❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |END|-แจ้งข่าว 30.8.2018 p.11
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |END|-แจ้งข่าว 30.8.2018 p.11  (อ่าน 70817 ครั้ง)

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.00| 12.7.2018 p.8
«ตอบ #240 เมื่อ14-07-2018 07:56:20 »

เอาใจช่วยทุกคนผ่านไปด้วยดี :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ Tiffany

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1147
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.00| 12.7.2018 p.8
«ตอบ #241 เมื่อ14-07-2018 10:50:15 »

 ::เอาใจช่วยให้ทุกคนก้าวผ่านเรื่องราวต่างๆไปได้ด้วยดีนะ

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.00| 12.7.2018 p.8
«ตอบ #242 เมื่อ15-07-2018 11:25:17 »

ยิ่งอ่านก็ยิ่งสงสารลัล

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.00| 12.7.2018 p.8
«ตอบ #243 เมื่อ15-07-2018 17:54:42 »

จริงๆโยก็ๆม่ได้ผอดหรอกแต่ก็นะ เหมือนเป็นคนที่ทำให้คนอื่นรวมถึงตัวเองเดือดร้อนไปหมด เห็นใจหนูลัลแต่ลัลเองก็ทำตัวเองเหมือนกัน ตอนนี้ไม่อยากเชียร์คู่ฮิมโยเลย55555พี่ขอโทษนะน้องโย

ออฟไลน์ kungverrycool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 284
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +4/-0
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.00| 12.7.2018 p.8
«ตอบ #244 เมื่อ15-07-2018 23:54:28 »

 :monkeysad: เรื่องมันเศร้า ...งืออออ

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.14 am.| 16.7.2018 p.9
«ตอบ #245 เมื่อ16-07-2018 21:25:22 »

00.14 am.



จบเรื่องราว ลัลทำเพียงมองผมนิ่ง ดวงตาสีฟ้าไม่สะท้อนภาพอันใด



“กับโย...มันเป็นเรื่องเมื่อนานมาแล้ว ฉันเป็นฝ่ายผิดที่ไม่ห้ามใจจนทำไม่ดีใส่เขา ตั้งแต่วันนั้นเราก็ยังไม่ได้คุยทำความเข้าใจกันดีๆ เลย”



“...”



“โยหลบหน้าทุกคน หนีทุกอย่างมาที่นี่”



“คุณก็เลยมาตามเขา?”



“...”



“สุดท้าย คุณยังก็ยังรักเขาใช่ไหม”



“...”



“ที่ไม่ยอมมีอะไรกับผมสักทีก็เพราะเขาใช่ไหม”



“...”



“ที่ไม่ยอมทำอะไรให้มันชัดเจนสักทีก็เพราะเขาใช่ไหม”



“ลัล...”



“ผมพอแล้วล่ะ”



“ลัล ฟังก่อน”



“ผมจะกลับบ้าน”



เขาว่า ผมถอนหายใจ เปิดประตูให้เขาเข้าไปนั่งในรถก่อนที่ตัวเองจะเข้าไปนั่งฝั่งคนขับ ออกรถไปสู่จุดหมายปลายทาง ระหว่างทางไม่มีใครพูดอะไร ลัลร้องไห้เงียบๆ จนผมใจเสีย ทว่าพอเอื้อมมือจะเช็ดน้ำตาให้เขาก็เอียงหน้าหนี



ไม่ใช่ อย่างที่เขาคิด



แต่ก็ใช่ว่าไม่ใช่เลย



ผมหนีมาอยู่ที่นี่เพราะตัวเองขี้ขลาดเกินกว่าจะเผชิญหน้าต่อเพื่อนฝูง แม้ในตอนนั้นผมมักจะหมกตัวอยู่แต่ในบ้านก็จริง นานๆ ทีออกไปข้างนอกบ้างและนั่นทำให้ผมบังเอิญเจอคนรู้จักเป็นครั้งคราว ผมสู้หน้าพวกเขาไม่ติด ด้วยความอ่อนแอและน่าสมเพช สุดท้ายผมจึงย้ายตัวเองมาอยู่ที่นี่



เหตุผลที่ผมเลือกที่นี่คือโยธา



ผมอาจจะไม่ได้หนีความจริงมาหรอก ผมมาเพื่อเผชิญหน้ากับมัน



คิดว่าอย่างน้อยได้มาหายใจใกล้เขาคงจะดีขึ้น ห่างไกลจากคนรู้จักคงจะดีขึ้น ความผิดของผมแม้ไม่อาจได้รับการให้อภัย แต่ถึงอย่างนั้นการหนีจากสถานที่ที่มีแต่ความทรงจำเก่าๆ ก็ช่วยทำให้ผมไม่เป็นบ้า



และการหลอกตัวเองว่าสักวันอาจจะได้เจอกับโยเข้าโดยบังเอิญก็ทำให้ผมมีชีวิตอย่างมีความหวังมาจนถึงทุกวันนี้



จนกระทั่งได้เจอลัล



ทั้งผมทั้งเขาต่างเป็นคนที่ผิดหวังในรักทั้งคู่ ลัลเป็นประเภทที่พยายามหารักครั้งใหม่เพื่อกลบกลืนลืมความทรงจำเก่า ผิดกับผมที่เก็บความทรงจำเก่าๆ ไว้ และหลีกเลี่ยงการมีรักครั้งใหม่



ความตั้งใจที่จะหนีความรักทุกอย่างมันล้มเหลวเมื่อได้เจอเขา แววตาสีน้ำทะเลจับใจผมได้อย่างจัง แม้ว่าจะพยายามห้ามใจไม่ให้หวั่นไหวกับคนแปลกหน้าที่เป็นแค่เด็กข้างบ้าน แต่ลึกๆ แล้วยังไงผมก็รู้ตัวอยู่ดีว่าห้ามไม่ได้ ลำพังแค่หน้าตาของเขาก็ยั่วยวนมีเสน่ห์มากพออยู่แล้ว ยิ่งเขามานัวเนียชิดใกล้มากขนาดนี้ มีหรือที่ผมจะไม่หวั่นไหว



เพียงแต่ผมเองก็ยึดติดกับโยมากเกินไป ความทรงจำของโยกับผมมีมากเกินไป ผมกับเขารู้จักมานาน แม้สุดท้ายจะเป็นได้แค่พี่น้อง แต่เหตุการณ์ต่างๆ ที่ผมได้ใช้ร่วมกับเขาไม่ใช่แค่ปีสองปี มันฝังรากลึกและยากที่จะลืม



โดยเฉพาะอย่างยิ่ง กับเรื่องคืนนั้น เรื่องที่ผมได้ทำความผิดร้ายแรงที่สุดในชีวิต มันฝังอยู่ในใจตลอดมา



โยชอบผม การที่เขาไม่ได้บอกผมตั้งแต่แรกคงเป็นเพราะผมเองก็ทำตัวไม่ชัดเจน ไม่ผิดที่โยจะเลือกเพื่อนผม และเก็บผมไว้เป็นพี่ชายของเขาต่อไป และนั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะแตะต้องหรือรุกล้ำเขาได้ เขาเป็นคนรักของเพื่อน ทั้งๆ ที่ผมควรจะรู้กฎข้อนี้ แต่ก็ยังฝ่าข้อห้าม ลงมือกระทำตามความต้องการที่อยู่ในส่วนลึกของใจ ผมอยากอธิบายให้ลัลเข้าใจ เสียแต่ตอนนี้สภาพของลัลคงไม่พร้อมที่จะฟัง



ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยกับการอยู่ในความรู้สึกผิดเลวทรามที่ตัวเองกระทำมาเป็นปี



“ผมจะกลับบ้าน”



ลัลบอกหลังจากที่เรามาถึงหน้าบ้านของผม เขาพูดจบก็ลงจากรถไปโดยที่ไม่ได้สนใจว่าผมจะทำยังไง เจ้าตัวรีบไขกุญแจเข้าบ้านตัวเองไป ทิ้งผมไว้ให้อยู่กับพระจันทร์ตามลำพัง



ผมเก็บรถเขาเข้าบ้านตัวเอง



และเมื่อเดินเข้าไปในบ้าน ผมก็ทิ้งตัวลงบนโซฟารับแขก หัวสมองพยายามเรียบเรียงความทรงจำใหม่ ตอนนี้ผมมีลัลแล้ว โยเป็นแค่อดีต ผมไม่ควรคิดถึงเขาอีก ถึงอย่างนั้นผมก็อยากจะกลับไปหาเพื่อเอ่ยคำขอโทษเหลือเกิน อยากขอโทษที่ทำให้ชีวิตเขาต้องมาเป็นเช่นนี้ ขอโทษที่ทำให้รอยยิ้มสดใสหายไป ขอโทษที่อยู่ดูแลไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้ว



ท่ามกลางความเงียบ เสียงความคิดผมดังขึ้น ผมยกมือมาปิดหน้าตัวเอง ถอนหายใจ ลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อให้หัวเย็นลง



คำตอบของผมคือปัจจุบัน มันต้องเป็นเช่นนั้นอยู่แล้ว จมอยู่กับอดีตไปไม่ช่วยให้ชีวิตผมก้าวต่อ



จนกระทั่งหาคำตอบได้แล้ว ผมเดินไปยังบ้านตรงข้าม



หลังจากที่รู้ที่ซ่อนกุญแจของลัล ผมก็ขอเขาปั๊มกุญแจสำรองเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน เจ้าตัวไม่ได้ว่าอะไรและมันก็ช่วยผมได้ในตอนนี้ ผมไขกุญแจเข้าไป เดินขึ้นไปยังห้องเขาท่ามกลางความมืด จนมาถึงห้องนอนของเขา



คราวนี้ลัลล็อคห้องไว้...



ผมไม่มีกุญแจห้องเขา แต่จำได้ว่าห้องอีกฝั่งหนึ่งมีห้องน้ำที่เชื่อมกับห้องของเขา ผมหวังว่ามันจะไม่ได้ล็อค



และขอบคุณที่มันเป็นอย่างที่หวัง



ผมเข้ามาหาลัลได้จากห้องน้ำที่เชื่อมกับอีกห้องหนึ่ง ซึ่งเดาว่าน่าจะเป็นห้องของพ่อเขา ทว่าไม่มีร่องรอยของการใช้งาน แสงไฟจากถนนฉายให้เห็นข้าวของในห้องให้พอสังเกตเห็นได้ว่ามีเพียงเตียงเดี่ยวที่ถูกผ้าคลุมกันฝุ่นและข้าวของระเกะระกะวางชิดขอบผนัง สภาพของห้องไร้การมีอยู่ของมนุษย์จนน่าใจหาย แค่คิดว่าตลอดมาเขาต้องทนอยู่ในบ้านหลังนี้คนเดียวความเหงาและความเศร้าก็เข้าโจมตีผมราวกับผมเป็นเจ้าของบ้านหลังนี้



เดินผ่านห้องน้ำมาอีกฝั่ง เปิดประตูห้องนอนออกมา ลัลนั่งตัวอยู่บนเตียง หันหน้าออกไปทางหน้าต่าง ปล่อยให้แสงไฟจาถนนเคลือบใบหน้าจางๆ ผมเดินเข้าไปหาเขา นั่งลงข้างๆ เขารับรู้การมาถึงของผม และคงรับรู้ตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมเปิดประตูรั้วบ้านเขาแล้ว



ระหว่างเรายังคงมีเพียงความเงียบ ผมพยายามหาถ้อยคำที่ดีที่สุดเพื่ออธิบายความรู้สึกตัวเองให้เขา



“คุณรู้อะไรไหม...” แต่จู่ๆ ก็เป็นเขาที่พูดขึ้นมาก่อน



“หืม”



“...ต่อให้ผมอยากหนีมากแค่ไหนผมก็หนีไปไกลได้มากสุดเท่านี้”



“...”



“แค่ตรงข้ามบ้านของคุณ”



“ดีแล้วนี่...ฉันจะได้มาหาได้ง่ายๆ”



“ไม่ดี...ไม่ดีเลย”



เขาว่า น้ำเสียงสั่นสะอื้นจนผมต้องเอื้อมมือไปปัดเส้นผมสีดำที่ปกปิดใบหน้าละมุน แก้มใสของเขาเปรอะด้วยน้ำตา เขาหันหน้าหนีเมื่อถูกผมสัมผัส



“ผมนึกอยากให้โลกแบน...จะได้วิ่งไปที่ปลายขอบโลกแล้วกระโจนออกไป พาตัวเองให้หลุดพ้นจากโลกใบนี้”



“ลัล...อย่าร้อง”



“ผมเกลียดเขา...”



“...เรื่องมันผ่านไปนานแล้ว”



“ผมเกลียดที่เขาเอาฮิมไป”



“ลัล”



“แล้วตอนนี้...เขาก็เหมือนจะเอาคุณไปด้วย”



“ฉันไม่ได้ไปไหน”



“ไม่จริงหรอก...ตอนที่คุณมองเขา...มันเหมือนกับ...คุณพร้อมจะไปกับเขาทุกเวลา”



“...”



“ขอแค่เขาเอ่ยปาก”



“...ตอนนี้ฉันมีแค่นาย”



“...เขาดีกว่าผมตรงไหน”



“มันคนละเรื่องกัน ลัล...อย่าร้อง”



“ถ้าอย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่ลืมเขา”



“เรื่องโยมันเป็นเรื่องที่ฉันลืมไม่ได้ มันฝังอยู่ในใจ ลึกเกินกว่าจะเอาออกได้ง่ายๆ ไม่ต่างจากเรื่องของนายกับฮิมหรอก”



“มันไม่เหมือนกัน!” เขาร้องเสียงดัง หันหน้ามาทางผม จ้องหน้าผมด้วยใบหน้าที่เลอะน้ำตา “ผมรักฮิม แต่เขาไม่ ส่วนคุณรักโย...และโยก็เคยรักคุณใช่ไหม”



“มันไม่ใช่อย่างนั้น” ผมว่า และก่อนที่เขาจะเถียง ผมก็รีบคว้าเขาเข้ามาในอ้อมกอด “มันก็จริงที่ฉันเคยรักเขา แต่เราไม่เคยรักกัน”



“แต่คุณก็รักเขา”



“ฉัน ‘เคย’” ผมย้ำ



“...”



“ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว...ฉันพยายามตัดใจจากเขาเพื่อมาหานาย รู้ตัวได้แล้วเด็กดื้อ” ผมอธิบาย “ทุกวันที่นายพยายามเข้าหาฉัน เรื่องราวของโยก็เริ่มหายไปทีละนิด อาจจะมีบ้างที่หวั่นไหวเรื่องโย แต่ตอนนี้ฉันรู้ใจตัวเองแล้ว”



“ผม...ฮึก...กลัวว่าเขาจะพาคุณไปอีก” เขาสะอื้นสั่น จนผมต้องกระชับอ้อมกอดแน่น



“ฉันไม่ไปไหนแล้ว...ขอโทษ ที่มาหาช้า”



“ผมคิดว่าคุณจะไม่มาแล้วด้วยซ้ำ”



“มาสิ...”



“ตลอดมาก็ไม่มีใครเคยมาหาผมอยู่แล้ว”



“ลัล...ต่อจากนี้ ห้ามพูดคำนั้นอีก”



“...ผมไม่รู้จะเชื่อใครได้ยังไงอีก”



“มันอาจจะยาก แต่ฉันอยากให้นายเชื่อฉัน”



“คุณจะไม่ไปหาเขาใช่ไหม”



“ไม่ไป ฉันจะไม่ทิ้งนายให้อยู่คนเดียว หรือต่อให้นายหนีไปไหน ฉันก็จะไปหานาย”



ลัลหยุดร้องไห้แล้ว เขาทำเพียงซบหน้าลงกับไหล่ผม พูดเสียงอู้อี้



“ผมเกือบให้น้องผมจองตั๋วไปสเปนให้แล้วด้วยซ้ำ”



“งั้นดีแล้วที่ฉันมาทัน”



“ถ้าผมไปไกลขนาดนั้น...คุณจะยังตามไปไหม”



“ไปสิ”



จบคำ ลัลซุกหน้าลงกับไหล่ผมมากกว่าเดิม ไถใบหน้าหวานคลอเคลียกับตัวผมราวกับลูกแมวขาดความรัก จนอดไม่ได้ที่จะลูบหัวเขา



“แน่ใจนะ” เขาถามย้ำ



“อืม ไม่ทิ้งไปไหนหรอก”



“เลือกแล้วนะ”



“เลือกแล้วสิ ไม่งั้นไม่มาหาหรอก”



“ถ้างั้น...อยู่กับผมนะ”



“อืม ฉันจะอยู่กับนาย” ผมพูดพร้อมกับลูบหัวคนออดอ้อน ลัลในตอนนี้ดูเปราะบางราวกับจะแตกสลายได้ทุกเมื่อ ผมพยายามกอดปลอบเขาและเอ่ยคำมั่นสัญญา เพื่อไม่ให้เขาต้องตกลงไปในห้วงอวกาศจนแหลกสลายเหมือนที่ผ่านมา รวมถึงครานี้ ผมจะเป็นกาวเชื่อมหัวใจของเขาให้กลับมาแข็งแรงอีกครั้ง



มันไม่ใช่แค่ระยะเวลาสั้นๆ ที่ผมตัดใจจากโยได้ อันที่จริงมันกินเวลาเป็นปี เรื่องของโยติดอยู่ในใจเป็นตราบาปตลอดมา โยมีอิทธิพลต่อผมมากให้ผมย้ายมาอยู่ที่นี่ เพื่อต้องการจะได้เจอเขาอีกสักวัน เพื่อจะได้ดูแลเขาแทนเวลาที่หายไป แต่สุดท้ายมันก็เป็นแค่ความหวังลมๆ แล้งๆ ของผม เมื่อโยมีคนรักคนใหม่ที่พร้อมอยู่ดูแลแล้ว



ระหว่างที่ผมยังผูกติดอยู่กับโย ลัลก็เข้ามา ผมไม่ต้องการจะสานความสัมพันธ์ใดๆ อีก ถึงแม้ว่าจะเป็นความสัมพันธ์เพียงข้ามคืนก็ตาม ภาพที่ผมเคยทำร้ายโยธามักจะลอบผ่านเข้ามาในหัวเสมอ ทว่าลัลแตกต่าง เขาไม่เพียงทำให้ภาพโยหายไป เขายังค่อยๆ เปลี่ยนความรู้สึกผมที่มีต่อโยธาให้น้อยลงทุกที และรู้สึกกับเขามากขึ้นทุกที



เพราะฉะนั้นแล้วมันจึงไม่ใช่แค่ระยะเวลาสั้นๆ ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผมอยู่กับลัลคือช่วงที่ผมกำลังตัดสินใจว่าจะเอายังไงต่อดี ผมรู้ว่าผมจมอยู่กับโยตลอดไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นใหม่กับใครดี



สุดท้ายลัลก็ทำให้ผมเชื่อในตัวเขา ลัลเป็นคนนั้น คนที่พาผมออกจากบ่วงอดีต



ลัลไถหน้าซุกกับหัวไหล่ผม



“เช็ดน้ำมูกหน่อย”



และคำพูดของเขาทำให้ผมหมดอารมณ์อยากทำตัวเป็นกาวเชื่อมประสาน อยากจะยกมือมาดีดเหม่งหมอนี่จริงๆ ให้ตาย



ผมพาเขาไปล้างหน้าล้างตาก่อนพากันเข้านอนที่ห้องของเขา ตอนนี้ดึกแล้ว แม้ว่าบ้านของผมจะอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม แต่พวกเราก็ขี้เกียจเกินกว่าจะเดินออกจากห้องนี้



เตียงของลัลแคบกว่าเตียงของผม ทำให้เรานอนก่ายกัน เบียดเสียดมอบไออุ่นให้แก่กัน รวมถึงพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกันมากขึ้น



ยิ่งฟังเรื่องของลัล ผมยิ่งรับรู้ถึงความรู้สึกโดดเดี่ยวของเขา ลัลไม่เปิดใจให้ใครเลยนอกจากฮิม เขาแทบไม่รับฟังคำแนะนำของใครเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งฮิมได้ทิ้งเขาไป ถึงได้ยอมฟังคนอื่นบ้าง... แต่จะว่าทิ้งก็ไม่เชิงเพราะพวกเขาไม่ได้คบกันแบบนั้นตั้งแต่แรก ถึงอย่างไรผมก็อยากจะกระทืบคนที่ชื่อฮิมให้จมดินสักครั้งเหมือนกัน โทษฐานที่ทำให้ลัลของผมเสียใจ



แต่ทำไงได้ ถ้าเขารักลัล ผมคงไม่ได้กอดกับซินเดอเรลล่าเช่นนี้



และผมคิดว่าถ้าฮิมรู้เรื่องโย เขาก็คงอยากกระทืบผมให้ตายไม่ต่างกัน



ผมเล่าเรื่องราวของตัวเองให้เขาฟังใหม่ ทั้งเรื่องครอบครัวที่ไม่เคยพูด เรื่องเพื่อนที่ตอนนี้แทบไม่มีใครอยากคบกับคนที่หักหลังเพื่อนตัวเอง เรื่องศิลปะที่แต่เดิมผมเคยรักมันมาก แต่ตอนนี้กลับไร้แรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆ มีเพียงรับวาดงานทั่วไป ให้เสร็จไปวันๆ เท่านั้น



รวมถึงการที่มีลัลเข้ามาทำให้อะไรหลายๆ อย่างในชีวิตผมเปลี่ยนไป จากที่เคยกวนตีนเขาเล่นๆ ไม่คิดว่าจะได้มานอนกอดเขาเช่นนี้ จากที่คิดว่าคงสานสัมพันธ์ใหม่กับใครยากแต่ลัลเข้ามาทำลายมัน จากที่คิดว่าคงหมดไฟเรื่องศิลปะแล้ว แต่รูปแรกที่ผมวาดโดยที่ไม่ใช่งานก็เป็นตัวเขา ผมพันเส้นผมยาวของเขาในมือเล่นอย่างเพลินมือระหว่างการพูดคุย



“ผมน่าจะคุยกับคุณให้เร็วกว่านี้”



“นั่นสินะ เราน่าจะเปิดใจกันให้เร็วกว่านี้ นายจะได้ไม่ต้องร้องไห้”



“เพราะคุณเลย”



“ยอมรับผิดแล้ว ขอโทษครับ”



“ผมก็...ขอโทษนะ” เขาเงียบไปสักพัก “ที่เอาแต่ใจ”



“ไม่หรอก”



“...ผมชอบเวลาคุณทำตามใจผม”



“ปล่อยวางบ้างก็ได้ ให้ฉันได้เอาใจนายบ้าง”



ผมรู้ข้อนี้ดี เขาไม่มีคนมาตามใจให้นานแล้ว พอผมยอมเข้าหน่อยเจ้าตัวดีจะชอบก็ไม่แปลก ที่ผ่านมาเขาจมอยู่กับตัวเองมานานเกินไปแล้ว จนผมอยากให้เขานึกงี่เง่าใส่บ้างจะได้ไม่ต้องเก็บทุกอย่างไว้คนเดียวอีก



เรื่องราวต่างๆ ของผู้คนมีมากมายหลายเรื่อง ผ่านมาผ่านไปให้พระจันทร์ได้รับรู้ ทุกคนมักจะแสดงออกเฉพาะด้านที่ตนต้องการ ไม่ต่างกับพระจันทร์ที่มักจะส่องสว่างแค่ด้านเดียวมายังโลกเสมอ





แต่จงอย่าลืมว่าพระจันทร์ไม่ได้แค่ด้านเดียว











เรื่องราวของทุกคนเป็นเพียงด้านหนึ่งของพระจันทร์

#ณพระจันทร์


ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.14 am.| 16.7.2018 p.9
«ตอบ #246 เมื่อ16-07-2018 23:32:07 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ทุกคนมี "ปม" ไม่สิ  เหมือนว่าฮิมจะไม่ค่อยมีปมเท่าไร

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.14 am.| 16.7.2018 p.9
«ตอบ #247 เมื่อ16-07-2018 23:39:42 »

หันหน้าคุยกัน มันดีมากเลย  :กอด1:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.14 am.| 16.7.2018 p.9
«ตอบ #248 เมื่อ17-07-2018 08:16:11 »

เข้าใจกันก็ดีแล้ว  :katai2-1: :katai2-1:

ออฟไลน์ mayyiyi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.14 am.| 16.7.2018 p.9
«ตอบ #249 เมื่อ17-07-2018 10:27:34 »

ไม่ร้องนะคะน้องลัล โอ๋ๆเข้าใจกันแล้วเน้อะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.14 am.| 16.7.2018 p.9
« ตอบ #249 เมื่อ: 17-07-2018 10:27:34 »
ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.14 am.| 16.7.2018 p.9
«ตอบ #250 เมื่อ17-07-2018 11:44:48 »

ดีที่มันออกมาแบบนี้

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.14 am.| 17.7.2018 p.9
«ตอบ #251 เมื่อ17-07-2018 20:17:04 »

1.14 am.



โยเพียงแค่ปล่อยให้น้ำตาไหลเป็นเพื่อนยามเล่าเรื่อง



พอจบเรื่องเล่า เขาก็แค่เช็ดน้ำตา นั่งตาแดงนิ่งๆ ส่วนผมก็ทำเพียงกอดเขาไว้หลวมๆ ลูบหัวเขาเบาๆ



“ผม...ทำผิดต่อพี่ทิม”



ไม่หรอก หมอนั่นต่างหากที่ผิด ผมอย่างจะบอกแบบนี้แต่เขาก็พูดขึ้นมาก่อน



“ผมทำให้พวกเขาแตกหักกัน...ทั้งๆ ที่ผมควรจะห้ามทั้งตัวเองและพี่คุณได้แท้ๆ”



“ไม่จริงหรอก นายเมา หมอก็ด้วย แต่มันต่างหากที่ไม่ควรทำแบบนี้”



“แต่ถ้าไม่มีผมสักคน...พวกเขาก็คงไม่ต้องมาทะเลาะกัน”



“ถ้ามันไม่ทำอย่างนั้น พวกนั้นก็ไม่ต้องทะเลาะกันแล้ว เลิกโทษตัวเองได้แล้วโยธา”



“ผม...”



“เรื่องมันผ่านไปแล้ว ปล่อยมันไปเถอะนะ” ผมว่า ขยับตัวกอดเขาแน่นขึ้น จากระยะครึ่งช่วงแขนเปลี่ยนเป็นหนึ่งฝ่ามือ ครึ่งฝ่ามือ จนสุดท้ายก็ไม่เหลือระยะที่อากาศสามารถผ่านไปได้



“ผม..มันแย่”



“บอกว่าอย่าโทษตัวเองไง”



“ผมมันเป็นไอ้ตัวอย่างที่เขาว่าจริงๆ นั่นแหละ”



“โยธา” ผมกดเสียงเข้ม บอกเป็นเชิงว่าให้เขาหยุดพูดดูถูกตัวเอง



“ตอนที่ถูกจูบ...ผมไม่ได้ผลักพี่คุณออกไป”



“...นายก็แค่ไม่รู้ตัวว่าถูกทำอะไร”



“ผมรู้ตัว พี่เลิกแก้ตัวให้ผมได้แล้ว ผมมันโคตรแย่”



“งั้นโยก็เลิกโทษตัวเองได้แล้ว”



“พี่จะให้ผมทำไง...ทุกอย่างมันแย่ลงเพราะผมหมด...”



“...” ผมถอนหายใจ



“ถ้าผมบอกรักพี่คุณแต่แรกก็คงไม่เป็นอย่างนี้ หรือถ้าผมไม่บอกรักเขาไป ก็คงไม่เป็นแบบนี้ จะยังไงมันก็เกิดขึ้นเพราะผม เพราะผมพวกพี่คุณเลยแตกหักกัน เพราะผมชีวิตพี่คุณเลยพังไม่เป็นท่า ถ้าผมไม่ชอบผู้ชายตั้งแต่แรกพ่อกับแม่ก็คงไม่ผิดหวัง เพราะผมเป็นอย่างนี้...”



“โยธา!”



ผมร้องเสียงดังให้เขาหยุดโวยวาย โยธาใช้ตาแดงที่เคลือบไปด้วยหยาดน้ำตาที่พร้อมทะลักออกมาทุกเมื่อจ้องมองผม ผมไม่ปล่อยให้เขาพูดต่อ



“แล้วโยล่ะ...” ผมถาม “แล้วความรู้สึกของโยล่ะ”



“ผม...”



“โยห่วงทุกคน ห่วงทุกอย่าง โทษตัวเองซ้ำๆ ซากๆ แต่ไม่เคยมองความรู้สึกตัวเองเลย”



“ผมแค่...” หยดน้ำตาของเขาไหลออกมา “ผมก็พยายามปกป้องตัวเองแล้วไง...”



“แต่ไม่ได้คิดถึงความรู้สึกตัวเองเลยใช่ไหม”



“...”



“พอได้แล้ว เลิกโทษตัวเองได้แล้ว อยู่ตรงนี้...คิดถึงแค่ความรู้สึกตัวเองก็พอ”



ผมกอดเขาอีกครั้ง แนบแน่นและเนิ่นนาน ปล่อยให้เขื่อนน้ำตาของคนตัวเล็กไหลทะลักออกมาจนกว่าหยาดฝนในดวงตาจะหยุดตก



เขาหลับไปพร้อมๆ กับคราบน้ำตา



ผมพาเขาไปนอนในห้อง พร้อมกับล้มตัวนอนข้างๆ อย่างถือวิสาสะ ครุ่นคิดถึงเรื่องเล่าของเด็กน้อย...พลันคิดว่าตอนนั้นผมไม่ควรทำเรื่องบ้าๆ ลงไปเลย คิดเอาเองว่ามันคงไม่เป็นไร ใครๆ ก็ทำกัน แต่ทุกคนย่อมมีด้านมืดที่ไม่ต้องการให้ใครเห็น และผมเป็นคนเปิดแผลเหวอะหวะของโยออก



ผมควรจะดูแลเขาให้ดีกว่านี้



ไม่แปลกเลยที่โยจะเกลียดและกลัวผมขนาดนี้



อยู่กับเด็กคนนี้แล้วผมได้เรียนรู้อะไรมากมายจริงๆ เรียนรู้ในความรู้สึกที่ไม่ศรัทธา พยายามเข้าใจความรู้สึกที่ไม่เคยรู้จัก ได้ลองทำอะไรให้คนอื่นบ้าง ได้มองเห็นอะไรมากมายนอกจากแค่ตัวเอง โลกของผมกว้างขึ้นเมื่ออยู่กับเขา รวมถึงสงบขึ้นด้วย ผมไม่ได้พบปะผู้คนมากมายเหมือนแต่ก่อนเพราะเอาแต่อยู่กับเขา แต่เป็นเพราะเขา ผมถึงอยากอยู่ใกล้ๆ



ผมอยากเป็นคนดูแลเด็กคนนี้ให้มากเท่าที่เขามอบสิ่งเหล่านี้ให้ผม



โยตื่นมากลางดึก เพราะเผลอหลับไปช่วงหัวค่ำ ผมบอกให้เขาพักผ่อนต่อแต่เจ้าตัวรั้นจะทำงาน ผมเลยขัดใจเขาไม่ได้ เข้าใจว่างานของพวกเราเยอะระดับนรกแค่ไหน เพราะตอนนี้ผมเองก็ปั่นธีสิสในแล็ปท็อปเช่นกัน โยพาตัวเองไปล้างหน้าล้างตาก่อนออกไปนั่งทำงานต่อที่ห้องรับแขก ผมตามเขาไปนั่งข้างๆ



และเพิ่งนึกได้ว่าโยไม่ได้ว่าอะไรที่ตื่นมาแล้วเจอผมนอนอยู่ข้างๆ บนเตียงเดียวกับเขา



แบบนี้พอจะมีหวังมากขึ้นทุกที



“โย มีอะไรให้ช่วยไหม” พอคิดได้อย่างนั้นก็อยากทำคะแนนเพิ่มขึ้นอีกหน่อย



“ไม่มีแล้ว พี่ทำงานของตัวเองไปเถอะ”



“อืม ถ้าอยากให้ช่วยตรงไหนก็บอก”



“พี่ฮิม”



“หืม...”



“ช่วยคุยกับผมได้ไหม”



“คุยอะไรล่ะ”



“อะไรก็ได้ ให้ผมไม่หลับ”



“ง่วงก็ไปนอน บอกมาให้ทำไร”



“ได้ที่ไหน งานผม ผมก็ต้องทำเองสิ”



“กูช่วยนิดๆ หน่อยๆ ไม่เห็นเป็นไร”



“มันจะไม่นิดหน่อยน่ะสิ แล้วก็นะพี่...พูดไม่เพราะ”



“โทษที” มันยังไม่ชิน...



“พี่ฮิม...เรื่องที่ผมเล่าให้ฟังอ่ะ...”



“อืม ทำไม”



“ผมไม่เคยเล่าให้ใครเลย..กับเพื่อนก็ไม่เคย พ่อแม่ก็ไม่เคย”



“...อ่า จะไม่ให้กูบอกใครใช่ไหม”



“ไม่ใช่อย่างนั้น...ผมแค่อยากบอกว่า พอผมเล่าให้พี่ฟังแล้วมันโล่งมากๆ เลย”



“อืม ดีแล้วล่ะ” ผมลูบหัวเขา โยธาไม่ขัดขืนแต่อย่างใด



“บางปัญหาเราก็จัดการคนเดียวไม่ได้หรอก” ผมกล่าว



“ผมก็ว่างั้น...แต่บางปัญหา เราก็ไม่อยากให้ใครรู้นักหรอก”เขาขัด



“ถ้างั้น...ให้พี่เป็นคนรับฟังปัญหาของโยได้ไหม”



“...”



“ให้พี่เป็นคนดูแลเราต่อจากนี้ได้ไหม”



“...พี่ยังไม่รู้จักผมดีสักหน่อย เรา...พบกันแค่ไม่กี่เดือนเอง”



“ถ้างั้นก็ให้โอกาสพี่อยู่ทำความรู้จักกับโยนานๆ สิ”



“...”



“ความสัมพันธ์บางอย่าง บางทีไม่จำเป็นต้องผูกพันเนิ่นนานถึงจะเริ่มรักกันได้ก็ได้นะ...” ผมกล่าว คิดถึงความสัมพันธ์ของโยกับคุณ ผูกพันกันมายาวนาน แต่ก็ไม่ได้จบลงที่รัก ผมกับลัลก็เช่นกันที่แม้จะรู้จักกันยาวนานแต่ผมไม่คิดจะเป็นมากกว่านั้น ผิดกับคนตัวเล็กนี้ ที่เพียงพานพบไม่นานแต่อยากมอบทั้งชีวิตให้



“คบกันนะ”



ผมเอ่ยถามเขา น้ำเสียงอ่อนลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน



โยธานิ่งเงียบไปเนิ่นนาน ฟันเล็กๆ งับปากล่างตัวเองอย่างครุ่นคิด ความเงียบรัวเป็นกลอง จนผมพลอยลุ้นไปด้วย ไม่เคยเครียดหรือลุ้นกับอะไรมากขนาดนี้มาก่อน



กระทั่งเขายอมพยักหน้าหนึ่งที








คลี่คลายแล้ววว

 คิดว่าคงใกล้จบแล้วนะคะ

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามค่ะ

#ณพระจันทร์

ออฟไลน์ mayyiyi

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 69
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1/-0
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.14 am.| 17.7.2018 p.9
«ตอบ #252 เมื่อ17-07-2018 20:27:02 »

เคลียร์กันทง2คู่แล้ว จากนนี้ขอให้แฮปปี้ๆนะ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.14 am.| 17.7.2018 p.9
«ตอบ #253 เมื่อ17-07-2018 21:53:22 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

ถึงเรื่องราวจะเคลียร์  แต่บอกได้เลยว่า  พออ่านบทล่าสุดนี้

ไม่ชอบ "ฮิม" อย่างแรง

ฮิม ไม่เคยสำนึกว่าตัวเองทำผิดกับลัล  ในขณะที่คนอื่น ๆ ยังรู้สึก ตระหนัก สำนึก ว่าเขาเหล่านั้น ทำไม่ถูกในอดีต การกระทำของพวกเขาส่งผลกระทบต่อคนอื่น 

แต่  สำหรับฮิม ไม่เห็นจะรู้สึก ตระหนัก สำนึก ว่าตัวฮิมนั้น ทำให้ลัลต้องเจ็บปวดกับความเห็นแก่ตัวของเขา ที่ทั้งรู้ว่าลัลคิดอย่างไรกับตัวเขา แต่ก็ยังทำให้ลัลถลำลึกไปเรื่อย ๆ

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.14 am.| 17.7.2018 p.9
«ตอบ #254 เมื่อ17-07-2018 22:01:07 »

ฮิมนี่มันตาอยู่ชัด ๆ ทั้งคุณทั้งเพื่อนแตกหักกันเพื่อ????

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.14 am.| 17.7.2018 p.9
«ตอบ #255 เมื่อ18-07-2018 02:50:05 »

ชัดเจนกับเรื่องที่ผ่านมาทั้ง 2 คู่ แต่ดู ๆ แล้ว อยากรู้มุมมองของทิมมากกว่า ทำไมถึงว่าร้ายให้โย แล้วคุณล่ะโดนอะไรบ้าง  :m16:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.14 am.| 17.7.2018 p.9
«ตอบ #256 เมื่อ18-07-2018 13:57:29 »

 :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ PrimYJ

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3473
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-3
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.14 am.| 17.7.2018 p.9
«ตอบ #257 เมื่อ19-07-2018 00:26:28 »

จะรออ่านตอนต่อไปนะคะ

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
«ตอบ #258 เมื่อ21-07-2018 22:16:06 »

00.15 am.



“ลัล คุยกับใครน่ะ”



“น้องสาว” เขาตอบ หลังจากที่ผมเห็นเข้าพิมพ์แชทยิกๆ ไม่ยอมเงยหน้าออกมาจากจอโทรศัพท์อย่างแปลกตา ปกติลัลแทบไม่แตะต้องเจ้าเครื่องสี่เหลี่ยมนี่เลยด้วยซ้ำ



“เมื่อวานบอกลิลไปว่าอยากไปอยู่ด้วยที่สเปน”



“...”



“วันนี้ลิลเลยทักมาชวนคุยรัวๆ เลย”



“อย่าไปเชียวนะ” ผมร้องค้าน ส่วนเขายิ้มรับ ไม่พูดอะไรต่อ ผมเลยลงมานั่งข้างๆ เขาที่โซฟา



“อยู่ที่นี่แหละดีแล้ว”



“ดียังไง ผมอยู่มาสิบๆ ปีแล้ว น่าเบื่อ อยากเปลี่ยนบรรยากาศบ้าง”



“โถ่ อยู่กับฉันไง ไม่ดีตรงไหน”



“...” เขาเงียบ “อยู่กับคุณ ยังไงก็ดี...”



“เห็นไหมล่ะ”



“งั้นไปสเปนกับผมนะ”



“ลัล...” ผมร้อง ไม่มีเงินมากขนาดนั้นเพื่อจะไปต่างประเทศ แต่ก็ไม่อยากขัดใจเขา เอาเป็นว่าถ้าเขาคิดจะไปจริงๆ ผมคงต้องไปหาเงินมาให้ได้ก่อน ลำพังแค่จ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟก็แทบไม่เหลือใช้แล้ว เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน



ผมปล่อยให้เจ้าตัวดีนั่งเล่นอยู่ตรงนั้นสักพัก ส่วนตัวเองขึ้นไปทำงานข้างบน ไม่ช้าลัลก็ตามมานั่งข้างๆ กดมือถือเงียบๆ ผมปาดสีบนเฟรมภาพวาดสลับกับมองลัล จนสุดท้ายก็วางตาไว้ที่ต้นคอสวยขอเขา เส้นผมยาวสีดำของลัลถูกรวบให้ไปอยู่ฝั่งขวาของลาดไหล่ เผยให้เห็นต้นคอขาวและไหปลาร้าอีกฝั่งชัดเขน ผมจ้องข้อกระดูกที่นูนขึ้นมา



พลางเอื้อมไปแตะอย่างไม่อาจยั้งใจ



“หืม”



ลัลส่งเสียงด้วยความสงสัย



“ถอดเสื้อหน่อย”

“หืม” ลัลส่งเสียงอีกครั้ง ก่อนลุกยืนขึ้น เอียงหัว “อยาก?”





“ไม่ใช่!” ผมปฏิเสธทันควัน พยายามหาเหตุผลมาบอกต่อ แต่คนเด็กกว่าทำเพียงหัวเราะขำๆ ใช้สองมือเกี่ยวปลายเสื้อ ดึงให้หลุดออกไปทางหัว



เผยเนื้อตัวเปลือยเปล่า ผิวขาวเนียนน่าสัมผัส



“นั่งลง”



ลัลทำตามอย่างว่าง่าย คุกเข่านั่งลงข้างๆ ผม เมื่อได้ระยะพอดี ผมเอื้อมมือใช้นิ้วที่เปื้อนสีไปปาดบนพื้นผิวบนหลังของเขา ละเลงสีที่ติดมากับนิ้วมือไปมา



“คุณใช้ผมเป็นที่เช็ดมือหรือ”



“บ้าเหรอ” ผมเอ่ย บีบหลอดสีใส่นิ้วมือ โป้ง ชี้ กลาง ก่อนป้ายมันลงบนตัวลัล ใช้ปลายนิ้วแทนพู่กับ ขยับตวัดไปมา สีแต่ละสีถูกปาดเป็นเส้นสายตามแต่ละนิ้วสั่งการ สิบนิ้วปาด บ้างใช้นิ้วชี้ไล่ บ้างใช้นิ้วโป้งเกลี่ย เนื้อสีเลอะไปโดนเส้นผมเขาทว่าลัลไม่แม้แต่จะสนใจ เขานั่งนิ่ง ทำตัวเป็นเฟรมภาพชั้นยอดให้ผม



จนกระทั่งพอใจ ผมถอยออกมาดูผลงาน



ปีกนกสีฟ้าถูดวาดลงบนแผ่นหลังขาวเนียน ปีกเล็กๆ กำลังหุบอยู่เหมือนลูกนกไม่กล้าบิน ท้องฟ้าอยู่ใกล้แค่เอื้อม ทว่าลูกนกขลาดเขลาเกินกว่าจะบินไปถึง มันหุบปีกสีฟ้าอยู่เช่นนั้นคล้ายนกพิการ ปีกงามไม่ถูกกางออก ลูกนกดินเล่นอยู่ผืนดิน และปรากฏตัวให้ผมเป็นเจ้าของ



“เสร็จแล้วหรือ” เจ้าลูกนกถาม



ผมร้องตอบในลำคอ ยกยิ้มกับผลงานที่ตัวเองสร้างพร้อมๆ กับขบขันในจินตนาการของตัวเอง ลัลลุกขึ้นยืน พยายามหันหน้ามาดูแผ่นหลังตัวเองที่ผมสรรค์สร้าง



“ถ่ายรูปไว้ดีกว่า” ผมบอก เดินออกจากห้องไปหากล้องถ่ายรูปที่เคยมีเมื่อนานมาแล้ว



พอกลับมา ลัลยังคงยืนท่าเดิม ร่างโปร่งกำลังเอี้ยวตัวมองแผ่นหลังของตัวเองอย่างต้องการจะรู้ว่ามีภาพอะไรที่ถูกละเลงอยู่เต็มหลังของเขา ผมบอกให้ลัลยืนตัวตรง จะเก็บภาพให้ดู



เขาทำตาม ผมเลยบอกให้เขาขยับท่าตามต้องการอีกเล็กน้อย ลูกนกเชื่อฟังอย่างไม่มีข้อกังขา



จนพอใจ ผมบอกให้ลัลมาดูภาพที่ตัวเองเป็นนายแบบ



“ปีก?”



“อืม” เขาเดาถูกว่าที่ผมวาดคืออะไร ปีกนกสีฟ้าที่หุบอยู่ไม่ได้ถูกวาดด้วยความสมจริงตามอนาโตมี่นก ไม่ได้สมจริงตามแสงและเงา เป็นเพียงรอยเปรอะเลอะเทอะที่มีรูปร่างคล้ายปีกนกเท่านั้น ผมดีใจที่ลัลมองมันออก



“เห็นแล้วอยากบินเลย” เขาว่า ผมนึกภาพเขามีปีกจริงๆ ขึ้นมา ปีกเล็กๆ คงพยายามสยายออก กระพือพัดลมอย่างช้าๆ ทว่าไม่ได้พาให้ตัวเขาลอยออกจากผืนดิน



“ฉันก็อยากให้นายบินได้เหมือนกัน” ผมบอกเขา



“จะดีหรือ เดี๋ยวผมบินหนีคุณไปนะ”



“ไม่เป็นไรหรอก นายจะไม่ไปไหน” ผมบอก อมยิ้มให้กับลูกนกตัวน้อย



“ป่ะ ไปล้างตัวได้แล้ว”



“ไม่เอา” เขาเถียง “ขออยู่ต่ออีกสักพัก”



 “สีมันเป็นสารเคมี มันจะไม่ดีเอา”



“แล้วคุณก็เอามาวาดตัวผมน่ะนะ?”



“แป๊บเดียวน่า”



“งั้นผมก็ขออยู่อย่างนี้อีกแป๊บเดียวเหมือนกัน”



ผมถอนหายใจให้นกดื้อ “คุณต้องอาบน้ำให้ผมด้วยล่ะ”



และอดทนไม่ให้จับเขาอาบน้ำเสียตั้งแต่ตอนนี้



ผมนั่งวาดรูปต่อ ส่วนลัลก็นั่งเปลือยท่อนบนอยู่ข้างๆ เขานั่งบนพื้น และหลังๆ เริ่มจะเปลี่ยนเป็นนอน ผมลอบมองทุกกิริยาของลูกนกสีฟ้า จากที่นั่งชันเข่าเริ่มเปลี่ยนเป็นนอนคว่ำหน้าเล่นมือถือ จากนั้นก็นอนตะแคง แล้วก็นอนหงาย สักพักก็ลุกมานั่งพิงกำแพงห้อง



ให้ตาย...ผมมองเขาได้ทั้งวันเลยมั้งเนี่ย



ลัลหันมาจ้องตาผม ราวกับรู้ตัวว่าถูกมอง ดวงตาสีฟ้าสวยสะกดให้ผมนิ่งอยู่กับที่ ไม่สามารถมองไปที่อื่นได้อีก เขาเผยอปากกล่าว



“อาบน้ำกันไหม”



ผมยกยิ้ม



เสียดายที่ห้องน้ำไม่มีอ่างอาบน้ำ บ้านทาวน์โฮมถูกออกแบบให้มีพื้นที่ใช้สอยสะดวกและใช้งานได้ง่าย อ่างอาบน้ำที่ใหญ่เทอะทะเกินความจำเป็นจึงไม่ถูกออกแบบให้มี



ผมยืนอยู่ใตฝักบัวกับลูกนกตัวน้อย ลัลยืนหันหลังให้ผมถูสบู่บนตัวเขา ขัดเอาคราบสีที่เป็นปีกนกออกให้ช้าๆ แผ่นสีหลุดลอกออกมาทีละน้อย เผยให้เห็นแผ่นหลังเนียนอีกครั้ง ลูกนกตัวน้อยบัดนี้กลายเป็นมนุษย์เดินดินธรรมดาเสียแล้ว เมื่อคราบสีถูกขัดออกจนหมด ผมก้มจูบที่แผ่นหลังของเขา



ลัลสะดุ้งเล็กน้อยแต่ไม่ได้ว่าอะไร เขาปล่อยให้ผมโอบเอวเขาไว้หลวมๆ ยืนซ้อนอยู่ข้างหลังเขาอย่างนั้น มีเพียงสายน้ำและอากาศที่แทรกกลางระหว่างเรา



สุดท้าย ลัลก็ถอนหายใจ หมุนตัวเข้ามาประจันหน้ากับผม ใช้สองแขนโอบรอบคอผมให้เข้ามาใกล้



และมอบจุมพิตภายใต้สายน้ำที่อาบไปทั่วร่าง



ผมจับท้ายทอยเขาให้เชิดขึ้น ก่อนสอดลิ้นเข้าไปอย่างจาบจ้วง มอบจุมพิตที่ร้อนแรงให้นกน้อยไร้ปีก มืออีกข้างลูบเอวสอบ ไล่ลงไปจนถึงสะโพก และก้อนเนื้อนุ่มสองข้าง อุณหภูมิของสองร่างเริ่มร้อนรุ่ม สายน้ำไม่ช่วยดับความร้อนภายในร่างกายได้



ในห้องน้ำไม่มีถุงยาง เราเลยไม่ได้ทำอะไรไปมากกว่าช่วยปลดปล่อยซึ่งกันและกัน  ผมพาลัลไปนอนที่เตียง ก่อนจะออกไปซื้ออะไรมาให้เขากิน



หลังทานข้าวเย็นเสร็จ ลัลก็เอ่ยออกมา



“ผมว่าจะหางานทำ”



“หืม?”



“งาน...ที่เป็นงานจริงๆ” เขาอธิบาย



“จะทำอะไรล่ะ”



“มีรุ่นพี่มาชวนให้เข้าบริษัทอยู่”



“ไหนว่าไม่ชอบงานด้านนี้ไม่ใช่หรือ”



“อือ ไม่ชอบ แต่จะให้อยู่เกาะจ๊ากตลอดก็ไม่ได้”



“จ๊ากมันก็ไม่ได้ว่าอะไรนี่”



“ผมรู้ ที่จ๊ากให้ผมทำอย่างนี้ก็เพราะรู้สึกผิดที่เขาเข้าข้างฮิมตอนจีบโย...” ลัลเว้นวรรค หายใจเข้า ถอนหายใจออก “จ๊ากก็ไม่ได้ผิดหรอก เขารู้ว่าฮิมไม่ชอบผม แต่คิดว่าฮิมกั๊กไว้ เลยอยากให้ฮิมมีคนอื่น ผมจะได้หลุดพ้นจากเขา”



“แต่พอผมขาดฮิมผมก็เป๋ไม่มีชิ้นดี”



“อืม” ผมครางรับ พอจะนึกออกที่จ๊ากคอยเป็นห่วงลัลขนาดนี้ สภาพตอนเขาเป๋น่าเป็นห่วงน้อยที่ไหน



“แล้ว...จะเริ่มวันไหนล่ะ”



“เดือนหน้าเลยมั้ง” เขาตอบ เดือนหน้าที่กำลังจะมาถึงนั้นเหลืออีกเพียงหนึ่งอาทิตย์ ผมพยักหน้ารับ



“แล้วร้านจ๊ากล่ะ”



“ขาดผมคนเดียวไม่เป็นไรหรอก”



“ไม่บอกมันหน่อยหรือ”



“ว่าจะบอกคืนนี้แหละ”



“อืม” ผมรับคำ นั่นแปลว่าคืนนี้ผมต้องไปร้านจ๊ากอีก จากครั้งที่แล้วที่ผมเจอโย ก็ผ่านมาสองสามวันได้แล้วที่ไม่ได้ไปเยือนร้านเหล้าประจำ



และอย่างที่คิด ในคืนนี้เราไปร้านเหล้าไอ้จ๊ากกัน เจ้าของร้านถามไถ่เรื่องราวเล็กน้อย แต่ไม่ได้จาบจ้วง เรานั่งลงตรงที่ประจำเหมือนเคยและไอ้จ๊ากก็เอาเบียร์มาเสิร์ฟให้เหมือนเคย วันนี้ไม่เห็นจิ้งจอก วัวเลยมา ผมปล่อยให้ลัลเล่นกับแมวลายวัวไป ส่วนตัวเองขอนั่งดูห่างๆ



ใบหน้าละมุนยามมีรอยยิ้มประดับนี่ช่างงดงามจริงๆ ผมอยากให้ลัลยิ้มบ่อยๆ



หมดเบียร์ตรงหน้า ผมยกบุหรี่ขึ้นมาสูบ มองไปทั่วร้านแทน วันนี้คนไม่มากไม่น้อย เมื่อหันกลับมา ลัลก็ปล่อยเจ้าวัวลงไปแล้ว แมวลายวัวเดินส่ายหางอาดๆ ไปทางไอ้จ๊าก คงรู้ว่าจะหาอาหารได้จากไหน



“ไปล้างมือด้วย” ผมสั่ง ไม่อยากให้เขาเปื้อนขนแมว เพราะผมจะกอดเขาไม่ได้ เขาพยักหน้ารับ เดินไปห้องน้ำ ผมเห็นมีคนเดินตามลัลไปทันทีที่เขาลุกขึ้น ไม่ไว้ใจผู้ชายคนนั้นเท่าไหร่เลยลุกตามไปห้องน้ำด้วยอีกคน



และอย่างที่คาด ลัลกำลังถูกจีบ



ซินเดอเรลล่าคนงามไม่หือไม่อือกับคนเข้ามาพูดคุยด้วย เขาแค่ทำธุระของตัวเองไป ล้างมือเสร็จก็เช็ดมือ แล้วก็หันมาเจอผม ริมฝีปากสวยยกยิ้มมุมปาก ผมรับรู้ได้ทันทีว่าเจ้าเด็กนี่คิดอะไรพิเรนท์อยู่แน่ๆ



เขาเดินเข้ามา จับผมไปจูบต่อหน้าคนไม่รู้จัก



ผมไม่ได้หลับตา จึงเห็นอีกฝ่ายทำหน้าตาตกใจเล็กน้อยก่อนออกจากห้องน้ำไป ผมรู้ว่าลัลรับรู้ แต่เขาก็ไม่หยุดจู่โจมผม ในห้องน้ำตอนนี้ไม่มีใครทำให้เราครอบครองพื้นที่นี้ได้อย่างเป็นส่วนตัว ลัลจูบผมอย่างตะกละตะกราม ดูดดึงริมฝีปากซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนเกิดเสียงดังจ๊วบจ๊าบ ผมคิดว่ามันคงบวมเจ่อ ทั้งปากของผมและของเขา



ลัลเลื่อนลงมาประทับรอยจูบที่ต้นคอผม ขบเม้มจนเกิดรอยจูบสีกุหลาบเต็มคอ คล้ายกับเป็นสร้อยที่สลักลงไปแสดงความมีเจ้าของ พอเจ้าตัวพอใจ เขาก็ปล่อยผม



ที่โต๊ะเรามีไอ้จ๊ากนั่งรอ พอมันเห็นพวกผมเดินมาก็ร้องแซวเสียงดัง หาว่าลัลหวงผมอะไรขนาดนี้



“จ๊ากเอาด้วยไหมล่ะ” แต่พอลัลถามบ้าง เจ้าของร้านเหล้าก็ได้แต่ถลึงตาใส่เงียบๆ พร้อมกับกระถดไปหนึ่งช่วงตัว



พวกเขาเริ่มคุยกันถึงเรื่องงานที่ลัลจะไปทำ ไอ้จ๊ากยิ่งยินดีใหญ่เพราะที่บริษัทนั้นให้เงินเดือนดี เป็นบริษัทของรุ่นพี่ที่คณะที่จบไป แต่ติดตรงที่อาจจะใช้งานหนักหน่อย ถึงอย่างนั้นก็ไม่ค่อยน่าเป็นห่วง จ๊ากบอกว่าลัลเก่งมาก เป็นตัวท็อปของรุ่น มาเหลวแหลกแค่ช่วงธีสิส ...ช่วงที่ฮิมไปมีโย



แน่นอนว่าประโยคนั้นไม่มีใครพูดถึง แต่ทุกคนรับรู้ได้



คุยไปคุยมาลัลก็ขอไปห้องน้ำอีกครั้ง จึงเหลือแค่ผมกับจ๊ากนั่งด้วยกัน



“ผมรู้สึกผิดหน่อยๆ น่ะพี่ ที่ทำกับลัลอย่างนี้”



“อย่างไหน?”



“ก็ทั้งเรื่องที่เชียร์โย...อันนั้นถือว่าจบไป แต่เรื่องที่ให้เขามานั่งประดับร้านอย่างนี้ มันเหมือนว่าผมให้เขามานั่งประดับเป็นของแปลก”



“ลัลไม่คิดอย่างนั้นหรอก มึงเองก็ไม่ได้คิดไม่ดีไม่ใช่เหรอ”



“ก็ใช่ ผมอยากช่วยมันนะ แต่ไม่รู้ว่าทำแบบนี้มันดีหรือเปล่า พอลัลบอกจะหางานทำผมดีใจมากๆ เลย อ่ะ ไม่ได้แปลว่าผมไม่อยากให้เขาไปจากร้านผมนะ ผมแค่ดีใจที่ลัลยอมก้าวไปข้างหน้าบ้างแล้ว”



“อืม...เข้าใจ”



“มันมานั่งอย่างนี้ลูกค้าเข้าร้านผมเยอะขึ้นก็จริง แต่นานๆ ไปก็คงเบื่อกันไปเอง ไม่ได้เป็นปัญหาสำหรับผมหรอกถ้าจะจ้างเขาไว้นานๆ อ่ะ พี่เข้าใจป่ะ แต่มันแบบ...ผมไม่ชอบเห็นมันมานั่งเศร้าๆ แบบนี้เลย”



“อืม”



“แต่ถ้าไม่คอยดูมันไว้ก็กลัวมันไปทำอะไรอีก เดาใจยากจะตาย เกิดจู่ๆ ไปขายกัญชาผมคงเป็นบ้า”



ผมหัวเราะขำ



“ขอบคุณพี่นะ ที่ช่วยดูแลลัล”



“กูเต็มใจ”



“ดูแลเพื่อนผมนานๆ นะพี่ อย่าให้มันเสียใจ”



“กูรู้หน่า” ผมบอกไอ้จ๊าก และลัลก็เสร็จธุระพอดี เขาเดินมาที่โต๊ะ ใบหน้าบึ้งตึง ผมสงสัยว่าทำไมเขามีท่าทางไม่พอใจขนาดนั้นจนกระทั่งเห็นคนที่เดินตามเขามาด้วย เป็นคนเดียวกับที่ผมเจอในห้องน้ำ



อ่า...ตื๊อไม่เลิกเลยแฮะ



ลัลมีสีหน้างุดเงี้ยว เดินปึงปังมาที่ผม และนั่งคร่อมลงที่ตักผมแบบไม่รอให้ผมอนุญาตใดๆ



แต่ผมก็โอบเอวเขาไว้ อมยิ้มขำ



“ผมอยากกลับแล้ว” เขาบอก เอื้อมแขนมากอดคอผมไว้



“ได้สิ”



ผมบอกเขา ลุกขึ้นพาเจ้าหญิงออกจากร้าน หลบหนีคนขี้ตื๊อ ปล่อยให้จ๊ากรับมือไป








บางทีเราก็ไม่ได้ต้องการอะไรมากมายนอกจากชีวิตประจำวันสงบสุข

น้องลัลใกล้จะจบแล้วนะคะ ขอบคุณทุกการติดตามค่ะ

:)

#ณพระจันทร์

ออฟไลน์ aha_aha

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 101
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-5
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
«ตอบ #259 เมื่อ21-07-2018 22:40:01 »

เหมือนว่าคู่นี้จะสลัดอดีตทิ้งได้ละ ดีๆ ดีใจที่จะได้เริ่มใหม่สักที แต่อีกคู่... ขอตบฮิมส่งท้ายสักที่เถอะนะ เกลียด!!

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
« ตอบ #259 เมื่อ: 21-07-2018 22:40:01 »





ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
«ตอบ #260 เมื่อ21-07-2018 23:10:26 »

 :pig4: :pig4: :pig4:

คุณลัล  พัฒนาไปอีกขั้น  หลังจากจมอยู่ในวังวนอดีตที่ยาวนานนับปี

ออฟไลน์ mkianit

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 298
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +11/-3
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
«ตอบ #261 เมื่อ22-07-2018 02:42:17 »

น้องลัลไม่ต้องไล่ตามอีกแล้วนะรุ้กกกกก มีคุณคอยอยู่ข้างๆไม่ไปไหนแล้ววเอ็นดูวววว ส่วนฮิมกับโยไม่ขอเอ่ยถึง ขอโทษที่สองมาตราฐานค่ะ55555555555555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
«ตอบ #262 เมื่อ22-07-2018 03:48:52 »

เปิดใจแล้วมาคุยกัน มันก็ดีอย่างนี้แหล่ะ  :hao3:

ออฟไลน์ Ginny Jinny

  • ความเป็นจริงมันวุ่นวาย ก็ขอให้ใจมันสบายๆในความฝัน
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2099
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-4
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
«ตอบ #263 เมื่อ22-07-2018 07:46:34 »

น้องซิลมีความสุขจริงๆสักทีเนอะ  :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ labelle

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2664
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.15 am.| 21.7.2018 p.9
«ตอบ #264 เมื่อ22-07-2018 20:52:52 »

ทุกอย่างตอนนี้เป็นอดีตไปหมด
เริ่มต้นด้วยความสับสน และจบลงที่ไม่เข้าใจ
เจ็บปวดกันหลายคนเลย ทิมนี่ยังไง แค้นหรือแค่อยากแกล้ง

ทุกคนอยากให้ลัลมีความสุขจริงๆ สักที
ลัลก็ทำได้ดีแล้วนะ ค่อยๆ ไปเนาะ ไม่ต้องรีบ

คุณติดลัลแล้ว แถมไปรับปากน้องอีก
ไม่มีทิ้งแน่นอน ตอนนี้ก็เคลียร์ใจบ้างแล้ว
เป็นไปได้ ก็ไปเคลียร์กันด้วยนะ จะได้ไม่ค้างคา

สงสารโยนะ น้องพลาดไป แถมยังต้องถูกกดดันจากที่บ้านด้วย
อย่างน้อยน้องก็ยังไม่ถูกลืมถาวร และเจอเพื่อนใหม่ที่ดี
ฮิมก็พยายามเข้าล่ะ จะรักทั้งที ทำให้ดีนะ น้องเจ็บมาเยอะ

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.15 am.| 22.7.2018 p.9
«ตอบ #265 เมื่อ22-07-2018 21:36:25 »

1.15 am.



ผมคบกับโยมาได้ปีกว่าแล้ว



มันมีทั้งเรื่องที่ทำให้หัวใจพองโตและเรื่องที่น่าหงุดหงิดไปพร้อมๆ กัน ผมต้องปรับตัวเข้าหาโยอีกมาก โยเองก็เช่นกัน นิสัยของเราตอนแรกไม่ได้เข้ากันได้ง่ายๆ เพียงแต่เราตัดสินใจกันแล้วว่าจะมีกันและกัน มันก็เลยต้องปรับเข้าหากัน ผมโอเคกับการที่ได้นอนร่วมเตียงเดียวกับเขา แต่ไม่โอเคที่จนตอนนี้โยก็ไม่ยอมให้ผมทำมากไปกว่าจูบ



มันน่าอึดอัดมากให้ตาย



แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน



ผมเคยลองเนียนเล้าโลมเขาดูแล้ว ผลที่ได้คือหนูจี๊ดเตลิดไปเลย จนถอดใจ ยอมมานอนจับมือใสๆ ก็ได้ เหมือนโยธาเองก็รู้ว่าผมต้องอดทน เขาเลยขอโทษผมบ่อยครั้ง



เราก็ทะเลาะเรื่องนี้บ่อยกว่าเรื่องอื่นๆ และเป็นผมเสมอที่ยอมให้เขา



ผมบอกโยว่าไม่เป็นไร ผมทนได้ เขาก็ได้แต่ขอโทษซ้ำๆ เขาไม่พร้อม ผมก็ไม่อยากเร่งเร้า แต่ปีนึงแล้วก็ยังไม่พร้อมเนี่ย ผมพยายามเข้าใจ ผมแยกเซ็กซ์ออกจากจากรักไม่ได้ แต่โยไม่ได้เป็นเหมือนผม เขาแยกสองสิ่งนี้ขาดออกจากกันโดยสิ้นเชิง ผมก็เลยได้แต่แทะเล็มเล็กๆ น้อยๆ แค่นั้น เรียกได้ว่ายอมจนไม่รู้จะยอมยังไงแล้ว



แต่นอกเหนือจากนี้ผมมีความสุขดี



การมีโยธาอยู่ข้างๆ ทำให้ผมไม่ต้องการอะไรมากมาย แค่อยู่ช่วยเหลือเขา เป็นกำลังให้เขา เป็นที่พึ่งให้เขา เป็นที่ปรึกษาให้เขา เป็นอะไรก็ได้ที่เขาให้ความสำคัญ ผมพอใจมากแล้ว



โยยังคงกังวลเรื่องลัล



อันที่จริงโยปลื้มลัลเลยล่ะ เขาบอกว่าลัลเป็นไอดอล เพราะรู้มาว่าลัลไม่ได้อยากเรียนคณะนี้เท่าไหร่ แต่กลับทำทุกวิชาออกมาได้ดี โยเลยอยากทำได้บ้าง



ลัลเก่งจริงๆ นั่นแหละ เขาเลือกเรียนตามผม แต่ดันทำได้ดีกว่าผมเสียอีก



ผมพยายามเข้าไปพูดคุยกับลัลในบางครั้ง แต่มันก็แย่ลงทุกครั้ง ลัลดื้อเงียบและเป็นคนที่เก็บทุกอย่างไว้ที่ตัวเอง การที่เขาไม่หือไม่อือกับผมไม่ได้แปลว่าเขาโอเค ลับหลังจากนั้นลัลแทบเป็นบ้าเสมอ ผมไม่เคยเห็นน้ำตาของลัลเลยสักครั้ง เขาไม่เคยร้องไห้ต่อหน้าผม แต่ใช่จะหมายความว่าเขาร้องไห้ไม่เป็น จนจ๊ากขอให้ผมอยู่ห่างเขา ผมถึงได้ยอมถอย



ผมนึกเสียใจอยู่เช่นกันทำที่เพื่อนที่วิเศษที่สุดหลุดมือไป



แต่เพราะยิ่งเข้าใกล้ยิ่งแย่ จึงเลือกถอยออกมา โยเองก็ไม่สบายใจที่ผมไม่ได้สนิทกับลัลเช่นเดิม ผมก็ได้แต่บอกโยว่ามันไม่ใช่ความผิดของเขา การที่ผมเลือกมาอยู่กับเขา เป็นเพราะผมเลือกเอง เจ้าหนูนี่ก็พยายามอยากให้ทุกอย่างจบลงด้วยดี ผมเข้าใจ แต่มันไม่ง่ายอย่างนั้น



ผมนั่งลงข้างๆ โยธา ที่ตอนนี้กำลังดูหนังอย่างบ้าคลั่ง



เราปิดเทอมแล้ว และผมก็เรียนจบแล้ว ได้งานอยู่ที่ออฟฟิศหนึ่งไม่ไกลจากตัวเมือง ส่วนโยธาก็มีเวลาพักเต็มที่ ก่อนเริ่มเทอมต่อไป



ผมติดต่อลัลไม่ได้เลยหลังเรียนจบ และหลังจากที่เขาสาดเหล้า...ใส่โยของผม



อันที่จริงมันก็น่าหงุดหงิดที่เขาทำตัวแบบนี้ แต่คิดดูอีกทีมันเป็นเพราะผมที่ทำให้เขากลายเป็นคนรั้นเช่นนี้ จะโทษใครก็ไม่ได้ โยเองก็ไม่ได้ถือโทษโกรธอะไร เราจบวันนั้นกันด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย



ผมคิดว่าผมคงเข้าหน้าลัลไม่ติดแล้ว และโยก็คงรู้ว่าแผนการที่จะทำให้ผมกับเขากลับเป็นเพื่อนกันก็คงจบลงแล้ว



สำหรับลัล ผมให้เขาเป็นคนพิเศษตลอดไป จะรอจนกว่าจะมีวันที่เขายอมให้อภัยผมได้ และกลับมาพูดคุยกันได้ดังเดิมอีกครั้ง



ผมรู้ว่าลัลไปอยู่กับจ๊าก ก็ได้แต่ฝากให้จ๊ากช่วยดูแล ไอ้จ๊ากเป็นอีกคนที่ห่วงลัลอย่างสุดใจ ผมเชื่อว่ามันจะทำให้ลัลไม่แย่ลงได้ และได้แต่ติดตามความเป็นไปของลัลอย่างห่างๆ



เวลาผ่านไป จนกระทั่งผมรู้ว่าลัลมีคนคอยดูแล



จ๊ากเล่าให้ฟังถึงเรื่องราวของคนๆ นั้น บอกว่าลัลดูเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีขึ้น ไม่เหม่อและดูจมดิ่งเหมือนเมื่อก่อน ในใจผมยินดีกับเรื่องที่เกิด ตั้งใจจะแอบไปดูเพราะอยากรู้ว่าคนๆ นั้นไว้ใจได้มากน้อยแค่ไหน ไม่ได้อยากเข้าหาหรือรบกวน แต่พอเห็นหน้าเขา ผมกลับห้ามสองขาของตัวเองไม่ได้



และมันก็แย่เอามากๆ เมื่อลัลทำหน้าเหมือนจะร้องไห้เมื่อเห็นหน้าผม



จ๊ากเป็นคนพาตัวผมให้ออกห่างลัล ผมเห็นเพื่อนของผมซบลงกับบ่าคนข้างๆ และเขาเป็นคนพาเขาออกไป แม้จะเสียดายที่ไม่ใช่ตัวเองที่ได้อยู่ข้างเขาเหมือนเมื่อก่อน เสียใจที่ทำให้เขาเสียใจอีกแล้ว แต่อีกใจก็ดีใจที่ลัลคอยมีใครสักคนคอยอยู่ดูแลเขาจริงๆ



วันนั้นผมกลับมาพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ นั่งนิ่งอยู่บนโซฟา จนหนูจี๊ดสังเกตในพฤติกรรมประหลาดของผม เขาลงมานั่งข้างๆ ถามไถ่เรื่องราว



ผมไม่อยากปิดบังเขา จึงบอกความจริงไปว่าไปเจอลัลมา พร้อมกับเล่าทุกอย่างให้ฟัง



โยไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แต่เขาขยับมือมาจับมือผมไว้ สัมผัสอุ่นๆ ในมือของเขาทำให้ผมคลายกังวลอย่างง่ายดาย



“ผมว่าคงมีสักวันที่พวกเราสามารถคุยกันได้อย่างสนิทใจเนอะ”



เขาเอ่ย



ผมเอี้ยวตัวไปหอมแก้มนิ่มๆ นั่น และหวังว่าจะมีสักวันที่เป็นเช่นนั้นได้จริงๆ



ทว่าโยธาทำให้ผมแปลกใจ เมื่อเขาไม่หดคอหนีเหมือนทุกที แต่กลับหันหน้าเข้ามาประกบปากกับผม เป็นครั้งแรกที่เขาเริ่มก่อนทำให้ผมแปลกใจ โยทำเพียงเอาริมฝีปากมาแตะกับปากผม กดย้ำๆ เหมือนต้องการให้ผมรับรู้ว่าเขาคอยอยู่ข้างๆ



ผมชะงักไปสักพักแต่เพียงเสี้ยววินาทีผมก็จูบเขากลับ ยกมือจับท้ายทอยคนตัวเล็กให้ป้อนรสจูบได้ง่ายขึ้น ค่อยๆ ไล่เล็มริมฝีปากเล็กไปจนถึงลิ้นร้อนในโพรงปาก ละเลียดละเลงความรู้สึกขอบคุณที่มีเขาอยู่ตรงนี้



“อือ”



โยธาร้องเบาๆ พยายามใช้มือจับหน้าอกของผม นั่นหมายความว่าเขาบอกให้พอ



ผมถอนจูบ ยกยิ้มให้หนูตัวน้อย โยยิ้มให้ผมเบาบางจนอดไม่ได้ที่จะจูบลงที่ปลายจมูกรั้นอีกครั้ง ก่อนคว้าเขาเข้ามากอดแนบอก



ดีใจจริงๆ ที่ผมไม่ยอมแพ้ไปเสียก่อน และมีเขาในอ้อมแขนจนถึงทุกวันนี้



 






#ณพระจันทร์

ออฟไลน์ malula

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7208
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +622/-7
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.15 am.| 22.7.2018 p.9
«ตอบ #266 เมื่อ22-07-2018 23:04:50 »

ฮิมลงเอยกับโยก็เหมาะแล้ว ลัลสมควรอยู่กับคนที่เห็นค่าเขามากกว่าแค่คำพูดลอย ๆ

ออฟไลน์ DrSlump

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3360
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +104/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.15 am.| 22.7.2018 p.9
«ตอบ #267 เมื่อ22-07-2018 23:52:12 »

 :pig4: :pig4: :pig4:


ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |1.15 am.| 22.7.2018 p.9
«ตอบ #268 เมื่อ23-07-2018 02:54:59 »

อยู่ในช่วยปรับตัวกันทุกคน ขอให้ผ่านมันไปได้ด้วยดีนะ

ออฟไลน์ Raccool

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 318
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +237/-2
Re: ❍ Into the moonlight #ณพระจันทร์ |00.16 am.| 25.7.2018 p.9
«ตอบ #269 เมื่อ25-07-2018 22:51:37 »

00.16 am.


     ลัลยังคงป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวผม


     เขากลิ้งตัวอยู่บนพื้นห้องสตูดิโอ ไม่ได้เกะกะการทำงานแต่ก็ทำให้หลุดโฟกัสจากภาพวาดอยู่บ่อยๆ ทำไงได้ ก็เขาเย้ายวนเสียขนาดนี้ แต่ครั้งนี้ลัลไม่ได้นอนเล่นเหมือนทุกที แล็ปท็อบของเขาถูกยกขึ้นมาใช้งาน


     ลัลเข้าทำงานที่บริษัทนั้นแล้ว


     ทำงานจันทร์ถึงเสาร์ แต่วันนี้วันอาทิตย์ เขายังคงต้องการนั่งแก้แบบที่ได้รับมา เพื่อที่วันต่อไปจะได้ทำงานต่อได้อย่างราบรื่น ส่วนผมทำงานทุกวันไม่มีวันพัก


     ผมพักสายตาโดยการจ้องไปที่ลัล นั่งมองเขาใช้โปรแกรมที่ผมไม่รู้จัก คลิกนั่นคลิกนู่นไปมา ผมอมยิ้ม เห็นเขาเริ่มทำอะไรสักอย่างแล้วรู้สึกดี ดีที่เขาไม่ต้องนั่งเหม่อ จมลงไปในโลกแห่งความอ้างว้าง


     คนขยันทำงานรู้ตัวว่ามีคนจ้อง เขาหันมาสบตาผม


     และเผยรอยยิ้ม ที่อบอุ่นวาบไปทั้งใจ


     “คุณ...หน้าเปื้อนสี” พลันผมก็รับรู้ได้ทันทีว่าเขายิ้มเพราะอะไร


     ผมยิ้มกลับ ไม่ได้ใส่ใจกับใบหน้าตัวเอง และก่อนที่จะได้หันกลับไปปาดภาพวาดตรงหน้าต่อ ลัลก็ลุกขึ้นมาช้อนใบหน้าของผมไว้ แล้วประกบจูบแผ่วเบา เป็นแค่การนำริมฝีปากมาแตะกันเฉยๆ ทว่าอุ่นวาบไปทั้งใจ


     “...อะไรเนี่ย” พอเขาถอนจูบไป ผมเอ่ยถามพร้อมหัวเราะขำ


     “ผมแค่อยากจูบคุณ”


     เขาเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม สดใสและเจิดจ้ายิ่งกว่าแสงของพระอาทิตย์ อบอุ่นและสงบกว่าแสงของพระจันทร์


     ผมคว้าเขามานั่งที่ตัก ระดมจูบคนน่ารัก ละทิ้งพู่กันในมือ ลงจากเก้าอี้ ผลักเขาลงบนพื้นไม้ ก่อนเริ่มละเลงบทเพลงรักในห้องสตูดิโอที่เปื้อนสีอีกครั้ง


     ล้วงมือเข้าไปในสาบเสื้อ กดหน้าท้องแบนราบให้เป็นแนวเดียวกับพื้นไม้ อีกมือล้วงเข้ากางเกงขาสั้นของเขา บีบเค้นต้นขา ไล่ขึ้นไปจนถึงบั้นท้ายกลม ผมเกี่ยวกางเกงของเขาให้หลุดออกจากสะโพก ลัลให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เขายกเอวขึ้นปล่อยให้ผมกระชากกางเกงไปกองไว้ที่ข้อขา


     ลัลนอนอยู่บนพื้น ผมยาวสยาย ดวงตาคู่สวยจับจ้องมายังผมที่อยู่บนตัวเขา ผมเลิกเสื้อยืดของเขาให้เปิดขึ้นไปถึงเนินอก ลากมือลูบแผ่นท้องนวลไล่ไปหาเม็ดสีชมพูบนหน้าอกเขา สะกิดเขี่ยเล่นกับมันให้คนใต้ร่างบิดดิ้น ก่อนลงไปป้อนจูบให้เขา โดยที่มือยังคงไม่ละหน้าที่กับการเล่นยอดติ่งไตที่ชูชันของเขา


     ผมบดจูบ กดริมฝีปากเน้นย้ำกับริมฝีปากล่างของเขา ลัลอ้าปากงับริมฝีปากผม สอดลิ้นอุ่นเข้ามา สองมือของเขายกมือจับหน้าผมแน่น ไม่ให้ผมพลาดรสจูบร้อนแรงครั้งนี้ ผมวางแขนลงข้างๆ ตัวเขา ยันตัวไม่ให้ลงน้ำหนักทับคนตัวเล็กกว่า พร้อมใช้มืออีกข้างไล่จากหน้าท้องขาวไปสู่ส่วนกลางของลำตัว ขยับจับลัลน้อยไว้ในกำมือ


     “อืม...” เขาร้องเสียงแผ่วเมื่อโดนสัมผัส


     ลัลปล่อยมือเขาออกจากใบหน้าผม ขบริมฝีปากล่างระบายความเสียวซ่าน ผมขยับมือเล่นแก่นกายของเขาจนมันสู้มือ ก่อนปล่อยออก


     ลัลผุดลุกขึ้นมานั่งคร่อมแทน


     เขาจับหน้าท้องผมยึดไว้บนพื้นแข็ง ปลดเชือกที่กางเกงวอร์มผมออก ล้วงมือเข้าไปอย่างไม่รอช้า นิ้วเรียวละเลงพรมลงส่วนกลางลำตัวของผมบ้างอย่างไม่ยอมแพ้ ผมยกยิ้มขำเมื่อเห็นเจ้าแมวตาฟ้าพยายามสู้กลับ


     ลัลเบ้ปากไม่พอใจที่ผมหัวเราะเขา


     คนขี้ยั่วเลยจัดการถลกกางเกงผมลง ก่อนก้มลงไปเชยชิมแก่นกายอย่างไม่รอให้ผมร้องห้าม ลิ้นเล็กชโลมตั้งแต่ปลายจรดโคน เขาตวัดลิ้นร้อนเลียไปทั่ว ไล่ขึ้นมาละเลงส่วนปลายจนผมแทบทนไม่ไหว จนพอใจแล้วถึงห่อปากแล้วกลืนมันเข้าไป


     ผมจิกหัวของเขาอย่างหมายระบายอารมณ์ เจ้าลัลที่โดนผมทึ้งหัวเอียงหัวช้อนตามองทั้งๆ ที่ของยังเต็มปาก ผมกัดฟันแน่น เพลิงความต้องการร้อนระอุ และก่อนที่มันจะมากกว่านั้น ผมดึงหัวลัลให้เขาเลิกเล่นกับน้องชายตัวเอง


     ปากของลัลที่หลุดจากแก่นกายของผมส่งเป็นเสียงดังป็อบ


     ผมรีบพาเขาย้ายมานั่งบนตัก ถลกเสื้อเขาออกไป กดใบหน้าตัวเองเข้ากับซอกคอหวาน กัดชิมมันจนเกิดรอยแดง ไล่ชิมเนื้อเขาไปจนถึงแผ่นอก ลัลร้องอืออาในลำคอ มือสวยจิกครูดที่หลังผมอย่างแรง


     ผมโอบตัวเขาไว้ ฝ่ามือจากที่ประคองเอวเขาเริ่มเลื่อนลงต่ำ ขยำก้อนเนื้อนุ่มสองข้างก่อนชำแรกนิ้วของตัวเองเข้าไปในตัวเขา ลัลแอ่นตัวขึ้นเพื่อให้ผมสอดนิ้วเข้าไปง่ายกว่าเดิม และตอนนั้นเองผมถึงได้รู้ว่าห้องนี้ไม่มีถุงยาง


     “...ถุงยางอยู่ในห้องนอน”


     “ช่างมัน...” เขาบอก


     ผมเองก็ไม่อยากลุกไปให้เสียจังหวะ เลยค่อยๆ ใช้นิ้วคลึงช่องทางของเขาให้ขยายออก ลัลโอบแขนข้างหนึ่งรอบคอผม ส่วนอีกข้างกุมแก่นกลางลำตัวของตัวเอง ขยับรูดรั้งขึ้นลงช้าๆ


     ผมถอนนิ้วออกมาก่อนแตะไปยังส่วนปลายของลัลเมื่อคิดว่าช่องทางเริ่มฝืดเคือง ละเลงเอาน้ำรักออกมาจนชุ่มมือ ลัลร้องเสียงหลงบิดตัวและจิกมือลงที่แขนผมขูดเป็นทางยาว


     สองนิ้วถูกส่งเข้าไปสำรวจในตัวลัลอีกครั้ง สะกิดหาจุดกระสัน ก่อนเขาจะกระตุกเกร็ง ปลดปล่อยน้ำขุ่นออกมา


     หยาดน้ำตาเคลือบดวงตาสีฟ้าของเขาไว้ สะท้อนแสงพระอาทิตย์ที่ลักลอบสาดส่องเข้ามาในห้อง ประกายในดวงตาของเขางดงามกว่าเดิม ลัลหอบหายใจเบาๆ ไอความร้อนจากร่างกายเขาเข้าปะทะกับร่างผม ลัลขยับปากแดงเจ่อ ร้องบอก


     “เอาเข้ามาได้แล้ว”


     ไม่ว่าเปล่า มือซนของเขาเอื้อมไปจับส่วนกลางลำตัวของผม ขยับทักทายมันสองสามที และเคลื่อนสะโพกตัวเองให้มันจ่อกับช่องทางของเขา


     ผมยึดสะโพกมนของเขาไว้มั่น จับแก่นกายตัวเองก่อนจะพามันเข้าสู่ร่างของอีกฝ่าย


     ลัลค่อยๆ กดตัวมาจนมิด เขาหอบหั่ก กอดคอผมไว้ ส่วนผมก็ลูบไปทั่วหลังเขา


     “แน่น” เขาเอ่ย ผมยกยิ้มให้กับคำอธิบาย ขยับตัวไปปิดปากแดง พร้อมกับจับสะโพกของเขาให้ขยับขึ้นลงช้าๆ


     ลัลให้ความร่วมมืออย่างดี เมื่อเขาเองก็ค่อยๆ ขยับเอวตัวเองให้เข้ากัน สอดรับกับจังหวะที่ผมมอบให้ จากค่อยๆ เนิบช้าเริ่มเร่งเร็วขึ้น ร้อนแรงขึ้น จนเสียงเนื้อกระทบกันดังลั่นห้อง ลัลครางเสียงหวาน ขยับสะโพกไม่หยุด


     จนผมผลักให้เขานอนลงกับพื้น จับขาของเขาพาดบ่า สอดใส่แก่นกายให้ลึกกว่าเดิม ขยับเร่งเร้าตามอารมณ์ที่พุ่งสูงขึ้น คนใต้ร่างร้องเสียงหลง กัดริมฝีปากตัวเองคล้ายต้องการกลั้นความกระสันเสียว ผมก้มลงไปชิมกกหูของเขา ไล้ลิ้นเลียไปจนถึงต้นคอ ขบกัดมันอย่างมันเขี้ยว จนสุดท้ายลัลก็ปลดปล่อยออกมาอีกครั้ง


     ผมถอนตัวออกจากร่างเขา ขยับมือรูดรั้งส่วนอ่อนไหว และในไม่ช้ามันก็พ่นหยาดน้ำขุ่นเปรอะเต็มหน้าท้องขาวของคนใต้ร่าง กระเซ็นทับรอยเดิมที่เคยมีของเหลวของเขาก่อนหน้านี้


     เขานอนหอบอยู่ใต้ร่างของผม ร่างเปลือยเปล่าผิมขาวนวลขึ้นสีแดงระเรื่อ แผ่นอกขยับเคลื่อนขึ้นและลง รอยจูบสีกุหลาบที่กระจายอยู่เต็มตัวของเขา เส้นผมดำแผ่สยายพันกันยุ่งเหยิง และแววตาสีฟ้าฉ่ำน้ำ องค์ประกอบทุกอย่างราวกับเขาเป็นคนในภาพวาดที่หลุดออกมา ไม่ก็อยากจับเขาวาดมันเสียตอนนี้ งดงามไปหมดทุกสัดส่วน


     ผมเอื้อมไปหยิบเสื้อตัวเองมาเช็ดน้ำขุ่นที่เปรอะหน้าท้องเขาให้สะอาด เสร็จสิ้นก็โยนมันทิ้ง ล้มตัวนอนข้างกาย นอนพักเอาแรง


     จบบทเพลง ผมและเขาต่างกอดก่ายกันบนพื้นห้อง ไม่มีใครมีทีท่าว่าจะลุกไปไหนก่อน ผมเกลี่ยเส้นผมยาวนุ่มของเขาไปมา นอนจ้องเพดานเพลินๆ ลัลปล่อยให้ผมเล่นเส้นผมตัวเอง ขยับมานอนหนุนแขนผม


     ผมมองความเงียบในอากาศ ห้องสตูดิโอในมุมต่ำก็แปลกตาไปอีกแบบดี แสงที่เข้ามาทางหน้าต่างตรงนั้นสาดเป็นเส้นจนเห็นไรฝุ่นลอยจางๆ


     “คืนนี้ไปร้านจ๊ากกันไหม” ลัลเอ่ยถามพร้อมดวงตาคู่สวยที่ช้อนมอง ขณะอยู่ในอ้อมกอดของผม


     “เอาสิ”


     “งั้นเดี๋ยวขอเคลียร์งานก่อน แปลนยังไม่เสร็จเลย” เขาว่า ขยับตัวยุกยิก ยันตัวลุกขึ้นนั่ง และก็เริ่มทำงานทั้งๆ ที่ยังเปลือย


     ผมมองรอยจูบที่เลอะเต็มหลังของเขาด้วยฝีมือตัวเอง รอยสีกุหลาบแต้มไปทั่วทุกพื้นผิวคนตัวขาว พอเขามานั่งเปลือยให้ดูอย่างนี้เห็นแล้วนึกอยากขย้ำอีกรอบ


     ลัลนั่งคลิกเมาส์สลับกับกดคำสั่งที่แป้นพิมพ์ในโปรแกรมที่ผมไม่รู้จัก ผมลุกขึ้น เก็บเสื้อผ้าที่เปรอะเปื้อนทั้งของตัวเองและของเขาทีละชิ้น ก่อนนำมันไปใส่ในตะกร้าเตรียมซัก เดินโทงๆ ไปมาอยู่ในบ้าน หยิบกางเกงขาสั้นมาใส่ก่อนหากางเกงไปให้ลัลด้วย เมื่อเดินเข้ามาในห้อง ผมก็นำกางเกงยื่นให้เขาสวม


     ผมเดินร่อนไปทั่วห้องสตูดิโอ เนื่องจากหมดอารมณ์จะวาดรูปต่อ พลันเห็นเฟรมภาพวาดที่เปื้อนสีฟ้าไปทั้งผืนวางพิงอยู่ที่ผนังมุมหนึ่งในห้องสตูดิโอ


     ภาพสีฟ้าที่ผมพยายามนำดวงตาของเขามาเก็บไว้


     ผมอมยิ้ม หยิบมันมาพิจารณา ขนาดของมันไม่ได้ใหญ่ แต่ทรงพลังมากสำหรับผม ผ้าใบทั้งผืนไม่ได้มีรูปอื่นใดนอกจากสีฟ้าที่ละเลงไปทั่ว อืม...ยังใช้ไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้เลวร้ายเหมือนแต่ก่อน สีฟ้าในภาพดูสดใสขึ้น มีจิตวิญญาณมากขึ้น แต่เหมือนยังขาดอะไรบางอย่าง


     ผมวางมันลง คิดว่ามีเวลาอีกทั้งชีวิตในการค่อยๆ แต่งแต้มมัน มันอาจจะไม่มีวันเสร็จสมบูรณ์ก็ได้ แต่อย่างไรเสีย อย่างน้อยมันก็เป็นภาพที่ทำให้ผมมีลัลในวันนี้


     เจ้าของดวงตาสีฟ้าเดินมากอดผมจากข้างหลัง เอาคางมาเกยบ่าผม


     “กลายมาเป็นท้องฟ้าแล้วหรือ” เขาถาม ผมหัวเราะ ครั้งแรกที่เขาเห็นก็บอกว่ามันคือรูปท้องฟ้า แต่ครั้งนั้นผมกลับไม่แน่ใจในรูปวาดของตัวเอง


     ผมหันไปสบตาเขา


     อา...คงเป็นท้องฟ้าจริงๆ นั่นแหละ






ใกล้จะจบแล้วนะ

ขอบคุณทุกคนที่ร่วมเดินทางมาจนถึงตอนนี้จริงๆ ค่ะ



#ณพระจันทร์



 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด