ตอนที่ 6 เจ้า จักรพรรดิ
“ไม่เจอมึงโคตรนาน ตั้งแต่มึงลาออกไปก็ไม่ติดต่อเพื่อนฝูง”
ไอ้เจ้าละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือแล้วเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนเก่าซี้ปึ้กชนิดที่ว่าเห็นกันมาเกือบทั้งชีวิตแต่ก็ขาดการติดต่อกันไปตั้งแต่ที่ตัดสินใจเปลี่ยนวิถีทาง
“กี่ปีแล้ววะ สองหรือสาม” ไอ้เจ้าถามอย่างไม่แน่ใจในช่วงเวลา
ไม่เคยจำ...เวลาอะไรพวกนั้นสำหรับไอ้เจ้ามันหยุดชะงักไปนานแล้ว สมองของมันจำแต่เรื่องของคนคนเดียว ไม่เพิ่มความจำเรื่องอื่นเพราะกลัวว่าเรื่องสำคัญที่ควรจำจะหายไป
“สามมั้ง จำไม่ได้เหมือนกันว่ะ” ไอ้บิน หนุ่มหน้าตี๋ที่ยืนเคียงกันอัดควันบุหรี่เข้าเต็มปอด “คิดถึงนะเว้ย แต่อยู่ๆ โทรมากะทันหัน กูเอากับเมียยังไม่เสร็จก็ต้องรีบใส่กางเกงบึ่งรถมาหามึง นึกว่ามีเรื่องสำคัญคอขาดบาดตายแต่ที่แท้ก็แค่ขอถ่ายรูป”
ไอ้เจ้าหัวเราะในลำคอ หันมองไอ้บินที่ตัวสูงชะลูดแล้ววาดแขนโอบไหล่มัน “เพราะมึงรูปหล่อที่สุดในกลุ่มเรา กูก็เลยต้องขอยืมหนังหน้ามึงหน่อย ให้เรียกไอ้วินมาก็คงสู้ไม่ได้ คงทำให้คนคนนั้นดิ้นไม่พอ”
“ไอ้ห่า ก็แค่รูป แชทมาขอกูก็ได้ไหม”
“แชทได้ แต่อยากเจอมึงไง ไม่เจอกันตั้งนาน”
“แล้วใครให้มึงลาออกกะทันหันวะ ลาออกไม่บอกเพื่อนสักคน คิดจะหายก็หายไปเลย พวกกูตามหามึงอยู่เป็นเดือนสองเดือน ทุกคนเป็นห่วงมึงกันหมด ไอ้วินร้องไห้อยู่สามวัน เห็นข่าวคนโดดตึกที่ไหนก็คิดว่าเป็นมึง ซึมกันทุกคนเลยนะเว้ย ทิ้งพวกกูไปแบบโคตรน่าโกรธอะ แต่ก็นั่นแหละ โกรธมึงไม่ลง คิดว่ามึงคงมีเหตุผลของมึง”
ไอ้เจ้าเหม่อมองท้องฟ้าเบื้องหน้า ระเบียงบนชั้นสามสิบหกของคอนโดฯ แห่งนี้สูงพอที่จะทำให้มันเห็นท้องฟ้าสีครามได้ชัด ลมเย็นๆ ที่พัดผ่านเข้ามาก็ช่วยหอบเอาควันบุหรี่ของไอ้บินลอยหายไป มันไม่ชอบกลิ่นของบุหรี่แต่ถ้าเพื่อนชอบสูบก็ไม่เคยขัดศรัทธา
“กูเจอเขาแล้วว่ะบิน อยู่ๆ ก็เจอหลังจากที่ตามหาแทบพลิกแผ่นดิน แต่กูกลัวเขาจะหายไปอีกก็เลยไม่ทันคิดให้ดี” ไอ้เจ้าเผยรอยยิ้มเศร้า ในขณะที่ไอ้บินได้แต่ลอบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของมันอย่างไม่แน่ใจนักว่าควรพูดอะไรต่อ “เขายังเหมือนเดิม รูปร่าง หน้าตา แต่เหมือนจะสูงขึ้นนิดหนึ่ง ไหล่กว้างกว่าเดิม ก็มีบ้างที่ความชอบบางอย่างเปลี่ยนไป แต่กูสัมผัสได้อะว่าเขาคนเดิมยังอยู่ ต่อให้จะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ตัวตนคนเรามันลบกันไม่ได้ง่ายๆ”
“ดีแล้วที่มึงเจอ” กว่าจะหาเสียงเจอก็เหมือนปล่อยให้ไอ้เจ้าจมจ่อมกับอดีตอยู่นาน “แบบยังไงดีวะ กูก็พูดไม่เก่ง แต่กูดีใจกับมึงด้วยจริงๆ "
“ไม่รู้ว่าดีหรือเปล่านะที่เจอ” รอยยิ้มยังไม่จางจากสีหน้าแต่ความเศร้าสร้อยกลับยิ่งทวี “กูทรมานว่ะบิน ทรมานกับความทรงจำที่มีแต่กูจำได้อยู่คนเดียว”
“มันจำอะไรไม่ได้เลยเหรอ”
“อืม หายไปอย่างถาวร ครึ่งชีวิตของกูก็หายไปด้วย”
ถ้าไอ้บินมองไม่ผิด ก็เห็นน้ำใสๆ หยดหนึ่งไหลกลิ้งลงบนแก้มของคนร้องไห้ยากอย่างไอ้เจ้า ไม่มีใครไม่รู้ว่าไอ้เจ้าทุกข์ทรมานมากแค่ไหน เรื่องราวของไอ้เจ้ากับคนคนหนึ่งที่หลงรักกันมาสิบกว่าปี จากน้องชายขยับเป็นคนคุย จากคนคุยขยับเป็นแฟน จากแฟนขยับไปเป็นคู่ชีวิต ทุกอย่างเป็นไปได้ดี ราบรื่นมาตลอด แต่พระเจ้าคงเห็นว่าไม่ยุติธรรม คนสองคนที่มีความสุขมากเกินไปจึงถูกทำให้พลัดพราก ไอ้บินคือเพื่อนคนหนึ่งในกลุ่มที่สนิทกับไอ้เจ้าและคนรักของมัน ได้มีโอกาสได้อยู่ในช่วงเวลาที่ไอ้เจ้ามีความสุขที่สุดและทุกข์ใจที่สุด
เจ้า จักรพรรดิที่เคยมีทุกอย่างสมดั่งชื่อของมันเหมือนสูญเสียหลักยึดเหนี่ยวของชีวิตภายในคืนเดียว
“แหวนกูก็ยังเก็บไว้ การ์ดแต่งงานที่ออกแบบเล่นๆ ด้วยกันก็ยังมีไฟล์อยู่ในคอมฯ รูปทุกรูปที่ถ่ายด้วยกันกูไม่เคยทิ้ง มีแต่กูที่เวลาหยุดลง อยู่กับความทรงจำที่มีเขา แต่ตัวจริงเขาไม่อยู่กับกูแล้ว” ไอ้เจ้ายกมือขึ้นลูบหน้า สูญเสียการควบคุมแทบหมดสิ้น “มึงจะทำยังไงวะบินถ้าคนที่มึงรักยิ่งกว่าชีวิตเขาลืมมึง ต่อให้อยู่ตรงหน้าก็ไม่มีตัวตน”
“ไม่เป็นไรนะมึง มึงเจอมันแล้วนะ” ไอ้บินลูบแผ่นหลัง มันปลอบใครไม่เป็น ถ้าไอ้วินหรือไอ้จี้อยู่ตรงนี้ก็คงจะทำได้ดีกว่า “รู้จักกันใหม่ ทำให้มันรักมึงอีกครั้ง ไม่ยากหรอก ไหนมึงบอกว่าตัวตนคนเราเปลี่ยนกันไม่ได้ง่ายๆ ไง”
“แต่ใจคนมันเปลี่ยนกันได้ว่ะ” ไอ้เจ้าแย้งพลางยิ้ม แม้ดวงตาของมันจะไม่ได้รู้สึกอยากยิ้มเลยสักนิด ราวกับกำลังเย้ยหยันชะตาชีวิตรักของตัวเองมากกว่า “ตอนอยู่มอหนึ่งมั้งนะที่เขาเคยบอกว่าอยากเรียนเกษตรฯ ความฝันเด็กๆ อะแบบจะได้ปลูกผักปลอดสารพิษให้กูกิน เพราะอยากให้กูสุขภาพดี แข็งแรง อยู่กับเขาไปนานๆ พูดแต่คำหวานๆ หยอดกูฉิบหาย แต่ตอนนี้เขาเรียนทันตะฯ ฟันดาวคณะคนแล้วคนเล่าสมชื่อหมอฟันจนกูหัวร้อนเป็นพักๆ ต้องเตือนตัวเองว่าไม่มีสิทธิ์ เพราะตอนนี้กูไม่ได้เป็นอะไรกับเขา แบบ...โคตรเหี้ยอะ โคตรทรมาน กูแทบอยากจะกระชากตัวผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้เขา ทำอะไรก็ได้ให้พวกนั้นเจ็บเหมือนที่กูเจ็บ แต่กูได้แค่มองแล้วก็ทำใจอยู่คนเดียว”
“ทำไงดีวะเนี่ย” ไอ้บินจนใจจะปลอบ “กูโทรตามไอ้พวกนั้นมาดีไหม กินเหล้ากันมึง คลายเครียดๆ”
“ก็ดีว่ะ ยังไงวันนี้กูก็ว่าง”
“เออๆ เดี๋ยวกูคอลกรุ๊ปเลย รอแป๊บครับ พี่บินจัดให้”
ไอ้บินแยกตัวเข้าห้องไปแล้ว เหลือแต่ไอ้เจ้าที่ยังคงยืนรับลมอยู่ที่ระเบียง มันไม่เคยคิดจะกลับมาที่นี่ ห้องที่เป็นเหมือนห้องหอของมัน ปิดตายเอาไว้ตั้งแต่ที่อีกคนหายไป เพราะไม่อยากเปิดกล่องความทรงจำขึ้นมาอีก ในเมื่อไม่ว่าจะมองไปมุมไหนก็เห็นแต่ภาพแห่งความสุขที่ตอนนี้กลายเป็นแค่ความทรงจำที่มีแต่มันจำได้อยู่คนเดียว
ระเบียงตรงนี้เคยมานั่งรับลมเล่นด้วยกัน เขาชอบนอนตักไอ้เจ้า พอถูกลูบศีรษะเข้าหน่อยก็เข้าสู่นิทรา มุมตรงนั้นเยื้องไปทางฝั่งซ้ายของประตูก็เคยช่วยกันทำเป็นมุมผักสวนครัว ไอ้เจ้าเป็นคนลงเมล็ด ส่วนเขาเป็นคนเตรียมดินใส่กระถาง หน้าตามอมแมมด้วยกันทั้งคู่แต่ก็ยิ้มให้กันอย่างมีความสุข เคยเผลอจูบกันด้วยเพราะมองตากันอยู่นานแล้วขยับเข้าใกล้ตอนไหนก็จำไม่ได้ จูบแรกของไอ้เจ้าคือเขา และจูบแรกของเขาก็คือไอ้เจ้า ทั้งคู่เป็นของกันและกัน เป็นครั้งแรกของกันและกัน เขาบอกเสมอว่าไอ้เจ้าคือพระเจ้าของเขา หากไม่มีไอ้เจ้าเขาจะอยู่ไม่ได้
แต่ตอนนี้...ไม่มีไอ้เจ้า เขาก็อยู่ได้ ทั้งยังอยู่ได้เป็นอย่างดี
OMG: Sent a photo.
OMG: ผมชอบวิวที่มองจากระเบียงนี้
OMG: ผมอยู่ที่นี่ ที่ของผม ที่รักอยากมาหาผมไหม
OMG: ถ้าอยากมาหาผม นึกให้ออกนะ
OMG: ผมจะรอ
D. : อยู่กับใคร แล้วไอ้เหี้ยนั่นอยู่ไหน
OMG: กำลังอาบน้ำ เตรียมตัวขึ้นเตียงกับผม ของเขาห้าสิบสองมั้ง ผมไม่แน่ใจ แจาถึงน้อยกว่าคุณผมก็คิดว่าโอเค ไม่น่าเจ็บมาก
D. : เจ้า กลับมาหากูไม่ได้เหรอวะ กูจะไปรู้ได้ยังไงว่ามึงอยู่ที่ไหน กลับมาเคลียร์กันที่ห้อง
OMG: ผมบอกแล้วไงว่าคืนนี้ผมไม่กลับ
D. : มึงคิดฆ่ากูให้ตายจริงๆ ใช่ไหม
OMG: ไม่คุ้นบ้างเหรอว่าที่ไหน
ไม่หลงเหลืออยู่สักนิดเลยเหรอ...
D. : กูจะไปคุ้นกับวิวระเบียงคอนโดฯ ไอ้เหี้ยนั่นได้ยังไง
D. : ส่งโลเกชั่นมา
OMG: ไม่ใช่คอนโดฯ ของบิน คอนโดฯ ผมเอง ห้องของผม รังรักของผม
D. : อ๋อ มันชื่อบินสินะ ดี! กูจะได้ตามกระทืบถูกตัว
OMG: นักเลงจังเลยครับที่รัก
D. : เจ้า กูไม่เล่นแล้วนะ หัวกูจะระเบิดอยู่แล้วไอ้เหี้ย บอกมาสักทีว่าอยู่ไหน
OMG: ผมไปกินเหล้าก่อนนะ ต้องย้อมใจนิดหน่อย กลัวเจ็บอะ
D. : กูเหมือนจะตายจริงๆ แล้วว่ะ มึงโคตรใจร้ายเลยเจ้า
D. : กูเกลียดมึงเจ้า โคตรเกลียดมึงเลย
OMG: แต่ผมรักคุณนะ
D. : อย่าบอกว่ารักกูถ้ามึงกำลังฆ่ากูให้ตายทั้งเป็น
D. : คิดได้ไงวะ ไปนอนเอากับคนอื่นเพื่อประชดกู มึงแม่งเป็นคนแบบนี้ได้ไง
OMG: เพราะผมรักคุณ รักมาก ผมให้คุณได้ทุกอย่าง มากกว่านี้ก็ชีวิตของผมแล้วดิน
OMG: ผมก็เลยเจ็บมากกับสิ่งที่คุณทำ
D. : ขอโทษ ให้กูพูดอีกร้อยครั้งก็ได้ว่ากูขอโทษ ให้อภัยแล้วกลับมาหากูนะ
D. : กูทรมานจะตายแล้วครับเมีย
D. : Sent a photo.
D. : ผลงานมึง
D. : กูจะไม่ทำแผลจนกว่ามึงจะมา
ไอ้เจ้าเผลอกำโทรศัพท์มือถือในมือแน่นจนรู้สึกเจ็บมือไปหมด มือขาวๆ ของธราเต็มไปด้วยบาดแผลจากการที่ถูกกระแทกอย่างรุนแรง
นิสัยเก่าไม่เคยหาย...
OMG: คุณทำให้ผมโมโหนะธรา ผมไม่ชอบที่คุณเจ็บตัวคุณก็รู้ แล้วเมื่อไหร่ไอ้นิสัยที่ต่อยผนังเพื่อระบายอารมณ์นี่มันจะหายไปสักที มือคุณสำคัญต่องานของคุณนะ เป็นแบบนี้แล้วจะทำยังไงวะ ทำเคสด้วยมือข้างเดียวได้เหรอไอ้โง่
D. : ไอ้แพร์ด่ากูเยอะแล้ว ตอนนี้ก็ยังบ่นไม่หยุด ขอมึงไว้คนได้ไหม อย่าด่ากูเลย มาหากูหน่อยนะ กลับมาทำแผลให้กู
OMG: เดี๋ยวแพร์ก็บังคับคุณได้เองแหละ
D. : เจ้า กูขอร้อง
OMG: ธรา ผมเอาจริงนะครั้งนี้ ผมเตือนคุณหลายครั้งแล้วกับเรื่องความเจ้าชู้ของคุณ ถ้าครั้งนี้ผมใจอ่อนกับคุณมันก็จะมีครั้งต่อไป ผมไม่ชอบให้มันเกินสิบครั้ง
OMG: ผมไม่อยากหายไปจากคุณถึงต้องทำแบบนี้ เข้าใจผมด้วยครับ ผมจะไม่ตอบไลน์แล้วนะ ทำแผลด้วยครับที่รัก
“ท่าน เรียบร้อยแล้ว เตรียมตัวเมาได้ เดี๋ยวพวกมันมา มากันครบเลย แหกปากกันใหญ่ที่จะได้มาเจอมึง” ไอ้บินจัดการนัดแนะกลุ่มเพื่อนมาสังสรรค์เสร็จแล้ว มันรายงานก่อนจะนิ่งเงียบเมื่อเห็นสีหน้าของไอ้เจ้า
คนที่ทำให้เจ้า จักรพรรดิโกรธขนาดนี้ก็คงมีคนเดียว
“ไอ้ดินมันทำอะไรให้โกรธอีกล่ะ” เพราะเคยเห็นไอ้เจ้ากับคนรักทะเลาะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอยู่หลายครั้ง เห็นสีหน้าแบบนี้ก็พอเดาได้แล้ว
“ต่อยผนัง ขยันทำแต่เรื่องโง่ๆ”
“เท่าที่จำได้มันทำเพราะอยากเรียกร้องความสนใจจากมึง ทุกครั้งที่ทะเลาะกันมึงก็เย็นชากับมันฉิบหาย บทจะใจแข็งก็ไม่ยอมลงให้มันเลย แล้วพอมันเจ็บตัวมึงก็ใจอ่อน มันก็เลยต้องเจ็บตัวทุกครั้งที่ทะเลาะกับมึงอะ มีครั้งหนึ่งนิ้วหักเลยนี่”
“อืม ลำบากกูต้องเป็นมือเป็นตีนให้เป็นเดือน”
“มึงเต็มใจไงท่าน เห็นบ่นมันตลอดแต่ก็ทำให้ แล้วครั้งนี้ทะเลาะอะไรกันวะ ขนาดว่าจำไม่ได้แต่ก็ไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“เรื่องผู้หญิง กูแค่จะดัดนิสัยมัน ไม่เคยเลิกเจ้าชู้ไอ้เหี้ยนั่น พูดแล้วก็หัวร้อน กูไปอาบน้ำก่อน อยากแช่น้ำ หัวจะได้เย็นลงบ้าง”
“เออๆ เดี๋ยวกูลงไปหาซื้อกับแกล้ม จะรอรับพวกไอ้วินขึ้นมาด้วยเลย”
“อืม เอากระเป๋าตังค์กูไปเลยละกัน กูเลี้ยง”
“เข้ กระเป๋าตังค์ในตำนาน กูได้จับเป็นคนแรกของกลุ่มเว้ย เดี๋ยวเอาไปอวดพวกไอ้วิน”
กระเป๋าตังค์เก่าๆ ของไอ้เจ้าคือหนึ่งในบรรดาของรักของหวงที่สุดของมัน ไม่เคยให้ใครแตะต้อง ดูแลอย่างดี เคยทำตกน้ำถึงขั้นต้องจ้างนักประดาน้ำตามหา คงเพราะเป็นของขวัญวันเกิดจากคนสำคัญที่สุดในชีวิต ไอ้เจ้าก็เลยหวงยิ่งกว่าชีวิตของมัน ก็...เขาบอกว่าเก็บเงินค่าขนมซื้อให้ ตอนนั้นรู้สึกแปลกใจว่าทำไมชวนไปกินขนมไม่เคยไปด้วยกัน ที่แท้ก็ประหยัดเงินไว้ ถึงกับยอมอดเพื่อให้ของขวัญกับไอ้เจ้า
จำได้ว่าตอนที่ได้รับ สีหน้าคนให้มีแต่ความลังเลและกังวลใจ
‘ของถูกๆ แบบนี้ โอเคไหม ถ้าไม่โอเคบอกนะ ปีหน้าจะให้ใบที่สวยกว่านี้’
‘ฮื้อ ไม่ต้องๆ เจ้าชอบใบนี้ ชอบมากๆ เลย สวยอะ ดินเลือกเก่งจัง เจ้าจะใช้มันอย่างดี ขอบคุณนะ’
จำได้ว่าสีหน้าของคนให้เริ่มดีขึ้นจนยิ้มกว้างเต็มใบหน้า
‘สุขสันต์วันเกิดนะ อยู่ด้วยกันไปนานๆ ตลอดชีวิตเลยยิ่งดี’
‘เป็นคำอวยพรวันเกิดที่เหมือนขอแต่งงานไปด้วย’
‘แต่งมั้ยล่ะ’
‘ปฏิเสธได้เหรอ’
‘ไม่ได้’
‘งั้นถ้าตอบว่าได้แล้วยิ้มให้เจ้าทุกวันเลยนะ เจ้าชอบรอยยิ้มของดิน ใครไม่รักดินไม่เป็นไรแค่เจ้ารักก็พอ เจ้าจะเป็นทุกอย่างให้ดิน จะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้ดิน ความสุขของดินคือความสุขของเจ้า รู้มั้ยว่าแต่งงานกันแล้วก็จะเป็นคู่ชีวิตของกันนะ ดินจะเป็นอีกครึ่งชีวิตของเจ้า เป็นคนที่สำคัญมากๆ’
จำได้ว่าในตอนนั้นยิ้มให้กันอย่างไม่เคยนึกกังวลถึงเรื่องทุกข์ใจอื่นใด เพราะมั่นใจว่าจับมือกันแน่นพอ เพราะมั่นใจว่าจะไม่มีวันปล่อยมือ และเพราะแบบนั้นถึงไม่เคยคิดว่าจะมีวันพรากจาก
‘ขอบคุณอีกครั้งนะสำหรับของขวัญวันเกิด กระเป๋าใบนี้จะเก็บสิ่งที่สามารถซื้อทุกอย่างที่ดินต้องการได้ ทุกอย่างบนโลกเลย แค่บอกเจ้า เจ้าจะหามาให้ แต่ความสุขกับความรัก เจ้าจะให้ดินเองนะ’
‘ทำตัวเป็นพระเจ้าอีกแล้ว’
‘ไม่ใช่ซะหน่อย บอกกี่ครั้งแล้วว่าเจ้า...ไม่ใช่พระเจ้า แต่เป็นเจ้าที่จะเป็นทุกอย่างให้ดิน’
‘งั้นเป็นเจ้าชีวิตของผมด้วยนะ’
ทั้งที่พูดแบบนั้นแต่กลับลืมเลือนคนที่บอกว่าเป็นเจ้าชีวิตไปจนหมดสิ้น...
ไอ้เจ้ากะพริบตาไล่น้ำใสๆ ที่กำลังจะเอ่อล้นออกมาให้หายไป “เอาอีกใบไปดีกว่า กูกลัวมึงทำหาย”
“ระดับท่านเจ้า จักรพรรดินี่ต้องใช้กระเป๋าตังค์สองใบเลยสินะ ไอ้เหี้ยๆ ๆ ๆ ใบนี้ๆ ๆ ๆ กูอ้อนแฟนตั้งนาน แต่แฟนไม่ซื้อให้สักที สวยฉิบหายแต่ก็แพงฉิบหาย เอาใบนี้มาก็ได้ กูจะเอาไปอวดพวกมัน เฮ้ย! ไอ้สัดเจ้า อย่าโยน!” ไอ้บินตาพร่าไปแล้วกับความสวยสดงดงามของกระเป๋าหนังชั้นดี แต่ก็ใจหายใจคว่ำเมื่อเพื่อนตัวดีโยนมาให้อย่างไม่ใส่ใจว่าตัวกระเป๋าจะตกพื้นแล้วมีรอยขีดข่วนหรือไม่ “ดีที่กูรับทันหวุดหวิด รักษาหน่อยดิว้า ของแพง เป็นรอยขึ้นมานี่เสียดายเลย”
“ไม่ได้อยากได้”
“แล้วซื้อมาทำไมวะ”
“แม่เลี้ยงกูส่งมาให้ เห็นกระเป๋าตังค์เก่าๆ ของกูแล้วอยากให้เปลี่ยนมั้ง”
“เขาก็ดีกับมึงอะ”
“ก็ลองไม่ดีกับกูสิ”
“มึงจะร้ายกับคนทั้งโลกไม่ได้นะท่าน ดีกับคนที่ดีกับมึงบ้าง แบบ...เขาก็ดีอะ รักมึงเป็นห่วงมึง”
“กูดีกับดินคนเดียว จำ!”
“โอ๊ย! อย่าจิ้มหน้าผากกู มึงรุนแรงตลอด กูลงไปซื้อของละ จะผลาญเงินมึงให้เกลี้ยงกระเป๋า หึ วันนี้กูรวยจ้า”
“เรื่องของมึงเถอะไอ้เจ๊ก”
“อย่าเรียกกูว่าเจ๊ก! กูแค่ตาตี่เท่านั้น!”
“เรื่องมึ้ง!” ไอ้เจ้าสะบัดหน้าเดินเข้าห้องน้ำไปโดยไม่สนใจไอ้บินอีก ปล่อยไอ้เจ๊ก เอ้ย! ไอ้ลูกคนจีนกระฟัดกระเฟียดอยู่เพียงลำพัง