Chapter 14
กิจ ‘ s Part“ ก๊อกๆๆ “
เงียบ...
ท่าทางแม่งจะยังไม่ตื่นครับ เช้านี้มันก็เบี้ยวไม่มาออกกำลังกายกับผมแล้ว
แต่วันนี้ยกเว้นให้ครับ เพราะผมเห็นว่าเมื่อวานมันคงเพลียเลยปล่อยให้มันวันนึง แต่นี่ก็ 10 โมงกว่าแล้วนะครับ ไม่รู้จะขี้เซาไปถึงไหน...
ผมเลยถือวิสาสะเปิดประตูเข้าห้องมันมา ( ก็ทีมันยังเคยเข้าห้องผมแบบไม่ขอเลย )
มันกำลังนอนห่มผ้าห่มสีขาว หน้าตามันดูหลับสบายมาก เผยอปากนิดๆ
ผมเดินลงมานั่งยังพื้นข้างเตียง เท้าคางมองดูหน้ามัน ก็น่ารักตลกๆ ดีนะครับ เห็นมันหายใจเข้าออกสม่ำเสมอแล้วอยากแกล้งเอามือไปบีบจมูกมันจัง ไม่รู้มันตื่นมาจะทำหน้ายังไง
แต่ที่แน่ๆ... ผมคงต้องโดนมันด่าแน่นอน ยิ่งเดี๋ยวนี้มันกล้าขึ้นตั้งเยอะ ขึ้นเสียงกลับผมก็ออกจะบ่อย
พอมองมันในมุมนี้แล้ว... มันนี่แม่ง... น่ารักเกินผู้ชายไปแล้วป่าวเนี่ย ขนตาก็ยาว จมูกนิด ปากหน่อย แถมผิวนี่มึงบำรุงด้วยอะไรขาวใสได้ขนาดนี้
ว่าแต่... แล้วผิวมันจะเนียนแค่ไหนกันนะ...
ผมค่อยๆใช้หลังมือไล้ไปที่ข้างแก้มใสอย่างเบามือ ในขณะที่หัวใจผมเริ่มเต้นแรงขึ้น ไม่รู้ว่ากลัวมันตื่น หรือเพราะผมกำลังตื่นเต้นกันแน่...
“ อือ... “
มันครางในลำคอเบาๆ ผมเลยได้แต่อมยิ้มเล็กๆ มองเด็กน้อยตรงหน้า เห็นแบบนี้แล้วมันเป็นอะไรที่น่าทะนุถนนอมมากครับ
“ เห้ย! “
ผมอุทานขึ้นมาเบาๆ เมื่อจู่ๆ มันก็เอามือมาจับมือผมไว้ ก่อนจะดึงเอาเข้าไปกุมไว้แนบอก
ตกใจหมดเลยนึกว่ามันตื่นครับ ว่าแต่... มือมันก็นุ่มดีนะครับ อุ่นด้วย..
เชี่ย..แล้วนี่ผมกำลังคิดบ้าอะไรอยู่วะเนี่ย
“ กันต์... ตื่นได้แล้ว “
ผมพูดขึ้น แต่ดูท่าทางมันจะหลับลึกเลยนะครับ
ผมเลยเอามืออีกข้างไปบีบจมูกมัน ดูซิจะทนได้นานแค่ไหน
“ อื้อ... อื้อ.. “
มันละมือที่กุมมือผมอยู่ออกมาปัดมือผมออกครับ ก่อนจะปรือตางัวเงียขึ้นมามอง..
เชี่ย.. แม่งจะน่ารักไปไหนวะ นี่ถ้ามีใครมาเห็นนะ... ไม่อยากจะคิดเลย
“ เห้ย!!! “
น้องมันผงะตัวเล็กน้อย ก่อนจะร่นตัวเขยิบไปกึ่งนั่งกึ่งนอนบนหัวเตียง พร้อมทั้งมองผมมาอย่างตกตะลึง
“ เข้ามาได้ไงเนี่ย “
“ ก็เปิดประตูเข้ามาดิ “
“ แล้วทำไมไม่เคาะเรียกก่อนอะ มารยาทอะมีป่าว “
เห็นมั้ยครับว่ามันเริ่มกล้า นี่ถ้าเป็นเมื่อก่อนนะ ไม่มีหรอกมาว่าผมแบบนี้อะ
“ กูเคาะแล้ว และหลายรอบด้วย มึงไม่เปิดกูก็ต้องเปิดเข้ามาเองดิวะ “
“ แล้ว... พี่มีธุระอะไร “
ผมถอนหายใจ ก่อนจะบอกมันไปครับ
“ นี่มันกี่โมงแล้ว “
“ ก็เจ็ด แปดโมงมั้ง “ มันทำหน้ามึนตอบมาครับ
“ จะ 10 โมงครึ่งแล้ว “
ผมพูดเน้นเสียงไป ดูมันจะตกใจกับเวลาเอามากๆ ก่อนจะหันไปหยิบโทรศัพท์มือถือที่โต๊ะใกล้ๆขึ้นมาดู
“ เชี่ย... หลับเพลินเลยกู “
มันพูดกับตัวเองครับ ก่อนจะหันมามองหน้าผมต่อ
“ แล้วพี่มีอะไรเปล่าอะ นี่มันวันเสาร์นะ “
“ แล้วปกติวันเสาร์มึงไม่ต้องทำความสะอาดรึไง “
“ โห... เคี่ยว “
มันพูดมาเสียงเบาๆ แต่ผมก็พอจะได้ยินนะครับ
“ ว่าไงนะ “
“ เปล่า... เดี๋ยวผมขออาบน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวออกไปทำให้คร้าบ “
“ ไม่ต้องแล้ว อาทิตย์นี้ห้องไม่ได้รกเท่าไหร่ “
ผมตีหน้านิ่งบอกไปครับ มันถึงกับถลึงตาอ้าปากค้าง
นี่มึงจะตกใจอะไรขนาดนั้นเนี่ย....
“ หมายความว่า... อาทิตย์นี้ผมไม่ต้องทำอย่างนั้นเหรอ “
“ ก็เออดิ มึงนี่เข้าใจอะไรยากจังวะ “
“ ขอบคุณครับพี่กิจ พี่แม่งโครตน่ารักเลย... นั้นผมนอนต่อนะ “
รู้สึกชอบใจที่มันชมผมครับ ถึงแม้จะไม่ได้ตั้งใจก็เหอะ
จากนั้นมันก็ทำท่าจะนอนต่อ ผมเลยเอามือไปตีหน้าผากมันทีนึง
“ แป๊ะ! “
“ โอ้ย! อะไรอีกอะพี่ “ มันทำหน้ายุ่งถามมาครับ
“ ลุก! ไปอาบน้ำได้แล้ว “
“ อาบทำไมอะ ก็พี่บอกว่าวันนี้ผมหยุดงานได้นี่ ผมก็เลยจะนอนต่ออะ “
“ เร็ว! เดี๋ยวกูจะพาไปเลี้ยงข้าว “
ผมบอกไป มันก็ตาโตอ้าปากเหวอเล็กๆ ขึ้นมาอีกแล้วครับ
นี่มึงจะตกใจอะไรกันบ่อยๆวะ...
“ เลี้ยง... เลี้ยงผมอะนะ เนื่องจากไรพี่ “
“ ก็... ที่มึงได้ตำแหน่งไง กูเคยบอกไว้แล้ว “
ผมให้เหตุผลไป ทั้งๆ ที่มันอาจจะไม่ใช่เหตุผลจริงๆ ของผมด้วยซ้ำไป
จริงๆ แล้วผมคงอยากจะมีเพื่อนกินข้าว... หรืออาจเพราะอยากไปนั่งกินข้าวกับมัน... ก็ได้นะ
“ แต่ผมไม่ได้เดือนคณะนี่ “
“ แต่มึงก็ได้ป๊อปปูล่าโหวต “
มันทำหน้าเหมือนจะงงๆ แต่ก่อนที่มันจะถามอะไรต่อ ผมก็รีบพูดตัดบทไปก่อนครับ
“ เร็วๆ! จะไปไม่ไป... ถ้าไม่ไปมึงก็ต้องทำความสะอาดห้องนะวันนี้ “
ผมที่นั่งอยู่ที่พื้นยืนขึ้นบอกมันไปครับ ซึ่งพอมันเห็นผมทำท่าจะเปลี่ยนข้อเสนอ มันก็รีบลุกขึ้นจากเตียงทันที
“ ไปดิไป... “
แล้วมันก็รีบเดินผ่านผมที่กำลังยิ้มกริ่ม หยิบผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไปในทันที
ผมนั่งลงบนเตียงมัน มองไปรอบๆ ห้องครับ ว่าจะนั่งรอมันในนี้แหละ นานๆ ทีได้เข้าห้องคนอื่นเขาบ้าง...
หลายอย่างในห้องนี้ยังคงเหมือนเดิม จะเพิ่มเข้ามาก็แค่ของกระจุกกระจิกและของใช้ส่วนของน้องมัน
ผมลุกขึ้นเดินมาดูที่โต๊ะเขียนแบบ ยังมีงานที่มันทำค้างไว้อยู่ ดูจากฝีมือแล้วก็ใช้ได้อยู่นะครับ แต่ก็ไม่เท่าผมหรอก ฮ่าๆๆ
ผมพลิกดูการบ้านวิชานี้ที่มันยังไม่ได้ทำ โห.. ปีนี้ อาจารย์สั่งเยอะไม่ใช่เล่นเลยนะครับ หรือเพราะมันดองงานไว้รึเปล่าก็ไม่รู้นะครับ
จากนั้นผมก็เดินต่อมายังโต๊ะทำงานข้างๆ มีชีทวิชาฟิสิกส์เปิดค้างไว้อยู่ คู่กับหนังสือการ์ตูนวันพีทเล่มล่าสุด นี่มันก็อ่านวันพีทเหมือนกันกับผมเหรอเนี่ย...
จากนั้นผมก็เริ่มสำรวจต่อ ไอ้กันมันท่าทางจะชอบต้นไม้นะครับ ผมเห็นมีประมาณ 3 – 4 ต้นที่มันปลูกไว้ มีตั้งไว้บนโต๊ะหัวเตียง และที่ชั้นวางของอีก 3 ต้น ซึ่งก็เป็นต้นไม้ชนิดเดียวกันหมดเลย แต่ผมไม่รู้หรอกว่ามันชื่อต้นอะไร เพราะผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องต้นไม้สักเท่าไหร่
เมื่อไม่มีอะไรให้สำรวจแล้ว ผมก็ถือวิสาสะมานอนเล่นโทรศัพท์มือถือบนเตียงมันต่อ
ไม่นานมันก็ออกห้องน้ำมา ผมหันไปมองร่างขาวใสที่นุ่งผ้าเช็ดตัวสีขาว ซึ่งกำลังยืนชะงักอยู่ที่หน้าห้องน้ำในตอนนี้
“ ทำไมยังไม่ออกไปอีกอะ นี่มันห้องผมนะพี่ “
“ ห้องมึงแต่คอนโดกู ดังนั้นกูมีสิทธิทุกห้อง “
มันเบ้ปากใส่ผมเล็กๆ แต่ก็เถียงไม่ออกครับ ผมละชอบใจจังที่ได้แหย่มันแบบนี้ เวลาเห็นมันฟึดฟัดหน่อยๆ แล้วน่ารักดี อย่างกับเด็กๆ เลยครับ
“ มองอะไร ”
มันถามขึ้นมาครับ ถึงตรงนี้ผมถึงพึ่งมารู้ตัวครับว่า ผมมองร่างขาวตรงหน้าอย่างไม่วางตาเลย ผิวมันดีจริงๆ นะครับ แถมยอดอกยังสีชมพูอ่อนสะดุดตาให้น่ามองไปอีก เอาเข้าจริงมันน่ามองกว่าผู้หญิงหลายๆ คนที่ผ่านมาของผมตั้งเยอะ
“ มองอะไร... อย่างมึงมีอะไรน่ามองวะ “
ผมทำหน้าหน่ายๆ แถบอกไป ก่อนจะหันกลับไปเล่นโทรศัพท์ในมือต่อ
“ ผมจะแต่งตัว พี่ออกไปก่อนดิ ”
“ ก็แต่งไปดิวะ กูไม่มองมึงหรอก “
“ ก็มันไม่ชินนี่ มีคนอื่นอยู่ในห้องแบบนี้อะ “
“ เร็วๆ อย่าเรื่องมาก... “
มันยู่หน้าใส่ผมทีนึงแต่ก็ยอมเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าอยู่ดี ผมเหลือบมองร่างบางตรงหน้าด้วยหางตา ก่อนจะเผลอกลืนน้ำลายตัวเองอย่างไม่รู้ตัว
คือต้องมาเห็นกับตาครับ มันดึงดูดสายตาจริงๆ
วันนี้น้องมันใส่เสื้อยืดสีฟ้าอ่อน กางเกงยีนส์ เซทผมตกๆ สายแบ๊วตามปกติของมัน ก่อนจะปิดท้ายด้วยการฉีดน้ำหอมยี่ห้อดัง แต่กลิ่นคนละแนวกับผมเลย ของมันจะเป็นกลิ่นหอมละมุนๆ พอผสมเข้ากับกลิ่นตัวมันแล้วก็.... เอิ่ม.. อธิบายได้ยาก ถ้าใครไม่เคยใกล้ชิดมันเหมือนผม ส่วนแนวผมจะเป็นแนวซีตัสสดชื่อเย็นๆ สบายๆ ครับ
........
วันนี้ผมขับรถยนต์มาที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ไม่อยากเอามอเตอร์ไซต์มาเพราะเห็นน้องมันใส่เสื้อแขนสั้น เดี๋ยวผิวมันจะเสียเอา
“ อยากกินอะไร “
ผมถามขึ้น เพราะตอนนี้ก็ใกล้เที่ยงแล้วละครับ
“ แล้วแต่พี่เลย คนเลี้ยงอยากเลี้ยงอะไร ผมได้ทั้งนั้นแหละ “
“ นั้นอาหารญี่ปุ่นก็ละกัน “
มาถึงร้าน ผมก็เอาเมนูให้มันสั่งได้เต็มที่เลยครับ แต่ดูเหมือนมันจะเกรงใจ ผมเลยสั่งมาเพิ่มซะเยอะเลย ไม่รู้ว่ามันชอบอะไรก็สั่งๆ มาให้มันก่อน จนมันบอกว่าเยอะซะขนาดนี้จะกินหมดได้ยังไง...
“ อ้าว!! น้องกันต์.. มากินข้าวเหรอครับ “
เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางด้านหลังผมครับ ซึ่งเสียงนี้ผมก็จำได้แม่น ไอ้คิมเพื่อนในกลุ่มของผมเอง แต่ดูแล้วท่าทางมันคงจะยังไม่เห็นผม
“ พี่คิมหวัดดีครับ “
“ มากับใครเหรอ... อ๊าววววว ไอ้กิจ... มึงมาได้ไงเนี่ย “
แม่งทำเสียงสูงถามมาพร้อมกับสีหน้าจับผิด
“ เลี้ยงน้องมัน ก็.. มันเป็นโครหัสสายกู แล้วเมื่อวานมันได้ป๊อปปูล่าโหวตไง กูก็เลยพามันมาเลี้ยงเฉยๆ “
ผมอ้างเหตุผลไปครับ ขณะที่ไอ้คิมก็พยักหน้าพร้อมกับเบ้ปากเล็กๆ เหมือนจะไม่เชื่อ
ช่างมันครับ ผมไม่สนใจหรอก
ว่าแต่นี่มันมากับใครหว่า ผมมองดูน้องผู้หญิงข้างๆ มัน ก็พอจะจำได้คร่าวๆ ว่าเป็นน้องปีหนึ่งคณะเราเนี่ยแหละครับ แถมประกวดดาวเมื่อวานด้วย แต่ไม่ได้ตำแหน่งนะครับ
ไอ้นี่แม่งไวตลอดเลย แต่เชื่อผมเหอะ อย่างมาก 2 อาทิตย์...
พอผมมองไปที่น้องเขา น้องเขาก็ยกมือไหว้ผมมาอย่างเกรงๆ ส่วนหนึ่งคงเพราะผมเป็นประธานเชียร์ด้วยละมั้งครับ
“ สั่งมาซะเต็มโต๊ะเลย จะกินหมดมั้ยเนี่ยกันต์ “ ไอ้คิมมันถามต่อ
“ พี่กิจสั่งครับ ผมป่าวนะ “
อ้าวไอ้นี่... สั่งมาให้เลือกกินไม่ชอบเหรอคร้าบ
“ กินด้วยกันมั้ยครับพี่คิม “
ไอ้นี่ก็ซื่ออีกแล้ว เขามากับเด็ก ใครจะมานั่งกินกับคนอื่นกันวะ ถามไม่คิดเลยนะ
“ เอาดิ.. “
ไอ้คิมมันตอบตกลงทันที ก่อนที่มันจะหันไปถามเด็กใหม่มันด้วยซ้ำ ซึ่งน้องเขาก็ยิ้มพยักหน้าป้อยๆ ตอบมา
ตอนนี้ไอ้คิมลงมานั่งข้างผม ส่วนน้องผู้หญิงนั้นไปนั่งข้างไอ้กันต์มันครับ จากนั้นมันก็สั่งอาหารมาเพิ่มอีกนิดหน่อย
“ เมื่อคืนพี่โหวตให้เราด้วยนะ “ ไอ้คิมมันหันไปบอกกันต์
“ เหรอครับพี่ ขอบคุณครับ “
“ กลุ่มพี่โหวตให้เราหมดเลยนะ เว้นก็แต่ไอ้กิจเนี่ยแหละ “
มีแขวะผมด้วยนะ ถ้าผมไม่ต้องเป็นคณะกรรมการผมก็โหวตให้มันอยู่หรอก..
“ พี่กิจเขาไม่โหวตให้ผมหรอก “
ดูมันครับ ทำเป็นมองค้อนมาทางผม นี่มึงคิดว่าตัวเองเป็นผู้หญิงรึไงมามองผมแบบนี้
“ แล้วนี่.. ? “
ลืมถามชื่อเด็กใหม่ไอ้คิมมันเลยครับ มันเองก็เสือกไม่แนะนำด้วยนะ แต่ก็ใช่ว่ามันจะสนใจน้องเขาเท่าไหร่ด้วยแหละ ดูท่าแล้วมันก็คงจะไม่ได้คบอะไรจริงจังเหมือนเช่นทุกทีแหละครับ
“ น้องมายด์ ปี 1 น่ะ “
ผมพยักหน้ารับ น้องเขายิ้มส่งมาให้ด้วยเช่นกัน
“ พึ่งรู้ว่าพี่กิจนอกห้องเชียร์ก็ใจดีนะคะ มีเลี้ยงน้องด้วย “ น้องเขาพูดขึ้น
“ มันก็อย่างนี้แหละมายด์ ในห้องเชียร์ก็แค่เก๊กไปแค่นั้น “
สัดไอ้คิม เสียการปกครองกูหมด
“ แต่ไม่ว่ายังไง สิ่งที่พวกผมสอนพวกคุณในห้องเชียร์ พวกคุณก็ต้องรู้จักนำมาใช้และปฏิบัติตามด้วย “
ผมทำเสียงเข้มเรียบๆ สไตล์ประธานเชียร์บอกน้องเขาไปครับ และสรรพนามที่ใช้กับปีหนึ่งช่วงนี้ก็ต้องเป็นคุณกับผมเท่านั้น ( มีก็แต่ไอ้กันต์เนี่ยแหละที่ผมใช้ไม่เหมือนใคร ) คือมันต้องมีฟอร์มกันบ้างครับ เดี๋ยวเอาไปพูดกันแล้วความเคารพก็หมดกันพอดี
แต่พอหันหน้ามามองคนตรงหน้านะครับ แม่งทำปากขมุบขมิบล้อเลียนผมเล็กๆ พอเห็นผมมองมาก็ทำเป็นหยุดไป
เดี๋ยวเหอะมึง ใจดีด้วยหน่อยทำเหลิง เดี๋ยวพ่อจะแกล้งซะให้เข็ดเลย แล้วอย่ามาร้องไห้ทีหลังก็ละกัน
ระหว่างที่กินข้าวกันนั้น สิ่งที่ผมสังเกตได้ชัดก็คือ น้องมายด์แทบจะไม่คุยอะไรกับไอ้กันต์มันเลย ทั้งๆที่เป็นปีหนึ่งเหมือนกันแท้ๆ ที่แปลกคือ แทนที่จะคุยกับไอ้คิมที่มาด้วยกันมากหน่อย กลับเอาแต่ถามนั่นนี่กับผมเสียมากกว่า ซึ่งถ้าให้มองในมุมมองของผมแล้ว ผมว่า... น้องเขาน่าจะคิดอะไรกับผมแน่...
ส่วนไอ้คิมน่ะเหรอ.. มันไม่สนใจหรอกครับ เพราะดูแล้วมันหวังแค่ปิดจ๊อบเดี๋ยวก็คงเลิกตามฟอร์มมัน...
……….