได้นะ ผมไม่ถือหรอก"

"ครับคุณเป็ง เอ๊ย...เป็ง" ผมรับคำอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะไม่กล้าเรียกลูกค้าสนิทสนมขนาดนั้น

"วันนี้งานหนักหรือเปล่า มีใครว่าอะไรอีกไหม" เป็งถามด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนเป็นห่วง

"ไม่มีครับ แต่ว่าคนอื่นโดนบ้างนิดๆ หน่อย เป็นเรื่องธรรมดาของการทำงานบริการแหละครับ"

"อดทนนะคานิน อย่าเพิ่งลาออกไปก่อนล่ะ ถ้าผมไปที่ร้านแล้วไม่เจอคานินคงแย่เลย"

"ทำไมเหรอครับ" ผมถามอย่างงงๆ

เป็งทำหน้ายุ่งยากใจ "จะบอกยังไงดีล่ะ เอางี้...คานินไม่ได้ทำงานวันไหนมั่ง"

"พรุ่งนี้ครับ"

"อ้อ ดีเลย แล้วคานินมีธุระต้องทำพรุ่งนี้หรือเปล่า"

"มีครับ แต่ว่ามีแค่ตอนเช้า ผมขายหมูปิ้งตอนเช้าทุกวัน" ผมบอกไปตามตรง ไม่เคยอายที่จะบอกใครเรื่องนี้

"โห...ขยันจัง"

"ผมไม่รวยเหมือนคุณเป็งนี่ ถ้าไม่ขยันแล้วจะเอาอะไรกินล่ะครับ"

ผมยังคงติดเรียกเป็งว่าคุณอยู่ แต่เป็งไม่ได้ว่าอะไร

"ดีแล้ว ผมชอบคนขยันๆ อย่างงี้แหละ"

ผมรู้สึกสะดุดใจกับคำว่า "ชอบคนขยันๆ" อยู่หน่อยๆ แต่ปล่อยผ่านไปก่อน

"คุณเป็งจะให้ผมทำอะไรหรือเปล่าครับ"

"อย่าเรียกคุณสิ เรียกเป็งเฉยๆ ก็ได้" เป็งทำเสียงดุนิดหน่อย แล้วพูดต่อ

"ไม่มีอะไรหรอก ผมอยากคุยกับคานินแค่นั้นแหละ"

"คุยเรื่องอะไรเหรอครับ" ผมถามอย่างพาซื่อ นึกไม่ออกว่าทำไมคนอย่างเป็งอยากคุยกับผม

"แค่อยากรู้จัก ให้รู้จักหน่อยไม่ได้เหรอ"

"รู้จักผมเนี่ยเหรอครับ" ผมถามอย่างไม่แน่ใจ

"ใช่ ผมอยากรู้จักคานินมากกว่านี้" เป็งยืนยัน

"ทำไมเหรอครับ ผมเป็นแค่คนจนๆ คนหนึ่ง ไม่เห็นมีอะไรน่าสนใจเลย"

"มีสิ ทำไมจะไม่มีล่ะ"

ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยจนหน้าผากย่นไปทั้งแถบ "อืม...ถ้างั้นจะให้ผมไปเจอที่ไหนล่ะครับ"

"ให้ผมไปรับไหม เดี๋ยวค่อยคิดว่าจะไปไหน ตอนนี้ยังนึกไม่ออก"

"ไม่ดีหรอกครับ มันไกล รถติดด้วย ให้ผมมาเจอคุณเป็งแถวๆ ร้านกาแฟที่ผมทำงานก็ได้"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปรับนะ กี่โมงดี สิบเอ็ดโมงไหวหรือเปล่า"

"เรื่องเวลาผมไม่มีปัญหาหรอกครับ ผมตื่นตีสี่ครึ่งทุกวัน แต่ผมเกรงใจคุณเป็งน่ะครับ"

"บอกแล้วไงว่าไม่ต้องเกรงใจ ให้ผมไปรับคานินละกันนะ อยู่แถวๆ ลาดพร้าวใช่ไหม"

เป็งยังอุตส่าห์จำได้แม้ว่าผมจะบอกเพียงแค่ครั้งเดียว

"ครับ" ผมรับคำสั้นๆ ดูท่าทางแล้วยังไงๆ เป็งคงจะมาดื้อมารับผมจนได้ ผมจึงไม่รู้จะปฏิเสธยังไง

"เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมโทรถามทางนะ คานินใช้เบอร์นี้ใช่ไหม ผมจะได้เมมเบอร์ไว้"

"ครับ เบอร์นี้แหละครับ เอ่อ...คุณเป็งครับ"

"หืม"

"ผมถามคุณเป็งตรงๆ เรื่องหนึ่งได้ไหมครับ"

"ได้ๆ ถามเรื่องอะไรเหรอ ถ้าผมตอบได้ผมจะตอบให้"

พอจะถามเข้าจริงๆ ผมกลับลังเล คิดไปคิดมาจึงเปลี่ยนใจ "อืม...ยังไม่ถามดีกว่าครับ เอาไว้ผมถามพรุ่งนี้ทีเดียวเลยละกัน"

"ได้ ผมจะเตรียมคำตอบไว้ให้ แล้วนี่คานินกำลังเดินทางกลับบ้านเหรอ"

"ครับ"

"โห...กลับบ้านดึกๆ อย่างนี้ทุกวัน แถมยังตื่นแต่เช้าอีก ไม่เหนื่อยแย่เหรอ"

"ชินแล้วล่ะครับ" พอคุยไปคุยมาผมชักรู้สึกเป็นกันเองกับเป็งมากขึ้น

"อย่าลืมดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะ ทำงานหนักบ่อยๆ สุขภาพจะแย่เอา"

"ผมมีทางเลือกไม่เยอะนี่ครับ ถ้าไม่ทำก็อดตายกันพอดี ผมต้องดูแลหลายคนน่ะครับ"

"อ้อ"

"คุณเป็งอยู่ที่คอนโดเหรอครับ" ผมถามกลับบ้าง

"ครับ เพิ่งกลับมาถึงไม่นานนี้เอง"

"อ้อ ผมโทรมารบกวนเวลาพักผ่อนหรือเปล่าครับ"

"ไม่หรอก ผมกำลังอยากคุยกับคานินอยู่พอดี รอโทรศัพท์อยู่ตั้งนานแน่ะ"

"รอโทรศัพท์ผมเหรอครับ" ผมทวนอย่างแปลกใจ นึกไม่ออกว่าเป็งรอโทรศัพท์ผมทำไม

"ใช่แล้ว ไม่งั้นจะให้นามบัตรไว้ทำไมล่ะ"

"ถึงว่า" ผมเงียบเสียงไป ยิ่งคุยยิ่งรู้ว่าเข้าเค้าอย่างที่แนนว่า ผมจึงไปไม่ถูกเลย

"เสียงคานินเพราะนะ ผมชอบฟัง"

ผมเผลอทำหน้าเหวอบนรถเมล์โดยไม่รู้ตัว ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้ชายที่ไหนชมผมอย่างนี้มาก่อนเลย

"แล้วนี่ยังไม่ถึงบ้านอีกเหรอ" เป็งเปลี่ยนเรื่องคุยเมื่อเห็นผมเงียบไปอีก

ผมมัวแต่คิดอย่างอื่น ฟังอยู่ครู่หนึ่งจึงเข้าใจว่าเป็งถามว่าอะไร "อ้อ...ยังครับ เพิ่งออกมาได้หน่อยเดียวเอง"

"เหรอ แล้วปกติกลับถึงบ้านกี่โมง"

"เกือบๆ ห้าทุ่มครับ ถ้าโชคดีรถไม่ติดมากก็ราวๆ สี่ทุ่มครึ่ง"

"อืม ดึกเหมือนกันนะ แล้วคานินไม่อยากหางานอย่างอื่นทำที่ไม่ต้องกลับดึกๆ อย่างงี้บ้างเหรอ"

"มันหายากครับ นี่ผมเพิ่งเปลี่ยนงานมาทำที่นี่ ต้องทำไปก่อนครับ ถ้ามีอย่างอื่นที่ดีกว่านี้ค่อยว่ากัน"

"อ้อ ดีแล้ว ดีกว่าไม่มีอะไรทำ"

"เอ่อ...ผมว่าผมคุยกับคุณเป็งแค่นี้ก่อนดีกว่า เกรงใจน่ะครับ คุณเป็งไม่สบายด้วย เผื่ออยากจะพักผ่อน"

"ผมยังคุยได้เรื่อยๆ นะ ไม่ต้องเกรงใจ เผื่ออยากมีคนคุยเป็นเพื่อนระหว่างเดินทาง จะได้ไม่เหงาไง"

เหงาเหรอ? ไม่รู้เหมือนกันว่าผมเหงาหรือเปล่า หรืออาจชินความเหงาจนไม่รู้ว่าตัวเองเหงา

"ผมชินแล้ว ผมว่าคุณเป็งนอนพักดีกว่าครับ แค่ผมทำให้คุณเป็งไม่สบายผมก็รู้สึกผิดจะแย่แล้ว"

"เฮ้ย อย่าคิดมากสิ อย่างน้อยผมก็ยังรอดชีวิตอยู่ ไม่เป็นไรแล้ว เอางี้...เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมโทรหาคานินนะ"

"ครับคุณเป็ง สวัสดีครับ"

พอวางสายไปแล้วผมจึงนั่งครุ่นคิด ถ้าใครเห็นหน้าผมตอนนี้คงเห็นเครื่องหมายคำถามเต็มหน้าผมไปหมด ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันแน่ ต้องการอะไรจากผมหรือเปล่า หรือว่าเป็งจะชอบผมอย่างที่แนนบอกจริงๆ แล้วถ้าเกิดพรุ่งนี้เป็งพาผมไปทำมิดีมิร้ายขึ้นมาล่ะ แค่คิดก็น่ากลัวแล้ว แต่ผมดันตกปากรับคำไปแล้วนี่สิ คงไม่เป็นไรหรอกมั้ง รูปร่างผมกับเป็งไม่ต่างกันมาก คิดว่าคงพอสู้แรงและพอเอาตัวรอดได้อยู่

เอ...แล้วผมจะตีตนไปก่อนไข้ทำไม?

ถ้าเกิดพรุ่งนี้เป็งบอกว่ากำลังจีบผมอยู่ ผมควรจะตอบเป็งว่ายังไง แม้ว่าลึกๆ ผมอยากมีใครสักคนหลังจากที่ห่างหายจากการมีแฟนไปซะนาน แต่ให้ตายเถอะโรบิ้น ยังไงๆ ผมยังไม่อยากให้ "ใครสักคน" ที่ผมรอคอยเป็นผู้ชายเลย!!!

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-01-2016 13:29:12
 :pig4: :3123:

รีบตีตนได้เลย ไข้มาตั้งแต่ตอนให้ร่มแล้ว ฮ่าฮ่า
มีพิมพ์ชื่อ เป็ง เป็น เป็น หรือเปล่าคะ ตรงช่วงจ่ายเงินที่เคาเตอร์

"...เป็นไม่ได้สนใจเรื่องผมลืมร่มแต่กลับบอกให้ผมยิ้มซะงั้น ผมก็เลยยิ้มเก้อๆ เขินๆ
เป็นยิ้มใหญ่เลย แถมยังหัวเราะชอบใจเบาๆ ... "

รอตอนต่อไป
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 19-01-2016 14:56:33
คานินโดนรุกหนักมาก หนักจนสงสารน้อง5555555 สู้ต่อไปนะพ่อเป็ง


ป.ล.พิมพ์ชื่อผิดนะคะ สรุปแล้วชื่อเป็งใช่ไหมเอ่ย
หัวข้อ: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 19-01-2016 19:28:44
เข้ามาจองพื้นที่อ่านไปได้นิดเดียว เนื้อเรื่องน่ารักดี นายเอกออกแนวน่าสงสาร ชื่อเป็งแปลกแต่น่ารักดีค่ะ
 :3123: :3123: :3123: :3123: เป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 19-01-2016 23:10:23
รู้จักกันสองวัน ชวนกันออกไปข้างนอกซะแล้ว #อิจฉา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 20-01-2016 02:48:38
แหนะมีแอบให้นามบัตร ให้ติดต่อกลับมา ตั้งหน้าตั้งตารอสายโทรเข้ามาอีกแหนะ เป็นเอามาก เหอๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: ป๋า ที่ 20-01-2016 08:29:51
เป็งรุกเร็วมาก จีบไม่เป็นนี่อำเปล่าครับ  :ruready
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: BlueCherries ที่ 20-01-2016 10:01:23
 :mew1:

คานินจะคิดไปไกลก็ไม่ผิด วางใจใครไม่ได้จริงๆนะเดี๋ยวนี้


แต่ว่านะ เป็งรุกไวมากกกกกกก  :hao7: ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 20-01-2016 11:28:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 20-01-2016 12:14:42


สามตอนแรกให้อารมณ์สดใสดีค่ะ จะหม่นนิดหน่อยก็เรื่องชีวิตของคานินนี่แหละ
หวังว่าเป็งจะเข้ามาช่วยส่งเสริมให้คานินพบเจอกับหนทางที่ดีทั้งเรื่องชีวิตและเรื่องความรักเลยนะคะ
เราแอบเดาว่าตาวินจะกลายมาเป็นลูกของพ่อเป็งแม่เขี้ยวงามในตอนท้าย - ถ้าเดาผิดก็อย่าถือสาเราเลยค่ะ นิยายกุ๊กกิ๊กแบบนี้ งานมโนต้องมีต้องมาค่ะ ^^

จากตอนฝากร่ม... เราว่าเราเจอคำผิดพอสมควรนะคะ (ช่วงที่เป็งคุยกับภูค่ะ)
ถ้าเราไม่ติดอะไร เราจะติดตามอ่านไปเรื่อย ๆ นะคะ

ปล.ออกตัวก่อนว่าเราไม่ได้เข้ามาอ่านเรื่องนี้เพราะเทียบเชิญแต่อย่างใด...
เราเชื่อในตัวคนอ่านคนอื่น ๆ ที่เลือกอ่านนิยายเรื่องนี้ เราเลยตามรอยมา อ่านแล้วก็รู้สึกว่าตัวหนังสือพวกนี้ทำหน้าที่ของมันได้ดีตามที่คุณต้องการแล้วค่ะ  :pig4:

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 20-01-2016 13:03:54
เป็งเริ่มไปอีกขั้นนึงแล้วเป็นการจีบที่มีแบบแผนมากคับ เข้าใจคานินเหมือนกันที่กลัวจะโดนหลอก ๕๕๕  ตอนนี้มีเด็กน้อยด้วย รอลุ้นว่าเด็กน้อยคนนี้จะเป็นไงต่อไป เคยอ่านตอนที่ผู้แต่งพูดถึงคู่รักที่อยากมีลูก น้องน้อยคนนี้จะมีบทนั้นมั้ยคับ รออ่านนะคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 20-01-2016 13:10:57
คือที่เป็งทำนี่ได้คำปรึกษามาแล้วใช่ป่ะ
ยอมรับว่าเนียน แต่ไม่ได้ดูยากอะไร
คือแบบไม่ได้เปิดเผยโต้งๆแต่ก็ไม่ปิดบัง

ยอมรับว่าเข้ามาเพราะชื่อเรื่อง
เข้ามาถึงรู้ว่าเป็นเรื่องที่เคยเจอ
แต่ไม่ได้กดเข้ามาอ่าน เพราะชื่อเดิม
อ่านแล้วเหมือนๆจะย้อนยุคๆ 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: neverland ที่ 20-01-2016 17:44:40
ทั้งจีบทั้งอ่อย คานินซื่อมากค่ะลูกกกกก รู้ตัวอีกทีคือโดนรวบหัวรวบหางแน่นอน 555
หัวข้อ: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 20-01-2016 18:04:40
คุณเป็งนี้เขารุกเร็วดีเนอะ  :hao6: :hao6: :hao6:
อยากรู้แล้วซิว่าคานินจะถามอะไรเป็งนะ.... :-[ :-[ :-[ :-[ :-[
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 20-01-2016 18:18:57
คุณเป็งรุกได้ชัดเจนมากค่ะ
เป็นใคร ใครก็คิดนะ ฮ่าาาาาา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 20-01-2016 21:13:04
555 ตอนแรกชื่อเรื่องเชยมากเลยครับ นึกว่าเขี้ยวเสือสมิงซะอีก
อีกไม่เกินสามวันจะมาอัปเดตตอนต่อไปครับ ตอนต่อไปมีเซอร์ไพรส์นิดหน่อย อิๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 20-01-2016 22:31:25
ชีวิตคานินช่างเป็นนางเอกนิยายจริง ๆ เลยน่ะ  :sad4: คุณเป็งก้อเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเลยน่ะเนี่ย แต่มาในรูปแบบวายเลย 555
รอตามติดชีวิตรักของทั้งคู่ต่อไป ลุ้นตอนต่อไปว่าเป็งจะเผยตัวมากกว่านี้รึเปล่าและคานินจะกล้าถามไหม  :katai3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 21-01-2016 22:44:13
อารมณ์อยากอ่านของผมต้องค้างไว้อีกหลายวันเลยสิคับ กว่าจะได้อ่านตอนใหม่  เอาใจช่วยให้เขียนตอนใหม่เสร็จไวๆนะคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 21-01-2016 22:51:07
 :-[ :-[ เชียร์คุณเป็งจีบคามินให้สำเร็จนะจ้ะ  :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-01-2016 23:02:56
สู้ๆนะเป็ง อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ ตอนที่ 2 จีบหรือเปล่า -p2- ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 22-01-2016 02:20:21
 :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ2 จีบหรือเปล่า ⓟ2 ▦19.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: มะฮอกกานี ที่ 22-01-2016 14:45:29
ชอบนะ ทำให้นึกถึงรักครั้งแรกของเรากับคนมีเขี้ยวเหมือนกัน  นานมากแล้ว
อ่านแล้วกลับมาจำรอยยิ้มมีเขี้ยวนั้นได้เลย

รอ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนจีบ ⓟ3 ▦ เร็วๆ นี้
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 22-01-2016 16:59:33
อ่านชอบคานินจังเข้าเป็นคนสู้ชีวิตดีจัง
ขอให้คุณเป็งจีบคานินได้เร็วๆ  :ling1: :hao6:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 22-01-2016 21:33:07
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 3 อกหักก่อนรักเป็น


(http://bit.ly/1RX8ogL)


เป็ง

ผมขับรถมาตามทางที่หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์บอกจนกระทั่งมาถึงอพาร์ทเมนท์ที่เจ้าตัวพักอาศัยอยู่ พอเห็นสภาพแล้วผมอดใจแป้วหน่อยๆ ไม่ได้ ถึงไม่ดูโทรมแต่ดูไม่น่าอยู่สำหรับผมเลย ไปๆ มาๆ ผมเริ่มคิดกังวล การจะรู้จักใครสักคนที่ต่างฐานะกันมากๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย

วันนี้ผมอุตส่าห์เลือกเสื้อผ้ายี่ห้อลาคอสต์ที่ถือว่าถูกที่สุดแล้วสำหรับผมมาใส่ แม้ว่าจะตัวละไม่กี่พันบาทแต่ดูดีกว่าเสื้อผ้าทั่วๆ ไปมากพอสมควร อย่าหาว่าผมอวดรวยเลย ทั้งเนื้อทั้งตัวผมกับรถคันงามที่ขับมาด้วย สามารถซื้อบ้านและรถดีๆ ได้เลย ไม่รู้ว่าคานินเห็นแล้วจะคิดมากหรือเปล่า

พอขับเข้ามาในอพาร์ทเมนท์นี้ รถของผมจึงกลายเป็นเป้าสายตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาโดยปริยาย ผมจอดรถข้างๆ อพาร์ทเมนท์ตรงที่จอดที่ยังว่างอยู่แล้วลงมาจากรถ ก่อนจะเดินลิ่วตรงมาตรงทางเข้า แต่ผมกลับพบว่าเข้าไปไม่ได้เพราะไม่มีคีย์การ์ด จึวยืนแกร่วรอกลางแดดที่แผดจ้าจนแสบผิว พยายามมองหาที่กำบัง แต่แดดยามใกล้เที่ยงส่องดิ่งลงจนทำให้อาคารต่างๆ เหลือเงาไม่มากให้หลบ

ก่อนที่ผมจะไหม้ซะก่อน คนที่ผมรอคอยวิ่งกระหืดกระหอบลงบันไดมาพอดี พอเห็นผมจึงรีบมาเปิดประตูให้

"เข้ามาก่อนครับ ร้อนแย่เลย"

เจ้าของน้ำเสียงที่ผมเคยบอกว่าฟังเพราะส่งยิ้มบางๆ มาให้ แม้ยังเห็นเขี้ยวไม่ชัดผมยังรู้สึกหวั่นไหว ผมรีบเดินเข้าไปข้างในประตูที่เปิดอ้าก่อนที่เสียงร้องเตือนของประตูจะดังขึ้น รู้สึกเหมือนได้ขึ้นสวรรค์เมื่อได้หลบแดดยามก่อนเที่ยงเสียที ไม่งั้นคงไหม้เป็นจุลไปแล้ว

"ขอบคุณครับ"

ผมบอกพลางใช้มือลูบแขนตัวเองที่แสบร้อน พอรู้ตัวว่ายืนขวางทางเข้าออกคนอื่นเราจึงหลบฉากไปอยู่ตรงมุมแทน

"ขอโทษด้วยที่ผมมาช้า พอดีขายหมูปิ้งเสร็จช้าไปหน่อย" หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์บอกด้วยสีหน้ารู้สึกผิด แล้วส่งของบางอย่างให้ผม

"ร่มของคุณเป็งครับ"

ผมรับร่มมาถือไว้ พอเห็นการแต่งตัวของคานินแล้วอดเปรียบเทียบเสื้อผ้าที่ผมใส่ไม่ได้  คานินใส่กางเกงยีนส์กับเสื้อเชิ๊ตสีขาวไม่มียี่ห้อแต่ดูดีอยู่ กระนั้น ยังดูทันสมัยน้อยกว่าผมมากทีเดียว แม้ว่าผมใส่เพียงเสื้อโปโลกับกางเกงขายาวทรงทันสมัยสีน้ำเงินยี่ห้อที่ถูกที่สุดเท่าที่ผมมีอยู่ก็ตาม แต่พอบวกกับรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณและพร็อพทั้งหลายแหล่ของผมยิ่งทำให้เราดูต่างกันไปใหญ่ ผมจึงอดหวั่นใจไม่ได้ว่าคานินจะรู้สึก "ด้อย" จนไม่อยากคบกับผม

"คานินพร้อมยัง จะไปเลยไหม" ผมถามเมื่อเห็นว่าเราไม่ควรอยู่ตรงนี้นาน นอกจากจะดูแปลกๆ แล้วยังเกะกะคนอื่นอีกด้วย

"ครับ ไปเลยก็ได้" คานินรับคำสั้นๆ ท่าทียังดูเขินๆ และประหม่าอยู่

ผมไม่รอช้ารีบเดินนำหน้าออกไปก่อน พอถึงประตูจึงเปิดให้คานินเดินออกไปแล้วผมตามไปทีหลัง

"รถผมจอดอยู่ทางนี้"

ผมชี้บอกแล้วเดินนำไปที่รถ พอมาถึงคานินทำหน้าเหลอหลา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะรถของผมหรือเปล่า เห็นอย่างนั้นผมจึงเดินอ้อมมาเปิดประตูให้ ก่อนจะเชื้อเชิญอย่างสุภาพ

"เข้าไปนั่งสิคานิน"

คานินมองผมเพียงแวบเดียวแล้วก้าวขาเข้าไปนั่งข้างในตรงเบาะหน้า ผมปิดประตูให้แล้วเดินไปนั่งฝั่งคนขับ

"พร้อมยัง" ผมถามในขณะที่สตาร์ทรถไปด้วย คานินหันมาพยักหน้าแล้วมองดูจนทั่วรถของผม

"ไม่เคยนั่งรถแบบนี้เหรอ" ไม่รู้ว่าเป็นคำถามที่ควรถามหรือเปล่า แต่ผมดันถามไปแล้ว

"ไม่เคย จะเอาปัญญาที่ไหนมาซื้อรถแบบนี้ล่ะ" น้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนน้อยเนื้อต่ำใจทำให้ผมได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ สงสัยผมคงถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม

"ขอโทษ ผมไม่ได้มีเจตนาจะดูถูกคานินนะ"

"ไม่ต้องคิดมากหรอกคุณเป็ง คุณไม่ได้ดูถูกอะไรผมหรอก ผมไม่มีปัญญาซื้อจริงๆ นี่ ผมรับได้ที่ผมเป็นแบบนี้อยู่แล้ว ว่าแต่คุณเป็งเหอะ รับผมได้หรือเปล่าล่ะ"

ยังไม่ทันขยับเขยื้อนไปไหน หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมพลันถามคำถามที่กระแทกใจผมเข้าให้

"ทำไมคานินถามอย่างงั้นล่ะ"

"คุณเป็งกับผมต่างกันมากนะครับ"

"ทุกคนต้องต่างกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ"

คานินก้มดูมือตัวเองแล้วแค่นหัวเราะเบาๆ "ครับ ทุกคนต้องต่างกันอยู่แล้ว บางอย่างต่างกันแต่เอามาผสมลงตัวกันดี แต่บางอย่างต่างกันแล้วเอามาผสมกันไม่ได้ เหมือนส้มตำปูปลาร้ากับอาหารฝรั่งไงครับ ยังไงๆ มันก็ไม่เข้ากันหรอก"

ฟังคานินเปรียบเทียบแล้วผมจึงขำ "เข้าใจเปรียบเทียบนะ แล้วรู้ได้ยังไงล่ะว่าผมกับคานินจะเข้ากันไม่ได้ ไม่อยากลองพิสูจน์กันซักตั้งก่อนเหรอ"

ผมทำตากรุ้มกริ่มใส่ คนมีเขี้ยวคงเขินจึงเสมองไปทางอื่น

"ผมกำลังจะพิสูจน์อยู่นี่ไงครับ ไม่งั้นไม่ตกลงไปกับคุณเป็งหรอก"

"อ้อ งั้นเรามาพิสูจน์กันตั้งแต่วันนี้เลยละกันนะ ผมขอเวลาคานินไม่นานหรอก"

คานินยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วหัวเราะเบาๆ "ได้ เดี๋ยวคุณเป็งก็รู้เองแหละครับว่าทำไมผมกับคุณเป็งถึงเป็นความต่างที่ไม่ลงตัวกัน"

"ขนาดนั้นเชียว" ผมเลิกคิ้ว

คานินพยักหน้า ผมยกยิ้มแล้วจึงค่อยๆ ถอยรถออก พอหันหัวได้ที่จึงขับออกไป

"จะฟังเพลงอะไรบอกได้นะ เดี๋ยวผมเปิดให้ฟัง ผมมีทุกแนวเลย" ผมถามขึ้นเมื่อเดินทางออกมาได้ระยะหนึ่งแล้ว

"เพื่อชีวิตมีไหมครับ"

ผมชะงักกึก เอาล่ะสิ หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์คงเริ่มทดสอบผมแล้วแน่ๆ งานนี้

"ไม่มี" ผมตอบเสียงอ่อยๆ

"งั้นลูกทุ่งล่ะครับ"

"ไม่มี"

"หมอลำล่ะครับ"

"ไม่มีเหมือนกัน"

คานินหัวเราะชอบใจใหญ่เลยคราวนี้ "อะไรๆ คุณเป็งก็ไม่มีซักอย่าง ไหนบอกว่ามีทุกอย่างไงครับ"

ผมหน้าจ๋อยสนิท ไม่คิดว่าจะเจอไม้นี้เข้า "แต่ละแนวที่คานินพูดมา ผมไม่เคยฟังเลย ไม่รู้จักด้วยซ้ำ"

คานินนั่งขำแล้วส่ายหัวไปมา "จะเปิดอะไรก็เปิดเถอะครับ ผมฟังได้ทั้งนั้นแหละ"

"งั้นผมไม่เปิดดีกว่า อยากคุยกับคานิน"

คานินหันมามองผม เลิกคิ้วและทำหน้าออกเหวอๆ แต่ไม่พูดอะไร ผมจึงถามซะเอง

"แล้วรู้หรือยังว่าผมจะพาคานินไปไหน"

คานินส่ายหัว

"ผมจะพาไปกินข้าวก่อน"

"ที่ไหนครับ" คานินรีบหันมาถามทันทีโดยไม่รอให้ผมพูดต่อ

"ร้านที่ผมชอบไปแถวๆ สุขุมวิทนั่นแหละ"

"งั้นก็แพงสิครับ"

ผมหันไปมองแวบหนึ่งแล้วพยักหน้า "ไม่ถึงกับแพงมากหรอก"

"งั้นผมไม่ไป"

ผมตกใจจนแทบจะเบรกรถกึก ดีที่ตั้งสติได้ก่อนแล้วหันไปถาม

"ทำไมล่ะ"

"ผมไม่มีปัญหาจ่ายค่าอาหารร้านที่คุณชอบไปกินหรอก"

"เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง คานินไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก" ผมยิ้มกว้างเปิดเผย

"แต่ผมกังวล เกิดวันหนึ่งผมกับคุณเป็งเป็นเพื่อนกัน คุณเป็งจะมาคอยออกเงินให้ผมอย่างนี้ไม่ได้หรอกครับ ถึงผมจะจนยังไง ผมไม่ชอบให้ใครมาช่วยแบบนี้ ผมมีศักดิ์ศรีนะครับ"

ผมคิดตามแล้วชักจะเห็นด้วย คานินเป็นผู้ชายเหมือนผม ชอบพึ่งพาตัวเองเป็นหลักมากกว่า คงไม่ดีแน่ถ้าต้องคอยพึ่งพาผมทางเศรษฐกิจบ่อยๆ ความสัมพันธ์ไม่ยืดยาวแน่นอน

"คุณเป็งอยากรู้จักผมจริงๆ หรือเปล่าครับ"

ผมหันไปพยักหน้าแล้วหันกลับมามองทางตามเดิม "จริงสิ ไม่งั้นผมจะมาหาคานินทำไมล่ะ"

"ถ้างั้น..."

(http://bit.ly/1S1zfGS)

คานิน

หนุ่มหน้าตี๋ถึงกับหน้าเหวอเมื่อเห็นบรรดาอาหารจากร้านเพิงหมาแหงนเรสเตอรองท์ทยอยวางลงตรงหน้า ส้มตำปูปลาร้ารสจัดจ้าน ต้มแซ่บกระดูกหมูอ่อน ลาบน้ำตกหมู ซุปหน่อไม้และกระติบข้าวเหนียวกล่องเล็ก ทั้งหมดนี้ล้วนแต่เป็นของอร่อยของคนธรรมดาอย่างผมทั้งนั้น

"เอาเลยครับ ตามสบายเลย มื้อนี้ผมเลี้ยงคุณเป็งเอง ส่วนมื้อค่ำ คุณเป็งเลี้ยงผมอย่างที่อยากเลี้ยงละกัน"

หนุ่มตี๋หน้าแหย มองดูอาหารแต่ละอย่างแล้วคงกลัวไม่น้อย เพราะแต่ละอย่างเผ็ดๆ ทั้งนั้น

"กินยังไงเหรอ ผมกินไม่เป็น" เป็งบอกอย่างอายๆ

"เดี๋ยวผมสาธิตให้ดู" ว่าแล้วผมจึงจกข้าวเหนียวปั้นเป็นก้อนกลมๆ พอดีคำ หยิบใส่ปากแล้วใช้ส้อมตักส้มตำปูปลาร้าตามไป ก่อนจะซี๊ดปากอย่างถึงอกถึงใจ เล่นเอาหนุ่มตี๋หวาดเสียวไม่น้อย

"สุดยอดเลยครับคุณเป็ง แซ่บถึงใจเลยครับ"

หนุ่มตี๋ยังคงหน้าแหย มองผมเคี้ยวอาหารตุ้ยๆ แต่ยังไม่กล้าลงมือกินอะไรสักอย่าง ผมเคี้ยวข้าวและกลืนลงไปหมดแล้วจึงถาม

"ไม่กล้ากินเหรอครับ ไหนบอกว่าอยากรู้จักผมไง"

"เปล่าๆๆๆ" เป็งปฏิเสธเป็นพัลวันแต่สีหน้ายังดูกลัวๆ อย่างเห็นได้ชัด

"งั้นก็กินสิครับ ผมแนะนำส้มตำปูปลาร้ารสเด็ดเลย หอมปลาร้า เผ็ดสะใจ เปรี้ยวนิด หวานหน่อย แซ่บอย่าบอกใครเลยครับ"

เป็งพยักหน้า จากนั้นจึงเปิดกระติบข้าวเหนียวของตัวเอง บิออกมาปั้นเป็นก้อนกลมๆ เหมือนผม ก่อนส่งเข้าปากยังมองดูอีกรอบ คล้ายกับไม่แน่ใจว่ากินได้ พอเห็นผมมองกดดันจึงส่งเข้าปากไป เอาส้อมตักส้มตำปูปลาร้าขึ้นมา แค่ได้กลิ่นก็แทบผงะแล้ว เป็งจึงทำจมูกฟุดฟิดๆ ใหญ่

"ลองดูหน่อยสิครับคุณเป็ง อร่อยนะครับ" ผมคะยั้นคะยอ

เป็งกลั้นหายใจ เพียงอึดใจเดียวจึงส่งส้มตำปูปลาร้าเข้าปากไปรวมกับข้าวเหนียว

"เป็นไงบ้างครับคุณเป็ง อร่อยใช่ไหมครับ"

หนุ่มตี๋หน้าเหวอหนัก จะกลืนก็กลืนไม่เข้า จะคายก็คายไม่ออก หน้าตาหูเหอเริ่มแดงทั้งๆ ที่ยังไม่ได้เคี้ยวด้วยซ้ำ แต่ด้วยมารยาท เป็งจึงพยักหน้าอย่างเสียมิได้

"ถ้าอร่อยก็กินสิครับ" ผมคะยั้นคะยอ

หนุ่มตี๋จึงจำใจเคี้ยวส้มตำปูปลาร้าและข้าวเหนียวอย่างผะอืดผะอม คงเผ็ดน่าดู แถมรสชาติคงแปลกจากที่เคยกิน แต่ด้วยสปิริตเต็มเปี่ยม หนุ่มตี๋ไม่ยอมหยุดจนกระทั่งเคี้ยวและกลืนลงท้องไป แล้วรีบหยิบแก้วน้ำมาดื่มแทบไม่ทัน

"ชอบไหมครับคุณเป็ง"

หนุ่มตี๋ไฮโซคงจะทนไม่ไหวแล้ว วางแก้วน้ำลงแล้วสูดปากใหญ่ เผ็ดขนาดนั้นยังอุตส่าห์กัดฟันยิ้ม

"อร่อยครับ"

"งั้นกินอีกสิครับ"

"หา! กินอีกเหรอ" เป็งเลิกคิ้วคล้ายกับจะถามว่าผมพูดเล่นหรือเปล่า

ผมพยักหน้าแล้วจกข้าวเหนียวมาปั้น ส่งเข้าปากแล้วตามด้วยส้มตำเหมือนเดิม "แซ่บอีหลี คุณเป็งต้องกินเยอะๆ นะครับ ไม่งั้นคนเลี้ยงเสียดายแย่เลย"

"ครับ"

เป็งจกข้าวเหนียวมาปั้นแล้วส่งเข้าปาก ตามด้วยส้มตำปูปลาร้า เคี้ยวตุ้ยๆ สักพักจึงกลืนลงไป จากนั้นตามด้วยน้ำจนหมดแก้ว ไม่รู้ว่าจะอิ่มข้าวหรืออิ่มน้ำกันแน่ หน้าขาวใสแดงก่ำจากฤทธิ์เผ็ดจนไปถึงใบหู แต่ยังมีสปิริตและไม่บ่นสักคำ ให้กินอะไรก็กินทุกอย่าง แต่กินได้อย่างละนิดละหน่อยเท่านั้น ไม่รู้ว่าผมใจร้ายไปหรือเปล่า ขอลองใจดูหน่อยละกันว่าอยากรู้จักจริงแค่ไหน

"คานินไม่เผ็ดเลยเหรอ" เป็งถามไปสูดปากไป

"เผ็ดครับ แต่กินได้ คุณเป็งไม่เคยกินแบบนี้เลยเหรอ"

หนุ่มตี๋ส่ายหน้าเดียะจนผมอดขำไม่ได้

"ผมกินแบบนี้เป็นประจำเลย แต่คุณเป็งเก่งนะครับ ขนาดไม่เคยกินยังกินได้ขนาดนี้"

"ครับ" คนถูกชมหัวเราะแหะๆ ก่อนจะหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่มอีกคำรบ

"อิ่มหรือเปล่าครับ ถ้าไม่อิ่มผมจะได้สั่งเพิ่ม"

"อิ่มแล้วครับๆ ไม่เพิ่มแล้วครับ" เป็งรีบบอกอย่างรวดเร็ว

"เหรอครับ เสียดายจัง เห็นว่าชอบ ว่าจะเลี้ยงให้เต็มที่ไปเลยซะหน่อย" ผมแสร้งว่า

"ไม่เป็นไรครับ แค่นี้ก็โอเคแล้วครับ ผมยังไม่ชินเท่าไหร่ แต่อีกหน่อยคงชิน น่าจะกินได้เยอะกว่านี้"

เป็งแบ่งรับแบ่งสู้แล้วส่งยิ้มแปลกๆ ให้ผม

"แค่ได้เห็นคานินยิ้ม ผมสู้ตายอยู่แล้วล่ะ"

เริ่มพูดจาแปลกๆ อีกแล้ว ผมทำหน้าไม่ถูกเลย ได้แต่เกาท้ายทอยเล่นแล้วหันไปมองหาเด็กในร้าน พอสบจังหวะเหมาะจึงเรียกพร้อมกวักมือ

"เก็บตังค์ด้วยครับ"

"ไปกินไอติมอร่อยๆ กันไหม จะได้หายเผ็ด" เป็งถามขึ้นขณะที่รอเด็กในร้านเอาบิลมาให้ ผมหันไปพยักหน้าตกลง "ได้ครับ"

"ผมเลี้ยงนะ"

ผมพยักหน้าตกลงก่อนจะรับใบเสร็จอาหารมาดูราคา จะว่าไปก็ไม่เลวเหมือนกัน ผมเลี้ยงอาหารกลางวัน เป็งเลี้ยงไอศครีม เสมอภาคกันดีออก

(http://bit.ly/1mD2rHH)

"คานินเป็นคนกรุงเทพหรือเปล่า"

"เปล่าครับ แต่อยู่ใกล้ๆ นี่แหละ" ผมตอบไปแล้วตักไอติมขึ้นมากินอย่างเอร็ดอร่อย นานๆ ได้จะได้กินแบบนี้ที

"แถวไหนล่ะ" เป็งถามด้วยความอยากรู้

"นครนายก แต่ไม่ได้อยู่ใกล้อำเภอเมืองเท่าไหร่"

"ไม่ไกลเท่าไหร่หรอก แล้วมาอยู่กรุงเทพนานแล้วเหรอ" เป็งถามแล้วตักไอศครีมกินบ้าง

"อยู่ตั้งแต่เรียนมหาลัยแล้วครับ"

เป็งพยักหน้ารับรู้

"แล้วคุณเป็งล่ะ"

"ผมเป็นคนเชียงราย มาจากอำเภอแม่สะลอง แต่ไม่ใช่คนเหนือหรอก คานินเคยไปที่นั่นไหม ที่ดอยแม่สะลองน่ะ มีคนจีนที่อพยพมาช่วงสงครามเยอะเลย พ่อแม่ผมก็เป็นคนจีน จีนกันทั้งบ้านเลย เรามีธุรกิจร้านอาหารจีนสองร้าน อยู่บนดอยนั่นแหละ ไว้วันหลังมีโอกาสผมจะพาไปกิน อร่อยนะ คานินเคยกินอาหารจีนยูนนานแท้ๆ หรือเปล่า"

"ไม่เคย" ผมบอกพร้อมกับส่ายหน้า "แล้วทำไมคุณเป็งมาอยู่กรุงเทพล่ะ"

"มาเรียนไง มาอยู่ตั้งแต่มัธยมแล้ว พอจบแล้วก็ไม่ได้ทำงานอย่างที่เรียนหรอก ตอนนี้ผมเป็นฟาซิลิเตเตอร์ เรื่องการสื่อสารอย่างสันติอยู่ ลองทำมาได้สองสามปีแล้ว ไม่รู้ว่าจับพลัดจับผลูมาทำงานนี้ได้ยังไงเหมือนกัน"

"มันคืออะไรเหรอครับ" ผมถามอย่างสงสัย

"อ๋อ...มันคล้ายๆ การอบรมอย่างหนึ่งนั่นแหละ เดี๋ยวนี้ในองค์กรต่างๆ มีปัญหาขัดแย้งภายในเยอะ พอคนทำงานไม่เข้าใจกันก็ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงาน การสื่อสารอย่างสันติก็จะเข้ามาช่วยตรงนี้ไง ผมกับทีมงานช่วยจัดกระบวนการให้คนที่มีความขัดแย้งกัน หรืออยากรู้จักกันมากขึ้นมาคุยกันด้วยสันติวิธี ทำให้คนที่ขัดแย้งกล้าเปิดใจพูดถึงปัญหาแต่ไม่ขัดแย้งกัน ประมาณนั้นแหละ อบทีก็ใช้เวลาสองสามวัน ส่วนมากผมจะพาไปโรงแรมใกล้ๆ กรุงเทพนี่แหละ ได้เงินไม่เยอะหรอก ที่มีกินมีใช้ส่วนมากมาจากพอกอทั้งนั้น"

เป็งพูดแล้วขำ ผมเลยพลอยขำไปด้วย แต่ไม่ค่อยเข้าใจงานี่เป็งทำนักหรอก ฟังดูแปลกๆ จนไม่รู้ว่าเป็นงานอะไร

"ถามจริง คานินไม่สงสัยเลยเหรอว่าผมพาคานินออกมาทำไม"

พอหยุดขำผมพลันอึ้งต่อ "คุณเป็งอยากรู้จักผมไม่ใช่เหรอ"

"แล้วคานินรู้ไหมว่าทำไมผมอยากรู้จักคานิน"

ผมส่ายหัวอีก ดูเหมือนชายหนุ่มผู้นี้จะต้อนผมไปไหนสักที่

"ผมมีเรื่องจะเล่าให้ฟังเรื่องหนึ่ง" เป็งหยุดรอดูความสนใจจากผมแล้วจึงเล่าต่อ

"มีอยู่วันหนึ่งตอนอยู่มอสาม ผมมาเดินเล่นแถวๆ สยามกับเพื่อนๆ นี่แหละ เดินไปเดินมา จู่ๆ ผมเจอกับสาวน้อยคนหนึ่ง เธอยิ้มให้ผมด้วย คานินรู้ไหมว่ามีบางอย่างที่ทำให้ผมประทับใจมาก เธอเป็นสาวน้อยมีเขี้ยว ผมไม่เคยเจอคนมีเขี้ยวมาก่อนเลย พอเจอปุ๊บก็ชอบปั๊บ ชอบจนเพ้อเลย แต่เชื่อไหม หลังจากวันนั้น...ผมไม่เคยเจอสาวมีเขี้ยวอีกเลย คงไม่แปลกใจนะถ้าผมจะบอกว่า...ผมโสดสนิท ไม่มีแฟนมาตั้งแต่ตอนนั้น เพราะผมตั้งใจแน่วแน่ว่า...ถ้าจะมีแฟนต้องเป็นสาวมีเขี้ยวเท่านั้น แต่มันแปลกจริงๆ นะ ผมไม่เคยเจอสาวมีเขี้ยวอีกเลย ตลกมาก"

เป็งเล่าไปยิ้มไป แถมยังคอยจ้องตาผมเป็นระยะๆ อีกด้วย ผมชักรู้สึกตะหงิดๆ เพราะมีเขี้ยวเหมือนกัน ไม่รู้ว่าที่เล่ามาทั้งหมดมีอะไรเกี่ยวข้องกับผมด้วยหรือเปล่า

"แล้วไงเหรอครับ" ผมถามออกไปทั้งๆ ที่ไม่อยากถาม แต่ปากดันถามไปแล้ว

"ยังไงดีล่ะ" เป็งกัดริมฝีปากล่างแล้วครุ่นคิด "ผมอยากเจอคนมีเขี้ยวมาก เพื่อนพาสาวคนไหนมาให้รู้จักผมก็ไม่เอา สวยแค่ไหนผมก็แค่มองผ่าน ไม่ใช่ไม่มองนะ ตามประสาผู้ชายก็มองบ้างแหละ แต่ผมยืนยัน ไม่ว่ายังไงๆ ผมต้องมีแฟนเป็นสาวมีเขี้ยวให้ได้ คานินคิดดูสิว่าผมเหงาขนาดไหน ตั้งแต่สิบห้าจนยี่สิบห้า ยังไม่เคยมีแฟนเลย"

ผมพยักหน้ารับรู้ นึกอยากถามให้ชัดๆ ไปเลยว่ามันเกี่ยวกับผมตรงไหนแต่กลับไม่ถาม

"แต่ตอนนี้นะ" เป็งยิ้มเขินโดยไม่รู้สาเหตุ สบตากับผมแล้วหลบตา ก่อนจะหันกลับมาสบตาอีกรอบ

"ถึงไม่ได้เจอสาวมีเขี้ยว แต่ว่า..."

"เอ่อ...คืออย่างงี้ครับคุณเป็ง ผมมีอะไรจะบอกคุณเป็งเหมือนกันครับ" ผมรีบพูดดักก่อนที่เป็งจะทันได้พูดบางอย่างที่ผมพอจะเดาได้ไม่ยากนัก

"อะไรเหรอครับ" เป็งถามอย่างสงสัย สีหน้าเริ่มดูหวาดระแวง

"คืออย่างงี้ครับ" ว่าแล้วผมจึงหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ค้นหารูปที่ต้องการอยู่สักพักแล้วส่งให้เป็งดู

"ผมมีลูกชายแล้วครับ คุณเป็งดูสิ ลูกชายผมน่ารักไหมครับ"

เป็งหน้าเหวออ้าปากค้าง หน้าที่เคยแดงจากรสเผ็ดก่อนหน้านี้ซีดเสียจนแทบเป็นกระดาษขาวๆ แผ่นหนึ่ง รอยยิ้มสดใสเมื่อครู่หายไปหมดสิ้น คงช็อคมากที่ความหวังพลันถูกดับตั้งแต่ยังไม่เกิด

"จริงเหรอคานิน" เป็งพูดเสียงสั่น หน้าเศร้าจนเหมือนคนกำลังจะร้องไห้

ตอนแรกผมนึกอยากตอบชัดๆ ไปเลยว่าใช่ แต่พอเห็นเป็งเสียใจแล้วผมกลับไม่กล้า จึงได้แต่พยักหน้าช้าๆ

เป็งก้มหน้าลงต่ำ สีหน้าที่ดูผิดหวังนั้นทำให้ผมแทบทนไม่ไหว แต่เมื่อบอกไปแล้วผมไม่อยากคืนคำ ยังไงๆ ผมคงไม่พร้อมมีแฟนเป็นผู้ชายหรอก อีกอย่าง ผมกับเป็งต่างกันราวฟ้ากับเหว ไม่มีอะไรเข้ากันได้เลย

ผมรู้สึกสงสารเป็งจับจิตจับใจ คนๆ หนึ่งรออะไรบางอย่างมาตั้งนาน วันหนึ่งเห็นอยู่ตรงหน้า พอจะเอื้อมมือไปคว้ากลับหายไปต่อหน้าต่อตา คงน่าเศร้ามากทีเดียว แต่เราเพิ่งรู้จักกันไม่นาน ผมคิดว่าเป็งคงเศร้าไม่นานหรอก อีกหน่อยเป็งอาจเจอสาวมีเขี้ยวสมใจก็ได้ ผู้หญิงมีเขี้ยวมีออกเยอะแยะ

เป็งเงยหน้าขึ้นมามองผม ใบหน้าเศร้านั้นทำเอาผมแทบอยากคืนคำพูดเสียตอนนี้ แม้ว่าจะเป็นคนแปลกหน้า แต่อะไรบางอย่างบอกผมว่าคนๆ นี้พอคบได้ ที่สำคัญ ผมไม่อยากทำให้ใครเสียใจเพราะผมหรอก

"ไม่เป็นไร เราเป็นเพื่อนกันก็ได้ แต่ว่า...ขากลับ ผมขอขึ้นไปดูลูกชายของคานินหน่อยได้ไหม ผมอยากเห็นลูกชายของคานิน...ได้ไหมครับ"

ผมถึงกับสะดุ้ง จะโกหกว่าลูกไม่ได้อยู่ด้วยคงตอแหลเกินไป แค่นี้ก็บาปจะแย่อยู่แล้ว

"อ๋อ...ได้ครับ" ผมรับปากแล้วยิ้มเจื่อนๆ

- - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + 

กินไอศครีมเสร็จแล้วเป็งจึงไปส่งผมที่อพาร์ทเมนท์ เรานั่งเงียบๆ และแทบไม่ได้คุยอะไรกันเลย ระหว่างนั้นผมส่งไลน์หาน้องสาว ขอร้องให้เธอช่วยโกหกว่าเป็นแฟนผม แนนถึงกับเต้นผาง

"เดี๋ยวขี้กลากขึ้นหัวกันพอดี ไม่เอาหรอก"

ผมต้องหว่านล้อมอยู่สักพักน้องสาวถึงได้ยอมแกล้งเป็นแฟนให้ แต่กลัวเป็งจับได้อยู่เหมือนกัน แนนหน้าตาคล้ายผมพอสมควร พลอยทำให้ลูกของแนนหน้าตาเหมือนผมไปด้วย ถ้าโกหกว่าหลานเป็นลูกคงเนียนสนิทจนไม่มีใครสงสัย

พอมาถึงอพาร์ทเมนท์ ผมจึงพาเป็งเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องน้องสาวเพราะที่นี่ไม่มีลิฟต์ เราอยู่แค่ชั้นสองจึงไม่ต้องเดินให้เหนื่อยมาก ไม่นานนักจึงมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องของแนน ผมเคาะประตูไม่นานแนนจึงมาเปิดพร้อมกับอุ้มวินมาด้วย

"เชิญเลยค่ะ ห้องแคบไปหน่อยนะคะ" แนนเอ่ยเชื้อเชิญพร้อมกับยิ้มอายๆ

"ไม่เป็นไรครับ" เป็งยิ้มเม้มปากให้แนนแล้วหันมาถามผม "แฟนคานินเหรอ"

ผมอึ้งไปเล็กน้อย พอรู้ตัวจึงรีบรับคำอย่างเงอะเงิ่น "อ้อ...ครับ แฟนผมชื่อแนนครับ แนน...นี่คุณเป็งนะ เพื่อนพี่ เขาอยากมาเยี่ยมวินน่ะ"

พูดไปแล้วชักกระดากปาก เริ่มไม่สนุกซะแล้วที่ต้องโกหก

"ยินดีที่ได้รู้จักครับ เอ...แนนนี่หน้าตาคล้ายคานินมากเลย เขาถึงบอกว่าคนหน้าตาคล้ายกันมักเป็นเนื้อคู่กัน สงสัยจะจริง ดูดิ หน้าเหมือนกันมากเลย"

ผมกับแนนยิ้มแหยๆ สักพักแนนจึงเออออห่อหมกไปด้วย "ค่ะ ก็ว่าอย่างงั้นแหละค่ะ"

แนนเดินนำพาผมกับเป็งเข้าไปในห้อง เป็งไม่แสดงท่าทีรังเกียจห้องเล็กๆ ยังกับรูหนูของแนนเลย แถมยังขออุ้มวินเล่นด้วย เล่นไปเล่นมาชักถูกใจกัน เป็งขอให้แนนช่วยหาด้ายผูกแขนให้ แนนอุตส่าห์วิ่งลงไปหามาให้จนได้ วินจึงได้รับผูกข้อมือจากเป็งพร้อมกับเงินผูกแขนหนึ่งพันบาท

เล่นกับวินสักพักเป็งจึงขอตัวกลับ ผมกับแนนถึงกับต้องถอนหายใจด้วยความโล่งอก

"ไม่เอาแล้วนะพี่ ให้เล่นอะไรก็ไม่รู้ แนนกระดากปากน่ะ" แนนพูดขึ้นเมื่อผมกลับเข้ามาในห้องอีกครั้งหลังจากที่ไปส่งเป็งที่รถ

ผมทำเสียงจิ๊กจั๊กแล้วพยักหน้าเห็นด้วย "พี่ก็เหมือนกัน"

"คนนี้ใช่ไหมที่ให้ร่มพี่มา" แนนถามแล้วเอาลูกไปนอนในเปล เตรียมตัวแช่ข้าวเหนียวไว้สำหรับพรุ่งนี้

ผมพยักหน้ายอมรับ

"กลัวเขาจีบพี่เหรอ" แนนถามอย่างรู้ทัน แค่นี้ไม่น่าเป็นเรื่องยากที่จะเดาได้

"อือ" ผมยอมรับไปตามตรง

- - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - +

ผมคุยกับแนนสักพักแล้วกลับมาที่ห้องของตัวเอง แปลกใจตัวเองที่ผมยังนึกสงสารเป็งอยู่ แม้ไม่อยากสนใจกลับไม่ง่ายอย่างที่คิด ผมดับความหวังคนๆ หนึ่งที่รออะไรบางอย่างมาตั้งนานไปแล้ว ยิ่งนึกถึงหน้าตาเศร้าๆ และท่าทางผิดหวังของเป็งตอนอยู่ร้านไอศครีมยิ่งรู้สึกผิด ยังไม่ทันได้รัก ผมดันทำเขาอกหักไปซะแล้ว

ผมนั่งคิดนอนคิดอยู่เป็นชั่วโมง สุดท้ายทนฟุ้งซ่านไม่ไหว ตัดสินใจหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทรหาเป็ง ไม่นานนักคนที่ผมต้องการคุยด้วยจึงรับสาย

"คุณเป็ง ผมมีอะไรจะบอกครับ" ผมบอกไปทันทีที่เป็งรับสาย ไม่ทันทักทายสวัสดีกันด้วยซ้ำ

"เอาไว้คุยกันวันหลังนะคานิน ตอนนี้ผมอยู่โรงพยาบาล"

เสียงแหบพร่าเหมือนคนหมดแรงทำเอาผมตกใจไม่น้อย "คุณเป็งเป็นอะไรเหรอครับ"

"ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ แค่นี้ก่อนนะครับ"

แย่แล้ว! นี่ผมแกล้งเป็งจนต้องเข้าโรงพยาบาลเลยหรือนี่!

โธ่คุณเป็ง ผมขอโทษ!!!

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 22-01-2016 23:35:05
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 22-01-2016 23:44:16
   อยากอ่านต่ออะคับ ไม่น่าปล่อยค้างที่โรงบาลเลย ๕๕๕  :pigha2: :pigha2:
    แกล้งพาไปกินของเผ็ดๆหลอกว่ามีลูกอีกและแล้วคานินก็ใจอ่อนจนได้ คุณเป็งรู้แล้วเอาคืนเลยนะ เชื่อว่าคุณเป็งต้องจีบอย่างมีชั้นเชิง ๕๕๕ 
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 23-01-2016 00:42:17
 :mew2: น่าสงสารเชียวคุณเป็ง โดนคานินแกล้งจนท้องเสียเลย คนนี้ก้อเพื่อรักแล้วยอมสู้เต็มที่เลยน่ะเนี่ย อย่างน้อยคุณก้อทำให้คานินหวั่นไหวได้แหละน่ะ สู้ ๆ จ้ะ  :mew1: ยังไงตอนหน้าคานินต้องยอมสารภาพแน่ ๆ ปลาร้ากับเราเนี่ยไม่ถูกกับเราอย่างแรงจริง ๆ คุณเป็งยอมกินได้เนี่ย สุดยอดจริง ๆ  o13
เรื่องนี้น่ารักดีน่ะ เราชอบน่ะ แต่ละคนดูเป็นธรรมชาติดีน่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 23-01-2016 02:47:11
ก็ไปแกล้งเขานะ สงสารต้องเข้าโรงพยาบาลเลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 23-01-2016 02:58:43
ก็คิดอยู่ว่าเป็งน่าจะท้องเสีย คานินรีบตามไปดูแลเป็งที่โรงพยาบาลเลยนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 23-01-2016 05:04:57
 :เฮ้อ: สงสารเป็งถึงขั้นนอนโรงพยาบาลเลยง่ะ
คานินรีบไปดูแลด่วนเลย  :hao7:
เนื้อเรื้องน่ารักดีค่ะ อ่านแล้วไปหน่อยกลัวเป็งได้กินแห้ว! 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 23-01-2016 10:36:37
เจ็บคราวนี้คุ้มอยู่นะเป็ง
คานินสงสารขึ้นอีกหลายเท่าเลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-01-2016 13:39:41
ทำไมไม่มีหนุ่มหล่อมาชวนเราไปข้างนอกแบบนี้บ้างนะ....กระซิกๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 23-01-2016 13:54:57
เอาแล้วไง....ไปเยี่ยมคุณเป็งด่วนๆเลยนะคานิน อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 23-01-2016 14:17:36
โธ่ สงสารเป็งจังยังไม่ทันเริ่มก็มีแววอกหักซะแล้ว แถมยังถูกแกล้งจนเข้ารพ. อีก

ยังไงก็สู้ๆ นะเป็ง คานินเหมือนจะใจอ่อนแล้ว แต่ถ้าใครเห็นแบบนั้นก็คงมีท้อเพราะคิดว่าเป็นแฟนจริงๆ อยู่แล้วล่ะ

หวังว่าเป็งจะรู้ความจริงๆ เร็วๆ ว่าเป็นแค่น้องสาวไม่ใช่แฟนจริงๆ เร็วนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: black sakura ที่ 23-01-2016 16:14:48
โธ่วววว เป็งน่าสงสารรรร
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 23-01-2016 16:46:04
โอ้ยยย สงสารคุณเป็ง  :sad4:
คานินใจร้ายยย 

ตอนอกหักว่าสงสารแล้ว ตอนอาหารเป็นพิษยิ่งน่าสงสารเข้าไปอีก 55555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ☂ Ⓒ3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 23-01-2016 18:04:52
ไม่ชอบก็บอกดีๆ ทำตัวเหมือนอ่อยเขาแล้วก็แกล้งเขา นิสัยไม่ดีจริงๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 23-01-2016 19:53:58
อาหารเป็นพิษกันเลยทีเดียว คานินแกล้งหนักไปแล้วนะ ไหนจะโกหกว่ามีเมีย มีลูกแล้วอีก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 23-01-2016 21:40:57
ขี้แกล้งอ่ะ ให้กินส้มตำปลาร้าเผ็ดๆ ผมยังไม่กล้ากินเลย กินแต่ตำไทย 555+
นี่ถึงขนาดท้องเสีย เข้า รพ. กันเลย
แถมยังบอกมีเมียมีลูกอีก หึหึ

ระวังโดนเอาคืนนะ 5555+
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 26-01-2016 13:13:09
ไม่เกินวันพฤหัสบจะมาอัปเดตนะครับ ถ้าพรุ่งนี้เสร็จงานทันอาจจะได้เขียน
ถ้าไม่ได้ก็อย่างช้าพฤหัสครับ อยากเขียนตอนต่อไปมากๆ ดูซิว่าคนขี้แกล้งจะเจออะไร อิๆ
 :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 26-01-2016 14:06:42


แปลกนะคะ เราว่าวิธีปฏิเสธกันแบบสุภาพก็มีเยอะแยะ
คานินทำแบบนี้ไม่สงสารเป็งคนที่ตัวเองคิดจะคบหากันเป็นเพื่อนบ้างเลยหรือ?
พาไปกินร้านข้างทางน่ะเข้าใจได้ แต่ไปกินข้าวกับเพื่อนใหม่ ใจคอจะไม่ถามเขาหน่อยหรือว่ากินอะไรได้ หรือไม่ได้?
เกิดเขากินเผ็ด กินปลาร้าได้ แต่เขาแพ้บางอย่างที่สั่งมาจนเกิดอาการรุนแรง... จะทำยังไง?

แล้วหลังจากนี้จะยังไงต่อล่ะคานิน?
พอเขาป่วยเข้าโรงพยาบาล ก็ไปดูแลเขาจนใจอ่อนแล้วกลืนน้ำลายตัวเองง่าย ๆ อย่างนั้นน่ะหรือ?

ขอโทษนะคะหากเราตั้งคำถามมากมายเกินไป...
แต่เรื่องรักคอมเมดี้ที่มีพื้นหลังเป็นโลกแห่งความจริงนี่ก็มีคำถามซีเรียส ๆ ที่ชวนให้เราตั้งข้อสังเกตได้เยอะเหมือนกันค่ะ
ด้วยความเคารพ  :pig4:

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 26-01-2016 14:23:48
อยากอ่านคานิน ตอนใหม่เร็วๆจังคับ รออ่าน รออ่าน
  อากาศเปลี่ยนแปลงแบบนี้ ดูแลสุขภาพด้วยนะคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ป๋า ที่ 26-01-2016 14:53:07
คือก็ยังดูแย้งๆอยู่นะครับ เป็งชอบคานิน คิดว่าคงไม่สนใจเรื่องฐานะหรอก เพราะรู้อยู่แล้วว่าคานินทำงานร้านกาแฟ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูว่าเป็งจะเปรียบเทียบตัวเองกับคานินเหลือเกินเลย ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมรสนิยมที่อยู่อาศัยอ่ะ  :ruready
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 26-01-2016 15:09:16
คือก็ยังดูแย้งๆอยู่นะครับ เป็งชอบคานิน คิดว่าคงไม่สนใจเรื่องฐานะหรอก เพราะรู้อยู่แล้วว่าคานินทำงานร้านกาแฟ แต่ในขณะเดียวกันก็ดูว่าเป็งจะเปรียบเทียบตัวเองกับคานินเหลือเกินเลย ทั้งเสื้อผ้าหน้าผมรสนิยมที่อยู่อาศัยอ่ะ  :ruready

เป็งพยายามจะลดช่องว่างของตัวเองกับคานินมากกว่าครับ แต่ขนาดว่าใส่เสื้อผ้าที่ถูกลงก็ยังดูต่างกันมากอยู่
ไม่ได้เปรียบเทียบเพราะว่าจะดูถูก แต่เป็งแค่เห็นว่าสิ่งที่ตัวเองมีทำให้ตัวเองต่างจากคานินมากไปหน่อย
ก็เลยกลัวว่าคานินอาจจะรู้สึกไม่สบายใจหรือกลัวที่จะคบกันเป็ง
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้สนใจเรื่องฐานะ แต่คนที่มีวิถีชีวิตต่างกันมากๆ ย่อมมีช่องว่างเป็นธรรมดาครับ
ต้องคอยดูว่าสองคนนี้จะปรับตัวเข้าหากันยังไง (ในกรณีที่ตัดสินใจว่าจะรักกัน)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №3 อกหักก่อนรักเป็น ⓟ3 ▦22.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 27-01-2016 02:03:02
 :hao7:รอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦27.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: netich ที่ 28-01-2016 00:28:22
 :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦27.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 28-01-2016 01:07:52
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 4 คะแนนสงสาร


(http://bit.ly/1RX8ogL)

คานิน...

ผมว่าจะช่วยน้องสาวดูแลหลานตอนที่นึ่งข้าวเหนียวซะหน่อย พอเกิดเรื่องอย่างนี้จึงต้องรีบแจ้นมาโรงพยาบาล หลังจากที่ส่งไลน์ถามเป็งไปว่าอยู่ที่ไหน ผมจึงพาตัวเองมาจนถึงโรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งที่เป็งนอนพักอยู่ เป็งให้รายละเอียดมาในไลน์หมดแล้ว ผมแค่แจ้งชื่อและหมายเลขห้องแล้วขึ้นมาเยี่ยมเป็งได้เลย

พอเปิดประตูเข้าไปในห้องจึงเห็นหนุ่มตี๋นอนหน้าซีดเซียวพร้อมกับสายน้ำเกลือห้อยอยู่ ผมปรี่เข้าไปหาแล้วย่อตัวลงนั่งข้างๆ เตียง สีหน้าแสดงความรู้สึกผิดอย่างเต็มที่

"คุณเป็งเป็นไงบ้างครับ"

แม้จะอ่อนแรงแต่เป็งยังอุตส่าห์ยิ้มให้เมื่อเห็นผมมาหา "ดีขึ้นแล้ว พอออกมาจากอพาร์ทเมนท์ของคานิน ผมขับรถหาปั๊มแทบไม่ทัน เข้าห้องน้ำไปหลายรอบเลย พอดีขึ้นหน่อยเลยขับมาโรงพยาบาลเอง"

เป็งพูดอย่างอารมณ์ดีเหมือนกับไม่ทุกข์ร้อนอะไร แต่ยิ่งทำให้ผมรู้สึกแย่เข้าไปใหญ่

"คุณเป็ง ผมขอโทษนะครับ" ผมทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้ สงสารคนถูกแกล้งจับจิตจับใจ

เป็งสบตากับผม ก่อนจะค่อยๆ คลี่ยิ้มบางๆ ให้ "ขอโทษทำไม"

"อ้าว ผมแกล้งให้คุณเป็งกินอาหารอีสานเผ็ดๆ จนท้องเสียไงครับ"

"ถ้าผมจะไม่กินซะอย่าง คานินจะแกล้งผมได้เหรอ คานินไม่ได้จับกรอกปากผมซะหน่อย" เป็งว่าพลางขำเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ จากนั้นจึงพูดสืบไป "ผมรู้ว่ามันเผ็ด กินแล้วท้องเสีย ตอนเรียนเพื่อนเคยชวนกินเหมือนกัน แล้วท้องเสียแบบนี้แหละ"

ถึงเป็งจะหัวเราะ แต่ผมกลับไม่ขำด้วย ได้แต่ทำหน้ารู้สึกผิดกับฝีมือตัวเอง เป็งก็ช่างดีเหลือใจ แก้ต่างให้คนผิดอย่างผมซะงั้น

"ผมโตจนหมาเลียก้นไม่ถึงแล้วนะคานิน ถ้าจะปฏิเสธผมก็ปฏิเสธได้ ผมเลือกที่จะกินต่อเองต่างหาก"

"คุณเป็ง" ผมเรียกชื่อหนุ่มตี๋เบาๆ อย่างซาบซึ้งใจ เป็งไม่โทษผมแม้แต่คำเดียวทั้งที่ทำได้

"คานินรู้สึกผิดเหรอ" เป็งถามราวกับอ่านความคิดผมออก

ผมพยักหน้ายอมรับตามตรง "ยังไงๆ ผมก็ผิดนั่นแหละที่คะยั้นคะยอให้คุณเป็งกินจนเป็นแบบนี้"

"อย่าคิดมากสิ ผมบอกแล้วไงว่าผมกินเอง" เป็งยังคงยืนยันอย่างเดิม "ถ้าผมไม่เอาเข้าปากตัวเอง ใครก็เอาเข้าปากผมไม่ได้หรอก"

ผมไม่ได้รู้สึกดีขึ้นมาเพราะเป็งช่วยแก้ตัวให้หรอก แต่เพราะความใจกว้างของเป็งต่างหาก "ยังไงๆ ผมก็ยังผิดอยู่ดีนั่นแหละครับ เอาอย่างงี้ละกัน ให้ผมช่วยออกค่ารักษาคุณเป็งได้ไหมครับ"

"อย่าเลย" เป็งร้องห้ามทันที

"ทำไมล่ะครับ มันแพงเหรอ"

เป็งพยักหน้า "คืนหนึ่งก็หมื่นกว่าบาทแล้ว"

ผมหน้าเหวอเมื่อรู้ราคา นึกไม่ถึงว่านอนให้น้ำเกลือแค่นี้ต้องจ่ายเป็นหมื่นๆ ต่อคืน

"ขนาดนั้นเลยเหรอครับ งั้น...ให้ผมผ่อนจ่ายได้ไหม นะครับคุณเป็ง"

"ไม่เป็นไรหรอกคานิน"

"แล้วคุณเป็งจะให้ผมทำยังไงถึงจะพอไถ่โทษได้ล่ะครับ ยังไงๆ ผมควรต้องรับผิดชอบอะไรบ้าง ไม่งั้นผมคงไม่สบายใจหรอก" ผมยืนกรานด้วยสีหน้าสำนึกผิด

เป็งมองหน้าผมแล้วยิ้มแปลกๆ "มีอยู่นะ แต่ก่อนที่ผมจะบอกคานินเรื่องนั้น ผมมีเรื่องอยากถามคานินซักหน่อย"

"อะไรครับ"

"คานินบอกว่าเราสองคนต่างกันมากใช่ไหม"

ผมพยักหน้าแล้วรอฟังเป็งพูดต่อ

"ใช่...ผมยอมรับว่าเราสองคนต่างกันเยอะนะ ต่างกันแทบทุกเรื่องเลย เพราะอย่างงี้ใช่ไหม...คานินถึงคิดว่าเรา...เอ่อ...เป็นเพื่อนกันไม่ได้"

เป็งถามด้วยสีหน้าจริงจัง คราวนี้ผมไม่รู้จะตอบยังไง อันที่จริงคงไม่กล้าฟันธงขนาดนั้นหรอก

"เราสองคนรู้กันได้หรือเปล่าคานิน" เป็งถามย้ำอีกครั้ง

ผมอึกๆ อักๆ แล้วพูดเฉไป "ไม่รู้สิครับ"

"ตอบแบบนี้ แสดงว่าไม่ได้ใช่ไหม" เป็งเริ่มทำหน้าเครียด จ้องหน้าผมเขม็ง

"ก็ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ" ผมแบ่งรับแบ่งสู้

เป็งทำท่าเหมือนไม่ค่อยพอใจคำตอบสักเท่าไร แต่สักพักสีหน้ากลับดูอ่อนลง

"ไม่เป็นไร วันนี้เป็นแค่วันแรกที่ผมกับคานินมาทำความรู้จักกัน เรายังต้องพิสูจน์อะไรกันอีกเยอะ แต่ผมอยากบอกคานินไว้อย่างหนึ่งนะว่า...คนเราไม่ควรปิดกั้นตัวเองมากเกินไป คานินเห็นไหม ผมไม่เคยมีเพื่อนต่างฐานะกันมากๆ มาก่อน แต่ผมไม่เคยคิดว่ามันจะเป็นไปไม่ได้ ทำไมเราไม่ลองดูก่อนล่ะคานิน"

"ลองอะไรเหรอครับ" ผมถามอย่างงงๆ เมื่อกี้เป็งพูดยาวจนผมจำไม่ได้ว่ามีอะไรบ้าง จึงกลัวว่าตอบรับไปแล้วจะกลายเป็นเอาเชือกมาผูกคอตัวเองจนได้

เป็งกัดริมฝีปากล่าง มองหน้าผมแล้วครุ่นคิด ทำให้ผมอดระแวงไม่ได้อีกเพราะกลัวหนุ่มตี๋จะจีบเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่แปลกเหมือนกัน แม้กลัวถูกผู้ชายจีบ ผมกลับไม่ปฏิเสธหรือถอยหนี แถมยังมานั่งทำหน้าเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ตรงนี้อีก คงเป็นเพราะคืนนั้นที่เป็งส่งร่มให้ผมแล้วตัวเองยอมเดินตากฝนทั้งๆ ที่เราไม่รู้จักกัน จะว่าเป็นความประทับใจคงไม่ผิดนัก แค่นั้นก็ได้ใจผมไปเยอะแล้ว

"คานินบอกว่าอยากไถ่โทษใช่ไหม" เป็งไม่ตอบคำถามผม แต่กลับย้อนมาถามเรื่องที่ผมเพิ่งพูดไว้แทน

ผมพยักหน้าเป็นเชิงยอมรับ

"ถ้างั้น...วันพรุ่งนี้ เลิกงานแล้วคานินไปหาผมที่คอนโดได้หรือเปล่า"

ผมเบิกตาโตเท่าไข่ห่าน อดคิดพิเรนทร์ๆ ไม่ได้ว่าเป็งวางแผนจะทำมิดีมิร้ายผมหรือเปล่า "ทำไมต้องไปที่คอนโดคุณเป็งด้วยล่ะครับ ที่นี่แล้วก็ตอนนี้ไม่ได้เหรอ"

"ก็ผมป่วยอยู่"

"ห๊า! คุณเป็งจะทำอะไรผมเหรอครับ" ผมตกใจจนหน้าเหวอ คิดไปไกลถึงไหนต่อไหน

"เปล่าๆๆ ขอโทษที ทำให้กลัวไปเลย" เป็งนึกได้แล้วขำใหญ่ "ไม่มีอะไร ผมแค่มีเรื่องอยากจะถาม อยากคุยกับคานินยาวหน่อย คุยคืนนี้ไม่ค่อยสะดวกหรอก ผมกินยาแล้วมันง่วงๆ"

"ค่อยยังชั่วหน่อย" ผมทำหน้าโล่งอก "อ้อ ขอโทษด้วยนะครับที่มารบกวนเวลาพักผ่อนของคุณเป็ง ถ้างั้นผมว่าผมกลับเลยดีกว่า"

"เดี๋ยวก่อนสิ"

เป็งพูดพร้อมกับคว้าข้อมือผมไว้ในขณะที่ผมกำลังลุกขึ้นยืน

"ทำไมล่ะครับ" ผมมองดูมือของตัวเองที่ถูกจับไว้แล้วค่อยๆ นั่งลงตามเดิม

เป็งค่อยๆ ปล่อยมือผมแล้วทวง "รับปากผมมาก่อนสิว่าจะไปหาผมที่คอนโดพรุ่งนี้หลังเลิกงาน"

"แต่ผมเลิกดึกนะ" ผมพยายามหาข้ออ้าง

"ดึกแค่ไหนก็จะรอ ไปหาผมนะคานิน"

ผมทำท่าลังเลและทำเป็นเงียบๆ

"อยากไถ่โทษไม่ใช่เหรอ ผมจะให้โอกาสคานินไถ่โทษแล้วไง"

ไอ้อยากก็อยากอยู่หรอก แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องไปไถ่โทษที่คอนโดด้วย

สุดท้ายผมกลับพยักหน้าตกลงตามที่เป็งเสนอซะงั้น ถือว่าเป็นการวัดใจกันไปเลยละกัน ผมจะได้รู้จักตัวเองมากขึ้นว่าถ้าเกิดถูกผู้ชายจีบจริงๆ ผมจะโอเคกับเรื่องนี้หรือเปล่า ที่สำคัญ ผมจะได้รู้ว่าเป็งเป็นคนที่ไว้ใจได้มากแค่ไหนด้วย

เป็งยิ้มพอใจกับการตอบรับนั้น ผมค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วแย้มยิ้มให้เป็งเช่นเดียวกัน "งั้น...ผมกลับก่อนนะครับคุณเป็ง"

เป็งพยักหน้า "ครับ แล้วเจอกันพรุ่งนี้นะคานิน อย่าลืมมาให้ได้ล่ะ"

ผมพยักหน้าแทนการรับปาก ก่อนจะค่อยๆ หันหลังแล้วเดินออกไปอย่างช้าๆ

"ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะคานิน"

เสียงพูดนั้นทำให้ผมหยุดชะงักแล้วหันไปมอง ยิ้มเขินและยืนเก้ๆ กังๆ เหมือนกับไม่รู้จะไปทางไหน แต่พอนึกได้ว่าควรจะต้องกลับบ้าน ผมจึงรีบหันหลังแล้วเปิดประตูออกไปทันที

ทำไมหัวใจของผมถึงเต้นไม่เป็นส่ำแบบนี้หนอ หวังว่านายจะไม่เผลอชอบเขาไปล่ะคานิน ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่า แต่ผมรู้สึกดีจริงๆ ที่เป็งไม่เอาเรื่องผม แถมยังไม่โทษผมแม้แต่คำเดียว ถ้าทำเพื่อเรียกคะแนนสงสารคงได้ไปเต็มร้อย เผลอๆ ผมอาจจะแถมไปให้อีกเท่าตัว

(http://bit.ly/1mD2rHH)

เป็ง...

"ไอ้ภู กูทำได้แล้วโว้ย"

พอบึ่งรถออกมาจากโรงพยาบาลในตอนสายๆ ผมรีบโทรไปรายงานผลเพื่อนรักเป็นคนแรกอย่างตื่นเต้น

"อะไรของมึงวะไอ้เป็ง กูจะรู้เรื่องกับมึงไหม" ภูริชคงงงเพราะนานๆ ทีจะเห็นผมตื่นเต้นขนาดนี้

"ที่เพื่อนมึงแนะนำกูน่ะ ใช้ได้เลยผลเลยนะเว้ย"

ผมยังคงเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้อธิบายให้เพื่อนเข้าใจเลยด้วยซ้ำ

"อะไรวะ อย่าบอกนะว่าเรื่องที่มึงไปจีบผู้ชาย"

"เออดิ พรุ่งนี้คานินจะมาหากูที่คอนโดหลังเลิกงาน" ผมแจ้งความคืบหน้าอย่างภูมิใจ

"เฮ้ย! ไอ้เป็ง มึงรู้จักเขาได้ไม่กี่วัน จะเผด็จศึกเลยเหรอวะ ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน"

"มึงคิดไปได้นะไอ้ภู กูแค่จะพาคานินมาคุยด้วยเฉยๆ ยังไม่ได้คิดจะทำอะไรซะหน่อย"

"อ๋อเหรอ แล้วทำไมมึงถึงไม่พาไปคุยที่อื่นล่ะวะ ทำไมต้องพามาคอนโดด้วยล่ะ"

"คานินเลิกงานดึก สี่ทุ่มโน่น แล้วมึงจะให้ไปเจอที่ไหนวะ อีกอย่าง...คอนโดกูอยู่ใกล้ๆ ตรงนั้นพอดี"

"เออๆ กูเชื่อๆ ว่าแต่ว่า...ไหนมึงเล่าให้กูฟังหน่อยซิว่ามึงไปทำอะไรมามั่งเขาถึงได้ยอมมาหามึง"

"มึงจะเอาไปจีบผู้ชายมั่งเหรอ" ผมแซวเพื่อนแล้วหัวเราะชอบใจ

"ไอ้บ้า กูไม่ได้ชอบผู้ชายซะหน่อย ว่าแต่มึงน่ะ เอาจริงเหรอวะไอ้เป็ง"

"เออดิ คนอย่างกูเคยทำอะไรเล่นๆ ที่ไหน มึงรู้จักกูดีนี่ไอ้ภู"

"เออๆ กูแค่ถามเพื่อความแน่ใจเท่านั้นแหละ ว่าแต่เมื่อไหร่มึงจะตอบคำถามกูซะทีวะว่ามึงไปทำอะไรมามั่ง"

ผมหัวเราะเมื่อเห็นว่าเพื่อนอยากรู้จนต้องทวงอีกรอบ

"ทำอย่างที่เพื่อนมึงบอกนั่นแหละ อย่างแรกเลยนะ ทำให้เขาประทับใจ หรือเฟิร์สอิมเพรสชั่น อย่างที่สอง ให้ของๆ เราไปอยู่ที่บ้านเขาดูต่างหน้า อย่างที่สาม...เรียกคะแนนสงสาร พิสูจน์ความจริงใจ"

"โห...มึงทำครบเลยนะเนี่ย แล้วแต่ละอย่างนี่มึงทำอะไรมั่งวะ"

"กำลังจะเล่าอยู่นี่ไง มึงใจร้อนไปได้" ผมว่าเพื่อนไม่จริงจังนักแล้วเล่าต่อ

"อย่างแรกนะเว้ย เมื่อสองคืนก่อนฝนตกใช่ไหม กูแวะไปหาคานินที่ร้าน เห็นเขายืนหลบฝนอยู่กลับบ้านไม่ได้ กูเลยพาไปส่งที่ป้ายรถเมล์ แล้วให้ร่มคานินไป ส่วนกูเดินตากฝนกลับคอนโด"

"โห...นี่มึงลงทุนขนาดนี้เลยเหรอไอ้เป็ง" เพื่อนผมสัพยอกแล้วหัวเราะ

"เออ เอ้าต่อ...อย่างที่สอง ร่มกูอยู่ที่คานิน มีของไว้ให้เขาดูต่างหน้า เป๊ะเลยไหม" ผมบอกอย่างภูมิใจ

"เออๆ มึงรีบเล่าต่อเหอะ กูอยากรู้" ภูริชเร่งเร้า ผมเลยขำนิดหน่อยแล้วจึงเล่าต่อ

"ส่วนอย่างที่สามนะเว้ย คานินท้าว่าคนรวยๆ อย่างกูกินอาหารข้างถนนกับเขาไม่ได้หรอก กูเลยกินให้ดู ทั้งส้มตำปูปลาร้า น้ำตก ซุปหน่อไม้ ต้มแซ่บ ท้องเสียเลย เนี่ย...กูเพิ่งออกจากโรงพยาบาลสดๆ ร้อนๆ เพิ่งขับรถออกมาเมื่อกี้นี้เอง"

"หา! มึงทุ่มสุดตัวขนาดนี้เลยเหรอวะเป็ง ท่าจะเป็นเอามากนะมึง" ภูริชร้องอุทานตกใจ

"อย่าว่าแต่มึงเลยไอ้ภู กูยังงงตัวเองเลย" ผมบอกแล้วขำ "แต่ที่เพื่อนมึงแนะนำมาสามอย่างน่ะ ได้ผลจริงๆ นะเว้ย แต่ไม่ใช่ว่ากูแค่ทำตามเฉยๆ เท่านั้น มันมาจากอินเนอร์ข้างในด้วย"

"เออ ถ้าไม่มีอินเนอร์มึงคงไม่ทำขนาดนั้นหรอก กูถามมึงตรงๆ ละกัน ถ้าเขามาหามึงที่คอนโดคืนนี้ มึงจะเผด็จศึกเขาเลยหรือเปล่าวะ"

ฟังคำถามของเพื่อนแล้วผมอยากจะหัวเราะเป็นภาษาสโลเวเนียซะจริงๆ "กูเนี่ยทั้งโสดทั้งซิงมาตั้งหลายปี ถ้าเป็นผู้หญิงนี่กูยังพอนึกออกว่าจะทำยังไงนะเว้ย แต่พอเป็นผู้ชาย กูบอกตรงๆ ว่า...กูทำไม่เป็นว่ะ"

เพื่อนผมหัวเราะก๊ากใหญ่เลยพอผมพูดจบ ผมจึงเคืองนิดหน่อย "มึงขำอะไรวะไอ้ภู"

"ขำมึงนั่นแหละ แล้วงี้จะเอาไง จะปรึกษาเพื่อนกูอีกไหมเรื่องนี้ มันน่าจะสอนมึงได้อยู่หรอก" ภูริชพูดไปขำไป

"ไม่เอาเว้ย" ผมรีบแย้ง "เรื่องนี้กูหาข้อมูลเองได้ อีกอย่าง กูยังไม่ได้คิดจะทำอะไรอย่างงั้นเร็วๆ นี้ซะหน่อย ศึกษาดูใจกันก่อนสิวะ"

"เออๆ แล้วแต่มึงละกัน เรื่องของมึงนี่หว่า จะทำเมื่อไหร่ที่ไหนก็ตามสบายละกัน"

"อือ ยังไงๆ กูขอบคุณมึงมากเลยนะเว้ยที่ช่วยหาเพื่อนมาให้คำแนะนำดีๆ แบบนี้"

"ไม่เป็นไร มึงอย่าลืมโทรไปเล่าให้เพื่อนกูฟังด้วยละกัน มันจะได้ดีใจ บอกตรงๆ นะเว้ย ตอนแรกที่กูฟังเนี่ย กูนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่ามันจะได้ผล"

"ถ้ามันมีอินเนอร์ด้วยซะอย่าง ยังไงๆ มันต้องได้ผลอยู่แล้ว จริงไหม" ผมทำเป็นคุยโว

"เออ...กูก็ว่างั้น"

"แล้วนี่มึงอยู่ไหน" ผมเปลี่ยนเรื่องถาม

"เพิ่งจะมาถามเอาตอนนี้นะมึง อยู่ฟิตเนสในคอนโดนี่แหละ แล้วมึงล่ะ วันนี้จะไปไหน"

"มีประชุมเตรียมงานอบรมทั้งบ่ายเลยว่ะ คราวนี้ไปจัดให้องค์กรใหญ่โคตร มีคนอบรมเป็นร้อยเลย กำลังวางแผนว่าจะซอยออกเป็นสามรอบดีหรือเปล่า ทำทีเดียวร้อยคนไม่ไหวหรอก"

"โห...งั้นงานนี้คงได้เงินเยอะสิ"

"อืม...พอตัวอยู่ เออๆ เดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะเว้ย ทีมงานกูโทรตามกูละ สงสัยกลัวว่ากูจะลืม"

"เออๆ ไว้ค่อยคุยกันเพื่อน ขอให้มึงโชคดีคืนนี้ละกัน"

คำอวยพรของภูริชถูกใจผมไม่น้อย ผมจึงอวยพรมันกลับบ้าง "กูก็ขอให้มึงหาแฟนใหม่ได้เร็วๆ ด้วยละกันไอ้ภู"

(http://bit.ly/1S1zfGS)

คานิน...

กว่าผมจะเสร็จงานวันนี้ก็ปาเข้าไปห้าทุ่ม ลูกค้ามาเยอะเป็นพิเศษกว่าทุกวันไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร จึงใช้เวลาเก็บกวาดและจัดการค่อนข้างมาก ขยะเยอะกว่าปกติอีกด้วย แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับว่าผมโดนลูกค้าด่าอีกแล้ว คราวนี้เป็นฝรั่งเสียด้วย แถมผู้จัดการยังด่าซ้ำอีกรอบ เป็นอย่างนี้บ่อยๆ คงมีผลกระทบกับงานที่นี่แน่

ผมจึงต้องแบกหน้าเครียดๆ มาหาเป็งที่คอนโด ตอนแรกว่าจะโทรไปยกเลิกแล้วเพราะไม่มีกะจิตกะใจจะมา แต่คิดไปคิดมา รับปากแล้วไม่ควรจะโยกโย้โยเยเหมือนเด็กๆ เดี๋ยวจะขาดความน่าเชื่อถือ

ดูเหมือนการปรากฎตัวในล็อบบี้คอนโดสุดหรูกลางกรุงของผมจะเป็นที่แปลกประหลาดต่อธารกำนัลมากทีเดียว ใครผ่านไปมาต่างพากันมองผมแปลกๆ คงสงสัยว่าแต่งตัวแบบนี้สามารถมีห้องหรือเพื่อนอยู่ที่นี่ได้ด้วยหรือ โชคดีที่เป็งนั่งรอผมอยู่ตรงล็อบบี้อยู่แล้ว พอผมมาถึงจึงตรงรี่เข้ามาทักทันที ผมจึงรู้สึกไม่ขัดเขินนานเกินไป

"คานิน ทำไมมาช้าจังล่ะ เพิ่งเลิกงานเหรอ" นั่นคือคำถามแรกของเป็ง

ผมพยักหน้าแล้วหันไปมองรอบๆ ที่นี่ดูหรูหรามากเสียจนทำให้ผมตัวลีบเล็กไปเลย ให้มาคนเดียวคงไม่กล้ามาแน่ๆ

"ไปเลยไหม" เป็งถามเมื่อเห็นผมยังคงสนใจอย่างอื่นอยู่

ผมหยุดความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองแล้วหันมาพยัก จากนั้นเป็งจึงเดินนำผมไปที่บริเวณลิฟต์ ก่อนจะกดปุ่มและพาผมหายเข้าไปในกล่องเหล็ก จนสุดท้ายมาหยุดยืนอยู่ในห้องของเป็ง

"นั่งก่อนสิ คานินกินอะไรมาหรือยัง"

ผมเดินไปนั่งลงบนโซฟาชุดรับแขกแล้วมองสำรวจไปรอบๆ ห้องที่แบ่งเป็นสัดส่วนไว้เป็นอย่างดี เห็นความหรูหราของห้องนี้แล้วผมนึกไม่ออกเลยว่ามันจะแพงขนาดไหน ห้องผมเทียบไม่ได้เลยแม้แต่นิดเดียว

"ยังครับ" ผมบอกเป็งไปตามตรง

"งั้นกินอะไรหน่อยไหม พอดีผมเพิ่งทำสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสเสร็จเมื่อกี้นี้เอง ไม่รู้ว่าคานินจะชอบกินหรือเปล่า"

"คุณเป็งทำเองเหรอครับ" ผมถามอย่างทึ่งๆ

"ใช่ ผมชอบทำอาหารกินเอง งั้นเดี๋ยวผมไปเอามาให้นะ ผมจะกินด้วย ยังไม่ได้กินเหมือนกัน"

ผมพยักหน้าแล้วมองตามแผ่นหลังของเป็งที่เดินลิ่วหายเข้าไปในครัว ไม่นานจึงเดินถือจานสองจานออกมา พอวางจานลงตรงหน้าผมจึงอวดใหญ่

"ผมชอบกินสปาเก็ตตี้ไวท์ซอสมาก ทำง่ายด้วย ผมทำอร่อยนะ ลองกินดู สูตรนี้ได้มาจากอิตาลี ส่วนผสมทุกอย่างมาจากอิตาลีหมดเลย ทำเป็นพิเศษให้คานินโดยเฉพาะเลยนะ"

ผมได้แต่ยิ้มน้อยๆ อดตื้นตันใจหน่อยๆ ไม่ได้ที่เป็งดูใส่ใจผมมากขนาดนี้ ผมใช้ส้อมพันเส้นสปาเก็ตตี้ขึ้นมาชิมแล้วยิ่งอดทึ่งในรสชาติไม่ได้

"อร่อยไหม" เป็งถามและคอยลุ้น

ผมพยักหน้าและยิ้มพอใจ "อร่อยครับ"

ถึงผมจะกินอาหารบ้านๆ เป็นหลัก แต่พอกินอาหารฝรั่งเป็นอยู่บ้าง เพราะมักได้อาหารหรือขนมที่เหลือจากร้านไปกินเป็นประจำ พอช่วยให้คุ้นเคยกับอาหารฝรั่งอยู่บ้าง ไม่ถึงกับรู้สึกแปลกแยก

เป็งตักกินอย่างเอร็ดอร่อยเช่นเดียวกัน เรากินไปคุยกันไปนิดๆ หน่อยๆ เพราะผมจิตใจผมยังไม่ค่อยปกตินัก พอกินเสร็จผมจึงอาสาไปล้างจานให้ ตอนแรกเป็งไม่ยอม แต่ผมถือวิสาสะหยิบจานไปล้างเสียเลย เป็งจึงมายืนดูผมล้างจานข้างๆ แล้วชวนคุย

"ทำไมวันนี้คานินดูเงียบๆ มีใครว่าอะไรคานินอีกหรือเปล่า"

แน่ะ! มีญาณวิเศษหรือไงหนอถึงได้รู้ดีขนาดนี้

"โดนด่านิดหน่อยครับ" ผมแค่นหัวเราะ รู้สึกสมเพชตัวเองหน่อยๆ

"ล้างจานเสร็จแล้วเล่าให้ผมฟังได้นะ ถ้าอยากเล่า" เป็งบอกพร้อมกับยื่นมือมาขอรับจานที่ผมล้างเสร็จแล้วไปคว่ำให้

- - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + - - + 

เสร็จจากล้างจานแล้ว ผมกับเป็งมานั่งที่โซฟาคุยกันที่โซฟาตามเดิม นั่งลงแล้วผมมองไปรอบๆ ห้องเพราะยังไม่รู้จะคุยอะไรดี

"ว่าไง อยากเล่าให้ผมฟังหรือเปล่า ผมฟังได้นะ เผื่อจะช่วยให้คานินสบายใจขึ้น" เป็งไม่ลืมทวงถาม

เห็นเป็งอยากฟังขนาดนั้นผมจึงต้องเล่าให้ฟังตามคำขอ "วันนี้มีลูกค้าสั่งกาแฟแล้วบอกว่าผมทำให้ผิดสูตร เขาบอกว่าที่เคยกินที่อเมริกาไม่ใช่รสชาติแบบนี้ ผมพยายามอธิบายว่าสูตรของไทยไม่เหมือนอเมริกา แต่เขาไม่ฟัง หาว่าผมทำให้ผิด ด่าผมว่าโง่ด้วย"

เป็งตกใจไม่น้อยตรงประโยคสุดท้าย "ขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วคนไทยหรือฝรั่งล่ะ"

"ฝรั่งครับ แล้วเขาให้ผมเรียกผู้จัดการมาคุยด้วย สุดท้ายตกลงว่าจะให้ทำให้ใหม่ แต่ก็นั่นแหละ ผมโดนผู้จัดการด่าอีก ให้ผมชดใช้ค่ากาแฟแก้วนั้นด้วย มีเรื่องบ่อยๆ แบบนี้ผมไม่รู้จะผ่านโปรหรือเปล่า" ผมบอกด้วยสีหน้ากังวล

เป็งจึงส่งยิ้มมาให้กำลังใจ แต่ยังไม่ทันพูดอะไรผมกลับชิงพูดก่อน

"ช่างมันเถอะครับ ว่าแต่ว่า...คุณเป็งจะให้ผมชดใช้เรื่องที่ผมทำคุณเป็งท้องเสียจนเข้าโรงพยาบาลยังไงล่ะครับ"

ผมชวนเข้าเรื่องเสียเลย ตอนนี้ดึกมากแล้ว ผมคงอยู่นานมากไม่ได้

"อ้อ จะคุยเลยเหรอ" เป็งถามอย่างไม่แน่ใจ

"ครับ พอดีผมเลิกดึกไปหน่อย คงคุยนานไม่ได้ เดี๋ยวจะกลับดึก พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้าอีก"

"อ้อ จริงด้วยสิ เอางี้ละกัน ความจริงคานินไม่ต้องทำอะไรมากหรอก แค่ตอบคำถามผมมาตรงๆ ก็พอ"

ผมขมวดคิ้วมองคนที่นั่งเอามือประสานกันตรงหน้าอย่างแปลกใจ หนุ่มตี๋คิ้วหนายิ้มเจ้าเล่ห์จนผมนึกระแวง

"คานินสัญญาผมนะว่าจะตอบคำถามผมตรงๆ ตามความเป็นจริงทุกอย่าง"

ผมพยักหน้ายอมรับข้อตกลงไปก่อน แม้ว่ายังไม่รู้เลยว่าเป็นเรื่องอะไร "ครับ"

"วินไม่ใช่ลูกของคานินใช่ไหม"

ว่าแล้วไหมล่ะ ผมนึกอยู่แล้วเชียวว่าเป็งคงสงสัยเรื่องนี้ ผมจึงได้แต่หน้าเหวอและอ้าปากค้าง อาการเศร้าสลดหดหู่เมื่อสักครู่หายเป็นปลิดทิ้ง แต่สัญญาไปแล้วคงต้องพูดความจริง

ผมกลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น มองหน้าเป็งแล้วยิ้มแหยๆ ก่อนจะส่ายหน้าแทนการตอบคำถาม

"แล้วคานินโกหกผมทำไม" เป็งถามต่อทันที คงกะไม่ให้ผมได้พักหายใจหายคอกันเลย

"เอ่อ...คือ..." ผมไม่รู้จะตอบยังไง

"กลัวผมจีบเหรอ"

ผมตกใจจนแทบตกโซฟาพอเป็งพูดตรงจุดเป๊ะ "เอ่อ..."

"ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าคานินไม่เต็มใจ...แค่บอกผมว่าไม่ชอบ ผมก็แค่ผิดหวังแค่นั้นแหละ รู้ไหม...ผมเคยชอบสาวมีเขี้ยวก็จริงนะ แต่พอเจอหนุ่มมีเขี้ยวอย่างคานิน ผมลืมสาวมีเขี้ยวในฝันไปเลย ผมชอบคานินตั้งแต่แรกเจอเลยนะ เอาอย่างงี้ดีไหม คานินบอกผมมาคำเดียวว่า...คานินอยากลองคบกับผมดูหรือเปล่า ถ้าอยาก...ผมก็จะเดินหน้า แต่ถ้าไม่อยาก...ผมก็จะถอย"

เจอรุกเข้าไปเต็มๆ แบบนี้ผมยิ่งเหวอจนหน้าเหลอ ให้กลับบ้านตอนนี้ไม่รู้ว่าจะกลับถูกหรือเปล่า ถ้าเป็นผู้ชายทั่วไป เป็งอาจโดนผมเตะจนล้มคว่ำไปแล้ว แต่ทำไมผมไม่ทำอย่างนั้น? ผมควรเป็นผู้ชายที่ชอบผู้หญิงเท่านั้นไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมผมนั่งเฉยให้ผู้ชายคนนี้แทะโลมอยู่ได้! แปลว่าผมโอเคที่ถูกผู้ชายจีบหรือเปล่า?

'ต่อต้านสิคานิน ทำไมไม่ต่อต้านผู้ชายคนนี้วะ ทำไมไม่ต่อยให้หน้าคว่ำไปเลย!' ผมคิดในใจ แต่กลับทำได้แค่คิดเท่านั้น

"ว่าไงล่ะคานิน คานินรู้สึกดีๆ กับผมมากพอที่จะลองคบกับผมดูหรือเปล่า"

ว่าแล้วเป็งจึงเขยิบจากโซฟาฝั่งตรงข้ามมานั่งข้างๆ ผม คอยจ้องมองอย่างใจจดใจจ่อ น้ำลายผมเหนียวจนแทบกลืนลงคอไม่ได้ มือไม้เย็นจนแทบชาและสั่นหน่อยๆ มิหนำซ้ำหัวใจยังเต้นรัวยังกะกลองรบจนแทบหลุดออกมาเต้นข้างนอก

"ผมยอมรับว่ามันเร็วไปที่ถามอย่างงี้ แต่ถ้าเรารู้สึกดีๆ ต่อกัน เราก็จะได้ลองสานสัมพันธ์กันไง เผื่อเราสองคนจะได้เจอความรักที่ตามมามาตั้งนานแล้วก็ได้ คานินรู้สึกดีกับผม...เหมือนที่ผมรู้สึกดีกับคานินหรือเปล่า"

เป็งถามเป็นรอบที่สาม ผมรู้ว่าคงถ่วงเวลาให้นานกว่านี้อีกไม่ได้ ไม่ใช่เพราะลำบากใจที่ต้องตอบหรอก ผมรู้สึกเขินต่างหาก อยู่ดีๆ จะให้บอกว่ารู้สึกดีๆ กับผู้ชายก็กระไรอยู่ ขนาดผู้หญิงผมยังอายเลย นับประสาอะไรกับผู้ชาย

พอรวบรวมความกล้าได้แล้วผมจึงตัดสินใจตอบไปว่า...

"จะถามทำไมตั้งหลายรอบล่ะครับ ถ้าผมไม่รู้สึกดีๆ คงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้หรอก"

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 28-01-2016 01:35:41
ถ้าจะขนาดนี้นะ จ้างเป็นพ่อบ้านส่วนตัวเลยไหม ^^
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 28-01-2016 02:04:28
หุหุหุ คราวนี้เป็งก็เดินหน้าจีบคานินได้เต็มที่แล้วใชมั้ย :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 28-01-2016 09:02:31
    หายไปหลายวัน วันนี้ได้อ่านแล้ว
   เป็งเดินหน้าเต็มสูบยังคับ คานินใจอ่อนอ่ะ คราวนี้คานินจะอ่อนไหวจนรักเป็งแน่ๆ ๕๕๕
   รอ รออ่านตอนต่อไปคับ อยากรุ้เป็งจะเดินหน้ายังไงต่อ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 28-01-2016 09:11:30
ห๊ะ ขอคบเลยเหรอเป็ง
ไม่ต้องจีบแล้วใช่ป่ะ 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 28-01-2016 10:04:00
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 28-01-2016 10:15:26
 :L2: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 28-01-2016 11:11:33
ฮิ้วววววววว แบบนี้ทางสะดวกแล้วใช่มั้ย
เดินหน้าเต็มกำลังจ้าาาาาาาาา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 28-01-2016 12:27:27
เป็งรุกหนักมากกกกก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 28-01-2016 13:33:26
คานินอย่าพึ่งเปิดทางให้เขาหมดสิลูกกกกก ตายแล้วๆ คราวนี้ตาพระเอกยิ่งได้ใจแน่เลย

ขอบคุณค่า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: lovenadd ที่ 28-01-2016 20:11:30
ชอบที่พาไปกินส้มตำน่ะ  ไม่รู้จะสงสารหรือจะหัวเราะดี
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 28-01-2016 20:21:48
คุณเป็งนี้เขาเป็นนี้ร้ายกาจอะดังคานินหมดทุกทางขนาดนี้ ....อายยยย  :-[ :o8: รู้สึกเขินแทน
จะว่าเจ้าเลห์ไหมก็นิดหน่อยนะแต่มันแบบน่ารักอะ
ส่วนคานินก็น่ารักใสซื่อมาก  :mew1: :mew1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 29-01-2016 03:33:19
คานินเขินน่ารักอะ เหอๆๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: PFlove ที่ 29-01-2016 10:00:36
มาอ่านสามตอนรวด น่ารักมากเลยผู้ชายมีเขี้ยว อ่านแล้วสงสารชีวิตของคานินเลย เคยทำงานคล้ายกันเบื่อมากบางทีต้องเจอกับผู้รับบริการที่งี่เง่า เอาแต่ใจ แต่เราก็ทำอะไรไม่ได้นอกจาก "ลูกค้าคือพระเจ้า" ฮาๆ

ส่วนเป็งนี้ดูจะติดหรูนะไม่ค่อยชอบนิดหน่อยตรงที่ชอบพูดเหมือนกับว่าคานินแตกต่าง แอบสมน้ำหน้าที่โดนคานินพาไปกินส้มตำนะแต่ก็สงสารนิดหน่อยตรงที่ท้องเสียนี้แหละแต่ก็ดีนะสุภาพบุรุษพูดให้คานินไม่รู้สึกผิดว่าตัวเองกินเข้าไปเองไม่มีใครบังคับ

ตอนท้ายนี้ก็เจ้าเล่ห์นะดักทางคานินจนได้ จนต้องยอมรับว่านั้นคือแผนการ ร้ายกันคจนละแบบ เป็งร้ายกาจแบบนักวางแผนส่วน คานินนี้ร้ายแบบใส่ซื่อไม่ได้ตั้งใจจะร้าย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 29-01-2016 13:26:03
 :impress3: คานินตอบคำถามได้โดนใจมาก ๆ เป็งหางานให้คานินทำเลย ไอ้ร้านบ้านี่อะไรก้อโทษเด็กไปหมด ลูกค้าไฮโซเนี่ยชอบหาเรื่องคนไปหมดจริงๆ  คิดว่ามีเงินก้อจะได้ดังใจไปหมดทุกอย่าง  :m16: เป็งทำงานเป็นออกาไนท์แน่ ๆ เลยน่ะ เงินดีน่ะเนี่ย  :mew3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №4 คะแนนสงสาร ⓟ3 ▦28.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 30-01-2016 17:08:27
แหมๆ ประโยคสุดท้ายนี่โดนมาก 555+
แปลว่าคานินให้โอกาสแล้วสินะ

จะทำไงต่อละเนี่ย รอตอนต่อไปๆ

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 จูบแรก ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 31-01-2016 22:36:05
ผมอยากอ่านเร็วๆแล้วอ่ะ ๕๕๕
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Cotton Candy ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 31-01-2016 23:29:12
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 5 Cotton Candy


(http://bit.ly/1RX8ogL)

คานิน...

"คานินหมายความว่าไง" สีหน้าของเป็งดูงุนงงมาก ขมวดคิ้วจนหน้าผากย่นเป็นปื้น

ผมทำหน้ายุ่งยากใจ ที่พูดไปเมื่อกี้คิดว่าชัดเจนในตัวมันเองแล้ว ทำไมยังไม่เข้าใจอีก แล้วจะให้ผมอธิบายยังไง พูดตรงๆ ก็เขิน พูดอ้อมๆ ก็ไม่เข้าใจ คุณเป็งนะคุณเป็ง

"ก็...ก็รู้สึกดีไงครับ" ผมกลั้นใจพูดไป

เป็งจ้องตาผมเขม็งเหมือนกับจะให้แน่ใจว่าตัวเองไม่ได้ฟังผิดไป ผ่านไปสักครู่จึงคลี่ยิ้มจนกระทั่งกลายเป็นยิ้มกว้างสดใส

"หมายถึง...รู้สึกดีกับผมน่ะเหรอ"

แน่ะ เป็งยังจะให้ผมยืนยันอีก ผมจึงพยักหน้าเบาๆ เป็นเชิงตอบรับ

"เย้!"

เป็งร้องอุทานเสียงดังพร้อมกับชูสองมือขึ้นไปในอากาศ เจ้าตัวโผเข้ากอดผมที่กำลังงงจนหน้าเหวอ แต่ทันทีที่ผมได้สัมผัสอ้อมกอดอุ่นๆ ความรู้สึกต่อต้านกลับลดลงอย่างน่าประหลาด จะว่าไปผมเหงามานานหลายปีแล้วเหมือนกัน มัวแต่ทำงานหาเงินจนแทบไม่มีเวลาหาแฟน แม้ว่าเป็นผู้ชายเหมือนกัน ผมกลับรู้สึกดีจนไม่อยากเชื่อความรู้สึกของตัวเองเลย อ้อมกอดของผู้ชายอบอุ่นมากขนาดนี้เชียวหรือ นี่หรือเปล่าคือสิ่งที่ผมตามหามาตลอดชีวิต

ผมกอดตอบเป็งเบาๆ ออกจะขัดเขินอยู่บ้างเล็กน้อย แต่พอปรับตัวปรับใจได้จึงเขยิบแนบชิดแล้วหลับตาพริ้ม ถ่ายทอดและรับความอบอุ่นจากหัวใจให้แก่กันและกัน เราสองคนคงต่างต้องการชดเชยให้กับหัวใจตัวเองที่อ้างว้างมานานหลายปี

เพราะอย่างนี้หรือเปล่าผมถึงกล้าเสี่ยงมาหาแม้ว่าเพิ่งรู้จักเป็งได้แค่สองสามวัน ผู้ชายคนนี้ส่งแรงดึงดูดกับผมมากจนคล้ายกับผมโดนสะกดจิตไปแล้ว ผมไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อนเลย

พอหนำใจแล้วเป็งจึงค่อยๆ ดันไหล่ผมออก ใบหน้าหล่อใสจ้องเข้ามาในคู่ดวงตาของผม รอยยิ้มจากริมฝีปากบางยังคงระบายไปทั่วใบหน้า แววตาที่ช่างอบอุ่นของเป็งสะกดผมนิ่ง

"ผมดีใจนะคานิน ดีใจมากๆ เลย คานินเป็นรักแรกของผมแล้วนะ"

คำพูดของเป็งฟังชัดถ้อยชัดคำ หัวใจของผมยอมรับและบันทึกประโยคนั้นไว้แล้วอย่างดี

"เราเพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันเองนะครับคุณเป็ง รักแล้วเหรอครับ" ผมถามอย่างอายๆ

เป็งยิ้มตาหยี ก่อนจะขำเบาๆ อย่างเอ็นดู

"คานินรู้ไหม ความรักน่ะ...เกิดขึ้นได้ทันทีที่เราเจอกัน ความรักไม่ต้องใช้เวลาหรอก แต่สิ่งที่ต้องใช้เวลาคือความเชื่อใจกันต่างหากล่ะ ผมรู้สึกรักคานินตั้งแต่แรกเจอเลยนะ อาจจะเป็นเพราะผมรอคนอย่างคานินมาเป็นสิบๆ ปีแล้วก็ได้จึงรู้สึกมากขนาดนี้"

ผมเพิ่งเคยได้ยินความคิดอย่างนี้เป็นครั้งแรก ใครๆ มักจะบอกเสมอว่าความรักต้องการเวลา แต่พอคิดตามที่เป็งพูดผมชักจะเห็นด้วย ถ้าไม่เกิดความรักหรือความรู้สึกดีๆ ขึ้นมาก่อน ผมคงไม่มานั่งอยู่ตรงนี้ให้ผู้ชายกอดแน่ๆ แถมยังเป็นผู้ชายที่ผมแทบไม่รู้จักเลยด้วยซ้ำ ถ้าไม่มีความรักหรือความชอบพอเปิดทางให้ คนสองคนคงไม่มีวันได้มารู้จักหรือคบหากัน

"มันไม่เร็วไปใช่ไหมครับคุณเป็ง"

"คานินจะเปลี่ยนใจเหรอ" เป็งเอียงคอมอง

"เปล่าครับ แต่ไม่รู้ว่า...ผมใจเร็วไปหรือเปล่า ยังงงๆ ตัวเองอยู่เลย"

"ไม่เร็วไปหรอกคานิน" เป็งตอบคำถามแทนผม "เรายังไม่มีอะไรผูกมัดกันซะหน่อย ศึกษาดูใจกันก่อนก็ได้ ตอนนี้...เราแค่ทำความรู้จักกันให้มากขึ้น แต่ผมเชื่ออย่างหนึ่งนะ ถ้าเราเริ่มต้นด้วยความรู้สึกดีๆ และรักษาความรู้สึกดีๆ แบบนี้ไว้ ความเชื่อใจจะตามมาเอง"

"คุณเป็งพูดดีจังเลย" ผมมองเป็งด้วยสายตาชื่นชม

เป็งยิ้มพอใจ ไม่รู้ว่าเขินด้วยหรือเปล่า แต่ทำเอาผมเขินด้วย ต่างคนต่างเขินไปเลย ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าผู้ชายตัวโตๆ เขินแล้วดูน่ารักไปอีกแบบ แต่เป็นแบบที่ไม่เคยเห็น

"คานิน...ผมชอบเขี้ยวของคานินมากเลยรู้ไหม น่ารักดี มีใครเคยชมคานินแบบนี้หรือเปล่า"

โดนชมซึ่งๆ หน้าอย่างนี้ผมยิ่งเขินใหญ่จนต้องก้มหน้างุดๆ แต่แอบชำเลืองมองเป็งบ้าง

"มีแต่คุณเป็งนี่แหละ" ผมตอบเสียงมุบมิบ

เป็งขำเบาๆ ชอบใจ บรรยากาศตอนนี้อบอวลไปด้วยไออุ่นที่แผ่ซ่านออกมาจากหัวใจของเรา

"แสดงว่าผม...เป็นคนแรกที่ชมคานินเรื่องนี้...ใช่ไหม"

ผมเงยหน้ามองเป็งแล้วพยักหน้ายอมรับ เป็งยิ้มกริ่มแล้วปล่อยมือลงจากไหล่ของผม

"ดึกแล้ว คานินจะกลับบ้านเลยหรือเปล่า"

พอเป็นเปลี่ยนเรื่องคุย ผมค่อยหายใจสะดวกขึ้นหน่อย ไม่งั้นคงม้วนต้วนจนมือพันกันเป็นแน่ คิดแล้วตลกตัวเอง อาการของผมไม่ต่างจากหญิงสาวที่โดนหนุ่มที่แอบชอบจีบเลย

"ครับ" ผมพูดครับไปโดยแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองหมายถึงอะไร

"เหรอ" เป็งอึ้งเล็กน้อย "แล้ว...ถ้าผมจะขอให้คานินนอนค้างที่นี่กับผม คานินจะว่ายังไง ผมมีอะไรอยากคุยกับคานินเยอะเลยนะ แต่ไม่ต้องกลัว ผมไม่ทำอะไรคานินหรอก" เป็งยืนยันเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่หาใช่สิ่งที่ผมกังวลที่สุดไม่

"แต่ว่า...พรุ่งนี้เช้าผมต้องช่วยน้องสาวขายหมูปิ้ง"

"งั้นผมไปส่งแต่เช้ามืดเลยก็ได้ จะได้ไปช่วยขายด้วย ดีไหมคานิน" เป็งอาสา

"เอ่อ..." ผมยังมีท่าทางลังเล

เป็งคงนึกอะไรขึ้นมาได้จึงรีบบอกในขณะที่ผมยังไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง "โทษที ผมกดดันคานินมากไปหน่อย ถ้าคานินอยากกลับตอนนี้ก็ได้นะ เดี๋ยวผมไปส่ง"

"ไม่เป็นไรครับ" ผมรีบค้านจนเป็งคงงงไปเหมือนกัน "ผม...อยู่คุยกับคุณเป็งก็ได้ครับ ผมมีเรื่องอยากคุยกับคุณเป็งเหมือนกัน เราจะได้รู้จักกันมากกว่านี้ไง"

ดูผมพูดเข้าสิ แทนที่จะกลับบ้านดันคิดจะมานอนห้องเดียวกับผู้ชายที่รู้ทั้งรู้ว่าชอบตัวเองอยู่ แถมเพิ่งเจอกันแค่ไม่กี่ครั้งอีกต่างหาก

"คานินอยากอาบน้ำก่อนไหม เดี๋ยวเราค่อย..." เป็งทำสายตาเจ้าเล่ห์ขู่ผม

"อ้าว...ไหนว่าจะ..." ผมรีบท้วงลนลาน

"ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างงั้นซะหน่อย" เป็งหัวเราะชอบใจ "คานินเพิ่งเลิกงานมาเหนื่อยๆ อาบน้ำแล้วจะได้สดชื่นไง ไม่ต้องห่วงนะ ผมมีเสื้อกับกางเกงให้ยืมใส่ ยกเว้นแต่...อันที่อยู่ในสุด"

เป็งพูดทำหน้าทะเล้นตอนท้ายเป็นเชิงหยอกเล่น

"ผมใส่ตัวเดิมไปก่อนก็ได้"

"จะดีเหรอ มันอับนะ ถ้าจะใส่ตัวเดิม ไม่ต้องใส่เลยดีกว่า จะได้นอนสบายๆ"

"ไม่เอาหรอก" ผมนิ่วหน้า พอคุยกันถึงเรื่องที่อยู่ต่ำกว่าระดับเอวแล้วผมชักกระดากใจ

"เอางี้ เดี๋ยวผมจะลองค้นๆ ดูว่าผมมีที่ยังไม่ได้ใส่อยู่ไหม ถ้ามีจะให้ยืม คานินไปอาบน้ำก่อนดีกว่า มา...ตามผมมา"

เป็งเชื้อเชิญในฐานะเจ้าบ้าน ก่อนจะลุกขึ้นและนำทางไป แต่แล้วกลับหยุดชะงักหันกลับมามองผม คนตัวขาวกว่าเอียงคอมองอย่างสงสัย

"อ้าว ตามผมมาสิคานิน กลัวอะไรหรือเปล่า ไม่ต้องกลัวผมหรอก ผมยังไม่เคย ทำไม่เป็นด้วย"

แน่ะ พูดทะลึ่งอย่างนี้นั่นแหละยิ่งทำให้ผมกลัว...ซะที่ไหน

ไม่รู้ว่าเป็งพูดจริงหรือพูดเล่น แต่เล่นเอาผมขำ ความจริงผมไม่กลัวเรื่องนั้นหรอก แค่รู้สึกนิดหน่อยว่าทุกอย่างมันดูรวดเร็วไปหมดจนผมตั้งตัวไม่ทัน

ผมลุกขึ้นแล้วเดินตามเป็งไปอีกห้องหนึ่งที่แยกไว้เป็นสัดส่วนต่างหาก พอเปิดเข้าไปจึงเห็นห้องนอน เป็งเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวที่ตู้เสื้อผ้าแล้วเอามาส่งให้จนถึงมือผม พอได้สัมผัสเนื้อผ้าแล้ว ผมพบว่าผ้าขนหนูสีขาวของเป็งนุ่มน่าใช้มากๆ ไม่แข็งกระด้างเหมือนของที่ผมใช้เลย

"ตามสบายเลยนะคานิน คิดว่าเป็นห้องของคานินเองละกัน เดี๋ยวผมเอาเสื้อผ้ามาวางไว้ให้บนเตียงนะ ไม่ต้องกลัวผมแอบดูหรอก เดี๋ยวผมจะออกไปนั่งดูทีวีข้างนอก อาบน้ำเสร็จแล้วบอกผมละกัน"

เป็งไม่วายแอบหยอกเล่นด้วย ผมยิ้มแล้วพยักหน้ารับคำอย่างว่าง่าย

(http://bit.ly/1S1zfGS)

เป็ง...

"คานินรู้ไหม คานินเป็นคนแรกที่ผมรู้สึกดีด้วยแล้วพามานอนด้วยที่ห้องนี้เลยนะ"

สิ้นเสียงของผม หนุ่มเขี้ยวที่นั่งอยู่ข้างๆ หน้าเหวอเหมือนกลัวอะไรบางอย่าง

"คุณเป็ง!" คานินเรียกผมด้วยสีหน้าตกใจเล็กน้อย ก่อนจะหยิบหมอนที่กอดไว้อยู่มาตีแขนผมเบาๆ สองสามครั้ง

สงสัยเจ้าตัวคงเขิน ผมยกมือป้องเป็นพัลวัน ถึงกระนั้นกลับรู้สึกดีที่ได้เล่นอย่างนี้ สักพักคานินจึงหยุด เห็นคานินกล้าหยอกเล่นด้วยแล้วอาการเกร็งของผมจึงค่อยคลายลงไป

"คานินกลัวเรื่องนั้นเหรอ ไม่เห็นต้องกลัวเลย เมื่อไหร่พร้อมมันจะไปตามธรรมชาติเอง" หนุ่มตี๋หัวเราะร่วน "ว่าแต่...คานินเคยมีแฟนมาบ้างหรือเปล่า แล้วตอนนี้...โสดอยู่ใช่ไหม"

พูดแล้วผมแอบขำตัวเอง ขอคบเขาไปแล้ว แต่เพิ่งมานึกได้ว่าลืมถามเรื่องนี้เอาตอนนี้

"เคยมีครับ แต่ตอนนี้โสดสนิท ผมมีภาระต้องดูแลเยอะไงครับ ไม่มีเวลาไปหาแฟนหรอก"

"แต่คราวนี้คานินไม่ต้องวิ่งไปหาแล้ว เพราะแฟนคนนี้...วิ่งมาหาคานินเอง"

ผมสัพยอกแล้วเหยียดขาตรงในท่าสบายๆ รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้นที่มีอีกคนอยู่ร่วมห้อง คานินเห็นผมทำอย่างนั้นจึงทำตามบ้าง ต่างคนต่างปล่อยตัวสบายๆ กึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนเตียง แถมชุดที่ใส่อยู่ก็เป็นชุดนอนที่เบาสบายด้วยกันทั้งคู่ จึงสบายกันไปใหญ่

"คานินเล่าเรื่องแฟนของคานินให้ผมฟังได้หรือเปล่า"

คานินหันมามองผมด้วยท่าทางสงสัย ครุ่นคิดอยู่ไม่นานจึงพยักหน้าตกลง

"ก็รู้จักกันในมหาลัยครับ ผมเรียนที่หอการค้า เขาเป็นรุ่นน้องผมหนึ่งปี เป็นผู้หญิงนะครับ ชื่ออินทิรา เขามีชื่อเล่นนะ แต่ผมไม่ชอบเรียก ชอบเรียกว่าอินทิรามากกว่า เป็นผู้หญิงสวย ฐานะดี ออกแนวคุณหนู ผมรู้สึกชอบเขาตั้งแต่แรกเห็นเลย แต่ไม่กล้าจีบเอง เลยขอให้เพื่อนผู้หญิงที่รู้จักไปช่วยขอเบอร์มาให้ แต่เพื่อนผมดันทำเกินที่ขอให้ช่วย ถามข้อมูลมาให้ผมเพียบเลย ผมเลยได้ข้อมูลที่จะคุยด้วยหลายเรื่อง คิดอยู่หลายวันกว่าจะกล้าโทรไปคุย ผมยังจำได้ วันแรกที่โทรไปนี่เสียงสั่นเลย" คานินหยุดเว้นจังหวะหัวเราะ

"แต่โชคดีที่อินทิรายอมคุยด้วย ผมนึกว่าเขาจะถือตัวตามประสาลูกคนรวย แต่กลับเป็นกันเองดี คุยสนุก หัวเราะง่าย ชอบอะไรคล้ายกัน เราคบกันจนผมเรียนจบ แต่...ตั้งแต่คบกันมา อินทิราไม่เคยบอกที่บ้านเลยว่าเป็นแฟนกับผม เพราะว่าที่บ้านเธอไม่ยอมรับผม ผมรู้สึกแย่เหมือนกันนะ เหมือนต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ ยังไงไม่รู้ พอผมจบออกมาทำงาน เราติดต่อกันน้อยลง สุดท้าย...เธอมีแฟนใหม่ที่ฐานะใกล้เคียงกัน ตอนนั้นผมเสียใจมากนะครับ แต่ไม่นานก็ทำใจได้ คงเป็นเพราะว่าผมรู้ว่ามันต้องเกิดขึ้น แล้วมันก็เป็นอย่างที่ผมคิดไว้ ฟังดูน้ำเน่านะครับ เหมือนดอกฟ้ากับหมาวัดเลย"

ผมพยักหน้ารับรู้เป็นระยะๆ ช่วงแรกคานินเล่าถึงแฟนด้วยรอยยิ้ม แต่ตอนหลังกลับดูเศร้า

"แล้ว...หลังจากนั้นล่ะ" ผมถามต่อ

"ผมไม่มีแฟนอีกเลย นี่ก็สองปีแล้วที่ผมยังไม่มีใคร" คานินพูดเสียงเศร้า ก้มหน้าลงแล้วใช้สองมือตีหมอนเล่นเบาๆ สองสามครั้ง

"แล้วคานินเหงาหรือเปล่าล่ะ" ผมถามต่ออีก

"ก็นิดหน่อย" ตอบโดยไม่หันมามองผม ตีหมอนเล่นอีกสองสามทีแล้วจึงหันหน้ามามองผม

"แล้วคุณเป็งล่ะครับ ไม่เคยมีแฟนจริงๆ เหรอ ไม่น่าเชื่อนะครับ คุณเป็งเป็นผู้ชายที่หล่อมาก ถ้าไม่มีสาวๆ มาชอบเนี่ย ต้องเรียกว่าแปลกสุดๆ คนไม่แอบซุบซิบว่าเป็นเกย์เหรอครับ"

ผมหัวเราะชอบใจไปกับคำถามของคานิน โดยเฉพาะข้อสงสัยสุดท้าย

"แล้วคานินคิดว่าผมเป็นเกย์หรือเปล่าล่ะ" ผมถามกลับเป็นเชิงหยอกก่อนจะตอบคำถาม "ผมจะบอกให้นะ ผมน่ะ...มีสาวๆ มาชอบเยอะเลย บางคนรุกผมหนักเลย เกือบไม่รอดเหมือนกัน แต่สุดท้าย...ผมยังคงเป็นโสดอยู่ รอคนพิเศษของผมไง สงสัยจะเจอแล้วล่ะ"

ผมแอบหยอดให้หนุ่มร่างพอเหมาะพอเจาะเขินเล่นอีกสักหน่อย เจ้าตัวออกอาการเขินเล็กน้อย

ผมหยิบหมอนขึ้นมากอดแนบอกแล้วพูดสืบไป "อย่างที่ผมบอก ผมเจอสาวมีเขี้ยวตอนมอสาม แล้วก็ฝังใจในความน่ารักของเธอ พยายามตามหาสาวมีเขี้ยวมาตลอด หลายปีที่ผ่านมา แต่น่าแปลกนะคานิน ผมไม่เคยเจออีกเลย เพื่อนๆ ผมพยายามจะเชียร์ให้ผมชอบคนนั้นคนนี้ แต่ผมไม่ชอบอยู่ดี เพื่อนบางคนนะ อุตส่าห์ไปหาสาวมีเขี้ยวมาให้ดูตัว แต่ผมก็ไม่เอา ผมตั้งใจแน่วแน่ว่าต้องเจอด้วยตัวเองเท่านั้น ที่บ้านผมเป็นห่วงเหมือนกันนะ แต่ไม่ก้าวก่าย ปกติครอบครัวคนจีนจะเข้มงวดเรื่องนี้มาก สงสัยจะเป็นเพราะผมเป็นลูกชายคนกลางมั้ง เตี่ยกับม้าเลยไม่ค่อยอะไรกับผมเท่าไหร่ มีแต่พี่ชายคนโตที่เตี่ยกับม้าคอยหาสาวมาให้ดูตัวบ่อยๆ เขาชอบทำงาน วันๆ ขลุกอยู่แต่ในร้านอาหาร ไม่ค่อยออกไปไหน มีแต่ผมนี่แหละที่ผ่าเหล่าผ่ากอ มาทำอาชีพอิสระที่ไม่ค่อยมีใครเขาทำกัน"

ผมยิ้มสดใสเมื่อพูดถึงครอบครัว จากนั้นจึงสารภาพความจริงบางอย่างให้คานินฟัง

"ถ้าพูดตรงๆ ผมก็เหงานะ ผมอยากมีใครสักคนเหมือนกัน แต่กลัวเสียฟอร์มด้วยมั้ง เพราะผมเล่นไปสาบานกับเพื่อนไว้ว่าถ้าไม่เจอสาวมีเขี้ยว ผมจะอยู่เป็นโสดจนตาย"

"อ้าว...แต่ผมไม่ใช่สาวนี่ครับ" คานินท้วงขึ้นมาทันที สีหน้าดูตลกจนผมอดขำเบาๆ ไม่ได้

"ช่างมันเถอะคานิน ตอนนี้ผมไม่สนใจแล้ว ที่ผมไม่ได้เจอสาวมีเขี้ยวก็คงเป็นเพราะว่า...ใครบางคนอยากให้ผมเจอหนุ่มมีเขี้ยวไงมากกว่าไง เอ...เขาเรียกว่าบุพเพสันนิวาสใช่ไหม"

ผมกับคานินมองหน้ากันแล้วหัวเราะไปกับความคิดนั้นของผม

"แล้ว...ไม่รู้สึกแปลกๆ เหรอครับที่เปลี่ยนจากสาวมีเขี้ยวมาเป็นหนุ่มมีเขี้ยวอย่างผม"

"แล้วคานินล่ะ รู้สึกแปลกๆ หรือเปล่า" ผมไม่ตอบแต่ถามกลับ

หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ทำท่าครุ่นคิด ก่อนจะยอมพูดออกมาตามตรงโดยไม่อ้อมค้อม

"ถ้าพูดตรงๆ ผมยอมรับว่ารู้สึกแปลกๆ ครับ แต่...ใจหนึ่งผมอยากลองดูว่าผมชอบผู้ชายได้หรือเปล่า ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงคิดแผลงๆ แบบนี้ คงป็นเพราะว่าคุณเป็งไม่เหมือนผู้ชายคนอื่นๆ ที่ผมรู้จักก็ได้ บอกไม่ถูกเหมือนกัน น่าจะเรียกว่า...เคมีเข้ากันมั้งครับ"

เคมีเข้ากันหรือ ผมทวนซ้ำในใจ คงจะเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นผมคงไม่รู้สึกอย่างนี้กับผู้ชายหรอก ที่ผ่านมาผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับผู้ชายที่ไหนมาก่อนเลย

"ผมก็คิดอย่างั้น คิดดูสิ เจอคานินครั้งแรกผมตะลึงไปเลย ไม่เคยเป็นแบบนี้กับผู้ชายที่ไหนมาก่อน สงสัยเราจะเคมีเข้ากันจริงๆ นั่นแหละ"

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสายตากรุ้มกริ่มที่ผมส่งออกไปหรือเปล่า หนุ่มมีเขี้ยวหลบตาเขินไปเลย

"ก็...น่าจะอย่างงั้นแหละครับ ไม่งั้นผมคงไม่มาอยู่ที่นี่กับคุณเป็งทั้งๆ ที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่วันหรอก ถ้าผมเป็นผู้หญิง เขาคงหาว่าผมใจง่ายไปแล้ว แล้ว...เอ่อ...คุณเป็งคิดว่าผมใจง่ายหรือเปล่าครับ"

ผมสะดุดใจกับคำถามของคานินจนต้องหยุดคิด ถ้าเป็นผู้หญิงคนโดนว่าอย่างนั้น แต่ถ้าเป็นผู้ชายล่ะ

"ผมไม่รู้ว่าคานินใจง่ายหรือเปล่านะ ถ้าคานินใจง่าย...ผมคงใจง่ายมากกว่าอีก เราตัดสินใจไปแล้ว ผมว่าทุกอย่างมีเหตุผลของมันนะ คงมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เราสองคนตัดสินใจแบบนี้ ในเวลาแค่นี้"

คานินยิ้มพอใจ เผยให้เห็นเขี้ยวเสน่ห์ที่ผมหลงใหลจนเผลอมองดูซะเพลิน

"ผมรู้แล้วว่าทำไมผมรู้สึกดีกับคุณเป็งเร็วขนาดนี้ สงสัยผมจะชอบความคิดของคุณเป็ง จริงๆ นะครับ ผมว่าคุณเป็งมีความคิดไม่เหมือนใครดี ไม่ใช่เพี้ยนนะครับ" คานินแก้ตัวให้แล้วขำเบาๆ "ผมว่าคุณเป็งคิดได้คมมาก บางอย่างผมยังไม่เคยคิดแบบนั้นเลยด้วยซ้ำ"

"ผมจะลอยแล้ว" ผมกางแขนออกพร้อมกับทำท่าจะบินเป็นเชิงล้อเลียน

"งั้นผมช่วยจับไว้"

คานินไม่พูดเปล่า รีบคว้ามือสองข้างของผมมาจับไว้ คงตั้งใจทำเล่นสนุกไปอย่างนั้นเอง แต่หารู้ไม่ว่าสัมผัสนั้นทำเอาผมเหมือนถูกไฟฟ้าช็อตไปทั้งตัวจนนั่งนิ่งและตะลึงไปเลย เรามองหน้ากันค้างอยู่อย่างนั้น จนกระทั่งคานินเหมือนรู้ตัวและค่อยๆ ปล่อยมือจากมือผม

"ผมว่าเรานอนกันดีกว่าครับ ดึกแล้ว อีกไม่กี่ชั่วโมงก็ต้องตื่นอีกไปขายของ"

คานินพูดตัดบทแก้เก้อเสียดื้อๆ ผมพยักหน้าเห็นด้วยแม้ว่าจะยังงงอยู่ว่าจะรีบนอนไปทำไม ผมยังมีอะไรหลายอย่างที่อยากคุยกับคานิน แม้จะเสียดายแต่ผมกลับเห็นด้วยไปแล้ว

เราสองคนค่อยๆ เลื่อนตัวลงนอนแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุม ผมเอื้อมมือไปปิดไฟตรงหัวเตียง เพียงแวบเดียวความมืดพลันแล่นเข้าครอบคลุม แต่ยังมีแสงสลัวๆ พอให้มองเห็นรางๆ ได้บ้าง

พอนอนจริงกลับนอนไม่หลับ แม้ว่านาฬิกาจะบอกว่าเกือบตีหนึ่งแล้วแต่ผมยังนอนกระสับกระส่ายไปมา ไม่รู้ว่าคานินจะเป็นเหมือนกันหรือเปล่า ถ้าเดาไม่ผิด คนที่นอนอยู่ข้างๆ คงตกอยู่ในอาการไม่ต่างกัน

ผ่านไปเกือบครึ่งชั่วโมง ผมจึงหันไปมองคานินที่นอนอยู่ข้างๆ แล้วพบว่าคานินหันมาทางผมเหมือนกัน ผมรู้สึกประหม่าและใจเต้นแรง สัญชาตญาณบ่งบอกว่ากำลังจะมีบางอย่างที่สำคัญเกิดขึ้นในไม่ช้านี้

"คานินนอนไม่หลับเหรอ" ผมถามเสียงเบาๆ และออกจะสั่นๆ

"ครับ" ตอบสั้นๆ ด้วยเสียงเบาๆ เช่นกัน

ผมพลิกตัวกลับมาอยู่ในท่านอนหงายตามเดิม ครวญคิดสงสัยว่าสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปนี้จะเป็นยังไง

"ไม่สบายใจอะไรหรือเปล่า" ผมถามเสียงลอยๆ

"เปล่า" คานินตอบเสียงลอยๆ เช่นกัน

ผมได้ยินเสียงเหมือนคานินพลิกตัว คาดว่าคงกลับไปนอนหงายเหมือนเดิมเช่นกัน

"หรือว่า...แอร์มันหนาวไป" ผมเปลี่ยนเรื่องถาม

"เปล่าครับ" คานินยังคงตอบเหมือนเดิม ก่อนจะเรียกผมด้วยเสียงสั่นๆ "คุณเป็ง"

"หืม" ผมขานรับพร้อมกับค่อยๆ เขยิบหัวเข้าไปใกล้ แต่ยังนอนหงายอยู่

"ผม...รู้สึกแปลกๆ"

"แปลกยังไง" ผมถามเสียงสั่นไม่แพ้กัน

ในขณะที่ถาม ผมค่อยๆ เขยิบมือของตัวเองไปเรื่อยๆ จนกระทั่งควานไปเจอมือของใครอีกคน ผมสูดหายใจลึกๆ ก่อนจะค่อยๆ จับมือของคานินไว้แล้วบีบเบาๆ หัวใจผมเต้นรัวเลยคราวนี้ คานินไม่สะบัดมือหนี เป็นสัญญาณบอกว่าถ้าผมจะทำอะไรคานินคงไม่ขัดข้อง

ผมพลิกตัวหันไปทางคานินอีกครั้ง แล้วพบว่าใบหน้าของเราอยู่ใกล้กันมากจนผมตกใจ รู้สึกสั่นและประหม่าเพราะความต้องการที่พลุ่งพล่านข้างในบอกให้รู้ว่าต้องเตรียมตัวแล้ว ไม่รู้เหมือนกันว่าเราจะพากันไปไกลถึงไหนในคืนนี้ คงแล้วแต่หัวใจจะพาไป

"คานิน..." ผมเรียกอีก

"ครับคุณเป็ง"

"คานินรู้สึกดีกับมากใช่ไหม" ผมถามพลางขยับใบหน้าเข้าไปใกล้อีก คานินไม่ขยับหนีเสียด้วย

"ไม่รู้เหมือนกันครับ" น้ำเสียงที่ตอบมาฟังดูประหม่าและตื่นเต้นไม่น้อย

"แล้ว...ถ้าผมจะจูบคานินล่ะ มันจะไวไปไหม" ผมกลั้นความอายแล้วถามไปจนได้

"ก็...ไม่รู้เหมือนกันครับ" คานินตอบเหมือนเดิม ท่าทางประหม่าเขินอายแบบเดิม

ตอบอย่างนี้คงไม่ปฏิเสธอย่างแน่นอน ผมจึงขยิบใบหน้าเข้าไปใกล้คานินจนจมูกเราชิดกัน คานินไม่เขยิบหนี คงอยากลองจูบแรกระหว่างชายกับชายเหมือนผม

พอริมฝีปากของผมแตะกับริมฝีปากของคานินเท่านั้น ผมรู้ทันทีว่าจูบแรกของผมเริ่มขึ้นแล้ว ผมไม่เคยจูบใครมาก่อนเลย แต่คิดว่าคานินคงมีประสบการณ์มาบ้างและพอช่วยสอนผมได้

จริงอย่างที่ผมคิดไว้ คานินสอดลิ้นเข้ามาในริมฝีปากของผมเป็นเชิงทักทายอย่างรู้งาน ผมหัวไวอยู่แล้วจึงทำตามทันที เราสองคนสนุกกับการแลกลิ้นกันและชิมรสหวานในโพรงปาก ร่างกายเราสั่นสะท้านไหว สัมผัสเพียงเล็กน้อยยังทำให้เสียวซ่านได้จนต้องร้องครางเบาๆ

คานินบดขยี้ริมฝีปากลงมาที่ผมหนักหน่วงขึ้น แม้ผมไม่รู้ว่าจะต้องจูบยังไงแต่ไม่คิดยอมแพ้ พอถึงเวลาจริงๆ ธรรมชาติคงสอนเราเอง แม้จะเงอะงะไปหน่อย แต่มาจากใจของผมละกัน

ผมตอบสนองด้วยน้ำหนักของริมฝีปากที่หนักพอๆ กัน เสียงลมหายใจของเราดังขึ้นจนได้ยินชัด สองมือของเราค่อยๆ โอบกอดลูบไล้กันไปมา จนในที่สุดร่างกายสองร่างแนบชิดเบียดเสียดกัน ผมรู้ทันทีว่าเราสองคนต่างมีความต้องการเหมือนกันเพราะร่างกายส่วนนั้นฟ้องอาการแล้ว แต่ผมยังไม่อยากให้เราเตลิดไปไกลกว่านี้ ผมจึงตัดสินใจถอนปากออกแม้เสียดายก็ตาม

เกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายอารมณ์เปลี่ยวสองคนนี้หนอ? เจอกันเพียงสามสี่ครั้งแต่กลับเตลิดมาไกลกว่าที่ควรจะเป็น ถ้าไม่ใช่เพราะหัวใจแห้งแล้งขาดความรักมานาน ก็คงเป็นเพราะอานุภาพของรักแรกพบที่มีพลังดึงดูดจนเกินห้ามใจไหว

เราสองคนหยุดหอบหายใจและมองหน้ากันด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอกในความมืดสลัว ไม่รู้ว่าเร็วไปหรือเปล่า แต่ผมไม่เสียดายเลยที่จูบแรกของผมเกิดขึ้นกับคานิน ผมรู้สึกดีกับจูบนี้มากแม้จะเก้ๆ กังๆ ไปหน่อย แต่อะไรที่เป็นครั้งแรกมักน่าประทับใจเสมอ ขอผมไปเตรียมตัวมาให้ดีกว่านี้ก่อน ต่อไปคานินจะต้องเพ้อหารสจูบผมอย่างแน่นอน

"คุณเป็ง" คานินเรียกชื่อผมปนเสียงหอบหายใจเบาๆ

"ครับ" ผมขานรับเสียงเบาเพราะยังหอบอยู่เช่นกัน

"คุณเป็งอย่าทำให้ผมเสียใจ...เหมือนความรักที่ผ่านมาของผมอีกนะครับ" 


TBC...




หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 จูบแรก ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 31-01-2016 23:43:18
อร๊าย เขินๆ รักกันๆๆนะคะ  :กอด1: :-[
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 01-02-2016 00:58:20
โอ้ววววก็อดดดด จูบกันแล้ววววว
ต่างคนต่างรู้สึกดีสินะ ไม่งั้นคงไม่แบบนี้หรอกเนอะ
ค่อยๆเรียนรู้กันไปเนอะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 01-02-2016 01:19:34
นั่นแน่!!!
ค่อยๆ เรียนรู้กันไปนะครับทั้งคู่เลย ให้รักนี้ยืนยาว
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 01-02-2016 01:25:07
โหยยยย จูบแรกเป็งดันทำไม่เป็นซะล่ะ ๕๕๕ เป็งจีบคานินติดแล้วล่ะเส่ ชอบบรรยากาศหวานๆแบบนี้จังคับ
   รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: ป๋า ที่ 01-02-2016 01:42:04
มีแววจะเสียตัวนะคานิน  :hao6:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-02-2016 03:07:18
เค้าจูบกันแล้ววววววว :-[
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-02-2016 09:37:29
ทำไมน่ารักกันอย่างนี้ อ่านไปยิ้มไปเลยอ่ะ
เป็นรักแรกพบที่ไม่เวิ่นเว้อ แต่ก็ไม่ได้รวดเร็วไป
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 01-02-2016 10:59:13
ถ้าเป็งเจอคนมีเขี้ยวอีก จะเปลี่ยนใจไหมนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 01-02-2016 14:12:19
โอ้วมายก็อด จูบแรกของเป็ง คานินค่ะ ประโยคนี้หมายความว่าไงค่ะ

"คุณเป็งอย่าทำให้ผมเสียใจ...เหมือนความรักที่ผ่านมาของผมอีกนะครับ"

หมายถึงจะให้เป็นคู่ชีวิตเลยหรือเปล่าค่ะนั้น
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-02-2016 16:11:14
 :L2: :pig4:

ชื่อตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็น Cotton Candy ได้ไหมมมมมมม
อ่านไปแล้วเหมือนจะ ได้ยินเสียงเพลง "that's amore" ของ dean martin ครอๆ ไปด้วย อื้มมม
ขอบคุณที่ทำให้วันนี้ของคนอ่านมีความสุข
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 01-02-2016 18:04:51
:L2: :pig4:

ชื่อตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็น Cotton Candy ได้ไหมมมมมมม
อ่านไปแล้วเหมือนจะ ได้ยินเสียงเพลง "that's amore" ของ dean martin ครอๆ ไปด้วย อื้มมม
ขอบคุณที่ทำให้วันนี้ของคนอ่านมีความสุข

ขอบคุณที่เสนอชื่อตอนนี้มาครับ เห็นภาพตามเลย ก็เลยเปลี่ยนตามที่ขอ
อยากมีชื่อตอนน่ารักๆ แบบนี้มานานแล้ว 555 ขอบคุณนะครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Cotton Candy ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-02-2016 19:28:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Cotton Candy ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 01-02-2016 21:43:14
 :impress3: ตอนนี้น่ารักจังเลยน่ะ ดูมันแบบฟรุ้งฟริ้งมาก ๆ เลยอ่ะ คุณเป็งงวดหน้าไปฝึกมาใหม่น่ะ ลีลาช้าระวังโดนกดน่ะ  :hao3: แต่เราว่าคานินไม่กล้ากดหรอก  :mew3:
 รอตอนต่อไปน่ะจ้ะ  :katai3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Irresistible First Kiss ⓟ4 ▦31.1.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 01-02-2016 22:31:49
:L2: :pig4:

ชื่อตอนนี้ขอเปลี่ยนเป็น Cotton Candy ได้ไหมมมมมมม
อ่านไปแล้วเหมือนจะ ได้ยินเสียงเพลง "that's amore" ของ dean martin ครอๆ ไปด้วย อื้มมม
ขอบคุณที่ทำให้วันนี้ของคนอ่านมีความสุข

ขอบคุณที่เสนอชื่อตอนนี้มาครับ เห็นภาพตามเลย ก็เลยเปลี่ยนตามที่ขอ
อยากมีชื่อตอนน่ารักๆ แบบนี้มานานแล้ว 555 ขอบคุณนะครับ

ด้วยความยินดีมาก ^^
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Cotton Candy ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 02-02-2016 02:17:34
ชอบจินตนาการตอนเป็งเขิน จะน่ารักขนาดไหน เหอๆ แถมท้ายมีซีนหวานๆๆ มาให้ชื่นใจอีก ชอบๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Cotton Candy ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 02-02-2016 15:15:18


ขอบคุณค่ะ  :pig4:

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Cotton Candy ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ชัดเจนกาบ ที่ 03-02-2016 12:47:23
พึ่งรู้ว่าคนแต่งจะเขียนนิยายน่ารักๆแบบนี้ก็เป็นด้วย. อ่านแล้วรู้สึกดีตาม มีความสุข.อ่านแล้วไม่สะดุด. ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปกับสิ่งที่เกิดขึ้น. อาจจะเพราะมันมาจากใจจริงๆไม่ใช้มาหลอกลวงกัน. รีบๆมาต่อนะคราบ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №5 Cotton Candy ⓟ4 ▦31.1.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 03-02-2016 17:50:44
โอ้ยยยย เขินอ่ะ
เค้าจูบกันลิ้ววววว :)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-02-2016 08:21:32
ขอบคุณที่หลายๆ คนชอบเรื่องนี้นะครับ
จะได้อ่านตอนต่อไปเย็นนี้ครับ (ไม่เกินสี่ทุ่ม)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 05-02-2016 10:13:50
รอๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-02-2016 11:13:03
กริ๊ดดดดดดด เขินแรงงงงงงงงงงง แอร๊ยยยย เขาจูบกันแล้ววววววว

คือค่อยเป็นค่อยไปดีมากเลย พระเอกก็ด้อยประสบการณ์มากต้องให้นายเอกสอน5555555(หัวเราะอย่างเหนือชั้น)

ขอบคุณมากค่ะ เรื่องนี้น่ารักสุดๆ อ่านไปอยากกัดหมอนจิกแขนตัวเอง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-02-2016 17:52:01
 :katai5: :katai5: :katai5:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 05-02-2016 18:55:30
 :L2:

มาเกาะขอบจอ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 05-02-2016 21:10:54
เป๊งรุกซะ ึคานินเองก็รับลูกอีกต่างหาก ได้กันไวๆเน้อ อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ ยังไม่เรียบร้อย
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 05-02-2016 22:52:17
มารออ่านคับผม  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ ยังไม่เรียบร้อย
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 06-02-2016 00:14:37
อ่านไปหลายวันแหละ แต่อ่านที่ออฟฟิตเม้นท์อะไรไม่ได้เลย  :mew2: เลยเข้ามาเม้นท์อีกทีนึง น่ารักจริง ๆ เลยน่ะ ทั้งคู่เลย เป็งไปศึกษาซะ ไม่งั้นโดนคานินจับกดไม่รู้น่ะ  :mew4: แต่เราว่าคงไม่หรอก เพราะคานินเป็นคนยอมน่ะ งานนี้คานินต้องเตรียมใจไว้เลย โดนแน่ ๆ  :o8: ชอบน่ะความสัมพันธ์ของทั้งคู่น่ะ คานินนายคิดถูกแหละที่ตอบรับกับเป็งน่ะ ผู้ชายดี ๆ แบบนี้หาไม่ได้ง่าย ๆ น่ะ อิจฉาจังเลย  :mew3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ??? ⓟ5 ▦ ยังไม่เรียบร้อย
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 06-02-2016 05:38:52
ตื่นปุ๊บเข้ามาดูปั๊บ 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦@17:00 07.02
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 06-02-2016 13:05:11
รอฉันรอเธออยู่
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦@17:00 07.02
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-02-2016 13:19:18
อิอิ รอๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-02-2016 18:48:28
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 6 ความลับของเป็ง


(http://bit.ly/1RX8ogL)

คานิน...

"ข้าวเหนียวหมูปิ้งครับ สองไม้ยี่สิบ ห้าไม้สี่สิบห้าครับ"

เสียงเรียกลูกค้าซ้ำๆ ที่มาพร้อมกับหน้าตาที่ยิ้มแย้มแจ่มใส แถมคนขายยังแต่งตัวดีและดูหล่อใส ดูจะเรียกลูกค้าได้มากกว่าทุกวันที่ผ่านมาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะบรรดาสาวๆ สารพัดช่วงวัย ผมกับน้องสาวเห็นอย่างนั้นจึงปล่อยให้หน้าที่ขายเป็นของหนุ่มตี๋ไปโดยปริยาย หลบฉากมาทำหน้าที่ปิ้งหมูและส่งข้าวเหนียวให้พ่อค้าจำเป็นที่กำลังขายของอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

"หมูปิ้งห้าไม้จ้ะ ขาวเหนียวหนึ่ง"

ลูกค้าขาประจำของผมคนหนึ่งเอ่ยขึ้นหลังจากที่ถึงคิว ป้าพิมพ์อุดหนุนผมแทบทุกวันจนผมมักจะแถมให้บ่อยๆ

"ได้ครับ" พ่อค้าตี๋หล่อตอบแล้วยิ้ม ไม่รู้ว่ายิ้มเป็นรอบที่เท่าไหร่แล้ว

"ญาติเหรอคานิน ป้าไม่เคยเห็นเลย" ป้าพิมพ์หันมาถามผม

"ไม่ใช่ญาติหรอกครับป้า ถ้าผมมีญาติแบบนี้ก็ดีสิครับ จะได้ขาวๆ กับเขามั่ง"

ผมพูดติดตลก จากนั้นหันไปยิ้มเม้มปากกับเป็งที่กำลังใส่หมูปิ้งลงในถุงพลาสติก ก่อนส่งหมูปิ้งกับข้าวเหนียวให้ป้าพิมพ์

"อ้าว แล้วเป็นใครล่ะ" ป้าพิมพ์ถามในขณะที่รับถุงข้าวเหนียวและส่งเงินให้เป็ง

"เพื่อนผมครับ"

"อ๋อ" ดูเหมือนป้าพิมพ์อยากจะคุยต่อ แต่แกคงเกรงใจลูกค้าคนอื่นๆ ที่รอคิวอยู่ จึงเบี่ยงตัวหลบให้คนอื่นขึ้นมายืนหน้าแทน

"ขอบคุณที่มาอุดหนุนครับ วันหลังมาซื้ออีกนะครับ" เป็งบอกพลางส่งยิ้มกว้างให้ป้าพิมพ์

"ป้ามาซื้อเกือบทุกวันอยู่แล้ว แต่ถ้าคุณมาขายทุกวันป้าก็จะมาซื้อทุกวัน"

ป้าพิมพ์ไม่วายหันมาแซวเล่น ก่อนยิ้มให้พ่อค้าสุดหล่อของผมแล้วเดินจากไป

"พี่เป็งขายเก่งเหมือนกันนะคะเนี่ย"

น้องสาวผมเอ่ยชมในขณะที่กำลังสาละวนกับการปิ้งหมู

"พี่เกิดมาในครอบครัวคนจีนไง เกิดมาพ่อแม่ญาติพี่น้องค้าขายกันทุกคน พี่เลยไม่รู้สึกอายเวลาขายของ" เป็งถือโอกาสคุยซะเลย แล้วหันไปขายของกับลูกค้าต่อ พอลูกค้าเริ่มซาๆ จึงหันมาคุยกับแนนตามเดิม

"เดี๋ยวให้พี่ว่างๆ ก่อนนะ พี่จะช่วยคิดสูตรหมูปิ้งอีกแบบให้"

"พี่เป็งทำอาหารเป็นด้วยเหรอคะ" แนนถามอย่างสงสัย

"พอได้ ตอนเด็กๆ เข้าไปช่วยเตี่ยกับม๊าในครัวบ่อยๆ อ้อ พี่มีร้านอาหารจีนที่เชียงรายบนดอยแม่สะลอง ก็ดังอยู่ ใครไปส่วนมากต้องแวะไปกิน รู้จักขาหมูกับหมั่นโถวไหม ที่บ้านพี่ขายอยู่ ลูกค้าเยอะมาก เอาไว้วันไหนว่างๆ จะพาไปเที่ยวที่ร้านนะ จะได้ไปลองชิม แล้วจะติดใจ"

"โห...จริงเหรอคะพี่เป็ง แนนอยากไปเที่ยวจัง ตั้งแต่มีลูกแนนแทบไม่เคยไปไหนเลย อ้อ...แสดงว่าพี่ต้องมีสูตรลับสิคะถึงได้มีลูกค้าเยอะ" แนนถามอย่างตื่นเต้น

"สูตรลับเยอะเลยล่ะ อาหารแต่ละอย่างนี่บอกใครไม่ได้เลย แต่ที่บ้านพี่ไม่ได้ขายหมูปิ้งหรอก สูตรที่พี่จะช่วยคิดให้แนนกับคานินจะเป็นสูตรดัดแปลง แต่รับรองว่าอร่อยแน่ๆ"

"ขอบคุณค่ะพี่เป็ง ตื่นเต้นจังเลย แล้วพี่เป็งจะมาสอนได้เมื่อไหร่คะ"

ลูกค้ามายืนออรอซื้อหมูปิ้งกันอีกชุดแล้ว เป็งจึงต้องทิ้งคำถามนั้นไว้ชั่วคราว ก่อนจะหันไปสนใจลูกค้า จนกระทั่งหมูปิ้งของเราขายหมดเกลี้ยงภายในเวลาแปดโมงเช้า ทำลายสถิติขายหมดเร็วที่สุดตั้งแต่ขายมา

"หมดแล้วค่ะพี่เป็ง ไม่เคยขายหมดเร็วขนาดนี้เลย" ท่าทางตื่นเต้นของน้องสาวทำให้ผมอดยิ้มไม่ได้ ดูเธอจะชื่นชอบเป็งมากทีเดียว

"ปกติขายหมดกี่โมง"

"เกือบๆ เก้าโมงค่ะ นี่แปดโมงก็หมดแล้ว ขายกันมือเป็นระวิงเลย" แนนพูดไปขำไป

"ถ้าได้สูตรใหม่ พี่รับรองว่าจะขายดีกว่านี้อีก แต่ว่าช่วงนี้พี่จะไม่อยู่กรุงเทพหลายวัน มีงานที่ต่างจังหวัด อีกประมาณสองอาทิตย์นั่นแหละถึงจะกลับมา รอไหวอยู่นะ"

"ไหวค่ะพี่"

เป็งหยุดคุยกับน้องสาวผมแล้วหันมามองผม เห็นเป็งในสภาพนี้แล้วผมรู้สึกขำไม่น้อยเลย หนุ่มตี๋หน้ามันแผล็บเพราะโดนควันและความร้อน แต่กระนั้นยังคงความหล่อใสไว้ได้อยู่ ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าลูกคุณหนูอย่างเป็งจะกล้ามาขายหมูปิ้งกับผมด้วย

"คุณเป็งหน้ามันหมดเลย เดี๋ยวขึ้นไปล้างหน้าที่ห้องผมซะหน่อยนะครับ"

"อ้อ...จริงเหรอครับ"

เป็งทำหน้าเหมือนไม่เชื่อแล้วเอาหลังมือถูหน้าไปมาเบาๆ บริเวณแก้มทั้งสองข้าง แต่คงลืมไปว่ามือยังเปื้อนแถมยังมีคราบเขม่าควันติดมือ จึงมีรอยเปื้อนเป็นคราบๆ ที่แก้ม ครั้นผมจะห้ามก็ไม่ทันซะแล้ว

"พี่เป็ง มือเปื้อนอยู่นะคะ พี่นินพาพี่เป็งไปล้างหน้าเถอะ เดี่ยวแนนเก็บของที่เหลือให้ไปไว้ที่ห้องแนนเอง"

ผมพยักหน้าตกลง สบตากับแนนแล้วขำกันสองคนพี่น้อง ส่วนเป็งได้แต่ยืนยิ้มเขินๆ

"แฟนพี่นินน่ารักนะคะเนี่ย"

พอน้องสาวของผมชมเข้าหน่อย เป็งจึงยักคิ้วหลิ่วตาใส่ผมอย่างภูมิใจ

"ตามผมมาครับคุณเป็ง" ผมแก้เขินด้วยการเดินนำออกไปก่อน เป็งเดินแถมวิ่งตามมาอย่างไว พอตามมาทันจึงถาม

"หน้าผมเปื้อนเยอะไหมคานิน"

"ดูหลังมือคุณเป็งสิครับ เปื้อนพอๆ กันเลย"

เป็งยกมือสองข้างขึ้นมาดู พอเห็นคราบเขม่าและรอยเปื้อนจึงตกใจเล็กน้อย หนุ่มตี๋ขำตัวเองใหญ่ พอรู้ว่าคนผ่านไปผ่านมามองอะไรจึงเขิน มองเพราะหล่อน่ะใช่ แต่น่าเสียดายที่คงสติไม่ดี เอิ๊กๆ

(http://bit.ly/1mD2rHH)

ผมพาเป็งเข้ามาในห้องแล้วพามาที่หน้าห้องน้ำ ผมออกตัวเมื่อเป็งสอดส่ายสายตาสำรวจไปรอบห้อง

"ห้องผมเล็กหน่อยนะครับคุณเป็ง"

"ไม่เห็นเป็นไรเลย เดี๋ยววันหลังผมมาค้างที่ห้องคานินด้วยได้ไหม คานินจัดห้องน่าอยู่ดีนะ"

"รกอย่างนี้เนี่ยนะครับ สู้ห้องของคุณเป็งไม่ได้หรอก"

"ไม่ว่าจะอยู่ห้องแบบไหน ถ้ามีคานินอยู่ด้วยผมก็มีความสุขแล้ว"

ถ้าเกิดว่าผมกำลังดื่มน้ำอยู่คงสำลักไปแล้ว นี่ก็เกือบสำลักน้ำลายเลยทีเดียว ยิ่งเห็นสายตากรุ้มกริ่มที่มองมาที่ผมแล้ว ผมแทบจะละลายให้ได้

"ผมมีโฟมล้างหน้าอยู่ ไม่รู้ว่าคุณเป็งจะใช้ได้หรือเปล่า คงไม่แพงเหมือนของคุณเป็งนะครับ" ผมเปลี่ยนเรื่องคุยทันทีเมื่อนึกได้ ไม่งั้นคงเขินจนม้วนต้วนตรงนี้แน่ๆ

"ไม่เป็นไร ล้างได้เหมือนกันแหละ อันนั้นใช่ไหม" เป็งถามพลางชี้นิ้วไปที่หลอดโฟมล้างหน้าของผมที่วางอยู่บนอ่างล้างมือ

"ครับ อันนั้นแหละครับ คุณเป็งล้างหน้าไปก่อนนะครับ เดี๋ยวผมไปหาผ้าซับหน้ามาให้"

"ขอบคุณครับคานิน"

เป็งยิ้มหวานให้ผม เล่นเอาผมเขินอีกแล้ว จึงแก้เก้อด้วยการเดินหนีมาที่ตู้เสื้อผ้าเสียก่อน ผมพอมีผ้าขนหนูผืนเล็กๆ ที่ยังไม่ได้ใช้อยู่ น่าจะพอให้เป็งใช้เช็ดหน้าได้ ค้นๆ ดูไม่นานก็เจอ

ผมหยิบผ้าขนหนูผืนเล็กนั้นติดมือมาด้วย กำลังจะเอาไปให้เป็งอยู่แล้วเชียว ผมพลันได้ยินเสียงร้องเอะอะโวยวายของเป็งดังลั่นออกมาจากห้องน้ำ

"เว้ออออออ!"

พอสิ้นเสียงร้อง เป็งวิ่งผลุนหน้าตาตื่นออกมาจากห้องน้ำมาทางผม

"คานิน!"

ผมยังไม่ทันได้ถามอะไร หนุ่มตี๋ที่หน้ายังคงมีฟองของโฟมล้างหน้าติดอยู่เต็มก็วิ่งเข้ามากอดผมซะก่อน

"มีอะไรครับคุณเป็ง" ผมถามอย่างตกใจ

"มันอยู่ในห้องน้ำน่ะคานิน" เป็งละล่ำละลักพลางหลับตาปี๋ ทั้งกลัวทั้งแสบตา ดูเหมือนจะตัวสั่นๆ ด้วย

"อะไรอยู่ในห้องน้ำครับคุณเป็ง"

"จิ้งจกน่ะสิ ตัวเบ้อเริ่มเลย"

พอรู้ว่าเป็งกลัวอะไรผมก็เกือบหลุดหัวเราะ ไม่คิดว่าผู้ชายตัวโตๆ อย่างเป็งจะกลัวสัตว์ตัวเล็กๆ แค่นี้ด้วย

"คุณเป็งกลัวจิ้งจกเหรอครับ"

"ใช่สิ ผมกลัวหางมัน หางมันดิ้นได้"

ท่าทางกลัวเหมือนเด็กๆ ทำให้ผมเผลอยิ้มอย่างเอ็นดู "อ้อ...ครับ คุณเป็งเช็ดหน้าก่อนดีกว่าครับ แสบตาแย่แล้ว เดี๋ยวผมจะไปไล่จิ้งจกให้ครับ"

พอผมเตือนเป็งถึงได้รู้ตัวและค่อยๆ สงบสติลง พอรู้ว่ากอดผมซะแน่นจึงค่อยๆ ปล่อยมือออกแล้วยิ้มอายๆ ผมส่งผ้าขนหนูผืนเล็กเป็ง อดขำเบาๆ ไม่ได้ที่เห็นเป็งยืนตัวสั่นด้วยความกลัว

"คานินอย่าไปบอกใครนะว่าผม...กลัวจิ้งจก คานินต้องเก็บเป็นความลับให้ดีๆ นะ"

ผมพยักหน้ารับ แต่ก็ยังอดขำไม่ได้อยู่ดี เป็งเช็ดหน้าเช็ดตาแต่ยังไม่เกลี้ยง ผมจึงฉวยมาขนหนูผืนนั้นมา ก่อนจะช่วยเช็ดคราบโฟมล้างหน้าบนใบหน้าให้เป็ง ยิ่งพิศดูผมยิ่งเห็นผิวขาวละเอียดใสจนน่าอิจฉา

"มือเบาเหมือนกันนะครับ" เป็งถือโอกาสชม

"อ้อ...เอ่อ...ผมว่ายังไงๆ คุณเป็งต้องล้างอีกทีนะครับ คราบดำๆ ยังออกไม่หมด เอางี้...เดี๋ยวผมไปไล่จิ้งจกให้ก่อนละกัน คุณเป็งรอผมอยู่ตรงนี้แป๊บนึงนะครับ"

ผมบอกแล้วเดินไปหยิบไม้กวาดใกล้ๆ ประตูติดมือมา เป็งมองอย่างสงสัยแต่ได้แค่ยืนดูนิ่งๆ สายตาคอยมองซ้ายขวาตลอดเวลา คงหวาดระแวงว่าจิ้งจกจะโผล่มาจากทางใดทางหนึ่งอีก

ผมเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วสอดส่ายสายตาหาสัตว์เลื้อยคลานสี่ขาที่ทำให้เป็งตกใจวิ่งหนีออกมาจากห้องน้ำ ผมเห็นมันอยู่ใกล้ๆ กับกระจกหน้าอ่างล้างมือพอดี ผมจึงใช้ไม้กวาดเขี่ยๆ ตัวมันจนมันกลัวและวิ่งหนีหายไป ผมยืนรอดูสักจนแน่ใจว่ามันจะไม่กลับมาอีกจึงเดินออกมาบอกเป็งที่ยังคงยืนอกสั่นขวัญแขวนอยู่

"ผมไล่มันไปแล้ว คุณเป็งมาล้างหน้าต่อได้เลยครับ"

เป็งส่ายหน้าเดียะทันที ท่าทางยังคงหวาดกลัวอยู่อย่างเห็นได้ชัด

"มันไปแล้วจริงๆ ครับ ไม่เชื่อคุณเป็งลองเข้าไปดูสิครับ"

หนุ่มตี๋ยังคงระแวง เวลาผู้ชายตัวโตๆ กลัวอะไรอย่างนี้ดูตลกไปอีกแบบ แต่ก็น่ารักดี

"ถ้าคุณเป็งกลัวจิ้งจก ต่อไปจะมาที่ห้องผมได้ไงล่ะครับ ห้องผมจิ้งจกเยอะจะตาย"

เป็งทำหน้าตกใจแล้วหันรีหันขวางอย่างหวาดระแวง "จริงเหรอ"

"ครับ" ผมยอมรับไปตามตรง "ห้องคนจนๆ ก็อย่างงี้แหละ ถ้าคุณเป็งจะเป็นแฟนผม คุณเป็งต้องทำใจหน่อย"

ดูเหมือนจะได้ผล เป็งยิ้มเจื่อนคล้ายรู้สึกผิด เท่าที่ผมลองสังเกตดู เป็งพยายามปรับตัวเองมาก แต่นั่นแหละ เราสองคนยังมีอะไรต้องเรียนรู้ระหว่างกันอีกเยอะ บอกไม่ได้เลยว่าท้ายที่สุดจะจบลงตรงไหน

เป็งพยักหน้าตกลง ฝืนยิ้มทำใจดีสู้เสือ "โอเค เดี๋ยวผมจะเข้าไปล้างหน้า"

"ครับ ถ้ามีอะไรเรียกผมได้เลยทันทีนะครับ"

เป็งพยักหน้า จากนั้นจึงเดินไปที่ห้องน้ำอีกครั้ง สอดส่ายสายตามองดูจนทั่วให้มั่นใจว่าไม่มีจิ้งจกแล้ว

"เห็นไหมครับว่ามันไปแล้ว"

ผมยืนยันให้เป็งมั่นใจ สีหน้าของเป็งดูดีขึ้นหน่อย เจ้าตัวย่างเท้าเข้าไปในห้องน้ำอย่างหวาดระแวง พอเห็นว่าไม่มีอะไรจึงเปิดก๊อกน้ำและหยิบโฟมมาล้างหน้าอีกรอบ

ผมขำเบาๆ อย่างเอ็นดู "เดี๋ยวผมจะขอเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำไปทำงานก่อนนะครับ"

"ตามสบายครับคานิน" เป็งตอบมาเสียงอู้ๆ อี้ๆ ในขณะที่กำลังนวดโฟมลงบนหน้า

พอเห็นว่าไม่มีอะไรผมจึงกลับมาที่ตู้เสื้อผ้า ถอดเสื้อออกแล้วหยิบผ้าเช็ดตัวมาพันตัวไว้ ในขณะที่ถอดกางเกงออกจนเกือบพ้นขาข้างสุดท้าย เสียงร้องเอะอะพลันดังมาจากห้องน้ำอีกรอบ

"ช่วยด้วยคานิน! มันมาอีกแล้ว!"

พอหันไปมองตามเสียงจึงเห็นเป็งวิ่งหน้าตาตื่นออกมาจากห้องน้ำ โชคดีที่คราวนี้ไม่มีคราบโฟมติดมาด้วย เป็งวิ่งมากอดผมเหมือนเช่นเคย ตัวสั่นงันงกด้วยความกลัวจนผมรู้สึกสงสาร

บังเอิญว่าผมผูกปมผ้าเช็ดตัวไม่แน่นดีเท่าไหร่ พอเป็งกอดและเบียดเสียดไปมา ปมที่ผูกไว้จึงเริ่มหมิ่น ไอ้ครั้นผมจะสอดมือเข้าไปผูกก็กระไรอยู่เพราะหน้าท้องของเป็งชนกับหน้าท้องของผมแน่นเลย ผมจึงได้แต่ยืนตัวแข็งทื่อ แล้วต้องตกใจสุดขีดเมื่อผ้าเช็ดตัวผมหลุดร่วงลงไปกองที่พื้นจนได้

เป็งคงจะรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไรจึงรีบปล่อยผมออกจากอ้อมแขนทันที ต่างคนต่างตกใจ ผมรีบหยิบผ้าเช็ดตัวขึ้นมาพันตัวอย่างอายๆ แต่ถึงจะเร็วแค่ไหนแต่คาดว่าเป็งคงเห็นหมดแล้ว ดีหน่อยที่ยังมีกางเกงในปิดบังตรงนั้นไว้อยู่ ไม่งั้นผมคงเขินยิ่งกว่านี้

"ผมขอโทษ"

เป็งบอกเขินๆ แต่ไม่รู้ว่าใครควรจะเขินใครกันแน่ พลันหนุ่มตี๋ยิ้มมีเลศนัยและเอียงคอมองผม

"แต่จะว่าไป...หุ่นของคานินไม่เบาเลยนะครับ ถ้าไปฟิตเนสซะหน่อย คงแน่นยิ่งกว่านี้"

เพิ่งจะวิ่งหนีหน้าตาตื่นจากความกลัวจิ้งจกออกมาจากห้องน้ำแท้ๆ พอเจอแบบนี้เข้ากลับหายกลัวไปเลย แถมยังไล่มองตั้งแต่หน้าอกของผมไปจนถึงเส้นขนอุยที่หลบหายเข้าไปในผ้าเช็ดตัวที่พันอยู่

"อะไรแน่นเหรอครับ" ผมถามด้วยความอยากรู้เพราะมีหลายอย่างที่น่าจะแน่นได้

"อ้าว หน้าท้องกับกล้ามไง คานินมีพุงอยู่นิดนึง แค่ออกกำลังกายนิดหน่อยก็หมดแล้ว"

"อ้อ...แต่ผมแทบไม่มีเวลาไปออกกำลังกายเลย ทำงานตั้งแต่เช้ายันดึกเกือบทุกวัน"

เป็งทำหน้าเศร้าเล็กน้อย คงเห็นใจชีวิตที่ลำบากของผมน่าดู

"อืม...คานินอยากทำงานอย่างอื่นที่มีเวลามากกว่านี้ดูไหม เดี๋ยวผมช่วยหาให้"

"ถ้ามีก็ดีสิครับ" ผมบอกอย่างตื่นเต้น แววตามีประกายความหวัง

"เดี๋ยวผมจะลองหาให้นะ แต่ว่า...แล้วผมจะได้กินกาแฟอเมริกาโน่ฝีมือบาริสตาหนุ่มเขี้ยวสุดหล่อได้ที่ไหนอีกล่ะ"

ผมขำเบาๆ พร้อมกับส่ายหัวไปมา "เดี๋ยวผมจะชงให้กินส่วนตัวทุกวันเลย คุณเป็งมีเครื่องชงกาแฟที่คอนโดด้วยนี่"

"งั้นดีเลย อ้อ..." เป็งทำท่านึกอะไรได้ "แนนไม่เคยไปเที่ยวไหนเลยเหรอ"

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

"คานินต้องพาน้องสาวไปเปิดหูเปิดตาบ้างนะ อีกอย่าง...วินกำลังจะโต อุดอู้อยู่แต่ในห้องแบบนี้ไม่ดีหรอก ถ้าได้ไปข้างนอกบ้าง วินจะได้สุขภาพดี ไม่เครียด แนนก็เหมือนกัน"

พอเป็งพูดเรื่องนี้ขึ้นมาผมจึงหน้าเครียดทันที ความจริงผมอยากทำอย่างที่เป็งบอกนั่นแหละ แต่อะไรหลายๆ อย่างไม่เอื้ออำนวยเลย แถมผมเองยังกลัวด้วยว่าพ่อกับแม่จะรู้เรื่องแนนอีกไม่นานนี้ เวลาพ่อกับแม่โทรหาผมทีไรเป็นต้องผวาทุกที คุยกับพ่อแม่ไม่มีความสุขเลย

"ยังไม่ต้องเครียดหรอก เดี๋ยวเราค่อยมาช่วยๆ กันคิดดีกว่าว่าจะช่วยแนนยังไงดี ยังพอมีเวลาอยู่"

ได้ยินแค่นี้ผมถึงกับน้ำตาซึม ที่ผ่านมาไม่เคยมีใครคิดจะยื่นมือเข้ามาช่วยผมกับน้องสาวเลย เราดิ้นรนลำบากกันมาหลายเดือนแล้ว แม้สงสารน้องสาวแค่ไหนแต่ผมกลับนึกไม่ออกว่าจะทำยังไงต่อ

"ขอบคุณครับคุณเป็ง"

ผมยิ้มอย่างตื้นตันใจ คิดไม่ถึงว่าคนที่เพิ่งรู้จักกันจะทำให้ผมรู้สึกอย่างนี้ได้ ถ้าถามผมว่าผมตัดสินใจเร็วไปไหม คงยากที่จะตอบเหมือนกัน แต่ผมรู้สึกถึงความพิเศษของผู้ชายคนนี้ รู้สึกดีเสียจนผมไม่อาจห้ามความรู้สึกอยากลองรักข้างในได้ ขอลองดูสักหน่อยละกัน

"คานินไปอาบน้ำก่อนเถอะ เดี๋ยวจะสายนะ" เป็งเตือน

"อ้อ ขอบคุณที่เตือนครับ" ผมยิ้มมุมปากและหรี่ตามอง"ว่าแต่...คุณเป็งไม่กลัวจิ้งจกแล้วเหรอครับ"

เป็งทำหน้าเหลอหลา กลอกตาเล่นไปมาแล้วหัวเราะแหะๆ ไม่น่าเชื่อว่าคนหล่อๆ ทำหน้าตลกๆ เป็นด้วย

"เห็นตรงนั้นของคานินจนลืมกลัวไปเลย ตรงนั้นน่าสนใจกว่า" เป็งหัวเราะชอบใจใหญ่

สุดท้ายผมขว้างงูไม่พ้นคออีกจนได้ อุตส่าห์ว่าจะแซวเป็งซะหน่อย เรื่องดันวกกลับมาหาตัวเองซะงั้น

(http://bit.ly/1S1zfGS)

ในระหว่างที่ผมอาบน้ำ เป็งแวะไปเล่นกับหลานชายของผมที่ห้องของแนน พออาบน้ำเสร็จผมจึงตามไป ได้ยินเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากใหญ่แว่วดังมาจากข้างในห้องของแนน จึงเดาได้ว่าเป็งกำลังหยอกเล่นกับวินอยู่ พอผมเปิดประตูเข้าไปจึงเห็นเป็งนั่งอยู่บนพื้น อุ้มหลานชายผมไว้ เล่นกลอกตาให้วินดู ถูกใจวินมากทีเดียว

"จะไปทำงานแล้วเหรอคะพี่นิน" แนนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ หันมาถาม

ผมนั่งลงขัดสมาธิกับพื้นข้างๆ เป็งแล้วพยักหน้าให้น้องสาว ก่อนจะหันไปขอหลานชายมาอุ้มบ้าง เป็งส่งหลานมาให้ผม ผมรับหลานมาอุ้มแล้วหยอกหลานด้วยวิธีเดียวกับเป็ง

"วินชอบลุงเป็งเหรอครับ นี่...เดี๋ยวลุงคานินจะทำแบบลุงเป็งมั่งนะ"

พูดจบแล้วผมจึงกลอกตาเล่นไปมาเหมือนเป็งบ้าง วินหัวเราะชอบใจไม่แพ้กันเลย

เล่นกับหลานสักพัก ผมกับเป็งจึงขอตัวออกไปทำงาน ปล่อยให้แนนเลี้ยงลูกในห้องตามลำพัง พออยู่ในรถด้วยกัน เป็งขอให้ผมเล่าเรื่องของแนนว่าเป็นมายังไงถึงมีลูกให้ฟัง ผมจึงเล่าเให้ฟังเท่าที่จะเล่าได้

ก่อนถึงร้านที่ผมทำงาน เป็งไม่ลืมบอกผมเรื่องที่จะไม่อยู่หลายวันอีกครั้ง

"ผมจะไปทำงานต่างจังหวัดหลายวันนะคานิน เริ่มเดินทางเย็นนี้เลย ไปรีสอร์ทแถวๆ สามพราน แล้วก็จะกลับเชียงราย ตอนนี้ร้านอาหารมีปัญหานิดหน่อย พอดีคนทำครัวคนเก่าคนแก่ไม่สบาย ทำงานมาหลายปีแล้ว สงสัยจะทำต่อไม่ไหว ผมต้องไปจัดการเรื่องหาคนมาทำแทน กะว่าจะอยู่ที่เชียงรายหลายวันหน่อย ถ้าแก้ปัญหาไม่จบคงยาวเหมือนกัน แต่ยังไงๆ ผมจะโทรหาคานินทุกวัน ให้โทรมาตอนไหนดี ตอนเลิกงานดีไหม"

"ตอนเลิกงานได้ครับ"

"คานิน...อย่าลืมคิดถึงผมนะ" เป็งแว่บหันมายิ้มอบอุ่น ก่อนจะหันกลับไปสนใจถนนต่อ

"ครับ" ผมรับคำสั้นๆ

จนกระทั่งมาถึงหน้าร้าน เป็งจอดชิดริมทางเท้า ผมเปิดประตูรถแล้วก้าวออกไป

"ทำงานให้สนุกนะครับคุณเป็ง ขอให้แก้ปัญหาที่ร้านอาหารได้ไวๆ ด้วยครับ ผมจะเอาใจช่วย"

เป็งพยักหน้ายิ้มๆ "ครับผม แล้วเจอกันนะครับคานิน คืนนี้ผมจะโทรหานะ"

หนุ่มตี๋โบกมือให้ผมแล้วขับรถออกไป จะมัวอ้อยอิ่งไม่ได้เพราะตอนเช้ารถติดมาก จอดนานไม่ได้

พอผมเดินเข้ามาในร้านเท่านั้น บรรดาเพื่อนๆ พนักงานชายหญิงกรูกันเข้ามาถามผมใหญ่ คนแรกที่ถามอย่างตื่นเต้นคืออัญญา เพื่อนร่วมงานสาวที่ใครๆ บอกผมว่าเธอแอบชอบผมอยู่

"ใครมาส่งคานินเหรอเมื่อกี้ หล่อเชียว ขับบีเอ็มซะด้วย"

"เพื่อน" ผมตอบโดยแทบไม่ต้องเสียเวลาคิดให้ยุ่งยาก

"คานินมีเพื่อนรวยขนาดนี้เลยเหรอ" อัญญาถามต่อ

ผมไล่มองดูคนที่มายืนออตรงหน้าสี่ห้าคน ต่างคนต่างมีสีหน้าอยากรู้อยากเห็น นึกไปยังขำที่มีคนอยากรู้เรื่องผมมากขนาดนี้

"อืม...เพิ่งรู้จักกัน"

"เพิ่งรู้จักกันเหรอ แล้วเขาเป็นใครล่ะ" เพื่อนร่วมงานชายที่ชื่อปั้นถามบ้าง

ผมยังไม่ทันจะตอบ เพื่อนร่วมงานหญิงที่ชื่อกุ้งทำท่านึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้

"อ๋อ...พี่นึกออกแล้ว ลูกค้าที่มาที่ร้านเราบ่อยๆ ไง ชื่ออะไรนะ อะไรเป็งๆ นี่แหละ มาเกือบทุกวันเลย"

"เออใช่ จริงด้วย ผมจำได้ เขาชื่อเป็งนั่นแหละครับ เขายังเคยบอกผมเลยว่าเขามีคอนโดอยู่ในซอยนี้ โห...แล้วคานินไปสนิทกับเขาได้ยังไงล่ะ คอนโดในซอยนี้แพงมากเลยนะ แสดงว่าเขาต้องรวยมากๆ"

ปั้นถามด้วยสีหน้าแปลกใจ คนที่ยืนอออยู่ทำเสียงฮือฮากันใหญ่

"นั่นสิ แล้วคานินนั่งรถมากับเขาได้ยังไง บ้านคานินอยู่ลาดพร้าวไม่ใช่เหรอ หรือว่า...คุณเป็งไปรับคานินมาจากลาดพร้าว ใช่หรือเปล่าคานิน ไม่งั้นจะมาด้วยกันได้ยังไง"

พี่กุ้งซักพร้อมกับจ้องหน้าผมใหญ่ แต่ก่อนที่ผมจะเสียท่าเพลี่ยงพล้ำและต้องตอบคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบยังไง ผู้จัดการมาถึงร้านพอดี คนที่ยืนอออยู่ตรงหน้าผมจึงแตกฮือและแยกย้ายกันไปแทบจะทันที ใครๆ ต่างกลัวผู้จัดการคนนี้กันมาก อายุแกสี่สิบต้นๆ แต่กลับดูแก่มาก หน้าก็ดุ แค่เห็นยังไม่อยากเข้าใกล้

ผมปลีกตัวออกมาตรงเคาน์เตอร์ ตรวจสอบความเรียบร้อยก่อนเริ่มการทำงานในอีกครึ่งชั่วโมงข้างหน้า ไม่นานอัญญาจึงเดินตามผมมา ท่าทางดูแปลกๆ จดๆ จ้องๆ สักพักจึงเอ่ยถามขึ้นมา

"พี่คานิน ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นเพื่อนพี่จริงๆ เหรอ"

ผมหยุดเช็คอาหารที่หน้าเคาน์เตอร์แล้วหันไปมองพร้อมกับขมวดคิ้ว "ทำไมเหรอ อัญญาสงสัยอะไรหรือเปล่า"

อัญญาทำท่าครุ่นคิดแล้วมองไปรอบๆ พอเห็นไม่มีใครมากวนจึงเขยิบเข้ามาใกล้ผมแล้วกระซิบบอกเบาๆ

"พี่คานินต้องระวังนะ ถึงจะเป็นผู้ชายด้วยกันก็เถอะ ไม่รู้สิ อัญว่ามันแปลกๆ ยังไงไม่รู้ อยู่ดีๆ คนรวยๆ จะมาเป็นเพื่อนกับคนอย่างพวกเราทำไม สงสัยคงต้องการอะไรบางอย่างจากพี่แน่ๆ เผลอๆ อาจจะเป็นเกย์ก็ได้ ถ้าพี่ไปไหนมาไหนกับเขาบ่อยๆ พี่ต้องระวังนะ เดี๋ยวจะ..."

อัญญาละไว้ในฐานที่เข้าใจ แต่ผมกลับไม่เข้าใจซะอย่างนั้น จึงถามอย่างพาซื่อเพราะไม่ทันคิด

"เดี๋ยวจะอะไรเหรอ"

"อ้าว พี่คานินไม่รู้จริงๆ เหรอว่าอัญหมายถึงอะไร"

ผมใช้เวลาครุ่นคิดสักพัก พอสมองเริ่มแล่นถึงเก็ท

อ้อ! รู้แล้ว! แล้วผมควรจะกลัวดีไหม!?

TBC...



หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-02-2016 18:50:25
 :L2: :pig4:

เรานั่ง refresh page นี้ทั้งวันอะ ขอบอก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-02-2016 22:18:27
ไม่ทันระวังแล้วล่ะอัญญา เค้าเป็นแฟนกันแล้วจ้าาา :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 UNDER REVISION
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-02-2016 06:07:46
ว้าวว เป็งต้องญาติดีกับจิ้งจกไว้บ้างนะ
เพราะจิ้งจกทำให้ได้กอดและเห็น....ของคานิน
ว่าแต่มีคนที่ทำงานแอบปิ๊งคานินมากกว่าหนึ่งหรือเปล่านะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 07-02-2016 07:55:28
เจอสถานการณ์แบบนี้คานินจะตอบยังไงล่ะคับ ๕๕๕ จะรอดูว่าคานินจะตอบยังไง
 พ่อค้าหล่อขายของหมดเร็วจริงๆ ๕๕๕  รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 07-02-2016 08:51:29
ไม่ทันแล้วล่ะอิหนู 5555555^65%
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 07-02-2016 13:41:55
ช้าไปแล้วหล่ะอัญญา 55555
เค้าจุ๊บกันแล้วด้วย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 07-02-2016 13:50:01
Perfect Man กลับกลัวจิ้งจกไปซะได้ ฮ่าๆ
แต่ก็นะครับ คนเราก็ต้องมีบ้างแหละที่กลัว
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 07-02-2016 18:24:55
ตกใจจิ้งจกมาเจองูเลยหายกลัว เอิ๊กๆ
ฉากเสียตัวเริ่มเยอะขึ้นแล้วแหะ เมื่อไหร่จะได้กันสักทีฮ่าๆ
ว่าแต่เพื่อนที่ทำงานนี้ อยากรู้อยากเห็นกันดีจัง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 07-02-2016 19:34:24
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 07-02-2016 22:35:23
สาวอัญจ้ะ ไม่ต้องห่วงหรอกจ้ะ เขาตกลงกันไปถึงไหนแล้ว ไปหาเอาข้างหน้าใหม่แล้วกันน่ะจ้ะ ตอนนี้นินเขาไม่ว่างแล้วจ้ะ  :katai3: เป็งจะยุ่งที่ร้านยาวเลยรึเปล่าเนี่ย ให้แนนไปช่วยงานเลยดีไหม  :mew4: เป็งน่ารักเชียวกลัวจิ้งจก  :o8:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ป๋า ที่ 08-02-2016 03:09:47
น้องอัญเตือนคานินช้าไปนะครับ เค้าไปช่วยกันปิ้งหมูมาละ 555+ :katai3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 08-02-2016 12:04:29
คุณเป็งกลัวจิ้งจก ฮ่าาาา
น่ารักไป

เดี๋ยวคุณเป็งไม่อยู่ จะมีคนคิดถึงมั้ยน้าา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 09-02-2016 11:47:19
บังเอิญไปดูหนังเกย์เรื่องหนึ่งมา จบเศร้า ตอนนี้จิตตกไปเลย ฮือๆ ไม่น่าไปดูมันเลย
เกลียดพระเอกมาก เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เขียนนิยายไม่ออกเลย เหอๆ ขอเวลาทำใจสักสองสามวันนะครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 09-02-2016 20:37:50
ลองเข้ามาอ่านเรื่องใหม่ เค้าส่งข้อความให้อ่าน ไม่รู้นึกไงมาชวนเรา 5555 :laugh: :laugh: :laugh:

เพิ่งอ่าน intro น่าหนุกดีเหมือนกัน :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 09-02-2016 20:39:32
บังเอิญไปดูหนังเกย์เรื่องหนึ่งมา จบเศร้า ตอนนี้จิตตกไปเลย ฮือๆ ไม่น่าไปดูมันเลย
เกลียดพระเอกมาก เกลียดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เขียนนิยายไม่ออกเลย เหอๆ ขอเวลาทำใจสักสองสามวันนะครับ

ดูเรื่องไรคับนี่  :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 09-02-2016 22:58:52
รอได้จ้า สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 10-02-2016 12:53:00
สนุกดีอ่ะ เริ่มต้นเรื่องมาแบบ ฟรุ้งฟริ้ง มุ้งมิ้ง. น่ารักดี ส่วนฮานี้มาจากเป็ง ล้วนๆเลย จะมีดราม่ามั้ยเนี่ย เค้าไม่ชอบดราม่า  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบบ  :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 10-02-2016 13:40:43


พอรู้ว่าเป็งมีความลับอะไรก็ทำให้รู้สึกว่าพระเอกของเราไม่ได้เพอร์เฟคสมบูรณ์ไปเสียทั้งหมด
ยังไงแกก็ยังมีส่วนอ่อนไหวและเรื่องที่ทำให้หลุดมาดคุณชายไปได้ คานินเองก็คงจะหายเกร็งไปเยอะพอดู
รออ่านว่าเป็งจะรุกคืบหัวใจของพ่อเขี้ยวเสน่ห์ยังไงต่อค่ะ เป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ ๆ !  :pig4:


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №6 ความลับของเป็ง ⓟ5 ▦6.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-02-2016 14:29:29
 :L2: :pig4:

เป็นกำลังใจด้วยคน
เชื่อว่ามีนักอ่านอีกหลายๆคนก็รออ่านเหมือนเรา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 10-02-2016 18:36:11
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ


(http://bit.ly/1RX8ogL)


ผมไม่ได้ตอบเรื่องที่อัญญาถามหรอก แม้ว่าที่นี่จะเป็นเพียงสังคมเล็กๆ ของลูกจ้างร้านกาแฟ แต่เรื่องอิจฉาริษยาหรือแทงข้างหลังกันคงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าโลกข้างนอก ยิ่งรู้มาว่าอัญญาแอบชอบผมด้วยแล้วผมยิ่งต้องระวังใหญ่ เกิดเธอรู้ว่าผมชอบผู้ชายขึ้นมาแล้วจะยุ่ง

ป่านนี้เป็งคงนอนหลับสบายไปแล้ว ตอนออกมาจากอพาร์ทเมนท์ของผม เป็งบอกว่าง่วงนอนมาก ปกติไม่เคยตื่นแต่เช้ามากขนาดนี้จึงต้องขอกลับไปนอนหลังจากที่ส่งผมเสร็จแล้ว คิดไปแล้วช่างน่าอิจฉา อยากตื่นอยากนอนเมื่อไหร่ก็ได้ ทำยังไงผมจะมีชีวิตแบบนี้บ้าง

พอร้านเปิดปุ๊บลูกค้าประจำเข้ามาทันที ผมจึงต้องหยุดคิดเรื่องต่างๆ ชั่วคราว บาริสตาหน้าใหม่ขอทำหน้าที่บริการลูกค้าให้สุดฝีมือ กระนั้น ตั้งแต่มาทำงานที่นี่ผมกลับเจอลูกค้าบ่นหรือด่าบ่อยมาก มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกวัน ไม่เกิดกับผมก็พนักงานคนอื่นๆ โดนกันถ้วนหน้าอย่างเท่าเทียมกัน แต่คนที่โดนผู้จัดการด่าบ่อยๆ มักเป็นผม บางทีผมอดสงสัยไม่ได้ว่าแกไม่ชอบขี้หน้าผมหรือเปล่า แต่ต้องทนเอา ยังไงก็ดีกว่านอนดีดสะดือที่บ้าน

"พี่กุ้งๆ ช่วงเที่ยงๆ ผมจะขอแวบไปทำธุระสักครึ่งชั่วโมงนะพี่ ผมฝากพี่ดูแทนผมหน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมจะดูแทนพี่กุ้งะอง พี่กุ้งจะแวบไปส่งของที่ไปรษณีย์พรุ่งนี้พอดีไม่ใช่เหรอ"

"อ้อ ใช่ๆ ดีเลย พี่ว่ากำลังจะถามคานินอยู่พอดี" พี่กุ้งหันมาตอบคำถามผมพร้อมกับยิ้มดีใจ

"แล้วคานินจะไปไหนเหรอ" พี่กุ้งถามด้วยสายตาคาดคั้น

"แถวๆ นี้แหละครับ"

"ฮั่นแน่ ไปหาคนที่มาส่งเมื่อเช้าใช่ไหมล่ะ คานินนี่ชักจะยังไงแล้วนะ ชอบแบบนี้ก็ไม่บอก"

"ไม่ใช่อย่างงั้นซะหน่อย" ผมประท้วงเขินๆ

โชคดีหน่อยที่ลูกค้าที่เพิ่งขาดช่วงไปเข้ามาต่อแถวซื้อของแล้ว เราจึงหยุดคุยกันโดยปริยาย ผมนึกอยากกระโดดกอดคอลูกค้าที่เพิ่งเดินเข้ามาเสียจริงๆ ช่วยชีวิตผมไว้ได้พอดีเลย

(http://bit.ly/1S1zfGS)

พอถึงช่วงพัก ผมเดินมาต่อคิวรอซื้อกาแฟรวมกับลูกค้าคนอื่นๆ พี่กุ้งและเพื่อนๆ คนอื่นๆ สงสัยกันใหญ่ ผมแค่ยิ้มๆ และไม่พูดอะไร พอได้กาแฟอเมริกาโน่แบบทอลล์จึงเดินตัวปลิวออกจากร้านไป ขืนชักช้าผมคงโดนเพื่อนๆ ซัก เพราะปกติคนอย่างพวกเราไม่ซื้อกาแฟในร้านนี้กินกันหรอก แถมผมเองยังไม่เคยออกไปไหนข้างนอกตั้งแต่มาทำงานที่นี่ พฤติกรรมแปลกๆ นี้ย่อมน่าสงสัย พอผมกลับมาคงจะมารุมถามกันใหญ่ แต่ความคิดถึงมีอานุภาพรุนแรงจนผมหาได้กลัวไม่

ผมมาถึงคอนโดของเป็งในเวลาเพียงสามนาที ที่ต้องรีบขนาดนั้นเพราะไม่อยากให้พี่กุ้งเหนื่อยคนเดียว ผมยืนคว้างท่ามกลางสายตาที่มองมาแปลกๆ แต่ผมหาได้สนใจไม่ พอเจอสิ่งที่ต้องการจึงยิ้มดีใจ ถึงผมจะไม่เคยมีคอนโดแต่พอรู้ว่าพนักงานที่ล็อบบี้จะช่วให้ผมติดต่อกับคนที่อาศัยอยู่ในนี้ได้ ว่าแล้วผมจึงเดินไปแจ้งความจำนงกับเจ้าหน้าที่สาวสวย บอกหมายเลขห้องของเป็งไป ไม่นานผมจึงได้คุยสายกับคนที่อยากเจอ

"คุณเป็ง ลงมารับผมหน่อยครับ ผมอยู่ที่คอนโดคุณเป็งแล้ว"

"คานินเหรอ ครับๆ เดี๋ยวผมลงไปเดี๋ยวนี้เลย"

ได้ยินเสียงหนุ่มตี๋ตอบรับแล้วแอบยิ้มกับตัวเอง ท่าทางผมจะเป็นเอามากถึงต้องมาหา "ผู้ชาย" ถึงที่ ให้อภัยผมหน่อยเถอะ คนจะไม่ได้เจอกันตั้งสองอาทิตย์ จะไม่ให้คิดถึงก็คงแปลก

ผมนั่งรอเพียงครู่เดียวเป็งจึงโผล่ออกมาจากประตูด้านใน หนุ่มตี๋ปราดมาหาพร้อมกับยิ้มแฉ่งสดใส

"มีอะไรเหรอคานิน คิดถึงผมเหรอ"

ดูถามเข้าสิ นี่มันที่สาธารณะนะพ่อคุณ ไม่คิดว่าผมจะอายคนอื่นบ้างหรือไงกัน พอเห็นผมไม่ตอบแต่ยืนยิ้มแหยๆ เป็งเอียงคอสงสัย แล้วทำท่าเหมือนนึกอะไรได้

"อ้อๆ ขึ้นไปบนห้องผมดีกว่า"

ผมจึงค่อยยิ้มออก ก่อนเป็งจะพาเข้าไป หนุ่มตี๋หยุดหันมามองเมื่อสังเกตเห็นของที่ผมถือมาด้วย

"โห...เดี๋ยวนี้คานินกินกาแฟนี้ด้วยเหรอ"

"เปล่า...ผมซื้อมาฝากคุณเป็งต่างหาก" ผมบอกแล้วส่งแก้วกาแฟพลาสติกให้คนที่อยากซื้อให้รับไป

"ขอบคุณมากคานิน" หนุ่มตี๋ยิ้มพลางรับมาถือไว้ในมือ สีหน้าดูซาบซึ้งชอบกล "ไปกันเถอะ"

บอกแล้วเป็งจึงเดินนำผมเข้าไปยังบริเวณลิฟต์ซึ่งจะต้องผ่านประตูที่ต้องใช้คีย์การ์ดก่อน พอเราเข้าไปอยู่ในลิฟต์กันสองคน เป็งยกกาแฟขึ้นมาจิบ ทำหน้าฟินยังกับได้ชิมน้ำทิพย์จากสวรรค์

"อเมริกาโน่ รสชาติแบบที่ผมชอบเป๊ะเลย"

พูดแล้วส่งยิ้มกรุ้มกริ่มมาให้ด้วย ป่านนี้คนที่นั่งดูซีซีทีวีคงรู้หมดกันแล้วว่าหนุ่มตี๋คนนี้คิดอะไรกับผมอยู่

"แล้วมาได้ยังไง ไม่ทำงานเหรอ"

"อีกสิบห้านาทีผมก็ต้องกลับแล้วครับ พอดีให้พี่ที่ทำงานช่วยเป็นบาริสต้าให้ชั่วคราว"

"อ๋อ...เข้าใจละ"

ดูเหมือนเป็งมีเรื่องอยากพูดมากกว่านั้น แต่ติดว่าอยู่ในลิฟต์จึงได้แต่ยิ้มๆ

พอเข้ามาในห้องพัก เป็งพาผมมานั่งที่โซฟารับแขก หนุ่มตี๋จิบกาแฟแล้ววางลงบนโต๊ะกระจกใสเตี้ยๆ ปกติจะต้องกินกับแซนด์วิชแฮมชีสสไตล์ฝรั่งเศสของโปรด แต่ผมไม่อาจหาญซื้อมาให้ได้

"ไม่มีขนมปังแบบที่คุณเป็งชอบกินมาด้วยนะครับ พอดีผม..." แค่นี้เป็งคงเข้าใจ ถ้าให้ผมซื้อสองอย่างนั้นก็เท่ากับค่าแรงผมหนึ่งวันพอดี

"ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้ผมก็ดีใจแล้ว" เป็งพูดตามที่ผมคิดไว้เป๊ะเลย

"ไม่ต้องให้เงินผมนะ ผมซื้อมาให้คุณเป็งเพราะว่าผมอยากซื้อมาให้ ถือเป็นการขอบคุณด้วยละกันครับ วันนี้ผมขายหมูปิ้งได้เยอะเลย หมดเร็วกว่าทุกวันด้วย" ผมรีบพูดดักไว้เสียก่อน

เป็งหยุดชะงักแล้วยิ้มจนตาหยี

"ขอบคุณคานินมากนะที่อุตส่าห์ซื้อมาให้ เดี๋ยวผมจะเอาแก้วใบนี้ติดตัวไปด้วย คานินจะได้ตามผมไปทุกที่ไง คานินอยากไปกับผมทุกที่หรือเปล่า"

ผมสบตากับเป็งเพียงครู่เดียวแล้วเสมองทางอื่น ไม่อาจทนเขินต่อสายตากรุ้มกริ่มของหนุ่มตี๋ที่ยิ้มยั่วไม่หยุดได้

"ยังเขินอยู่อีกเหรอ รู้จักกันหลายวันแล้วนะ"

พูดจบเป็งเขยิบเข้ามานั่งชิดจนแขนของเราชนกัน ตอนแรกผมตกใจหน่อยๆ จนเกือบเขยิบหนี แต่พอรู้ว่าตัวเองคงไม่ถูกคุกคามจึงทำเป็นนั่งเฉยเสีย รู้สึกอบอุ่นดีเหมือนกัน

"ผมไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายนี่" ผมหันไปตอบตาใส

เป็งหลุดหัวเราะชอบใจใหญ่ "ได้ข่าวว่าผมไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ทำไมผมไม่เห็นเขินล่ะ ที่แย่กว่านั้นนะ จูบไม่เป็นด้วย ต้องให้ใครบางคนสอนอีกต่างหาก"

เป็งยักคิ้วหลิ่วตายิ้มหน้อยยิ้มใหญ่ ผมเลยแก้เขินด้วยการผลักเป็งเบาๆ หนุ่มตี๋ตัวโยกไปหน่อยแล้วกลับมานั่งตัวตรงตามเดิม

"ผมพูดเรื่องจริงไม่ใช่เหรอ เนี่ย...ผมว่าจะหาคนปรึกษาเรื่องจูบอยู่ว่าจูบยังไงดีให้ประทับใจ"

นั่น...ยังไม่วายพูดเรื่องนี้อีกจนได้ ในเมื่อกล้าพูดผมก็กล้าเล่นบ้าง

"ไม่ต้องปรึกษาใครหรอกครับ ปรึกษาผมนี่แหละ ถามคนอื่นจะรู้ได้ไงว่าผมชอบแบบไหน"

พูดจบผมจึงยักคิ้วหลิ่วตาใส่เป็งบ้าง เป็งมองผมอย่างทึ่งๆ หรืออึ้งก็ไม่รู้ ไม่นานก็หรี่ตามอง

"ถ้างั้น...ก่อนกลับไปทำงาน คานินพอจะให้คำปรึกษาผมอีกสักรอบหน่อยได้ไหมล่ะ ผมชักอยากรู้ว่าคานินชอบแบบไหน"

"ไม่เอา" ผมรีบบอกปัดอย่างอายๆ

"แล้วเมื่อไหร่ล่ะ ผมต้องการคำปรึกษาเรื่องนี้อย่างเร่งด่วนเลยนะ"

"กลับมาค่อยปรึกษาก็ได้" บอกแล้วเสมองแก้วกาแฟแทนคนข้างๆ

"คานินสัญญากับผมแล้วนะ"

ผมพยักหน้าโดยไม่หันไปมอง ก่อนจะหันไปกำชับหนักแน่น "ห้ามไปปรึกษาคนอื่นล่ะ ถ้าผมรู้นะ..."

เป็งเอามือข้างขวาโอบรอบตัวผมไว้ เลื่อนใบหน้าลงต่ำมาพูดใกล้ๆ หูของผม

"ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอกน่า ยังไงๆ เรื่องสำคัญขนาดนี้ ผมต้องปรึกษาคานินคนเดียวอยู่แล้ว กลับมาแล้วจะปรึกษาให้หนำใจจนหายสงสัยเลยดีไหม"

ผมใช้ศอกกระทุ้งเบาๆ เป็งสะดุ้งหลบแทบไม่ทัน หนุ่มตี๋สุดหล่อของผมหัวเราะชอบใจใหญ่ เล่นกับผู้ชายแบบนี้คงไม่เป็นไรหรอก แต่ถ้ามีแฟนเป็นผู้หญิงคงทำแบบนี้ไม่ได้ โดนด่าแน่ๆ

"กินกาแฟแล้วนอนหลับเหรอครับ" ผมถามเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย มีหรือที่เป็งจะไม่รู้ทัน

"สบาย" เป็งพูดเสียงสูง แล้วพูดสืบไป "กาแฟยี่ห้อนี้คาเฟอีนไม่สูงเท่าไหร่ ผมกินมาตั้งแต่ไปเรียนที่อเมริกาแล้ว ไม่เห็นเป็นไรเลย ไม่เคยนอนไม่หลับเพราะกาแฟ มีแต่นอนไม่หลับเพราะคิดถึงใครบางคนเท่านั้นแหละ รู้เปล่าว่าเมื่อกี้ผมนอนไม่หลับเลย"

"มันไม่ใช่เวลานอนไง" ผมเถียงตาใส

"ฟังดีๆ สิ เมื่อกี้ผมบอกอยู่ว่าผมไม่ได้นอนไม่หลับเพราะกาแฟ แต่เพราะคิดถึงใครบางคนต่างหากล่ะ"

ผมอมยิ้มอย่างรู้ทัน จะทำให้ผมเขินอีกล่ะสิ คราวนี้ไม่ได้กินผมง่ายๆ หรอก

"เจอคนน่ารักๆ ไม่คิดถึงก็แปลกแล้วล่ะครับ"

เป็งหลุดหัวเราะจนตัวงอ ทิ้งตัวกลิ้งไปกลิ้งมาบนโซฟาใหญ่ กว่าจะหยุดหัวเราะเจ้าตัวท้องคัดค้องแข็งแทบแย่ ขนาดว่าลุกขึ้นมานั่ง หนุ่มตี๋ยังมีอาการหัวเราะเป็นระยะๆ ส่วนผมนั่งอมยิ้มทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้

"คานินนี่ตลกนะ ชมตัวเองเป็นด้วย แล้วที่คานินหนีงานมาเนี่ย เป็นเพราะว่าคิดถึงคนน่ารักๆ หรือเปล่าล่ะ"

ผมหันไปยิ้มยิงฟัน อวดเขี้ยวเสน่ห์ให้หนุ่มตี๋ตกตะลึงเล่นๆ

"ก็...น่าจะอย่างงั้นมั้งครับ"

"อ้อ..." เป็งพยักหน้ารับรู้ ก่อนชวนทำบางอย่างที่เราไม่เคยทำมาก่อน "เรามาถ่ายเซลฟี่กันหน่อยไหมคานิน"

"อ้อ ได้ๆ" ผมตอบรับโดยไม่รีรอเพราะเวลาเหลือน้อยแล้ว

เป็งเขยิบตัวมาชิดผมอีกครั้ง เอียงหัวมาติดกับหัวของผม แล้วยกโทรศัพท์มือถือรุ่นราคาแพงเตรียมไว้

"ยิ้มให้เห็นเขี้ยวด้วยนะ ผมจะเอามาทำวอลเปเปอร์โทรศัพท์ จะได้เห็นหน้าคานินทุกวันเลย ดีไหม"

ผมทำตามอย่างว่าง่าย พอผมยิ้มเห็นเขี้ยวอย่างที่เป็งต้องการแล้วหนุ่มตี๋จึงกดปุ่มถ่ายรูป

"เอาอีกสักสองสามรูปนะ"

"ครับ" ผมรับคำ

พอถ่ายรูปเสร็จ เป็งส่งรูปทั้งหมดที่เพิ่งถ่ายผ่านไลน์มาให้ผม ก่อนจะกำชับว่า

"ทำเป็นวอลเปเปอร์เลยนะคานิน"

เป็งไม่พูดเปล่า แต่ยังเอียงคอมาดูด้วยว่าผมตั้งค่าภาพที่ถ่ายเมื่อสักครู่นี้เป็นวอลเปเปอร์แล้วหรือยัง พอเห็นผมทำอย่างที่ต้องการแล้วจึงยิ้มพอใจ

"นี่ของผม" เป็งพูดพร้อมกับส่งหน้าจอโทรศัพท์ให้ผมดูบ้าง

"คานินน่ารักง่ะ เห็นเขี้ยวของคานินทีไร ใจผมละลายทุกทีเลย"

เป็งคงไม่ใช่แค่พูดเล่น เห็นสีหน้าท่าทางแล้วผมจึงรับรู้ได้ว่าเจ้าตัวรู้สึกอย่างนั้นจริงๆ

"ไปตั้งสองอาทิตย์ ผมคงคิดถึงคานินแย่เลย ชักไม่อยากไปซะแล้วสิ"

เป็งเอียงคอมาซบไหล่ผม จากประสบการณ์ที่ผ่านมา ใกล้ชิดถึงเนื้อถึงตัวอย่างนี้เมื่อไหร่ เหตุการณ์ชวน "เสียตัว" มักจะเกิดขึ้นตามมาในไม่ช้า แต่ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่เท่านั้นเอง

"คุณเป็งเดินทางกี่โมงครับ"

"สองทุ่ม กะว่าไปถึงโรงแรมก็จะนอนพักเลย ตอนเช้าค่อยตื่นมาเตรียมงานกับทีมงาน บ่ายๆ ค่อยเริ่มอบรม แต่ว่า...ตอนนี้ยังไม่ได้เก็บกระเป๋าเลย" เป็งพูดติดตลกตอนท้าย

"อบรมกี่วันครับ"

"สามวันสองคืน อบรมเสร็จก็ไปเชียงรายต่อเลย ความจริงถ้าไม่มีอบรม เตี่ยอยากให้ไปวันนี้เลย"

"แสดงว่าต้องเป็นเรื่องสำคัญมากนะครับ"

เป็งเปลี่ยนเป็นนั่งตัวตรงแล้วพยักหน้า "สงสัยจะโดนเตี่ยด่าอีกแน่ๆ เลย"

"ทำไมเหรอครับ" ผมเผลอถามด้วยความลืมตัวว่าเป็นเรื่องส่วนตัวของเป็ง

เป็งเม้มริมฝีปาก ทำท่าทางครุ่นคิด คล้ายว่าจะหนักใจอยู่เหมือนกัน

"เตี่ยไม่ชอบที่ผมมาทำอบรมแบบนี้เท่าไหร่ เงินก็ได้ไม่เยอะ ถ้าเทียบกับธุรกิจร้านอาหารนะ เตี่ยอยากให้ผมกลับไปดูแลร้านอาหารเต็มตัว เรื่องมันยาวน่ะ เอาไว้ผมจะเล่าให้คานินฟังทีหลัง คานินต้องกลับไปทำงานหรือยัง ใกล้เวลาแล้วนะ"

ผมรีบยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู เหลืออีกแค่สามนาทีเท่านั้นจะถึงเวลาตามที่ตกลงกับพี่กุ้งไว้

"แย่แล้ว ผมต้องรีบไปแล้วครับคุณเป็ง เหลืออีกสามนาที"

พูดจบผมลุกขึ้นพรวด พอจะวิ่งออกไปเป็งพลันร้องห้ามไว้ซะก่อน

"แป๊บนึงคานิน ผมมีอะไรจะให้"

ผมหยุดชะงัก เป็งวิ่งหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเองไม่นานจึงออกมาพร้อมกับหนังสือเล่มหนึ่ง

"คานินเอาไว้อ่านช่วงที่ผมไม่อยู่นะ มันจะช่วยให้คานินเข้าใจเรื่องการเงินขึ้นเยอะเลย กลับมาแล้วเราค่อยคุยกันว่าจะทำยังไงกับเรื่องงานของคานิน โอเคมั้ย"

ผมก้มลงมองหนังสือที่เป็งยื่นมาให้ พอเห็นชื่อหนังสือแล้วแปลกใจนิดหน่อย

พ่อรวยสอนลูก... โรเบิร์ต คิโยซากิ...

"ได้ครับ" ผมรับคำ

ก่อนที่ผมจะยื่นมือไปรับ คานินพลันชักมือกลับ จากนั้นจึงยกหนังสือขึ้นมาถือไว้ระดับคอ แล้วทำสิ่งที่ผมไม่คาดคิดด้วยการจูบลงไปเบาๆ บนปกหนังสือเล่มนั้น

"จะได้ขลังๆ ไง" หนุ่มตี๋ยิ้มเจ้าชู้ใส่จนผมเขิน

พอรับหนังสือมาแล้วผมก็ทำท่าจะวิ่งออกไป "ขอบคุณครับคุณเป็ง ผมต้องไปแล้ว ขอให้คุณเป็งเดินทางปลอดภัยนะครับ"

"เดี๋ยวผมไปส่ง" เป็งบอกอย่างเร่งรีบเช่นกัน คงกลัวว่าผมจะไปไม่ทันแล้วโดนทำโทษแน่ๆ

ตอนแรกผมนึกว่าเป็งจะมาส่งแค่ที่ล็อบบี้ ที่ไหนได้ หนุ่มตี๋วิ่งตามมาส่งผมถึงร้านเลย เหนื่อยจนลิ้นห้อย พอมาถึงหน้าร้าน ผมโบกมือลาให้อย่างเสียดาย เป็งยืนหอบแล้วโบกมือลาตอบกลับมาเช่นกัน

"แล้วเจอกันนะคานิน ว่างๆ แล้วผมจะโทรหานะ" เป็งบอกเสียงดังพอให้ได้ยิน

ผมพยักหน้ารับรู้แล้วรีบเข้าไปในร้าน ทันเวลาอย่างฉิวเฉียด พี่กุ้งหรี่ตามองอยู่พอดีแต่ยังยิ้มให้ที่ผมมาทันเวลา คิดๆ ไปแล้วผมรู้สึกมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก ไม่เคยมีความสุขอย่างนี้มานานแล้ว ตั้งแต่เลิกกับแฟนคนก่อนผมไม่เคยรู้สึกอย่างนี้อีกเลย แม้ว่าลึกๆ ผมกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอย คบกับคนที่ฐานะต่างกันมากๆ ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คนหัวรั้นหน่อยๆ อย่างผมยังอยากขอลองพิสูจน์อีกสักครั้ง

(http://bit.ly/1mD2rHH)

สามทุ่มครึ่งแล้วคนบนรถเมล์ยังคงแน่น ดึกดื่นค่อนคืนกันแล้วน่าสงสัยเสียจริงว่าจะไปไหนกันนักหนา แต่ผมคงต้องถามคำถามนั้นกับตัวเองด้วยว่าทำไมผมถึงยังไม่ถึงห้องและนอนพักผ่อนเสียที ไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างนี้ไปอีกนานแค่ไหน แต่เอาเถอะ ถึงมันจะเหนื่อยไปหน่อยแต่ต้องกัดฟันทน บางทีหนังสือเล่มนี้ที่เป็งให้ผมมาคงจะช่วยให้ผมได้พบคำตอบบางอย่างที่ผมต้องการบ้างก็ได้

"อ่านหนังสือแบบนี้ด้วยเหรอ"

อัญญาเอ่ยถามหลังจากที่เธอเห็นผมจ้องดูหนังสือเล่มหนึ่งอยู่นาน จ้องไปยิ้มไป ไม่รู้ว่ามีอะไรดี บ้านผมกับอัญญาไปทางเดียวกัน เราจึงนั่งรถเมล์กลับพร้อมกันบ่อยๆ แต่อัญญาถึงก่อนเพราะอยู่แถวรัชดา

"อ๋อ...ใช่" ผมหันไปตอบและยิ้มจางๆ ให้กับหญิงสาวที่นั่งข้างๆ

พอนึกได้ว่าหนังสือนี้มีรอยประทับจูบอยู่ผมอดยิ้มกับตัวเองไม่ได้ พยายามเพ่งหารอยจูบนั้นแต่ไม่เห็นเลย ปกติผมไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือหรอก แต่รอยจูบของเป็งสร้างแรงจูงใจให้อยากอ่านได้มากทีเดียว

"เล่มเท่าไหร่ล่ะ ท่าทางจะแพง พี่คานินกล้าซื้อหนังสือพวกนี้มาอ่านด้วยเหรอ"

"เปล่า...ไม่ได้ซื้อเองหรอก มีคนให้มา" ผมบอกแล้วเก็บหนังสือใส่กระเป๋าตามเดิม บอกเป็นนัยๆ ว่าไม่อยากให้อัญญาถามเซ้าซี้เรื่องนี้อีก

"ใครเหรอ ผู้ชายคนนั้นที่มาส่งพี่คานินหรือเปล่า"

"อืม" ผมพยักหน้า ไม่อยากโกหกเพราะไม่รู้จะโกหกไปทำไม

"พี่คานินไปรู้จักคุณเป็งตั้งแต่ตอนไหนเหรอ"

ดูเหมือนใครๆ รู้จักลูกค้าขาประจำคนนี้เป็นอย่างดี ขนาดอัญญาที่เพิ่งมาทำงานไม่กี่เดือนยังรู้จักชื่อเลย

"วันที่ฝนตกไง วันที่พี่โดนผู้จัดการดุแล้วกลับบ้านช้า พอดีฝนมันตก พี่เจอคุณเป็งแถวๆ หน้าร้านพอดี คุณเป็งเดินถือร่มไปส่งที่ป้ายรถเมล์เลยรู้จักกัน"

"อ๋อ...ไม่กี่วันนี่เอง พูดถึงวันนั้นแล้วชักหมั่นใส้ยัยสองคนนั้นไม่หาย ดีแล้วที่เลิกมากินที่ร้าน มาทีไรชอบเรื่องมาก ด่าคนนั้น ด่าคนนี้ อัญล่ะเกลียดจริงๆ"

อัญญาทำหน้าบูดบึ้งไปด้วยในขณะที่พูด ดูท่าทางเธอไม่ชอบผู้หญิงสองคนนั้นที่ด่าผมกลางร้านเอามากๆ

"อัญเคยโดนสองคนนั้นว่าด้วยเหรอ"

"ค่ะ พอดีอัญญาลืมเอาซองบราวน์ชูก้าให้ มันด่าอัญใหญ่เลย หาว่าไม่เป็นมืออาชีพ อะไรของมันก็ไม่รู้"

อัญญาทำเสียงจิ๊กจั๊กคล้ายกับรำคาญ

"ช่างเขาเถอะ ยังไงๆ เขาก็ไม่กลับมากินที่ร้านเราแล้วนี่"

อัญญาถอนหายใจเบาๆ

"เฮ้อ...ถึงสองคนนั้นไม่มาก็ยังต้องเจอลูกค้าเรื่องมากอยู่ดีแหละ ไม่รู้ว่าจะทนทำไปได้อีกสักกี่น้ำ"

"มันเป็นงานบริการไง งานบริการไหนๆ ต้องอดทนกับเรื่องแบบนี้ทั้งนั้น" ผมพยายามปลอบใจ สาวเจ้าจึงหันมายิ้มด้วย

"พี่คานินคิดบวกดีนะคะ เป็นเพราะหนังสือเล่มนั้นหรือเปล่า รวยแล้วอย่าลืมเอามาให้อัญอ่านบ้างนะคะ"

"อ๋อ...พี่ยังไม่ได้อ่านเลย" พูดจบเสียงโทรศัพท์ของผมพลันดังขึ้น "แป๊บนึงนะอัญ" ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู พ่อผมโทรมานั่นเอง เห็นพ่อแม่โทรมาหาทีไรใจคอไม่ดีทุกทีเพราะกลัวเรื่องแนนจะรั่วไหล

"หวัดดีครับพ่อ" ผมกรอกเสียงลงไปแล้วเหม่อมองออกไปนอกกระจกรถ

"หวัดดีลูก ช่วงนี้นินได้เจอน้องมั่งหรือเปล่าลูก ทำไมพ่อโทรไปทีไรน้องไม่ค่อยรับสายเลย"

ไม่ทันฟังอีร้าค่าอีรมใดๆ พ่อผมเปิดเรื่องทันที ผมยิ่งใจเต้นด้วยความกลัวเข้าไปใหญ่

"อ๋อ...เจอครับพ่อ เพิ่งเจอกันเมื่อวานนี้เองครับ แนนมาหาผมที่ห้อง สงสัยแนนจะเรียนหนักมั้งครับ เห็นแนนบ่นๆ อยู่ว่าเรียนหนักมาก กิจกรรมก็เยอะ พ่อมีอะไรหรือเปล่าครับ ฝากผมไว้ก็ได้ ถ้าผมเจอแนนผมจะบอกให้ครับ"

ผมได้ยินเสียงพ่อถอนหายใจ ไม่ต้องบอกคงรู้ว่าหนักใจมากแค่ไหน

"น้องไม่กลับบ้านมาปีกว่าแล้วนะนิน นินแน่ใจนะว่าน้องไม่มีปัญหาอะไร พ่อได้ยินคนแถวบ้านมันลือกันไปต่างๆ นาๆ หาว่าท้องมั่ง มีแฟนมั่ง นินช่วยดูน้องหน่อยนะลูก พ่อละกลัวจริงๆ โทรหาก็พูดกับพ่อกับแม่สองสามคำ แล้วก็บอกว่ายุ่ง ไม่รู้ว่ายุ่งอะไรนักหนา ไม่กลับบ้านนานขนาดนี้ ไม่คิดว่าพ่อกับแม่จะคิดถึงมั่งหรือไง"

ผมอดที่จะรู้สึกผิดต่อพ่อกับแม่ไม่ได้เลย ท่านสองคนไม่รู้จักโลกภายนอกเท่ากับเราสองคน แม้จะไม่เข้าใจว่าทำไมการเรียนมหาวิทยาลัยถึงยุ่งขนาดนั้นจนแทบไม่มีเวลากลับบ้านกลับช่อง แต่พ่อกับแม่ของผมยังเชื่อสิ่งที่ผมกับน้องช่วยกันปิดบังเสมอมา แต่ไม่รู้ว่าจะปิดบังได้นานอีกแค่ไหน

"เดี๋ยวผมจะบอกให้แนนโทรหาพ่อกับแม่นะครับ" ผมบอกไปแค่นั้นเพราะไม่รู้จะพูดอะไรมากกว่านี้ เผลอๆ พูดไปแล้วความจะแตกจนได้

"ถามจริงๆ นะนิน นินกับน้องปิดบังอะไรพ่อกับแม่อยู่หรือเปล่า"

ผมถึงกับเสียวสันหลังวาบ มองซ้ายขวาแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่

"เอาอย่างงี้ เดือนหน้าพ่อกับแม่จะขึ้นไปหานินกับน้องที่กรุงเทพ เดี๋ยวพ่อจะให้เหน่งไปส่ง"

เหน่งที่พ่อพูดถึงคือลูกพี่ลูกน้องของผมเอง ทำไร่มะยงชิดอยู่ติดๆ กับไร่ของพ่อผม อายุมากกว่าผมเกือบสิบปี เป็นหลานที่พ่อรักมาก ไหว้วานให้ช่วยได้ทุกอย่าง พ่อกับแม่เคยขึ้นมาหาผมที่กรุงเทพสมัยผมยังเรียนอยู่ ได้พี่เหน่งนี่แหละที่อาสาขับรถพาขึ้นมา แม้กระทั่งตอนที่ผมมาเรียนที่กรุงเทพ พี่เหน่งก็ขับรถมาส่ง

"ครับพ่อ เดี๋ยวผมจะบอกน้องให้ครับ แค่นี้ก่อนนะครับพ่อ เอาไว้ว่างๆ ผมจะโทรหาครับ"

ผมต้องรีบวางสายเพราะไม่อยากคุยนานจนพ่อจับได้ แต่คราวนี้ ผมกับน้องคงไม่สามารถปิดบังได้อีกแล้ว นึกไม่ออกเลยว่าแนนจะเจออะไรบ้างถ้าพ่อกับแม่รู้เรื่องนี้เข้า ได้แต่หวังว่าพ่อกับแม่จะให้อภัยแนน ยังไงๆ แนนก็เป็นลูก ผิดพลาดขนาดไหนพ่อกับแม่คงจะให้อภัยได้

"คุยกับใครเหรอคะพี่คานิน หน้าเครียดเชียว"

"อ๋อ...เปล่า ไม่มีอะไรหรอก" ผมหันไปยิ้มกลบเกลื่อนกับอัญญา

อัญญาพยักหน้าเข้าใจ ร่างบางยิ้มกริ่มเพราะกำลังจะบอกเรื่องสำคัญ "พี่คานิน อาทิตย์หน้าเป็นวันเกิดของอัญ จัดที่บ้าน พี่คานินต้องไปให้ได้นะ"

"อ้อ...ได้ๆ วันไหนล่ะ"

"สิบห้ามกราค่ะ"

"แล้วเชิญใครมั่งล่ะ" ผมถามโดยไม่หันไปมองหน้า

"ในร้านมีแค่พี่กุ้งกับพี่คานินนี่แหละ นอกนั้นเป็นเพื่อนๆ ของอัญเอง"

"งั้นพี่คงตามไปดึกๆ นะ เพราะว่าวันนั้นพี่ต้องทำงาน แนนจะลาเหรอ"

"ค่ะ" อัญญาพยักหน้า "พี่คานินรับปากแล้วนะ ต้องไปให้ได้นะคะ"

"ครับ" ผมรับคำ

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกแล้ว พอเห็นว่าใครโทรมาผมจึงหันไปยิ้มคนเดียวเงียบๆ ไม่ให้อัญญาสังเกตเห็น จะใครเสียอีกล่ะ คนที่อยู่ในรูปวอลเปเปอร์ที่หน้าจอโทรศํพท์และเจ้าของรอยจูบบนปกหนังสือนั่นไง!

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-02-2016 19:34:13
 :L2: :pig4:

 "อยากมาหาบ้างไรบ้าง..."
คนมีความรักนี่ สดใสจริงๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 10-02-2016 19:36:34
มาต่อแล้วววว เป็ง คานิน น่ารักง่ะ  :impress2: :impress2: :impress2:

คานินเรียนจบ ม.หอการค้าไม่ใช่หรอ ทำไมไม่หางานอื่นทำหล่ะ  :hao3: :hao3: :hao3:

น้องอัญชวนคานินไปบ้านวันเกิด คิดแผนไรอยู่ป่าวเนี่ย o18 o18 o18

ช่วงหลังพิมพ์ชื่อผิดนะครับ อัญญา ไม่ใช่ แนน เนอะ  :mew4: :mew4: :mew4:

มาต่อเร็วๆ นะคร้าบบบบ  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 10-02-2016 19:48:00
คุณเป็งนี้รุกคานินเร็วเหมือนกันนะ..แต่ชอบ
ชักจะไม่ชอบอัญญาแล้วนะ  :hao4:
ถ้าพ่อแม่รู้เรื่องน้องสาวทุกอย่างคงจะดีขึ้นจะได้รับหลานไปเลี้ยงและอยู่ก้องพักก็ไม่ค่อยสะดวกอยู่แล้วนะ  :mew2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 10-02-2016 20:18:28
รุกใหญ่เลยนะเป็ง เกี้ยวคานินน่าดู
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 10-02-2016 21:00:35
คุณเป็งนี้รุกคานินเร็วเหมือนกันนะ..แต่ชอบ
ชักจะไม่ชอบอัญญาแล้วนะ  :hao4:
ถ้าพ่อแม่รู้เรื่องน้องสาวทุกอย่างคงจะดีขึ้นจะได้รับหลานไปเลี้ยงและอยู่ก้องพักก็ไม่ค่อยสะดวกอยู่แล้วนะ  :mew2:

อย่าอ่านจนลืมต่อของตัวเองนะคร้าบบยย 555 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 10-02-2016 23:13:57
แหมเปลี่ยนอารมณ์ไวเชียว เวลาแฟนโทรมาเนี่ย เหอๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 11-02-2016 02:48:51
คานินตอนไปงานวันเกิดยัยอัญอะไรนี่ก็ระวังตัวไว้บ้างนะ เผื่อเกิดเมาแล้วจะโดนยัยอัญปล้ำเอาจะแย่นะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 11-02-2016 07:19:22
  เย้ๆ ได้อ่าน เป็ง คานินแล้ววว
  พ่อ แม่จะมาหาที่กรุงเทพเลยนะ สงสัยคนแถวบ้านที่มาเรียนพร้อมแนนจะบอกพวกท่าน
  เป็งก็มีปัญหาทางบ้าน คานินก็มีปัญหาทางบ้านพร้อมกันอีก
  จะเป็นไงต่อ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 11-02-2016 13:12:31
น้องอัญนี่ยังไง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 11-02-2016 16:08:30
 :impress3:น่ารักเชียว ชักอิจฉาคานินจังเลย เป็งน่ารักจริงๆ ช่วงนี้ยุ่งๆ ไม่ค่อยเข้ามาเลยน่ะแต่ยังติดตามเสมอจ้า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 11-02-2016 22:26:22
งืออออ เมื่อไหร่จะมาต่ออ้าาาา เค้ารออยู่  :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 11-02-2016 23:50:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦10.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 12-02-2016 05:03:45
รอตอนต่อไปนะคะ :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 13-02-2016 08:18:38
สงสัยยัยอัญญานี่จะเป็นอุปสรรคชิ้นโต

พ่อกับแม่ก็จะมาแล้ว ทีนี้หล่ะซวยแน่ๆ สู้ๆนะนิน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 13-02-2016 17:39:17
มากดดันคนเขียน คึคึ o18 o18 o18
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №7 เซลฟี่และจูบบนหนังสือ ⓟ6 ▦
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 14-02-2016 09:30:05
 :L2:

Best wishes & Happy Valentine's Day

มีตอนพิเศษไหมมมมม นะ ^^

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 15-02-2016 13:20:51
5555555555 พระเอก เอาแล้วไงล่ะ ถึงน้องคานินรูปไม่หล่อเท่าเธอ ไม่รวย แต่น้องนิสัยดี น่ารักนะจ๊ะะะะ เสน่ห์แรงก็ไม่แปลกหร๊อกกก อิอิ เป็นกำลังใจให้เป็งจ้า5555555(หัวเราะอย่างสะใจ)

ขอบคุณค่ะ สนุกมากค่า ติดตามอยู่ตลอดจ้า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 15-02-2016 13:34:45
ตอนแรกระแวงยัยอัญอยู่นะ เพราะไม่คิดว่าเป็งจะกลับมาทัน แต่เป็งมาแล้ว ยัยอัญหมดสิทธิ์ 5555 :laugh: :laugh: :laugh:

ดีจังที่บ้าน(พ่อ)ของเป็งรับได้ที่ลูกมีแฟนเป็นผู้ชาย โล่งไปหน่อย  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

เรื่องนี้อินมาก บอกเลยเพราะเอาพี่โอมาเป็นอิมเมจตัวละคร แบบชอบพี่โอมากกกกกกก เลยอินมากกกก :impress2: :impress2: :impress2:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 15-02-2016 13:41:26
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 8 อย่าจับแขนแฟนผม


(http://bit.ly/1RX8ogL)

"จ. - ความจริงลื้อไม่ต้องมาก็ได้นะอาเป็ง อั๊วกับพี่ชายลื้อแก้ปัญหาให้ลื้อแล้ว ขืนรอลื้อก็เจ๊งกันพอดี"

เดินเข้าบ้านมายังไม่ถึงสามก้าว เตี่ยผมก็ล้งเล้งใส่ผมเป็นภาษาจีนทันที ผมจึงหยุดกึกอยู่กลางบ้าน
คราวที่แล้วได้พี่ชายกับม๊าช่วยห้ามทัพไว้ให้ สงบศึกกันไปได้หลายเดือน แต่ดูท่าว่าจะเริ่มอีกแล้ว

"จ. - ลูกชายอากิมอีจะลาออกจากงานแล้วมาช่วยเป็นลูกมือให้ อั๊วไปคุยกับอีมาแล้ว
พออีทำเป็นหมดทุกอย่าง อั๊วก็จะให้อากิมพักผ่อน ให้ลูกชายอีทำแทน ลูกชายอีเป็นคนขยัน หัวไว
สอนไม่นานก็เป็น ที่สำคัญ อีเป็นคนไว้ใจได้ ฝีมือทำอาหารของอีก็พอใช้ได้อยู่"

สีหน้าดุของเตี่ยทำให้ผู้เป็นแม่ที่เดินมาพร้อมกับลูกชายต้องออกโรงปกป้องอีกตามเคย

"จ. - อาเฮียก้อ อาเป็งอีเพิ่งกลับมาเหนื่อยๆ ให้อีพักผ่อนให้หายเหนื่อยก่อนสิอาเฮีย ไป...อาเป็ง
ลื้อขึ้นไปพักผ่อนบนห้องของลื้อก่อน เดี๋ยวถึงเวลาอาหารเย็นแล้วหม่าม๊าจะให้คนไปตาม"

ตั้งแต่ผมกลับมาจากอเมริกาและหันมาทำอาชีพอบรมเรื่องการสื่อสารอย่างสันติ เตี่ยก็ไม่ชอบใจนัก
แกเรียกงานที่ผมทำว่า "งานบ้าๆ บอๆ" จึงพยายามตะล่อมให้ผมเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น
แต่ผมก็ยังดื้อตาใสเหมือนไม่เข้าใจ เคยทะเลาะกันเรื่องนี้มาสองสามครั้งแล้ว แต่ผมก็ตีมึนตลอด

"จ. - ไปสิอาเป็ง" ม๊าเตือนผมอีกรอบ แต่พอม๊ารุนหลังให้ผมขึ้นไปบนห้อง เตี่ยผมก็รีบชิงพูดขึ้นก่อน

"จ. - อั๊วบอกลื้อกี่ครั้งกี่หนแล้วว่าอย่าไปทำอาชีพอย่างงั้น ได้เงินนิดๆ หน่อยๆ ลื้อจะทำให้เหนื่อยทำไม
ถ้าลื้ออยากอยู่กรุงเทพ ไม่อยากกลับมาอยู่ที่บ้าน ลื้อก็เปิดร้านทำธุรกิจอะไรก็ได้ เดี๋ยวอั๊วลงทุนให้
ทำไมไม่รู้จักฟังกันเลยห๊ะอาเป็ง วันหนึ่งลื้อก็จะรู้ว่ามันเหนื่อยเปล่า คนจีนอย่างเราไม่ควรขายแรง
เราควรจะมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ไปรับจ้างเขาอย่างงั้น ลื้อรู้ไหม..ถ้าลื้อเชื่ออั๊วนะอาเป็ง
อั๊วจะยอมให้ลื้อทำอะไรก็ได้ที่ลื้ออยากทำ ลื้ออยากมีแฟนไม่มีแฟน อยากแต่งงานไม่อยากแต่งงาน
อั๊วก็จะไม่ว่าอะไรลื้อเลย ลื้อจะแต่งกับใครอั๊วก็ไม่ว่า"

ที่บ้านผมรู้เรื่องที่ผมไม่ยอมมีแฟนมาเป็นสิบๆ ปีเป็นอย่างดี แน่นอนว่าย่อมถูกสงสัยว่าผิดปกติ
คนในบ้านจึงสงสัยกันใหญ่ว่าผมเป็เกย์หรือเปล่า ผมทำได้แค่ตอบว่ายังไม่เจอคนที่ถูกใจ
แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่คำตอบที่คำให้บรรดาคนที่สงสัยหายสงสัยได้

"จ. - จริงเหรอครับเตี่ย เตี่ยจะให้อั๊วทำอะไรก็ได้อย่างงั้นเหรอ"

ปกติผมมักจะเลี่ยงพูดคุยกับเตี่ยเรื่องนี้ แต่พอได้ยินว่าเตี่ยจะให้ผมทำอะไรก็ได้ หูผมก็ผึ่งทันที

"จ. - อั๊วเป็นเตี่ยลื้อนะอาเป็ง ลื้อคิดว่าอั๊วจะพูดเล่นๆ กับลื้องั้นเหรอ"

พ่อผมตอบเสียงดุกลับมา แต่สีหน้าก็ดูอ่อนลงไปพอสมควร ปกติเตี่ยผมไม่ใช่คนเจ้าอารมณ์ หรอก
เป็นผู้นำครอบครัวที่ลูกๆ อยากอยู่ใกล้มากกว่าอยู่ห่าง ผมเองยังคุยกับเตี่ยบ่อยกว่าม๊าอีก

"จ. - จริงนะครับเตี่ย" ผมขอคำยืนยันอีกครั้ง ยิ้มตาโตอย่างดีใจ

เตี่ยกับม๊ามองหน้ากันงงๆ สักพักก็หันมามองผมพร้อมกัน คงสงสัยว่าผมกำลังดีใจเรื่องอะไร

"จ. - ลื้อเป็นอะไรของลื้อน่ะอาเป็ง"

"จ. - เปล่าครับเตี่ย" ผมรีบบอกไป แล้วก็หันไปมองไปรอบๆ บ้าน "จ. - เฮียปิงยังไม่กลับอีกเหรอครับ"

"จ. - ยัง ดึกๆ นั่นแหละถึงจะกลับ อีพาแฟนของอีไปเที่ยวในเมือง"

พอถามถึงลูกชายคนโต ม๊าของผมก็ยิ้มมีความสุข แสดงคงถูกใจว่าที่ลูกสะใภ้ไม่น้อย

ผมพยักหน้ารับรู้พร้อมกับรู้สึกแปลกใจไปด้วย แต่พอรู้ว่าพี่ชายมีแฟนแล้วก็โล่งใจไปอีกโข
ความกดดันที่ครอบครัวมีต่อผมก็จะพลอยลดลงไปด้วย

"จ. - อีกไม่นานอาปิงอีก็จะเป็นฝั่งเป็นฝาแล้ว เมื่อไหร่ลื้อจะคิดเรื่องนี้สักทีล่ะอาเป็ง"

ผมหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อโดนเตี่ยทวงทั้งๆ ที่เพิ่งสัญญาว่าจะให้ผมทำอะไรก็ได้ไปหยกๆ

"จ. - อะไรกันครับเตี่ย เตี่ยสัญญาแล้วนะว่าจะให้อั๊วทำอะไรก็ได้ แล้วอีกอย่าง...ถ้าอั๊วจะมีแฟน
เตี่ยกับม๊าไม่ต้องห่วงหรอก อั๊วไม่ทำให้เตี่ยกับม๊าผิดหวังแน่นอน"

เตี่ยผมขมวดคิ้วมองอย่างแปลกใจ แล้วก็ย่างเท้าเข้ามามายืนใกล้ๆ ผม

"จ. - ลื้อพูดอย่างงี้หมายความว่าไงวะอาเป็ง อย่าบอกนะว่าลื้อมีแฟนแล้ว"

เตี่ยจ้องผมเขม็ง แต่ผมกลับรู้สึกว่าหน้าตาท่าทางที่พยายามทำให้ดูดุกลับดูตลกจนผมเกือบหลุดหัวเราะ
ปกติเตี่ยผมเป็นคนตลก เป็นคนเดียวในบ้านที่เรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้มากกว่าใครๆ
แต่บทจะดุก็เอาเรื่องเหมือนกัน เหมือนอย่างวันนี้ที่ผมเพิ่งกลับมาถึงบ้านก็โดนซะแล้ว
กระนั้น เตี่ยผมก็มักเป็นคนที่หายโกรธไว อารมณ์แจ่มใสมากกว่าอารมณ์เสีย ชอบหัวเราะสนุกสนาน

"จ. - จริงเหรออาเป็ง" ม๊าผมก็พลอยสงสัยไปด้วย ทั้งสองคนจ้องหน้าผมเขม็งด้วยความอยากรู้

ผมยิ้มอย่างอารมณ์ดี บรรยากาศที่ดูตึงเครียดเมื่อกี้เปลี่ยนไปจนผมเองก็ยังงงๆ

"จ. - แล้วแฟนลื้อ...เป็นผู้หญิงหรือผู้ชายวะอาเป็ง"

"จ. - ทำไมลื้อถามอย่างงั้นล่ะอาเฮีย" ม๊าหันไปดุเตี่ย ท่าทางดูจะตกใจกับคำถามของเตี่ยไม่น้อย

"จ. - เอ๊...ลื้อก็รู้ไม่ใช่เหรอว่าอาเป็งอีไม่จีบผู้หญิง แล้วอีก็ไม่มีแฟนมาเป็นสิบปี อั๊วน่ะทำใจมาตั้งนานแล้ว
อย่าบอกนะว่าลื้อน่ะยังทำใจไม่ได้" เตี่ยผมทำเสียงดุใส่ม๊าคืนบ้าง

ผมแทบจะอ้าปากค้าง ไม่เคยคิดเลยว่าเตี่ยยอมรับเรื่องนี้ได้ ผมนึกว่าถ้าเตี่ยรู้แล้วจะเกิดปัญหาใหญ่ซะอีก
เตี่ยยกมือขึ้นตบไหล่ผมเบาๆ สองสามครั้งพร้อมกับยิ้มอย่างอบอุ่น

"จ. - อั๊วไม่ว่าลื้อหรอกนะอาเป็ง อั๊วขออย่างเดียว ลื้อหาอาชีพทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราวซะทีเถอะ
ไม่ทำร้านอาหารก็ไม่เป็นไร ให้พี่ชายลื้อทำไป แล้วถ้าแฟนลื้อเป็นคนดี ขยัน ช่วยกันทำมาหากินได้
อีจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายอั๊วก็ไม่ขัดข้องหรอก อั๊วขอแค่ให้ลื้อทำธุรกิจอะไรสักอย่างก็พอแล้ว"

"จ. - ได้ครับเตี่ยๆ"

ผมรับคำละล่ำละลักทั้งๆ ที่คอยเลี่ยงเรื่องนี้มาตลอด ถ้ามีข้อเสนอดีๆ แบบนี้ผมคงยอมไปนานแล้ว
ใบหน้าของคานินลอยเข้ามาในความคิดของผม ถ้าเราสองคนทำธุรกิจด้วยกันที่กรุงเทพคงจะดีไม่น้อย
คานินจะได้ไม่ต้องไปทำงานที่ร้านกาแฟนั่นให้เสียสุขภาพจิต เราสองคนจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากขึ้นด้วย

"จ. - อาเป็ง ตกลงแฟนลื้อเป็นผู้ชายจริงๆ เหรอ" ม๊าคาดคั้นค่าที่อยากรู้คำตอบให้แน่ชัด

ผมพยักหน้าเป็นเชิงยอมรับอย่างช้าๆ "จ. - ครับม๊า"

"จ. - อาเป็ง...ลื้อไม่ได้ล้ออั๊วเล่นใช่ไหม"

ดูเหมือนม๊าจะตกใจอยู่คนเดียว ไปๆ มาๆ จะกลายเป็นม๊าของผมหรือเปล่าที่ไม่เข้าใจเรื่องนี้
ที่ผ่านมาม๊ามักแก้ตัวแทนผมบ่อยๆ ว่าผมยังเด็ก ยังไม่คิดเรื่องมีแฟน ใครถามม๊าก็มักบอกอย่างนี้เสมอ
ผมเคยเข้าใจว่าม๊าอาจเป็นคนแรกที่ทำใจได้ก่อนเตี่ยด้วยซ้ำ แต่ตอนนี้ดูเหมือนจะไม่ใช่เสียแล้ว

"จ. - ลื้อนี่ยังไง ก็อีเป็นแบบนี้แล้วลื้อจะให้อีทำไง ไปๆ อาเป็ง ลื้อขึ้นไปอาบน้ำอาบท่าก่อน
เดี๋ยวอั๊วจัดการม๊าของลื้อเอง"

การณ์กลับกลายเป็นว่าเตี่ยเป็นคนรุนหลังให้ผมขึ้นไปอาบน้ำเพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะกับม๊าผมซะเอง
ผมจึงรีบเดินขึ้นบ้านไปอย่างงงๆ แต่ก็เชื่อว่าเตี่ยผมน่าจะสามารถจัดการพูดให้ม๊าเข้าใจได้ไม่ยาก

(http://bit.ly/1mD2rHH)

ห้องนอนของผมถูกจัดไว้เป็นระเบียบเรียบร้อยอย่างดีแม้ว่าผมจะไม่ค่อยได้มานอนที่นี่เท่าไหร่
กระเป๋าเดินทางของผมก็ถูกนำมาวางไว้ในห้องแล้วโดยคนงานในบ้าน ผมแทบไม่ต้องทำอะไรเลย
ความจริงอยู่บ้านก็สบายดีอยู่หรอก แต่ผมก็ยังมีสิ่งที่ท้าท้ายและอยากทำให้สำเร็จที่กรุงเทพ
ก็เลยไม่ยอมกลับมาอยู่บ้านหลังจากที่เรียนจบ

ร้านอาหารสองร้านที่เตี่ยตั้งใจจะแบ่งให้ผมกับพี่ชายคนละร้านผมก็ไม่ได้มาดูแลเท่าไหร่
สุดท้ายเตี่ยก็เลยช่วยดูแลร้านที่เป็นของผมไปก่อน ส่วนอีกร้านก็ให้พี่ชายผมดูแลเต็มตัวไปเลย
แต่ผมก็ไม่ถึงกับไม่สนใจใยดีขนาดนั้น เพราะรายได้ของผมส่วนใหญ่ก็มาจากร้านอาหารนี่แหละ
จะว่าไปก็เยอะกว่ารายได้จากงานอบรมของผมหลายเท่า ผมจึงต้องกลับมาดูแลบ้างเป็นครั้งคราว

ผมหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วก็กดโทรหาพี่ชาย กะว่าจะแซวเล่นซะหน่อย

"เฮียปิง อั๊วถึงบ้านแล้วนะ ไม่เจอเฮียเลย" ผมกรอกเสียงลงไปเมื่ออีกฝ่ายรับสาย

"อ้อ เฮียออกมาข้างนอก อยู่ที่ไร่ชาฉุยฟง เป็งมาถึงนานหรือยัง"

ปกติผมกับพี่ชายคุยกันเป็นภาษาไทย เดี๋ยวนี้ลูกคนจีนส่วนมากไม่ค่อยพูดภาษาจีนกันแล้ว
พวกเราเรียนกับคนไทย ใช้ชีวิตกับเพื่อนคนไทย ก็เลยถูกกลืนไปโดยปริยาย
ถึงกระนั้น คนจีนที่ดอยแม่สะลองก็ยังคงรักษาการพูดภาษาจีนไว้ได้ค่อนข้างดี
ที่นี่ยังมีชุมชนคนจีนที่ใช้ชีวิตคล้ายจีนแท้ๆ อยู่มาก บางคนอยู่มานานแต่ยังคุยกับคนไทยไม่รู้เรื่องเลย

"เพิ่งถึงนี่แหละครับ เฮียไปกับแฟนเหรอ"

"รู้ได้ไง ม๊าบอกเหรอ"

"ใช่ แล้วเฮียจะเขินไปทำไม มีแฟนแล้วก็ไม่ยอมบอกกันเลยนะเฮีย เก็บเงียบเชียว"

ผมหยอกเย้าอย่างสนุก พี่ชายผมเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดค่อยจา วันๆ ก็อยู่แต่ในครัว ไม่ค่อยไปไหน
ที่ผมไม่อยากกลับมาทำธุระกิจที่บ้านก็เพราะอย่างนี้แหละ ถึงจะมีเงิน แต่ก็ไม่มีเวลาไปใช้เงิน
รู้จักแต่เรื่องทำมาหากิน แต่ไม่รู้เรื่องอื่นๆ  คงจะมีแค่ผมกับน้องสาวเท่านั้นที่ได้ออกมาใช้ชีวิตข้างนอก
แล้วก็ดูท่าว่าจะไม่อยากกลับมาสานต่อธุรกิจของที่บ้านด้วยกันทั้งคู่เลย จนเตี่ยกับม้าระอาใจพอๆ กัน

"อั๊วไม่มีเวลาว่างเยอะขนาดนั้นนี่หว่า แล้วคราวนี้จะมาอยู่กี่วัน"

พี่ชายผมพยายามเลี่ยงไม่พูดถึงแฟน ผมก็เลยหัวเราะอย่างรู้ทัน

"ตอนแรกกะว่าจะมาอยู่จนกว่าจะแก้ปัญหาเสร็จนั่นแหละ แต่เมื่อกี้เตี่ยบอกว่าแก้ปัญหาให้แล้ว
อั๊วก็เลยว่าจะอยู่อีกสักสองสามวันแล้วค่อยกลับ"

"อืม...ก็ดี มาอยู่กับเตี่ยกับม๊ามั่ง พี่น้องเราไม่เคยอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันนานแล้ว ปองนี่ก็อีกคน
ไปเรียนเมืองนอกก็ไม่ค่อยอยากจะกลับบ้านหรอก นี่ปองไปกี่ปีแล้วเนี่ย"

พี่ชายผมถือโอกาสบ่นซะหน่อย ส่วนปองก็คือน้องสาวคนสุดท้องของเรา ตอนนี้เรียนอยู่ที่อเมริกา

"สองปีแล้ว" ผมบอก "แล้วแฟนเฮียเป็นใครล่ะ คบกันมานานหรือยัง สวยเปล่า" ผมวกกลับมาเรื่องเดิม

"ก็...หลานสาวอาเหม่เกว่ไง"

"อ๋อ...คนที่ขายเนื้อหมูรมควันตรงใกล้ๆ แยกนั่นน่ะเหรอ"

"ใช่"

ผมเคยเจอผู้หญิงคนนี้ตอนเด็กๆ แต่พอไปเรียนที่กรุงเทพและอเมริกาก็ไม่ได้เจออีกเลย
ที่ผมจำได้เพราะผมชอบไปซื้อเนื้อหมูรมควันที่ร้านนี้มากินบ่อยๆ สมัยที่ยังเรียนประถมที่นี่
นึกแล้วก็ว่าจะแวะไปอุดหนุนก่อนกลับซะหน่อย

"ดีแล้วเฮีย เขาน่าจะเป็นคนขยันนะ ถึงว่าเตี่ยกับม๊าถึงได้ชอบ เห็นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยตอนพูดถึง
อ้อ...อั๊วก็มีเรื่องอยากจะบอกเฮียเหมือนกัน เฮียพอมีเวลาคุยหรือเปล่า อั๊วรบกวนไหม"

"ว่ามา คุยได้ๆ"

พอพี่ชายเปิดทางให้ผมก็ยิ้มร่า

"คืองี้ครับเฮีย เมื่อกี้เตี่ยบอกอั๊วว่าถ้าอั๊วทำธุรกิจอะไรสักอย่างที่กรุงเทพ เตี่ยจะไม่บังคับอั๊ว
อั๊วจะมีแฟนหรือไม่มีแฟนก็ได้ จะแต่งงานหรือไม่แต่งงานก็ได้ จะแต่งกับใครก็ได้ แล้วแต่อั๊ว
จะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ อั๊วก็เลย..."

"เป็งมีแฟนแล้วเหรอ" น้ำเสียงถามมาอย่างแปลกใจระคนตื่นเต้น

"ครับเฮีย" ผมยอมรับตามตรง

"ห๊า! จริงเหรอเป็ง โห...ดีใจด้วยว่ะไอ้น้องชาย ขายออกกับเขาซะที ที่บ้านนึกว่าเป็นเกย์กันหมดแล้ว"

พี่ชายผมพูดซะเสียงดัง คงจะดีใจมากที่น้องชายขายออกแล้ว แต่ผมกลับหน้าเสียเพราะประโยคหลัง

"แล้วถ้าผมเป็นเกย์ล่ะเฮีย"

ทุกอย่างเงียบกริบทันใด ได้ยินแต่เสียงคนคุยกันและเสียงคล้ายโลหะกระทบกันดังอยู่ไกลๆ
เข้าใจว่าน่าจะเป็นเสียงคนกินอาหาร เฮียของผมคงช็อกไปแล้วแน่ๆ เลย

"อะไรนะอาเป็ง ลื้อกำลังจะบอกอะไรอั๊ว"

น้ำเสียงแข็งๆ อย่างนี้ดูท่าจะไม่ได้การเสียแล้ว ผมคงต้องเปลี่ยนแผนใหม่

"เอางี้ละกันครับเฮีย เดี๋ยวเฮียกลับบ้านแล้วเราค่อยคุยกันดีกว่า"

ความจริงผมก็แค่อยากอวดพี่ชายว่าผมก็มีแฟนเหมือนกันเท่านั้น  แต่เอาเถอะ
ยังไงๆ ผมก็มั่นใจว่าพี่ชายจะฟังผม เราเติบโตมาด้วยกัน สนิทกันมาก คุยกันได้ทุกเรื่อง
แม้ว่าหลังๆ จะไม่ค่อยได้คุยกันบ่อย แต่ผมก็ยังเชื่อว่าผมสามารถคุยเปิดใจกับพี่ชายได้เสมอ

มันน่าแปลกไหมล่ะที่มีแต่เตี่ยเท่านั้นที่ดูจะเข้าใจผมมากกว่าใครๆ!?

คิดไปคิดมา ผมก็อดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมเตี่ยถึงได้เข้าใจผมง่ายดายอย่างนี้
ปกติคนเป็นพ่อมักจะไม่ยอมรับเรื่องแบบนี้ง่ายๆ แต่เตี่ยผมกลับเป็นในสิ่งที่ตรงกันข้าม
ทุกอย่างคงมีเหตุผลของมัน คิดเองคงไม่ได้คำตอบ ถ้าอยากรู้ก็คงต้องถามเตี่ยเอาเอง

(http://bit.ly/1S1zfGS)

การปรากฎตัวของผมอย่างไม่คาดฝันทำให้บาริสต้าหนุ่มเขี้ยวทำหน้ายังกับโดนผีหลอก
สักพักก็พยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แม้ว่าจะพยายามเก็บอาการแต่ก็ดูจะปิดความดีใจไม่มิด
แม้ไม่ถึงกับลิงโลด แต่รอยยิ้มที่เผยให้เห็นเขี้ยวเสน่ห์นั้นบ่งบอกความดีใจข้างในได้ดีทีเดียว

"รับอะไรดีครับ"

"เหมือนเดิม ไปเสิร์ฟที่โต๊ะด้วยนะครับ" ผมบอกพร้อมกับยิ้มและจ้องตาคนขายจนเขินไปเลย

"ครับ"

พอจ่ายเงินแล้วผมจึงเดินหาโต๊ะว่างๆ นั่ง ช่วงเช้าหาได้ไม่ยากนักเพราะคนยังไม่ค่อยออกมา
ถ้าบ่ายไปแล้วจะหายากหน่อย

ผมนั่งรออยู่ไม่ถึงสิบนาที หนุ่มบาริสตาเขี้ยวเสน่ห์ก็เดินถือถาดอาหารตรงมายังโต๊ะของผม
มาถึงก็จัดแจงวางอาหารที่ผมสั่งลงบนโต๊ะให้ ทำท่าทางเหมือนคนไม่รู้จักกันยังไงยังงั้น
แต่ผมก็พอเข้าใจว่าพนักงานไม่ควรทำตัวสนิทสนมกับลูกค้าคนใดคนหนึ่งมากเกินไป

"คิดถึงผมหรือเปล่า"

คานินถือจานแซนด์วิชแฮมชีสสไตล์ฝรั่งเศสค้างไว้ หันมองซ้ายขวา พอเห็นว่าไม่มีใครมองก็พยักหน้า
รอยยิ้มที่ระบายออกมาเพียงเล็กน้อยจากริมฝีปากได้รูปช่างเย้ายวนใจผมเสียจริงๆ

"ทำไมกลับมาก่อนล่ะครับ ไม่เห็นโทรมาบอกเลย" คานินถามแล้วก็วางจานแซนด์วิชลงบนโต๊ะผม

"ก็อยากให้เซอร์ไพรส์ไง แล้วคืนนี้ว่างหรือเปล่า ไปไหนไหม"

"ไม่ว่างครับ"

คานินตอบมาแทบจะทันที ผมชะงักมองพร้อมกับขมวดคิ้ว

"วันนี้มีงานวันเกิดเพื่อนที่ทำงานครับ"

ผมค่อยรู้สึกโล่งใจขึ้นมาหน่อย ตอนแรกนึกว่าคานินมีนัดกับคนอื่นแล้วเสียอีก

"แล้วจะไปกี่โมง"

"สามทุ่มครับ"

"ผมไปด้วยคนได้ไหม"

คานินทำท่าทางครุ่นคิดแต่ก็ยังไม่ตอบ

"ให้ผมไปส่งก็ได้ แล้วผมก็จะอยู่รอรับกลับด้วย ดึกก็ไม่เป็นไรหรอก ผมรอได้ ผมอยากอยู่กับคานิน
คานินไม่อยากอยู่กับผมเหรอ เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายวันแล้วนะ ผมคิดถึงคานิน ให้ผมไปด้วยนะ"

ผมใส่ลูกอ้อนเข้าไปสุดฤทธิ์ คะยั้นคะยอเข้าไปสุดเดช ไม่ได้อยู่ด้วยกันคืนนี้ก็ให้มันรู้ไป

คานินพยักหน้าตกลงอย่างช้าๆ เท่านี้ผมก็พอยิ้มออกแล้ว

"งั้นสามทุ่มผมจะมารอที่หน้าร้านนะ"

บอกแล้วผมก็จ้องลึกเข้าไปในดวงตาของหนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ เจ้าตัวคงจะเขินเลยเสหลบตา

"ครับ" คานินรับคำ

จากนั้นผมจึงปล่อยให้คานินกลับไปทำงานตามเดิม เพราะขืนคุยกับผมนานๆ คงโดนเพ่งเล็งเป็นแน่
แต่ถึงกระนั้น ผมก็นั่งกินไปมองบาริสตาคนน่ารักของผมไปด้วย แม้จะไม่ขาวและไม่ดูหล่อมาก
แต่องค์ประกอบโดยรวมก็ทำให้คานินดูน่ารักและมีเสน่ห์ไม่เหมือนใคร

เขาเรียกว่า "พรหมลิขิต" หรือเปล่าหนอที่ทำให้ผมได้มาเจอกับคานิน

โชคดีที่คนในครอบครัวผมบางคนเริ่มเข้าใจแล้ว การสานต่อความสัมพันธ์ของผมกับคานินคงง่ายขึ้น
ก่อนกลับผมได้มีโอกาสนั่งคุยกับเตี่ยสองคน ในที่สุดผมก็เข้าใจแล้วว่าทำไมเตี่ยถึงไม่รังเกียจเกย์
เตี่ยเล่าให้ฟังว่าน้องชายของเตี่ยที่เสียชีวิตไปนานแล้วเป็นเกย์ ผมตกใจมากทีเดียวที่ได้รู้
อากงกับอาม่าของผมรับเรื่องนี้ไม่ได้ จึงหาทางกดดันอากู๋ของผมต่างๆ นาๆ ให้มีแฟนเป็นผู้หญิง
แต่อากู๋ก็ไม่ยอม จึงถูกอากงอาม่าด่าทอ  ญาติพี่น้องคนอื่นๆ ก็ไม่ยอมรับ ถูกรังเกียจเดียดฉันท์
เหลือแต่เตี่ยผมที่คอยให้กำลังใจ ให้

วันหนึ่งอากู๋ของผมก็ผูกคอตายในห้องนอน เตี่ยของผมเสียใจมากเพราะรักน้องชายคนนี้มาก
แทบจะเรียกได้ว่าช่วยเลี้ยงดูแทนอากงอาม่าเลย

เรื่องของอากู๋สุดท้องของผมจึงกลายเป็นเรื่องเล่าขานในหมู่ญาติพี่น้อง แต่ก็ไม่มีใครบอกสาเหตุที่แท้จริง
ผมจึงรับรู้แค่ว่าอากู๋ผูกคอตายเพราะน้อยใจที่อากงกับอาม่ารักน้อยกว่าคนอื่นๆ เท่านั้น

เพราะอย่างนี้นี่เอง พอเห็นผมไม่ยอมมีแฟน เตี่ยจึงดูเหมือนเป็นคนเดียวในบ้านที่กดดันผมน้อยที่สุด
เพราะว่าเตี่ยคงไม่อยากให้ประวัติศาสตร์ต้องซ้ำรอยอีกครั้ง
ก็เหลือแค่ม๊ากับพี่ชายของผมนี่แหละ  แต่ถ้าเตี่ยโอเคแล้วผมก็รู้ว่าคนอื่นๆ ไม่กล้าขัดแน่นอน

ถ้าพูดเรื่องเป็นเกย์ ผมก็ยังไม่ค่อยแน่ใจหรอกว่าผมเป็นเกย์หรือเปล่า ผมยังไม่คิดถึงขนาดนั้น
ที่ผมรับความรู้สึกพิเศษที่เกิดขึ้นกับคานินได้ไวเป็นเพราะผมเคยอยู่ในประเทศเสรีอย่างอเมริกามาก่อน
เพื่อนๆ ของผมล้วนแล้วแต่มีหัวคิดสมัยใหม่ รับเรื่องอย่างนี้ได้มากกว่าคนรุ่นก่อน
ผมก็เลยซึมซับความคิดนี้มาด้วย

พอใกล้ถึงเวลานัดหมาย ผมก็ขับรถออกจากคอนโดมารอคานินตรงริมฟุตบาทหน้าร้าน
รอไม่นานก็เห็นคานินวิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากร้านตรงมาที่รถผม

"ขอโทษทีครับ ช้าหน่อย"

คานินบอกขณะที่เปิดประตูเข้ามานั่งในรถ ท่าทางดูเหนื่อยมากทีเดียว เห็นแล้วผมก็ชักสงสาร
ผมส่งยิ้มให้เผื่อว่าจะช่วยให้คนที่เพิ่งมานั่งลงข้างๆ มีกำลังใจขึ้นมาบ้าง

"เช็ดหน้าก่อน จะได้สดชื่น"

ผมบอกพลางส่งผ้าขนหนูสีขาวผืนเล็กที่ชุบน้ำอุ่นและบิดหมาดๆ ให้คานิน ผ้าผืนนี้ผมเตรียมให้อย่างดี
ใส่น้ำหอมกลิ่นสดชื่นๆ มาให้ด้วย รับรองว่าเช็ดแล้วสดชื่นแน่นอน

"ขอบคุณครับ"

คานินรับไปแล้วก็ลงมือเช็ดหน้าเช็ดตา จังหวะนั้นเจ้าสี่ล้อคันงามก็เคลื่อนที่ออกไปด้วยฝีมือของผม

"หอมจังเลยครับ"

ผมหันไปยิ้มกับคานินที่สูดดมกลิ่นจากผ้าผืนนั้นอย่างมีความสุข

"น้ำหอมกลิ่นนี้ ผมเลือกเป็นพิเศษให้คานินเลยนะ สดชื่นดีไหม"

คานินหันมายิ้มและพยักหน้า

"คืนนี้คานินมานอนกับผมที่คอนโดนะ แล้วตอนเช้าค่อยไปขายหมูปิ้งด้วยกัน ผมจะได้ไปหาวินด้วย
ซื้อของมาฝากวินกับแนนเยอะแยะเลย"

"พรุ่งนี้ผมไม่ได้ขายครับคุณเป็ง" คานินเช็ดมือแล้วก็วางผ้าลงข้างๆ ตัว

"ทำไมล่ะ" ผมถามอย่างแปลกใจ

"พรุ่งนี้เป็นวันอาทิตย์ไงครับ ผมไม่ขายวันอาทิตย์เพราะว่าคนไม่ออกไปทำงานตอนเช้าไง"

"อ๋อ...เข้าใจละ"

"พรุ่งนี้ผมหยุดนะครับ พอดีเพื่อนที่ทำงานขอสลับวันหยุดกับผม"

"จริงเหรอ งั้นดีเลย เราไปเที่ยวกันนะคานิน พาแนนกับวินไปด้วย อ้อ เดี๋ยวผมจะชวนเพื่อนไปด้วยคนหนึ่ง
ไปหลายๆ คนจะได้สนุก แล้ว...คานินรู้ไหมว่าแนนอยากไปที่ไหน"

"ห้างครับ เขาบอกว่าไม่ได้ไปเที่ยวห้างหลายเดือนแล้ว เขาอยากไปดูหนังแล้วก็ซื้อเสื้อผ้าใหม่ด้วย"

สีหน้าของคานินเวลาพูดถึงน้องสาวกับหลานดูเศร้าจนสังเกตเห็นได้ เป็นผมก็คงเศร้าเหมือนกัน
แนนคงเหงามากที่ถูกสามีทิ้ง แถมยังต้องรับภาระเลี้ยงลูกคนเดียวอีก ไปไหนก็ไม่ได้

"ไปห้างก็ดีเหมือนกัน มีทุกอย่าง จะได้ไม่ต้องไปหลายๆ ที่"

"ครับ" คานินรับคำ สีหน้าดูครุ่นคิดจนผมสงสัย แต่ก็ยังไม่อยากถามอะไรมากตอนนี้

บ้านที่จัดงานวันเกิดนั้นอยู่แถวๆ ดินแดงแต่เข้าทางถนนรัชดาภิเษก มีลักษณะเป็นบ้านไม้
อยู่ท่ามกลางตึกสูง คอนโดและอพาร์ทเมนท์หรูๆ ไม่น่าเชื่อว่าบ้านหลังนี้หลุดรอดจากการกว้านซื้อมาได้
เชื่อว่าคงมีนายทุนมาขอเจรจาซื้อบ้านหลังนี้เอาไปทำคอนโดหลายเจ้า แต่เจ้าของบ้านคงใจแข็งน่าดู

ผมจอดรถไว้ข้างทางในซอยแล้วก็พาคานินเดินไปที่บ้านของเพื่อนคานิน เสียงดนตรีดังมาแต่ไกลเลย
พอมาถึงก็พบว่าประตูหน้าบ้านเปิดไว้แล้ว สนามหน้าหญ้าหน้าบ้านถูกจัดเป็นสถานที่จัดเลี้ยงอาหาร
มีคนนั่งรายล้อมตามโต๊ะต่างๆ ราวๆ สิบกว่าคน ดึกแล้วจึงเริ่มกินเหล้ามากกว่ากินข้าว พอได้ที่ก็ชักเสียงดัง

พอเราก้าวเข้ามาในพื้นที่บ้านก็กลายเป็นเป้าสายตาในฐานะผู้มาใหม่ทันที เหลียวซ้ายแลขวาไม่นาน
เจ้าของงานวันเกิดก็เดินดุ่มๆ ออกมาหาพร้อมกับรอยยิ้มกว้าง

"พี่คานิน เชิญเลยค่ะๆ"

พอเห็นหน้าแล้วผมก็จำเธอได้เพราะเจอที่ร้านกาแฟบ่อยๆ

"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ครับอัญ" คานินบอกพลางส่งกล่องของขวัญเล็กเท่าๆ กล่องนาฬิกาให้

"ขอบคุณมากค่ะพี่คานิน กินอะไรมาหรือยังคะ ไปนั่งด้วยกันดีกว่า" บอกพลางยิ้มระรื่น

อัญญาไม่ยื่นมือมารับของขวัญด้วยซ้ำ แต่คว้าข้อมือคานินแล้วก็ทำท่าเหมือนจะลากไปด้วย
แทบจะไม่สนใจเลยว่าคานินมากับใคร จนคานินต้องขืนตัวไว้แล้วรีบบอก

"อัญ...พี่พาคุณเป็งมาด้วย"

หญิงสาวที่คานินเรียกว่า "อัญ" หยุดแล้วหันมามองผม ผมมองดูมือเธอที่จับข้อมือของคานินไว้อย่างสนใจ

"อ้อ...งั้น...เชิญด้วยกันเลยค่ะ" อัญญาบอกพลางยิ้มให้

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสายตาพยาบาทของผมหรือเปล่า อัญญาปล่อยมือคานินออกเป็นอิสระอย่างเกรงๆ
ผมจึงได้เห็นสีหน้าของคานินที่ลดความกระอักกระอ่วนใจลงไปได้บ้าง

ผมส่งกล่องของขวัญที่เตรียมมาให้อัญญาตามธรรมเนียม จะได้ไม่ดูน่าเกลียดจนเกินไป

"แฮปปี้เบิร์ธเดย์ครับ"

"ขอบคุณค่ะคุณเป็ง" อัญญารับกล่องของขวัญจากผมไปอย่างงงๆ

เห็นอัญญากับคานินแล้วผมก็ชักตะหงิดใจ ยิ่งเห็นสายตาของอัญญาที่มองคานินแล้วผมก็ยิ่งสงสัย
ท่าทางผมคงจะปล่อยคานินให้อยู่ห่างๆ ผมไม่ได้เสียแล้วคืนนี้!

TBC...



ป.ล. จ. = พูดเป็นภาษาจีน

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 15-02-2016 13:45:12
แก้อะไร ตรงไหนอ่ะครับ ขี้เกียจอ่านทวน 555 :katai4: :katai4: :katai4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 15-02-2016 13:48:25
แก้อะไร ตรงไหนอ่ะครับ ขี้เกียจอ่านทวน 555 :katai4: :katai4: :katai4:

ไม่มีอะไรครับ ปรับภาษานิดๆ หน่อยๆ ไม่ต้องอ่านทวนก็ได้ครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 15-02-2016 14:15:50
เห็นด้วยมากที่คุณเป็งไม่ควรปล่อยให้คานินละสายตาไปได้ยิ่งมีอัญญาอยู่ด้วยแล้ว เธอนี้จะกินคานินให้ได้ใช่ไหม
เกิดอาการหวงแทน พระเอก  :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1: :katai1:
 Late  Happy Valentine นะคะ คุณคนแต่ง ...  :L2: :L2: :L2: :L2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 15-02-2016 15:19:25
ความผิดหวังของคนรุ่นก่อนเป็นบทเรียนที่ดีและช่วยปูทางให้กับคนรุ่นใหม่ไป เป็งก้อโชคดีไปน่ะ ยังไงก้อไปแสดงตัวซะไม่งั้นจะมีมดมาตอมน่ะจ้ะ ดีแล้วล่ะที่มาด้วยกัน ทุกคนจะได้รับรู้เพราะคานินเป็นคนขี้อายน่ะคงไม่กล้าพูดเองหรอก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 15-02-2016 15:23:54
คุณเป็งห้ามคาดสายตาเลยนะคะ ไม่งั้นโดนอัญญากระแซะแน่ๆ เลยค่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 15-02-2016 15:41:21
   เป็งโชคดีมากๆเลยที่พ่อเข้าใจ แล้วแม่กับพี่ชายจะเข้าใจมั้ยอ่ะคับ
   เห็นชื่อตอนคิดว่าจะมีบทบู๊ ๕๕๕ เป็งคงหวงคานิน ที่ไหนได้คิดในใจ เป็งอยากหวงแบบออกหน้าละสิ ๕๕๕
   รอ รออ่านตอนต่อไคับ เป็งจะคิดยังไง เวลาคานินมาแบบนี้อ่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 15-02-2016 16:32:30
พ่อเป็งเจ๋งมากๆ ชอบอ่ะ
คราวนี้เป็งจะได้อยู่กับที่ซะที
ลุ้นว่าเป็งจะทำธุรกิจอะไร
อย่าลืมรับคานินไปช่วยงานนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 15-02-2016 19:13:48
 :L2: :pig4:

คนเราเหนือกว่าสิ่งมีชีวิตอื่นๆ ก็ตรงการเรียนรู้จากประสบการณ์ในอดีตนี่แหละ ชื่นชมคุณเตี่ย :L2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 15-02-2016 20:38:07
ดีที่เป็งมากับคานินด้วยนะ ไม่งั้นคานินอาจจะโดนอัญญาลากขึ้นเขียงก็ได้
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: powvera ที่ 15-02-2016 23:22:17
มีคุณพ่อเป็นแบล็คให้ก็ไม่ต้องกลัวคนอื่นแล้วล่ะเป็ง  เดินหน้าต่อไปเลย

เป็งต้องดูแลนินอย่างใกล้ชิดแล้วล่ะคืนนี้ ถ้าพลาดโดนอัญจับแน่
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 16-02-2016 01:36:55
ึคานินเนี่ย เสน่ห์เหลือร้ายจริงๆ ทั้ง ญ ทั้ง ช ต่างให้ความสนใจ อย่าปล่อยให้คลาดสายตาเลยนะแบบนี้
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ป๋า ที่ 16-02-2016 05:04:33
ไม่ชอบอัญ  :m16:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Malimaru ที่ 16-02-2016 14:21:32


อืม... มีคนอื่นเข้ามาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาสินะ
ก็ต้องคอยดูกันล่ะว่าเป็งกับคานินจะจัดการกับปัญหาบุคคลที่สามยังไง
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^  :3123:

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 17-02-2016 20:18:28
ว่าแล้ว แอบตะหงิดๆอัญญา
ชิชะ!! คุณเป็งระวังไว้นะ อย่าให้คลาดสายตา 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 18-02-2016 00:08:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 18-02-2016 15:29:13
มาจิก เอ้ย...มาจิ้ม จึกๆ  :laugh: :laugh: :laugh:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบ รออยู่ คึคึ :ling1: :ling1: :ling1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 18-02-2016 18:20:43
เรื่องนี้อินมาก บอกเลยเพราะเอาพี่โอมาเป็นอิมเมจตัวละคร แบบชอบพี่โอมากกกกกกก เลยอินมากกกก :impress2: :impress2: :impress2:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบ  :z2: :z2: :z2:

ชอบโอมากๆ เหมือนกันครับ ชอบขนาดไหน ดูรูปข้างล่างนี้เลย คนอะไร น่ารักจริงๆ

(http://bit.ly/1VpoldE)

คืนนี้จะเริ่มต้นเขียนตอนใหม่ บอกได้คำเดียวว่า "น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก"
จะมีตอนที่คานินตื่นนอนหัวยุ่งๆ หน้าง่วงๆ เหมือนในรูปด้วย แต่จะเป็นเพราะอะไร มาลุ้นกันครับ
แต่ไม่รู้จะเสร็จทันคืนนี้หรือเปล่านะครับ งานมารอเพียงเลย เหอๆ

สู้ๆ ครับ ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจนะครับ ทุกคนเลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 18-02-2016 19:11:27
เรื่องนี้อินมาก บอกเลยเพราะเอาพี่โอมาเป็นอิมเมจตัวละคร แบบชอบพี่โอมากกกกกกก เลยอินมากกกก :impress2: :impress2: :impress2:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบ  :z2: :z2: :z2:

ชอบโอมากๆ เหมือนกันครับ ชอบขนาดไหน ดูรูปข้างล่างนี้เลย คนอะไร น่ารักจริงๆ

(http://bit.ly/1VpoldE)

คืนนี้จะเริ่มต้นเขียนตอนใหม่ บอกได้คำเดียวว่า "น่ารักมากกกกกกกกกกกกกก"
จะมีตอนที่คานินตื่นนอนหัวยุ่งๆ หน้าง่วงๆ เหมือนในรูปด้วย แต่จะเป็นเพราะอะไร มาลุ้นกันครับ
แต่ไม่รู้จะเสร็จทันคืนนี้หรือเปล่านะครับ งานมารอเพียงเลย เหอๆ

สู้ๆ ครับ ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจนะครับ ทุกคนเลย

อ้ากกกกกกกก น่ารักอ่ะ คนอะไรไม่รู้ :hao7: :hao7: :hao7:

ขอให้เขียนเสร็จไวๆนะคร้าบบ รออยู่ สู้ๆ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 19-02-2016 12:28:43
เพิ่งตื่นนอนนนนนนน หัวยุ่ง เพราะอะไรไม่รู้ แต่แค่เกริ่นมา เราก็ตีตั๋วไปฟินแลนด์ แล้ว

รออออออออ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 20-02-2016 18:53:31
ถ้าปล่อยห่างยัยอัญได้เขมือบนินแน่ๆเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №8 อย่าจับแขนแฟนผม ⓟ6 ▦15.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 20-02-2016 19:25:51
เป็นแฟนกันแล้ว น่าจะให้เรียกว่า นิน เฉยๆเนอะ  :กอด1: :กอด1: :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 รักคือความเข้าใจ ⓟ7 ▦SOON
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 21-02-2016 17:40:23
 :กอด1:คิดถึงจังหายไปนานเชียว คิดถึงคานินกับเป็งมาก ๆ เลยอ่ะ สองหนุ่มเรียนรัก  :L2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 รักคือความเข้าใจ ⓟ7 ▦SOON
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 21-02-2016 19:07:49
อิอิ รอๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 รักคือความเข้าใจ ⓟ7 ▦SOON
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 21-02-2016 19:30:06
ปูเสื่อรอเลยจร้า ^^
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 21-02-2016 21:34:01
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน


(http://bit.ly/1RX8ogL)

"พี่กุ้งทำงานที่ร้านนี้มาหลายปีเหมือนกันนะครับ ผมจำได้ว่าตั้งแต่ร้านมาเปิด ผมก็เจอพี่กุ้งเลย"

แม้จะสนทนาอยู่กับคนที่นั่งอยู่ใกล้ๆ แต่สายตาของผมกลับคอยชำเลืองมองคนอีกโต๊ะอยู่ตลอด เพื่อนร่วมงานสาวรุ่นพี่ของคานินยิ้มชอบใจที่ผมอุตส่าห์จำได้ขนาดนั้น

"ค่ะ นี่ก็สองปีแล้ว แล้วคุณเป็งมาอยู่ที่ซอยนั้นนานแล้วเหรอคะ"

"อยู่กับพี่ชายมาตั้งแต่เรียนมัธยมแล้วล่ะครับ แต่ช่วงที่ไปเรียนเมืองนอกไม่ได้อยู่หลายปี เพิ่งกลับมาอยู่ได้สองสามปีเองครับ ส่วนพี่ชายผมกลับไปดูแลร้านอาหารที่เชียงราย"

"โห...แสดงว่าบ้านคุณเป็งต้องรวยมากๆ เลยนะคะถึงได้อยู่คอนโดแพงขนาดนี้ตั้งแต่เรียนมัธยม แล้วคุณเป็งมีร้านอาหารอะไรที่เชียงรายเหรอคะ"

ผมตะหงิดใจเรื่องฐานะของผมเล็กน้อย ไม่ค่อยอยากคุยกับใครแล้วพูดเรื่องนี้เท่าไหร่ แทนที่จะทำให้สนิทใจกลับทำให้เกิดช่องว่างเสียมากกว่า

"พี่กุ้งรู้จักดอยแม่สะลองไหมครับ"

พี่กุ้งทำท่านึก "อ๋อ...รู้จักค่ะ เคยไปมาแล้ว ที่มีคนจีนอยู่เยอะๆ ใช่ไหมคะ พี่ไปกินขาหมูกับหมั่นโถวที่นั่นมาด้วย รู้สึกว่าร้านที่ไปกินจะหลบๆ มุมอยู่บนเนินหน่อย ร้านดูเก่าๆ นะคะ แต่ว่าอาหารอร่อยมาก"

พี่กุ้งลากเสียง "มาก" เสียยาวจนผมอดขำเบาๆ ไม่ได้

"ร้านที่บ้านผมเองครับ มีสองร้าน ร้านหนึ่งเก่าๆ หน่อยเพราะว่าเปิดมานานแล้ว ส่วนร้านที่เปิดใหม่ อยู่ถัดไปอีกหน่อย ชื่อร้านเหมือนกันแต่คนละสาขาครับ"

"จริงเหรอคะ" พี่กุ้งทำท่าทางตื่นเต้น "พี่ว่าคนไปกินกันเยอะนะ พี่รอตั้งนานแน่ะกว่าจะได้กิน แสดงว่าเดือนๆ หนึ่งน่าจะได้รายได้เยอะน่าดู พี่เดาว่าไม่น่าจะต่ำกว่าหลักล้านแน่ๆ เลย เพื่อนที่พี่รู้จักก็มีร้านอาหารในกรุงเทพ คนมากินพอๆ กัน รายได้เป็นล้านต่อเดือนเลย"

ผมได้แต่ยิ้มๆ แม้ว่าจะไม่ยอมรับตรงๆ แต่อีกฝ่ายคงเดาได้ไม่ยาก

"แล้ว...คุณเป็งรู้จักกับคานินได้ยังไงคะ" ในที่สุดพี่กุ้งจึงได้ถามสิ่งที่อยากรู้มากที่สุดเสียทีหลังจากที่จดๆ จ้องๆ อยู่นาน

"อ๋อ..." ผมลากเสียงยาวแล้วชำเลืองมองหนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ที่นั่งดื่มเบียร์อยู่อีกโต๊ะด้วยสายตาเป็นห่วง "เจอกันที่ร้านนั่นแหละครับ"

"อ๋อเหรอคะ แล้ว...สนิทกันได้ยังไงคะ ขอโทษนะคะ ไม่รู้ว่าถามได้หรือเปล่า" พี่กุ้งทำท่าไม่แน่ใจ

"ถามได้ครับ แต่...จะบอกยังไงดีล่ะ" ผมทำหน้ายุ่งยากใจเล็กน้อย

"คบกันอยู่เหรอคะ" พี่กุ้งโพล่งออกมาตรงๆ เล่นเอาผมสะดุ้งเลยทีเดียว

"ตกใจเหรอคะคุณเป็ง พี่ว่าสมัยนี้มันเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วนะ"

"อ้อ...ครับ" ผมพยักหน้ารับคำอย่างเขินๆ แม้จะรู้สึกดีที่อีกฝ่ายรับได้ แต่ยังไม่กล้ามองตรงๆ อยู่ดี

"ถ้างั้นต้องระวังคนนั้นให้ดีแล้วล่ะค่ะ" พูดจบแล้วปรายหางตาไปทางโต๊ะนั้นที่ผมเฝ้ามองบ่อยๆ

"ไปดูคานินหน่อยก็ดีนะคะคุณเป็ง ไม่รู้ว่าจะโดนมอมเหล้าหรือเปล่า คนนั้นก็เชียร์จัง"

แม้ไม่พูดตรงๆ ผมพอรู้ว่าพี่กุ้งหมายถึงใคร พอเบียร์หมดแก้ว สาวน้อยที่นั่งอยู่ติดกันจะเติมให้ทันที ดีที่ว่าคานินค่อยๆ กินจึงช่วยลดจำนวนเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ไหลผ่านคอไปได้พอสมควร

"งั้นผมขอตัวแป๊บนึงนะครับพี่กุ้ง" ผมลุกขึ้นและยิ้มเขิน แต่ในเมื่ออีกคนรู้แล้วผมไม่รู้จะเขินไปทำไม

พี่กุ้งพยักหน้ายิ้มๆ ไม่เท่านั้นยังกำชับอีกด้วยว่า "รีบไปจัดการเลยค่ะ เดี๋ยวจะโดนงาบไปซะก่อน"

นั่นแหละคือสิ่งที่ผมกำลังกลัวอยู่พอดี แต่ไม่มีทางหรอกถ้าคานินยังอยู่ในระยะสายตาของผมอยู่ คิดแล้วนึกตลกตัวเอง นี่ผมต้องมาแย่งผู้ชายกับผู้หญิงคนหนึ่งเลยหรือ แต่เพื่อคานินผมยอม

(http://bit.ly/1S1zfGS)

เพื่อนๆ ของอัญญาค่อยๆ ทยอยกลับบ้านไปกันหลายคนแล้ว จึงพอมีที่นั่งว่างข้างๆ คานินเหลืออยู่ ก่อนหน้านั้นคานินนั่งกินข้าวอยู่กับผมดีๆ นี่แหละ พอกินเสร็จอัญญาจึงเดินมาชวนมานั่งที่โต๊ะนี้ บอกว่าจะแนะนำให้เพื่อนๆ ของเธอรู้จักคานิน ผมนึกว่าอัญจะพาคานินกลับมาส่งเสียอีก ที่ไหนได้ เธอจับไว้ไม่ปล่อยเลย แถมยังทำท่าจะมอมเหล้าพ่อหนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมด้วย

"ถ้าพี่คานินกลับบ้านไม่ไหว นอนที่นี่ได้นะคะ อยู่เป็นเพื่อนอัญหน่อย วันนี้ไม่มีใครอยู่บ้านเลย พี่ชายพาพ่อกับแม่ไปรับหลานที่ต่างจังหวัดมาอยู่ด้วยน่ะ ยังไม่กลับเลย อัญไม่เคยนอนคนเดียว อัญกลัว นะคะพี่คานิน อยู่เป็นเพื่อนอัญหน่อยนะคะ พรุ่งนี้พี่คานินไม่ได้ไปทำงานไม่ใช่เหรอ"

พอผมย่างเท้าเข้ามาใกล้จึงได้ยินบทสนทนาที่ช่างน่าสนใจจนต้องหยุดยืนฟัง ช่างพอเหมาะพอเจาะดีเหลือเกินที่บังเอิญที่บ้านของเธอไม่มีใครอยู่ ถ้าคานินเชื่อเธอคงไม่มีทางรอดเงื้อมมือไปได้แน่

"ไม่ดีหรอกอัญ อีกอย่าง...พี่ไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาด้วย" คานินบอกปัดด้วยท่าทางสุภาพ

"เรื่องแค่นี้เอง อัญเอาเสื้อผ้าของพี่ชายมาให้พี่คานินใส่ก่อนได้ นะคะๆ" อัญญาพยายามอ้อน

"พี่ว่าไม่ดีหรอก เดี๋ยวใครรู้เข้ามันจะไม่ดีนะ" แม้จะเริ่มเมาแต่คานินยังพอคุมสติได้อยู่

"รังเกียจอัญเหรอ อัญไม่ได้ให้พี่คานินนอนห้องเดียวกับอัญซะหน่อย แค่นี้ก็อยู่เป็นเพื่อนไม่ได้"

อัญญาทำเสียงกระเง้ากระงอด แถมยังเกาะแขนคานินอีก ผมเห็นท่าไม่ดีจึงรีบขัดจังหวะ

"ให้พี่นอนเป็นเพื่อนอีกคนด้วยได้ไหมครับ"

เท่านั้นแหละ อัญญาและเพื่อนๆ ของเธอที่เหลืออยู่สองสามคนหันมามองผมพร้อมกันทันที ผมนั่งลงข้างๆ คานินแล้วหันมองไปรอบๆ โต๊ะ กวาดมองสายตาหลายคู่ที่มองมาอย่างสงสัย ยิ้มให้ทุกคนอย่างอารมณ์ดี โดยเฉพาะคนพิเศษของผมที่ผมยิ้มหวานให้เป็นพิเศษ

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะคุณเป็ง อัญไม่รบกวนคุณเป็งดีกว่าค่ะ บ้านของอัญเล็กนิดเดียวเอง รกด้วย คุณเป็งคงนอนไม่ได้หรอกค่ะ"

อัญญาออกอาการเหมือนคนเสียท่า คงจะอารมณ์เสียไม่น้อยที่เหยื่อกำลังจะติดเบ็ดหลุดไปเฉยๆ พอเห็นเพื่อนๆ มองผมอย่างสงสัย อัญญาจึงร้อนตัวจนต้องรีบแนะนำเป็นการกลบเกลื่อน

"อ้อ...นี่คุณเป็งนะ เป็น...เอ่อ..."

อัญญาคงนึกไม่ออกว่าผมกับคานินเป็นอะไรกันแน่ ผมจึงถือโอกาสสงเคราะห์ให้เสียเลย

"ผมเป็นแฟนของคานินครับ"

ทุกคนที่นั่งอยู่รอบโต๊ะถึงกับอึ้งกิมกี่ หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมพลอยอึ้งไปด้วย ผมโอบไหล่คานินไว้เบาๆ แล้วสบตาคู่นั้นที่ดูประหม่าจนสังเกตได้

"จริงเหรอคะพี่คานิน" สีหน้าตกใจของอัญญาบ่งบอกว่าเธอคงช็อกมากทีเดียว

ผมปล่อยแขนลงจากไหล่ของคานิน หันไปยิ้มมุมปากกับอัญญาที่นั่งอยู่ติดกับคานินอีกด้านหนึ่ง เธอไม่มองหน้าผมเลย เอาแต่จ้องคานินใหญ่ราวกับจะคาดคั้นเอาคำตอบให้ได้

"ครับ" คานินรับคำพร้อมกับพยักหน้าไปด้วย

ผมไม่รู้หรอกว่าทำให้คานินอึดอัดหรือลำบากใจหรือเปล่าที่ประกาศไปอย่างนั้น ดูจากสีหน้าของคานินแล้วคงอึดอัดพอสมควรเพราะไม่ได้เตรียมตัวว่าจะบอกใครเรื่องนี้ในงานนี้

"ให้พี่นอนเป็นเพื่อนอีกคนละกันนะครับ มีหลายๆ คนจะได้ไม่น่ากลัวไง" ผมกำชับแล้วพูดต่อ

"อีกอย่าง...พี่เป็นห่วงคานินด้วย ได้ข่าวว่าแถวนี้ตอนดึกๆ มีขโมยขโจรเยอะ เดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย"

ผมคงไม่ต้องพูดกระทบให้มากกว่านี้ คนที่นั่งข้างๆ คานินคงรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ แย่แล้ว

"อ๋อ...งั้นไม่เป็นไรหรอกค่ะ เดี๋ยวอัญให้เพื่อนนอนเป็นเพื่อนก็ได้ อืม...สังสัยคุณเป็งจะเข้าใจผิดนะคะ แถวนี้มีบ้านนายพลอยู่ โจรขโมยไม่เยอะหรอกค่ะ แป้งแกนอนเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะคืนนี้"

อัญญาแก้เก้อด้วยการหันไปถามเพื่อนสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามแทน เพื่อนที่ชื่อแป้งจึงโวยวาย

"เฮ้ยอะไรวะ พรุ่งนี้ฉันมีธุระกับที่บ้านแต่เช้าเว้ย บ้านฉันไกลด้วย เดี๋ยวฉันก็จะกลับแล้ว"

อัญญายิ่งหน้าเสียเข้าไปใหญ่ หงุดหงิดจนต้องทำเสียงจิ๊กจั๊ก "เออๆ ไม่เป็นไร นอนคนเดียวก็ได้"

"พี่ขอโทษนะครับอัญ" คานินหันไปบอก แล้วทำท่าจะยกแก้วขึ้นดื่มอีก ผมรีบเอามือแตะปรามไว้

คานินวางแก้วลงแล้วมองหน้าผม ผมรู้ดีว่าเสี่ยงเหมือนกันที่คานินจะไม่พอใจ การขัดอกขัดใจโดยที่ยังไม่รู้จักกันดีพอไม่ใช่สิ่งที่ควรทำเลย แต่ห้ามมือตัวเองไม่ทันแล้ว สีหน้าของคานินดูเครียดขึ้งขึ้นจนสังเกตได้ แต่ยังคงนั่งเงียบไม่พูดไม่จา

"แฟนของคานินหล่อมากเลยนะ"

หญิงสาวที่ชื่อแป้งถือโอกาสชวนเปลี่ยนเรื่องเพราะเห็นบรรยากาศไม่สู้ดีนัก

"ไม่ใช่แค่หล่อนะคะ รวยด้วย เป็นเจ้าของร้านอาหารตั้งสองร้านแน่ะ"

เสียงที่ดังแทรกขึ้นมาทำให้ทุกคนหันไปมองพร้อมกันด้วยความสงสัย พี่กุ้งนั่นเอง หลังจากที่ถูกทิ้งให้นั่งอยู่ที่โต๊ะนั้นคนเดียวเธอจึงอยากมีส่วนร่วมกับพวกเราด้วย

"จริงเหรอคะ ร้านอาหารที่ไหน เผื่อจะแวะไปอุดหนุน" แป้งถามอย่างตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็น

พี่กุ้งนั่งลงที่เก้าอี้ตัวข้างๆ ผมแล้วพูดต่อ "ที่ดอยแม่สะลองค่ะ ดังมาก ใครไปต้องไปกินร้านนี้ให้ได้ รู้จักขาหมูหมั่นโถวไหมคะ คุณเป็งเขามีร้านขาหมูหมั่นโถวตั้งสองร้าน แถมยังเป็นร้านที่ดังที่สุดด้วย"

"จริงเหรอครับ ผมเพิ่งไปกินกับเพื่อนๆ มาเมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง อย่างงี้คุณเป็งต้องรวยมากแน่ๆ ผมถามคนแถวนั้น เห็นเขาบอกว่าเดือนหนึ่งรายได้เป็นล้านๆ เลย จริงหรือเปล่าครับ"

เพื่อนผู้ชายของอัญญาที่นั่งข้างๆ แป้งพูดขึ้นมาบ้าง

"งั้นคานินก็สบายแล้วสิ แล้วทำไมไม่ให้คุณเป็งซื้อรถให้ขับสักคันล่ะ จะได้ไม่ต้องนั่งรถเมล์ไปทำงาน"

สีหน้าของคานินที่ดูเครียดอยู่แล้วยิ่งดูเครียดมากขึ้น คนรักศักดิ์ศรีอย่างคานินไม่ชอบที่แป้งพูดแน่ๆ บรรยากาศที่เพิ่งผ่อนคลายไปได้หน่อยเดียวกลับมาตึงเครียดอีกครั้ง

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ผมนั่งรถเมล์ไม่ลำบากอะไร"

ใช่อย่างที่ผมเดาไว้เสียด้วย คานินไม่พอใจเรื่องที่แป้งพูดเข้าให้แล้ว เสียงพูดห้วนสั้นจนรู้สึกได้เลย

"อัญ...อัญนอนคนเดียวได้นะ เดี๋ยวพี่จะขอตัวกลับก่อน พอดีพี่รู้สึกปวดหัวน่ะ" บอกแล้วลุกขึ้นยืน

"เป็นอะไรมากหรือเปล่าคะ"

อัญญาถามอย่างเป็นห่วง เผลอเอามือเกาะแขนคานินด้วย ผมจึงใช้สายตา "อำมหิต" จ้องมอง ไม่นานอัญญาจึงรู้ตัวว่าเธอกำลังรุ่มร่ามกับแฟนของคนอื่นอยู่ รีบปล่อยมือแทบไม่ทัน

"ไม่เป็นไรมากหรอก นอนพักก็หายแล้ว พี่ขอตัวกลับก่อนนะ ขอโทษทุกคนด้วยนะครับ"

บอกแล้วคานินเดินตัวปลิวออกไป คงยังเมาไม่มากจึงพอประคองตัวเดินไปได้โดยไม่ล้ม

"คานิน รอผมก่อนสิ" ผมมองตามแล้วลุกขึ้นยืนเตรียมจะวิ่งตามไป "ผมไปก่อนนะครับ"

ผมไม่รอให้ใครอนุญาต รีบเดินแกมวิ่งตามคานินไปทันที คนที่นั่งอยู่คงงงเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น

"คานิน เดี๋ยวก่อนสิ"

ผมเรียกซ้ำอีกครั้ง แต่คานินยังคงเดินดุ่มๆ โดยไม่หันหลังกลับมามองผมเลย พอตามไปทันผมจึงจับแขนคานินไว้ เราเดินพ้นรั้วบ้านของอัญญามาแล้วจึงไม่ต้องกลัวใครเห็น คานินหยุดเดินแล้วหันหน้ามาเผชิญกับผม แม้จะพยายามปรับสีหน้าแต่ดูก็รู้ว่าไม่ค่อยพอใจ

"ไปกับผมนะคานิน เราสองคนต้องคุยกันหน่อยนะคืนนี้"

คานินมองหน้าผมอย่างครุ่นคิด ถอนหายใจเบาๆ แล้วพยักหน้าตกลง

(http://bit.ly/1mD2rHH)

"ผมมีเรื่องอยากขอโทษคานิน"

ผมเริ่มเรื่องทันทีที่เราสองคนนั่งลงบนชุดโซฟานั่งเล่นในห้อง คานินมองผมแต่กลับไม่พูดอะไร ตอนที่นั่งรถมาด้วยกันเราต่างเงียบ ดีที่ว่าดึกแล้วรถไม่ติดจึงมาถึงไวหน่อย ไม่ต้องทนอึดอัดนาน แต่พอเข้ามาในห้อง ความเงียบขรึมนั้นทำให้บรรยากาศดูอึดอัดอีกแล้ว

คานินเลิกคิ้วคล้ายกับจะถามว่าขอโทษเรื่องอะไร

"ก็...เรื่องที่ผมถือวิสาสะแนะนำคานินว่าเป็นแฟนผมในงานวันเกิดของอัญไง ผมขอโทษนะที่ผมยังไม่ได้ปรึกษากับคานินก่อนเลยว่าพร้อมที่จะบอกคนอื่นๆ หรือเปล่า"

ผมคิดว่าเรื่องนี้ทำให้หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมไม่พูดไม่จาจนหมดสนุก ต้องขอตัวกลับกะทันหัน

"ผมไม่ได้โกรธคุณเป็งเรื่องนั้นหรอกครับ" คานินเปิดปากพูดในที่สุด

"อ้าว แล้ว...คานินโกรธผมเรื่องอะไรล่ะ" ผมขมวดคิ้วมองหน้าคนที่นั่งอยู่เยื้องๆ กัน

คานินถอนหายใจราวกับมีเรื่องหนักใจ ไม่รู้ว่าตอนที่ผมไม่อยู่เกิดเรื่องอะไรขึ้นบ้าง ดูท่าทางเรื่องนั้นจะเป็นเรื่องสำคัญเสียด้วยเพราะคานินทำท่าครุ่นคิดอยู่นานทีเดียว

"คุณเป็ง...ผมไม่ได้อยากเป็นแฟนกับคุณเป็งเพราะว่าผมอยากได้อะไรจากคุณเป็งนะครับ"

ไม่แปลกไปจากที่ผมคาดเดาไว้เท่าไหร่ เรื่องที่เพื่อนของอัญญาพูดติดอยู่ในใจของคานินซะแล้ว

"ผมรู้อยู่แล้วว่าคานินไม่อยากได้ของหรือเงินที่ผมมี คานินไม่ใช่คนแบบนั้นหรอก ผมดูออก ดูออกตั้งแต่วันที่คานินพาผมไปกินอาหารอีสานเผ็ดๆ ตอนนั้นแล้ว"

แม้สีหน้าจะดีขึ้นแต่ใช่ว่าจะหายคาใจ "แต่คนอื่นๆ เขาไม่ได้คิดอย่างงั้นนี่ครับ"

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายถอนหายใจบ้าง ชักกลัวเหมือนกันว่าคุยกันไปมาแล้วจะทะเลาะกันใหญ่โต เราสองคนเพิ่งคบกันได้ไม่นาน ทะเลาะกันตั้งแต่เริ่มคบกันใหม่ๆ ไม่ใช่สัญญาณที่ดีแน่

"คานิน...ถ้าทุกคนเข้าใจก็ดี แต่ผมไม่รู้ว่าจะอธิบายให้คนอื่นๆ เข้าใจเรื่องนี้ได้หมดทุกคนหรือเปล่า คานินว่าเราต้องอธิบายทุกคนเหรอ หรือว่าไม่จำเป็น ถึงอธิบายไปก็ใช่ว่าทุกคนจะเข้าใจ บางคนเขามีความเชื่อบางอย่าง บอกไปเขาคงไม่ฟังหรอก เราห้ามความคิดใครไม่ได้นะคานิน รู้เปล่า แต่ผมเข้าใจความอึดอัดของคานินนะ ถ้าผมเป็นคานิน ผมก็คงอึดอัดเรื่องนี้เหมือนกัน"

ผมมองหน้าคานินด้วยสายตาที่แสดงความเห็นใจ ก่อนจะถามคำถามสำคัญออกไป

"คานินลำบากใจที่จะคบกับผมเพราะเรื่องนี้หรือเปล่า"

ดูเหมือนคานินจะอึ้งไปนิดๆ กับคำถามนี้ของผมจนต้องแบ่งรับแบ่งสู้ "ก็...ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับคุณเป็ง"

ผมพยักหน้าเข้าใจ แอบยิ้มกริ่มเมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังอ่อนลง

"สำหรับผมนะคานิน ความแตกต่างมันแค่ทำให้เราสองคนใช้ชีวิตด้วยกันลำบากในช่วงแรกๆ เท่านั้นแหละ อย่าว่าแต่คนต่างฐานะกันเลย คนฐานะใกล้เคียงกันยังต้องปรับตัวเลย ไม่มีใครหรอกนะที่ตัดสินใจคบกันแล้วไม่ต้องปรับตัวเข้าหากัน ปรับทุกคู่แหละ แต่คานินเชื่อผมสิ ทุกปัญหามีทางออกเสมอ ผมรู้ว่าเราต่างกันเยอะ ต้องปรับตัวเข้าหากันเยอะ บางทีอาจจะต้องทะเลาะกันมั่ง มันก็เป็นเรื่องธรรมดาของชีวิตคู่นะ คานินกลัวที่ต้องปรับตัวเหรอ หรือกลัวอะไร บอกผมได้นะ ผมยินดีปรับให้ทุกอย่างเท่าที่เป็นไปได้"

ผมหยุดพูดและจับสังเกตสีหน้าของอีกฝ่าย แม้ก้มหน้าอยู่ แต่สีหน้าของคานินดูอ่อนลงมากทีเดียว

"คานินคิดดูก่อนก็ได้ ไม่ต้องให้คำตอบผมตอนนี้หรอก แต่ต่อไป...ถ้าคานินมีเรื่องอะไรที่ไม่สบายใจ คานินบอกผมได้ทุกเรื่องเลย อย่างเช่น ยังไม่สะดวกใจที่จะบอกใครว่าคานินเป็นแฟนกับผม ไม่สะดวกใจที่จะไปไหนมาไหนกับผม ไม่สะดวกใจที่จะนอนห้องผม หรือเรื่องอื่นๆ ที่คานินไม่สบายใจ คานินจะได้ไม่ต้องอึดอัดใจไง ผมไม่บังคับความรู้สึกของคานินหรอก ความรักเป็นความพอใจ เหมือนเสื้อตัวหนึ่งนั่นแหละ ต่อให้มันคาคาแพงขนาดไหน แต่ถ้าไม่ชอบสี ไม่ชอบแบบ เราก็ไม่อยากใส่ ถ้าเกิดวันไหนคานินรู้สึกว่าผมเหมือนเสื้อที่คานินไม่ชอบแบบ ไม่ชอบสี หรือไม่ชอบอะไรก็แล้วแต่ มันเป็นเรื่องของความพอใจ ฝืนไม่ได้ ผมอยากให้คานินบอกผมตรงๆ เลย ไม่ต้องเกรงใจหรอก"

"คุณเป็ง" คานินเงยหน้าขึ้นมามองผมด้วยสีหน้าที่ดูเหมือนรู้สึกผิด

"ผมไม่รู้นะว่าคานินคิดอะไรอยู่หรือรู้สึกยังไง ผมแค่อยากขอโอกาสให้เราสองคนรู้จักกันมากกว่านี้ คุยกันมากกว่านี้ ผมเชื่อว่าเราจะค่อยๆ รู้จักกันแล้วก็เข้าใจกันมากขึ้นเอง เราต้องโอกาสตัวเองได้ปรับตัวเข้าหากันดูบ้างนะคานิน อย่าเพิ่งปิดประตูสิ"

คานินกับผมจ้องตากัน แววตาวิบไหวทำให้ผมรู้ว่าอีกฝ่ายยอมรับเหตุผลของผมแล้ว หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์พยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงตกลง ค่อยๆ คลี่ยิ้มจนในที่สุดจึงยิ้มไปทั้งใบหน้าและแววตา เมื่อความรู้สึกได้ที่ คานินจึงเขยิบมานั่งโซฟาตัวเดียวกัน แล้วโผเข้ากอดผมโดยไม่ทันตั้งตัว

"ผมขอโทษครับคุณเป็ง ผมนี่แย่จังเลย คุณเป็งปรับตัวเข้าหาผมตั้งเยอะ ยังไม่เห็นบ่นสักคำ แต่ผมกลับท้อใจกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง ใจเสาะชะมัดเลย"

พอตั้งตัวได้แล้วผมจึงสวมกอดคานินคืนอย่างรักใคร่ พร้อมกับก้มลงไปสูดดมผมของเจ้าของร่างเบาๆ

"อย่าคิดอย่างงั้นสิคานิน ดีแล้วที่คานินทำให้ผมรู้ว่าคานินอึดอัดใจเรื่องอะไร เราจะได้คุยกันไง พอคุยกันแล้วเราจะได้เข้าใจกัน พอเข้าใจกันมากขึ้น เราก็จะรักกันมากขึ้น จริงไหมคานิน"

คานินตอบสนองต่อคำพูดประโยคท้ายของผมด้วยการกอดผมแน่นขึ้นและซุกหน้าลงบนอกผม ผมก้มลงไปสูดดมผมของคานินอย่างรักใคร่อีกครั้ง คงเป็นอีกวันที่ความรักของเราก่อตัวแน่นขึ้น บอกตรงๆ ว่าตอนแรกผมรู้สึกหวั่นใจไม่น้อยว่าจะทำให้ต้นรักที่เพิ่งปลูกเฉาตายก่อนเวลาอันสมควร พอรู้ว่าคานินเข้าใจและยอมรับสิ่งที่ผมพูดแล้ว ผมจึงเหมือนได้ยกภูเขาออกจากอก

"คานินจะไปอาบน้ำก่อนไหม จะได้นอนสบายๆ"

คานินเงยหน้าขึ้นมามองผม คลี่ยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วพยักหน้า ท่าทางบึ้งตึงเมื่อกี้หายหมดสิ้น

{-- + --- + -- + --- + --}

ผมใส่ชุดคลุมออกมาจากห้องน้ำ คานินนั่งเล่นเกมส์ด้วยไอแพดผมอยู่ เล่นไปยิ้มไป ตอนแรกทำท่าจะไม่เล่น แต่พอผมคะยั้นคะยอหน่อยจึงยอม ดูเหมือนว่าอยากเล่นมานานแล้ว จะซื้อมาใช้ก็กลัวเปลืองเงิน ขนาดโทรศัพท์ที่ใช้อยู่ยังไม่ยอมซื้อใหม่ เก่าจนไม่น่าเชื่อว่ายังใช้ได้อยู่

"เดี๋ยวผมเช็ดผมให้ครับคุณเป็ง"

คานินวางไอแพดลง จากนั้นกุลีกุจอลงจากเตียงเดินมาหาผมที่มายืนรออยู่ที่หน้ากระจกแต่งตัวแล้ว ผมส่งผ้าขนเช็ดตัวที่ถือมาด้วยให้คานินไป นั่งลงบนเก้าอี้หน้ากระจก แล้วปล่อยให้คานินเช็ดผมให้ ผมมองดูภาพในกระจกแล้วยิ้มอย่างพอใจ จ้องมองผ่านกระจกจนคนข้างหลังชักเขิน

"ผมชอบผมคุณเป็งจัง ผมดำเป็นเงาดี" หนุ่มมีเขี้ยวพูดแก้เขิน

"นอกจากผมแล้วยังมีอะไรที่ชอบอีกหรือเปล่าครับ" ผมแกล้งแหย่ให้คนเขินเล่น

คานินทำเป็นเช็ดผมต่อเหมือนไม่ได้ยินคำถาม ผมนึกว่าคานินจะลืม ที่ไหนได้ พอเช็ดผมจนแห้งดีแล้ว เจ้าตัวจึงเพิ่งมาตอบคำถามที่ผมถามค้างไว้

"ผมชอบผิวคุณเป็ง ผิวคุณเป็งขาวดี ผิวก็เนียนดีด้วย"

ผมลุกขึ้นยืนแล้วหันไปเผชิญหน้ากับคานิน "รู้ได้ไงว่าผิวผมเนียน คานินเคยสัมผัสแล้วเหรอ"

คานินส่ายหน้ายิ้มๆ ผมดึงมือข้างที่ว่างอยู่ของคานินมาแตะที่แขนผมแล้วเลื่อนขึ้นลงไปมา

"เนียนหรือเปล่าครับ" ถามพลางส่งสายตากรุ้มกริ่มไปให้

คานินพยักหน้าเป็นเชิงยอมรับ เริ่มออกอาการเขินเล็กน้อย "เดี๋ยวผมเอาผ้าเช็ดตัวไปผึ่งให้นะครับ"

ว่าแล้วคานินจึงเดินลิ่วออกไปตรงระเบียงห้องเพื่อเอาผ้าเช็ดตัวไปผึ่งให้ตามที่บอก ผมมองตามแล้วขำเบาๆ เวลาคานินเขินแล้วดูน่ารักไม่น้อย คงต้องหาเรื่องให้เขินบ่อยๆ ซะแล้ว

ผมตามคานินออกไปตรงระเบียงห้อง เจ้าตัวกำลังจัดแจงแขวนผ้าเช็ดตัวผมไว้อย่างขะมักเขม้น มีแสงสีจากรถราและตึกรามบ้านช่องของเมืองกรุงที่กระจายอยู่เบื้องล่างเป็นภาพพื้นหลัง

ผมรอจนคานินจัดการธุระนั้นเสร็จเรียบร้อยดีจึงเดินตรงเข้าไปสวมกอดจากทางด้านหลังไว้ คานินดูจะตกใจเล็กน้อยแต่ไม่ขัดขืนแต่อย่างใด แถมยืนนิ่งๆ ให้ผมกอดอย่างสบายอารมณ์

"วิวห้องผมสวยไหมคานิน"

คานินหันกลับมามอง สบตากับผมแวบเดียวแล้วหันกลับไปตามเดิม

"สวยครับ"

"แล้วชอบหรือเปล่าล่ะ" ผมถามต่อทันที

"ชอบครับ ผมเคยฝันว่าอยากมีคอนโดสวยๆ แบบนี้แหละ สมัยเรียนผมเคยไปนอนที่คอนโดเพื่อน ไม่หรูเท่านี้หรอก แต่ว่าห้องมันอยู่สูง วิวสวยมาก ลมพัดเย็นสบายดี ผมชอบมากเลย"

"แล้ว...คานินอยากมาอยู่กับผมหรือเปล่าล่ะ"

ไม่รู้ว่าหนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมอึ้งหรือเป็นอะไรกันแน่เพราะเงียบไปพักใหญ่เลย "อืม...ผมคงมาอยู่ไม่ได้หรอกครับคุณเป็ง เป็นห่วงแนนกับวิน อ้อ...เดือนหน้า...พ่อกับแม่ผมจะขึ้นมาหา ผมคงไม่สามารถปิดบังเรื่องของแนนได้แล้ว ผมเครียดมากเลยครับคุณเป็ง สงสารแนน ไม่รู้ว่าจะโดนอะไรมั่ง"

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายเครียดตามบ้าง แม้เพิ่งรู้จักไม่นาน แต่รู้สึกเห็นใจในชะตาชีวิตของทั้งคู่ไม่น้อยเลย

"เพราะเรื่องนี้หรือเปล่า คานินเลยดูเครียดๆ"

คานินหันมาพยักหน้ายอมรับตามตรง ผมถอนหายใจเบาๆ แล้วเกยคางบนไหล่หนุ่มเขี้ยวไว้

"ไว้ค่อยคิดละกันนะคานิน ตอนนี้เราสองคนมีเรื่องสำคัญต้องข้ามผ่านอีกเรื่อง สำคัญมากๆ ด้วยนะ"

คานินไม่กล้าหันหน้ามาถามอีก ขืนหันมาคงโดนผมหอมแก้มเป็นแน่ เจ้าตัวจึงยืนนิ่งๆ

"เรื่องอะไรเหรอครับคุณเป็ง"


ผมเลื่อนจมูกไปหอมที่ซอกคอของคานินเบาๆ จากนั้นกอดกระชับหนุ่มเขี้ยวแน่นขึ้น
เท่านี้คานินคงจะรู้แล้วว่าเรื่องสำคัญที่ต้องข้ามผ่านให้ได้คืนนี้คือเรื่องอะไร

TBC...
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-02-2016 21:57:38
 :L2: :pig4:

เรื่องอะไรคุณเป็งงงงงงงง
จบแบบนี้้้ ตั้งใจจจจจ ใช่ไหมมมม :ling1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 21-02-2016 22:23:33
อ้ากกกก มาต่อแล้วววว :hao7: :hao7: :hao7:

สมน้ำหน้ายัยอัญ โดนเป็งประกาศตัวซะหน้าหงายเลย 555  :laugh: :laugh: :laugh:

เป็งน่ารักมากกกกกก เป็นคนที่จริงใจ ใจเย็น และเข้าใจเหตุผลจองคานินดี อยากมีมั่ง :impress2: :impress2: :impress2:

ไหนๆ พ่อแม่ก็จะมาและ เปิดตัวแฟนไปเลย เอาให้เครียดทีเดียว 555   :m20: :m20: :m20:

เป็งมีเรื่องสำคัญไรต้องทำหรอ หุหุ รอตอนตื่นหัวยุ่ง หวังว่าคงไม่ผิดหวังเนอะ คึคึ :hao6: :hao6: :hao6:

รอตอนต่อไปนะคร้าบบบบ มาต่อไวๆน้าาาาา :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 21-02-2016 22:51:04
รอตอนต่อไปค่ะ รีบๆ มาอัพนะคะ อยากรู้ว่าคุณเป็งจะพาคานินผ่านคืนที่สำคัญได้อย่างไม่มีอุปสรรคหรือเปล่าค่ะ อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 21-02-2016 23:25:11
  ๕๕๕ คุณเป็งจะทำไรคานินอ่ะ ข้ามผ่านคืนนี้ให้ได้ คืออะไร ทำให้คิดลึกนะเนี้ย ๕๕๕
   รอ รออ่านตอนต่อไปคับ รีบๆเคลียร์งานแล้วมาต่อไวๆนะคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 22-02-2016 00:48:38
เรื่องอะไรที่ต้องข้ามผ่านในคืนนี้เหรอเป็ง
รีบๆพิชิตให้สำเร็จนะ จะรอลุ้นว่าเรื่ิองอะไร
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-02-2016 01:06:30
ยังไงก็สู้ๆ นะครับทั้งคู่
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 22-02-2016 02:20:57
แหนะมาทำให้ค้างแล้วจากไป - - จะรอตอนใหม่นะครับ โปรดนำส่งโดยด่วนนนนน เหอๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 22-02-2016 02:25:44
เอาแล้วไง เป็งสุภาพบุรุษจะแตกกระเจิงไหมทีนี้555555 น้องยิ่งน่า....รัก อยู่ด้วย :laugh:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 22-02-2016 10:03:00
อย่าปล่อยปลาย่างหลุดมือไปนะครับคุณเป็งง :hao6:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-02-2016 15:55:43
รอลุ้นจะผ่านเรื่องสำคัญคืนนี้ไปได้ยังไง 55555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 22-02-2016 18:00:59
สมน้ำหน้าอัญญา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 22-02-2016 22:56:36
วันที่ 24 ยังว่างอยู่ครับ หวังว่าจะได้อัปเดตโดยไม่มีใครมาลากไปไหน อิๆ

(http://bit.ly/1mSYzme)

(http://bit.ly/1VpoldE)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 23-02-2016 07:08:59
วันที่ 24 ยังว่างอยู่ครับ หวังว่าจะได้อัปเดตโดยไม่มีใครมาลากไปไหน อิๆ

(http://bit.ly/1mSYzme)

(http://bit.ly/1VpoldE)

ถ้าจะมาเพิ่มความจิ้นขนาดนี้ ต้องรีบมาต่อด่วนนนนนนนน :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 23-02-2016 09:32:03
 :ling1:

วันนี้วันที่24 แล้วยังงงงงง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 23-02-2016 18:10:25
คุณเป็งน่ารักมากเลยอ่ะ อิจฉาคานินจังเลย  :o8: คนพูดกระแหนะกระแหนน่ะเป็นเรื่องธรรมชาติ เพราะเขาอิจฉาเราน่ะ  :m16: แล้วเรื่องที่จะต้องข้ามผ่านคือเรื่องอะไรเอ่ย  :mew3: อยากรู้จัง มาอัพต่อน่ะจ้ะ  :impress2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №9 เรื่องที่ต้องข้ามผ่าน ⓟ7 ▦21.2.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 24-02-2016 08:52:36
วันนี้ 24 แล้ว อย่าออกไปไหนนัาาาาา รออยู่(มากดดัน) คึคึ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 24-02-2016 18:11:51
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 10 งอนนักจัดหนักซะเลย (NC)


(http://bit.ly/1RX8ogL)

ถ้านับจากวันแรกที่พบกันจนถึงวันนี้ ผมกับเป็งรู้จักกันมาไม่ถึงสามสัปดาห์ด้วยซ้ำ แต่ความรู้สึกของผมกลับดูเหมือนว่าเรารู้จักกันมานานกว่านั้น น่าแปลกไม่น้อยเลย ถ้าไม่รู้สึกอย่างนั้นจริง ผมคงไม่ยอมอยู่ในอ้อมแขนของผู้ชายคนนี้ตอนนี้หรอก กระนั้น ผมยังรู้สึกว่าการมีความสัมพันธ์ทางกายตอนนี้ดูจะเร็วเกินไปหน่อย แม้จะมีความรู้สึกว่าอยากลองสัมผัสที่แปลกใหม่ดูบ้าง แต่ผมยังมีความกลัวและกังวลอยู่ แล้วสัญญาณอะไรล่ะที่จะบอกได้ว่าเราพร้อมแล้ว ผมไม่รู้ จะเกิดขึ้นเมื่อไหรก็ไม่รู้

"คานินรู้ไหมว่าทำไมผมต้องประกาศตัวว่าเป็นแฟนของคานินในงานวันเกิดอัญ"

คนถามถามไปพร้อมกับมือที่ลูบไล้เล่นเบาๆ ไปมาอยู่แถวๆ หน้าท้องของผม เล่นเอาผมรู้สึกปั่นป่วนและใจเต้น เก็บอาการหายใจไม่ทั่วท้องไว้ไว้อย่างยากลำบาก

"ถ้าไม่รู้...ผมคงเป็นแฟนคุณเป็งไม่ได้หรอกมั้งครับ" ผมพูดติดตลก เรื่องอย่างนี้ผมเคยมีประสบการณ์มาแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากที่จะเดาออก

"เรื่องอะไรผมจะยอมล่ะ ผมไม่ยอมให้ใครมางาบคานินไปง่ายๆ หรอก"

"โหคุณเป็ง ผมไม่ใช่ใส้กรอกซะหน่อย งาบไม่ได้ง่ายๆ ขนาดนั้นหรอกครับ"

"เข้าใจเปรียบเทียบนะเนี่ย" เป็งหัวเราะชอบใจเบาๆ

"ผมน่ะ...ไม่กลัวสาวๆ งาบหรอกครับ ถ้าจะกลัว...กลัวหนุ่มใกล้ตัวงาบซะมากกว่า"

เป็งคงตกใจที่ผมรู้ทันจึงปล่อยมือออก จับผมพลิกตัวให้หันมาเผชิญหน้ากัน หนุ่มตี๋ยิ้มกรุ้มกริ่มพร้อมกับโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้

"แล้วอยากให้งาบหรือเปล่าล่ะ"

น้ำเสียงและสายตาเสน่หานั้นทำเอาผมวาบหวามใจไม่น้อย หนุ่มตี๋หน้าหล่อใสจ้องผมไม่วางตา ผมรู้สึกเหมือนตัวเองจะละลายลงตรงนี้ให้ได้ ถ้าไม่ทำอะไรสักอย่างคงเสร็จแน่ๆ

"คุณเป็งเห็นแสงเลเซอร์ที่เขายิงขึ้นฟ้าตรงนั้นไหมครับ เขามีงานหรือเปล่า"

ผมออกอุบายด้วยการชี้ไปที่แสงเลเซอร์ที่กำลังฉายเป็นลำแกว่งกวาดขึ้นฟ้าไปมาอยู่ไกลๆ เป็งมองตามแล้วทำท่านึก

"อ๋อ...เขาน่าจะมีงานมั้ง"

พอเป็งเผลอผมจึงอาศัยจังหวะนี้วิ่งผลุนเข้ามาในห้อง ได้ยินเสียงเป็งเอะอะโวยวายตามมาข้างหลัง ผมกระโดดขึ้นไปนอนบนเตียงแล้วหยิบไอแพดของเป็งมาเล่นต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

เป็งเดินตามเข้ามาในห้อง พอเหลือบตาไปมองจึงเห็นหนุ่มตี๋ตัวขาวยืนหันรีหันขวางไปมาเก้ๆ กังๆ ผมยักคิ้วท้าทายให้หนึ่งครั้งแล้วหันกลับมาเล่นเกมส์ต่อ แต่แทบกลั้นหัวเราะไม่ไหวทีเดียว

เป็งขึ้นมากึ่งนั่งกึ่งนอนบนเตียงบ้าง มองแล้วมองอีกแต่จนแล้วจนรอดก็ยังนั่งเงียบๆ คงเห็นผมทำตีมึนอยู่นานเกินไป หนุ่มตี๋จึงอดรนทนไม่ไหว ที่สุดจึงยอมเป็นฝ่ายเอ่ยถามก่อน

"ชอบเล่นเกมส์เหรอ" คนถามเขยิบตัวเข้ามาใกล้อีกนิด ชำเลืองดูเกมส์ที่ผมเล่นด้วย

"ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ นานๆ ทีจะได้เล่นกับเขามั่ง คุณเป็งชอบเล่นเหรอ มีเกมส์เยอะเลย" ผมพูดโดยไม่หันไปมองหน้า สายตาจับจ้องที่เกมส์ซับเวย์เซิร์ฟเฟอร์อย่างเอาจริงเอาจัง

"เอาไว้เล่นเวลาว่างๆ ก็ไม่ถึงกับติดหรอก ถ้าคานินชอบก็เอาไปเล่นที่บ้านได้นะ"

"ไม่ดีกว่าครับ เดี๋ยวคุณเป็งไม่มีใช้" ผมแย้งโดยไม่ละสายตาจากจอไอแพด

"ผมมีสองเครื่อง คานินเอาเครื่องนี้ไปยืมใช้ก่อนก็ได้"

ผมกดหยุดเกมส์แล้วหันไปมองเป็ง "ไม่ดีกว่าครับ ถึงเอาไปผมก็ไม่ค่อยมีเวลาเล่นหรอก เอาไว้มาเล่นที่ห้องคุณเป็งดีกว่า"

ผมคิดว่าเป็งคงเห็นด้วยเพราะไม่ถามเซ้าซี้เรื่องนี้อีก ได้แต่นั่งมองผมเล่นเกมส์ต่อเงียบๆ ไม่ใช่ว่าผมไม่รู้ว่าเป็งกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ผมอายจนทำอะไรไม่ถูกเลยต่างหาก

พอเห็นผมทำเป็นไม่สนใจ เป็งจึงทำหน้าเศร้าๆ และค่อยๆ ลดตัวลงนอน หันหลังให้ผม ผมเหลือบตาไปมองอย่างสงสัย แต่ยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะเอายังไงจึงเล่นเกมส์ต่อ

นานเข้าผมชักจะทนไม่ไหวซะเอง จึงหยุดเล่นเกมส์และวางไอแพดไว้ที่โต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง แม้ว่าจะมีการเคลื่อนไหวจนเตียงยวบยาบ หนุ่มตี๋ตัวขาวของผมกลับไม่ยอมหันมามองเลย

ผมรูดตัวนอนลงบนเตียงอย่างเสียดาย คิดไปคิดมาแล้วไม่น่าทำเป็นไม่สนใจเป็งเลย ยอมรับว่าลังเลตอนแรก แต่พอเห็นเป็งงอน ไม่รู้ว่างอนจริงหรืองอนเล่น แต่ผมใจอ่อนไปแล้ว ความจริงผมคงไม่ปฏิเสธหรอกว่าอยากมีความสุขกับคนรักเหมือนคนทั่วไปบ้าง แต่ผมยังไม่เคยกับผู้ชายจึงกลัวบ้างเป็นธรรมดา ที่ทำเป็นไม่สนใจเพราะยังตัดสินใจไม่ได้ต่างหาก

"คุณเป็งนอนแล้วเหรอครับ" ผมตัดสินใจถามไป

"ครับ ง่วงแล้ว" เป็งตอบไม่เต็มเสียง ท่าทางดูเหมือนงอนผมเข้าให้แล้ว

"อ้อ...เอ่อ...งั้น...ผมปิดไฟนะครับ" ผมเอ้ออ้าและมองอย่างเสียดาย

"ครับ" เป็งตอบสั้นๆ

แทนที่ผมจะปิดไฟตามที่บอกไปเมื่อกี้ ผมกลับทำใจดีสู้เสือเขยิบเข้าไปใกล้ เห็นแขนขาวเนียนละเอียดและมีกล้ามพองามแล้วผมชักอยากลองลูบไล้เล่นดูบ้าง แต่มือไม้ที่ยื่นออกไปหมายว่าจะลองทำอย่างที่คิดกลับสั่นจนแทบควบคุมไม่ได้

เอาไงดี เป็งจะโกรธผมหรือเปล่าถ้าผมลวนลาม ถ้าลูบไปแล้วเกิดเป็งมีอารมณ์ขึ้นขึ้นมาล่ะ!? ผมพร้อมแล้วหรือยังที่จะข้ามผ่านเรื่องนั้นไปกับเป็ง แต่ถ้าไม่พร้อมแล้วผมจะพร้อมเมื่อไหร่? ทำไมผมไม่พร้อมเสียตอนนี้เลย ต่างคนต่างเป็นผู้ชายเหมือนกัน ไม่มีอะไรเสียหายอยู่แล้ว คนรักกันคงอยากสัมผัสแนบชิด หยอกล้อ ออดอ้อนและเติมเต็มความสุขให้กันเป็นธรรมดา

เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน!

พอคิดได้ดังนั้นผมจึงยื่นมือไปหาเป็งอีกที กว่าจะกล้าเอามือแตะที่แขนของเป็งก็สั่นอยู่นานทีดียว

"แขนคุณเป็งขาวจัง ผมชอบ"

ว่าแล้วผมจึงค่อยๆ ลูบไล้ไปตามแขนของเป็งที่โผล่พ้นเสื้อคลุมออกมาอย่างเบามือ ถ้าจะบอกว่าเป็นการอ่อยผู้ชายครั้งแรกของผมคงไม่ผิดนัก เกิดมาไม่เคยทำอย่างนี้มาก่อนเลย

ไม่รู้ว่าคนนอนหันหลังอยู่รู้สึกสยิวขึ้นมาบ้างหรือเปล่า แต่นอนนิ่งเฉยน่าจะแปลว่ายังไม่ได้ผล แปลว่าผมต้อง "แรง" ขึ้นกว่านี้อีกนิดซะแล้วสิ เอาเถอะ ถือว่าง้อหนุ่มตี๋ขี้งอนเขาหน่อยละกัน จะปล่อยให้นอนหลับไปพร้อมกับความน้อยใจก็ดูจะใจจืดใจดำไปหน่อย

ผมตัดสินใจเขยิบตัวไปนอนบนหมอนใบเดียวกับเป็ง จากนั้นสวมกอดเป็งทางด้านหลัง ซุกหน้าลงหอมที่ต้นคอเบาๆ หนึ่งฟอด มือที่กอดอยู่เริ่มอยู่ไม่สุข ลูบไล้บริเวณท้องของเป็งเล่น

"คุณเป็ง จะนอนแล้วเหรอ ผมยังไม่อยากนอนเลย"

"แล้วคานินจะทำอะไรล่ะ ดึกแล้วนะ" น้ำเสียงที่ตอบกลับมาฟังดูอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด ผมค่อยใจชื้นขึ้นมาหน่อย

"ก็เห็นคุณเป็งบอกว่าจะพาผมข้ามผ่านอะไรคืนนี้ไง ผมอยากรู้ว่าคุณเป็งจะให้ผมทำอะไรหรือเปล่า"

"ถ้าคานินไม่เต็มใจก็ไม่เป็นไรหรอก เล่นเกมส์ต่อเหอะ"

ว่าแล้วต้องน้อยใจเรื่องนี้ ผมเกือบหลุดหัวเราะแล้วเชียว งอนอย่างนี้ต้องเจอดีแน่นอน "ไม่เล่นแล้ว ผมอยากข้ามผ่านอะไรบางอย่างกับคุณเป็งมากกว่า คุณเป็งจะไม่บอกผมหน่อยเหรอ ผมอยากรู้จะแย่แล้วเนี่ย"

ในเมื่ออ่อยมาถึงขนาดนี้แล้วผมคงไม่สามารถหยุดได้นอกจากเพิ่มดีกรีความแรงขึ้นเรื่อยๆ เป็งเงียบไม่ยอมตอบ ผมจึงเลื่อนมือต่ำลงไปอีก และต่ำลงไป พอถึงขอบกางเกงในจึงหยุดชั่วคราว ใจผมเต้นไม่เป็นส่ำ เลือดสูบฉีดพล่านจนตัวแดงไปหมด เริ่มหายใจติดๆ ขัดๆ เพราะความตื่นเต้น

ผมลูบไล้เล่นเหนือขอบกางเกงในอยู่สักพักจึงเพิ่มดีกรีความแรงขึ้นไปอีกด้วยการขยับลงต่ำกว่านั้น คราวนี้ได้สัมผัสเป็งน้อยที่ไม่น้อยอย่างเต็มไม้เต็มมือแล้ว แต่ผมกลับไม่กล้าขยับมือเลยแม้แต่น้อย ใจเต้นโครมครามจนเกือบจะหลุดออกมาข้างนอก รู้ดีแก่ใจว่าถ้าเลยจุดนี้ไปแล้วผมคงเสร็จแน่ๆ

"หยุดทำไมล่ะ"

เสียงที่บอกมาฟังดูกระเส่าชอบกล ครั้นผมจะบอกว่าตื่นเต้นก็ดูจะเสียเชิงไปหน่อย ถ้าพูดมาขนาดนี้คงแปลว่าไม่ขัดข้อง งั้นผมก็ไม่เกรงใจแล้ว จับท่อนนั้นคลึงเล่นภายนอกซะเลย เบียดตัวเข้าหาจนส่วนนั้นที่กระด้างกระเดื่องของผมแนบไปกับร่องทางด้านหลังของคนที่นอนอยู่ เอาล่ะ นี่คงเลยจุดที่แรงที่สุดของผมไปแล้ว จากนี้ไปคงไม่มีอะไรมาหยุดยั้งเหตุการณ์ที่เหลือได้

ผมคลึงเคล้นสนุกมือ จากภายนอกค่อยๆ สอดมือเข้าควานหาภายใน คนตัวขาวถึงกับครางฮือ ต่างคนต่างรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและเสียวกระสันอย่างที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อน

เป็งควานมือมาทางด้านหลังบ้าง พอเจอส่วนนั้นของผมที่กระด้างกระเดื่องก็คว้าหมับเข้าให้ แค่รูดขึ้นลงเบาๆ ผมยังเสียวซ่านจนแทบจะปลดปล่อยออกมาในเพียงสัมผัสแรกจนเผลอคราง ผมปล่อยให้เป็งเล่นตรงนั้นของผมตามอำเภอใจ ชอบหนักเบาแค่ไหนก็เชิญตามสบาย

จู่ๆ เป็งหยุดมือไปซะเฉยๆ ผมยังไม่ทันรู้สึกเสียดาย หนุ่มตี๋ตัวขาวรีบพลิกตัวขึ้นทาบทับผมไว้ เป็งใช้ปลายนิ้วลากไปตามเส้นรอบปากของผมอย่างช้าๆ และนุ่มนวลจากบนลงล่าง ช่างยั่วเย้าจริงๆ มันเพิ่มความสยิวและความต้องการของผมให้มากขึ้นไปอีก พอลากมาถึงจุดกึ่งกลางริมฝีปากล่าง เป็งใช้นิ้วโป้งและนิ้วชี้บีบริมฝีปากล่างของผมให้ห่อแคบ จากนั้นโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะใช้ลิ้นชิมริมฝีปากของผมที่เป็งบีบเอาไว้ ให้ความรู้สึกรุนแรงและหยาบกระด้างเล็กน้อย แต่ผมว่ามันโคตรให้ความรู้สึกดิบและซ่านเสียวได้มากทีเดียว รักเลยจูบนี้!

ลิ้นอุ่นๆ ค่อยๆ ดุนเปิดปากผมให้อ้าออกอย่างช้าๆ ความรู้สึกตอบสนองของผมเพิ่มเป็นทวีคูณ ลิ้นของเป็งเข้ามาทักทายกับลิ้นของผมอย่างนิ่มนวล ค่อยเป็นค่อยไป จนผมแทบจะอดใจไม่ไหว จากนั้นเป็งค่อยๆ ใช้ลิ้นเขยิบเข้ามาสัมผัสตวัดกัน ลิ้นอุ่นๆ ของเป็งสอดประสานกันเป็นหนึ่งเดียวกับผม เราผลัดกันดันลิ้นไปมา อารมณ์เสียวซ่านและความร้อนในร่างกายพลุ่งพล่านจนเขื่อนแทบทะลัก

เป็งจูบบดบี้ที่ปากของผมอย่างดูดดื่มอยู่สักพักจึงเปลี่ยนเป้าหมายมาที่ติ่งหูของผมแทน เป็งทั้งดูด จูบและดุนเข้ามาในหูผมเล็กน้อย แล้วเปลี่ยนมาเลียที่ติ่งหู ใช้ปลายลิ้นไต่เล่นไปตามสันหู เพิ่มความรู้สึกเสียวซาบซ่าให้ผมจนหยุดไม่อยู่ ผมเผลอตัวกอดเป็งซะแน่นอย่างลืมตัว

"คานินชอบหรือเปล่า" เป็งกระซิบถามที่ใบหูด้วยเสียงเบาปนเสียงลมหายใจแห่งความต้องการ เจ้าตัวคงต้องการความมั่นใจจึงถามอย่างนั้น

"ชอบครับ" ผมบอกไปตามตรงด้วยเสียงสั่นสะท้าน คราวที่แล้วยังจูบไม่เป็นอยู่เลย คราวนี้ทำไมเก่งขึ้น

ช่างเถอะ! เวลานี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาสงสัย

"คานินพร้อมหรือยัง" เป็งหยุดถาม ใบหน้าแดงก่ำจากความต้องการอยู่ห่างแค่คืบ ผมไม่เคยเห็นสีหน้าแบบนี้ของเป็งเลย

ผมพยักหน้าตอบรับอย่างช้าๆ เดาว่าหน้าผมคงแดงก่ำด้วยความต้องการไม่ต่างกัน

"ไม่กลัวนะ" เป็งถามย้ำ

ผมดึงใบหน้าของเป็งลงมาจูบแทนการตอบคำถาม ความต้องการแผ่ซ่านไปทั่วทุกขุมขนแล้ว เราแลกลิ้น ดูดดึงและขบกัดริมฝีปากกันเบาๆ อย่างเพลิดเพลิน เป็งเก่งขึ้นจนผมยอมแพ้เลย

ไม่รู้ว่าเสื้อผ้าของเราหลุดไปตั้งแต่ตอนไหน รู้ตัวอีกทีก็มีลิ้นอุ่นวนๆ เลียๆ อยู่บนปุ่มบนหน้าอกผม ส่วนมืออีกข้างของเป็งไม่ปล่อยให้ว่าง เขี่ยเจ้าเม็ดที่เหลือเล่นไปด้วย ผมครางเสียวจนตัวงอ เคยได้ยินเพื่อนผู้ชายบอกสมัยเรียนเหมือนกันว่ามันเสียวมาก ผมเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่ามากแค่ไหน

ผมร้องครางเสียงหลงจนเป็งต้องเอามือปิดปากผมไว้ เราขำกันเบาๆ ก่อนเป็งจะก้มลงไปจัดการต่อ มือไม้ของผมควานหาส่วนนั้นของเป็งบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าผมเอาเปรียบที่มีความสุขอยู่คนเดียว ผมรูดมันขึ้นลงอย่างช้าๆ บางจังหวะขยับเร็วๆ อย่างมันมือจนเป็งครางชอบใจใหญ่เลย

ช่วงสำคัญใกล้เข้ามาแล้ว เป็งลุกขึ้นนั่งและเอาส่วนนั้นมาจ่อใกล้ปากผม น้ำใสซึมย้อยหยดเป็นทาง ผมครุ่นคิดเพียงครู่เดียวจึงตัดสินใจกลืนกันมันลงไปอย่างหิวกระหาย เป็งเผลอร้องครางหน้าเหยเก ช่วงแรกๆ ปล่อยให้ผมคุมจังหวะเข้าออกคนเดียว แต่สักพักกลับจับหัวผมโยกตามจังหวะที่ต้องการ เมื่อเป็งพอใจจึงโน้มตัวลงไปหาส่วนนั้นของผมบ้าง แม้ไม่บอกผมก็รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น

เราอยู่ในท่ากลับหัวกลับหางและป้อนความสุขให้แก่กันอย่างเมามันจนเผลอหยุดครางเป็นระยะๆ เป็งคงศึกษามาถึงทำได้ดีขนาดนี้ ผมเองยังนึกไม่ออกเลยว่าผู้ชายกับผู้ชายจะทำอะไรกันได้บ้าง แต่บทเรียนสอนรักที่แปลกใหม่คราวนี้คือประสบการณ์ที่ผมจะเอามาใช้คืนให้เป็งอย่างแน่นอน ของแบบนี้เรียนครั้งเดียวทำเป็นตลอดชีวิต แถมยังคุ้มสุดๆ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าเรียนสักบาท

เชื่อไหมครับว่าเป็งเตรียมอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นไว้พร้อมหมดแล้ว ทั้งเจล ทั้งถุงยางอนามัย แต่พอมันชำแรกแทรกซึมเข้ามาได้หน่อยเท่านั้น ผมกลับน้ำตาเล็ดด้วยความเจ็บจนต้องใช้มือยันไว้ เป็งพยายามจูบเล้าโลมแต่ผมยังรู้สึกเจ็บมากอยู่ดี จนในที่สุดผมจึงไม่สามารถทนมันได้อีกต่อไป ความรู้สึกที่ค่อยเก็บสะสมจนเกือบถึงจุดสูงสุดหายไปแทบหมดสิ้น เจ็บจนเกือบหมดสนุกเลยทีเดียว

"คุณเป็ง ผมเจ็บจริงๆ ครับ เอาไว้คราวหลังดีกว่า"

สีหน้าเจ็บปวดของผมคงบ่งบอกได้ดีอยู่แล้วว่าผมเจ็บจริงๆ ไม่ได้แกล้งเจ็บเล่นๆ เป็งพยักหน้ารับรู้อย่างสียดาย แต่ไม่เป็นไรหรอก ผมว่าเรายังมีวิธีอื่นอีกมากมายที่จะไปถึงสวรรค์

เราสองคนช่วยกันใช้ทั้งมือและปากหลังจากนั้น มีความสามารถเท่าไหร่ใส่กันมาแบบไม่ยั้ง ผมไปถึงสวรรค์ก่อนด้วยชิวหาพาพลินของเป็ง น้ำขาวขุ่นถูกกลืนหายไปโดยไม่รังเกียจ ก่อนที่เป็งจะปิดท้ายด้วยการอาศัยช่องหนีบตรงหว่างขาของผมพาไปจนถึงสรวงสวรรค์

เป็งอุ้มผมไปล้างตัวในห้องน้ำ แต่แทนที่จะได้กลับมานอน อารมณ์สวาทของเรากลับคุขึ้นอีก ห้องน้ำจึงกลายเป็นวิมานสุขาวดีชั่วคราว เราขึ้นสวรรค์กันอีกคนละรอบโดยไม่รุกล้ำกันเช่นเคย

ส่วนเรื่องนั้น เอาเป็นว่า ผมขอติดเป็นการบ้านไว้ก่อนนะคุณเป็ง รับรองว่าไม่นานเกินรอ

(http://bit.ly/1mSYzme)

ไม่รู้ว่าเป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีที่ผมได้นอนตื่นสายเกือบเก้าโมง แม้ไม่ถึงกับเต็มอิ่มแต่ก็สบายมาก พอนึกได้ว่าเมื่อคืนผมกับเป็งข้ามผ่านอะไรมาด้วยกันก็นอนยิ้ม เผลอๆ คงจะหน้าแดงไปด้วย หน้าแดงทั้งๆ ที่ไม่มีใครอยู่ตรงนี้สักคน เป็งคงอยู่ในห้องน้ำหรือไม่ก็ไปทำอะไรสักอย่าง ผมกำลังจะลุกขึ้นอยู่แล้วเชียว หนุ่มตี๋ในชุดเสื้อคลุมเดินเข้ามาในห้องนอนแล้วร้องห้าม

"อย่าเพิ่งลุกๆ"

ผมจึงนอนต่ออย่างงงๆ เป็งวิ่งหายไปแล้วกลับมาพร้อมโทรศัพท์มือถือของตัวเอง

"เวลาคานินหัวยุ่งๆ เซ็กซี่ดี ผมขอถ่ายรูปไว้ดูหน่อยนะ"

เป็งย่อตัวลงข้างเตียงแล้วยกโทรศัพท์ขึ้นมาเตรียมถ่าย ผมนอนคว่ำแล้วเงยหน้าสู้กล้อง ยิ้มทั้งที่ยังง่วง เป็งเอามือมายีหัวผมเล่นเบาๆ เจ้าตัวยิ้มและหัวเราะเบาๆ ชอบใจ ก่อนถ่ายเอามือลูบๆ จัดทรงผมให้ใหม่

เป็งถ่ายไปสองสามรูปแล้วกระโดดขึ้นมาบนเตียงกับผม สอดตัวเข้าใต้ผ่าห่มอย่างเร็วไว เรานอนคว่ำหน้าคู่กัน เอาหัวชิดกันแล้วถ่ายรูปเซลฟี่ของเราสองคน ถ่ายได้สามสี่รูปจึงหยุด จากนั้นจึงเลื่อนดู ดูไป วิจารณ์ไป หัวเราะไป มีความสุขจนเพิ่งนึกได้ว่าไม่เคยมีความสุขอย่างนี้นานแล้ว

"เห็นไหม บอกแล้วว่าคานินดูเซ็กซี่มากเลยเวลาง่วงนอน"

"จริงเหรอครับ แสดงว่าต่อไปถ้าผมจะถ่ายรูป ผมควรจะถ่ายตอนตื่นนอนใช่ไหครับ"

"อื้ม แต่คานินต้องให้ผมถ่ายรูปให้คานินคนเดียวนะ ห้ามคนอื่นถ่าย"

ผมหันไปยิ้มกับเป็งแล้วพยักหน้า ก่อนจะยิ้มมีเลศนัยบ้าง "เมื่อคืน...เก่งนะครับ ทำไมดูเก่งขึ้นล่ะครับ"

เป็งหันหน้าหนี ยิ้มอายๆ แล้วเลื่อนดูรูปแก้เก้อ "นี่ๆ...คานินดูรูปนี้สิ เขี้ยวคานินสวยมากเลย ผมชอบ"

ผมพยายามจ้องหน้าแต่เป็งยังทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ไม่น่าเชื่อว่าอายเป็นด้วย

"อ่านจากเว็บมา...หรือว่าดูจากหนังมาครับ ต้องดูจากหนังแน่ๆ เลย" ผมถามต่อโดยไม่สนใจดูรูปที่เจ้าตัวภูมิใจนำเสนอ

คราวนี้เป็งคนจะทนความเขินไม่ไหว วางโทรศัพท์ลงแล้วจับผมพลิกตัวนอนหงาย ก่อนจะโถมตัวลงมาซบลงตรงอกผมหนีหน้า เจ้าตัวคงยอมรับแต่ไม่กล้าพูดตรงๆ ผมจึงไม่เซ้าซี้ถามอีก

ถ้าผมไม่ยอมมีความสัมพันธ์ด้วยเมื่อคืนเป็งคงเซ็งแย่เลย อุตส่าห์ไปหาดูและฝึกซ้อมมาเป็นอย่างดี กะว่าจะ เอามาใช้ให้ประทับใจจนลืมไม่ลงซะหน่อย แต่ผมดันทำเป็นไม่สนใจจนเจ้าตัวงอนไปเลย

เป็งสอดมือกอดผมอย่างอ่อนโยน ใบหน้าที่ซุกไซร์ด้วยความเขินตรงอกผมทำให้ผมรู้สึกดีเหลือเกิน สัมผัสที่อ่อนโยนนั้นช่างเต็มไปด้วยความรัก สัญชาตญาณบอกผมว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนที่รักใครรักจริง ถ้ารักแล้วคงจะรักมากๆ ด้วย น่าจะเป็นอย่างนั้น ไม่งั้นคงไม่ทนเป็นโสดรอคนในฝันมานานถึงสิบปี

"คุณเป็งเขินเหรอ ผมชอบจริงๆ นะเมื่อคืน"

ผมกอดเป็งตอบเบาๆ แล้วก็ลูบผมดำขลับเล่น สัมพันธ์ทางกายเมื่อคืนทลายกำแพงที่อาจมีหายสิ้น แม้ยังไปไม่ถึงที่สุดของเรา แต่ผมกับเป็งแทบไม่เหลือช่องว่างยามอยู่ใกล้ชิดกันเลยในเวลานี้

"ผมมีความสุขมากนะคานิน คานินมีความสุขหรือเปล่า" เป็งเอียงหน้าขึ้นมาถาม

ผมงงเล็กน้อย บทจะหายเขินก็หายกันดื้อๆ ไม่มีปี่มีขลุ่ย "มีสิครับคุณเป็ง มีความสุขมากๆ ด้วย" ไม่ใช่แค่ตอบเอาใจเท่านั้น แต่ผมรู้สึกอย่างที่พูดจริงๆ
"ผมดีใจนะที่คานินมีความสุขนะ ผมอยากให้เราสองคนมีความสุขด้วยกันอย่างนี้ไปนานๆ ดีไหม"

ผมพยักหน้าตอบรับ เป็งยิ้มละไมแล้วซบลงบนอกผมตามเดิม สักพักจึงเงยหน้ามาคุยด้วยอีก

"ผมทำอาหารเช้าเสร็จแล้วนะ...ไข่เบเนดิก ไม่รู้ว่าเคยกินหรือเปล่า อร่อยนะ ทำง่ายด้วย"

ผมกอดเป็งแน่นขึ้นอีกนิดอย่างรักใคร่ ดูแลผมดีอย่างนี้ เอาหัวใจผมไปหมดเลยละกัน "คุณเป็งน่ารักจัง ทำอาหารให้ผมกินด้วย ประทับใจสุดๆ เลย"
เป็งยิ้มตาหยีแล้วเขยิบตัวออก ใช้ศอกยันกายไว้ ยิ้มให้ผมด้วยสายตากรุ้มกริ่ม "ผมว่าคานินต้องติดใจแน่ๆ ถ้าได้กิน มันบำรุงกำลังดีนะ แต่ผมว่าคานินคงอิ่มตั้งแต่เมื่อคืนแล้วล่ะ"

ผมนอนเท้าคางมองไปทางเป็งบ้าง ขมวดคิ้วสงสัยและถามอย่างพาซื่อ "อิ่มอะไรเหรอครับ"

เป็งทำท่ากลั้นหัวเราะ คงต้องมีอะไรบางอย่างที่น่าขำมากแน่ๆ "ก็...อิ่มใส้กรอกไง"

"บ้า!"

เป็งหัวเราะชอบใจใหญ่ ผมไม่รู้จะแก้แค้นคืนยังไงจึงลุกขึ้นนั่งแล้วเอาหมอนตีคนที่นอนอยู่ เป็งยกมือปัดป้องเป็นพัลวัน เสียงหัวเราะดังไปทั่วห้อง แต่สุดท้ายผมกลับเสียท่าจนได้ เป็งจับหมอนผมได้แล้วเหวี่ยงลงไปที่ปลายเตียง คว้าตัวผมลงไปกอดทับตัวเป็งไว้ เป็งเลื่อนตัวลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียง พอถนัดจึงดึงผมเข้าไปนั่งตรงหว่างขา ให้ผมหันหลังแล้วกอดไว้

ผมเอาหัวทุบลงไปข้างหลังบนอกเป็งเล่นเบาๆ สองสามครั้ง เป็งไม่ว่าอะไร แถมลูบหัวผมเล่นอีก

"ผมหลงคานินแล้วนะเนี่ย คานินมาอยู่กับผมทุกวันได้หรือเปล่า ไม่งั้นผมคลั่งแน่เลย"

"ขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณเป็ง" ผมขำเบาๆ

"ใช่น่ะสิ ขนาดนั้นเลย"

"แต่ผมมีภาระต้องดูแลไง ถ้าเกิดแนนกลับบ้านไปอยู่กับพ่อแม่ ค่อยว่ากันอีกทีได้ไหมครับ"

เป็งพยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงยอมรับ ผมรับรู้ได้จากการสั่นไหวหงึกๆ ข้างหลัง "แล้วคานินล่ะ หลงผมหรือเปล่า"

ดูถามเข้าสิ ผมตะลึงจนต้องหันไปมองคนถามเลยทีเดียว "แล้วคิดว่าหลงหรือเปล่าล่ะ" ผมถามแทนที่จะตอบ

เป็งหัวเราะเบาๆ คนอะไรทำอะไรก็มีเสน่ห์ไปหมด ผมชอบทุกอย่างบนใบหน้าของเป็ง ไม่ว่าจะเป็นรูปหน้า คิ้วหนาๆ ตาคมๆ จมูกโด่งๆ ปากบางมีรอยหยักชัด และสายตาแบบนี้

"ผมไม่ใช่คนหลงตัวเองนะ แต่ถ้าใครลองรักผมเข้า ผมเชื่อว่าหลงผมโงหัวไม่ขึ้นแน่ๆ ผมน่ารักใช่ไหมล่ะคานิน ใช่ป่าว หลงผมเข้าให้แล้วใช่ไหมล่ะ"


ผมแทบกลั้นหัวเราะคนหลงตัวเองไว้ไม่ไหว แต่ก็จริงของเขานั่นแหละ ผมไม่เถียงหรอก

"ก็คงงั้น แต่ว่า...คุณเป็งอย่าทำให้ผมเสียใจนะ ไม่ใช่พอเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงแล้วก็ทิ้งผมซะล่ะ"

แม้ว่าพูดเล่น แต่ผมกลับทันได้เห็นสายตาวิบไหวคู่นั้นของเป็ง จริงสิ เราไม่เคยคิดเรื่องนี้กันเลย ถ้าเกิดเป็งเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงขึ้นมาล่ะ! เป็งจะทำยังไง!? เป็งจะทิ้งผมหรือเปล่าหนอ?

(http://bit.ly/1VpoldE)

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 24-02-2016 18:27:17
เย้!!! มาแล้วววว เม้นก่อน ค่อยอ่าน 555 :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 24-02-2016 18:47:46
ตั้งแต่เปิดเรื่องจนถึงก่อนตอนนี้ก็ยังคิดว่าเป็งจะเป็นฝ่ายรับมาตลอด...//กุมหน้าผาก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 24-02-2016 18:49:59
อร๊ายยยยย น่ารักอ่ะ เกือบเสร็จ แต่ไม่เสร็จอ่ะ :-[ :-[ :-[

ทำไมเป็งมีลังเลเนี่ย จะมีดราม่ามั้ย  :serius2: :serius2: :serius2:

รอตอนต่อไปคร้าบบบบบ :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 24-02-2016 19:04:03
เป็งพาเขามาเผด็จศึกนี่เอง ๕๕๕ หึงล่ะเส้ ๕๕๕ ชอบคับ ชอบสถานการณ์แบบนี้จังเลย
  รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 24-02-2016 19:37:43
เม้น2ตอนรวดเลยนะ
อะไรเป็ง จะก้าวไปไหน กลับมาบอกคนอ่านก๊อนนนนน
......................................
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-02-2016 19:56:50
 :L2: :pig4:

อยากอ่านมากกกกก แต่เลิกงานดึกกกกกก อ้าาาา
 :ling2: :ling1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 24-02-2016 22:53:29
 :katai1:

เมื่อรอบที่แล้วทิ้งท้ายให้เราลุ้นบินไปฟินแลนด์
รอบนี้คุณ เอาระเบิดมาหย่อนไว้ให้จิตตก
ศรีจะไม่ยอมมมมมมม :ling1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-02-2016 23:11:35
 :z1: ในที่สุดทั้งสองก้อทลายกำแพงระหว่างกันแล้ว มีความสุขกันชื่นมื่นเชียว มาตายตอนจบ  :m16: เปิดประเด็นให้คิดน่ะเนี่ย เพราะ เป็งมาปิ๊งคานินตรงเขี้ยวเนี่ย มันดูอ่อนไปน่ะ  :เฮ้อ: ฉะนั้นมันจะเชื่อมั่นได้ไงถ้าวันนึงเกิดเป็งไปเจอผู้หญิงมีเขี้ยวล่ะจะปิ๊งแบบคานินไหม มันน่าคิดน่ะเนี่ย  :monkeysad: ต้องรอพิสูจน์กันต่อไป หนทางยังเพิ่งเริ่มต้น ยังมีระยะทางอีกยาวไกลให้คนทั้งคู่ต้องเดินข้ามหรือเดินจาก  :call:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-02-2016 23:38:26
อ่านหวานๆ วิ้งๆ มาตลอดทั้งตอน
มาพากังวลไปกับคานินตรงคำถามสุดท้ายนี่แหล่ะ

ชอบประโยคนี้มากเลย
อ้างถึง
แต่บทเรียนสอนรักที่แปลกใหม่คราวนี้คือประสบการณ์ที่ผมจะเอามาใช้คืนให้เป็งแน่นอน
ของแบบนี้เรียนครั้งเดียวก็ทำเป็นตลอดชีวิต แถมยังคุ้มสุดๆ เพราะไม่ต้องจ่ายค่าเรียนสักบาท
โดยเฉพาะท่อนนี้ยิ่งชอบ
อ้างถึง
ของแบบนี้เรียนครั้งเดียวก็ทำเป็นตลอดชีวิต
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 25-02-2016 03:05:03
ยังอุตส่าห์ทิ้งปมเรื่องสาวมีเขี้ยวตัวจริงไว้อีกแหนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 25-02-2016 03:17:17
จะดราม่าไหมครับเนี่ย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-02-2016 07:34:56
คุณเป็งได้โปรดอย่าทำให้คานินต้องเจ็บเลย แต่คิดอีกแบบ เราว่าก็ดีเหมือนกันที่คานินพูดออกมาแบบนี้ คุณเป็งจะได้สำรวจตัวเองอีกที ว่าจะจริงใจและจริงจังกับคานินจริงๆ หรือเปล่า ถ้าเกิดจะมีเหตุการ์แบบนั้นเกิดขึ้น คานินจะได้เผื่อใจไว้บ้าง แต่เราหวังว่าจะไม่มีดราม่ามากเกินไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-02-2016 08:48:29
เป็งห้ามโลเลนะ เจอสาวมีเขี้ยวแล้วทิ้งคานินล่ะน่าดู :m16:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: sanri ที่ 27-02-2016 10:39:37
ขอให้เป็งกะคานินหวานกันไปนานๆแบบนี้น๊า อย่ามาม่าเยย  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 27-02-2016 10:51:10
ถ้าทิ้งนินนะเป็ง เจอ BOOM แน่ๆ
แม่ยกคานินเพียบนะเฟ้ย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 27-02-2016 12:01:49
รอ รอ รอ มากดดัน(ประจำ 5555) คึคึ :z13: :z13: :z13:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: imvodka ที่ 27-02-2016 12:35:19
นึกว่าเป็งเป็นรับ  :hao3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 27-02-2016 15:21:03
ลุ้นมากแต่มาตกม้าตายตรงที่เป็งต้องหยุดชะงัก..รอลุ้นในตอนต่อไปใช่มั้ยคะ ... :ling1:..(ไม่ค่อยเร่งให้นายเอกเสียตัวเท่าเลยนะเรา...สายหื่น)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-02-2016 17:04:12
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-02-2016 18:51:27
รอ รอ รอ มากดดัน(ประจำ 5555) คึคึ :z13: :z13: :z13:

55555 คนเขียนก็เอ้อระเหยตามเคย ไม่ช่ายยยยยย มีงานครับ อิๆ
ขอยกยอดเป็นวันจันทร์นะครับ ได้อ่านแน่นอน
มาดูกันว่าเมื่อสาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริงเสียงจริงโผล่มาเสียที
เป็งจะมีปฏิกิริยายังไง
แค่คิดก็ตื่นเต้นแทนแล้วววววววว
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ ⓟ8 ▦ MONDAY
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-02-2016 19:02:40
นี่รอเตรียมระเบิดไว้ทิ้งบอมบ์ใส่เป็งทันทีเลยนะ ถ้านอกใจคานินไปหาสาวมีเขี้ยวล่ะก็น่าดู :m16:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ ⓟ8 ▦ MONDAY
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-02-2016 19:07:29
ถ้าเป็งโลเลนะ
จะยุให้คานิน...
คิดก่อนนะ 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №10 งอนนักจัดหนักซะเลย-NCⓟ8 ▦24.2.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 27-02-2016 19:50:30
รอ รอ รอ มากดดัน(ประจำ 5555) คึคึ :z13: :z13: :z13:

55555 คนเขียนก็เอ้อระเหยตามเคย ไม่ช่ายยยยยย มีงานครับ อิๆ
ขอยกยอดเป็นวันจันทร์นะครับ ได้อ่านแน่นอน
มาดูกันว่าเมื่อสาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริงเสียงจริงโผล่มาเสียที
เป็งจะมีปฏิกิริยายังไง
แค่คิดก็ตื่นเต้นแทนแล้วววววววว

อ้ากกกก  มาขยี้อารมณ์ให้อยากอ่านเข้าไปอีก ขอแบบยาวๆเลยนะ 555 :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ ⓟ8 ▦ MONDAY
เริ่มหัวข้อโดย: pepperpro ที่ 27-02-2016 21:35:07
ตอนต่อไปจะมาแล้วใช่ไหมครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 29-02-2016 20:19:04
 :katai5:

มารอคานิน วันนี้จะมาใช่ไหมมมมม
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 29-02-2016 20:28:51
หายป่วยเร็วๆนะ
ลุ้นจนตัวโก่งแล้วเนี่ย

ถ้าเป็งจำสาวเขี้ยวตัวจริงได้
ก็แสดงว่าเป็งยังฝังใจอยู่มากเลย
แล้วคานินของฉันจะทำไงล่ะทีนี้
ต้มน้ำรอคนเขียนหายป่วยดีกว่า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 29-02-2016 20:37:56
โอ้ม่ายน้าาาาาาาา :serius2: :serius2: :serius2:

หายป่วยไวๆเน้อ :call: :call: :call:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 29-02-2016 23:42:49
หายไวๆนะคนเขียน สู้ๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 01-03-2016 20:10:54
หายไว ๆ น่ะจ้ะ เราไม่รีบน่ะจ้ะ เพราะช่วงนี้ก้อยุ่ง ๆ เหมือนกัน ไม่ค่อยมีเวลาเข้ามาในเล้าเท่าไหร่  :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 02-03-2016 01:11:20
ไม่ได้มาอ่านนาน แต่ไม่ลืมนะ ว่างมาอ่านยามดึก บรรยากาศเงียบมาก อินกับตัวละครมากๆ


เริ่มพัฒนามาไกลละนะ ถึงขั้นมีอะไรกัน ทั้งคู่ต้องจริงจังแน่ๆ
อย่างน้อยก็คานินที่เปิดใจรับเป็งขนาดนี้
ถ้าเกิดเป็งเจอสาวเขี้ยวจริงๆ จะทำให้เปลี่ยนใจไหม ตรงนี้น่าลุ้น
แต่อย่าเพิ่งเจอในเร็ววันนะ ต้องสร้างความผูกพันลึกๆก่อน





และผมขอดราม่าๆๆๆๆ หนักๆๆ 5555+ 


ปล.  หายไวๆนะครับพี่วัต
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 03-03-2016 17:09:21
งือออออ ถ้ายังไม่มาจะร้องแล้วนะ  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 03-03-2016 21:28:50
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 03-03-2016 22:25:32
ฮือๆ เป็นไข้หวัดใหญ่น่ะครับ ทั้งไอ ทั้งน้ำมูก ทั้งปวดเมื่อย
คาดว่าอีกสองสามวันจะหายครับ ตอนนี้พยายามพักผ่อนอย่างเต็มที่เลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-03-2016 23:02:07
ฮือๆ เป็นไข้หวัดใหญ่น่ะครับ ทั้งไอ ทั้งน้ำมูก ทั้งปวดเมื่อย
คาดว่าอีกสองสามวันจะหายครับ ตอนนี้พยายามพักผ่อนอย่างเต็มที่เลย

พักผ่อนเยอะๆนะคะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 03-03-2016 23:12:59
ฮือๆ เป็นไข้หวัดใหญ่น่ะครับ ทั้งไอ ทั้งน้ำมูก ทั้งปวดเมื่อย
คาดว่าอีกสองสามวันจะหายครับ ตอนนี้พยายามพักผ่อนอย่างเต็มที่เลย

นึกว่าเป็นเบาๆ เป็นหนักเชียว พักผ่อนมากๆ หายเร็วๆนะคร้าบบบ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: nongrak ที่ 05-03-2016 21:30:35
มาอ่านตามที่แนะนำ น่ารักมาก ชอบเป็งจัง

ขอให้หายป่วยเร็วๆ นะ พักผ่อนมากๆค่ะ
+1จ้า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 06-03-2016 02:15:54
นึกว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา

เป็นหนักนะนี่พี่ หายไวๆนะ พักผ่อนเยอะๆ กินผลไม้เยอะๆ
จำได้ตอนผมเป็นไข้อยากกินแต่ส้มกับแตงโม  555+

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 10-03-2016 13:08:04
 :L2:

หายไวไว ดูแลตัวเองนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 10-03-2016 19:21:44
 :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 ฮือๆ เปื่อยครับ เก๊าก๋อโต๊ดน้า
เริ่มหัวข้อโดย: zuu_zaa ที่ 10-03-2016 20:54:03
 o13
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 กำลังจะหายดีแล้วววววว
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 11-03-2016 19:30:08
ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอนานนะครับ ผมกำลังจะหายดีแล้ว เป็นไข้หวัด 2009 (H1N1)
แทบแย่เลยครับ ดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่งั้นคงนานกว่านี้
ตอนนี้ไข้ลดแล้ว ไอนิดหน่อย เสมหะเริ่มน้อยลงไปมากแล้ว แต่ยังต้องกินยาอยู่ กินแล้วจะง่วงๆ
พอยาหมดก็น่าจะเขียนนิยายได้แล้วครับ น่าจะอีกสองสามวันนี้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่รอนะครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 กำลังจะหายดีแล้วววววว
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 11-03-2016 23:19:56
ขอโทษที่ทำให้ทุกคนต้องรอนานนะครับ ผมกำลังจะหายดีแล้ว เป็นไข้หวัด 2009 (H1N1)
แทบแย่เลยครับ ดีที่ไม่มีอาการแทรกซ้อน ไม่งั้นคงนานกว่านี้
ตอนนี้ไข้ลดแล้ว ไอนิดหน่อย เสมหะเริ่มน้อยลงไปมากแล้ว แต่ยังต้องกินยาอยู่ กินแล้วจะง่วงๆ
พอยาหมดก็น่าจะเขียนนิยายได้แล้วครับ น่าจะอีกสองสามวันนี้ครับ

ขอบคุณทุกคนที่รอนะครับ

หายป่วยไวๆนะครับ ว่าแล้วก็น่ากลัวจัง ปีนี้ไม่ได้ฉีดวัคซีนป้องกันเลย :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 3.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 16-03-2016 21:52:54
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง


(http://bit.ly/1RX8ogL)

คานิน...

ถ้าสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือการเข้าใจผิด ก็นับว่าสัญชาตญาณของผมคงทำงานผิดพลาดมาก
ผมรู้สึกได้ว่าภูริชแสดงความสนใจแนนจนผู้ชายอย่างผมที่เคยมีแฟนและจีบหญิงมาแล้วดูออก
แม้จะไม่ดูหวือหวาและมีท่าทางระมัดระวัง แต่ผมก็พอสังเกตเห็นแววตาที่ไม่ธรรมดาของภูริชได้

ผมกับเป็งจึงปล่อยให้หนุ่มสาวสองคนเข็นรถเข็นเด็กและเดินพูดคุยกันตามลำพังสองคนกันไป
แม้ว่าผมจะกลัวแนนเจ็บอีกครั้ง แต่ผมก็คิดเสมอว่าแนนคงอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ได้นานหรอก
อย่างน้อยๆ การที่แนนมีใครสักคนอาจทำให้เจ้าแฟนเก่าของแนนเลิกคิดที่จะตอแย
แม้ว่าผมไม่อยากกะเกณฑ์เรื่องความรักของน้องสาว แต่ผมก็ยอมรับผู้ชายคนนั้นไม่ได้เลย
ถ้าผมเจอหน้ามันอีกครั้ง ไม่ใครก็ใครคงต้องตายกันไปข้างหนึ่ง

ผมกับเป็งเปลี่ยนจากเดินเล่นมาขี่จักรยานบ้าง ผมเป็นคนปั่น เป็งซ้อนท้ายเพราะขี่ไม่เป็น
นอกจากกลัวจิ้งจกสุดๆ แล้วยังขี่จักรยานไม่เป็นอีกต่างหาก คนอะไรมีมุมตลกๆ เยอะจัง

สวนรถไฟวันนี้มีคนค่อนข้างบางตาไปหน่อย แต่ก็ดีแล้วที่จะได้พักผ่อนสงบๆ อย่างนี้
ตอนแรกกะว่าจะพากันไปเที่ยวห้าง แต่แนนก็มาเปลี่ยนใจเอานาทีสุดท้ายว่าอยากมาสวนรถไฟ
ผมว่าเป็นการเลือกที่ไม่เลวเลยเพราะทำให้เราได้มาสูดอากาศบริสุทธิ์และเห็นที่โล่งกว้าง
แต่ก็กะว่าจะไปหาอะไรกินที่ห้างตอนเที่ยงๆ ถ้าวินไม่งอแงเกินไปก็จะดูหนังสักเรื่องตอนบ่ายๆ

"คุณภูริชนี่เขามีแฟนหรือยังครับ" ผมเอ่ยถามขึ้นเมื่อปั่นออกมาค่อนข้างไกลจากสองคนนั้นแล้ว

"ตอนนี้ยังไม่มี" เป็งตอบแล้วก็ซบหน้าลงที่หลังผมเบาๆ เป็นเชิงหยอกเล่น

ผมถองศอกไปข้างหลังเบาๆ เพราะกลัวคนมอง เป็งไม่ว่าอะไร หัวเราะแล้วก็นั่งตัวตรงอย่างเดิม

"กลัวเขาจะจีบแนนเหรอ" เป็งถามอย่างรู้ทัน

"อืม" ผมยอมรับตามตรง "น้องสาวผมไม่ใช่คนตัวเปล่าเล่าเปลือยแล้ว ผู้ชายที่ไหนจะจริงใจด้วย"

"ไอ้ภูเนี่ยมันเป็นคนที่มีความคิดเป็นผู้ใหญ่เกินตัวนะคานิน แล้วมันก็เป็นคนจิตใจดี ใจดีมากไปด้วยซ้ำ
แล้วที่สำคัญนะ มันก็รักเด็กด้วย ไม่เห็นมันเล่นกับวินเมื่อกี้เหรอ เล่นยังกะเป็นลูกของมันเองเลย
อ้อ...อีกอย่างนะ ผู้หญิงรูปร่างหน้าตาอย่างแนนน่ะ สเป็คมันเลยล่ะ"

ข้อมูลที่เป็งบอกทำให้ผมยิ่งเชื่อมั่นในสิ่งที่เพิ่งเห็นมากขึ้น แต่ก็ไม่รู้ว่าจะดีใจหรือกังวลใจดี

"คุณภูริชเขาเป็นคนดีใช่ไหมครับ"

"แล้วคานินคิดว่าไงล่ะ เจอครั้งแรกแล้วรู้สึกว่าภูริชเป็นคนยังไง"

ผมไม่ตอบคำถามแต่ค่อยๆ ชลอรถจักรยานเมื่อปั่นมาถึงบริเวณสระน้ำทางด้านหลังสวน
มีม้านั่งอยู่สองสามจุดที่พอจะแวะนั่งคุยกันและชมนกชมไม้ด้วยได้ ที่สำคัญ ว่างอยู่พอดี
ผมกับเป็งเดินมานั่งคู่กันที่ม้านั่งริมน้ำตัวหนึ่ง ลมเย็นสบายจนผมต้องเผลอสูดลมหายใจลึกๆ สักรอบ

"คนเราเดี๋ยวนี้ดูยากนะครับ รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ ผมก็เลยไม่อยากเดา แต่ถ้าจะต้องตอบคำถามเมื่อกี้
ผมว่าเขาก็ดูเป็นคนใช้ได้นะครับ ไม่แสดงท่าทางรังเกียจเดียดฉันท์ที่เห็นแนนมีลูกติด
แถมยังเล่นกับเด็กอย่างไม่ถือตัวอีก"

เป็งพยักหน้าเข้าใจพร้อมกับยิ้มมุมปาก

"ผมก็เคยคิดว่าผมรู้จักเพื่อนผมดีนะ แต่ว่า...ตั้งแต่รู้กันมา ผมก็เพิ่งเห็นไอ้ภูสนใจผู้หญิงมีลูกติดนี่แหละ
แต่คานินไม่ต้องห่วงนะ ยังไงๆ ผมก็ไม่ปล่อยให้เพื่อนผมทำอะไรไม่ดีไม่งามกับแนนแน่ๆ"

พอได้ยินอย่างนั้นผมจึงค่อยสบายใจขึ้นมาได้หน่อย อย่างน้อยเป็งก็น่าจะรู้จักเพื่อนของตัวเองดี
ถ้าหากเป็นคนที่ไว้ใจไม่ได้ก็คงไม่คบกันมาได้นานขนาดนี้

"ครับ ยังไงๆ ผมก็ฝากช่วยดูให้ผมหน่อยละกัน ผมไม่อยากให้น้องสาวผมต้องผิดพลาดอีก"

เป็งพยักหน้าและยิ้มกว้าง "ยินดีครับ น้องสาวของคานินก็เหมือนน้องสาวของผมแหละ
ไอ้ภูมันก็เป็นเพื่อนผม กินนอนด้วยกันมาตั้งหลายปี ช่วยเหลือกันมาตั้งหลายเรื่องจนนับไม่ถ้วน
ถ้ามันไม่ใช่คนที่ไว้ใจได้ ผมไม่ให้มันเข้าใกล้แนนหรอก คานินไม่ต้องห่วงนะ มีผมอยู่ทั้งคน"

เป็งเอื้อมมือมาโอบไหล่ผมไว้พร้อมกับเขย่าเล่นเบาๆ เราสบสายตากันสักครู่ ส่งผ่านความรู้สึกดีๆ ให้กัน
แต่ไม่นานเท่าไหร่เป็งก็ปล่อยมือลง

"คุยเรื่องของคนอื่นแล้ว แล้วเรื่องของเราล่ะคานิน"

ผมเลิกคิ้วมองอย่างสงสัย จะว่าไม่เข้าใจคำถามก็คงไม่ใช่ "ทำไมเหรอครับ"

"อ้าว คนเราน่ะ...ถ้าชอบกัน รักกัน ก็ต้องอยากอยู่ด้วยกัน ใช่ไหม"

"แต่เราเพิ่งรู้จักกันนะครับคุณเป็ง ผมยังไม่คิดไปไกลขนาดนั้นหรอก ดูใจกันไปสักพักก่อนดีกว่า"

"ก็ไม่มีปัญหาหรอก หัวใจน่ะต้องดูอยู่แล้ว" พูดแล้วเป็งก็เอานิ้วมาจิ้มหัวใจผม ก่อนจะหัวเราะชอบใจเบาๆ

"แต่ผมว่า...เรามองไปไกลๆ หน่อยก็ดีนะ ไม่ต้องไกลมากหรอก อีกซักปีสองปีก็ได้ ที่ผมคิดไว้นะ...
ผมอยากให้คานินมาอยู่กับผม มาช่วยกันทำธุรกิจ ผมยังนึกไม่ออกว่าจะทำอะไรนะ แต่ต้องมีสักธุรกิจ
ผมคุยกับที่บ้านแล้วนะ เตี่ยผมโอเคเลยถ้าผมจะมีแฟน...แบบคานิน ขอแค่ช่วยกันทำมาหากินก็พอ
คานินเคยได้ยินไหม...ผัวหาบ เมียคอน แบบนั้นแหละ"

"จะชวนผมไปเผาถ่านขายเหรอครับถึงต้องหาบต้องคอน" ผมแซวเล่นอย่างอารมณ์ดี

"เปล่า แค่ยกตัวอย่างเฉยๆ คานินจะได้เห็นภาพไง"

"ภาพชัดมากเลยครับ"

ผมกับเป็งหัวเราะพร้อมกัน เราสองคนแหงนมองดูท้องฟ้าใสและใช้ความคิดกับตัวเองสักพัก
แต่อีกเพียงครู่เดียวเราก็หันหน้ามาหากันอีกครั้ง

"คานินมีความสุขหรือเปล่าที่อยู่กับผม ผมมีความสุขที่อยู่กับคานินนะ"

สีหน้าจริงจังของเป็งทำให้ผมค่อยๆ หุบยิ้มและทำหน้าจริงจังบ้าง ตอนตื่นนอนเป็งก็ถามคำถามนี้
ผมยิ้มบางๆ แล้วก็พยักหน้าให้เป็งแทนคำตอบ เจ้าตัวยิ้มอย่างโล่งอกที่ผมไม่ตอบเป็นอย่างอื่น

"แล้ว...อยากมาอยู่กับผมไหมล่ะ"

ผมมองเป็งอย่างใช้ความคิด สีหน้าที่จริงจังของเป็งทำให้ผมรู้ว่าผมไม่ควรจะตอบเล่นๆ

"ขอโทษที ผมก็ลืมไป เราต้องศึกษาดูใจกันก่อนเนอะ" เป็งขำตัวเองเมื่อนึกขึ้นมาได้

"แต่...ผมก็อยากให้คานินรู้ไว้นะว่าผมน่ะ...กำลังเตรียมทุกอย่างไว้สำหรับเราสองคน
ผมคุยกับที่บ้านแล้ว เตี่ยโอเคแล้ว ส่วนคนอื่นๆ ไม่ยากหรอกเพราะทุกคนฟังเตี่ยผมหมด
เตี่ยบอกผมด้วยนะว่าถ้าเราอยากทำธูรกิจอะไรสักอย่าง เตี่ยก็พร้อมจะลงทุนให้
ผมว่าก็ดีนะ เราจะได้มีอะไรทำเป็นชิ้นเป็นอันไง"

"อ้าว แล้วร้านอาหารของคุณเป็งที่เชียงรายล่ะ" ผมถามอย่างสงสัย

"ก็ให้เฮียดูแลไป ผมอยากอยู่ที่กรุงเทพมากกว่า อยู่จนชินแล้ว เตี่ยก็โอเคนะ เค้าไม่ว่าอะไรผมหรอก
แค่ให้ผมทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน ไม่ใช่ลอยไปลอยมา มีธุรกิจของตัวเอง แค่นี้เตี่ยก็พอใจแล้ว"

"อ้าว แต่ว่าตอนนี้คุณเป็งก็ทำงานอบรมอยู่ไม่ใช่เหรอครับ"

"อ๋อ...สำหรับครอบครัวคนจีนนะ แบบนั้นเขาไม่เรียกธุรกิจหรอก ออกแนวรับจ้างทำงานมากกว่า
แต่ผมก็ชอบนะเพราะว่าทำให้ได้เจอคนเยอะ ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่างจากคนหลายรูปแบบ
แต่พอถึงวันหนึ่ง ผมก็คงหนีไม่พ้นต้องมีธุรกิจที่เป็นธุรกิจจริงๆ สักอย่าง ไม่งั้นเตี่ยไม่ยอมแน่
ก็ไม่เป็นไรหรอก ผมยอมนะ ถ้าทำธุรกิจแล้วเตี่ยยอมให้ผมคบกับคานิน ผมว่ามันก็คุ้มสุดๆ แล้วล่ะ"

ถ้าไม่ติดว่าเป็นที่สาธารณะ ผมคงจะกอดหนุ่มตี๋สุดหล่อแสนดีคนนี้แน่ ก็เลยได้แต่เรียกชื่อไปเบาๆ

"คุณเป็ง..."

"พร้อมเมื่อไหร่ก็บอกผมละกัน ผมน่ะ...พร้อมเสมอ" เป็งยักคิ้วหนึ่งครั้งแล้วก็ยิ้มหวานให้

"คานินอ้าปากนิดนึงดิ"

ผมมองอย่างงงๆ แต่ก็ยอมทำตามแต่โดยดี พออ้าปากแล้วเป็งก็เอาหลังข้อนิ้วชี้มาแตะตรงฟันเขี้ยวผม
ก่อนจะทำท่าสะดุ้งโหยงเล็กน้อยให้ดูพอตลก

"โห...เขี้ยวของคานินคมมาก ใครได้เป็นแฟนแล้วคงไม่กล้านอกใจหรอก เดี๋ยวโดนกัดตาย"

"บ้า ผมไม่ใช่หมาซะหน่อย" ผมว่าพลางเอามือผลักไหล่เป็งเบาๆ

พอหยุดหัวเราะแล้วผมก็นึกถึงเรื่องที่อยากจะปรึกษาเป็งขึ้นมาได้พอดี

"คุณเป็ง จำได้ใช่ไหมครับที่ผมบอกว่าพ่อผมจะขึ้นมาหาผมเดือนหน้า ผมเครียดมากเลย"

"แล้วแนนรู้เรื่องหรือยัง"

ผมส่ายหน้าแทนคำตอบ

"งั้น...คุยกับแนนด้วยดีกว่าไหม แล้ว...คานินอยากให้มันเป็นยังไงล่ะ อยากให้พ่อกับแม่รู้หรือเปล่า"

ผมครุ่นคิดสักพักก็พยักหน้าเป็นเชิงยอมรับ

"ยังไงๆ ก็ต้องรู้แหละครับ แต่ผมก็สงสารแนน ความจริงก็สงสารทุกคนแหละ พ่อกับแม่ก็คงช็อกน่าดู"

"ผมก็ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ของคานินเข้มงวดเรื่องนี้แค่ไหนนะ แต่ถ้ารู้เรื่องขึ้นมาก็คงช็อกนั่นแหละ
แต่ยังไงๆ ผมก็เชื่อว่าพ่อแม่เขารักเรา สุดท้ายเขาก็จะให้อภัย แต่เราต้องผ่านวันที่แย่ที่สุดให้ได้ก่อน
ที่เหลือก็จะง่ายขึ้น เอาเป็นว่า...เราคุยกับแนนด้วยดีกว่า ผมว่าแนนคงคิดไว้บ้างแล้วล่ะ"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย ผมกับแนนเคยคุยกันเรื่องนี้บ่อยๆ ว่าจะบอกความจริงกับพ่อแม่ยังไงดี
แม้ว่าจะไม่ได้คำตอบที่พอใจ ผมก็รู้ว่าเธอคิดหาทางหนีทีไล่ไว้บ้าง คงไม่ถึงกับว่างเปล่า
เพราะยังไงๆ มันก็เป็นชีวิตของแนนที่แนนต้องตัดสินใจเลือกเอง ผมปกป้องน้องตลอดเวลาไม่ได้
ก็อย่างที่เป็งว่าล่ะนะ ผมกับแนนต้องอดทนผ่านช่วงวิกฤติให้ได้เสียก่อน แล้วมันก็จะผ่านไปเอง

(http://bit.ly/1VpoldE)

บรรยากาศในการกินอาหารเที่ยงของเราที่ร้านอาหารชื่อดังในห้างแห่งหนึ่งเป็นไปอย่างราบรื่น
แม้ว่าบางคนเพิ่งจะรู้จักกันได้ไม่ถึงครึ่งวันแต่ทุกคนก็พูดคุยสนิทสนมกันดีเหมือนรู้จักกันมานาน
ผมนั่งฝั่งเดียวกับเป็ง ส่วนแนนกับภูริชนั่งอีกฝั่ง มีรถเข็นเด็กจอดอยู่ข้างๆ โต๊ะที่เรานั่ง
วินนอนหลับไปแล้วจึงทำให้แนนพอมีเวลาพูดคุยและกินข้าวได้อย่างสบายใจมากขึ้น

เป็งเลือกพาเรามาที่ร้านอาหารจีนที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งเพราะแนนเกิดอยากจะลองกิน
ไม่รู้ว่าเป็นเพราะฟังเป็งเล่าเรื่องร้านอาหารจีนที่เชียงรายหรือเปล่า ฟังไปฟังมาก็เลยอยากกินดูบ้าง
เนื่องจากวันนี้เป็นวันของแนน แนนอยากไปไหน อยากกินอะไรเราจึงไม่ขัดใจเธอเลย

"คานินนี่ทำให้เพื่อนผมเปลี่ยนไปเยอะเลยนะครับ" ภูริชหันมาคุยกับผมในช่วงจังหวะหนึ่ง

"เหรอครับ เมื่อก่อนคุณเป็งเขาไม่ใช่แบบนี้เหรอครับ" ผมเลิกคิ้วถามอย่างสงสัย

"ไม่รู้สิ ผมว่าเป็งดูมีความสุขมากขึ้นนะ ยิ้มมากขึ้น ไม่ค่อยเครียดด้วย เมื่อก่อนมันชอบเครียดบ่อยๆ
บางทีก็มานอนบ่นนั่นบ่นนี่ที่คอนโดผมเป็นวันๆ จริงไหมวะไอ้เพื่อนรัก"

ภูริชหันไปทางเพื่อนรักในตอนท้าย พวกเราที่นั่งอยู่ขำเบาๆ ด้วยความชอบใจ
เป็งพยักหน้าแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินข้าวต่อ การไม่ตอบโต้ก็น่าจะแปลว่าเจ้าตัวยอมรับ
ส่วนภูริชก็พูดสืบไป

"แต่ก็พูดตรงๆ นะ ผมนึกไม่ออกจริงๆ ว่าเพื่อนผมมันจะชอบผู้ชาย เห็นมันเพ้อถึงแต่สาวมีเขี้ยว
เพ้อมาเป็นสิบๆ ปีแต่ไม่เห็นเคยเจอสักคน มาเจออีกทีแทนที่จะเป็นสาวมีเขี้ยว ดันเป็นหนุ่มซะงั้น"

ภูริชพูดจบแล้วก็ขำเบาๆ

"แต่กูก็รักจริงนะเว้ยไอ้ภู" เป็งรีบพูดขึ้นมาขัดเพื่อนรักพร้อมกับทำหน้าทะเล้นใส่เพื่อน

"เออ...กูก็ยังไม่ได้บอกว่ามึงไม่รักคานินนี่หว่า" แล้วภูริชก็หันมาทางผม

"ผมยังไม่เคยเห็นเป็งรักใครอย่างนี้เลยนะครับ"

"แล้วมึงเคยเห็นกูมีแฟนไหมล่ะ" เป็งแทรกขึ้นมาอีก เรียกเสียงหัวเราะได้ดีทีเดียว

"เออว่ะ กูลืมไป แสดงว่ากูเปรียบเทียบมึงเรื่องนี้ของมึงกับเมื่อก่อนไม่ได้ใช่ไหม"

"ก็เออดิ แล้วมึงจะเอาไปเปรียบเทียบกับอะไรล่ะ"

"เออๆ กูไม่เถียงมึงหรอก แต่ยังไงๆ กูก็ว่ามึงเปลี่ยนไปอยู่ดีนั่นแหละ ถ้ามีแฟนแล้วมีความสุขอย่างงี้
มึงก็น่าจะมีตั้งนานแล้วนะไอ้เป็ง ไม่ใช่รอจนอายุยีบห้า อืม...แต่จะว่าไปมึงก็โคตรอดทนแน่วแน่เลยว่ะ"

ผมกับแนนนั่งฟังเพื่อนสองคนคุยกันแล้วก็อมยิ้มด้วยความเอ็นดู หรือจะเรียกว่ากึ่งคุยกึ่งทะเลาะก็พอได้

"แล้วแนนล่ะ ไม่รู้สึกอะไรมั่งเหรอที่พี่ชายมาชอบคุณเป็ง" ภูริชหันไปคุยกับแนนหลังจากที่คุยกับเป็งแล้ว

แนนหันมาสบตาผมแล้วก็หัวเราะเบาๆ "ตอนแรกก็ตกใจเหมือนกันค่ะ แต่แนนเชื่ออยู่อย่างหนึ่งว่า...
คนที่พี่คานินเลือกต้องเป็นคนดีแน่ๆ ไม่ว่าพี่คานินจะรักใคร แนนก็ไม่มีปัญหาหรอก"

"ปกติผู้หญิงเขาจะรับเรื่องพวกนี้ได้ง่ายกว่าผู้ชายนะ" เป็งพูดเสริม

"ยกเว้นที่บ้านมึง" ภูริชหันไปพูดหยอกกับเพื่อน เป็งถึงกับหัวเราะอย่างรู้ทันกัน

"เห็นแนนบอกว่า...คานินไม่เคยมีแฟนเป็นผู้ชายมาก่อนเลยเหมือนกัน แล้วทำไมถึงชอบเป็งล่ะ
อ้อ...เดี๋ยวนะ ถามได้หรือเปล่าเนี่ย" ภูริชทำหน้าไม่แน่ใจ

"ถามได้ครับ" ผมตอบพลางยิ้ม

"คานินเขาประทับใจที่กูยอมกินส้มตำเผ็ดๆ แล้วก็ท้องเสียเกือบตายวันนั้นไง" เป็งแทรกขึ้นมาอีก

"ร้ายนะพี่นินน่ะ ถ้าแนนรู้นะแนนไม่ยอมพี่นินแกล้งคุณเป็งอย่างงั้นหรอก" แนนหันมาว่าผมไม่จริงจังนัก

พวกเราจึงหัวเราะชอบใจกัน สักพักก็ต้องหยุดเพราะวินเกิดตื่นขึ้นมาและร้องงอแง

"สงสัยจะหิวนมแน่ๆ เลย เดี๋ยวแนนพาลูกไปกินนมก่อนนะคะ"

แนนบอกพลางวางช้อนส้อมลงแล้วรีบลุกขึ้นมาดูลูก

"ให้ผมไปช่วยไหมครับ" ภูริชกุลีกุจอถาม

"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คุณภูกินข้าวเถอะค่ะ เดี๋ยวแนนมาค่ะ"

แนนปฏิเสธแล้วก็เข็นรถเข็นเด็กออกไปจากร้านก่อนที่วินจะร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม
ภูริชวางช้อนส้อมลงแล้วก็เดินแกมวิ่งตามไป

"เดี๋ยวผมช่วยเข็นดีกว่า"

ดูเหมือนแนนจะไม่กล้าปฏิเสธเสียแล้ว จึงยอมให้ภูริชเข็นรถเด็กพาไปที่ห้องน้ำที่มีห้องสำหรับป้อนนมลูก
ผมกับเป็งได้แต่มองตามอย่างสนใจ แน่นอนว่าเราสงสัยและเห็นในเรื่องเดียวกันอยู่แล้ว

ถ้าภูริชยอมรับแนนได้ ไม่รังเกียจที่จะสร้างครอบครัวกับผู้หญิงที่มีลูกติดอย่างแนน
พ่อกับแม่ผมอาจจะโกรธแนนน้อยลง เพราะอย่างน้อยแนนก็ไม่ถูกตราหน้าว่าท้องไม่มีพ่อ
เรื่องแบบนี้นับว่าเป็นเรื่องน่าอับอายขายหน้าในสังคมชนบทมากทีเดียว รู้ถึงไหนอายถึงนั่น

แต่ผมก็กลัวแทนน้องสาวเหลือเกิน ผมไม่อยากให้แนนเจ็บแบบคราวนั้น แนนเจ็บเกินพอแล้ว
ผมยังจำภาพที่แนนร้องห่มร้องไห้หัวซุกหัวซุนอุ้มหลานมาร้องขอความช่วยเหลือจากผมได้ดี
แม้ว่าอาจจะดูจุ้นจ้าน ผมก็จำเป็นที่จะต้องปกป้องไม่ให้น้องสาวของผมเจอสภาพอย่างนั้นอีก

เป็งเอื้อมมือมาบีบมือผมเบาๆ พร้อมกับยิ้มให้บางๆ ราวกับล่วงรู้ว่าผมกำลังคิดอะไรอยู่

"ชีวิตของแนนก็เป็นของแนนนะคานิน สุดท้ายแนนก็ต้องเป็นคนเลือกว่าเขาจะเอายังไง
ผมรู้ว่าคานินเป็นห่วงน้องสาวนะ เป็นห่วงหลานด้วย แต่วันหนึ่งเขาก็จะมีชีวิตเป็นของตัวเอง
แนนเขาต้องการใครสักคนนะ ภูริชเขาเป็นคนดีนะ ลองให้โอกาสเขาสองคนดูหน่อยไหม
ชีวิตของแนนต้องมีความหวังบ้างนะคานิน ถ้าไม่มีความหวังแล้วแนนจะอยู่ยังไง"

ผมหันไปมองเป็งด้วยสีหน้าเรียบเฉยในตอนแรก แต่สักพักก็ค่อยๆ คลี่ยิ้มให้
คล้ายกับจะบอกว่ายอมรับในความคิดนั้นที่เป็งเพิ่งพูดมา

นั่นสินะ ผมจะกีดกันน้องสาวไม่ให้พบเจอคนใหม่ที่อาจจะดีกว่าเก่าไปทำไม
ผมดูแลชีวิตแนนในฐานะพี่ชายได้ก็จริง แต่ผมก็ทดแทนสิ่งที่แนนขาดไม่ได้
ชีวิตของแนนควรจะมีความหวังที่จะเจอกับใครสักคนที่ดีๆ บ้าง

ที่เป็งพูดมาก็ทำให้ผมฉุกใจคิดได้หลายอย่าง เป็นสิ่งที่แฟนคนก่อนทำให้ผมไม่ได้เลย
แล้วผมก็แอบขำคนเดียวเบาๆ จนเป็งมองอย่างสงสัย ทำไมน่ะเหรอครับ

เพราะผมได้เปรียบเป็งไงครับ เป็งไม่เคยมีแฟนก็เลยเปรียบเทียบตอนนี้กับเมื่อก่อนไม่ได้
แต่ผมเคยมีแฟนมาแล้วก็เลยเปรียบเทียบได้ แถมพอเปรียบเทียบแล้วยังรู้อีกด้วยว่า...

นี่แหละ...คนที่ผมรอคอย!

(http://bit.ly/1mSYzme)

เป็ง...

หลังจากที่ขับรถวนหาอยู่นานผมก็เจอเสียทีอาคารที่ว่า แม้จะไม่ดูเก่าแต่ก็ไม่แลดูทันสมัยหรอก
ก็เป็นธรรมดาของสถานที่ราชการสมัยเก่า แต่กระนั้นมันก็แฝงมนต์ขลังบางอย่างเอาไว้

พอหาที่จอดรถได้แล้วผมก็พาน้องทีมงานอีกสองคนตรงปรี่ขึ้นไปยังชั้นสามของอาคารทันที
เพราะความที่หลงทางจึงทำให้เสียเวลาไปจนเกือบมาสายกว่าเวลานัด ดีที่ว่ายังพอทันเวลาอยู่

พอขึ้นมาถึงก็พบห้องทำงานขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพาร์ทิชั่นแบ่งเป็นล็อกๆ สำหรับแบ่งโซนทำงาน
พนักงานราชาการที่อยู่ในห้องต่างก็ก้มหน้าก้มตาทำงานอย่างแข็งขัน มีจับกลุ่มคุยกันบ้าง
ผมเดินนำเจและแอนเข้าไปก่อน พอสอบถามข้อมูลกับพนักงานคนหนึ่ง เราก็ถูกพาไปยังห้องที่นัดไว้

"เดี๋ยวคุณกัญชพรมานะคะ พอดีติดประชุมอยู่อีกห้อง แต่ประชุมใกล้เสร็จแล้วค่ะ"

น้องที่เดินมาส่งเราสามคนบอก ผมหันไปยิ้มกับน้องอีกสองคนอย่างโล่งใจเพราะคนนัดมาสายกว่า

"รับชา กาแฟหรือโอวันตินดีคะ"

น้องที่มาส่งถามตามมารยาท เราสามคนแจ้งไปแล้วก็นั่งคุยกันไปพลางๆ ระหว่างรอ

เจเป็นรุ่นน้องผมที่อเมริกา ตอนเรียนที่นั่นผมกับเจเคยไปเรียนคอร์ส nonviolent communication ด้วยกัน
พอเจกลับมาเมืองไทย ผมก็เลยชวนเจมาทำงานด้วยเพราะรู้ว่าคนที่อบรมเรื่องนี้ได้มีไม่มากนัก
เจเป็นหนุ่มหน้าหวานอยู่หน่อยๆ ท่าทางไม่ตุ้งติ้งหรอกแต่ก็พอสัมผัสได้ว่ากระเดียดไปทางนั้น
เจชอบเล่นโยคะและทำอาหารมังสวิรัติมาก ตลกตรงที่ใครมาเสนอขายเครื่องครัวทีไรเป็นต้องซื้อบ่อยๆ
สุดท้ายก็มีเต็มบ้านจนไม่รู้จะเอาไปเก็บที่ไหน

ส่วนแอนก็เป็นเพื่อนของเจอีกที ถึงจะไม่ได้เรียนเรื่องการสื่อสารอย่างสันติจากอเมริกามาอย่างผมกับเจ
แต่เธอก็เคยเข้าคอร์สเรียนที่กรุงเทพกับมูลนิธิแห่งหนึ่งหลายครั้ง เจเห็นแววก็เลยชวนมาร่วมทีมด้วย
แอนชอบทำอาหารเช่นกัน แต่ไม่ใช่อาหารมังสวิวัติอย่างเจหรอก แล้วก็ชอบเล่นโยคะเหมือนกัน
คงเป็นเพราะโดนเจชวนไปบ่อยๆ ก็เลยชอบตามไปด้วย ผมก็เคยไปเล่นด้วย แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ไปเล่นโยคะกับเจและแอนทีไรผมก็อยากจะวิ่งออกไปเตะบอลกับเพื่อนทุกที

พวกเรารออยู่เกือบครึ่งชั่วโมงจนแก้วกาแฟพร่องและมีแม่บ้านมาเก็บไป คุยกันจนไม่รู้จะคุยอะไรกันอีก
นั่นแหละคุณกัญชพรจึงประชุมเสร็จและได้ฤกษ์มาหาหาพวกเราเสียที มาถึงก็โทษขอโพยใหญ่

"ขอโทษด้วยนะคะที่ให้รอ พอดีท่านปลัดสั่งงานไว้ยาวเลย ก็เลยต้องอยู่คุยกับท่านก่อน"

หญิงสาวในชุดข้าราชการสีกากีเอ่ยขึ้นเมื่อโผล่เข้ามาในห้องประชุมเล็กที่เรานั่งรอกันอยู่
ถ้าเห็นคนใส่ชุดแบบนี้ก็รู้ได้ทันทีว่าเป็นวันจันทร์เพราะเป็นวันที่พนักงานราชการต้องใส่ชุดข้าราชการ
หญิงสาวที่ชื่อกัญชพรดูเด็กกว่าที่ผมคิดไว้เยอะ ดูๆ ไปก็น่าจะพอๆ กับผมหรือไม่ก็คานิน
ตอนแรกผมนึกว่าเธอจะอายุสักสี่สิบเสียอีก เพราะเห็นชื่อแล้วน่าจะเป็นชื่อคนรุ่นนั้นมากกว่า

"ทานน้ำชากาแฟกันหรือยังคะ"

กัญจพรถามพลางส่งยิ้มให้พร้อม ก่อนจะวางเอกสารจำนวนหนึ่งที่เธอหอบมาด้วยลงบนโต๊ะ
จะว่าไปแล้วมันก็ไม่น่าจะมีอะไรกับรอยยิ้มธรรมดาๆ ตามมารยาทสังคมของกัญชพรเลย
อีกอย่าง วันนี้ผมก็แค่ตั้งใจมาคุยงานเพราะว่าหน่วยงานของเธอสนใจให้เราจัดอบรมให้

แต่ให้ตายเถอะ!

เมื่อผมเห็นรอยยิ้มของหญิงสาวที่ชื่อกัญจพรแล้ว ผมก็กลับตกตะลึงจนนั่งนิ่งไปนานเลย

นี่ไง!

หญิงสาวมีเขี้ยวเสน่ห์ที่ผมตามหามาตั้งนานแสนนาน แบบนี้นี่ไงที่ผมหลงใหลคลั่งไคล้มาเป็นสิบปี

แล้วทำไมผมเพิ่งมาเจอเอาตอนนี้!!!

"พี่เป็งๆ" เสียงใครบางคนเรียกผมพร้อมกับสะกิดที่แขนเบาๆ นั่นแหละผมจึงได้สติขึ้นมา

"อ้อ ครับเจ" ผมหันไปมองเจที่กำลังมองดูผมอย่างสงสัย แอนที่นั่งถัดไปก็สงสัยไม่แพ้กัน

"คุณกัญชพรให้แนะนำตัวพวกเราครับ" เจบอกเบาๆ

ผมหันไปมองกัญชพรแล้วก็ยิ้มอย่างเขินๆ ไม่รู้ว่าตกตะลึงไปนานแค่ไหน
น่าอายเสียจริงๆ เป็นอย่างนี้อีกแล้ว นี่ผมเป็นอะไรกับคนมีเขี้ยวนักหนา ฝังใจอะไรขนาดนั้น!

"เอ่อ...อ๋อ...ผมชื่อป้องเกียรติครับ"

ผมบอกชื่อจริงของตัวเองไป ชื่อที่ผมแทบไม่เคยได้ใช้เลย พอบอกชื่อไปแล้วผมก็ดูงงๆ กับตัวเองอีก
กัญชพรคงนึกขำแต่ด้วยมารยาทเธอก็เลยแค่อมยิ้ม เจเห็นท่าไม่ดีจึงถือโอกาสแนะนำกลุ่มของเราแทน
พอช่วยชีวิตผมให้กลับมาอยู่กับร่องกับรอยได้หน่อย แต่ก็เล่นเอาผมเสียลุคผู้นำไปเหมือนกัน

"ดีเลยค่ะ" กัญชพรพูดขึ้นหลังจากที่ฟังเจแนะนำทีมงานและงานของเราจนหมด

"ปัญหาหลักๆ ที่เราอยากจะให้ช่วยก็เป็นเรื่องเจ้าหน้าที่ของเราเป็นผู้หญิง มีเรื่องทะเลาะกันจุกจิก
ทำให้บรรยากาศการทำงานไม่ค่อยราบรื่นเท่าไหร่เพราะความขัดแย้งกันค่ะ ส่วนเจ้าหน้าที่ที่ให้บริการ
ก็อย่างที่รู้กันนั่นแหละค่ะ เจอคนมากก็เลยเครียด ก็มีปัญหากับประชาชนที่มารับบริการบ่อยๆ
ทางเราก็เลยอยากหาทางแก้ปัญหาพวกนี้ให้ลดลงไปบ้าง พอดีกัญรู้จักกับพี่หริ่งก็เลยปรึกษากัน
พี่หริ่งแนะนำเรื่องการสื่อสารอย่างสันติให้ฟังคร่าวๆ แล้วก็ให้ข้อมูลติดต่อทีมของคุณป้องเกียรติมา
ทีนี้กัญก็เลยอยากจะฟังก่อนว่าปัญหาที่กัญเล่าให้ฟังเมื่อกี้ เราจะใช้การสื่อสารอย่างสันติช่วยได้ยังไง
แล้วถ้าจะต้องจัดอบรม จะจัดแบบไหน จัดกี่วัน กี่ครั้ง จัดที่ไหน งบประมาณเท่าไหร่ ต้องเตรียมอะไร
ทางทีมงานของคุณป้องเกียรติเตรียมข้อมูลมาพร้อมแล้วใช่ไหมคะ"

"ครับ"

ผมพยักหน้าอย่างช้าๆ สายตาคอยจับจ้องมองดูเขี้ยวเสน่ห์ที่เผยให้เห็นเป็นระยะๆ อย่างลืมตัว
พอเจสะกิดอีกทีผมจึงได้สติและปรับสมองให้หันมาจดจ่อกับงานแทน แต่ก็ยอมรับว่าไม่มีสมาธิเลย

ในระหว่างที่คุยงานกัน พอเผลอเมื่อไหร่ผมก็มักจะมองหน้าคมสวยและเขี้ยวเสน่ห์ของกัญชพรทุกที
ดูท่าว่าผมจะแสดงออกถึงความสนใจมากไปแน่ๆ เพราะเจกับแอนเริ่มเหล่มองสงสัยหรือไม่ก็คงรู้แล้ว

จนกระทั่งนึกถึงคานินขึ้นมาได้ ผมก็เริ่มสับสนเมื่อคำพูดของคานินเมื่อวานตอนเช้าแว่วลอยมา

"คุณเป็งอย่าทำให้ผมเสียใจนะ ไม่ใช่พอเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงแล้วก็ทิ้งผมซะล่ะ"

ผมชักกลัวแล้วสิ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา คนที่มีเขี้ยวเสน่ห์คนแรกที่ผมเจอโดยบังเอิญก็คือคานิน
ผมไม่รู้ว่าเป็นเพราะความฝังใจที่มีมาสิบปีกว่าหรือเปล่าที่ทำให้ผมหลงใหลได้ปลื้มกับคานินขนาดนั้น
หวังว่าจะไม่เป็นอย่างที่ผมคิด หวังว่าผมจะรู้สึกดีกับคานินจากหัวใจที่แท้จริง ไม่ใช่เพราะเพ้อฝัน
ไม่อย่างนั้นแล้ว ผมก็อาจจะทำร้ายหัวใจของใครอีกคนอย่างไม่น่าให้อภัยเลยทีเดียว

ก่อนหน้านั้นผมไม่เคยสงสัยความรู้สึกของตัวเองเลย จนกระทั่งวันนี้ที่ผมเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงเสียที

คานิน...ผมจะทำยังไงดี ทำไมผมถึงได้สับสนอย่างนี้ล่ะ!

ตกลงว่าผมชอบคานินเพราะคานินเป็นคานิน?

หรือว่าผมชอบคานินเพราะคานินเป็นตัวแทนของสาวมีเขี้ยวคนนั้นกันแน่!?

แล้วเธอก็ปรากฎตัวขึ้นโดยบังเอิญแล้วเสียด้วยสิ!!!

TBC...
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 16-03-2016 21:54:52
 :z13:

อ่านความรู้สึกของเป็งแล้วจุกเลย
ถ้าไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองที่ทีให้คานิน
เป็งควรบอกคานิน ก่อนที่จะผูกพันธ์กันมากกว่านี้นะ
ส่วนที่เป็งรู้สึกกับสาวเขี้ยวตัวจริง
เหมือนจะเริ่มเป็นการนอกใจได้เลยนะ
โอ้ยเครียด แต่อยากให้คานินรู้เรื่องนี้

คนเขียนหายดียังคะ 2สู้นะคะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 16-03-2016 23:15:44
อ้ากกกก มาแล้ว โผล่มาก็มีเรื่องเข้ามาเลย 5555 :laugh: :laugh: :laugh:

เครียดแทนเป็งเลย เพิ่งคุยกันวันก่อนก็มาเจอสถานการณ์ชวนลังเลมาเลย  :hao5: :hao5: :hao5:

เป็งจะทำไงให้รู้ใจตัวเองนะ ว่าชอบคานินที่เป็นคานิน หรือ ชอบคานินที่เป็นตัวแทน  :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ส่วนแนนนี่ให้ภูริชชอบแนนก็ดี จะได้หลุดพ้นจากเรื่องแย่ๆ :mew2: :mew2: :mew2:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบ ดีใจด้วยที่หายป่วยแล้ว เป็นหนักเป็นนานเชียว  :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 16-03-2016 23:58:46
เอาละสิ เป็ง เจอสาวมีเขี้ยวแล้ว แต่ขอโทษ คุณเธอมีแฟนแล้วและจะแต่งงานกลางปีนี้แล้วคับ ขอให้เป็นแบบนี้ทีเถอะ  คุณเธอ อย่าเป็นโสดนะ ๕๕๕ เดี่ยวเป็งทิ้งคานิน
  รอ รออ่านตอนใหม่คับ หายไข้ดีแล้ว อย่าลืมออกกำลังกายด้วยนะคับ จะได้มีแรง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 17-03-2016 08:55:01
หายเกือบดีแล้วครับ ตอนนี้เหลือแต่มีน้ำมูกกวนใจนิดหน่อย ไม่มีใข้ ไม่ค่อยไอ
ไม่อยากจะเชื่อว่ามันจะแรงขนาดนี้ รวมเวลาที่เป็นแล้วก็ร่วมเดือนครับ
ช่วงนี้จะได้อ่านกันไวขึ้นแล้วนะครับ จะพยายามมาวันเว้นวัน เพื่อให้จบก่อนเรื่องใหม่มา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 17-03-2016 09:47:03
 :L2: :pig4:

จุก

อยากอ่านไวไว แต่คุณนักเขียนดูแลตัวเองดีดี นะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 17-03-2016 11:17:20
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 17-03-2016 11:29:19
เป็งก็ถามใจตัวเองดีดีนะ อ่านตอนนี้แล้วสงสารคานินเลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 17-03-2016 14:02:44
 :mew2:พออ่านตอนนี้แล้วรู้สึกเฟลเลยน่ะ ช่วงแรกกับช่วงหลังนี่คนละงานเลยน่ะ แต่เราก้อว่าดีน่ะก่อนที่ความรู้สึกมันจะลึกไปมากกว่านี้น่ะ เราว่ากับสาวคนนี้คงเป็นความฝังใจมากกว่าน่ะ ส่วนของคานินน่าจะชอบเพราะตัวเขามากกว่า เพราะถึงจะชอบคนมีเขี้ยวมากแค่ไหนแต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นผู้ชายก้อไม่น่าจะหลงรักได้น่ะ งานนี้คงต้องพิสูจน์แหละแต่ระหว่างนี้ถ้าคานินรู้คงช้ำมากน่ะ :katai1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 17-03-2016 14:14:14
จะเปลี่ยนใจง่ายขนาดนั้นเลยเหรอครับคุณเป็ง? แล้วคานินล่ะครับ เห็นเป็นตัวแทนเหรอ หรือว่าแค่คั่นเวลา? ยังไงครับ จัดการความรู้สึกตัวเองด้วยนะครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 17-03-2016 14:32:07
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 17-03-2016 14:32:16
ได้แต่หวังว่าจะเห็นคานินเป็นตัวจริง ไม่หลงไปกับสาวเขี้ยวเสน่ห์คนใหม่ที่เพิ่งพบและหวังว่าสาวเจ้าจะไม่โสด

ไม่งั้นคานินคงน่าสงสารมาก เพราะเป็งพูดซะดิบดีวาดฝันเอาไว้ซะสวยว่าต้องมีคานินอยู่ข้างๆ

ร่วมกันทำธุรกิจร่วมกัน แต่ไหนกับมาหวั่นไหวได้ก็ไม่รู้
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 17-03-2016 23:53:09
ได้กลิ่นมาม่าเลยอะแบบนี้ - -
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 18-03-2016 19:05:38
สงสารคานินอ่า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №11 สาวเขี้ยวเสน่ห์ตัวจริง ⓟ9 ▦ 16.3
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 19-03-2016 14:36:38
เจอสาวมีเขี้ยวจนได้สินะ...ถ้าชอบคานินที่เป็นคานินก็จงมั่นใจในความรู้สึกของตัวเองนะ
แต่ถ้ายังโลเล ชอบคานินเพราะเขี้้ยวเฉยๆ ก็ควรบอกคานินตรงๆ นะ
จะยังไงก็ตาม ก็ควรบอกอีกฝ่ายให้รับรู้ ถ้ารู้ทีหลังจะเสียความรู้สึก






หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 21-03-2016 18:43:25
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 12 ตัวจริงของเธอ


(http://bit.ly/1RX8ogL)

"ตั้งแต่รู้จักกับพี่มา ผมเพิ่งเคยเห็นพี่เป็งตะลึงขนาดนี้นี่แหละ แสดงว่าคนนี้สเปคเลยใช่ไหมพี่ ก็ดีนะครับ
มีแฟนเป็นข้าราชการ มีหน้ามีตาในสังคมด้วย"

"ใช่ๆ เห็นพี่หริ่งบอกว่าคนนี้เป็นลูกสาวคนเดียวของนักการเมืองด้วย จำชื่อพ่อเขาไม่ได้ แต่ทุกคนรู้จักดี
บ้านรวยมาก เห็นว่าพ่อให้มาทำงานราชการก่อน สร้างโพรไฟล์แล้วค่อยขึ้นไปเป็นนักการเมือง"

"อย่างนี้ก็เหมาะสมกับพี่เป็งเลย รวยเหมือนกัน ก็ดีนะครับพี่ มีแฟนเป็นนักการเมือง ทั้งสวย ทั้งเท่"

ผมคงแสดงอาการตกตะลึงจนออกนอกหน้ามากไป เจกับแอนจึงรู้สึกได้ว่าผมแสดงความสนใจต่อกัญชพร
พอเรามานั่งทานข้าวเย็นด้วยกันที่ห้างหรูแถวสุขุมวิท ไม่ไกลจากที่พักผม สองหนุ่มสาวเพื่อนซี้ก็แซวผมใหญ่
แต่นอกจากผมจะไม่เขินแล้ว ผมยังกลับทำหน้าเครียด โดยเฉพาะเมื่อคิดถึงความรู้สึกของคานิน

ถ้าคานินรู้เรื่องนี้...คานินจะรู้สึกยังไงนะ?

"เออ...แล้วพี่หริ่งบอกหรือเปล่าว่าคุณกัญเขามีแฟนหรือยัง" แอนถามเมื่อนึกขึ้นมาได้

เจทำท่านึก "อืม...ไม่ได้บอกนะ ก็ไม่เห็นเป็นไรนะแอน ถ้ายังไม่แต่งงานก็ยังมีโอกาสเลือก เราว่านะ...
ผู้หญิงที่สนใจการเมืองน่ะไม่ค่อยสนใจเรื่องแต่งงานหรอก กว่าจะแต่งก็โน่นแหละ...สามสิบกว่าไปแล้ว"

เจหัวเราะเบาๆ กับแอน แต่ผมยังคงทำหน้าเครียดอยู่ เจคงสังเกตเห็นก็เลยหันมาถาม

"อ้าวพี่ เป็นไรเหรอครับ ทำไมทำหน้าเครียดอย่างงั้นล่ะ"

ผมถอนหายใจยาว รู้สึกเครียดจนไม่อยากกินอะไร กินไปได้สองสามคำก็หยุดและนั่งฟังสองคนคุยกัน

"พี่ไม่รู้จะบอกพวกเราสองคนยังไงดี"

ผมทำงานกับเจและแอนมาหลายปีแล้ว สนิทสนมและไว้วางใจกันดีพอสมควร พอเล่าเรื่องส่วนตัวได้
แต่ผมก็ยังไม่แน่ใจหรอกว่าควรจะเล่าเรื่องนี้ให้ทั้งสองคนฟังดีเหรือเปล่า

"เรื่องคุณกัญเหรอคะพี่เป็ง" แอนถาม

ผมพยักหน้าช้าๆ เป็นเชิงยอมรับ

"อ้าว...ทำไมเหรอคะ หรือว่าไม่อยากมีแฟนเป็นลูกนักการเมือง หรือกลัวว่าคุณกัญจะมีแฟนแล้ว
หรือว่า...พี่ไม่กล้าจีบเขาเหรอ อืม...แอนกับเจไม่เคยเห็นพี่มีแฟนเลยตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา
พี่เป็งไม่มั่นใจเรื่องนี้เหรอคะ ถามเจดิ เจเขามีแฟนเยอะ ช่วยได้" แอนหันไปแซวเพื่อนอย่างสนุกปาก

"ไม่รู้จะช่วยได้หรือเปล่านะ เพราะว่าแฟนเราน่ะ...ไม่ใช่ผู้หญิง" เจตอบอย่างฉาดฉาน

ผมขมวดคิ้วมุ่นและมองหน้าเจอย่างสนใจ ผมก็พอรู้ระแคะระคายมาบ้างว่าเจมีแฟนเป็นผู้ชาย
แต่ก็ไม่เคยคุยหรือถามเรื่องนี้อย่างจริงๆ จังๆ ได้แต่ฟังแอนแซวเล่นบ่อยๆ ตอนไปอบรมด้วยกัน

ผมว่าผมลองแอบปรึกษาเจเรื่องนี้ดูบ้างดีกว่า ประสบการณ์ของเจน่าจะพอช่วยผมได้

"เจ...แล้วถ้าวันนึง เอ่อ...พี่สมมติอย่างงี้นะเจ ถ้าสมมติว่า...ผู้ชายกับผู้ชายเป็นแฟนกัน...แบบเจเลย
แล้ววันนึง...ผู้ชายอีกคนก็พบว่าตัวเองชอบผู้หญิงมากกว่า เจว่าผู้ชายอีกคนจะรู้สึกยังไง"

คำถามของผมเล่นเอาเพื่อนรุ่นน้องของผมถึงกับสะอึกไปเลย แถมยังหน้าซึดสลดด้วย

"เอ่อ...พี่ถามอะไรที่ไม่เหมาะสมไปหรือเปล่าเจ ถ้าเจไม่อยากตอบก็ไม่เป็นไรนะ"

ผมรีบออกตัว เจหันไปมองหน้าแอน ดูเหมือนสองคนนี้คงรู้อะไรบางอย่างที่ผมไม่เคยรู้มาก่อน
เจหันกลับมามองผม ยิ้มน้อยๆ แต่สีหน้าก็ดูจริงจังขึ้นกว่าเดิม

"ตอนที่พี่เป็งเรียนจบแล้วกลับเมืองไทย ผมก็เจอเรื่องแบบนี้นี่แหละ มีพี่คนไทยคนหนึ่งมาชอบผม
เขาเป็นเจ้าของร้านอาหารไทยที่ผมชอบไปกินบ่อยๆ พี่เป็งก็น่าจะเคยไปกินนะครับ แล้วเราก็...
คบกันอยู่เกือบปี จู่ๆ วันนึงเขาก็มาบอกผมว่า...เขาชอบผู้หญิง อยากกลับไปเป็นผู้ชายปกติเหมือนเดิม
แล้วพี่คิดว่าผมควรจะรู้สึกยังไงล่ะครับ"

ผมกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ ไม่เคยคิดเลยว่าเจจะเจอเหตุการณ์ที่ฟังดูน่าเจ็บปวดอย่างนี้มาก่อน
ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดกับผมและคานิน ไม่ต้องถามใครผมก็คงรู้ว่าคานินจะเจ็บปวดสักแค่ไหน

"ช่วงนั้นผมเฮิร์ทอยู่หลายเดือนเลย แต่ตอนนี้...ผมก็เข้าใจเขานะ เราฝืนธรรมชาติตัวเองไม่ได้หรอก
บางช่วงของชีวิตเราก็อาจจะสับสนได้ว่าตัวเองชอบแบบไหน" เจแค่นหัวเราะแล้วพูดสืบไป

"ผมให้อภัยเขาแล้วล่ะพี่ แต่ก็ยอมรับว่าเคยเสียใจมาก โมโหด้วย น่าจะบอกกันซะตั้งแต่แรก"

เจส่ายหัวอย่างระอา รอยยิ้มที่ระบายบนใบหน้าบ่งบอกว่าเจ้าตัวไม่เป็นไรกับเรื่องนี้แล้วอย่างที่พูด
แต่ผมนี่สิ รู้สึกเหมือนโดนตบหน้าจนชา โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายที่ว่า "น่าจะบอกกันซะตั้งแต่แรก"

"อ้อ...ว่าแต่...พี่เป็งถามผมเรื่องนี้ทำไมครับ อย่าบอกผมนะว่าพี่เป็งแอบมีแฟนเป็นผู้ชาย แล้วก็..."

สายตาคาดคั้นและสงสัยของเจทำให้ผมรู้สึกร้อนๆ หนาวๆ ไม่น้อย ผมจึงต้องกลืนน้ำลายอีกก้อน
ไม่กล้าสบตากับเจตรงๆ ก็เลยทำให้ดูมีพิรุธเข้าไปใหญ่

"เฮ้ยพี่ ผมแซวพี่เล่นนเฉยๆ ทำไมพี่ต้องทำหน้าเครียดอย่างงั้นล่ะครับ หรือว่า..."

เจทำท่าครุ่นคิดและจ้องดูอาการของผมอย่างสงสัย

"พี่เป็ง...ถ้าพี่คิดว่าผมช่วยพี่ได้ ผมยินดีนะ"

ผมเพิ่งเข้าใจคำว่า "ผีย่อมเห็นผี" ด้วยกันก็วันนี้แหละ เจคงมองเห็นบางอย่างในท่าทางอึกอักของผม
มาถึงขั้นนี้ แถมปัญหายังรออยู่ตรงหน้า ผมก็คงต้องยอมให้คนมีประสบการณ์อย่างเจมาช่วย

"เจ...พี่อยากปรึกษาอะไรบางอย่างกับเจหน่อย ถ้าคืนนี้เจว่างนะ" ผมตัดสินใจบอกไป

เจดูจะอึ้งๆ ไปสักหน่อย แน่ล่ะ การที่ผมบอกเจไปอย่างนั้นก็เท่ากับยอมรับว่ามีปัญหาอย่างที่เจสงสัย

"ได้ครับพี่ คืนนี้ผมไม่มีนัดที่ไหน" เจหันไปหาเพื่อนรักที่นั่งกินข้าวอย่างเงียบๆ ฟังเราสองคนคุยกัน

"แอน กินข้าวเสร็จแล้วแอนกลับก่อนละกันนะ ขอโทษที มันเป็นเรื่องของผู้ชายเขาคุยกันน่ะ"

เจพูดติดตลก แอนพยักหน้ายิ้มๆ เป็นเชิงตกลง แต่ดูเธอจะสงสัยอยู่เหมือนกันว่าผมกับเจจะคุยอะไรกัน

(http://bit.ly/1VpoldE)

ผมพาเจมาที่คอนโดของผมแล้วก็เล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง แน่นอนว่าเจตกใจมากทีเดียว
แต่ก็แอบตัดพ้อผมด้วยเล็กน้อยที่ไม่ยอมปรึกษาเจตอนจีบคานิน เรื่องแบบนี้เจช่วยได้สบายเลย

"เรื่องใหญ่นะพี่ ถ้าคานินเขารักพี่จริงๆ เขาคงเจ็บมากน่าดูเลย คงเหมือนผมนั่นแหละ"

ผมหน้าเสียไปเลยเมื่อเจพูดออกมาตรงๆ เจคงจะรู้ตัวเลยเปลี่ยนมาพูดอีกเรื่อง

"แสดงว่าพี่คงฝังใจกับสาวมีเขี้ยวจริงๆ นั่นแหละ ขนาดผู้ชายมีเขี้ยวพี่ยังชอบเลย"

ผมพยักหน้ายอมรับตามตรง เอนหลังพิงกับโซฟา ถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองเพดานห้อง

"ตอนนี้พี่สับสนมากเลยเจ พี่ยอมรับว่าพี่กำลังนึกถึงแต่หน้าของคุณกัญชพร รอยยิ้มของเขา
แล้วก็เขี้ยวเสน่ห์ที่พี่หลงใหล เขาวนเวียนอยู่ในหัวพี่ไม่หยุดเลยตั้งแต่เจอกันเมื่อกลางวัน"

"แสดงว่าพี่ชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชาย"

ผมสะดุ้งตัวขึ้นนั่งเมื่อได้ยินเจสรุปให้ฟัง พอคิดดูแล้ว ผมก็อาจต้องยอมรับว่าคงเป็นอย่างที่เจพูด

"พี่กลัวมันจะเป็นอย่างงั้นแหละเจ"

"ถ้าพี่แน่ใจ พี่ก็ต้องรีบบอกคานินนะครับ ให้คานินเจ็บเสียตั้งแต่ตอนนี้ดีกว่า อย่าปล่อยให้เนิ่นนานครับ
พี่กับคานินเพิ่งรู้จักกันได้แค่เดือนเดียว เจ็บไม่มากหรอกครับ"

"พี่กลัวคานินเสียใจน่ะเจ" ผมพูดสวนออกไปเกือบจะทันที

"แล้วพี่เป็งคิดว่า...มันมีวิธีที่คานินจะไม่เสียใจด้วยเหรอครับ ก็เหมือนผมนั่นแหละ ผมรักพี่คนนั้นไปแล้ว
วาดฝันไปไกลแล้ว ไม่ว่าพี่เขาจะบอกผมยังไง ใช้คำพูดแบบไหน ใช้วิธีการแบบไหน แต่สุดท้าย...
เราก็ต้องเลิกกัน มันก็เจ็บอยู่ดี ผมไม่รู้นะว่าพี่จะพูดแบบไหนให้คานินเจ็บน้อยที่สุด แต่พี่เชื่อผมอย่างหนึ่ง
เจ็บจากความจริง...ก็ยังดีกว่าเจ็บเพราะโดนหลอกครับ"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย การประวิงเวลาก็เท่ากับเป็นการหลอกลวง คานินก็จะยิ่งผูกพันกับผมมากขึ้น
ยิ่งผูกพันมากก็จะยิ่งเจ็บมาก ถ้าอย่างนั้น...ผมก็ควรต้องใจแข็งบอกคานินให้เร็วที่สุด

"อืม...แต่ผมก็สงสัยอย่างหนึ่งนะพี่ พี่เป็งไม่เคยแสดงท่าทีว่าชอบผู้ชายเลยนะครับ ผมดูไม่ออกเลย
ผมคิดว่าพี่ชอบผู้หญิงด้วยซ้ำ แล้วทำไมพอเจอคานิน พี่เป็งถึงชอบคานินได้ล่ะครับ แค่มีเขี้ยวจริงเหรอ
หรือว่าเป็นเพราะเหตุผลอื่นด้วย"

ในขณะที่เจพูด ผมก็นึกย้อนไปวันนั้นที่ผมเจอคานินครั้งแรกที่ร้านกาแฟ ทันทีที่คานินยิ้มให้ผม
ผมก็ยืนตะลึงจังงัง จากนั้นก็เพ้อหนักจนต้องขอให้ภูริชช่วยหาคนมาให้คำปรึกษาว่าจะจีบคานินยังไง
ตอนยังไม่มีแฟน โดยทั่วไปผมก็ชอบมองสาวๆ สวยๆ มากกว่าหนุ่มๆ ก็เลยคิดว่าตัวเองชอบผู้หญิง
แต่พอเจอคานินที่เป็นผู้ชายแท้ๆ ผมกลับหลงรักราวกับต้องมนต์สะกด ลืมถามตัวเองไปเลยว่าทำไม
รู้ตัวอีกทีผมกับคานินก็ตกลงที่จะคบกันไปแล้ว เพิ่งจะได้กลับมาคิดก็วันนี้ที่เจอกัญชพรนี่เอง

ผมชอบคานินเพราะอารมณ์ชั่วแล่นหรือเปล่า? แล้วอารมณ์ชั่วแล่นนั้นเกิดขึ้นได้ยังไง?
เพียงเพราะว่าคานินแค่มีเขี้ยวหรือเปล่า?

แต่ผมก็ไม่มีคำตอบใดๆ ให้ตัวเองในตอนนี้เลย...

"พี่ไม่รู้ว่ะเจ พี่สับสนมากๆ เลยตอนนี้" ว่าแล้วผมก็ถอนหายใจอีก

"เอางี้ดีกว่าพี่ พี่ต้องหาวิธีทดสอบตัวเองให้ได้ว่าตกลงพี่ชอบใครกันแน่ให้เร็วที่สุด ถ้าพี่ได้คำตอบแล้ว
เรื่องยุ่งๆ มันจะง่ายเอง ถ้าคานินต้องเจ็บ พี่ก็ต้องยอมให้เขาเจ็บ แต่ถ้าพี่รักคานิน ปัญหาก็จบ"

"แล้วพี่จะทดสอบตัวเองยังไงดีล่ะ เจมีคำแนะนำไหม" ผมถามไปตามตรงเพราะให้คิดเองก็คงคิดไม่ออก

"เดี๋ยวผมขอกลับไปคิดก่อนละกันนะครับพี่ เรื่องนี้เรื่องใหญ่ ต้องคิดให้รอบคอบ"

"ได้ๆ ถ้าเจคิดออกเมื่อไหร่ โทรบอกพี่เลยนะ"

"ครับพี่" เจยิ้มอย่างจริงใจให้ผม ทำให้ผมค่อยใจชื้นขึ้นมาได้แม้เพียงเล็กน้อยก็ตามที

"อ้อ คานินมารออยู่ข้างล่างแล้ว" ผมบอกเมื่อเห็นคานินส่งข้อความไลน์มาบอกว่ามาถึงแล้ว

"อ้อ งั้นผมก็จะถือโอกาสกลับเลยดีกว่า"

"ขอบใจมากนะเจ ได้คุยกับเจแล้วพี่ก็สบายใจขึ้นมากเลย ไม่งั้นคงนอนไม่หลับแน่ๆ"

ผมยิ้มให้เจแล้วเราก็ลุกขึ้นยืนพร้อมๆ กัน

"ไม่เป็นไรครับพี่เป็ง พี่ก็ช่วยผมตั้งหลายเรื่อง เรื่องแค่นี้ทำไมผมจะช่วยพี่ไม่ได้"

ผมเดินไปตบไหล่เจเบาๆ และยิ้มบางๆ ให้ "ไป เดี๋ยวพี่ไปส่ง"

ผมพาเจเดินออกจากห้องแล้วตรงไปที่ลิฟต์ บังเอิญลิฟต์ว่าง มีแค่ผมกับเจสองคน
ผมก็เลยถือโอกาสถามคำถามที่ผมอยากรู้ แต่ลืมถามเมื่อสักครู่นี้

"เจคบกับแฟนใหม่มานานหรือยัง"

"ไม่นานหรอกพี่ จริงๆ ก็กำลังดูๆ กันอยู่ ยังไม่ถึงกับจะเรียกว่าแฟนหรอกครับ"

"อ้อ แสดงว่าถ้ามีคนถูกใจผ่านมาก็ยังมีโอกาสเลือกใหม่" ผมแซวเล่นพร้อมกับขำเบาๆ

"ก็คงงั้นแหละพี่" เจบอกแล้วขำบ้าง

พอออกจากลิฟต์มายังบริเวณล็อบบี้ คานินก็ลุกขึ้นยืนและส่งยิ้มให้ทันทีที่เห็นเราเดินออกมา

"คนนี้เหรอครับพี่เป็ง" เจหยุดถาม ไม่มองหน้าผม แต่มองคานินนิ่งด้วยสายตาที่ผมชักไม่ชอบใจ

"ใช่" ผมตอบสั้นๆ

"น่ารักนะพี่ ถ้าเกิดตกลงว่าสุดท้ายแล้วพี่ชอบผู้หญิง ผมขอจีบนะพี่" แล้วเจก็ขำ แต่ไม่นานก็รีบแก้ตัว

"ผมล้อเล่นครับ ผมไม่แย่งแฟนพี่หรอก"

ผมจึงคลายคิ้วที่ขมวดมุ่นลง แต่ก็ยังคาใจและไม่ชอบใจอาการของเจเมื่อกี้อยู่หน่อยๆ
ก็จริงอย่างที่เจว่า คานินเป็นคนน่ารัก โดยเฉพาะเวลายิ้ม แม้ไม่ใช่คนที่หน้าตาดีมากมาย
แต่กลับมีเสน่ห์ดึงดูดอย่างรุนแรง อย่างน้อยก็สำหรับผม ไม่งั้นผมคงไม่ตกตะลึงขนาดนั้น

ผมสาวเท้าเดินนำเจไปหาคานิน พอถึงตัวก็แนะนำให้สองคนรู้จักกัน

"คานิน นี่เจนะ ที่ทำอบรมด้วยกันกับผมไง"

คานินหันไปยิ้มกับเจ พอได้เห็นรอยยิ้มและเขี้ยวคานินใกล้ๆ ผมก็พบว่าคานินยังมีเสน่ห์เหมือนเดิม
แต่จู่ๆ ภาพรอยยิ้มของกัญชพรกลับแทรกเข้ามาแทนที่ สลับกันไปมากับภาพรอยยิ้มของคานินตรงหน้า
เล่นเอาผมสับสนจนลืมสังเกตไปเลยว่าเจกำลังมองคานินด้วยสายตาแบบไหน

"ยินดีที่ได้รู้จักครับคานิน" เจเป็นคนพูดขึ้นก่อน

"เช่นกันครับคุณเจ ว่าแต่...คุณเจจะกลับแล้วเหรอครับ" คานินถาม

"ครับ พอดีมาคุยงานกัน คุยเสร็จปุ๊บ คานินก็มาพอดีเลย อ้อ...ต่อไปเรียกผมเจเฉยๆ ก็ได้ อายุเท่ากัน
ไม่ต้องเรียกคุณหรอก"

"อ้อ...ครับ" คานินพยักหน้ารับคำ

"ผมไปแล้วนะครับพี่ ไปแล้วนะคานิน ไว้เจอกันวันหลังครับ"

เจโบกมือลาแล้วก็เดินลิ่วออกไป ผมกับคานินมองตามแผ่นหลังของเจจนกระทั่งหายลับไปตรงประตู
ทีนี้ก็เหลือแค่ผมกับคานินสองคนเท่านั้น แต่แทนที่ผมจะรู้สึกถึงบรรยากาศโรแมนติกของเราสองคน
สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมเมื่อกลางวันนี้กลับทำให้ผมรู้สึกประหม่าจนไม่รู้จะพูดคุยกับคานินยังไงดี

(http://bit.ly/1mSYzme)

"วันนี้คุณเป็งไปคุยงานมาเป็นไงมั่งครับ ได้งานไหม"

พอเราสองคนหัวถึงหมอน คานินก็ชวนผมคุยตามปกติ เมื่อกี้เราไม่ค่อยได้คุยกันมากเท่าไหร่
คานินมาถึงผมก็ให้อาบน้ำเพราะเห็นว่าเหนื่อย พอเสร็จผมก็อาบน้ำต่อทันที
จากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรอย่างอื่นอีกเพราะรู้ว่าคานินต้องตื่นแต่เช้า ผมเลยไม่อยากให้นอนดึกมาก

"ก็ดี เขาก็สนใจ แต่ว่าก็ยังต้องคุยกันอีกสองสามครั้ง ผมต้องทำโปรแกรมอบรมให้เขาดูก่อน"

ผมบอกแล้วก็หันไปยิ้มบางๆ กับคานิน หน้ายิ้ม แต่ในใจร้อนรนชะมัดเลย

"คุณเป็งเก่งอยู่แล้ว เรื่องแค่นี้สบายมาก" คานินชมพลางยิ้มจนตาหยี

"แล้วคานินล่ะ วันนี้ทำงานเป็นไงมั่ง"

คานินสีหน้าหม่นลงเมื่อผมถามคำถามนี้ แล้วจู่ๆ ก็ลุกขึ้นนั่งพร้อมกับถอนหายใจ

"วันนี้ผมโดนลูกค้าด่าหลายคนเลยครับคุณเป็ง ผู้จัดการก็เลย..." คานินหยุดถอนหายใจ สีหน้าเครียด

"สงสัยผมคงจะอยู่ที่นี่ไม่ยืดซะแล้วล่ะครับคุณเป็ง"

ผมฟังแล้วก็สงสาร ก่อนหน้านี้คานินเคยทำงานบริษัทแห่งหนึ่งมาก่อน แต่ก็ไม่ถูกกับหัวหน้าฝ่าย
สุดท้ายก็โดนกดดันจนต้องลาออก ตกงานอยู่หลายเดือนจนต้องตัดสินใจมาทำงานที่ร้านกาแฟนี้
แล้วก็เจอปัญหาเดิมๆ เพราะผู้จัดการดูจะไม่ถูกโฉลกกับคานินสักเท่าไหร่

"แล้วคานินจะไปทำอะไรล่ะ"

ผมถามแล้วก็ลุกขึ้นนั่งชันตัวบนเตียงนอนบ้าง ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าทำอะไรพลาดไปเสียแล้ว

"ก็...เอ่อ...คุณเป็ง...ไม่มีอะไรให้ผมทำใช่ไหมครับ" คานินถามด้วยสีหน้าเกรงใจ ดูผิดหวังอยู่ในที

"คานินหมายถึงอะไร"

ผมเผลอทำพลาดเป็นครั้งที่สอง ลืมไปเสียชั่วคราวว่าผมเคยวาดฝันว่าจะทำอะไรกับคานินไว้

"เปล่า...ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมว่าผมจะกลับบ้าน...ไปทำสวนมะยงชิดกับพ่อแม่ที่บ้านดีกว่า
ไม่รบกวนคุณเป็งหรอกครับ คนจนๆ อย่างผมคงเหมาะที่จะอยู่ในที่ที่เหมาะกับตัวเองมากกว่า"

พอได้ยินคำพูดตัดพ้อของคานิน ผมจึงนึกขึ้นได้ว่าเคยพูดอะไรกับคานินไว้ แต่ก็พลาดไปแล้ว
ในยามที่คานินต้องการที่พึ่ง ผมกลับทำเป็นไม่รู้เรื่องเหมือนไม่เคยคุยอะไรกันมาก่อนเสียอย่างนั้น
เป็นใครก็คงน้อยใจ พอรู้ตัวแล้วผมก็นึกอยากจะตบปากตัวเอง

"อืม...ไม่รู้ว่าผมมาทำอะไรที่นี่เหมือนกันนะ ไม่เห็นจะเหมาะกับผมเลย"

ว่าแล้วคานินก็ลุกพรวดขึ้นจากเตียงนอนแล้วก็เดินไปหยิบเสื้อผ้าที่ถอดวางไว้ในตะกร้ามาใส่

"คานินจะไปไหน"

ผมรีบลุกขึ้นตามไปแล้วจับมือคานินที่กำลังจะหยิบเสื้อผ้ามาใส่ไว้ คานินหยุดนิ่งและมองหน้าผม
ท่าทีที่จริงจังนั้นทำให้ผมหยุดนิ่งและค่อยๆ ปล่อยมือจากคานินอย่างช้าๆ

"บางที...ผมกับคุณเป็งอาจจะรู้จักกันน้อยไป...ก่อนที่จะตัดสินใจเป็นแฟนกัน หรือไม่งั้นผมก็คง...
ไม่เหมาะที่จะเป็นแฟนของคุณเป็ง เพราะผมไม่มีอะไรเลย ถ้าจะเริ่มต้นทำธุรกิจอะไรสักอย่าง
ผมก็คงไม่มีเงินจะลงทุนด้วย ความรู้ที่จะทำธุรกิจก็ไม่มี ต้องพึ่งคุณเป็งอย่างเดียว ผมไม่อยากรู้สึกแย่
เพราะคนที่ไม่มีอะไรอย่างผมไม่ควรจะเอาเปรียบคุณเป็ง อย่าให้ผมต้องเป็นภาระคุณเป็งเลยครับ"

"คานิน ทำไมคานินพูดอย่างงั้นล่ะ"

ผมถามเสียงแหบพร่าด้วยความเสียใจเมื่อรู้ว่าพลาดไปแล้ว ความสับสนว้าวุ่นใจทำให้ผมลืมสนิทเลย

"แล้วอีกอย่าง...คนในฝันของคุณเป็งก็เป็นผู้หญิง ไม่ใช่ผม รู้ไหมครับว่าผมกลัวทุกวันเลย ถ้าเกิดว่า...
คุณเป็งเจอผู้หญิงมีเขี้ยวตัวจริงขึ้นมาล่ะ"

พอเจอคำถามนี้เข้าไปผมก็สะดุ้งและใจหายวาบ คานินพูดราวกับรู้ความจริงยังไงยังงั้น

"ผมว่า...คุณเป็งไปตามหาสาวมีเขี้ยวอย่างที่คุณเป็งต้องการดีกว่าครับ ผมมาคิดๆ ดูแล้ว
ยังไงๆ ผมก็แทนผู้หญิงในฝันของคุณเป็งไม่ได้หรอก ไม่เชื่อคุณเป็งลองถามตัวเองดูดีๆ สิครับ
ถ้าเกิดวันนึงคุณเป็งเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงขึ้นมา คุณเป็งจะทำยังไงกับผม จะรู้สึกกับผมเหมือนเดิมไหม
คุณเป็งลองตอบผมมาสิครับ คุณเป็งตอบผมได้หรือเปล่า"

ริมฝากของคานินสั่นระริก หยดน้ำใสๆ เริ่มคลอตา สีหน้าที่แสดงความเสียใจทำเอาผมเข่าอ่อน
สิ่งที่คานินสมมติขึ้นมาคงไม่ต้องสมมติอีกแล้ว เพราะมันกำลังเกิดขึ้นกับผมในตอนนี้

"ผมไม่ใช่ตัวจริงของคุณเป็งแล้วใช่ไหมครับ"

"คานิน!"

ผมครางเสียงแหบพร่าด้วยความสะท้อนใจ ก่อนจะดึงมึงของคานินมากอบกุมไว้เบาๆ

"ผมขอโทษนะคานิน ผมขอโทษจริงๆ"

น้ำตาลูกผู้ชายที่ไม่ใช่ว่าจะไหลได้ง่ายๆ ค่อยๆ ปริ่มขอบตาผม มันร้อนผ่าวจนผมคงกลั้นไว้ไม่ไหว

"ขอโทษเรื่องอะไรเหรอครับ ขอโทษที่ผมไม่ใช่ตัวจริงของคุณเป็งเหรอ"

แต่ละคำถามของคานินช่างเสียดแทงใจเสียจริงๆ ผมรู้สึกเจ็บปวดเหลือเกินที่เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น
ผมพลาดอย่างมากที่ปล่อยให้อารมณ์ชั่วแล่นพาเตลิดไปไกลจนลืมคิดไปว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ถ้าผมฉุกใจคิดให้รอบคอบกว่านี้ ผมก็คงไม่พาคานินมาเจอเรื่องเลยร้ายอย่างนี้หรอก

"ใช่ไหมครับคุณเป็ง คุณเป็งได้คำตอบแล้วเหรอว่าผม...ไม่ใช่ตัวจริงของคุณเป็ง"

คานินถามด้วยสีหน้าคาดคั้นอีกครั้ง ถึงตอนนี้ผมก็ไม่สามารถอดทนเก็บความรู้สึกข้างในได้อีกแล้ว
ผมดึงคานินมากอดไว้แน่นแล้วก็ร้องไห้เพราะน้ำตาผมมันคอยท่าเตรียมพังทำนบไว้ก่อนแล้ว

"ผมสับสนน่ะคานิน ผมสับสนมาก"

คานินยืนนิ่งตัวแข็งทื่อ ไม่แม้แต่จะกอดผมตอบ มีแต่ผมเท่านั้นที่กอดคานินไว้และร้องไห้
คิดแล้วก็ใจหาย เมื่อวานเรายังไปเที่ยวที่สวนรถไฟ ไปกินข้าวแล้วก็ไปดูหนังด้วยกันอยู่แท้ๆ
เพียงชั่วข้ามคืน เหตุการณ์กลับตาลปัตรจนเราสองคนตั้งตัวกันแทบไม่ทัน

"ผมไม่ใช่ตัวจริงของคุณเป็งใช่ไหมครับ" คานินถามเป็นรอบที่สามเมื่อเวลาผ่านไปครู่ใหญ่

ผมพยายามข่มใจไม่ให้ร้องไห้และค่อยๆ ปล่อยคานินออก แต่พอมองหน้ากันแล้ว
ผมกลับไม่กล้าแม้แต่จะสบตากับคานินเลย สิ่งที่เกิดขึ้นกับผมช่างน่าละอายสิ้นดี

"ถ้าคุณเป็งไม่ตอบ...ผมก็จะถือว่าคุณเป็งยอมรับ"

"คานิน! ผม..."

ผมรู้สึกชาวาบไปทั้งตัว แต่ก็ไม่มีคำพูดใดๆ หลุดรอดมาอีก ก็เท่ากับเป็นการยอมรับกลายๆ

"คุณเป็งเจอสาวมีเขี้ยวตัวจริงแล้วเหรอครับ"

พอถามจบ น้ำตาของคานินก็ร่วงเผาะลงมา ผมรู้สึกเหมือนหัวใจถูกทิ่มแทงด้วยเข็มนับร้อยนับพัน
คานินคงไม่รู้เรื่องที่ผมเจอกัญชพรหรอก แต่จากอาการที่ผมเป็น คงประเมินเองได้ไม่ยาก
แค่นี้คานินก็คงรู้แล้วว่ามีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นระหว่างเราสองคน

แล้วผมควรจะตอบคานินว่ายังไงดี?

ถ้าเกิดผมตอบว่าคานินเป็นตัวจริงของผม แต่สุดท้ายไม่ใช่ ก็เท่ากับผมโกหกและหลอกลวงคานิน
ถ้าผมบอกออกไปตามตรงว่าผมเจอสาวมีเขี้ยวแล้ว คานินก็คงเสียใจ ตอนนี้ก็เสียใจไปครึ่งหนึ่งแล้ว

ผมไม่รู้หรอกว่าท้ายที่สุดแล้วอาการหวั่นไหวของผมที่มีต่อกัญชพรจะพาผมกับเธอไปถึงไหน
มันไม่สำคัญหรอกว่ากัญชพรเป็นตัวจริงของผมหรือเปล่า ปัญหามันอยู่ที่อาการหวั่นไหวของผมต่างหาก

"ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ครับ เราสองคนก็แค่กลับไปเป็นผู้ชายธรรมดาๆ คนหนึ่งเหมือนเดิม
คุณเป็งไม่ต้องกังวลหรอก ผมก็คิดอยู่แล้วล่ะว่าวันนึงมันต้องเป็นแบบนี้ ก็ดีเหมือนกันนะครับ
บางทีมันอาจจะเป็นโอกาสที่ดีก็ได้ที่เราจะได้พิสูจน์ตัวเองให้รู้ไปเลยว่า...ใครเป็นตัวจริงของใคร"

คานินยกมือขึ้นป้ายน้ำตาแล้วก็หยิบเสื้อผ้าที่ถือไว้ขึ้นมาใส่ ผมได้แต่ยืนดูอย่างคนไร้เรี่ยวแรง
ไม่คิดแม้แต่จะห้ามปราม จนกระทั่งคานินใส่เสื้อผ้าชุดเดิมเรียบร้อย ดูยับๆ หน่อยแต่ก็พอไปข้างนอกได้

"ไปส่งผมหน่อยนะครับ"

ผมยืนนิ่งเหมือนกับไม่ได้ยินคำถาม สักพักคานินก็เอ่ยถามอีกรอบ

"ไปส่งผมหน่อยนะครับคุณเป็ง ผมไม่มีการ์ด ใช้ลิฟต์ไม่ได้"

ผมหันไปสบตากับคานิน แม้ว่าคานินพยายามกลบเกลื่อนด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่ก็ปิดความเสียใจไม่หมด

ผมมองคานินอย่างเพ่งพิจ ผู้ชายคนนี้จิตใจดีกว่าที่ผมคิดไว้มาก ไม่เอะอะ ไม่โวยวาย ไม่ขัดขวางใดๆ
เฝ้าแต่โทษตัวเองว่าฐานะไม่เหมาะสมกับผม ไม่ใช่ตัวจริงของผม ไม่กล่าวโทษผมสักคำ

"คานิน...อย่าไปเลยนะ อยู่กับผมที่นี่"

พูดจบผมก็เดินไปกอดคานินไว้อีกครั้ง เพียงแค่ได้สัมผัสกัน ผมก็รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก

"อย่าหลอกตัวเองสิครับคุณเป็ง คนไม่ใช่ก็คือไม่ใช่นะครับ"

"ผมคิดว่าคานินใช่" ผมเถียงเบาๆ

คานินเงียบไปและไม่เถียงผมอีก สักพักก็ยอมกอดผมตอบ ผมจึงรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก
เมื่อกี้ผมกลัวแทบแย่ว่าคานินคงหลุดมือผมไป แต่โชคยังเข้าข้างผมอยู่ คานินจึงยังอยู่ตรงนี้ไม่ไปไหน
จะเป็นไปได้ไหมว่า...ถ้าผมยังรู้สึกอย่างนี้กับคานินอยู่ ก็น่าจะแปลว่า...

"คุณเป็งครับ" คานินเอ่ยขึ้น

"หืม" ผมกระชับอ้อมแขนกอดคานินแน่นขึ้น ก่อนที่คานินจะพูดสืบไป

"พิสูจน์หัวใจตัวเองอีกครั้งนะครับ เรื่องนี้สำคัญมาก อย่าทำแบบนี้เพราะกลัวว่าผมจะเสียใจ
ถ้าเราสองคนจะรักกัน มันก็ต้องเป็นความรักที่มาจากหัวใจของเราจริงๆ ไม่ใช่เพราะความสับสน
เมื่อไหร่ที่คุณเป็งได้คำตอบแล้ว มาบอกผมนะครับ ไม่ว่าคำตอบจะเป็นยังไง ผมรับได้เสมอ"

TBC...


https://www.youtube.com/v/s7_Ooanyry0
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: มะม่วงแรด ที่ 21-03-2016 19:03:36
อ่านแล้ว รู้สึกจุกมาก เหมือนตัวเองเป็นคานินเลย เราก้อเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ ร้องไห้ตามคานินเลย ฮืออออ คุณเป็ง ทำกันได้ลง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 21-03-2016 19:40:24
สุดท้ายคานินก็รู้เองจนได้
ถึงคุณเป็งจะไม่ได้เอ่ยออกมาตรงๆ
แต่ก็ยังดีที่ไม่ทู้ซี้โกหก ว่าตัวเองไม่สับสนอะไร
คานินคือดีมากเลย ไม่ตัดรอนคุณเป็งเลยสักนิด
แถมยังให้โอกาศไปศึกษาความรู้สึกของตัวเอง
เพราะถ้าคานินตัดฉับไปเลย คุณเป็งก็อาจจะ
เลือกที่จะรั้งคานินไว้ เพราะยังไม่อยากเสียคานินไป
ต่อไปถึงคุณเป็งจะเลือกคานิน เชื่อเถอะความเชื้อใจ
ที่คานินจะมีให้คุณเป็งอีกครั้ง คงเป็นเรื่องใหญ่เลย
เสียใจไปกับคานินเลย อ่านไปน้ำตาคลอ
เจถ้าสนใจและจริงใจกับคานิน
จะรุกทำคะแนนก็ไม่ว่ากันนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 21-03-2016 20:01:26
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 21-03-2016 20:04:35
อ่านแล้วแบบว่า พูดไม่ออกเลย เป็งจะทำไงเนี่ย ชักโมโห ทำให้คานินเสียใจ :angry2: :angry2: :angry2:

รอๆๆ รอตอนต่อไป :z3: :z3: :z3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 21-03-2016 20:18:36
 :L2: :pig4:

ร้องไห้อะ
คนไม่ถูกรักก็เศร้าไป  ต้องทำใจ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 21-03-2016 20:31:51
สงสารคานิน อ่านไปน้ำตาไหลเลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 22-03-2016 01:39:22
ทำไมมีฉากนี้ด้วย อ่านไปเศร้าไป คานินร้องไห้ด้วย เป็งเอ้ย สับสนจริงๆ
 รอ รอ รออ่านตอนใหม่คับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 22-03-2016 02:34:27
หาคนใหม่ให้คานินแทนเลยยยย ชักไม่ชอบใจกับเป็งละ - -
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 22-03-2016 02:46:18
จุกมาก พูดไม่ออก เสียใจแทนคานินจริงๆ //เราเองเคยอยู่ในเหตุการณ์แบบนี้ บอกเลยเจ็บสุดใจ คานินสู้ๆ นะครับ เข้มแข็งเข้าไว้
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 22-03-2016 08:16:34
สงสารคานินจับใจ อ่านไปน้ำตาก็ไหล คานินคนดีเข้มแข็งไว้นะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 22-03-2016 09:33:11
แง้..............ไม่ได้เข้ามาอ่านสักพัก
พอกลับมาทำไมเป็นอย่างงี้ล่ะ
 :o12:
เจ็บและจุกแทนคานินจริงๆ
แต่ก็คิดซะว่าเรื่องนี้จะเป็นบทพิสูจน์ในการตัดสินใจอะไรหลายๆอย่าง ล่ะกันเนอะ
เป็นการตอบคำถามที่คานินคิดมาตลอดว่า ถ้าเกิดคุณเป็งเจอสาวเขี้ยวเสน่ห์แล้วจะเป็นอย่างไร?
ตอบคำถามคุณเป็ง ว่าคานิน ใช่ตัวจริงหรือเปล่า?

ถือซะว่าใช้เรื่องที่เกิดขึ้นเพื่อหาคำตอบให้กับตัวเองล่ะกัน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 22-03-2016 16:11:07
 :a5: ตอนนี้อ่านไปน้ำตาซึมไปอ่ะ คือมันเศร้าแทนคานินน่ะ แต่เราก้อว่าดีน่ะที่ให้มันรู้กันตั้งแต่ตอนนี้น่ะ คานินเป็นคนที่น่ารักโดยธรรมชาติอยู่แล้วน่ะ ไม่แปลกที่เป็งจะหลงรัก แต่ความฝังใจมาเนิ่นนานก้อยากที่จะลบออกไปได้ง่ายๆ คานินทำถูกแล้วล่ะ เป็งก้อใช้เวลาระหว่างนี้ทบทวนและใกล้ชิดหญิงสาวไปด้วยน่ะ สู้ๆน่ะคานิน  :mew1: บุคลิกของคานินอาจจะทำให้คนหมั่นไส้ได้ง่ายน่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №12 ตัวจริงของเธอ ⓟ10 ▦ 21.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 23-03-2016 00:15:02
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 24-03-2016 20:11:22
รู้สึกจุกเหมือนกันนะ ที่เป็งเหมือนลืมสิ่งที่คิดว่าอยากทำธุรกิจกับคานิน
เป็นเราก็คงสะอึกพูดไม่ออก สงสารคานิน

ต่อมาก็เรื่องสาวเขี้ยว ถึงเป็งไม่พูดออกมาตรงๆ แต่ก็ดีที่คานินรู้
เป็นใครก็คงรู้สึกบ้างแหละ สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับใจเป็ง..


ถ้าต่อจากนี้ เป็นแบบที่ผมคิดคงสนุกอ่ะ 5555+ ลองดราม่า อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 24-03-2016 21:04:08
ลืม...

คนเขียนหายดีแล้วใช่ไหมครับ :)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-03-2016 21:57:02
รอๆๆๆๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: ปุกปิกกุกกิกไปตามสไต ที่ 24-03-2016 23:07:32
 :o12: :o12:ไม่เอาเเบบนี้ อย่าน่ะอย่าเปลี่ยนไป
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 25-03-2016 08:44:34
ลืม...

คนเขียนหายดีแล้วใช่ไหมครับ :)

หายดีแล้วครับ ขอบคุณที่ถามไถ่
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ดึกๆ วันนี้จะได้อ่านนะครับ เซ้าเศร้าแหละตอนต่อไป เฮ้อ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 25-03-2016 09:50:07
ลืม...

คนเขียนหายดีแล้วใช่ไหมครับ :)

หายดีแล้วครับ ขอบคุณที่ถามไถ่
ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ดึกๆ วันนี้จะได้อ่านนะครับ เซ้าเศร้าแหละตอนต่อไป เฮ้อ

นี่ยังไม่เศร้าพอใช่มั้ย กระซึกๆ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 25-03-2016 10:08:43
 :hao5: เตรียมรับความเศร้า ให้มันสุด ๆ ไปเลย ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอน่ะคานิน สู้ ๆ เป็งไม่เอา เราขอรับแทนน่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: arissara ที่ 25-03-2016 10:33:48
พอจะเอาก็ทุ่มตัวจีบ บอกว่าใช่งู้นงี้ คนนี้แหละ ถุยยยยย ชีวิต ปล่อยเค้าไปเถ๊อะะะะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ SOON
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 26-03-2016 19:30:06
 :t3: :t3: :t3: :t3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 26-03-2016 22:09:20
รอคานินไม่ไหว พรุ่งนี้หวุงว่าจะได้เจอกันนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 26-03-2016 22:28:49
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 13 บททดสอบหัวใจ


(http://bit.ly/1RX8ogL)

คานิน...

ผมไม่รู้ว่าพาร่างกายของตัวเองมาถึงห้องพักได้ยังไงเหมือนกัน
ในหัวผมคิดอะไรเยอะแยะไปหมดจนแทบไม่ได้สังเกตว่ากำลังทำอะไรหรืออยู่ที่ไหน
รู้ตัวอีกทีก็มาถึงห้องพักในเวลาที่ดึกกว่าปกติแล้ว

ตอนแรกผมว่าจะเข้าไปนอนเลย แต่คิดอีกทีก็อยากจะคุยกับน้องสาวเสียหน่อย
ป่านนี้แนนคงนอนไปแล้ว แม้ว่าจะเกรงใจแต่ผมก็จำเป็นต้องรบกวนเวลานอนของเธอ

ผมสาวเท้าอย่างช้าๆ ไปที่หน้าห้องของแนน เคาะประตูเรียกอยู่หลายครั้งจึงได้ยินเสียงกุกกักๆ
ไม่นานสาวแม่ลูกอ่อนก็เปิดประตูห้องออกมา พอรู้ว่าเป็นพี่ชายก็พยายามยิ้มให้ทั้งๆ ที่ง่วงนอน

"ทำไมกลับดึกจังพี่นิน โห...นี่มันเที่ยงคืนแล้วนะ"

ผมยิ้มจางๆ ถ้าสังเกตดีๆ ก็อาจจะเห็นแววตาเศร้าๆ

"วินหลับแล้วเหรอ" ผมไม่ตอบแต่ถามหาหลานชายพร้อมกับเมียงมองเข้าไปในห้อง

"หลับไปแล้ว"

ผมพยักหน้ารับรู้ คงไม่มีเด็กอายุหกเจ็ดเดือนที่ไหนนอนดึกขนาดนี้อยู่แล้ว

"พี่มีอะไรจะคุยกับแนนหน่อย สะดวกไหม"

แนนพยักหน้าแม้ว่าสายตาดูมีคำถามก็ตามที "ได้สิ"

ผมเดินเข้าไปในห้องของแนน พอสังเกตดีๆ ก็เห็นข้าวของบางอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน
ไม่ว่าจะเป็นผ้าอ้อมที่ซื้อมาใหม่หลายห่อ รถเข็นเด็กคันใหม่และของเล่นเด็กที่ยังไม่ได้แกะกล่อง
เหมือนแนนจะรู้ว่าผมสงสัยก็เลยรีบเดินมาอธิบาย

"พอดีวันนี้คุณภูริชมารับแนนไปซื้อของที่ตลาด แนนก็เลยแวะไปซื้อของพวกนี้มาเพิ่มด้วย"

ผมขมวดคิ้วเล็กน้อย พยายามไม่แสดงสีหน้าให้น้องสาวเห็นว่ารู้สึกแปลกใจมากแค่ไหน
ถ้าภูริชพาไป ผมก็คงต้องขอเดาว่าฝ่ายนั้นเป็นคนออกเงินซื้อให้ด้วย

"แนน"

"คะ" แนนสบตากับผม แต่สักพักก็หลบตาคล้ายกับรู้ว่าผมกำลังคิดอะไร

"แนน...คิดดีแล้วใช่ไหม" แม้ว่าลังเลแต่ผมก็ถามออกไปจนได้

"ก็..." แนนทำสีหน้ายุ่งยากใจ คงไม่กล้าบอกผมตรงๆ ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่

"พี่ไม่ห้ามแนนหรอกนะถ้าแนนจะมีแฟนใหม่ ก็ดูดีๆ หน่อยละกัน ฐานะคุณภูริชต่างจากเราเยอะ
จะจริงใจกับแนนมากแค่ไหนพี่ก็ไม่รู้ พี่ก็...อาจจะไม่ถึงกับเตือนแนนหรอกนะ แนนก็โตแล้ว
ก็ควรจะมีชีวิตเป็นของตัวเองบ้าง แต่คราวนี้ พี่อยากให้แนนดูแล้วก็คิดให้รอบคอบ
สังคมไทยน่ะ เวลาผู้หญิงพลาดแล้วมันเป็นร้ายแรงมากนะ ไม่เหมือนผู้ชายอย่างพี่หรอก"

แนนหน้าจ๋อย แต่หลังจากได้บทเรียนคราวนั้นแล้วก็ไม่คิดจะเถียงผมเหมือนที่ผ่านมาอีก

"ค่ะพี่นิน แนนก็...ไม่อยากถูกหลอกเหมือนที่ผ่านมาอีกหรอก แต่แนน..."

"พี่เข้าใจ" ผมรีบพูดแทรก "ไม่แปลกหรอกที่แนนต้องการใครสักคน ใครๆ ก็อยากมีคู่ชีวิต
มีครอบครัวที่สมบูรณ์ แต่...แนนก็ต้องรู้ไว้อย่างนึงนะ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าคนที่ผ่านเข้ามา...
จะใช่คนสุดท้ายหรือเปล่า ถ้ายังไม่ใช่ เราก็ต้องคิดเผื่อใจ คิดหาทางหนีทีไล่ไว้มั่ง
ไม่งั้นเราก็จะเจ็บซ้ำแล้วซ้ำอีก โดยเฉพาะ...เจ็บซ้ำเรื่องเดิมๆ"

ประโยคสุดท้าย นอกจากจะเตือนใจแนนแล้วผมก็พูดเตือนใจตัวเองไปด้วย
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผมต้องมาเจ็บซ้ำเรื่องเดิมๆ ทั้งๆ ที่ก็เคยมีประสบการณ์อย่างนี้มาแล้ว

"พี่นินไม่โกรธแนนนะคะถ้าเกิดว่า..." แนนหยุดคิด ก็คงจะคิดหนักมากทีเดียวที่จะบอกผมเรื่องนี้
"ถ้าเกิดว่าแนนจะลองให้โอกาสตัวเองอีกครั้ง"

ผมยิ้มบางๆ ให้น้องสาว ไม่รู้ว่าจะโกรธแนนได้ยังไงเหมือนกัน ผมเองยังพลาดซ้ำสองได้เลย
ถึงเราจะไม่รู้ว่าคนที่ผ่านมาใช่คนสุดท้ายหรือเปล่า แต่ถ้าไม่ได้ลองคบกันดูเราก็จะไม่มีทางรู้คำตอบ
คำตอบไม่ได้เกิดจากการคิดหรือคาดเดาเอาในหัว แต่มันได้มาจากประสบการณ์จริง

"พี่จะโกรธแนนทำไม ก็บอกแล้วไงว่าชีวิตแนนก็เป็นของแนน พี่แค่อยากให้แนนดูให้ดีๆ แค่นั้นแหละ
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมาอีก ก็เท่ากับซ้ำเติมชีวิตตัวเอง แล้วพี่ก็ไม่แน่ใจว่าพ่อกับแม่จะเข้าใจได้มากแค่ไหน
ว่าแต่...แนนพร้อมแล้วใช่ไหมที่จะบอกความจริงกับพ่อกับแม่ เหลืออีกไม่กี่วันแล้วนะ"

ผมทันได้เห็นแววตาหวั่นกลัวของน้องสาวที่ถูกกลบเกลื่อนอย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มบางๆ
แม้ว่าแนนจะกลัว แต่ก็ไม่มีหนทางไหนที่จะดีไปมากกว่านี้แล้ว

"ค่ะ แนนไม่อยากปิดบังอีกแล้ว แนนอยากกลับบ้าน อีกอย่าง...พี่นินจะได้ไม่ต้องลำบากเพราะแนนอีก"

ผมรู้ว่าแนนรู้สึกผิดมากแค่ไหนที่พี่ชายอย่างผมต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหาที่แนนทำขึ้น
แรกๆ ผมก็ยอมรับว่าโกรธและโมโหน้องสาวอยู่เหมือนกัน แต่สุดท้ายก็โกรธไม่ลง
ยังไงๆ ปัญหามันก็เกิดแล้ว ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ชอบก็ต้องหาทางแก้ไข

"อย่าพูดอย่างงั้นสิ เราเป็นพี่น้องกันนะ ถ้าพี่ไม่ช่วยแนน แล้วจะให้พี่ช่วยใคร"

แนนมองผมด้วยสายตาซาบซึ้งแต่ก็แฝงความรู้สึกผิดอยู่ในที

"ขอบคุณค่ะพี่นิน แนนขอโทษนะที่ทำให้พี่นินต้องลำบากไปด้วย ถ้าไม่ได้พี่ช่วยแนนคงแย่"

"อย่าคิดมาก มันผ่านไปแล้ว เอาเป็นว่า...พี่ก็ขอให้แนนเจอคนที่ดีๆ ละกันนะ คุณภูริชก็ดูเป็นคนดีอยู่
พี่ก็พูดเท่าที่พี่เห็นนั่นแหละ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าต่อไปจะเป็นยังไง แต่พี่ก็เชื่อว่า...ฟ้าหลังฝนของแนน
จะมีแต่สิ่งดีๆ รออยู่"

ผมยิ้มให้น้องสาวด้วยสายตามีความหวัง แล้วแนนก็ยิ้มตอบกลับมาด้วยสายตาที่มีหวังเช่นเดียวกัน

"พี่นินก็โชคดีนะที่ได้เจอพี่เป็ง พี่เป็งเขารักพี่นินมากนะ แนนดูออก"

แค่ได้ยินชื่อของคนที่ผมเพิ่งเดินจากมาเท่านั้น หน้าผมก็เปลี่ยนสีไปทันทีจนพอสังเกตได้
เมื่อไม่รู้จะกลบเกลื่อนความผิดปกตินี้ยังไงดี ผมก็เลยทำได้แค่ยิ้มเศร้าๆ

"บางทีสิ่งที่แนนเห็นก็อาจจะไม่ใช่สิ่งที่เป็นจริงก็ได้นะ ใครจะไปรู้"

แนนทำท่าสงสัย "ทำไมพี่นินพูดแบบนั้นล่ะ มีอะไรหรือเปล่า"

คานินถอนหายใจคล้ายคนมีความทุกข์ แต่เมื่อคิดสะระตะแล้วก็ตัดสินใจว่าจะยังไม่บอกแนนเรื่องนี้

"เอาไว้ให้พี่ได้คำตอบที่ชัดเจนแล้วพี่จะเล่าให้ฟังละกันนะ พี่ว่าจะไปนอนแล้ว พรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า"

"อ้อ...ค่ะ" แนนรับคำอย่างงงๆ "เอ่อ...พี่จะกินน้ำสักแก้วไหมเดี๋ยวแนนรินให้ เมื่อกี้ก็มัวแต่คุยจนลืม"

"ไม่เป็นไร เดี๋ยวพี่ไปกินที่ห้อง แนนนอนเถอะ"

ผมบอกแล้วก็เดินไปดูหลานชายที่นอนหลับอยู่ในเปล เด็กน้อยหลับตาพริ้มอย่างมีความสุข
แม้ไม่รู้ว่าในตอนที่เกิดมาได้เผชิญเรื่องราวอะไรมาบ้าง แต่เด็กก็คือเด็กนั่นแหละนะ

ผมกลับเข้ามาในห้อง ถอดเสื้อผ้าที่เพิ่งใส่ทับชุดใส่นอนออกไว้ในตะกร้าอย่างอ่อนล้า
ก่อนจะนอนก็ถือโอกาสเข้าห้องน้ำเสียหน่อย จะได้ไม่ตื่นมาปวดฉี่ตอนดึกๆ

พอจัดการธุระเสร็จและกำลังจะออกจากห้องน้ำ ผมก็พลันเหลือบไปเห็นจิ้งจกตัวหนึ่งเข้า
มันกำลังไต่อยู่ใกล้ๆ กระจกในห้องน้ำพอดี เพียงแค่เห็นผมก็นึกถึงใครคนนั้นอีกแล้ว
ผู้ชายตัวโตแต่กลับกลัวสัตว์ตัวเล็กแค่นี้อย่างไม่น่าเชื่อ คิดๆ ไปแล้วก็น่าขำเสียจริง

แต่น่าเสียดายเหลือเกิน ความหวังที่ผมกับเป็งจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมนั้นดูท่าจะยากเสียแล้ว
คนเราลองได้ลังเลขึ้นมาแล้วก็ยากที่จะพาหัวใจตัวเองกลับมาที่จุดเดิม

หลังจากที่ผมบอกเป็งไปว่าขอให้ทบทวนหัวใจตัวเองให้ดี ถ้าได้คำตอบแล้วค่อยมาบอกผม
ผมก็ขอตัวกลับทันที ตอนแรกเป็งจะมาส่ง แต่ผมก็ปฏิเสธและนั่งรถเมล์กลับมาคนเดียว

สุดท้ายคนจนๆ อย่างผมก็คงต้องกลับมาอยู่ในโลกของตัวเองอย่างเดิมจนได้
ก็ดีแล้ว เพราะผมไม่มีอะไรที่จะไปต่อเติมเสริมแต่งให้ชีวิตของเป็งดีกว่าที่เป็นได้เลย
จะว่าไปก็มีแต่จะเป็นภาระเปล่าๆ เพราะฉะนั้น ให้มันจบไปแบบนี้ก็คงดีกว่า

ถึงกระนั้น ผมก็ยอมรับตามตรงว่าผมรู้สึกดีกับเป็งมาก และมันจะกลายเป็นความรักได้ไม่ยากเลย
ที่สำคัญ การที่ผมได้มาเจอผู้ชายคนนี้ ทำให้ชีวิตของผมต้องเปลี่ยนไปตลอดกาล

(http://bit.ly/1VpoldE)

เป็ง...

จะกี่ครั้งที่ผมก้าวขาเข้ามาในร้านนี้ ผมก็มักจะได้พบกับบรรยากาศและคนที่คุ้นเคยเสมอๆ
พนักงานทุกคนยิ้มให้ผมและมักจะกล่าวทักทายอย่างเป็นกันเอง แถมยังรู้ใจเป็นอย่างดี
ก็แน่อยู่แล้ว ผมมาทีไรก็มักจะสั่งอย่างเดิมมากิน จนแทบไม่ต้องเอ่ยปากสั่งด้วยซ้ำ

เช้าวันเสาร์วันนี้คนยังน้อยเหมือนเช่นเคย เพราะส่วนมากก็มักจะออกบ้านกันตอนบ่ายๆ
คิวที่ผมไปต่อแถวก็เลยไม่ยาว มีคนต่อแถวอยู่ข้างหน้าผมเพียงสองคนเท่านั้น

หนุ่มเขี้ยวคนขยันของผมทำหน้าที่บาริสตาและอื่นๆ ตามความจำเป็นอย่างคล่องแคล่วเหมือนเคย
แต่แม้ว่าผมจะยืนอยู่ให้เห็นตรงหน้า หนุ่มเขี้ยวก็ไม่หันมาสนใจผมเลย แม้แต่น้อย
นี่ก็ห้าวันแล้วที่ผมกับคานินไม่ได้เจอกัน หรือถ้าจะพูดให้ถูก เราไม่ได้ติดต่อกันเลยไม่ว่าทางไหน

เหลืออีกเพียงหนึ่งคิวก็จะถึงคิวของผมแล้ว ตั้งใจว่าจะรอเอ่ยทักทายกับคานินเสียหน่อย
พลันผมก็ได้ยินเสียงหวานใสทักทายมาจากด้านหลัง น้ำเสียงฟังดูคุ้นหูมากทีเดียว

"คุณป้องเกียรติหรือเปล่าคะ"

ผมรีบหันไปดูทันทีทันใด พอรู้ว่าเป็นใครก็ทำหน้าแปลกใจและตกใจระคนกันไป

"คุณกัญ"

สาวเขี้ยวเสน่ห์ยิ้มหวานให้ผม ดูเธอดีใจมากทีเดียวที่ได้เจอผมที่นี่โดยบังเอิญ

"อยู่แถวนี้เหรอคะ" กัญชพรยิ้มอวดฟันและเขี้ยวสวยมีเสน่ห์ของเธอ

เอาแล้วสิ ความรู้สึกข้างในของผมปั่นป่วนอีกแล้ว แต่ผมคงไม่ปล่อยให้ตัวเองเขินอายตรงนี้หรอก
อย่างน้อยๆ ผมก็ควรต้องเกรงใจคานินบ้าง

"ครับ คอนโดผมอยู่ในซอยนี้นี่เอง แล้วคุณกัญ...มาทำอะไรที่นี่เหรอครับ หรือว่าอยู่แถวนี้เหมือนกัน"

กัญชพรหัวเราะร่วนเบาๆ อวดเขี้ยวเสน่ห์ให้ผมเห็นอีกระรอก

"เปล่าหรอกค่ะ กัญแวะมาสั่งดอกไม้ที่ร้านแถวๆ นี้น่ะค่ะ จะเอาไปแสดงความยินดีกับญาติหน่อย
เขาเพิ่งรับปริญญา พอดีแว๊บเห็นร้านกาแฟอยู่แถวนี้พอดีก็เลยแวะเข้ามาค่ะ"

"อ้อ...ครับ" ผมพยักหน้ารับรู้ และน่าจะแสดงอาการเขินๆ ออกไปบ้าง ไม่มากก็น้อย

"อ้อ...กัญคุยกับหัวหน้าฝ่ายแล้วนะคะ สรุปว่ากัญต้องไปอบรมกับคุณป้องเกียรติที่นครนายกด้วย
สรุปตอนนี้คืออบรมสามวันต่อรุ่นใช่ไหมคะ"

"ครับ"

"สงสัยเราคงได้เจอกันจนเบื่อเลยนะคะ"

ผมยิ้มเล็กน้อยแล้วก็ขออนุญาตหยุดการสนทนาไว้ก่อนเพราะถึงคิวผมแล้ว

ผมหันหน้ามาประจันกับคานินตรงๆ แม้เจ้าตัวพยายามยิ้มให้ผมสักแค่ไหนก็ดูห่างเหินอยู่ดี
สิ่งที่ทำให้ผมร้อนๆ หนาวๆ ก็คือผมไม่รู้ว่าคานินได้ยินที่ผมคุยกับกัญชพรหรือเปล่า
ยังไงๆ ผมก็เป็นห่วงความรู้สึกของคานิน

"เอาเหมือนเดิมครับ" ผมบอกเสียงเรียบพร้อมกับยิ้มน้อยๆ

คานินพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้ ยิ้มจางๆ ให้ผมทีหนึ่งแล้วก็หันไปง่วนจัดการตามที่ผมสั่งไป

"ลืมถามน่ะค่ะ มาคนเดียวหรือเปล่าคะ" เสียงของกัญชพรถามผมมาจากทางด้านหลัง

ผมหันไปยิ้มและพยักหน้า "ครับ มาคนเดียวครับ"

"ถ้าอย่างงั้น...กัญขอนั่งด้วยคนละกันนะคะ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้ว จะถือโอกาสคุยงานต่อสักหน่อย
คุณป้องเกียรติรังเกียจไหมคะที่จะคุยงานวันหยุดแบบนี้"

"อ๋อ...ไม่หรอกครับ วันหยุดของผมไม่ใช่แค่เสาร์อาทิตย์ ถ้าช่วงไหนไม่มีงานก็หยุดวันไหนก็ได้"

"อ๋อค่ะ"

ไปๆ มาๆ ผมก็ได้มานั่งทานกาแฟกับสาวเขี้ยวเสน่ห์ต่อหน้าต่อตาหนุ่มเขี้ยวเสน่ห์เสียอย่างนั้น
ผมก็ไม่ได้อยากให้เป็นอย่างนี้หรอก มันดูโหดร้ายกับคานินมากเกินไป แต่ก็สุดวิสัยที่จะเลี่ยง

ผมยอมรับตามตรงว่ารู้สึกดีที่ได้นั่งคุยกับสาวสวยเสียงหวานใส กิริยาอ่อนหวานแถมยังมีเขี้ยวเสน่ห์
ไม่รู้ว่าผมเกิดมาคู่ควรกับสิ่งนี้หรือเปล่า ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น ผู้ชายก็คงต้องคู่กับผู้หญิง ตามธรรมชาติ
หรือว่าผมจะไม่สามารถหนีพ้นจากธรรมชาติเหมือนคนทั่วไปได้

กระนั้น ผมก็อดเหลือบมองดูคานินบ่อยๆ ไม่ได้ คานินเองก็คอยมองมาที่ผมบ่อยๆ เช่นกัน
เราเหลือบมองกันบ่อยจนผมยอมรับว่าไม่ค่อยมีสมาธิคุยงานกับกัญชพรเท่าไหร่
ไม่รู้ว่าคานินจะรู้สึกยังไงและคิดอะไรบ้างที่เห็นผมกับกัญชพรนั่งคุยกันต่อหน้าต่อตา

จนกระทั่งการสนทนาของผมกับกัญชพรกำลังจะจบลงและเรากำลังจะแยกย้ายกันไป
พลันผมก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายเป็นภาษาจีน พอเงี่ยหูฟังดีๆ จึงพอเริ่มจับใจความได้

หนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังโวยวายเสียงดังอยู่หน้าเคาน์เตอร์จ่ายเงิน มีคู่กรณีเป็นคานิน นั่นเอง
เท่าที่ผมจับได้ความได้ก็คือสองคนนี้โวยวายคานินว่าเสิร์ฟอาหารเกินมาจึงจะขอเงินคืน
แต่เนื่องจากอาหารที่เกินมามีร่องรอยการกินแล้วจึงคืนไม่ได้ แต่สองคนนั้นก็ไม่ยอม

ผู้ชายพอจะพูดภาษาอังกฤษได้บ้างก็พยายามขอเงินคืน คานินก็พยายามอธิบายว่าคืนไม่ได้
พร้อมกับยืนยันว่าทั้งสองคนเป็นคนสั่งอาหารนั้นด้วยตัวเอง ไม่ได้เอาไปให้ผิดตามที่กล่าวหา
ส่วนผู้หญิงก็ด่าทั้งร้านและคานินเป็นภาษาจีนอย่างเสียๆ หายๆ ชนิดที่ผมฟังแล้วยังสะดุ้ง
ถ้าคานินฟังออกคงได้น้ำตาตกแน่ๆ ทำให้ผมเข้าใจแจ่มแจ้งถึงหัวอกและชีวิตลูกจ้างเป็นอย่างดี

ผมเห็นท่าไม่ดีก็เลยต้องขอตัวไปช่วย และขอให้กัญชพรนั่งรออยู่ที่โต๊ะก่อน

"จ. มีอะไรหรือเปล่าครับ" ผมถามลูกค้าสองคนนั้นเป็นภาษาจีน

หนุ่มสาวสองคนและคานินหันมามองผมพร้อมกัน จะว่าไปลูกค้าและเด็กในร้านคนอื่นๆ ก็มองด้วย
ลูกค้าบางคนทำหน้าเอือมระอากับพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมของนักท่องเที่ยวจีน ที่ตอนนี้ป่วนไปทั่ว
บางคนถึงกับเดินออกจากร้านไปเลยก็มี แต่ก็แปลก ผมไม่ยักเห็นผู้จัดการออกมาเคลียร์ปัญหาเลย
ปล่อยให้ลูกน้องโดนเล่นงานอยู่ได้ ตั้งนานสองนาน

"จ. อ้อ พูดภาษาจีนได้ด้วยเหรอ งั้นดีเลย ช่วยบอกไอ้พนักงานหัวที่มคนนี้หน่อยว่าให้คืนเงินมา
ฉันไม่ได้สั่งซะหน่อย มั่วเอามาให้ได้ยังไง อย่างงี้โกงกันนี่หว่า ฉวยโอกาสได้ยังไง สารเลวจริงๆ"

ผู้หญิงคนนั้นหันมาบอกผมอย่างเผ็ดร้อน น้ำเสียงโวยวายนั้นดังจนคนข้างนอกร้านยังได้ยิน
คานินหน้าเสียจนดูน่าสงสาร เมื่อไม่กี่วันมานี้ก็เพิ่งโดนลูกค้าด่าไปหยกๆ วันนี้โดนอีกแล้ว

"จ. แต่คุณกินไปแล้ว มันคืนไม่ได้นะครับ" ผมพยายามช่วยอธิบายอย่างใจเย็น

"จ. อ้าว ก็ตอนแรกฉันไม่รู้นี่ว่ามันเกินมา ก็กินไปแค่นิดเดียวเอง ไม่รู้แหละ ยังไงๆ ก็ต้องคืนเงิน
ไม่งั้นฉันจะพังร้าน คอยดูสิ"

พอขาดคำผู้หญิงคนนั้นก็หันไปชี้หน้าด่าคานินต่อ คำด่าแต่ละคำเล่นเอาผมหน้าชาเลยทีเดียว

"จ. เอาอย่างงี้ละกันครับ เดี๋ยวผมจ่ายเงินให้พวกคุณสองคนเอง เท่าไหร่ครับ"

ผมพูดกึ่งตะโกน ไม่อย่างงั้นก็คงไม่สามารถเรียกความสนใจจากสองคนนี้ได้
ลูกค้าที่ยืนต่อแถวอยู่เดินหนีกันไปเกือบหมดแล้ว ส่วนคนที่ยังอยู่ก็เริ่มมองหน้ากันเอง
แต่ก็ดูเหมือนว่าขัอเสนอของผมคงน่าสนใจไม่น้อย สองคนนั้นจึงหันกลับมาสนใจผมทันที

"จ. ร้อยยี่สิบบาท" คราวนี้ฝ่ายชายเป็นคนหันมาพูดกับผม

ผมรีบควักกระเป๋าสตางค์ออกมาดู โชคดีที่ผมมีธนบัตรใบละร้อยและยี่สิบบาทอยู่จึงรีบควักให้ไป

ผู้หญิงคนนั้นยื่นมือมารับแทบไม่ทัน "จ. เออ ก็แค่นี้แหละ"

แต่ก่อนจะเดินออกไปเธอก็ไม่วายชี้หน้าด่าคานินอีกเล็กน้อย จนพอใจแล้วถึงได้ออกไปจากร้าน

ผมมองหน้าคานินอย่างเห็นใจ แต่เราสองคนก็กลับไม่ได้พูดอะไรกันเลย เหมือนไม่รู้จะพูดอะไรกัน
พี่กุ้งกับอัญญาเห็นผมกับคานินไม่พูดกันก็คอยแอบมองอย่างสงสัย แต่ไม่กล้าถามตรงๆ

"ขอบคุณนะคะคุณเป็ง" พี่กุ้งเอ่ยขอบคุณแทนเมื่อเห็นคานินยืนนิ่งและไม่พูดอะไร

"ไม่เป็นไรครับ"

ผมยิ้มให้พี่กุ้งและหันกลับมามองคานิน เจ้าตัวทำท่าเหมือนจะยิ้มแต่แล้วก็หุบยิ้มเกือบจะทันที

"ผู้จัดการมา" อัญญาร้องบอกเพื่อนร่วมงานที่ตอนนี้เริ่มมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

ผมเห็นคานินทำหน้าตกใจเล็กน้อย สงสัยคงไม่พ้นโดนผู้จัดการเล่นงานอีกตามเคย
แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในองค์กร ผมเป็นคนนอกไม่สามารถที่จะเข้าไปช่วยอะไรได้ อยู่แล้ว

ผมยิ้มให้กำลังใจคานินแล้วก็ค่อยๆ สาวเท้าเดินกลับมาที่โต๊ะที่กัญชพรนั่งรออยู่
บรรยากาศในร้านเริ่มกลับมาเป็นเหมือนเดิมแล้ว ลูกค้ากลับมาต่อแถวกันตามปกติ

พอผมมาถึงโต๊ะ กัญชพรก็ส่งยิ้มมารับ

"ไม่ไหวเลยนะคะ ดูสิ พนักงานในร้านแต่ละคนหน้าจ๋อยหมดเลย คุณป้องเกียรติเก่งนะคะ
จัดการซะอยู่หมัดเลย ว่าแต่...ฟังภาษาจีนออกด้วยเหรอคะ"

"ครับ ปกติเวลาอยู่บ้านผมก็พูดภาษาจีนกับคนในครอบครัวครับ"

ผมเล่าเรื่องครอบครัวผมให้กัญชพรฟังไปบ้างแล้ว เธอจึงพอรู้ที่มาที่ไปของผม

"อ๋อค่ะ" กัญชพรยิ้มหวานและสบตากับผม "อืม...เดี๋ยวกัญคงต้องไปแล้วล่ะค่ะ"

"แล้วกลับยังไงครับ"

"เอารถมาค่ะ จอดไว้ที่ร้าน"

ผมพยักหน้ารับรู้ เราร่ำลากันแล้วก็แยกย้ายกันไป
ก่อนกลับผมมองหาคานินแต่ก็ไม่เห็นเสียแล้ว  ไม่รู้ว่าโดนผู้จัดการเรียกไปสอบสวนหรือเปล่า
ถ้าใช่ ตอนนี้คงโดนเล่นงานหนักเพราะเมื่อกี้ลูกค้าเดินออกจากร้านไปหลายคน เสียรายได้เยอะเลย

ผมรู้สึกสะท้อนใจกับชีวิตของคานินเหลือเกิน ไม่รู้จะเป็นอย่างนี้อีกนานแค่ไหน มีทางเลือกหรือเปล่า
แล้วผมล่ะ ที่เคยบอกอะไรกับคานินไว้ซะดิบดี ผมยังจะให้มันเป็นอย่างที่บอกต่อไปหรือเปล่า...

(http://bit.ly/1mSYzme)

กว่าจะเสร็จประชุมกับเจและแอนก็สามทุ่มกว่าพอดี แต่ก็ดีที่เราได้ข้อสรุปที่น่าพอใจเกือบหมดแล้ว
ทันทีที่สองคนนั้นออกจากคอนโดผมไป ผมก็รีบรุดมายังหน้าปากซอยเพื่อดักรอใครบางคน
พอมาถึงผมก็พบว่าร้านปิดไปแล้ว ดูเงียบๆ จนไม่คิดว่าน่าจะมีใครหลงเหลืออยู่ในร้านอีก
ผมถอนหายใจด้วยความเสียดาย ถ้าผมมาเร็วกว่านี้อีกหน่อยก็น่าจะพอทันอยู่
พอจะหันหลังกลับ ผมก็เหลือบไปเห็นแผ่นหลังของใครบางคนที่กำลังเดินไปบนทางเท้าไม่ไกลนัก
แค่เห็นท่าเดินผมก็พอรู้ว่าเป็นใคร ผมฉีกยิ้มแล้วก็รีบวิ่งตามไปทันที

"คานิน"

ผมเรียกเจ้าของชื่อที่ตอนนี้กำลังเดินดุ่มๆ ไปยังป้ายรถเมล์ที่ใช้เป็นประจำเพื่อรอรถกลับบ้าน
คานินหยุดเดินแล้วหันมามองตามเสียงเรียก พอรู้ว่าเป็นใครก็ทำท่าจะหันหลังกลับ

"เดี๋ยวก่อนสิคานิน"

คานินหยุดและหันกลับมามองผมอีกครั้ง ผมจึงรีบสาวเท้าเดินเข้าไปหาจนมาหยุดยืนประจันหน้ากัน

"เลิกงานแล้วเหรอ" ผมส่งยิ้มบางๆ ให้

"ครับ" คานินตอบสั้นๆ

"แล้ววันนี้...ผู้จัดการร้านว่าไงบ้าง" ผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

คานินเงียบ ไม่ตอบ ไม่พูดอะไร ทำหน้านิ่งเฉย จนผมต้องเป็นฝ่ายร้อนๆ หนาวๆ เสียเอง

"คานิน ถ้าคานินทำงานที่นี่ไม่ไหว เดี๋ยวผมจะ..."

"คุณเป็งครับ" คานินพูดสวนขึ้นมาด้วยน้ำเสียงเข้ม สีหน้าจริงจังอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

"อย่าทำแบบนี้อีกเลยครับ ความสับสน...ไม่ทำให้ใครรู้สึกดี ต่อให้ทำเหมือนรัก ก็ไม่แน่ใจว่ารักไหม
ต่อให้ทำเหมือนเป็นห่วง ก็ไม่แน่ใจว่าเป็นห่วงเพราะอะไร อย่าลืมที่เราสองคนตกลงกันไว้สิครับ"

คานินหยุดเว้นจังหวะ สายตาที่มองมาทำให้ผมรู้สึกอึดอัดเหลือเกิน

"ยินดีด้วยนะครับ ผมเห็นแล้ว...สาวมีเขี้ยวตัวจริงของคุณเป็ง เขาสวยนะครับ ดูมีชาติตระกูล
เหมาะสมกับคุณเป็งทุกอย่าง นี่ไงครับ ชีวิตที่เราสองคนควรจะเป็น...ผู้ชายคนหนึ่ง...ใช่ไหมครับ"

ผมพูดไม่ออกเมื่อได้ยินคานินตัดพ้อต่อว่าอย่างชัดถ้อยชัดคำ กระนั้น สีหน้าก็ดูเศร้าและอ่อนล้า
เราสองคนยืนมองหน้ากันโดยไม่สนใจคนเดินผ่านไปมา ดีที่ว่าทางเท้าตรงนี้กว้างก็เลยไม่ขวางใคร

ผมถอนหายใจอย่างหนักใจ สภาพที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอย่างนี้ช่างน่ารำคาญสิ้นดี
คานินไม่ไว้ใจผมแล้ว คงเป็นเรื่องยากที่ผมจะพูดหรืออธิบายเหตุผลใดๆ ในตอนนี้

"ไหนๆ มันก็เป็นแบบนี้แล้ว เดินหน้าพิสูจน์ให้มันเต็มที่ไปเลยสิครับ"

คานินย้ำเรื่องเดิมที่เราเคยพูดกันไปคราวนั้นอีกครั้ง แม้จะพยายามทำท่าทางหนักแน่น
แต่มีหรือที่ผมจะไม่เห็นร่องรอยความเจ็บปวดในสายตาคู่นั้น ฟ้องชัดว่าผมได้ทำร้ายคานินไปแล้ว

"ผมไม่อยากพิสูจน์แล้ว ผมกลัว" ผมตัดสินใจบอกความรู้สึกตรงๆ ออกไป

"กลัวทำไมล่ะครับ เพราะสิ่งที่มันน่ากลัวมากกว่าก็คือการที่เราคบกันไป...แล้วสุดท้ายก็ไม่ใช่
ตอนนี้...ผมยอมรับว่าผมเจ็บ เจ็บมากๆ ด้วย แต่ผมยอมเจ็บต่อไปได้ ทำให้มันชัดนะครับคุณเป็ง
ผมขอแค่ให้มันชัด ไม่ว่ามันจะเป็นยังไง ผมรับได้ คุณเป็งไม่ต้องกลัวว่าผมจะรับไม่ได้
ผมเป็นลูกผู้ชายพอ" คานินย้ำประโยคหลังหนักแน่น

"เอาไว้...มีคำตอบให้ผมแล้วเราค่อยกลับมาคุยกันนะครับ"

ขาดคำคานินก็หันหลังกลับแล้วก้าวเท้าเดินออกไป ผมยืนนิ่งอยู่สักพักก็วิ่งตามไปคว้ามือคานินไว้

"คานิน ผมไม่อยากให้เราเป็นแบบนี้เลย"

คานินหยุดและหันมามอง สีหน้ามีความรู้สึกหลายอย่าง โดยรวมก็คือดูเหมือนเข้มแข็ง แต่ไม่ใช่

"ก็มันเป็นแบบนี้ไปแล้วนี่ครับ ผมขอร้องนะครับคุณเป็ง ถ้ายังอยากให้ผมรู้สึกดีๆ กับคุณเป็งอยู่
อย่าจับปลาสองมือเลยนะครับ"

ผมรู้สึกจุกจนพูดไม่ออก มือที่จับคานินไว้กลับไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ในที่สุดก็รั้งมือนั้นไว้ต่อไปไม่ไหว
คานินหันหลังกลับแล้วก้าวเดินออกไป ฝีเท้าเริ่มจากช้าค่อยๆ เร่งจนเร็วขึ้น แต่ไม่ว่าจะช้าหรือเร็ว
ผมก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะตามไปฉุดรั้งไว้ จึงได้แต่มองคานินหายลับไปพร้อมกับรถเมล์สายประจำคันนั้น

ผมสูดหายใจลึกๆ เพื่อลดความเครียดที่รุมเร้าชีวิตของผมมาหลายวันให้คลายลงไปบ้าง
ถึงตอนนี้แล้วผมคงไม่มีทางเลือก รักพี่เสียดายน้องไม่ได้ จับปลาสองมือก็ไม่ดี
ก็คงต้องเดินหน้าบททดสอบหัวใจต่อไป จนกว่าจะเจอคำตอบที่ผมพอใจและใช่ที่สุด

เพราะคงไม่มีใครอยากฝากชีวิตไว้กับคนที่ไม่ชัดเจนเหมือนผมในเวลานี้อย่างแน่นอน!

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 26-03-2016 22:59:27
มันทั้งจุก มันทั้งหน่วง สงสารคานินจัง เข้มแข็งไว้นะคานิน อ่านตอนนี้ก็ร้องไห้อีกแล้วอ่ะ คุณเป็งไม่อยากเรียกคุณเลย เฮ้ออออออ เราขอความชัดเจนจากคุณเป็งได้มั้ย ขออย่างไวเลยเพราะเราสงสารคานินมาก ทำเป็นให้คำมั่นซักดิบดี วาดฝันไว้ซักสวยงาม สุดท้ายก็แค่วิมานในอากาศ ฮือออออ :sad4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 26-03-2016 22:59:47
อ้าวๆ ยังจะมีบททดสอบอีกเหรอคับ ไม่ชอบบรรยากาศแบบนี้เลย ร้อนก็ร้อน เป็งรีบๆตัดสินใจสักทีเถอะ
  รอ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
[/color]
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: boyslover ที่ 26-03-2016 23:09:24
ดราม่ามาเต็ม พระเอกนิสัยโลเลดี มันย้อนแย้งกับการกระทำในบทต้นๆยังไงไม่รู้ตอนที่ตัดสินใจ
จะจีบผู้ชาย(แท้)การตัดสินใจเป็นเกย์ของตัวเองไหนจะเรื่องที่คุยกับพออีก อืมม
ถ้าเป็นคนจริงๆ นิสัยเสียไม่น่าคบมากเลยนะคนแบบพระเอกเนี้ยะ
 :beat:
รอติดตามต่อไปครับอยากรู้ว่า พระเอกของเรื่องจัดการกับตัวเองยังไง
และนายเอกที่กึ่งๆถูกหักหลังจากพระเอก(หรือโดนหักหลังเต็มๆกันหว่าเหอะๆ) มาเรียบร้อยจะทำยังไงต่อ
คงไม่โดนง้อสองสามตอนแล้วหายโกรธหน้าระรื่นมาคลอเคลียกันเหมือนเดิมนะครับ
ความไว้ใจเมื่อโดนทำลายไปครั้งหนึ่งแล้วยากที่จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม (อิน)
 :katai3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 26-03-2016 23:30:22
 :m15:สงสารคานิน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 26-03-2016 23:43:26
โฮฮฮฮฮ ทำไมชีวิตคานินมันน่าสงสารขนาดนี้เนี่ยยยยย งานก็มีปัญหา พ่อแม่ก็จะมา เป็งก็ลังเลไม่แน่นอน  :m15: :m15: :m15:

เป็งจะทำการพิสูจน์หัวใจตัวเองยังไงเนี่ย จะได้เด็ดขาดไปซะที เิาให้เคลียร์ๆไปเลย  :katai1: :katai1: :katai1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 26-03-2016 23:49:04
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-03-2016 00:01:02
หน่วง หน่วง หน่วง อยากให้คานินกลับไปอยู่บ้านดีกว่า ทำงานที่ร้านก็โดนด่าแทบทุกวัน ส่วนเป็งตอนนี้บอกเลยว่าเกลียดนายมากกกกกกกกกกกกก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-03-2016 06:04:59
คานินพูดถูก เลิกจับปลาสองมือได้แล้ว
แถมเป็นจับฝ่ายคานินหลวมอีกต่างหาก
เป็งก็ยังโชคดีนะ ที่คานินยังให้โอกาศ
แต่จะให้ดี ส่งใครเข้ามาสร้างสีสันให้คานินบ้างซิ
ตอนนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ มารุมเร้าคานินอยู่นั่น
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 27-03-2016 08:26:44
มาม่ากำลังได้ที่เลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 27-03-2016 11:04:54
แย่ว่ะ คุณเป็งเป็นคนที่แย่มากๆเลย

ตอนแรกก็คิดว่าถือเป็นบททดสอบ
แต่พอเจอคุณเป็งเป็นคนแบบนี้ ถ้าเป็นเรา เราจะไม่กลับไปคบอ่ะ
อ่านตอนนี้แล้วรู้สึกติดลบกับคุณเป็งเลยจริงๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №13 บททดสอบหัวใจ ⓟ10 ▦ 26.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 27-03-2016 12:45:42
จะร้องไห้แทนคานินจริงๆ นะเนี่ย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ10 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 27-03-2016 14:52:51
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 14 ตัวจริงของเป็ง


(http://bit.ly/1RX8ogL)

ภูริช...

ตั้งแต่รู้จากแนนว่าเป็งไม่ได้ไปหาคานินหลายวันแล้วผมก็ชักเป็นห่วงเพื่อน
ปกติเวลามีเรื่องไม่สบายใจแบบนี้เป็งมักจะปรึกษาผมก่อนเสมอ
แต่น่าแปลกที่คราวนี้เป็งกลับไม่เล่าอะไรให้ผมฟังเลยแม้แต่นิดเดียว

ผมจึงโทรไปบอกเพื่อนรักว่าจะมาหาที่คอนโดเพราะมีเรื่องอยากคุยด้วย
เป็งไม่ขัดข้อง แต่บอกให้ผมมารอที่ล็อบบี้ของคอนโดก่อนเพราะเป็งยังไม่เสร็จงาน

ผมนั่งรออยู่เกือบๆ ครึ่งชั่วโมงเป็งก็มาถึง พอเจอผมก็ยิ้มแปลกๆ ท่าทางมีพิรุธ
เป็งพาผมขึ้นไปบนห้อง พูดคุยถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกันพอหอมปากหอมคอ
จากนั้น ผมก็ขอให้เป็งเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ผมฟังจนหมด ตรงไหนไม่เข้าใจผมก็ซักจนเข้าใจ
ผมจำเป็นต้องได้ข้อมูลมากที่สุดมาวิเคราะห์และตัดสินใจ จะได้ช่วยเพื่อนได้ถูกจุด

พอฟังจบแล้วผมก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเปิดดูข้อความหนึ่งในหนังสือที่ผมถ่ายรูปเก็บไว้
จากนั้นก็อ่านช้าๆ ชัดๆ ให้เพื่อนรักฟังอย่างตั้งใจ

"Love is the desire to support a person in being all that can be.
It's helping the other person to grow emotionally, mentally and spiritually.
Most of all, love is allowing another person the complete freedom
to be himself or herself and accepting that person without trying to change them."

ใช่แล้วครับ ผมเห็นด้วยกับข้อความสั้นๆ ในหนังสือเล่มนี้ที่ผมเคยอ่านอย่างยิ่ง
ความรักคือความปรารถนาที่จะช่วยสนับสนุนให้คนๆ หนึ่งเป็นในสิ่งที่สามารถเป็นได้
ช่วยให้เขาเติบโตทางอารมณ์ จิตใจและจิตวิญญาณ
ที่สำคัญ ความรักคือการยินยอมให้อีกคนมีอิสรภาพอย่างเต็มที่จะเป็นตัวของตัวเอง
และยอมรับคนๆ นั้นอย่างที่เป็นโดยไม่พยายามจะเปลี่ยนแปลงใดๆ

"คานินเขาให้อิสระมึงมากเลยนะเว้ย เขาไม่มาเจ้ากี้เจ้าการกับชีวิตของมึงเลย
ให้โอกาสมึงค้นหาคำตอบให้ตัวเองอีกต่างหาก
มึงรู้ไหมไอ้เป็ง ในโลกนี้มึงจะหาแฟนแบบนี้ไม่ได้ง่ายๆ นะเว้ย
ส่วนมากพอเป็นแฟนกันแล้ว เราก็จะควบคุมชีวิตของกันและกัน จนไม่เป็นตัวของตัวเอง
โดยเฉพาะความรักของชายจริงหญิงแท้ เพราะสังคมสอนมาแบบนั้น
แต่คานินน่ะ...เขารักมึงอย่างบริสุทธิ์ใจ เขาถึงไม่พยายามจะเปลี่ยนมึงไง"

เพื่อนรักของผมหน้าจ๋อย แต่ผมก็จำเป็นต้องเพิ่มดีกรีความแรงขึ้นเรื่อยๆ

"เอาอย่างงี้ละกัน กูมีอะไรที่อยากจะบอกมึงนานแล้ว แต่กูก็ไม่เคยพูดกับมึงเลย"

เป็งมองหน้าผม ทำท่ารอฟังอย่างตั้งใจ

"จากเรื่องที่มึงเล่าให้กูฟัง แล้วก็...จากที่กูเป็นเพื่อนกับมึงมาสิบกว่าปี
กูขอสรุปแบบกำปั้นทุบดินว่า...มึงไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้นหรอก
คนที่มึงชอบ...ก็คือคานิน มึงรู้ไหมว่าทำไมกูถึงคิดอย่างงั้น"

ผมหยุดเว้นจังหวะ พอเห็นเพื่อนรักยังตั้งใจฟังก็พูดสืบไป

"เพราะถ้ามึงชอบคนที่ชื่อกัญชพรจริงๆ มึงคงโทรมาเวิ่นเว้อกับกูตั้งนานแล้ว
มึงก็คงจะบอกให้กูช่วยหาวิธีจีบ หรือไม่ก็คงมาพร่ำเพ้อรำพันว่ามึงชอบเขายังไง
แต่กูไม่เห็นมึงทำอย่างงั้นเลย แถมมึงยังไม่เล่าให้กูฟังอีกว่ามึงเจอเขา
มึงจำตอนที่มึงเจอคานินครั้งแรกได้ไหม มึงจำได้ไหมว่ามึงมาขอให้กูช่วยอะไร
มึงจำอารมณ์ตื่นเต้น พร่ำเพ้อรำพันของมึงได้ไหม มึงเป็นเอามากเลยนะ
ตั้งแต่กูรู้จักมึงมา กูไม่เคยเห็นมึงเป็นแบบนี้เลยนะเว้ยไอ้เป็ง
แล้วตอนที่เราไปเที่ยวด้วยกันที่สวนรถไฟ กูคอยสังเกตพวกมึงสองคนตลอด
กูดูออกว่ามึงน่ะรักคานินมาก มึงก็รู้ตัวดีไม่ใช่เหรอวะไอ้เป็ง"

เป็งหน้านิ่วคิ้วขมวด คงเป็นเพราะคอยคิดตามที่ผมพูดไปเมื่อสักครู่นี้

"แล้วทำไมกูถึงได้สับสนแบบนี้ล่ะไอ้ภู กูก็อยากจะบอกคานินว่ากูยังรู้สึกดีๆ กับเขานะ
แต่กูก็มีปัญหากับไอ้ความสับสนที่มันเพิ่งเกิดขึ้นนี่แหละ กูก็เลยไม่กล้ายืนยัน
กูไม่รู้จริงๆ ว่าทำไมกูสับสนขนาดนี้ มันทำให้กูสงสัยตัวเองว่ากูชอบคานินจริงๆ หรือเปล่า"

ผมพยักหน้ารับรู้อย่างช้าๆ แล้วยิ้มมุมปากให้เพื่อนรัก

"You have to distinguish between infatuation and love" ผมพูดภาษาอังกฤษนำก่อน

"มึงต้องรู้จักแยกแยะระหว่างความหลง...กับความรักนะเว้ยไอ้เป็ง
มึงน่ะ...หลงผู้หญิงมีเขี้ยวมาตั้งแต่มอสาม แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามึงรักผู้หญิงมีเขี้ยวนะเว้ย
ก็มึงน่ะเก็บเอามาพร่ำเพ้อ ฝังใจ ทำอย่างงี้มาสิบๆ ปี แล้วมึงจะไม่สับสนได้ไงวะ
ตอนนี้มึงต้องแยกแยะให้ออก มีเขี้ยวหรือไม่มีเขี้ยวไม่ใช่เหตุผลที่มึงจะรักใครสักคนนะเว้ย
มึงลองคิดดูดีๆ สิ คานินเป็นผู้ชาย มึงจะไปชอบเขาได้ยังไงถ้ามึงไม่รู้สึกกับเขามากพอ
แล้วอะไรล่ะที่ทำให้มึงกล้าตัดสินใจที่จะคบกับคานินทั้งๆ ที่เขาเป็นผู้ชาย
อะไรทำให้มึงมาขอให้กูช่วยมึงว่าจะจีบคานินยังไง จะเอาชนะใจเขาได้ยังไง
อะไรที่ทำให้มึงยอมกินส้มตำเผ็ดๆ ทั้งที่ไม่เคยกิน ท้องเสียจนเกือบตาย
อะไรทำให้มึงไปคุยกับเตี่ยของมึงเรื่องจะมีแฟนเป็นผู้ชาย มึงทำไปเยอะแล้วนะไอ้เป็ง
มึงลองถามตัวเองให้ดีๆ ทั้งหมดที่มึงทำไปเนี่ย...ทำไปเพราะอะไร มึงรักคานินไม่ใช่เหรอ
มึงไม่ได้หวั่นไหวหรอก มันเป็นแค่ Infatuation ที่มึงฝังใจตอนสมัยวัยรุ่นแค่นั้นแหละ
นี่แหละที่กูอยากจะบอกมึงตั้งนานแล้ว แล้วมึงคิดว่า...มึงเชื่อคำพูดกูได้หรือเปล่าล่ะ"

เป็งคงจะอึ้งไปเลยเพราะนั่งนิ่งและครุ่นคิด สักพักก็ลุกขึ้นพรวด ทำท่าจะวิ่งออกไปจากห้อง

"เฮ้ย แล้วมึงจะไปไหน" ผมรีบร้องถาม

เป็งหยุดชะงัก แต่ท่าทางยังดูร้อนรนอยู่ "จะไปหาคานิน"

"ไปตอนนี้เลยเหรอ ไปทำไม"

"กูจะไปขอโทษคานิน ตอนนี้คานินเสียใจมาก กูทำเขาเสียใจมากเลยนะเว้ยไอ้ภู"

"เฮ้ย มึงอย่าเพิ่งใจร้อนสิวะไอ้เป็ง"

ปกติแล้วเป็งไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่น แต่เป็นเพราะเป็งไม่เคยมีความรักมาก่อน
ก็เลยมีอาการรุ่มร้อนไม่ต่างจากเด็กหนุ่มๆ ที่เพิ่งมีความรักครั้งแรก

"มึงก็พูดเองไม่ใช่เหรอว่าคานินไม่ไว้ใจมึงแล้ว ไปอธิบายตอนนี้ก็เท่ากับมึงแก้ตัว
คานินจะยิ่งรู้สึกไม่ดีกับมึงเข้าไปใหญ่ ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน ให้เวลาตัวเองนิดนึง
คานินพูดถูกแล้ว พิสูจน์ให้คานินเห็นก่อนสิว่ามึง...รักเขาจริงๆ"

เป็งดูเหมือนจะเห็นด้วยจึงค่อยๆ นั่งลงอย่างช้าๆ ท่าทางดูผิดหวังอย่างเห็นได้ชัด

"พิสูจน์ยังไงอีกล่ะวะไอ้ภู กูเป็นห่วงคานิน กูเครียดมาหลายวันแล้ว
กูไม่อยากเห็นคานินเจ็บเพราะเรื่องนี้เลย อยากให้จบให้เร็วที่สุด
ที่มึงพูดมาก็ถูกแล้ว มันเป็นแค่ Infatuation ไม่ใช่ Love กูเข้าใจตัวเองแล้ว"

"แล้วมึงจะไปบอกคานินอย่างงี้เหรอ มึงคิดว่าเขาจะเชื่อมึงหรือเปล่าล่ะ"

คำถามของผมทำให้เป็งอึ้งไปอีกรอบ "เออ...นั่นน่ะสิ"

"ที่เจแนะนำมึงมาก็เป็นวิธีที่ใช้ได้นะเว้ย มึงไม่ลองทำดูก่อนล่ะวะ
ไม่ต้องกลัวหรอก ถ้ามึงไม่ได้ชอบผู้หญิงคนนั้น มึงก็จะค่อยๆ รู้ตัวเองแล้วก็ถอยออกมา
มึงจะไปจัดอบรมให้เขาไม่ใช่เหรอ ก็ลองใช้เวลาที่มึงเจอเขาพิสูจน์ไปเลยสิวะ"

"เอางั้นเลยเหรอวะ" เป็งถามอย่างไม่แน่ใจ

"อืม อย่างน้อยมึงก็ยังบอกคานินได้ว่ามึงพิสูจน์แล้ว ไม่ใช่ไปบอกเขาปากเปล่า
คานินไม่เชื่อมึงแน่นอน มึงไม่ต้องห่วงนะ เดี๋ยวกูจะคอยดูคานินให้มึงเองตอนที่มึงไม่อยู่"

เป็งครุ่นคิด สักพักก็ถอนหายใจ ก่อนที่จะค่อยๆ พยักหน้ายอมรับ

"ว่าแต่มึงเหอะ มึงชอบแนนจริงๆ เหรอ เอาจริงใช่ไหม"

เป็งเปลี่ยนเรื่องคุยแบบร้อยแปดสิบองศาจนผมตั้งตัวแทบไม่ทัน แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาหรอก
ผมจับต้นขาสองข้างของตัวเอง เหยียดยิ้มให้เพื่อนแล้วก็พยักหน้า

"ผู้ชายอย่างกูน่ะ...ถ้าจะหาแฟนสาวๆ สวยๆ แล้วก็ไม่มีภาระ กูก็หาได้ไม่ยากหรอก
กูก็คงเหมือนมึงนั่นแหละไอ้เป็ง ถ้ามึงไม่ได้ชอบคานินจริงๆ มึงจะกล้าจีบผู้ชายเหรอวะ
ส่วนกู ถ้ากูไม่รู้สึกกับแนนมากขนาดนั้นจริงๆ กูจะไปจีบผู้หญิงมีลูกติดทำไมวะ"

เป็งพยักหน้ารับรู้ "ก็น่าจะจริง นั่นสิ...ถ้ากูไม่รู้สึกกับคานินขนาดนั้น กูจะไปจีบเขาทำไม"

แล้วเป็งก็ถอนหายใจเบาๆ สีหน้าดูเหมือนสบายใจขึ้นมากหลังจากที่เริ่มได้คำตอบแล้ว
เป็งยิ้มบางๆ ให้ผม ก่อนจะเอื้อมมือมาตบไหล่ผมเบาๆ

"มึงก็อย่าทำให้แนนเสียใจล่ะ คานินรักน้องสาวมาก เขาไม่ยอมให้น้องเขาเจ็บอีกหรอก"

"เออ...กูรู้น่า" ผมรับคำแล้วก็ขำเบาๆ กับเพื่อนรัก

"ขอบใจมากนะเว้ย กูเชื่อมึงนะไอ้ภู มึงเป็นเพื่อนกูมาสิบกว่าปี
กูคิดว่ามึงเห็นอะไรหลายๆ ที่กูไม่สามารถเห็นได้ด้วยตัวของกูเอง
กูคิดว่ากูได้คำตอบที่ชัดเจนแล้ว เหลือแค่พิสูจน์ให้มั่นใจอีกนิดหน่อย"

นานๆ ทีผมจะเห็นเป็งทำท่าทางซาบซึ้งแบบนี้กับผม
ปกติคนเป็นเพื่อนกันก็มักจะเล่นสนุกและไม่ค่อยมีสาระเท่าไหร่
แต่ถึงจะไม่ชิน ก็ไม่ใช่เรื่องยากที่ผมจะปรับตัวกับสีหน้าและแววตาแบบนั้นของเพื่อนรักได้

"ไม่เป็นไรเว้ย มึงเพื่อนกูนี่ ไม่ช่วยมึงแล้วกูจะช่วยใครวะ"

ผมตบไหล่เพื่อนเบาๆ บ้าง เป็งยิ้มได้แล้ว คงจะหายทุกข์ใจไปพอสมควร
"กูขอโทษด้วยนะเว้ยที่กูไม่ได้ปรึกษามึงเรื่องนี้ตั้งแต่แรก ป่านนี้เรื่องคงจบนานแล้ว"

เป็งขำตัวเองเบาๆ ผมก็หัวเราะตามันไปด้วยพร้อมกับแอบยิ้ม
ยังหรอกเพื่อนรัก บททดสอบของนายยังไม่จบง่ายๆ แค่นี้
ขอโทษจริงๆ นะเพื่อนที่นายจะต้องเจอบททดสอบหนักๆ อีกสักหน่อย!!!

(http://bit.ly/1mSYzme)

คานิน...

แม้ว่าจะเลิกงานดึกกว่าคนทั่วไปเป็นประจำจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว
แต่ช่วงนี้ผมก็รู้สึกเหนื่อยล้าและไม่มีความสุขกับการทำงานและใช้ชีวิตเลย
หน้าตาท่าทางของผมจึงแสดงออกมาตามความรู้สึกข้างในที่ตอนนี้ปิดบังไม่ได้แล้ว

"พี่คานินเป็นไรน่ะช่วงนี้ ทำไมดูไม่ร่าเริงเลย เหม่อๆ ชอบกล มีเรื่องไม่สบายใจเหรอ"

ผมละสายตาจากการมองออกไปนอกตัวรถ ก่อนจะหันมายิ้มเศร้าๆ ให้คนที่นั่งข้างๆ

"ก็นิดหน่อย"

"เรื่องคุณเป็งเหรอ อัญไม่เห็นคุณเป็งมาหาพี่คานินเลยช่วงนี้ ตอนเจอกันก็ไม่คุยกันด้วย
มีอะไรหรือเปล่าคะพี่นิน ทะเลาะกันเหรอ"

แม้ว่าก่อนหน้านี้อัญญาพยายามจะสร้างความสัมพันธ์กับผม
แต่พอรู้ว่าเป็งกับผมคบกัน เธอก็เลิกความคิดนั้นไปได้สักพักใหญ่แล้ว

"แหงๆ เลย แล้วใครผิดล่ะ คุณเป็งผิดเหรอ เดี๋ยวคุณเป็งก็มาง้อแหละ ไม่ต้องเครียดหรอก"

อัญพยายามปลอบใจ แต่สำหรับผมมันไม่ใช่เรื่องง้อหรือไม่ง้อ ปัญหามันมากกว่านั้น

"คงไม่หรอกมั้ง" ผมบอกไปเบาๆ โดยไม่หันไปมองหน้า

"ทำไมล่ะคะ เรื่องใหญ่เลยเหรอ" อัญญาถามด้วยท่าทางอยากรู้

ผมถอนหายใจเบาๆ รู้สึกเหนื่อยกับตัวเองที่ต้องมาทุกข์ใจกับเรื่องนี้หลายวันแล้ว
แค่งานอย่างเดียวก็ปวดหัวจะแย่ แถมพ่อกับแม่ก็กำลังจะขึ้นมาหาอีกสองวันข้างหน้า

"ดูเครียดขนาดนี้ สงสัยจะเป็นเรื่องใหญ่ พี่คานินเล่าให้อัญฟังก็ได้นะ เผื่ออัญช่วยได้"

ผมหันไปมองหน้าอัญญา เธอยิ้มเล็กยิ้มน้อย ทำให้ผมต้องชั่งใจพอสมควร

"ถ้าเกิดอัญมีแฟน คบกันไปสักพัก...แล้วเขาก็บอกอัญว่า...อัญไม่น่าใช่คนที่เขาต้องการ
อัญจะทำยังไง"

อัญญานิ่วหน้า "โห คำถามยากจัง เรื่องใหญ่นะเนี่ย ก็คงต้องเลิกกันนั่นแหละ ก็ไม่ใช่แล้วนี่"

"แล้วอัญจะโกรธเขาหรือเปล่า"

"โกรธมั้ง แต่อย่างว่า...ไม่ใช่ก็คือไม่ใช่ อืม...อัญไม่ชอบคิดเรื่องแบบนี้เลย เครียด
อย่าบอกนะว่า...คุณเป็งเขาพูดกับพี่คานินแบบนี้"

ผมละสายตาจากอัญญา ถอนหายใจอีกครั้ง

"คุณเป็งเขาคงชอบผู้หญิงมากกว่า คงไม่ได้ชอบผู้ชายหรอก"

"จริงเหรอคะ" อัญญาทำตาโต "อัญว่าแล้วต้องเป็นแบบนี้"

ผมหันกลับมามองอัญญาอย่างสัย ไม่รู้ว่าเธอสังเกตยังไงถึงรู้ว่าสุดท้ายก็จะเป็นแบบนี้

"ก็พี่สองคนน่ะไม่เห็นจะเหมือนเกย์ตรงไหนเลย ตอนอัญรู้ว่าเป็นแฟนกันอัญยังงงเลย
ก็เห็นแมนๆ ทั้งคู่ ไม่รู้ชอบกันได้ยังไง แล้วอีกอย่างนะ คุณเป็งน่ะเขาคนละระดับกับเรา
พี่คานินสังเกตไหมล่ะว่าเดี๋ยวนี้ไม่ค่อยมีละครประเภทพระเอกรวย นางเอกจนอีกแล้ว
สมัยนี้นะ คนรวยก็อยู่กับคนรวย คนจนก็อยู่กับคนจน คนปานกลางก็อยู่กับคนปานกลาง
อัญว่าพี่เป็งน่ะเขาคงเห็นแล้วล่ะว่าพี่คานินกับเขาต่างกันมาก เข้ากันยาก ใช่ไหมล่ะคะ"

ถ้าเป็นเมื่อก่อน ผมคงคิดว่าอัญญาพยายามเสี้ยม แต่ตอนนี้ผมกลับคล้อยตามไม่ยากนัก
อาจจะเป็นเพราะสิ่งที่เธอพูดตรงกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริงตอนนี้ก็ได้

"แล้ว...คุณเป็งเขาแอบไปมีแฟนเป็นผู้หญิงเหรอคะ"

อัญญาถามอย่างไม่ลดละ ดูท่าทางเธอคงจะอยากรู้เรื่องของผมกับเป็งมากจริงๆ

"ถ้าลำบากใจก็ไม่ต้องพูดก็ได้ค่ะ แต่อัญขอเดาว่าใช่ละกัน แย่จังเลยนะคะ"

อัญญาทำเป็นถอนหายใจและพยายามแสดงสีหน้าว่าเห็นใจผม

"พี่คานินไม่ต้องเสียใจหรอก ถ้าเขามีแฟนเป็นผู้หญิงได้ พี่คานินก็มีแฟนเป็นผู้หญิงได้เหมือนกัน"

"อัญหมายความว่าไง" ผมหันมาถามอย่างตกใจ

"พรุ่งนี้...เลิกงานแล้วเราไปหาอะไรสนุกๆ ทำกันดีไหมคะ"

แทนที่จะตอบคำถาม อัญญากลับเชิญชวนผมด้วยคำถามกำกวมเสียอย่างนั้น

"ไม่ต้องคิดมากหรอกค่ะพี่คานิน จะเครียดทำไมตลอดเวลาล่ะคะ
ไปทำอะไรสนุกให้มันคลายเครียดดีกว่า เผื่ออะไรมันจะดีขึ้น ตกลงนะคะ"

ตอนแรกผมกะว่าจะปฏิเสธ แต่พอนึกถึงคำแนะนำของใครบางคน ผมก็ต้องคิดใหม่
แม้ว่าผมจะไม่รู้เลยว่าอัญญาจะชวนผมไปไหน สุดท้ายผมก็ตอบตกลงด้วยการพยักหน้า
อัญญายิ้มอย่างพอใจ แต่ผมกลับกังวลว่าตัวเองตัดสินใจดีแล้วหรือเปล่า

(http://bit.ly/1VpoldE)

เป็ง...

การอบรมวันแรกผ่านไปได้ด้วยดี ถือว่าได้รับการตอบรับจากผู้เข้าร่วมมากพอสมควร
หลังจากเลิก ผมกับน้องๆ ในทีมและกัญชพรก็ประชุมสรุปงานและเตรียมสำหรับวันต่อไป
ประมาณหกโมงเย็นจึงประชุมเสร็จ จากนั้นกัญชพรก็พาพวกเราออกไปเลี้ยงอาหารเย็นข้างนอก
ส่วนผู้เข้าร่วมคนอื่นๆ ก็จัดการเรื่องกินอยู่ของตัวเองตามอัธยาศัยเพราะได้เบี้ยเลี้ยงแล้ว

ร้านอาหารที่กัญชพรพาพวกเรามาเป็นร้านอาหารขึ้นชื่อของจังหวัดนครนายกร้านหนึ่ง
เมนูยอดนิยมเป็นอาหารเกี่ยวกับปลา ลำบากเจหน่อยเพราะกินได้แต่ผัดผัก

"คุณเป็ง คุณเจ แล้วก็คุณแอนเก่งมากๆ เลยนะคะ พออบรมวันนี้แล้วทำให้เข้าใจเลยค่ะ
การที่เราไปตำหนิตัวคนมันทำให้เกิดปัญหาความขัดแย้งจริงๆ นั่นแหละ
อย่างเมื่อก่อน เวลาเกิดปัญหาขึ้นเราก็ชอบหาคนผิด ชอบตำหนิกัน ว่าตัวบุคคล
กัญเพิ่งรู้วันนี้เองว่าเราพูดถึงแค่ปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่จำเป็นต้องพูดถึงตัวบุคคลก็ได้
มีประโยชน์มากๆ เลยค่ะ"

กัญชพรเริ่มการสนทนากับผมเมื่อเราหาโต๊ะนั่งได้แล้ว พอสนิทกันมากขึ้นเธอก็เรียกผมว่า "เป็ง"
ส่วนอีกสองคนที่กัญชพรเอ่ยชมด้วยไม่อยู่ที่โต๊ะ มาถึงก็ขอตัวไปห้องน้ำก่อนเลย

"ครับ" ผมรับคำสั้นๆ แล้วก็ยิ้ม พร้อมกับสบตากับกัญชพรอย่างมีความหมาย

"คุณเป็งไปเรียนเรื่องนี้มาจากอเมริกาเลยเหรอคะ"

กัญชพรยิ้มเผยให้เห็นเขี้ยวเสน่ห์เช่นเคย แต่สักพักก็เริ่มเขินๆ เมื่อรู้ว่าผมจ้องเธอไม่วางตา

"ครับ พอดีเจอพี่หริ่งที่นั่น พี่เขาชวนไปลองอบรมดู พอดีผมว่างๆ ก็เลยไป พออบแล้วก็ชอบ
ก็พยายามหาที่อบเรื่อยๆ ก็ได้พี่หริ่งนี่แหละครับที่คอยแจ้งเวลามีอบรม"

ผมยังคงไม่ละสายตาจากกัญชพร คราวนี้เธอเขินจนต้องหยิบเมนูมาดูโดยไม่รู้ตัว
แต่สักพักก็วางลงเพราะตกลงกันว่าให้สองคนนั้นมาก่อนแล้วค่อยสั่งพร้อมกัน

"คุณเป็ง...มีอะไรหรือเปล่าคะ"

"ทำไมเหรอครับ" ผมยิ้มกรุ้มกริ่ม กะให้อีกคนละลายไปต่อหน้าต่อตา

"ก็...เปล่าค่ะ" กัญชพรหัวเราะเบาๆ กลบเกลื่อน

ผมรู้ว่าเธออยากถามว่าผมมองเธอทำไม แต่สุดท้ายเธอก็ไม่กล้าถาม
ใช่ว่าผมรู้แล้วจะยอมละสายตาเสียเมื่อไหร่ ผมยังคงมองเธออยู่ โดยเฉพาะเขี้ยวเสน่ห์

"คุณกัญ...มีแฟนหรือยังครับ"

เชื่อว่าสาวๆ คนไหนเจอหนุ่มหล่อถามคำถามนี้ก็คงสงสัยว่าคนถามอาจคิดอะไรบางอย่าง
ความจริงผมได้ข้อมูลมาแล้วล่ะว่าเธอยังไม่มีแฟน แต่ผมก็ยังอยากฟังจากปากของเธออยู่ดี

"ยังค่ะ คุณเป็งถามทำไมเหรอคะ"

กัญชพรยิ้มเขิน แต่เจ้าตัวก็พยายามรักษาอาการไว้อย่างเต็มที่

"ไม่น่าเชื่อนะครับว่าคนสวยๆ อย่างคุณกัญยังไม่มีแฟน"

"ตอนนี้กัญก็ทำแต่งานน่ะค่ะ เลยยังไม่ได้สนใจเรื่องมีแฟนเท่าไหร่"

ผมพยักหน้ารับรู้ "แล้ว...เมื่อไหร่จะคิดล่ะครับ"

"ไม่รู้เหมือนกันค่ะ ถ้าเจอคนที่ถูกใจก็อาจจะคิดมั้งคะ"

หญิงสาวตรงหน้าผมหลบตา เธอมองไปรอบๆ แต่สุดท้ายก็มาหยุดสายตาที่ผมอยู่ดี

"ยิ้มอะไรคะ"

คราวนี้ผมเป็นฝ่ายหัวเราะร่วนบ้าง "ไม่มีอะไรหรอกครับ แค่สงสัยว่า...คุณกัญเจอคนถูกใจหรือยัง"

"ถามแบบนี้...จะจีบหรือเปล่าคะ"

นับว่าผมคิดผิดไปมากทีเดียว ผมนึกว่ากัญจะไม่กล้าถาม แต่เธอกลับกล้ากว่าที่ผมคิดไว้
จากที่ยิ้มอยู่ผมก็ค่อยๆ หุบยิ้ม ก็อย่างที่รู้กัน ผู้หญิงสมัยนี้เปิดเผยมากกว่าเมื่อก่อน

"จะตอบว่าไงดีล่ะครับ"

"ไม่รู้ค่ะ กัญก็ถามไปงั้นแหละ คนหล่อๆ อย่างคุณเป็งคงไม่โสดหรอก ใช่ไหมคะ"

สาวเจ้ายิ้มอีกแล้ว ทำให้ผมเข้าใจเลยว่าทำไมผู้ชายถึงแพ้ความอ่อนหวานของผู้หญิง
พอเจอกับตัวเองเข้าก็เลยรู้ว่ามันยากแค่ไหนที่จะต้านทาน
บวกกับเขี้ยวเสน่ห์ของเธอด้วยก็ยิ่งแล้วใหญ่ ยากกว่าอีกหลายเท่าตัวเลย

"ก็..." ผมโคลงศีรษะพร้อมกับขำเบาๆ

"อึกอักแบบนี้ มีแล้วแน่ๆ เลย"

กัญชพรดูคลายความเขินอายลงเมื่อเธอกำลังสงสัยว่าผมคงมีแฟนแล้ว
จะให้ผมโกหกก็คงใช่ที่ แต่กระนั้น ผมก็ไม่ได้บอกออกไปตรงๆ

เจกับแอนกลับมาที่โต๊ะอาหารพอดี ผมกับกัญชพรจึงยุติการสนทนาไว้แต่เพียงเท่านี้
หลังจากนั้นเราก็คุยกันเรื่องทั่วๆ ไป แต่เผลอเมื่อไหร่ผมกับกัญชพรก็มักจะสบตากันบ่อยๆ

หลังจากอาหารเย็น เราทั้งสี่คนต่างก็แยกย้ายกันไปพักผ่อนตามอัธยาศัย
เจกับแอนไปเดินเล่นที่สระว่ายน้ำ กัญชพรขอตัวไปพักผ่อนที่ห้องพัก
ส่วนผม ตอนแรกว่าจะขึ้นห้องพักเลยเหมือนกัน แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจตามเจและแอนมา

แรกๆ เราสามคนก็เดินคุยกันอย่างสบายอารมณ์ แต่สักพักผมก็แยกตัวออกมาเดินคนเดียว
หยิบมือถือขึ้นมาแล้วก็เช็คไลน์เป็นอันดับแรก เผื่อว่ามีใครติดต่องานเข้ามา แต่ก็ไม่มีอะไร
จากนั้นจึงเปิดดูเฟสบุ๊คดูความเคลื่อนไหวของคนรู้จักว่าทำอะไรกันบ้าง
เลื่อนไปเลื่อนมาก็เจอกับโพสต์ที่ทำให้ผมถึงกับอึ้ง

คานินไม่ค่อยโพสต์บนเฟสบุ๊คเท่าไหร่ แต่วันนี้มาแปลกเพราะโพสต์หลายภาพเลย
แต่ละภาพนั้นล้วนแล้วแต่กำลังคลอเคลียกับอัญญาในผับที่ไหนสักแห่ง
ดูท่าทางว่าจะเมามากเสียด้วย คนที่ไม่เคยรู้จักเห็นแล้วต้องคิดว่าสองคนนี้เป็นแฟนกันแน่

ผมเลื่อนดูภาพที่คานินโพสต์จนหมดทุกภาพด้วยอาการมือไม้สั่นเทา
ตอนแรกกะว่าจะโทรหาคานินโดยตรง แต่พอนึกได้ว่าไม่ควรก็โทรหาเพื่อนรักแทน

"ไอ้ภู มึงมีเฟสคานินหรือเปล่า มึงเห็นหรือยัง" พอเพื่อนรับสายผมก็เข้าเรื่องทันที

"เออ เห็นแล้ว" ภูริชตอบมาอย่างกับไม่มีอะไรสำคัญ

"เห็นแล้ว" ผมทวนเสียงสูง "ก็ไหนว่ามึงจะช่วยดูแลคานินให้กูไง" ผมโอดครวญ

"เฮ้ย กูไม่ได้ตัวติดกับคานินนะเว้ย แล้วอีกอย่าง...มันก็เป็นสิทธิ์ของคานินนี่หว่า"

"แต่คานินเป็นแฟนกูอยู่นะเว้ย มึงรู้ไหมว่าผู้หญิงในรูปที่ชื่ออัญน่ะ จ้องจะงาบคานินอยู่
ไปเที่ยวผับด้วยกันแบบนี้ ไม่รู้ว่าไปถึงไหนต่อไหนกันแล้ว โอ๊ย...เครียดว่ะ"

"มึงหึงเหรอ"

"เออดิ" ผมยอมรับตามตรง ถ้ากลับตอนนี้ได้ผมคงกลับไปทันที

"หึงทำไมวะ มึงมีสาว คานินก็มีสาวมั่ง ยุติธรรมดีออก"

"เฮ้ยไอ้ภู มึงจะเอาไงกันแน่ ไหนว่ามึงจะช่วยกูไง ทำไมมึงพูดเหมือนอยากให้คานินเลิกกับกูวะ"

"เปล่าเว้ย" ภูริชรีบแก้ตัว "แต่มึงก็ต้องเข้าใจคานินนะเว้ย เขากำลังเครียดๆ อยู่
ก็คงอยากผ่อนคลายบ้างอะไรบ้าง ไม่มีอะไรหรอกน่า อย่าคิดมากเพื่อน"

"ไม่คิดมากได้ไงวะ กูไม่ไว้ใจผู้หญิงที่ชื่ออัญเลยนะเว้ย คราวก่อนคานินก็เกือบไปทีแล้ว"

"มึงไม่ไว้ใจคานินเหรอไอ้เป็ง คานินไม่ทำอย่างงั้นหรอกน่า"

"คานินไม่ทำ แต่อัญน่ะไม่แน่ กูกลัวเว้ย ยังไงๆ มึงก็ช่วยดูให้กูหน่อยละกัน"

ผมบอกอย่างจนปัญญา ผมอยู่ไกลขนาดนี้ แถมยังคุยกับคานินไม่ได้อีก ก็ทำได้แค่นี้แหละ

"เออๆ เดี๋ยวกูดูให้ พรุ่งนี้ก็จะไปหาคานินที่ร้านแล้วคุยกับเขาดู"

"ขอบใจมากเพื่อน อย่าลืมนะเว้ย ฝากเตือนคานินเรื่องอัญด้วย อย่าไปไหนกับอัญแบบนี้บ่อยๆ"

"เออๆ เดี๋ยวจะบอกให้ แค่นี้ก่อนนะเว้ย ม๊ากูโทรมา"

"เดี๋ยวๆๆ พ่อกับแม่ของคานินมาวันมะรืนนี้ใช่ไหม"

"ใช่ๆ แค่นี้ก่อนนะเว้ย กูมีธุระกับม๊านิดนึง"

"เออๆ"

จบการสนทนาปุ๊บผมก็ถอนหายใจปั๊บ ไม่ทันจะได้ทำอะไร เจก็เดินยิ้มแฉ่งเข้ามาหาผม

"พี่เป็ง พี่เป็งได้คำตอบแล้วใช่ไหมว่าจะเลือกใคร"

ผมหน้านิ่วคิ้วขมวดอีกรอบ เพิ่งเครียดกับเรื่องคานินหยกๆ นี่เจก็จะทำให้เครียดอีกแล้วเหรอ

"เจรู้ได้ยังไง"

รุ่นน้องหน้าหวานของผมเอามือล้วงกระเป๋า ยิ้มมีเลศนัย

"แหม...กินข้าวไป สบตากันไป ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่เลยนะพี่
สรุปว่า...คนนี้ตัวจริงของพี่เป็งใช่ไหมครับ ถ้างั้น...ผมขอจีบคานินนะครับพี่ เนี่ย...ผมมีเบอร์แล้ว
ขอโทรหาคานินคืนนี้เลยละกันนะครับ"

ผมเกือบจะหลุดปากเรียกเจว่า "ไอ้เจ" อยู่แล้วเชียว พอดีเจวิ่งหนีไปซะก่อน แอนก็หายไปด้วย

จะไม่ให้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ได้ยังไงล่ะ ที่ผมทำไปทั้งหมดก็มาจากที่เจแนะนำทั้งนั้นแหละ

"อะไรวะเนี่ย!" ผมสบถกับตัวเองเบาๆ อย่างหัวเสีย

การสื่อสารอย่างสันติที่เรียนมาตั้งหลายปีช่วยผมไม่ได้ซะแล้ว
ตอนนี้ผมอยากจะสื่อสารอย่างรุนแรงซะมากกว่า

มึง! ไอ้เจนะไอ้เจ!

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 27-03-2016 15:44:43
เป็งหนอเป็ง ขำอะ สับสนจนปล่อยให้คานินไปกับอัญจนได้ 555 หึงคานินแล้วสิ
รอ รออ่านตอนต่อไปนะคับ ว่าจะเป็นยังไง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 27-03-2016 16:50:40
หึหึ ขนาดคิดว่ารักคานิน
เป็งยังไปทำเจ้าชู้ใส่คุณกัญชพรอีก
ถ้าเขามาหลงรักเป็งอีกคน จะทำอย่างไรล่ะ
ว่าแต่อัญญายังคิดจะงาบคานินอยู่มั้ยล่ะเนี่ย
แล้วเจคิดจะจีบคานินจริงๆหรือเป็นแผนอีกอ่ะ
รอดูว่าเป็งกับคานินจะรีเทิร์นกัยแบบไหนแล้วกัน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 27-03-2016 16:57:38
5555 เป็งโดนรุม เริ่มจะเจรจาอย่างสันติไม่ไหวแล้ว หึงออกนอกหน้าขนาดนี้ คานินเป็นตัวจริงชัวร์ :m20: :m20: :m20:

สาวอัญวงแผนจะทำไรคานินมั้ยเนี่ย  :z3: :z3: :z3:

มาต่อไวๆน้าคร้าบบบ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 27-03-2016 17:38:18
อารมณ์เป็งตอนนี้ เตรียมเขวี้ยงใส่หัวเจเต็มที่ 555

(http://www.mx7.com/i/cc5/GH2hat.jpg) (http://www.mx7.com/view2/z0gJlMeu7wNWIKeB)

 :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 27-03-2016 17:49:01
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 27-03-2016 18:17:52
3 วันนี้เป็งคงจะชัดเจนในความรู้สึกมากขึ้นแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 27-03-2016 18:49:32
สมน้ำหน้าเป็ง เอาให้อกแตกตายไปเลย คานินไม่ใช่ของตายนะเว้ย มีแต่คนอยากงาบคานินทั้งนั้น
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 27-03-2016 19:44:25
กว่าจะรู้นะเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: ปุกปิกกุกกิกไปตามสไต ที่ 27-03-2016 20:12:01
เป้งเราว่านายรีบๆเลยก่อนที่ใครต่อใครจะเอาคานนินไปกิน5555555 มาต่อไวๆน่ามันค้างอ่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 27-03-2016 21:45:25
 :pig4:  :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: FRODO ที่ 27-03-2016 22:05:55
อั๊ยย่ะ เดี๋ยวก็ยุ่งกันไปพันกันมาหรอก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: 5DRAGON5 ที่ 27-03-2016 23:34:26
นี่ถ้าดิฉันเป็นชะนีอัญ ก็จะแย่งคานินมาให้ได้ ข้อหาเป็งน่าหมั่นไส้ แต่จริงๆเราก็เชียร์น่ะแหละ :beat: :n1: :katai3: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 28-03-2016 15:14:07
เป็งระวังจะเสียคานินน่ะ ไม่อยากให้คานินเสียทีอัญเลยน่ะ ไม่อยากน้ำเน่าแบบนี้ งานนี้เจหลอกเป็งหรือเปล่าเนี่ย 5555 รออ่านต่อไป สนุกจริง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 28-03-2016 15:34:24
มีแต่คนจะรุมกินคานิน 555+
เป็งหึงแรงขนาดนี้  รู้ใจตัวเองแล้วใช่ปะละ อิๆ

รีบไปหาคานินด่วนๆๆ ก่อนจะโดนกิน 555+
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 28-03-2016 15:38:40
สมน้ำหน้าเป็งเล็กๆ แต่ก้อเข้าใจน่ะ ยังไงไม่อยากให้เรื่องลงที่คานินเสียท่าอัญน่ะมันดูน้ำเน่ายังไงชอบกล งานนี้เป็งโดนเจหลอกไหมเนี่ย  :mew4: รอตอนต่อไป  :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 29-03-2016 11:15:31
ถ้าจะบอกว่า สมน้ำหน้า คงไม่ผิดใช่ไหม 55555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 30-03-2016 08:12:38
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 30-03-2016 11:28:35
ไม่มั่นคง ไม่แน่ใจ ไม่ทำอะไรให้ชัดเจน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 30-03-2016 23:34:30
คานิน จะโดนอัญ จับกินมั้ยนี้- -
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 31-03-2016 16:46:01
น่ารักอะ

(https://z-1-scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xtf1/v/t1.0-9/10650039_914235315362375_7149403761477256336_n.jpg?oh=1f20d40f2658a71f279167e87407e420&oe=57863340)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 31-03-2016 16:46:23
นี่ก็ตลก

(https://z-1-scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xtf1/t31.0-8/12473818_10153878408406005_4312019622258661918_o.jpg)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 31-03-2016 17:00:39
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 15 ใครกันที่โลเล


(http://bit.ly/1RX8ogL)

เป็ง...

ไม่น่าเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือรุ่นดีและเบาที่สุดของผมจะหนักจนถือไว้ไม่นานก็ต้องวางลง
ทุกครั้งที่ทำท่าจะกดโทรออก ผมก็ต้องวางมันลงบนโต๊ะทำงานในห้องพักทุกทีไป
แล้วก็พยายามนึกหาคำพูดว่าถ้าอีกฝ่ายรับสายแล้วจะเริ่มต้นการสนทนายังไงดี
จนแล้วจนรอดก็นึกไม่ออก ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ ยังไม่เจอคำพูดถูกใจเสียมากกว่า

จนมาถึงจุดๆ หนึ่งที่ผมคิดว่าต้องตัดสินใจ ถ้าจะโทรก็โทรเลย ถ้าไม่โทรก็ไปทำอย่างอื่น
เอาวะ! เป็นไงก็เป็นกัน อันที่จริงผมกับคานินก็ยังเป็นแฟนกันอยู่ ยังไม่ได้เลิกกันซะหน่อย
ทำไมผมจะโทรหาแฟนผมไม่ได้ ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกและกลั้นใจกดโทรออกไป
เพียงครู่เดียวเจ้าของน้ำเสียงที่ผมคิดถึงก็เอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงที่ฟังไม่ออกว่ารู้สักยังไง

"สวัสดีครับ"

ฟังดูเป็นทางการจัง แต่ช่างเถอะ แค่ยอมคุยด้วยผมก็ดีใจแล้ว

"คานินกลับถึงบ้านหรือยัง" ถามด้วยน้ำเสียงที่คิดว่าแสดงความเป็นห่วงได้มากที่สุด

"ถึงแล้วครับ" ตอบด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนเย็นชาชอบกล

"อ้อ เอ่อ...แล้ว...นอนหรือยังล่ะ" ช่างเป็นเรื่องที่ไม่น่าถาม นอนแล้วจะคุยโทรศัพท์ได้ยังไง

"ยังครับ เล่นกับวินอยู่"

"อ้อ..." ผมลากเสียงยาว "วินสบายดีนะ ผมคิดถึงหลาน อยากไปเล่นด้วย"

"ครับ" ตอบห้วนสั้น แล้วคงหันไปหยอกเล่นกับหลานเพราะได้ยินเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊ากของวิน

"แล้วแนนล่ะ"

"ก็สบายดีครับ"

ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่มีสมาธิคุยกับผมเท่าไหร่ คุยไปหยอกหลานเล่นไปด้วย

"อ้อ...เอ่อ...แล้ว...เมื่อกี้...มีใครโทรหาคานินหรือเปล่า" กว่าจะเข้าเรื่องได้ผมก็เอ่ออ่าอยู่นาน

"มีครับ เจโทรมา"

นั่น! เจโทรมาหาคานินจนได้ ผมชักจะหยุดความอยากรู้ไม่ได้ซะแล้วว่าเจโทรมาคุยเรื่องอะไร

"โทรมาเรื่องอะไรครับ" ผมกลั้นใจถามอย่างละลาบละล้วงไปเพราะปกติไม่เคยทำขนาดนี้

"ไม่มีอะไร แค่โทรมาคุยเล่นเฉยๆ พอดีเจสนใจอยากเรียนชงกาแฟ เขาอยากให้ผมสอนหน่อย"

นั่น! ช้าไปนิดเดียวมันรุกคืบซะแล้ว

"แต่ว่า...เจไม่ชอบดื่มกาแฟนี่ ทำไมอยากเรียนล่ะ"

"ไม่รู้เหมือนกันครับ แต่ยังไงๆ ผมก็นัดวันกับเจไว้แล้วว่าจะไปสอนให้ที่บ้าน"

"จะดีเหรอคานิน ไปสอนที่บ้านเลยเหรอ" ผมขึ้นเสียงสูงอย่างลืมตัว แต่พอนึกได้ก็ปรับใหม่

"จริงๆ มาสอนที่คอนโดผมก็ได้ ผมมีเครื่องชงกาแฟในห้องด้วย"

"ไม่เป็นไร ไม่รบกวนหรอกครับ"

ได้ยินแล้วผมก็ใจเสีย คงเป็นเพราะวันนั้นที่ทำให้คานินไม่อยากให้ผมช่วยอะไรอีก
เขาถึงว่าสิ่งที่กู้คืนกลับมาได้ยากที่สุดก็คือความไว้วางใจ

"ไม่รบกวนหรอก ผมยินดี มาสอนที่คอนโดผมก็ได้ เดี๋ยวผมบอกเจให้"

"ไม่ดีกว่าครับ" คานินยืนยันเช่นเดิม จากนั้นก็หันไปเล่นกับวินและคุยกับแนนไปด้วย

"คานิน...ไม่อยากมาคอนโดผมแล้วเหรอ"

คราวนี้หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์เงียบไปเลย แค่นี้ผมก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวลำบากใจ
ผมเผลอทำให้คานินเสียใจจนไม่ไว้ใจผมเสียแล้ว แม้จะพลาดเพียงครั้งเดียวก็เถอะ
ครั้นผมจะขอโทษ ผมก็ไม่เคยขอโทษใครทางโทรศัพท์ ต้องเจอตัวเป็นๆ เท่านั้น

"อืม...เดี๋ยวผมขอตัวช่วยแนนเตรียมของทำหมูปิ้งก่อนนะครับ"

คานินถือโอกาสตัดการสนทนาด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ก็ฟังดูเย็นชาไม่น้อย

"อ้าว อย่างงั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เย็นๆ ผมโทรมาใหม่นะคานิน เอาใจช่วยเรื่องพ่อกับแม่นะ"

"ขอบคุณครับ"

แล้วการสนทนาของผมกับคานินก็จบลงแต่เพียงเท่านี้ ผมวางโทรศัพท์แล้วก็ถอนหายใจยาว
คานินกำลังสร้างระยะห่างจากผม ชักจะเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีเสียแล้ว
แต่ก็คงไม่มีอะไรดีไปกว่าที่ผมต้องอดทน ผิดแล้วก็ต้องเป็นฝ่ายแก้ปัญหาให้ได้ต่อไป
ก็ไม่เป็นปัญหาสำหรับผมหรอก คนที่โตมาในครอบครัวที่ทำธุรกิจอย่างผมไม่ย่อท้อง่ายๆ

ถึงจะเคืองเจ แต่ผมก็ต้องขอบคุณคำแนะนำของเจที่ทำให้ผมรู้ว่า...
สาวเขี้ยวเสน่ห์ยังไม่สามารถมัดหัวใจผมได้เท่ากับหนุ่มเขี้ยวเสน่ห์แม้แต่น้อย

For her, it's just infatuation.  For him, it's probably......
.....
....
...
..
.
LOVE!

(http://bit.ly/1mSYzme)

คานิน...

แนนตั้งท่าเตรียมก้มกราบแทบเท้าของผู้มีพระคุณที่ยืนตกตะลึงด้วยน้ำตาอาบแก้มทั้งสอง
ทั้งพ่อและแม่ของผมต่างยืนตัวแข็งทื่อ แทบจะไม่ก้มมองเลยด้วยซ้ำว่าลูกสาวกำลังทำอะไร

"พ่อ...แม่...แนนขอโทษ แนนผิดไปแล้ว" แนนพูดพร้อมกับค่อยๆ ก้มกราบแทบเท้าพ่อกับแม่

พ่อผมเขยิบเท้าหนีเล็กน้อย แนนหยุดชะงักครู่เดียวแต่ก็กราบต่อไปตามที่ตั้งใจไว้แต่แรก

ไม่มีเสียงการสนทนาใดๆ นอกจากเสียงร้องไห้ของแนน ส่วนวินนอนหลับอยู่ในเปล
ผมเห็นน้องสาวร้องไห้แล้วก็ได้แต่สงสารและรอการตอบสนองของพ่อกับแม่อย่างระทึกใจ

"พ่อกับแม่จะลงโทษหนูยังไงก็ได้ ทั้งหมดเป็นความผิดของหนูเอง หนูมันเลวเอง
ไม่ใช่เพราะว่าพ่อกับแม่สอนหนูไม่ดี พ่อขาแม่ขา...หนูขอโทษ ยกโทษให้หนูกับลูกด้วย"

ผมเห็นแม่ร้องไห้เพราะน้ำตาท่านไหลออกมา ส่วนพ่อยังคงยืนหน้าตึงตัวแข็งเหมือนเดิม
คราวนี้ถึงตาผมต้องกราบขอโทษพ่อกับแม่บ้างแล้ว เพราะผมก็มีส่วนผิดมากทีเดียว
แต่พอกำลังจะคลานเข่าไปใกล้ พ่อผมก็ชี้หน้าพร้อมตวาดเสียงดัง มือไม้สั่นเทา

"นี่ใช่ไหมที่มึงบอกมึงดูแลน้องเป็นอย่างดี ดีจริงๆ ซะด้วย งามหน้าไหมล่ะ!
กูถึงว่าล่ะทำไมมึงไม่ยอมให้น้องกลับบ้าน เพราะมันพากันทำเรื่องชั่วๆ อย่างงี้นี่เอง!"

ผมหยุดชะงักเพราะไม่เคยเห็นพ่อโกรธมากขนาดนี้มาก่อน แม้จะเข้าใจแต่ผมก็เริ่มกลัว

"พ่อ..." แนนเงยหน้าและลุกขึ้นนั่งพับเพียบ "พ่ออย่าโทษพี่นินเลยค่ะ หนูผิดเอง
หนูเป็นคนบอกให้พี่นินช่วยปิดบังพ่อกับแม่เอง พี่นินไม่ผิดนะคะพ่อ"

"มึงเงียบไปเลย" พ่อผมหันไปตวาดน้องสาว

แนนชะงักและอ้าปากค้างด้วยความตกใจ ตั้งแต่เกิดมา พ่อไม่เคยพูดมึงกูกับผมและน้องสาวเลย
แม่เริ่มมองเราสองคนพี่น้องด้วยสายตาเป็นกังวล แต่ก็ยังไม่แสดงท่าทีชัดเจนว่าคิดยังไง

"เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แทนที่มึงจะบอกพ่อกับแม่ มึงกลับช่วยน้องปิดบังอีก มีหัวคิดบ้างไหม หา!"

ดูเหมือนว่าความผิดทั้งหมดจะตกมาที่ผมซะแล้ว พ่อผมหันรีหันขวางเหมือนกับมองหาอะไรอยูู่
จากนั้นก็หันไปสั่งพี่เหน่งซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องของผมและช่วยขับรถมาส่งพ่อกับแม่ที่นี่

"ไอ้เหน่ง เอาไม้กวาดมาให้อาหน่อย"

พี่ชายผมซึ่งเป็นลูกชายของลุงเดินไปหยิบด้ามไม้กวาดมาให้พ่อผมอย่างเกรงๆ
พ่อรับมาแล้วก็หวดไม้กวาดลงบนตัวผมไม่ยั้ง แม่ น้องสาวและพี่ชายรีบเข้ามาช่วยห้าม แทบไม่ทัน
แต่กว่าจะหยุดพ่อผมได้ ผมก็เจ็บตัวและฟกช้ำดำเขียวตามตัวไปหมด

วินตื่นขึ้นมาพอดีพร้อมกับร้องไห้จ้า แนนถลาไปหาลูกแล้วก็ยกออกจากเปลมาอุ้มไว้
ลูกร้องไห้ด้วยความตกใจเสียงดัง ส่วนแม่ก็ร้องไห้เพราะความผิดพลาดของตัวเอง ช่างน่าเวทนา

"พ่อ..." ผมร้องไห้และมองพ่อด้วยสายตาที่แสดงความน้อยใจ ลูบตามเนื้อตัวตรงที่รู้สึกเจ็บ

ดูเหมือนพ่อจะได้สติขึ้นมาบ้าง อาจจะรู้สึกผิดด้วยเพราะพ่อไม่เคยตีผมหนักขนาดนี้มาก่อน

"พอเถอะพ่อ เรื่องมันเกิดไปแล้ว หลานมันก็เกิดมาแล้ว"

ในที่สุดแม่ผมก็ยอมพูดออกมา สายตาของแม่ดูเจ็บปวดอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน
อาจจะเป็นเพราะบ้านของเราไม่เคยมีเรื่องทะเลาะกันใหญ่โตอย่างนี้
แม้จะสงสารลูก แต่ก็คงอดที่จะโกรธและเจ็บปวดกับสิ่งที่ผมกับแนนทำลงไปไม่ได้

"แนน! ไปเก็บของกลับบ้านเดี๋ยวนี้!"

พ่อหันไปออกคำสั่งกับแนน ความจริงเรารู้อยู่แล้วว่าพ่อกับแม่คงให้แนนกลับไปอยู่บ้าน
ผมก็เลยช่วยแนนเก็บเสื้อผ้าใส่กระเป๋าและของใช้ต่างๆ ใส่ลังกระดาษไว้พร้อม

แนนพยักหน้ารับคำแล้วก็หันมามองผมด้วยสายตารู้สึกผิด

"เดี๋ยวพี่ช่วย" พี่เหน่งอาสาพลางเดินไปดูข้าวของที่จะขนออกจากห้อง

"แนน...เอาหลานมาให้แม่มา" แม่ผมหันไปบอกน้องสาว ที่ยังดูงงๆ อยู่

แนนค่อยๆ ลุกขึ้นแล้วเดินเอาหลานมาส่งให้แม่อย่างกล้าๆ กลัวๆ
สายตาคอยชำเลืองมองดูพ่อที่หน้าตึงอยู่ตลอดเวลา แต่พ่อผมก็ไม่ได้พูดอะไร

แม่ผมรับหลานมาแล้วก็ช่วยโอ๋ วินเป็นเด็กหน้าตาน่ารัก ไม่นานพ่อกับแม่จะหลงหลาน
ผมมองภาพแม่ที่กำลังปลอบหลานชายที่กำลังร้องไห้จ้าแล้วก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาได้บ้าง
อย่างน้อยแม่ก็น่าจะเป็นคนแรกที่เข้าใจและให้อภัยแนน

"อาไปรอที่รถก่อนก็ได้ครับ เดี๋ยวผมกับแนนช่วยกันขนของเอง นินไม่ต้องช่วยนะ"

พี่เหน่งพูดกับพ่อแม่ผม ก่อนจะหันมาบอกผมตอนท้ายๆ ด้วยแววตาแสดงความสงสาร
ถ้าพี่เหน่งรู้ว่าพ่อจะเอาไม้กวาดมาตีผมก็คงไม่ส่งให้ แต่ตอนนั้นทุกคนคงตกใจจนลืมคิด

พ่อผมก้าวฉับๆ ออกไปจากห้อง แม่เดินตามไปอย่างช้าๆ แต่ก็หยุดหันมามองผมครู่หนึ่งก่อนไป

"แม่กลับก่อนนะนิน"

ผมยังไม่ทันจะได้เอ่ยลาหรือยกมือไหว้ แม่ก็พาหลานที่หยุดร้องไห้หายไปจากลานสายตาผม แล้ว
ผมเองไม่ได้เจอกับพ่อแม่มานานพอๆ กับแนน เพราะเมื่อแนนกลับไม่ได้ ผมก็กลับไม่ได้เหมือนกัน
น่าเสียดายที่เราไม่ได้มีโอกาสใช้เวลาด้วยกันอย่างมีความสุขเลย

ไม่เป็นไรหรอก รอให้ทุกอย่างคลี่คลายแล้วผมค่อยไปหาพ่อกับแม่ที่บ้านทีหลังก็ได้

ผมยืนมองแนนกับพี่เหน่งช่วยกันยกของออกไปจากห้องด้วยความรู้สึกที่ยากจะบอก
แม้ว่าอยากช่วยแต่ก็เจ็บตามเนื้อตัวจนไม่สามารถจะช่วยอะไรได้ เลย
จนกระทั่งลังชิ้นสุดท้ายถูกยกออกไปจากห้อง ผมจึงตามพี่เหน่งและแนนลงไปข้างล่าง

พ่อกับแม่นั่งอยู่ที่นั่งด้านหลังรถกระบะที่พี่เหน่งขับมาส่ง ดูเหมือนแม่กำลังเล่นกับหลานแล้ว
ส่วนพ่อผมยังคงนั่งหน้าบึ้งเหมือนเดิม แต่เชื่อว่าอีกไม่นานคงจะทนความน่ารักของหลานไม่ไหว

แนนเดินเข้ามาหาผม น้ำตาอาบแก้ม จากนั้นก็กอดผมไว้พร้อมกับร้องไห้สะอึกสะอื้น

"พี่นิน แนนไปแล้วนะคะ พี่นินดูแลตัวเองดีๆ นะ ขอบคุณพี่นินมาก ขอบคุณมากๆ ที่ช่วยแนน
แนนขอโทษพี่นินด้วยที่ทำให้พี่ต้องเดือดร้อน...แล้วก็เจ็บตัว แนนขอโทษนะพี่ ขอโทษจริงๆ"

ผมกอดน้องสาวตอบ สุดท้ายก็อดที่จะร้องไห้อีกครั้งไม่ได้

"ไม่เป็นไรแนน ไม่ต้องคิดมาก เอาไว้ว่างๆ แล้วพี่จะไปหาที่บ้านนะ"

"ค่ะพี่ แนนไปแล้วนะพี่นิน"

นี่คือประโยคสุดท้ายของแนนที่ผมได้ยินก่อนที่ทุกคนจะออกเดินทางกลับไปนครนายก กัน
ผมมองรถของพี่เหน่งค่อยๆ แล่นออกไปจนหายไปจากสายตา จากนั้นก็ถอนหายใจ
แค่นี้ไม่เป็นไรสำหรับผมหรอก อย่างน้อยพ่อกับแม่ก็ยอมพาแนนกลับไปที่บ้าน แล้ว
ดีกว่าให้แนนอุดอู้เลี้ยงลูกอยู่คนเดียวในห้องแคบๆ อย่างนี้เป็นไหนๆ

ส่วนเรื่องชาวบ้านจะว่ายังไงนั้นมันก็ช่วยไม่ได้ ห้ามคนนินทาก็เหมือนห้ามไฟไม่ให้มีควัน
ผมก็หวังแค่ว่าทุกคนจะเข้มแข็งและผ่านช่วงเวลาที่แสนเจ็บปวดไปได้ในไม่ช้า
เมื่อแนนเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้แล้วก็จะหมดไปหาไปหนึ่งเปลาะ ชีวิตจะได้ไปต่อเสียที

(http://bit.ly/1VpoldE)

เป็ง...

พอเสร็จจากงานอบรม ผมก็ยอมนิสัยเสียด้วยการไม่ประชุมสรุปงานทันที อย่าที่เคยทำ
ด้วยความที่เป็นห่วงคานิน ผมก็เลยขอยกยอดเอาไว้ประชุมกันวันหลัง
กระนั้น กว่าจะได้ฤกษ์ออกจากโรงแรมก็เป็นเวลาเกือบๆ สองทุ่ม

มาถึงกรุงเทพก็สามทุ่มพอดี แต่ผมก็ต้องไปส่งเจกับแอนที่บ้านก่อน
เพราะฉะนั้น กว่าผมจะพาตัวเองมาถึงอพาร์ทเมนท์ของคานินได้ก็สี่ทุ่มกว่าไปแล้ว
โชคดีหน่อยที่ รปภ. ที่นี่จำผมได้ ก็เลยช่วยเปิดประตูให้ผมเข้าไปข้างใน
จนกระทั่งผมพาตัวเองมาอยู่หน้าห้องของคานินได้ในที่สุด

ผมเคาะประตูเรียกไม่นาน ประตูห้องก็ถูกเปิดออกพร้อมๆ กับคนที่ผมแสนจะคิดถึง
คานินไม่ยิ้ม ไม่แสดงความดีใจ มีเพียงสีหน้าเรียบเฉยและแววตาที่ดูเหมือนเศร้า

"ผมเข้าไปได้ไหมคานิน" ผมขออนุญาตก่อนเป็นอันดับแรก

คานินพยักหน้า ก่อนจะถอยหลังออกไปเล็กน้อยเพื่อเปิดประตู้ให้กว้างขึ้นพอให้ผมเข้าไปได้
พอเข้ามาในห้อง ผมก็หันมองไปรอบๆ เพื่อดูว่ามีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง มองหาจิ้งจกด้วย

"พ่อกับแม่ล่ะ กลับไปแล้วเหรอ" ผมหันมาถามคานินด้วยความสงสัย

"ครับ" คานินตอบเบาๆ

"พาแนนกลับไปด้วยหรือเปล่า"

คานินพยักหน้า ก่อนจะถามอะไรต่อผมก็พลันสังเกตเห็นรอยฟกช้ำดำเขียวตามแขนขาของคานิน
ผมขมวดคิ้วด้วยความสงสัยสุดขีด ก่อนจะเดินเข้าไปสำรวจดูใกล้ๆ ให้แน่ใจว่าไม่ได้ตาฝาดไป
ผมจับแขนของคานินพลิกไปมาเบาๆ พร้อมกับเพ่งดู พอรู้ว่าเป็นรอยฟกช้ำจริงๆ ก็ตกใจไม่น้อย

"คานินไปโดนอะไรมา" ผมถามด้วยน้ำเสียงเป็นห่วง

เราสองคนยืนจ้องหน้ากันสักพัก คานินยิ้มเศร้าๆ แล้วจึงบอกผม

"ไม่เป็นไรหรอกครับ แค่นี้ไม่ตายหรอก"

"แล้วใครเป็นคนทำคานินล่ะ" ผมถามกลับไปทันที แต่ไม่นานก็พอจะปะติดปะต่อเรื่องเองได้

"พ่อของคานินเหรอ"

คานินเงียบและก้มหน้าลงเล็กน้อย ไม่ปฎิเสธอย่างนี้ก็แสดงว่าคงใช่อย่างที่ผมเดา ไว้

"โธ่...คานิน"

ผมไม่สนใจแล้วว่าเรายังมีความบาดหมางที่ยังต้องเคลียร์กันอยู่อีกกี่เรื่อง
เมื่อความสงสารแล่นเข้ามาจับหัวใจ ผมก็ดึงคานินมากอดไว้ แต่ก็ระวังไม่ให้อีกฝ่ายเจ็บ
สิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมดีใจในเวลานี้ก็คือคานินยอมกอดผมตอบ ไม่ตัวแข็งเหมือนคราวนั้น

"ไม่เป็นไรนะ คนดีของพี่เป็ง"

ผมพูดประโยคนี้ออกไปด้วยความรู้สึกว่ามันคือคำพูดที่ผมควรจะพูดมากที่สุด
ผมอายุมากกว่าคานินก็จริง แต่ที่ผ่านมาไม่เคยเรียกแทนตัวเองว่าพี่เลย จนกระทั่งวันนี้
อย่างน้อย คำว่า "พี่" คงช่วยทำให้คานินรู้สึกอบอุ่นใจและรู้ว่ายังมีที่พึ่งอยู่ตรงนี้อีกคน

ดูเหมือนคานินกำลังร้องไห้เพราะตัวเริ่มโยน ผมจึงกอดปลอบแน่นขึ้นอีกนิด
คานินคงน้อยใจหรือไม่ก็เสียใจที่ถูกพ่อตี ถ้าเดาไม่ผิดคงเป็นโทษฐานที่ช่วยปิดบังเรื่องแนน
เตี่ยผมต่อให้โกรธขนาดไหนก็ไม่ตีผมขนาดนี้หรอก ถ้าผมเจอแบบนี้บ้างคนเสียใจไม่ต่างกัน

ผมปล่อยให้คานินกอดผมไว้จนกระทั่งเจ้าตัวเริ่มสงบอารมณ์ลง
เราค่อยๆ ผละออกจากกัน แต่ก็ยังคงยืนประจันหน้ากันอยู่ในระยะเพียงแค่เอื้อม

"คานินกินอะไรหรือยัง" ผมถามเมื่อนึกขึ้นได้

หนุ่มเขี้ยวส่ายหน้าเป็นเชิงปฏิเสธ ตรงกับที่ผมเดาไว้พอดิบพอดีเลย

"เดี๋ยวผมโทรสั่งอาหารมากินละกันนะ ผมก็ยังไม่ได้กินเหมือนกัน"

คานินพยักหน้าตกลงตามที่ผมเสนอ ผมพยายามช้อนตามองคานินที่ก้มหน้านิดๆ

"ให้ผมอยู่เป็นเพื่อนนะคานิน รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงคานินมาก เสร็จงานก็รีบมาหาเลย"

คานินนิ่งเงียบ ผมจึงถือวิสาสะเดาเอาเองว่าตกลงแล้วกัน

"แล้วทายาหรือยัง" ผมถามพร้อมกับไล่มองรอยฟกช้ำบนแขนไปด้วย

คานินส่ายหน้าอีกครั้ง ทำให้ผมอดที่จะรู้สึกสงสารอีกไม่ได้

"มียาทาหรือเปล่า ไม่งั้นผมจะออกไปซื้อให้"

"มีครับ...อยู่ในลิ้นชัก" คานินบอกพลางมองไปที่ลิ้นชักของโต๊ะทำงานเล็กๆ ในห้องตัวเอง

"เดี๋ยวพี่ทาให้นะ" ผมเลือกใช้คำว่าพี่อีกครั้ง ด้วยวัตถุประสงค์เดิม

คานินมองหน้าผมด้วยความรู้สึกบางอย่าง ก่อนจะพยักหน้าตกลงช้าๆ

"งั้นคานินนั่งรอที่เตียงก่อนนะ เดี๋ยวผมสั่งอาหารก่อนค่อยทายา"

คานินพยักหน้าและทำตามที่ผมบอกอย่างว่าง่าย ผมหยิบโทรศัพท์มาแล้วก็โทรสั่งเชสเตอร์กริลล์
พอจัดการสั่งอาหารเสร็จแล้วจึงเดินไปที่โต๊ะตัวเล็กๆ แล้วเปิดลิ้นชักออกมา
พอเห็นหลอดยาทาแก้ฟกช้ำก็คว้ามาอย่างเร็วแล้วเดินมาที่เตียงที่คานินนั่งรออยู่

"ผมยังไม่ได้อาบน้ำเลย นั่งบนเตียงคานินได้ไหม" ผมไม่ลืมที่จะขออนุญาตก่อน

"ได้ครับ" คานินตอบสั้นๆ

ผมจึงนั่งลงบนเตียงตรงหน้าคานิน เปิดหลอดยาแล้วก็ยกแขนคานินขึ้นมาดู
รอยที่เกิดขึ้นมีตั้งแต่ฟกช้ำธรรมดาไปจนถึงรอยฟกช้ำที่ถูกตีด้วยของแข็งอย่างหนัก
แอบสงสัยว่าทำไมคานินไม่ทายาตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่อารมณ์คนเสียใจคงไม่อยากทำอะไร

ผมบีบยาลงไปบนรอยฟกช้ำแล้วทาอย่างเบามือที่สุด กระนั้นคานินก็ซี๊ดปากตรงรอยที่เจ็บมากๆ
พอทาแขนเสร็จแล้วผมก็ลงไปนั่งย่อตัวกับพื้นข้างเตียง ก่อนจะลงมือทายาให้ที่ขา เบาๆ

คานินคงจะอาบน้ำแล้วเพราะใส่กางเกงขาสั้นและเสื้อยืดสำหรับนอน
จะว่าไป คานินก็เป็นผู้ชายที่ขาสวยคนหนึ่งทีเดียว ถ้าได้ออกกำลังกายสักหน่อยน่าจะดี

พอทาขาเสร็จ ผมก็ขึ้นมานั่งบนเตียงกับคานินตามเดิม ดูเหมือนคานินจะยิ้มให้ผมนิดๆ ด้วย

"อ้อ แล้วที่หลังมีไหม" ผมถามขึ้นเมื่อนึกได้ หนุ่มเขี้ยวพยักหน้าเป็นเชิงยอมรับ

"งั้น...คานินถอดเสื้อไหวไหม ผมจะได้ดูให้ทั่วแล้วก็ทายาให้"

คานินชะงักเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าตกลงแต่โดยดี

"งั้นคานินถอดเสื้อออกก่อนนะ" ผมบอกแล้วก็ลุกไปนั่งข้างหลังคานิน

เพียงไม่นาน แผ่นหลังที่นวลเนียนก็โผล่พ้นเสื้อยืดออกมาอวดสายตาผม
อย่าหาว่าผมทะลึ่งเลย แต่เห็นแล้วก็อดนึกถึงวันนั้นที่ผมกับคานินมีความสัมพันธ์กันไม่ได้

ผมไล่ดูแผ่นหลังของคานินจนทั่ว จากนั้นจึงลงมือทายาตามรอยที่ปรากฎให้เห็น
ในใจก็แอบสงสัยว่าคานินเขินบ้างหรือเปล่า นั่งเงียบไม่ยอมพูดยอมจาอยู่ท่าเดียวเลย

"แล้วตรงนี้ล่ะ มีหรือเปล่า" ผมถามพลางเอามือแตะเบาๆ ตรงบริเวณใต้สะเอวทางด้านหลัง

คานินสะดุ้งเล็กน้อยแล้วรีบหันขวับมาบอก "ไม่มีครับ"

ผมอดหัวเราะเบาๆ ด้วยความเอ็นดูไม่ได้ คานินของผมน่ารักแบบนี้เสมอเลย
แล้วผมจะอดใจไม่รักคนน่ารักอย่างคานินได้ยังไงไหว ยิ่งรู้ว่ามีคนอื่นมาชอบก็ยิ่งหวง

คานินหันกลับไปตามเดิมแล้วก็หยิบเอาเสื้อที่วางไว้บนเตียงขึ้นมาเตรียมใส่กลับเหมือนเดิม

ผมมองแผ่นหลังของคานินพลางครุ่นคิด ครั้งหนึ่งร่างเปลือยเปล่านี้เคยอยู่ในอ้อมกอดของผม
ร่างเล็กสั่นสะท้านและโอบกอดผมไว้แน่นยามที่รู้สึกถึงความเสียวกระสันและวาบหวาม
แม้เรารู้จักกันไม่นาน แต่ผมกลับรู้สึกว่าเราสองคนมีอะไรหลายอย่างที่เข้ากันได้ดี จนน่าแปลกใจ
คงน่าเสียดายไม่น้อยหากความหลงที่ผ่านมาของผมทำให้สูญเสียคนอย่างคานินไป

ก่อนที่เสื้อตัวนั้นจะถูกใส่เข้าไป ผมก็กอดคานินจากทางด้านหลังอย่างเบามือไว้เสียก่อน
คานินหยุดชะงักแล้ววางเสื้อตัวนั้นลงอย่างช้าๆ ไม่มีท่าทีว่าจะต่อต้านหรือขัดขืนแต่อย่างใด

"ผมได้คำตอบแล้วนะคานินว่าคนที่ใช่สำหรับผมคือใคร คานินอยากฟังไหม"

"อย่าเพิ่งบอกผมตอนนี้เลยครับคุณเป็ง" คานินพูดสวนกลับมาเกือบจะทันทีทันใด

"ทำไมเหรอ" ผมขมวดคิ้วมุ่นด้วยความสงสัย เสียความมั่นใจไปพอสมควรที่ถูกปฏิเสธ

"ผมว่าเราสองคน...ต้องให้เวลากับตัวเองมากกว่านี้นะครับ จนกว่าจะแน่ใจจริงๆ"

พูดมาแบบนี้ผมก็อึ้งจนแทบพูดไม่ออก พูดเหมือนกับคานินเองก็ลังเลใจเหมือนกันเลย

"ผมไม่อยากพิสูจน์ใจตัวเองอีกแล้วนะคานิน ผมได้คำตอบที่ผมพอใจแล้ว"

ผมบอกไปด้วยใจหวั่น ในใจคิดฟุ้งซ่านไปร้อยแปดว่าอะไรกำลังจะเกิดขึ้นกันแน่

"แต่ผม...ยังไม่ได้คำตอบที่พอใจนะครับคุณเป็ง"

ผมรู้สึกเหมือนคนหูอื้อหรือไม่ก็คงเสียการรับรู้บางอย่างไปแล้ว คานินหมายถึงอะไรกันแน่
ผมปล่อยคานินออกจากอ้อมแขนแล้วคานินก็หันมามองผม ท่าทีดูแปลกไปจนผมใจคอไม่ดี

"คานินหมายความว่าไง อัญเหรอ...หรือว่า...เจ"

คานินพยักหน้ายอมรับอย่างหน้าตาเฉย เล่นเอาผมใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มจนแทบหยุดหายใจ
ไม่น่าเชื่อเลย ผมไม่อยู่แค่เพียงสามวันทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้?

สรุปแล้วใครกันแน่ที่ลังเล!? ผม คานิน หรือทั้งคู่!?

TBC...


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №14 ตัวจริงของเป็ง ⓟ11 ▦ 27.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 31-03-2016 17:03:38

(https://z-1-scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xtf1/v/t1.0-9/10650039_914235315362375_7149403761477256336_n.jpg?oh=1f20d40f2658a71f279167e87407e420&oe=57863340)

(https://z-1-scontent.xx.fbcdn.net/hphotos-xtf1/t31.0-8/12473818_10153878408406005_4312019622258661918_o.jpg)

ชอบๆๆ  :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 31-03-2016 17:23:29
เจนี่มาชอบคานินจริงๆ หรือมากระตุ้นเป็งให้รู้สึกตัวเร็วขึ้นเนี่ย เป็งหวงออกอาการมากอ่ะ 5555 :laugh: :laugh: :laugh:

บางทีพ่อก็ทำรุนแรงเกินไปนะ เอาไม้กวาดมาตีทั้งๆที่ไม่ได้เป็นคนทำ ถ้าบอกว่าดูแลไม่ดี เอาจริงๆ ตอนเค้าจะไปทำอะไรกัน จะรับรู้ด้วยมั้ย เฮ้อออ แล้วที่ไม่บอกแต่แรก เพราะรู้ว่าบอกแล้วต้องโมโหแบบนี้ไง :เฮ้อ: :เฮ้อ: :เฮ้อ:

ตอนนี้เริ่มสลับที่แล้ว คานินลังเลบ้างแล้ว เป็งจะทำไงต่อ 555 :hao3: :hao3: :hao3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 31-03-2016 18:07:20
ยามเราอ่อนแอเมื่อมีคนอื่นเข้ามาก็ย่อมอ่อนไหวและหวั่นไหวเป็นธรรมดา

ถึงคราวที่เป็งต้องรอคานินบ้างแล้วล่ะนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 31-03-2016 18:12:31
เจนี่ชอบคานินจริงหรือแค่อยากกระตุ้นให้เป็งหึงกันแน่
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 31-03-2016 19:54:06
ขำตัวเองนิดๆ เห็นในคอมเมนต์ผู้อ่านมีคำว่า "เจนี่" อยู่ด้วยก็สงสัยว่า "เจนี่" คือใคร
ที่แท้ก็ นาย "เจ" นี่ (เอง) 555

อีกไม่นานก็จะรู้แล้วว่าทำไมเรื่องนี้นายเอกจึงเป็น "เปรี้ยวใจ" ไม่ใช่ "หวานใจ" 555
เขียนแล้วก็ชักอยากจะมีเปรี้ยวใจแบบนี้บ้าง ไปหาที่ไหนได้หนอเปรี้ยวใจแบบนี้ อิๆ

https://www.youtube.com/v/UWgg9r2u4PI
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 31-03-2016 20:21:50
เอาแล้วไง คานินไม่ง่ายแล้วนะเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 31-03-2016 20:59:13
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 31-03-2016 21:10:36
 :L2: :pig4:

โอ้ววว อย่างน้อยๆ ตอนนี้ก็มีความหวานสอดแทรก ไม่อึนอย่างเดียว
ต่อไปจะเปรี้ยวแล้วววว

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 31-03-2016 23:28:03
ซึ้งคับ ทายาให้กัน มีกอดจากด้านหลังด้วย ๕๕๕  อ่านช่วงท้ายๆแล้วแอบหวั่นใจ กับคานิน เป็งจีบใหม่เลย
รอ รออ่านตอนต่อไปนะคับ จะเปรี้ยวใจยังไง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 31-03-2016 23:50:08
สงสารคานินโดนพ่อตี 
เรื่องของแนน เดี๋ยวพ่อแม่ก็คงเข้าใจแหละ
ยิ่งมีน้องน่ารักๆด้วย แม่น่าจะเข้าใจได้เร็วกว่าพ่อเนอะ

ส่วนคานินกับเป็ง หึหึ 
น้องเจมาจีบคานิน คงกระตุ้นให้เป็งหึงแน่นอน เป็นไงละ หึหึ
ส่วนคานิน..ก็ไม่รู้จะรู้สึกเหมือนเดิมกับเป็งไหม
ตั้งแต่เหตุการณ์นั้น มันคงติดอยู่ในใจอยู่เนอะ เหมือนกับไม่อยากตั้งความหวัง


ปล.  ว่าแต่ เปรี้ยวใจ คืออะไรอ่ะ 555+
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 01-04-2016 00:07:44
 :เฮ้อ: มันไม่ใช่ทั้งคู่หรอก เป็นนายนั่นแหละเป็งที่ลังเล ก้อเลยทำให้คานินหมดความไว้วางใจแล้วเริ่มมองคนรอบข้างที่เขารักเรามากกว่าที่จะรอคนที่ลังเลเช่นนายไงล่ะ ปุ๊บปั๊บนายก้อมารัก ปุ๊บปั๊บนายก้อบอกว่าเจอคนที่คิดว่าน่าจะใช่ แล้วตอนนี้ก้อจะมาบอกว่าหาคนที่ใช่เจอแหละ ถึงจะบอกว่าเป็นคานินก้อเถอะ แต่ใจมันเจ็บไปแล้วน่ะ ก้อต้องลังเลที่จะหวนกลับไปตรงจุดเดิมน่ะ นายทำเหมือนความรักเป็นการเล่นขายของไปได้ ต้องให้คานินสั่งสอนเสียให้เข็ด ตอนนี้นายก้อมีแต่ต้องอดทนพิสูจน์ให้คานินเห็นว่านายไม่ลังเลอีกต่อไป เราว่าคานินก้อคิดถูกแล้วล่ะให้โอกาสทั้งตัวเองและใจคุณไปด้วย ระหว่างนี้ถ้านายคิดว่าจะไม่เปลี่ยนใจจากคานินนายก้อต้องกลับมาทำตัวเหมือนเดิมให้คานินเขาเห็นสิ  :กอด1: คุณพ่อคานินน่ากลัวจังเลย  :katai1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 01-04-2016 00:25:55
เพราะเป็งที่ลังเลก่อนกลับมาจะให้คานืนยกโทษให้ง่ายๆได้ไงเดี๋ยวก็ทำอย่างนี้อีก
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 01-04-2016 00:53:51
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: ปุกปิกกุกกิกไปตามสไต ที่ 01-04-2016 07:57:35
หึๆๆเป็งถึงเวลามี่นายต้องรอเเล้ว555555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №15 ใครกันที่โลเล ⓟ12 ▦ 31.03.16
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 01-04-2016 08:22:41
นี่ไม่กล้าอ่านมาหลายตอนแล้ว นั่งรอเวลาให้น้องคานินแข็งแกร่งขึ้นอีกครั้ง >_< และพอเห็นพระเอกเริ่มกรรมตามสนองนี่รีบกดเข้ามาเม้นต์เลย บอกตรงๆ เกลียดพระเอกมาก เกลียดคนใจโลเลที่สุด นายทำได้ไงวะห้ะ! ได้เขาแล้วคิดจะไปเอาคนอื่นอีก (โกรธพระเอกง่ะจริงๆ)

มันไม่ได้ผิดที่คนอื่นหรือน้องคานินเลย จะผิดก็เพราะแกนั่นแหล่ะ ไม่ใช่เวลาสามวันหรอกเฟ้ยยยย ฮึ่มๆ

แต่ตอนนี้แลดูเริ่มสะใจ ถือเป็นเวลาที่เธอควรชดใช้กรรมนะจ๊ะ อิอิ

อาจเกลียดพระเอกแรงไปหน่อยต้องขอโทษด้วยค่ะ ขอบคุณมากค่า ติดตามนะคะ เป็นกำลังใจให้
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว My Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 01-04-2016 10:05:12
เรื่องนี้ใกล้จบแล้วนะครับ หลังจากจบเรื่องนี้ สักพักจะมีเรื่องใหม่มาให้อ่านครับ

-------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อ "เจ้าชายมาดเข้ม" กับ "หนุ่มตี๋รุ่นพี่มาดกวน" มาเจอกัน อะไรจะเกิดขึ้น

Prince Charming (เจ้าชายเดินดิน) เป็นเรื่องราวของเจ้าชาย "มาร์ติน" ผู้สูงศักดิ์จากเมือง "บูรณา" ที่เกิดเบื่อชีวิตแบบเจ้าชายอันเต็มไปด้วยกฎระเบียบมากมาย จึงแอบเสด็จหนีมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างสามัญชน แล้วบังเอิญได้เจอกับ "ดลยุทธ์" หนุ่มตี๋สุดหล่อที่มาทำหน้าที่เป็นสารถีให้ด้วยความจำใจ แม้จะได้มาพักผ่อนหย่อนใจอย่างอิสระ แต่เจ้าชายก็ต้องปวดหัวกับการคอยปราบพยศหนุ่มตี๋สุดกวนที่แสนเอาแต่ใจ แต่ช่วงเวลาสามเดือนที่อยู่เมืองไทย เจ้าชายน้อยแห่งบูรณากลับพบว่าชีวิตของพระองค์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว!!!

(http://bit.ly/1MG83gW)

"เอ๊ะ! นี่นายเป็นคนขับรถหรือเป็นพ่อของฉันกันแน่!"

"นี่คุณ! คุณมาเที่ยวของคุณคนเดียวไม่ใช่เหรอ ผมแค่มาขับรถให้นะครับ ทำไมจะต้องให้ผมตามติดคุณขนาดนั้น จะเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว!"



หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว My Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 01-04-2016 10:40:52
จะรอติดตามนะคะ :katai2-1: :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว My Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: =นีรนาคา= ที่ 01-04-2016 13:02:32
ก็ไม่รู้สินะ!!!!
5555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว My Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 01-04-2016 13:15:20
เรื่องนี้ใกล้จบแล้วนะครับ หลังจากจบเรื่องนี้ สักพักจะมีเรื่องใหม่มาให้อ่านครับ

-------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อ "เจ้าชายมาดเข้ม" กับ "หนุ่มตี๋รุ่นพี่มาดกวน" มาเจอกัน อะไรจะเกิดขึ้น

My Prince Charming เป็นเรื่องราวของเจ้าชาย "มาร์ติน" ผู้สูงศักดิ์จากเมืองบูรณาที่เกิดเบื่อชีวิตแบบเจ้าชายที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบมากมาย จึงแอบหนีเสด็จมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างสามัญชน แล้วบังเอิญได้เจอ "ดลยุทธ์" หนุ่มตี๋สุดหล่อที่มาทำหน้าที่เป็นสารถีให้ด้วยความจำใจ เจ้าชายมาดเข้มจึงต้องเหนื่อยกับการปราบพยศกับหนุ่มตี๋มาดกวนไปด้วย แต่ช่วงเวลาสามเดือนที่อยู่เมืองไทย เจ้าชายน้อยแห่งบูรณากลับพบว่าชีวิตของพระองค์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว!!!

(http://s5.postimg.org/lr0hjkh13/My_Prince_Chamring.jpg)

"เอ๊ะ! นี่นายเป็นคนขับรถหรือเป็นพ่อของฉันกันแน่!"

"นี่คุณ! คุณมาเที่ยวของคุณคนเดียวไม่ใช่เหรอ ผมแค่มาขับรถให้นะครับ ทำไมจะต้องให้ผมตามติดคุณขนาดนั้น จะเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว!"

อร๊ายยยย แค่บทสนทนาก็ฟินแล้ววว :hao7: :hao7: :hao7:

คาแรคเตอร์ตัวละครนี่ใช่ไผ่ป่าวครับ ทำไมใช้คาแรคเตอร์ซ้ำอ่าาา :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว My Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 01-04-2016 14:23:44
อ่านสองตอนแรกเม้นไม่ถูกเลยหน่วงและเกลียดคุณเป็งมาก.....ทำเป็นตะลึง แถมบอกว่ามีแต่หน้าคุณลอยไปมาเต็มไปหมด ทำไมไม่คิดถึงตอนที่พยายามจีบคานินละคนที่โลเลคือเป็งส่วนคานินนะเจ็บแล้วจำ เหมือนกับการหาของถ้าไม่เจอก็เปลี่ยนที่หา ความรักก็เหมือนถ้าหาไม่เจอก็เปลี่ยนคน...เชิ้ดใส่(อินแรงมาก) 
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 01-04-2016 15:21:30
แล้วใครจะเป็นผัวเป็นเมียล่ะ  :o8:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 01-04-2016 16:59:36
รอติดตามเรื่องใหม่นะคะ :L2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว My Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 01-04-2016 18:16:58
เรื่องนี้ใกล้จบแล้วนะครับ หลังจากจบเรื่องนี้ สักพักจะมีเรื่องใหม่มาให้อ่านครับ

-------------------------------------------------------------------------------------

เมื่อ "เจ้าชายมาดเข้ม" กับ "หนุ่มตี๋รุ่นพี่มาดกวน" มาเจอกัน อะไรจะเกิดขึ้น

My Prince Charming เป็นเรื่องราวของเจ้าชาย "มาร์ติน" ผู้สูงศักดิ์จากเมืองบูรณาที่เกิดเบื่อชีวิตแบบเจ้าชายที่เต็มไปด้วยกฎระเบียบมากมาย จึงแอบหนีเสด็จมาท่องเที่ยวที่ประเทศไทยอย่างสามัญชน แล้วบังเอิญได้เจอ "ดลยุทธ์" หนุ่มตี๋สุดหล่อที่มาทำหน้าที่เป็นสารถีให้ด้วยความจำใจ เจ้าชายมาดเข้มจึงต้องเหนื่อยกับการปราบพยศกับหนุ่มตี๋มาดกวนไปด้วย แต่ช่วงเวลาสามเดือนที่อยู่เมืองไทย เจ้าชายน้อยแห่งบูรณากลับพบว่าชีวิตของพระองค์ได้เปลี่ยนแปลงไปแล้ว!!!

(http://s5.postimg.org/lr0hjkh13/My_Prince_Chamring.jpg)

"เอ๊ะ! นี่นายเป็นคนขับรถหรือเป็นพ่อของฉันกันแน่!"

"นี่คุณ! คุณมาเที่ยวของคุณคนเดียวไม่ใช่เหรอ ผมแค่มาขับรถให้นะครับ ทำไมจะต้องให้ผมตามติดคุณขนาดนั้น จะเป็นผัวเมียกันอยู่แล้ว!"

อร๊ายยยย แค่บทสนทนาก็ฟินแล้ววว :hao7: :hao7: :hao7:

คาแรคเตอร์ตัวละครนี่ใช่ไผ่ป่าวครับ ทำไมใช้คาแรคเตอร์ซ้ำอ่าาา :mew2: :mew2: :mew2:

อยากเสนอใครเพิ่มอีกไหมครับ แต่อาจจะขออายุสัก 25 ขึ้นไปเพราะว่าตัวละครตัวนี้อายุมากกว่าเจ้าชาย โดยส่วนตัวผมชอบไผ่น่ะ หล่อแล้วก็ดูเข้ากับบทบาทนี้ดี เท่ห์แต่กวนๆ ในขณะเดียวกันก็ดูเป็นผู้ใหญ่ด้วย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-04-2016 17:43:56
งานนี้จะเป็นไงต่อนะ...คานินจะว่าไงต่อ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 02-04-2016 17:49:29
ใกล้จะจบแล้วหรอครับนี่


มารอตอนต่อไปครับ รออ่านเสาร์อาทิตย์ อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว Prince Charming ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 02-04-2016 18:32:05
กำลังเขียนตอนใหม่อยู่ น่าจะได้อ่านอย่างช้าสุดเช้าพรุ่งนี้ครับ

--------------------------------------------------------------------

เรื่องใหม่อีกเรื่องที่จะได้อ่านเร็วๆ นี้

"มอตโต้" หนุ่มวัยรุ่นผู้มีความรักและความชอบสวนทางกับคนวัยเดียวกัน มีความชอบแปลกๆ อย่างหนึ่งคือชอบดาราชายคนหนึ่งที่เสียชีวิตไปเมื่อเกือบ 30 ปีที่แล้ว เนื่องจากที่บ้านเก็บรูปเก่าๆ ของดาราคนนี้ไว้ พอเห็นรูปบ่อยๆ มาตั้งแต่เกิด มอตโต้จึงเกิดความชอบและผูกพัน

วันหนึ่ง "มอตโต้" บังเอิญได้รับโอกาสจากสวรรค์ให้ย้อนเวลากลับไปในเดือนกันยาน 2530 เพื่อช่วยเหลือดาราชายวัยรุ่นชื่อดังคนหนึ่งในสมัยนั้นที่กำลังจะเสียชีวิตในวันที่ 1 ตุลาคม 2530 จากอุบัติเหตุทางรถยนต์ อย่างไรก็ตาม อุบัติเหตุครั้งนั้นเป็นความผิดพลาดของสวรรค์ที่ทำให้ "นิว" ดาราชายผู้นั้นต้องเสียชีวิตก่อนวัยอันควร การย้อนเวลากลับไปของ "มอตโต้" จึงเท่ากับเป็นการชดใช้ความผิดพลาดของสวรรค์

มอตโต้ได้เจอพี่นิวสมใจ ภาระกิจช่วยเหลือพี่นิวมีเงื่อนไขสำคัญ 2 อย่าง คือ 1) ห้ามบอกวันที่จะเสียชีวิตหรือรายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับการเสียชีวิต และ 2) มอตโต้กับนิวจะต้องอยู่ใกล้ชิดกันตลอด 24 ชั่วโมง เป็นเวลา 1 เดือน (ด้วยเหตุผลบางอย่างจากสวรรค์) นอกจากช่วยหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ที่จะนำไปสู่ความตายแล้ว มอตโต้ยังต้องเข้าไปพัวพันกับปัญหาดราม่าเรื่องหัวใจอีกมากมายของพระเอกและนายแบบหนุ่มที่ดังและฮ็อตที่สุดในยุคนั้น

มาลุ้นกันว่าภาระกิจเปลี่ยนชะตาชีวิตให้กับ "พี่นิว" ของ "มอตโต้" จะสำเร็จได้ด้วยดีหรือเปล่า แล้วคนสองยุคจะตัดสินใจกับชีวิตของตัวเองอย่างไร โปรดติดตามครับ

(http://bit.ly/1V0Mmuv)


หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว "กันยายน" ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 02-04-2016 20:47:44
รอๆๆๆ รอเรื่องใหม่ด้วย  :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว "กันยายน" ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 02-04-2016 22:27:07
มอตโตน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว "กันยายน" ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 03-04-2016 09:38:27
"กันยายน" เร็วๆ นี้

(http://bit.ly/1qoxCZO)(https://app.box.com/representation/file_version_62288517889/image_2048_jpg/1.jpg?shared_name=1h2pdugghf7z5xfogfzwzg8v4b0wsk0w)(https://app.box.com/representation/file_version_62289265273/image_2048_jpg/1.jpg?shared_name=6p6rl818eq0bceilndhm1dhz4jbkgk96)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover ▦ แจ้งข่าว "กันยายน" ⓟ12
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 03-04-2016 09:58:32
"กันยายน" เร็วๆ นี้

(https://app.box.com/representation/file_version_62289265273/image_2048_jpg/1.jpg?shared_name=6p6rl818eq0bceilndhm1dhz4jbkgk96)

คนนี้น่ารักอ่ะ  :impress2: :impress2: :impress2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 ไกลเท่าเดิม ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 03-04-2016 14:07:58
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 16 รักที่ห่างไกล


(http://bit.ly/1RX8ogL)

คานิน...

แปดโมงเช้าแล้วเหรอ!

แย่แล้ว! นี่มันเลยเวลาที่จะต้องออกไปขายหมูปิ้งกับแนนแล้วสิ!

ผมกำลังจะลนลานตื่นก็พลันนึกได้ว่าแนนกลับบ้านไปแล้ว วันนี้ผมเองก็ลาหยุด
อ้อ อีกอย่างหนึ่งที่นึกได้ก็คือ...มีคนมาอยู่เป็นเพื่อน ตอนนี้ไปไหนซะแล้ว
ผมลุกขึ้นนั่งบนเตียงอย่างช้าๆ มองไปรอบๆ ก็ไม่เห็นแม้เงาของใครคนนั้น
เข้าห้องน้ำหรือเปล่า แต่พอยักแย่ยักยันลุกไปดูก็เห็นประตูเปิดอยู่ ไม่มีใคร

'ไปไหนของเขานะ หรือว่าจะกลับบ้านไปแล้ว' ผมคิดในใจ

ผมเดินกลับมาที่เตียงอย่างช้าๆ รอยฟกช้ำดำเขียวตั้งแต่เมื่อวานยังคงปวดระบมอยู่
ดีที่ว่าทายาไปเมื่อคืนนี้ก็เลยดีขึ้นหน่อย แต่ก็ยังเจ็บอยู่และทำอะไรลำบากกว่าเดิม

ความเหนื่อยล้าทำให้ผมคิดว่าควรจะนอนต่ออีกสักหน่อย ไม่เคยนอนตื่นสายนานแล้ว
แต่พอจะล้มตัวลงนอน ผมก็สะดุ้งขึ้นนั่งเมื่อประตูห้องถูกเปิดออกพร้อมกับใครบางคน
เจ้าของร่างสูงโผล่เข้ามายิ้มแฉ่งให้ผม ในมือถือของพะรุงพะรังเต็มไปหมด

"ตื่นแล้วเหรอคานิน ผมออกไปซื้อโจ๊กมาให้ จะได้กินก่อนออกไปทำงาน"

เป็งพูดพร้อมกับชูของที่ซื้อมาในมือให้ดู ก่อนจะปิดประตูห้องแล้วเอาของไปวางบนโต๊ะ
จากนั้นก็กุลีกุจอเดินไปหยิบจานชามและช้อนที่ผมเก็บไว้ตรงมุมห้องมาด้วย

"คานินกินโจ๊กได้หรือเปล่า พอดีผมก็ลืมถาม เห็นนอนอยู่ก็เลยไม่อยากกวน"

เป็งแกะถุงโจ๊กใส่ชามให้ผมพลางชวนคุยไปด้วย

"ครับ"

เป็งหันมายิ้มแวบหนึ่งแล้วก็หันกลับไปแกะกับข้าวต่อ "ผมซื้อน้ำเต้าหู้ใส่ธัญพืชมาด้วย
น้ำฟักทองก็มี ผลไม้ด้วย มีฝรั่ง สัปปะรดแล้วก็แตงโม ซื้อจากรถเข็นแถวๆ นี้แหละ"

"กินของแบบนี้เป็นด้วยเหรอครับ" จะว่าประชดก็ไม่เชิง แต่จะบอกว่าไม่ประชดก็ไม่ใช่

"ก็ลองกินดู คนอื่นๆ ยังกินได้เลย ทำไมผมจะกินไม่ได้ล่ะ" ตอบโดยไม่หันมามอง

"แล้วไม่กลัวท้องเสียเหรอครับ"

เป็งหันมายิ้มให้ผมอีกครั้ง "ก็ไม่เห็นเป็นไรเลย แรกๆ ก็คงมีบ้าง คงไม่หนักเท่าวันนั้นหรอก
ของแบบนี้มันต้องฝึกให้เคยชินไม่ใช่เหรอ พอเคยชินแล้วก็คงเลิกท้องเสียเองแหละ"

เป็งหันไปจัดการกับกับข้าวที่ซื้อมาต่อ ส่วนผมก็ได้แต่นั่งดูพร้อมกับครุ่นคิดไปด้วย

"จัดเสร็จแล้ว คานินจะกินเลยไหม"

หนุ่มตี๋คิ้วหนาแถมยังตาคมหันมาถาม จากนั้นก็เก็บเศษถุงพลาสติกให้เรียบร้อยพร้อมทิ้ง
ผมยังไม่ทันได้ตอบ เป็งก็หันมาถามอีก

"เดินไหวหรือเปล่า ให้ผมช่วยพยุงไหม มา...ให้ผมช่วยพยุงดีกว่า"

เป็งหยิบกระดาษทิชชู่บนโต๊ะมาเช็ดมือแล้วก็เดินมาหาผมที่เตียง ย่อตัวลงให้ผมเกาะไหล่
ผมอิดออดเล็กน้อย แต่พอเห็นความตั้งใจของอีกฝ่ายก็เลยเอื้อมมือไปเกาะคอไว้

"ค่อยๆ ลุกนะ แล้ว...อาการปวดลดลงบ้างไหม"

น้ำเสียงและสายตาห่วงใยที่มองมาทำให้ผมรู้สึกคล้ายกับกำลังมวนท้อง
แต่ผมก็หาได้ละสายตาหนีไม่

"ดีขึ้นิดหน่อยครับ"

"ดีแล้ว"

เป็งพยุงผมมานั่งที่เตียงอย่างระวัง ผมงงตัวเองนิดหน่อยเพราะความจริงพอเดินเองได้
ไม่เห็นจำเป็นต้องให้เป็งช่วยพยุงเลย แต่ช่างเถอะ ดีเหมือนกัน เวลาเดินจะได้ไม่เจ็บมาก

"แล้วคุณเป็งไม่กินด้วยกันเหรอ" ผมถามเมื่อเห็นโจ๊กมีชามเดียว

"ผมกินจากข้างนอกมาแล้ว นั่งกินที่ร้านนั่นแหละ สนุกดี ไม่เคยกินแบบนี้เลย"

เป็งเล่าพลางยิ้ม ประสบการณ์แบบนี้คงเป็นเรื่องแปลกและน่าตื่นเต้นสำหรับคนรวยๆ
ผมยิ้มจางๆ ให้หนุ่มตี๋คิ้วหนา จากนั้นจึงลงมือตักโจ๊กหมูใส่ไข่ขึ้นมาเป่าแล้วส่งเข้าปาก
ส่วนเป็งลากเก้าอี้อีกตัวมานั่งข้างๆ ผม นั่งมองผมกินแล้วก็ยิ้ม ไม่รู้ว่ายิ้มอะไร

"อร่อยไหม ผมซื้อของพวกนี้ไม่เป็นหรอก ถามคนแถวนี้เอา เห็นเขาว่าเจ้านี้อร่อย
ตอนที่ผมกินผมก็ว่ามันอร่อยนะ แล้วคานินว่ามันอร่อยหรือเปล่า"

ผมกลืนข้าวลงไปก่อน จากนั้นจึงค่อยตอบคำถาม "ผมเคยกินร้านนี้แล้ว ก็โอเคอยู่"

เป็งเหยียดยิ้มอย่างอารมณ์ดี "งั้นก็กินเยอะๆ นะ"

ผมพยักหน้าแล้วก็ก้มหน้าก้มตาตักกินต่อไป แต่ก็รู้สึกปวดแขนไม่ใช่น้อย

"อ้อ ผมก็ลืมไป แขนคานินบวม ยังไม่ควรใช้งานมาก เอางี้...เดี๋ยวผมป้อนดีกว่า"

ข้อเสนอของเป็งทำเอาผมชะงักและตาโต "ไม่เป็นไรครับ"

"อย่าดื้อสิ เดี๋ยวแขนอักเสบกว่าเดิมนะ มา...ให้ผมป้อนดีกว่า"

ผมเองก็แปลกคน ปากบอกว่าไม่เป็นไร แต่พอเป็งตื๊อหน่อยผมก็วางช้อนลงอย่างว่าง่าย
เป็งเลื่อนชามโจ๊กเข้าหาตัวเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ ตักใส่ช้อนขึ้นมาส่งให้ผม

"อ้าว ทำไมไม่กินล่ะ" เป็งถามอย่างแปลกใจที่ผมไม่ยอมอ้าปาก

"ร้อน จะได้กินได้ไงล่ะ" ผมนิ่วหน้าเล็กน้อย

"อ้อ...ลืมไป" เป็งหัวเราะแหะๆ จากนั้นจึงเป่าโจ๊กในช้อนให้ผม แววตายิ้มมีความสุข

"น่าจะไม่ร้อนแล้ว" เป็งบอกพลางยื่นช้อนจ่อที่ปากผม

ผมเอาริมฝีปากแตะดูก่อน พอเห็นไม่ค่อยร้อนจึงยอมกินลงไป เป็งยิ้มพอใจน่าดู
ส่วนผมจะบอกว่าไม่รู้สึกอะไรเลยก็คงจะเกินไปหน่อย โดยเฉพาะความรู้สึกเขิน
ผมมองท้ายทอยของเป็งอย่างสังเกต ผิวขาวตัดกับแนวเส้นผมสีดำดูมีเสน่ห์ดีเหมือนกัน
จะว่าไปผู้ชายคนนี้ก็มีเสน่ห์หลายอย่าง น่าแปลกจริงๆ ที่ก่อนหน้านั้นไม่เคยมีแฟนเลย

เป็งป้อนโจ๊กให้ผมจนหมดชาม เอื้อมมือไปหยิบกระดาษทิชชู่มาแล้วก็เช็ดปากให้ผมเบาๆ
ผมห้ามไม่ทันก็เลยปล่อยเลยตามเลย ไม่น่าเชื่อว่าผู้ชายอย่างเป็งจะมือเบาเป็นเหมือนกัน
เช็ดเสร็จเป็งก็หยุดมองผม ต่างคนต่างใช้สายตาค้นหาความหมายในแววตาของกันและกัน
เจอแบบนี้ผมก็อดหวั่นไหวไม่ได้ หวังว่าเป็งจะไม่อุตริจูบผมทั้งที่เพิ่งกินโจ๊กหมูใส่ไข่หมาดๆ

"คานินอาบน้ำก่อนดีกว่านะ เดี๋ยวผมพาไปหาหมอ เอายาแก้อักเสบมากินจะได้หายไวๆ"

เป็งพูดขึ้นมาเพื่อทำลายบรรยากาศที่ดูแปลกๆ ไป ผมจึงค่อยโล่งใจขึ้นมาหน่อย

"ไม่เป็นไรหรอกครับ ทายาก็หายแล้ว รบกวนคุณเป็งเปล่าๆ"

ถ้าผมตาไม่ฝาด คำพูดเมื่อครู่นี้ทำให้เป็งสะอึกไปเลย คงไปสะกิดปมบางอย่างเข้าให้
เป็งหน้าเสียจนผมเกือบจะใจอ่อน แต่สักพักเจ้าตัวก็ค่อยๆ คลี่ยิ้ม ช่วยให้ผมรู้สึกผิดน้อยลง

"คานิน...ถ้าคานินจะไม่ยกโทษให้ผมเรื่องที่ผมเคยลังเลใจ...ก็ไม่เป็นไรหรอก ผมเข้าใจ
แต่เรื่องนั้นที่ผมไม่ได้ตั้งใจ ถ้าเป็นไปได้...ผมก็อยากให้คานินอภัยให้ผม...ได้หรือเปล่า
ผมเสียใจจริงๆ นะที่เคยทำให้คานินรู้สึกว่าต้องรบกวนผม แต่ผมไม่เคยคิดอย่างงั้นเลยนะ
พอจะยกโทษให้ผมได้หรือเปล่าคานิน ผมขอโอกาสอีกสักครั้ง...ได้ไหม"

กลายเป็นผมที่ต้องเจอกับคำถามที่น่าอึดอัดใจบ้าง ผมสบตากับเป็งด้วยอาการหวั่นไหว
สายตาเศร้าและวิงวอนนั้นดูจะมีพลานุภาพมากเกินกว่าที่ผมจะต้านเอาไว้ได้
สุดท้ายก็ไม่พ้นต้องใจอ่อนตามเคย ผมจึงพยักหน้าตกลงอย่างว่าง่าย

"งั้นไปโรงพยายาลนะ" เป็งยิ้มดีใจ

ผมพยักหน้าอีกครั้ง เป็งยิ้มกว้างขึ้น แต่ความดีใจคงมีมากเกินกว่าที่จะแสดงออกเพียงแค่นี้
หนุ่มหล่อหน้าตี๋ดึงผมไปกอดไว้เบาๆ ความอบอุ่นที่ผมเรียกหาแผ่ซ่านไปทั่วกายผม

"ผมจะไม่ขอให้คานินเลือกผม ไม่ขอให้คานินอภัยให้ผมที่ผมเคยลังเล ไม่ขอให้เห็นใจ
ผมขอแค่อย่างเดียว...ผมขอโอกาสพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง แล้วไม่ว่าคานินจะตัดสินใจยังไง
ผมก็ยินดีจะยอมรับทุกอย่าง คานินตัดสินใจยังไงผมก็จะยอมรับ ได้ไหมคานิน
ผมขอโอกาสแค่อีกครั้งเดียว ครั้งเดียวเท่านั้นเอง"

ฮึ! ปากก็บอกไม่ให้เห็นใจ แล้วอ้อนซะขนาดนี้ไม่เรียกว่าขอความเห็นใจหรือไงหนอ
ใจแข็งเข้าไว้นะคานิน อย่าใจอ่อนง่ายๆ อีก เรื่องให้โอกาสคงไม่มีปัญหาหรอก ผมให้ได้
แต่ผมสาบานได้เลยว่า...เรื่องอื่นๆ จะไม่ง่ายอย่างแน่นอน

เพราะว่า...

(http://bit.ly/1VpoldE)

เป็ง...

นั่งรถออกมาด้วยกันได้ไม่เท่าไหร่ หนุ่มเขี้ยวเสน่ห์ของผมก็คุยโทรศัพท์ไปตลอดทาง
เดี๋ยวคนนั้นก็โทรหา เดี๋ยวคนนี้ก็โทรหา เริ่มต้นจากเพื่อนซี้ผมก่อนที่โทรมาคนแรก

"คุณภูเหรอครับ ตอนนี้แนนกลับบ้านไปแล้ว ผมโทรหาแต่ก็ติดต่อไม่ได้เหมือนกัน
สงสัยพ่อกับแม่ยังไม่อยากให้ติดต่อกับใครมั้งครับ"

"ใช่ครับ ผมคิดว่าตอนนี้คุณภูอาจจะต้องรอหน่อย ตอนนี้พ่อกับแม่กำลังโกรธอยู่
อ๋อ...อยากไปหาแนนเหรอครับ อืม...ผมว่าอีกสักเดือนสองเดือนดีกว่าครับ
เดี๋ยวผมพาไปเอง ไปหลายๆ คนก็ได้ครับ ไปเที่ยวบ้านผม จะได้ไม่ดูน่าสงสัย"

"อ๋อ...ไม่ต้องห่วงหรอกครับ ผมว่าพ่อกับแม่คงไม่หาแฟนใหม่ให้แนนหรอก
แฟนเก่าของแนนเหรอ ตอนนี้เขาเลิกติดต่อกันไปเป็นเดือนแล้วครับ คุณภูสบายใจได้
ผมไม่ให้แนนกลับไปหาไอ้หมอนั่นแน่ๆ ครับ คนเลวๆ อย่างมันบ้านผมไม่ต้อนรับครับ"

"เอาอย่างงี้แล้วกันครับ ผมจะพยายามติดต่อแนนเรื่อยๆ ได้ความแล้วผมจะบอกอีกที
ผมว่าพ่อกับแม่น่าจะโกรธไม่นานหรอก วินน่ารักจะตาย ขี้คร้านจะหลงหลานน่ะสิครับ"

"ได้ครับคุณภู ขอบคุณมากๆ ที่เป็นห่วงแนนครับ ไม่ต้องห่วงเรื่องน้องสาวผม
ยังไงๆ ผมก็เชียร์คุณภูเต็มที่ครับ ขอบคุณที่ไม่รังเกียจน้องสาวผมนะครับ
ได้ครับๆ ไว้คุยกันวันหลัง สวัสดีครับ"

พอคานินวางสายไปไม่ถึงนาที ก็มีอีกสายโทรมา พอฟังดูดีๆ ผมจึงรู้ว่าเป็นใคร

"หวัดดีครับเจ ก็ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่ มีอุบัติเหตุนิดหน่อย เรื่องครอบครัวนั่นแหละ
ไม่มีอะไรมากหรอกครับ แล้วเจตื่นแล้วเหรอ เพิ่งเก้าโมงเอง ทำไมตื่นเช้าล่ะ"

"แหม...ขยันจังนะครับ อ้อ...เรื่องนัดวันนี้ สงสัยต้องขอเลื่อนไปก่อน ไม่ว่ากันนะ
ใช่...ปัญหาครอบครัวนั่นแหละ ก็อย่างที่เคยเล่าให้ฟังไง เรื่องน้องสาว
ตอนนี้กลับบ้านไปแล้ว ก็ดีแล้วล่ะ พ่อกับแม่เขารักเด็ก เดี๋ยวก็ให้อภัยเองแหละ"

"อืม...สงสัยต้องรออีกหนึ่งอาทิตย์ถึงจะหยุดอีกที เห็นคุณเป็งบอกว่าเจไม่ดื่มกาแฟ
แล้วทำไมเจอยากเรียนชงกาแฟล่ะ หรือว่าจะชงให้คนพิเศษกิน"

"ฮ่าๆๆ จะให้ผมเป็นคนพิเศษของเจเหรอ ผมว่าเจคงมีคนพิเศษแล้วมั้ง หล่อขนาดนี้
ไม่น่าจะเหลือรอด แหม...อย่ามาพูดเลย ไม่เชื่อหรอกว่ายังโสด ฮ่าๆๆ โสดไม่สนิทล่ะสิ"

"ผมเหรอ...ก็อย่างที่เจรู้ๆ นั่นแหละ จะว่าโสดก็ใช่ จะว่าไม่โสดก็ไม่เชิง ฮ่าๆๆ งงล่ะสิ
แต่ก็ยังพอมีสิทธิ์เลือกอยู่ ทุกคนก็มีสิทธิเลือกแหละ จะเลือกใครน่ะเหรอ...ไม่รู้สิ
ผมก็ไม่ใช่คนหล่อเลือกได้ขนาดนั้น ผมไม่ใช่เจนี่ หล่อเลือกได้ ฮ่าๆๆ"

"อะไรนะ ก็...ถามว่าสนใจไหม ผมก็ไม่เห็นว่าเจจะไม่น่าสนใจตรงไหนนะ
จะเป็นไปได้ไหมน่ะเหรอ อืม...ไม่มีอะไรในโลกนี้ที่เป็นไปไม่ได้ มีแต่คาดไม่ถึง
ฮ่าๆๆ ผมเหรอ...ไม่รังเกียจหรอก ว่าแต่เจเถอะ รังเกียจคนจนๆ อย่างผมหรือเปล่าล่ะ
เป็นแฟนกับคนไม่มีอะไรไม่สนุกหรอกนะ ไม่เชื่อเหรอ อยากลองดูก่อนเหรอ ฮ่าๆๆ"

"อ้อ จะไปธุระแล้วเหรอ โอเคๆ เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันใหม่ ได้วันแล้วผมจะโทรไปบอกนะ
โอเค แล้วเจอกัน หวัดดีครับ"

ผมนั่งฟังการสนทนาระหว่างคานินกับเจอย่างตั้งใจ อย่าให้ผมพูดเลยว่ารู้สึกยังไง
ถึงพยายามทำเป็นนิ่ง เอาเข้าจริงๆ ก็แค่ดูนิ่งจากภายนอก แต่ใจร้อนรุ่มอิจฉา

คุยกันสนิทสนมเหมือนกำลังจีบกันใหม่ๆ เลย ไม่ช้าก็เร็วคานินต้องหวั่นไหวกับเจแน่
เผลอๆ ก็อาจจะเผลอใจให้เจไปแล้วก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงผมคงเสียใจไม่น้อยเลย

พอคานินวางสายได้ไม่เท่าไหร่ โทรศัพท์อีกสายก็มาอีก

"อัญเหรอ ใช่ๆ แนนกลับไปแล้ว กลับไปกับพ่อกับแม่เลย อืม...ก็โกรธน่าดูเหมือนกัน
แต่พี่ว่าไม่นานพ่อกับแม่ก็น่าจะให้อภัยแนนเองแหละ ลูกชายของแนนน่ารักจะตาย"

"อ๋อ...พรุ่งนี้ไง เดี๋ยวพรุ่งนี้พี่จะเข้าไปทำงาน ถ้าไปทำได้นะ เป็นอะไรน่ะเหรอ...
เดี๋ยวพรุ่งนี้อัญเจอพี่ก็รู้เอง เดี๋ยวพี่จะเล่าให้ฟัง ตอนนี้ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่
ตอนนี้เหรอ ไปโรงบาล ไปทำไมน่ะเหรอ เดี๋ยวพี่เล่าให้ฟังพรุ่งนี้ทีเดียวละกันนะ"

"จะชวนไปผับอีกเหรอ ช่วงนี้คงไม่ไหวหรอก ไปทำอย่างอื่นดีไหม อืม...ดูหนังไง
ตอนนี้มีเรื่องหนึ่งที่พี่อยากดูมากๆ หนังไทยนี่แหละ เรื่องที่มาริโอ้แสดงไง
ไปดูด้วยกันไหมล่ะ แต่ผับ...พี่ขอบายจริงๆ พรุ่งนี้แนนเจอพี่ก็จะรู้เองแหละว่าทำไม"

"เอ...ไม่แน่ใจว่าจะไปได้ไหม ไปเที่ยวต่างจังหวัดมันหลายวันนะอัญ ลางานไปเหรอ
เดี๋ยวเขาก็ไล่ออกพอดี พี่ขอคิดดูก่อนนะ แต่ใจจริงพี่ก็อยากไปอยู ช่วงนี้เครียดๆ
ไปเที่ยวก็ดีเหมือนกัน คลายเครียดหน่อย พี่เองก็ไม่ได้ไปเที่ยวต่างจังหวัดนานแล้ว"

"โอเคๆ อัญทำงานเหอะ เดี๋ยวผู้จัดการว่าเอา เขายิ่งจ้องๆ พวกเราอยู่ ได้ๆ
เดี๋ยวเจอกันพรุ่งนี้ งั้นแค่นี้ก่อนนะครับ หวัดดีครับ"

สายที่สามวางไปแล้ว อารมณ์หึงของผมพุ่งจนแทบคลั่ง แต่ยังดีที่ผมยังอยู่นิ่งๆ ได้
ช่างฮอตเสียจริงๆ ทั้งผู้ชาย ทั้งผู้หญิง ตกลงจะเอาแบบไหนกันแน่หนอพ่อหนุ่มเขี้ยว
ถ้าผมอยู่เฉยต่อไปคงไม่เป็นการดีแน่ ไม่ใครก็ใครในสองคนนี้คงเอาใจคานินไปก่อน

"คานินนี่ฮอตจังเลยนะครับ" ไม่รู้ว่าประชดหรือเปล่า แต่ผมก็พูดไปแล้ว

"ก็...นิดหน่อย"

นั่น! ผมแค่พูดประชด คานินกลับรับสมอ้างอย่าหน้าชื่นตาบานเสียอย่างนั้น
แต่ช่วงเวลานี้ดูจะไม่ค่อยเหมาะที่จะต่อล้อต่อเถียงเพราะกำลังจะถึงโรงพยาบาลแล้ว
ผมก็เลยหยุดชวนคุย คานินก็นั่งนิ่งๆ ไม่พูดไม่จาเช่นเดียวกัน

เอาเถอะ ในเมื่อทุกอย่างมันเริ่มมาจากความลังเลใจของผม ผมคงโวยวายไม่ได้
แทนที่จะเสียเวลาน้อยอกน้อยใจ ผมควรต้องแข่งทำคะแนนกับอีกสองคนดีกว่า
ยังไงๆ ผมก็เชื่อว่าผมได้เปรียบมากกว่าใครอยู่แล้ว!

(http://bit.ly/1mSYzme)

อยู่ๆ ทั้งเจและแอนก็เกิดไม่ว่างพร้อมกัน ผมก็เลยต้องมาคนเดียวในฐานะหัวหน้าทีม
กัญชพรบอกพวกเราไว้ตั้งแต่ช่วงอบรมแล้วว่าจะขอนัดเลี้ยงอาหารเย็นขอบคุณอีกที
เจกับแอนก็รับปากเสียดิบดีว่าจะมาด้วยกัน แต่ไปๆ มาๆ กลับติดธุระกะทันหันทั้งคู่
ตอนแรกผมว่าจะขอเลื่อน แต่คิดไปคิดมาก็ไม่เลื่อนดีกว่า เสียเวลาทำมาหากิน

วันนี้คานินมีนัดไปสอนเจชงกาแฟที่บ้าน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุนี้หรือเปล่าเจถึงไม่มา
แต่ก็สอนแค่ตอนกลางวันนี่นา หรือว่าจะพากันไปไหนต่ออีกหรือเปล่า

ผมมาถึงก่อนเวลานัดนิดหน่อย กัญชพรยังมาไม่ถึงร้านอาหารที่เรานัดกันไว้
ผมจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูความเคลื่อนไหวต่างๆ ในไลน์และเฟสบุ๊คของผม

เลื่อนไปเลื่อนมา ผมก็เจอโพสต์ที่ทำให้ผมต้องเพ่งดูจนตาแทบถลน

ที่หน้าเฟสบุ๊คของเจ มีภาพคานินกำลังสอนเจชงกาแฟที่บ้านโพสต์หราเอาไว้
ดูยิ้มระรื่นมีความสุขทั้งคู่ ผมเลื่อนดูไปมือไม้สั่นไป ทั้งโกรธและใจเสียพร้อมกัน
ที่น่าแปลกมากก็คือ ภูริชเพื่อนผมเข้าไปคอมเมนต์ว่าสองคนนี้ดูเหมาะสมกันดีด้วย

เพื่อนรักของผมก็เป็นไปกับเขาอีกคนด้วยเหรอนี่!

หน้าชากับเฟสบุ๊คของเจไปแล้ว ผมก็ต้องชาเพิ่มสองเท่ากับหน้าเฟสบุ๊คของคานินต่อ
คานินโพสต์ภาพที่ตัวเองไปดูหนังกับอัญญาสองคนหราและยิ้มระรื่นเช่นเดียวกัน

นี่มันอะไรกัน ตกลงคานินจะเลือกใคร ทำไมถึงให้ความหวังกับคนนั้นที คนนี้ที
แล้วผมล่ะ ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ผมแทบไม่ได้เจอคานินเลย เจอที่ร้านแต่ก็ไม่คุยด้วย
เวลาโทรไปก็บอกว่าไม่สะดวกคุย ไม่ว่าง ติดสาย ติดธุระหรือไม่ก็ทำงาน

นี่สรุปว่า...คานินไม่ให้โอกาสผมแล้วใช่ไหมถึงได้ทำกับผมอย่างนี้

แต่ก่อนที่ผมจะดำดิ่งไปกับความคิดเชิงลบ กัญชพรก็พาร่างสูงโปร่งของเธอมาถึงพอดี
เธอส่งยิ้มหวานมาให้เมื่อเห็นผมนั่งรออยู่ ชุดที่เธอใส่วันนี้ดูสวยอ่อนหวานมากทีเดียว
คงยากที่ผู้ชายคนไหนเห็นแล้วจะปฏิเสธว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่ารัก ต่อให้เป็นเกย์ก็เถอะ

"ขอโทษทีค่ะ มาช้าไปหน่อย แล้วคุณเจกับคุณแอนล่ะคะ" กัญชพรถามพลางมองหา

"ไม่ช้าหรอกครับ ผมมาก่อนเวลาเอง เจกับแอนติดธุระด่วนนะครับ เลยมาไม่ได้"

ผมบอกแล้วก็ลุกขึ้นไปเลื่อนเก้าอี้ให้สุภาพสตรีที่มาถึงนั่งตามมารยาทของสุภาพบุรุษ

"ขอบคุณค่ะ" กัญชพรส่งยิ้มบางๆ มาให้แล้วก็นั่งลง ก่อนจะเงยหน้ามาคุยต่อ

"น่าเสียดายจัง วันนี้กัญกะว่าจะเลี้ยงเต็มที่เลย สงสัยคุณเป็งต้องกินเผื่อสองคนด้วยแล้วล่ะ"

กัญชพรสัพยอกอย่างอารมณ์ดี

"ครับ" ผมยิ้มบางๆ พร้อมกับแอบแวบมองเขี้ยวเสน่ห์ของเธอไปด้วย

"สั่งอะไรหรือยังคะ" กัญชพรถามขณะที่รับเมนูจากเด็กเสิร์ฟมาดู

"ยังเลยครับ"

"อ้อ...งั้นก็สั่งพร้อมๆ กันเลยค่ะ สั่งได้ตามสบายเลยนะคะ ไม่ต้องเกรงใจ"

"ครับ" ผมรับคำแล้วก็หยิบเมนูที่ได้รับมาสักพักแล้วขึ้นมาดูบ้าง

"กัญชอบมากินที่ร้านนี้น่ะค่ะ อาหารเขาอร่อยมาก คุณภาพดี วัตถุดิบก็ดี สะอาดด้วย
แล้วก็ชอบบรรยากาศด้วย คนไม่เยอะดี ว่างเมื่อไหร่กัญก็จะมา ส่วนมากก็มากับเพื่อนๆ"

กัญชพรดูเมนูไปด้วย ชวนผมคุยไปด้วย แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่เรื่องที่ผมอยากรู้นัก

"ครับ ผมก็ชอบบรรยากาศของร้านเหมือนกัน สงสัยวันหลังต้องแวะมาบ่อยๆ"

ผมตอบไปตามมารยาท ถ้าสามารถยกเลิกนัดวันนี้ได้ผมคงทำไปแล้ว
ยอมรับตามตรงว่าเห็นเฟสบุ๊คของสองคนนั้นแล้วผมอารมณ์พลุ่งพล่านจริงๆ
แทบไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรเลย อยากจะกลับไปจัดการให้รู้แล้วรู้รอด

ผมกับกัญชพรสั่งอาหารไปแล้วเราก็นั่งคุยกันในระหว่างรอ

"มีอะไรหรือเปล่าคะ ทำไมคุณเป็งดูเครียดๆ ไม่สบายเหรอคะ"

"เปล่าหรอกครับ พอดี...งานยุ่งนิดหน่อย" ผมยิ้มบางๆ แต่แววตาเศร้า

"ช่วงนี้งานเข้ามาเยอะเหรอคะ"

ผมพยักหน้า "แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมล็อกวันสำหรับการอบรมครั้งต่อไปให้แล้ว"

กัญชพรหัวเราะชอบใจเบาๆ "เรื่องนั้นกัญไม่ห่วงหรอกค่ะ"

ผมกำลังจะอ้าปากคุยต่อ พลันก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเหลือบไปเห็นคนที่เพิ่งเข้ามาในร้าน

นี่ผมตาฝาดไปหรือเปล่า! ไม่งั้นสมองผมก็คงเพี้ยนไปแล้วแน่ๆ!
เจกับคานิน! สองคนนี้มาทำอะไรด้วยกันที่นี่!

อย่างนี้นี่เองเจถึงปฏิเสธและอ้างว่ามีธุระ ส่วนแอน ถ้าเจไม่มาเธอก็มักจะไม่มาด้วย
ผมไม่ติดใจแอนหรอก แต่คาใจกับสองคนนี้ต่างหาก

"มีอะไรหรือเปล่าคะ" กัญชพรถามพร้อมกับเลิกคิ้ว

"อ๋อ...เปล่าครับ" ผมรีบบอกปัดด้วยอาการคล้ายกับมีพิรุธ

เจกับคานินเลือกไปนั่งที่อีกมุมหนึ่งของห้อง ดูเหมือนจะไม่เห็นผมกับกัญชพร
สั่งอาหารกันไป คุยกันไป ยิ้มกันไป หัวเราะกันไป ดูมีความสุขเสียจริงๆ
ผมชักจะทนไม่ไหวแล้ว กินข้าวเย็นกับกัญชพรเสร็จผมคงต้องจัดการเรื่องนี้เสียที

คานินนะคานิน ผมไม่เคยคิดว่าคานินจะทำอย่างนี้กับผมเลย เพื่อนรุ่นน้องผมด้วย
ผมยังเป็นแฟนของคานินอยู่แท้ๆ ทำไมทั้งสองคนจึงทำเหมือนไม่เห็นหัวผม

ไม่ได้การแล้ว ผมจะไม่ยอมปล่อยให้มันเลยเถิดแบบนี้อีกแล้ว!

อาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟพอดี ผมจึงเปลี่ยนจุดสนใจมาที่อาหารและคนตรงหน้า
ถ้าจะมัวแต่ก้มหน้าก้มตากินให้เสร็จๆ แล้วรีบไปก็คงจะเสียมารยาทมากไปหน่อย
แต่ผมก็แทบไม่มีสมาธิเลย กินไป คุยไปแล้วก็แอบลอบมองสองคนนั้นไปด้วย
มองบ่อยจนกระทั่งกัญชพรเริ่มสงสัย แต่เธอก็ไม่ได้ถามอะไรผมหรอก

ผมแอบมองสองคนนั้นอีกครั้ง แม้ว่าจะกล้าๆ กลัวๆ แต่ผมคงปล่อยไว้ไม่ได้
แม้ไม่รู้ว่าหลังจากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้น ผมรู้แต่ว่าถ้าคานินยังทำแบบนี้ไม่เลิก
ความสัมพันธ์ของผมกับคานินก็อาจจะไปต่อไม่ได้ น่าเศร้าจริงๆ

แต่ในเมื่อ...คานินไม่ให้โอกาสผมแล้ว คงไม่ให้โอกาสผมแก้ตัวแล้วจริงๆ
ไม่ยอมพูดด้วย ไม่มาพบหน้า แถมยังไปไหนมาไหนกับคนอื่นอย่างโจ่งแจ้ง
แล้วผมจะคิดเป็นอย่างอื่นได้ยังไง

คานินกำลังถอยห่างไปจากชีวิตผมแล้ว ห่างออกไปและไกลออกไปทุกที
และสุดท้าย...ก็อาจจะไกลจนสุดมือผม!!!

TBC...


https://www.youtube.com/v/H7RraH_HIXE

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 03-04-2016 15:06:54
มีแต่คนรุมจีบคานิน เอาละสิเป็ง


หรือว่านี่เป็นวิธีที่ทุกคนร่วมมือกันเพื่อทำให้เป็งมั่นใจความรู้สึกของตัวเองจริงๆ
หุหุ แอบสงสารนิดๆ555+
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 03-04-2016 17:15:07
กร๊ากกกกก เริ่มสะใจเป็งเล็กๆ 4 คนนี้รวมหัวกันทำอะไรป่าวเนี่ย ออกนอกหน้ากันมากอ่ะ  :laugh: :laugh: :laugh:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 03-04-2016 21:22:14
สังเกตว่ามีคนที่มาอ่านบางคนอ่านแล้วแต่ไม่คอมเมนต์กันเลย
แสดงว่าไม่ชอบตอนนี้กันแน่ๆ
แต่ไม่ชอบตอนนี้ก็ไม่ได้แปลว่าตอนหน้าจะมาไวนะครับ อิๆ
ยิ่งไม่ชอบ ยิ่งมาช้าครับ  :laugh: :laugh: :laugh:
ช่วงนี้มีงานเข้ามาเยอะ อาจจะไม่อัปเดตยาวเลย (ยกเว้นมีแรงกระตุ้นดี)

https://www.facebook.com/AllaboutEddiePeng/videos/918910048228235/
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 03-04-2016 21:50:22
 :L2:

ขำคุณคนเขียนอะ เดี๋ยวมาอ่านนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 03-04-2016 22:04:40
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 03-04-2016 22:06:03
สังเกตว่ามีคนที่มาอ่านบางคนอ่านแล้วแต่ไม่คอมเมนต์กันเลย
แสดงว่าไม่ชอบตอนนี้กันแน่ๆ
แต่ไม่ชอบตอนนี้ก็ไม่ได้แปลว่าตอนหน้าจะมาไวนะครับ อิๆ
ยิ่งไม่ชอบ ยิ่งมาช้าครับ  :laugh: :laugh: :laugh:
ช่วงนี้มีงานเข้ามาเยอะ อาจจะไม่อัปเดตยาวเลย (ยกเว้นมีแรงกระตุ้นดี)

https://www.facebook.com/AllaboutEddiePeng/videos/918910048228235/

โอ้ม่ายยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย  :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2: :serius2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 03-04-2016 23:01:18
เป็งจะทำยังไงต่อไปนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 03-04-2016 23:21:44
เป็นงัยล่ะ คานินไม่ใช่ของตายนะ ฮ๊อตซ้าาา ขนาดนี้ :laugh:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 03-04-2016 23:24:28
เห็นใจเป็งอ่ะ แต่คานินแค่แกล้งเป็งเองนะ ๕๕๕ เดี่ยวเป็งหายไปบ้างคานินก็คงคิดถึงเป็งเหมือนกัน เป็นใครก็คิดแบบเป็งอ่ะ
  รอ รอ อ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 04-04-2016 01:40:23
ดีมีคานิน ให้เป็งอกแตกตายไปเลย55555555

ขอบคุรค่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 04-04-2016 10:50:46
ไม่รู้จะเชียร์ใคร...
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Alice111 ที่ 04-04-2016 10:52:12
ที่คานินทำแบบนี้เพราะว่าเป็งยังไม่ยอมเคลียร์เรื่องกัญแน่ๆเลยใช่ปะ...จะหวงทำไมในเมื่อตัวเองไม่เคลียร์...จะบอกทำไมว่ายังเป็นแฟนกันแล้วทำไมทำแบบนี้ก็ตัวเองทำก่อน...ถ้าเป็งทำก่อน.. เราทีมคานิน...เชียร์ :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 04-04-2016 21:06:10
อยากจะเขียนตอนต่อไปมากๆ เลย มันน่าร๊ากกกกน่ารักแหละ
แต่ช่วงนี้มีเวลาแค่วันละชั่วโมงก่อนนอน เขียนได้วันละนิดๆ หน่อยๆ
รอหน่อยนะครับ :)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 04-04-2016 21:15:13
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 04-04-2016 23:08:37
 :mew2: :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 04-04-2016 23:20:17
มารอฮะ


จะดูว่าเป็งจะทำยังไง  :impress2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-04-2016 00:14:17
มารอฮะ


จะดูว่าเป็งจะทำยังไง  :impress2:

พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้อ่านนะครับ ตอนนี้เขียนเสร็จแล้ว แต่ขอเกลาก่อน
ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนตอนนี้ได้เร็วขนาดนี้ 555
ตอนที่ 17 อาจจะไม่เท่าไหร่ มีดราม่าอยู่ แต่ตอนที่ 18 นี่เตรียมหมอนมาจิกได้เลย อิๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №16 รักที่ห่างไกล ⓟ12 ▦ 3.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 05-04-2016 07:20:48
มารอฮะ


จะดูว่าเป็งจะทำยังไง  :impress2:

พรุ่งนี้เช้าน่าจะได้อ่านนะครับ ตอนนี้เขียนเสร็จแล้ว แต่ขอเกลาก่อน
ไม่น่าเชื่อว่าจะเขียนตอนนี้ได้เร็วขนาดนี้ 555
ตอนที่ 17 อาจจะไม่เท่าไหร่ มีดราม่าอยู่ แต่ตอนที่ 18 นี่เตรียมหมอนมาจิกได้เลย อิๆ

อ้ากกกก รอจิกหมอน  :hao7: :hao7: :hao7:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-04-2016 08:14:42
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 17 รักคำแรกของผม


(http://bit.ly/1RX8ogL)

เป็ง...

ผมกับกัญชพรทานอาหารด้วยกันเสร็จก่อนสองคนนั้นที่ยังคงนั่งกินข้าวอยู่ด้วยกัน
แม้ว่าจะร้อนรุ่มใจแค่ไหน แต่ด้วยมารยาทของสุภาพบุรุษ ผมก็ต้องไปส่งเธอขึ้นรถ

ก่อนขับรถออกไป กัญชพรก็ไม่ลืมโบกมือลาและยิ้มให้ ไม่ใช่ลาครั้งสุดท้ายหรอก
ผมยังคงมีงานที่ต้องทำกับหน่วยงานของเธออีกอย่างน้อยสองครั้งสำหรับปีนี้

โดยธรรมชาติของผู้ชาย ก็อาจชอบมองผู้หญิงสวยบ้างเป็นธรรมดาอยู่แล้ว
แต่สำหรับคนที่รู้หัวใจของตัวเองอย่างผม การมองก็เป็นเพียงแค่การมองแค่นั้น
ผมคิดว่ากัญชพรก็คงพอจะรู้แล้วเพราะผมกันตัวเองไว้ด้วยการทำให้เธอเข้าใจว่า...
ผมน่าจะมีแฟนแล้ว แม้ผมแอบหยอดๆ ไปบ้าง แต่เธอก็รู้ดีว่ามีเส้นแบ่งกั้นไว้

ผมส่งยิ้มและโบกมือลาพร้อมกับรถของเธอที่ค่อยๆ เคลื่อนออกไปอย่างช้าๆ
พอรถของกัญชพรหายลับไปตรงทางออกแล้ว ผมก็รีบวิ่งแจ้นกลับมาที่ร้าน
ไม่ได้เข้าไปในร้านอีกครั้งหรอก แต่ทำทีเป็นเดินเล่นไปมาอยู่แถวๆ นั้น
รออยู่ประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง เจกับคานินก็ยุติอาหารเย็นมื้อพิเศษของทั้งสองคน

ผมแอบหลบตรงร้านหรือน่าจะเรียกว่าซุ้มขายไอศครีมเล็กๆ เพื่อไม่ให้สองคนนั้นเห็น
พอเจกับคานินเดินออกมาแล้วผมจึงย่องตามไป คอยเตือนตัวเองให้ใจเย็นๆ ไปด้วย

จนกระทั่งสองคนนั้นเดินผ่านประตูกระจกออกไปยังลานจอดรถของห้าง
ผมก็เข้าชาร์จด้วยการวิ่งไปดักข้างหน้าทันที

"คุณเป็ง!/พี่เป็ง!" คานินกับเป็งอุทานพร้อมกันอย่างตกใจและหยุดกึกอยู่กับที่

สองคนนั้นหน้าถอดสีจนดูซีดอย่างเห็นได้ชัด ก็ยังดีที่ยังรู้สึกอะไรกันอยู่บ้าง

"ตกใจมากเหรอ นี่ใช่ไหมที่เจบอกพี่ว่าเจมีธุระ มีธุระกับแฟนพี่เนี่ยเหรอ!"

ผมชักเดือดจึงไม่แทบไม่สามารถควบคุมอารมณ์ที่พลุ่งพล่านของตัวเองได้
จ้องสายตาของทั้งสองคนสลับกันไปมา ทั้งคู่ต่างหลบตาเป็นพัลวัน

"ทำอะไรกันรู้ตัวหรือเปล่า! ไม่เห็นหัวพี่เลยเหรอ! พี่กับคานินยังไม่เลิกกันซะหน่อย"

เจกับคานินทำหน้าเลิ่กลั่กเหมือนคนทำผิดแล้วถูกจับได้เลย หน้าซีดเผือดยังกับไก่ต้ม

"ว่ายังไงล่ะ!" ผมขึ้นเสียงดัง เจกับคานินถอยกรูดไปสองสามก้าว

ผมย่างเท้าตามไปอย่างช้าๆ ดีหน่อยที่แถวนี้คนไม่พลุกพล่านผมจึงไม่ต้องกังวลใดๆ

"คานิน...คานินเห็นผมเป็นอะไรเหรอ ถ้าจะไม่ให้โอกาสผมแก้ตัว...ก็บอกผมตรงๆ สิ
ถ้าจะไม่รักกันแล้ว บอกผมสิ! ถ้าอยากไปจากผมจริงๆ ผมก็คงห้ามไม่ได้อยู่แล้ว"

ผมเปลี่ยนเป้าหมายไปที่หนุ่มเขี้ยวของผมบ้าง ตอนนี้หน้าหดเหลือสองนิ้วแล้ว

"เอ่อ...ผม..." คานินตะกุกตะกัก แต่สุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ

"ตกลงจะเอายังไง คานิน เจ" ผมมองหน้าทีละคนตามชื่อที่เรียก

"คือผม..." เจอึกอัก ไม่ว่ารู้ว่าผมทำหน้าดุขนาดไหนแต่ดูเจกลัวมากทีเดียว

"ตอบไม่ได้เหรอ!" ผมขึ้นเสียงอีก จ้องหน้าสองคนสลับกันไปมา

"ว่าไงคานิน จะคบกับเจหรืออัญก็เลือกเอาละกันนะ ผมขอแค่ให้เราสองคนจบกันก่อน
แค่บอกผมเท่านั้นแหละ บอกผมมาสิคานิน เราสองคนจบกันแค่นี้ใช่ไหม แค่นี้ใช่ไหม!"

ผมคาดคั้นด้วยอาการโกรธระคนผิดหวัง มือไม้และริมฝีปากสั่นพอๆ กัน

"คุณเป็ง" คานินทำหน้ารู้สึกผิด ดูเหมือนอยากพูด แต่จนแล้วจนรอดกลับไม่เอ่ยปาก

"คานินอาจจะโกรธผมที่ผมเคยลังเลใจ ผมก็ไม่ว่าอะไร แต่ผมจะบอกอะไรให้อย่างหนึ่ง...
ผมไม่เคยลังเลว่าผมรักคานินหรือเปล่า ผมแค่สงสัยว่าความรู้สึกกับผู้หญิงคนนั้น...
คืออะไรกันแน่ ใช่ความรักหรือเปล่า หรือว่า...เป็นแค่ความหลงใหลชั่วคราว
ผมพิสูจน์ตัวเองแล้ว ผมเอาตัวเองเข้าไปอยู่ใกล้ผู้หญิงในแบบที่ผมฝังใจ แต่รู้ไหม...
ผมยอมเป็นคนกะล่อน ทำทีเล่นทีจริง ทำเป็นอยากอยู่ใกล้ชิดกับผู้หญิงคนนั้น
ทำเป็นหมาหยอกไก่ ทำเป็นสนใจเขา จ้องตาเขา คอยเฝ้ามองเขี้ยวเสน่ห์ของเขา
แต่คำตอบสุดท้ายของผม...ไม่ใช่ผู้หญิงคนนั้น คำตอบสุดท้ายของผมก็คือ...คานิน!"

"คุณเป็ง" คานินอุทานด้วยเสียงเบาหวิวจนผมแทบฟังไม่ได้ยิน

แต่ก่อนที่ผมจะระเบิดอารมณ์ไปมากกว่านี้ จู่ๆ ก็มีเสียงหนึ่งดังขัดจังหวะขึ้นมาเสียก่อน

"ไอ้เป็ง ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน"

ผมหันไปมองตามเสียงที่ดังมาจากข้างหลัง พอเห็นว่าเป็นเพื่อนรักก็แปลกใจ
ไม่รู้ว่ามายืนดูตั้งแต่เมื่อไหร่ถึงได้รู้ว่าผมกำลังระเบิดอารมณ์ใส่สองคนนี้อยู่

"ไอ้ภู"

เพื่อนรักผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง ทำไมเรื่องต่างๆ ถึงบังเอิญมากขนาดนี้ น่าแปลกจริงๆ
แต่ตอนนั้นผมคิดอะไรไม่ออกหรอกเพราะกำลังโมโหอยู่ ก็เลยไม่เอะใจแม้แต่น้อย

"มึงมานี่กับกูก่อนไอ้เป็ง"

ภูริชตรงเข้ามาจับแขนแล้วลากผมเดินออกไป

"ไอ้ภู มึงจะพากูไปไหน กูขอจัดการกับสองคนนี้ก่อนได้ไหม" ผมพยายามขืนตัวไว้

"มึงไม่ควรจัดการปัญหาตอนที่มึงกำลังอารมณ์ร้อนนะเว้ยไอ้เป็ง ไปคุยกับกูก่อน"

ภูริชพูดเสียงดังและทำหนักแน่นอย่างที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน บวกกับคนเริ่มมอง
สุดท้ายผมจึงยอมให้เพื่อนรักลากไปที่รถ แต่ก็ไม่วายหันไปมองเจกับคานินเป็นระยะๆ

"เดี๋ยวมึงค่อยมาเอารถมึงละกัน ไปกับกูก่อน" ภูริชพูดเหมือนออกคำสั่ง

แม้จะรู้สึกขัดใจพอสมควร แต่การปรากฎตัวของภูริชก็ทำให้ผมได้สติมากขึ้น
ก็จริงอย่างที่เพื่อนรักบอก ผมไม่ควรแก้ปัญหาในขณะที่ตัวเองยังควบคุมอารมณ์ไม่ได้
ผมเข้าไปนั่งในรถของเพื่อน พยายามสงบสติอารมณ์ของตัวเองเอาไว้
พอรถแล่นออกไปแล้ว ผมกับเพื่อนก็ไม่ได้คุยกันเลยตลอดทาง

(http://bit.ly/1mSYzme)

ภูริช...

ผมพาเป็งมาที่คอนโดของผมตอนเกือบสามทุ่ม เจ้าตัวยังคงเงียบอยู่
แต่พอเข้ามาในห้องผมแล้วก็เริ่มกระฟัดกระเฟียด ทิังตัวลงนั่งแล้วก็ระเบิดต่อ

"มึงก็เห็นใช่ไหมไอ้ภูว่าคานินทำอะไร เดี๋ยวก็เจ เดี๋ยวก็อัญ แล้วกูเป็นอะไรวะ"

จะว่าสงสารก็สงสารเพราะผมไม่เคยเห็นเป็งเป็นอย่างนี้เลย
แต่ผมก็ไม่อยากให้เพื่อนใช้อารมณ์ของตัวเองมากนัก

"ใจเย็นๆ ก่อนเพื่อน เดี๋ยวแป๊บนึงนะ กูขอโทรศัพท์ธุระแป๊บนึงก่อน
ไม่เกินครึ่งนาที เดี๋ยวกูจะคุยกับมึงทุกเรื่องเท่าที่มึงต้องการเลย"

เป็งดูจะหงุดหงิดแต่ก็ไม่ว่าอะไรผมหยิบโทรศัพท์มาแล้วกดเบอร์โทรออกไป
พูดคุยสองสามคำแล้วก็ยุติการสนทนา หันมาหาเป็ง พยายามยิ้มให้

"โอเค กูพร้อมจะฟังมึงแล้ว"

ผมนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกับเพื่อนรัก เป็งนั่งตัวตรงแล้วก็ระบายความรู้สึกต่อ

"กูโคตรเจ็บเลยนะเว้ยไอ้ภู มึงก็รู้ใช่ไหมว่าคานินเป็นรักแรกของกู กูไม่เคยรักใคร
เกิดมาในชีวิตนี้ นอกจากครอบครัว นอกจากเพื่อนอย่างมึง กูก็รักคานินเป็นคนแรก
กูชอบเขาตั้งแต่แรกเห็น อยากคุย อยากรู้จัก อยากอยู่ใกล้ๆ กูไม่เคยเป็นแบบนี้เลย
กูไม่เคยคิดว่าจะรักผู้ชายด้วยกันได้ แต่กูก็รักเขาได้ ก็อย่างที่มึงบอกนั่นแหละไอ้ภู...
ถ้ากูไม่รู้สึกกับเขามากขนาดนั้น กูก็ไม่น่าจะบ้าทำไปถึงขนาดนั้นหรอก แต่กูชอบเขา
ชอบเขามากๆ ด้วย อะไรที่ไม่เคยทำกูก็ทำ ทำทุกอย่างเพราะกูอยากมีเขาอยู่ข้างๆ"

เป็งหยุดเว้นจังหวะ ถ้าดูไม่ผิด ดูเหมือนมีหยดน้ำตาเล็กๆ ซึมออกมาจากสองตาด้วย

"ที่กูสับสน ไม่ได้แปลว่ากูไม่รักเขาซะหน่อย กูผิดมากเหรอที่กูแค่สงสัย กูถูกลงโทษ
ทั้งๆ ที่ยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคำตอบของกูคืออะไร ทำไมล่ะไอ้ภู กูผิดเลยมากเหรอ
กูก็เป็นคนธรรมดานะเว้ย ทำไมกูถึงจะสับสนไม่ได้ กูฝังใจกับเรื่องนี้มาตั้งนาน มึงก็รู้
กูแค่ขอเวลาหาคำตอบที่ชัดเจนให้ตัวเองแค่นั้น ไม่ให้โอกาสกูหน่อยเลยเหรอวะ
ความจริง...กูก็ได้คำตอบตั้งแต่คุยกับมึงวันนั้นแล้ว มึงช่วยพูดให้กูเข้าใจตัวเองแล้ว
กูรู้แล้วว่ามันเป็นแค่...infatuation ไม่ใช่ความรัก แต่คานินไม่ให้โอกาสกูแก้ตัวเลย"

พอเห็นเพื่อนเศร้าและเจ็บปวด ความสงสารที่แท้จริงก็บังเกิดในใจผม
นานๆ ทีผมจะเห็นเป็งบ่นและคิดลบมากขนาดนี้ แม้จะแปลกใจแต่ก็พอเข้าใจได้

"เอางี้...มึงตอบคำถามกูให้ชัดๆ อีกทีได้ไหมไอ้เป็ง"

เป็งหยุดมองหน้าผม ครุ่นคิด อาการดูสงบลงเล็กน้อย จากนั้นจึงพยักหน้า

"เรื่องกัญชพร ความรู้สึกของมึงกับผู้หญิงคนนี้...คืออะไรกันแน่" ผมยิงคำถามแรก

"กูไม่ได้รักเค้า" เป็งตอบมาแทบจะทันที "เขาสวย เขาน่ารัก กูไม่ปฏิเสธว่าชอบมอง
แต่ชอบมองก็ไม่ได้แปลว่ากูรักเขานะเว้ย ตามประสาผู้ชาย...มันก็ต้องมีบ้าง"

"แน่ใจใช่ไหม" ผมถามย้ำ

"แน่ใจสิวะ กูเคยโกหกมึงเหรอ กูไม่ได้รักเขา...ล้านเปอร์เซ็นต์" ย้ำหนักแน่นแล้วพูดต่อ

"กูทำตามที่มึงกับเจแนะนำแล้ว พยายามอยู่ใกล้ชิดกับคุณกัญ ก้อล้อก้อติกเขา
ไม่รู้ว่าเขามองกูว่าเป็นคนกะล่อนหรือเปล่า แต่มันก็ได้ผล เพราะมันทำให้กูรู้ว่า...
กูไม่ได้รักเขาเลย มันเป็น infatuation อย่างที่มึงว่าจริงๆ"

ผมพยักหน้าเข้าใจอย่างช้าๆ ยิ้มพอใจเล็กน้อยกับคำตอบของเพื่อนรัก

"แล้ว...ตอนที่คานินไปกับเจ อ้อ...ไปกับอัญด้วย มึงหึงเขาหรือเปล่า"

"มึงยังจะถามกูอีกเหรอวะ เมื่อกี้ก็เห็นอยู่ เรายังไม่ได้เลิกกันนะเว้ย ทำไมกูจะไม่หึง
แล้วที่สำคัญ...กูรักคานิน กูไม่อยากให้เขาไปกับคนอื่น กูกลัวว่ากูจะเสียเขาไป
ยิ่งรู้ว่ากูทำให้เขาเสียใจ ยิ่งรู้ว่ากูทำผิดกับเขา กูก็ยิ่งกลัวว่าเขาจะทิ้งกูไป"

"สรุปว่ามึงหึงเขาใช่ไหม" ผมถามย้ำ

"เออสิวะ ถามแปลกๆ นะมึงน่ะ" เป็งค่อนขอดเล็กน้อย

"หึงมากหรือเปล่า" ผมถามย้ำอีกครั้งให้แน่ใจจริงๆ

"อะไรของมึงวะไอ้ภู มึงก็เห็นแล้วนี่ ถ้ามึงไม่ลากกูมา กูคงได้ต่อยกับไอ้เจแน่ๆ"

ผมสะดุ้งตกใจเล็กน้อย ไม่คิดว่าเพื่อนผมจะมีมุมโหดๆ อย่างนี้ด้วย

"แล้วอัญล่ะ มึงหึงคานินกับอัญไหม"

เป็งคงรู้สึกว่าผมชักเริ่มแปลกๆ เพราะขมวดคิ้วและมองผมอย่างสงสัย

"กูก็หึงหมดแหละ มึงรู้ไหมว่าตอนที่กูเห็นรูปคานินกับอัญที่ผับอะไรสักอย่างน่ะ
หัวใจกูแทบสลาย ผู้หญิงกับผู้ชายสองคน เมาขนาดนั้น คงไปถึงไหนกันแล้วมั้ง"

"แสดงว่า...มึงเข้าใจความรู้สึกของคานินตอนที่คานินรู้ว่ามึงสับสนแล้วใช่ไหม"

"ก็เออดิ โคตรจะเข้าใจเลย แต่มึงรู้ไหมว่ากูก็สงสารเขา ช่วงที่กูยังหาคำตอบไม่ได้
กูก็ไม่อยากให้เขารู้หรอก สำหรับกูนะ...รู้ว่าไม่รักยังไม่เจ็บเท่าไม่รู้ว่ารักหรือเปล่า
เพราะฉะนั้น ตอนที่กูยังไม่มีคำตอบ กูก็ไม่อยากให้เขารู้ แต่คานินก็บังเอิญรู้จนได้"

ผมพ่นลมหายใจ มองหน้าเพื่อนอย่างใช้ความคิด จากนั้นก็สูดลมหายใจเข้าไปใหม่
รวบรวมความกล้าเมื่อมาถึงจุดสำคัญที่สุดที่ผมต้องพูดเสียที

"เรื่องที่คานินไปผับกับอัญ มึงไม่ต้องห่วงหรอก เขาสองคนไม่ได้ทำอะไรเสียหาย"

"แล้วมึงรู้ได้ไงวะ อย่าบอกนะว่ามึงไปกับเขามา" เป็งถามคล้ายประชด

"เออ กูไปกับเขามา แล้วกูก็เป็นคนไปส่งคานินเองถึงอพาร์ทเมนต์ของเขาเลย
เพราะฉะนั้นกูถึงกล้ายืนยันว่าคานินไม่โดนผู้หญิงคนนั้นงาบอย่างแน่นอน"

เป็งขมวดคิ้วแน่น ท่าทางสงสัยสุดขีด ผมทำใจนิ่งๆ สักพักจึงพูดต่อ

"กูไม่รู้ว่ามึงจะโกรธกูหรือเปล่านะ มึงจะโกรธกูก็ได้ แต่อย่าถึงกับเลิกคบกูนะเว้ย
คืออย่างงี้...เรื่องทั้งหมดที่ทำให้มึงหัวเสียอยู่ตอนนี้...เป็นแผนของกูเองแหละ"

เป็งหน้าเหวอและดูงุนงงมากกว่าเดิม "มึงพูดอะไรของมึงวะไอ้ภู กูไม่เข้าใจ"

"ก็กูอยากช่วยมึงสองคนไง" ผมเกริ่นก่อนอธิบายจริง

"ช่วยเหรอ ช่วยยังไง" เป็งยังคงขมวดคิ้ว

ผมรวบรวมความกล้าอีกครั้ง แม้กลัวเพื่อนโกรธแค่ไหนก็ต้องพูดความจริง

"อย่างแรก กูอยากให้มึงแน่ใจตัวเองจริงๆ ว่ามึงรักคานิน และรักเขามากจริงๆ
อย่างที่สอง...กูอยากให้คานินรู้แล้วก็มั่นใจว่ามึงรักคานินจริงๆ เขาจะได้ไม่สงสัยอีก"

"ยังไงวะ" เป็งดูไม่คลายสงสัยลงไปเลยแม้แต่นิด

"ก็...อย่างแรก ที่กูให้มึงทำตามคำแนะนำของเจน่ะ เพราะกูอยากให้มึงค้นพบหัวใจตัวเอง
มึงสับสนว่ามึงรู้สึกยังไงกับกัญชพรใช่ไหม แทนที่มึงจะหนีมันไป มึงต้องวิ่งเข้าหามัน
ไปอยู่ใกล้เขา คุยกับเขา รู้จักกับเขา แต่ก็มีระยะห่างไว้ป้องกันตัวเอง มึงถึงจะรู้ด้วยตัวเองไง
ว่าสุดท้าย...ความรู้สึกที่มึงมีให้เขา...ใช่ความรักหรือเปล่า มึงก็ได้คำตอบแล้วนี่"

ผมหยุดเว้นจังหวะ เพราะเรื่องต่อไปสำคัญมากและเสี่ยงที่ผมจะถูกเพื่อนด่าที่สุด

"ส่วนอีกเรื่อง กูเป็นคนขอให้เจ อัญแล้วก็คานิน...ทำอย่างที่มึงเห็นนั่นแหละ
เจกับอัญเขาไม่คิดจะแย่งแฟนมึงหรอก กูแค่ขอให้สองคนนี้มาช่วยทำให้มึง...หึงคานิน
มึงจะได้รู้ใจตัวเองไงว่ามึง...รักคานินมากแค่ไหน กูไม่มีเจตนาอย่างอื่นเลย"

"มึงหยุดเลยนะเว้ยไอ้ภู!" เป็งพูดสวนขึ้นมาก่อนผมพูดจบ ท่าทางดูโกรธอย่างเห็นได้ชัด

ผมหยุดพูดหรือจะเรียกว่าหยุดชะงักก็ได้ ใจเต้นตุ๊มๆ ต่อมๆ รู้สึกใจคอไม่ดี
เป็งลุกขึ้นยืนแล้วก็พูดใส่อารมณ์เสียงดังกับผม

"พวกมึงเห็นกูเป็นอไรเหรอวะ ไม่เชื่อใจกูกันเลยเหรอถึงต้องทำกันแบบนี้
คำพูดของกูไม่มีความน่าเชื่อถืออย่างงั้นเหรอ ถ้ากูบอกว่ารัก ไม่มีใครเชื่อใช่ไหมว่ากูรัก
กูไม่สนุกด้วยนะเว้ยไอ้ภู ถึงกูจะเข้าใจความหวังดีของมึง แต่กูก็ไม่สนุก กูเจ็บนะเว้ย
เห็นกูเป็นตัวอะไรวะ ถ้าไม่เชื่อคำพูดกัน ก็บอกมาเลย ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้"

พูดจบแล้วเป็งก็พรวดพราดออกไปจากห้องผม ผมทำท่าจะวิ่งตามไปแต่ก็หยุดและนั่งลง
เป็งโกรธผมไปแล้ว ไม่มีประโยชน์ที่จะไปอธิบายตอนนี้ คงต้องรอให้สงบสติอารมณ์ก่อน
ผมก็เสียใจเหมือนกัน โดยเฉพาะเมื่อเป็งเน้นย้ำว่า "กูไม่สนุกด้วย"
ด้วยความที่อยากช่วยก็เลยลืมคิดถึงข้อนี้ไปเลย ถ้าผมโดนแบบนี้บ้างก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน

กูขอโทษนะเพื่อน!

(http://bit.ly/1VpoldE)

คานิน...

ผมได้ยินการสนทนาทั้งหมดแล้วเพราะภูริชโทรศัพท์มาหาผมตอนที่คุยกับเป็ง
จากนั้นก็เปิดสายไว้เพื่อให้ผมได้ฟังว่าเป็งพูดอะไรกับภูริชเรื่องผมบ้าง
ผมรู้สึกผิดมากทีเดียว ถ้าผมเป็นเป็งก็คงรู้สึกแย่ที่โดนคนรักลองใจอย่างนี้
ก็อย่างที่เป็งว่า ถ้าไม่เชื่อใจกันก็บอกกันตรงๆ ไม่ควรทำอย่างนี้ให้เสียความรู้สึก

ผมนึกถึงเรื่องที่ผมคุยกับภูริชวันนั้น ตอนที่เป็งไปจัดงานอบรมที่นครนายกสามวัน
ตอนนั้นผมเองก็เคว้งเพราะกลัวว่าเป็งจะไปจากผมเพราะได้เจอคนที่ใช่มากกว่า
แต่สิ่งที่ภูริชบอกทำให้ผมอยากให้โอกาสตัวเองและเป็งอีกสักครั้ง

"คานินไม่ต้องเสียใจหรอก ผมเป็นเพื่อนเป็งมาเป็นสิบๆ ปี รู้จักเขาดี เขารักคานินนะ
เขาไม่รักผู้หญิงคนนั้นหรอก เข้าใจเป็งเขานิดนึง เขาฝังใจกับผู้หญิงมีเขี้ยวมานาน
เขาเลยแยกไม่ออกว่าความหลงกับความรักต่างกันยังไง แต่คานินคงรู้ว่ามันต่างกัน
อีกอย่าง...เป็งก็ไม่เคยมีความรักมาก่อน ก็เลยสับสนอยางที่เห็นนั่นแหละครับ
ถ้าคานินอยากพิสูจน์ ก็ทำตามที่ผมแนะนำ แล้วคานินจะเห็นด้วยตาของคานินเอง"

ผมยอมรับว่าพอได้ฟังแล้วก็ยังไม่มั่นใจเสียทีเดียว แต่ก็อยากพิสูจน์ให้แน่ใจ
จนวันนี้ผมก็ได้รู้แล้ว เป็งรักผมจริงๆ ด้วย ผมไม่น่าไปลองใจเป็งอย่างนั้นเลย
ไม่ได้การแล้ว ผมต้องไปหาเป็ง ต่อให้เป็งโกรธเกลียดยังไงผมก็ต้องไปหาให้ได้

ว่าแล้วผมก็เก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าและลงไปเรียกมอเตอร์ไซค์ไปปากซอย
พอถึงถนนใหญ่ก็นั่งรถเมล์ไปลงสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินที่ผมแทบไม่เคยใช้บริการเลย
จากนั้นจึงต่อบีทีเอสไปยังสถานีที่อยู่ใกล้ร้านกาแฟที่ผมทำงานอยู่

พอออกจากสถานีบีทีเอส ผมก็เดินลิ่วเข้าไปในซอยที่เป็นที่ตั้งของคอนโดของเป็ง
จนกระทั่งในที่สุดผมก็พาตัวเองมาอยู่ที่ล็อบบี้ของคอนโดสุดหรูใจกลางเมืองจนได้

ผมพยายามโทรหาเป็งแต่ก็ไม่ติด ส่งไลน์ไปก็ไม่อ่าน ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบ
สุดท้ายผมจึงต้องพึ่งเจ้าหน้าที่ของคอนโดให้ช่วยโทรไปที่ห้องของเป็ง
น้องผู้หญิงจัดการโทรให้ผมอย่างกุลีกุจอ แต่โทรไปหลายรอบก็ไม่มีใครรับสาย

"คุณป้องเกียรติยังไม่ได้ออกไปไหนใช่ไหมครับ" ผมถามย้ำ

"เพิ่งเห็นเข้ามา ยังไม่น่าจะออกไปนะคะ" เจ้าหน้าที่สาวสวยบอก

"ช่วยโทรอีกทีได้ไหมครับ" ผมขอความเห็นใจอีกครั้งเพราะเหลือเพียงทางเลือกเดียว

เจ้าหน้าที่สาวสวยยิ้มให้ แล้วจัดการโทรเข้าเบอร์ห้องของเป็งอีกครั้งตามที่ผมร้องขอ
หลังจากที่พยายามโทรไปสองสามรอบ ในที่สุดก็มีคนรับสายเสียที

"คุณป้องเกียรติคะ มีแขกชื่อคานินมารอพบที่ล็อบบี้ค่ะ"

ผมรู้สึกโล่งใจมากทีเดียวที่เจ้าหน้าที่สามารถติดต่อเป็งได้และบอกว่าผมมารออยู่

"ขอบคุณมากครับ" ผมยิ้มให้เธอแล้วก็กลับมานั่งรอตรงที่นั่งบริเวณล็อบบี้ตามเดิม

แม้ว่าจะกลัวเป็งโกรธแค่ไหน แต่สิ่งที่ผมกลัวมากกว่านั้นก็คือการเสียเป็งไป
เพราะฉะนั้น ผมจะไม่ยอมเสียเป็งไปเด็ดขาด ถ้าจะต้องอ้อนวอนก็ยินดีทำ

ในที่สุดเป็งก็ลงมาหาผมด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย แต่ก็ออกจะดูบึ้งตึงไม่น้อย
มาถึงปุ๊บก็พาผมเข้าไปยังบริเวณส่วนในของคอนโดทันทีโดยไม่พูดพล่ามทำเพลง
พอเข้ามาในห้อง เป็งก็เดินไปยืนกลางห้อง หันหลังให้ผมที่เดินเข้ามาอย่างหวั่นๆ

"สนุกกันมากไหม!" เป็งพูดขึ้นโดยไม่หันมามอง

ผมหยุดชะงักกึก แค่น้ำเสียงก็ทำเอาผมใจหล่นวูบไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว คงโกรธผมน่าดู
ไม่มีเสียงตอบรับใดๆ จากผมเพราะชักทำตัวไม่ถูก พูดกับคนโกรธใช่เรื่องง่ายที่ไหน

"ไม่เชื่อใจผมเหรอ ผมไม่เคยโกหกสักครั้ง สับสนก็ยอมรับว่าสับสน ทั้งๆ ที่โกหกก็ได้
แต่ผมก็ไม่ทำ รู้อย่างงี้...ผมโกหกซะบ้างก็น่าจะดี แปลกนะ...คนสมัยนี้ชอบคนโกหก"

ผมสะอึกไปเลย เพราะที่ผมทำอยู่ตอนนี้ก็คือการโกหกหลอกลวงดีๆ นี่เอง
แม้ว่าจะมีเจตนาเพื่อพิสูจน์หรือลองใจอีกฝ่ายก็เถอะ

"คุณเป็ง ผมขอโทษ" ผมบอกด้วยน้ำเสียงและสีหน้ารู้สึกผิด แต่เป็งก็ไม่หันมามอง

"ไม่ต้องขอโทษผมหรอก ผมเอง...ก็ทำให้คานินเจ็บตั้งเยอะ แต่ผมจะบอกให้รู้นะ
คนอย่างผม...ไม่เคยลองเชิง ไม่เคยลองใจใคร ผมไม่ทำแบบนี้กับคนที่ผมรัก"

นั่นไงล่ะ เป็งโกรธเรื่องนี้อย่างที่ผมเข้าใจจริงๆ ด้วย
กระนั้น ผมก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยตอนที่ได้ยินคำว่า "คนที่ผมรัก" นี่แหละ

"เดี๋ยวผมจะกลับไปอยู่เชียงรายสักเดือน ขอเวลาไปสงบจิตใจสักหน่อย"

ใจผมหายวาบ เป็งจะห่างผมไปตั้งหนึ่งเดือนเลยหรือ ผมคงขาดใจตายแน่ๆ เลย
คงยอมปล่อยให้เป็งไปทั้งๆ ที่เรายังไม่เข้าใจกันแบบนี้ไม่ได้หรอก

"คุณเป็ง...อย่าเพิ่งไปเลยนะครับ" ผมทำเสียงอ้อนวอนสุดฤทธิ์

"ผมอยู่ไม่ไหวหรอก ผมยอมรับว่าผมโกรธมาก เหมือนตัวเองเป็นตัวตลกไงไม่รู้
ผมไม่รู้นะว่าคานินเชื่อใจผมแค่ไหน หนึ่งอาทิตย์อาจจะไม่พอที่ผมจะพิสูจน์ตัวเอง
จะลองสักหนึ่งเดือนดูไหมล่ะ เผื่อเราสองคนจะชัดเจนกับความรู้สึกตัวเองมากกว่านี้
เผลอๆ เราจะได้รู้ว่า...เราสองคน...ไม่ใช่คำตอบของกันและกันอยู่หรือเปล่า"

ใจผมหายวาบอีกครั้ง ผมไม่ต้องการเวลาพิสูจน์หัวใจเพิ่มเพราะผมได้คำตอบแล้ว
คนอย่างเป็งมีทางเลือกที่ดีกว่ามากมาย แต่ก็ยังยืนยันว่ารักผม แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้ว

ผมค่อยๆ ย่างเท้าเข้าไปหาเป็ง มองดูแผ่นหลังที่ผมเคยกอดกระหวัดในค่ำคืนนั้น
ผู้ชายที่แสนอบอุ่น จริงใจและรักผมจริงอย่างนี้จะไปหาได้ง่ายๆ ที่ไหน
ผมย่างเท้ามาจนเกือบประชิดตัว มือไม้สั่นด้วยความกลัว แต่สุดท้ายผมก็ตัดสินใจ...
วงแขนของผมรวบตัวเป็งไว้ กอดแน่นแนบชิดกันจนจมูกได้สัมผัสกลิ่นกายที่คุ้นเคย

"คุณเป็ง...อย่าไปเลยนะครับ ผมไม่อยากให้คุณเป็งไป"

ผมสัมผัสได้ถึงอาการยืนตัวแข็งทื่อของเป็ง คล้ายกับเจ้าตัวยังไม่พร้อมจะอ่อนลง

"ทำไมล่ะครับ" น้ำเสียงของเป็งฟังดูสั่นไหว

"ผม..." ผมหยุดเว้นจังหวะ รวบรวมความกล้าเท่าที่มีพูดเรื่องสำคัญที่สุดออกไป

"ผมรักคุณเป็ง" สารภาพแล้วผมก็ซบหน้าลงที่แผ่นหลังของเป็งพร้อมกับร้องไห้เบาๆ

"ผมขอโทษที่ผมลองใจคุณเป็ง ผมรู้ว่ามันไม่ดี แต่ผมแค่อยากพิสูจน์ให้มั่นใจ
ผมรู้ว่ามันไม่ใช่วิธีที่ถูกหรอก แต่ตอนนั้น...ผมไม่รู้จะหาวิธีไหน ไม่รู้จะทำยังไง
ผมก็เลยต้องทำอย่างงั้น แต่ถึงมันจะไม่ค่อยดี ผมก็ได้พิสูจน์แล้วว่าคุณเป็ง...
รักผมมากแค่ไหน ขอบคุณที่ยังรักผมนะครับคุณเป็ง ผมก็รักคุณเป็งเหมือนกัน
แล้วก็คิดถึงคุณเป็งทุกวันเลย คุณเป็งก็คิดถึงผมใช่ไหมครับ ผมรู้ว่าคุณเป็งคิดถึงผม"

เป็งนิ่งเงียบ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะตกตะลึงหรืออะไรกันแน่ที่ได้รู้ความในใจจากผม

"ถ้าคุณเป็งโกรธผม คุณเป็งจะเตะ จะต่อย จะทำอะไรผมก็ได้ ผมยอมทุกอย่าง
ขออย่างเดียว...คุณเป็งอย่าเพิ่งไปนะครับ อยู่กับผมก่อน ผมอยากอยู่กับคุณเป็ง"

เป็งยังคงเงียบและไม่แสดงอาการตอบสนอง แต่ก็พอสัมผัสได้ว่าตัวเริ่มอ่อนลงแล้ว
ผมกอดเป็งแน่นขึ้นเพื่อให้เป็งรู้ว่าผมอยากอยู่กับเป็งสองคนมากแค่ไหน

"ผมขอโทษนะครับพี่เป็ง ขอโทษจริงๆ ยกโทษให้ผมได้ไหม"

ผมจงใจเรียกเป็งว่าพี่เพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดที่ผมมอบให้ไป
ได้ผลเสียด้วย เป็งตอบสนองด้วยการแกะมือผมออกแล้วหันมาเผชิญหน้ากัน
แต่แล้วผมก็ต้องตกใจที่พบว่าเป็งยังคงมีสีหน้าบึ้งตึงอยู่ บึ้งตึงกว่าเดิมด้วยซ้ำ

"จะให้ผมทำโทษยังไงก็ได้ใช่ไหม" เป็งถามย้ำด้วยเสียงเข้มและหนักแน่น

"ครับ...ยังไงก็ได้" ผมพยักหน้ายืนยัน แต่ในใจรู้สึกหวั่นๆ อย่างบอกไม่ถูก

"ดี...งั้นก็เตรียมตัวรับโทษให้ดีละกันนะครับ!"

TBC...

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: sunago ที่ 05-04-2016 10:02:12
 o18 o18  จัดหนักเลยค่ะ เป็ง :mew3:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 05-04-2016 10:39:22
กะแล้วว่า 4 คนนี้ต้องรวมหัววางแผนกัน 555 :m20: :m20: :m20:

เป็งโกรธแล้วน่ากลัวชะมัด  :m31: :m31: :m31:

รออ่านตอนหน้า คานินจะโดนพี่เป็งทำโทษหนกยังไงน้าาาา เอิ๊กๆๆๆๆๆ :oo1: :oo1: :oo1: :oo1:

มาต่อไวๆนะคร้าบบบบบบ :z2: :z2: :z2:

รออีกเรื่องด้วย อยากอ่านต่อไวๆอ่าาา  :mew2: :mew2: :mew2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 05-04-2016 10:54:45
o18 o18  จัดหนักเลยค่ะ เป็ง :mew3:

เห็นด้วยเลย ^^
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 05-04-2016 10:57:59
อ้าว แผนพลิกจ้า5555555 ตายละ ด่าพระเอกไปเยอะเลยเฮ้อ เอาเป็นว่าเราให้เป็งทำโทษคานินจนลุกไม่ขึ้นเลยเอ้า 55555
 :haun4:
ขอบคุณค่ะนักเขียน ^^
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 05-04-2016 13:01:47
จริงๆพี่เป็งใจอ่อนตั้งแต่ที่ได้ยินคำรักจากคานินแล้วใช่มั้ย
แต่พอรู้ว่าคานินยอมให้ทำโทษ รีบรับเลยนะเป็ง
มารอลุ้นว่าคานินจะโดนทำโทษอะไร
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 05-04-2016 13:45:41
ตอนหน้า nc ชัวร์ โดนจัดหนักแน่คานิน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 05-04-2016 15:49:59
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 05-04-2016 16:30:09
เออเนอะ ปกติเรื่อวอื่นเค้าไม่เอาเรื่องไม่โกรษเพื่อน เอาให้หนักๆเลยเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-04-2016 17:42:37
ตอนต่อไป จะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาพข้างล่างนี้ด้วยแหละ อิๆ แค่คิดก็...

(https://app.box.com/representation/file_version_62445781269/image_2048_jpg/1.jpg?shared_name=vzenws8tjsvx8x7yguvdgrr15kpak83h)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 05-04-2016 17:57:59
ตอนต่อไป จะมีอะไรบางอย่างเกี่ยวกับภาพข้างล่างนี้ด้วยแหละ อิๆ แค่คิดก็...

(https://app.box.com/representation/file_version_62445781269/image_2048_jpg/1.jpg?shared_name=vzenws8tjsvx8x7yguvdgrr15kpak83h)
  :haun4: :pighaun: :z1: :m25: :jul1: :oo1: :hao7:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 05-04-2016 18:22:32
ตอนหน้ายังอยู่ที่คอนโดเป็งใช่มั้ยคับ 555 คานินโดนแน่คิดเกินไปแล้ว
  ชอบฉากคานินง้อเป็งคับ รอ รออ่านตอนต่อไปคับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-04-2016 18:49:37
คานิน เอาตัวเข้าแลกเลย เดี๋ยวเป็งก็ยกโทษให้แน่ๆ :z1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 05-04-2016 23:44:39
คานินมาง้อเป็ง อ่านละเขิล 555+

พี่เป็งทำโทษคานินหนักๆ เลยนะ  :oo1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №17 รักคำแรกของผม ⓟ13 ▦ 4.4.2016
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 06-04-2016 01:11:13
ลงทัณฑ์ฉันเถอะๆ กลายเป็นจำเลยรักกันเลยทีเดียว เหอๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-04-2016 21:17:08
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง (NC)


(http://bit.ly/1NibOEk)

เป็งผลักผมลงนอนบนโซฟาที่อยู่ใกล้แล้วโถมตัวตามลงมาอย่างรวดเร็ว
ยังไม่ทันได้คิดว่าเกิดอะไรขึ้น ริมฝีปากหยักสวยตามมาประกบกับริมฝีปากของผม
ส่งปลายลิ้นดันพุ่งสวนวาบเข้ามาอย่างรวดเร็ว แถมยังกระดกเลียช่องปากผมอีกด้วย
ผมรู้สึกเหมือนหมดแรงไปดื้อๆ แม้อยากเบือนหน้าหนีเพื่อสูดอากาศหายใจกลับทำไม่ได้
แม้ร่างกายยอมแพ้ แต่กลับติดใจรสชิวหาสวาทของหนุ่มตี๋จนยากจะถอนตัว

ผมปล่อยให้ร่างหนาจูบไซร้และสัมผัสทุกส่วนของร่างกายตามอำเภอใจ
แรงรัก แรงคิดถึงและแรงปรารถนาต่างช่วยกันโหมกระพืออารมณ์ให้ร้อนฉ่า

ผมกับเป็งมือไม้สั่นเร่งปลดกระดุมและถอดเสื้อตัวเองออกจนเกือบจะฉีกทิ้ง
พอเห็นอกแกร่งผมจึงผวาเข้ากอดแล้วดึงตัวเป็งลงมาทาบทับผมไว้อีกครั้ง
ซุกหน้าลงกับอกแกร่งและกอดเป็งไว้แน่น เนื้อแนบเนื้อช่างวาบหวามหวิวใจดีจริง
กลิ่นกายหอมอุ่นๆ อันเป็นกลิ่นเฉพาะลวงล่อให้ผมฝังจมูกสูดดมตรงอกแกร่ง
ผมสูดกลิ่นกระตุ้นกำหนัดให้เต็มจมูก ก่อนเลื่อนตัวสูงขึ้นพร้อมรับรสจูบอีกคำรบ

"รู้ไหมว่าคิดถึง คืนนี้คานินไปกับผมนะ ผมรักคานินนะครับ"

เป็งพูดเสียงกระเส่า ผมรีบพยักหน้ารับเพราะเวลานี้คงไม่ใช่เวลาคุยกัน
ใบหน้าหล่อเหลาคมสันเคลื่อนลงมาใกล้ ผมเผยอปากรอรับจูบอย่างรู้งาน
เพียงริมฝีปากแตะกันเบาๆ ผมยังสั่นสะท้าน เมื่อจูบเริ่มขึ้นผมพลันแทบขาดใจ
เราดูดปากแลกลิ้นอย่างหิวกระหายและเร่าร้อน แทบกลืนกินกันเลยก็ว่าได้

เป็งถอนลิ้นออกจากริมฝีปากผม อ้อมไปจูบตรงบริเวณหูอ่อนๆ ขบเม้มเบาๆ
พอลิ้นของเป็งฉกชอนเข้าซอกใบหู ทั้งดูดและเลียเล่นอย่างไม่รังเกียจ
ผมจึงได้แต่ครางเสียงสั่น คิดไม่ถึงว่าแฟนหนุ่มตี๋ของผมจะเก่งเล้าโลมอย่างนี้
ไม่รู้ว่าไปหัดมาจากไหน คงไม่พ้นวิดีโอคลิปอีกกระมัง

"อาวววว์ คุณเป็ง อย่างงั้นแหละครับ"

เสียงร้องครวญครางของผมกลับยิ่งกระตุ้นให้เป็นรุกเร้าและเล้าโลมหนักขึ้นเรื่อยๆ
เปลี่ยนจากดูดเลียซอกหูทั้งสองข้างแล้วเลื่อนใบหน้ามาซุกไซร้ที่ซอกคอของผม
ปล่อยลมหายใจอุ่นๆ มารดต้นคอเป็นระยะๆ จนผมร้อนวูบวาบไปทั้งเรือนกาย

"อาห์ โอววววว์"

ผมสูดปากร้องครางเมื่อเป็งเลื่อนใบหน้าต่ำลงเรื่อยๆ และคอยลุ้นว่าจะหยุดตรงไหน
หนุ่มตี๋เผยอปากงับเอาเม็ดทับทิมบนหน้าอกซ้ายของผมพร้อมกับใช้ลิ้นดุนวนไปทั่ว
สลับกับการอมเม้มไว้ในปาก ใช้ฟันหน้าแทะเบาๆ ทั้งด้านซ้ายและขวา วนเวียนไปมา
บางขณะรู้สึกเหมือนเม็ดทับทิมของผมจะขาดหลุดไปกับปากของเป็งเลยทีเดียว
มือผมโอบกอดจนบางทีเผลอขยุ้มหัวของเป็งแน่น เชิดหน้าสูดปากอย่างเสียวซ่าน

ในขณะที่ปากรุกเร้าท่อนบน มือของเป็นสอดเข้าไปภายในกางเกงของผม
ฝ่ามือหนาและอุ่นปลดตะขอออกแล้วลูบไล้อาวุธประจำกายของผมอย่างสนุกมือ
ไม่นานกางเกงขายาวกับชั้นในของผมจึงหลุดออกไปเพื่ออำนวยความสะดวก

ผมไม่สามารถสะกดความเสียวกระสันที่วิ่งขึ้นมาอัดแน่นบริเวณหน้าอกได้เลย
ครางหนักเมื่อมือของเป็งเริ่มรุกล้ำทักทายและกรีดไปมาตามรอยแยกอย่างช้าๆ
รู้สึกเสียบวูบวาบแถวนั้นจนนึกอยากเจอของจริงให้รู้แล้วรู้รอด

มือของผมซุกซนลูบไล้ลงล่างบ้าง ปลดตะขอกางเกงของเป็งแล้วรูดซิปออกอย่างไว
ไม่รอช้าที่จะเข้าจับกุมท่อนลำเขื่องแล้วรูดขึ้นลงทั้งที่ยังอยู่ในชั้นในเนื้อเนียนนุ่ม

"อาห์ คานิน...เร็วอีกนิดนึง" เป็งครางบอกผมให้ขยับรูดเร็วขึ้น ผมก็ว่าง่ายเสียด้วย

เป็งยังคลึงเคล้นเล่นกับหน้าอกผมด้วยชิวหา พร้อมกับมือที่วนเวียนเลื้อยไล้ด้านล่าง
เรือนกายของผมบิดเกร็งสั่นสะท้านไปมาเมื่อทั้งบนทั้งล่างถูกโจมตีพร้อมๆ กัน

"คุณเป็ง...ผมไม่ไหวแล้ว ผมยอมแล้วครับ"

เป็งคงรู้ว่าผมหมายถึงอะไร แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลานั้น และโซฟาก็ไม่ใช่ที่ของเรา

การเล้าโลมยุติชั่วคราว เป็งลุกยืนแล้วโน้มตัวลงช้อนผมขึ้นมาอุ้ม เดินตัวปลิวออกไป
ผมถูกวางลงบนเตียงนอนนุ่มสบาย หนุ่มตี๋มองร่างเปลือยเปล่าของผมอย่างหื่นกระหาย
ร่างหนาโถมตัวลงมาทาบทับ ก่อนจะป้อนจูบให้ผมเป็นเวลาสั้นๆ

เป็งกอดผมแล้วม้วนกลิ้งให้ผมขึ้นไปอยู่ข้างบนบ้าง ถึงคราวที่ผมต้องจัดการเป็งแล้ว
ผมตรงเข้าดูดและขบเม้มเบาๆ ที่ใบหูขาวสะอาด ลากลิ้นดูดดึงไปตามแนวสันกราม
เมื่อถึงหูอีกข้างจึงขบเลียเช่นเดียวกัน เป็งครางและสูดปากเป็นระยะๆ ด้วยความเสียว

ผมเลื่อนลงต่ำมาที่เม็ดทับทิมทั้งสองข้าง วาดลีลาดูดเลีย ฉกกัดและขบเม้มอย่างสนุก
โลมเล่นลิ้นบนเนินอกจนเปียกชื้น ผิวขาวมีรอยแดงจากมือและปากผมเป็นจ้ำๆ ไปทั่ว
หนุ่มตี๋เผลอครางฮืออย่างถูกอกถูกใจ ขยุ้มหัวผมไว้เหมือนไม่อยากให้เลื่อนไปไหน

พอหนำใจผมจึงเลื่อนต่ำลงหาชั้นในซีเคสีฟ้าที่นูนโป่งและมีน้ำใสซึมเลอะเป็นดวง
กลิ่นยั่วเย้าชวนผมให้ซุกหน้าลงสูดดมและโลมเลียท่อนลำเขื่องใต้ชั้นในจนเปียกชื้น
ผมดึงขอบชั้นในราคาแพงลงมาครึ่งน่องจนเห็นท่อนเขื่องกระดกหงึกๆ อวดเต็มตา
น้ำใสไหลเยิ้มบ่งบอกว่าเจ้าตัวมีอารมณ์ต้องการมากจนแทบกลั้นไม่อยู่

ผมจับท่อนเขื่องรูดขึ้นลง ใช้ลิ้นเลียเล่นชิมรสหัวหยักแดงอมชมพูอย่างเอร็ดอร่อย
เป็งบีบเกร็งและขยำผ้าปูที่นอนแน่น หน้าตาเหยเกบูดเบี้ยวจนต้องร้องครางเสียงหลง
ไม่นานผมจึงครอบปากลงไปกลืนกินท่อนลำเขื่องที่แสนเต็มปากเต็มคำดีเหลือเกิน
ผมรูดปากขึ้นลงเพื่อสร้างความเสียวซ่านให้คู่ขาหนุ่มตี๋ครวญครางจนเหมือนเพ้อ
เป็งเผลอขยุ้มหัวผมเบาๆ พร้อมกับจับโยกขึ้นลงด้วยความเร็วตามที่พอใจ

"คานิน ลึกๆ เลยได้ไหม อาห์...อย่างงั้นแหละ ลึกอีก อาห์...Throb me!"

เป็งขอให้ผมลอง Throb หรือดูดกลืนให้ลึกสุดท่อนลำ ผมยอมจัดให้ตามที่ขอ
ร่างหนากดหัวผมไว้ เมื่อท่อนลำเข้าไปสุดจึงบิดตัวเร่าๆ ด้วยความเสียวสุดขีด

"คานิน โอวววว์ ซีดสสส์"

เป็งสูดปากคล้ายกับกินของเผ็ดจัด เมื่อชอบมากผมจึงจัดไปสามรอบ

"พอแล้วคานิน เดี๋ยวผมขาดใจตายพอดี ตาผมมั่ง"

เป็งบอกเสียงหอบแล้วพลิกมาอยู่ข้างบน สายตาหื่นกระหายคู่นั้นทำเอาผมร้อนวูบวาบ
เป็งเลื่อนตัวลงต่ำ จ้องดูท่อนลำผมอย่างหิวกระหาย ก่อนเอานิ้วชี้แตะน้ำใสมาชิมดู
เป็งกำท่อนลำผมและรูดขึ้นลงเบาๆ พอเห็นน้ำใสเยิ้มออกมาอีกจึงละเลงลิ้นลงแตะชิม

ผมอยากจะคลั่งเสียให้ได้เมื่อเห็นหนุ่มตี๋สุดหล่อทำอย่างนี้ เซ็กซี่ดีเหลือเกินแฟนหนุ่มของผม
เป็งไล้เลียและขบดูดเบาๆ ลงที่หัวหยักแดงก่ำ แล้วครอบปากดูดกลืนท่อนลำผมหายไป
แต่ไม่ลืมเงยหน้าขึ้นมองผมขณะปฏิบัติภาระกิจไปด้วย เพิ่มพูนความเสียวจนผมแทบคลั่ง

ตอนแรกนึกว่าเป็นแค่การดูดธรรมดา เปล่าเลย เป็งกำลัง Throb ผมด้วยต่างหาก
พอสุดโคนผมจึงผวาคราง ขยำผ้าปูที่นอนแน่น จึงโดนจัดไปอีกสามรอบเช่นกัน

เป็งเลื่อนขึ้นมาจูบปากกับผมอีกคำรบ คงเป็นรอบสุดท้ายก่อนที่ของจริงจะเริ่มขึ้น
หนุ่มตี๋คิ้วหนาเงยหน้ามามองผม ส่งสายตาหวานฉ่ำเยิ้มสุดเซ็กซี่จนผมแทบละลาย
ผมยอมทุกอย่างแล้ว จะทำอะไรก็ทำเสียทีที่รักของผม

"พี่จะทำให้คานินมีความสุขจนลืมไม่ลงเลย" เสียงพูดปนลมหายใจช่างเซ็กซี่ดีแท้

ฝ่ามือนุ่มๆ ของเป็งจับหมับตรงบริเวณก้อนเนื้อกลมกลึงนวลเนียนตรงก้นกบผม
ลูบไล้สลับกับการบีบขยำเคล้นคลึงราวกับจะบิดให้ขาดออกมากับมือให้ได้
เป็งกดนิ้วกลางเรียวยาวผ่านร่องสวาทเข้าไป ผมเจ็บและเสียวมากจนซี๊ดปาก
คราวที่แล้วไม่สำเร็จเพราะผมทนความเจ็บไม่ไหว แต่ครั้งนี้...ผมต้องทำให้ได้

เป็งหยุดแล้วเดินลงจากเตียงโทงๆ ไปหยิบขวดเจลหล่อลื่นและถุงยางอนามัยมา
บทเรียนครั้งที่แล้วทำให้รู้ว่าไม่ควรพรวดพราด คราวนี้จึงต้องเตรียมความพร้อมก่อน
กระนั้น จำนวนนิ้วจากหนึ่งเป็นสองทำให้ผมเจ็บจนแทบทนไม่ไหวเลยทีเดียว

"เบาๆ ครับคุณเป็ง ผมเจ็บ อาห์..." แม้จะเจ็บแต่ผมยังครางเสียวออกมา

ไม่ทันขาดคำพลันต้องสะดุ้งเฮือกอีกเมื่อเป็งสอดนิ้วเพิ่มเป็นสามและเกร็งนิ้วควานไปมา
ผมขนลุกจนหนาวยะเยือกถึงขั้วหัวใจ แต่ยิ่งคว้านลึก ท่อนลำผมกลับยิ่งผงาดสู้สายตา
อีกครู่ใหญ่เป็งจึงหยุด จับขาผมแยกออกกว้าง สวมถุงยางและบีบเจลหล่อลื่นชโลมจนชุ่ม

"คานินพร้อมหรือยัง" เป็งถามเสียงกระเส่า

"ครับพี่เป็ง เร็วๆ เถอะครับ" ผมบอกอย่างไม่อายเมื่อความต้องการมาถึงขีดสุด

เป็งเลื่อนเข้าหาประตูสวาทของผม ขาสองข้างผมถูกจับยกวางพาดไว้บนบ่า
ผมยกสะโพกขึ้นเล็กน้อยเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกในการบุกรุกที่น่าอภิรมย์
เจ้าท่อนลำนั้นจ่ออยู่ที่ทางเข้าแล้ว ถ้าเป็นไปได้ผมนึกอยากให้มันพรวดเข้ามาเลย
แต่พอมันเริ่มเคลื่อนเข้ามาจริงๆ ใบหน้าผมกลับเหยเกด้วยความเจ็บปวด

เป็งก้มลงมางับปลายเม็ดทับทิมที่แข็งเป็นไต มือขวากดไหล่ผมลงแนบกับเตียงนอน
ส่วนมือซ้ายๆ ค่อยๆ เคล้าคลึงเม็ดทับทิมทั้งซ้ายขวาหนักๆ จนผมเผลอตัวแอ่นอกเชิด
ช่วงเวลานี้เอง ท่อนลำเคลื่อนรุกเข้ามากลางลำจนได้ พอผมทำท่าขยับหนีเป็งจึงรีบห้าม

"อย่าขยับสิคานิน"

หน้าเหยเกของผมคงพอบอกเป็งได้ว่าผมเจ็บแค่ไหน แต่ยังต้องสู้จนกว่าจะผ่านไปได้
เป็งก้มลงมาจูบปลอบโยนให้ผมคลายเจ็บ ลิ้นสวาทของคนรักไม่ทำให้ผมผิดหวังเลย
จังหวะที่ผมเผลอนี่เอง ท่อนลำเขื่องได้ดันตัวเข้ามาจนสุดอย่างรวดเร็ว

"เรียบร้อยแล้วนะที่รัก อาห์..."

ขนาดจอดแช่นิ่งๆ ยังเสียวขนาดนี้ ถ้าเกิดมันขยับเขยื้อนจริงๆ จะเสียวขนาดไหน
เป็งสอดมือเข้าใต้รักแร้ผม กดยึดไว้แน่นไม่ให้ผบขยับเขยื้อนหนีไปไหนได้
แล้วก้มลงมาจัดการกับเม็ดทับทิมของผมอีกครั้งพร้อมกับค่อยๆ ขยับเข้าออกด้วย

"คุณเป็ง ทำไมมันแน่นอย่างงี้ครับ ผมไม่ไหวแล้ว" ผมร้องครางหน้าบิดเบี้ยว

"เดี๋ยวก็ดีเองนะคานิน อดทนหน่อยนะครับ เราจะมีความสุขด้วยกันแล้ว"

เป็งพยายามปลอบทั้งๆ ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้วยซ้ำ ผมกลับพยักหน้าตกลงอย่างว่าง่าย
กระนั้นก็รู้สึกแน่นตึงไปทั่วบริเวณท้องถึงหน้าอก ราวกับร่างกายถูกฉีกแยกออกจากกัน
แต่ไม่นานร่างกายจึงเริ่มปรับตัวเข้ากับของแปลกปลอมได้ อาการเจ็บจึงค่อยลดน้อยลง
พอเห็นผมหายเกร็ง เป็งจึงเริ่มขยับเร็วขึ้นกว่าเก่า ผมเสียวสุดขีดจนผวากอดเป็งไว้แน่น

"ซี๊ดดดดดส์ พี่เป็ง อาวววววววว์"

ผมเสียววาบแทบขาดใจตายเมื่อเจ้าท่อนลำอัดแน่นขึ้นลงเร็วขึ้นและเร็วขึ้น
ระหว่างนั้นไม่ลืมมองหน้ากันไปด้วยเพื่อบอกกันและกันว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน

"โอวววว์ คานิน มันเสียวมาก อูยยยยย แน่นมากเลย โอวววว์"

เป็งร้องครางเสียงหลง แต่แทนที่จะหยุดกลับยิ่งเพิ่มความเร็วและความแรงขึ้นอีก
ผมหายเจ็บแล้ว รู้สึกเสียวสะท้านจนขนกายลุกซู่ทั่วร่าง แอ่นบั้นท้ายขึ้นสู้อย่างลืมตัว
หนุ่มอาวุธเขื่องมองหน้าผมสลับกับมองผลงานของตัวเองไปด้วย

"พี่เป็ง แรงอีกก็ได้ครับ" ผมสิ้นความอายจนกล้าบอกไปอย่างนั้น

"ได้เลยที่รัก" เป็งตอบกลับมาแทบจะทันที

ผมถูกจับเปลี่ยนท่าให้นอนคว่ำ เรียบร้อยแล้วเป็งจึงส่งท่อนลำเข้ามาใหม่จนมิด
ท่อนลำเริ่มขยับขึ้นลงอีกครั้ง ท่านี้ช่วยเร่งความเร็วเพิ่มขึ้นได้อีกมากทีเดียว
เป็งจึงกระแทกกระทั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย เสียงเนื้อกระทบกันดังไปทั่วห้อง
พอเปลี่ยนเป็นท่าคลานเข่า เราสองคนยิ่งกระหน่ำใส่กันอย่างไม่ยั้ง

"พี่เป็ง ผมไม่ไหวแล้ว โอววว์ อาวววว์"

ผมรูดมือขึ้นลงจัดการตัวเองเร็วขึ้น ความเสียวสุดขีดทำให้ทำนบผมทลายในไม่ช้า

เป็งหยุดช้าลง แรงตอดรัดของผมทำให้หนุ่มตี๋สูดปาก "โอวว์ อาหหห์"

พอผมหยุดเกร็งเป็งจึงทำต่อไป สักครู่ใหญ่จึงถึงคราวเปลี่ยนท่า
คราวนี้ผมขึ้นไปนั่งโยกข้างบนบ้าง สนุกและเสียวไปอีกแบบเมื่อได้ควบคุมเอง
ผมโยกขึ้นลงอย่างสนุก ร้องครวญครางด้วยความเสียวซ่านแข่งกับเป็งระงม

เมื่อมาถึงท่าจบ เป็งให้ผมนอนหงาย จับขายกพาดบ่าแล้วสอดท่อนลำจนสุด
จากนั้นจึงโหมกระหน่ำกระแทกกระทั้นชนิดลืมหายใจจนเหงื่อผุดพราวทั้งที่แอร์เย็นฉ่ำ
ไม่รู้ว่าเราเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน พลังหนุ่มของเราถูกขุดมาใช้ราวกับจะไม่มีวันหมด
เราต่างไม่เหนียมอายและกล้าจะตอบสนองความต้องการของกันและกันทุกรูปแบบ
ปลดปล่อยความรู้สึกและอารมณ์อย่างเต็มที่ เขาถึงว่าผู้ชายด้วยกันย่อมเข้าใจกันดี

ร่างกำยำกระแทกกระทั้นเร็วขึ้น เสียงร้องครางของเราสองคนระงมไปทั่วห้อง
ผมกำผ้าปูที่นอนเกร็งแน่น รู้ดีกว่าอีกไม่นานแฟนหนุ่มตี๋ของผมจะถึงที่หมายแล้ว

"โอวววว์ ผมถึงแล้วครับคานิน อาววววว์"

ใช่แค่เสียงพูดเท่านั้น ความรู้สึกอุ่นวาบในโพรงบอกถึงการปลดปล่อยทะลักทลายด้วย
ร่างขาวกระตุกและค่อยๆ ลดความเร็วในการเคลื่อนไหวลงจนกระทั่งหยุดนิ่งสนิท
เป็งมองหน้าผมที่มีเหงื่อผุดพราว ก้มลงจุมพิตผมเบาๆ และยิ้มให้กันอย่างสุขสม
พอถอดถอนสิ่งนั้นออก เป็งจึงทิ้งตัวลงนอนบนตัวผมอย่างคนหมดแรงข้าวต้ม
ร่างหนักเหนื่อยหอบและหายใจแรง แม้เราจะเหนื่อยแค่ไหนแต่กลับมีความสุข

"ขอบคุณนะครับคานิน แฟนพี่เป็งสุดยอดเลย ทำให้พี่เป็งได้ทุกอย่าง...ทุกท่า
พี่มีความสุขสุดๆ เลยรู้ไหม ขอบคุณนะครับที่รักของพี่"

เมื่อกี้ก็ว่ามีความสุขสุดๆ แล้ว เจอคำชมนี้เข้าไปผมจึงสุขจนแทบลอย ขึ้นสวรรค์

"ก็ผมรักพี่เป็งนี่" ผมบอกเขินๆ

เป็งเงยหน้าขึ้นมามองผม ส่งสายตาเยิ้มและยิ้มระบายสุขทั่วใบหน้า

"พี่เป็งก็รักน้องคานิน"

(http://bit.ly/1VpoldE)

ผมกับเป็งลุกมาเช็ดทำความสะอาดที่นอนที่เปรอะเปื้อนเล็กน้อยจากกิจกรรมเมื่อกี้
มีรอยเลือดสีแดงเป็นดวงๆ กระจายเป็นจุดๆ คงจะมาจากผมนั่นแหละ

"คานินเจ็บหรือเปล่า" เป็งถามอย่างเป็นห่วง

"ก็นิดหน่อย" ผมบอกเสียงเบา

"แสดงว่าของผมนี่ก็ไม่ใช่เล่นนะเนี่ย" เป็งทำท่าภูมิใจ

"ไปอาบน้ำดีกว่า" ผมเปลี่ยนเรื่องเพื่อแก้เขิน

เป็งหยุดยิ้ม พยักหน้าเห็นด้วย "ก็ดีเหมือนกัน เมื่อกี้เหงื่อออกเยอะเลย
ถ้าทำแบบนี้ทุกวัน สงสัยคงไม่ต้องไปออกกำลังกายที่ฟิตเนสแล้วล่ะ
ออกกำลังกายกับแฟนดีกว่า"

นั่น...ยังพาวกกลับมาเรื่องนี้จนได้ แถมยังส่งแววตาวิบๆ วับๆ มาให้อีก

"จะอาบน้ำแล้ว"

เป็งหัวเราะอย่างเอ็นดู มองผมที่นอนหลบตาเขินไม่วางตา "โอเค อาบก็อาบ"

หนุ่มตี๋ลุกขึ้นนั่ง แต่พอเห็นผมยังนอนอยู่จึงหันมามองอย่างแปลกใจ


"อ้าว ไม่ไปอาบน้ำเหรอ"

"ไปดิ" ผมตอบ

"แล้วทำไมไม่ลุกล่ะ"

"ก็..." ผมพลิกตัวซุกหน้างุดกับหมอนเพราะอายจัด แต่ไม่กี่อึดใจจึงหันมาเฉลย

"อุ้มไม่ได้เหรอ"

เป็งระเบิดเสียงหัวเราะใหญ่เลยคราวนี้ ผมจึงได้แต่ซุกหน้ากับหมอนหนีอาย

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ มา...ไปอาบน้ำกับพี่เป็งนะครับน้องคานินของพี่
เดี๋ยวพี่เป็งจะอุ้มสุดที่รักของพี่เป็งเข้าไปในห้องน้ำเองนะครับ"

"ไหวหรือเปล่า เมื่อกี้ใช้แรงเยอะนะ" ถึงจะเขินแต่ยังมีแก่ใจถาม

"ไหวอยู่แล้ว แค่นี้เอง คานินพร้อมนะ"

เป็งให้สัญญาณก่อนจะค่อยๆ ช้อนตัวผมขึ้นมาอุ้ม เราจ้องหน้ากันชั่วครู่
ปากจู๋ก้มลงมาหอมแก้มผมหนึ่งฟอดใหญ่ก่อนพาเดินตัวปลิวเข้าไปในห้องน้ำ
ไม่นานร่างเปลือยเปล่าของเราจึงมาหยุดยืนมองตากันอยู่ใต้ฝักบัว

"คานินสระผมไหม เดี๋ยวพี่สระให้" เป็งเป็นฝ่ายเริ่มถามก่อน

ผมพยักหน้าตกลง "ครับพี่เป็ง จะได้นอนสบายๆ"

เป็งหยิบแชมพูแบรนด์ต่างประเทศราคาแพงมา เปิดน้ำอุ่นรดไหลบนตัวของเรา
พอเปียกดีแล้วจึงปิดน้ำ บีบแชมพูลงที่มือ แค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าไม่ใช่ของท้องตลาด
ผมสูดดมกลิ่นหอมสดชื่นอ่อนๆ อย่างลืมตัว ใช้ของแบบนี้ มิน่าล่ะเป็งถึงตัวหอม

"หันหลังสิ!" เป็งพูดโดยไม่ทันคิด เล่นเอาผมตกใจหมดนึกว่าจะเอาอีก

"จะสระผมให้ คานินคิดอะไรเหรอ" เป็งกระเซ้าพลางขำ

"เปล่า" ผมรีบบอกปัดอย่างอายๆ แล้วหันหลังให้หนุ่มตี๋


เป็งใช้นิ้วขยี้เบาๆ วนไปทั่วหัวของผม ฟองสีขาวสะอาดไหลย้อยลงมาตามตัว
ไม่กี่นาทีจากนั้นจึงเปิดน้ำล้างผมให้ผม ก่อนจะสระซ้ำให้อีกรอบเพื่อให้สะอาดหมดจด
คราวนี้ช่วยกดนวดผ่อนคลายให้ผมด้วย แต่สักพักจึงรู้สึกว่าแรงกดนวดไม่ได้อยู่ที่หัวแล้ว
เป็งเข้ากอดผมทางด้านหลัง ซุกหน้าลงตรงซอกคอ สองมือลูบไล้ที่หน้าท้องและอกผม
ท่อนเขื่องกระดกหงึกๆ ชนประตูสวรรค์ของผมจนเสียววาบที่ท้องน้อย

"รักคานินจัง"

เป็งพูดพร้อมกับลูบไล้เล่นหน้าท้องผมเบาๆ แล้วพูดสืบไป

"ผมขอโทษนะที่เคยลังเลใจ ตอนนี้ผมรู้แล้วว่าผมต้องการคานินคนเดียว
เอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอมเด็ดขาด ขอบคุณที่ไม่ทิ้งผมไปนะคานิน"

ไม่รู้ว่าจะซึ้งหรือจะหื่นดี แต่เอาเป็นว่าผมมีความสุขและดีใจที่ได้ยินละกัน

"ผมต้องขอโทษพี่เป็งด้วยที่แกล้งพี่เป็งหนักเลย ขอบคุณที่ยังรอผมอยู่นะครับ
ผมไม่เคยรู้สึกรักใครอย่างพี่เป็งเลย รักพี่เป็งนะ"

ผมหันไปมองเป็งตรงประโยคท้าย เป็งขโมยหอมแก้มผมหนึ่งฟอดอย่างรักใคร่
ไม่รู้ว่าเป็นครั้งที่เท่าไหร่แล้วที่บอกรักกัน แต่ฟังกี่ครั้งก็ไม่เคยเบื่อเลย

"นวดผมดีกว่า" เป็งเปลี่ยนเรื่องแล้วก็ปล่อยมือออกจากผม

พอสระและนวดผมให้ผมเสร็จแล้ว ผมสลับเป็นฝ่ายช่วยสระและนวดให้เป็งบ้าง
จากนั้นเราจึงอาบน้ำด้วยกัน ถูเนื้อตัวและขัดผิวให้กันอย่างมีความสุขและสบายใจ
แต่สัมผัสลูบไล้สุดสยิวกลับทำให้เราสองคนต้องยืนเคารพธงชาติกันตอนดึกๆ จนได้
จึงกลายเป็นอาบน้ำไป ครางด้วยความเสียวซ่านไป ไม่พ้นจบลงอีหรอบเดิมแน่ๆ

"ยังไม่เหนื่อยอีกเหรอ" ผมถามพลางมองต่ำลงไปดูตรงนั้นของเป็งที่ผงาดอยู่

"ว่าแต่ผม แล้วคานินล่ะ ดึกแล้วตื่นมาเคารพธงชาติทำไม"

เป็งไม่พูดเปล่า เอื้อมมือมาจับของผมกำไว้ด้วย ก่อนจะปล่อยอย่างรวดเร็ว
ผมหัวเราะแหะๆ สักพักจึงนิ่วหน้า "อืม...แต่ว่า...ผมเจ็บน่ะ แสบด้วย"

"ยังไม่ต้องใช้ตรงนั้นก็ได้" เป็งเถียง

"อ้าว แล้วจะให้ใช้ตรงไหนล่ะ" ผมถามพาซื่อ

"ตรงนี้ไง" พูดจบแล้วเป็งเลียริมฝีปากของตัวเองไปมา

ผมยิ้มเขินก็จริง แต่กลับจ้องตาท้าทายหนุ่มตี๋หน้าหื่น บอกให้รู้ว่าผมไม่กลัวอยู่แล้ว
ไม่นานผมจึงค่อยๆ ย่อตัวลงไปนั่งคุกเข่า แลเห็นท่อนเขื่องอยู่พอดีกับระดับปากผม
ความหฤหรรษ์รอบสองจึงบังเกิดขึ้นในห้องน้ำจนได้!

(http://bit.ly/1SzFONr)

แสงขาวนวลจากผ้าม่านสีขาวครีมส่งสัญญาณเตือนไปที่สมองว่าถึงเวลาตื่นแล้ว
แสงที่ค่อยๆ แยงเข้ามาทำให้การรับรู้ผมเริ่มกลับมา ไม่นานจึงลืมตาตื่นมองแป๋ว

ผมมองไปข้างตัวด้วยหวังว่าจะเจอใครคนหนึ่ง กลับเห็นแค่รอยยับและผ้าห่มที่เปิดออก
แสดงว่าคงตื่นก่อนแล้วและคงกำลังทำอะไรสักอย่างอยู่

ผมลุกออกจากเตียงแล้วเดินออกไปดูนอกห้อง ได้ยินเสียงแถวๆ ครัวจึงเดินไปดู
เป็งกำลังทำอาหารเช้าอยู่พอดีเลย ผมจึงเดินย่องเบาๆ ไปหาอย่างนึกสนุก
พอถึงตัวจึงสวมกอดด้านหลังไว้เบาๆ

"น่าทานจัง ทำไมแฟนผมน่ารักอย่างงี้ล่ะเนี่ย ผมคงหลงรักตายเลย"

เป็งหยุดทำอาหารชั่วคราวและยิ้มอย่างพอใจ "ไข่เบเนดิกที่เคยทำให้กินคราวนั้นไง"

"บำรุงกำลังเหรอ" ผมแซว

"ใช่สิ คืนนี้ต้องออกกำลังกายหนักอีกไม่รู้เหรอ"

ผมหัวเราะชอบใจเบาๆ เรื่องต่ำว่าสะดืออย่างนี้เป็งถนัดอยู่แล้ว

"ถูกใช้งานหนักแบบนี้ สงสัยไข่เบเนดิกอย่างเดียวไม่พอแล้วมั้ง"

"ได้" เป็งลากเสียงยาว "เดี๋ยวผมจะไปหาของบำรุงกำลังมาให้กินอีก อ้อ...
เมื่อคืนนอนหลับสบายดีไหม ยังปวดอยู่หรือเปล่า"

ผมถอนมือออกจากเป็งแล้วโน้มตัวลงไปมองดูอาหารที่เป็งทำ

"ตื่นซะเกือบเก้าโมง ไม่หลับสบายก็ให้มันรู้ไป น่ากินจังเลยนะครับคุณเป็ง"

"อาหาร...หรือผม" เป็งถามพลางเล่นหูเล่นตา

"ทั้งสองอย่างมั้ง แต่ตอนเช้า...ของดนะ"

เจอคำตอบอย่างนี้เป็งจึงขำใหญ่ "พี่ไม่ได้หื่นขนาดนั้นซะหน่อย"

"ขนาดไม่หื่น...ยังหมดไปตั้งสามน้ำ" ผมเตือนความจำให้

"แหม...แต่คานินก็ร่วมมืออย่างดีไม่ใช่เหรอ" เป็งทำตาวิบวับใส่

"พอแล้ว แล้วนี่ทำเสร็จแล้วเหรอครับ"  ผมรีบชวนเปลี่ยนพลางชะโงกดูอีกรอบ

"เสร็จแล้ว จะกินเลยไหมล่ะ"

"ยัง ผมว่าจะอาบน้ำก่อน อ้อ...คุณเป็งมีชุดทำงานให้ผมยืมหน่อยไหมครับ แล้วก็...
กางเกงในด้วย ผมไม่ได้เอาอะไรสักอย่างติดตัวมาเลย"

"มีสิ รอเดี๋ยวนะ เดี๋ยวพี่ไปหาให้"

เป็งล้างและเช็ดมือให้แห้ง จากนั้นจึงเดินตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า
ถึงครึ่งทางกลับหยุดหันมามองเหมือนเพิ่งนึกอะไรได้

"อ้อ...ทีหลังเรียกพี่ก็ดีนะ พี่เป็งชอบ อบอุ่นดี"

"อ๋อ..." ผมลากเสียงยาวแล้วยิ้ม "ได้ครับพี่เป็ง"

เป็งเดินกลับมากอดผมอย่างเอ็นดูพร้อมกับเอ่ยปากชม "น่ารักที่สุดเลยคนนี้"

แฟนหนุ่มตี๋ปล่อยผมแล้วกลับไปที่ตู้เสื้อผ้าตามเดิม จากนั้นจึงลงมือค้นเสื้อผ้าที่จะให้ผมใส่
เพียงไม่กี่อึดใจจึงหยิบเสื้อเชิ๊ตกับกางเกงสแล็คหนึ่งชุดมาวางไว้บนเตียง
ผมเดินมาดูชุดแล้วยิ้มพอใจ เป็นบุญแท้ๆ ที่จะได้ใส่ชุดราคาหลักหมื่นไปทำงาน

"ชอบไหม" เป็งหันมาถาม

"ชอบครับ...พี่เป็ง" ผมเกือบจะลืมไปแล้วว่าต้องเรียกพี่ ติดเรียก "คุณ" จนชิน

หนุ่มตี๋ในชุดเสื้อกล้ามและกางเกงผ้ายืดสีขาวทั้งชุดยิ้มแฉ่ง ตาใสแป๋ว
ก่อนก้มลงค้นหาอะไรสักอย่างต่อ พอยืมก้มๆ เงยๆ ชายเสื้อกล้ามจึงร่นขึ้น
เผยให้เห็นผิวขาวนวลเนียนเหนือเนินก้นกบ แต่ที่น่าตื่นตาตื่นใจสำหรับผมก็คือ...
ขอบชั้นในสีเขียวตองอ่อนที่โผล่พ้นออกมา ไม่ยักรู้ว่าชอบใส่ชั้นในสีสันแสบตาด้วย

ผมเดินย่องไปหาเป็งพร้อมกับยิ้มอย่างนึกสนุก ก่อนจะตบลงที่ก้นแน่นๆ ขาวๆ เบาๆ
เป็งสะดุ้งเล็กน้อย หยุดค้นชั่วคราวแล้วดีดตัวขึ้นยืน หันมามองผมอย่างงงๆ

"กางเกงในน่ารักดีนะครับ ไม่เคยเห็นใส่สีแบบนี้มาก่อนเลย"

"อ๋อ..." เป็งลากเสียงยาวแล้วยิ้ม "พี่มีกางเกงในน่ารักๆ เยอะเลยนะคานิน
อยากดูไหม เดี๋ยวพี่เอามาให้ดู"

ว่าแล้วเป็งจึงหอบชั้นในที่มีเกือบทั้งหมดมาวางกองบนเตียงราวสิบกว่าตัว
จากนั้นจับคลี่วาง อธิบายให้ผมฟังไปด้วยว่าตัวเองชอบแต่ละตัวยังไงบ้าง

"ตัวนี้ของทูเอ็กซิสท์ เนื้อผ้ามันดีมากนะ กระชับสัดส่วนดีด้วย ขอบเท่มาก
ตัวนี้ของซีเค สีพื้นๆ ก็จริงแต่ว่าใส่แล้วดูเซ็กซี่สุดๆ ถ้าชอบเดี๋ยวพี่ใส่ให้ดูคืนนี้
ส่วนสีส้มทรงทรังค์ตัวนี้เป็นของฮัชพับพี่ส์ ไม่แพงเท่าไหร่ แต่สีมันสวยดีก็เลยซื้อ
อ้อ...ตัวนี้นะ ผมซื้อมาจากต่างประเทศ..."

เป็งเล่าความชอบเกี่ยวกับชุดชั้นในที่ซื้อมาให้ผมฟังเป็นฉากๆ อย่างภาคภูมิใจ
ผมนั่งฟังไปยิ้มไป หัวเราะบ้าง บอกกับตัวเองในใจดังๆ ว่า 'โคตรมีความสุขเลย'
หัวใจผมแห้งเหี่ยวเฉามาหลายปีแล้ว เพิ่งมีความรักให้ชุ่มฉ่ำหัวใจเต็มที่ก็วันนี้เอง

พอเป็งเล่าจนครบทุกตัวแล้วผมจึงถือโอกาสถามบ้าง

"แล้วจะให้ผมใส่ตัวไหนล่ะ พี่เป็งใส่หมดนี่แล้วไม่ใช่เหรอ"

"ที่ยังไม่ใส่ก็มี หาอยู่แต่ยังไม่เจอ เดี๋ยวพี่ไปหาให้นะ คานินไปอาบน้ำก่อนก็ได้"

เป็งพูดแล้วรุนหลังผม ผมจึงลุกขึ้นยืนข้างๆ เตียงเตรียมตัวจะไปอาบน้ำ

"เอ๊ะ เดี๋ยวนะ" เป็งทำเสียงแปลกใจ "วันนี้คานินจะไปทำงานเหรอ"

"ครับ หมดวันลาแล้ว"

"โธ่...ไม่ไปไม่ได้เหรอคานิน" เป็งทำเสียงอ้อนแล้วลุกมากอดผมทางด้านหลัง

"อยู่กับพี่สักวันนะ ไม่งั้นพี่ต้องคิดถึงคานินแย่แน่ๆ เลย"

"เขาจะได้ไล่ผมออกน่ะสิครับ"

"ไม่เห็นเป็นไรเลย คานินก็มาทำงานกับผมสิ ผมเลี้ยงคานินได้"

เป็งคลอเคลียตรงไหล่เหมือนแมวแล้วเงยหน้ามองผม น่าเอ็นดูจนผมอดยิ้มไม่ไหว
ไม่คิดว่าจะมีมุมแบบนี้กับเขาด้วย แต่บทจะโกรธก็ทำเอากลัวแทบแย่เลย

"ไม่ได้หรอกครับ เสียประวัติหมด" ผมบ่ายเบี่ยง

"เหรอ...งั้น...วันนี้คานินไปลาออกเลยนะ"

"อ้าว...แล้วจะให้ผมเอาอะไรกินล่ะ" ผมตกใจกับความคิดแผลงๆ ของเป็งเล็กน้อย

"พี่อยู่ทั้งคนกลัวอะไร พี่มองธุรกิจตัวหนึ่งไว้แล้ว ว่าจะให้คานินมาช่วยทำนั่นแหละ
ลาออกวันนี้เลยก็ได้ คานินจะได้พักมั่ง ทำงานแบบนี้มานานแล้วนะ สุขภาพจะแย่เอา
มาทำงานกับพี่ดีกว่า รับรอง..."

"อ้วนเป็นหมูแน่" ผมชิงพูดเสียเอง

"ถึงเป็นหมูพี่ก็รัก นะๆๆ ลาออกวันนี้เลยนะคานิน"

อ้อนหนักขนาดนี้ผมชักเคลิ้ม แต่ยังแข็งใจไม่ตอบรับหรือปฏิเสธ

"ไม่สงสารพี่เป็งเหรอ พี่เป็งไปทำงานคนเดียวเหงาๆ มานานแล้วนะ
พี่เป็งอยากมีใครสักคนเป็นเพื่อนรู้เปล่า ไม่อยากไปทำงานคนเดียวแล้ว"

"คนเดียวที่ไหนล่ะ เจกับแอนก็ไปด้วย" ผมเถียง

"เหมือนกันที่ไหนล่ะ ผมต้องการคนพิเศษกว่านั้นต่างหาก คานินนี่ไง...ใช่เลย"

เป็งขโมยหอมแก้มผมอีกฟอด อ้อนหนักมากอย่างนี้มีหรือผมจะทานทนไหว

"นะๆๆ ลาออกมาอยู่กับพี่นะคานิน หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจของพี่เป็ง" เป็งเล่นเสียงสูงต่ำตรงคำท้ายๆ

ผมหันขวับไปมองแล้วขมวดคิ้ว เปรี้ยวใจคืออะไร? ทำไมเป็งเรียกผมว่าเปรี้ยวใจล่ะ!?

TBC...

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-04-2016 21:28:51
อีกสองสามตอนก็น่าจะจบแล้วนะครับสำหรับเรื่องนี้
ตอนนี้เป็นตอนที่ผมเขียนยาวและแก้หลายรอบมาก ลงๆ ลบๆ อยู่พักหนึ่ง
หวังว่าจะถูกใจกันไม่มากก็น้อย
ใครที่ติดตามอ่านแต่ยังไม่เคยคอมเมนต์
หรือคอมเมนต์กะปริบกะปรอยก็ถือว่าตอนนี้เป็นโอากาสดีที่จะเล่าให้คนเขียนฟังบ้าง
คนเขียนอยากฟังจากคนอ่านทุกคนเป็นธรรมดาครับ
ถ้าไม่เหลือบ่ากว่าแรง
ขอบคุณครับ :)

ป.ล. พอดีมันใกล้จบ สมองแล่นดีก็เลยเขียนติดต่อกันหลายตอน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-04-2016 21:35:11
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 06-04-2016 22:01:46
อ้ากกกกกก เลือดพุ่ง  :pighaun: :pighaun: :pighaun: :pighaun:

หวาน ฟิน จิกหมอนขาด  :impress2: :impress2: :impress2:

คนเขียนรับผิดชอบเลย หาเลือด หาหมอน มาให้ด่วน 555  :laugh: :laugh: :laugh:

ใกล้จบแล้ว เสียดายจัง อยากอ่านยาวๆ  :z2: :z2: :z2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-04-2016 22:26:17
รักกันเรียบร้อย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-04-2016 22:30:15
 :L2: :pig4:

อ้าาาาาาา รีบไปอ่านก่อน

มาเมนต์ต่อ ... NC (NCCCCCCCC echo)  :pighaun: ใจจะวาย
++ บวกเพิ่มให้ความละมุน ดูฟุ้งฟิ้ง ตัดกับการเคารพธงชาตินี่หล่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 06-04-2016 22:46:11
พี่เป็งจะให้น้องคานินลาออกเพื่อไปดูแลธุรกิจส่วนตัวและครอบครัวใช่หรือเปล่า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-04-2016 23:05:05
ลงไปนอนจมกองเลือดดดด

แหม พอมีเมียแล้วขี้อ้อนขึ้นเยอะเลยนะพี่เป็ง แอบอิจฉานินเบาๆ

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: rayaiji ที่ 06-04-2016 23:11:57
ขอถุงเลือดด่วนๆเลยค่ะะะะะ :haun4: :haun4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 06-04-2016 23:19:54
อ่านตอนนี้แล้วชอบมากๆคับ คิดว่าจะเป็นแบบสวีทหวานๆเหมือนรวมมิตรเดือนเมษาที่ไหนได้ร้อนแรงเป็นต้มยำเดือนเมษาเลยอ่ะ
ในที่สุดก็เสร็จกันจนได้ ๕๕๕
  รอ รออ่านตอนต่อไปคับว่าจะลาออกแล้วมาทำงานอะไรกับเป็ง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 07-04-2016 05:52:45
นอกจากเปรี้ยวใจก็ยังได้ใจอีกใช่มั้ยเป็ง
คานินสุดยอดไปเลย เปรี้ยวใจคนอ่านด้วย อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 07-04-2016 06:50:05
ขอเลือดเพิ่มด่วนค่ะ ตอนนี้ฟินมากกกกกกก คุณเป็งน่ารักอ่ะอ้อนคานินอย่างกับลูกหมาเลย ส่วนคานินคงจะใจแข็งได้ไม่นานหรอกค่ะเจอลูกอ้อนแบบนั่นเข้าเดี๋ยวก็คงใจอ่อนแล้วล่ะค่ะ มีความสุขจังที่เห็นคู่นี้เข้าใจกันซะที
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: มะม่วงแรด ที่ 07-04-2016 08:56:22
ฮูยยยยยยยย  เลือดท่วม เป็งไหนนายบอกไม่เคยไง  :haun4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 07-04-2016 13:23:44
น่ารักมากค่ะ บทจะหื่นก็หื่นกระชากอารมณ์ซะเหลือดันนะคูืนี้ กำเดาหมดตัวละจ้าา

นักเขียนแต่งฉากNCเก่งนะเนี่ย ไอ้เราอ่านนึกว่าอยู่นั่งชมติดขอบเตียงไปด้วยเลย เอ...อย่างนี้น่าคิดอยู่ๆ55555 ล้อเล่นค่า

ขอบคุณจ้า
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 07-04-2016 18:44:37
พี่เป็งอ้อนน้องคานินใหญ่เลยนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 07-04-2016 18:58:07
แซ่บจริงๆ :z1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: iaum ที่ 07-04-2016 19:10:53
เป็งน่ารักมากกก :o8: :-[ :impress2: ชอบหนุ่มมีเขี้ยวอ่าาาา :haun4: :haun4: :z1: :z1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 07-04-2016 21:50:22
น่ารักมากค่ะ บทจะหื่นก็หื่นกระชากอารมณ์ซะเหลือดันนะคูืนี้ กำเดาหมดตัวละจ้าา

นักเขียนแต่งฉากNCเก่งนะเนี่ย ไอ้เราอ่านนึกว่าอยู่นั่งชมติดขอบเตียงไปด้วยเลย เอ...อย่างนี้น่าคิดอยู่ๆ55555 ล้อเล่นค่า

ขอบคุณจ้า

555 นี่ก็ยั้งๆ ไว้นิดนึงนะครับ ไม่งั้นจะหื่นยิ่งกว่านี้ ไม่เหมาะกับเด็กและเยาวชนอย่างยิ่ง
ขอบคุณทุกๆ คนที่ชอบตอนนี้นะครับ เขียนไปก็เกร็งไป กลัวจะไม่สมจริงสมจัง 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 08-04-2016 16:34:15
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 08-04-2016 18:24:04
ทำไมผมอ่านฉาก nc ละคิดว่ามันน่ารักมากๆ คู่นี้   :hao7:
หื่นๆ ปนน่ารัก อิอิ

ปล.  อยากเห็นเกงในที่ใส่อะ ว่าแบบไหน กร๊ากๆๆ 555+
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 09-04-2016 00:43:33
หื่นกันทั้งคู่อะ  น่ารักมากๆเลยครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 11-04-2016 12:46:25
 :pighaun: :pighaun: :haun4:ืสุดยอดจัดหนักจัดเต็มกันไปเลย. บทรักดูเป็นธะรมชาติมากชอบมากเลยน่ะ. ดูแบบแมนๆดีน่ะ. นานๆจะเจอแบบนี้สักที ไลค์รัวๆ   :mew1:  กลายเป็นว่าเป็งโดนเอากลัวเต็มๆเลย  คุณภูมาม้ามืดมาก. ฟ้าหลังฝนย่อมสวยงามเสมอ. ห่างหายไปน่ะ.  เพราะ  เนตบ้านเสีย. เนตออฟฟิตห่วย  ต้องอ้านจากโทร. ตาก้อเจ็บอีก :mew5:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: ปุกปิกกุกกิกไปตามสไต ที่ 13-04-2016 00:23:52
คานินเเอบทดสอบเเรงเหมือนกันนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №18 เปรี้ยวใจของพี่เป็ง-NC ⓟ14 ▦6.4.16
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 24-04-2016 17:54:24
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover


ตอนที่ 19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย


(http://bit.ly/1NibOEk)

สวนมะยงชิดของผมเริ่มให้ผลิตผลแล้ว ช่วงนี้พ่อกับแม่จึงต้องทำงานหนักเป็นพิเศษ
ผลไม้สีและขนาดพอๆ กับไข่ไก่สุกเหลืองอร่ามเต็มสวนขนาดประมาณห้าไร่เศษ
น้องสาวผมแปลงร่างเป็นสาวชาวสวนไปแล้ว เธอช่วยพ่อสอยผลมะยงชิดอย่างคล่องแคล่ว
ให้แม่ช่วยดูหลานในบ้าน ได้อยู่กับพ่อแม่แล้วดูแนนสดใสขึ้นเยอะเลย

ลูกค้าคนพิเศษของสวนมะยงชิดของเราคราวนี้มาไกลถึงกรุงเทพ บุกป่าฝ่าดงมาจนถึงสวน
ผม พ่อ แนนและพี่เหน่งต่างช่วยกันสอยผลมะยงชิดอย่างขะมักเขม้นเพราะลูกค้าสั่งเยอะ
แม้จะมาแค่สองคนกลับสั่งกันคนละห้าสิบกิโล ทั้งจะเอาไปกินเองและฝากคนรู้จัก

ลูกค้าคนพิเศษของเราสองคนไม่ใช่แค่มานั่งรอเท่านั้น แต่กลับลงมาช่วยเก็บด้วย
แม้จะเก้ๆ กังๆ ไปหน่อย แถมยังทำหล่นร่วงเสียหายไปหลายลูก แต่สร้างสีสันให้สวนเราไม่น้อย
เพราะสวนของเราอยู่ค่อนข้างไกลจากตัวเมือง จึงไม่ค่อยมีใครมาซื้อถึงสวนแบบนี้

พอกะว่าได้ครบแล้วพวกเราจึงยกมะยงชิดใส่รถเข็นไม้สองล้อที่มีราวจับสำหรับเข็น
เราเข็นมาตรงทางเข้าสวนแล้วชั่งกิโลดู ปรากฎว่าขาดไปแค่สองกิโลเท่านั้นเอง

"เดี๋ยวผมกับคานินไปสอยเพิ่มเองครับ"

แฟนหนุ่มของผมหันไปบอกคนที่ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังจะได้เป็นพ่อตาพลางยิ้ม

"ไหวเหรอคุณ" พ่อผมถาม

"สบายมากครับ ไปคานิน"

ผมเดินตามแฟนหนุ่มไปต้อยๆ แต่แอบหันหลังไปชำเลืองดูพ่อบ่อยๆ เพราะกลัวพ่อสงสัย
จะว่ากลัวคงไม่ถูกนัก ความจริงผมอยากให้สงสัยเสียด้วยซ้ำ แม้ว่าจะเสี่ยงถูกด่าก็ตาม

"เอาไงดีครับคุณเป็ง" ผมถามเมื่อเห็นว่าเดินออกมาไกลมากแล้ว

"เรื่องพ่อกับแม่เหรอ" เป็งทวน

"ครับ ผมยังกล้าๆ กลัวๆ อยู่ เมื่อกี้ตอนที่เก็บมะยงชิดพ่อก็มองแปลกๆ ไม่รู้ว่าสงสัยหรือเปล่า"

"แต่คานินอยากให้สงสัยไม่ใช่เหรอ" เป็งถามย้ำ

"ครับ แต่ผมกลัวไง"

"อืม...ผมว่านะ ถ้าพ่อกับแม่ของคานินรับเรื่องของแนนได้ เรื่องของเราไม่น่ายากนะ"

"คุณเป็งคิดงั้นเหรอครับ"

"ใช่" เป็งยืนยัน จากนั้นเอื้อมมือมาปัดเศษใบไม้บนผมของผมออกให้อย่างเบามือ

ตั้งแต่เป็นแฟนกับเป็งมาได้สามเดือน ผมยอมรับว่ามีความสุขมาก ยิ่งลาออกจากงานยิ่งมีความสุข
ช่วงนี้ธุรกิจที่เราวางแผนไว้ยังไม่เริ่ม เป็งจึงให้ผมมาช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ในงานอบรมไปก่อน
ช่วงไหนไม่มีงานอบรมเราจึงมีเวลาพักผ่อน เป็งพาผมไปเที่ยวหลายที่เลย ผมอยากไปไหนก็พาไป

เป็งเป็นคนใจเย็นและเป็นผู้ใหญ่กว่าผมพอสมควร ไม่เคยทำให้เรื่องขัดใจเล็กๆ น้อยๆ เป็นเรื่องใหญ่
ผมจึงมีความสุขราวที่ได้ใช้ชีวิตด้วย ยิ่งเรื่องนั้นของเรายิ่งไม่ต้องพูดถึง มีเป็นประจำไม่เคยขาด
.
.
.
ลูกค้าคนสำคัญของสวนเรากลายเป็นลูกค้าระดับวีไอพีไปแล้วเมื่อแม่ผมชวนกินข้าวกลางวันด้วย
เป็งกับภูริชจึงหน้าบานใหญ่ ยิ้มแล้วยิ้มอีก แถมยังชมแล้วชมอีกว่าอาหารที่แม่ผมทำอร่อยมาก
ความจริงแม่ผมไม่ได้ทำเองหรอก ให้พี่เหน่งช่วยไปสั่งที่ร้านอาหารที่ใช้บริการบ่อยๆ มาให้

ดูเหมือนพ่อกับแม่ผมถูกชะตาลูกค้าสองคนมากทีเดียว ชวนคุยไม่หยุดเลย

"แล้วคานินรู้จักพี่ๆ เขาได้ยังไงล่ะลูก" แม่ผมถามขณะที่เราพูดคุยเรื่องสวนไปพอสมควรแล้ว

ผมทำหน้าเลิ่กลั่กนิดหน่อยเพราะไม่รู้จะเริ่มต้นเล่ายังไง

"อ๋อ...ร้านกาแฟที่คานินทำงานอยู่ตรงหน้าปากซอยคอนโดผมพอดีครับคุณน้า ผมไปกินบ่อยๆ
เห็นคานินเขาขยันขันแข็งดี ผมเลยชวนมาทำงานด้วยกัน"

เป็งถือโอกาสตอบแม่แทนผม ถ้าให้ผมเล่าเองคงไม่ใช่แบบนี้แน่นอน

"แล้วไปทำงานอะไรกันล่ะ" พ่อผมถามบ้าง ตักอาหารมาใส่จานแล้วรอฟังคำตอบ

"อ๋อ...ผมทำงานอบรมครับคุณน้า ส่วนมากก็อบรมให้หน่วยงานรัฐ"

"อบรมเรื่องอะไรล่ะ" เป็งยังพูดไม่จบพ่อผมพลันถามต่ออีก

"การสื่อสารอย่างสันติครับ" เป็งตอบฉะฉาน แน่นอนว่าไม่มีใครรู้ว่ามันคืออะไร

"แล้วมันเป็นยังไงล่ะ เผื่อน้าจะให้มาอบรมคนงานในสวนมั่ง เห็นทะเลาะกันทุกวัน"
ว่าที่แม่ยายของเป็งถามอย่างสนใจ

"อ๋อ...ได้นะครับ" เป็งขำเบาๆ "การสื่อสารอย่างสันติก็คือ...การสื่อสารที่ลดความขัดแย้งครับ
อย่างเช่น แทนที่คุณน้าจะด่าคนงานในสวนว่า เก็บผลไม้ยังไงเนี่ย ร่วงอีกแล้ว คุณน้าอาจจะบอกว่า...
มะยงชิดหล่นเสียหายหลายลูก ระวังกันหน่อยนะ"

"อ๋อ...แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ" แม่ผมชักสนุกและอยากรู้มากขึ้น

"อย่างแรก...เราว่าที่คนโดยตรง ถ้าใครมาว่าเราเราก็ไม่พอใจใช่ไหมครับคุณน้า ต่อให้เราผิดก็เถอะ"

แม่ผมพยักหน้าเห็นด้วย เป็งจึงอธิบายต่อ

"แต่อย่างที่สอง เราแค่บอกว่ามะยงชิดมันร่วงเสียหายหลายลูก ให้ระวังหน่อย ไม่ได้ว่าคนตรงๆ
พอไม่ว่าคนตรงๆ เราก็ไม่ขัดแย้งกัน ที่เราขัดแย้งกันในสังคมเพราะว่าเราตำหนิตัวคนนี่แหละครับ
การสื่อสารอย่างสันติสอนให้เราไม่ตำหนิคน พูดถึงแต่ผลที่เกิดขึ้นเฉยๆ ดีไหมครับคุณน้า"

"ดีจ้ะๆ น้าเห็นด้วย น้าดีใจจริงๆ ที่คานินมีเพื่อนดีๆ แบบนี้ ว่าแต่...เป็นเพื่อนกันอย่างเดียวเหรอจ๊ะ"

ผมกับเป็งเกือบสำลักข้าวเลยทีเดียว เราสองคนมองหน้ากันแวบเดียวแล้วจึงหันไปยิ้มกับแม่และพ่อ

"อ้าว...แล้วคุณน้าคิดว่าเป็นอะไรล่ะครับ" เป็งถามใจดีสู้เสือ หัวเราะกลบความกลัวเบาๆ

"ถามคนนี้สิ เทียวถามพ่อกับแม่ทุกวันว่าถ้าพี่ชายไม่เหมือนเดิม พ่อกับแม่จะว่ายังไง
ตอนแรกก็งงๆ ว่าหมายถึงอะไร เขาก็เลยค่อยๆ เผยมาทีละนิดๆ"

ผม เป็งและภูริชนั่งงงกันเป็นไก่ตาแตก ไม่รู้ว่าแม่ผมกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่
ส่วนแนนที่ถูกแม่พาดพิงถึงเมื่อกี้ได้แต่นั่งยิ้มๆ ไม่พูดไม่จา

"เผยอะไรเหรอครับแม่" ผมถามแม่บ้างหลังจากที่นั่งฟังอยู่นาน

"อยากรู้ก็ไปถามแนนสิลูก" พ่อผมตอบคำถามแทนแม่ สีหน้ายิ้มๆ ทั้งคู่

ผมหันไปมองแนนด้วยสายตามีคำถาม แต่ไม่กล้าถามกลางวงตอนนี้เพราะยังไม่มั่นใจว่าใช่หรือเปล่า

"เอาเหอะนะพ่อ ไม่มีลูกสะใภ้ก็ไม่เห็นเป็นไร ยังไงๆ ก็มีหลานให้อุ้มเหมือนกัน"

พอแม่ผมพูดอย่างนี้ ผมจึงมั่นใจว่าเรื่องที่ผมสงสัยคงใช่แน่ๆ น้องสาวผมคงบอกพ่อกับแม่ไปแล้ว
ไม่รู้ว่าแนนบอกพ่อกับแม่ยังไง ไม่รู้ทะเลากันหรือเปล่า แต่ดูเหมือนว่าพ่อกับแม่โอเคยังไงไม่รู้
แนนไม่เคยบอกผมเรื่องนี้เลย มิน่าล่ะ ก่อนมาแนนถึงบอกผมว่ามี "เซอร์ไพรส์"

"แล้วคุณภูริชทำอะไรล่ะจ๊ะ" แม่ผมหันไปถามเพื่อนของแฟนหนุ่มผมบ้าง

"ผมทำธุรกิจฟิตเนสอยู่ในคอนโดครับ ฟิตเนสก็คือ...สถานที่สำหรับออกกำลังกายครับ
กรุงเทพไม่ค่อยมีที่ออกกำลังกายเท่าไหร่ ก็เลยเอาที่ออกกำลังกายมาไว้ในคอนโด
เวลาคนเลิกงานมาตอนเย็นๆ ก็มาออกกำลังกายได้ ผมก็จะจัดหาอุปกรณ์มาให้ เช่น ลู่วิ่ง
ดัมเบลล์ยกน้ำหนัก อะไรทำนองนี้ครับคุณน้า คนมาใช้งานจ่ายค่าสมาชิกเป็นรายเดือน"

ภูริชอธิบายง่ายๆ เพื่อให้คนต่างจังหวัดที่ไม่คุ้นเคยวิถีชีวิตแบบคนกรุงเทพพอเข้าใจ

"เหรอลูก แล้วรายได้ดีไหมเดือนๆ นึง" แม่ผมตรงๆ เพราะไม่คิดซับซ้อนตามประสาคนต่างจังหวัด

"ก็หลายแสนอยู่ครับ"

"หา! จริงเหรอลูก เก็บค่าออกกำลังกายอย่างเดียวก็เป็นแสนๆ เลยเหรอ แสดงว่าคนต้องมาใช้เยอะสิ"
แม่ผมถามเสียงสูง ท่าทางดูตื่นเต้นมาก

"ครับ" ภูริชตอบอย่างถ่อมตัว สายตาคอยเหลือบมองดูแนนเป็นระยะๆ

"ไม่เห็นรถที่เขาขับมาหรือไงแม่ รถยุโรปแพงๆ ทั้งนั้นเลย" พ่อผมอธิบายตามที่เข้าใจ

"ยังสู้เป็งไม่ได้หรอกครับคุณน้า เป็งน่ะมีร้านอาหารที่เชียงราย รายได้เดือนนึงเป็นล้านๆ เลยครับ
เนี่ย...ถ้าใครฝากอนาคตไว้กับเป็ง ไม่ผิดหวังแน่นอนเลยครับ สบายไปถึงชาติหน้าเลย"

ภูริชถือโอกาสช่วยโฆษณาเพื่อนไปด้วยในตัว เรียกว่าแอบเชียร์ทางอ้อมเต็มที่

"จริงเหรอลูก แล้วขายอาหารอะไรล่ะถึงได้เงินเยอะขนาดนั้น" แม่ผมตาโตด้วยความสนใจ

"อาหารจีนครับ ช่วงหน้าหนาวขายได้เยอะหน่อยเพราะว่านักท่องเที่ยวเยอะ แต่ขายได้เรื่อยๆ ตลอดปีครับ"
ว่าที่ลูกเขยตอบอย่างฉะฉาน คงนึกดีใจไม่น้อยที่เพื่อนช่วยชงให้

"เป็นลูกคนจีนเหรอ" พ่อผมถาม

"ครับ จีนแท้ๆ ทั้งบ้านเลยครับ เตี่ยกับม๊าผมพูดภาษาไทยได้นิดหน่อยเพราะว่าคนที่นั่นส่วนมากพูดจีนกัน
พวกเราเป็นจีนที่อพยพมาช่วงสงครามน่ะครับ มาปักหลักเป็นชุมชนอยู่ที่ดอยแม่สะลองห้าสิบกว่าปีแล้ว"
เป็งอธิบายเพิ่มเติมพอให้เข้าใจ ก่อนจะถือโอกาสโฆษณาเพื่อนตัวเองบ้าง

"อ้อ เพื่อนผมคนนี้ยังโสดนะครับคุณน้า กำลังมองหาสาวที่ขยันๆ มาเป็นคู่ชีวิตอยู่ครับ
เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ที่สำคัญ...รักเด็กมากๆ ด้วยครับ"

เป็งตบไหล่ภูริชเบาๆ ชงกันเองสองคน แต่ยังไม่มีใครกล้ากระโตกกระตากเรื่องภูริชกับแนนมากนัก
ถึงกระนั้น พ่อกับแม่ของผมใช่ว่าจะดูไม่ออกเพราะต่างก็อาบน้ำร้อนมาก่อนแล้ว

"แล้วช่วงนี้วินเป็นไงบ้างครับ" ภูริชถือโอกาสถามถึงว่าที่ลูกเลี้ยงเสียเลย

ยังไม่ทันมีใครตอบ เด็กน้อยที่ถูกพาดพิงถึงร้องไห้เสียงดังมาจากในบ้านพอดีราวกับรู้ว่าถูกถามถึง

"สงสัยวินจะไม่สบายน่ะค่ะ เมื่อกี้ตอนให้นอนดูเหมือนตัวร้อนๆ อยู่ แนนขอตัวไปดูลูกก่อนนะคะ"

แนนบอกพลางทำท่าจะลุกออกไปแต่หยุดชะงักเมื่อภูริชขอตามไปด้วย

"ถ้างั้นพี่ว่าพาลูกไปหาหมอดีกว่านะแนน เดี๋ยวพี่พาไปเอง" ภูริชอาสาพลางลุกขึ้นตาม
สำเนียงและท่าทางของผู้พูดบ่งบอกความสนิทสนมจนเกินกว่าจะบอกว่าเพิ่งรู้จักกันวันนี้เสียแล้ว

พ่อกับแม่ผมมองหน้าแนนกับภูริชสลับกันไปมา คงสงสัยที่ภูริชทำท่าเหมือนรู้จักแนนมาก่อน
ปกติแล้วไม่น่ามีหนุ่มโสดที่ไหนอาสาพาผู้หญิงที่เพิ่งรู้จักกันพาลูกไปหาหมออย่างนี้เลย

เหมือนจะรู้ตัวว่าพลาดเสียแล้ว เพื่อนของแฟนผมหน้าเจื่อนลงทันใดเมื่อเห็นสายตาพ่อกับแม่ผม

"เอ่อ...คือว่า..." ภูริชไม่รู้จะอธิบายยังไง

"แนนไปดูลูกก่อนนะคะ" ด้วยภาระความเป็นแม่แนนจึงไม่สามารถอยู่อธิบายอะไรได้ตอนนี้
ปล่อยให้คนที่เหลือพูดคุยกันเอาเอง

ภูริชจึงได้โอกาสแสดงวิสัยทัศน์และความกล้าหาญอย่างลูกผู้ชายคนหนึ่งเสียที
ถ้าไม่คว้าโอกาสนี้ไว้คงเสียดายน่าดู นี่แหละที่เขาเรียกว่าพลิกวิกฤติให้เป็นโอกาส

"ผมชอบแนนครับ เรารู้จักกันแล้วก็คุยกันมาหลายเดือนแล้ว ผมไม่รังเกียจที่เธอมีลูก
ยินดีรับผิดชอบชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่งที่เคยผิดพลาดมา ผมชื่นชมแนนมากที่สู้ชีวิตต่อ
ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นก็อาจจะทำแท้งหรือคิดสั้น แต่แนนไม่ทำอย่างงั้น ผมชอบผู้หญิงแบบนี้
ถ้าคุณพ่อกับคุณแม่ไม่รังเกียจ...ผมจะอนุญาตขอคบกับแนนได้ไหมครับ"

ภูริชตัดสินใจบอกไปตามตรงอย่างลูกผู้ชายอกสามศอก พ่อกับแม่ของผมอึ้งกันไปเลย
จะว่าไปทุกคนต่างอึ้งไปตามๆ กัน ยกเว้นแนนที่ตอนนี้ไม่รับรู้อะไร

"พ่อคะ แม่คะ วินตัวร้อนมากๆ เลยค่ะ สงสัยต้องไปโรงพยาบาลแล้วล่ะค่ะ"

เสียงแนนตะโกนบอกออกมาจากในบ้าน เบนความสนใจไปได้พอดี

"ผมไปส่งแนนให้ก็ได้ครับอา"

หลังจากที่นั่งเงียบอยู่นาน พี่เหน่งจึงอาสาเผื่อพ่อกับแม่จะไม่อนุญาตให้ภูริชไปกับแนน

"แต่เหน่งต้องกลับไปดูสวนไม่ใช่เหรอลูก" แม่ผมบอกอย่างเกรงใจ

"ผมขอไปส่งแนนกับลูกนะครับคุณพ่อคุณแม่"
ภูริชยืนกราน แถมยังเน้นย้ำสรรพนามใหม่ที่ใช้เรียกพ่อกับแม่ผมอีกด้วย

พ่อกับแม่ผมมองหน้ากันเหมือนกับไม่รู้ว่าจะตัดสินใจยังไง แต่ลังเลแบบนี้คงไม่ทันการ
พอแนนอุ้มลูกออกมานอกบ้านตรงลานด้านหน้าที่เรากินข้าว ภูริชจึงรีบเดินแกมวิ่งไปหา
เพื่อนของแฟนผมเอามือแตะหน้าผากวินด้วยความเป็นห่วง พอเห็นอย่างนั้นพ่อกับแม่ผมจึงนั่งนิ่ง

แม้ยังไม่มีใครอนุญาต แต่ความเป็นห่วงลูกทำให้แนนรีบตามภูริชไปขึ้นรถที่จอดไว้หน้าบ้าน
แนนแวบหันมามองพ่อกับแม่เป็นเวลาสั้นๆ พอเห็นพ่อกับแม่ไม่ว่าอะไรจึงตามภูริชออกไป

พอแนนกับภูริชไปแล้ว ผม เป็งและพี่เหน่งจึงนั่งเงียบเพราะไม่รู้ว่าพ่อกับแม่ผมจะว่ายังไง

"อ้าว ทำไมไม่กินข้าวกันต่อล่ะ กินลูกกิน เหน่งรีบกินลูกจะได้ไปหาพ่อกับแม่ เดี๋ยวรอแย่
คานินยังไม่อิ่มไม่ใช่เหรอลูก คุณเป็งจะเอาข้าวเพิ่มหรือเปล่าครับ คานินตักให้พี่เขาหน่อยสิลูก"

พ่อผมเชื้อเชิญให้ทุกคนกินข้าวกลางวันต่อราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น เรามองหน้ากันไปมาอย่างเกร็งๆ
พอเห็นว่าไม่น่ามีอะไรแล้วจึงค่อยสบายใจและลงมือจัดการอาหารกลางวันของเรากันต่อ

"คุณเป็งส่งจานข้าวมาครับ เดี๋ยวผมตักให้"

ผมบอกพลางชี้ไปที่จานข้าวของเป็งที่พร่องเกือบหมดแล้ว เป็งยกจานมาให้ผมอย่างไว

"ทำไมไม่เรียกพี่เป็งล่ะลูก"

สิ้นเสียงแม่บอก ผมถือจานข้าวเป็งชะงักไว้ รู้สึกงงไปหมดว่าอะไรเป็นอะไร

"อ้อ...ครับแม่" ผมยิ้มแหยๆ ก่อนจะหันไปถาม "พี่เป็ง" ของผม "เอากี่ทัพพีครับพี่เป็ง"

"ทัพพีเดียว" เป็งบอกด้วยอาการเกร็งๆ เช่นเดียวกัน แม้จะพอรับรู้ได้ว่าพ่อกับแม่ผมโอเคก็เถอะ

"ถ้าพร้อมเมื่อไหร่ ก็มาบอกพ่อกับแม่นะคานิน"

แม่ยิ้มมีเลศนัย ทำเอาผมตักข้าวชะงักค้างไว้อีกรอบ

"พร้อมเรื่องอะไรเหรอครับ" ผมถามอย่างงงๆ ก่อนจะเคาะข้าวจากทัพพีลงในจาน

"ถามพี่เป็งสิลูก พี่เป็งน่าจะรู้ว่าแม่หมายถึงอะไร" แม่ผมบอกแล้วหันไปหัวเราะกับพ่อเบาๆ กันสองคน

ผมส่งจานข้าวให้เป็งแล้วมองหน้ากันเลิ่กลั่ก ต่างคนต่างมีคำถามในสายตา

"ถ้าคุณเป็งไม่รังเกียจบ้านเล็กๆ ของเรา พักที่นี่สักคืนก็ได้นะจ๊ะ พักห้องเดียวกับคานินนั่นแหละ
ส่วนคุณภูริช เดี๋ยวแม่ให้ไปนอนบ้านเหน่ง ไม่ไกลหรอก อยู่ถัดไปอีกสองสามหลังเอง"

แม่ผมเหมาการสนทนาช่วงหลังแทนพ่อผมไปเลย ผมกับเป็งมองหน้ากันแล้วยิ้มดีใจ คิดว่าใช่แน่ๆ

"หมายความว่า...พ่อกับแม่...อนุญาตให้ผมกับพี่เป็ง...คบกันเหรอครับ" ผมถามทวนอย่างกล้าๆ กลัวๆ

"โอ๊ย...มาอนุญาตตอนนี้มันจะทันรื้อ คบกันไปตั้งหลายเดือนแล้วไม่ใช่เหรอลูก"

แต่ละดอกที่แม่ผมซัดมาเล่นเอาเราสองคนตะลึงแล้วตะลึงอีก แต่คราวนี้เราตะลึงด้วยรอยยิ้มดีใจ
ผมอยากขอบคุณแนนเสียจริงๆ ที่แอบช่วยคุยลับๆ กับพ่อแม่ให้ ไม่งั้นผมคงลำบากเหมือนกัน
ผมรู้ว่าแนนอยากทำให้อะไรให้พี่ชายคนนี้บ้างหลังจากทำปัญหาให้ปวดหัวไว้เยอะ
ผมเดาว่าช่วงเวลาที่อยู่บ้าน แนนคงพยายามพูดเรื่องนี้กับพ่อแม่บ่อยๆ จนท่านเข้าใจ

"ขอบคุณครับ"

ผมกับเป็งพูดเกือบพร้อมกัน เสียงหัวเราะของทุกคนจึงดังขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่ดูมีความสุข
เป็งกับผมกลัวกันอยู่ตั้งนาน เพิ่งวางแผนกันว่าจะมาซื้อมะยงชิดทุกสัปดาห์ หาของมาฝากพ่อกับแม่ผมบ่อยๆ
ทำตามแผนไปได้หน่อยเดียวกลับได้ผลดีที่เกินคาด ถ้าไม่เรียกว่าทำบุญมาดีก็ไม่รู้จะเรียกอะไรแล้ว!

(http://bit.ly/1mSYzme)

เรื่องใหม่เรื่องหนึ่งที่ผมเพิ่งรู้เกี่ยวกับเป็งคือ เป็งชอบปั่นจักรยานมาก ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องไปปั่น
ไปเที่ยวไหนมักเอาจักรยานไปด้วย และต้องใช้จักรยานสำหรับการปั่นแบบมืออาชีพเท่านั้น

เมื่อจบมื้อกลางวัน เป็งจึงพาผมออกมาปั่นจักรยานเล่นไปตามริมคลองส่งน้ำที่ทอดตัวยาวไปตามถนนหลัก
เรามีจักรยานกันคนละคัน พับเก็บใส่รถมาได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะรถของเป็งมีพื้นที่เยอะ

ภูริชกับแนนยังไม่กลับจากโรงพยาบาลเลย เห็นพ่อกับไม่ว่า เราสองคนจึงอดดีใจกับภูริชด้วยไม่ได้

"คุณภูคงหายเครียดซะทีนะครับคุณเป็ง พ่อกับแม่ผมไม่น่ามีปัญหาแล้ว ปกติ...ถ้าเกิดไม่ชอบแล้ว
พ่อกับแม่ผมไม่ยอมให้คุณภูริชไปเด็ดขาด นี่ไม่เห็นว่าอะไรเลย"

"เรียกพี่สิ แม่บอกให้เรียกพี่ว่าพี่ไม่ใช่เหรอ" แทนที่เป็งจะสนใจกลับหันมาตำหนิเรื่องไม่เรียกพี่ซะงั้น

"อ้อ ผมลืมตัวไง เรียกคุณเป็งซะเคย" ผมนิ่วหน้าอย่างคนรู้สึกผิดนิดๆ เป็งจึงยิ้มชอบใจ

"ตอนแรกพี่ก็กลัวแทนไอ้ภูมันเหมือนกัน แต่เพื่อนพี่มันก็กล้ากว่าที่พี่คิดไว้ซะอีก"

"นั่นสิครับ แล้ว...ถ้าเกิดพ่อกับแม่ผมไม่อนุญาติเรื่องผม พี่เป็งจะทำเหมือนคุณภูริชหรือเปล่า"

"แน่นอนอยู่แล้ว พี่ก็ลูกผู้ชายอกสามศอกเหมือนกันนะ" เป็งถือโอกาสคุยโวเสียเลย

"ถ้าไม่ได้แนนช่วยคงยากเอาเรื่องเหมือนกัน ผมชักอยากรู้ว่าแนนไปคุยกับพ่อแม่ยังไงถึงได้ยอม"

"แสดงว่าแนนรักพี่ชายมากนะเนี่ย ไม่เสียแรงที่คานินช่วยดูแลตอนที่เขาลำบาก"

"ครับ" ผมเห็นด้วย แม้ไม่เคยคิดอยากทวงบุญคุณหรือต้องการให้น้องทำอะไรตอบแทนเลยก็ตาม

"ต่อไปก็เหลือแค่ม๊าของพี่เท่านั้นแหละ ไม่รู้ว่าจะยอมหรือเปล่า แต่พี่ว่าเตี่ยยอมแล้ว ม๊าก็ต้องยอม"

สีหน้าของเป็งดูกังวลเล็กน้อย

"สงสัยผมคงจะต้องทำเหมือนคุณภูริชกับหม่าม๊าของคุณเป็งหรือเปล่าครับ"

ผมพูดตลกให้ดูไม่เครียด หนุ่มตี๋ของผมหัวเราะชอบใจใหญ่เลย

"สงสัยผมคงต้องร้องไห้กระซิกๆ บอกม๊าว่า ฮือๆ ม๊า...คานินเป็นของผมแล้ว เอ๊ยไม่ใช่ ม๊า...ฮือๆ
ผมเป็นของคานินแล้ว ผมเสียหายครับม๊า ม๊าต้องให้คานินต้องรับผิดชอบผมด้วย ฮือๆ กระซิกๆ"

เป็งแกล้งทำเสียงสูงๆ ต่ำๆ เหมือนกำลังพากย์ละครอยู่ ผมขำเสียจนต้องจอดรถจักรยานหัวเราะ
แฟนหนุ่มของผมหยุดแล้วหันมามอง ดูท่าจะมีความสุขมากที่เห็นผมหัวเราะท้องคัดท้องแข็ง
เวลาเป็งทำอะไรตลกๆ หน้าตาท่าทางจะไปหมด ผมจึงอดขำไม่ได้ทุกที

"ขำขนาดนั้นเลยเหรอคานิน"

"พี่เป็งน่าจะไปเล่นตลกได้อีกอาชีพนะเนี่ย" ผมบอกพลางพยายามหยุดหัวเราะ

"อย่าดีกว่า พี่กลัวตลกหลายคนจะตกงานเอา"

หนุ่มตี๋เล่นมุกต่อแล้วจูงจักรยานย้อนมาหาผม ผมหยุดขำได้แล้วจึงเปลี่ยนมาชวนคุยให้มีสาระมากขึ้น

"เราขึ้นไปเชียงรายกันดีไหมครับคุณเป็ง เอ๊ย...พี่เป็ง ผมไปบ้านพี่เป็งได้หรือเปล่า"

"ทำไมจะไม่ได้ล่ะ พี่วางแผนไว้แล้ว พอกลับจากที่นี่นะ พี่จะพาคานินไปเชียงรายเลย ดีไหม"

ผมพยักหน้าเห็นด้วย "อยากกินขาหมูหมั่นโถวมากๆ เลยครับ ไม่เคยกินเลย"

"เห็นแก่กินนี่เอง" เป็งว่าพลางลูบหัวผมเบาๆ อย่างเอ็นดู

"เอ๊ะ รถคานินเหมือนจะยางแบนนะ เดี๋ยวๆ หลบเข้าใต้ต้นไม้ก่อนดีกว่า พี่จะสูบลมให้"
เป็งเอามือบีบยางล้อหน้าเพื่อทดสอบอีกที ปรากฎว่าลมยางอ่อนไปจริงๆ ด้วย

"ผมสูบเองก็ได้ แค่นี้เอง"

"น่า...พี่จะมาขอลูกชายเขาแล้ว ต้องดูแลลูกชายเขาดีๆ หน่อยสิ เดี๋ยวพ่อกับแม่ไม่ให้มาขอจะแย่เอานะ"

ผมกับเป็งขำพร้อมๆ กัน จากนั้นเราจึงจูงรถหลบเข้าร่มใต้ต้นไม้ใหญ่ริมคลองข้างถนน
เป็งหยิบสูบมือที่ติดอยู่กับรถมาแล้วสูบลมให้ ท่าทางทะมัดทะแมงบ่งบอกความชำนาญเป็นอย่างดี
ผมนั่งยองๆ ดูพร้อมกับยิ้มชื่นชม ไม่ว่าเป็งจะทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด

พอสูบลมเสร็จแล้วแทนที่จะไปต่อ เป็งกลับชวนผมนั่งคุยกันริมคลองเสียอย่างนั้น
แต่ก็ดีเหมือนกัน นั่งคุยกันรับลมเย็นๆ เพลินดี ช่วงหน้าร้อนแดดแรงเหลือใจจนแทบไหม้

"คานิน...อยู่กับผมมาสองเดือนแล้ว เป็นยังไงบ้าง"

สองเดือนที่ว่าของเป็งนั้นคือระยะเวลาที่ผมย้ายมาอยู่กับเป็งที่คอนโด ไม่ใช่เพิ่งรู้จักกันสองเดือน

"ก็ดีครับ" ผมตอบสั้นๆ

"แค่ดีเองเหรอ" เป็งนิ่วหน้าคล้ายกับจะงอน

"โคตรดีเลยครับ" ผมรีบตอบเอาใจเสียงดังฟังชัด เจ้าตัวจึงยิ้มแป้น "ผมไม่เคยคิดว่าผมจะมีความสุขขนาดนี้
พี่เป็งเป็นคนใจดี ใจเย็น ผมทำอะไรเปิ่นๆ ก็ไม่เคยโกรธ ที่สำคัญนะ เอาใจเก่ง แถมยังหล่ออีกต่างหาก
ทำอะไรก็ดูน่ารักไปหมด ผิวก็ขาว จมูกก็โด่ง คิ้วก็หนา ปากก็สวย หุ่นก็ดี"

"แล้วเรื่องนั้นล่ะ" เป็งถามพลางยื่นหน้ามาใกล้ ยิ้มกรุ้มกริ่มให้ผมเขินเล่น

"สุดยอด" ผมทำเสียงสูง เป็งหัวเราะชอบใจใหญ่

"แล้วพี่เป็งล่ะ อยู่กับผมสองเดือนแล้วเป็นไงมั่ง ถ้ามีอะไรไม่ชอบก็บอกผมได้นะ" ผมพูดทีเล่นทีจริง

"เหมือนคานินแหละ...โคตรดีเลย ถึงคานินจะไม่หล่อมาก ไม่เอวบางร่างน้อย แต่น่ารักสำหรับพี่นะ
แถมยังขยัน ช่วยทำงานบ้าน ช่วยทำงานตั้งหลายอย่าง ไม่เคยบ่นเลย คานินยิ้มให้พี่ดูเขี้ยวหน่อยสิ"

ผมรีบทำตามที่แฟนหนุ่มบอกทันที แม้ไม่ต้องบอกคงต้องยิ้มอยู่แล้วเพราะชมซะขนาดนั้น

"นี่แหละคานิน...หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจของพี่เป็ง คนที่พี่รอมาสิบๆ ปี ถึงพี่จะเคยหลงเสน่ห์สาวมีเขี้ยวแค่ไหน
แต่ตอนนี้...เขี้ยวของคานินน่ะ ปักอยู่กลางอกของพี่...จนพี่ไปไหนไม่ได้แล้ว รู้เปล่า"

หนุ่มตี๋ของผมเอามือนิ้วจิ้มที่หน้าอกด้วยตอนที่พูดถึงเขี้ยวปักอก ผมได้แต่ยิ้มอย่างเอ็นดู
ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในที่สาธารณะ ผมคงให้รางวัลด้วยการหอมแก้มซักสองสามฟอดเป็นแน่!

TBC...
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 24-04-2016 20:15:30
ผ่านด่านพ่อแม่คานินมาแบบสบายๆ เลยเพราะมีน้องดีช่วยเคลียร์ทางให้ แต่คงเหลือทางฝั่งม๊าของคุณเป็งว่าจะยอมรับมั้ย แต่ถ้าม๊าเห็นคานินคงต้องยอมรับแน่ๆ เพราะคานินออกจะน่ารักซะขนาดนี้นี่
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 24-04-2016 21:10:52
หวานไม่เกรงใจต้นมะยงชิดเลยนะ
จริงๆบ้านคานินก็ไม่ถึงกับจนมาก
แค่บ้านเป็งรวยมากเท่านั้นเองเนอะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 24-04-2016 21:25:05
 :impress3: ผ่านด่านพ่อแม่ของคานินได้อย่างปลอดโปร่ง นี่แหละ คนทำดีในที่สุดความดีก้อย้อนกลับมาตอบแทนเรา  :กอด1: เป็งกับคานินน่ารักมาก ๆ เลยน่ะ ชอบจริง ๆ อ่านเรื่องนี้แล้วรู้สึกฟีลกู้ด ช่วงนี้ชอบอารมณ์นี้น่ะ อากาศร้อนเงินไม่มีอ่านแบบนี้รู้สึกดีจริง ๆ  :L2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: yowyow ที่ 24-04-2016 21:45:42
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 24-04-2016 22:21:10
เย้ๆ ผ่านด่านพ่อกับแม่คานินแล้ว เหลือแต่ป๊ากับม๊าพี่เป็งจะว่าไงบ้างน๊า รอๆๆนะจ้ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: padthaiyen ที่ 24-04-2016 22:36:33
ผ่านไป1ด่านแล้สคานินเป็ง :mew1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 25-04-2016 12:39:38
ตอนหน้าจะจบแล้วนะครับ อีกสองสามวันจะเอามาลงให้อ่านกัน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 25-04-2016 13:11:45
จะจบแล้วเหรอไวจัง ไม่อยากให้จบเลยอ่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: minniekook ที่ 25-04-2016 16:47:08
รอติดตามเรื่องต่อไปนะคะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 25-04-2016 17:37:30
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 25-04-2016 19:06:05
นึกถึงตอนที่พ่อกับแม่ของคานินรู้ว่าแนนท้องแล้วตีคานินเจ็บขนาดนั้น เราก็ไม่คิดว่าเค้าจะยอมรับได้กับที่คานินมีแฟนเป็นผู้ชาย อยากรู้เหมือนกันว่าแนนพูดกับพ่อแม่ยังไงเค้าถึงยอมรับเรื่องนี้ได้
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 25-04-2016 21:17:03
ดีใจที่มาต่อจนจบในนี้นะครับ  แต่ก็ตามอ่านที่นู้นแล้วเนอะ 555 :laugh: :laugh: :laugh:

ตอนจบขอแบบหวานน้ำตาลขึ้นตากันเลยนะคร้าบบบบบ  :impress2: :impress2: :impress2:

อาจจะไม่ได้อ่าน หรือ ติดตามอ่านทุกเรื่องของคนเขียน ต้องขอโทษด้วยนะครับ ปรกติก็ไม่ได้อ่านงานเขียนแบบตามคนเขียนเท่าไหร่อ่ะ แต่อ่านแบบตามใจฉัน 5555 :really2: :really2: :really2:

 บางทีคนอ่านเพียบ คอมเม้นต์เพียบ ผมอ่านไปตอน สองตอน ก็ไม่อ่านแล้วก็มี บางเรื่องคนอ่านน้อย แต่ผมติดตามตลอดก็มี ยังไงก็เป็นกำลังใจให้นะคร้าบบบบ  :hao5: :hao5: :hao5:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 25-04-2016 21:34:25
 :L2: :pig4:

หวานๆ มีความสุขกับคานินด้วย
ใกล้จบแล้วหรอ จะมีตอนพิเศษ ไหมนะะะะะะะะะ

ปล หายไปหลายวันเชียว ว่าจะเขียนไปทวงแล้ว อิอิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 28-04-2016 17:09:06
จากที่อ่าน ผมว่าบ้านคานินน่าอยู่มาก อีกอย่างครอบครัวคานินก็ไม่ได้จนเนอะ
มีสวนมะยงชิดอีก อยากมีสวนบ้าง

อ่านแล้วรู้สึกดีนะ ทุกอย่างดูราบรื่น 

รอตอนจบครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 02-05-2016 19:04:48
ตายๆๆๆ เขินแทนเป็ง
หยอดเก่งขึ้นนะอิตาพี่เป็ง 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №19 พิชิตใจว่าที่พ่อตาแม่ยาย ⓟ14 ▦24.4
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 04-05-2016 00:37:44
ท่าทางด่านมาม้าของเป๊ง จะส่อแววดราม่าแฮฺะแบบนี้ ทางพ่อแม่คานินดันราบรื่นซะขนาดนี้
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง ⓟ15 ▦5.5
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-05-2016 17:36:10
▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover

ตอนที่ 20 เมียรักของพี่เป็ง

(http://bit.ly/1NibOEk)

คานิน...

"รับอะไรดีครับ"

"เอา...ขาหมูสองชุดนะ หมั่นโถวสิบลูก เป็ดทอดยูนนานหนึ่งตัว หมูคั่วเกลือยูนนาน ไก่ดำตุ๋น อ้อ...เอาเป็ดอบใบชาเพิ่มอีกที่หนึ่งละกัน บ้านนี้ชอบกินเป็ด อะไรอีกดี ผัดยอดมะระหวานละกัน"

"แล้วเครื่องดื่มล่ะครับ"

"มีโค้กไหม"

"มีแต่เอสครับ"

"งั้นเอาเอสขวดเล็กสี่ขวดก่อนละกัน"

"ได้ครับ รับอะไรเพิ่มอีกไหมครับ"

"อืม...พอแค่นี้ก่อน ถ้ามีเดี๋ยวค่อยสั่ง"

"งั้นรอสักครู่นะครับ"

เสร็จไปแล้วโต๊ะหนึ่ง ยังไม่ทันไรลูกค้ากลุ่มใหม่เดินเข้ามาอีกแล้ว ดีที่มีเด็กในร้านไปต้อนรับแล้ว ไม่น่าเชื่อว่าร้านที่ดูเก่าๆ อย่างนี้มีลูกค้ามากินเยอะมาก แทบไม่เคยมีโต๊ะว่างเลยตั้งแต่เปิดจนปิด ผมช่วยดูบัญชีให้ด้วย ถึงรู้ว่าวันหนึ่งมีรายได้สามหมื่นกว่าบาทต่อวัน ครบเดือนก็เป็นล้าน

ผมเดินเข้ามาในครัวแล้วแจ้งเมนูกับคนทำอาหารไป ในห้องนี้เต็มไปด้วยลังถึงสำหรับนึ่งหมั่นโถว ถ้าว่างผมต้องจะช่วยนึ่งด้วยเพราะว่าลูกค้าสั่งเยอะมาก คนที่มีอยู่ทำไม่ทัน ช้านิดเดียวอาจพลาดได้ เข้ามาในห้องครัวทีไรเหงื่อผมผุดเต็มหน้าทุกที แถมหน้ายังมันแผล็บจนเป็นสิวหลายเม็ด

"คานิน ขาหมูหมั่นโถวโต๊ะห้าได้แล้วครับ"

"ครับเฮียปิง" ผมตอบพี่ชายของเป็งไปแล้วเดินไปหยิบอาหารที่เฮียปิงเพิ่งทำเสร็จใส่ถาด จากนั้นจึงนำออกไปเสิร์ฟให้ลูกค้าโต๊ะที่ว่า ไม่ทันไรลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามาอีก ผมเสิร์ฟอาหารเสร็จแล้วจึงไปช่วยเคลียร์โต๊ะและทำความสะอาดโต๊ะที่ลูกค้าเพิ่งออกไป ช่วงนี้เด็กในร้านลาพักหลายคน เหลือเพียงแค่สองคนที่ยังอยู่ เราสามคนจึงรับบทหนัก ตั้งแต่เปิดร้านจนกระทั่งปิดไม่เคยได้หยุดนั่งพักเลยแม้แต่นาทีเดียว หมดวันจึงแทบขาลาก

ผมเช็ดทำความสะอาดโต๊ะเสร็จแล้วจึงเชิญลูกค้าที่เข้ามาใหม่มานั่ง จากนั้นจึงเริ่มกระบวนการเดิมอีกครั้งด้วยการเอาเมนูให้ รับออเดอร์ เอาไปส่งในครัว พอได้อาหารจึงนำมาเสิร์ฟ คอยดูเผื่อว่าจะสั่งอะไรอีก โต๊ะไหนกินเสร็จแล้วไปเช็คบิล เช็คบิลเสร็จแล้วเคลียร์โต๊ะ ถ้ามีเวลาว่างสักนาทีสองนาทีต้องไปช่วยนึ่งหมั่นโถว ไม่ต้องทำอะไรมากแค่จับใส่ลังถึงแล้วนึ่งเพราะมีคนทำเตรียมไว้พร้อมนึ่งให้แล้ว

แม้ว่าผมไม่ต้องช่วยเก็บกวาดเช็ดถู แต่พอร้านปิดต้องมาช่วยดูบิลและเคลียร์เงินให้เรียบร้อย คนทำบัญชีลาด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าไม่ใช่เพราะความบังเอิญ ทั้งหมดนี้ล้วนเกิดจากแผนบางอย่าง กว่าจะเคลียร์ทุกอย่างเสร็จก็ประมาณห้าโมงกว่า พอถึงเวลานั้นผมแทบจะคลานออกจากร้านแล้ว

"ไปคานิน เดี๋ยวเฮียไปส่งที่บ้าน" พี่ชายของเป็งเอ่ยชวนเมื่อร้านของเราพร้อมที่จะปิดบริการสำหรับวันนี้แล้ว

"แล้วเฮียไม่ไปหาแฟนเหรอวันนี้"

"เดี๋ยวเฮียไปส่งคานินก่อน พอดีเตี่ยกับม๊าให้เป็งพาไปงานศพคนแถวๆ นี้ ยังไม่กลับเลย"

"อ๋อ...ได้ครับ" ผมรับคำแล้วเดินตามพี่ชายของเป็งออกไป แปลกใจนิดหน่อยที่ไม่รู้เรื่องนี้มาก่อน

เฮียปิงหน้าตาไม่ค่อยคล้ายเป็งเท่าไหร่ อาจจะเป็นเพราะหน้าตาเหมือนม๊า แต่เป็งเหมือนเตี่ย แถมเฮียปิงแทบไม่เคยดูแลตัวเองเลย วันๆ ขลุกอยู่แต่ในครัวอย่างที่เป็งเคยบอกไว้ไม่มีผิด แม้จะอายุมากกว่าเป็งเพียงสองปี แต่เฮียปิงกลับดูแก่กว่าเป็งมากทีเดียว แถมเริ่มอ้วนแล้วด้วย

พอเฮียปิงมาส่งถึงบ้าน ผมจึงรีบขึ้นไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องของเป็งเพราะเหนียวตัว ส่วนเฮียปิงแค่ล้างหน้าล้างตาให้พอสดชื่น ไม่นานจึงออกไปหาแฟนสาวที่กำลังจะหมั้นกันในไม่ช้านี้

อาบน้ำเสร็จแล้วผมจึงลงมานั่งดูทีวีที่ห้องนั่งเล่นข้างล่าง แม่บ้านหาของกินเล่นมาวางให้ผมด้วย เมื่อกี้เป็งส่งไลน์มาบอกว่าจะมาถึงสักสองทุ่ม ถ้าหิวให้กินข้าวไปก่อน แต่ผมไม่กล้ากินคนเดียวหรอก หิวแค่ไหนคงต้องแขวนท้องรอจนว่าคนในครอบครัวของเป็งจะกลับมาถึงบ้าน

ทันที่รถยนต์ยี่ห้อหรูแล่นเข้ามาในบ้าน ผมไม่รอช้ารีบเดินออกไปต้อนรับตรงหน้าบ้านทันที แฟนหนุ่มของผมลงจากรถแล้วช่วยเดินมาเปิดประตูให้เตี่ยกับม๊าที่นั่งอยู่ข้างหลัง พอทั้งสองท่านลงมาผมจึงตรงไปหาเผื่อว่าจะมีอะไรให้ช่วยถือ แต่วันนี้กลับไม่มีอะไรเลย

"นี่กี่วังเลี้ยวอาเป็ง"

"ห้าวันแล้วครับม๊า" เป็งบอกมารดาไป ม๊าพยักหน้ารับรู้แล้วมองมาทางคานิน

"งั้งก็เหลืออีกสองวัง"

"ใช่ครับม๊า" เป็งบอกพลางยิ้ม

"ลีๆ งั้งอีกสองวังที่เหลือ ลื้อโลงหนักกว่าเลิมแน่" ม๊าของเป็งหันมาบอกผม

"ครับ" ผมรับคำอย่างเกร็งๆ แค่ห้าวันที่ผ่านมาก็หนักหนาแล้ว คราวนี้จะหนักกว่าเดิมอีกหรือ

เป็งมองหน้าผมอย่างเห็นใจ แต่ผมกลับยิ้มให้รู้ว่าสบายมาก ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟก็ยอมทำให้

"ลื้อจะให้อีทำอาลายอีก แค่นี้อีก็เหนื่อยจะตายเลี้ยวหนา" เตี่ยของเป็งหันไปดุภรรยา

"เลื่องของอั๊ว ถ้าพวกลื้ออยากให้อั๊วยอมลับผู้ชายคงนี้เป็นแฟงอาเป็ง ลื้อก็ต้องอั๊วพิสูกให้พอใจ" ม๊าของเป็งเถียง

"ได้เลยครับอาหยี จัดมาเลยครับ"

ผมยืนยันพลางยิ้ม ต้องเรียกว่า "อาหยี" หรือ "น้า" เพราะม๊าของเป็งยังไม่อนุญาตให้ผมเรียกม๊า ถ้าออกเสียงตามสำเนียงไทยจะเรียกว่า "อาอี๊" แต่ที่นี่ผมต้องเรียกตามสำเนียงจีน

"ตามใจลื้อละกัง อาคานิง ลื้ออกทงอีกนิดเดียวนา อีกแค่สองวังเอง อั๊วเชื่อว่าลื้อทำล่าย" เตี่ยของเป็งเดินมาตบไหล่ให้กำลังใจผมเบาๆ

"ขอบคุณครับเตี่ย"

"อั้ยหยา! ซี้ซั้วต่า! ใคใช้ให้ลื้อเลียกเตี่ยฮะ อั๊วยังไม่อะนุยากซะหน่อย" ม๊าของเป็งเต้นเป็นเจ้าเข้าเพราะผมดันเผลอเรียกพ่อของเป็งว่าเตี่ยก่อนได้รับอนุญาต

"ก็อั๊วอะนุยาก อั๊วจะให้อาคานิงเลียกอั๊วว่าเตี่ย เพาะว่าอั๊วชอบอาคานิง อีเป็งคงขะหยัง แล้วอีก็น่าลักล่วย ขนาดโลงลื้อใช้งางสาละพัก อียังไม่บ่งสักคำ ถ้าเป็งผู้หญิงคงอื่นๆ นา หรือแฟงอาปิงก็เหมืองกัง อีคงไม่ทงให้ลื้อโขกสับอย่างงี้หลอก" เตี่ยของเป็งเข้าข้างผมตามเคย เป็นอย่างนี้ตั้งแต่ผมมาถึงแล้ว

"อาเฮีย!" ม๊าทำท่าฟึดฟัดไม่พอใจ แต่คงไม่กล้าทำอะไรมากไปกว่านี้

ผมกับเป็งได้แต่มองหน้ากันไปมา ช่วงนี้ม๊าให้ทำอะไรเราสองคนยอมทุกอย่าง ไม่ปริปากบ่น ไม่หือไม่อือ ชี้นกเป็นไม้ ชี้ไม้เป็นนก ดีหน่อยที่เตี่ยเข้าใจและคอยปกป้อง ไม่งั้นคงแย่กว่านี้

"ไปๆๆ ไปกิงข้าวกังลีก่า อาเป็ง...ลื้อมาลูแลแฟงของลื้อล่วยสิ อีเหนื่อยแย่เลี้ยว ลูหน้าอีสิ โทรมหมกเลี้ยว สิวก็ขึ้ง ผอมก็ผอม วันนี้ลื้อต้องกินข้าวเยอะๆ นะอาคานิง"

"อ้อ ครับเตี่ย"

พอโดนเตี่ยบ่นเรื่องนี้ เป็งจึงรีบรับลูกทันที ม๊าของเป็งค้อนปะหลับปะเหลือกใหญ่เลย ป๊าเป็นคนเดินนำเข้าบ้านไปก่อน พอได้จังหวะเป็งจึงปราดมาเดินคู่กับผม ดูไปก็ตลกดี ผมรู้แล้วว่าเป็งคนตลกเหมือนเตี่ยนั่นเอง ทุกวันที่กินข้าว เตี่ยมีเรื่องตลกๆ มาเล่าให้ฟังเสมอ กินข้าวกันไป หัวเราะกันไป ดูเป็นครอบครัวที่มีความสุขและเสียงหัวเราะมากทีเดียว

<--->

"คานินอดทนอีกหน่อยนะ เดี๋ยวม๊าก็ใจอ่อนแล้วล่ะ เห็นไหม วันนี้ไม่ค่อยดุคานินเท่าไหร่เลย"

"ผมเต็มที่อยู่แล้ว ไม่ต้องห่วงหรอก เหนื่อยแค่นี้ผมทนได้...เพื่อพี่เป็ง"

เป็งยิ้มชอบใจและหัวเราะเบาๆ "น่ารักอย่างงี้ เดี๋ยวพี่เป็งจะให้รางวัลชุดใหญ่ อยากไปเที่ยวไหนเปล่า ไปต่างประเทศไหม พี่เพิ่งไปฟินแลนด์มา สวยนะ อืม...แต่ช่วงนี้มันไม่มีหิมะ...ไม่น่าไป ไปไหนดี"

"ตอนนี้เหรอ ต่างประเทศเอาไว้ก่อนก็ได้ อยากเที่ยวเชียงรายนี่แหละ ตั้งแต่มายังไม่ได้ไปไหนเลย"

เป็งขำใหญ่ ผมจะไปไหนได้ยังไง โดนม๊าของเป็งทดสอบด้วยการให้ไปช่วยงานที่ร้านอาหารทุกวัน แถมยังสั่งให้พนักงานจำนวนหนึ่งลาหยุดเพื่อให้ผมทำงานหนักแทนคนที่หยุดเจ็ดวันเต็มๆ ห้ามเป็งไปช่วยผมที่ร้าน ไปรับไปส่งได้อย่างเดียวเท่านั้น ห้ามโทรศัพท์คุยกันและอีกสารพัดห้าม ถ้าครบเจ็ดวันเมื่อไหร่ถึงจะรับผมไว้พิจารณา แค่ห้าวันผ่านมาผมยังแทบรากเลือด สองวันที่เหลือแม้ฟังดูไม่เยอะ แต่ผมเชื่อว่าโหดกว่านี้แน่นอนเพราะม๊าของเป็งแย้มไว้แล้ว

"ได้ๆ ให้ครบเจ็ดวันก่อนละกัน เดี๋ยวพี่จะพาเที่ยวให้ทั่วเลย"

"คงไม่ใช่เจ็ดวันหรอก หลังจากเจ็ดวันผมคงต้องขอนอนพักสักวันก่อน" ผมบอกพลางขำเบาๆ

"จริงด้วย คานินพักสักวันก็ดี มา...ให้พี่นวดตรงไหนอีกไหม ตรงนี้เมื่อยเปล่า"

หนุ่มตี๋ถามพลางเลื่อนมือมาบีบที่ต้นแขนซ้ายของผม อาสาช่วยนวดให้ผมก่อนนอนทุกคืนตั้งแต่มาที่นี่ เห็นผมเหนื่อยและโทรมกลับมาทีไรหนุ่มตี๋ของผมต้องมาเอาใจตลอด แต่ทำได้เฉพาะในห้องนอนเท่านั้น ขืนทำให้ม๊าเห็นคงโดนด่าเปิงกัน จนป่านนี้ผมยังไม่มั่นใจเลยว่าพอครบเจ็ดวันจริงม๊าจะโอเคหรือเปล่า

เป็งนวดแขนผมได้สักพักจึงถามอีก "นวดขาไหม คานินคงแทบไม่ได้นั่งทั้งวัน มา...ให้พี่นวดขาให้ดีกว่า" เป็งบอกพลางเขยิบไปนั่งข้างหน้าผม จากนั้นจับขาสองข้างผมเหยียดตรงแล้วช่วยบีบนวดให้

"พี่เป็งนี่น่ารักนะเนี่ย" ผมเอ่ยชมพลางมองอย่างเอ็นดู

"ก็พี่มีเมียน่ารักอย่างคานิน พี่ก็ต้องทำตัวให้น่ารักๆ สิ" เป็งพูดพร้อมกับยิ้มปนทะเล้นจนดูตลก

ผมอ้าปากค้างไปเลยเมื่อได้ยินคำว่า "เมีย" จากปากของเป็ง สักพักเริ่มเขินจนหน้าแดง ส่วนเป็งทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ไปแล้ว แถมก้มหน้าก้มตานวดขาให้ผมหน้าตาเฉย

"ถ้าพี่เป็งเรียกผมว่าเมีย แล้วพี่เป็งเป็นอะไรล่ะ"

เป็งหยุดนวดแล้วหันมามองผม ท่าทางยิ้มๆ คล้ายกับจะหัวเราะ "อืม...ก็เรียกว่า...เรียกว่าพี่ไง หรือคานินอยากเรียกไปไกลกว่านั้นล่ะ" เป็งถามมีเลศนัย

"อะไรเหรอ"

"ก็...ปั๋วไง"

"เฮ้ย! บ้าเหรอ จ้างให้ก็ไม่เรียกหรอก" ว่าแล้วผมก็ตรงเข้าทุบหลังเป็งสองสามที เจ้าตัวทำตัวงอแต่ไม่ยอมหนีหรือปัดป้องใดๆ

"เมียจ๋า พี่กลัวแล้วๆๆ อย่าตีพี่เลย"

ผมหยุดชะงัก อ้าปากค้างและหน้าเหวอ "อะไรนะ! เรียกเมียจ๋าเหรอ"

เป็งหันมาเล่นหูเล่นตาและทำหน้าทะเล้นใส่ "ก็พี่รักคานิน ไม่ให้เรียกเมีย...แล้วจะให้เรียกว่าอะไรล่ะ"

พอผมโผเข้าไปทุบ เป็งพลันรวบตัวผมทางข้างหลังมากอดไว้ แถมยังขโมยหอมแก้มผมหนึ่งฟอด ผมไม่มีแรงจะสู้เพราะเหนื่อยจากการทำงานจึงหยุด ปล่อยให้หนุ่มตี๋กอดไว้ตามสบาย

"อ้าว ไม่ตีพี่แล้วเหรอ" หนุ่มตี๋ถามอย่างแปลกใจ

"ตีทำไม" ผมหันหน้าไปบอกคนที่นั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง "ก็คานินรักพี่ คานินไม่ตีพี่หรอก"

(http://bit.ly/1S1zfGS)

เป็ง...

วันรุ่งขึ้น ม๊าให้คนมาปลุกผมกับคานินตั้งแต่ตีห้า จากนั้นให้ผมสอนคานินทำหมูคั่วเกลือยูนนาน นี่คือเมนูอาหารจีนที่ร้านผมทำได้ดีและอร่อยกว่าทุกร้านในแถบนี้ คนในบ้านผมทำเป็นทุกคน ม๊าอนุญาตให้ผมสอนคานินได้ถึงแปดโมงเช้า แล้วจะให้คานินทำหมูคั่วเกลือให้ลูกค้ากินที่ร้าน ถ้ามีลูกค้าคนไหนบ่นว่าไม่อร่อยแม้แต่รายเดียว ถือว่าไม่ผ่านการพิจารณาและห้ามต่อรองใดๆ

ความจริงทำไม่ยากหรอก ผมหลับตาทำยังได้เลยเพราะกินและฝึกทำมาตั้งแต่เด็ก เพราะฉะนั้น สิ่งที่ผมพอจะสอนคานินได้คือให้ทำตามผมเป๊ะทุกอย่าง ใส่อะไรเท่าไหร่ต้องเท่านั้น ใส่อะไรก่อนหลัง ผัดกี่นาที กลิ่น รสชาติหรือความชื้นประมาณไหนต้องตามผมเป๊ะ

ผมทำให้คานินดูเป็นตัวอย่างก่อนหนึ่งรอบ จากนั้นจึงให้คานินลองทำดู ดูเงอะงะไปบ้างช่วงแรก แต่พอทำไปสองสามรอบเริ่มดีขึ้น ทำเสร็จทุกครั้งผมจะชิมให้ทุกครั้ง จากนั้นจึงติชมและให้คำแนะนำในการปรับปรุงรสชาติจนผมพอใจ

"โอเค รสชาติแบบนี้แหละ ใช่เลย" ผมชิมแล้วชมเมื่อมาถึงรอบสุดท้าย

"ใช่เลยนี่...หมูคั่วเกลือหรือผมครับ" คานินหยิบมุกผมไปเล่นบ้าง ผมจึงหัวเราะชอบใจใหญ่

"คานินชักตลกแล้วนะเนี่ย"

"อ้าว ก็ผมมีแฟนเป็นคนตลกนี่"

"จ้ะ ดีแล้ว พี่ชอบคนตลก" หยอกกันพอหอมปากหอมคอแล้วผมจึงอวยพรให้คานินเสียหน่อย

"สู้ๆ นะคานิน คนดีน่ะ...ตกน้ำไม่ไหล ตกไฟไม่ไหม้ พี่รู้ว่าคานินทำได้แน่นอน"

คานินยิ้มขอบคุณ ดูซาบซึ้งใจมากทีเดียว

พอถึงเวลาแปดโมงเช้า คานินไปอาบน้ำแล้วออกไปกับเฮียเป็งราวๆ แปดโมงครึ่ง โชคดีนะคานิน...เมียรักของพี่!

<--->

อาหารเย็นของครอบครัวเราอีกสองวันต่อมามีคุณเหม่เกว่ซึ่งเป็นแฟนของเฮียปิงมาร่วมกินข้าวด้วย ม๊าของผมดูเป็นปลื้มกับว่าที่ลูกสะใภ้คนนี้มากทีเดียว ชมแล้วชมอีกว่าสวยและเหมาะสมกับเฮียปิง นั่นยิ่งทำให้ผมร้อนใจเพราะม๊ายังไม่เอ่ยคำพูดใดๆ เกี่ยวกับ "ลูกเขยใภ้" ออกมาแม้แต่คำเดียว คานินคงน้อยใจแย่เลยที่ม๊าผมให้ความสนใจกับว่าที่ลูกสะใภ้มากกว่า ผมจึงได้แต่แอบกุมมือคานินไว้

พอกินข้าวเสร็จเราจึงนั่งคุยกันที่ชุดรับแขก แต่ดูเหมือนไม่มีใครสนใจผมกับคานินเท่าไหร่เลย จนกระทั่ง...

"อาคานิง ลื้อเล่าเลื่องที่ลื้อช่วยน้องสาวของลื้อให้อาเหม่เกว่กับอาปิงฟังล่วยสิ อียังไม่เคยฟัง" สุดท้ายเตี่ยผมช่วยชีวิตเราไว้อีกตามเคย แม้ตอนนี้ยังเดาไม่ออกว่าทำไมต้องเล่า แต่เตี่ยมีเหตุผลเสมอ

"ครับ" คานินรับคำ จากนั้นจึงเล่าเรื่องน้องสาวของตัวเองที่เคยผิดพลาดจนมีลูกและหยุดเรียนให้ทุกคนฟัง

"พอแนนมาอยู่ด้วยแล้วคานินทำยังไง แล้วพ่อกับแม่ไม่สงสัยแย่เหรอ" เหม่เกว่ถามอย่างสนใจ

"พอดีห้องข้างๆ ว่าง ผมเลยเช่าห้องเพิ่มให้แนนอยู่ ก็...ต้องโกหกพ่อกับแม่ว่าแนนเรียนหนัก อะไรประมาณนั้น แล้วผมก็ชวนแนนขายหมูปิ้ง เพราะรายได้จากงานประจำผมเลี้ยงดูน้องสาวกับหลานไม่ไหวหรอก เวลาอยู่ที่ห้องแนนก็หมักหมูกับแช่ข้าวเหนียวไว้ ตอนเช้ามืดค่อยลุกขึ้นมานึ่ง ตีห้าครึ่งเราก็ออกมาขายหมูปิ้ง ลูกค้าส่วนมากก็คนที่พักใกล้ๆ แถวนั้นแหละครับ วันนึงขายได้ประมาณพันถึงสองพันกว่าบาท พอเป็นค่านมลูกให้แนนได้บ้าง สักแปดเก้าโมงเช้าผมก็จะนั่งรถเมล์ไปทำงานที่ร้านกาแฟใกล้คอนโดพี่เป็ง เลิกงานกลับถึงบ้านก็ประมาณสี่ห้าทุ่ม"

"เหรอ...ขยันจัง แล้วได้นอนกี่ชั่วโมงล่ะ" เหม่เกว่ถามต่อ

"ประมาณห้าหกชั่วโมงครับ"

"โห...เหนื่อยแย่เลย แล้วตอนนี้เป็นไง พ่อกับแม่รู้เรื่องแล้วเหรอ"

"รู้แล้วครับ"

คานินตอบพลางยิ้มให้เหม่เกว่ อย่างน้อยเธอก็ดูสนใจและชื่นชมคานินมากทีเดียว

"รู้ตอนหลานอายุเจ็ดเดือนแล้ว วันนั้นพ่อกับแม่ขึ้นมาหาผมกับน้องที่กรุงเทพ เขาโกรธมาก หาว่าผมดูแลน้องไม่ดี โดยเฉพาะพ่อ เขารักแนนมาก"

"คานินโดนพ่อตีด้วย" ผมเสริมให้ ทุกคนทำท่าตกใจกันใหญ่ไม่เว้นกระทั่งม๊าของผม จากนั้นผมจึงพูดต่อ

"เพราะเรื่องแนนนี่แหละ พ่อกับแม่ของคานินเลยยอมรับเรื่องที่ผมกับคานินเป็นแฟนกันได้"

"อ้อ...ยังไงเหรอคะ ขอโทษที่ถามเยอะ แต่อยากรู้จริงๆ" เหม่เกว่บอกพลางขำเบาๆ

"ก็...หลังจากที่พ่อกับแม่ขึ้นมาหาคานิน แนนก็กลับไปอยู่บ้านที่นครนายก ช่วยพ่อกับแม่ทำสวนมะยงชิด แนนเลยเล่าให้พ่อกับแม่ฟังว่าที่แนนกับลูกรอดชีวิตมาได้เพราะได้พี่ชายคอยช่วย ไม่งั้นคงฆ่าตัวตายไปแล้ว พอพ่อกับแม่ของคานินรู้ว่าคานินยอมเหนื่อยเพื่อช่วยน้องสาวเลยรู้สึกผิด โดยเฉพาะพ่อที่ตีคานินไปแล้ว ทีนี้...แนนก็เลยค่อยๆ เผยให้พ่อกับแม่ฟังว่าคานิน...คบกับผมอยู่ แนนบอกว่าแนนพยายามเล่าทุกวันเลย
แต่แนนก็ฉลาดพูดนะ เขาเล่าความดีของพี่ชายก่อน พี่ชายลำบากอย่างงั้น พี่ชายช่วยอย่างงี้ แล้วถึงค่อยเล่าเรื่องคานินคบกับผม เขาใช้วิธีถามให้สงสัยก่อน หยั่งเชิงดูก่อน แล้วก็ค่อยๆ เล่าไป เล่าจนพ่อกับแม่ของคานินอยากเจอหน้าผมเลย"

ผมขำตอนท้าย สาเหตุที่ต้องเล่าส่วนนี้แทนเพราะรู้ว่าคานินคงกระอักกระอ่วนใจที่จะอวดอ้างความดีของตัวเอง หลายๆ คนที่นั่งอยู่ต่างขำไปกับผมด้วย ยกเว้นม๊าที่นั่งฟังเงียบๆ แต่กระนั้นก็มีท่าทางสนใจ

"อั๊วชอบคนแบบนี้ ลู้จักแก้ปังหา ไม่โทกคงอื่ง แถมอียังขะหยัน ไม่บ่งสักกะคำ หายากนะคงแบบนี้ ลื้อว่าไหม"

เตี่ยผมหันไปถามม๊าตอนท้าย แต่ม๊ายังตีหน้าเฉยอยู่

"อ้าว อาตั่วตี๋ ลื้อจะบอกล่ายยังว่าผงงางอาคานิงที่ล้างเป็งยังไงบ้าง ลื้อให้ผ่างอ๊ะเป่า"

เตี่ยหันไปถามเฮียที่นั่งฟังอยู่เงียบๆ ไม่พูดไม่จาอยู่ตั้งนาน เพราะปกติเฮียผมไม่ค่อยพูดอยู่แล้ว เฮียปิงมองหน้าผมที เตี่ยที ม๊าที ก่อนจะตัดสินใจพูดไม่กี่คำที่ตรง กระชับและได้ใจความที่สุด

"ผมให้ผ่าน เพราะว่าผมให้ทำงานหนักแค่ไหนคานินก็ไม่บ่น ทำบัญชีได้ ทำอาหารได้ สอนได้ ผมชอบ"

ผมละอยากจะกระโดดกอดคอพี่ชายสายเลือดเดียวกันเสียจริงๆ เคยช่วยผมมายังไง เฮียยังช่วยผมเสมอ ม๊าผมดูตกใจไม่น้อย แม้พยายามเก็บอาการแต่พอดูรู้ว่าหวั่นไหว ความจริงคงใจอ่อนหลายวันแล้ว ม๊ารู้ตัวว่าคงทานกระแสไม่อยู่ แต่ต้องการเหตุผลบางอย่างไว้ยึดเหนี่ยวจึงต้องหาเรื่องทดสอบคานิน อย่างน้อยได้ทดสอบแล้ว รู้ว่าดีจริง รู้ว่าเป็นคนใช้ได้ ทำให้ม๊ายอมรับคานินได้สะดวกใจมากขึ้น แทนที่จะยอมรับเพราะเกรงใจเตี่ยหรือคนอื่นๆ ในครอบครัว ผมว่าผมเดาใจม๊าผมไม่ผิดแน่ๆ เลย

"ลีๆๆ" เตี่ยผมยิ้มพอใจ จากนั้นจึงหันมาถามม๊าผม "แล้วลื้อล่ะ"

ม๊าสะดุ้งเล็กน้อย มองหน้าคนนั้นที คนนี้ที แต่ถึงยังไงคงรู้ว่าต้องตัดสินใจเพราะครบเจ็ดวันแล้ว

"อั๊ว...อั๊วก็ไม่ล่ายว่าอะไลนี่ อีก็ใช้ล่าย"

"ม๊า!"

พอขาดคำผมจึงร้องอุทานดีใจเสียงดังแล้วลุกไปกอดม๊า คนเป็นแม่เจอลูกชายอ้อนทีไรเป็นใจอ่อนทุกราย ม๊ากอดและลูบหลังผม ก่อนจะกระซิบบอกผมเบาๆ พอให้ผมได้ยินคนเดียว

"จ. อั๊วดีใจด้วยนะอาเป็งที่ลื้อได้แฟนดีๆ แบบนี้มาช่วยกันสร้างชีวิต"

"จ. ครับม๊า ผมรักม๊านะครับ"

พอกอดม๊าแล้วก็ต้องกอดเตี่ย กอดเตี่ยแล้วต้องกอดเฮีย กอดเฮียแล้วต้องกอด...เมีย! แฮ่ๆ แต่กอดเมียตรงนี้ไม่ได้ เอาไว้อยู่ในที่ส่วนตัวของเราแล้วพี่เป็งจะกอดคานินละกันนะ

(http://bit.ly/1mD2rHH)

หลังจากทุกอย่างผ่านไปด้วยดี ผมจึงมีเวลาพาคานินเที่ยวเชียงรายอยู่สามวัน จากนั้นจึงกลับกรุงเทพ พอกลับมาถึง เราสองคนต้องหมั่นไปดูร้านที่ยูเนี่ยนมอลล์แทบทุกวัน อีกไม่กี่เดือนคงได้เปิดแล้ว การดำเนินงานทุกอย่างในร้านผมจ้างหมด เราสองคนแค่ช่วยกันบริหารจัดการเท่านั้น

ผมซื้อเฟรนไชส์กาแฟยี่ห้อดังยี่ห้อหนึ่งจากเชียงรายมาเปิดที่กรุงเทพ เตี่ยผมรู้จักกับเจ้าของจึงช่วยเจรจาให้ ความจริงไม่จำเป็นต้องใช้เส้นสายหรอก แต่การเจรจานั้นทำให้ผมได้สิทธิพิเศษบางอย่างมากกว่า นั่นคือ ผมได้สิทธิรับกาแฟเกรดพิเศษมาขายที่ร้านด้วย เกรดนี้ส่งขายเฉพาะต่างประเทศเท่านั้น

หลังจากนั้นไม่กี่วันผมจึงพาคานินไปพักผ่อนไกลถึงเกาะสมุย กะว่าจะอยู่สักสามสี่วันแล้วค่อยกลับ เย็นวันหนึ่งเราเดินเล่นริมชายหาดด้วยกันอย่างสบายอารมณ์ คุยกันไป ดูพระอาทิตย์ตกดินกันไป บอกตามตรงว่าตั้งแต่คานินมาอยู่ด้วย ผมไม่เคยรู้สึกเหงาอีกเลย แถมยังรู้สึกสงบมากขึ้นด้วย เราไม่ค่อยทะเลาะกันหรอก อาจจะเป็นเพราะผมนิสัยเหมือนเตี่ย ยิ้มๆ ตลกๆ หรือไม่ก็หน้าตาย เหมือนเตี่ยกับม๊าผมที่ไม่ค่อยทะเลาะกัน นานๆ ถึงจะเห็นสักครั้ง

"พี่เป็งว่า...เดือนหน้าเราต้องไปงานแต่งงานกี่งาน" คานินถามผมขณะเดินทอดน่องสบายๆ แต่ท่าทีบางอย่างบ่งบอกว่าน่าจะเป็นคำถามเชื่อมไปเรื่องที่สำคัญกว่ามากกว่า

"สองงานมั้ง ของไอ้ภูกับแนนกลางเดือน ของเฮียปิงกับเหม่เกว่ตอนปลายเดือน" ผมตอบไปเท่าที่รู้

"เหรอ...แล้ว...เอ่อ...งานแต่งงานของเราล่ะ พี่เป็งว่า...เมื่อไหร่ดี"

นั่นไงล่ะ ผมสงสัยเหมือนกันว่าคานินจะถามเรื่องนี้หรือเปล่า ที่ผ่านมายังไม่เคยคุยกันเลย

"อืม...คานินว่าเมื่อไหร่ดีล่ะ"

"ไม่รู้สิครับ พี่เป็งกำหนดมาเลยก็ได้ หรือว่า...พี่เป็งไม่อยากแต่งหรือเปล่า" คานินถามตรงๆ ท่าทางคล้ายคนกำลังน้อยใจ

"ใครว่าล่ะ ทำไมพี่จะไม่อยากแต่งงานกับคานิน ทุกวันนี้เราก็อยู่กันเหมือนผัวเมียไปแล้วนะ ไม่แต่งก็เหมือนแต่งแล้ว"

"แต่พ่อกับแม่ผมถามแล้วนะ" คานินหยุดเดิน ทำหน้างอหน่อยๆ

"โอเค ถ้างั้น...กลับไปเราไปหาพ่อกับแม่ดีไหม ให้พ่อกับแม่ช่วยหาฤกษ์ให้"

"ถ้าไม่อยากแต่งก็บอกตรงๆ ได้นะ" คานินทำหน้าเศร้า

"อ้าว ทำไมคานินคิดอย่างงั้นล่ะ" ผมถามอย่างแปลกใจ คานินนิ่วหน้า แต่จนแล้วจนรอดกลับไม่ยอมตอบ

"คานินคิดว่าพี่อายที่จะแต่งงานกับผู้ชายงั้นเหรอ" เมื่อคานินไม่พูดผมจึงลองเดาสิ่งที่เจ้าตัวกำลังคิด

"อือ" คานินยอมรับ ไม่น่าเชื่อว่าผมเดาถูกตั้งแต่ครั้งแรกเลย

ผมหันไปมองรอบๆ พอเห็นจังหวะไม่มีใครสนใจจึงแอบขโมยหอมแก้มหนุ่มเขี้ยวเข้าให้

"เฮ้ย! ไม่เอา อายคนอื่นเขา!" คานินดุผมใหญ่ คงตกใจไม่น้อยจึงหันมองไปรอบๆ ว่ามีใครเห็นหรือเปล่า

"เห็นไหม ตกลงใครกันแน่ที่อาย"

คานินอึ้งไปเลย คราวนี้ติดกับดักผมเข้าให้แล้ว

"ที่พี่ยังไม่คุยเพราะมันยังยุ่งๆ อยู่ไง ไม่ใช่เพราะอายหรอก แล้วคานินล่ะอายหรือเปล่า เมื่อกี้ยังดุพี่เลย พี่เสียใจนะเมื่อกี้ แสดงว่าคานินอายใช่ไหมล่ะ"

ผมแกล้งตีหน้าเศร้า คานินชักเริ่มออกอาการรู้สึกผิด

"หนุ่มสาวคนอื่นๆ เขายังเดินจูงมือกัน กอดกัน คลอเคลียกัน เห็นไหม" ผมพยักเพยิดให้ดูไปด้วย "พอพี่หอมหน่อยคานินกลับดุพี่ แถมตอนเดินยังไม่ให้พี่จูงมืออีก อายเหรอที่มีแฟนเป็นผู้ชาย"

คราวนี้ผมแสร้งไม่พอใจหน่อยๆ นอกจากเล่นตลกแล้วผมน่าจะไปเล่นละครหลังข่าวด้วย ถ้าไม่ทำแบบนี้ เราอาจทะเลาะกันใหญ่โตได้ วิธีการพวกนี้ผมได้มาจากเตี่ยผมนั่นแหละ

"เปล่าซะหน่อย" คานินเถียงแต่สีหน้าฟ้องว่ารู้สึกผิด

"เปล่าได้ไงล่ะ ก็เมื่อกี้คานินดุพี่ ถ้าเราเป็นแฟนกันแต่แสดงความรักนิดๆ หน่อยๆ ในที่สาธารณะไม่ได้ แล้วเราจะเป็นแฟนกันไปทำไม พี่ไม่อยากหลบๆ ซ่อนๆ นะ มีแฟนน่ารักก็ต้องภูมิใจไม่ใช่เหรอ"

"แต่ผมเป็นผู้ชายนะ ไม่ขาว ไม่หล่อ ไม่เห็นจะดูน่ารักตรงไหนเลย"

จะว่าตกใจก็ตกใจ ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา ผมคงไม่รู้แน่ๆ ว่าคานินคิดแบบนี้ "ที่ผ่านมาคานินคิดอย่างงี้เหรอ"

คานินหน้าเจื่อน เท่ากับยอมรับกลายๆ ไปแล้ว ผมถอนหายใจเบาๆ รู้สึกหนักใจไม่น้อย พอหันไปรอบๆ จึงเห็นหนุ่มๆ สาวๆ เดินจูงมือกัน หยอกล้อกัน ผมอยากทำอย่างงั้นบ้าง แต่ผมกับคานินกลับเดินคุยกันเหมือนเพื่อน ไม่กล้าแสดงออกเหมือนหนุ่มสาวทั่วไป

เอาเถอะ ไหนๆ คานินก็คิดอย่างนั้นไปแล้ว เครียดไปคงไม่ได้อะไร หาวิธีแก้ปัญหาดีกว่า ว่าแล้วผมจึงเปลี่ยนสีหน้าจากเครียดเป็นยิ้ม ก่อนจะถามย้ำไปว่า

"คานินอายใช่ไหม"

คานินไม่ทันตอบด้วยซ้ำ ผมดึงคนตรงหน้าเข้ามาหาแล้วประกบปากลงไป เรียกง่ายๆ ว่า "จูบ" นั่นเอง พอผมปล่อย คานินจึงหน้าแดงจัด หันไปมองรอบๆ แล้วหันต่อว่าผม "ทำไมพี่เป็งทำแบบนี้"

แทนที่ผมจะตกใจที่เห็นคานินโกรธ ผมกลับเดินตรงไปหาฝูงชนที่น่าจะเห็นเหตุการณ์เมื่อกี้นี้ จากนั้นผมจึงยกสองมือขึ้นป้องปากแล้วตะโกนออกไปรอบทิศทางดังๆ

"ทุกคนครับ ผมกับผู้ชายคนนี้เป็นแฟนกัน เราสองคนรักกันมาก เรากำลังจะแต่งงานกันครับ Hey you! This guy is my boyfriend. We love each other so much and we're gonna get married soon!"

คานินห้ามไม่ทันเสียแล้ว เจ้าตัวจึงได้แต่ยืนหน้าเหวอสุดขีดเพราะทุกคนหันมามองเป็นตาเดียวกัน หนุ่มๆ สาวๆ ทั้งไทยและเทศต่างโบกไม้โบกมือให้เราสองคน แถมยังมีคนตะโกนอวยพรให้เราอีกด้วย

"ยินดีด้วยนะคะ/ยินดีด้วยนะครับ/Congratulations!"

ผมโบกไม้โบกมือตอบไปรอบๆ พอหันมาดูคานินอีกทีจึงเห็นเจ้าตัวยืนน้ำตาซึม ด้วยความตกใจผมจึงวิ่งกลับมาหา สงสัยว่าเมื่อกี้ผมทำเกินไปหรือเปล่าคานินถึงได้ร้องไห้

คานินวิ่งมาหาผมด้วยเช่นกัน พอถึงตัวจึงโผเข้ากอดผมแน่นแล้วร้องไห้

"พี่เป็ง ผมรักพี่เป็งนะ ขอบคุณมากสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ผมมีความสุขมากนะที่ได้เป็น...เมียพี่เป็ง เมื่อกี้ผมขอโทษนะครับ ผมผิดไปแล้ว ต่อไปผมจะไม่อายอีกแล้ว ผมรักพี่เป็งนะครับ"

ได้ยินอย่างนั้นผมจึงโล่งใจเหมือนยกภูเขาออกจากอก ที่แท้คานินซาบซึ้งใจนี่เอง

"พี่เป็งก็รักเมียของพี่นะ หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจของพี่เป็ง...เราแต่งงานกันนะ"

"ครับพี่เป็ง"

ผมกอดคานินไว้ในอ้อมแขนเบาๆ ลูบหลังปลอบใจไปด้วย จากนี้ไป ปัญหาคาใจนี้คงจบเสียที เราสองคนต่างยิ้มอย่างมีความสุขในอ้อมกอดของกันและกัน มีฉากหลังเป็นทะเลและตะวันยามเย็น

ทันใดนั้น สาวสวยในชุดทูพีชคนหนึ่งเดินผ่านมาพอดี จากสีผิวและหน้าตาเธอน่าจะเป็นคนเอเชีย เธอขยิบตาให้ผมแล้วส่งยิ้มหวานให้ ผมตกตะลึงไปทันทีที่เห็นว่า...

ห๊า!



สาวเขี้ยวเสน่ห์!



โธ่!



อีกแล้วเหรอเนี่ย!





จบบริบูรณ์

หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 50% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 05-05-2016 18:23:57
เห็นชื่อตอนก็กรี๊ดแล้ว 555  :hao7: :hao7: :hao7:

เป็งเรียกได้เต็มปากเต็มคำมาก เมียจ๋าาาา  :laugh: :laugh: :laugh:

อ่านแล้วฟิน ฟินไกลไปฟินแลนด์เลย  :-[ :-[ :-[

มาเจอแม่ปั๋ว งานเข้าคานินหนักมาก สู้ๆ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 50% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 05-05-2016 19:13:23
ตายๆๆๆ ถึงแม้จะเหนื่อย แต่มีกำลังใจดีขนาดนี้
เป็นเรา เราก็ยอมเหนื่อย
อิจฉาคานิน ให้ตายสิ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 50% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 05-05-2016 22:10:46
เป็นกำลังใจให้คานินเอาชนะใจแม่ปั๋วให้ได้นะ :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 80% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 05-05-2016 22:45:49
ได้ 80% แล้วนะครับ :)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 80% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-05-2016 00:24:58
 :L2: :pig4:

หวานมาก พี่เป็งขนอ้อยมาหลายคันรถทีเดียว
คานินก็ไม่แพ้กันเลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 80% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: Magis ที่ 06-05-2016 01:32:24
รออ่าน "กอด" ที่ว่านะะะ อย่านานละ อิอิ ค้างมากมาย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 80% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: seaz ที่ 06-05-2016 03:37:35
คานิน สู้ๆ นะครับ เดี๋ยวคุณแม่พี่เป็งก็ใจอ่อน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียที่น่ารักของพี่เป็ง 80% ⓟ15
เริ่มหัวข้อโดย: nunnuns ที่ 06-05-2016 06:49:13
กระอักน้ำตาล คำว่าเมียของนางทำฉันใจสั่น แอร้ยยยยยย เขินแทนของคานินเลยจ้าา
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-05-2016 08:49:33
จบแล้วนะครับ ขอขอบคุณทุกคนมากๆ ที่อดทนรอและติดตามเรื่องนี้มาโดยตลอด
เป็นนิยายอีกเรื่องที่ผมชอบมากๆ ทั้ง Mood & Tone ที่น่ารัก สดใส เรียบๆ และดราม่านิดหน่อย
ไม่รู้จะได้กลับมาเขียนงานให้อ่านอีกหรือเปล่า แต่ดีใจและภูมิใจเสมอที่มีโอกาสได้มาเขียนนิยายที่นี่
ไว้มีโอกาสเราคงได้เจอกันในเรื่องใหม่ๆ นะครับ (แม้จะไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม)

 :L2: :3123: :L2: :3123: :L2: :3123: :L2: :3123: :กอด1:

All the best
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-05-2016 09:35:15
อ้อ อ่านตั้งแต่ต้นอีกรอบยิ่งดีนะครับ ผมปรับสำนวนภาษาใหม่นิดๆ หน่อยๆ เกลาเรียบขึ้นแล้ว
ขอให้สนุกและมีความสุขกับตอนจบของ "หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ" นะครับ

:)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: เอมมี่ ที่ 06-05-2016 10:00:38
พี่เป็งน่ารักจัง
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Poseidon ที่ 06-05-2016 10:15:44
อิพี่เป็ง ตอนจบคือไร แอบอึ้งกับสาวเขี้ยวเหรอ เดี๋ยวบอกคานินเลยนิ
ในที่สุดม๊าก็ยอมรับ ดีใจด้วยนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: twinmonkey0311 ที่ 06-05-2016 11:06:21
พี่เป็งสนใจสาวมีเขี้ยวอีกแล้วนะ ระวังจะโดนหนุ่มมีเขี้ยวขย้ำเอาล่ะ  :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Wut_Sv ที่ 06-05-2016 13:20:55
อ่านแล้วอยากจะกรี๊ดให้ลั่นบ้าน 55555 มันน่ารัก มันละมุน อ่านแล้วฟิน อ๊ากกกกกกกก :hao7: :hao7: :hao7: :hao7:

ขอบคุณสำหรับนิยายสนุกๆนะคร้าบบบ  :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Jibbubu ที่ 06-05-2016 14:11:49
จบได้น่ารักมากเลยค่ะ แต่เฮียเป็งเอาอีกแล้วนะ เจอสาวเขี้ยวเสน่ห์หน่อยไม่ได้เลย

ระวังเถอะเดี๋ยวคานินได้โกรธแล้วต้องตามง้ออีกนะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: Billie ที่ 06-05-2016 17:46:33
 :L2: :pig4:

ขอบคุณมากมายสำหรับงานเขียนน่ารักๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: mild-dy ที่ 06-05-2016 18:06:25
 :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: snowboxs ที่ 06-05-2016 20:53:04
มีความสุขได้สักทีนะคานิน
เป็งก็นะ รักเมียสุดๆไปเลย
ว่าแต่พี่เป็งอึ้งสาวมีเขี้ยวอีกแล้ว
คราวนี้โดนคานินทำโทษหนักแน่ๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: titansyui ที่ 06-05-2016 21:32:14
 :pig4: :pig4: :L2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: ▶August5th◀ ที่ 06-05-2016 22:08:09
อ่านแล้วยิ้มทั้งตอนเลย หยอกล้อกันน่ารักมากๆ อิอิ

ดีใจที่ครอบครัวเข้าใจกันทุกฝ่าย แฮปปี้มากๆ


ปล. อ่านตอนจบละหิวมากบอกเลย 555+

ขอบคุณคนเขียนนะครับ กับนิยายเรื่องนี้ น่ารักมากๆ อ่านแล้วรู้สึกดีมากครับ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: GuoJeng ที่ 07-05-2016 00:45:46
จบจริงๆเหรอคับ ผมอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้เล่น มาอ่านอีกที จบแล้ว
ไม่รู้จะได้อ่านงานของคุณผู้แต่งอีกมั้ยนะคับ ใจหายเลย
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: takara ที่ 07-05-2016 08:05:45
อิอิ พี่เป็ง ดีจัยด้วยจ้า คานิน
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: iamtsubame ที่ 07-05-2016 09:16:29
ขอบคุณค่ะ :bye2:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 09-05-2016 09:12:54
แป่วววว แอดมินยังไม่ย้ายไปห้อง "นิยายที่โพสต์จนจบแล้ว" ให้เลย
ช่วงนี้ผมกำลังปรับปรุงภาษาให้สละสลวยขึ้น ทำเสร็จไปจนถึงตอนที่ 7 (เซลฟี่และจูบบนหนังสือ) แล้ว
ใครที่กลับมาอ่านตอนหลังรับรองลื่นปรื๊ด 555
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (จบแล้ว ย้ายได้)
เริ่มหัวข้อโดย: kitty08 ที่ 09-05-2016 11:32:13
 :a5: จบแล้วเรอะ กำลังอ่านเพลินเลยน่ะ สั้นกวาที่คิดเยอะเลย ขอบคุณน่ะจ้ะ ที่แต่งเรื่องดี ๆ แบบนี้มาให้อ่าน ยังไงจะตามไปอ่านที่บอร์ดใหม่น่ะ  :กอด1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (จบแล้ว ย้ายได้)
เริ่มหัวข้อโดย: evanescence_69 ที่ 09-05-2016 11:38:15
ขอตอนพิเศษ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (ตอนจบ)
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 09-05-2016 15:22:19
จบจริงๆเหรอคับ ผมอยู่ต่างจังหวัด ไม่ค่อยได้เล่น มาอ่านอีกที จบแล้ว
ไม่รู้จะได้อ่านงานของคุณผู้แต่งอีกมั้ยนะคับ ใจหายเลย

นึกถึงคุณ GuoJeng เสมอนะครับ ถ้ามีเวลาก็ลองแวะเข้าไปที่เพจผมดูนะครับ คงได้ติดตามกันเรื่อยๆ ทางนั้น
HuskyLover (http://facebook.com/HuskyLover.Novels)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover №20 เมียรักของพี่เป็ง (จบแล้ว ย้ายได้)
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 09-05-2016 15:24:36
:a5: จบแล้วเรอะ กำลังอ่านเพลินเลยน่ะ สั้นกวาที่คิดเยอะเลย ขอบคุณน่ะจ้ะ ที่แต่งเรื่องดี ๆ แบบนี้มาให้อ่าน ยังไงจะตามไปอ่านที่บอร์ดใหม่น่ะ  :กอด1:

นิยายทุกเรื่องที่ผมเขียนตอนนี้จะสั้นๆ ไม่เกิน 25 ตอนครับ มีจุดเดินเรื่องจุดเดียว เช่น เรื่องนี้มีจุดเดินเรื่องคือ เป็งจะเลือกเขี้ยวเสน่ห์ของใคร มีอุปสรรคนิดหน่อย ประมาณนั้น พอฝึกได้ที่แล้วผมถึงจะเขียนเรื่องยาวกว่านี้ครับ ต่อไปต้องเป๊ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: Raina ที่ 10-05-2016 08:40:45
ช่วงแรกๆเดาไม่ออกเลยว่าใครเป็นรุกใครเป็นรับ จริงๆเชียร์ให้คานินเป็นหนุ่มสู้ชีวิต แล้วรุกพี่เป็กมากกว่า 555

แอบสงสัย ชีวิตพนักงานร้านกาแฟชื่อดังเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอคะ? อ่านแล้วตกใจนิดๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 10-05-2016 09:45:03
ช่วงแรกๆเดาไม่ออกเลยว่าใครเป็นรุกใครเป็นรับ จริงๆเชียร์ให้คานินเป็นหนุ่มสู้ชีวิต แล้วรุกพี่เป็กมากกว่า 555

แอบสงสัย ชีวิตพนักงานร้านกาแฟชื่อดังเป็นแบบนั้นจริงๆเหรอคะ? อ่านแล้วตกใจนิดๆ

จริงครับ คนรู้จักเล่าให้ฟัง หรือจะลองเสิร์ชอินเตอร์เน็ตดูก็ได้ มีหลายๆ คนเจอเหมือนกัน 555 ไม่บอกก็คงรู้ว่าเป็นร้านอะไร อิๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: pearl9845 ที่ 11-05-2016 10:57:14
 :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: DREAM COME TRUE ที่ 23-05-2016 11:34:11
สนุกมากกกกกกกกกก ตอนแรกลังเลเพราะชื่อเรื่อง
แต่สนุกมากๆๆ ตอนมาม่าก็แบบเครียดตามเลย
พอคลายปมได้แล้วก็โล่งใจ

ชอบมากครับ อยากให้หลายๆคนได้อ่านกัน
ขอบคุณผู้แต่งมากครับสำหรับเรื่องสนุกๆ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: แมลงมีพิษชนิดหนึ่ง ที่ 10-08-2016 13:25:19
สนุกมาก ๆ ดำเนินได้น่าสนใจดี มีดราม่าเล็กน้อยพอเป็นกระสัย สรุปคือรักเรื่องนี้เลย

 :katai2-1: :katai2-1: :katai2-1:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: puchi ที่ 13-08-2016 23:58:04
สนุกมากๆ 
หน่วงใจตอนที่ลังเล สงสารคานินมากๆ

ขอบคุณมากค่ะ
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: inxsara ที่ 06-02-2017 08:15:12
รู้สึกคิดถึง เลยแวะมาเยี่ยมพี่เป็งกับน้องคานิน ไม่รู้พี่เป็งจะเลิกหลงสาวมีเขี้ยวหรือยังนะ อิๆ :)
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: Kfc_Pizza ที่ 08-02-2017 17:19:46
 :pig4: :pig4: :pig4:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 13:10:14
 :a5:
หัวข้อ: Re: ▼ツ▼หนุ่มเขี้ยวเปรี้ยวใจ ☂ My Canine Lover
เริ่มหัวข้อโดย: Timber ที่ 20-11-2017 13:11:26
 :กอด1: