Chapter 6 : On the island
ทำไมถึงได้ปวดเมื่อยไปทั้งตัวแบบนี้วะ วันนี้ไปทำอะไรแปลกๆมาอีกรึไง..
ภีมคิดรู้สึกตัวขึ้นมาอีกครั้งในช่วงบ่ายๆ เขายกมือข้างหนึ่งขึ้นนวดขมับรู้สึกปวดหัวหน่อยๆ ผ่านไปสักพักหลังจากที่นอนปรับตัวนิ่งๆ ภีมก็เริ่มจะนึกถึงเรื่องก่อนหน้านี้ขึ้นมาได้และมันทำให้เขาต้องถอนใจออกมาอย่างคิดไม่ตกกับความใจง่ายและร่างกายอันน่าสงสารของตัวเองที่คล้อยตามไปกับการชักนำแสนเจ้าเล่ห์ของมาร์คัส ภาพเพดานห้องสีขาวเบลอๆตรงหน้าทำให้เขาปิดตาลงอีกครั้งเพื่อปรับการมองเห็นที่ยังเบลออยู่หน่อยๆ
" นี่ แกจะนอนขี้เกียจอีกนานมั้ยภีม "
เสียงของพี่ภัทรดังขึ้นขัดจังหวะคนที่กำลังจะเผลอตัวหลับไปอีกรอบ ภีมลืมตาขึ้นช้าๆก่อนจะเห็นพี่สาวตัวเองกำลังยืนหมุนไปหมุนมาอยู่หน้ากระจกพลางจัดแต่งเสื้อผ้าและทรงผมอย่างอารมณ์ดี ทำเอาเขาอดนึกสงสัยไม่ได้ว่าที่พี่ภัทรตามหาเขาเมื่อเช้าไปจนถึงบ้านพักของมาร์คัส แล้วจู่ๆเขาก็มาโผล่อยู่ที่บ้านแบบนี้มันไม่มีปัญหาอะไรแล้วหรือไง
" ภีมปวดหัวอ่ะ " ภีมตอบไปตามความจริง
" ก็แหงสิ แต่บอกไว้เลยนะพี่ไม่เห็นใจเราหรอกนะภีม เพราะแกดันไปกินของพวกนั้นเอง " ภัทรบอก ทำให้ภีมขมวดคิ้วมุ่นกับข้อมูลเมื่อครู่ "แกนี่ก็โชคดีนะเนี่ยะ มาที่นีปุ๊บก็เจอกับมาร์คัสปั๊บ รู้มั้ยว่ากว่าถึงฉันกับลินด์ซี่จะเรียนมหา'ลัยเดียวกับเขา
แต่กว่าจะได้เจอตัวนี่........ "
" เดี๋ยวๆๆนะ เอาใหม่ดิ๊...ภีมไปกินอะไรเข้าไป แล้วมันโชคดีตรงไหน ภีมงงหมดแล้วนะพี่ภัทร " ภีมพูดเบรกพี่สาว
" ก็เมื่อตอนบ่ายๆ มาร์คัส เขาอุ้มแกมาส่งที่นี่ บอกว่า นายแอบเข้าไปก๊งเหล้าในบ้านพักเขาตอนเขาปาร์ตี้อยู่กับเพื่อนๆ เสร็จแล้วพี่ก็เลยถามว่าแกกับเขารู้จักกันได้ไง มาร์คัสเลยบอกว่าลินด์ซี่แนะนำแกให้รู้จักตอนเขาไปเป็นบาร์เทนเดอร์ที่งาน " ภัทรพยายามอธิบายเหตุการณ์ยาวยืดให้สั้นที่สุดเพื่อให้น้องชายที่เธอคิดว่ากำลังแฮงค์ฟัง
ด้านภีมที่ได้ยินคำอธิบายจากภัทรก็เริ่มฉุนมาร์คัสขึ้นมาไม่น้อยที่กุเรื่องเขาขึ้นมาครึ่งนึง! แล้วพี่ภัทรไม่สงสัยบ้างรึไงว่าถ้าเขาเข้าไปก๊งจริงๆทำไมไม่มีกลิ่นเหล้าติดตัวมาซักนิดเนี่ยะ!!
" แล้วไหนคือที่พี่ภัทรบอกว่าภีมโชคดี? " เขาถาม ปล่อยให้ความจริงของเรื่อเป็นความลับต่อไปเมื่อเขาคิดว่ามันอาจจะยิ่งวุ่นวายมากขึ้นถ้าเขาบอกพี่ภัทรไป
" ก็แกได้เจอ มาร์คัส เวอร์โก้ ไง! เฮ้อออ~ แกนี่มันโง่หรือโง่วะ เอ้า! นี่! " ภัทรส่ายหน้าหน่ายๆใส่ภีมก่อนจะเอี้ยวตัวไปหยิบนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะเครื่องแป้งโยนลงมาข้างๆเขาบนเตียงแล้วหันไปแต่งหน้าต่อ
" อะไรอ่ะ? " ภีมทียังทำหน้ายุ่งถามพลางหยิบขิงข้างตัวมาพลิกหน้าพลิกหลัง
" ก็ดูหน้าปกสิยะ นอกจากแกแล้วเนี่ยะคนในออสเตรเลียไม่มีใครไม่รู้จัก มาร์คัส เวอร์โก้ หรอก ถึงจะยังไม่ได้มาทำงานถ่ายแบบเต็มตัวนะ แต่เขาก็กำลังเป็นนายแบบวัยรุ่นที่กำลังดังมากในออสเตรเลียช่วงนี้เลยนะ ทั้งหล่อ ทั้งเรียนเก่ง หุ่นก็ดี นิสัยก็น่ารัก โอ้ยยยย~ ถ้าไม่ติดว่าเป็นรุ่นน้องนะ ฉันจะทุบหัวแล้วลากขึ้นเตียงแล้วแหละ "
ภีมเบะปากกับสรรพคุณของมาร์คัสในความคิดของพี่ภัทรที่ช่างตรงกันข้ามกับความเป็นจริงที่เขาเคยสัมผัสมา พลางกลอกตามมองอาการเพ้อฝันของภัทรอย่างไม่อยากจะเชื่อ ก่อนจะก้มมองดูรูปที่ขึ้นปกนิตยสารชื่อดังที่มีรูปของมาร์คัสขึ้นปกจริงๆ ....สงสัยเพราะอย่างนี้นี่เองหมอนี่ถึงได้พยายามตามมาราวีลบรูปในกล้องเขาอย่างเอาเป็นเอาตาย
" แล้วนี่พี่ภัทรจะไปไหนอ่ะ " ภีมพูดขึ้นเมื่อนึกคำถามที่คิดไว้ตอนแรกออก
" ก็ล่องเรือไง นี่แกลืมไปแล้วเหรอไอ้ภีม!! " ภัทรว่า ทำให้ภีมต้องตั้งสตินึกย้อนในสมองเล็กน้อยก่อนจะจำได้ว่าพี่ภัทรกับเขาจะได้ชมทะเลโดยเรือยอร์ชของคุณลินด์ซี่ " ตั้งแต่มานี่แกป้ำๆเป๋อๆนะเนี่ยะ "
" เอาน่า ก็จำได้แล้วก็ช่างมันเหอะน่า " เขาพูดปัดๆก่อนจะพยายามกระถดตัวไปริมเตียงแล้วเดินอย่างยากลำบากไปหยิบเสื้อผ้ามาเปลี่ยน
" ทำไมแกเดินงั้นอ่ะภีม อย่างกับสาวน้อยเพิ่งเสียพรมจรรย์ " ภัทรแกล้งพูดแซว หากแต่นั่นกลับกระแทกจี้จุดภีมอย่างจังจนเขาแทบสะดุ้ง เขาทำแค่เพียงหันไปมองพี่สาวอย่างหงุดหงิดน้อยๆแล้วปิดประตูปัง!เข้าห้องน้ำไป
เรือยอร์ชสียาวทะยานตัวผ่านเกลียวคลื่นบนท้องทะเลไปด้วยความเร็วไม่มากนัก บนนี้จะมีแค่คนที่ลินด์ซี่ออกปากเชิญเองเท่านั้นถึงจะขึ้นมาได้ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเขากับพี่ภัทร ภีมกำลังรู้สึกอารมณ์ดีสุดๆเมื่อลมทะเลเย็นๆพัดปะทะเข้ากับใบหน้า เขาแทบจะไม่ได้ลดกล้องถ่ายรูปลงเลยเพราะตลอดทางที่ผ่านมามีแต่วิวธรรมชาติสวยๆทั้งนั้น
" พี่ภัทร ช่วย........อ้าว? "
ภีมหันไปด้านข้างเพื่อจะเรียกให้พี่สาวช่วยหามุมสวยๆให้เพื่อที่เขาจะได้ถ่ายรูปเพิ่ม หากแต่พี่ภัทรที่ยืนอยู่ข้างๆเขามาตลอดทางดันเดินไปเม้าท์มอยในกลุ่มเพื่อนกับคุณลินด์ซี่เสียแล้ว ครั้นพอจะหันกลับมาสายตาก็ดันมองไปเห็นร่างคุ้นตายืนเก๊กท่าอยู่ไม่ไกลอีกต่างหาก
" มาร์คัส ฉันไม่ค่อยจะโอเคเท่าไหร่เลยกับเรือนี่ " อลิเซียที่เดินคู่มากับร่างสูงใหญ่พูดขึ้นขณะที่ยังซบอยู่กับไหล่หนาด้วยท่าทางที่ดูออดอ้อน
" เธอไม่ค่อยได้ขึ้นไง ถึงไม่ค่อยชิน เอาเป็นว่าเกาะฉันไว้ดีๆแล้วกัน " มาร์คัสบอกพลางกดจูบเบาๆลงไปบนเรือนผมสีสวยของหญิงสาว เขากระตุกยิ้มนิดๆอย่างรู้ทันกับสายตาของใครบางคนที่จ้องมาที่เขา
" เรือมันไม่ได้เร็วขนาดนั้นซักหน่อย " ภีมที่มองร่างสูงใหญ่กับสาวสวยที่ดูจะเคมีเข้ากันอย่างนึกหงุดหงิดในหัวหน่อยๆ อะไรบางอย่างมันทำให้เขารู้สึกอึดอัด และไม่พอใจภับภาพคู่รักตรงหน้านัก แต่พอจะหันหน้าหนีสายตาเจ้ากรรมมันก็พลันอยากจะมองกลับไปดูทุกที
" ฉันไม่ชอบอยู่กลางทะเลเลย " อลิเซียพูด ตอนนี้เขาได้ยินคนสองคนคุยกันชัดแจ๋วยิ่งกว่าเอาโฮมเธียเตอร์มาจ่อหูอีก เพราะไอ้ฝรั่งตัวโตบางคนมันพาแฟนเดินมาจนใกล้เขาแล้วก็หยุดยืนพิงที่ราวกั้น
" หึๆ.. ทำไมคิดงั้นล่ะ ฉันว่ามันดีออกนะ อิสระดี " เสียงทุ้มตอบกลับ ก่อนที่มือใหญ่ที่โอบหลวมๆไว้กับเอวคอดของหญิงสาวจะกระชับร่างบอบบางของเธอเข้าใกล้ตัวมากขึ้น ทำให้ภีมอดจะเบะปากแล้วค่อยๆพาร่างกายที่ยังไม่สมบูรณ์เต็มร้อยถอยห่างไม่ได้
" ไม่ล่ะ ดูเอาสิ เมฆครึ้มแบบนั้นน่ากลัวจะตาย " เธอพยักเพยิดไปยังท้องฟ้าที่เริ่มมีกลุ่มเมฆสีเทาเพิ่มขึ้น
ภีมหลับตาแล้วถอนใจแรงเพื่อคลายความหงุดหงิดรำคาญใจขณะที่เขาคิดว่ายัยนางแบบสุดสวยเซ็กซ์เอ็กซ์แตกคนนี้จะกลัวอะไรนักหนากับทะเลสวยๆ และแค่ก้อนเมฆครึ้มๆ ยังไงคนขับเรือก็ต้องพาพวกเขากลับเข้าฝั่งก่อนที่ฝนมันจะตกอยู่แล้ว
แปะ..
แทบจะทันทีที่เขาคิดจบ หยดน้ำเย็นๆก็ตกลงบนมือ และก่อนที่ทุกคนจะทันได้มองหาสาเหตุฝนก็ตกลงมาจริงๆ.. เพราะฉะนั้นตอนนี้เรือก็กำลังเริ่มจะหันหัวกลับและทุกคนก็รีบเดินเข้าไปหลบฝนด้านใน ภีมได้ยินเสียงพี่สาวของเขาตะโกนเรียกอยู่ไม่ไกลนักและเขาก็หันไปพยักหน้าว่าได้ยินแล้ว หากแต่จังหวะนั้นลมก็หอบเอาคลื่นลูกใหญ่พัดเข้ามาปะทะกับตัวเรือจนมันโคลงไม่เบานัก
" เฮ้ย!!~ "
ภีมอุทานอย่างตกใจเมื่อกล้องหลุดมือออกไปบนพื้นเรือและรีบก้มตัวตาม หากแต่เมื่อเรือปะทะเข้ากับคลื่นอีกลูกทำให้กล้องกลิ้งหล่นลงจากขอบเรือตกลงทะเลไปพร้อมๆกับภีมที่ไม่ทันตั้งหลักแล้วตกลงไปเช่นกัน!!!!
" ภีม!!! "
" โอ้ พระเจ้า! มีคนตกน้ำ!! ช่วยด้วย ๆ !!.......ไม่นะ มาร์คัส!! "
อลิเซียที่ยังยึดตัวเองอยู่กับราวกั้นได้ทันร้องขอความช่วยเหลือออกมาอย่างตกใจเมื่อเห็นร่างของภีมกลิ้งผ่านช่องว่างของราวกั้นที่ขอบเรือตกลงทะเลไปพร้อมๆกับกล้อง เธอพยายามห้ามแฟนหนุ่มไม่ให้ตามลงไป หากแต่มาร์คัสที่มองภีมอยู่ตลอดเวลาไม่ลังเลที่จะรีบสะบัดแขนออกจากการเกาะกุมแล้วกระโดดตามภีมลงไปทันที
" แค่ก ๆ ...."
ภีมสะดุ้งขึ้นมาอีกครั้งด้วยอาการหอบเหนื่อยและหัวใจที่ยังเต้นรัวอยู่ในอกจากความตื่นกลัวในความมืดของท้องทะเลและกระแสคลื่นที่พัดแรง เขายันตัวขึ้นนั่งและพบว่าตัวเองอยู่บนชายหาดในสภาพตัวเปียกโชก สภาพอากาศยังคงมืดครึ้มแม้ฝนจะตกเบาลงมากแล้ว
" มาร์คัส! "
ภีมที่มองสำรวจรอบตัวจนมาเจอคนที่นอนคว่ำอยู่ข้างๆในสภาะไม่ต่างกัน ถึงจะนึกโทษพระเจ้า และ โชคชะตาที่อุตส่าห์ส่งไอ้คนที่มาเกยหาดข้างๆเขาเป็นหมอนี่ แต่อาการที่นอนนิ่งๆ เหมือนไม่หายใจแบบนั้นทำให้ภีมไม่อาจนั่งเฉยได้ มือเรียวจับร่างของมาร์คัสพลิกขึ้นนอนหงายอย่างยากลำบากเพราะขนาดตัวที่ต่างกันก่อนจะใช้มืออังจมูกโด่ง
" ไม่หายใจ?! "
เขาพึมพำกับตัวเองเมื่อไม่รู้สึกถึงลมร้อนๆที่พ่นออกมา ก่อนจึงเริ่มตบเบาๆที่แก้มกร้าน แต่ก็ยังไม่เห็นว่ามาร์คัสจะรู้สึกตัวแต่อย่างไร ภีมเริ่มใจไม่ดี เขามองรอบตัวไม่รู้จะขอความช่วยเหลือจากใคร ก่อนเขาจะนึกวิธีที่น่าจะพอทำได้อยู่ขึ้นมา
" ผายปอด.....เอาวะ " ภีมพูดกับตัวเองแล้วรีบใช้วิธีที่จำมาจากสมัยเรียนลูกเสือช่วยคนที่นอนไม่ได้สติ
เขาบีบจมูกโด่งแล้วก้มลงเป่าปาก ก่อนจะร้องในลำคออย่างตกใจเมื่อลิ้นร้อนสอดเข้ามาในโพรงปากพร้อมกับแขนของคนที่เขาคิดว่าไม่ได้สติยกขึ้นมากดเอวเขาไว้แล้วรั้งคอให้แนบชิดยิ่งขึ้น ภีมรู้ทันทีว่าโดนมาร์คัสหลอกอีกแล้ว เขาพยายามถอยหนี แล้วทุบอั้กเข้าที่ไหล่หนาอย่างแรงจนมือใหญ่คลายออก
" โอ้ย~ เจ็บนะ " มาร์คัสแกล้งร้องโอดโอยขณะที่ลุกขึ้นนั่งตามขึ้นมา
" นายบ้ารึเปล่าเนี่ยะ! เรื่องความเป็นความตายมันไม่ใช่เรื่องจะอามาล้อเล่นกันนะ! " ภีมพูดอย่างโมโหเมื่อเห็นสายตาที่ดูเหมือนจะไม่สำนึกของคนตัวโต
" ฉันไม่ได้แกล้งซักหน่อยนี่ " มาร์คัสว่า " ฉันแค่เหนื่อยเลยนอนหลับตาหลังจากที่ลากนายขึ้นมาบนฝั่งได้ แล้วจากนั้นนายก็ฟื้น แล้วก็ฉวยโอกาสกับฉัน.....ใครสมควรจะโวยวายมากกว่าเนี่ยะ หื้ม? "
" ................. " ภีมมองคนที่นั่งมองหน้าเขาอย่างโมโหแล้วรีบลุกเดินหนี
" เฮ้ จะไปไหนน่ะ ที่นี่ไม่ใช่หาด Monkey Mia นะ มันเป็นเกาะอะไรก็ไม่รู้ " มาร์คัสพูด มองคนที่เดินไม่ค่อยจะสะดวกเท่าไหร่แล้วอมยิ้มเมื่อคิดถึงสาเหตุของมัน
" ไปไกลๆจากคนอย่างนาย! "
" กล้าเดินไปคนเดียวเหรอ ระวังเถอะ อาจจะเจอเผ่ากินคนเข้า " คำพูดของมาร์คัสทำให้ภีมค่อยๆลดความเร็วลง อันที่จริงเขาไม่ควรจะไปเชื่อลมปากหมอนี่อีกแล้ว แต่ที่นี่มันไม่ใช่เมืองไทยแล้วมาร์คัสก็เป็นคนออสเตรเลียคนเดียวที่อยู่กับเขาตอนนี้
" นายโกหก! "
" แล้วแต่จะคิดแล้วกัน " มาร์คัสว่าแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะเดินไปอีกทางกับเขา
ภีมลังเลที่จะเดินต่อ แต่ก็ถือทิฐิไม่อยากจะตามคนเจ้าเล่ห์ไป เขาจึงตัดสินใจเดินไปที่ใต้ต้นไม้ที่มีโขดหินสูงๆขึ้นมาพอจะนั่งได้แล้วปักหลักลงตรงนั้น
เวลาผ่านไปเรื่อยๆ อากาศยามค่ำคืนยิ่งเย็นลง ภีมที่นั่งตัวเปียกอยู่ที่เดิมนั่งกอดเข่าแน่นเมื่อลมหอบใหญ่พัดเข้ามา เสียงกรอบแกรบแปลกๆที่ดังขึ้นใกล้ๆเป็นบางครั้งทำให้เขาอดจะสะดุ้งทุกครั้งไม่ได้ ประกอบกับที่มาร์คัสขู่เรื่องเผ่ากินคนไว้ก่อนหน้านี้ทำใเขายิ่งจินตนาการเข้าไปใหญ่
" ลุก "
จู่ๆเสียงทุ้มก็ดังขึ้นจากด้านหลังพร้อมกับแรงดึงที่ต้นแขนทำให้เขาตกใจ แต่เมื่อตั้งสติได้ว่าเป็นเสียงที่คุ้นเคยภีมก็หันไปมองคนที่กระชากแขนตัวเองอย่างไม่พอใจ
" จะไปไหน! " มาร์คัสไม่ตอบหากแต่ลากคนตัวเล็กกว่าไปเรื่อยๆจนถึงที่ที่เขาก่อกองไฟไว้อยู่ พร้อมกับปลาย่างตัวเล็กๆที่เสียบไม้ปักไว้อยู่กับทราย ชายหนุ่มลากภีมลงไปนั่งก่อนจะทิ้งตัวตามลงไป แล้วถอนใจเบาๆเมื่ออีกฝ่ายรีบกระเถิบตัวห่างไปอีก
" กินซะ ฉันได้ยินเสียงกระเพาะนายร้องเป็นจังหวะเบรคแดนซ์แล้ว " มาร์คัสว่า
" ................ " ภีมเงียบไป มองภาพตรงหน้าอย่างหงุดหงิดที่ตัวเองทำอะไรแบบนี้บ้างไม่ได้ แต่ก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเมื่อพอจะมีกองไฟอุ่นๆไว้ผิงบ้าง
" นี่ ฉันไม่ได้พกยาพิษมา กินไปเถอะไม่เป็นไรหรอก "
" ขอบใจ " เขากลั้นใจพึมพำมันออกไปแล้วหยิบปลาตัวน้อยขึ้นมากินบ้าง ภีมคิดว่าถึงจะพูดเบาๆแบบนั้นแต่มาร์คัสก็คงได้ยิน เพราะเขาเห็นหางตาว่าริมฝีปากหยักสวยกำลังกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่ชอบทำ
" ตรงนี้คงอยู่ทิศใต้ของ Monkey Mia " เสียงทุ้มดังขึ้น ภีมขมวดคิ้วหันไปมองอย่างสงสัยว่าเขารู้ได้ยังไงมาร์คัสจึงโชว์นาฬิกาที่มีเข็มทิศเล็กๆที่ข้อมือให้ดู " ฉันคิดว่ามันน่าจะยังไม่เจ๊ง "
" หึ " ภีมคลี่ยิ้มออกมาบางๆขณะที่เคี้ยวเนื้อปลาจืดๆ " ใจคอนายจะเป็นทุกอาชีพเลยหรือไง? บาร์เทนเดอร์ นายแบบ ไลฟ์การ์ด นายพราน "
" อืม~ ก็บ้านฉันชอบเดินป่า แล้วบังเอิญตอนเกรดสิบก็เป็นกัปตันชมรมว่ายน้ำ ทำงานพิเศษเป็นบาร์เทนเดอร์ แล้วก็มีแมวมองมาจ้างไปเป็นนายแบบ " มาร์คัสตอบยิ้มๆแล้วโยนไม้ที่เสียงปลาเข้ากองไฟเมื่อจัดการหมดแล้ว
เขามองใบหน้าของภีมภายใต้แสงจันทร์ที่ส่องลอดออกมาจากแนวเมฆทึบ เห็นริมฝีปากบางซีดลงน้อยๆ และเสื้อผ้าชื้นแฉะที่แนบเนื้อตัว
" มองอะไร " ภีมรีบโยนปลาที่กินหมดไปเกินครึ่งในมือทิ้งแล้วกระเถิบหนีเมื่อเห็นสายตาของคนที่นั่งข้างๆ
" เปล่า " มาร์คัสพูดขำๆแล้วกระเถิบตาม จนภีมถอยไปติดต้นไม้ นั่นทำให้ภีมนึกไปถึงเหตุการณ์น่าอายเมื่อเช้าที่เขาถอยไปจนมุมที่กำแพงและหนีไปไหนไม่ได้แบบนี้
มาร์คัสเคลื่อนตัวมาประชิดแล้วยกมือขึ้นไล้ผิวแก้มเนียนเบาๆ หลุดขำออกมามากขึ้นเมื่อเห็นว่าภีมกำลังหลับตาปี๋พร้อมกับชันเข่าแล้วเอามือยกขึ้นกอดอกตัวเองไว้แน่น มันทำเอาเขาอยากจะแกล้งฟัดให้หนำใจจริงๆ
จุ๊บ
สัมผัสอุ่นๆแนบลงบนหน้าผากเบาๆ ก่อนที่มือใหญ่อุ่นๆจะลูบลงบนผมเขา ภีมค่อยๆลืมตาขึ้นมอง เห็นใบหน้าหล่อเหลาค่อยๆถอยห่างออกไป
" ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นก็ได้ " มาร์คัสพูดเบาๆด้วยท่าทีที่อ่อนลงจนภีมอดแปลกใจไม่ได้ เขาขยับไปเอนตัวพิงต้นไม้แล้ว เอื้อมรั้งตัวภีมที่ขืนตัวต้านเขาน้อยๆให้นอนลงบนตัก
" นาย!....."
" นอนเถอะ ตอนนี้ฉันไม่มีแรงจะทำอะไรแล้ว " ชายหนุ่มพูดเมื่อเห็นว่าภีมยังมองเขาตาแป๋วและขยับตัวขยุกขยิกไปมา เขาวางมือลงบนกลุ่มผมนุ่มชื้นน้ำแล้วลูบเบาๆ
ภีมขมวดคิ้วน้อยๆรู้สึกร้อนใบหน้ากับการกระทำแปลกๆของมาร์คัสที่เขาคิดว่ามันดูไม่เขากันกับหมอนี่ แล้วเหลือบมองใบหน้าของอีกฝ่ายเป็นครั้งสุดท้าย มาร์คัสทำเพียงแค่คลี่ยิ้มบางๆไม่พูดออะไรก่อนภีมจะรีบหลบตาหนีและนอนหันหลังให้กับเขา
__________________________________________
อาจจะตอนหน้าค่ะจะจบแล้ว ขอบคุณทุกคนนะคะที่ติดตาม
ชี้แจงเรื่องที่พิมพ์อีริคค่ะ
คือว่า วันก่อนเปิดดูเรื่อง X-men first class แล้วเกิดอาการคลั่ง
อีริค x ชาร์ล ขึ้นมาค่ะ เลยคิดจะแต่งฟิคคู่นี้ แต่แต่งไปแล้วคิดว่าคู่นี้มันน่าจะเหมาะกับ
อะไรที่น่ารักๆมากว่า เลยเอาเอนซีจากในนั้นมาใส่ในนี้แล้วแต่งต่อค่ะ
ฉะนั้นขอโทษนะคะ อ่านไปเลยอารมณ์สะดุด ><
ส่วนตอนนี้เพิ่งดู Captain America : Winter soldier
กำลังคิดอยากจะแต่ง Steve x Bucky อยู่ค่ะ มีใครสนใจมั้ยคะ 55555 ><
เอาล่ะ ยังไงก็ขอฝากตอนนี้ไว้ด้วยนะคะ
วันนี้ขอตัวไปอีกตามเคย แล้วเจอกันตอนหน้านะคะ
บ้ายบาย