[จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: [จบแล้ว]เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก YAOI ประกาศ (26/05/61)#หน้า14  (อ่าน 70296 ครั้ง)

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
ตอนที่ 43
หุ่นเชิด

“คุณไทม์!”
“ครับ  ผมเอง”
สีหน้าของคุณกวินทร์เริ่มซีดเผือดไปด้วยความตกใจ  เหตุผลที่ทำให้เขาแค้นอสังหาทำให้ผมยิ่งสงสารเขามากยิ่งขึ้น
เข้าใจแล้วล่ะครับอาจารย์  ว่าทำไมอาจารย์ถึงทั้งรักและสงสารผู้ชายคนนี้
“ฉันจัดการทุกอย่างตามที่นายบอกแล้วนะ  เป็นอย่างที่นายพูดมา…ทุกอย่าง”
คำว่า ‘ทุกอย่าง’ คุณจักรวาลเน้นหนักและเหลือบมองไปทางคุณไกรศรเป็นพิเศษ  เขายังคงนั่งนิ่งไม่ยอมพูดจา  หากแต่สายตาก็หวาดมองพวกเราไม่ละไปไหนเช่นกัน
“เอาล่ะ!  ทีนี้ก็ตามสัญญา  มึงบอกเหตุผลของมึงมาแล้ว  กูก็จะบอกให้มึงรู้ว่าทำไมกูถึงเล่าอดีตของกูให้มึงฟัง”
ไอ้เฟี้ยวกระโดดปุลงมาจากลังไม้ไปยืนรวมกับคุณจักรวาลและคุณอวกาศ  ผมเดินตามไปสมทบทีหลังขณะที่ในหัวกำลังประมวลเรื่องที่กำลังจะพูดทั้งหมด
“อย่างที่บอก  ยัยแก่นั้นทารุณฉันเอาไว้เยอะ  แถมยังไม่ใช่แม่ที่แท้จริงของฉันอีก  แล้วแบบนี้แกยังคิดว่าฉันจะยอมทำทุกอย่างเพื่อช่วยคนแบบนั้นงั้นเหรอ?”
“คุณกำลังจะบอกว่า…”
“ฉันไม่เคยคิดจะช่วยตั้งแต่แรกแล้ว”
ไอ้เฟี้ยวแสยะยิ้มสะใจ  มันดูมีความสุขมากเมื่อได้เห็นหน้าที่เริ่มถอดสีไปของอีกฝ่าย
“ทั้งหมดมันเป็นแผนของน้องชายสุดที่รักของผมเองล่ะครับพี่กวินทร์”
คุณอวกาศเดินเข้ามาโอบไหล่ผมเอาไว้  สายตาของคุณกวินทร์เบนมาที่ผมในทันที  วันนี้ทุกอย่างจะต้องจบลง  ผมจะไม่ยอมให้ญาติพี่น้องมาเข่นฆ่ากันเองอีกต่อไปแล้ว
“คุณพลาดไปตรงที่คิดส่งไอ้โชเล่เข้ามานั่นแหละครับ  วิธีที่ให้มันเข้ามาช่วยชีวิตผมเพื่อให้เกิดความไว้วางใจมันใช้ไม่ได้ผล  เพราะถ้าเป็นไอ้โชเล่ตัวจริง  คนอย่างมันที่เคยแกล้งผมเอาไว้มากมาย  ไม่มีทางเอาชีวิตของตัวเองมาเสี่ยงเพื่อผมหรอก  นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมสงสัยว่าการมาของไอ้โชเล่ที่หายไปเป็นเดือนจะต้องมีเบื้องหลัง”
ผมเริ่มอธิบายถึงเรื่องราวที่ผ่านมา  สิ่งที่ผมคิด  สิ่งที่ผมทำลงไปเพื่อหาทางป้องกันและรับมือกับเขา
“รอยแผลเป็นที่เกิดจากการถูกไฟคลอกตรงฝ่ามือไอ้โชเล่ยิ่งตอกย้ำข้อสงสัยของผม  พอทำการตรวจสอบในบ้านของมันดูก็เจอเข้ากับรายงานและเสื้อผ้าที่มีกลิ่นน้ำมันกับรอยไหม้  ผมเลยมั่นใจว่าไอ้โชเล่จะต้องทำงานให้กับคุณแน่นอน  เพียงแต่สิ่งที่ผมยังไม่รู้คือเหตุผลที่ว่าทำไมมันถึงมาทำงานให้กับคุณได้ต่างหาก  ซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่ผมสนใจอยู่แล้ว  จุดต่อไปที่ผมพยายามหาคำตอบคือ…ทำไมถึงเป็นไอ้โชเล่  และเมื่อคิดทบทวนดูแล้ว  เพียงคนเดียวในหมู่พวกเราที่ไอ้โชเล่เกี่ยวข้องด้วยก็คือ…”
“กูไง”
ไอ้เฟี้ยวโบกมือร่าด้วยท่าทางอารมณ์ดีสุดๆ  สำหรับมันเอง…เรื่องราวในอดีตของมันเป็นครั้งแรกที่ผมได้รับรู้  ตอนที่มันบอกว่าจะทำตามแผนการของผมโดยไม่มีทีท่าลังเลเลยนั้น  ผมก็ยังแปลกใจอยู่ว่าเพราะอะไร  ทั้งที่มันน่าจะห่วงความปลอดภัยของท่านผอ.มากกว่าแท้ๆ  แต่เพราะแผนการที่วางเอาไว้ยังไงก็สามารถช่วยท่านผอ.ได้  ผมเลยไม่ติดใจอะไร  แต่คิดไม่ถึงจริงๆ…ว่าแผลเป็นมากมายที่แผ่นหลังของมันจะมาจากเรื่องนี้…
“ในเมื่อกูคือคนเดียวที่เกี่ยวข้องกับไอ้โชเล่  ไอ้ไทม์ถึงคิดขึ้นมาได้ว่าเป้าหมายต่อไปอาจจะเป็นกู  แค่ยังไม่รู้ว่าพวกมึงวางแผนคิดจะทำอะไรก็เท่านั้น  จนกระทั่งวันที่มึงให้ไอ้โชเล่มันส่งคลิปนั้นมาให้กูนั่นแหละ”
“การส่งคลิปมันทำให้พวกคุณรู้แผนการทั้งหมดของผมเลยอย่างนั้นเหรอ”
คุณกวินทร์ย้อนถาม  ยิ่งใกล้ถึงจุดที่จะเปิดเผยเรื่องราวมากขึ้นเท่าไหร่  ผมก็ยิ่งกังวลใจมากขึ้นเท่านั้น  ไม่รู้ว่าเขาจะแบกรับความจริงหลังจากนี้ไหวหรือเปล่า…
“นั่นเพราะว่าคุณติดกับแล้วยังไงล่ะครับ  ผมบอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าผมรู้แล้วว่าไอ้โชเล่ทำงานให้กับคุณ  และเป้าหมายต่อไปก็คือไอ้เฟี้ยว  เพียงแต่ยังไม่รู้เหตุผลว่าเพราะอะไร  จนเมื่อคุณติดกับส่งคลิปของท่านผอ.มา  ความจริงก่อนหน้านี้ผมคิดไว้แล้วล่ะว่าไม่แน่บางทีท่านผอ.อาจจะถูกคุณจับตัวเอาไว้  เพราะขนาดคุณจักรวาลที่มีอิทธิพลมากกระจายคนออกตามหาจนแทบพลิกแผ่นดินในประเทศไทยแต่ยังไม่พบ  ความเป็นไปได้เลยมีเพียงอย่างเดียวคือจะต้องมีคนซ่อนตัวท่านผอ.เอาไว้  และเมื่อมีคลิปนั้นส่งเข้ามา  ทุกอย่างก็ลงล็อก  ท่านผอ.คือเหยื่อล่อที่จะเรียกตัวไอ้เฟี้ยวออกไป  พอคิดแบบนี้แล้ว ทุกอย่างมันก็ง่ายนิดเดียวครับ”
“ที่เหลือกูก็แค่ทำเป็นยอมเพื่อให้ไอ้โชเล่พากูมาหามึง”
“แต่คนอย่างที่พี่กวินทร์เองก็ฉลาดไม่น้อย  ถ้ายอมง่ายๆก็อาจจะถูกสงสัยได้ว่ามีการซ้อนแผนเกิดขึ้น  ไทม์เลยให้เฟี้ยวแสดงละครว่ายอมต่อหน้าเด็กที่ชื่อโชเล่  แต่พอมาเจอพี่จริงๆก็ให้ยืนยันว่าจะไม่หักหลังใครเด็ดขาด  เพื่อให้มีการข่มขู่เกิดขึ้นจนเฟี้ยวยอมจำนนแบบไม่มีทางเลือก  พี่จะไม่ได้ไม่เอะใจและคิดว่าที่เฟี้ยวยอมทำตามก็เพราะต้องการจะช่วยคุณป้า”
คุณอวกาศอธิบายต่อ
“แต่ว่านั่นเป็นความผิดพลาดครั้งใหญ่สำหรับการสันนิษฐานครั้งนี้ของผม  ผมไม่คิดว่าคุณจะลงมือกับไอ้เฟี้ยว  ที่คิดไว้ก็แค่คุณอาจจะหาเรื่องข่มขู่  ทำยังไงก็ได้เพื่อบีบให้ไอ้เฟี้ยวหมดหนทางให้มากที่สุด   ผมยอมรับว่าวันที่ไอ้เฟี้ยวถูกเอาโยนทิ้งไว้หน้าบ้านด้วยสภาพแบบนั้น  ผมทั้งโกรธและเกลียดตัวเองที่ชะล่าใจมากเกินไปจนทำให้ไอ้เฟี้ยวต้องเกือบตายแบบนั้น”
“กูบอกแล้วไงว่าไม่เป็นไร  เมื่อไหร่มึงจะเลิกโทษตัวเองสักทีเนี่ย  ที่โดนวันนั้นมันแค่จิ๊บๆ  ตอนไปตีกับโรงเรียนอีกยังหนักกว่านี้อีก”
ไอ้เฟี้ยวหันมาว่าเข้าให้อีกรอบ  คุณกวินทร์ที่ได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะออกมาเบาๆ
“งั้นเหรอ  ทั้งหมดก็เพื่อทำให้ผมคิดว่าตัวเองกุมจุดอ่อนของคุณเฟี้ยวเอาไว้สินะ”
“เออสิ  กูถึงได้ยอมโดนซ้อมขนาดนั้นไง  ทั้งหมดก็เพื่อให้วันนี้มาถึง  วันที่กูจะได้เห็นความพินาศย่อยยับของมึงด้วยตาทั้งสองข้างของกูเอง!”
“หลังจากนั้นก็แค่รอเวลาให้ถึงวันที่ต้องส่งมอบ SD การ์ด  ผมกับพี่จักรวาลทำทีเป็นออกจากบ้านไปเพื่อเปิดโอกาสให้เด็กคนนั้นทำตามแผนที่เตรียมไว้นั่นคือหลอกล่อไทม์ออกจากบ้านเพื่อจะจับตัวมาให้คุณ  ไม่สิๆ  ความจริงผมกับพี่ก็ออกจากบ้านไปทำธุระกันจริงๆนั่นแหละ  เกือบตามมาไม่ทันเลยด้วยซ้ำ”
คำบอกเล่าของคุณอวกาศทำให้ผมแปลกใจในทันที
“เดี๋ยวนะครับ พวกคุณสองคนไปด้วยกันเหรอ  ผมนึกว่ามีใครคนหนึ่งคอยแอบสะกดรอยตามพวกเรามาจนถึงที่นี่เสียอีก”
“เปล่านะ  ฉันกับพี่ไปด้วยกันเพราะพี่แยกไปสถานีตำรวจเพื่อจัดการเอกสารที่นายบอก  ส่วนฉันก็ไปโรงพยาบาลเพื่อขอเอกสารพวกนั้นเหมือนกัน  พอแยกกันไปเสร็จแล้วถึงค่อยมาเจอกันทีหลังน่ะ”
คุณอวกาศตอบกลับ  เดี๋ยวนะ  ถ้าพวกเขาไม่ไดมีใครตามมาตั้งแต่ต้น  แล้วพวกเขารู้ได้ยังไงล่ะว่าพวกผมถูกพาตัวมาที่นี่  ในเมื่อพวกเราโดนยึดมือถือไปหมด?
“กูก็คิดว่าหนึ่งในพวกมึงคอยตามอยู่ห่างๆแล้วค่อยส่งสถานที่ไปบอกให้อีกคนที่ไปทำเรื่องเอกสารตามมาสมทบเสียอีก สรุปว่าไม่ใช่?”
คุณอวกาศส่ายหน้าปฏิเสธคำคาดการณ์ของไอ้เฟี้ยว
“ถ้างั้น…พวกคุณสองคนรู้ได้ยังไงล่ะครับว่าพวกเราอยู่ที่นี่”
ผมถามออกไป  เกิดความเงียบขึ้นก่อนที่ไอ้เฟี้ยวที่ทำท่าเหมือนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จะเป็นคนส่งเสียงก่อน
“จริงด้วย  จะว่าไปครั้งก่อนที่ไอ้ไทม์มันถูกหลอกไปย่างสดที่โรงยิม  ไอ้จักรวาล  ตอนนั้นแกอยู่ที่บ้านแท้ๆ  แล้วแกส่งสถานที่ที่ไอ้ไทม์อยู่มาให้ฉันได้ยังไงวะ”
สายตาทุกสายตาเบนไปทางคุณจักรวาลที่เอาแต่ยืนเงียบทันที  ครั้งนั้น…คนที่รู้ว่าผมอยู่ที่ไหนคือเขาหรอกเหรอ?  ผมหลงคิดว่าเป็นไอ้เฟี้ยววิ่งวุ่นตามหาผมจนเจอเสียอีกนะ
“นั่นสิ  ตอนที่ผมกับพี่ไปเจอกันตรงสถานที่นัด  คนที่เป็นคนจับรถพามาที่นี่ก็คือพี่นี่หว่า  ผมนึกว่าพี่ได้รับโลเคชั่นอะไรจากพวกนี้เลยตามมาจนถูก  แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่  ถ้างั้น…พี่รู้ได้ยังไง?”
คุณอวกาศถามขึ้นมาอีกคำถาม  พอโดนไล่จี้เข้ามากๆร่างสูงที่ทำท่าเหมือนไม่อยากจะตอบก็ผ่อนลมหายใจออกมาแรงๆก่อนจะชี้มาที่ผม!
ไม่สิ…
จุดที่เขาชี้คือ…
“ปลอกคอ?”
ผมทวนคำเมื่อก้มมองสิ่งที่คุณจักรวาลชี้นิ้วมา  ปลอกคออันนี้มันทำไมหว่า?
“ในกระดิ่งนั่น  ฉันติดเครื่องส่งสัญญาณเอาไว้  มันเชื่อมต่อกับมือถือของฉัน  ไม่ว่านายจะอยู่ส่วนไหนบนโลกใบนี้  ฉันก็จะหานายจนเจอ”
“จริงเหรอครับ!”
เอ่อ…แค่เรื่องนี้เท่านั้น  สาบานได้ว่าผมไม่เคยรู้มาก่อนเลยจริงๆ!
แบบนี้แสดงว่าที่ผ่านมาเขาคอยดูแลผมมาตลอด  เพื่อความปลอดภัยของผม  ที่บังคับให้ใส่ปลอกคออันนี้เอาไว้และห้ามถอดก็เพราะเขาจะได้รู้ว่าผมอยู่ที่ไหน
ผม…
อยู่ในสายตาของเขาตลอดมา  ทุกวินาที…
“สมกับเป็นคุณเลยนะจักรวาล  ผมคิดว่าที่คุณตามตัวคุณไทม์ได้เป็นเพราะสัญญาณจากมือถือเสียอีก  ก็เลยจัดการปิดเครื่องไป  ไม่คิดเลยว่าตัวส่งสัญญาณจริงๆจะเป็นปลอกคอนั่น”
คุณกวินทร์มองมาที่ปลอกคอซึ่งผมกำลังจับมันอยู่ในตอนนี้  พอคิดว่าที่ผ่านมาผมได้รับการดูแลจากเขามาตลอด  หัวใจมันก็เต้นแรงแม้จะรู้ดีว่าไม่ใช่เวลามาดีใจก็ตาม
“แล้วยังไงครับ  จากนี้จะเอายังไงต่อเหรอ  เอา SD การ์ดไปให้ตำรวจงั้นสิ”
“คุณกวินทร์ครับ  ผมขอถามคำถามกับคุณหน่อย  คุณรู้หรือเปล่าว่าใน SD การ์ดมีข้อมูลอะไรอยู่”
สิ้นคำถาม  ทั้งหมดก็หันมาจ้องหน้าผมอย่างพร้อมเพรียง  คงสงสัยนั่นแหละว่าทำไมผมถึงถามแบบนี้  แต่ว่า…ไม่รู้สิ  ผมจะคาใจมากถ้าหากไม่ได้ถามคำถามนี้กับเขา
“รู้สิ  คุณพ่อบอกว่ามันเป็นหลักฐานปลอมที่คุณลุงให้หัวหน้าฝ่ายบัญชีและคลังสินค้าปลอมแปลงขึ้นมาเพื่อใส่ร้ายคุณพ่อ  เป็นหลักฐานที่เหมือนจริงมากเพราะมีเงินถูกโอนเข้าบัญชีในชื่อของคุณพ่อทุกเดือน  โชคดีที่คุณพ่อรู้เรื่องนี้ก่อนเลยจ้างคนไปขโมยมันมาได้ทันก่อนที่คุณลุงจะใช้มันเพื่อเล่นงานคุณพ่อ  เพราะงั้น  เมื่อเล่นงานคุณพ่อด้วยหลักฐานปลอมพวกนี้ไม่ได้เลยหันมาตัดสายเบรกรถคุณพ่อเพื่อจะฆ่าคุณพ่อของผมแทนไงล่ะ  คุณถามเรื่องนี้ไปทำไม”
ทุกคนพร้อมใจกันอ้าปากค้างเมื่อฟังสิ่งที่คุณกวินทร์พูดมาจนจบ  กะแล้วเชียว…
ผู้ชายคนนั้น…ชักใยลูกชายของตัวเองมาตลอด!
“แล้วทำไม SD การ์ดที่พ่อของคุณน่าจะเก็บซ่อนเอาไว้เป็นอย่างดีถึงมาอยู่ที่อาจารย์มารีอาได้ล่ะครับ”
“เรื่องนั้น…คุณพ่อบอกว่าในวันก่อนที่เธอจะฆ่าตัวตาย  เธอมาเยี่ยมคุณพ่อของผมที่บ้านเหมือนทุกที  แต่ดูเหมือนตอนที่คุณพ่อเข้าห้องน้ำ  เธอบังเอิญทำเอกสารสำคัญของคุณพ่อที่วางอยู่บนโต๊ะคอมพ์หล่นก็เลยเจอ SD การ์ดเข้า  แต่คุณพ่อไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงเปิดดู  พอเห็นข้อมูลพวกนี้  มารีอาคงคิดว่าผมกับพ่อเป็นคนเลว  และที่ผ่านมาผมโกหกเธอมาตลอด  ความผิดหวังเสียใจต่อตัวผมทำให้เธอตัดสินใจฆ่าตัวตาย  แต่ในข้าวของของเธอตอนที่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบ  กลับไม่มี SD การ์ดอยู่เลย  คุณพ่อบอกว่าบางทีมันอาจจะถูกส่งต่อไปให้พวกจักรวาลแล้วก็ได้  ก่อนที่พวกคุณจะใช้มันมาทำลายคุณพ่อของผมอีกครั้ง  ผมเลยต้องทำทุกทางเพื่อให้มันกลับมาแล้วทำลายทิ้ง”
ให้ตายสิ…
ผมไม่เคยเห็นใครเลวเท่าพ่อของเขามาก่อนเลยจริงๆ!  ทั้งที่เป็นคุณพ่อแท้ๆ  แต่ทำไมเขาถึงเลือดเย็นทำกับลูกชายที่รักตัวเองมากได้ถึงขนาดนี้นะ!  ลูกชายที่เชื่อเขาทุกอย่างโดยไม่สงสัยอะไรเลย  เลว…เลวไม่มีที่เปรียบ!
“แล้วมึงก็เชื่อเหรอวะ!  มึงคบกับพี่มากี่ปี  มึงไม่มีหัวคิดเลยหรือไง!  แล้วอีกอย่างนะ  ถ้าหลักฐานพวกนี้มันเป็นหลักฐานปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาตั้งสิบแปดปีแล้ว  คนสมองดีจริงๆไม่มีใครเขาเก็บเอาไว้เป็นหอกข้างแคร่หรอกเฟ้ย!  มันต้องกำจัดทิ้งตั้งแต่ที่ได้มาแล้วเซ่!”
ไอ้เฟี้ยวระเบิดเสียงลั่นอย่างหมดความอดทน  ถ้าเป็นคนปกติทั่วไปคงจับพิรุธได้แบบไอ้เฟี้ยวนี่แหละ  แต่เพราะเป็นคุณกวินทร์  เขารักและเชื่อในสิ่งที่พ่อของเขาพูดทุกอย่างมากเกินไปจนไม่เคยคิดเลยว่าคำพูดที่ออกมาจากปากพ่อแท้ๆของตัวเองจะเป็นคำลวงทั้งหมด…
“คุณกำลังจะบอกอะไรผมกันแน่…”
“พี่กวินทร์  หลักฐานพวกนี้ไม่ใช่หลักฐานปลอมที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อทำลายคุณอาไกรศรหรอกนะครับ  แต่มันเป็นหลักฐานจริงที่มาเรียเป็นคนรวบรวมเอาไว้ทั้งหมด  เพื่อใช้มันต่อรองในการขอแลกกับตัวพี่นั่นแหละ”
“แลกกับผม  หมายความว่ายังไงอวกาศ…”
ในตอนนี้ผมเชื่อว่าทุกคนคงทำใจให้พูดความจริงออกมาได้ลำบากพอกัน  ถึงจะโกรธแค้นในการกระทำของคุณกวินทร์หลายๆเรื่อง  แต่เอาเข้าจริงก็อดสงสารไม่ได้  เพราะพวกเราอยู่ดีอยู่แก่ใจว่าเขาแค่ถูกหลอกใช้เหมือนหุ่นเชิดตัวหนึ่งเท่านั้น
“อาจารย์รู้ความจริงเรื่องที่ถูกคุณหลอกใช้ให้คอยรายงานความเลื่อนไหวในบ้านอสังหาก่อนที่เธอจะตายหลานเดือนครับ  เธอใช้เวลาที่มีในการหาหลักฐานทุกอย่างที่จะสามารถเอาผิดกับผู้อยู่เบื้องหลังตัวจริงได้  ผู้หญิงตัวเล็กๆต้องเสี่ยงตายและทุ่มเทความพยายามมากมายขนาดนั้นเพียงเพื่อต้องการให้ผู้ชายที่เธอรักหลุดพ้นจากการเป็นหุ่นเชิดของ…”
“…”
“พ่อของเขาเอง”
ผมมองไปทางคุณไกรศรที่ยังไม่ขยับปากพูดอะไร  แต่สายตาที่เย็นชาและเยือกเย็นของเขากำลังจ้องมองผมกลับเช่นกัน
“ดะ…เดี๋ยวนะครับ  คุณไทม์พูดอะไร  คุณพ่อของผมทำอะไรงั้นเหรอ  หุ่นเชิดอะไรครับ  ผมไม่เข้าใจ”
“กูไม่ไหวแล้วโว้ยย!”
พลั่ก!
ไอ้เฟี้ยวปล่อยหมัดใส่หน้าคุณกวินทร์เต็มๆจนเขาล้มลงไป  มันตามไปคร่อมทับเอาไว้  กระชากคอเสื้อคุณกวินทร์จนเจ้าตัวต้องเด้งตัวตามขึ้นมา
“มึงช่วยโง่ให้มีลิมิตหน่อยได้ไหม!  พี่กูทำเพื่อมึงขนาดนี้!  ยอมทำเพื่อมึงจนตัวเองต้องถูกฆ่าตายอย่างเลือดเย็นมึงยังไม่เข้าใจอีกเหรอ  ฮะ!!!”
“ถูกฆ่าตาย?   มารีอาฆ่าตัวตายต่างหาก  เธอฆ่าตัวตายเพราะผิดหวังในตัวผมไม่ใช่หรือไง!”
“ไม่ใช่เว้ย!!!”
“…”
“พี่น่ะ…พี่กูน่ะ…เป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง!!!  ผู้หญิงที่ชื่อมารีอามีจิตใจที่เข้มแข็งมากแค่ไหนคนอย่างมึงไม่รู้เลยหรือไงไอ้เหี้ย!”
ไอ้เฟี้ยวง้างหมัดขึ้นอีกรอบ  เสียงกัดฟันระงับความโกรธของมันดังก้องไปทั่ว  หมัดลอยค้างอยู่กลางอากาศก่อนที่มันจะตัดสินใจต่อยลงไปบนพื้นแทน
“โธ่เว้ย!  ทำไมพี่กูต้องมาตายเพื่อคนโง่ๆอย่างมันด้วยวะ!  อ๊ากกกก!”
“เฟี้ยว  ใจเย็นๆก่อน”
คุณอวกาศรีบเข้าไปดึงตัวไอ้เฟี้ยวที่เริ่มบ้าคลั่งให้ออกห่างจากคุณกวินทร์ที่กำลังช็อก  เขาคงตกใจและไม่เข้าใจว่าพวกผมกำลังพูดถึงเรื่องอะไร
“อาจารย์มารีอาไม่ได้ฆ่าตัวตายหรอกนะครับ  แต่เธอถูกฆ่าตาย”
“อะไรนะ…”
“เธอถูกฆ่าตายเพื่อปิดปากไม่ให้ได้มีโอกาสแพร่งพรายความจริงที่เธอรู้มา  รวมถึงเพื่อจะเอา SD การ์ดจากเธอด้วย  แต่ว่าอาจารย์ก็เอามันไปซ่อนไว้เสียก่อน  และบอกที่ซ่อนของมันแค่กับพวกผมเท่านั้น  คนที่สั่งฆ่าเธอเลยไม่ได้อะไรกลับไปนอกจาก…ฆ่าเธอได้สำเร็จ  ไม่สิ  ไม่ใช่แค่ฆ่าเธอ  แต่ยังมี…”
ผมควรจะบอกไปดีไหมนะ  ดูท่าทางของเขาจะไม่ได้รู้เรื่องนี้เลยสักนิด  แต่ความจริงย่อมเป็นความจริง  แม้มันจะเจ็บปวดมากแค่ไหนก็ตาม
“ลูกในท้องของเธออีกด้วย”
ดวงตาของร่างสูงที่นั่งหมดอาลัยตายอยากอยู่กับพื้นเบิกกว้าง  ทันทีที่ได้ยินคำว่า ‘ลูก’  เขาก็รีบคลานเข่าเข้ามาเขย่าขาผมทันที
“เดี๋ยวนะครับ  หมายความว่ายังไงที่ว่าลูก…  ลูกใคร  ใครมีลูกเหรอครับ”
“อาจารย์ครับ”
“…”
“อาจารย์ตั้งท้องได้สามเดือนตอนที่ถูกฆ่าตาย”
“ไม่จริง…ไม่จริงใช่ไหมครับ”
น้ำตาผมไหลลงมาเป็นทางด้วยความสงสารเขาจับใจ  มือของคุณที่จับขาผมไว้สั่นเทาเหลือเกิน…
“ทางตำรวจโทรมาบอกพวกเราถึงเรื่องนี้หลังจากชันสูตรศพของอาจารย์เพื่อหาสาเหตุการตาย  ครั้งแรกที่พวกเรารู้เรื่อง  ทุกคนเสียใจจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคนเลยล่ะครับ”
“มารีอา…ฆ่าตัวตายไปพร้อมกับลูกงั้นเหรอ…”
“ก็กูพูดอยู่หยกๆว่าพี่ไมได้ฆ่าตัวตาย  เมื่อไหร่มึงจะเลิกโง่สักทีเนี่ย!!!”
ไอ้เฟี้ยวปรี่จะเข้ามาจัดการคุณกวินทร์อีกรอบ  แต่คุณอวกาศห้ามเอาไว้ได้  สีหน้าของเขาเต็มไปด้วยความสับสน  น้ำตาหลั่งไหลออกมาไม่หยุด
“อาจารย์น่ะ…ตั้งใจจะไปเริ่มชีวิตใหม่กับคุณและลูกในท้องนะครับ  เธอต้องการมีครอบครัวที่อบอุ่นร่วมกับคุณ  ผู้หญิงที่วางอนาคตเอาไว้อย่างสดใสแบบนั้น  ไม่มีทางจะฆ่าตัวตายได้หรอกครับ”
“นั่นเป็น…ความฝันของมารีอา  เธอบอกกับผมเรื่องนั้นอยู่ทุกวัน”
“ครับ  และเพื่อทำให้ฝันนั้นเป็นจริง  เธอถึงไม่กลัวแม้แต่ความตาย  รวบรวมหลักฐานทุกอย่างเท่าที่พอจะหาได้เพื่อช่วยปลดปล่อยคุณออกมา  ปลดปล่อยคุณจากคุณพ่อของคุณเอง"
"คุณพ่อเหรอ?  เป็นไปไม่ได้หรอกครับคุณไทม์ คุณพ่อรักและเอ็นดูมารีอามาก  แม้ว่าตอนแรกท่านจะไม่เห็นด้วยที่ผมจะจริงจังกับเธอเพราะเธอเป็นเพื่อนสนิทของจักรวาลกับอวกาศ  แต่ว่าสุดท้ายความดีของเธอก็เอาชนะใจคุณพ่อได้  ท่านเอ่ยปากบอกเองว่าถ้าผมเอาทุกอย่างกลับคืนมาได้เมื่อไหร่  ผมจะสามารถไปใช้ชีวิตอยู่ในที่ที่ผมต้องการกับเธอได้โดยที่คุณพ่อจะแสดงความยินดีด้วยจากใจจริง  แล้วทำไม…มีเหตุผลอะไรที่คุณพ่อจะต้องทำแบบนั้นล่ะครับ”
ไม่ไหวแล้ว…
คนๆนั้นยังมีความเป็นคนอยู่หรือเปล่า  เหยียบย่ำความรักบริสุทธิ์ที่ลูกของตัวเองมีให้อย่างไม่ปรานีแบบนี้ได้ยังไง!
“ทั้งหมดเป็นเพียงเรื่องโกหกนะครับ พ่อของคุณไม่คิดจะยอมรับอาจารย์มารีอาที่เขามองว่าเป็นศัตรูมาตลอดเพราะเธอคือเพื่อนของอสังหาหรอกครับ  ไม่ใช่แค่นั้น  เรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับพ่อของคุณก็เหมือนกัน  มันไม่ใช่การถูกตัดสายเบรกเพื่อหวังฆาตกรรมอะไรทั้งนั้น  สาเหตุที่รถคว่ำในวันนั้นเกิดจากการเบรกอย่างกะทันหันทำให้ตัวรถพลิก  สิ่งที่คุณรู้มามันไม่ใช่ความจริงเลย”
“ไม่  ไม่มีทาง  คุณพ่อบอกผมเองว่าทางตำรวจบอกว่ารถถูกตัดสายเบรก!”
“แล้วคุณเคยไปขอดูเอกสารยืนยันจากกกองพิสูจน์หลักฐานที่สถานีตำรวจบ้างหรือเปล่าครับ”
“…”
“ไม่เคยเลยสินะ  เพราะคุณเชื่อมั่นในคำพูดของพ่อคุณ  ก็เลยไม่เคยคิดจะตรวจสอบอะไรเลย  คุณจักรวาล  ผมขอเอกสารทั้งหมดหน่อย”
คุณจักรวาลส่งซอกเอกสารทั้งสามซองให้กับผม  ผมเปิดดูและเลือกหยิบเอกสารส่งให้เขาไปเพียงสองซองเท่านั้น  เป็นอย่างที่ผมคิดจริงๆ  พ่อของเขาโกหกลูกชายตัวเองเรื่องอุบัติเหตุว่าเป็นการวางแผนฆาตกรรมโดยคุณพ่อของพวกผม  ด้วยเหตุผลนี้เอง  หลังจากนั้นคุณกวินทร์ถึงได้เปลี่ยนไปและเริ่มเข้าพวกกับพ่อของตัวเองเพื่อแก้แค้นอสังหา
“นี่มัน…”
“เอกสารยืนยันเรื่องอุบัติเหตุของพ่อคุณว่าเกิดจากการที่รถเบรกกะทันหันทำให้ตัวรถพลิกคว่ำ  ผมไม่รู้ว่ามันเป็นอุบัติเหตุจริงๆหรือพ่อคุณจงใจ  แต่ที่แน่ๆหลังเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้  เขาก็ใช้มันเป็นเครื่องมือหลอกให้คุณคิดว่าอสังหากำลังวางแผนกำจัดพ่อของคุณเพื่อมรดก  ส่วนเอกสารอีกแผ่น  มันคือเอกสารยืนยันว่าอาจารย์มารีอาถูกฆาตกรรมโดยที่เธอตั้งท้องอ่อนๆอยู่ครับ”
เขานิ่งไปสักพักเพื่ออ่านและตรวจสอบเอกสารทั้งหมดว่าเป็นของจริง  ใบหน้าที่เคยแต้มไปด้วยรอยยิ้มบัดนี้มีแค่รอยน้ำตา  คุณกวินทร์อ้าปากจะเปล่งเสียงร้องหากแต่มันไม่มีเสียงออกมา  มันคือผลข้างเคียงจากอาการช็อกนั่นเอง…
“และไม่ใช่แค่นั้น  ความจริงอีกอย่างที่พ่อของคุณปิดบังเอาไว้ก็คือ…”
ผมเงยหน้ามองไปที่คุณจักรวาลเพื่อส่งซิกให้เขาทำตามในสิ่งที่นัดกันเอาไว้  ใบหน้าเฉยเมยล้วงหยิบมีดพกขนาดเล็กในกระเป๋าของตัวเองออกมา  คุณกวินทร์มองตามด้วยสงสัยว่าอีกฝ่ายคิดจะทำอะไร
“ดูให้ดีนะครับ  ความจริงอีกเรื่องที่คุณควรได้รู้”
เฟี้ยว…ฉึก!
โครม!!!
เป็นอีกครั้งที่ดวงตาของผู้ชายตรงหน้าผมในตอนนี้เบิกกว้าง  เขานั่งตัวแข็งทื่อราวกับสิ่งที่เห็นคือภาพลวงตา  เมื่อคุณจักรวาลปามีดออกไปทางคุณไกรศร  เจ้าตัวที่น่าจะเดินไม่ได้มาตลอดสิบแปดปีเพราะอุบัติเหตุกลับกระโดดหลบมีดได้อย่างหน้าตาเฉย  รถเข็นกระจายไปอีกทางด้วยแรงกระโดดของชายสูงวัยคนนั้น
ความจริงก็คือความจริง  แม้ว่าจะเจ็บปวดเจียนตาย  เราก็ไม่อาจหนีมันพ้น…


บับเบิ้ลบิวชวนคุย :
มาอัพแล้วจ้า  การถูกหลอกจากคนที่รักและเชื่อใจมันเจ็บปวดเหลือเกินนะคะ  ยิ่งคนๆนั้นเป็นพ่อด้วยแล้ว  เชื่อว่ากวินทร์ในตอนนี้คงหัวใจสบาย  เหมือนโลกทั้งใบของเขาถล่มลงไปต่อหน้าต่อตาเลยทีเดียว  ไม่ใช่แค่โกหกเพื่อปลูกฝังความแค้นลงในจิตใจของเขา  แต่ยังฆ่าลูกเมียของเขาได้อย่างเลือดเย็นอีก  แล้วเหตุผลของไกรศรล่ะ?  จากน้องชายที่แสนดี  คุณอาที่แสนน่ารัก  อะไรทำให้เขาเปลี่ยนไปได้ถึงขนาดนี้?!
เรื่องนี้เปิดพรีแล้วนะคะ  รายละเอียด https://writer.dek-d.com/Bb9-/writer/viewlongc.php?id=1681164&chapter=38ตามนี้เลยยย  มีของรางวัลให้ร่วมลุ้นร่วมสนุกด้วยน้า  ตอนพิเศษสุดฟินอัดแน่นเต็มเล่มแน่นวลลลลล!

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
สงสารกวินทร์นะเสียทั้งเมียทั้งลูก ไหนจะโดนพ่อตัวเองหักหลังกันแบบนี้

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
“มึงช่วยโง่ให้มีลิมิตหน่อยได้ไหม"  คำคมของเฟี้ยว

กวินท์ ทำผิดมาตลอดเพราะโดนพ่อหลอก  :z6: :z6: :z6:
เสียเมีย เสียลูก  :z3: :z3: :z3:
      :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ JokerGirl

  • ∀Σ❤∀ΔΣ Forever^^
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +128/-3
พ่อของกวินทร์ทำกับลูกอย่างนี้ได้งัยเนี้ย เจ็บเพราะคนไว้ใจใกล้ตัวที่รักที่สุด

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
เจ็บโคตร ๆ สำหรับการกระทำของคนที่เราไว้ใจ  o12

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 44

จุดเริ่มต้นของการแก้แค้นและน้ำตาของจักรวาล

 

“พ่อของคุณไม่ได้เป็นอัมพาตหรือเดินไม่ได้  เขาแสร้งทำตัวให้น่าสงสารเพื่อแปรเปลี่ยนความเจ็บปวดในใจของคุณให้กลายเป็นความแค้น  หลอกใช้ความรักที่ลูกมีให้กับพ่อจัดการกับอสังหา  ที่ผ่านมาคุณเป็นเพียงแค่…หุ่นเชิดตัวหนึ่งของพ่อคุณเท่านั้น”

แม้จะลำบากใจที่ต้องพูดมากแค่ไหน  แต่เวลานี้ผมจำต้องบอกความจริงทั้งหมดให้เขารู้  ผมต้องการปลดปล่อยเขาออกมาจากความแค้นคลอดสิบแปดปีที่ผู้ชายคนนั้นใช้มันเป็นกรงเพ่อขังคุณกวินทร์เอาไว้  อย่างน้อยก็อยากจะทำตามคำขอร้องสุดท้ายของอาจารย์ให้สำเร็จ

“และนี่คือเอกสารทางการแพทย์ที่ยืนยันว่าพ่อของคุณไม่ได้เป็นอัมพาตแต่อย่างใดมาตลอดสิบแปดปีครับ”

คุณกวินทร์รับเอกสารซองสุดท้ายจากมือของผมไปเปิดอ่านดู  ก่อนจะเงยหน้าหันไปทางพ่อของตัวเองด้วยความผิดหวัง

“ไม่จริงใช่ไหมครับ  คุณพ่อ…”

เอ่ยถามพ่อตัวเองด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ  น้ำตาหยดแล้วหยดเล่าไหลพรากออกมาแทบเป็นสายเลือด

“เป็นความจริง”

“ในที่สุดก็ยอมเปิดปากสินะ”

คุณจักรวาลพึมพำขึ้น  นัยน์ตาน่ากลัวของเขาจ้องมองไปที่คุณไกรศรไม่กะพริบ

“ผู้หญิงคนนั้นมาหาฉันในวันที่ถูกฆ่าตายนั่นแหละ  เธอมาบอกว่ารู้ความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับฉันแล้ว  ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่ฉันไม่ได้พิการเดินไม่ได้  ดูเหมือนเธอจะบังเอิญมาเจอเข้าพอดีตอนที่ฉันจะเอื้อมหยิบหนังสือในห้อง  แล้วยังหลักฐานการยักยอกเงินบริษัท  การฟอกเงิน  บ่อนการพนัน  ไม่รู้ว่าเธอไปหามาจากไหน  แต่เธอเอาเรื่องนั้นมาขู่ฉันเพื่อขอให้ฉันปล่อยแกไป  บอกว่าถ้ายอมปล่อยให้แกได้ไปใช้ชีวิตอยู่กับเธอ  ก็จะช่วยเก็บเรื่องทั้งหมดเป็นความลับให้  แต่ขอให้หยุดการแก้แค้นไว้เพียงเท่านี้  อย่าทำร้ายแกหรือว่าอสังหาคนไหนอีกเลย  ทำไมฉันจะต้องยอมให้เด็กผู้หญิงรุ่นลูกมาข่มขู่แบบนี้ด้วย  แต่ว่าสุดท้ายฉันก็ยอมตกลงไป  เธอดูดีใจมากเพราะคิดว่าสามารถช่วยแกและพวกมันได้สำเร็จแล้วก็เลยกลับไปรอที่บ้านด้วยความดีใจเมื่อฉันบอกว่าจะให้แกติดต่อไปหลังจากที่ฉันสารภาพความจริงทั้งหมดกับแกเอง”

คุณไกรศรเปิดปากเล่าถึงเรื่องที่มีแต่เขาที่รู้เกี่ยวกับอาจารย์มารีอาให้พวกเราฟัง  ผู้หญิงที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ชายทุกคนที่อยู่ที่นี่ตายเพราะอะไร  ตายได้ยังไง

วันนี้พวกเราจะได้รู้กันแล้ว…

“คืนนั้นฉันแอบเอามือถือแกส่งข้อความไปนัดให้เธอออกมาเจอที่ตึกร้างนั่นพร้อมกับบอกให้เอา SD การ์ดมาด้วย  แล้วเธอก็ไป  ลูกน้องที่ฉันส่งให้ไปดักอยู่ที่นั่นแล้วจัดการเธอซะลงมือทันทีที่เธอไปถึง  ฉันสั่งให้มันฆ่าเธอแล้วทำให้ดูเหมือนเป็นการฆ่าตัวตาย  แต่เรื่องกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเพราะ SD การ์ดที่ฉันต้องการไม่ได้อยู่ที่ตัวของเธอด้วย  เป้าหมายเลยเบนเข็มไปที่พวกอสังหาแทน  แค่กล่อมแกนิดหน่อย  แต่งเรื่องอีกสักนิด  ที่เหลือฉันก็แค่อยู่เฉยๆรอให้แกจัดการเท่านั้นเอง”

“ไอ้เลวเอ๊ยยย!”

ไอ้เฟี้ยวทำท่าจะพุ่งเข้าใส่  แต่คุณอวกาศคอยรั้งเอาไว้  ผมก้มมองคุณกวินทร์ที่กำลังร้องไห้มองพ่อของตัวเองด้วยแววตาเจ็บปวด

“ทำไมล่ะครับพ่อ  ทำไมถึงทำแบบนี้  ทั้งที่ผมรักและทำทุกอย่างเพื่อพ่อ  แล้วทำไม…ทำไมต้องฆ่าเมียกับลูกผมด้วย  ฮือ…”

คำถามของคุณกวินทร์กรีดแทงหัวใจทุกคนที่ได้ยิน  น้ำเสียงที่เจือไปด้วยความอ้อนวอนขอความเห็นใจจากพ่อของตัวเองนั้นมันน่าสงสารจนผมแทบจะทนฟังไม่ได้

“ผมยอมพ่อทุกอย่างแล้ว  ผมทิ้งอนาคตที่เคยฝันเอาไว้  ผมสูญเสียเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างจักรวาลไป  ผมต้องเกลียดญาติพี่น้องของตัวเอง  ต้องหลอกใช้ผู้หญิงที่ผมรัก  ทำทุกอย่างเพียงเพราะต้องการให้พ่อมีความสุขและไม่ต้องทุกข์ใจอีกต่อไป  แต่ว่าทำไม...ทำไมพ่อทำกับผมแบบนี้  พ่อฆ่าหลานของตัวเองได้ลงคอ  พ่อทำได้ยังไง  ฮึก…”

“คุณกวินทร์”

ทิ้งตัวลงนั่ง  ดึงเขามากอดเอาไว้ด้วยสงสารจับใจจริงๆ

“ใช่  ฉันมันเลว  ฉันเป็นคนจัดการทุกอย่าง  หลอกใช้แก  ฆ่าลูกฆ่าเมียแก  วางแผนฆาตกรรมพี่ชาย  ไล่ล่าเมียของเขาเพื่อตามฆ่าทายาททุกคน  ทุกอย่างฉันทำเองทั้งหมด  ทำเองโดยไม่ได้เกี่ยวกับแก  ทุกเรื่องมันไม่ได้เกี่ยวกับแกเลยแกเข้าใจไหม!!!”

ประโยคนี้ทำให้ผมต้องเงยหน้ามองเขาก่อนจะเริ่มคิดทบทวนเรื่องราวบางอย่างในหัวอีกรอบ

การยักยอกเงินทั้งหมด  ชื่อเจ้าของบัญชีที่ได้เงินไปก็คือคุณไกรศร…

การฟอกเงิน  รายชื่อของผู้ที่เกี่ยวข้องก็คือคุณไกรศร

เจ้าของบ่อนนั้น…ก็เป็นคุณไกรศร!

แม้ว่าคนออกหน้าตลอดมาส่วนใหญ่จะเป็นคุณกวินทร์ก็ตาม  หากแต่ถ้าวัดกันตามหลักฐานทุกอย่าง  คนที่เกี่ยวข้องและจะต้องรับผิดทั้งหมดมันคือคุณไกรศรคนเดียวเท่านั้น!!!

หมายความว่า…เขาตั้งใจใช้คุณกวินทร์เป็นหุ่นเชิดในการแก้แค้นทุกๆอย่าง  โดยที่เตรียมพร้อมเผื่อทุกอย่างพลาดด้วยการให้ตัวเองเป็นผู้รับผิดทั้งหมด  เพราะอย่างนั้น…หลักฐานที่ควรจะทำลายไปตั้งนานแล้วถึงได้ยังถูกเก็บไว้จนอาจารย์มารีอาสามารถเอามันมาได้อย่างนั้นสินะ  ผู้ชายคนนี้เอง…ก็เตรียมทุกอย่างไว้ปกป้องลูกชายของตัวเองแล้วเหมือนกันงั้นเหรอเนี่ย? 

“ผมไม่เข้าใจ  ทำไมคุณอาที่แสนใจดี  คุณอาที่คุณพ่อเล่าให้ฟังเสมอว่าเป็นน้องชายที่น่ารักถึงเปลี่ยนไปได้ขนาดนี้แหละครับ  ในเมื่อตอนนี้พี่กวินทร์รู้ความจริงแล้วว่าคุณพ่อของพวกผมไม่เคยคิดฆ่าคุณอาเลย  เพราะงั้น…ได้โปรดบอกความจริงได้ไหมครับ  เหตุผลที่ทำให้คุณอาต้องตามฆ่าพี่ฆ่าหลาน  เพื่อมรดกเฮงซวยพวกนี้จริงๆน่ะเหรอ!”

คุณอวกาศที่ยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงไอ้เฟี้ยวอยู่เพื่อกันไม่ให้มันพุ่งเข้าไปตะลุมบอนคุณไกรศรเอ่ยถามขึ้น  สุดท้ายแล้ว…คนที่กุมจุดเริ่มต้นของการแก้แค้นครั้งนี้เอาไว้ทั้งหมดก็มีแต่เขาคนเดียวเท่านั้น…

“พวกแกรู้ไหม  ว่าฉันรักและเคารพในตัวพ่อของพวกแกมากแค่ไหน”

พวกเราต่างหันมาสบตากัน  หรือว่าจุดเริ่มต้นจะมาจากเรื่องของ…คุณพ่อ?

“พ่อสอนให้เราสองคนพี่น้องรักและช่วยเหลือกันมาตลอด  สอนให้คนเป็นพี่คอยดูแลอย่าให้ใครมารังแกน้องได้เด็ดขาด  ตั้งแต่เด็กจนโต  ฉันถูกพี่ดูแลเป็นอย่างดี  ประคบประหงมเหมือนไข่ในหินจนฉันแทบไม่ต้องทำอะไรก็สบายไปทั้งชาติได้  การเอาใจใส่เป็นอย่างดีของพี่ทำให้ฉันรักและเชื่อในตัวเขาหมดหัวใจ  จะไม่มีอะไรมาทำลายความเป็นพี่น้องของเราได้  ฉันคิดแบบนั้นมาตลอด  จนกระทั่ง…กวินทร์  จนกระทั่งแม่ของแกฆ่าตัวตาย”

เรื่องราวเบนเข็มมาที่คุณกวินทร์อีก  ผมนึกย้อนไปถึงเรื่องราวที่คุณเคยกวินทร์เคยเล่าว่าตอนแม่ของเขาฆ่าตัวตายนั้นไม่มีใครรู้เหตุผล  และพ่อของเขาเองก็ไม่เคยบอกใคร  แต่หลังจากนั้นทั้งสองครอบครัวก็ยังดีต่อกันอยู่ไม่ใช่เหรอ?

“แกรักเมียแกมากไหม  กวินทร์  ไม่ต้องตอบฉันก็รู้ว่าแกรักเมียแกมาก  ยิ่งมีลูกด้วยกันก็ยิ่งรักมาก  ฉันเองก็เหมือนกัน  ฉันรักเมียฉันมาก  มากเหลือเกิน  มากจนฉันสามารถตายแทนเธอได้โดยไม่เสียดายชีวิต  แต่ว่า…ความรักที่ฉันมีให้เธอ  ยังไม่เท่าความรักและความเชื่อใจที่ฉันมีต่อพี่ไกรเทพ   ถึงสมบัติจะไม่ใช่ของฉัน  ฉันก็ไม่สนใจ  พี่ได้มันไปสิ  ฉันถึงจะมีความสุข  และเพราะความรักที่มีให้พี่มันมากเกินไปนี่แหละ  ฉันถึงทำเรื่องเลวร้ายที่สุดลงไป  เหตุผลที่แม่ของแกฆ่าตัวตายมันก็เพราะฉันคนนี้!!!  เพราะความรักที่ฉันมีต่อพี่ชายชั่วๆอย่างไอ้ไกรเทพ!”

หมายความว่ายังไงกัน…

จะบอกว่าการฆ่าตัวตายของแม่คุณกวินทร์คือจุดเริ่มต้นของการแก้แค้นยาวนานนี่น่ะเหรอ!!!  เรื่องราวมันเป็นยังไงกันแน่!

“ก่อนที่แม่ของแกจะฆ่าตัวตายได้เพียงหนึ่งอาทิตย์  เธอมาบอกกับฉันเรื่องที่ไอ้จักรวาลไม่ใช่ลูกของพี่  เธอบอกว่าเธอได้ยินพยาบาลที่ทำคลอดให้พี่เสียงพิณในวันนั้นคุยกันว่าพี่เสียงพิณแท้งตอนที่เธอไปหาหมอตามใบนัด  แล้วไอ้จักรวาลจะกลายมาเป็นลูกได้ยังไง  แต่ฉันไม่เชื่อแม่แก  ฉันคิดว่าเธอโกหกเพราะโกรธแค้นและอยากให้ฉันเป็นคนได้มรดก  พวกเราทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนฉันเผลอพลั้งมือตบหน้าแม่แกไป  ฉันไม่ต้องการให้เธอให้ร้ายพี่ชายที่ฉันรัก  แม่แกเสียใจมากที่ฉันไม่เชื่อในสิ่งที่เธอพูด  ตลอดอาทิตย์นั้นฉันแกล้งทำเป็นเย็นชาไม่สนใจเธอเพื่อหวังว่าเธอจะคิดได้และมาขอโทษที่ใส่ร้ายพี่ชายกับพี่สะใภ้ของฉัน  แต่เรื่องกลับกลายเป็นว่าเธอฆ่าตัวตาย  ฆ่าตัวตายเพราะเสียใจที่ฉันไม่เชื่อใจเธอ!!!”

ไม่มีใครปริปากพูดอะไรออกไปได้เลยในตอนนี้  คนที่ช็อกกับเรื่องที่ได้ยินมากที่สุดคงจะเป็นคุณกวินทร์  เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้เหตุผลที่แม่ของตัวเองฆ่าตัวตาย

“และถึงแม้ว่าเธอจะฆ่าตัวตายไปแล้ว  ฉันก็ยังมั่นใจเรื่องที่เธอบอกเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดหรือไม่เธอก็โกหกมันขึ้นมา  เธอคงฆ่าตัวตายเพราะน้อยใจที่ฉันทำหมางเมินใส่  ฉันเชื่อใจพ่อของพวกแกมาตลอด  เชื่อโดยไม่คิดจะตรวจสอบด้วยซ้ำว่าเรื่องที่เมียของฉันพูดมันเป็นความจริงหรือเปล่า!”

เขาหันมาสบตากับพวกเราสามคนด้วยดวงตาแข็งกร้าว  ความแค้นในดวงตาฝังแน่นและเผาไหม้จิตใจแห่งความเป็นคนของเขาไปจนหมด

“แต่สวรรค์คงเห็นใจน้องชายโง่ๆอย่างฉันล่ะมั้ง  ตอนที่แกเข้าโรงพยาบาลเพราะรับมีดจากพวกอันธพาลแทนไอ้เด็กเหลือขอนั่น  ฉันไปเจอเข้ากับพยาบาลคนที่เมียฉันพูดถึง  เธอเข้ามาทักเพื่อแสดงความเสียใจเรื่องการตายของเมียฉัน  ก่อนจะบอกว่าครอบครัวฉันน่าจะพากันไปทำบุญบ้าน  หลานชายคนแรกก็ต้องมาตายเพราะพี่เสียงพิณแทน  แล้วนี่เมียฉันยังจะมาฆ่าตัวตายอีก  พอได้ยินแบบนั้นเข้า  ฉันถึงรู้ว่าเมียฉันไม่ได้พูดเรื่องโกหก  พอลองสืบดูอย่างจริงจังก็ต้องตกใจกับความจริงที่พบวาไอ้จักรวาลคือลูกของตระกูลข้ารับใช้อสังหาต่างหาก!”

เข้าใจแล้ว…

ผมพอจะรู้แล้วว่าทำไมเขาถึงแค้นมากมายขนาดนี้  ความเชื่อใจที่มีให้คุณพ่อของผมมากเกินไปทำให้ต้องสูญเสียผู้หญิงที่รักมากที่สุดไปอย่างไม่มีวันกลับ  และทั้งๆที่เชื่อมั่นแบบนั้นมาตลอด  พอได้มารู้ความจริงที่เป็นเหมือนต้นเหตุทำให้คนรักต้องฆ่าตัวตาย  ความรู้สึกที่เหมือนถูกหักหลังคงพุ่งเข้าทิ่มแทงจิตใจจนในที่สุดก็สูญสิ้นความเป็นมนุษย์ไป

เหลือเพียงไฟแค้นเผาวนอยู่รอบตัว…

“เป็นความจริงที่ผมไม่ใช่สายเลือดของอสังหา  แต่จุดประสงค์ที่คุณไกรเทพเอาผมมาเป็นลูกไม่ใช่เพื่อมรดกอะไรนั่น  คุณไกรเทพแค่ไม่ต้องการให้คุณเสียงพิณรู้ว่าเธอแท้งลูกไปแล้ว  ทั้งคุณพ่อทั้งภรรยา  ต่างก็เฝ้ารอที่จะได้เห็นหน้าทายาทคนแรกมาตลอดเก้าเดือน  ความกลัวที่จะต้องเห็นคนที่รักทั้งสองคนเสียใจทำให้คุณไกรเทพตัดสินใจผิดพลาดโดยการรับผมเข้ามาแทนที่ทายาทตัวจริงที่จากไป  คุณไกรเทพไม่เคยอยากได้สมบัติ  และคงคิดไม่ถึงด้วยว่าการตัดสินใจในครั้งนั้นของเขาจะทำให้คุณต้องสูญเสียผู้หญิงอันเป็นที่รักไป  ถ้ารู้…ผมมั่นใจว่าคุณไกรเทพยอมทำได้แม้ว่าจะต้องกราบขอโทษคุณหรอเอาชีวิตเข้าแลกก็ตาม”

คุณจักรวาลที่เงียบมาตลอดพูดในส่วนของตัวเองบ้าง  ผมไม่รู้เรื่องเลยว่าความผิดทั้งหมดมันเริ่มมาจากใคร  ทุกคนล้วนมีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง  ต่างกันที่เวลาในการเลือกกระทำนั้นไม่ตรงกัน  กลายเป็นว่าโชคชะตาก่อให้เกิดความบาดหมางระหว่างพี่น้อง

คนหนึ่งกลัวที่จะต้องเห็นคนที่รักเสียใจจึงเลือกที่จะโกหก

อีกคนถูกความเชื่อใจทำร้ายจนกลายเป็นการถูกหักหลังอย่างไม่น่าให้อภัย

ไม่ว่าจะเป็นใคร…ต่างก็เจ็บปวดและหวาดกลัวเลยไม่ยอมหันหน้าเข้าหากันเพื่อพูดคุยกันด้วยความเข้าใจเหมือนเมื่อครั้งที่ยังรักและห่วงใยกันอยู่

“แล้วยังไงล่ะ  กลัวเมียจะเสียใจ  แล้วฉันล่ะ!  ฉันไม่เสียใจหรือไงที่ต้องสูญเสียเมียไปอย่างไม่มีวันกลับ!  กวินทร์ต้องกำพร้าแม่ตั้งแต่อายุแค่สิบสี่!  ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ชั่วๆคนนั้นมันเห็นแก่ตัว  เรื่องเลวร้ายพวกนี้คงไม่เกิดขึ้นกับฉันหรอก!”

“ผมเข้าใจครับ  ผมไม่รู้จะพูดยังไงดี  แต่ว่า…ได้โปรด  ให้อภัยคุณพ่อที่ขี้ขลาดคนนั้นของพวกผมด้วยเถอะครับคุณอา”

คุณอวกาศยกมือไหว้ก่อนจะก้มหัวจรดศีรษะลงกับพื้น  การกระทำของเขาสร้างความตกตะลึงให้กับทุกคนเป็นอย่างมาก

นั่นสินะ  การกระทำของคุณพ่ออาจจะไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครต้องเดือดร้อนหรือเจ็บปวดก็จริง  แต่ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่ามันไม่ส่งผลถึงคนอื่น  และยิ่งคนที่ได้รับผลจากกระทำนั้นไปเต็มๆคือน้องชายของคุณพ่อ  คือคุณอาของพวกผม  นั่นแปลว่าพวกผมมีส่วนต้องรับผิดชอบเช่นกัน

“ผมเอง…ก็ขออภัยด้วยเหมือนกันครับ  ผมอาจจะไมรู้เรื่องอะไรของทุกคนที่อยู่ที่นี่เลย  แต่ถ้ามันจะทำให้คุณไกรศรรู้สึกดีขึ้นบ้าง  แม้จะไม่ถึงขั้นให้อภัยคุณพ่อของพวกเราได้  แต่อย่างน้อย…ขอให้พวกเราได้กราบขอโทษด้วยเถอะครับ  ขอโทษแทนคุณพ่อ  ที่ไม่คิดไตร่ตรองว่าการกระทำพวกนั้นมันทำให้คุณไกรศรต้องทนทุกข์ทรมานมานานขนาดไหน”

ผมเขยิบตัวไปเคียงข้างคุณจักรวาล  ยกมือไหว้และก้มศีรษะจรดพื้นเหมือนอย่างที่พี่ชายทำ  ผมไม่ได้ต้องการเป็นทายาท  ไม่ได้ต้องการเงินทองมากมายที่คุณพ่อทิ้งไว้  สิ่งเดียวที่ผมต้องการ…คือชดใช้ความผิดที่คุณพ่อได้ก่อเอาไว้แทนเขา  แม้มันจะแทนกันไม่ได้  แต่ผมก็อยากจะทำอะไรบ้างเพื่อครอบครัวที่แท้จริงของผม!

“พวกคุณ…”

“…”

“คุณพ่อครับ  ทายาทของอสังหาทั้งสองคนยอมก้มหัวให้คุณพ่อแล้วนะครับ  หยุดความแค้นทั้งหมดเถอะนะ”

“พวกแกสองคน…พวกแกสองคนคิดว่าแค่ก้มหัวขอโทษแล้วทุกอย่างมันจะจบงั้นเหรอ!  ฉันต้องสูญเสียอะไรไปบ้างพวกแกรู้หรือเปล่า  สูญเสียเมียอันเป็นที่รัก  ทำลายความสุขของลูกผู้ชายเพียงคนเดียว  จมอยู่กับความแค้นไม่เคยยิ้มหรือหัวเราะออกมาจากใจจริงได้เลยสักวัน!  แค่พวกแกสองคนมาก้มหัวให้มันไม่สามารถชดใช้ในสิ่งที่ฉันเสียไปได้เลย  มันแทนกันไม่ได้เลย!!!”

คุณไกรศรตวาดลั่น  ความคับแค้นมากมายพรั่งพรูออกมาราวกับพายุ  ไม่ว่ายังไง…ผมก็ไม่สามารถหยุดความแค้นที่เขามีได้จริงๆ

“แล้วยังไงครับคุณพ่อ!  ต่อให้คุณพ่อแก้แค้นต่อไปคุณแม่ก็ไม่ฟื้นขึ้นมา  คุณลุงอาจจะผิดที่โกหกเรื่องทายาทคนแรก  แต่คุณพ่อรู้ดีอยู่แก่ใจว่าที่คุณแม่ฆ่าตัวตายมันเป็นเพราะคุณพ่อไม่ใช่คุณลุง!!!”

“หุบปากนะ!”

“…”

“แกอย่ามาโทษฉันนะไอ้ลูกทรพี!  คนพวกนั้นฆ่าแม่ของแก!  มันเป็นทายาทของคนที่ทำให้แม่แกต้องตายแล้วทำไมแกถึงยังไปอยู่ข้างพวกมันอีก!  แกไม่รักแม่ของแกหรือไง  แกไม่เจ็บแค้นกับความตายของแม่แกหรือยังไง!!!”

ผมกับคุณอวกาศยันตัวขึ้นมากจากก้มกราบ  ไอ้เฟี้ยวที่ยืนฟังอยู่ด้วยเริ่มหัวเสียเพราะท่าทางทุกอย่างจะไม่ลงเอยด้วยดีอย่างที่หวัง  ความเจ็บปวดที่อยู่ในใจของคุณไกรศรมันฝังรากลึกจนไม่มีใครลบมันออกได้แล้ว

“เลิกโทษคนอื่นได้แล้วครับพ่อ!  ยิ่งมาเห็นแบบนี้  ยิ่งโดนคุณพ่อทำร้ายด้วยตัวเองแบบนี้  ผมยิ่งเข้าใจแล้วว่าเพราอะไรคุณแม่ถึงฆ่าตัวตาย  มันก็เพราะคุณพ่อไม่เคยรักผมกับแม่ด้วยใจจริงเลย  คุณพ่อรักแต่ตัวเอง!  เพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ  คุณพ่อทำได้ทุกอย่างโดยไม่สนใจเลยว่าใครจะรู้สึกยังไง!  คุณพ่อฆ่าลูกฆ่าเมียผมได้อย่างเลือดเย็น  ทำร้ายจิตใจคุณแม่เพียงเพราะต้องการให้คุณแม่ยอมแพ้และยอมรับความคิดของคุณพ่อเองไม่ใช่หรือไง!”

“ไม่ใช่!  ทั้งหมดมันเพราะพี่ชายชั่วๆนั่นต่างหาก  เพราะเรื่องทายาทคนแรก!  ใช่…ทายาทคนแรก  ทายาทคนแรกอย่างมันต่างหากที่ผิด!”

คุณไกรศรลุกขึ้นชี้ไปที่คุณจักรวาล  ทั้งสองยืนปะทะหน้ากันแม้ว่าจะยืนห่างกันอยู่พอสมควรก็ตาม  ทว่าอีกฝ่ายดูท่าจะสติหลุดไปเรียบร้อยแล้ว

“ถ้าไม่มีมัน  ถ้ามันไม่ได้เกิดมาในวันนั้นพอดี  พี่ก็คงไม่เลือกทางผิดเอามามันแทนลูกของตัวเองที่ตายไปแบบนี้  ขอเพียงแต่ไม่มีมัน…แค่ไม่มีมัน!”

“เฮ้ย!”

“คุณพ่ออย่านะครับ!”

ปัง! ปัง! ปัง!

สามนัดติดๆกับลูกกระสุนที่ออกมาจากปืนในมือของคุณไกรศรที่เขาล้วงหยิบออกมาจากด้านหลัง  ร่างสูงที่ถูกกระสุนพวกนั้นสาดใส่ค่อยๆทรุดลงกับพื้น  ผมกับคุณอวกาศรีบเข้าไปรับร่างของคุณกวินทร์เอาไว้ก่อนที่มันจะล้มลงกระแทกพื้น

“พี่กวินทร์!  พี่!”

แกร๊กๆๆ

ปืนในมือของคุณไกรศรดูเหมือนจะมีแค่สามนัดเท่านั้น  เขาโยนปืนทิ้งไปไกลพร้อมน้ำตาที่ไหลพรากเมื่อรู้ว่าคนที่ถูกยิงไม่ใช่คุณจักรวาลแต่เป็นคุณกวินทร์ที่กระโจนเข้ามารับลูกกระสุนแทน!

“กวินทร์ลูกพ่อ!!!!”

ร่างสูงวัยหมดแรงทรุดลงทั้งน้ำตา  ปากร้องเรียกหาแต่ลูกชายราวกับคนสติหลุด  ผมเงยหน้ามองคุณจักรวาลที่ยังคงยืนนิ่งอยู่กับที่  ไม่มีแววตาตกใจให้เห็นเลยแม้แต่น้อย

“พี่กวินทร์  พี่ทำใจดีๆไว้นะ  ผมจะพาพี่ไปโรงพยาบาล”

คุณอวกาศพร่ำบอกทั้งน้ำตา  ขณะที่ผมเอื้อมมือไปกระตุกขากางเกงของคนที่ยังยืนนิ่งอยู่  หวังจะให้เขาก้มลงมองคุณกวินทร์ที่จ้องมองแต่เพียงเขาในตอนนี้

“ยะ…อย่างน้อย  ความฝัน…ของผม  กะ…ก็เป็นจริง…เรื่องหนึ่ง”

“พี่อย่าเพิ่งพูดอะไรเลย  เก็บแรงไว้หายใจเหอะนะ!”

คุณกวินทร์ไม่ได้ฟังที่คุณอวกาศพูดเลย  สายตามองไปที่คุณจักรวาลซึ่งยืนนิ่งอยู่ทางด้านขวามือของเขาเท่านั้น

“คะ…คือผม…สามารถ  ปก…ปะ…ป้องคุณได้”

“…”

“ถึงคุณจะ…เกลียดผม   แต่ว่า…สะ…สำหรับผมแล้ว…”

“…”

“จักรวาล…เป็นเพื่อน…ที่ดีที่สุด…นะครับ”

“คุณจักรวาล  พูดอะไรบ้างสิครับ”

ผมส่งเสียงเรียกเขาดู  รู้สึกใจชื้นขึ้นหน่อยเมื่อร่างสูงมีปฏิกิริยาตอบโต้กลับด้วยการก้มหน้าลงมามองคุณกวินทร์

“เพื่อนที่กลายเป็นความชั่วไปแล้วอย่างแก  ตายไปซะก็ดี”

“คุณจักรวาล!”

“พี่!”

“ไอ้จักรวาล!”

“ฮะๆ…  นะ…นั่นสินะครับ  คนที่…ตัดสินใจกลายเป็น  คะ…ความชั่วเองก็  คะ…คือผม”

“ใช่  ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลร้อยแปดยังไง  ต่อให้คุณอาจะสร้างเรื่องโกหกมากมายแค่ไหน  สุดท้ายคนที่จะตัดสินใจว่าจะเป็นความชั่วหรือไม่ก็คือตัวแกอยู่ดี”

สิ้นคำ  คุณจักรวาลก็หมุนตัวเตรียมจะเดินออกจากที่นี่ไป  ผมมองเขาสลับกับคุณกวินทร์ที่ยังคงยิ้มอยู่  เลือดมากมายหลังไหลออกมาจากบาดแผลและปากของเขา

“มา…รีอา  มะ…มารับผม  แล้วสินะ”

มือที่ชุ่มไปด้วยเลือดของคุณกวินทร์ยกขึ้นเล็กน้อย  ดวงตาของเขาทอดมองไปยังเพดานของโรงงานร้างนี้ราวกับว่าเขามองเห็นอาจารย์มารีอาจริงๆ

ตุ้บ…

“พี่กวินทร์!!!”

ผมเบิกตากว้างพร้อมคุณอวกาศที่แผดเสียงเรียกชื่อคนในอ้อมแขนออกมาดังลั่น  ดวงตาที่มองคุณจักรวาลด้วยความสุขเมื่อกี้ปิดสนิทลง  ริมฝีปากแย้มยิ้มเหมือนต้องการจะบอกว่า…เขามีความสุขดีจนวาระสุดท้ายของชีวิต

“ฝากหน่อยครับ”

ดันตัวคุณกวินทร์ส่งให้คุณอวกาศรับไว้ทั้งหมด  ผมเร่งฝีเท้าวิ่งตามคุณจักรวาลจนทัน  สองมือยันแผงอกแกร่งนั้นไว้ไม่ให้เขาเดินต่อ

แววตา…แววตาที่เยือกเย็นพวกนี้กลับมาอีกแล้ว

“พอ…พอสักทีเถอะครับคุณจักรวาล!”

“เป็นอะไรไปหมาน้อยของฉัน  ทำไมถึงร้องไห้แบบนี้ล่ะ”

มือหนาลูบแก้มผมเบาๆแล้วปาดน้ำตาออกให้  ท่าทางที่เหมือนหุ่นยนต์ถูกใส่แบตของเขาบีบหัวใจผมจนแทบจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ  ทำไม…ทำไมเรื่องต้องจบลงแบบนี้ด้วย  ผมไม่ได้ต้องการให้มีใครตายสักหน่อย!

“ผมร้องแทนคุณไงล่ะ  ที่ผมร้องก็เพราะคุณไม่ยอมร้องไห้ยังไงล่ะครับ!”

“ร้องไห้?  ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วยล่ะ?  ร้องไห้ให้กับความชั่วแบบนั้น  มันไม่จำเป็นเลยนะ”

หมับ!

ผมปัดแขนเขาออกแล้วยื่นมือเขาไปบีบแขนเขาไว้แทน  เงยหน้ามองร่างสูงที่เริ่มจะไร้จิตวิญญาณเข้าไปทุกที

“คุณฟังผมนะคุณจักรวาล!  คุณฟังผมให้ดี!  คุณกวินทร์น่ะ…คุณกวินทร์เพื่อนรักที่สุดของคุณเขาตายแล้วนะครับ!” 

“…”

“เขาไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้ว  ไม่มีเขาอยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว!  หลังจากนี้…แม้ว่าคุณจะอยากเจอเขามากแค่ไหน  อยากได้ยินเสียงเขามากแค่ไหน  หรือว่าอยากจะต่อยหน้าเขาเพื่อลงโทษเวลาเขาทำผิดแค่ไหน  คุณก็จะไม่สามารถทำได้แล้วนะครับ”

“…”

“เพราะเขาไม่อยู่แล้ว  คุณกวินทร์ไม่อยู่แล้วจริงๆนะครับ”

ผมดึงตัวคุณจักรวาลเข้ามากอดไว้แน่น  แน่นจนกว่าร่างกายที่กำลังสั่นเทาของเขาอยู่ในตอนนี้จะหยุดสั่นลงได้…

“…”

ความเปียกชื้นที่ไหล่ทำให้ผมต้องเงยหน้าขึ้นมองเจ้าของร่างที่อยู่ในอ้อมกอดตอนนี้   แววตาที่ยังคงไม่รับรู้อะไรของเขา  ใบหน้าที่ยังเรียบตึงไร้ความรู้สึกนั่นก็ด้วย  หากแต่…

น้ำตามากมายกำลังไหลอาบแก้มลงมา

 

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพแล้วนะคะ… วันนี้อัพเช้ามากๆเพราะเดี๋ยวบิวจะออกไปข้างนอกแล้วค่ะ  คงไม่ว่างทั้งวันเลย หลังจากแต่งตอนนี้จบ  ไม่มีความรู้สึกอะไรเกิดขึ้นในใจของบิวเลยนอกจากน้ำตาที่เปื้อนหน้ากับกระดาษทิชชู่กองโตเพราะแต่งไปก็ร้องไห้ไป  เป็นการฆ่าตัวละครตัวแรกที่ทำให้หัวใจเจ็บปวดที่สุดเลย  หวังว่ากวินทร์จะได้มีความสุขกับมารีอาและลูกอยู่ในสถานที่อันแสนสงบอย่างที่ทั้งคู่ต้องการเนอะ  ส่วนคนที่ยังอยู่ก็คงต้องดิ้นกันต่อไป  ไกรศรต้องจมอยู่กับความผิดและฝันร้ายที่เขาเป็นคนฆ่าลูกเองไปจนวันสุดท้ายของชีวิต  อีกตัวละครที่อดสงสารจับใจไม่ได้ก็คือจักรวาล  ตอนนี้เขาต้องกำลังทรมานมากแน่ๆ  มันไม่ใช่แค่การตายของเพื่อนรัก  หากแต่เพื่อนรักยังตายเพื่อปกป้องเขาอีก  น่าเสียดายที่ทั้งคู่ไม่มีโอกาสได้ปรับความเข้าใจกัน  ถ้าจักรวาลและวินนี่ในวัยเด็กสามารถแยกร่างออกมาพูดคุยได้   ทั้งสองคนอยากเห็นจักรวาลและกวินทร์ในวันนี้หัวเราะร่วมกันอีกครั้ง  แต่บางที…พระเจ้าก็ไม่ได้ให้โอกาสใครเป็นครั้งที่สอง  นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคนเราถึงควรคิดและไตร่ตรองให้ดีก่อนที่จะทำอะไรสักอย่างลงไป  เพราเมื่อทำลงไปแล้ว  เราจะไม่สามารถกลับไปแก้ไขได้อีก  และมันอาจจะสายไปแล้วเหมือนเพื่อนสนิทคู่นี้ก็เป็นได้ค่ะ

เอาล่ะ  เรื่องราวดราม่าอันยาวนานเป็นอันจบลง  ตอนหน้ามาเติมน้ำตาลให้เลือดกันบ้างดีกว่าเนอะ!

เรื่องนี้เปิดพรีแล้วนะคะ  รายละเอียด https://writer.dek-d.com/Bb9-/writer/viewlongc.php?id=1681164&chapter=38  มีของรางวัลให้ร่วมลุ้นร่วมสนุกด้วยน้า  ตอนพิเศษสุดฟินอัดแน่นเต็มเล่มแน่นวลลลลล!

ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
เรื่องมันเกิดเพราะกลัวคนข้างเคียงที่เป็นที่รักเสียใจ
แต่ก็ไม่ใช่มีที่รักคนเดียว รอบข้างก็มีนี่น้องชายไง
เลยทำให้น้องชายที่รักพี่ชายสุดๆ เหมือนถูกหลอกลวง หักหลัง
ยิ่งมีเดิมพันเป็นสมบัติของตระกูล เลยแค้นสุดๆ

ว่าไปไอ้ข้อแม้ที่ว่ามีหลานคนแรกนี้
ทำให้เกิดฆ่าฟันกันในครอบครัวแต่ก็ยังคิดกันขึ้นมา
ไม่ต้องถึงหลานหรอก
ลูกนี่แหละแบ่งให้เท่าๆกันมันยุติธรรมกว่าเห็นๆ
มันก็จบเรื่องแล้ว ก็ลูกของตัวเองแท้ๆ ทำไมจะแบ่งให้ไม่ได้
โทษปู่ได้เลย เชอะส์ :fire: :fire: :fire:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Leenboy

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3095
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +105/-2
คลี่คลายซักที

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
จะโทษใครดีล่ะ เรื่องนี้เริ่มแค่ความหวังดีที่ไม่อยากให้คนรอบข้างต้องเสียใจ แต่ทำให้เกิดโศกนาศกรรมขึ้น
ในทางกลับกันถ้าพ่อของกวินทร์ได้เข้ามาพูดเรื่องนี้กับพ่อของอวกาศแต่แรกเรื่องแบบนี้ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นนะ
แต่ก็อีกล่ะเพราะความเชื่อใจถึงไม่ได้ไปพูดคุยเรื่องนี้กับพ่อของอวกาศและพอมารู้ทีหลังมันก็เรื่องเจ็บปวดมากซินะ

ออฟไลน์ Soda.wine

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 76
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
 :mew6: เรื่องมันเศร้า

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
เรื่องมันเกิดเพราะกลัวคนข้างเคียงที่เป็นที่รักเสียใจ
แต่ก็ไม่ใช่มีที่รักคนเดียว รอบข้างก็มีนี่น้องชายไง
เลยทำให้น้องชายที่รักพี่ชายสุดๆ เหมือนถูกหลอกลวง หักหลัง
ยิ่งมีเดิมพันเป็นสมบัติของตระกูล เลยแค้นสุดๆ

ว่าไปไอ้ข้อแม้ที่ว่ามีหลานคนแรกนี้
ทำให้เกิดฆ่าฟันกันในครอบครัวแต่ก็ยังคิดกันขึ้นมา
ไม่ต้องถึงหลานหรอก
ลูกนี่แหละแบ่งให้เท่าๆกันมันยุติธรรมกว่าเห็นๆ
มันก็จบเรื่องแล้ว ก็ลูกของตัวเองแท้ๆ ทำไมจะแบ่งให้ไม่ได้
โทษปู่ได้เลย เชอะส์ :fire: :fire: :fire:
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

จริงด้วยย ดราม่านี้ต้องโทษคุณปู่ 5555.

ที่จริงคือคุณปู่แก่ใกล้จะตายแล้วค่ะ อยากเห็นหน้าหลานก่อนตายสักหน่อยเลยใช้วิธีนี้ 5555

ป่านนี้คุณปู่บนสวรรค์คงนั่งกุมขมับ "ตูไม่คิดว่าเรื่องมันจะเแนแบบนี้"  5555

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
 :hao5: สงสารหลานกวินทร์จังเลย  :hao5: :hao5:

ออฟไลน์ little_munoi

  • ++ singular ++
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1677
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-3
ตายแล้วจิงๆหรอ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 45

คงเหลือแค่ความทรงจำ

 

[เพื่อนที่กลายเป็นความชั่วไปแล้วอย่างนาย  ตายไปซะได้ก็ดี]

[นั่นสินะครับ  คนที่…ตัดสินใจกลายเป็นความชั่วเองก็คือฉันเอง]

[ใช่  ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลร้อยแปดยังไง  ต่อให้คนพวกนั้นจะสมควรตายมากแค่ไหน  แต่ว่า…สุดท้ายคนที่จะตัดสินใจว่าจะเป็นความชั่วหรือไม่ก็คือตัวนายอยู่ดี]

 

‘จะ…ใจร้ายจังเลยนะครับ  ทำไมพระเอกถึงเพื่อนพูดกับเพื่อนของตัวเองแบบนั้นล่ะ  จริงอยู่ว่าเขาคือตัวร้ายแล้วก็ทำความผิดมามาก  แต่ว่าเขาเป็นเพื่อนสนิทของพระเอกนะ  ทีค่ตายก็เพราะปกป้องพระเอกด้วย  อย่างน้อยวาระสุดท้ายของชีวิตก็น่าจะคืนดีกัน  ปรับความเข้าใจกัน  หรืออย่างน้อยพระเอกก็น่าจะให้อภัยเพื่อของเขา  ว่าไหมครับจักรวาล’

กวินทร์ในวัยสิบเจ็ดที่นอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลเพราะสามวันก่อนเพิ่งจะเอาตัวเข้าไปรับคมมีดแทนจักรวาลจนเกือบตายเอ่ยขึ้นเสียงเศร้า  พวกเขาสองคนกำลังนั่งดูหนังที่ฉายอยู่ทางทีวีด้วยกัน

‘ไม่หรอก  นายจำประโยคที่พวกเขาคุยกันไม่ได้เหรอ  มันคือประโยคในหนังที่พวกเขาพากันไปดูเมื่อตอนยังเด็กๆไง’

จักรวาลอธิบาย  กวินทร์ทำท่านึกสักพักก็ยิ้มกว้างออกมา

‘จริงด้วย  เป็นประโยคในหนังที่พวกเขาพากันไปดูจริงๆด้วย  แล้วทำไม…พระเอกถึงเอาประโยคในหนังมาพูดล่ะครับ?’

‘ลองคิดดูให้ดีสิ  ประโยคพวกนั้นมาจากหนังที่พวกเขาไปดูตอนที่ยังเป็นเพื่อนรักกันดี  ช่วงเวลานั้นทั้งสองคนมีความสุขด้วยกันมากๆเลยใช่ไหมล่ะ  แสดงว่าการที่พระเอกพูดแบบนั้นออกมา  อาจจะหมายถึงการให้อภัยก็ได้นะ  เพราะยอมให้อภัยทุกๆอย่าง  ถึงได้พูดถึงความทรงที่แสนวิเศษของพวกเขาที่มีร่วมกันออกมาไง’

‘มิน่าล่ะ  ก่อนจะตาย  ตัวร้ายถึงยิ้มออกมาอย่างมีความสุขแบบนั้น  เป็นเพราะเขารู้สินะครับ  ว่าพระเอกให้อภัยเขา’

‘คิดว่าน่าจะใช่นะ  เป็นคำพูดที่มีแค่พวกเขาสองคนเท่านั้นที่รู้  ว่าความเป็นเพื่อนของพวกเขาจะไม่มีวันหายไป  แม้ว่าอีกคนจะตายจากไปแล้วก็ตาม’

‘ซึ้งจัง  ถ้าผมกับจักรวาลได้เป็นเพื่อนที่รักกันมากแบบในหนังเองนี้ก็คงจะดีนะครับ’

‘แต่ฉันไม่ขอตายแบบนั้นเด็ดขาดนะ  ฉันไม่อยากกลายเป็นความชั่วหรอก’

‘ผมก็ไม่ยอมให้คุณกลายเป็นความชั่วหรอกครับ  ฮะๆๆ’

ทั้งสองคนหัวเราะร่วมกันอย่างมีความสุข  การได้ดูหนังเรื่องนี้ด้วยกัน กลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำอันล้ำค่าที่พวกเขาจะไม่มีวันลืม…

 

เป็นเวลากว่าชั่วโมงแล้วที่คุณจักรวาลเอาแต่ยืนเหม่อออกไปนอกหน้าต่างภายในห้องนอน  หลังจากที่ตำรวจมาถึงสถานที่เกิดเหตุและจับตัวคุณไกรศรที่มีอาการคุ้มคลั่งไป  คุณกวินทร์ถูกนำส่งโรงพยาบาลเพื่อตรวจสอบสาเหตุการเสียชีวิต  พร้อมกับผอ.ที่ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเนื่องจากมีอาการอ่อนเพลีย  คุณอวกาศและไอ้เฟี้ยวอาสาไปให้ปากคำที่โรงพัก  ไอ้โชเล่ถูกจับไปในฐานะผู้ต้องหา  การที่เรื่องราวคลี่คลายลงคราวนี้ทำให้ตำรวจสามารถสาวไปถึงบ่อนการพนันของคุณไกรศรและการยักยอกทรัพย์อื่นๆ  เรียกได้ว่ามีคดียาวเป็นหางว่าว  หากต้องติดคุกคงไม่มีโอกาสได้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก  ไหนจะเรื่องที่สั่งฆ่าปิดปากอาจารย์มารีอาและกักขังหน่วงเหนี่ยวผอ.

เป็นบทสรุปที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่เลย

“คุณจักรวาล…”

ผมเรียกเขาเป็นรอบที่รอยแล้วเห็นจะได้  แม้ว่าเขาจะไม่พูดอะไรออกมา  แต่ทุกคนรู้ดีว่าคนที่เสียใจที่สุดกับการจากไปของคุณกวินทร์ก็คือผู้ชายคนนี้นี่แหละ  ผมไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงพูดจาแบบนั้นในช่วงวินาสุดท้ายของชีวิตคุณกวินทร์  ทว่าเมื่อนึกย้อนไปถึงรอยยิ้มที่คุณกวินทร์ยิ้มออกมา  มันเป็นรอยยิ้มของความสุขราวกับว่าไม่มีอะไรให้เขาต้องกังวลอีกต่อไปแล้ว

หรือจะมีโค้ดลับอะไรแฝงอยู่ในคำพูดของคุณจักรวาลกันนะ?

โค้ดลับที่หมายถึงการ…ให้อภัย

หมับ…

เมื่อไม่ได้รับการตอบรับ  ผมเลยเดินเข้าไปสวมกอดเขาจากด้านหลังแทน  ซบหน้าลงกับแผ่นหลังกว้างที่มองทีไรก็อดคิดไม่ได้ว่าเจ้าของแผ่นหลังนี้กำลังอ้างว้างมากแค่ไหนกันนะ?  ตั้งแต่วันแรกที่ได้เจอ  ทั้งแววตา  ทั้งร่างกายนี้  ทุกอย่างในตัวคุณจักรวาลมันเต็มไปด้วยความเศร้า

“ไทม์เหรอ…”

แทบร้องไห้เลยทีเดียวเมื่อเขาเรียกชื่อผมออกมา  ในที่สุด…ในที่สุดคุณก็ยอมรับรู้อะไรบ้างแล้ว  ผมนึกว่าคุณจะเสียใจจนไม่อาจเรียกตัวตนเดิมกลับมาได้แล้วเสียอีก

“ไม่เป็นไรนะครับ  ไม่เป็นไร”

“…”

“คุณกวินทร์จากไปแค่ร่างกายเท่านั้น  เขายังมีชีวิตอยู่ในใจของพวกเราทุกคน  เหมือนอาจารย์มารีอา  จะไม่มีใครลืมพวกเขาทั้งสองอย่างแน่นอนครับ  ผมเองก็จะไม่ลืม  คุณอวกาศก็ด้วย  ไอ้เฟี้ยวก็เหมือนกัน  และคุณเอง…”

“…”

“คุณจักรวาลเองก็จะไม่ลืมใช่ไหมล่ะครับ  ไม่ลืมน้องสาวที่น่ารักอย่างอาจารย์มารีอา  และเพื่อนที่ดีที่สุดอย่างคุณกวินทร์”

สิ้นคำ  ร่างสูงก็ค่อยๆหันกลับมาหา  ฝ่ามืออบอุ่นที่ผมชอบเวลาถูกสัมผัสประคองใบหน้าของผมเอาไว้

“แม้ว่ามันจะเหลือเพียงแค่ความทรงจำ  แต่เราก็เลือกที่จะจำเฉพาะเรื่องราวดีๆของพวกเขาได้ไม่ใช่เหรอครับ”

ขอร้องล่ะ  ขอให้เสียงของผมส่งไปถึงเขาที  ผมไม่ต้องการให้คนๆนี้จมอยู่กับความเจ็บปวดอีกต่อไปแล้ว  ที่ผ่านมาเขาแบกรับอะไรไว้หลายอย่างจนแทบจะลืมว่าความสุขคืออะไร  อย่างน้อย…หลังจากนี้ผมอยากจะเห็นเขามีแต่รอยยิ้มและความสุขตลอดไป

ผมรักเขามากเสียจนไม่อาจทนเห็นเขาเป็นทุกข์ไปมากกว่านี้แล้ว

“นายนี่…กลายเป็นหมาช่างพูดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่”

“อะ…เอ๊ะ?”

ตาฝาดไปหรือเปล่าหว่า  เมื่อกี้เหมือนจะเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อๆนี้  ทั้งที่เพิ่งเจอเรื่องราวเลวร้ายขนาดนั้นมาไม่กี่ชั่วโมงแท้ๆ  ไม่มีทางที่เขาจะยิ้มออกมาได้หรอก

ไม่สิ  ถ้าเขายิ้มได้จริงๆผมก็จะดีใจมาก  แต่ว่า…แต่ว่า…

เมื่อกี้เขายังเศร้าจนแม้แต่ต้นไม้ดอกไม้รอบๆบ้านนี้ยังพากันเหี่ยวเฉาตามเลย!

“ไม่ต้องห่วงหรอก  ฉันกับหมอนั่น…ไม่มีอะไรค้างคาใจกันอีกต่อไปแล้วล่ะ  ป่านนี้ไอ้เจ้าบ้านั่นเองก็คง…กำลังอ้อนเมียอยู่บนฟ้าล่ะมั้ง”

“บนฟ้า?”

งั้นที่ยืนเหม่อออกไปนอกหน้าต่างเมื่อกี้คือกำลังมองฟ้าอยู่งั้นเหรอ?  ให้ตายสิ  ผมรับมือกับความคิดของคุณจักรวาลไม่ได้เลย  พอคิดว่ากำลังจะเข้าใจเขาดีแล้ว  อีกฝ่ายก็เปลี่ยนท่าทีไปเป็นอีกคนจนผมตามไม่ทัน

ชาตินี้ทั้งชาติคงได้แต่เดินตามหลังเขาแน่ๆ!

“แล้วทำไมถึงดูเศร้าๆล่ะครับ  คุณทำผมใจไม่ดีมากเลยนะ”

“เรื่องนั้น…ก็เพราะมันมาแย่งซีนฉันน่ะสิ  จะตายทั้งทียังมาทำเป็นตายแบบเท่ๆด้วยการปกป้องฉันเนี่ยนะ  ตั้งแต่เด็กๆคนที่คอยดูแลและปกป้องมาตลอดมันคือฉันต่างหาก  พอมาคิดว่าเจ้าเปี๊ยกที่ฉันคอยดูแลมาตลอดพกลายมาเป็นคนปกป้องฉันเองแบบนี้มันก็อดช็อกไม่ได้น่ะ”

ระ…เรื่องนี้เองเหรอเนี่ย

เข่าผมแทบทรุด  ยังไงก็ไม่เข้าใจความคิดของคุณจักรวาลอยู่ดีนั่นแหละ  ผมที่มองออกแม้กระทั่งแผนการของคุณกวินทร์กลับไม่เคยเข้าใจความคิดของผู้ชายในอ้อมกอดคนนี้เลย!

ระบบความคิดของเขามันก็มีลักษณะเหมือนเขาวงกตไม่แตกต่างจากที่มาที่ไปของเขาเมื่อก่อนนี้หรอก!

หมับ!

“อ๊ะ!  ทำอะไรครับเนี่ย”

“กวินทร์มันได้ขึ้นไปอ้อนเมียมันบนฟ้าแล้ว  ฉันเอง…ก็ขออ้อนว่าที่ ‘เมีย’ ในอนาคตบ้างสิ”

เขาเน้นคำว่าเมียด้วยแววตากรุ้มกริ่ม  ก่อนจะอุ้มผมด้วยท่าเจ้าหญิงพาเดินไปที่เตียง  ดะ…ดะ…เดี๋ยวสิเฮ้ย!  เพิ่งผ่านวินาทีความเป็นความตายดราม่าน้ำตาท่วมจอมาไม่เท่าไหร่  ยังมีอารมณ์จะมาทำอะไรแบบนี้อยู่อีกเรอะ

“คะ…คุณจักรวาล  ไม่เอา  อื้อ…”

ฟังเสียเมื่อไหร่…

ริมฝีปากถูกครอบครองลิ้มรสและตักตวงราวกับอีกฝ่ายกระหายมันมานาน  ผมบิดตัวเร่า  พยายามดันคนจู่โจมออกไปแต่ไม่เป็นผล  ลิ้นร้อนแทรกผ่านมาชิมความหวานในปากจนผมแทบสิ้นสติ  เขาร้อนแรงและอ่อนโยนในเวลาเดียวกันได้ยังไง?

ที่สำคัญ…

จูบเก่งไปแล้วเฟ้ยยยย!

“ร่างกายนายสร้างมาจากน้ำตาลหรือไง  จะหวานเกินไปแล้วนะ”

พอถอนจูบออกไป  เสียงแหบพร่าทว่าเซ็กซี่โคตรก็กระซิบลงที่ข้างหู  ปลายลิ้นร้อนเลียวนใบหูของผมไปมาจนขนแขนลุกเกรียว

เดาใจไม่ถูกเลยวุ้ย  อยู่ในโหมดไหนอารมณ์ไหนกันแน่ผมชักไม่มั่นใจแล้วสิ

“ไหนบอกจะรอให้ผมอายุยี่สิบก่อนไม่ใช่เหรอ”

“ก็รออยู่นี่ไง”

ละริมฝีปากออกมาจากใบหูแล้วยันตัวขึ้นเล็กน้อยเพื่อสบตากับผมขณะคุย

เออ  ตาน่ะมองหน้าผม  ปากก็คุยกับผม  แต่มือเนี่ยสิ!

สะกิดไปมาที่ยอดอกจนมันเริ่มแข็งเป็นไตแล้ว!

“คุณจักรวาล…”

ส่งเสียงงอนๆออกไปพลางหลบสายตา  ผลักไปก็ไม่เขยื้อนอยู่ดี  เลยเปลี่ยนแผนทำเป็นงอนดูบ้าง  ริมฝีปากของเขาไม่ได้จู่โจมผมแล้วก็จริง  แต่นิ้วมือของเขาต่างหากที่จู่โจมยอดอกผมไม่หยุด

“ชอบไหม”

“มะ…ไม่”

“จะปฏิเสธก็ให้มันเต็มเสียงหน่อยสิ  ฉันรู้ว่านายชอบ  ตรงนี้ของนายมันบอกฉันหมดแล้ว”

“อ๊ะ…”

ร้องออกมาเบาๆเพราะยอดอกที่แข็งชูชันถูกบีบราวกับต้องการจะแกล้งกัน  ขืนเป็นแบบนี้ต่อไปผมต้องเกิดอารมณ์เหมือนในวันที่เขาลงโทษอีกแน่ๆ  ไม่เอาแล้วนะ  มันทรมานจะตายไปที่ร่างกายมีความต้องการแต่กลับไม่ได้รับการปลดปล่อยแบบนั้น

“ขอชิมหน่อยนะ”

“ไม่นะครับคุณจักร…อื้อ!”

อ๊ากกกกกกกกก

ทำไมผมห้ามอะไรเขาไม่เคยได้เลย!!!

ร่างกายหนาเลื่อนต่ำลงไปดูดดื่มส่วนที่แข็งตัวแทนการใช้นิ้ว  ริมฝีปากชื้นดูดดุนยอดอกผมผ่านสาบเสื้อจนเปียกชุ่ม  สลับข้างไปมาโดยที่ฝ่ามือร้ายลูบไล้ลำตัวสั่นระริกของผมไปทั่ว

แบบนี้มัน…จะทนไม่ไหวจริงๆแล้วนะ

“น่าอิจฉาชะมัด  ฉันเองก็อยากทำกับนายแบบนั้นเหมือนกันนะ”

“ฝันไปเหอะมึง  อย่างมึงเกิดใหม่ชาติหน้ากูยังไม่เอาเลย”

“คิดว่าคนอย่างฉันมีความอดทนสูงถึงขนาดจะให้นายรอดพ้นเงื้อมมือไปถึงชาติหน้าหรือไง  ยังไงชาตินี้ฉันก็ต้องทำให้นายเป็นของฉันให้ได้  ถึงจะต้องขืนใจก็ตาม”

“สันดานมึงนี่ชั่วแปลกพวกจริงๆเลยนะไอ้อวกาศ”

บทสนทนาที่ดังขึ้นภายในห้องทำให้ผมกับคุณอวกาศรีบผละออกจากกัน  พอลุกขึ้นนั่งได้สองมือก็หันไปคว้าหมอนมาวางบนตักเพื่อปิดบังเจ้าน้องชายที่ระงับอารมณ์ไม่ไหว  ดันเนื้อผ้าออกมา…

กูอยากร้องไห้โว้ยยยยย!

“พวกนาย…เข้ามาได้ยังไง”

“ประตูมันไม่ได้ปิดก็เลยเดินเข้ามา  วันหลังถ้าจะเอากันก็หัดปิดประตูซะบ้างนะ”

ขวับ…

คุณจักรวาลหันกลับมามองผมที่เข้ามาในห้องเป็นคนสุดท้ายทันที  กะ…ก็ผมไม่คิดว่าเขาจะทำอะไรแบบนั้นนี่นาเลยไม่ได้ปิด  ถ้ารู้ว่าจะทำคงปิดแถมลงกลอนเรียบร้อยไปแล้ว!  ใครจะอยากให้คนอื่นมาเห็นตอนที่กำลังถูกทำแบบนั้นกันล่ะ

“แล้ว…เข้ามาตรงนี้นานหรือยัง”

คนหัวดำถามต่อด้วยใบหน้าขึ้นสี

ผมดีใจนะที่รู้ว่าคุณยังมียางอายอยู่!

หมับ!

“ร่างกายนายสร้างมาจากน้ำตาลหรือไง  จะหวานเกินไปแล้วนะ”

คุณอวกาศหันไปโฉบตัวไอ้เฟี้ยวเข้ามากอดทำท่าเหมือนพวกนักเต้นลีลาศที่ฝ่ายหญิงจะต้องเอนตัวไปข้างหลังจนเหมือนจะล้ม  โดยที่ฝ่ายชายจะใช้วงแขนประคองรับน้ำหนักเอาไว้  หมายความว่าไอ้เฟี้ยวตอนนี้อยู่ในสถานะของฝ่ายหญิงสินะ

ไม่ๆๆ นั่นไม่ใช่เรื่องที่ผมต้องคิด ประเด็นคือสิ่งที่คุณอวกาศกำลังทำเพื่อล้อเลียนผมกับคุณจักรวาลต่างหากล่ะ!

“หะ…เห็นตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอครับ”

ยกมือขึ้นปิดหน้าด้วยความอับอาย  ขาดแค่ฉากอุ้มมาที่เตียงเท่านั้นเอง  แต่ก็ยังดีที่พวกเขาไม่ได้ยินคุณจักรวาลเรียกผมว่า ‘เมีย’   ไม่งั้นถูกล้อตายเลย!

“ว่าแต่  ผู้ชายก็เป็นเมียได้ด้วยเหรอพี่”

“เฮ้ย!”  ผมเองแหละ

“ตกลงนายเข้ามาตั้งแต่ตอนไหนกันแน่อวกาศ”

“พวกกูเข้ามาในห้องและยืนอยู่ตรงนี้ตอนฉากน้ำตาลนั่น  แต่ยืนดูและยืนฟังอยู่หน้าห้องตั้งแต่แกเรียกไอ้ไทม์ว่าว่าที่เมียละ

ไอ้เฟี้ยวไขข้อข้องใจให้  แปลว่าเห็นตั้งแต่ต้นเลยนี่หว่า

โอ๊ยยยยย  เอาหน้าไปซุกไว้ไหนดี  ฮือๆๆๆๆ

“ฉันว่าพวกเรากลับห้องกันดีกว่านะ  ปล่อยให้สองคนนี้ทำอะไรแบบที่ผัวเมียควรจะทำกันไป  ส่วนนายกับฉันก็กลับไปทำอะไรแบบผัวเมียกันที่ห้อง…”

ไม่พูดเปล่า คุณอวกาศยังทำไม้ทำมือเอามือสองข้างมาประกบกันดังแปะๆอีกด้วย  นี่ก็เล่นไม่ได้ดูคู่ตัวเองเล้ยว่านิสัยเป็นยังไง

“ไอ้จักรวาล  ถ้าฉันจะขอหาอะไรมาอุดปากน้องชายแกสักนิดสักหน่อยจะได้ไหม”

“ฉันอนุญาต  เชิญ”

“จริงสิ  นี่ตำรวจเขาเอามาคืน  เป็นของที่ไอ้กวินทร์มันเอาติดตัวไว้ตลอดเวลา  แต่ตรวจสอบแล้วไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับคดีเลยก็เลยคืนมาให้  ฉันคิดว่าแกสมควรจะเป็นคนเก็บมันเอาไว้”

ไอ้เฟี้ยวโยนบางอย่างมาให้  คุณจักรวาลยกมือรับมันไว้ได้อย่างแม่นยำ

“ลองเปิดดูนะพี่  ผมว่าพี่ตอนยิ้มน่ารักกว่าตอนทำหน้านิ่งเยอะเลย”

หมับ!

“มึงน่ะไม่ต้องพูด  มากับกูเดี๋ยวนี้เลยไอ้แก่ตัณหากลับ!”

“เฮ้ย!  ดะ…ดะ…เดี๋ยวสิ  อย่ากระชากคอเสื้อกันแบบเน้!  อย่างน้อยขอแค่ดูดนมก็ยังดีนะ  เอาข้างเดียวก็ได้…!”

ปัง!

ตุ้บ! ตั้บ! พลั่ก! โครม! โครม!

“อ๊ากกกกก  เจ็บ!  อย่าโหดกับว่าที่ผัวในอนาคตแบบนี้สิเมียจ๋า”

ตึงงงง!

เกิดเสียงอึกทึกคึกโครมดังมาจากห้องคุณอวกาศทันทีที่ไอ้เฟี้ยวกระชากคอเสื้อเขาแล้วลากกลับไปที่ห้องก่อนจะปิดประตูเสียงดังลั่น  กำแพงห้องนั้นสั่นสะเทือนมาจนถึงกำแพงนี้  หวังว่าพรุ่งนี้พี่ชายผมจะยังมีชีวิตอยู่ดีนะ…

“อะไรเหรอครับ”

เลิกสนใจห้องข้างๆหันมาสนใจคนตรงหน้าแทน  คุณจักรวาลที่ก้มดูสิ่งที่ไอ้เฟี้ยวโยนมาให้ตลอดตั้งแต่ได้มาเหยียดยิ้มเล็กน้อยก่อนจะส่งสิ่งนั้นให้ผมดูบ้าง

ผมรับมาเปิดดู  สร้อยคอล็อกเก็ตที่ด้านในคือรูปเด็กผู้ชายสองคนกำลังกอดคอกันยิ้มแย้ม  แม้ว่ารูปจะเริ่มเป็นสีเหลืองเพราะเริ่มเก่าไปตามวันเวลา  แต่ใบหน้าของพวกเขาสองคนยังคงไม่เปลี่ยนไปจากปัจจุบันเท่าไหร่

คุณจักรวาลและคุณกวินทร์ในวัยเด็ก…

แปลว่า…คุณกวินทร์แขวนสร้อยคอนี้ติดตัวมาตลอดเลยสินะ

“พอเห็นรูปคุณที่ยิ้มแย้มแบบนี้แล้ว…เหมือนคุณมีฝาแฝดมากกว่าเลยนะครับ”

ในที่สุดก็มีโอกาสได้เห็น…ตัวตนของคุณจักรวาลก่อนหน้าที่จะกลายมาเป็นแบบนี้  ตัวตนที่เคยมีคุณกวินทร์เท่านั้นที่ได้สัมผัส

ดีใจจัง…

ผมอาจจะไม่เคยรู้จักคุณจักรวาลในแบบนั้นก็จริง  แต่…คุณจักรวาลที่เย็นชา  เงียบขรึม  ใจดี  อ่อนโยน  แถมยังหื่นนิดๆแบบนี้…

ก็ไม่เลวเหมือนกันนะ

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพแล้วจ้า  คู่ SM ช่างขัดจังหวะการดื่มนมของคุณจักรวาลเสียจริง!  ทำแบบนี้เดี๋ยวพระเอกของเราก็ไม่โตกันพอดี 5555  แต่อย่างน้อยก็รู้สึกโล่งใจกันได้ที่จักรวาลและกวินทร์จากกันโดยไม่มีอะไรติดค้างในใจ  แม้จะไม่ได้ล่ำลากันด้วยคำพูดหวานซึ้งกินใจ  แต่พวกเขาทั้งคู่รับรู้ได้ด้วยจิตใจความเป็นเพื่อนที่สื่อถึงกัน  ว่ามิตรภาพของพวกเขาจะยังคงอยู่ตลอดไป  ตลอดไป  ตลอดไปเลยยยย!  ส่วนคุณอวกาศนั้น…มาเอาใจช่วยให้ให้ดูดนมเฟี้ยวอย่างที่ต้องการกันเถอะ 5555555+

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ ♥►MAGNOLIA◄♥

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7518
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +193/-11
จักรวาล พูดดีนี่  :katai2-1:
ขอเอาเวลามาอ้อน ว่าที่เมีย  อะร้างงงงง  :z3: :z3: :z3:

อวกาศ หื่นโคตรๆเลย
มีขอดูดนมเฟี้ยว ข้างเดียวก็ได้ อะจ๊ากกกกก  :a5: :a5: :a5:รอตอนใหม่
       :L1: :L1: :L1:
  :pig4: :pig4: :pig4: :pig4:

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
อ่านแล้วสำหรับคู่จักรวาลกับไทม์  :กอด1: :m25:
แต่กับคู่อวกาศกับเฟี้ยว  :beat: :z6: :laugh3:

ออฟไลน์ Laliat

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 253
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0

ออฟไลน์ Jibbubu

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3385
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +77/-6
อวกาศกับเฟี้ยวนี่ท่าจะยากนะเราว่า คงอีกนานแน่ๆ กว่าจะได้ดื่มนมน่ะ

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0


ตอนที่ 46

‘พี่’ อวกาศ

 

“นอนนะลูกนะ  ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว  พ่อคนนี้จะปกป้องลูกเอง  ฮือฮื้มมมม”

“หมอบอกว่าคุณอาไกรศรมีอาการทางประสาทและเอาแต่ร้องหาพี่กวินทร์  สุดท้ายเลยคิดว่าตุ๊กตาตัวนั้นคือลูกของตัวเอง  ผลจากการช็อกที่พี่กวินทร์ตายต่อหน้าต่อตา  ทำให้คุณอาไม่สามารถกลับมาเป็นอย่างเดิมได้อีกแล้ว”

คุณอวกาศที่ใบหน้าฟกช้ำเพราะถูกไอ้เฟี้ยวซ้อมเมื่อวานเอ่ยเสียงเศร้า  พวกเราพากันมองเข้าไปในห้องที่มีคุณไกรศรกำลังเห่กล่อมตุ๊กตาเด็กผู้ชายตัวหนึ่งในอ้อมแขนด้วยรอยยิ้ม

ไม่แน่ว่าบางที…โลกที่คุณไกรศรอยู่ในตอนนี้  อาจจะเป็นโลกที่สงบสุขดีแล้วก็ได้

“ถ้าคุณพ่อยังอยู่  ท่านต้องเจ็บปวดมากแน่ๆที่เห็นคุณอาเป็นแบบนี้”

นั่นสินะ  ในบรรดาพวกเราสามคน  คนที่รู้จักคุณไกรศรและอยู่กับเขามานานที่สุดก็คือคุณจักรวาล  ความผูกพันของเขาย่อมมีมากกว่าใคร

“ว่าแต่…ไอ้เฟี้ยวยังไม่มาอีกเหรอ  ไปนานจังเลยนะ”

“อย่าห่วงไปเลยน่า  เด็กคนนั้นเอง…ถ้าอยากจะใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้อย่างมีความสุขก็ต้องก้าวผ่านอดีตของตัวเองไปเหมือนกัน  เชื่อใจหมอนั่นเถอะนะ”

คุณอวกาศตบบ่าผมที่เอาแต่ชะเง้อคอมองหาไอ้เฟี้ยวอย่างให้กำลังใจ

วันนี้พวกเราสี่คนมาที่โรงพยาบาล  โดยที่พวกผมสามคนมาเยี่ยมคุณไกรศร  ส่วนไอ้เฟี้ยวก็ไปเยี่ยมผอ.ที่นอนพักรักษาตัวอยู่  มันบอกว่าถ้ายังไม่คุยกันให้รู้เรื่องก็คงก้าวข้ามอดีตไปไม่ได้  ถึงจะยังฝังใจแค่ไหนก็ตาม  แต่มันก็ต้องการจบเรื่องนี้ด้วยตัวเอง  เลยไม่ให้ใครไปเป็นเพื่อนสักคน

ในฐานะเพื่อน…ผมหวังว่ามันจะทำสำเร็จ

“นั่น…”

เสียงของคุณจักรวาลเรียกความสนใจได้  ผมมองตามนิ้วมือของเขาที่ชี้ไปอีกทาง  พอหันไปก็พบว่าเป็นไอ้เฟี้ยวเดินซึมเข้ามา  ใบหน้าของมันดูก็รู้ว่าเพิ่งร้องไห้มา!

ตึกๆๆๆๆๆๆ

ผมวิ่งเข้าหามันทันทีด้วยความเป็นห่วง  พอถึงตัวอีกฝ่ายก็โผเข้ากอดมันแน่น  ลูบแผ่นหลังมันเบาๆด้วยต้องการจะปลอบโยน  สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณจักรวาลและคุณกวินทร์ทำให้ผมอยากจะพยายามยิ่งๆขึ้นไป  อยากจะรักษามิตรภาพของผมกับมันเอาไว้ให้นานที่สุด  และจะไม่มีวันจบลงด้วยความเศร้าแบบพวกเขาแน่นอน

“ไอ้ไทม์…”

“มึงทำดีที่สุดแล้ว  เก่งมาก”

“…”

“เก่งมากไอ้เฟี้ยว  เก่งที่สุดในโลกเลย”

“เออ  กูรู้แล้วว่ากูเก่ง   มึงเลิกสั่งขี้มูกใส่เสื้อกูสักทีเหอะ  เปียกหมดแล้วเนี่ย”

ไอ้เฟี้ยวดันผมที่ถูไถใบหน้ากับแผงอกของมันไปมาจนน้ำตาเปียกเสื้อไปหมด  ร่างสูงยิ้มกว้าง  สองมือประคองใบหน้าผมเอาไว้

“ขอบใจนะที่เป็นห่วงกู  แต่กูไม่เป็นอะไรจริงๆ  แค่รู้สึกโล่งใจเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่กูได้เปิดใจคุยกับผู้หญิงคนนั้น  เธอเสียใจเรื่องการตายของมารีอามาก  เลยคิดว่าคงเป็นเวรกรรมที่เคยทำไว้กับกูทำให้วันนี้เธอต้องเสียลูกสาวสุดที่รักไป  เป็นครั้งแรกที่ยัยแก่นั่นบอกขอโทษและขอให้ฉันอโหสิกรรมให้  เธออยากจะชดใช้ทุกอย่างที่เคยทำผิดพลาดไปและขอให้กูกลับไปเป็นลูกชายของเธออีกครั้ง”

“ละ…แล้วมึง…”

“แน่ล่ะว่ากูปฏิเสธไป  ช่วงที่ได้ออกมาอยู่ด้วยตัวเองคนเดียว  ถึงมันจะลำบากไปบ้าง  แต่กูภูมิใจมากกว่าถ้ากูจะสามารถสร้างทุกอย่างได้ด้วยสองมือของกูเอง  อีกไม่นานกูก็จะย้ายออกจากบ้านอสังหาเหมือนกัน  เรื่องทุกอย่างจบลงแล้ว  ไม่มีความจำเป็นที่กูต้องอยู่ที่นั่นอีก”

“แต่…!”

“เชื่อในการตัดสินใจของเฟี้ยวเถอะนะ”

คุณอวกาศแทรกขึ้น  ผมมองหน้าเขาด้วยไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงจะยอมปล่อยให้ไอ้เฟี้ยวออกไปตกระกำลำบากและใช้ชีวิตอยู่คนเดียวอีก  ถ้ารักมัน…ก็ต้องอยากให้มันอยู่ใกล้ๆและสุขสบายไม่ใช่เหรอ?

หมับ!

“หมดเวลาแตะตัวแล้ว”

วงแขนแกร่งตวัดรอบคอผมแล้วดึงเข้าหาเพื่อแยกออกจากไอ้เฟี้ยว  ไอ้บ้านี่ก็หึงไม่ดูเวล่ำเวลาเลยเว้ย!

“ถึงกูจะปฏิเสธเรื่องกลับไปอยู่กับยัยแก่นั่นในฐานะลูกชาย  แต่ว่า…กูสัญญาไว้แล้วว่าจะไปเยี่ยมบ่อยๆ  ถึงยังไงมารีอาก็คงอยากให้ฉันดูแลแม่ของเธอแทนเธอออยู่แล้วล่ะนะ”

“เมียฉันนี่ช่างมีจิตใจเข้มแข็งจริงๆเลย  มามะ…มาให้จูบ…อุ๊บ!”

“!!!”

ไม่ใช่แค่คุณอวกาศเท่านั้นที่เบิกตากว้างอย่างตะลึงตึงๆ  ผมกับคุณจักรวาลที่ยืนอยู่ด้วยก็ตกใจจนลูกตาแทบถลนออกมาจากเบ้าเช่นกัน!

ไอ้เฟี้ยวที่ถูกคุณอวกาศโผเข้ากอดดันหัวมันให้ซบลงกับไหล่กว้างเงยหน้าขึ้นมาจูบปากเขาที่กำลังทำปากจู๋หมายจะจูบแกล้งไอ้เฟี้ยวแบบทุกที  ทว่าคราวนี้มันไม่ใช่การแกล้งแล้วไง  เพราะเพื่อนผมมันยื่นหน้าเข้าไปจูบจริงๆ!

“ถือเป็นการจอบแทนเรื่องนั้นแล้วกัน”

ไอ้เฟี้ยวผละตัวออกห่างหลังจากจู่โจมจูบร่างสูงที่ช็อกจนตัวแข็งทื่อไปแล้ว  ทั้งมันและพี่ชายผมเริ่มจะหน้าแดงลามไปจนถึงใบหูไม่ต่างกัน

“ตะ…ตอบแทน…?”

“ยัยแก่นั่นบอกฉันหมดแล้ว”

“บอก?  เอ๊ะ?!  คุณป้าบอกหมดเลยเหรอ!”

ดูเหมือนสติของคุณอวกาศจะกลับมาแล้ว  เขาตะโกนถามไอ้เฟี้ยวเสียงดังลั่น  ใบหน้าตกใจปนอายๆราวกับถูกจับได้ในเรื่องที่ปิดบังมานาน

“อือ  เรื่องที่แก…ไปก้มหัวขอร้องท่ามกลางสายฝนเพื่อขอให้เธอหยุดทารุณฉันหลังจากที่ไอ้จักรวาลพาฉันหนีไปอยู่ที่บ้านอสังหาตอนนั้น”

“จริงเหรอครับคุณจักรวาล!”

เงยหน้าถามอีกคนที่น่าจะรู้เรื่องเหมือนกัน  คิดไม่ถึงเลยว่าคุณอวกาศจะทำถึงขนาดนั้นเพื่อไอ้เฟี้ยว?

“อืม  ถึงฉันจะเคยบอกเอาไว้ว่าจะปกป้องเฟี้ยวเองก็เถอะ  แต่ดูเหมือนว่าคนที่ลงมือทำไปแล้วจะเป็นอวกาศมากกว่านะ”

“อะ…อะไรกันเนี่ย  อุตส่าห์กำชับคุณป้าไว้แล้วเชียวว่าห้ามบอกเด็ดขาด!”

“แสดงว่าหลังจากนั้นที่แกไข้ขึ้นจนเกือบเป็นปอดบวมนอนซมอยู่หลายอาทิตย์ก็ไม่ใช่เพราะเดินตกสระน้ำสินะ”

ไอ้เฟี้ยวถามขึ้นอีกรอบ  คนถูกถามหน้าแดงยิ่งกว่ามะเขือเทศเสียอีก!  เขายกมือขึ้นเกาท้ายทอยมองนู่นมองนี่ไปเรื่อยเพื่อเลี่ยงที่จะสบตากับตนถามตรงๆ

“ทำไม…ต้องทำถึงขนาดนั้นด้วย”

“จู่ๆถามแบบนี้จะให้ฉันทำตอบว่ายังไงดีล่ะ”

“ตอบมาตามตรงสิวะ  ตอนนี้…ฉันอยากฟังความรู้สึกทั้งหมดของแก”

ทะ…ทนไม่ไหวแล้ว!

ไอ้ฉากหวานแหววพวกนี้ทำเอาผมต้องยกมือขึ้นมาปิดหน้าเอาไว้แต่เว้นช่องระหว่างนิ้วพอให้มองเห็นอยู่  บางทีความดีที่คุณอวกาศเคยทำไว้ในวัยเด็กอาจจะทำให้มันใจอ่อนยอมรับรักเขาก็เป็นได้!

“ถ้าเป็นเรื่องนั้น  เมื่อก่อนฉันแค่คิดว่าเพราะนายเป็นน้องชาย  และฉันเป็นพี่  ฉันก็ควรจะต้องปกป้องนายให้ได้ตามที่เคยสัญญาไว้  แต่มาวันนี้…ฉันคิดว่าตอนนั้นฉันคงเข้าใจผิดไป  ไม่ใช่เพราะความเป็นพี่น้องหรือสัญญาอะไรทั้งสิ้น  มันเป็นเพราะ…”

“…”

“ฉันชอบนาย  และคงจะชอบมาตลอด…ตั้งนานแล้ว”

ถ้าเป็นคนอื่น  เจอผู้ชายดูดีแถมยังอ่อนโยนขนาดนี้สารภาพรักเข้าคงจะยอมตกลงไปนานแล้ว  แต่เพราะเป็นไอ้เฟี้ยว  ผมถึงได้ลุ้นจนตัวโก่ง  บีบแขนคุณจักรวาลที่กอดคออยู่ตอนนี้แน่น

พรึ่บ…

หลังจากเงียบไปเกือบหนึ่งนาที  ไอ้เฟี้ยวก็ยกแขนขึ้นแล้วชี้นิ้วมาทางผม  ขอให้กูได้ยืนเป็นตัวประกอบเกินหนึ่งหน้ากระดาษบางได้ไหมฟะ!

“แต่ฉันชอบไอ้ไทม์”

“ไอ้เฟี้ยว!”

อย่าโยนขี้พร้อมระเบิดใส่หน้ากูตรงๆแบบนี้สิเว้ย!

“ถึงตอนนี้ก็ยังชอบอยู่ด้วย  ฉันเลยยังตอบรับความรู้สึกอะไรของแกไม่ได้ทั้งนั้น  แต่ว่า…จะลองเล่นเกมกันดูไหมล่ะ”

“เกม?”

“ทำให้ฉันลืมไอ้ไทม์ให้ได้  เปลี่ยนใจของฉันจากไอ้ไทม์ไปเป็นแก  กล้าหรือเปล่า?”

พูดแบบนี้ก็หมายความว่า…

ไอ้เฟี้ยวยอมเปิดโอกาสให้คุณอวกาศเดินหน้าจีบมันงั้นเหรอ?!

“ของรางวัลคืออะไร  เกมทุกเกมสิ่งที่ดึงดูดผู้เข้าแข่งขันก็คอของรางวัลนะ”

“แกอยากได้อะไรก็บอกมาเลย”

“ดี!  กล้าๆแบบนี้ฉันชอบ  ถ้าอย่างนั้น…หากฉันชนะเกมนี้…นายจะต้อง…”

คุณอวกาศเดินหน้าเข้าไปใกล้ไอ้เฟี้ยวก่อนจะก้มลงกระซิบบางอย่างที่ข้างหูของมัน  แต่ในฐานะผู้เสือกที่ดี  ผมเลยเงี่ยหูฟังจนได้ยินไปด้วย  หึๆ

“เป็นของฉันทั้งตัวและหัวใจ”

อะ…ไอ้ทั้งตัวที่ว่านี่หรือว่าจะหมายถึง…!

คำว่า ‘เมีย’ ของคุณจักรวาลแทรกเข้ามาในความคิดทันที  จริงอยู่ที่ผมเชียร์พวกเขานะ  แต่นึกสภาพไอ้เฟี้ยวในฐานะเมียไม่ออกจริงๆ  สงสัยคงจะเป็นเมียที่ห่ามและเถื่อนน่าดู

 

“พวกเรากำลังจะไปไหนกันเหรอครับ”

เอ่ยถามคุณจักรวาลเมื่อรถเริ่มไกลออกมาจากตัวเมืองมากขึ้นเรื่อยๆ  หลังจากรอให้สองคนนั้นโชว์หวานกันในโรงพยาบาลจนเสร็จ  คุณจักรวาลก็สั่งให้ขึ้นรถและบอกว่ามีที่ที่ต้องการจะพาพวกเราไป  ตั้งแต่เรื่องทั้งหมดจบลง  ดูเหมือนว่าพี่เข้มจะงานน้อยลงไปเยอะเพราะไม่จำเป็นต้องมาขับรถให้แล้ว  ว่าที่สามี ( พูดคำนี้แล้วอยากจะกัดลิ้นตัวเองตาย ) ของผมจะทำหน้าที่เป็นสารถีให้เอง

“เดี๋ยวนายก็รู้”

หันไปมองคุณอวกาศกับไอ้เฟี้ยวที่เบาะหลัง  ทั้งสองยักไหล่เพราะไม่รู้เหมือนกัน  แอบสังเกตเห็นว่าพวกเขานั่งจับมือกันด้วย  ถึงจะทำเป็นนั่งหันหน้าออกนอกหน้าต่างไม่ได้สนใจกันก็เถอะ

บทจะหวานก็หวานกันไม่หยุดเลยนะคู่นี้!

เอี๊ยด!

รถยนต์จอดสนิทที่หน้าบ้านทรงไทยหลังหนึ่ง  ด้านหน้ามีชายชุดดำเฝ้าอยู่สองคน  พวกเขารีบเปิดประตูรั้วให้ทันทีที่เห็นว่าเป็นรถของคุณจักรวาล  พอเขาเปิดประตูลงไปผมและสองคนข้างหลังเลยรีบลงตามอย่างงุนงง

ที่ไหนกันหว่า?

“พี่จ๋า!”

ทันทีที่เสียงเรียกคุ้นเคยดังขึ้น  ผมก็หันขวับไปทางต้นเสียง  บรรดาน้องๆทั้งห้าคนของผมยิ้มกว้างอย่างดีใจก่อนจะเบียดกันวิ่งลงบันไดมาหาผมที่กำลังวิ่งเข้าไปหาเช่นกัน

“หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า”

ร้องเรียกชื่อพวกน้องๆแล้วโผเข้ากอดเด็กทั้งห้าไว้แน่นด้วยความคิดถึงจับใจ  น้ำตาไหลออกมาเมื่อเห็นว่าพวกเขาทั้งหมดสบายดี  แถมยังอ้วนจ้ำม่ำขึ้นอีกด้วย

“พี่จ๋ามาแล้ว  พวกหนูคิดถึงพี่จ๋ามากเลย”

“พี่ก็คิดถึงพวกเราเหมือนกัน   สบายดีใช่ไหม  เป็นเด็กดีหรือเปล่า”

“เป็นเด็กดีค่ะ!  พวกเราไปโรงเรียนกันทุกวันเลยด้วย”

“จริงเหรอ  ชอบโรงเรียนกันแล้วสินะ”

เมื่อก่อนทั้งห้าคนจะเกลียดกันไปโรงเรียนมากๆ  เพราะไม่เคยมีของน่ารักๆเหมือนเด็กคนอื่นทำให้รู้สึกด้อยกว่าตามประสาเด็กน้อย

“ชอบมากเลยครับ!”

“ชอบมากเลยค่ะ!”

“เก่งที่สุดเลย  น้องๆของพี่”

ผมดึงพวกเขาเข้ามากอดพร้อมๆกันอีกครั้ง  พอได้เห็นหน้าน้องทั้งห้าแบบนี้ทำให้ผมรู้สึกได้เลยว่าเรื่องร้ายๆมันจบลงแล้วจริงๆ  ผมได้ครอบครัวของผมกลับคืนมาแล้ว

“คุณไทม์…”

อีกสองเสียงดังขึ้น  พ่อกับแม่ยืนหน้าเศร้ามองผมอย่างกล้าๆกลัวๆ

“พ่อ!  แม่!”

โผเข้ากอดพวกท่านทันที  มันจบแล้วจริงๆ  เรื่องร้ายๆพวกนั้นจบแล้วจริงๆด้วย  ผมได้เจอพ่อกับแม่แล้ว  พ่อกับแม่ที่หาเลี้ยงและดูแลผมมาตลอด…

“ยะ…อย่าค่ะคุณไทม์  ตัวป้าสกปรก”

“นั่นสิครับ  ตอนนี้คุณก็รู้แล้วว่าคุณเป็นใคร  ได้โปรดอย่าทำแบบนี้เลยนะครับ  พวกเราไม่อยากให้คุณต้องแปดเปื้อนคนชั้นต่ำอย่างพวกเรา”

พ่อกับแม่ต่างก็ผลักผมออกก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งก้มหน้าแบ่งชนชั้นกับผมอย่างชัดเจน

“พ่อ…แม่…”

“อย่าเรียกแบบนี้อีกเลยค่ะ  เราสองคนไม่ใช่พ่อแม่ที่แท้จริง  เป็นแค่คนรับใช้จนๆที่คุณผู้หญิงคอยดูแลเป็นอย่างดีเท่านั้นนะคะ”

“ไม่  ไม่  ไม่   แม่อย่าทำแบบนี้สิ  พ่อด้วย  ผมไทม์ไง  ไทม์ลูกของพ่อกับแม่คนเดิมนั่นแหละ”

ผมนั่งลงตรงหน้าพวกท่านทั้งสอง  จับมือของหญิงชายคู่นี้แล้วเอามาแนบแก้ม  นี่ไง…พ่อกับแม่ของผม  แล้วจะบอกว่าไม่ใช่ได้ยังไง…

“คุณไทม์  อย่าทำแบบนี้เลยครับ  เดี๋ยวมือคุณจะสกปรก…”

“ฮึก…อย่าผลักไสผมเลยนะ  พ่อ…แม่  ฮือ…ผมน่ะ…เป็นลูกของพ่อกับแม่นะ  มือคู่นี้ที่หาเลี้ยงและดูแลผมมาตลอด  ต่อให้ตายผมก็จะไม่มีวันปล่อยมือสองคู่นี้ไปเด็ดขาด  ฮือ…”

ร้องไห้ออกมาด้วยความกลัว  จริงอยู่ว่าผมมีพ่อแม่ที่แท้จริง  และผมก็รู้สึกผิดที่ไม่เคยได้มอบความรักให้กับพวกท่านเลย  แต่ว่า…สำหรับพ่อกับแม่ที่เลี้ยงผมมาจนโตแบบนี้  ผมรักพวกท่านมากและไม่มีทางคิดว่าพวกท่านเป็นคนอื่นไปได้อย่างเด็ดขาด

“คุณไทม์…”

แม่เรียกชื่อผมเสียงสั่น

“แม่ก็รักผมใช่ไหม  พ่อก็รักผมใช่ไหม”

“…”

“ผมรักพ่อ  รักแม่  รักน้องๆ  ทุกคนคือครอบครัวที่ผมรัก  เหมือนที่ผมรักพี่ชายทั้งสองของผม  รักแม่เสียงพิณ  รักพ่อไกรเทพ  ทุกคนคือครอบครัวที่ผมรักมากที่สุด  ได้โปรดอย่าทิ้งผมไปเลยนะ   กลับมาอยู่ด้วยกันเหมือนเดิมเถอะ”

“ตะ…แต่ว่า…”

“มาอยู่ด้วยกันเถอะครับ  คุณลุง  คุณป้า”

“คุณอวกาศ…”

“น้องชายผมรักพวกคุณมาก  สำหรับไทม์แล้วพวกคุณสองคนคือพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมาจนเติบโต  แม้จะไม่ใช่ผู้ให้กำเนิด  แต่ว่า…ในฐานะที่พวกคุณเลี้ยงดูน้องชายของผมมาจนเราสองพี่น้องได้มีโอกาสกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง  ผมอยากจะขอบคุณ…ขอบพระคุณมากๆเลยครับ”

คุณอวกาศเดินมานั่งลงข้างๆผมก่อนจะก้มหัวขอบคุณพ่อกับแม่จนศีรษะจรดพื้น  แม้ว่าจะดูทีเล่นทีจริงกับทุกเรื่องไปเสียหมด  แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องเป็นผู้ใหญ่  เขาก็สามารถเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและน่าเชื่อถือได้ไม่แพ้คุณจักรวาล

“พี่ครับ…”

“ในที่สุดก็ยอมเรียกแล้วสินะไอ้น้องชาย”

‘พี่’ อวกาศเงยหน้าขึ้นมา  มือหนายีหัวผมอย่างเอ็นดู  ความอบอุ่นจากพี่น้องไหลผ่านจากฝ่ามือนั้นมาถึงตัวผม  ราวกับหัวใจถูกเติมเต็มไปด้วยความรักจากคนในครอบครัว…

“ฉันเห็นด้วยนะ  พวกนายสองคนต้องลำบากซ่อนตัวทายาทคนที่สองเอาไว้เกือบสิบแปดปี  เปิดเผยตัวตนของตัวเองและครอบครัวในที่แจ้งไม่ได้  ถึงได้ลำบากอดมื้อกินมื้อมาตลอด  แต่ถึงอย่างนั้น…พวกนายก็ไม่ทิ้งทายาทไป  ยังทำตามคำสั่งของคุณผู้หญิงด้วยความภักดี  สำหรับเรื่องนี้นั้น  ฉันเองก็ต้องขอขอบคุณเหมือนกัน”

คุณจักรวาลที่ยืนอยู่ด้านหลังก้มหัวลงเล็กน้อย  น้องๆทั้งห้าคนของผมถูกไอ้เฟี้ยวต้อนไปเล่นในสวนเพราะไม่ต้องการให้เด็กๆมารับรู้หรือเห็นอะไรที่พวกเขาไม่มีทางเข้าใจได้จนกว่าจะโต

“คุณจักรวาล…”

“ฉันรู้ว่าพวกนายคิดอะไร  ในฐานะที่จริงๆแล้วฉันเองก็ไม่ต่างไปจากพวกนายคือเป็นสายเลือดของตระกูลข้ารับใช้  แม้จะได้รับความรักความเมตตาจากคนในอสังหามากแค่ไหน  แต่ข้ารับใช้ก็คือข้ารับใช้  คำๆนี้เหมือนบ่วงที่คล้องคอคนอย่างพวกนายกับฉันเอาไว้จนบ้างครั้งก็ไม่สามารถรับความเมตตาเหล่านั้นได้จริงๆ”

ผมกับพี่อวกาศมองหน้ากันด้วยไม่เข้าใจในสิ่งที่คุณอวกาศพูด  แต่พ่อกับแม่ของผมกลับยิ้มกว้างและพยักหน้ารับราวกับเจอคนที่เข้าใจความรู้สึกของพวกเขา

“แต่เพราะมันคือความต้องการของทายาททั้งสองคน  อย่างน้อยพวกนายควรจะกลับเข้าไปอยู่ในเมืองเหมือนเดิม  ฉันจะจัดหาบ้านที่เหมาะสมและดีที่สุดให้  รวมถึงเงินและธุรกิจเพื่อให้พวกนายสามารถเลี้ยงตัวเองและเด็กห้าคนนั้นได้อย่างสุขสบายโดยไม่ต้องลำบากเหมือนที่ผ่านมา”

“ขะ…ขอบคุณมากเลยครับคุณจักรวาล  ขอบคุณจริงๆ”

พ่อยกมือขึ้นไหว้คุณจักรวาลท่าทางดีใจ  มะ…หมายความว่ายังไงกันแน่  ตกลงผมจะได้พ่อแม่และน้องๆกลับมาอยู่ด้วยหรือเปล่า?

“ไทม์  ฟังให้ดีนะ  ฉันเข้าใจว่านายอยากกลับไปอยู่กับครอบครัวเหมือนเดิม  และสำหรับนายสองคนนี้คือพ่อแม่ที่เลี้ยงดูมา  แต่ข้ารับใช้ก็คือข้ารับใช้  ถึงนายจะยกย่องให้พวกเขาเป็นพ่อแม่ด้วยใจจริง  พวกเขาก็รับไว้ไม่ได้  เพราะพวกเขาจะรู้สึกว่าตัวเองอกตัญญูต่อคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย  ถ้านายอยากตอบแทนพวกเขาจริงๆ  ก็ทำตามที่ฉันบอก  ถึงยังไงนายก็สามารถไปหาพวกเขาได้ทุกเวลาตามที่นายต้องการ  นายยังเป็นพี่ชายของเด็กห้าคนนั้นเหมือนเดิม  เพียงแต่…นายจะให้พวกเขาเข้ามาอยู่ในอสังหาในฐานะพ่อกับแม่ของนายไม่ได้  สำหรับข้ารับใช้อย่างพวกเรา  พ่อกับแม่ที่แท้จริงของนายสูงส่งมากรู้หรือเปล่า”

“ใช่แล้วค่ะคุณไทม์  พวกเราดีใจจริงๆที่คุณไทม์รักและให้เกียรติพวกเราได้เป็นพ่อกับแม่  แต่ไม่ว่ายังไง  พวกเราก็ไม่อาจตีตัวเสมอคุณผู้หญิงกับคุณผู้ชายจริงๆค่ะ  ท่านทั้งสองมีบุญคุณล้นเหลือกับเราทั้งคู่  พวกท่านให้ยิ่งกว่าชีวิตแก่พวกเรา  ที่ผ่านมาข้ารับใช้ทุกคนจะเทิดทูนพวกท่านและลูกๆของพวกท่านเอาไว้เหนือหัว  พ่อแม่ที่แท้จริงๆของคุณไทม์น่ะ  เป็นคนที่วิเศษมากเลยนะคะ”

“แม่…”

“สำหรับผมคุณไทม์ยังเป็นลูกชายคนโตอยู่เสมอไม่เปลี่ยนแปลง  แต่ได้โปรดเข้าใจฐานะของพวกเราด้วยเถอะนะครับ  ในเมื่อตอนนี้คุณไทม์รู้ความจริงทุกอย่างแล้ว  ถ้าจะให้พวกเราทำเหมือนเดิม  พวกเราเองก็ลำบากใจเหมือนกัน  มันเหมือนกำลังล่วงเกินท่านทั้งสองที่ลาลับไปแล้ว  ถึงจะไม่ได้อยู่ร่วมกันในฐานะพ่อแม่ลูกเหมือนเมื่อก่อน  ก็ขอให้รู้เอาไว้ว่าพวกเรารักคุณไทม์มากจริงๆ  ไม่ใช่ในฐานะของข้ารับใช้กับเจ้านาย  แต่เป็นในฐานะพ่อแม่และลูกชายคนแรกของพวกเขา”

“พ่อ…”

ผมกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่  ปกติพ่อจะเป็นคนขี้โวยวายนิดๆและจะเข้มงวดกับผมเป็นพิเศษ  ผมไม่เคยเห็นพ่อในโหมดนี้เลยตั้งแต่เกิดมา  ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของพ่อด้วยซ้ำ  นี่เป็นครั้งแรก…

“นั่นสินะ  ผมเข้าใจแล้วล่ะครับ  ไทม์…นายเองก็ควรเข้าใจพวกเขาด้วยนะ  อย่าทำให้พวกเขาต้องลำบากใจเลย”

“เรื่องนั้นผมรู้ครับ  แต่ว่า…”

พวกเขาเป็นพ่อแม่ของผมมาตลอดเลยนะ  ตลอดมา…

“จริงสิ  มีบางอย่างที่คุณผู้หญิงฝากให้ดิฉันเก็บเอาไว้มอบให้กับพวกคุณทั้งสามคนเมื่อถึงเวลาที่เหมาะที่ควร  ดิฉันคิดว่าตอนนี้คือเวลาที่เหมาะสมที่สุดแล้ว  รอสักครู่นะคะ  ดิฉันจะไปนำของเหล่านั้นมาให้”

แม่ก้มหัวลงเล็กน้อยก่อนจะวิ่งกลับขึ้นไปบนบ้าน  ผมได้แต่มองตามตาละห้อย  ถึงผมจะรักพ่อกับแม่มากแค่ไหน  แต่พวกเราก็ไม่อาจกลับไปเป็นเหมือนเดิมได้อยู่ดีสินะ

“มาแล้วค่ะ”

แม่วิ่งกลับลงมาพร้อมกล่องเหล็กขนาดใหญ่สามกล่อง  พะ…พวกนี้น่ะเหรอ  ของที่แม่เสียงพิณฝากไว้ให้กับพวกเรา

“นี่ของคุณจักรวาลค่ะ  ส่วนนี่ของคุณอวกาศ  และนี่…ของคุณไทม์”

“พวกนี้…”

“รหัสเปิดแม่กุญแจที่ล็อกไว้คือวันเกิดของพวกคุณเองค่ะ  ถ้าอย่างนั้นพวกเราขอตัวไปเตรียมของว่างไว้ให้คุณๆกับพวกเด็กๆก่อนนะคะ  เชิญตามสบายค่ะ”

พ่อกับแม่ส่งยิ้มพิมพ์ใจก่อนจะค่อยๆคลานเข่ากลับออกไป  เหลือไว้แค่พวกผมสามคนที่มองหน้ากันสลับกับกล่องเหล็กในมือ

ตึก…ตึก…ตึก…

พี่อวกาศเดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนขั้นบันไดก่อนจะเริ่มหมุนรหัสเพื่อเปิดกล่อง  เห็นแบบนั้นคุณจักรวาลเลยแยกไปนั่งที่ใต้ต้นไม้ในสวนเพื่อเปิดของตัวเองบ้าง  ผมเลยลุกไปนั่งตรงโต๊ะมาหินเพื่อเปิดกล่องของตัวเองเช่นกัน

ของที่แม่เสียงพิณฝากไว้ให้…

คืออะไรกันนะ  ตื่นเต้นจัง

 

 

บับเบิ้ลบิวชวนคุย :

มาอัพแล้วจ้า  และแล้วคุณอวกาศก็ได้จู๊บบบบบจากเฟี้ยวมาครอบครอง (เดี๋ยวๆ ผิดประเด็น 5555 ) เอาใหม่  และแล้วน้องไทม์ก็เรียกคุณอวกาศว่าพี่ได้เต็มปากสักที  แม้จะไม่สามารถกลับไปเป็นเหมือนเดิมกับครอบครัวที่เติบโตมาได้  แต่เชื่อว่าน้องไทม์จะต้องมีความสุขกับครอบครัวที่แท้จริงและใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างดีเยี่ยม  ไกรศรเองก็ได้รับผลกรรมที่ตัวเองก่อไว้เหมือนกับผอ.ที่สุดท้ายก็ต้องสูญเสียแก้วตาดวงใจไปอย่างไม่มีวันกลับ  บางครั้งผลจากการกระทำของตัวเองก็ไม่ได้ส่งผลร้ายต่อเราแต่เป็นคนที่เรารักแทนเนอะ  ตอนหน้ามาดูกันว่าแม่เสียงพิณทิ้งอะไรไว้ให้กับลูกชายทั้งสามคน?  #แม่ก็คือแม่ #ความรักของแม่ยิ่งใหญ่เสมอ  หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมบิวเขียนความรู้สึกเกี่ยวกับแม่ลูกได้ลึกซึ้งยิ่งนัก  นั่นก็เพราะบิวเป็นแม่คนแล้วนะเออ 555  มีลูกชายวัยสี่ขวบกว่าซึ่งกำลังซนจนน่าจับล่ามด้วยโซ่แล้วเอาแส้ตี (เอ๊ะ?)  ตอนนี้อยู่ในช่วงขัดเกลาลูกชายให้เดินไปในเส้นทางสายวายแบบแม่มันอยู่ค่ะ  ก๊าก 555

ออฟไลน์ Toon_TK

  • เ ด็ ก อ้ ว น
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 741
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +33/-1
หมดเรื่องซักที

ออฟไลน์ fc_fic

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2590
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-7
อยากรู้ว่าแต่ละคนจะได้อะไร :hao4: :hao4: :hao4:

ออฟไลน์ WwW

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 330
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +134/-0
     สวัสดีค่า  อย่างที่รู้กันว่าตอนนี้เรื่องนี้ได้ทำการเปิดพรีออเดอร์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว  ทว่ายังมีนักอ่านอีกหลายคนที่อยู่ในวัยเรียน  บางคนอยากเปย์แต่ไตงอกไม่ทันก็มี   วันนี้เลยมีกิจกรรมให้นักอ่านทุกท่านที่อยากได้หนังสือชุดนี้ไปครอบครองมาร่วมสนุกกันค่า
     หมดเขตร่วมสนุก  30 กันยายน 2560  หลังเที่ยงคืนเป็นต้นไป

     ได้รับหนังสือพร้อมกันกับนักอ่านที่สั่งซื้อนะคะคือหลังปิดพรีฯไม่เกิน 30 วันจ้า
     อนึ่ง ของรางวัลที่จะได้รับคือ : หนังสือ 2 เล่มจบ ( มีที่คั่นแถมให้เล่มละ 1อัน/ลาย + โปสการ์ด 1 ใบ ) ซึ่งในเล่มจะมีตอนพิเศษรวม 8 ตอน ไม่มีลงในเว็บจ้า
     สำคัญ ::: ของรางวัลที่ได้ไม่มีมินิสเปฯ นะคะ  เพระาเล่มสเปฯมีจำนวนจำกัดแค่ 100 เล่ม  สำหรับนักอ่านที่โอนเงิน 100 คนแรก จ้า ^__^

     นักอ่าน 1 ท่าน  สามารถร่วมสนุกได้ทุกช่องทางไม่จำกัดจ้า

     กิจกรรมคือ... "คอมเม้นต์บอกเล่าความรู้สึกที่มีต่อนิยายเรื่องนี้"  ไม่จำกัดบรรทัด  แล้วแต่จะคอมเม้นต์เลยจ้า  จะคอมเม้นต์เลยหรือรอให้บิวอัพจนจบก่อนก็ได้ไม่ว่ากันค่ะ  ส่วนช่องทางการร่วมกิจกรรมจะมีดังนี้...

     - คอมเม้นต์โดยต้องไม่ลืมกดอ้างอิงถึงโพสนี้นะคะ  จะได้รู้ว่าร่วมสนุกกันค่า ( คัดเลือดผู้โชคดี 2 ท่าน  ท่านแรกเลือกจากคอมเม้นต์ที่โดนใจบิวที่สุด  ท่านที่ 2 สุ่มจ้า )
     - ติดแฮชแท็ก #เมื่อผมถูกส่งไปขัดดอก  ในทวิตเตอร์แล้วบอกเล่าความรู้สึก ไม่จำกัดความยาวของตัวอักษรใดๆทั้งสิ้น ( คัดเลือดผู้โชคดีจากในส่วนนี้ 1 ท่านค่ะ )

     ไม่มีการร่วมกิจกรรมในเพจนะคะ  อยากจะให้เฉพาะนักอ่านที่ติดตามเรื่องนี้ได้ร่วมสนุกกันจริงๆเท่านั้น  บางครั้งในเพจอาจจะมีคนที่ไม่ได้ติดตามมาตั้งแต่ต้น  แต่อยากร่วมสนุกเพื่อฟลุ๊คได้อะไรแบบนี้มาร่วมกิจกรรมด้วย  เลยขออนุญาตงดเล่นกิจกรรมนี้ในเพจค่า ^_^

   

     ใครที่พลาดไปไม่ได้หนังสือบิวจะแจกโปสการ์ดของเรื่องนี้เป็นรางวัลปลอบใจค่า ( มีจำนวนจำกัด  หลังประกาศผลแล้วใครที่อยากได้โปสการ์ดบิวจะแจ้งรายละเอียดอีกครั้งว่าให้ติดต่อมาทางไหนอย่างไรเพื่อขอรับโปสการ์ดจ้า )

     กิจกรรมนี้ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ  ค่าจัดส่งทุกอย่างบิวออกให้ค่า  จุ๊บๆๆๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-09-2017 14:37:28 โดย WwW »

ออฟไลน์ numay

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1035
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-1

ออฟไลน์ areenart1984

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-7
สมหวังไปสำหรับคู่จักรวาลกับหลานไทม์  คนแก่ยินดีด้วยจ้า  :mc4:
ส่วนอีกคู่ลูกผีลูกคนหรือเปล่านะ สำหรับคู่อวกาศกับหลานเฟี้ยว  :confuse:

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด