•25•
เซ็งเลย
ไม่ได้ตั้งใจทำให้น้องร้องไห้มันสุดวิสัยจริงๆ เชื่อเหอะ เหมือนจะเห็นลางดีลอยมาเวลาฟัดปายแล้วบางทีน้องมันก็ยอม แต่บางทีก็ดิ้นเล็กๆ ไม่ได้ขัดขืนหรือมีทีท่ารังเกียจเราอะไรขนาดนั้น ไม่ได้กระหายขนาดจะจับทำให้ได้ แต่เห็นแล้วมันมันเขี้ยว อยากกัดอยากฟัดอ่ะเข้าใจป่ะ แต่ถ้าเลยเถิดไปถึงขั้นนั้นได้ก็ดี
บอกอีกครั้งว่าไม่ได้หื่น มันเป็นอารมณ์ทั่วไปของชายหนุ่มวัยกำหนัด
แค่อยากให้เข้าใจว่าเด็กมันน่ารัก อดใจไม่ไหวอยากจับขยำอยู่ร่ำไป ปายโคตรแมว ตอนแรกว่าเหมือนสำลีแค่ลักษณะหน้าตา ตอนนี้มาเป็นนิสัยแมวเต็มๆ ขี้อ้อนขี้อ่อยไม่รู้ตัว พอว่าก็แยกเขี้ยวขู่ฟ่อๆ พอฟัดจนพอควรก็กางเล็บข่วน พอไม่สนใจก็จะเข้ามาคลอเคลีย อย่างเมื่อคืนที่น้องมันมาซุกนอนด้วยที่โซฟา
โอ๊ย ใจกู
ไม่โกรธที่ปายจะโกรธเลย รู้ว่าตัวเองผิดเต็มๆ แต่ไม่คิดว่าน้องมันจะออกหาขนาดนั้น รู้ว่ารักแมวเราแต่ไม่คิดว่าจะรักจนร้องไห้ฟูมฟายกับเรื่องแบบนี้ได้ ยิ่งรู้สึกผิดกว่าเก่า
ปายดูรักแมวมากกว่าเราอีก
ไม่น้อยใจหรอก ใครเค้าน้อยใจเพราะเรื่องแบบนี้กัน จริงๆ นะเชื่อเหอะ
วันเสาร์แม่โทรมาหาตอนเช้าตรู่ว่าให้เอาสีเทาไปด้วย เห็นปายหลับอยู่เลยไม่กล้าปลุก ปรากฏว่ากลายเป็นความคิดที่ผิดมหันต์ รีบไปด้วยเพราะแม่เร่ง บอกว่าจะใช้งานเลยต้องทำตามคำสั่งคุณนายไป
พอไปถึงบ้าน พาสีเทาไปให้แม่ปล่อยแม่เล่นกับแมวสักพักก็คุยเปิดใจ บอกแม่ไปว่ามีคนที่อยากอยู่ด้วยแล้ว
“ใครน่ะ น่ารักกว่านวลเทามั้ย”
“น่ารักเหมือนสำลีเลยแม่”
“ต๊าย จริงหรอ ไหนเอามาให้แม่ดูหน่อย”
“แต่เป็นผู้ชายนะแม่...”
“...” แม่เงียบไปพักใหญ่ๆ ลูบตัวสีเทาไปพลางๆ สายตาเหม่อมองออกไปผ่านช่องไหล่ ไม่ได้สบตากัน ตอนแรกก็ใจดิ่งวูบ แม่เราเป็นคนสบายๆ ไม่คิดว่าแม่จะเครียดกับเรื่องแบบนี้ แต่ถ้าแม่จะโกรธก็เข้าใจ เพราะผู้ชายรักกันเป็นอะไรที่ค่อนข้างจะไม่มั่นคง ไม่ถาวร รู้ว่าถ้าแม่จะโกรธก็คงโกรธเพราะเป็นห่วงมากกว่า
“แม่ไม่ต้องห่วงหรอกนะ ถึงจะเป็นเด็กผู้ชายแต่เค้าก็น่ารักมากๆ เลยแม่”
“...”
“ครามไม่เคยคิดอยากจะอยู่กับใครเท่าเค้ามาก่อนเลย”
“...”
ครั้นพอจะหยิบมือถือมาเปิดรูปน้องให้ดูก็พบว่าหน้าจอมันดับมืด ลืมชาร์ตแบตก่อนมาซะงั้น เลยอดให้แม่ดูเจ้าสปายเลย ไม่เป็นไร ยังไงวันหลังค่อยพามาหาก็ได้
“ใช่คนที่เคยพูดถึงอยู่บ่อยๆ ไหม” แม่เริ่มเปิดปากถามบ้างแล้ว
“ใช่แล้ว”
“ไม่คิดว่าจะเป็นผู้ชายนะ”
“แต่น่ารักนะแม่ น่ารักทั้งนิสัยทั้งหน้าตาจนครามไม่สนเรื่องเพศเลย” เราติดต่อกับแม่ผ่านทางไลน์บ่อยๆ เคยเล่าเรื่องปายให้แม่ฟังก็เยอะ บอกว่าน้องเจอสีเทา ช่วงนี้มาที่หอบ่อยๆ น้องน่ารักงู้นงี้ ไม่แปลกถ้าแม่จะรู้ แต่ก็นั่นแหละ ไม่เคยบอกว่าปายเป็นผู้ชาย
“คิดดีแล้วหรอ ไม่ใช่ว่าหลงชั่ววูบนะ”
“คิดดีแล้วถึงได้มาบอกแม่นี่ไง”
“ไม่ได้เอาลูกเค้ามาหลอกทำอะไรใช่มั้ย”
“แม่ นี่ครามลูกแม่นะ คิดงั้นได้ไง”
“ไม่รู้นี่ แกดูไว้ใจไม่ได้ แม่กลัวน้องเค้าเป็นอะไรไป”
แม่พูดอย่างนี้ก็แสดงว่าไม่ค้านเรื่องผมกับปายแล้ว อย่างที่คิด แม่ไม่ค่อยมายุ่มย่ามชีวิตผมมากนัก เห็นทำดีก็ชม อะไรไม่ดีก็จะติสอน แต่เรื่องหัวใจแม่ไม่เคยยื่นมือเข้ามายุ่ง มีแค่เป็นห่วงตามประสาแม่ๆ
“ครามดูแลน้องดีจะตาย ฝุ่นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม”
แม่หัวเราะหึก่อนตอบ “ดีแล้ว อย่าไปแกล้งน้องเค้าล่ะ ว่างๆ ก็พาน้องมาหาแม่ด้วย”
เรารับคำ ปล่อยแม่เล่นกับสีเทาไปส่วนเราพ่อก็เรียกไปช่วยจัดสวน พ่อซื้อต้นไม้มาใหม่ซะเยอะเลยพอบอกว่าจะกลับบ้าน กะใช้แรงงานให้คุ้มทีเดียว ระหว่างช่วยพ่อก็บอกเรื่องปายให้ฟัง พ่อแค่พูดว่าไม่คิดว่าจะเป็นเด็กผู้ชาย ชิวกว่าแม่อีก แต่ก็นั่นแหละ กว่าจะช่วยพ่อเสร็จก็ปาไปครึ่งค่อนวัน จากนั้นก็ไปเป็นธุระให้แม่ซื้ออาหารเข้าบ้านให้อีก
ยุ่งทั้งวัน ไม่ได้โทรหาปาย ไม่ได้แวะชาร์ตแบตมือถือเลย ยอมรับว่าไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นเลยไม่ได้ใส่ใจกับโทรศัพท์ที่ใช้งานไม่ได้ กว่าจะรู้ตัวว่าน้องตามหาสีเทาซะวุ่นก็ตอนกลับมาชาร์ตแบตแล้วเจอสายไม่ได้รับเป็นร้อย กำลังจะกดโทรกลับปายก็กลับมาพอดี
โดนน้องโกรธเป็นชุดเลย ไม่เคยเห็นปายร้องไห้หนักขนาดนี้มาก่อน ไม่เคยเจอน้องด่าคำหยาบใส่ด้วย ปายเป็นเด็กดีมาตลอด พอน้องด่าคำหยาบใส่ยิ่งรู้สึกผิดเลยที่ทำน้องดีแตก
ได้แต่สำนึกผิดโดยดุษฏี
น้องไม่ให้กอดก็พยายามไม่กอด นอนจ้องแผ่นหลังเล็กๆ นั่นรอว่าเมื่อไหร่น้องจะกลิ้งมากอดเราเองแต่ก็ไม่ ปายแค่พลิกตัวนอนหงายเท่านั้น จนทนไม่ไหว แอบจับมือน้องตอนหลับ ได้แค่นี้ก็เอาวะ...ไม่ได้กอดนะแค่จับมือเอง
แต่ปรากฏว่าตอนเช้าน้องไม่ให้เข้าใกล้เลยนี่ดิ เอารูปสีเทามาล่อก็ไม่ได้ผล ปายแค่ชะโงกมามองแล้วหันกลับไปเล่นมือถือตามเดิม ที่พอมารู้ทีหลังว่าคุยกับไอ้ฟุ้ง เพราะไอ้ฟุ้งทักมาเยาะเย้ย รู้ว่าน้องมันโกรธเราก็เอาใหญ่ โคตรเหี้ย ควรบัญญัติคำว่าฟุ้งเป็นคำด่าได้แล้ว เวร
แล้วยังมีหน้ามาทำให้น้องติดเกมอีก เลยส่งแชทไปแซะมัน
:เลี้ยงเด็กเก่งนักนี่ เอาไว้ใช้กับผัวมึงที่บ้านเหอะ อย่ามายุ่งกับเด็กกู
::อะไร ใครเลี้ยงเด็ก?
:: กูเลี้ยงแมวเก่งต่างหาก มึงอ่ะกาก
ด่าเหี้ยยังสงสารเหี้ยเลยโว้ย ไอ้เวรฟุ้ง
พอน้องมีคนคุยด้วยเล่นด้วยก็เมินเราไปเสียเฉย มันเขี้ยวเลยแอบจุ๊บเหม่งปายทีนึงให้ชื่นใจก่อนไปรับสีเทา ทีนี้พอมีสีเทาปายไม่สนใจเราหนักกว่าเดิมอีก สงสารตัวเองแต่ทำไงได้ ทำตัวเองแท้ๆ
สีเทาเดินไปไหนปายก็จะเดินตามไปนั่งข้างๆ พอเห็นอย่างนั้นยิ่งอยากเอ็นดูน้อง โถ...ต้องใจเสียขนาดไหนเนี่ยถึงเป็นได้ขนาดนี้ ไม่น่าเลยกู ขนาดจะให้ปายไปกินข้าวน้องยังต้องรอสีเทาไปกินก่อนถึงจะตามมากินข้าวด้วยเนี่ย เอาแต่ตัวติดกับแมวเทาทันทีจนกระทั่งตอนนอนก็ยังนอนกอดมัน อิจฉาแมวอีกแล้วแต่ทำอะไรไม่ได้
จะว่าไป เราเองก็มองตามน้องตาละห้อยเหมือนกัน เข้าใกล้ไม่ได้อีกนะเดี๋ยวปายโกรธ โคตรทรมานอ่ะบอกเลย ห่างแค่เพียงเอื้อมมือแต่มันคือแสนไกลอ่ะ ทำอะไรไม่ได้ได้แต่มอง
แมวเทาก็นอนให้น้องกอด ทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไรอีก
กระทั่งปิดไฟนอนแล้วน้องก็ยังไม่ให้เข้าใกล้ นอนมองน้องเพลินๆ ก็กลัวว่าจะไปคว้าคนตัวเล็กมากอดแล้วจะโดนโกรธเอาอีก เลยตัดสินใจไปนอนโซฟาแทน ไม่คิดว่าพอเคลิ้มๆ ใกล้จะหลับแล้วน้องดันมามุดๆ นอนด้วยเสียงั้น
เหนื่อยไหมเรื่องหัวใจ
แทบบ้าแล้ว ทำไมน่ารักไม่หยุดขนาดนี้ หัวใจเต้นแรงอย่างบ้าคลั่งจนจะบ้าตาย อยากจับฟัดให้หนำใจถ้าไม่ติดว่ากลัวปายจะโกรธอีกคงลงเขี้ยวกัดไปแล้วหลายๆ รอบ
คิดอย่างนั้นแต่ที่ทำก็ได้แต่เอาน้องมานอนบนเตียงพร้อมกอดแน่นๆ
พอเช้า ปายดูเหมือนจะหายโกรธแล้ว ยอมให้เข้าใกล้แต่พอเข้าไปกอดน้องจะบิดตัวหนีแต่ไม่ได้ว่า ดีใจที่ปายหายโกรธเร็ว อันที่จริงดูเป็นคนโกรธคนยาก เลยนึกว่าถ้าโกรธทีจะโกรธนานกว่านี้เสียอีก แต่ก็ดีแล้ว จะได้กลับมานอนกอดน้องเร็วๆ เสียที
เราไปส่งปายตามปกติก่อนไปทำงาน โรงพยาบาลสัตว์เล็กเหมือนปกติทุกวัน แต่วันนี้มีน้องหมาพันธุ์ใหญ่ขี้กลัวเข็มอยู่ตัวนึง ที่ดิ้นไปทั่วโรงพยาบาล ทำให้ต้องออกแรงจับไว้ให้พี่หมอฉีดยา เนี่ยตัวโตมันสะดวกดีก็ตรงนี้
พอบ่ายก็ส่งข้อความไปหาน้องถามว่ากินข้าวหรือยัง ปายตอบกลับมาแค่อืม ก็ยังดีวะ บอกน้องว่าตอนเย็นจะไปรับสักห้าโมง น้องก็อืมเหมือนเดิม ไม่เป็นไรค่อยๆ ง้อไปก็ได้
เห็นปายในอารมณ์อื่นก็น่าดูไปอีกแบบ หน้าตาบึ้งตึงดูน่ารักในคนละอารมณ์ ถึงอย่างนั้นก็คิดถึงรอยยิ้มหวานๆ ของปายเหมือนกัน
พอถึงเวลาเลิกงานก็เก็บข้าวของบึ่งรถไปหาปายทันที
ปายเลิกเรียนแล้ว และคิดว่าน้องน่าจะนั่งเล่นอยู่ที่ม้าหินอ่อนที่ประจำ วันนี้หาที่จอดรถได้เลยไม่ได้โทรบอกให้น้องมาหา เป็นเราที่ลงไปรับเอง อีกใจหนึ่งก็คือต้องการไปง้อสปายด้วย
“...จริงๆ เด็กๆมันก็น่ารักดีเนอะ”
“อืม ตัวนิดเดียวเอง”
“เห็นแล้วอยากเลี้ยงลูกบ้างเลย”
“มึงก็เลี้ยงดิ”
“แต่คงเป็นไปไม่ได้อ่ะ”
“อ่าว ทำไมวะ”
พอใกล้ถึงก็ได้ยินเสียงปายกับเพื่อนมัน ดังออกมาจากที่ประจำ เฮ้ยๆ อะไรคุยเรื่องลูกอะไร ปายโกรธเราทีนี่อยากหนีไปมีลูกเลยหรอ เรารีบสาวเท้าเดินให้ไวกว่าเดิม
“ก็มีไม่ได้แล้ว แต่ถ้าจะให้ไปรับมาเลี้ยงก็กลัวลำบากอีก...”
“ไม่ลองปรึกษาพี่ครามดูก่อนล่ะ”
เราโผล่พรวดเข้าไป เป็นเหตุให้บทสนทนาตรงหน้าชะงัก
“ปาย...”
“อ้าว พี่คราม...”
“อยากมีลูกอะไร?” นี่ใจเสียนะเนี่ยเอาจริง จู่ๆ ก็ได้ยินน้องมาคุยเรื่องเด็กเรื่องลูกกับเพื่อนเนี่ย ละกูมีมดลูกที่ไหน...ไม่ใช่สิโว้ย
น้องขยับตัวหันหน้ามาทางเรา และนั่นทำให้ได้เห็นสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆ ในอ้อมกอดของปาย
“พี่ครามดูนี่ดิ น่ารักเนอะ”
“...”
“เห็นแล้วอยากเลี้ยงเลย...”
“....”
“แต่คุณเกรย์ทำหมันแล้วเลยมีลูกไม่ได้”
น้องชูลูกแมวในมือให้ดูก่อนเอามาซุกไว้ในอ้อมกอดเล็กๆ นั่น มือเล็กลูบลูกแมวสามสีอย่างแผ่วเบา
ที่บอกคุยกันเรื่องลูกเรื่องเด็กนี่คุยกันเรื่องลูกแมวเรอะ โอย ใจกูจะวาย
“พี่คราม?”
“อ่ะ...อืม เอามาจากไหนล่ะนั่น” พอน้องเห็นเราชะงักไปครู่ใหญ่ก็ร้องเรียกชื่อดึงสติ
“เมลล์ไปเจอมาข้างโรงอาหารคณะอ่ะ ไม่รู้แม่แมวมันไปไหน”
“หืม แล้วมันอยู่ตัวเดียวหรอ”
“อือ กลัวว่าจะโดนหมากัดเอาเลยเอามานั่งด้วย”
เราเอื้อมมือไปลูบลูกแมวตัวเล็กๆ นั่นอย่างเบามือ สังเกตเห็นว่าตาแตกจนมีสีตาแล้ว น่าจะอายุสองเดือนได้แล้วมั้ง แต่ถ้าแม่แมวไม่อยู่อย่างนี้ก็น่าจะลำบาก เผลอๆ อาจจะไปโดนกัดอยู่ที่ไหนสักที่ ตัวแค่นี้น่าจะไม่หย่านมด้วยซ้ำ
“ที่หอเลี้ยงไม่ได้หรอกนะ สีเทาไม่ชอบแมวแปลกหน้า” นี่พูดจริงๆ นะไม่ได้อยากปัดภาระอะไรเลย เห็นลูกแมวตัวเล็กๆ แล้วก็อดเห็นใจอยากช่วยดูมันอยู่เหมือนกัน แต่ไอ้เทามันเกเร ไม่เป็นมิตรกับสัตว์โลกทุกชนิดเลยเอามาช่วยเลี้ยงไม่ได้
“อือ...ปายก็คิดว่างั้น เลยตกลงกับเมลล์ว่าจะให้เมลล์ช่วยเลี้ยงก่อน”
“ก็ตามนั้นแหละ” ไอ้เมลล์พูดขึ้นหลังจากที่เห็นมันนั่งจ้องเราเงียบๆ มานาน
“งั้นก็ดูแลให้ดีล่ะ ยิ่งเป็นลูกแมวไม่มีแม่ยิ่งต้องดูแลหนักกว่าเดิม เดี๋ยวมีเวลาก็เอาไปฉีดวัคซีน ถ่ายพยาธิได้เลย อาหารก็ให้อาหารอ่อนๆ ไปก่อน ให้นมแพะ ห้ามให้กินนมวัวเด็ดขาดนะ อายุเท่านี้เช็ดตัวเอาก่อนก็ได้ ไว้โตกว่านี้ค่อยอาบน้ำให้มัน”
“ยังไงเดี๋ยวบอกวิธีดูแลให้อีกที แต่ตอนนี้โรงพยาบาลสัตว์พี่ปิดแล้ว เลยเอาไปฝากไม่ได้ เมลล์ก็ช่วยดูมันไปก่อนแล้วกันนะ”
“ครับ ยังไงก็ขอบคุณพี่ด้วยนะครับ ไว้จะแชทไปถาม”
เราตอบรับคำเพื่อนน้องไป ปล่อยให้สองคนจัดแจงอุ้มเจ้าตัวเล็กส่งให้เมลล์ให้เรียบร้อย น้องหยิบกระเป๋าขึ้นมาพร้อมจะกลับกับเราแล้ว ทว่าก่อนจากกับเพื่อน เห็นไอ้เมลล์กระซิบอะไรสักอย่างกับปาย
อย่าใกล้กันมากสิเฮ้ย
หงุดหงิด แต่ทำอะไรไม่ได้ รอจนกว่าพวกมันจะกระซิบกระซาบกันเสร็จ น้องถึงเดินออกมา โบกมือลาเพื่อนไป
ไม่ได้ถามอะไรเรื่องที่เมลล์มันกระซิบกระซาบกับน้อง เพราะปายเอาแต่เล่าเรื่องลูกแมวที่เพิ่งเจอ ดูท่าว่าจะลืมโกรธไปแล้วมั้ง แมวเด็กมันน่ารักจริงๆ นั่นแหละ ไอ้เทาตอนเด็กๆ นี่อย่างน่าเอ็นดู ตัวกระปิ๋วเดียวเท่าฝ่ามือน่าทะนุถนอม ไหงโตมาเป็นแมวกวนตีนไปซะได้ก็ไม่รู้
เรามาถึงห้องปุ๊บน้องก็วิ่งไปหาสีเทาทันที ไอ้เทาร้องแง้วเมื่อได้กลิ่นแมวแปลกจากตัวปายแต่ก็ยอมให้ลูบจับเหมือนปกติ หลังจากกินข้าวอาบน้ำเสร็จน้องก็นั่งจ้องเราเป็นพักๆ ดูเหมือนจะหายโกรธจริงๆ แล้ว
“มีอะไรหื้ม?” เราถามเมื่อเห็นน้องนั่งจ้องเราไม่หยุด ปกติก็ชอบจ้องอยู่แล้ว แต่ครั้งนี้มันไม่เหมือนทุกที น้องชอบนั่งจ้องแล้วหลบตา แล้วกลับมาจ้องใหม่ แต่ครั้งนี้ปายกลับจ้องเราเสียนานผิดวิสัย
“ปะ...เปล่า”
เราไม่ว่าอะไร จ้องตาน้องกลับจนปายทำท่าทีอึกอัก พูดออกมาจนได้
“เมลล์มันบอก...ว่าพี่ครามเคยเป็นเดือนสัตตะ”
ไอ้สัด ไอ้เด็กเวรนั่นไปเอามาจากไหน อดีตอันดำมืดของกู...
“ปายเลยลองเสิร์ชหาเมื่อกี้ ใช่จริงๆ ด้วย ไม่เห็นรู้เลย”
“แล้ว...? ไม่เชื่อก็เลยมานั่งจ้องพี่หรอหืม”
“เปล่า...แค่ไม่ได้คิดมาก่อน”
“คณะพี่ผู้ชายน้อย ที่ไม่ใช่ผู้ชายก็ไปแล้วกว่าครึ่ง กรรมเลยมาตกที่พี่แค่นั้นแหละ ไม่ได้มีอะไรเลย” ไม่ได้ถ่อมตัวอ่ะเอาจริง ไม่คิดว่าตัวเองหล่อเลิศขนาดเป็นเดือนอะไรขนาดนั้น แค่คิดว่าพอดูได้ ตอนไปประกวดเดือนกับคณะอื่นๆ กูนี่อับอายตัวเองชิบหาย ทำไมกูถึงต้องมาอยู่ในที่แบบนี้ ขนาดไอ้ฟุ้งยังได้เป็นรองเดือน ก็คิดดูละกัน
“แต่พี่ครามตอนผมสั้นก็หล่อดีออก” สิ้นเสียงน้อง เราหันขวับไปจ้องตาแป๋วนั่นทันที
“นี่ชมพี่หรอ”
“...” น้องเงียบ หน้าเริ่มแดงขึ้นมาอย่าไม่รู้ตัว ก่อนจะอึกอักว่าต่อ “ปาย...ปายแค่สงสัยว่าทำไมถึงไว้ผมยาว”
“แล้วผมยาวไม่หล่อหรอ”
“ไม่ได้ว่างั้นซะหน่อย พี่ครามทำไมถึงไว้ผมยาวอ่ะ”
เราเกาหัวตัวเอง ไม่รู้จะว่าไงดี ไอ้นี่ก็อีกอย่าง สาเหตุทุเรศพอๆ กับไม่มีใครประกวดเดือนจนต้องเอาเราไปเป็นเดือนเนี่ย
“บนไว้อ่ะ”
“บนว่า...?”
สปายหนูไม่ถามอะไรพี่ไม่ได้หรอครับ อยากจะบอกอย่างนั้นแต่พอเห็นน้องจ้องมาด้วยความสงสัยแล้วมันก็ใจอ่อน ยอมตอบน้องไปตามความจริง
“ตอนปีสี่...มันมีสาธิตให้ล้วงตูดม้าอ่ะ แล้วทีนี้เขาขอคนอาสาสมัคร พอดีว่าไม่มีใครยกมือเลยอาจารย์เลยจะสุ่ม ตอนนั้นเลยตั้งจิตอธิษฐานว่าอย่าให้สุ่มโดนพี่ ถ้าไม่โดนจะไว้ผมหางม้าปีนึงเลย...”
“....”
“เออ...แล้วมันก็ไม่โดนพี่ไง เลยต้องทำตามไป จริงๆ ก็ครบปีแล้วแต่คิดว่าไว้อย่างนี้ก็เท่ดี”
“เหตุผลตลกอ่ะ” น้องว่า ยกยิ้มก่อนหัวเราะขำ
“เรื่องจริงนะ” กลัวมากอ่ะตอนนั้น เคยล้วงตูดวัวกันทุกคนแล้วตอนปีสาม เป็นประสบการณ์ชีวิตที่แปลกใหม่ทีเดียว แต่เป็นประสบการณ์ที่ไม่ขอเจออีกแล้ว ทุกวันนี้เวลาวัดไข้หมาแมวแล้วต้องเอาปรอทวัดไข้จิ้มตูดพวกมันยังสงสารเลย
“เห็นรูปตอนพี่ครามไว้ผมสั้นแล้วหล่อดีนะ เลยไม่คิดว่าจะไว้ผมยาว”
“อยากให้พี่ตัดหรอ”
“เปล่านะ พูดให้ฟังเฉยๆ”
เราหัวเราะขำ “ไว้เรียนจบว่าจะตัด น่าจะเอาไปบริจาคได้ด้วย”
“ตลกพี่คราม ไว้ผมหางม้าเพราะไม่อยากล้วงตูดม้า” ว่าพร้อมหัวเราะเอิ้กอ๊าก ไม่มาอยู่ในสถานการณ์แบบนั้นก็พูดได้นี่ พอเห็นเราทำหน้ามุ่ยน้องมันก็ว่าต่อ
“อย่างงี้ปายก็เป็นเดอะสตาร์อ่ะดิ ค้นฟ้าคว้าเดือน”
ยัง ยังจะเล่นอีก ถลึงตาดุใส่น้องแต่มันไม่มีทีท่าว่าจะกลัว ยังหัวเราะเอิ้กอ๊ากอยู่นั่น มันเขี้ยวจนทนไม่ไหวจับน้องมาปิดปาก...ด้วยปากเราเสียเลย
น้องร้องเสียงอื้ออึงในลำคอ มือเล็กตวัดมาโอบรอบคอเรา
ดูมันดิ เมื่อก่อนคิดว่าเราจีบเนียน ตอนนี้น้องแม่งอ่อยเนียน
จูบจนพอใจก่อนค่อยๆ เลื่อนลงไปงับที่ไหล่ขาว ไล่ลิ้นโลมเลียเชิดชิมผิวเนื้อเนียน ขบกัดสร้างรอยแผลฝากไว้จางๆ หมายให้เป็นเครื่องหมายแสดงความเป็นเจ้าของ
“อือ...พอแล้ว...”
ปายร้องเสียงสั่นจนต้องผละออกมาดูผลงาน คนตรงหน้าพวงแก้มขี้สีชมพูระเรื่อ ปากแดงเม้มสั่น ตาเยิ้มทุกครั้งเวลาโดนจูบ เห็นกี่ทีก็ต้องใช้ความพยายามขั้นสูงสุดในการอดทนไม่ให้ผลักน้องล้มนอนบนเตียงแล้วจัดการขั้นเด็ดขาด
ยื่นหน้าเข้าไปใกล้หมายจะมอบจุมพิตให้อีกครั้งทว่าปายกลับเบือนหน้าหนี
ใบหน้าขึ้นสีเอ่ยตอบ “ไม่ให้ทำแล้ว...อายแมว...”
บางทีก็อยากให้น้องช่างหัวแมว
⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹ ⊹
อีกนิดเดียวนะพี่คราม
อีกนิดเดียวนะทุกคน...