แผนที่ 15 รักษาแผล
อินทัชPinkอ่านว่าพิ้งค์ไม่ใช่ปิงนั่นพ่อกู @pinky
แกเค้าซบกันอ่ะฮืออออ แต้มบุญกูได้ดูเจ้าชายน้ำแข็งอ้อนคนอื่นในระยะเผาขน ตายกูตาย
1.8k รีทวิต 997 ความชอบ
@pornข้อสุดท้าย**
โอยยยยไฟไหม้ตากูค่ะซิสสสสส
@แหนมมัด**
คู่นี้คู่จริงไม่จิ้นนะคะ หุหุโยนไม้พายข่ะ
@ติ่งคนหล่อ**
นั่นไงมีซัมติงจริงๆด้วย
@ผู้ชายได้กันมันคือฝันของกู**
กรี๊ดดดดดด โอ๊ยผัวหนูทั้งคู่เค้ารักกันเค้ารักกัน งื้ออออใครยังไงไม่รู้แต่หนูฟินแงงง
@ทองหล่อทองหล่อ**@ติ่งคนหล่อ
มามีซัมติ่งกับผมไหมครัช
@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**
มาเอามดลูกพี่ไปค่ะน้องไม้พี่ยกให้ถ้าน้องจะสวยขนาดนี้ฮือออออออ
@เมียเดือน** @ทองหล่อทองหล่อ @ติ่งคนหล่อ
อุ้ยคู่นี้ท่าทางจะแซ่บ กิกิ
@ผมจะไปตกปลาที่ดาวอังคาร**
มองความมุ้งมิ้งผ่านภาพถ่ายใจกูก็ร้อนรน น้องไม้คนสวยของพี่ฮืออออ/กัดผ้าเช็ดหน้า
@รับได้ถ้าให้รุก **
อันตัวกูก๊อกหักสินะฮรึกกกกก
@เกิดมาทั้งทีมีดีแค่กล้วย**@รับได้ถ้าให้รุก
ต้องการคนดามใจไหมครับ
@สมาคมชมดาว**
อิงฟ้าโสดสินะหึหึ
@นางฟ้าหน้าหม้อ**
ให้เธอได้กับค้าวววววว
@โสดมานานขึ้นคานเพราะเลือดวาย**
งานประเพณีปีนี้ต้องมีช็อตเด็ดกูบอกเลย
@pornข้อสุดท้าย**
อยากขอ pornจากทั้งคู่จัง
@โอมจงลง**
มีแวว
@Upปีย์**@โอมจงลง
แววหรือกุ๊ก
@โอมจงลง**@Upปีย์
นั่นมุกหรือเปลือกหอย
Pinkอ่านว่าพิ้งค์ไม่ใช่ปิงนั่นพ่อกู @pinky
กีสสสสพี่กดเฟบว่ะ เรือกูพุ่งเลยแง้ววววววว
ระหว่างนั่งรอน้องเดินไปลงทะเบียนและแวะไปรับเสื้อจากทีมงานคนละจุดกับผมทางฝั่งผมก็เป็นปี3ปี4 แล้วเลยรู้งานกันพอสมควร
แต่น้องมาปีแรกก็มีอะไรที่ต้องทำมากกว่าผมเลยทำให้ช้าพอสมควรระหว่างรอผมนั่งไถทวิตที่ไอ้โอมมันรีมาด้วยความรู้สึกอิ่มใจ หึหึ
รีเยอะๆเลยจะได้ประกาศให้โลกรู้คนนี้ของกูโว้ยยยยยยย
อยากบอกแบบนั้นแต่ ทำได้แค่กดเฟบลงไป อยากจะยิ้มกับรีพลายใต้ทวิตนั่นแต่ก็ต้องเก็บอาการ
เพราะวันนี้ผมมารับน้องไม้ไปซ้อมเดินแฟชั่นงานประเพณี จะให้น้องรู้ไม่ได้ ต้องเนียนกว่านี้
“รอนานไหมครับ คนเยอะเลย “เสียงคนสวยที่เดินมาพร้อมกับถุงเสื้อที่จะใส่ทดลองไซส์
“ไม่เลยเนี่ยพี่พึ่งดูรูปคู่เราแป๊บเดียวเอง”ผมว่าพลางโชว์กมือถือให้น้องดูหน้าจอที่ขึ้นรูปคู่วันนั้น
“ผมว่าแล้วไง พิ้งค์นะพิ้งค์ ขอโทษนะครับ รีกันเยอะเลย”น้องว่าพลางทำหน้าเครียดๆ
“ไม่เป็นไร ดีซะอีกไม้จะได้เลิกกังวล พี่ไม่เป็นไรครับพี่โอเค แต่ขอเซฟรูปแป๊บ หึหึ”
“ยังจะเล่นนะคนเรา”
“เข้าไปข้างในกันเถอะ เดี๋ยวจะสายนะครับ”
ผมเดินเคียงคู่น้องเข้าประตูห้องซ้อมที่มีพี่สต๊าฟคอยแลกบัตรผ่านประตูเข้ามาได้ไม่นานก็เห็นน้องบัวกับไอ้ปีย์เดินรี่เข้ามาหาน้องไม้
“พี่โอ๊ตตตตต”เสียงหวานไสดังมาแต่ไกลก่อนที่เจ้าตัวจะโผล่มาทำให้คนหน้าสวยข้างๆผมส่งเสียงหัวเราะขำ
พลางส่งสายตาราวกับระอาใจหนักหนาส่งให้เจ้าของเสียงที่เดินตรงรี่เข้ามากอดหมับเต็มอ้อมแขน
“ครับผม”
“พี่อิงล่ะคะ”
“อีกเดี๋ยวคงมาครับ พี่อาร์ตมาส่ง”
“เดี๋ยวนี้ไม่เรียกเราเลยนะ งอนได้ไหมเนี่ยยัยตัวแสบ”
“โอ๋ๆไม่งอนนะคะแฟน เค้าคิดถึงน๊า”
“ฝากงอนด้วยครับน้องไม้ ทีพี่แอบจับมือนิดเดียวบิดซะแขนหักที่กับชายอื่นกอดซะเต็มแขนเลยโอ๊ยยยยช้ำจายยยย”
ไอ้ปีย์ทำท่าเช็ดน้ำตาป้อยๆเรียกร้องความสนใจสุดๆ อะไรยังไงเดี๋ยวนี้มันพัฒนาขนาดงอนน้องบัวได้แล้วเหรอวะ
“เนี่ยเพราะเป็นบัวนะคะเลยแค่บิดแขน แต่ถ้าเป็นลุงพี กับลุงยูนะ พี่ปีย์อาจจะได้แอดมิท หรือไม่ถ้าเป็นอาตองนะคะพี่ปีย์ต้องได้จองวัดค่ะ”
“ฮ่าๆๆๆ ดีครับน้องบัว ดัดสันดานขี้แต๊ะอั๋งมือไวของมันหน่อย หึหึ”
“อย่ามึงอย่า อย่ามาเสี้ยมเดี๋ยวเจอกูเสี้ยมคืนมึงอดแน่ไอ้เพื่อนเลว”
ผมสะดุดรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของเพื่อนจนต้องลากมันออกมาคุยกันสองคน
“มึง มานี่เลยมาคุยกับกูก่อน “
ผมลากไอ้ปีย์ออกห่างจากคู่เพื่อนซี้ที่กำลังนัวกันได้ที่ กล้องหลายตัวโทรศัพท์หลายเครื่องรัวชัตเตอร์แทบไม่ทัน
วันนี้พวกเราทั้งหมดหมายถึงผมอิงฟ้าและน้องไม้น้องบัว กับน้องดาวเดือนอีกหลายคนวันนี้พวกเราหลายชีวิตวุ่นกับการซ้อมเดินแฟชั่น ที่จะจัดขึ้นในงานประเพณีปีนี้
และถ่ายแบบลงนิตสารชื่อดังที่ติดต่อขอกับทางมหาวิทยาลัย ซึ่งพวกผมอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เพราะเดินแฟชั่นกันหลายสิบชีวิต
แต่ลงปกนิตสาร แค่ 6 คน มีผมจากวิศวะฯ อิงฟ้าจากบริหาร น้องหนูบัวน้องไม้จากอักษร พี่อายจากรัฐศาตร์และพี่จีนจากสถาปัตย์
ที่ตื่นเต้นคงเป็นเพราะพวกผมต้องถ่ายร่วมกับน้องร้องชื่อดังในยุคนี้นั่นคือพี่อัน ที่ได้รางวัลแทบจะทุกรางวัลจากวงการนักร้อง
เป็นหนุ่มหล่อขวัญใจมหาชน ที่พวกผมกลัวดับมากหากต้องไปถ่ายรูปร่วมเฟลมกับพี่อัน
อ่ะเว่นเว้อมากไปกลับมาหาไอ้ (อับ)ปีย์ก่อนครับ
“ยังไงๆบอกกูมาเลยนะ”ผมรีบคาดคั้นเพราะเห็นท่าทางมีพิรุธของเพื่อนสนิท
“ก็..แหะๆ กูพึ่งจะสารภาพไปเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว “ไอ้ปีย์เอานิ้วชี้จิ้มๆกันหลบตา ทำหน้าแดงอีกไอ้ลิงเผือกน่าหมั่นไส้เลยตบหัวมันไปที
“โอ๊ย สัส! เบามือหน่อยน้องบัวยังไม่รับรักกูเลยกูตายไม่ได้”
“อุบเงียบนะมึงอ่ะไอ้เพื่อนชั่ว”
“มึงก็เพื่อนเลว กูเห็นนะสายตามึงอ่ะ ไม่ต่างจากกูหรอก มึงต่างหากที่ต้องเล่า “
อ้าวไหงกลายเป็นผมที่ตกเป็นจำเลยวะ
“ก็..เออ..นั่นแหละ”
“นั่นแหละอะไร สารภาพมา”
“คือวันนี้ไม่ได้ว่ะยิ่งตอนนี้ยิ่งไม่ได้ เอาไว้แถลงข่าวทีเดียวได้ไหมวะรอไอ้ทนายมันซักทีเดียวจบกูไม่อยากตายหลายรอบ”
“หึหึ ..งั้นคืนนี้เลยมึง หลังซ้อมเสร็จเตรียมเปิดเวที “
ผมไม่ได้พูดอะไรต่อเพราะรู้ตัวแน่ว่าคืนนี้คงโดนเพื่อนๆซักจนขาวแน่ๆ ผมละสายตาจากเพื่อนมองไปยังคนสวยสองคน
ที่นั่งคุยกันไปลูบหัวกันไปด้วยความรู้สึกแปลกๆแม้จะรู้ว่าน้องไม่ได้คิดอะไรเกินกว่าคำว่าเพื่อนแล้วแต่การสกินชิพของทั้งคู่ที่บางครั้งมันดูมากกว่าเพื่อนก็ทำผมโหวงๆในอก เฮ้อออ
“ใช่มะมึงคิดเหมือนกูไหมบี1”
“อือ เจ็บปวดมากเลยบี2”
เราสองคนพยักหน้าให้กันขำๆกับความคิดที่หวงแต่ทำอะไรไม่ได้ ได้แต่มองเขาจับมือกันลูบหัวกันใช้มือจับผมทัดหูให้กันโอ๊ยยยยยกูจะบ้าตาย
แต่แล้วความคิดอิจฉาของผมต้องสะดุด เมื่อทุกสิ่งที่น้องสองคนกำลังทำอยู่พลันหยุดชะงัก
สายตาของน้องไม้เหมือนจะไปหยุดอยุ่ที่ใครสักคนที่ไม่ใช่น้องบัว ผู้ชายสองคนที่เดินเข้ามาตรงประตูที่มีพี่ๆสต๊าฟรอแลกบัตรคิวอยู่
ดึงสายตาน้องไม้กับน้องบัวให้หันไปหยุดอยู่กับที่ และสองคนนั้นก็ชะงักยืนนิ่งเมื่อประสานเข้ากับสายตาของไม้และหนูบัว
“น้องบูกับน้องวีเชิญทางนี้ก่อนค่า ไปรับชุดกับพี่แอ้มก่อนนะคะแล้วค่อยมานั่งรอตรงนี้”
เสียงพี่สต๊าฟฉุดดึงพวกเราทั้งหมดให้ละสายตาออกจากกัน ผมรีบเดินกลับเข้าไปหาน้องที่หันหน้ามาทางผม
สายตาน้องที่ฉ่ำวาวไปด้วยน้ำเลี้ยงใสๆที่พร้อมจะร่วงหล่นตลอดเวลาทำให้ผมอยากจะดึงน้องเข้ามากอดเดี๋ยวนั้น แต่ผมทำได้แค่ยื่นมือไปลูบหัวน้องเบาๆ
“พี่อยู่ตรงนี้”และกระซิบบอกน้องไปอย่างที่คิด แววตาที่เจ็บปวดราวกับบาดเจ็บเจียนตายของน้องทำใจผมสั่นไหว ด้วยความกลัว
สองคนนั่น คงเป็นบาดแผลของน้อง แผลที่ยังเป็นหนองและอักเสบ มันยังไม่ได้รับการรักษา น้องยังเจ็บปวด
ให้ตายเถอะผมอยากเดินเข้าไปกระชากเด็กสองคนนั้นมากระทืบให้สาแก่ใจ แต่ผมได้แค่คิด
“ไม้ ตัวเองไหวไหม เค้าไปบอกพี่แอ้มให้ตัวเองกลับได้นะเค้าจะไปอยุ่เป็นเพื่อน”
“ไม่เป็นไรครับบัวไม้โอเค ไม้ไหว ขอไม้อยู่ต่อนะบัว “
เสียงสั่นพร่าและขาดห้วงของน้องยิ่งทำให้ผมกำมือแน่นผมมองตามหลังคนสองคนที่เดินหายเข้าไปตรงมุมของห้องน้ำ
ไอ้ปีย์หันมามองหน้าผมเชิงขอความคิดเห็นหรือต้องการคำอธิบายจากผมมันคงจับสังเกตอาการของน้องและหนูบัวได้ว่าทั้งคู่ไม่โอเค
แต่ผมคงบอกอะไรมันมากไม่ได้ ผมเป็นห่วงคนที่นั่งนิ่งเป็นหุ่น เหมือนไม่มีชิวิตและจิตใจ ทำทุกอย่างตามคำสั่งของพี่ๆสต๊าฟแต่น้องไม่โอเค
“น้องไม้น้องบัวทางนี้เลยค่ะคิวน้องแล้ว “เสียงพี่สต๊าฟคนจัดคิวเรียกน้องไม้กับน้องบัวไปซ้อมเดิน
"ไม้ครับ ไม่ไหวบอกพี่นะเดี๋ยวพี่พากลับเลย"
“ผมไหวครับ ไม่ต้องห่วงนะ แค่พี่อยู่ตรงนี้ แค่มีพี่ ผมโอเค”
น้องส่งยิ้มมาให้แรงบีบกระชับที่มือทำให้ผมหลุบสายตาลงไปมองมือน้องที่ประสานมือผมไว้แล้วบีบกลับเบาๆ
“ครับพี่จะไม่ไปไหน พี่จะอยู่ตรงนี้เสมออย่ากังวลนะครับ “
ผมยิ้มตอบก่อนจะปล่อยมือน้องให้เดินเคียงคู่ไปกับน้องบัวที่เงียบสนิททั้งๆที่เป็นคนร่าเริงมาตลอด ไอ้ปีย์ส่งสายตาเป็นห่วงตามแผ่นหลังของคนทั้งคู่ไป
“โอ๊ต ถึงกูจะไม่รู้อะไรเลยแต่กูเป็นห่วงน้องมากๆ กูโคตรเกลียดตัวเองที่ช่วยอะไรน้องไม่ได้ เกลียดตัวเองที่ไม่รู้ห่าอะไรเลย เหี้ยเอ๊ย!”
“กูยังบอกรายละเอียดไม่ได้แต่ กูบอกได้เพียงอย่างเดียวสองคนั้นคือปัญหาของน้องไม้และหนูบัว”
“กระทืบแม่งเลยดีไหมค่อยถามทีหลัง”
“ไม่ได้หรอกแม้ว่าไอ้เด็กเวรสองคนนั้นจะเป็นปัญหาแต่ก็เป็นคนสำคัญด้วยเหมือนกัน กูไม่เสี่ยงโดนน้องเกลียดนะ”
“เออ !แม่งเอ๊ยกูโคตรหงุดหงิดเลย”
"มึงตามไปดูน้องเลยกูไปห้องน้ำแป๊บเดี๋ยวตามไป”
“เออๆ”
ผมเลี่ยงออกจากไอ้ปีย์เดินตามเข้าไปที่โซนที่สองคนนั้นหายเข้าไปสักพัก
“เค้ายังคบกันอยู่ ”เสียงทุ้มของคนตัวโตกว่าเอ่ยขึ้นสีหน้ายังคงมีความหงุดหงิด
"สงสารชลชะมัดที่ต้องมาตายเพราะเพื่อนหักหลัง มึงไหวไหมบู"
“ไหวสิ ไม่นึกว่าจะได้มาเจอ ดูเขามีความสุขดีทั้งๆที่กูยังเจ็บอยู่แบบนี้ หึโคตรไม่แฟร์เลย ว่าแต่มึงเถอะ เอาไงต่อดี ทำงานร่วมกันได้ไหมคงไม่ยากหรอกมั้ง คนใจดำแบบไม้มันคงไม่รู้สึกอะไร”
ผมกำหมัดแน่นเมื่อได้ยินคำพูดของคนสองคนที่ยังยืนคุยกันโดยไม่รู้ว่าผมมายืนอยู่ด้านหลัง
“หึ.ใจดำงั้นเหรอใครกันแน่วะ. น้องไม้ไม่น่ามีคนอย่างพวกมึงเป็นเพื่อนเลยทุเรศชิบหายห่วงแต่ความรู้สึกของตัวเอง”
สองคนหันกลับมาแทบจะพร้อมกันทันทีที่ผมพูดจบ
“มึงเป็นใคร !”
“กูไม่อยากรู้จักคนอย่างพวกมึงสองตัว แต่กูจะบอกอะไรให้พวกมึงรู้ไว้อย่างนึง น้องไม้เคยเข้ารับการรักษากับจิตแพทย์เพราะเครียดเรื่องของพวกมึง
น้องไม่นอนเพราะเวลาน้องหลับลงก็เห็นแต่เรื่องของพวกมึงน้องไม่คบใครไม่คุยกับคนอื่นๆนอกจากหนูบัวเพราะเรื่องของพวกมึงฝังใจน้อง
น้องไม้เอาแต่โทษตัวเองเสียใจจนต้องเข้ารับการบำบัดน้องต้องทรมานแค่ไหนกับเวลาที่ผ่านมาขนาดนั้น
น้องผ่านแต่ละวันด้วยความยากลำบาก จนตอนนี้น้องก็ยังนอนหลับไม่ได้ ในขณะที่พวกมึงกินอิ่มนอนหลับแต่ก็โยนความผิดให้น้องมัน
ทั้งๆที่น้องไม่ผิดอะไรเลยความเจ็บของพวกมึงเทียบไม่ได้กับสิ่งที่น้องได้รับ ถ้าพวกมึงสองตัวยังเป็นคนที่ได้ชื่อว่าเคยเป็นเพื่อน
กลับไปคิดใหม่ว่าน้องไม้ผิดอะไรพวกมึงถึงทำกับน้องได้เลือดเย็นขนาดนั้น ถามใจพวกมึงดูว่าพวกมึงรักน้องมันจริงหรือแค่รักตัวเองที่พอน้องไม่รักตอบก็โยนความผิดให้น้องมัน อย่าให้กูเห็นว่าเข้ามาทำร้ายน้องไม้อีกไม่งั้นเจอกันคราวหน้ากูกระทืบไม้ยั้งแน่”
ผมไม่รู้ว่าสองคนนั้นพูดอะไรต่อหรือมีสีหน้าอย่างไร เพราะนี่คงเป็นครั้งแรกที่ผมพูดกับคนแปลกหน้าได้ยาวขนาดนั้น ผมอยากให้พวกมันได้รับรู้ว่าคนที่เสียใจที่สุดคือน้องไม้ไม่ใช่พวกมัน
ในช่วงเดินรวม ผมเห็นสองคนนั้นมองมาที่ไม้ตลอดเวลา น้องไม้ที่เหม่อลอยและเดินผิดๆถูกๆจนโดนพี่สต๊าฟดุไปหลายที
“เอ่อพี่ครับ พอดีน้องผมไม่ค่อยสบาย วันนี้พอแค่นี้ก่อนได้ไหมครับพรุ่งนี้พวกผมจะมาซ่อมให้”
“เฮ้อ พี่ก็ไม่ได้ว่าอะไรนะคะ แต่ซ้อมรวมมันจะนัดคนอื่นทีหลังไม่ได้ ยังไงวันนี้ก็ต้องอดทนหน่อยนะคะน้องจำคิวให้ได้ก่อน เดี๋ยวเรื่องเดินพรุ่งนี้ค่อยมาซ้อมได้ แต่ยังไงวันนี้ก็ต้องซ้อมคิวให้แม่นก่อนนะคะ”
“ขอบคุณพี่มากครับ”ผมยกมือไหว้พลางเดินไปหาน้องไม้ที่นั่งหน้าซีดอยู่กับพื้นสายตายังคงจับจ้องไปที่อดีตเพื่อนทั้งสองคน
“ไม้ตัวเองอย่าเป็นแบบนี้เค้าจะร้อง ฮึก ฮึก”
ท่าทางที่เหม่อลอยไม่รับรู้ถึงเพื่อนที่ยืนทำหน้าจะร้องไห้อยู่ข้างๆของน้องไม้ทำให้ผมผละจากพี่สต๊าฟเดินเข้าไปหาน้อง
แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไรน้องไม้ก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินเข้าไปหาสองคนที่ยังยืนคุยกันที่มุมห้องเพราะรอคิวซ้อมเหมือนกัน
สองคนนั้นชะงักเมื่อเห็นไม้เดินเข้าไปหา หนึ่งในนั้นหันมามองผมก่อนนจะก้าวถอยหลังเตรียมจะเดินหนีน้องไม้แต่น้องไม้รีบคว้าแขนอีกคนเอาไว้ทัน
“วี บู เราขอโทษนะ เราขอโทษ อย่าเกลียดเรา ฮึก..ขอโท.....”
ร่างสูงเพรียวของน้องไม้เหมือนหลับกลางอากาศผมพุ่งเข้าไปหาทันทีที่เห็นน้องทรุดลงแต่ก็ช้ากว่าคนที่ชื่อบูที่ยืนอยู่ใกล้ๆช้อนคว้าเอาตัวน้องไว้ทันก่อนที่น้องจะล้มลงไป
“ปล่อยมือจากน้องกู!!”ผมวิ่งเข้าไปคว้าเอาน้องไม้มากอดเอาไว้พลางตะโกนหาคนช่วยแม้ว่าไอ้สองคนนั้นพยายามที่จะเข้ามาช่วยแต่ผมไม่สนใจ
“พี่ครับเรียกรถพยาบาลหน่อยน้องผมช็อค!!! ไม้ๆ ได้ยินพี่ไหมไม้ พี่อยุ่นี่ พี่อยุ่ตรงนี้ อย่าเป็นอะไรนะ ไม้”
อาการหดเกร็งของมือและร่างกายของน้องยิ่งทำให้ผมร้อนรน ผมทำอะไรไม่ถูกตัวน้องแข็งเกร็งมือกำแน่นจนข้อมือขาวซีดไร้สีเลือดดวงตายังเปิดกว้างแต่เหม่อลอยไร้แวว
“ฮึก ฮือ ไม้ ตื่นสิ บัวอยู่นี่ไม้ ฮืออออ พี่ปีย์ เพื่อนหนูเพื่อนหนู ฮือออ พวกนายมันใจร้าย ฮืออ ถ้าไม้เป็นอะไรไป เราจะไม่ให้อภัยบูกับวีเลยคอยดู “
ความโกลาหลพลันเกิดแต่ผมไม่รับรู้สิ่งรอบกาย ผมรู้แค่ต้องพาน้องไปหาหมอให้เร็วที่สุด ผมไม่เคยเห็นน้องทรุดลงไปต่อหน้าต่อตาแบบนี้
หัวใจถูกบีบรัดจนเจ็บเมื่อคิดว่าน้องจะเป็นอะไรมากไปกว่าที่เห็น ผมจะไม่มีวันอภัยหากน้องต้องกลับไปรับการบำบัดอีกครั้ง
ไอ้ปีย์พาน้องบัวขึ้นรถตามมา ทิ้งทุกสิ่งไว้ข้างหลังตอนนี้ผมขอแค่ให้น้องปลอดภัย ขอเถอะอย่าให้น้องเป็นอะไรมากเลย
พี่จะตายแล้วคนดีอย่าเป็นอะไรไปเลยนะ ได้โปรดอย่าเป็นอะไร
.
.
.
.
.
TBC.....
อ้าวๆ ต้นๆยังหวานอยู่เลย ท้ายๆไหงน้ำตามา
น้องยังเจ็บอยู่น้องยังไม่หาย อิพี่จะทำยังไง สงสารน้องงงงง
เห็นคนอ่านยังรอพันวาก็ดีจายยยยยยย ยิ่งเห็นคอมเม้นท์ยิ่งมีกำลังใจแอบอู้งานมาปั่นนนนนนนน
ขอบคุณน๊าาาาา คอมเม้นท์ ดีต่อใจคนเขียนมากเลยค่าาา
แล้วเจอกันน๊าาาาาาา