Dim’s Part
วันนี้ไม่มีเข้าเวร เลยกะว่าจะนั่งลุยงานเอกสารที่ต้องสรุปผลงานวิจัยเรียบเรียงเพื่อเตรียมไปประชุมที่โตเกียวในอีกไม่กี่วัน ยอมรับว่าสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมาเหนื่อยมาก เหนื่อยกายดูจะหนักหนาสาหัสมากที่สุด นอนน้อย กินข้าวไม่ตรงเวลา แถมไม่ได้ออกกำลังกาย กิจกรรมอย่างว่าแล้วใหญ่มันหมดแรงทุกทีเวลากลับมาถึงบ้าน
เรื่องที่น้องไปถ่ายแบบอะไรนั่นมาถามว่าโกรธมั้ย ยอมรับตรงๆ ว่าโกรธมาก มันไม่ใช่แค่น้องโกหก แต่น้องพาตัวเองไปเสี่ยง ทีมงานนั่นไม่ใช่คนไทย การสื่อสารอาจจะผิดพลาดคลาดเคลื่อน เข้าใจว่าทางการตลาดและทีมกฏหมายของบริษัทเก่งและรัดกุมมาก แต่ทุกอย่างมันมีช่องโหว่งเสมอ แม้ผมจะเห็นโฆษณาทุกภาพที่ออกสื่อทั้งหมด แต่ไม่มีการรับประกันเลยว่าภาพที่อยู่ในกล้องหรือภาพเบื้องหลังมันจะไม่ถูกบันทึกไว้
ผมติดต่ออาติณณ์ไปให้ช่วยประสานงานเรื่องทีมงานเพื่อจะขอซื้อทุกภาพที่ศิและพูลล์ไปถ่าย และให้เผยแพร่เฉพาะภาพที่ทางทีมงานเลือกใช้เท่านั้น ความยุ่งยากคือต้องจ้างทนายที่นู้นเพื่อเข้าไปเจรจา ทำสัญญา ซึ่งยังไม่เสร็จดีด้วยซ้ำ เพราะการส่งเอกสารจากต่างประเทศค่อนข้างต้องใช้เวลา ผมรู้สึกทะแม่งๆ ทางทนายที่เกาหลีบอกว่าดีไซน์เนอร์ควบเจ้าของห้องเสื้อนี้มีธุรกิจหลายอย่าง รวมถึงธุรกิจสีเทาด้วย แม้ธุรกิจเสื้อผ้าจะดูโปร่งใส่ดีแต่อย่างไรก็ป้องกันไว้ก่อน ไม่อยากให้น้องเสียหายทั้งนั้น แม้จะต้องใช้เงินจำนวนมากก็ตาม
เสียงกุกกักในครัวตอนเดินลงบันไดมา ทำให้รู้ว่าคนที่นอนข้างกันเมื่อคืนคงกำลังทำอาหารเช้าอยู่ ผมจำได้ว่าน้องมีงานตอนบ่าย ทำไมยังไม่ไปเตรียมตัวกันนะ
“พี่ดิม ตื่นแล้วหรอ” เสียงสดใสทักทายเมื่อสังเกตว่าผมนั่งลงที่โต๊ะทานข้าวในห้องครัว ศิดูร่าเริงกว่าปกติทั้งที่สีหน้าตรงกันข้าว แววตาหม่นหมอง ใต้ตาดำคล้ำทำเอาผมรู้สึกผิดที่เมื่อคืนพูดจาแบบนั้นออกไป ใช่อยู่ที่ผมโกรธน้องจริงๆ แต่มันไม่ได้มากมายจนยกโทษให้ไม่ได้ เพียงแต่เหนื่อยจากงานจนไม่อยากพูดคุยอะไรทั้งนั้นตอนนั้น ก็เพิ่งมาคิดได้ตอนนี้แหละที่เห็นสภาพคนรักเป็นแบบนี้
“พี่ขอกาแฟหน่อยได้มั้ยครับ”
“ศิเตรียมให้แล้ว พี่ดิมจะกินข้าวเลยมั้ย” พยักหน้าตอบพร้อมยิ้มให้เขาไปด้วย เช้านี้รู้สึกปวดหัวสงสัยไมเกรนจะมาเยือนอีกแล้ว
อาหารมากมายตรงหน้ามีแต่ของชอบผมทั้งนั้น ถุงจากวิลล่าวางเรียงรายบนเคาเตอร์ครัวทำให้ทราบว่าน้องคงไปหาซื้อของเพื่อทำอาหารเช้าให้ เขาต้องตื่นตั้งแต่กี่โมงเพื่อมาเตรียมทั้งหมดนี่ ผมเผ้ารุงรังไม่หวีสาง แว่นตาฝ่าขึ้นไม่มีกระทั่งเวลาเช็ด ไหนจะหน้ามันเยิ้มนี่อีก อยากรวบมากอดเสียจริง แต่ติดที่ว่าก็อยากให้น้องเรียนรู้ที่จะรู้สึกผิดและเติบโตขึ้นด้วยความเข้าอกเข้าใจ ‘เรา’ ให้มากขึ้น
“ทำไมกินน้อยจังล่ะ ไม่อร่อยหรอ” สีหน้าคนถามรวมถึงน้ำเสียงที่ฟังดูหมดความเชื่อมั่นในฝีมือทำอาหารอย่างเห็นได้ชัด แต่ที่กินน้อยเพราะปวดหัวจนไม่อยากกินอะไรมากกว่า
“เปล่าครับ พี่แค่รู้สึกปวดหัว สงสัยนอนน้อยหลายวัน”
“งั้นศิไปหยิบยาให้นะ วันนี้พี่ดิมไม่มีเข้าเวรใช่มั้ย” พยักหน้ารับก่อนจะยกแก้วกาแฟดำขึ้นดื่ม “เดี๋ยวศิกลับจากทำงานจะซื้อซุปเห็ดร้านที่พี่ดิมชอบมาให้นะ” รอยยิ้มที่จะพยายามทำให้สดใสแต่สายตามีแต่ความพะวงฉายชัดอยู่ในนั้น ศิกำลังพยายามทำให้ผมพอใจ และอยากให้ยกโทษให้ ในใจรู้สึกผิดมากที่ต้องให้น้องเรียนรู้มันด้วยวิธีนี้ แต่ผมก็เสียใจที่น้องโกหกผมเหมือนกัน
ศิออกไปทำงานด้วยดวงตาแดงช้ำ น้องคงแอบไปร้องไห้ขณะอาบน้ำ เขาเดินมาบอกแต่พยายามหลบหน้าไม่สบสายตาผมก่อนจะรีบคว้ากุญแจรถแล้วออกมา ยกมือลูบใบหน้าตาเองอย่างคิดไม่ตก นี่เราทำเกินไปหรือเปล่าที่ให้น้องวิตกขนาดนี้ พอแค่นี้ดีกว่า ก่อนที่หัวใจผมจะสลายไปก่อน น้ำตาน้องมันคือของต้องห้ามสำหรับผมจริงๆ
นั่งทำงานจนเวลาล่วงเลยมาถึงเย็นย่ำ แสงอาทิตย์สีส้มลอดผ่านผ้าม่านทาบบนผนังห้องนั่งเล่น โต๊ะทำงานเล็กที่เอามากางเสริมข้างโซฟาโดนอาทิตย์ที่กำลังอัสดงทาบไปด้วย ถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองนั่งทำงานมานานพอควร เมื่อสายกินยาไปแล้วนอนพักไปสองชั่วโมงก่อนจะลุยงานอย่างขมักเขม้น จนลืมจับมือถือไปเสียสนิท พอหยิบมาดูก็พบข้อความจากศิหลายสิบข้อความบอกเล่าว่าเขาทำอะไรบ้าง ถามไถ่ว่ากินยาแล้วดีขึ้นมั้ย บ่นว่าตัวเองตื่นเต้น กระทั่งวันนี้แต่งหน้าหนามาก แต่ผมก็ไม่ได้ตอบข้อความน้องเลยเพราะมัวแต่ยุ่งเรื่องของตัวเอง
หรือเป็นผมกันแน่ที่ไม่ได้ใส่ใจน้องเท่าที่ควร กี่ครั้งแล้วที่ให้เขาต้องเผชิญกับงานยาก หรืออยากได้กำลังใจเล็กน้อย แต่แล้วผมก็มาไม่เคยทันเพราะติดงานตลอดเวลา ถึงอย่างนั้นน้องก็เข้าใจผมและผ่านปัญหาตรงนั้นมาได้ด้วยภูมิคุ้มกันของน้องเอง ใครกันแน่ที่บกพร่อง ใครกันแน่ที่เป็นแฟนที่ไม่ได้เรื่อง ถ้าน้องจะกลัวว่าผมจะหัวฟัดหัวเหวี่ยงกับงานที่น้องแอบไปทำก็คงไม่ผิด เพราะเอาเข้าจริงๆ ผมไม่ได้ทำความเข้าใจน้องมากพอด้วยซ้ำ
ตู๊ดด ตู๊ดด
“เลิกงานหรือยังหนู”
[เสร็จแล้วครับ กำลังเปลี่ยนชุด ศิซื้อซุปเห็ดให้แล้วนะ]
“พี่ไม่อยากกินซุปเห็ดแล้ว”
[อะ อ้าว ทำไมล่ะครับ หรือจะเอาอย่างอื่นมั้ยศิจะซื้อไปให้]
“อยากกินศิมากกว่า”
[พะ พี่ดิม พะ พูดอะไร เอ่อ พี่น้ำหวานศิแขวนชุดไว้ตรงนี้นะ พูดลามกแบบนี้ได้แสดงว่าหายแล้วล่ะสิ] เสียงปลายสายเงียบลงกว่าเมื่อครู่ สงสัยคงเดินออกจากจุดที่คนจอแจแล้ว
“นะ รีบกลับมาเถอะ ไม่ต้องซื้อะไรหรอก แค่พาตัวเองกลับมาให้พี่กอดหน่อย” จะบอกว่าอ้อนก็ไม่เต็มปาก เพราะจริงๆ มันควรจะมีคำพูดคำจาที่หวานกว่านี้ แต่ได้เท่านี้ล่ะนะสำหรับคนอย่างอาคิรา จากที่ตอนแรกทำเป็นโกรธเขา พอเห็นน้องเสียใจเข้าหน่อยก็ต้องกลายเป็นคนง้อแทน
“อื้อ ศิก็อยากให้พี่ดิมกอดแน่ๆ เลย”
ตี๊ด สียงปลดล็อคประตูหน้าห้องทำให้รับรู้ว่าคนที่รอมาถึงแล้ว
“เอ่อพี่ดิม ศิกลับมาแล้ว”
“อื้ม พี่เห็นแล้ว”
เสื้อเชิ้ตสีชมพูคอกว้างสมัยนิยมกับกางเกงยีนส์สีขาวที่น้องเลือกสวมใส่ เหมาะกับเขาดีทีเดียว ใบหน้าแต่งแต้มด้วยเครื่องสำอาง แก้มที่แดงเปล่งปลั่งอมชมพู ผมสีน้ำตาลอ่อนที่น้องกลับมาทำอีกครั้ง นี่ผมไม่ได้สำรวจแฟนตัวเองอย่างถ้วนถี่มานานแค่ไหนแล้วนะ
“ศิซื้อของกินติดมาด้วย พี่ดิมจะกินเลยมั้ย งั้นเดี๋ยวศิไปเอาใส่จานมาให้นะ” ผู้ชายตรงหน้าวิ่งดุ๊กๆ เข้าไปในห้องครัวอย่างที่ไม่รอคำตอบจากคำถามของตัวเองด้วยซ้ำ ผมส่ายหัวกับท่าทาที่ดูเขินอาย แน่สิ เพราะผมใช้สายตาที่น้องเองก็รู้ว่ามันมีความนัยแบบไหนซ่อนอยู่ เล่นมองเหมือนถอดเสื้อผ้าเขาแบบนั้น…
ผมไม่ได้ตามน้องเข้าไปในครัวทันทีเพราะเดี๋ยวเขาจะประดักประเดิดยิ่งกว่าเดิม เลยจัดการเช็กทวิตเตอร์สำหรับงานที่น้องไปร่วม ซึ่งเป็นอีเวนท์เปิดตัวผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางแบรนด์ดังดึงดาราศิลปินที่เป็นกระแสมาร่วมงานเป็นช่วงๆ สำหรับน้องคิวโชว์ตัวสี่โมงเขาเลยเสร็จงานไว ทั้งที่ไปเตรียมตัวซ้อมคิวตั้งแต่เที่ยง พอน้องมีงานเยอะขึ้นเขาก็ไม่เคยใช้บัตรเครดิตที่ผมให้อีก ขนาดซื้อข้าวของเข้าบ้านน้องก็เอาเงินตัวเองจ่าย สรุปใครเป็นเจ้าของบ้านใครเป็นคนอาศัย ตั้งแต่น้องมาอยู่ด้วยบ้านก็มีชวิตชีวากว่าแต่ก่อนเยอะ แอบเห็นที่ระเบียงน้องชำผักสวนครัว อย่างพวกกะเพรา โหระพา ผักชี ต้นหอมไว้ด้วย สงสัยต้องโอนชื่อบ้านให้เขาแล้วล่ะถ้าจะดูแลดีกว่าผมขนาดนี้
เสียงลงบันไดตึงตังทำให้ผมหันกลับไปมอง เห็นว่าน้องกำลังลงจากชั้นบน ชุดน่ารักนั่นถูกเปลี่ยนเป็นชุดอยู่บ้านแทน หน้าตาก็ถูกเช็ดออกจนหมดเกลี้ยง
นี่แหละศิรัสเวอร์ชั่นที่จะไม่ยอมให้ใครเห็น“อ่อ ศิไปเปลี่ยนชุดน่ะ พี่ดิมกินข้าวเถอะครับ เดี๋ยวจะเย็น” น้องยังหลบสายตากันอยู่ดี ผมเดินไปหาเขาก่อนจะโอบเอวอย่างที่ชอบทำแล้วเดินเข้าครัวไป
ซุปเห็ดทรัฟเฟิ้ล และสเต็กปลาแซลม่อนสำหรับสองคนถูกจัดวางที่โต๊ะอย่างปกติ มีแต่คนตรงหน้านี่แหละที่นั่งกินข้าวไปพร้อมกับหน้าแดงหูแดง เหมือนร้อนทั้งๆ ที่อากาศก็ปกติดี หรือเขาจะไม่สบาย
ใช้หลังมืออังหน้าผากและแก้ม ปรากฏว่ามันร้อนนิดหน่อยแต่คิดว่าไม่มีไข้ “ตัวก็ไม่ร้อนนิ ทำไมหน้าแดงจังหนู เผ็ดอะไรหรือเปล่า”
“ปะ เปล่าเลย! พี่ดิม ศิแค่ร้อนเฉยๆ ซุปมันหายร้อนยากเนอะ” คนตัวเล็กเป่าซุปเห็ดใหญ่ก่อนจะกินอาหารตรงหน้ากลบเกลื่อนไป
รับประทานอาหารเสร็จน้องก็รีบเก็บจานและขอตัวขึ้นห้องนอนทันที ยังไม่ทันที่จะได้พูดคุยปรับความเข้าใจกันเลย ดูน้องลุกลี้ลุกลนชอบกล หรือเขาไปทำอะไรที่น่าตีมาอีก คราวนี้ล่ะจะโกรธจริงๆ จะเอาให้เข็ดไปเลย
ขึ้นมาห้องนอนเพื่อรอน้องออกมาจากห้องน้ำ วันนี้คนตัวเล็กใช้เวลาในนั้นมากเป็นพิเศษ คงอยากจะล้างเครื่องสำอางให้สะอาด น้องเคยบ่นสิวขึ้นเพราะขี้เกียจมาสองสามครั้งแล้วก็เข็ดอีกเพราะมันหายแล้วก็ทิ้งรอยดำนาน ทั้งที่ผมอ่านเอกสารในไอแพดก็แล้ว เล่นโซเชียลก็แล้ว เล่นเกมก็แล้ว น้องก็ยังไม่ออกมา มันชักจะยังไงๆ แล้วนะ
ก็อกๆๆๆ
“ศิ เป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมอาบน้ำนานจัง ศิครับ ตอบพี่หน่อย”
“อีกแป๊บเดียวนะพี่ดิม ใกล้จะเสร็จแล้ว” เขาพูดเสียงดังออกมาจากห้องน้ำ
“ไม่แป๊บแล้ว ออกมาเลย เดี๋ยวนี้ครับ” น้องเงียบไปอึดใจ ก่อนที่จะเปิดประตูห้องน้ำแล้วทำเอาผมตะลึงงั้นกับสภาพคนรักที่เห็นตอนนี้
หูแมว ลูกไม้ กระดิ่งคอ
“เผื่อแด๊ดดี้จะหายโกรธหนูบ้าง”“คะ ใครบอกให้ทำแบบนี้”
น้องส่ายหน้า ก่อนจะช้อนตามองผม โดยที่เขาไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังอ้อนกันอยู่ “เห็นในแอคเคาท์ทวิตเตอร์คนญี่ปุ่น แล้วคิดเอาเองว่าน่าจะดี ก็...เลยให้เฌอสั่งชุดมาให้”
จะเรียกว่าชุดก็ไม่ถูก เพราะมีแค่กางเกงที่สั้นเทียบเท่ากางเกงในชายระบายลูกไม้บางแนบเนื้อ จนเห็นทุกสัดส่วนเว้าโค้ง ที่พีคคือมีหางฟูเป็นพวงงอกจากก้นน้อง แถมยังมีกระดิ่งสายสีดำประดับบนคอระหงอย่างที่ทำให้มันดูเป็นชุดขึ้นมา ที่คาดผมแมวนี่ก็ยิ่งทำใจแทบจะวายตาย อยากงับแมวตัวนี้ให้จมเขี้ยวเดี๋ยวนี้ตอนนี้
แต่ต้องใจเย็นไว้จะให้รู้ว่าเสือหิวจนน้ำลายสอไม่ได้“อะ อืม” เสียงที่เปล่งออกไปอย่างเก็บอาการ ทำเอาแมวตรงหน้าเหมือนจะหมดความมั่นใจทั้งที่ตอนแรกก็คงมีไม่มากอยู่แล้ว แต่ก็ต้องตัดใจทำเป็นเมินแล้วเดินกลับเตียงให้ดูปกติ “มานอนได้แล้วศิ”
ผู้ชายในชุดแมวเดินมาที่เตียงด้วยใบหน้าที่หมดความมั่นใจ แต่ก็ยังใจกล้าเดินมาหยุดที่ปลายเตียง และทิ้งเข่าลงที่บนเตียงก่อนจะค่อยๆ คลานเข่าเข้ามา ย้ำครับว่าคลาน แต่แมวที่กำลังคลานกำลังก้มหน้าก้มตาอย่างไม่กล้าสู้หน้านัก สงสารแต่ก็อยากรู้ว่าน้องจะทำอะไรต่อ ไปศึกษาเรื่องพวกนี้มาแค่ไหน
แมวตัวใหญ่กำลังนั่งทับหน้าขาและใช้บั้นท้ายที่มีนางฟูนุ่มนิ่มบดเบียดส่วนนั้น บอกตามตรงว่าเป็นความรู้สึกแปลกใหม่ที่ทำให้พลังที่ซุกซ่อนอยู่สูบฉีดเลือดในร่างกายให้พลุ่งพล่านอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนในชีวิต ก็เพิ่งจะเคยโดนแมวอ้อนก็วันนี้
มือเรียวจัดการถลกเสื้อนอนสีเทาของผมก่อนจะถอดออกจากตัว ดีที่ยังใส่คอนแท็กเลนส์อยู่เลยเห็นทุกการกระทำของแมวยั่วสวาทเด่นชัดทุกท่วงท่า น้องสบตากับผมด้วยความกล้าที่มีทั้งหมด ก่อนที่เขาจะโน้มตัวมากดจุมพิตที่จมูกของผมเบาๆ และใช้จมูกไล้ตามกรอบหน้า ลำคอ และหน้าอก น้องชะงักเล็กน้อยก่อนที่จะใช้ลิ้นเย็นชื้นเลียที่ตุ่มไต่สีน้ำตาลเข้มบนหน้าอก ทำเอาผมสะดุ้งโหย่งเพราะไม่คิดว่าน้องจะทำแบบนี้ ปกติหน้าที่นี้ต้องเป็นผมทำให้เขา
“ฮ่าาา” ส่งเสียงที่กลั้นไม่อยู่ออกมาจากลำคอ ความรู้สึกน้องเป็นอย่างนี้สินะ เสียวจนเกร็งหน้าท้องไปหมดแล้ว
“ไหนว่าจะกอดกันไง” แม้ปากเขาจะขยับแต่ลิ้นกลับโลมเลียไปทั่วหน้าท้อง น้องไม่รีรอคำตอบจากผม มือเล็กไวกว่าที่ผมคิดเขาถอดกางเกงนอนขาสั้นของผมออกจากตัว ท่อนกายกลางลำตัวผงกขึ้นมาอย่างคนรู้สึกมาก ใช่ ผมไม่ได้ใส่กางเกงในนอนมานานแล้วเพราะอยากนอนสบายๆ
“อ๊ะ” ริมฝีปากบางครอบลงมาที่ท่อนกลางกายอย่างไม่รีบร้อน ก็ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยทำ แต่ครั้งนี้ดูไป...ศึกษามาดี ไม่มีท่าทีเคอะเขินเอียงอายและหวาดกลัวเหมือนครั้งก่อนหน้า ไอ้ที่เก๊กๆ อยู่ก็คือหมดสภาพไปแล้ว ความนุ่มนิ่มของริมฝีปากและเรียวลิ้นที่ตวัดไปมาตรงจุดที่ไวต่อสัมผัส ทำเอาท้องน้อยปั่นป่วน เกร็งหน้าขา จนต้องระบายออกโดยการขย้ำผ้าปูเตียง
“ฮื้อ ศิช้าหน่อย”
“อ้อออกอ่าอยากใอ้ออดไอ่ใอ่อ่อ” (ก็บอกว่าอยากให้กอดไม่ใช่หรอ)
หัวทุยผงกขึ้นลงจนหูแมวกระดุ๊กกระดิ๊กไปมา พวงหางส่ายสะบัดปัดป่ายตามไปด้วย ช่างเป็นภาพที่จะบันทึกไว้ในซีรีบรัมไม่รู้ลืมตลอดชีวิต
ศิหยุดกิจกรรมใช้ปาก ก่อนยกยิ้มอย่างคนคุมเกม น้องดึงเนกไทด์สีดำออกจากขอบกางเกงผ้าลูกไม้ตัวบางและจัดการผูกข้อมือผมไว้ “ศิกำลังจะไถ่โทษที่ทำให้พี่ดิมโกรธ...นะครับ”
ไม่ได้ตอบรับอะไรได้แต่ยิ้มบางๆ รอดูว่าแมวตัวนี้จะเตรียมอะไรมาบ้าง ร่างบางล้วงซองฟอยล์ออกจากกางเกงในอีกแล้ว นี่เขาซ่อนของเล่นไว้เยอะเหมือนกัน ปากบางฉีกซองอย่างช้าๆ และจัดการสวมเข้ากับส่วนนั้นของผมอย่างค่อยเป็นค่อยไป ก่อนจะลุกไปหยิบเจลที่หัวเตียง และมานั่งคุกเข่าหันหลังให้เอนตัวไปข้างเล็กน้อย บีบเจลและทาทาบไปที่ส่วนนั้นโดยไม่ได้ถอดหางฟูออก นิ้วเรียวหมุนวนรอบจุดนั้น ยั่วยวนและโคตรเซ็กซี่จนอยากจะคว้าตัวน้องมากอดแรงๆ แต่ห้ามใจไว้อยู่
แมวสุดยั่วคล่อมหน้าขา จับท่อนเอ็นที่แข็งขืนตั้งชั้น ก่อนจะกดก้นลงมาครอบครองมันไว้
“อื้ออออออ” คนด้านบนเปล่งเสียงครางในลำคอ หัวนมสีอ่อนชูชันตรงหน้าทำให้รู้ว่าน้องรู้สึกมากพอกัน ไม่นับส่วนนั้นของน้องที่แข็งตัวเช่นกัน
“แน่นจังครับน้องแมว” ศิไม่ตอบอะไรแต่เริ่มขยับขึ้นลง มือบางจับที่เอวของผมก่อนจะเริ่มใช้แรงมากขึ้น อยากคว้าคนตรงหน้ามาจูบแทบขาดใจแต่มือที่โดนมัดไม่อำนวย คนตัวเล็กเขี่ยตุ่มไตที่หน้าอกของผมอย่างแรง ก่อนจะใช้ลิ้นกับมัน ในขณะที่เอวก็ทำหน้าที่ได้อย่างดี เรียกว่าดีมากทีเดียว นี่ไปดูมากี่กระบวนท่าวะเมียผม
“ศิขอโทษที่ทำให้พี่ดิมโกรธ” ริมฝีปากที่ยังชิดกันพูดขึ้นเบาๆ พร้อมกับลมหายใจไม่สม่ำเสมอ “ศิรู้ แฮ่ก ว่าพี่ดิม อื้อ เป็นห่วง” น้องเด้งตัวเป็นจังหวะแรงขึ้น มือเล็กหาที่ยึดโดยจับหัวไหล่ผมไว้แน่น “แต่พี่ดิมไม่ อื้อออ เห็นต้องทำตัวน่ารัก แฮ่กๆ กับหมอคนนั้นด้วย อื้อออ เลย”
“พี่เปล่า ฮ่าาา”
“ไม่จริง อื้อ อื้อ อื้อ” น้องกระแทกตัวอย่างแรงลงมาเหมือนจะลงโทษผมกลายๆ “อื้อ อื้อ คนใจร้าย แฮ่กๆ” คนด้านบนกระตุกเกร็งช่องทางรักบีบรัดท่อนกลางกายยี่กระชั่น น้ำสีขาวขุ่นเลอะเปื้อนหน้าท้องเรื่อยมาจนหน้าอกผม เหงื่อชื้นตามไรผมและลำคอระหง เป็นวันที่รู้สึกแปลกใหม่อย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนว่าการที่คนรักทำอะไรแบบนี้ให้มันจะกระตุ้นความต้องการในตัวเองมากขนาดนี้ อดรนทนไม่ไหวกระชากเนกไทด์ออกและรีบพลิกตัวแมวที่ควรต้องโดนเสือดูแลบ้างแล้ว
ศิหอบหายใจรุนแรงเหนื่อยอ่อนจากการใช้แรงมหาศาล ไหนจะความกล้าบ้าบิ่นทำไปแบบไม่กลัวอายหลังจากคืนนี้ ผมโน้มตัวไปเกลี่ยผมที่ปรกหน้าน้องออก สายตาฉ่ำหวานมองมาที่ผม และจับมือผมไว้ “ศิขอโทษนะ จะไม่โกหกพี่ดิมอีกแล้วนะครับ ไม่เอาแล้ว โดนพี่ดิมเมินจนคิดว่า...เบื่อศิแล้ว”
“เลยใส่ชุดแมวนี่มา?” ศิพยักหน้ารับ โถ่เด็กน้อยของพี่ แต่ไม่ได้รู้สึกผิดอะไรหรอกนะ เพราะไม่อย่างนั้นคงไม่ได้เชยชมแมวน้อยตัวนี้แน่นอน
“พี่ไม่ได้เมิน แค่พี่เหนื่อยๆ จากงานเท่านั้นเอง เรื่องงานนั่นพี่ไม่สบายใจเลยนะ กลัวศิจะโดนหลอกเข้า สมัยนี้ไว้ใจใครได้ที่ไหน” คนมือไวพูดไปก็ไล้ไปตามเนื้อตัวคนใต้ร่างไปด้วย จนมาสะดุดที่หน้าท้อง ปกติมันจะมีไรขนอ่อนแต่ตอนนี้ไม่มี น้องโกนมันออกหรือไง เพิ่งสังเกตว่าภายใต้ผ้าลูกไม้สีอ่อนขนตรงส่วนนั้นถูกกำจัดอย่างดี ไม่ใช่แต่โกนหรือตัด “ศิไปแว็กซ์ขนมาหรอ”
“ฮะ อะ ก็อื้อ ทางลูกค้าให้ทำ”
“เดี๋ยวนะ งั้นก็ต้องแก้ผ้าต่อหน้าคนทำน่ะสิ”
“พี่ดิม~~”
“น้องแมวตัวดี บอกลาน้องศิเขาหน่อยนะ ฟ้าไม่สว่างอย่าคิดว่าจะได้นอน”
ผมเริ่มขยับอย่างไม่ค่อยเป็นไม่ค่อยไป สวนสะโพกเข้าหาแมวน้อยตรงหน้าด้วยแรงที่อดกลั้นจากการกระทำของเขาก่อนหน้า เอวบางถูกรั้งเข้ามาใกล้กันมากขึ้น กางเกงในมีหางนี่ทำเอาเกะกะใช้ได้ แต่นั่นก็ไม่ได้ขัดขวางการทำหน้าที่เอวแข็งแรงของผมได้ ถอนกายเกือบสุดแล้วกระแทกเข้าไปในตัวเขาอย่างแรงหลายครั้ง
“นี่สำหรับที่ให้คนทั้งเกาหลีเห็นต้นขา”
“อ๊ะ”
“นี่สำหรับให้คนทั้งกองเป็นเรือนร่าง”
“อื้อ”
“นี่สำหรับไปแก้ผ้าต่อหน้าคนอื่น”
“อ๊ะ ฮื้อออ แฮ่ก หนูจุก”
“แค่จุกอย่างเดียวหรอครับ” มือเล็กปัดป่ายหาที่ยัดเหนี่ยว ก่อนที่เราจะประสานมือกันทั้งสองข้างและสะโพกผมทำหน้าที่โยกขยับถี่ระรัว น้องร่างกายกระตุกอีกครั้ง และน้ำขุ่นก็พุ่งกระจายเต็มหน้าท้องของเขาและกระเซ็นมาโดนหน้าอกผม ไม่รอช้าตัวเองก็ตามน้องไปติดๆ แต่ปลดปล่อยในอุปกรณ์ป้องกัน เพราะไม่งั้นยกเดียวก็คงเลอะเทอะไปต่อไหน เดี๋ยวจะไม่มีแรงมาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนกันเสียเปล่าๆ
“ฮะ แฮ่กๆ” เสียงผมเอง ยังไม่เหนื่อยแค่มันตื่นเต้นจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ กับสภาพแมวตรงหน้า
“ฮะ ต่อไปก่อนรับงานศิจะบอกพี่ดิมคนแรกเลย ไม่เอาแล้วแบบนี้”
“แต่พี่อยากเอา”ดึงเครื่องป้องกันอันเก่าทิ้งลงถังขยะข้างหัวเตียง ก่อนจะสวมอันใหม่ไฉไลให้ตัวเองอย่างรีบร้อน มือสั่นพัลวัลไปหมด นี่ก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองก็ชื่นชอบเซ็กส์แบบคอสเพลย์แบบนี้ ไว้ต้องพรีออร์เดอร์จากญี่ปุ่นมาบ่อยๆ เสียแล้ว ตื่นเต้นเหมือนได้กลับไปเป็นเด็กวัยคนองอีกครั้งเลย ผับผ่า
“อื้อๆๆๆ”
“ทำไงดีกางเกงในแมวน้องขาดแล้วอะ”
“ก็ทำแรงขนาดนี้!!”
“ก็แมวน่ารัดเอ้ยน่ารักขนาดนี้ พี่ยั้งตัวเองเท่านี้ก็ดีแล้นะน้องเหมียว”
“อ๊ะๆ ฮ่าาา ช้าหน่อยแด๊ดหนูไม่ไหว”
ก็ไม่รู้ว่าพี่ดิมโกรธศิมากแค่ไหน ถ้านับรวมถุงยางที่หมดไปก็เกือบสองกล่องเท่านั้นเอง
จุดจบของเด็กขี้โกหก
มันมักจะเจ็บก้นเสมอ
ก่อนจะหลับไปก็เคลียร์กับน้องเรื่องหมอเอ็กซ์เทิร์นคนนั้น เล่าให้น้องฟังว่าเธอเป็นนักเขียนนิยายวายและอยากจะขอคำปรึกษาเวลาที่ผู้ชายมีเซ็กส์ในเรื่องของความรู้สึก อีกอย่างเธอก็เป็นอีกคนที่รู้ว่าผมเป็นแฟนกับศิจากการสังเกตตลอดระยะเวลาที่มาทำงานที่โรงพยาบาล น้องมักจะมาหาผมหรือไม่ก็มารับเวลาเลิกงานบ้าง ผมก็ตอบคำถามน้องเขาปนเขิน แต่ก็ดีกว่าจะให้เขียนความเข้าใจผิดๆ ให้คนอ่านเข้าใจผิดตามไปด้วย เป็นหมอด้วยอย่างน้อยการให้ความรู้กับประชาชนคนอ่านกลุ่มเล็กๆ ก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ควรทำให้ถูกต้อง
น้องได้ฟังก็เข้าใจ พยักหน้าหงึกๆ ก่อนจะซุกตัวเข้ามาให้แนบอกของผมแล้วหลับไปเลย เกือบตีห้ากว่ากิจกรรมอย่างว่าจะจบลง เราทั้งสองคนเลอะเทอะไปตามๆ กัน ทำให้ต้องพากันอาบน้ำใหม่ ความผิดหลักๆ คือผมเองเลยต้องจัดการอาบน้ำแต่งตัวให้ศิ แถมต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนใหม่อีก เช้าอย่างที่บอกน้องไปจริงๆ นั่นแหละ ดีที่วันนี้เข้าเวรกลางคืนไม่งั้นก็คงเบลอไปทำงานแน่
เบลอเพราะเมคเลิฟทั้งคืน แฮะๆ
มันไม่ใช่ทุกปัญหาของงคู่รักจะจบลงหลังจากเมคเลิฟได้ ปัญหาตรงนั้นมันก็ยังไม่ได้รับการแก้ไข มันยังอยู่เหมือนเดิม การแก้ปัญหาที่แท้จริงหรือการที่เราควรจะพูดคุย ปรับความเข้าใจ ปรับทัศนคติที่มีต่อกัน ปัญหาความรักมันไม่ได้เกิดแค่ใครคนใดคนหนึ่งแต่มันเกิดขึ้นเพราะต่างคนต่างไม่เข้าใจกันมากพอ ให้ความเคารพกันไม่มากพอ ให้เกียรติกันไม่มากพอ และซื่อสัตย์ต่อกันไม่มากพอ ฉะนั้น การเอาใจเขามาใส่ใจเราในทุกเรื่องคือความรักที่แท้จริง
ผมและน้องโตกันขึ้นไปอีกขั้นในความรักของเรา
ขอให้ความรักของผมตื่นขึ้นมาแบบสบายดี ไม่บ่นเจ็บก้น และต่อว่าผมก็พอ ไม่งั้นอดอีกหลายวัน--------------------END Day 1-3-----------------
จะว่าพี่ดิมดุก็ไม่ได้ป่ะ ก็น้องเป็นแมวยั่วเยแบบนี้อะะะะะะะะะะะ
อิตาบ้าๆๆๆๆๆ
ไปให้สุดจ้าน้องงง แมวมาแล้วต่อไปเป็นอะไรดี เมดงี้ พยาบาลงี้ นักศึกษางี้
แงแงแงแง คูมหมอของประชาชนชอบอะยัยแบบนี้
ตอนพิเศษอีก 3 ตอนคิดว่าเจอกันอีกทีในเล่มเนาะ เยิ้บบบขอบคุณที่ติดตามนะฮะ จะดีไปอีกถ้าจะอุดหนุนนิยายจากนิเขียนตัวเร้กๆ ไปโดย
5555555555555555555555
เจอกันใหม่งับบบบบบบบบบบบ
บี
#กาลครั้งที่รักคุณ
#youaremyday1
@mifengbeexx