บทที่ 7 องครักษ์พิทักษ์เป๋า
ลาทีเสื้อนักศึกษาตัวโคร่งเกินไซส์ใส่สบาย...
ลาทีกางเกงสแลคขาตรงโคร่งเหมือนจับกัง....
ลาทีแว่นตาทรงคุณลุงเฉิ่ม ๆ พร้อมสายคล้อง....
ลาทีนายพี่หนึ่งคนเดิม....
น้องเป๋าครับ พี่หนึ่งจะแร๊งงงงให้ดู !!!!
ว่าแต่ไอ้คอนแท็คเลนส์นี่มันใส่ลำบากจริงแฮะ....
.
.
.
.
.
.
.
.
“โหวววววววว โดนพวกโรคจิตตามตื๊อเลยเหรอ น่าหนุก ๆ” หัวเห็ดตะโกนดังลั่นอย่างลืมตัว จนทุกคนในห้องสมุดของมหาวิทยาลัย หันมามองเป็นตาเดียว แต่พ่อคุณมีสลดเสียที่ไหนล่ะ มีการหันไปจ้องหน้าอย่างเอาเรื่องเรียงตัวเสียด้วย!!!
“ชู่ววววววว เบา ๆ สินายเห็ด คนยิ่งกลุ้ม ๆ อยู่ด้วย” เป๋าหันมาจุ๊ปาก มนุษย์เห็ดจึงเปลี่ยนมาทำกระดี๊กระด๊าใส่อีกคนแทน
“กลุ้มแต่ก็ยังไปเที่ยวกับเค้าเนี่ยนะ แบบนั้นเดี๋ยวอีกฝ่ายก็คิดว่าให้ท่าหรอกแก” ฮ่องเต้พูดสวนขึ้น
“เป๋า....ไปเที่ยวกับคนอื่นได้ไง แล้วโอโม่ล่ะครับผม....เพราะนายอ่ะเบน.....เป๋าของพี่เลยไปกับผู้บ่าวนายอื่น รับผิดชอบกันมาเลยนะจ๊อด”
ตอนนี้ทุกคนในแก๊งค์(นั่นรวมถึงเบนซิน) ใช้พื้นที่อับ ๆ หลังห้องสมุดเป็นที่ประชุมลับ หลังจากที่เช้าวันนี้ เป๋าได้รับจดหมายไม่ระบุชื่อคนส่งก่อนจะเดินทางมามหาวิทยาลัย แน่นอน...ไม่ใช่จากบุรุษไปรษณีย์ แสดงว่ามันคนนั้น รู้จักบ้านของเขา
ข้างในเป็นภาพของเป๋าในอิริยาบถต่าง ๆ นับสิบใบ ทุกภาพล้วนถ่ายในมหาลัย และบางรูปน่าจะถ่ายจากกล้องมือถือในระยะประชิดด้วยซ้ำ มีเมจิกสีแดงวงไว้ตรงส่วนที่เป็นใบหน้า นอกจากนี้ยังมีจดหมายเขียนด้วยตัวหนังสือแดง ๆ ว่าผมรักคุณ
“ทีแรกเราสงสัยพี่หนึ่งอยู่ล่ะ” ฮ่องเต้ว่า ส่วนพ่อเต้าหู้ยี้ก็พยักหน้าหงึกหงักอย่างเห็นด้วย
“แต่ตอนนี้เราก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าไอ้โรคจิตคนนั้นมันเป็นใคร คนที่ดูจะใช่ พอเอาเข้าจริงกลับน่าสงสัยน้อยที่สุด แต่เราจะตัดพี่หนึ่งออกไปจากผู้ต้องสงสัย ก็ยังไม่ได้ซะทีเดียว” ฮ่องเต้จีบปากพูด ด้วยสำเนียงแบบตัวละครหญิง ในซีรีย์สอบสวนของชาวมะกัน(ซึ่งพากย์ไทยอีกที) ทุกคนพยายามกลั้นขำ เว้นเสียแต่นายเบนซิน ที่นั่งหน้าตึง ไม่ยอมปริปากพูดจา เพราะอารมณ์ขุ่นมัวที่ถูกพี่เห็ดตวาดใส่ จนกระทั่ง....
“แล้วไม่สงสัยไอ้เห็ดมันมั่งเหรอ เรื่องความโรคจิตน่ะ พี่เราก็ไม่แพ้ใครหรอกนะ” เบนซินเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทำเอาเป้าสายตาของทุกคน พุ่งไปที่หัวเห็ด พระเอกของเรื่อง
“ไอ้ยักษ์เบน!!! เงียบไปเลยนะ ออกไปจากกลุ่มเราเลยไป ไปนั่งหายใจทิ้งเงียบ ๆ นู่น!!!!” โอโม่หันมาขู่ฟ่อ แต่แฝดผู้น้องไม่ยักจะสะท้าน ยังคงพูดเนิบ ๆ ต่อไปอย่างจงใจกวนอารมณ์
“ทุกคนก็คงจะรู้กันแล้วใช่มั้ย? ว่าไอ้เห็ดมันชอบเป๋า”
“เดี๋ยวเหอะเบน เดี๋ยวพี่ไม่รักนะ คืนนี้ไม่ให้กอดนอนด้วย เงียบปากไปเลย” ดูเหมือนคำขู่ของหัวเห็ด จะทำให้ทุกคนที่ได้ยินต่างอมยิ้ม
และตอนนี้ทุกคนก็หันมามองหัวเห็ดด้วยสายตาแปลก ๆ
“โอ่โมชอบเราเหรอ” เป๋าแกล้งแหย่
“ไม่!!!! เปล่าชอบ.....เราหยอกนายเล่นเฉย ๆต่างหาก” อีกฝ่ายรีบปฏิเสธเสียงแข็ง
“อ้าว....ไม่ได้ชอบเรางั้นเหรอเนี่ย....ว๊างี้ก็คิดไปเองดิ” เป๋าทำเสียงเศร้า แต่หัวเห็ดก็ทำเป็นมองไปทางอื่น ไม่รู้ไม่ชี้....
“งั้นเราไปชอบคนอื่นดีกว่า....เบนจ๋า.....เป็นแฟนกันนะเบนนนน” เป๋าชักนึกสนุก เลยแกล้งหัวเห็ดเล่น ๆดู โดยการไปลูบขาอ่อนของอีกคน
“เฮ้ย!!! ไม่เอา!!!” เบนซินปฏิเสธแบบไม่คิด รีบปัดมือของเป๋าออกจากขาของตน ทำให้พ่อหนุ่มแก้มป่องใจกระตุกวูบหน่อย ๆ แต่เป๋าก็ยังยิ้มระรื่นเหมือนไม่ใส่ใจ
“เออ....เราชอบเป๋าก็ได้.....พอใจยัง” หัวเห็ดยอมรับเสียงอ่อย “แต่เราเปล่าเป็นโรคจิตนะ แค่เอาเป๋าไปฝันลามกเองง่ะ แค่พอจั๊กกะเดียม ไม่ได้ฟีทเจอริ่งกัน ตื่นก่อนเลยอดเลย...”
“โอโม่ชอบเราจริง ๆ เหรอเนี่ย หวาวววววว”
“เป๋าอ่ะ............รู้แล้วก็เลิกแกล้งเราซักทีเหอะ อุตส่าห์เนียน ๆ แล้วนะเนี่ย ทุกคนรู้กันได้ไงวะ” เจ้าเห็ดเกาหัวแกรก ขณะที่ทุกคนมองหน้ากันเป็นเชิงเข้าใจ ว่าไอ้เนียนของพ่อคุณ มันไม่เนียนเอาเสียเลย ก็พ่อเล่นใหญ่เป็นละครเวทีบัลลังเมฆเสียขนาดนั้น
“เฮ้อออ แต่เป๋าก็คงไม่ชอบเราสินะ ช่างมันเถอะ” หัวเห็ดถอนใจ ทำหน้าจ๋อย ๆ ดูแล้วกระตุ้นความสงสารจากทุกคน ยกเว้นไอ้ตัวโตไว้คนหนึ่งก็แล้วกัน
“ชอบสิ ทำไมจะไม่ชอบ โอโม่ของพวกเราออกจะน่ารักซะขนาดนี้” เป๋าเอื้อมมือไปขยี้หัวเห็ดจนยุ่ง อีกฝ่ายคว้ามือของเป๋า พยายามจะจูบคืน แต่อีกฝ่ายดึงออกไปได้เสียก่อน หัวเห็ดก็เลยยิ่งจ๋อยหนักเข้าไปใหญ่....
“ไม่ต้องมาหยอดเลย ไม่ชอบกันก็อย่ามาให้ความหวังดิ เป๋าทำงี้เราคิดนะ”
“ก็ชอบแบบเพื่อนไง เค้าไปให้ความหวังตัวตั้งแต่ตอนไหน ตัวอ่ะคิดมากไปเอง” มือเล็กบีบจมูกเห็ดเบา ๆ โอโม่ทำหน้ายู่ได้อย่างน่าเอ็นดู “นายอ่ะ ไม่ใช่แบบที่เราชอบหรอกน่ะ เห็ดน้อยเอ๊ย”
“โธ่!!! แล้วเคยลองพิสูจน์แล้วรึยัง เป๋าอาจจะชอบแบบเราก็ได้ มาจูบกันมาม๊ะ”
ว่าแล้วไอ้เห็ดก็เอามือจับหัวเปาเอาไว้มั่น ก่อนที่จะ......
~จุ๊บ~
จริง ๆ แล้ว มันก็แค่เอาปากแตะกันแบบเร็ว ๆเท่านั้นเอง เพราะอีกฝ่ายดิ้นขืนจนหลุด เลยไม่ทันได้ลึกซึ้ง แต่ทุกคนก็ยังตะลึงจนตาค้าง เพราะไม่คิดว่าไอ้เห็ดมันจะกล้าทำในที่แบบนี้ แต่ถึงอีกฝ่ายไม่ดิ้น หัวเห็ดก็จูบไม่เป็นอยู่ดีแหละ เพราะน้องชายไม่ยอมสอนกันนี่นะ
“เห็ดอ่ะ เล่นแบบนี้เดี๋ยวเราโกรธนะ” เป๋าหน้าแดงแปร๊ด ส่วนมือก็ตีไหล่ไอ้เห็ดไปพลาง ๆ แก้เขิน
ส่วนหัวเห็ดก็บิดตัวม้วนต้วนอย่างมีจริต น่าแปลกที่เป๋าไม่ยักจะโกรธ หนุ่มร่างเล็กรู้สึกว่าเป็นจูบที่น่ารัก เกินกว่าจะเป็นจูบแรกในชีวิต
“เลิกเล่นไร้สาระกันได้แล้ว” เบนซินเสียงแข็ง แม้จะไม่ใช่การตวาด แต่ก็ทำเอาทั้งโต๊ะเงียบกริบ แม้แต่หัวเห็ดก็ยังหยุดเล่น นาน ๆ ทีที่น้องชายจะดุเขาเป็นเรื่องเป็นราวแบบนี้
“เรื่องนั้นก็ไม่ยาก ตอนนี้พวกเราก็ช่วยกันดูแลเป๋า จัดเวรกันพาเป๋าไปส่งบ้านอย่างปลอดภัย จนกว่าจะจับตัวไอ้โรคจิตได้ ว่าแล้วก็กลับกันเถอะ ก่อนที่มันจะค่ำไปกว่านี้ แล้วไอ้โรคจิตนั่นจะลงมือได้สะดวก” เบนซินอย่างเฉียบขาด เล่นเอาทุกคนขนลุกซู่
.
.
.
.
.
.
“พี่พูดตรง ๆ นะหนึ่ง ตั้งแต่พี่เป็นหมอมา พี่ไม่เคยเจอเคสที่น่ารังเกียจแบบแกมาก่อนเลย ทำไมแกปล่อยให้หน้าแกเป็นไปได้ขนาดนี้วะคะ”
คุณหมอโรคผิวหนังคนสวย ลูกพี่ลูกน้องของนายหนึ่ง ละสายตาจากกล้องส่อง ก่อนจะเบิ้ดกะโหลกญาติรุ่นน้องเต็มเหนี่ยว
“พี่เพิ่งจะเปิดคลินิกได้สามวันเองนะ ลูกค้าที่แย่กว่าผมมันก็ต้องมีอยู่แล้ว พี่ยังไม่เคยเจอเองต่างหาก”
“ยอกย้อนเอาไปอีกที”
“เจ็บนะ”
“ชั้นรักษาแกน่ะ....ชั้นไม่คิดตังค์นะยะ เพราะฉะนั้นอย่าเถียงพี่”
“ครับผม”
เธอส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ น้องของเธอเคยเป็นเด็กหน้าตาดี ใช่ว่าจะขี้ริ้ว เพียงแต่ช่วงมัธยมปลายใช้ชีวิตสมบุกสมบันไปหน่อย เจ้าตัวเป็นนักกีฬาโรงเรียนจนตัวล่ำบึ้ก แต่ตอนหลังเกรดแย่ ก็เลยหันมาบ้าเรียน จนลืมเอาใจใส่ตัวเองอย่างที่เห็น
“พี่จะพยายามทำให้แกดูดีขึ้น แค่เฉพาะเรื่องหน้าเท่านั้นนะ อย่างอื่นน่ะ แกต้องจัดการเอง.....แต่แกก็อย่ามัวปรับปรุงแค่ภายนอกล่ะ.....มันต้องหล่อจากข้างในด้วย เข้าใจมั้ย”
“พี่หมายถึงดีท๊อกซ์สินะ”
“กูหมายถึงจิตใจย่ะ ไอ้ซื่อบื้อ เอ้า....เอายาละลายสิวไปทาซะ เอายาไปกินด้วย”
“ขอบคุณครับพี่สาว”
.
.
.
.
.
.
“เอ้าจับฉลากค่ะ จับฉลาก” ฮ่องเต้บีบเสียงแหลมเล็ก ท่าทางกรีดกรายกว่าทุกครั้ง
“แรด” เต้าหู้กัดเพื่อนหน้าตาย
“ต้องทำกันถึงขนาดนี้เลย....เหรอนี่” เป๋ากระซิบถามแบบอาย ๆ แต่ไม่มีใครสนใจ ทุกคนดูสนุกกับการจับฉลาก
“ทำอย่างนี้แหละเวิร์ค เอ้า....วันนี้ใครซวยจับฉลากได้ ต้องไปส่งนังเป๋าถึงบ้านนะคะ”
“ช่ายล๊ะ แล้วถ้าพ่อกับแม่มันยังไม่กลับ คนคนนั้นต้องอยู่เป็นเพื่อนมันด้วย เพื่อความปลอดภัย ส่วนตอนเช้าไม่ต้องห่วง พ่อกับแม่มันจะมาส่งทุกวัน แต่ถ้าวันไหนไม่มา คนที่จับฉลากเมื่อวานได้ ต้องรับผิดชอบหน้าที่นี้นะครับผม” เต้าหู้ขยายความ
“เบนซินขา มาจับค่ะ มาเลย ไม่ต้องทำเก๊กโหด”
เป๋าซึ้งใจจัดจนอยากจะหลั่งน้ำตา ที่ทุกคนทำเพื่อเขาถึงขนาดนี้ แต่มันจะดีกว่านี้ไหม ถ้ามันไม่ใช่วิธีจับฉลากอ่ะนะ ทำแบบนี้มันเหมือนเกี่ยง ๆชอบกล
“ไม่ต้องจับหรอก เค้าเต็มใจไปส่งเป่าเป๋าทู๊กกกกกวันเลย” นี่ก็เวอร์ไป เป๋าหันไปมองหัวเห็ด ที่แอบเอาอายไลเนอร์ของฮ่องเต้ มาเขียนหน้าเขียนตาแบบพวกทหารพรานอย่างซาบซึ้ง
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดด ไอ้เห็ดสด เก็บบัดเดี๋ยวนี้ กว่าจะแฮ๊บเงินพ่อมาซื้อมันลำบากนะยะ ราคาก็มิใช่ไก่กา ของแมคเชียวนะเว้ย” ฮ่องเต้แทบจะลมจับ เมื่ออายไลน์เนอร์สุดแพงอยู่ติดก้นอยู่ติ๊ดหนึ่ง
“อย่างไอ้เห็ดมันจะไปคุ้มครองใครได้ เอาไปก็เกะกะเปล่า ๆ ลำพังตัวมันเองยังเอาตัวไม่รอดเลย” เบนซินหยุดมองพี่ชายด้วยหางตา ก่อนจะเอ่ยกับทุกคนต่อ
“เอางี้ เดี๋ยวเย็นนี้เราไปส่งเอง ส่วนนายสองคนค่อยผลัดกันไปละกัน แล้วก็ไปส่งกันทั้งสองคนนั่นแหละ จะได้ช่วย ๆ ระวัง ส่วนเรา ถ้าหนีบไอ้ตัวภาระไปด้วย เราขอไปคนเดียวดีกว่าว่ะ”
“ไม่จริง.....นายมันกันท่า.....พี่จะไปด้วย ยังไงก็จะไป แล้วนายก็ไม่มีสิทธิ์ห้าม เข้าใจม๊ะ”
“มึงน่ะ กลับไปทำการบ้านซะเถอะ จะไปเพื่อ ? ไร้ประโยชน์สุด ๆ เดี๋ยวมีไรจะโทรบอก ป่ะกลับกันได้แล้ว” เบนซินตัดบท มือใหญ่ผลักหัวคนเป็นพี่ให้พ้นทาง.....
ก่อนจะจูงมือเจ้าตัวปัญหาให้เดินไปด้วยกันอย่างลืมตัว
“สู้ ๆ นะเป๋า” ฮ่องเต้แอบกระซิบเชียร์เพื่อน
“แหม....ดูจริงใจเนอะ” เต้าหู้กัด
“อีหู้.....อย่าสอดกู....กลับบ้านมึงไปได้แล้วไป”
ทุกคนแยกย้ายกันกลับ บ้านใครก็บ้านมัน ส่วนหัวเห็ดน่ะเหรอ ก็เดินจ๋องกลับห้องไปเหอะ.......งานนี้ไม่เหมาะกับพวกติงต๊องอย่างนาย
You Know ?
.
.
.
.
.
.
To be con
พี่เห็ดมาแล้วค่ะ