ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ
สรุปข้อสำคัญดังนี้
1.ห้ามมิให้ละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด
2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย, ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้งสร้างความแตกแยก ชวนวิวาท ของสมาชิกเล้าฯ ในเรื่องการเมือง เชื้อชาติ เผ่าพันธุ์ ศาสนา และสถาบันต่าง ๆ รวมถึงการตั้งชื่อเรื่องด้วยคำหยาบ คำไม่สุภาพ ล่อแหลม และชี้เป้าให้เล้าฯ ถูกเพ่งเล็ง จากทางราชการ
3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ
4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอม
5.ขอให้นักเขียนทุกคนอย่าโกหกคนอ่านว่าเป็นเรื่องจริงในกรณีแต่งเติมเพิ่มแม้แต่นิดเดียว ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ให้บอกว่าเรื่องจริง ถ้าเป็นเรื่องแต่งให้บอกว่าเรื่องแต่ง ให้ชี้แจงว่าเป็นเรื่องแต่งแม้จะแต่งเพิ่มขึ้นแค่ไม่ถึง 10 % ก็ตามเพราะมีคนมากกมายทะเลาะเสียความรู้สึกเพราะเรื่องนี้มามากแล้ว
6. การพูดคุยโต้ตอบระหว่างคนเขียนและคนอ่านนอกเรื่องนิยาย ทำได้ แต่อย่าให้มากนัก เช่น คนเขียนโพสนิยายหนึ่งตอน ก็ควรตอบเพียงคอมเม้นต์เดียวก็พอแล้ว โดยสามารถใช้ปุ่ม Insearch qoute ได้ ถ้าจะพูดคุยกันมากขึ้นแนะนำให้ไปตั้งกระทู้ใหม่ที่ห้องพูดคุยทั่วไป และลงลิงค์จากนิยายไปยังกระทู้พูดคุยกับแฟนคลับนิยายในรีพลายแรกด้วยนะครับ เพราะการที่คนเขียนและแฟนคลับพูดคุยกันมากทำให้หานิยายที่จะอ่านยาก ไม่เจอ ลำบากกับคนที่ไม่ได้เข้ามาตามอ่านทุกวัน
7. การกดบวกให้เป็ดเหลือง
7.1 นิยาย 1 ตอน จะให้ขึ้น Top list แค่ 1 Reply เท่านั้น ถ้าขึ้นเกิน จะลบคะแนนออก เหลือเฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด
7.2 นิยาย 1 เรื่อง จะให้ขึ้น Top list ไม่เกิน 3 Reply ถ้าเกิน จะลบคะแนนออก ให้เหลือ เฉพาะ Reply ที่มีคะแนนสูงสุด ลงมาตามลำดับ
7.3 Post ในห้องอื่น ๆ ก็จะใช้ หลักการเดียวกันนี้ เช่นกัน ยกเว้น
- 1 Reply ที่เกินมานั้น โมฯทั้งหลาย พิจารณาดูแล้วว่า ไม่เป็นการปั่นโหวต และเป็น Reply ที่น่าสนใจและเป็นที่ชื่นชอบจริง ๆ
เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ
การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง
ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชมกรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0 //////////////////////////////////////////////////////////////
สวัสดีครับ ผมชื่อโครมฮะ
ไม่รู้ว่าจะมีใครจำผมได้ไหม (ขอโทษครับที่ผมดองนิยายเรื่องเก่า)
เอาเข้าจริงๆเรื่องสั้นแค่หกหน้าจบเรื่องนี้ ผมยังใช้เวลาเขียนเป็นอาทิตย์แน่ะ
ยังไงก็ฝากเรื่องนี้ด้วยนะครับ
//////////////////////////////////////////////////////////////
Short story // หัวใจ...มหาสมุทร
ตัวอักษรในโปรแกรมไมโครซอร์ฟ ออฟฟิศ เวิร์ด เพิ่มขึ้นตามจังหวะสม่ำเสมอของการเคาะแป้นพิมพ์ ....เนื้อหาทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับจดหมายเพื่อทำเรื่องขอลาออกพร้อมเหตุผลที่นั่งคิดหาทางมาพักใหญ่..ต้องการไปศึกษาต่อ..ต่างประเทศ
ศิลาหยุดมือจากการเคาะแป้นพิมพ์ เมื่อเสียงอินเตอร์คอมจากเจ้านายดังขึ้นเพื่อขอเอกสารการประชุมและกาแฟหนึ่งแก้ว .....เขากดย่อโปรแกรมไมโครซอร์ฟ ออฟฟิศ เวิร์ดลงมาให้มอนิเตอร์แสดงรูปภาพแบ็คกราวน์ลายทุ่งหญ้าสีเขียว
ลุกขึ้นยืนแล้วเดินไปทางห้องชงกาแฟ จัดการเตรียมกาแฟหนึ่งแก้ว.....ที่ใส่น้ำตาลหนึ่งช้อน ตามแบบที่เจ้านายชอบ ...กาแฟแก้วท้ายๆที่เขาจะมีโอกาสได้ชงให้เจ้านาย
นึกๆไปแล้วเขาได้แต่ยิ้มให้ตัวเอง แม้ว่าเหตุผลที่ระบุในใบลาออกว่า..ต้องการไปศึกษาต่อ แต่ใครจะรู้ดีเท่าตัวเขาเอง เหตุผลที่แท้จริง...
คือเจ้าของกาแฟแก้วนี้ต่างหากเล่า เลขาหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งหยิบแฟ้มเอกสารพร้อมแก้วกาแฟเตรียมพร้อมที่จะนำเข้าไปให้เจ้านายคนสำคัญที่นั่งอยู่หลังประตูบานตรงหน้า ...แต่ก็ไม่ลืมหันไปยิ้มให้หญิงสาวที่นั่งทำงานอยู่โต๊ะข้างกัน ....ในตำแหน่งเลขาของเจ้านายเหมือนกันกับเขาเสียด้วย
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เคาะประตูสามครั้งตามมารยาทของเลขาที่ดีพึงกระทำ นำกาแฟและเอกสารวางให้เจ้านายเรียบร้อย และหยุดยืนนิ่งรอว่าเจ้านายจะสั่งอะไรเพิ่มเติมหรือเปล่า
“ขอบคุณครับ..คุณศิลา”
เจ้านายของเขาเงยหน้าขึ้นมาตอบรับ เพียงแต่ใบหน้าของเขาเรียบเฉยอย่างไรก็ยังเป็นแบบนั้น ....เหมือนเดิมมา 6 ปีแล้ว
‘มหาสมุทร’ คือชื่อของเจ้านาย หรือในอดีตจะเป็นพี่รหัสของเพื่อนเขา ไม่ว่าจะตอนไหนๆหรือเป็นใคร มหาสมุทรหรือพี่น้ำของทุกคนก็ยังมีใบหน้าเรียบเฉยอยู่แบบเดียว
ศิลาจ้องมองเจ้านายคล้ายจะเก็บทุกรายละเอียดไว้ทดแทนในวันข้างหน้า ...วันที่เขาลาออกไปจากที่นี่ หมดหน้าที่เลขาส่วนตัวที่ตนดันทุรังทำมาถึง 2 ปี
ไม่รู้จะยิ้มหรือสมเพชตัวเองดี หรือจะโทษที่โชคชะตาเล่นตลกกับหัวใจของคน โทษฟ้าที่ทำให้ศิลาแอบชอบมหาสมุทรมาตั้งแต่สมัยเรียน ....แอบมอง....เฝ้าหลง..เฝ้ารัก.. จนดั้นด้นตามเขามาทำงานในตำแหน่งเลขา ได้ใกล้ชิด ทำงาน มีเหตุต้องให้พบหน้ากันทุกวัน ...แต่สุดท้ายศิลาต้องยอมรับว่าถึงเวลาแล้วที่ตัวเองต้องยอมแพ้
อาจจะเพราะก้อนหินแบบเขาเป็นแค่ก้อนกรวดมน เพราะถมไปเท่าไรก็ไม่เคยจะเต็มใจมหาสมุทรเสียที ศิลาลอบถอนหายใจ ถึงจะตัดสินใจแน่วแน่แค่ไหนแล้วก็ตาม แต่พอได้มองมหาสมุทรครั้งใด จิตใจมันพาลจะอ่อนไหวอยากจะลองสู้สุดใจดูอีกสักครั้ง
“คุณศิลา...พรุ่งนี้ผมมีนัดไหมครับ”
“พรุ่งนี้วันเสาร์ครับ...คุณมหาสมุทรไม่มีนัดที่ไหน”
“ครับ...ช่วยตามคุณมาริสาให้ผมด้วยแล้วกัน...”
อีกเหตุผลหนึ่งที่ศิลาต้องตัดใจยอมแพ้... เขาตอบรับเจ้านายแต่จำไม่ค่อยได้ว่าตัวเองเดินตัวปลิวออกมาขนาดไหน ไม่รู้ว่าเผลอใส่อารมณ์กระแทกตอนปิดประตูห้องหรือไม่
แต่ศิลาก็ได้แต่กล้ำกลืน...บอกสาวยิ้มหวานหรือคุณมาริสาที่นั่งทำงานโต๊ะข้างๆเขาว่าเจ้านายเชิญพบ ...มาริสา....เลขาอีกคนของมหาสมุทร
มาริสาทำงานมาได้เกือบครึ่งปีแล้ว ....ครึ่งปีที่ศิลาคิดว่าตัวเองห่างไกลมหาสมุทรมากยิ่งขึ้นไปอีก เขาทำงานในตำแหน่งเลขาของเจ้านายมาได้ด้วยดีเป็นเวลาหนึ่งปีครึ่ง แต่มหาสมุทรคงเห็นความผิดพลาดจากงาน...หรือไม่ก็เริ่มเบื่อเขาแล้ว ...ผู้ช่วยเลขาอย่างมาริสา จึงได้มีหน้าที่เรียกพบบ่อยขึ้น นั่นก็หมายความว่าเขาเจอมหาสมุทรน้อยลงไปอีก
เมื่อความท้อใจที่เขาไม่สน แล้วยังมีตัวแปรอื่นเข้ามา ....ศิลาจึงตัดสินตัวเองว่าสมควรหยุด
ศิลาเปิดโปรแกรมไมโครซอร์ฟ ออฟฟิศ เวิร์ด ขึ้นมาพิมพ์ต่อจากที่ค้างไว้ แต่ใจก็อดคิดเรื่อยเปื่อยถึงสองคนในห้องไม่ได้ ...มหาสมุทรถามถึงงานวันเสาร์ของตัวเอง ไหนยังจะเรียกมาริสาเข้าพบ คงไม่ได้มีนัดไปไหนกันหรอกนะ
คิดได้แบบนั้นเลขาหนุ่มเผลอกระแทกกระทั้นแป้นพิมพ์แรงขึ้นแบบไม่รู้ตัว แต่พอได้สติก็รีบย้ำตัวเองว่าไม่เห็นต้องสนใจ เพราะยังไงเสาร์นี้เขาก็ต้องไปเดินเรื่องวีซ่าต่ออยู่แล้ว
‘โว๊ยยยยย อยากจะไปไหนกันก็ไปเลย!!’
ถึงยังไงศิลาก็ยังเป็นศิลา เป็นไอ้บ้าที่หึงหวงมหาสมุทรอยู่ฝ่ายเดียว ...ทั้งๆที่บอกตัวเองแล้วว่าต้องหยุด แต่สุดท้ายก็สติแตกเป็นบ้าเป็นบออยู่คนเดียวทุกครั้ง เขาเบื่อแสนเบื่อตัวเอง ไม่ว่าจะสะกดจิตหรือพยายามจะห้ามตัวเองมากแค่ไหน แต่ทำไมเรื่องมันจะจบลงที่เขาตามไปดูอีกฝ่ายกันนะ ....แต่!!! เสาร์นี้เขามีเรื่องต้องไปทำวีซ่า แล้วไหนจะเรื่องเรียนต่อกับมหาวิทยาลัยที่อเมริกาอีก เพราะฉะนั้นนี่คงเป็นครั้งแรกที่เขาไม่ทำตามใจตัวเองได้สำเร็จเสียที
แอ๊ด
เลขาคนเก่งสะดุ้งสุดตัวเมื่อได้ยินเสียงประตูเปิดออกพร้อมกับประโยคพูดคุยของสองคน ก่อนจะรีบเปิดงานขึ้นมาทำแทนหน้าโปรแกรมที่กำลังร่างจดหมายลาออกของตน
“ยังไงผมคงต้องรบกวนคุณมาริสานะครับ”
“ค่ะ..เจ้านายไม่ต้องเป็นห่วง”
ศิลาตัวแข็ง หูผึ่ง แต่ปฏิเสธตัวเองรัวๆในใจว่าไม่ได้แอบฟัง ...ก็อยากมาพูดให้ได้ยินเองนี่
“คุณศิลา”
“คะ..ครับ” เขาสะดุ้งน้อยๆ ดีที่ว่าไม่ได้แสดงอาการอะไรมากมายออกไปให้อีกฝ่ายรู้ว่ากำลังเสียมารยาทแอบฟัง
“เสาร์นี้คุณว่างไหมครับ??”
เสาร์นี้เรอะ?? มหาสมุทรคิดจะชวนเขาไปเป็นก้างหรือไงกัน ....ที่คิดแบบนี้เพราะวันเสาร์เป็นวันหยุดของเขา แม้ว่าตำแหน่งเลขาส่วนตัวนี่จะได้ทำงานใกล้ชิดมากเป็นพิเศษก็เถอะนะ แต่นี่คิดจะให้เขาไปนั่งดูเจ้านายกับมาริสา
สวีทหวานแหววกันหรือไง ไม่มากไปหน่อยเรอะ??? ให้ตายสิ...
“ขอโทษครับคุณมหาสมุทร..เสาร์นี้ผมติดธุระ” ...ดีที่เขายังมีเรื่องไปทำวีซ่ามารองรับละนะ
“อ้อ...” ใบหน้าเรียบเฉยนั่นดูเก้อไปนิด แต่ผมคิดว่าเขาคงไม่เป็นอะไรหรอก??
“เอ่อ...ไม่เป็นไรครับ....ผมแค่ลองถามดู”
พูดจบเขาก็พึมพำว่าบ่ายนี้คงไม่เข้ามาแล้ว ฝากเรื่องงานนิดหน่อยแล้วเดินออกไปเลย
....เฮ้อ... ประโยคนั้นของเขาทำเอาศิลาเจ็บในอก ...แค่ลองถามดู.... ถนัดจริงนะครับเจ้านาย เรื่องทำร้ายหัวใจคนอื่นแบบไม่รู้ตัวเนี่ย จะให้ผมเก็บเอาคำพูดดีๆของคุณไปเพ้อตอนไม่ได้เจอกันแล้วไม่ได้หรือไงนะ
ศิลาถอนหายใจแล้วลงมือร่างจดหมายลาออกต่อให้เสร็จสิ้น ไม่ลืมหันไปยิ้มให้มาริสาเมื่อรู้สึกว่าสาวสวยข้างๆมองมา ....แต่พอหันกลับมาดูหน้าจอมอนิเตอร์แล้วก็ได้แต่หนักใจเงียบๆ บรรทัดนี้เขียนแล้วลบเขียนแล้วเปลี่ยนมาหลายรอบแล้ว
.....ตกลงเขาจะได้ลาออกไหมเนี่ย....... ///////////////////////////////////
แม้จะลังเลจนวินาทีสุดท้ายแต่ศิลาก็ตัดสินใจทำลงไปจนได้ จดหมายลาออกถูกยื่นให้ฝ่ายบุคคล แม้หลายคนที่รู้เรื่องจะทักท้วง ....แต่สุดท้ายเขาก็เก็บของเล็กๆน้อยๆที่โต๊ะทำงานเพราะตั้งแต่มีความคิดเรื่องลาออกเขาก็ทยอยขนของกลับบ้านทุกวัน ที่ทำแบบนี้เพราะกลัวมหาสมุทรจะสังเกตเห็นความผิดปกติ แต่พอเอาเข้าจริงๆแล้วเหมือนฟ้าจะลิขิตชะตาของเขาด้วยความเต็มใจอีกครั้ง วันที่ศิลาลาออก...เจ้านายไม่ได้เข้าบริษัท มาริสาลาหยุดหนึ่งวัน
สองวันหลังจากลาออกคือช่วงเวลาเตรียมตัวให้พร้อมทั้งเรื่องเอกสาร เสื้อผ้าของใช้ หรือแม้แต่ใจตนเอง ...อดีตเลขาพบว่าสุดท้ายเขาก็รู้สึกร่ำร้องไม่อยากไปอยู่ดี ถึงทุกอย่างจะเรียบร้อยแล้วก็เถอะ เฮ้อ... อเมริกาที่สดใสรออยู่ เลิกคิดได้แล้ว
วันเดินทางไปอเมริกา ทุกคนมาส่งศิลาที่สนามบิน ทั้งเจ้าของทุนอย่างพ่อและแม่ คุณยาย หรือแม้แต่ไอ้อัคน้องชายตัวแสบ ....แต่ไม่เห็นจะมีใครเศร้าโศกปานจะจะขาดใจแบบศิลาสักคน แน่สิ..เพราะพวกเรารู้อยู่ว่าต้องบินไปเยี่ยมศิลาอยู่แล้ว ไหนยังจะพี่ชายคนโตของศิลาที่ทำงานอยู่อเมริกาอีก ...ไม่มีอะไรน่าห่วงเกินความจำเป็น
มีแต่เขาที่ทำตัวก๊อกแตก ซึมกะทืออยู่คนเดียว ก็นะ... ศิลาเพียงหวังว่าเรื่องจะเป็นแบบในนิยายที่พระเอกของเขาอย่างมหาสมุทรคิดได้ในตอนสุดท้ายว่าคงอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเลขาคนสำคัญ ....เอ่อ..คิดได้มาถึงตรงนี้ก็เริ่มจุก หรือ มหาสมุทรจะรู้ล่วงหน้ากัน ...มาริสาถึงได้มาถูกที่ถูกเวลา... เฮ้ย เลิกคิดๆ ฟุ้งซ่านจริงๆ
เอาจริงๆ ....ศิลาก็แค่แอบหวังว่ามหาสมุทรจะรู้ในวันนี้ว่าเขาลาออก ...ก็เท่านั้นเอง
ครอบครัวล่ำลาศิลาอีกครั้ง เมื่อมีเสียงประกาศเรียกผู้โดยสารเที่ยวบินที่ศิลานั่ง ...เจ้าอัคน้องชายบอกว่าจะ
สไกป์ไปหา ....ศิลาก็แอบหวังเกินตัวว่ามหาสมุทรจะเล่นเป็นหรือเปล่านะ
ถอนหายใจเฮือกใหญ่ กวาดตามองอีกครั้งให้แน่ใจว่าคงไม่เจอคนที่อยากเจอหรอก ถึงได้ยอมตัดใจ เดินเข้าไปพักที่เลาจ์ก่อนขึ้นเครื่อง ...นั่งเบื่อๆแล้วแอบคิดไปว่าอาจจะมีมหาสมุทรมาโผล่แอบไม่ให้ตั้งตัวก็ได้ แต่ศิลาก็รู้ดี...นั่นมันความเพ้อเจ้อของเขาเอง
ครืด ครืด
The Ocean
089-945604xx
Calling ศิลาแทบไม่เชื่อสายตาตัวเองเมื่อเห็นสายเรียกเข้าบนหน้าจอโทรศัพท์ ใจเต้นเร็วขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ ..ไม่รู้ว่ามือสั่นแค่ไหนตอนกดรับ
“สวัสดีครับ”
[..คุณศิลา...]
“ครับคุณมหาสมุทร”
[..คุณ..ลาออกหรือครับ...]
“..อืม..ครับ...ผมจะไปเรียนต่อน่ะ...แม่เขาถามเรื่องนี้หลายครั้งแล้ว...”
ข้ออ้าง ...ศิลารู้ชัดๆว่าตัวเองกำลังเอาแม่มาอ้างได้หน้าตาเฉย แต่ถ้าจะให้บอกไปว่าเพราะอกหักจากคุณนั่น
แหล่ะ ผมเลยไป ...ดูจะไม่เหมาะที่จะบอกกับมนุษย์หน้านิ่งอย่างมหาสมุทร
[วันนี้...ผมจองโต๊ะดินเนอร์ที่ร้านอาหาร....]
ศิลาแทบอยากจะตะโกนใส่โทรศัพท์ เพราะนึกได้เลาๆว่าเขาคงไปกับมาริสา ...โว้ยยยย จะมาบอกผมให้ได้อะไรเล่า!!! ...มาถึงนาทีนี้สติที่มันคอยรั้งเขาไว้ตลอด 6 ปี ว่าไม่ให้สารภาพกับคนปลายสายก็ขาดผึง ถ้าความสัมพันธ์จะพังก็ช่างมัน ยังไงซะโอกาสที่จะเจอกันอีกครั้งก็แสนจะริบหรี่
“คุณมหาสมุทร...ไม่สิ..ผมลาออกแล้ว...ถ้างั้นขอเรียกแบบตอนสมัยเรียนนะครับ...พี่น้ำ...”
[...คุณ...ศิลา]
“..พี่น้ำ..พี่คงพอจะรู้ใช่ไหมว่าตัวเองมีหลายคนมาแอบชอบ...แต่พี่คงไม่รู้ว่าหนึ่งในนั้นมีคนที่แอบชอบพี่ตั้งแต่เขาเรียนปีหนึ่ง...”
ศิลารู้ตัวเองดีว่าความรู้สึกของตนที่มีต่อมหาสมุทรที่เก็บไว้กับตัวเองมันมีมากไป สักวันคงถึงเวลาที่จะระเบิดมันออกมา แต่ก็ไม่คิดว่าพอถึงเวลาที่ตัวเองพูดจริงๆแล้วจะใจกล้าบ้าบิ่น ลืมข้อห้ามนู่นนี่ที่เคยใช้รั้งตัวเองตลอดมา
“..เจ้าบ้านั่นเอาแต่มองตามพี่....ดันทุรังตามเข้าไปทำงานเป็นเลขาส่วนตัวจนได้....แต่สุดท้ายเขาก็รู้ตัวว่าไอ้ความรัก 6 ปี ของตัวเองคงจะไม่มีความหมาย....”
[......................]
“..พี่น้ำ...ศิลาชอบพี่...ชอบมานาน..ชอบจนกลายเป็นรัก...นี่คงจะเป็นครั้งเดียวที่ผมจะมีโอกาสได้สารภาพความในใจ....หกปีที่ผ่านมาผมเศร้ากับรักข้างเดียวมาตลอด เพราะฉะนั้น..ขอร้องเถอะครับ ถ้าพี่ไม่ชอบใจก็อย่าพูดมันออกมานะ...”
[...ศิลา..]
“ขอบคุณมากครับ....ผมคงต้องวางแล้ว...”
ศิลากดตัดสายเมื่อพนักงานเรียกขึ้นเครื่อง ....เขารู้สึกว่ามันโล่งมากกว่าที่คิดที่ได้บอกความรู้สึกของตนเองตลอดหกปีออกไป ถึงแม้จะรู้สึกว่าความสัมพันธ์ของตนกับอีกฝ่ายคงไม่สามารถเป็นพี่น้อง หรืออดีตลูกน้องกับเจ้านายได้อีกต่อไปก็ตาม
เขาคงใช้เวลาอีกนานกว่าจะถอยกลับไปให้รู้สึกกับมหาสมุทรแบบตอนที่ยังไม่รู้จักกัน ...ลืมหรอ?? ศิลารู้ดีว่าคนเราไม่มีทางจะลืมใครสักคนได้จริงๆหรอก ยิ่งคนๆนั้นตราตรึงในทุกความทรงจำด้วยแล้ว แม้แต่คนที่เราไม่ชอบหน้าถึงจะบอกว่าลืมไปแล้วแต่พอมีอะไรมาสะกิดเข้าเราก็จะรู้ว่าเรายังไม่ลืมแค่ไม่ได้คิดจดจ่อกับความรู้สึกนั้นแล้วเท่านั้นเอง
ดังนั้น ศิลาจึงรู้ตัวดีว่าเขาไม่มีทางลืมมหาสมุทรได้แน่ คงจะมีก็แต่...รอเวลาที่จะทำให้ความรู้สึกของเขาที่มีต่ออีกฝ่ายรุนแรงน้อยลงเท่านั้นเอง
ศิลาเดินขึ้นเครื่องและกำลังเดินตามแอร์โฮสเตสที่นำเขาไปยังที่นั่ง ...กล่าวขอบคุณเบาๆแล้วตัดสินใจว่ากระเป๋าใบเล็กที่เอาติดตัวมาคงไม่ต้องเก็บที่ช่องด้านบน
เผลอถอนหายใจและยิ้มให้ตัวเองเพราะนึกถึงเรื่องของมหาสมุทร จนมือไม้อ่อนทำกระเป๋าล่วงบนที่นั่งตนเองและสายกระเป๋าดันไปโดนเบาะข้างๆที่กำลังนั่งอ่านหนังสือพิมพ์เข้า
“ขอโทษครับ...อ๊ะ”
ช็อคตาตั้ง!!... ศิลาไม่เคยรู้ว่าอาการที่ว่าเป็นอย่างไรแต่ถ้าจะให้นิยามคงจะไม่ต่างกับอาการที่เขาเป็นตอนนี้มากนัก ...เพราะใบหน้าของคนที่ลดหนังสือพิมพ์ลงนี่มัน...
มหาสมุทร!!!!! ///////////////// The end ////////////////
TBC.