EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: EGvsMTเฮดว้ากตัวร้ายปะทะวินัยเจ้าระเบียบ วันสุดท้ายP.27[วิศวะVsเทคนิคฯ]อัพ21/5จบ  (อ่าน 277121 ครั้ง)

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6
                                                                      ขอคอมเม้นนิสนึ่ง

                                          คือนี่ก็ตอนที่ 23 เข้าไปแล้วอ่า กิจกรรมรับน้องยังไม่จบเลย

                     คือเนื่อเรื่องมัน เรื่อยๆ เอื่อยๆ ไปมั๊ยอ่านมาตั้งนานจนเริ่มจะเฉยๆไปแล้วอ่ะ ไม่มีอะไรให้ลุ้น หรือว่าอะไรยังไง

                                                          ขอบอกตรงๆเลยนะ  :seng2ped:

          แต่ก็จะรอติดตามอยู่รอดูว่าเมื่อไหร่บทของ พระนาย จะเด่นชัดเเจ่มแจ้ง สักที จะอดทนติดตามต่อไปอีกหน่อยแล้วกัน

                                ปล. จากความรู้สึกส่วนตัว แต่ก็ไม่รู้ว่าพลอตเรื่องไว้ยังไง กี่ตอนจบ ยังไงก็สู้ๆนะ

ออฟไลน์ lizzii

  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 6283
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +271/-2
ชอบอ่ะะะะ เพิ่งได้เข้ามาอ่าน
สนุกจนวางไม่ลงเลย

ออฟไลน์ monoo

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1957
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +101/-4

ออฟไลน์ actionmarks

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 305
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +29/-44
มันหลายตอนแล้วรึเปล่า หรือว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบหลาย ๆ คู่ไปพร้อม ๆ กันจะได้ทำใจรออ่านให้จบทีเดียว  ส่วนตัวไม่ชอยการกระจายบทที่เยอะ ๆ พอกลับมาต่อนี่คือลืมอ่ะ นึกว่าจะกลับไปที่ลมหนาว พายุ แต่ก็ไม่ใช่
รออ่านทีเดียวดีกว่าค่ะ
ความเห็นส่วนตัวค่ะ ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษด้วย

ช่วงนี้ยกตอนให้คู่อื่นเท่านี้ล่ะค่ะ ที่เหลือจะเป็นคู่หลักยาว ๆ คู่อื่นจะมาอีกรอบเป็นตอนยาวๆหลายตอนติด ค่ะ ไม่มาเป็นตอนเดียวๆแล้ว(อีกพักใหญ่) ระหว่างนี้อาจจะเห็นการพัฒนาแค่คู่ของปันปันกับคู่หลักนะคะ

ถ้าสะดวกใจอ่านหลังเขียนจบก็ได้เช่นกันค่ะ คงประมาณปีสองปีค่ะ

หืม บอกแบบนี้ไม่อยากอ่านเลยอ่ะ อีกปี สองปี ถึงจะจบ ถ้าเป็นแบบนั้นอ่ะนะ

คู่หลักหลาย ๆ ตอนติดนี่็ปกตินะ แต่คู่รองๆ ไม่ต้องเน้นมากก็ได้นะ เอาแค่พองาม

ปกตินี่แค่รับน้องมา 20 ตอนนี่ก็นานเกินทนละ ทำให้เรื่องน่าเบื่อ ไม่น่าติดตามเลย

มาต่อทีไรก็เหมือนเดิม กิจกรรมไม่จบไม่สิ้นสักที รับน้องแค่ 5 ตอนนี่ก็ว่าเยอะแล้วนะ

แต่เรื่องนี้เน้นมากกกกกกกกกกก เก็บทุกรายละเอียดเลย

ไปออกค่าย งอนกัน กัดกันบ้างยังจะดีกว่า 
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 15-04-2015 01:03:30 โดย actionmarks »

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
มันหลายตอนแล้วรึเปล่า หรือว่าเรื่องนี้ดำเนินเรื่องแบบหลาย ๆ คู่ไปพร้อม ๆ กันจะได้ทำใจรออ่านให้จบทีเดียว  ส่วนตัวไม่ชอยการกระจายบทที่เยอะ ๆ พอกลับมาต่อนี่คือลืมอ่ะ นึกว่าจะกลับไปที่ลมหนาว พายุ แต่ก็ไม่ใช่
รออ่านทีเดียวดีกว่าค่ะ
ความเห็นส่วนตัวค่ะ ถ้าไม่พอใจก็ขอโทษด้วย

ช่วงนี้ยกตอนให้คู่อื่นเท่านี้ล่ะค่ะ ที่เหลือจะเป็นคู่หลักยาว ๆ คู่อื่นจะมาอีกรอบเป็นตอนยาวๆหลายตอนติด ค่ะ ไม่มาเป็นตอนเดียวๆแล้ว(อีกพักใหญ่) ระหว่างนี้อาจจะเห็นการพัฒนาแค่คู่ของปันปันกับคู่หลักนะคะ

ถ้าสะดวกใจอ่านหลังเขียนจบก็ได้เช่นกันค่ะ คงประมาณปีสองปีค่ะ

หืม บอกแบบนี้ไม่อยากอ่านเลยอ่ะ อีกปี สองปี ถึงจะจบ ถ้าเป็นแบบนั้นอ่ะนะ

คู่หลักหลาย ๆ ตอนติดนี่็ปกตินะ แต่คู่รองๆ ไม่ต้องเน้นมากก็ได้นะ เอาแค่พองาม

ปกตินี่แค่รับน้องมา 20 ตอนนี่ก็นานเกินทนละ ทำให้เรื่องน่าเบื่อ ไม่น่าติดตามเลย

มาต่อทีไรก็เหมือนเดิม กิจกรรมไม่จบไม่สิ้นสักที รับน้องแค่ 5 ตอนนี่ก็ว่าเยอะแล้วนะ

แต่เรื่องนี้เน้นมากกกกกกกกกกก เก็บทุกรายละเอียดเลย

ไปออกค่าย งอนกัน กัดกันบ้างยังจะดีกว่า 

กำลังจะจบช่วงรับน้องละคะ ^^' เหลือแค่วิศวะให้ธงกับออกไปข้างนอกปลดว๊าก (ถ้าอยากอ่านกัดกันก็อยู่ช่วงๆนี้ล่ะค่ะ)

ขอบคุณสำหรับคำแนะนำนะคะ (ส่วนที่บอกว่ากว่าจะจบอีกปีสองปี เพราะตัวเราเขียนช้าค่ะ ยอมรับ เว้นนานกว่าจะมาต่อแต่ละตอน กว่าจะจบจริงคงอีกนาน) และส่วนที่เน้นช่วงรับน้องเพราะวินัยจริงๆจะมีบทบาทที่รับน้อน่ะค่ะ อาจจะมองว่า ถึงปลดก็เป็นวินัย แต่บทบาทจริงๆจะลดลงไปค่อนข้างเยอะค่ะ หากทำให้เบื่อก็ขออภัยด้วยค่ะ

ออฟไลน์ poohanddew

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 635
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-2
รอคู่หลักจร้าาาาาาาาาาาาาาา
 :katai5: :katai5: :katai5:

ออฟไลน์ poppysrn

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 1
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +0/-0
เค้าให้กำลังใจไรท์นะ สนุกดีค่ะ
เข้าใจว่าอาจจะเป็นเรื่องที่ยาวมากๆด้วยเลยมีรายละเอียดเยอะ แต่เราว่าโอเคนะ
คือเรายังไม่ได้เข้ามหาลัยเวลาอ่านเกี่ยวกับการรับน้อง
ก็ไม่ค่อยเข้าถึงอารมณ์ของการเป็นปี1กับพี่ว๊ากพี่วินัยเท่าไหร่
แต่เรื่องนี้ทำให้เราเข้าใจตัวละครทุกตัวว่ารู้สึกยังไง (ตอนที่น้องง้อพี่เรานี่น้ำตาไหลเลย5555)
แล้วเหตุการณ์ก็สมเหตุสมผลนะสำหรับเรา เราว่าไม่น่าเบื่อ

สนุกแล้วก็ชอบมากๆๆ ติดตามค่ะ รออ่านเรื่อยๆค้าา

 :mew3: :mew1: :mew3: :mew1: :mew3:

ออฟไลน์ Freja

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2394
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +145/-4
อือม์.......โอเคเห็นหลายคอมเมนท์วิจารณ์
เราคิดแบบนี้นะ
เรื่องนี้ดำเนินโครงเรื่องแบบให้ดีเทลของการรับน้องมากๆ
คือเน้นการรับน้องกับการเติบโตของตัวละคร+ความสัมพันธ์ุระหว่างตัวละคร
เนื้อหาก็กระจายเพราะว่ามีหลายคู่
สไตล์การเขียนของคุณ midnight ก็เป็นแบบเรื่อยๆ
ไม่ใช่เป็นนิยายหรือสไตล์การเขียนประเภท Fast pace
ยิ่งช่วงหลังๆคนเขียนมีป่วยการอัพนิยายถึงไม่บ่อยเท่าเดิม
ก็เข้าใจทั้งคนเขียนและคนอ่าน
ตอนนี้หลายคนบ่นเรื่องเนื้อเรื่อง(หลายคู่) การดำเนินเรื่อง(เอื่อย)
คือเหมือนที่บอกเมื่อไว้ข้างบนเนื้อหาเรื่องนี้เน้นอะไร
รายละเอียดการรับน้อง+ตัวละครหลายคู่+สไตล์การเขียน + ความห่างของการอัพนิยาย
เราคิดว่าในทางกลับกันถ้าหากว่าเราได้อ่านยเรื่องนี้ตอนที่เขียนจบแล้วจะเป็นอีกความรู้สึกหนึ่งไปเลย
เราชอบคู่หลัก พายุ-ลมหนาว เพราะว่ามาแรงมากๆในตอนแรกแต่ตอนนี้สปีดลดลงเพราะว่ามีคู่อื่น
ชอบคู่ทิวไผ่กับน้องเหมือนกัน แถมตอนนี้ยังมาเจอคู่พี่กิต-คีตา  กับคู่ปันปันด้วย
คนอ่านแต่ละคนก็ชอบไม่เหมือนกัน คนที่ชอบคู่อื่นด้วยก็มีเฮช่วงที่มีคู่ที่ตัวเองชอบ
ส่วนที่ชอบคู่หลักก็ไม่ชอบเพราะว่าคู่หลักหายไป
นี่คือชะตาของนิยายที่มีหลายคู่ (ละครก็เหมือนกันนะ)
อ่านๆมาเราว่าสนุกเพราะว่าเราชอบหลายคู่ถึงจะไม่ชอบค้างคาก็เถอะ
เอาใจช่วยคนเขียนนะ
ขอให้ระวังนิดหนึ่งตรงการกระจายบท
เราไม่ตัดสินอะไรจนกว่านิยายจะจบ
ขอให่สนุกกับการเขียนนะคะ

ออฟไลน์ sosi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 246
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +7/-0
ชิงธง. กติกามันง่ายเนอะ.จได้ธงไหมนิ

ออฟไลน์ numilddy

  • Together
  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 117
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2/-0
ยังรอตอนต่อไปอยู่น้า
เราว่าที่คู่หลักไม่ค่อยเด่นเพราะมีคู่รองหลายคู่(ปันคิต, ทิวข้าว, คีกิต)
แต่รายละเอียดในการชิงธงหรือว๊ากกับวินัยค่อนข้างละเอียดมาก
ตอนน้องขอพี่คืนนี้ร้องไห้จย้า5555
สู้ๆค่า

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ I-Icezz

  • เป็ดประถม
  • *
  • กระทู้: 62
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +3/-0

ออฟไลน์ Ysolip

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 169
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +8/-1

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่ยี่สิบสี่

“ก่อนจะไปฟังผลคำตัดสิน ผมอยากบอกพวกคุณอย่างหนึ่งว่า การเป็นเทคนิคการแพทย์นั้น ไม่ได้วัดกันที่สิ่งของ ไม่ใช่ว่ามีของที่แสดงตนว่าเป็นเทคนิคการแพทย์แล้วคุณจะเป็นเทคนิคการแพทย์ที่แท้จริง การเป็นเทคนิคการแพทย์ที่แท้จริงนั้นมันอยู่ที่ใจของพวกคุณเองว่าคุณ จะเป็นเทคนิคการแพทย์ที่สมบูรณ์หรือไม่... ขอเชิญประธานคณะวิชาต่าง ๆ ขึ้นมาตัดสินผมการประดับธงในครั้งนี้เลยครับ”

ผมมองน้อง ๆ ที่อยู่ในสนามทุกคน ก่อนจะหันหลังไปนั่งที่แสตนด์ เพื่อให้ประธานแต่ละคณะออกมาไปประกาศผลการตัดสินที่พวกเขาเห็นควร

ในสายตาของผม ผมภูมิใจ และให้ผ่าน เวลาไม่กี่ชั่วโมง น้องสามารถทำได้ดีทั้งที่กดดันในเกือบทุกด้าน เพลงบูมของแต่ละคณะ ไม่ยาว แต่จังหวะแตกต่างกันค่อนข้างเยอะ ผมเองยังจับใจความได้ไม่หมดเลย

แต่น้องของเรากลับจำได้ ในเวลาอันสั้น

ผมเองก็ได้แต่ลุ้น ว่าน้องจะผ่านบททดสอบสุดท้ายนี้ไปได้ไหม ได้ธงก็ได้รุ่นล่ะครับ แต่ถ้าชิงธงไปไม่ได้ รุ่นก็หมดสิทธิ์เช่นกัน

งานนี้พี่ทิวเดินออกไปที่ปะรำคนแรกครับ อาวุโสที่สุดในประธานคณะแล้ว รอยยิ้มอุ่น ๆ หวาน ๆ ตามฉบับพี่ทิวเขาแจกกระจายไปทั่ว

รอยยิ้มของหมอเด็กน่ะครับ แต่จริง ๆ พี่เขาจะต่อหมอศัลย์นะครับ

“สวัสดีครับ น้อง ๆ คณะเทคนิคการแพทย์ทุกคน”ผมนั่งมองแผ่นหลังของพี่ทิวที่เหยียดตรง สง่าสมกับว่าที่แพทย์เกียรตินิยม “พี่เป็นตัวแทนจากคณะแพทยศาสตร์ มาเป็นคนตัดสินในการมอบธงเทคนิคการแพทย์ตามคำเชิญของประธานวินัยคณะเทคนิคการแพทย์นะครับ

ในการแสดงที่น้อง ๆ ได้กระทำให้พี่ได้เห็นเมื่อครู่นี้ พี่ขอชื่นชมในความพยายามนะครับ ถึงแม้ว่าอาจจะมีอะไรที่ผิดพลาดไปบ้าง แต่โดยรวมแล้วถือว่าใช้ได้...

พี่ให้ผ่านครับ”

พี่ทิวชูธงสีขาวขึ้นด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเสียบเอาไว้ที่กระบอกตรงด้านหน้า ซึ่งติดชื่อไว้ว่าคณะแพทย์

ต่อจากแพทย์ก็เป็นพี่เป๊ปซี่ ประธานคณะเภสัช จริง ๆ พี่เขาต้องเป็นประธานวินัยของเภสัชด้วยครับ แต่พี่เขาไม่เอา พี่เขาขอแค่ประธานคณะก็พอแล้ว เหนื่อยสองเท่าขอลา พอเป็นประธานคณะก็ออกจากการเป็นวินัย เลยไม่ค่อยได้เจอกันบ่อย ๆ เหมือนปีที่แล้วน่ะครับ

เมื่อก่อนสนิทกันพอควร เรียกว่าอยู่ก๊งเดียวกันดีกว่าครับ แต่พอมารับบทหนักในงานคณะต่าง ๆ เลยไม่ค่อยได้คุยกันสักเท่าไหร่

สำหรับเภสัช ก็ให้ผ่าน ด้วยเหตุผลที่น้องมีความพยายามในการจดจำ ถือว่าเป็นการเอาใจใส่ ตอนนี้ก็ ผ่านสอง แล้วสินะ แต่ก็ยังวางใจอะไรไม่ได้หรอกครับ

ประธานแต่ละคณะก็วนเวียนกันเข้ามาประกาศผล ซึ่งก่อนประกาศไม่มีใครไม่พูดคุยครับ พูดนิ่ม ๆ เก๊กหล่อ ๆ กันไปเหมือนเคย กว่าจะประกาศผลกันที น้องคงลุ้นจนจะเป็นลม ผมกับเพื่อนคนอื่นกุ้นเหมือนกัน

การตัดสินใจที่ส่งจดหมายเชิญประธานทุกคณะมาเป็นกรรมการครั้งนี้ ผมตัดสินใจด้วยตัวเองทั้งหมด โดยไม่ได้ปรึกษาเพื่อน รู้สึกผิดเหมือนกันครับที่ทำแบบนั้น แต่ผมคิดว่ามันคงเป็นอะไรที่ยุติธรรมที่สุดแล้ว อีกทั้งเป็นความกดดันให้น้องทุกคนร่วมมือ แสดงสปิริทและศักยภาพที่มีทั้งหมดภายในตัวออกมาในระยะเวลาที่สั้นที่สุด

ผลลัพธ์ที่ได้ก็เป็นไปตามที่ผมหวัง

ตอนนี้เหลือแค่สองคณะสุดท้าย คือเทคนิคการแพทย์ของเรา และวิศวกรรมศาสตร์ ซึ่งผมที่ประกาศออกมากันรวมตอนนี้ก็น่าหวาดเสียวพอดู

5 : 5

แพทย์ เภสัช ครุ นิติ สถาปัตถ์ ให้คะแนนว่าผ่าน ด้วยเหตุผลที่คล้ายคลึงกัน

ส่วน กายภาพ นิเทศ ศิลปะศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ บริหาร ไม่ให้ผ่าน ด้วยว่าไม่ใช่พวกน้อง ๆ แสดงออกมาได้ไม่ดี แต่การแสดงนี้ไม่ได้สื่ออะไรถึงความเป็นนักศึกษาเทคนิคการแพทย์ของพวกน้อง ๆ ซึ่งมันก็ถูกของพวกเขาครับ ใช้ว่ามันสื่อถึงความสามัคคี สื่อถึงสถาบันของเรา แต่ความเป็นเทคนิคการแพทย์นั้นไม่ได้บ่งบอกออกมา

จะบอกว่าก็ร้องเพลงบูมของคณะเมดเทคแล้วไง ก็คงไม่ใช่ข้ออ้างที่ดีครับ เพราะน้องร้องเพลงบูมของทุกคณะ การแสดงอันนี้คงเหมาะกับการชิงธงของมหาวิทยาลัยมากกว่า

“สวัสดีครับ ทุกคน”โอ้ต ประธานคณะของปัจจุบันของคณะผมเอ่ยทักทายน้อง ๆ ผมเหลือบไปเห็นด้วยครับว่าน้องทุกคนมองมาที่มันอย่าตั้งความหวังสุด ๆ “สำหรับพี่คงไม่ต้องแนะนำตัวอะไรใช่ไหมครับ รู้จักกันดีอยู่แล้วล่ะเนอะ”

ประธานคณะของพวกผมพูดติดหัวเราะ คงหวังจะผ่อนคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดนี่ล่ะครับ แต่ในช่วงเวลาแบบนี้ น้องคงมาตลกกับนายหรอกนะ

“สิ่งที่น้องทุกคนตั้งใจทำในวันนี้ พี่รู้ว่ามันต้องใช้ความพยายาม ต้องใช้ความเป็นหนึ่งเดียว ความสามัคคีกันแค่ไหนซึ่งมันแสดงถึงศักยภาพในตัวของน้อง ๆ เอง ทำให้พี่รู้ว่าน้องสามารถยืนได้โดยไม่มีใครคอยชักนำ พี่ภูมิใจในตัวของน้อง ๆ นะครับ เพราะอย่างนั้น พี่จึงลงคะแนนเสียงให้ ‘ผ่าน’ ครับ”

น้องปีหนึ่งปรบมือกันลั่น สีหน้าแต่ละคนไม่มีการปกปิดความดีใจเลยแม้แต่น้อย ทีนี้ก็เหลือแต่วิศวะแล้วล่ะครับ ว่าจะให้ผลออกมาเป็นยังไง

แต่ผมเชื่อนะครับ ว่าต่อให้น้องไม่ได้ธงไปในวันนี้น้องก็จะไม่เสียใจมาก เพราะอย่างไรตอนนี้น้องก็ได้รับการยอมรับจากคณะแล้ว และได้แสดงทุกอย่างที่น้องมีออกมาให้พี่ทุกคนได้ประจักษ์แล้ว ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจที่จะอยู่ในความทรงจำของน้องไปอีกนานเลยล่ะครับ

โอ้ตเดินยิ้มเข้ามานั่งบนแสตนด์ ส่วนวิศวะมันเดินออกไปที่ปะรำ เสียงปรบมือเงียบลง คนสุดท้ายแล้ว ลุ้นกันไปนะครับน้อง ๆ

“ไง ผมเป็นคนสุดท้ายละ ให้เดา คงเสียวสันหลังวูบกันเลยล่ะสิ”ความกวนของวิศวะมันมาเป็นรุ่นสู่รุ่นจริง ๆ นะครับ “เอาล่ะ ผม นายวิศวะ ประธานคณะวิศวะ เป็นตัวแทนจากวิศวะมาตัดสินใจครั้งนี้ เมื่อได้รักเกียรติเชิญมาแล้ว ผมขอรับรองว่าจะไม่ใช้อคติที่มีอยู่ระหว่างคณะเป็นเป็นเกณฑ์ในการตัดสิน

สำหรับที่พวกน้องแสดงไป ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่สำหรับผม ผมคิดว่ามันดูไม่ตรงกับจุดประสงค์สักเท่าไหร่ วันนี้พวกน้องมาชิงธงของคณะของน้อง ไม่ใช่ธงของมหาวิทยาลัย แต่ความเป็นเทคนิคการแพทย์ที่น้องมี กลับดูเหมือนจะถูกคณะอื่นซ้อนทับไป ผมจึงลงคะแนนให้ ไม่ผ่านครับ”

คะแนนเสมอกัน 6 : 6 เป็นสิ่งที่ผมกังวลที่สุด และมันดันเกิดขึ้น แผนสำรองคือผมจะเป็นคนตัดสินสุดท้าย แต่มาคิดดู ถ้าเป็นอย่างนั้น ที่ทำมาอาจจะถูกคิดว่าเป็นเรื่องล้อเล่น เป็นการแสดงที่พวกผมเปิดฉากขึ้นก็ได้

เอายังไงดี...

“ผลออกมาเสมอนะครับ”ผมเว้นจังหวะพูดเล็กน้อย ก่อนจะเหลือบไปมองใครอีกคนที่อยู่ไม่ไกล ขอโทษนะครับ แต่ผมขอใช้วิธีนี้ละกัน “ถ้าอย่างนั้น ผมขอเชิญผู้ตัดสินพิเศษแล้วกันนะครับ”

ผมหันไปหาคุณคิสที่นั่งยิ้มมองปันปันอยู่ เหมือนพี่แกจะรู้สึกได้ว่ามีคนเดินเข้าไปหา เลยหันมามองผม แล้วเลิกคิ้วขึ้นเชิงถาม

“ผมขอรบกวนคุณคิสตัดสินหน่อยนะครับ”ผมกระซิบเบา ๆ ให้พอที่พี่เขาจะได้ยิน พี่แกหัวเราะออกมาน้อย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นไปที่ปะรำพิธีด้วยท่าทีชิว ๆ ไม่อิดออดอะไรสักนิด

“ไง สวัสดีครับ น้อง ๆ เฟรชชี่ปีหนึ่งทุกคน”รอยยิ้มฉาบทับบนใบหน้าสวยแจกจ่ายให้กับทุกคน “พี่ชื่อคิสนะครับ ไม่ได้เป็นทั้งพี่คณะและพี่มหาวิทยาลัยของน้อง ๆ ทุกคนแต่อย่างใด พี่มันนักเรียนนอก แต่พี่ก็มีความยินดี ที่ได้มาพูดคุยกับน้องทุกคนนะครับ

ก่อนอื่นเลย พี่ชื่นชมในความคิดสร้างสรรค์และความตั้งใจจริงของน้องทุกคนที่ร่วมมือกันคิดและจัดทำการแสดงชุดนี้ขึ้นนะครับ
ครับ มันอาจจะเป็นการแสดงที่ไม่ได้สื่อถึงวิชาชีพของน้อง ๆ ไม่ได้บ่งบอกความเป็นเทคนิคการแพทย์ แต่มันทำให้พี่ได้เห็นถึงความเสียสละ และความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันของน้องทุกคน ซึ่งในการทำงาน น้อง ๆ รู้ไหมครับ นอกจากจะต้องมีความรู้แล้ว สิ่งสำคัญอีกอย่างนึงคือความทุ่มเท และน้องทุกคนได้แสดงให้พี่เห็นถึงสิ่งเหล่านั้น เพราะเหตุผลนี้ พี่จึงขอลงคะแนะเสียงให้น้องทุกคนผ่านครับ”

น้องปีหนึ่งเฮกันลั่นสนาม หลายคนลุกขึ้นมากระโดดตัวลอยด้วยความดีอกดีใจ บางคนมีน้ำตาซึม ผมเห็นแล้วก็อดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้

ผมรับธงมาจากพลอยแล้วเดินลงไปที่สนามข้างล่าง น้องที่เป็นสภารีบวิ่งเข้ามาหาผม โค้งให้น้อย ๆ แล้วรับธงไปด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข

“ยินดีกับพวกคุณทุกคนที่ได้ธงไปนะครับ”ผมตีสีหน้าขรึม แล้วเดินไปหยุดข้างหน้าน้อง ๆ ที่กลับมานั่งที่กันตั้งแต่วินาทีแรกที่ผมก้าวเข้ามาในสนามแล้ว “สัปดาห์หน้า ผมจะพาพวกคุณออกไปทำกิจกรรมนอกสถานที่ เราจะเจอกันที่ลานเกียร์ในเวลาเจ็ดโมงเช้า หวังว่าจะไม่มีใครมาสายให้คนอื่นต้องรอนะครับ”

“ครับ/ค่ะ”น้องทุกคนตอบรับกันอย่างแข็งขัน ผมพยักหน้ารับน้อย ๆ แล้วกวาดตามองน้องทุกคนในคณะที่ยิ้มกว้างกันไม่หุบอีกครั้ง

“ถ้าอย่างนั้น วันนี้ก็กลับไปพักผ่อนกันได้แล้วครับ”ผมพูดด้วยเสียงที่อ่อนลงกว่าปกติ แล้วหันหลังเดินออกจากสนามมา ให้น้องเขาได้ยินดีกับความสำเร็จกันอีกครั้งหนึ่ง

เอาล่ะ หน้าที่ของผมในปีนี้ใกล้จะจบลงแล้ว เหลืออีกแค่กิจกรรมเดียวเท่านั้น ผมจะได้พักผ่อนบ้างสักที

“ไปกินบาบีคิวกันไหม หนาว”เสียงนุ่มทุ้มที่คุ้นเคยดังขึ้นจากข้างหลัง พร้อมกับสัมผัสหนัก ๆ ที่ไหล่ทำให้ผมอดยิ้มออกมาบาง ๆ ไม่ได้

“ไปสิครับ”คนที่รู้ใจ ยังไงก็รู้ใจจริง ๆ พี่ทิวยังคงรู้ใจผมไม่เปลี่ยน ก็ครับ ผมมักจะอยากออกไปหาอะไรอร่อย ๆ กินหลังจากทำงานมาหนัก ๆ

ครั้งนี้ก็เช่นกัน

ผมนั่งรถพี่ทิวไปห้างที่อยู่ไม่ไกลจากมหาลัย ตอนแรกก็ว่าจะนั่งข้างหลังให้น้องข้าวเขานั่งกับพี่ทิวข้างหน้าล่ะครับ ไม่อะไร ผมจะเอนหลังงีบสักหน่อย แต่พี่ทิวดันเรียกให้ผมไปนั่งข้างหน้าซะอย่างนั้น

“สบายตัวแล้วสิ เราน่ะ ส่งน้องจะไปถึงฝั่งแล้ว”พี่ทิวเปิดประเด็นขึ้นมาหลังจากบนรถเงียบมาพักใหญ่ “แล้วนี่ต้องทำอะไรต่อล่ะ หืม”

“ออกไปรับน้องนอกสถานที่วันเสาร์นี้กับพวกวิศวะ ก็หมดแล้วล่ะครับ”ผมตอบกลับยิ้ม ๆ แล้วความเอาตุ๊กตาเม่นที่อยู่แถวนี้มาเดาะเล่น “หลังจากนั้นก็ได้พักแปปนึง แล้วก็สอบแล้วล่ะครับ ฮะ ๆ”

ใช่.. ต่อจากรับน้องที่ยาวนาน การสอบกลางภาคก็รออยู่

คิดดูแล้วเหนื่อยพิกลนะครับ... เอาเถอะ วันนี้ขอไปกิน ไปพักก่อนแล้วกัน

ไว้ค่อยว่ากันใหม่พรุ่งนี้ละกันครับ


วันหยุดที่เหมือนจะไม่ใช่วันหยุดที่ผ่านมาทำผมแทบไม่ได้พัก พอต้องมาเรียนเลยเกือบจะมาเลทเลยล่ะครับ ดีที่เป็นวิชาเลคเชอร์ มาทันเวลาเฉียดฉิวก่อนอาจารย์จะเริ่มสอนก็ยังโชคดีไป

อาจจะคิดกันว่าแค่เลคเชอร์ไปอ่านเอาที่หลังก็ได้ ถ้าคิดกันแบบนั้นในคณะวิชาที่ผมกำลังศึกษาอยู่นี่ พวกคุณคิดผิดแล้วล่ะครับ ลองไม่เข้าเลคเชอร์ครั้งหนึ่ง คุณจะไม่เข้าใจในเรื่องนั้น ๆ ไปเลย อ่านยังไงก็งงครับ ผมว่าคงไม่มีใครหรอกที่มองรูปหัวใจผ่าซีกแล้วมีตัวภาษาอังกฤษเขียนไว้ตัวเล็ก ๆ แล้วบอกได้เลยว่าเรื่องนี้คือเรื่องอะไร หรือจะอ่านสรุปความย่อ ๆ ในไสลด์ที่อาจารย์ทำเอาไว้แล้วเข้าใจเลยว่ามันคืออะไร

ขนาดพี่ทิวที่เป็นระดับท็อปของคณะแพทย์ยังทำไม่ได้เลย รับประสาอะไรกับคนที่เรียนเกรดธรรมดาอย่างผมกันล่ะครับ ยังไงก็ต้องหอบสังขารมาเข้าเรียนให้ได้ล่ะครับ

มาราธอนเรียนทนตั้งแต่แปดโมงครึ่งถึงเที่ยงครึ่ง ถึงจะได้พักกินข้าว ยังดีว่าวันนี้คาบบ่ายไม่มีเรียนนะครับ บางวันเรียนคาบบ่ายตอนบ่ายสองถึงห้าโมงเย็น แล้วมีชดถึงทุ่มนึงอีก

เรียกหนัก เงินน้อย คือพวกเรา เทคนิคการแพทย์

แต่เอาเถอะ เลือกแล้วนิครับ ต้องเดินต่อไป

ตอนนี้น้อง ๆ ได้ธงกันไปแล้ว ผมมองปฏิทินดูวันที่เหลืออยู่ อีกไม่นานก็จะจบวันรับน้องแล้ว ปีนี้ต้องพาออกข้างนอกไปกับพวกวิศวะด้วย...

แต่ยังไม่เห็นวิศวะให้ธงน้องเลย แบบนี้งานมันจะเดินต่อไปได้ยังไง

ผมคงต้องไปคุยกับหมอนั่นสักหน่อยเหมือนกัน อาทิตย์สุดท้ายแล้ว น้องไม่ได้ธง แล้วจะออกข้างนอกไปให้รุ่นได้ยังไงกันนะครับ จองสถานที่แล้วด้วย ผมเบื่อพวกนั้นชะมัด

ผมอยากจบบทบาทความเป็นวินัยนี่เหมือนกัน เหนื่อย ท้อ เบื่อ เครียด ไม่ได้สนุกอย่างที่ใครคิดสักนิด ใครไม่ได้มารับรู้เบื้องหลังของงานก็คงไม่รู้หรอกครับว่ามันเป็นยังไง งานเยอะแค่ไหน แล้วเวลาแต่ละวันก็ผ่านไปไวเหลือเกิน

ผมจะได้ไปอ่านหนังสือเตรียมสอบสักที

นี่เป็นอีกครั้งที่ผมเดินมาตึกของวิศวะ ผมว่าผมมาบ่อยเกินกว่าที่ควรจะเป็นแล้วเหมือนกัน หากเป็นเมื่อก่อน ตึกวิศวะ ลานเกียร์ ก็เป็นเหมือนสถานที่ต้องห้ามของพวกเราชาวเมดเทค แต่ตอนนี้ เดินเข้าเดินออกจนจากที่คนมอง เลิกมองกันหมดแล้ว

ผมเดินขึ้นมาที่ห้องเรียนห้องหนึ่ง เป็นห้องเรียนเลคเชอร์นี่ล่ะครับ คิดว่ามันคงอยู่ที่นี่แหละ ไม่อยากโทรไปถามให้มากความคุยกับว๊ากวิศวะมาก ๆ ผมปวดหัว เมื่อไหร่มันจะเลิกพูดงี่เง่าใส่ผมสักที

"ไง คุณวินัย มีธุระอะไรครับ"เสียงยียวนที่ผมไม่ต้องบอกก็รู้ใช่ไหมครับว่าเป็นใคร มีอยู่คนเดียวนั่นแหละ แต่ถ้ามีเสียงคนอื่นมาตอนนี้ ผมก็ขอวิ่งเหมือนกัน ก็ในห้องนี้ คอนนี้ มีแค่มันกับผมนี่ "ถามไม่ตอบ"

"ผมมีธุระกับคุณแน่ ถ้าไม่มีผมไม่มาหรอก"สวนกลับไปก่อนที่มันจะกวนโอ๊ยมาอีก ผมเดินเข้าไปใกล้มัน แต่ไม่นั่งลงหรอกนะครับ ยืนค้ำหัวอยู่แบบนี้ล่ะ "เมื่อไหร่พวกคุณจะให้น้องพวกคุณชิงธงอีกครั้งสักทีครับ"

"นั่นมันเรื่องของคณะผม คุณจะอยากรู้ไปทำไมกัน คุณลมหนาว"เสียงของพายุเข้มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เออ ผมจะไม่อยากรู้เลยถ้าคณะผมไม่ได้ทำงานตัวติดร่วมกับคณะพวกคุณ

"จะหมดเวลาการรับน้องแล้ว คุณก็รู้ว่ายังมีงานต้องทำอีก"ผมเว้นจังหวะการพูด แล้วจ้องหน้าของเฮดว๊ากตรงหน้านิ่ง "พวกคุณจะรั้งเวลาอะไรนักหนา มันทำให้พวกผมเสียเวลาไปมากแค่ไหน ทั้งที่บางคณะมอบรุ่น ปลดวินัยแล้ว"

"แล้วใครห้ามไม่ให้พวกคุณมอบรุ่นให้น้อง แล้วปลดวินัยของพวกคุณเอาไว้ล่ะ!"มันโต้กลับผมมาทันที พร้อมกับลุกขึ้นจากโต๊ะเลคเชอร์ "พวกคุณจะทำอะไรก็เรื่องของพวกคุณอยู่แล้ว"

"ผมทำแน่ ถ้าเราไม่ใช่คู่บัดดี้ห่าเหวนี่กัน"ผมชักโมโหแล้วเหมือนกันนะครับ ทนมาตลอด ผมไม่ใช่พระอิฐ พระปูนที่ไม่รู้ร้อนอะไรนะ "ถ้าไม่คิดจะทำอะไรก็กรุณาให้ธงน้องไป จะได้ไม่ต้องมาถ่วงพวกผมอีก เราจะได้จบกิจกรรมนี้ไปเตรียมสอบกลางภาคกันสักที!"

เป็นครั้งแรกที่ผมขึ้นเสียงกับคนที่ไม่ใช่เพื่อน ด้วยหน้าที่ ด้วยวิชาชีพ มันสั่งสอนให้ผมเก็บอารมณ์เก่ง และนิ่งได้เสมอ แต่พอนานวันที่ได้โต้เถียงกับคนตรงหน้า กำแพงที่ผมว่าผมก่อไว้สูง มันค่อย ๆ เตี้ยลงพร้อมกับการควบคุมตัวเองของผมที่ลดลงเช่นกัน

"..."พายุมันนิ่งไป แล้วมองผมด้วยสายตาที่เย็นชา "ผมคงมองคุณผิดไปมากเหมือนกันนะ ลมหนาว"

"..."เป็นผมเองที่เงียบ ที่มันพูดคืออะไร?

"ถึงจะไม่แสดงอะไรออกมา ถึงคณะของเราจะไม่ถูกกัน แต่ผมก็ชื่นชมคุณอยู่เสมอที่คุณมีเหตุผล มีการตัดสินใจที่เป็นกลางและเด็ดเดี่ยว เป็นตาชั่งที่ไม่เอนเอียง"พายุกระตุกยิ้มขึ้นน้อย ๆ "แต่ผมคงมองผิดไป คุณมองแต่คณะ มองแต่รอบตัวของคุณเอง คุณไม่เคยรับรู้เรื่องของคนอื่น ทั้งที่ไม่รู้ แต่กลับมาต่อว่า มาพูดใส่หน้าผมอย่างนี้ ตัวคุณเคยรู้ไหมว่าวิศวะของพวกเรามีการรับน้องยังไงบ้าง!"

"..."นี่ก็เป็นครั้งแรกที่ผมเถียงอะไรมันไม่ออกจริง ๆ ผมรู้แต่พวกวิดวะจะมีการชิงเกียร์รุ่น ออกรับน้องนอกสถานที่ ต่อแขนสะพานดาว ซึ่งทุกอย่างเป็นกิจกรรมหลักของพวกเขา... แต่ถ้าพูดถึงกิจกรรมย่อย ผมกลับไม่รู้อะไรเลย

"คุณรู้แต่สิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ คุณมองแต่สิ่งที่อยู่รอบตัวคุณ คุณไม่เคยหยุดและมองมาในทิศที่อยู่ตรงข้ามคุณเลย"เสียงของพายุมันเคร่งขรึมขึ้นกว่าเดิม "ที่ผมนิ่ง ไม่ใช่ไม่ทำอะไร แต่ในส่วนนี้มันหมดหน้าที่ของผมแล้ว"

"หมายความว่ายังไง"ผมถามกลับอย่างไม่เข้าใจ หมดหน้าที่ทั้งที่น้องยังไม่ได้รับธงไปน่ะนะ

"เมื่อน้องไม่ได้ธงไปแต่แรก ธงจะไปอยู่ที่พี่ปีสี่ และพี่ปีสูงที่เหลือจะเป็นคนตัดสิน"มันตอบผมกลับเสียงเรียบ ก่อนจะนั่งกลับไปที่เดิม "ผมไม่ได้มีหน้าที่ตัดสินเรื่องนี้แล้ว"

"สัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของการรับน้อง เสาร์อาทิตย์ที่จะถึงก็ต้องพาน้องออกนอกสถานที่แล้ว คุณคิดจะทำอะไรต่อไป"อารมณ์ที่เคยพุ่งขึ้นสูงทะลุปรอทของผมมันเบาบางลงเยอะจนเกือบจะเป็นปกติแล้วครับ

"ไม่ทำอะไร ผมได้แต่รอ"พายุมันยักไหล่ให้ผมอย่างไม่ใส่ใจ แล้วเงยหน้าขึ้นมาหาผม ส่งยิ้มกวนบาทา ยักคิ้วกวนส้นมาให้ตามฉบับ

"แต่..."

"คุณอยากให้น้องได้ธงเร็วที่สุดอย่างนั้นสิ?"

"หรือคุณจะปล่อยทิ้งไว้แบบนี้"

"นอนกับผมสิ"

"อะไรนะ?"

"นอนกับผม... แล้วผมจะไปจัดการเรื่องที่คุณต้องการให้"

"!!!!"

ผมจ้องตากับพายุนิ่ง มันพูดหมา ๆ อะไรออกมา นอนกับมัน? ถ้าจะให้มันไปจัดการเรื่องที่คั่งค้างอยู่ให้จบไป บ้าฉิบหายเลยเว้ย
นั่นคณะของมันนะ เรื่องอะไรผมจะยอมกันล่ะครับ

มันใช่เรื่องซะที่ไหน

"คุณพูดอะไรออกมา พายุ นี่เป็นเรื่องของคณะคุณ น้องของคุณ คนที่คุณดูแลมา ไม่เกี่ยวกับผม!"ผมสวนกลับไปอย่างหงุดหงิด ชีวิตของมันคิดถึงแต่เรื่องบนเตียงหรือยังไงกัน

"ใช่! มันเป็นเรื่องของผม ของคณะผม ของพี่น้องผม คุณก็ทำหน้าที่ของคุณให้ดีที่สุดต่อไปแล้วกัน"พายุโต้กลับผมด้วยเสียงที่ฟังดูหงุดหงิดไม่แพ้กัน "คนของคณะผม คุณไม่ต้องมาใส่ใจนักก็ได้"

ผมสะอึกเมื่อได้ยินคำนั้น นั่นสิ ผมจะไปห่วงพวกน้องวิศวะทำไม เรื่องของพวกเขาผมจะไปใส่ใจเพื่ออะไร น้องผมก็ไม่ใช่ คณะคู่อริกันอีกต่างหาก

"คุณเหมันต์ ถ้าคุณไม่ลืม ผมและเพื่อนไม่เคยก้าวก่ายงานของพวกคุณ ไม่เคยเข้าไปยุ่มย่ามงานส่วนของคุณ ไม่เคยค้านธรรมเนียมคณะพวกคุณ"เฮดว๊ากของวิศวะสูดลมหายใจลึก ก่อนจะหันมาจ้องหน้ากับผม "สิ่งที่คุณกำลังท้วงผมอยู่คือธรรมเนียมของคณะผม คืองานของพวกผม การออกนอกสถานที่ ที่คุณห่วงนักห่วงนักห่วงหนามันเป็นสิ่งที่พวกผมทำกันมารุ่นต่อรุ่น คุณคิดว่ามันจะมีข้อผิดพลาดอะไรที่เกินความคาดเดาของพวกผมหรือไง"

"ทุกอย่างมีสิทธิ์เกิดเรื่องนอกเหนือความคาดหมายได้ คุณคิดว่าทุกอย่างจะเป็นไปตามเกมของคุณตลอดหรือยังไง"ผมโต้กลับไปอย่างไม่ยอม

"คุณคงอยากบอกผมว่าประสบการณ์ของพวกเรานับสิบ ๆ ปี มันไม่เพียงพอสำหรับคุณสินะ ลมหนาว"พายุมันแค่นยิ้มเยาะออกมา ดวงตาที่ฉายแววกวนประสาทอยู่เวลาโชนแสงขึ้นมา จนผมอดที่จะเม้มปากเข้าหากันอย่างเกร็ง ๆ ไม่ได้ "ความไว้วางใจของพวกคุณคงมีมาตรฐานสูงเสียดฟ้า มันคงเกินกว่าที่พวกคุณจะมอบให้พวกผมสินะ ทั้งที่ผมเคยมอบมันให้กับคุณมาแล้ว"

เคยมอบให้... ผมเบิกตาขึ้นน้อย ๆ แล้วนึกถึงธรรมเนียมของตัวเอง การตัดน้อง เป็นธรรมเนียมปฏิบัติของคณะพวกผม ซึ่งพวกวิศวะไม่เคยทำ แต่เมื่อจับคู่บัดดี้กันแบบนี้ พวกนั้นก็ยอมเดินตามผมดี ๆ

ใช่... พวกวิศวะจะปฏิเสธธรรมเนียมที่มีความเสี่ยงว่าจะเสียน้องไปเลย หรือโดนน้องเกลียดเข้าไส้นี้ก็ได้ แต่พวกมันไม่ และเดินตามผมมาดี ๆ จนจบ

"นี่มันใกล้เวลาเรียนของพวกผมแล้ว ถ้าคุณหมดธุระแล้วก็ไปเถอะ ลมหนาว"เสียงของคู่สนทนาของผมฟังดูเหนื่อยหน่าย หมอนั่นเบือนหน้าหนีไม่สบตาผมเหมือนเคย "ถึงจะเข้าออกเป็นปกติ แต่คุณก็คือพวกเทคนิค ถึงจะเป็นบัดดี้กัน แต่เราก็ยังคงเป็นคู่แข่งกันเหมือนเดิม"

ผมสูดลมหายใจลึก แล้วหันหลังเดินออกจากพื้นที่ของพวกวิศวะไปอย่างเร็วที่สุดเท่าที่ขาผมจะอำนวยให้

พูดคุยไม่สำเร็จ แล้วยังถูกตอกมาจนหน้าชา ผมอับจนคำพูดจริง ๆ

ผมไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันครับว่าผมจะไปห่วงพวกน้องฝั่งวิศวะเพื่ออะไร จะไปเป็นเดือดเป็นร้อนแทนพวกเขาเพื่ออะไรกัน

ระหว่างทางที่เดินออกมา หูเจ้ากรรมที่ฝึกมาให้ได้ยินอะไรได้ชัดกว่าปกติดันได้ยินเสียงถอนหายใจ และเสียงพูดอย่างเคร่งเครียดของพวกปีหนึ่งเข้า ใจความเกี่ยวกับธงที่ยังไม่ได้มานั่นล่ะครับ

มันทำให้ผมเข้าใจตัวเองได้อย่างนึงแล้วล่ะครับ...

พวกเขาอาจจะไม่ใช่น้องของคณะผม แต่ยังไงก็เป็นน้องที่ดูแลกันมาตลอดเดือนที่ผ่าน จะทิ้งให้พวกเขาเคว้งอยู่บนเกาะเพียงลำพังคงจะใช่ที

ผมควรจะกลับไปโต้เถียงกับไอ้ว๊ากงี่เง่านั่นอีกรอบใช่ไหมครับ... คิดแล้วเหนื่อยใจยังไงพิกล

แต่เพื่อน้อง มันก็อาจจะคุ้มค่าที่จะเปลืองน้ำลายล่ะครับ... คราวนี้คงต้องเตรียมบทไปดี ๆ หน่อย ให้มันเถียงผมกลับไม่ได้เลย

เราจะได้เห็นดีกันแน่ ไอ้คุณพายุ!

๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑๑

ไม่พูดอะไรเยอะนะคะ มาต่อช้ามาก 5555 งานที่ทำค้างมาเพิ่งเสร็จเอาพร้อมการสอบ ขอหนีไปพักใจ(ที่เฟลๆนี้)ก่อนนะคะ

ออฟไลน์ meeoldly

  • เป็ดมัธยม
  • *
  • กระทู้: 161
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ ยอดมนุษย์ขนมปัง

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 319
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-1

ออฟไลน์ brookzaa

  • Chill out
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1416
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-6

ออฟไลน์ fahsida

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 362
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-1
ตอกกลับมาเจ็บมากกก เพราะตอกกลับด้วยความจริงล้วนๆ

ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
นึกว่าตาฝาด ลมหนาวมาเยือน...แต่ในชีวิตจริง ลมร้อน 24 ชั่วโมง ถถถถถถถถถถ

ออฟไลน์ Zelsy

  • เพราะ "รัก" คำเดียวเท่านั้น
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1860
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-2
หูยยยยยย
เครียดแทนลมหนาว

ออฟไลน์ Min*Jee

  • เอวรี่ติงจิงกะเบล
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2797
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +89/-5
น่าสงสารจังเลย บางทีเราก็ว่าพายุทิฐิเกินไปนะคะ
ไม่รู้สิ การรับน้องมันเข้มข้นเกินไปรึเปล่านะ
เอาเป็นว่าเป็นกำลังใจให้คนแต่งนะคะ
รอตอนต่อไปเนาะ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ shoi_toei

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4359
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +222/-26

ออฟไลน์ Celestia

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 833
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
สงสารลมหนาวนะ ก็คงจะเหนื่อยกับภาระที่เต็มบ่านั่นแหละ พายุเองก็คงหงุดหงิดพอกันเลยออกมาเป็นอีหรอบนี้
สู้ ๆ นะคะ คนเขียน เป็นกำลังใจให้ค่า

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
พายุอย่ามากดดันลมหนาวให้เยอะไปนะ

สงสารลมหนาว คงเครียดมากมายกับภาระที่แบกรับ

พี่ทิวไม่ยื่นมือเข้ามาช่วยให้มากกว่านี้หน่อยละคะ สงสารลมหนาว

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ปกติไม่ชอบคนเถียงกันนะ
แต่...
ตอนนี้มันมาก บอกเลย 555
เป็นบทพูดที่แซบเว่อร์

ขอบคุณนะคะ รอตอนต่อไปจ้าา  ^^

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
อีก 3 ตอน จบรับน้องนะคะ พรุ่งนี้ถ้าไม่ติดอะไรจะมาต่อตอนต่อไปค่ะ

ออฟไลน์ midnight

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +168/-8
    • Fanpage
วันที่ยี่สิบห้า

(พายุ)

ให้ตายเถอะ ผมต้องมาปวดหัวกับลมหนาวจนได้ ทั้งที่เมินมาหลายเรื่องแล้ว ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าหมอนั่นจะมาสนใจเรื่องนี้ด้วย ทั้งที่ปกติเรื่องของคณะอื่นมันไม่ค่อยจะสนใจด้วย

โดยเฉพาะกับวิศวะอย่างพวกเรา

เรื่องที่มันมาขึ้นเสียงปาว ๆ ใส่หน้าผม ใช่ว่าผมจะไม่กังวล ไม่ใส่ใจสักหน่อย ปวดหัวจะตายห่ากับรุ่นพี่อยู่แล้ว พอได้สิทธิ์ตัดสินไปวางแผนแกล้งกันใหญ่ เวลาก็น้อยลงทุกที อาจารย์ก็ถามทุกวัน

ไม่คิดจะถาม ไม่คิดจะขอคำอธิบาย มาถึงก็แว๊ดใส่หน้าผมอย่างเดียว ให้ตายเถอะ

แต่มันก็เหมือนนาฬิกาบอกเวลาให้ผมต้องลุกขึ้นทำอะไรบางอย่างสักที ก่อนที่จากนาฬิกาจะกลายเป็นระเบิดเวลาแทน มาถึงนี่แล้ว อีกไม่เกินวันหมอนั่นต้องมาคุยกับผมเรื่องนี้อีกแน่

"อาจารย์มีประชุม วันนี้ยกคลาสนะนักศึกษา"ผมเงยหน้าขึ้นมองอาจารย์ประจำภาคตาถลนทันที หมดอารมณ์เหม่อ คือจะยกคลาสก็บอกล่วงหน้าสิโว๊ย ทุกทีเลยจารย์เนี่ย "ไว้เจอกันคราวหน้านะ นักศึกษา"

พูดจบเจ๊แกก็ชิ่งหนีออกนอกห้องไปเลย โว๊ะ นี่กูมาริเรียนเก้อครั้งที่เท่าไหร่แล้ววะเนี่ย เดี๋ยวก็ได้เรียนแบบดริฟอีกแน่ เคยกันไหม? เรียนแบบที่อาจารย์แรปยิ่งกว่าโจอี้ บอยแรปน่ะ

อนาคตรำไรสัส

"งี้วันนี้ก็ว่าใช่ไหมวะ"ไอ้วิศที่นั่งอยู่ข้าง ๆ หันมาถามผม "แบบนี้กูจะได้ไปร่อน โฮกกก วันที่วิศรอคอยมาถึงแล้วครับ ม๊าครับบบบ"

ชูแม่งสองมือเลย เหี้ยนี่ชอบไปนั่งอ่อยสาวตามห้าง ตกดึกอ่อยต่อในผับ แต่ไม่หิ้วใครไปนอนด้วย อ่อยให้คลั่งไปอย่างนั้น โคตรน่าสงสารคนที่ติดกับมันเลย

กูขอให้แม่ง มีผัวไว ๆ สาธุ

ไหน ๆ ก็ว่างละ ผมไปคุยกับพวกพี่ปีแก่ดีกว่า

ผมเดินขึ้นไปชั้นบน ๆ ของตึกคณะ ส่วนใหญ่พวกคนแก่จะมาทำผลงานจบพวกธีซิส (เล่นป๊อกเด้ง) กันข้างบนนี้ล่ะ หาตัวไม่ยากนักหรอก

"ไง ไอ้ยุ ไม่มีเรียนเหรอวะถึงขึ้นมานี่ได้น่ะ"พี่วัฒน์ เฮดว๊ากหลักของปีสี่เอ่ยทักผม พร้อมกับชูกระป๋องเบียร์ขึ้นมา "โดดเรียนไม่ดีนะเว้ย ถึงข้าจะทำบ่อยก็เหอะ"

"เฮีย ผมไม่ใช่เฮียเหอะ จารย์ยกคลาสต่างหาก"ผมแยกเขี้ยวใส่พี่เขา เออ หัวเราะไปเลย วิศวะเราก็งี้แหะ เฮฮา ชิว ๆ "เออ เฮีย ไม่ไรนะ แต่เย็นวันศุกร์นี้ต้องพาน้องไปนอกสถานที่แล้วนะเว้ย"

“เออน่า เดี๋ยวพวกข้าก็จัดการกันเองแหละน่า”เฮียวัฒน์โบกมือปัด ๆ ไม่ใส่ใจอะไร ก่อนจะหรี่ตาลงมองผมอย่างจับผิด “ไมวะมึง ปกติไม่เห็นจะทวงหาไรเลย เป็นห่วงน้องหรือไง”

“เปล่าเฮีย แต่เห็นว่ามันกระชั้นเวลาไปแล้ว เลยมาถามดูเผื่อเฮียลืม”ตอบเลี่ยงไปก่อนวะ แม่ง จะให้บอกได้ไงว่าพวกวินัยมันมาทวง

“แน่ใจเหรอวะ”เฮียแกยกเบียร์ขึ้นซดก่อนยักคิ้วส่งมาให้ข้างนึงอย่างกวน ๆ “ไม่ใช่เอ็งโดนพวกเมดเทคมันจี้มาหรือไงวะ ไอ้ยุ”

“โหยย บ้าดิ พวกเมดเทคมันจะมาสอดอะไรวิศวะเรา แล้วอย่างผมเนี่ยนะ จะยอมฟังพวกมัน”รู้ได้ยังไงวะ เฮียวัฒน์ จิตสัมผัสนี่หว่า

“อย่าคิดว่าข้าไม่รู้นะโว้ย ว่าลมหนาวมาหาเอ็งน่ะ”เหี้ย เฮี้ยนกว่าคุณริวอีกเฮียกู เฮียวัฒน์หัวเราะในลำคอเบา ๆ แล้วหันไปมองเพื่อน ๆ เขา “เลยทำตามที่เขาพูดหรือไง มึงน่ะ”

“ก็เปล่า แค่ตัดรำคาญ”ผมยักไหล่น้อย ๆ แล้วเดินไปทิ้งตัวนั่งลงในวงพี่ ๆ ห่างกันปีเดียว บางทีก็ไม่เรียกพี่เหมือนกันล่ะ ฮ่า ๆ “ผมรู้นิสัยหมอนั่นดี อย่างดีตอนนี้แค่กลับไปตั้งหลัก เดี๋ยวมันก็มาใหม่”

“มึงรู้มะ ถ้าเป็นกูนะ”รอยยิ้มเฮียแม่งโคตรชั่วร้ายเลยว่ะ... เป็นแพทเทิร์นที่ใครแม่งกำหนดกันวะ ว่าก่อนจะพูดเรื่องสำคัญต้องจิบน้ำน่ะ “นอกจากจะตอกหน้ามันกลับแรง ๆ สักสองสามยกแล้ว กูจะไม่ให้ธงน้องด้วย”

“เฮ้ย เฮีย เรื่องน้องกับเรื่องระหว่างคณะมันคนละเรื่องกัน ยังไงน้องมันก็ควรได้แก้ตัวสักหน่อยน่า”ผมเหล่มองพี่ที่กุมอำนาจเหนือผมอย่างหวั่น ๆ ไม่ไรนะ ถ้าพี่แม่งไม่ให้ธง น้องก็หมดโอกาสได้รุ่น พาออกข้างนอกไปเสียเงินฟรี ปีหน้าผมต้องมารับน้องใหม่

ไม่เอานะเว้ย สองเด้ง

“แล้วไงวะ”น้ำเสียงโคตรทองไม่รู้ร้อน ถึงคราวซวยแน่พายุเอ๊ย สัด “อำนาจการตัดสินใจมันอยู่ในมือกู กูจะตัดสินยังไงก็เรื่องของกู จริงปะพวก”

“ช่ายย”

เวรล่ะ พี่คนอื่นก็เล่นไปกับเฮียด้วยเหรอวะเนี่ย ยุ่งแน่งานนี้

น้องกูจะได้เกิดไหมวะเนี่ย

“เฮีย มันจะไม่ทันเอานา... อีกสามสี่วันเองนะเฮีย”ผมแง้ม ๆ กระตุ้นหน่อย ชิงธงมันใช่ว่าจะใช้เวลาชั่วโมงเดียวเสร็จนี่หว่า อย่างน้อยก็ใช้เวลาทั้งวัน... แล้วนี่เป็นวันเรียนด้วย

“เอ็งจะกังวลอะไรนักหนาวะ ข้าบอกว่าเดี๋ยวข้าจัดการเองไง ฟังไม่รู้เรื่อง?”เฮียวัฒน์แกเริ่มมีน้ำโหละ แววความซวยผมนี่ชัดเจนขึ้นหนักกว่าเก่าอีก “อยากให้ข้าไปให้ธงน้องมากงั้นสิ?”

“ก็นะ เฮีย ถ้าอะไร ๆ มันเรียบร้อย ผมก็จะได้จัดการงานที่เหลือสบาย ๆ หน่อย”ผมยิ้งแห้ง ๆ ให้กับพี่ชายที่รักตรงหน้า มันไม่ใช่ข้ออ้างนะ เรื่องจริง... จริง ๆ

“น้องมันยังไม่ดิ้นรนห่าไรเลยสักนิด มึงจะมาดิ้นรนแทนพวกมันทำไมกันวะ”พี่แม็ค ปีสี่เครื่องกล สายเถื่อนสัสถามขึ้น ก่อนซดเบียร์ไปอึกใหญ่ “ปกติไม่เห็นเป็น น้องมันไม่ได้อยากได้ จะมาพยายามยัดเยียดให้พวกกูไปประเคนให้พวกมันทำไมกัน ถ้ามันอยากได้ให้มันหาทางเองดิ”

“โถ่ พี่ นิดนึงน่า น้องมันยังไม่ประสา”ผมชกเบา ๆ ที่ไหล่กว้างของพี่แม็ค “น่าพี่ อย่างน้อยก็เกริ่น ๆ กับน้อง ๆ มันสักนิดก็ยังดีนะพี่”

“เอ็งอยากให้ข้าไปหาน้อง ให้โอกาสพวกมันชิงธงไว ๆ ใช่มะ”เฮียวันวางกระป๋องเบียร์ลง แล้วยื่นหน้ามาหาผมที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม

“ก็นะเฮีย ได้ไว ๆ ก็ดี”ผมพยักหน้ารับ วันนี้เฮียใจดีกว่าปกตินิดหน่อยแหะ... แต่ความรู้สึกเสียวสันหลังวูบนี่มันยังไง ๆ อยู่เหมือนกัน...

“โอเค ข้าจะไป แต่มีข้อแม้อย่างนึง”ข้อแม้... ผมว่ามันต้องไม่ใช่เรื่องดีสำหรับผมแน่ ๆ แน่โคตร ๆ แน่ยิ่งกว่าแช่แป้ง “ถ้าเอ็งโอเค ข้าก็ไป”

“ข้อแม้อะไรเฮีย”ขอถามก่อนดอกนึงละกัน เดี๋ยวรับปากไปแล้วเฮียให้บินไปดาวอังคาร ซวยอีก คนเดินดิน กินข้าวแกงอย่างผมจะไปทำได้ไง

“ไม่ได้ยากอะไรหรอกน่า”เฮดของปีสี่ยักคิ้วข้างนึงให้ แล้วกระตุกยิ้มยั่ว “เอ็งไปวิ่งรอบสนามฟุตบอลจนกว่าข้าจะคุยกับน้องเสร็จ ตกลงไหมล่ะ”

“...”สนามฟุตบอลมันไม่ได้เล็กเลยนะ ให้วิ่งจนกว่าจะพูดเสร็จนี่ผมต้องวิ่งกี่รอบวะ... ปกติห้ารอบผมก็เลิกแล้วด้วย “ผมต้องวิ่งกี่รอบเฮีย”

“เป็นคำถามที่ดี แต่ไม่มีคำตอบ”ไม่มีคำตอบ ให้ตายเหอะ ถ้าเฮียคุยทั้งคืน เท่ากับผมต้องวิ่งทั้งคืนเหมือนกันดิ ว่างั้น “อยู่ที่ตัวน้องของเอ็งนั่นแหละ”

“...”

“เชื่อใจว่าน้องเอ็งจะเอาธงไปได้ไวแค่ไหนกันล่ะ”นั่นสิ... น้องปีหนึ่งมันจะสามารถเอาธงมาจากพี่ปีสี่ได้เมื่อไหร่กันนะ... ถ้าพวกนั้นทำให้พี่เชื่อใจได้ก็คงดี

“คือถ้าพวกปีหนึ่งสามารถเอาธงจากพวกเฮียมาได้ไวแค่ไหน ผมก็หยุดวิ่งได้ไวเท่านั้นใช่ไหม”ผมถามย้ำอีกครั้ง เพื่อความแน่ใจในความคิดประวัติไม่ค่อยจะดีกับการคิดเองเออเองมาเมื่อปีที่แล้ว เลยหนาวสันหลังแม่งทุกที ที่ต้องต่อรองอะไรกับพวกเฮียแก

“ตามนั้น”

“งั้น เดี๋ยวผมไลน์มาบอกอีกทีแล้วกัน เฮีย”

“เออ อย่าช้านักล่ะ เดี๋ยวข้าเปลี่ยนใจไม่รู้ด้วย”เฮียวัฒน์หยิบกระป๋องเบียร์ที่ดูแล้วคงหายเย็นไปเยอะมาเขย่าก่อนจะยกซด “มันอยู่ที่ว่าเอ็งเชื่อใจน้องของเอ็งมากแค่ไหน ไอ้ยุ”

ผมเดินลงจากชั้นสี่มาหลังจากคุยจบ ให้ตาย ทำไมผมต้องมาตัดสินใจอะไรเพื่อพวกปีหนึ่งด้วยวะ น้องเทคก็ไม่ใช่ ไม่ได้สนิทกันอีกต่างหาก

เอาไงดีวะเนี่ย กู แม่ง ถ้าไม่ทำ เฮียแม่งไม่ให้ธงน้องแน่ แต่ถ้าทำตามที่เฮียสั่ง เท่ากับว่าน้องไม่ต้องดิ้นรนอะไร... อมมืออมเท้าให้คนประเคนมาให้อยู่แบบนี้... แล้วเมื่อไหร่จะโต จะขึ้นมาเป็นผู้นำได้

ผมรู้ ว่าถ้าผมเอาเรื่องนี้ไปปรึกษากับพรรคพวก ยังไงพวกนั้นก็คงบอกให้อยู่เฉย ๆ ปล่อยไป พวกเด็กปีหนึ่งจะได้ธงหรือไม่ได้ก็เรื่องของพวกมัน ไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ถ้าเป็นอย่างนั้น ปีนี้เราก็อาจจะไม่มีหลาน... และอีกอย่าง ผมก็ต้องไปโต้เถียงกับคุณวินัยเจ้าระเบียบที่ตรงเป็นเสาตอหม้อไม่ยอมเข้าใจง่าย ๆ นั่นอีก

อะไร ๆ พายุก็มีแต่เสีย กับเสีย ทางไหนก็เสีย ให้ตายเหอะ คิดถูกหรือคิดผิดวะที่รับเป็นประธานวินัยปีนี้ อยู่นิ่ง ๆ หน้าหล่อ ๆ ก็ดีแล้ว ยุเอ๊ย

“พี่พายุ สวัสดีครับ”น้องปีหนึ่งที่ผ่านไปผ่านมายกมือไหว้ผมเป็นแนว นี่ถ้ามีเครื่องบูชามันคงเอามากราบ แล้วขอหวยกันแล้วมั้งเนี่ย

ผมรับไหว้บ้าง ไม่รับบ้าง อยู่ที่จังหวะว่ากำลังคิดอะไรหนัก ๆ อยู่ไหม ซึ่งส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รับไหว้หรอก ใจมันยังคิดถึงคำของเฮียแกอยู่

‘เอ็งเชื่อใจน้องของเอ็งมากแค่ไหน’ นั่นสินะ ผมเชื่อใจพวกเขามากแค่ไหน เชื้อในสิ่งที่ผมพยายามสอนเขา เชื่อในความสามารถของพวกเขาได้แต่ไหน

เด็กปีหนึ่งที่ถูกคณะวิศวกรรมศาสตร์และคณะเทคนิคการแพทย์ที่เป็นคู่อริกันมาช้านานหล่อหลอมขึ้นมาจะสามารถเชื่อได้เท่าไหร่กันนะ...

มันเป็นคำถามที่ผมไม่รู้จะตอบได้ยังไงเหมือนกัน แล้วยังคำที่พี่แม็คพูดอีก... พวกน้อง ๆ ไม่ได้ดิ้นรนที่จะมาขอธงเลยด้วยซ้ำไป...

ผมกวาดตามองไปรอบ ๆ มีน้องปีหนึ่งหลายคนจับกลุ่มคุยกัน ด้วยระยะที่ห่างกันค่อนข้างมากมันทำให้ผมไม่ได้ยินในสิ่งที่พวกเขาพูด แต่ดูจากสีหน้า และใช้สกิลอ่านปากแล้ว...

ก็ไม่พ้นเรื่องธงที่ไม่มีความคืบหน้ากันสักที

พี่แม็ค ใช่ว่าน้องของผมไม่ได้สนใจเรื่องธงสักหน่อย เพียงแต่พวกเขายังไม่มีแผนรับมือที่ดีพอจะไปขอธงจากพวกพี่ต่างหาก

ในเมื่อน้องมันมีความกระตือรือร้นที่จะไขว่คว้า... แล้วพี่ที่ดูแลพวกมันมาตั้งแต่ก้าวแรกที่เข้ามาเป็นคนของวิศวะอย่างผมจะไม่สนับสนุนพวกเขาได้งั้นเหรอ

ผมหยิบมือถือขึ้นมาเปิดโปรแกรมไลน์ และเลื่อนหาชื่อของเฮียวัฒน์... หวังว่าการตัดสินใจของผม มันจะถูกต้องล่ะนะ

Storm EG : เฮีย ผมตกลง

เหนื่อยกาย แต่ถ้าผลที่ออกมานั้นทำให้น้องมีแรงที่จะจับมือกันเดิน มีความสามัคคีกันมากขึ้น ผมคิดว่ามันก็คุ้มค่าที่จะลงแรงครั้งนี้ล่ะวะ

ถือว่าออกกำลังกายไปแล้วกัน พายุ


ช่วงบ่าย ๆ เย็น ๆ ใกล้เวลาน้องเลิก ผมที่ไปเปลี่ยนชุดมาเรียบร้อน เป็นชุดบอลธรรมดานี่แหละ มันจะได้โปร่ง ๆ เย็น ๆ หน่อย ขืนใส่ชุดพละได้ชุ่มเหงื่อตายก่อนส่งน้องถึงฝั่งแน่

“แน่ใจแล้วใช่ไหม ไอ้ยุ”พี่แม็คเป็นคนเดินมาถามผม แน่นอนว่าผมต้องพยักหน้ารับให้พี่แกอยู่แล้ว ระหว่างนี้ก็ยืดตัว วอร์มร่างกายไปด้วย “มึงนี่นะ... เริ่มเปลี่ยนไปแล้วนี่หว่า”

“ผมก็เป็นผมนี่แหละ พี่ ไม่ได้มีอะไรเปลี่ยนสักหน่อย”ผมตอบกลับไปด้วยท่าทีสบาย ๆ แม้ใจจะแอบคิดอยู่ตลอดว่าผมแม่ง ต้องวิ่งกี่รอบกันวะเนี่ย

สนามฟุตบอลไม่ลานเลือดของพวกเมดเทคสักหน่อยที่จะได้เล็ก ๆ วิ่งเป็นสิบรอบเพิ่งจะเหนื่อย ถึงจะเป็นนักกีฬา แต่ใช่ว่าจะวิ่งได้เยอะเกินกว่าคนธรรมดานักหรอก

ช่าง ตัดสินใจไปแล้ว จะมาเปลี่ยนใจอะไร มันไม่ใช่ละ ลูกผู้ชายคำไหนคำนั้น

“เออ หวังว่าไอ้วัฒน์จะให้ธงน้องมันไว ๆ”พี่แม็คยื่นมือมาตบไหล่ผมเบา ๆ อย่างปลอบใจ “ถ้าเหนื่อยก็พอนะมึง ไม่ต้องทำตามที่มันพูดทุกอย่างหรอก แค่มึงตัดสินใจว่าจะวิ่ง มันก็พอสำหรับไอ้วัฒน์แล้ว”

“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ ถ้าไม่ไหวเดี๋ยวพวกไอ้วิศก็มาหามผมไปเองแหละ”ผมพูดติดตลกไปงั้น แต่มันคือความจริง ถ้ามันเห็นผมแย่ เดี๋ยวแม่งก็แห่กันมาหามกลับไปยิ่งกว่าแห่นางแมวขอฝนด้วยซ้ำ

เพื่อนแท้ของผมนี่หว่า

ผมเริ่มออกวิ่งเมื่อพี่แม็คเดินออกไปจากสนาม วิ่งเหยาะ ๆ เหมือนวิ่งมาราธอนนั่นล่ะ เน้นระยะทาง ไม่ได้เน้นเรื่องความเร็ว

ที่เหลือก็คงต้องฝากน้อง ๆ ปีหนึ่งแล้วล่ะนะ... ฝากความหวังครั้งแรกกับเด็กที่เทรนด์มาเองกับมือ... หวังว่าจะรอด


(วัฒน์)

ชีวิตคงเราบางทีก็มีเรื่องน่าตื่นเต้น น่าตกใจมากมาย มีเรื่องให้ประหลาดใจอยู่ทุกวัน วันนี้ก็เหมือนกัน ใครจะไปคิดว่าไอ้ยุที่ปกติแล้วไม่น่าจะยอมลำบากเพื่อคนอื่นที่ไม่ใช่เพื่อน จะยอมรับข้อตกลงของผมเพื่อให้น้องมีสิทธิ์ที่จะได้ชิงธงคณะเร็วขึ้น ทั้งที่ไม่รู้ว่าพวกมันจะทำได้ไหม

ใครจะไปเชื่อกันล่ะ ว่าผมไม่รู้สักหน่อยว่าเหมันต์บุกขึ้นตึกวิศวะเรามาคุยกับพายุด้วยตัวเอง นั่นไม่เท่าไหร่ การที่ไอ้ยุมันยอมลง แล้วขึ้นมาคุยกับผมมันแปลว่าเสียงของประธานวินัยของเมดเทคคนนั้นมันเข้าไปอยู่ในใจของน้องชายคนนี้ของผมได้โดยดุษฎี

สมแล้วที่เป็นเด็กเทรนด์ของตังโอ เหมือนกันจริง ๆ

คำไหนคำนั้นอยู่แล้ว กับคนอย่างวัฒน์ ในเมื่อพายุมันกล้าวิ่ง ผมก็พร้อมที่จะเดินไปคุยกับน้องที่เคยเห็นหน้าอยู่ไม่กี่ครั้งเหมือนกัน

“ปีหนึ่ง นั่งลง”ผมเปิดประตูเข้ามาในห้องเรียนใหญ่ที่ไว้ใช้เรียนรวมอย่างไม่ให้ซุ่มให้เสียง ไม่มีใครรู้นี่ว่าผมกับพรรคพวกจะมา “มีกี่คน”

“ขออนุญาตครับ”น้องให้หัวไม่เกรียน หน้าตาใช้ได้แต่ไม่ถึงขั้นหล่อ ออกจะร้าย ๆ ด้วยซ้ำ ยกมือขึ้น ผมพยักหน้าให้น้อย ๆ “มี 1543 คนครับ”

“ครบสินะ...”ผมทิ้งหางเสียงไว้ครู่หนึ่ง แล้วเดินกอดอกไปอยู่ตรงกลางระหว่างทางเดินขึ้นไปที่นั่ง เพื่อนคนอื่นทั้งที่เป็นว๊าก และก็ไม่ใช่กระจายตัวรอบ ๆ ตีหน้าขรึมกันหมด “พวกคุณรู้ไหมว่าผมมาทำอะไรที่นี่”

“ไม่ทราบครับ / ค่ะ”

“แล้วรู้ไหมว่าผมเป็นใคร”คำถามที่ไร้คำตอบหรือยังไงวะ เด็กพวกนี้เงียบ ไม่มีใครตอบคำถามของผมสักคนนี่คืออะไร “ผมถาม คุณก็ตอบมา”

“ขออนุญาตค่ะ”เด็กผู้หญิงคนนึงที่ผมเพิ่งยากเลยติ่งหูมาหน่อย รวมรวบความกล้ายกมือขึ้น ผมหันไปมองเธอพร้อมกับเลิกคิ้วถาม “พี่คือพี่วัฒน์ อดีตประธานว๊ากของคณะวิศวกรรมศาสตร์ค่ะ”

“ก็รู้นิ... แล้วรู้หรือยังว่าวันนี้ผมมาทำอะไร”เสียงผมยังดังไม่ตก เยี่ยมชะมัด แต่ไอ้หน้าหมางงของพวกปีหนึ่งนี่ โคตรแย่ “ถ้าไม่รู้ ก็ไม่ต้องเอากันแล้วมัน สิ่งนี้น่ะ”

แม็คถือธงเข้ามาในห้อง สีหน้าของพวกปีหนึ่งเปลี่ยนไปทันที ดูตกใจ ตื่นเต้น ที่สำคัญคือกลัว หึ จะกลัวอะไรกันนักกันหนา พวกกูก็คนเหมือนกัน

“อยากได้ไหมล่ะ ของสิ่งนี้น่ะ”ผมถามเสียงเย็น เรียกความสนใจของน้องให้กลับมาที่ผม ไม่ต้องไปสนใจไอ้สิ่งของตรงหน้าให้มากนักหรอกน่า

ใครสั่งใครสอนให้ยึดติดกับสิ่งของวะ เป็นวิศวะ มันเป็นกันที่จิตวิญญาณเหอะ

“อยากได้ค่ะ / ครับ”

“แล้วมีอะไรมาแลกกับธงผืนนี้ไหมล่ะ”ผมตวัดเสียงใส่ การเป็นว๊าก ต้องไม่แตะตัวน้อง ใช้ได้แค่เสียง สีหน้า ความกดดัน เป็นหลักพื้นฐาน

“ไม่มีครับ / ค่ะ”เหมือนกันทุกรุ่น ซื่อบื้อพอกันนั่นแหละปี 1 พวกซิ่วไม่มีหรือไงกันวะ

“แล้วพวกคุณคิดจะมาเอาธงคณะของผมไปฟรี ๆ ว่างั้น?”ผมถามกลับไปทันทีด้วยเสียงที่ดังกว่าเดิมจนสาวน้อยหลายคนสะดุ้งเฮือก

“เปล่าครับ / ค่ะ”

“แล้วพวกคุณจะเอาอะไรมาแลก”ถามครั้งที่สอง ดูสิจะมีคำตอบดี ๆ มาให้ผมสักนิดไหม

น้องยังคงเงียบ ความเงียบเป็นคำตอบที่ผมเกลียด สายตาผมเหลือบไปเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่บนผนังหลังห้อง รวม ๆ เวลาที่แม็คมันโทรมาบอกว่ายุเริ่มวิ่งจนถึงตอนนี้ก็ชั่วโมงแล้ว

หวังว่ามันจะพอได้แล้ว ถ้ามันเถลตรงเป็นไม้บรรทัด มันได้วิ่งไปอีกนานแน่

ผมเงียบ น้องเงียบ ความกดดันที่ก่อตัวขึ้นยิ่งแผ่กว้าง เพื่อนปีสี่ทุกคนจ้องเขม็งไปที่เด็กปีหนึ่ง ผมรู้ว่ายังไงพวกเด็กน้อยมันต้องเกร็ง เกร็งยิ่งกว่าตอนที่พวกว๊ากปีสอง ปีสามมาล้อมซะอีก

แน่ดิ ก็พวกผมมันแทบไม่เคยจะเห็นหน้ากันกับพวกนี้ เจอคนที่ไม่คุ้นเคยมากดดัน ยิ่งเครียดเป็นธรรมดา

“พวกคุณคิดว่าความเงียบมันจะช่วยอะไรได้”ผมหันหลังให้พวกเด็ก ๆ ถอนหายใจสักทีก่อนจะหันมาเดินเข้าไปให้ใกล้น้องมากขึ้น “ดีแต่หนีปัญหาหรือยังไง กับเรื่องแค่นี้ก็ยังคิดเองไม่ได้ จะรอให้พี่ของพวกคุณวิ่งโร่ ขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยไปตลอด ไม่คิดจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเองหรือยังไง”

ถึงตอนนี้พี่ที่พวกมันคงจะไม่ชอบหน้า กำลังช่วยพวกมันโดยที่ไม่รู้ตัวอยู่ก็ตามที...

น้องหลายคนมองหน้ากันเลิกลั่ก ๆ เอ้า คิดเข้าสิ คิด จะทำยังไง มองหน้ากันแล้วจะทำอะไร

“คงไม่อยากได้กันจริง ๆ สินะ ธงเนี่ย”แม็คมันพูดขึ้นบ้าง ธงที่มันกางออกมา มันก็ทำเป็นม้วนเก็บไป “งั้นก็ไม่ต้องเอา จะได้ไม่ต้องแบกรับความเป็นวิศวกรรมไว้บนสองบ่า สบายจะตาย”

“นั่นสินะ จะได้ไม่ต้องมาทนแรงกดดัน ไม่ต้องฟังพี่พูด ทำอะไรก็อิสระ ไม่มีใครให้เกรงใจ”ปั๊ป ไอ้เจ้าชายเย็นชามันเริ่มเปิดปากพูดบ้าง จากที่ปกติไม่เคยมีปากเสียงอะไร มันคงเริ่มหงุดหงิดแล้ว

ก็แน่ล่ะ น้องเทคมันอุตส่าห์ก้าวมาขอโอกาสให้น้องพวกนี้ แต่น้องมันแม่ง ไม่คิดจะคว้าโอกาสเอาไว้ มันน่าโมโหจริง ๆ นั้นแหละ

“ขออนุญาตครับ”ได้ฮีโร่ของั้นปีมาแล้วสิ คนเดิม คนเดียวกับที่บอกจำนวนคนที่อยู่ให้กับผมตอนแรก คนนี้ล่ะมั้ง ประธานชั้นปี

“เชิญ”

“ในตอนนี้ผมและเพื่อน ๆ ยังไม่มีอะไรที่จะมาแลกเอาธงของคณะมา สิ่งที่พวกผมมีตอนนี้ มีเพียงหัวใจ หัวใจที่จะมอบให้กับคณะวิศวกรรมศาสตร์ มีจิตวิญญาณที่ผูกพันกับเพื่อนพ้อง กับพี่ที่อยดูแล คอยเอาใจใส่พวกเรา มีร่างกายที่พร้อมจะถูกหล่อหลอมให้เป็นฟันเฟืองขับเคลื่อนความหวังของทุกคนที่ฝากไว้กับพวกเราครับ”น้องมันตอบผมมาด้วยเสียงที่มั่นคง ดวงตาที่วาวแสงโชนกล้า

คำตอบที่ฟังดูดีชะมัด

“แล้วจะมีอะไรมารับประกัน ว่าพวกคุณจะสามารถแบกรับความหวังของชาววิศวะเอาไว้ได้”ผมโต้กลับไปอีกครั้ง ขอฟังเหตุผลต่ออีกสักหน่อยเหอะ

“พวกเราขอใช้ทุกอย่างที่เรามี ทั้งจิตวิญญาณและหัวใจเป็นเดินพันค่ะ”น้องผู้หญงคนนึงตอบมาจากทางด้านบนสุดของที่นั่ง เสียงดังใช้ได้เลย

“แค่คุณสองคน หรือพวกคุณ ‘ทุกคน’ กันล่ะ”

“พวกเราทุกคนครับ / ค่ะ”น้องตอบกลับกันมาเป็นเสียงเดียว โอเค มันก็ฟังดูหน้าพอใจอยู่ล่ะนะ

ผมหันไปมองเพื่อน ๆ ที่ยืนกันอยู่รอบ ๆ หลายคนพยักหน้าให้ผม บางคนก็ให้คำตอบด้วยรอยยิ้ม ซึ่งมติคงเป็นเอกฉันทน์พอสำหรับครั้งนี้แล้ว

“ผมจะถือว่านั้นคือคำสัญญาที่พวกคุณทุกคนได้ให้สัญญาเอาไว้ เกิดเป็นคน เป็นมนุษย์ ให้สัญญาอะไรกับใครเอาไว้ต้องรักษามันให้ได้ เพื่อรักษาเกียรติและศักดิ์ศรีของความเป็นคนของตนเอาไว้”ผมเหยียดยิ้มเยาะ คิดเอาเองแล้วกันว่าถ้ารักษาสัญญาไว้ไม่ได้พวกมึงจะกลายเป็นตัวอะไร “ธงผืนนี้ ผมจะขอฝากพวกคุณเอาไว้ก่อน ให้มันเป็นสิ่งเตือนใจพวกคุณให้รักษาสัญญาที่ได้ลั่นวาจาเอาไว้ และทำตัวให้คู่ควรกับมัน”

น้องฮีโร่ซึ่งจนตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้ว่าชื่ออะไรวิ่งเข้ามารับธงไปจากแม็คด้วยรอยยิ้ม มันไหว้แม็ค แล้วหันมาไหว้ขอบคุณผม ก่อนจะวิ่งถือธงกลับเข้าไปที่นั่งของตน

“วันนี้ ผมถือว่าผมได้มอบธงแห่งคณะวิศวกรรมศาสตร์ไว้ให้พวกคุณดูแล ธงผืนนี้เต็มเปี่ยมไปด้วยความเสียสละ ความรัก ความสามัคคี ความเป็นหนึ่งเดียว และความจริงใจ ผมหวังว่าพวกคุณจะรักษามันเอาไว้ รักษาซึ่งปนิธานของชาววิศวกรรมศาสตร์ที่สืบทอดต่อกันมาจากรุ่นสู่รุ่นเอาไว้... ขอให้โชคดี”

พูดจบพวกเราทุกคนก็ทยอยออกจากห้องไป ไอ้ปั๊ป ไอ้แม็ค และผม มองหน้ากัน ก่อนจะติดสปรีทเกียร์ม้าวิ่งไปที่สนามฟุตบอลกันทันที

ท้องฟ้ามืดแล้ว ฝนก็มีตกปรอย ๆ หวังว่าพายุมันคงจะยังไม่วิ่งอยู่นะ...

แต่เหมือนว่าเสียงภาวนาของผมมันจะส่งไปไม่ถึงฟ้า เมื่อมาถึงสนามยังเห็นร่างสูงโปร่งของเดือนปีสามยังคงวิ่งอยู่ไม่หยุด สีหน้ามันบ่งบอกถึงความเหนื่อยล้า ขาที่ก้าวออกไปดูอ่อนแรงลงทุกที

“ไอ้ยุ พอแล้วมึง พอแล้ว”ผมตะโกนลั่น ไอ้ปั๊ปมันรีบวิ่งพรุ่งเข้าไปหาน้องของมันอย่างไม่สนใจใครทั้งนั้น “ไอ้วิศ ไอ้ปั้ม ไอ้พิช ทำไมมึงไม่ห้ามเพื่อนมึง”

“เฮีย ไม่ใช่หนูไม่ห้ามมัน แต่มันไม่ยอม มันบอกว่ามันจะรักษาคำพูดที่ให้ไว้กับเฮีย”พิชมันพูดตอบกลับมาน้ำตาคลอ “เฮีย เฮียรู้ไหม ไอ้ยุมันหกล้มไปกี่รอบ มันก็ยังวิ่ง มันบ้าไปแล้วเฮีย มันบ้าชัด ๆ เลย”

ปั๊ปมันพยุงน้องเทคของมันมานั่งที่ข้างสนาม หยิบเอาผ้ามาชุบน้ำเช็ดหน้าเช็ดตาให้พายุมันอย่างเป็นห่วง

“วิศ ไปเอารถออกมา พี่จะพายุไปโรงบาล”ปั๊ปส่งกุญแจรถตัวเองให้กับวิศ ซึ่งน้องมันก็รับไปโดยดี พร้อมกับวิ่งไปขับเอารถออกมา “เหนื่อยแล้วทำไมไม่รู้จักพอ จะฝืนตัวเองไปทำไม พายุ”

“พี่ปั๊ป... ผมไม่เป็นไรหรอกน่า”เสียงที่ตอบมาโคตรแผ่วเบา รอยยิ้มบาง ๆ ฉาบทับบนใบหน้าที่แม้จะเต็มไปด้วยหยาดน้ำแต่ก็ยังคงหล่อสมศักดิ์ศรีความเป็นเดือน “เฮีย... น้องได้ธงไปไหม”

“เออ เอ็งไม่ต้องห่วงไปนักหรอก น้องมันได้ไปแล้ว สมใจเอ็งแล้วไง”ผมตบบ่ามันเบา ๆ แล้วถอนหายใจ “วิ่งแค่รอบเดียวก็พอแล้ว จะมาสปิริทสูงอะไรวิ่งตั้งแต่ต้นจนจบอย่างนี้วะ”

“ผมสัญญาแล้ว ผมต้องทำให้ได้ไงเฮีย... เหมือนที่เคยบอกไว้”

ใช่... วิศวะเรารักษาสัญญาของกันและกันเสมอ

ครืด

ใครมันส่งอะไรมาตอนนี้กันวะ ไม่รู้เวล่ำเวลาซะเลย

T.O Kung : ไอ้วัฒน์ มึงให้น้องวิ่งรอบสนามจนเดี้ยงคืออะไรวะ

T.O Kung : ออกมาเคลียร์ที่หอเดี๋ยวนี้เลย!

เวรกรรมของกูแล้วไง รู้ได้ยังไงกันวะเนี่ย

เหี้ยยยยยย

@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@2

จะจบรับน้องแล้วค้าา เย้ ๆ // วิ่งไปทำธุระต่อ อ่านให้สนุกนะคะ

ออฟไลน์ kawisara

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-7
อ๊าว.....

แบบนี้ใครจะมีงานเข้าหรือเปล่า

รับน้องจริงจัง จนพี่ก็เครียดน้องก็เครียด

ใหนบอกว่ารับน้องเพื่อสามัคคี

นี่มันทรมาณกันชัดๆ คิดถึงพี่ทิวน้องข้าว จังเบย

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19

ออฟไลน์ yymomo

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 921
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +36/-3
 :hao3:  ว๊ายๆๆๆ ตายแล้วๆๆ เฮียวัฒกับพี่ตังโอ  :z1: 

ออฟไลน์ fahhee_zeze

  • Love you...YAOI~
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 297
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +12/-1
:hao3:  ว๊ายๆๆๆ ตายแล้วๆๆ เฮียวัฒกับพี่ตังโอ  :z1:


จิ้นคู่นี้เหมือนกันสินะ ถถถถถ  :hao7:

รอหนาวกับยุป๊ะกันอีกรอบ

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด