จะจบแหล่วววววว ซัดวันนี้ทีเดียวให้จบไปเลยดีมั๊ยน๊า
**************************************************************
เสียงตึงตังที่วิ่งลงมาจากบนบ้านของต่อ ทำให้แม่กับเตยถึงกับตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น
“วิ่งทำไมต่อแล้วนั่นจะไปไหน”
แม่ถามเมื่อเห็นต่อวิ่งจะออกจากบ้าน
“หาไอ้เอ็มครับ”
ต่อหันมาตอบเตยมองหน้าแม่ที่เหมือนจะโกรธขึ้นมา
“มืดแล้วไม่ต้องไปอยู่ทานข้าวกับแม่นี่แหละ”
“ไม่ได้หรอกครับเอ็ม มันโดนรถชนตอนนี้อยู่โรงพยาบาล”
แม่รู้สึกใจเสียอยู่เหมือนกันที่ได้ยิน มองดูแววตาลูกชายที่ร้อนรนอย่างเห็นได้ชัด
“ให้ต่อไปเถอะแม่”
เตยบอกแม่ที่ยืนนิ่งไม่พูดอะไรเตยจึงหันไปบอกต่อ
“เอารถพี่ไปก็ได้ต่อ ฝากเยี่ยมเอ็มด้วยละกันพี่จะอยู่เป็นเพื่อนแม่เอง”
ต่อหันไปมองแม่ที่ไม่ยอมสบตาเขา เอาแต่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาเมื่อเตยเดินไปหยิบกุญแจรถมาให้
“ขอบคุณครับพี่เตยมีอะไรเดี๋ยวผมโทรมาบอกนะครับ”
ต่อรีบเดินไปที่รถเตยมองตามพลางถอนหายใจเห็นใจทั้งน้องชายและแม่ตัวเอง
.
.
“หมอเอ็งอย่าให้ลูกข้าเป็นไรไปนะ”
พ่อเอ็มบอกกับเพื่อนอย่างร้อนรน เมื่อเพื่อนต้องกลายเป็นเจ้าของไข้ของเอ็มเป็นกรณีพิเศษหลังจากที่ออกเวรแล้ว
“ทำไมโลกมันกลมอย่างนี้วะเอ็ง ใจเย็นๆเดี๋ยวข้าจะดูให้”
หมอรับปากก่อนจะรีบตามเข้าไปดูเอ็มที่ยังหมดสติและถูกเข็นเข้าไปในห้องไอซียู
“เรื่องมันเป็นไงเหรอหนู เล่าให้อาฟังได้มั๊ย ทำไมเอ็มมันถึงเป็นแบบนี้”
พ่อเอ็มหันมาถามแก้วที่ยืนหน้าซีดตัวสั่น เมื่อเพิ่งจะได้ยินหมอบอกกับพ่อของเอ็มว่าอาจจะต้องตรวจเช็คสมองเอ็ม เนื่องจากได้รับการกระแทกอย่างหนักจากริมฟุตบาธ
“แก้วก็ไม่รู้หรอกค่ะทั้งๆที่ตอนเอ็มกำลังจะข้ามถนนรถมันก็โล่งแล้ว แต่คันที่วิ่งชนเหมือนจะจงใจน่ะค่ะ”
“หนูจำทะเบียนได้มั๊ย”
“ไม่ได้ค่ะ แต่พอที่จะบอกลักษณะได้”
พ่อเอ็มทรุดนั่งอย่างเศร้าใจว่าทำไมต้องมาเจอลูกชายในสภาพร่างกายแน่นิ่งเปรอะไปด้วยเลือดแบบนี้
“แก้วเอ็มเป็นไงบ้าง”
ต่อวิ่งเข้ามาหาแก้วทันทีที่เห็นแก้วโดยไม่ทันได้สังเกตคนข้างๆ
“ยังอยู่ในห้องอยู่เลยค่ะพี่ต่อ”
แก้วบอกพลางหันไปมองพ่อเอ็มเป็นเชิงบอกต่อโดยไม่ใช้คำพูด ต่อหันมองตามชงักไปนึกแปลกใจที่เห็นพ่อของเอ็มแต่ก็มีสติพอที่จะยกมือไหว้ พ่อเอ็มรับไหว้อย่างแข็งๆ แก้วรับรู้ถึงบรรยากาศที่ไม่ค่อยดีเมื่อเห็นต่อหน้าซีดขึ้นมา
“คุณอามาตั้งแต่เมื่อไหร่ครับ”
ต่อกลั้นใจถาม
“อย่าเพิ่งชวนอาคุยตอนนี้ รอดูอาการเอ็มก่อนดีกว่า”
พ่อเอ็มลุกเดินไปหน้าประตูห้องพลางเดินวนเวียนอยู่อย่างนั้นหลายรอบ ไม่ต่างจากต่อที่นั่งซบหน้าไว้กับมือตัวเองนึกสงสารที่เอ็มต้องมาเจอแต่เหตุการณ์ร้ายๆไม่รู้จักสิ้นสุด
“ใครชนรู้มั๊ยแก้วจับได้มั๊ย”
ต่อถามแก้วส่ายหัวจนต่อเผลอขึ้นเสียงด้วยอารมณ์ที่คุมไม่อยู่
“อย่างงี้เกิดไอ้เอ็มเป็นอะไรขึ้นมาใครจะรับผิดชอบ ทำไมล่ะแก้วไอ้เอ็มมันผิดตรงไหน ทำไมเรื่องร้ายๆต้องเกิดขึ้นกับมันบ่อยๆด้วย”
แก้วนึกเห็นใจเมื่อเห็นต่อพยายามสะกดกลั้นอารมณ์โดยที่ไม่รู้ว่ามีสายตาของพ่อเอ็มกำลังมองอยู่
“ใจเย็นๆนะพี่ต่อแก้วพอจะจำสีและก็ลักษณะของรถได้”
ต่อหันไปมองแก้วอย่างสนใจก่อนจะตั้งใจฟังที่แก้วบรรยายลักษณะ เด็กหนุ่มกำกำปั้นแน่นกัดฟันตัวเองข่มใจจนเป็นสันนูนขึ้นมาที่ขมับเมื่อสิ่งที่แก้วบอกมันเข้าเค้าที่เขาคาดเอาไว้
“สงสัยกูต้องทำให้มึงสำนึกซะบ้างแล้วไอ้ตั้ม”
ทั้งพ่อเอ็มและแก้วต่างไม่เข้าใจคำพูดของต่อ แต่ที่เห็นตอนนี้ก็คือสายตาแข็งกร้าวของต่อก่อนที่เด็กหนุ่มผลุนผลันลุกขึ้นรีบเดินออกจากที่นั่ง
“พี่ต่อจะไปไหน”
แก้วร้องตามแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาเธอจึงหันไปมองพ่อเอ็มที่ยืนมองตามร่างต่อเหมือนคิดอะไรในใจ
.
.
“เฮ้ยอะไรกันน่ะต่อ”
ตั้มตกใจหน้าซีดเมื่อต่อบุกไปกระชากคอเสื้อเขากลางโต๊ะทานข้าวที่อยู่กันพร้อมครอบครัว ทุกคนตกใจทำอะไรไม่ถูกเมื่อต่อออกแรงกระชากลากตั้มออกมาสนามหน้าบ้านก่อนจะออกแรงเหวี่ยงจนตั้มล้มคลุกลงบนพื้น
“มึงใช่มั๊ยที่ขับรถชนเอ็มมึงใช่มั๊ยไอ้ตั้ม”
ต่อยืนชี้หน้าอย่างเอาเรื่อง ตั้มตกใจจนหน้าซีดกระอึกกระอักที่จะตอบ ต่อเลยก้มลงไปกระชากคอเสื้อขึ้นมาอีกรอบ
“มึงไม่ตอบแสดงว่ามึงทำใช่มั๊ยไอ้สัตว์”
ต่อตวาดสุดเสียงและไม่ปล่อยให้ตั้มได้พูด เขาออกแรงกระแทกหมัดเข้าที่ใบหน้าตั้มเต็มๆจนตั้มเซล้มลงไปกองกับพื้น
เสียงกรี๊ดดังลั่นเมื่อแม่ตั้มและคนในครอบครัวตามออกมาเห็นสภาพตั้มนอนฟุบเลือดไหลกลบปากหน้าตาเริ่มช้ำบวม แต่ต่อก็ยังไม่หยุดลงมือต่อยซ้ำจากหมัดแรกโดยไม่ปล่อยโอกาสให้ตั้มได้พูดอะไรแม้แต่คำเดียว หมัดต่อหมัดที่ต่อชกไปตามแรงแค้นและกดดันที่ครั้งหนึ่งเขาเคยทำให้เอ็มเกือบโดนรุมซ้อมจากฝีมือของตั้มและครั้งนี้ที่เขาทนต่อไปไม่ได้
“หยุดนะต่อ นี่แกทำอะไรลูกน้า”
แม่ตั้มวิ่งเข้าไปลากตัวต่อที่นั่งคร่อมชกตั้มอย่างโกรธแค้นออกไปแล้ว แล้วเข้าไปกอดร่างที่สะบักสะบอมของตั้มที่ไม่มีแรงพอที่จะลุกขึ้นได้ ต่อมองภาพนั้นอย่างไม่สะเทือนใจเลยซักนิดมันเทียบไม่ได้ด้วยซ้ำถ้าห่างว่าเอ็มจะเป็นอะไรขึ้นมาจากฝีมือตั้มครั้งนี้
“นี่มันเรื่องของผมกับไอ้นี่ใครไม่เกี่ยวอย่ายุ่ง”
ต่อตะคอกผู้ชายสองสามคนที่เป็นญาติตั้มรวมทั้งพ่อตั้มด้วยที่กำลังจะกรูมาจับตัวเขา
“แล้วนี่มันหมายความว่าไงบุกทำร้ายร่างกายจนลูกชายน้าสลบคาหมัด แบบนี้น้าเอาเรื่องแน่”
พ่อตั้มตวาดกลับแต่ต่อกลับไม่รู้สึกกลัวเลยสักนิดเขาเองกลับท้าขึ้นมา
“ก็เอาสิครับถ้าคิดว่ามันคุ้มกับที่ลูกเลวๆของน้าคนนี้ได้ทำไว้กับเพื่อนผม แค่นี้มันยังน้อยไปกับสิ่งที่มันคิดจะฆ่าเพื่อนผม ถ้าเพื่อนผมเป็นไรขึ้นมาผมก็จะเอาเรื่องมันให้ถึงที่สุดเหมือนกัน”
“แกหมายความว่าไง”
แม่ตั้มร้องถามทั้งๆที่ยังกอดตั้มร้องไห้อยู่
“แล้วน้าเลี้ยงลูกยังไงล่ะครับ ถึงจิตใจชั่วช้าได้ขนาดนี้ ถ้ามันฟื้นขึ้นมาก็ลองถามมันเองสิครับแล้วก็บอกมันด้วยอย่าคิดที่จะตอแยผมอีก คราวนี้มันไม่ได้แค่สลบแน่และก็จำเอาไว้ด้วยนะครับว่าถ้าเพื่อนผมเป็นอะไรผมไม่ปล่อยมันไว้แน่”
ต่อหันไปมองตั้มอย่างแค้นใจแม้สภาพตั้มตอนนี้จะเละไปเพราะฝีมือเขา แต่ความโกรธในใจยังไม่ได้ลดลงเลย เขาเดินออกจากบ้านตั้มอย่างไม่สะท้านใจรีบขับรถกลับไปหาเอ็มที่โรงพยาบาล
“แม่..พี่เตย”
ต่อหยุดชงักเมื่อเห็นแม่กับพี่สาวนั่งรวมอยู่กับแก้วและพ่อของเอ็มหลังจากที่เขาได้กลับเข้าไป
“เพี๊ยะ!!!”
ทุกคนนิ่งอึ้งโดยเฉพาะเตยที่ตกใจเมื่ออยู่ๆแม่ตัวเองได้ลุกขึ้นเดินไปฟาดฝ่ามือลงบนหน้าต่อสุดแรง ก่อนจะเค้นคำพูดออกมาทั้งน้ำตา
“ไอ้ลูกเลวแกไปทำอะไรไว้ที่บ้านโน่นตั้มถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล”
“ใครโทรมาฟ้องแม่เหรอครับ”
ต่อถามนัยส์ตาเริ่มแดงไม่ใช่เพราะเจ็บแต่น้อยใจที่แม่ไม่ถามอะไรแล้วตัดสินเขาแบบนี้
“พ่อตั้มโทรมาบอกเขาจะเอาเรื่องนายด้วย พี่กับแม่เลยต้องรีบตามมาหานายที่นี่”
เตยเป็นคนตอบต่อส่ายหัวผละออกจากแม่ช้าๆพลางถาม
“มันสมควรแล้วนี่ครับที่ต้องโดนแบบนั้น”
“สมควรยังไง ฉันไม่ได้เลี้ยงให้แกเป็นอันธพาลนะไอ้ต่อ”
แม่ขึ้นเสียงเตยรีบเข้ามาปรามในขณะที่แก้วถอยไปชิดพ่อของเอ็มที่มองเหตุการณ์อยู่เงียบๆ
“ทำไมล่ะครับ ทำไมแม่ไม่สนใจที่จะถามเรื่องราวอะไรจากผมบ้าง ไอ้เอ็มมันนอนอยู่ห้องไอซียู แม่เคยสนใจบ้างมั๊ย หรือเพราะมันไม่ได้เป็นลูกเพื่อนแม่แม่ถึงไม่ใส่ใจ มันเจอเรื่องหนักๆมาเยอะทั้งๆที่เป็นเพราะผมคนเดียวที่เป็นต้นเหตุ มันยอมให้พี่เตยด่าอย่างเสียๆหายๆ เพื่อผมมันยอมอดหลับอดนอนเพื่อฟังผมระบายในสิ่งที่ผมอัดอั้นมันปลอบใจผมในยามที่ผมคิดถึงพ่อ มันให้กำลังใจผมในยามที่ผมท้อ มันเลือกที่จะเจ็บปวดเพื่อให้หลายคนสบายใจ มันไม่เคยร้ายกับใคร มันยุติธรรมแล้วเหรอครับที่คนอย่างมันต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ ทั้งๆที่มันทำเพื่อผม ผมที่เป็นลูกแม่ที่แม่บอกว่ารัก แต่ทำไมล่ะครับคนดีๆหนึ่งคนที่เข้ามาในชีวิตผม แม่กลับที่จะผลักไส แม่รักผมแบบไหนเหรอครับแบบที่จะให้คนที่วันๆไม่ทำอะไรหาแต่เรื่องปวดหัวมาให้ผมงั้นเหรอครับ รู้ไว้ด้วยนะครับที่เอ็มมันเป็นแบบนี้ก็เพราะไอ้ตั้มคนเดียว ที่ผมตามไปเล่นงานมันแค่นั้นมันยังน้อยไปด้วยครับในเมื่อคิดที่จะเอาเรื่องผม ผมก็พร้อมที่จะเรียกร้องความถูกต้องมาชดเชยให้เพื่อนผมเหมือนกัน”
ต่อระบายออกมาอย่างเหลืออดเมื่อสถาณการณ์บีบบังคับให้เขาต้องพูดบ้าง แม่ได้แต่ยืนค้างนึกเสียใจในสิ่งที่ทำโดยไม่คิดถึงความรู้สึกของลูกชายเลย ต่อมองไปที่พี่สาวที่ยืนร้องไห้เมื่อน้องชายได้ระบายสิ่งที่มันบีบคั้นในใจออกมาภาพที่เธอเคยต่อว่าเอ็ม ย้อนกลับมาภาพที่เอ็มหลบและเลี่ยงตัวไปเงียบๆทุกครั้งที่เห็นต่อเริ่มไม่สบายใจกับการที่ต้องยืนอยู่ในกลุ่มญาติของต่อ มันทำให้เธอสะเทือนใจขึ้นมาและนึกห่วงเอ็มอยากให้เอ็มตื่นขึ้นมารับรู้ว่าต่อได้ต่อสู้และทำเพื่อเขา เพื่อนที่ดีคนหนึ่งคนที่ทำเพื่อต่อเสมอมาแม้ตัวเองจะเจ็บปวดขนาดไหนก็ตาม
“ต่อพี่ขอโทษพี่ขอโทษ”
เตยโผลเข้ากอดน้องชายพลางร้องไห้อย่างไม่อายใคร แก้วถึงกับน้ำตาซึมกับภาพที่เห็นในขณะที่พ่อของเอ็มมองต่อนึกชื่นชมในความกล้าที่จะพูดอะไรๆให้มันชัดเจนขึ้นมา
“ต่อแม่ขอโทษ”
ในที่สุดคำขอโทษก็หลุดออกจากปากแม่ ต่อถึงกับน้ำตาร่วงเมื่อแม่โผลเข้ากอดอีกคนพ่อเอ็มเอื้อมมือไปตบหัวแก้วเบาๆเป็นเชิงปลอบเมื่อเห็นแก้วกลั้นน้ำตากับภาพที่เห็นเอาไว้ไม่อยู่ก่อนจะผละไปหาเพื่อนหมอที่เปิดประตูห้องออกมา
“ลูกข้าเป็นไงบ้างไอ้หมอ”
แม่ ต่อ และเตยผละออกจากกันรอฟังคำตอบจากปากหมอที่มองสบตากับทุกคนแล้วไปหยุดอยู่ที่ต่อพักหนึ่งทำให้ต่อถึงกับใจเสียก่อนที่หมอจะหันไปตบไหล่พ่อเอ็ม
“ลูกเอ็งนี่มันหัวแข็งเหมือนเอ็งเลยว่ะ สบายใจได้พ้นขีดอันตรายแล้วตอนนี้ฟื้นแล้วเดี๋ยวจะพาไปห้องพักฟื้น”
น้ำตาต่อไหลออกมาด้วยความดีใจอยากที่จะเจอหน้าเอ็มเร็วๆ เหมือนฟ้าจะเริ่มสดใสเมื่อแม่กับพี่เตยพลอยยิ้มยินดีไปกับเขาด้วย