ตอนที่ 10 แฟน"อ้าว...แฟนพี่ฆิตหรอกเหรอ?" กราฟถามพลางอมยิ้ม ฟากฆิตก็พอดูออกว่าใต้รอยยิ้มนั้นมันมีอีกความรู้สึกซ่อนอยู่
"ม..มะใช่...นะ...กราฟ"
"พี่ฆิต วันนี้สัญญากับเนว่าอะไรครับ" เนแทรกขึ้นเสียงดังแถมสายตายังบ่งบอกว่าเอาเรื่อง
"พี่ฆิต ผมว่าพี่ออกไปเคลียร์กับแฟนพี่ข้างนอกไหมวะ ผมชักรำคาญเสียงแหลมๆนั้นแล้ว" กราฟว่าเสียงแข็ง อยู่ดีๆก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
ฆิตหน้าเจื่อนทันที เขารู้สึกว่าทำพลาดไปอย่างมหันต์ที่พาเนมา ฆิตดึงไหล่เด็กหนุ่มให้ออกไปนอกร้านแต่เนไม่ขยับเขยื้อนกลับนั่งนิ่งไม่ยอมลุกไปไหน
"ทำไมผมต้องไปด้วยครับพี่มาใหม่"
"ไม่ได้ชื่อมาใหม่ กูชื่อกราฟ"
"ก็นั่นแหละ" เนเบะปากใส่
"ไม่ไปใช่ไหม? กูกลับก่อนนะท็อป" กราฟขี้เกียจต่อความยาว เขาลุกขึ้นยืนและหันไปบอกลาเพื่อน แต่ท็อปยังนั่งหน้ามึนกึ่งงุนงงกับสถานการณ์ตรงหน้า เพราะไม่เข้าใจว่าทั้งสามกำลังทะเลาะด้วยประเด็นอะไรกันแน่...
ไวกว่าความคิดก็มือฆิตที่รั้งต้นแขนกราฟไว้
"กราฟอยู่นี่แหละ เดี๋ยวกูพาเนออกไปเอง" ได้ยินดังนั้น เนฮึดฮัด แต่ฆิตก็คว้าแขนและลากถูลู่ถูกังเนออกไปจนได้
เมื่อทั้งสองเดินพ้นโต๊ะนี้ไปไกล กราฟถอนหายใจด้วยสีหน้าเซื่องซึม เขาไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้ ทั้งๆที่อุตส่าห์เคลียร์เรื่องตัวเองได้ แต่กลับมาเจอเรื่องของอีกคนที่ทำร้ายใจยิ่งกว่า
กราฟเก็บเรื่องของตัวเองไว้ในใจ ก่อนที่จะฝืนยิ้มพร้อมหันไปถามไถ่เรื่องเพื่อนเหมือนเป็นปกติ
"เป็นไงบ้างวะ สรุปมึงไม่ได้คุยกับพี่ฆีนจริงๆแล้วใช่ไหม?" กราฟถามย้ำ เพราะตั้งแต่วันนั้น ท็อปไม่ยอมปริปากพูดเรื่องนี้อีก
"อืม..."
"ใจเด็ดว่ะ...จริงๆแล้วกูก็สงสารพี่ฆีนนะ แต่เอาเถอะ มันเรื่องของมึงที่กูไม่ควรยุ่ง แต่บอกตรงๆนะ ตอนแรกกูก็นึกว่ามึงจะมีใจให้พี่ฆีนบ้างซะอีก" กราฟพูดจบ ท็อปชะงักและก้มหน้านิ่งไม่พูดอะไรออกมาสักคำ ทำให้กราฟส่ายหน้าน้อยๆพลางถอนหายใจที่ดูรู้ว่าเพื่อนคงอึดอัดใจไม่แพ้กัน
ในขณะที่ทั้งสองนั่งจมทุกข์ได้สักพักใหญ่ๆ พี่ฆิตเดินกลับเข้ามาในร้านและทิ้งตัวลงนั่งข้างกราฟเหลือบมองเด็กหนุ่ม
ฟากท็อปเงยหน้าขึ้นมาพลันเหลือบเห็นตรงแก้มพี่ฆิตมีรอยแดงปรากฎขึ้นจึงเอ่ยถาม
"พี่ฆิตครับ ไม่ได้มีเรื่องกันมาใช่ไหมครับ?" ท็อปถามเพราะไม่เห็นน้องคนนั้นเดินกลับมาด้วย
สิ้นเสียงเพื่อน กราฟมองใบหน้าคนพี่ทันทีแต่ไม่คิดว่าพี่ฆิตกำลังจ้องมองกราฟอยู่ เด็กหนุ่มจึงเบนสายตาหนีไปอีกทาง แต่เสี้ยววินาทีนั้น กราฟเห็นแก้มข้างขวาพี่ฆิตแดงเป็นปื้นจริงอย่างที่ท็อปว่า
"มีเรื่องอะไร...ไม่มี...กูแค่เดินไปส่งเนกลับบ้านเท่านั้นเอง" ฆิตยิ้มกว้างกลบเกลื่อน ก่อนจะกระดกเหล้าที่เพิ่งเติมใหม่จนหมดแก้ว
"น่าเกลียดว่ะ ทิ้งแฟนให้กลับบ้านเอง" กราฟพูดลอยๆขึ้นมา
"เอ๊ะ...ไอ้กราฟ กูบอกว่าไม่ใช่""ถ้าไม่ใช่แล้วน้องเขาจะพูดแบบนั้นมาได้ไงวะ" กราฟเผลอขึ้นเสียงใส่พี่ฆิต
"กราฟ!"
"ผมว่าเรามาชนแก้วกันหน่อยดีไหมครับ?" ท็อปสงบศึกด้วยการยื่นแก้วมากลางวงเพราะเริ่มเห็นเค้าลางแห่งการไม่ลงรอยของทั้งสองฝ่าย แม้ในใจลึกๆท็อปจะสงสัยใคร่รู้ว่าสิ่งที่พี่ฆิตกับกราฟปฏิบัติต่อกัน ช่างดูเหมือนคนงอนกันอย่างไรอย่างนั้น แต่ท็อปเชื่อได้ว่าถ้ามันตรงกับสิ่งที่ท็อปคิดไม่นานกราฟคงบอกเอง
หลังจากที่ทั้งสามชนแก้วกัน ความเงียบก็ปกคลุมทั่วทั้งโต๊ะ ทางกราฟก็เอาแต่นั่งก้มหน้าเล่นโทรศัพท์ ส่วนพี่ฆิตก็นั่งจ้องหน้ากราฟไม่ยอมพูดอะไร ขืนปล่อยไว้อย่างนี้ไม่ดีแน่ๆ ท็อปเลยว่าจะชวนกราฟไปห้องน้ำเพื่อหาจังหวะคุยด้วยสักหน่อย แต่ยังไม่ทันเอ่ยปาก อยู่ดีๆ กราฟก็ลุกขึ้นพรวด แต่คงลุกเร็วไปทำให้เสียการทรงตัวและเซ จนฆิตคว้าแขนเด็กหนุ่มไว้ได้ทัน พอกราฟตั้งสติได้กลับสะบัดมือพี่ฆิตออกอย่างแรง
"ไม่ต้องมายุ่ง!!"
"เฮ้ย!...ไอ้กราฟ" ท็อปปรามเพื่อน เพราะไม่เคยเห็นกราฟตวาดและทำกิริยาแบบนี้ใส่พี่ฆิต
"มึงคงอารมณ์ไม่ดีอยู่ กูจะทำหรือจะพูดอะไรก็ดูผิดไปซะทุกอย่าง ถ้างั้นกูกลับบ้านก่อนก็ได้""โชคดีพี่" กราฟก็ไม่รั้งพี่ฆิตไว้
วูบหนึ่ง ฆิตแอบเสียความรู้สึกเล็กน้อย เขาหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าสตางค์ยื่นให้ท็อป แต่ท็อปไม่เอาเพราะพี่ฆิตแทบไม่ได้ดื่มเลยด้วยซ้ำ แต่พี่ฆิตยืนยันจะให้
ก่อนไป ฆิตยืนมองกราฟก็เห็นว่าอีกฝ่ายเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เขาเลยร่ำลาแต่ท็อปเพียงคนเดียวและเดินออกจากร้านไป
กราฟรู้ตัวดีว่า นาทีนี้เขางี่เง่าพอสมควร แต่ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน หลังจากที่เห็นพี่ฆิตอยู่กับเด็กคนนั้น เขาก็ควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองไม่ได้เลยจริงๆ
สุดท้าย ทั้งสองนั่งกันต่ออีกไม่นานก็กลับบ้าน โดยกราฟขอมานอนค้างกับท็อปในคืนนี้
ตั้งแต่ที่นั่งรถแท็กซี่มาด้วยกัน กราฟเงียบมาตลอดทาง ท็อปก็ไม่ไต่ถามกลับกลายเป็นว่าทั้งรถถูกความเงียบเข้าครอบงำ จนกระทั่ง ถึงบ้านท็อป ทั้งสองต่างก็อาบน้ำ พอแต่งตัวเสร็จก็ไม่มีใครพูดคุยอะไรกัน ได้แต่เตรียมนอนพร้อมเข้าสู่ห้วงแห่งนิทรา
เป็นระยะเวลาหนึ่งที่ท็อปนอนมองหน้าเพื่อนที่หลับใหล จนได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอ
"บางทีกูก็อิจฉาชีวิตมึงนะ กราฟ" ท็อปพึมพำเบาๆ จากนั้นก็หลับตาลงตามเพื่อนและผล็อยหลับไปในไม่ช้า...
.........................
ผ่านพ้นไปหนึ่งอาทิตย์ที่กราฟหงอยและซึมลงอย่างเห็นได้ชัด เพียงได้รู้ว่าพี่ฆิตพาแฟนมาด้วยในวันนั้น และสิ่งสำคัญที่ทำให้ใจห่อเหี่ยวเพิ่มขึ้นไปอีกก็คือพี่ฆิตไม่โทรหาหรือส่งข้อความมาคุยกับกราฟอีกเลย
กราฟเริ่มไม่มีสติ เขาเหม่อลอยบ่อยๆจนพี่ๆที่ทำงานก็ทักเพราะเห็นถึงความเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด จนกราฟต้องแสร้งทำตัวกระตืนรือร้น ยิ้มแย้มตลอดเวลา ทั้งๆที่ในใจไม่เป็นเช่นนั้นเลย
กราฟไม่คิดว่าพี่ฆิตจะทำให้เขาอาการหนักขนาดนี้ เพียงแค่นึกถึงผู้ชายกวนประสาท กราฟรู้สึกคันยุบยิบเหมือนโดนหมามุ่ยใส่
ความประทับใจของกราฟที่มีต่อพี่ฆิตมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กันนะ? สงสัยมันคงค่อยๆซึมลึกมาเรื่อยๆจากการได้ใกล้ชิดผู้ชายที่จริงใจ เฟรนด์ลี่และสนุกสนาน คนที่อยู่ด้วยแล้วทำให้กราฟมีความสุข
หรือแม้แต่ช่วงเวลาที่กราฟต้องการคนพึ่งพาหรือมีปัญหาก็จะได้พี่ฆิตคอยช่วยเหลือตลอด แม้จะเป็นคนปากร้ายแต่พี่ฆิตใจดีสุดๆ เพราะกราฟสัมผัสได้ว่า เบื้องหน้าจะด่าจะว่าแค่ไหน แต่เบื้องหลังนั้นมักแฝงด้วยความห่วงใย ใส่ใจซ่อนอยู่เสมอ และทั้งหมดที่กล่าวมามันคือสิ่งที่ทำให้กราฟชอบผู้ชายคนนี้จนถอนตัวไม่ขึ้น
"เฮ้อ!" เด็กหนุ่มระบายลมหายใจออกมา
มีอย่างที่ไหน...อกหัก ตั้งแต่ยังไม่ทันได้จีบ
และแล้วความอึดอัดมันก็เกิดขึ้น เมื่อเรื่องนี้กราฟเก็บงำไว้เพียงคนเดียว จนกราฟทนไม่ไหวอยากระบายให้ใครสักคนรับฟัง เขาจึงส่งข้อความไปหาท็อปและพลเพื่อนัดกินข้าวในมื้อค่ำนี้
กราฟตั้งใจจะบอกความรู้สึกนี้ให้เพื่อนสนิทอย่างท็อปและพลได้รับรู้
เมื่อถึงที่หมายคือร้านอาหารเกาหลีปิ้งย่าง ทุกคนมาถึงก็สั่งอาหารเสร็จสรรพรอเสิร์ฟ
ในระหว่างที่อาหารมาครบถ้วน ทุกคนก็ปิ้งไปกินไปอย่างเอร็ดอร่อย เมื่อสบโอกาส ท็อปก็พูดโพล่งขึ้น
"พวกมึง กูมีอะไรจะบอก"
"อะไร?" ท็อปถาม
"กูชอบพี่ฆิตว่ะ" พลแทบสำลักหนังหมู ส่วนท็อปที่กำลังคีบเนื้อหมูเข้าปากถึงกับชะงัก แต่อันที่จริงก็ไม่ผิดจากที่ท็อปคาดเดาไว้สักเท่าไหร่
"ที่ผ่านมา มึงมีแฟนเป็นผู้หญิงนะ" พลถามย้ำ
"มันก็ใช่ แต่เพราะพี่ฆิตเป็นผู้ชายคนแรกที่กูชอบ กูถึงตัดสินใจและคิดว่าควรบอกพวกมึงให้รู้""แค่อารมณ์ชั่ววูบรึเปล่าวะ?" พลถามย้ำไปอีก
"ตอนแรกกูก็คิดแบบนั้น อารมณ์ประมาณรักกันแบบพี่น้อง แต่จากหลายๆเหตุการณ์ที่กูได้อยู่ใกล้ชิดกับพี่ฆิตมันทำให้กูรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก และยิ่งตอนที่กู อ...า...บ" กราฟเงียบไปอึดใจหวนไปนึกถึงตอนที่อาบน้ำให้พี่ฆิต แต่ก็อายที่จะพูดออกไปจึงเบี่ยงประเด็น
"เอ่อะ...ตอนที่กูรู้ว่าพี่ฆิตมีแฟนแล้ว กูเจ็บและรู้สึกเหมือนคนอกหักว่ะมึง"
"เฮ้ย! จิงหรือวะเนี่ย กูไม่อยากจะเชื่อ" พลบอกตาโต
"เชื่อเถอะ แม่งเป็นไปแล้ว" กราฟว่าด้วยแววตาเศร้า
"แล้วถ้ามองอีกมุม สมมติว่าพี่ฆิตก็ชอบมึงเหมือนกัน มึงคบกันไป ไม่กลัวสายตาคนมองมาบ้างเหรอวะ?" ท็อปถามอย่างหยั่งเชิง เพราะกราฟไม่เคยคบผู้ชายด้วยกันมาก่อน กราฟจะตอบอย่างไร ท็อปก็อยากรู้
"กูไม่กลัว ทำไมวะ...ถ้าคนสองคนรักกันและมันไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน เราต้องแคร์สายตาใครอีกวะ...ไอ้ท็อปกูจะบอกอะไรให้นะ เราไม่มีทางรู้หรอกว่าจะตายวันไหน ตอนที่กูคุยกับพวกมึงอยู่ กูอาจจะเผลอเคี้ยวเนื้อหมูติดคอตายเดี๋ยวนี้เลยก็ได้ กูว่าชีวิตคนเรามันสั้นเกินกว่าจะมานั่งสนใจคนอื่นจนเสียความเป็นตัวเองว่ะ ทำในสิ่งที่ใช่ ที่รัก ที่ดีต่อจิตใจ ไม่ส่งผลร้ายต่อสังคม กูว่าแม่งเจ๋งที่สุดแล้ว" ท็อปเงียบและครุ่นคิด พินิจพิเคราะห์ตามเพื่อน...
บางครั้งบางครา หากใส่ใจคำพูดของคนรอบตัวสักหน่อย เชื่อได้ว่าต้องมีสักประโยคดีๆที่ทำให้ฉุกคิดได้บ้างไม่มากก็น้อย
ตอนนี้ ท็อปคิดตามมันก็จริงอย่างที่เพื่อนว่า เพราะพอกราฟพูดถึงเรื่องชีวิตมันสั้น มันทำให้ท็อปหวนนึกถึงพี่ชายที่ท็อปรักมากที่สุดก็ยังจากโลกนี้ไปไวกว่าที่คิดเลย
พี่แทนเสียชีวิตทั้งๆที่อายุไม่ถึงสามสิบเลยด้วยซ้ำ
"แล้วพี่ฆิตรู้รึยังว่ามึงชอบ?" พลถามอย่างอยากรู้
"ยังและกูคงไม่คิดจะบอก เพราะพี่เขามีแฟนแล้ว"
"มึงมาบอกพวกกูแบบนี้ ไม่กลัวพวกกูรังเกียจหรือวะ?" ท็อปถามบ้าง
"ถ้ามึงจะรังเกียจเพียงเพราะกูชอบผู้ชาย กูก็ห้ามความคิดมึงไม่ได้อยู่ดี แต่มันทำให้กูรู้อย่างหนึ่งว่ามึงแม่งมีทัศนะคติเป็นแบบไหน? อีกอย่าง กูไม่ได้เลวขนาดไปปล้นธนาคารหรือรุมโทรม ข่มขืนใครสักหน่อยที่มึงถึงขั้นจะเลิกคบกูใช่ไหมล่ะ หรือมึงรังเกียจกูวะท็อป ถึงถามแบบนี้""ไม่ใช่ๆ นะกราฟ กูไม่เคยรังเกียจมึงเลย กูแค่ถามเฉยๆน่ะ..." อยู่ดีๆ ท็อปรู้สึกตื้นตัน กระอักกระอ่วน ผสมปนไปอย่างแยกไม่ออกจนน้ำตาคลอเบ้า เขาสูดลมหายใจเข้าช้าๆ ก่อนที่จะพูดกับเพื่อนอีกครั้ง
"ไอ้ท็อป ไอ้พล...กูขอพูดตรงๆได้ไหม? กูดีใจจริงๆว่ะที่มีพวกมึงเป็นเพื่อน" ท็อปยิ้มกว้างด้วยความปลื้มใจ เพราะตั้งแต่ที่เขาคบเพื่อนมาตั้งแต่สมัยเรียนชั้นประถม มัธยม ตลอดจนมหาวิทยาลัย มีแค่พลกับท็อปเท่านั้นที่ท็อปสัมผัสได้ถึงความเป็นเพื่อนแท้และเป็นเพื่อนที่ทำให้เขาเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องฝืนสวมหน้ากากแสร้งเป็นใคร และทั้งสองไม่เคยทำให้ท็อปลำบากใจเลยจริงๆ
"มึงอย่ามาซึ้งไอ้ท็อป กูขนลุกซู่เลยเห็นไหมเนี่ย?" พลแซวและแกล้งชูแขนตัวเองไปตรงหน้าท็อป ก่อนจะลูบแขนตัวเองไปมา
ฝั่งท็อปเองก็หลุดหัวเราะและรู้สึกดี เหมือนว่าตัวเองค่อยๆก้าวเท้าออกมาจากมุมมืดในจิตใจได้ทีละเล็กละน้อย
การได้ระบายความรู้สึกหรือปรับทุกข์ บางทีก็ทำให้เราได้เห็นมุมมองของแต่ละคนที่แตกต่างกันไปและสามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตของตัวเองได้ดีอยู่เหมือนกัน
เฉกเช่น ท็อปเองที่ได้ข้อคิดหลายอย่างจากบทสนทนาระหว่างมื้ออาหาร และท็อปก็หาคำตอบได้แล้วว่าคืนนี้ เขาควรไปสะสางปัญหากับคู่กรณีสักหน่อยแล้ว
ในขณะที่เพื่อนๆยังคงปรึกษาปัญหาหัวใจ ประหนึ่งสลับร่างเป็นศิราณีให้แก่กันและกัน ทันใดนั้นเอง ได้มีคนเดินมาสะกิดไหล่กราฟ ทำให้เด็กหนุ่มเงยหน้ามองก็อึ้งไปนิด
"พ...พี่เขต สวัสดีครับ มากินร้านนี้เหมือนกันหรือครับ?" กราฟทักทาย ก่อนที่จะแนะนำเพื่อนๆให้รู้จักว่าเป็นใคร
"ใช่กินร้านนี้ แต่มานานจนกินอิ่มแล้วล่ะ เพราะพี่นั่งอยู่ข้างหลังท็อปนี่ไง สงสัยคงไม่ทันสังเกต"!!!
กราฟเบิกตากว้างอย่างตกใจ ถ้าอย่างนั้น พี่เขตจะได้ยินเรื่องที่กราฟพูดถึงพี่ฆิตหรือเปล่าวะ? เฮ้ย!..คงไม่หรอกมั้ง? กราฟก็ไม่ได้พูดเสียงดังสักหน่อย...
แต่ในจังหวะนั้น เขตโน้มตัวลงต่ำมาใกล้หูเด็กหนุ่ม
"ไม่ต้องเดาว่าพี่จะได้ยินอะไรไหม? ความจริงก็คือพี่ได้ยินหมดแล้วล่ะครับ อยากให้พี่ช่วยเรื่องฆิตไหมล่ะ กราฟ?" เหมือนความร้อนกำลังพุ่งมาสู่ใบหน้าตรงจุดเดียว จู่ๆกราฟรู้สึกถึงเหงื่อที่ผุดซึมตามไรผม ใจก็เต้นแรงขึ้นภายในไม่กี่วินาทีที่ได้ยินประโยคนั้น
กราฟยอมรับเลยว่าอายจนอยากแทรกแผ่นดินหนี ทำไมต้องเป็นพี่เขตที่ได้ยินและแม่งเป็นคนที่เดาอาการคนอื่นเก่งอย่างกับมีจิตสัมผัส
"พ...พี่...เขต ไม่ต้องช่วยผมหรอกครับ พี่ฆิตมีแฟนแล้ว" กราฟพูดเสียงเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้
"หืม...แน่ใจหรือ? พี่ว่ากราฟออกไปคุยข้างนอกกับพี่สักครู่สิ" เขตบอก กราฟพยักหน้า ก่อนจะขอตัวเพื่อนๆลุกตามคนตัวโตที่เดินนำหน้าไป
"แฟนฆิตคือใคร? ไปเอามาจากไหนครับ?" เขตถามทันทีที่เห็นว่าตรงนี้เป็นพื้นที่ปลอดภัย
"ผมเคยเจอที่ร้านเหล้า ได้ยินพี่ฆิตเรียกชื่อว่าเน อะไรนั่นล่ะครับ" เขตพยักหน้าเออออแต่สายตาคงไว้ซึ่งความเจ้าเล่ห์ก่อนจะหลุดหัวเราะ
"พี่ว่าช่างเรื่องนั้นก่อนเถอะ แต่พี่อยากมั่นใจอีกครั้งว่าได้ยินไม่ผิด กราฟชอบฆิตใช่ไหม?""ค...ครับ...ผ...ผมชอบพี่ฆิต" กราฟตอบอย่างไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย
"เฮ้อ! สงสารเนจัง"
"พี่เขตรู้จักด้วยหรือครับ?" กราฟยืนเอียงคอมองพี่เขตอย่างสงสัย
"รู้จักสิ ก็เน น้องชายพี่ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฆิตไม่ได้คบกับเนหรอก มันบอกน้องพี่ว่ามีคนชอบแล้วนี่สิ พี่ล่ะเซ็งเลย...พี่ยังเพิ่งคิดเล่นๆว่า ถ้าตอนนี้ไอ้ฆิตยังไม่มีคนชอบ พี่จะบอกให้เนไปขืนใจไอ้ฆิตอยู่" เขตหัวเราะทำเหมือนกับว่าเรื่องที่คุยนั้นตลกนักหนา ซึ่งตรงข้ามกับความรู้สึกกราฟในตอนนี้ ที่ใจห่อเหี่ยวสุดๆ
ไม่นานเลยที่ใบหน้าคมคายก็ผุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยกมือมาบีบไหล่กราฟ
"กราฟรู้ไหม? ตอนแรกพี่อยากจะซัดหน้าไอ้ฆิตนะ โทษฐานที่มันทำน้องพี่อกหักและร้องไห้ แต่พอเนมาบอกชื่อคนที่ไอ้ฆิตชอบเท่านั้นแหละ พี่ต่อยมันไม่ลงจริงๆว่ะ เพราะว่าต่างฝ่ายต่างก็ชอบกันด้วยนี่สิ...เฮ้อ!...อิจฉามันจริงๆ...อืม หมดเรื่องแล้ว พี่ขอตัวก่อนนะ""ด...เดี๋ยวครับพี่เขต...พ...พี่ฆิตชอบใครหรือครับ?
กราฟถามเพื่อต้องการความแน่ใจ แต่พี่เขตเอาแต่มองหน้ากราฟยิ้มๆอย่างมีเลศนัย ก่อนจะเดินหนีห่างออกไป ปล่อยให้กราฟยืนงงพร้อมคำถามที่มีอยู่ในหัวจนแทบสมองจะระเบิด
พี่ฆิตชอบใครวะ? ขอเข้าข้างว่าเป็นตัวเองได้ไหม?
เมื่อไม่ได้คำตอบ กราฟเดินเข้ามาเหมือนคนไม่อยู่กับร่องกับรอย จนเพื่อนๆสังเกตเห็นจึงถามว่าเป็นอะไร ถึงทำให้กราฟดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบัน ก่อนจะส่ายหน้ารัวแทนคำตอบและก้มหน้าก้มตาจัดการอาหารตรงหน้าโดยไม่พูดอะไรออกมาอีก
ใช้เวลาพอสมควรที่ทุกคนอิ่มหมีพีมัน จากนั้น ทั้งสามก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
จนกระทั่งเวลาผ่านไปได้เวลาเข้านอน ฟากกราฟที่ปิดไฟในห้องทุกดวงพร้อมหลับเต็มที่ แต่สมองไม่รักดี ดันเผลอไปคิดถึงเรื่องที่พี่เขตพูดอยู่ได้
กราฟพยายามข่มตาหลับ แต่ในระหว่างนั้น ดันมีเสียงข้อความจากแอพพลิเคชั่นไลน์ดังขึ้น
กราฟคว้าโทรศัพท์มาดูเห็นชื่อพี่ฆิตปรากฎบนหน้าจอ เขาแปลกใจ แต่ก็กดเข้าไปอ่านดู ทันใดนั้นเอง กราฟตาสว่างในบัดดล เมื่อเห็นข้อความ...
Read
22.45
>> ชอบกูทำไมไม่บอก
!!!
กราฟอึ้งและรู้ได้ในทันทีว่าใครบอก? ก็คนขี้แกล้งอย่างพี่เขตไงล่ะ...เพราะหลังจากข้อความนั้น พี่ฆิตเขียนต่อมาว่า พี่เขตส่งข้อความเสียงที่คุยกับกราฟมาเป็นหลักฐานยืนยัน นั่นแสดงว่าที่กราฟคุยกับพี่เขตทั้งหมดนั้น แม่งแอบอัดเสียงไว้แน่นอน
เด็กหนุ่มสบถเสียงดังลั่น ทั้งยังนอนดิ้นพล่านอยู่บนเตียง แล้วทีนี้ กราฟจะกล้าเจอหน้าพี่ฆิตได้อย่างไร แต่ก่อนจะเจอหน้าเอาตอนนี้ก่อนดีกว่าไหม? ว่าจะหาถ้อยคำมาตอบอย่างไร ในเมื่อพี่ฆิตรู้เรื่องที่กราฟชอบแบบไม่ทันให้เขาได้ตั้งตัวและเตรียมใจเลยสักนิดเดียว...
****1.1****
ตอนหน้า part พี่ฆีนล้วนๆ
มาเอาใจช่วยกันดีกว่าว่าถ้าเจอกันครั้งนี้
ท็อปจะง้อ? จะอาละวาด? หรือจะทำอะไร? ต้องคอยติดตามจ้า แฮร่ๆๆ...
ขอบคุณคนอ่านและคนที่มาคอมเมนท์ด้วยนะคะ เราว่าการได้แสดงออกทางความคิด มันเป็นสิ่งที่ดีและอิสระสุดๆ อีกอย่างมันทำให้เราได้เห็นมุมมองของแต่ละคนแตกต่างกันไป จะติชมยังไง อ่านแล้วก็สนุกดีและโคตรชอบเลยด้วย ^^
ยิ้มอ่อน
ขอบคุณอีกครั้งที่เข้ามาอ่านค่า