“ส้ม...ส้มเดี๋ยวก่อนดิ......” มือแกร่งเดินมาดึงแขนคนตัวเล็กที่เอาแต่เดินหนี
โบกเรียกแท็กซี่จะกลับบ้าน
เรื่องของเรื่องไม่มีอะไรเลย เขาพาส้มมากินข้าว แล้วก็บังเอิญเจอกับแอน
ดาวมหาลัย ที่เขาเคยจีบอยู่ แต่ตอนนี้ก็เลิกกันแล้ว
เพราะเขาเองเป็นฝ่ายไม่ติดต่อไป ทั้งเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือ
แล้วก็บอกชัดเจนว่าเลิกกัน กับผู้หญิงคนอื่น ๆ ก็ไปเคลียร์หมดแล้ว
แต่วันนี้บังเอิญมาเจอแอนแค่นั้นเอง และแอนก็เข้ามาเกาะแขนบอกว่าคิดถึง
ว่าง ๆ ก็นัดเจอกันได้อีก ถึงแม้ความหมายของเธอจะสื่อไปอย่างหนึ่ง แต่เกรียงไกรก็ไม่ได้สนใจ
เลิกก็คือเลิก และบอกปัดเธอไปแล้ว แต่เจ้าส้มบังเอิญเข้ามาได้ยินพอดี
เลยโกรธเขาหัวฟัดหัวเหวี่ยง รีบวิ่งออกจากร้านอาหารที่เขาพามาทันที
ตอนแรกกะว่า
ถ้าส้มเดินออกมาแล้วจะทำให้แปลกใจ
ด้วยการขึ้นไปร้องเพลงบนเวทีให้ส้มสักเพลง
ส้มจะได้ประทับใจ
แต่นี่อะไร อะไรมันก็ผิดแผนไปหมด
เขาเองก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง
เรื่องที่ไปมีอะไรกับใครมันก็ไม่น่าจะใช่เรื่องเสียหาย แต่ส้มดูท่าทางจะโกรธมาก
ทั้งที่ต่อไปนี้ เกรียงไกรก็สัญญากับตัวเองแล้ว ว่าจะมีส้มคนเดียว
จะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับใครอีก
ก็ส้มเป็นคนเดียวที่ทำให้เขาได้แสดงตัวตนที่แท้จริงออกมา
ทั้งดีใจ
เสียใจ
หัวเราะ หรือ แม้กระทั่งเวลาโกรธ ที่เมื่ออยู่กับใครหลายคนต้องสร้างภาพ
แต่กับส้มเขาไม่ต้องทำ ได้เป็นตัวของตัวเองที่สุด
“อย่ามาจับ......รู้หรอกว่าเกลียด...แต่ไม่เห็นต้องพาใครมาให้รับรู้ว่าเป็นอะไรกันก็ได้นี่”
“กลัวหรือไง....กลัวว่าคนโง่ ๆ อย่างส้มจะไม่ปล่อยมือหรือไง”
น้ำเสียงที่บ่งบอกว่าโมโหสุดขีดนั้น
ทำให้เกรียงไกรหวั่นใจ
ตั้งแต่วันนั้นแล้ว ก็ไม่ได้ทะเลาะกันอีก จะมีงอน ๆ กันบ้างก็เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ
แต่เขาก็ง้อได้ทุกที แต่ดูเหมือนคราวนี้จะเรื่องใหญ่
ส้มโกรธเขาจนหัวฟัดหัวเหวี่ยง
“ไม่เอา...ส้ม...ไม่ให้ไปนะ....เราไปคุยกันที่บ้านดีกว่าเรื่องนี้” เกรียงไกรฉุดดึงมือเล็ก ๆ ให้เดินตาม
ร่างเล็กดิ้นรนจะไม่ยอมง่าย ๆ จนเขาต้องใช้วิธีเดิม ๆ
“ถ้าไม่ไป....จะจูบโชว์ตรงนี้แหละ....ว่าไงส้ม” สายสัมพันธ์รู้ว่าเกรียงไกรทำได้แน่ ๆ
คนอย่างเกรียงไกร พูดอะไรแล้วก็ทำจริง ๆ ถ้าขืนยังดื้ออยู่ ร่างสูงนั้นต้องทำอย่างที่พูดจริง ๆ แน่
“โกรธน้องแอนหรือโกรธไกร” เมื่อเข้ามานั่งในรถได้แล้ว เจ้าส้มก็ไม่พูดไม่จา นั่งนิ่งมองภาพท้องถนน ไม่ว่าเขาจะถามอะไรส้มก็เงียบ ไม่ยอมโวยวายอีก พอเขาเอื้อมมือจะแตะที่มือเล็ก ๆ นั้น
ส้มก็รีบสะบัดหนี
“ทำไมไม่ตอบล่ะ....ตกลงโกรธใคร...โกรธไกรหรือโกรธน้องแอน” เกรียงไกรถามซ้ำอีกครั้ง เมื่อยังได้คำตอบเดิมอยู่ จึงออกรถทันที
ทางที่ขับรถไปไม่ใช่ทางกลับบ้านแต่เป็นที่ไหนก็ไม่รู้ และเริ่มจะออกนอกเมืองไปเรื่อย ๆ
ร่างเล็กเริ่มเห็นท่าไม่ดี เมื่อลอบมองใบหน้าเครียดขรึมนั้น ขุนไกรไม่ง้อ ไม่เล่นเหมือนทุกที
ตั้งหน้าตั้งตา เหยียบคันเร่ง เพิ่มความเร็วขึ้นเรื่อย ๆ
“จะไปไหน........” ในที่สุดสายสัมพันธ์ก็อดที่จะถามไม่ได้ อย่างน้อยขอแค่รู้สถานที่ ที่จะไปก็ยังดี
จะได้เตรียมตัวได้ถูก
“เดี๋ยวก็รู้.......” เสียงทุ้มนั้น แสดงว่าโกรธไม่แพ้กันที่คนตัวเล็กเอาแต่นิ่งเงียบ จนสายสัมพันธ์เริ่มหวั่นใจ เขารู้มาตั้งนานแล้ว ว่าเวลาเกรียงไกรโมโห หรือโกรธขึ้นมาจริง ๆ
จะน่ากลัวสุด ๆ ไม่ว่าใครก็หยุดไม่อยู่
สถานที่ ที่จะพาไป คือที่ไหนก็ไม่รู้ หวังว่าคงไม่พาเขาไปฆ่าทิ้งหรอกนะ
ตายไม่ห่วง ห่วงคุณปู่กับคุณย่า ผูกไว้ที่สนาม ไม่รู้ป่านนี้กลายเป็นหมาปิ้งหรือยัง ยังดีที่มีต้นไม้อยู่ ไม่งั้น เจ้าหมาสองตัวต้องแย่ แน่ ๆ
เวลาไม่ถึงสองชั่วโมง
ที่ต่างคนต่างเงียบมันเร็วมาก จนถึงที่หมายที่เกรียงไกรพามา
------------ทะเล------------
************************
“ลงมาสิส้ม.......” ร่างสูงฉุดรั้งให้คนตัวเล็กที่เอาแต่เงียบลงมาสัมผัสกับบรรยากาศเงียบ ๆ และลมพัดเอื่อย เสียงคลื่นทะเล และพระอาทิตย์ตกยามเย็น คงพอทำให้เจ้าส้มของเขาอารมณ์ดีขึ้นได้บ้าง
หาดทรายทอดยาวสุดลูกหูลูกตา แสงสีส้มยามเย็น และสายลมพัดแผ่ว พอให้รู้สึกใจเย็นขึ้นบ้าง
เกรียงไกรโยนรองเท้าไว้หลังรถ และพับขากางเกงขึ้น
สายสัมพันธ์เหม่อมอง และทำตามเมื่อร่างสูงนั้นทำท่าจะถอดรองเท้าให้
จนเขาต้องรีบห้ามไว้
และเมื่อร่างสูงส่งมือมาให้ ก็ยอมตอบรับมือของอีกฝ่าย ด้วยการวางมือเล็ก ๆ นั้นลงบนฝ่ามืออบอุ่นที่ยื่นมาหา
“อารมณ์ดีขึ้นบ้างมั้ย....หือ.....” เกรียงไกรเอ่ยทำลายความเงียบ
เหม่อมองไปข้างหน้า เมื่อเดินไปตามหาดทรายลาดยาวจนสุดลูกหูลูกตา
จูงมือเล็ก ๆ นั้นให้เดินตาม
เวลานี้ ร่างเล็กบางไม่อยากจะโวยวาย ให้เสียบรรยากาศ นาน ๆ ทีอุตส่าห์ได้มาเที่ยว
พักผ่อนอย่างไม่ตั้งใจแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน
“ไม่เห็นตอบเลย....หายโกรธบ้างหรือยัง” ร่างสูงหยุดอยู่กับที่ ยืนเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย
ที่ก้มหลบสายตาที่ทอดมองลงมา
“เมื่อก่อนไกรเป็นคนไม่ดีจริง ๆ รังแกส้มตลอด......แต่ก็ไม่รู้นะว่าทำไม...ตอนนี้อยากอยู่ใกล้ ๆ ส้มทุกวัน” คำสารภาพของคนตัวโตกว่านั้นทำให้ร่างบางต้องแหงนมองขึ้น
“อย่ามองอย่างนั้นสิ........” เกรียงไกรรู้สึกเขินกับสายตาที่จ้องมองมา และต้องแก้เขินด้วยการเดินจูงมือเล็ก ๆ นั้นไปทางต่อ
“จริง ๆ แล้ว....ไม่เคยคิดเลยว่าจะทำแบบนั้นกับส้มไปได้...ไกรหมายถึงเรื่องไม่ดีนะส้ม...เรื่องนั้นน่ะ” ความหมายแฝงของคำพูด.....ทำให้ใบหน้าหวานแดงก่ำขึ้นทันที
“ตอนแรกว่าจะแค่แกล้งเล่น......แต่กลายเป็นเราเนี่ยแหละ....ที่โดนส้มแกล้งซะเอง” มืออีกข้างของร่างสูงยกขึ้นเกาหัวตัวเอง อมยิ้มกับ รู้สึกเขิน ๆ ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี
“แกล้งอะไร....ส้มไม่เคยแกล้งสักที”
ร่างบางมีสีหน้างุนงง ไม่เคยแกล้งมันซะทีมีแต่โดนแกล้ง พูดบ้าอะไรของมันวะ ขุนไกร
***************************