ตอนที่ 23
เสียงล้งเล้ง โหวกเหวกโวยวายจากข้างนอก รบกวนเวลานอนที่เพิ่งได้สัมผัสกับมันเมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา
จนต้องซุกหน้าลงใต้หมอน หวังให้มันเป็นด่านปราการที่สำคัญ ที่ช่วยทำให้เสียงที่เล็ดลอดมานั้นเบาบางลง
แต่ไม่ใช่เลย
เสียงดังรบกวนโสตประสาทนั้น ยังดังกึกก้องเหมือนมันมาจ่อที่รูหูนี่เอง
โว้ยยยยยย!!! แบบนี้ก็ไม่ไหวนะโว้ย
ผมสะบัดตัวลุกขึ้น แหวกตัวออกไปที่ระเบียง หวังจะตะโกนด่าให้ไอ้ต้นเสียงที่โวยวายอยู่นั่นเงียบไป
ที่ไหนได้
แค่พี่เมฆกวาดสายตามองหา ก็ต้องเจอสายตาที่สบมองจ้อง
อ่อย!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
ตามองตา
สายตาเมื่อจ้องมองกัน
รู้สึกเสียวซ่านทรวงใน
นิ้วชี้ดัชนีพิฆาต ของไอ้คนที่ยืนจ้องสบตา มันชี้มาที่ตัวผม ทำปากขมุบขมิบ พร้อมกับโบกมือไล่
อะไรกันวะ ทำเสียงดังจนกูนอนไม่ได้ แถมพอกูออกมาเรียกร้องสิทธิ์ แมร่งเสือกออกมาไล่อีก
พี่เมฆกำลังจะแปลงร่างเต้นเร่า กระทืบเท้า ให้รู้ว่ากูไม่พอใจ มันก็เดินเข้ามาใกล้
“มึงออกมาทำไมเมฆ มึงกลับเข้าไปเดี๊ยวนี้เลยนะ ไอ้บ้า รถแมร่งจอดมองกันเต็มหน้าบ้านแล้วมั้งหนะ แล้วไม่ต้องนอนต่อเลยนะ อาบน้ำแต่งตัว เก็บเสื้อผ้า แล้วรีบลงมา รถจะออกสิบโมงนี้อยู่แล้ว”
อ้าว ใส่กูมาเป็นชุดเลย มองไปรอบๆอย่างที่ไอ้ฉานว่า เพื่อนบ้านที่เดินผ่านไปมาก็หยุดมอง พร้อมชี้มาที่ผม
ไม่พอ กระซิบหัวเราะ ด้วย
อะไรกันวะ ไม่เคยเห็นพี่เมฆสุดหล่อแห่งประเทศไทยหรือไงกัน
ชักจะหงุดหงิด ก็เลยต้องก้มมองสารรูปตัวเอง
อิโธ่
กะอีแค่พี่เมฆใส่บ็อกเซอร์ตัวเดียว ไม่ใส่รองเท้า ไม่ใส่เสื้อ หน้ามัน หัวฟู ก็แค่นี้
จะอะไรกันนักหนา เดี๊ยวพี่เมฆกลับไปอาบน้ำออกมาก็หล่อเหมือนเดิม เฮอะ
ตกใจอะไรกัน ไอ้บ้าฉานนี่ก็อีกคน มันจะอะไรกันนักหนา กำกับชีวิตกูแต่เช้า ร่ายยาวมาเป็นชุด
กำลังหงุดหงิดอะไรหลายๆอย่าง พลันสายตาก็ต้องหยุดลงตรงที่ ตำแหน่งติดตั้งเมฆน้อย
แฮ่!!
ก็พี่เมฆเพิ่งตื่น อะไร อะไร มันก็เลยลุกขึ้นยืนเคารพธงชาติ ก็แค่นี้ แล้วเวลานอน ใครมันจะใส่กางเกงใน
ให้อึดอัดเล่า ว่าแล้วก็ต้องเอามือที่ลูบท้ายทอยแก้เก้อ เอามืออีกข้างมาปิดบังอำพรางความเป็นชาย
พร้อมกับตะแคงตัวกลับเข้าไปในห้องเหมือนเดิม
ปิดประตูบานเลื่อนระเบียง พร้อมถอนหายใจหนีอายเสียเฮือกใหญ่
“ เฮ้ยยยยยยย ขึ้นมาตั้งแต่ตอนไหนเนี่ย กูตกใจหมด”
“คิดยังงัยถึงได้ออกไปตรงระเบียง มึงจะออกไปเดินแบบโชว์ร่องรอยเสียตัวเรอะ”
“กูไม่ได้คิดอะไร ก็ข้างล่างเสียงดังจะตาย กูนอนไม่หลับนี่”
“เค้ากำลังขนของใส่รถ จะไปกระบี่กันนะสิ มีแต่มึงที่นอนไม่ยอมตื่น ขี้เซาจริง”
น่าน บ่นไม่พอ มีท่าส่ายหัวประกอบ ชิส์ ไอ้คุณชาย ก็ลองมานอนคิดมากเหมือนกูมั้ยเล่า
แล้วกูจะดู ว่ามึงจะนอนตื่นเหมือนกูมั้ย เวร
“ รีบๆไปอาบน้ำได้เลยเมฆ เสื้อผ้า เดี๊ยวกูเตรียมให้ แล้วอย่านาน แม่มึงรออยู่ข้างล่างแต่เช้าแล้ว”
มือที่กระตุกผ้าเช็ดตัว ชะงักลงทันที แม่มารอแต่เช้า
ฟังเท่าไหร่ก็ไม่ชินสักที เหมือนฝัน ผมได้เจอแม่ตัวจริงเป็นๆแล้ว
ไม่ต้องโหยหา ไม่ต้องจินตนาการ แล้วตอนนี้ เรากำลังจะไปเที่ยวบ้านแม่ที่กระบี่กัน
แค่คิด ในใจก็ฟูฟ่องไปด้วยความสุข
ผมเดินฮัมเพลงยิ้มกริ่ม กระแทกใหล่ไอ้ฉานจะไปอาบน้ำ
พลันขาก็ต้องสะดุดลง เพราะมีท่อนขาของใครอีกคนมาขวางไว้
ผมมองหน้าไอ้คนขวางทางด้วยแววตาหาเรื่อง
แต่ไอ้ฉานก็ได้แต่ยักคิ้วให้
“งัย มีความสุขจริงนะมึง กูก็มีความสุขจังวะ ไหนๆ ตูดหายระบมหรือยัง” แถมจับก้นพิสูจน์ความจริงทางกายภาพอีกนะ
ไอ้เชี่ย แล้วมึงจะพูดถึงเรื่องนี้ให้กูอายทำไม
ไอ้นิสัยไม่ดี เห็นกูมีความสุขเป็นไม่ได้
“อะไร หลบไปสิจะอาบน้ำ มึงรีบไม่ใช่หรืองัย แม่รออยู่ไม่ใช้เหรอ ปล่อยสิ”
“หืมม อะไรๆ จะสู้ก็มองหน้าสิ แล้วนี่จะหลบตาทำไม หือ “ แล้วใครมันจะไปกล้ามองไอ้คนตรงหน้าเล่า
ก็มันทำสายตากรุ้มกริ่มตลอดเวลา แล้วไอ้สายตาพราวระยับนั่น
ถ้าพี่เมฆไม่อ่อนเดียงสาจนเกินไป ก็แปลได้ว่า มันมีความต้องการไม่ใช่หรือไง
ไม่ได้นะเว้ย ตูดยังไม่หายระบม ขืนทำอะไรประเจิดประเจ้อตอนนี้
เสียงร้องของพี่เมฆ คงทำให้คนในบ้านได้แห่ขึ้นมาชมมหรสพ หนังสดกันถ้วนหน้าแน่
“ฉาน เมฆจะไปอาบน้ำ ปล่อยก่อนเถอะนะ “ เสียงอ่อนเสียงหวาน พร้อมส่งสายตาวับวาวแถมให้
แล้วมารยาร้อยที่เท่าไหร่ อย่าไปสนใจก็ได้ผล
ไอ้ฉานมันปล่อยมือผม พร้อมส่งสายตาที่มีความหมายแฝงมาอย่างลึกซึ้ง
“ เฮ้ย เมฆ เดี๊ยวมึงเจอพ่อมึงแน่ ไอ้ลูกหมา” แฮ่ๆ ก่อนที่พี่เมฆจะเสียท่า เราก็ต้อง ชิงตัดหน้าไปก่อน
ด้วยกระบวนท่า กระตุก ฉานน้อยห้อยต่องแต่ง แล้วใส่เกียร์หมา วิ่งเข้าห้องน้ำไป
อาบน้ำ ฮัมเพลงสบายใจ อย่าได้สะทกสะท้านกับเสียงรอดไรฟันจากคนข้างนอก ให้เสียขวัญและกำลังใจ
เสียงตะกุกตะกักด้านนอก เงียบไปสักพักแล้ว ก่อนที่ผมจะอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวเสร็จก็กินเวลาไปอีกนานพอดู
ไม่ใช่อะไรหรอกครับ ผมประหม่า หนทางข้างหน้าบอกผมว่า ผมกำลังเปิดตัวเองออกจากกะลาไปหาทุ่งหญ้ากว้าง
เลยจมอยู่กับการสร้างความเชื่อมั่นในห้องน้ำนานไป ออกมาอีกที จึงพบว่า คู่กรณี นอนหลับรอผมอยู่บนเตียงแล้วเรียบร้อย
ที่เรียบร้อยไปกว่านั้นคือ ไอ้ฉานเตรียมกระเป๋าเสื้อผ้าให้ แถมเตรียมเสื้อผ้าสำหรับวันนี้ให้ด้วย
โอ้ว พระเจ้า ถ้าพี่เมฆ จะถลาลงไปคลุกเคล้าใบหน้ากับอกกว้างจะเป็นไรไหม
จะดูเป็นการไม่รักนวลสงวนตัวรึเปล่า
แต่จะทำไงได้เล่า ก็มันรู้สึกอย่างนั้นจริงๆนี่นา ไอ้ฉานนอนหลับตาพริ้มเชียว
แพขนตาเรียงเป็นระเบียบ ปากเหยียดเป็นเส้นตรง จมูกโด่งรั้น หน้าเนียนใสเชียว ชิส์
โอ้ยยย อยากกัดปลายจมูกนั้นด้วยความหมั่นไส้ แล้วเอาไรหนวดที่เพิ่งโกน มีแต่โคนสากๆ
ไปไซร้ๆ ซอกคอมันเสียจริง มันคงสยิวจนร้องคราง วะ ฮ่า ฮ่า
แต่พี่เมฆไม่กล้าหรอกครับ แหะ แหะ แรกๆอาจจะเป็นผู้นำ แต่พอไม่นาน ไอ้ฉานมันอาจขึ้นนำอย่างที่เคยเป็น
เห็นจะไม่คุ้ม ผมสู้แรงควายมันไม่ได้หรอก
พี่เมฆเป็นนายเอก บอบบ๊าง บอบบาง
“ เอ้า มึงจะยืนยิ้มอยู่อีกนานมั้ยเมฆ เดียวนี้เพี้ยนๆ นะเนี่ย “ หงะ ไอ้ฉานมันตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่ว๊า อายมันชะมัด
แล้วนี่คิดในใจเฉยๆ แล้วกูยิ้มตอนไหนวะครับเนี่ย ไม่เนียนๆ
“ เหนื่อยเหรอ เห็นหลับ “ มันคงตื่นเช้ามากๆอะครับวันนี้ จะสงสารก็สงสารนะ แต่นึกที่มันทำผมไว้ เจ็บมาสองสามวันแล้วยังหายไม่สนิทเท่าไหร่ แล้วอยากจะสมน้ำหน้า
“ อืม ตื่นเช้ามาเตรียมของ แล้วไปรับแม่ยายที่โรงแรม แล้วต้องมาจัดการเมียอีก แมร่ง เยอะอย่าง รู้งี้ หาเมียไกลๆตัวก็ดีอ่ะ”
“เอาดิ ใครห้ามอ่ะ นี่คือที่เป็นอยู่นี่กูยอมงั้นดิ อ้าขารอ เอาหมอนหนุนตูดรอเลยดิ” แมร่ง โกรธมันครับ พูดออกมาได้ ถึงมันจะพูดเล่นก็เหอะ แต่จะรู้มั้ย ว่าใจผมหายลงตาตุ่มเลย น้ำหูน้ำตาไหล
“อ้าว พูดเล่น แล้วนี่ร้องไห้ทำไมหืม มาแต่งตัวสิ เนี่ย เตรียมไว้ให้ทุกอย่างแล้ว” มันกุลีกุจอ หยิบเสื้อผ้า มาให้ผมครับ
ส่วนผมนั้น ทำอะไรอะเหรอ ก็ยื่นนิ่งๆ เอามือปาดน้ำตา รอมันบริการไปสิครับ มันเสือกหาเรื่องให้พี่เมฆ อารมณ์ไม่ดีเอง
ช่วยไม่ได้
มันจะใส่เสื้อให้ ผมก็แค่ยกมือเหยียดตรงทั้งสองข้าง
มันใส่กางเกงให้ ผมก็แค่ยกขาขึ้นนิดหน่อย
แล้วก็นั่งลง ให้มันดรายผม ทำนู่นนี่นั่นให้ แล้วแต่มันจะทำเหอะครับ
วันนี้ พี่เมฆจะเป็นตุ๊กตายาง เอ้ยย ตุ๊กตาบลายด์ให้วันนึง
“นี่มึงเนียน แกล้งงอนให้กูทำให้ป่ะเนี่ยเมฆ ดูมีพิรุธนะเนี่ย แล้วดูสิ เมียที่ไหน ให้สามีทำให้ทุกอย่าง ปกติอ่ะ เสื้อผ้า ยาสีฟัน มึงต้องเตรียมให้สามีคนนี้นะเว้ย นี่อะไร กลายเป็นกูต้องทำให้ซะงั้น” มันร่ายยาวเลยครับ อักอั้นตันใจรัยป่าววะเนี่ย
อยากปล้ำกูทำเมียเองช่วยไม่ได้
“มึงจะหาใหม่อยู่แล้วนิ” งอนมันครับ ไม่ได้จริงจังอะไร แต่อยากให้ง้อ นี่เค้าเรียกสาวแตกหรือยังครับ
ป๊าบ เสียงไอ้ฉานมันระเบิดกบาลผม อูย เจ็บ แอบลอบค้อนมันไป หนึ่งจึ๊ก
“ยังจะปากดีอีก แล้วเมื่อกี้ใครร้องไห้ ถ้ากูหาใหม่ หรือหาคนอื่น กูมีไปนานแล้วมั้ยเมฆ จะมาคอยเฝ้ามึงแบบนี้เหรอ หือ”
มันลงมือกับหัวผมอีก ป๊าบ ไอ้เชี่ยนี่ แต่ก็จริงของมัน
มีคนมาชอบมันเยอะครับ ตั้งแต่เด็ก ยันสาวแก่แม่หม้าย กระเทยควายทั้งหลายยังส่งตัวเองเข้าประกวด
แต่ไอ้ฉาน ไม่ได้สนใจใครเป็นพิเศษ ทั้งสาว ทั้งเกย์ หรือแม้แต่กระเทย
นอกจากมาให้กินแบบจานด่วน แล้วก็เลิกแล้วกันไป ส่วนใหญ่ มันไม่ให้ผมรู้ แต่อย่างว่า เพื่อนมันกะเพื่อนผม
แทบจะเป็นก๊วนเดียวกัน เพราะฉะนั้น เวลามันแซวกันในวงเหล้า มีเหรอจะผ่านหูผม
ตอนที่รู้คือ ใจมันปวดแปล๊บๆ แค่รู้สึกหงุดงิด ไม่ชอบ พาลจะไม่อยากคุยกะมัน มันถามคำผมตอบคำ
ตอนนั้นคิดว่าผมแค่ไม่ชอบพฤติกรรมมันเฉยๆ เพิ่งมารู้ตอนมันหลั่งน้ำแสดงความเป็นเจ้าของผมว่า
ไอ้อาการแบบนั้น เรียกว่า “หึง” และ “หวง” ฉิบหาย นี่พี่เมฆก็แอบชอบมันแบบคู่เกย์มานานแล้วสิ
มิน่า พวกเพื่อนมันถึงได้แซวกันสนุกปาก นี่เริ่มคิดว่า ตกลงที่มันแซว นี่เล่นๆ หรือมันรู้อะไรแบบจริงจังวะ
เปิดเทอม ต้องแอบหาคำตอบให้ได้ พี่เมฆ เสียเชิงชายหมดเลย แมร่ง
“อ้าว เสร็จแล้ว ลงไปได้แล้วครับคุณชาย แมร่ง เค้ารอมึงอยู่คนเดียวเลยครับ คิดว่าเป็นพระเอกหรือไง ออกไปเป็นคนสุดท้ายเลย” มันดันหลังให้ผมเดินออกไปครับ
แต่
“เอร้ยยยย ฉาน กูออกไปไม่ได้อ่ะ” แหะ แหะ
“มัยอีก มีอะไรอีก เยอะอย่างนะมึง”
“ก็ กูเป็นคุณชายไม่ใช่เหรอ แล้วนี่ไม่มีพรมแดงปูเลยอ่ะ กูเดินไม่ได้”
“สาด กูนึกว่าอะไร ให้กูอุ้มมั้ยหละ แต่ว่า ไม่ไปข้างล่างนะ กูอุ้มไปเตียงเป็นอย่างเดียว”
“พอเหอะ เลิกเล่น เข้าตัวหวะ เดียวนี้ลามกนะมึง”
กว่าจะรวมตัวกันในรถตู้สุดหรู TOYOTA ALPHAD ได้ ก็โล้งเล้งกันอยู่อีกนานเลยครับ
แหม รถตู้บริษัทพ่อไอ้ฉาน นี่มันดีจริงๆครับ พี่เมฆขึ้นรถมาได้ ตามสไตล์ วัยรุ่น จองเบานั่งหลังสุดเลยครับ
กับไอ้ฉานสองคน จากนั้น เราก็ตีตั๋วศพ ทันทีครับ จนแม่ๆ ป้าๆ แซวกันว่า มาเที่ยวนะไม่ใช่มานอน
ก็นะครับ นี่ขนาดตีตั๋วศพกันแล้ว ยังไม่วายต้องหลับๆ ตื่นๆ
เพราะแม่ๆ ทั้งหลาย แวะมันตลอดทางเลยครับ
นี่ยังสงสัยอยู่ว่า คนที่น่าสนุกตื่นเต้น นี่มันต้องผมไม่ใช่เหรอ
แต่ทำไมกลายเป็นสมาคมแม่บ้านไปได้เนี่ย พี่เมฆละไม่เข้าใจ
แม่ๆ แวะมันทุกที่ ที่สามารถแวะได้ครับ แวะมาตั้งแต่ สมุทรสาคร
ยันเพชรบุรี ประจวบ โอ้ยยยยยยยย จะถึงกระบี่เมื่อไหร่วะเนี่ย
นี่อาจจะเป็นทริปที่เราอาจจะต้องอยู่บนรถ สามวันสองคืนก็ได้นะครับ
แค่ข้างทางมีของประจำถิ่นตั้งแผงขาย แม่ๆก็แวะกัน จะตื่นเต้นอะไรกันเนี่ย
ผมก็หงุดหงิดไปเรื่อยครับ เนื่องจากทุกครั้งที่จอดแวะ แม่ๆจะเรียกผมลงไปเดินเล่นด้วยทุกครั้ง
จะมีคนที่ถูกปลุกแล้วยังร่าเริงอยู่ได้ ก็คือไอ้คนข้างๆผมนี่แหละครับ
ปล่อยไป ไอ้บ้านี่มันเข้ากะผู้ใหญ่เก่ง ให้มันทำคะแนน ให้หนำใจ ชิส์ พี่เมฆก็น่างอต่อไปสิครับ
“เป็นอะไร หืม หงุดหงิดง่ายจังเลย นี่อยากกินอะไรเปรี้ยวๆมั่งป่าว” มันถามผมตอนที่แม่ๆ ลงไปซื้อผลไม้ข้างทางครับ
ผมไม่ลงตามระเบียบ อยากจะนอน แต่ก็ยังนอนไม่หลับ
“ ป่าว อยากนอนอ่ะ แต่พอจะหลับโดนปลุกตลอด แม่ๆ แกล้งกูปะเนี่ย ว่าแต่เกี่ยวอะไรกะของเปรี้ยววะ”
ยังงงอยู่ ผมหงุดหงิด แต่ของเปรี้ยวมาเกี่ยวไรวะ ตรรกไหนของมัน
“อ้าวก็ไม่รู้ เค้าว่าคนท้องอ่ะ จะหงุดหงิดง่าย แต่กินของเปรี้ยวแล้วก็หาย”
“อ๋อ” ถึงบางอ้อ ไอ้นี่ แมร่ง เล่นกูทุกทาง ผมเอาเท้ายันมันไปโครมนึงครับ โทษฐาน กัดผมเรื่องนี้ตลอด
รู้ทั้งรู้ ว่าเอาเรื่องนี้มาเล่น ผมชนะมันไม่ได้ ก็นะ มันมีหลักฐานนี่นา
ฮึ่ยยยยยยยยยยยยยย.........หมั่นไส้มาน
ผมพลิกตัวหันหลังให้มันครับ ขอหลับหนีอาย อีกอย่างสู้ไปก็แพ้ครับ เกมส์นี้มันชนะใสๆ
“เดี๊ยวสิ มาคุยกันก่อน เฮ้ยเมฆ อย่าแกล้งหลับดิ” โอยย กูจะนอน ทั้งเรียกทั้งเขย่าตัวกูแบบนี้ กูจะได้นอนมั้ย
“ ว่ามาสิ ฟังอยู่ ” เสียงทอแรให้มันรู้ว่า กูง่วงมากแล้วนะ
“ฮื่อ มึงมีมารยาทนิดนึง แม่ก็สอนมาดี สามีมึงก็มีมารยาทนะ ว่าเวลาคุย ต้องมองหน้าคนที่คุยด้วย”
ผมดีดตัวลุกขึ้นมานั่งตัวตรง หันหน้าไปหามัน แบบตาจ้องตา ปลายจมูกชี้ปลายจมูกเลยครับ
เอาเลย เอาให้มันสุดๆครับ ไหนๆ วันนี้ผมคงไม่ได้นอนเต็มที่แน่ๆแล้ว
“ดีมาก อย่าทำหน้าหมาง่วงใส่ผัวสิ สดชื่นนิดนึง ยิ้มด้วย”
“เชี่ยยยยยฉาน กูไม่ใช่หุ่นกระบอกนะมึง แล้วมีอะไรจะคุยเนี่ย หือ เร็วๆ นี่กูหันมามองหน้า สบตาปิ๊งๆเลยนะ “
ผมฉีกยิ้มใส่มันแบบจริงใจมากครับ เห็นฟันครบทุกซี่ ถ้ามีหินปูน ก็คงชัดเจนแบบไม่ต้องง้างปากกันเลยทีเดียว
“ไม่มีอะไร อยากจะสวีตกะเมียเฉยๆ มาฮันนีมูนทั้งที เมียเอาแต่นอน”
“อย่ามาลีลาน่าฉาน มึงมีอะไรก็คุยมา มึงจะกลบเกลื่อนใครได้กูไม่ว่า แต่กะกูคือมันไม่เนียนอ่ะ เข้าใจปะน้อง” ตบไหล่มันไปเบาๆ ตบแรงไม่กล้า เดี๊ยวหมาบ้ามันสวน
ผมเริ่มจับทางมันได้ครับว่า ดูเหมือนมันมีเรื่องอยากคุยกับผม มาสองสามวันตั้งแต่เกิดเรื่องแล้วหละ แต่คงไม่มีโอกาส
แล้วมันเองก็คงจะอึดอัดกับเรื่องนี้ไม่น้อย เพียงแต่ผมไม่รู้ว่า เรื่องที่คาใจมันอยู่คือเรื่องอะไร
เรื่องที่มันขืนใจผม แบบที่ผมเองก็สมยอมหน่อยๆ (เฮ้อออออ)
หรือว่า เรื่องของพี่เต้ เพราะตั้งแต่มันยื่นเอาหลักฐานให้ผมดู เรายังไม่เคยคุยกันแบบจริงจังเลยครับ
ผมเองก็มัวแต่ระบม แถมยังต้องปั่นงานให้แม่ ไหนจะงอนไอ้ฉาน
โอ้ย แค่นี้ก็หมดเวลา หมดโอกาสให้เราต้องคุยกันแล้วครับ
“หือว่าไง ต้องให้ทวงสัญญา มั้ย ว่าเราจะคุย.........”
“มันส่งข้อความมาหามึงไม่ใช่หรือไง” อ๋อ สงสัยเรื่องนี้นี่เอง
“ อืม เค้าส่งมาขอโทษ มึงแอบอ่านของกูแล้วนี่ “ แมร่งกำลังจะอธิบาย แต่มันก็แอบอ่านของผมไปก่อนหน้านี่แล้ว
แน่ๆ ไม่งั้นมันจะรู้เหรอ
“ตกลงเค้าชอบมึงจริงๆด้วย เหอะ กูน่าจะตัดไฟแต่ต้นลม เสียตั้งแต่ไอ้พวกนั่นบอกซะก็ดี” หือ นี่มีอะไรที่กูไม่รู้หลังแผนการณ์อีกเนี่ย
“พวกนั้น พวกไหน แล้วจัดการอะไร”
“ เหอะ ไม่มีอะไรหรอก ว่าแต่มึงอะรู้รึยัง ว่าทำหน้าโง่เซ่อๆ ก็ไปกระแทกใจใครๆเค้าได้ กูหละ อยากให้เค้ามารู้จริงๆว่ามึงหนะ ร้อยเล่ห์แค่ไหน เก่งทุกเรื่อง แต่โง่เรื่องนี้ กูเหนื่อยทั้งกายทั้งใจทุกทีเลยแมร่ง”
“ก็ไม่มีอะไรนี่ ต่อไปนี้จะระวังตัวเองก็แล้วกันนะ แล้วมึงก็ไม่ต้องไปจัดการอะไรพี่เค้าลับหลังกูหละ ให้อภัยเค้าซะ เค้าคงอยากพิสูจน์ ความโง่มึงเหมือนกันอะฉาน”
“ความโง่อะไร หือ โหย ลองใจกูแรงไปมั้ย เรื่องไหนกูไม่ว่าหรอก แต่เรื่องนี้กูถือ”
“เพราะแบบนี้ไงฉาน เพราะมึงเผยจุดอ่อนให้ใครรู้แบบนี้ไง เค้าถึงเล่นมึงได้ถูกจุด”
“ก็ทำไงได้ ตอนนั้นอะไรๆ มันไม่เหมือนตอนนี้นี่ ถ้ากูบอกมึงไปตรงๆ แล้วมึงรับไม่ได้ มึงหายไป กูจะทำไงหละ”
“เว่อร์ๆ แล้วสุดท้ายเป็นไง กูก็รับได้นี่ แล้วอะไร ครั้งแรก ปล้ำกู จนกูกลัว ครั้งต่อไป มึงอดแน่ฉาน”
ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกไอ้ฉานขึ้นมาบ้างแล้วครับ ว่าที่ผ่านมา มันเองก็รุ้สึกสับสนเรื่องตัวมันเองกับผม อยู่มากแน่ๆ
มันถึงคิดล่วงหน้าไปสารพัด กลัวเรื่องที่ยังไม่เกิด จะว่าไป มันไม่ได้กระโตกกระตากอะไร ทุกอย่างมันค่อยๆไปค่อยไป มันสะสมมาตั้งแต่เรายังเป็นเด็กๆ มันผูกพันธ์
“ฉาน แล้วเปิดเทอม มึงจะบอกเพื่อนๆว่างัยดี ปิดดีมั้ยวะ กูว่านะ ดังไปทั่วมหาลัยแน่ๆ”
แค่ตอนที่โดนแซว ทั้งๆที่ยังไม่เป็นอะไรกัน ยังดังไกลขนาดนั้น
แล้วตอนนี้ ทุกอย่างเริ่มจริงจัง ไอ้ฉานเองก็เริ่มชัดเจน ไม่ต้องปิดบังความรู้สึกกับผมอีกต่อไป
แล้วจะยังไงวะเนี่ย มีสามีเป็นผู้ชายนี่มันลำบากจริงๆ โว้ย
“กลัวไร ก็บอกแค่เพื่อนสนิทๆ เราไปตามตรงนั่นแหละ รับได้ก็รับ รับไม่ได้ก็ช่างแมร่ง”
“หือ เพื่อนนะเว้ย ถ้ามันรับขึ้นมาไม่ได้จริงๆ” ผมคอตกเลยครับ ถ้าเพื่อนรู้ว่าที่มันแซวกันสนุกปาก
เป็นเรื่องจริงแล้วรับไม่ได้ ฮืออ ผมไม่อยากเสียเพื่อนนี่นา
“เอาน่า อย่าคิดมาก ไม่มีอะไรเลวร้ายอย่างที่มึงกังวลหรอก ไม่เชื่อใจกูหรือไง กูจัดการได้นะ”
“อืมๆ “ เพลินครับไอ้ฉานมันพูดไปลูบหัวผมไป ผมเองก็เอาหัวถูๆกะหน้าอกมัน เพลิ๊นเพลิน
อ้อนเข้าไป สาวแตกได้ใจครับ
“อูย ร้อนจริงๆเลยนะคะ ดีนะเนี่ยที่เอาหมวกลงไป” แม่นิ่มครับ หูย กลับกันมาแล้ว หายกันไปอย่างนาน
ผมกับไอ้ฉาน ดีดตัวออกจากกันแทบไม่ทัน แล้วก็นะ ทุกร้านขายเหมือนกันหมดแหละครับ แต่แม่ๆผมก็ยังลงไป
ไม่เข้าใจจริงๆ แล้วพวกผู้หญิงนี่ยังไง รู้ทั้งรู้ว่าร้อน แต่ก็ยังลงไป แล้วก็กลับมาบ่น เฮ้ออ
“ น้องเมฆกับฉาน หิวกันหรือยังลูก เมฆตื่นยังลูก มาเที่ยวนะลูกนะ ดูสองข้างทางสิ สวยนะ แม่ชอบมากเลย”
“ครับ หิวนิดหน่อย ตื่นแล้วครับ แต่อยากนอนต่อแล้วหละ แม่ได้อะไรกันมาครับเนี่ย”
เอาเถอะครับ ถึงจะหงุดหงิดเรื่องนอนน้อย แต่เห็นแม่นิ่มดูมีความสุขดี ผมก็ดีใจ
“สละ หนะลูก แล้วก็ผลไม้อื่นๆอีกนิดหน่อย ซื้อเยอะไม่ได้ คุณแม่น้องเมฆบอกว่า ที่รีสอร์ทมีเยอะ ให้ซื้อแค่กินเล่นๆระหว่างทางก็พอ” หูย นี่ขนาดซื้อเล่นๆ ยังเต็มหลังรถขนาดนี้ ถ้าจริงจังขึ้นมา ผมกะไอ้ฉานอาจจะถูกผูกติดอยู่หลังรถได้
เกือบลืมเลยครับ ว่าทริปนี้ มีแม่ผมมาด้วย ไม่ได้ดูแลอะไรแม่เลยผม บกพร่องหน้าที่จริงๆ มัวแต่จะนอน
“คุณแม่ละครับ สนุกมั้ยครับ ทำใจแม่กับป้าเค้าหน่อยนะครับนานๆเค้าได้เปิดหูเปิดตาจาก จากพารากอนสักที เลยตื่นเต้นหนะครับ” กัดแม่ตัวเองนิด กัดแม่ไอ้ฉานหน่อย นี่อารมณ์ดีครับ อิอิ
“ไม่เป็นไรค่ะลูก สนุกดี แม่เองก็อยากมีเพื่อนเที่ยวแบบนี้มานานแล้ว” แม่เค้ายิ้มให้ผมครับ แม่ยิ้มแล้วสวยแบบนี้นี่เอง
ผมเลยออกมาหล่อ ล่อใจหมาบ้าแถวนี้ เหอะ เหอะ
ทริปนี้ก็สนุกดีครับ แวะนู่นนี่นั่นกันตลอดทาง ผมเองก็ตื่นเต็มที่แล้ว ก็สนุกกะเค้าไปด้วย กินกันไปตลอดทริปครับ ไอ้ฉานก็ขยันปล่อยมุข ฮาบ้างแป๊กบ้างกันไปตลอดทาง จนกระทั่ง
มีโทรศัพท์เข้ามาอีกทีนั่นแหละครับ
คนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใคร “พีเต้” คนเดิม
คราวนี้ก่อนที่ผมจะทำอะไรลงไป ผมลอบมองหน้าไอ้ฉาน ดูอารมณ์มันก่อนครับว่าเป็นยังงัย และขออนุญาติมันไปในตัวด้วย
บอกตรงๆ ผมไม่อยากสร้างปัญหาให้ไอ้ฉานหงุดหงิดใจในตอนนี้
หมาบ้ามันก็ยังเป็นหมาบ้าวันยังค่ำ ผมกลัวมันจะอาละวาดต่อหน้าแม่ๆทั้งหลายอะครับ
มันพยักหน้าน้อยๆ เป็นสัญญาณเชิงบอกับผมว่าให้รับได้
“ครับพี่เต้"