[ตัวอย่าง] ชั่งใจ ครั้งที่ 20
ตอนเต็มๆ มาเมื่อไหร่ยังไม่รู้นะคะ ช่วงนี้เริ่มกลับมายุ่งวุ่นวายเรื่องเอเลี่ยนอีกละ เร่งทำหนังสือ (เร่งตลอด แต่ก็แวบมาเขียนเรื่องอื่นทุกที 555)
ตอนนี้ต้มน้ำร้อนกันได้แล้วนะคะ เตรียมจะมาม่าละ เบาๆ แค่ 2 ซอง 555
มาม่าไม่ปวดใจค่ะ ไม่เกี่ยวกับเรื่องความสัมพันธ์ (จริงๆ ก็มีแหละ ท้ายๆ เรื่องหน่อย นิดนึง แต่โดยรวมคือฟีลกู้ด) ไม่มีเรื่องมือที่ 3 ไม่มีเรื่องขุ่นพ่อน้องธารรับไม่ได้นะ ไม่ต้องห่วง
อันนี้ถามนอกเรื่องค่ะ พอดีหนูแดงไปเห็นหมอนไดคัทมาแล้วรู้สึกว่าน่ารักดี เลยมีไอเดียว่าจะเปิด Pre-order เป็นหมอนตัวจิบิน้องธารกับพี่เหนือ (ทำแยกกันนะ เผื่อบางคนอยากได้แค่น้องธารไรงี้ อีพี่เหนือคือเท 555)
รายละเอียดตามนี้นะคะ
https://www.facebook.com/NooDangzzz/photos/a.162822727106922.46922.122468307809031/975930272462826/?type=3&theaterใครอยากได้ ยกมือให้ดูคร่าวๆ หน่อย ถ้ามีสัก 10-20 คน เดี๋ยวหนูแดงไปถามรายละเอียดเลย จะได้ได้ราคาถูกหน่อยเนอะ ส่วนตัวจิบินี่ ถ้าตกลงกันว่าเอาจริงแน่นอน เดี๋ยวหนูแดงไปทาบทามนักวาดค่ะ เห็นว่าตอนนี้ทางนั้นกำลังยุ่ง งดรับงานชั่วคราว ยังไงก็รอกันหน่อยเนอะ ^^
-----------------------------------------
[/b]
“หยุด! พอได้แล้ว!”
ผมร้องตะโกนสุดเสียง พยายามห้ามไม่ให้เด็กพวกนั้นมันตีกัน แต่ยิ่งห้ามก็เหมือนยิ่งยุ ตีกันนัวเนียกว่าเดิมอีก ขนาดผู้ใหญ่แล้วนั้นช่วยกันห้ามแล้วก็ยังไม่หยุด อะไรไม่ว่า ไอ้ฝั่งที่เสียเปรียบน่ะธารชัดๆ แค่มันสองคนกับโรมจะไปสู้อะไรเด็กวัยรุ่นตัวพอๆ กันเกือบสิบคนได้
ถึงอย่างนั้นธารก็ยังสู้ ผมเห็นทั้งหมัดทั้งฝ่าเท้าประทับลงมาบนตัวเด็กนั่นก็ปวดหนึบในใจขึ้นมา ความเป็นห่วงของพ่อแม่เวลาเห็นลูกเจ็บตัวเป็นยังไง ตอนนี้ผมรู้สึกคล้ายๆ อย่างนั้นเลย
“ธาร! พี่บอกให้พอ!” ผมปรี่เข้าไปจะห้ามอย่างลืมตัวว่ามันอันตราย
ธารหันมามองผมนิดหน่อย ก่อนจะออกหมัดใส่ใครคนหนึ่งพลางตะโกน
“อย่าเข้ามา!”
พลั่ก!
พูดยังไม่ทันสิ้นเสียงดี ซีกหน้าข้างหนึ่งของเด็กนั่นก็ปะทะเข้ากับกำปั้นของหนึ่งในอีกฝ่ายเต็มๆ เลือดสดไหลกลบปากแลดูน่ากลัวนั่นยิ่งทำให้ผมแข้งขาอ่อนแรง ขณะเดียวกันก็โมโหที่ที่ธารไม่เชื่อฟัง
มีเรื่องอย่างนี้ เดี๋ยวพ่อมึงก็ลากกลับบ้านหรอกเว้ย!
ผมเลยตั้งท่าจะเข้าไปห้ามอีกครั้งด้วยเห็นว่าผมคงต้องทำอะไรสักอย่าง ไม่อย่างนั้นเรื่องราวได้บานปลายกว่านี้แน่ เมื่อกี้ได้ยินคนแถวนั้นร้องบอกว่าจะแจ้งตำรวจแล้วด้วย ผมก็ตัดสินใจได้ทันทีว่าควรเอาตัวเองไปแทรก ถึงจะเสี่ยงเจ็บตัว แต่ก็คิดว่าน่าจะหยุดธารได้
หากแต่พอผมตั้งท่าจะเข้าไป เด็กคนที่อ้างตัวว่าเป็นแฟนแป้งก็ล้วงบางอย่างออกจากกระเป๋ากางเกงมากวัดแกว่งในอากาศ มองแวบเดียวก็รู้ว่าเป็นมีดพก เท่านั้นผมก็ร้องสุดเสียง
“ธารระวัง!”
ธารหันมามองผมขวับ ก่อนหันไปยังเด็กนั่นที่พุ่งเข้ามาหาตัวเอง ก่อนจะร้องเฮ้ยด้วยความตกใจ รีบกระโดดหลบอีกฝ่ายพลาดเป้าแต่ก็ยังไม่ยอมแพ้ พยายามจะเข้ามาแทงธารอีก
“เก่งนักเหรอ! กูจะแทงมึงให้ไส้ไหลเลยไอ้เวร!”
ตอนนี้เหตุการณ์ชุลมุนมากกว่าเดิม จากที่ตีกันนัวเนียอยู่แล้ว ยิ่งอลหม่านเข้าไปใหญ่เพราะคนแถวนั้นพากันแตกตื่น หนีลูกหลงกันไปคนละทิศละทางด้วย
โรมพยายามจะดึงธารออกจากวงล้อม ปากก็ร้องบอกให้ผมหนีไปก่อน แต่ด้วยความเป็นห่วง ผมเลยไม่หนี กะรอให้ธารได้โอกาสหนีก่อนแล้วค่อยออกวิ่ง
ทว่าพอธารสบโอกาส อีกฝ่ายก็ไม่ยอมให้หนี พุ่งเข้ามาอีก ธารเห็นพอดีเลยรีบเบี่ยงตัวหลบ ทว่าคราวนี้ไม่รอด โดนคมมีดครูดบนท่อนแขนจนเลือดไหลอาบเป็นทาง
มือไม้ผมสั่นเทาขึ้นมาทันที ไม่รู้จะช่วยยังไง ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมาอยู่ในวงล้อมเด็กตีกันอย่างนี้มาก่อนเลย ร้ายกว่านั้นคือพออีกฝ่ายทำให้ธารบาดเจ็บได้แล้วก็ไม่ยอมหยุด ปรี่เข้ามาหมายจะแทงอีก ดูท่าจะเอาถึงตาย โรมก็พยายามช่วยแต่ก็ถูกพวกเพื่อนๆ ของอีกฝ่ายสกัดไว้จนเข้าถึงตัวธารไม่ได้ เลยกลายเป็นว่าธารกับเด็กที่ถือมีดนั่นปลุกปล้ำกันอุตลุต ล้มกลิ้งไปบนพื้น สิ่งที่ธารทำคือป้องกันตัวเอง ขณะที่อีกฝ่ายหมายจะเอาชีวิต
“เรียกตำรวจหรือยัง!? เรียกเร็ว!”
สิ่งที่ผมทำได้คือการตะโกนไปแบบนั้น มือก็คว้าโทรศัพท์ออกมากดหาเบอร์โรงพยาบาล กะจะเรียกรถพยาบาลมาเผื่อไว้เลย ยังไงก็ดูท่าจะต้องหามกันไปที่นั่นแน่ ดีที่มีคนร้องตอบกลับมาว่าเรียกตำรวจแล้ว ผมเลยเบาใจลงไปนิดหน่อยด้วยรู้ว่าสถานีตำรวจอยู่แถวนี้
หากแต่พอผมยกโทรศัพท์ขึ้นแนบหู ธารที่เป็นฝ่ายเสียเปรียบ ถูกอีกฝ่ายขึ้นคร่อมอยู่ก็เป็นได้เปรียบขึ้นมาเมื่อธารตั้งท่าจะพลิกตัวมาคร่อมแทน ทว่าในจังหวะที่ธารพลิกตัวลุกขึ้น เด็กอีกคนก็ไม่หยุด จ้วงแทงมีดออกไปให้ธารต้องป้องกันตัวเองด้วยการใช้สองมือรับคมมีดนั้น
ของเหลวสีแดงสดไหลอาบฝ่ามือจนท่วม สีหน้าเหยเกปรากฏให้เห็นบนใบหน้าหล่อ ก่อนจะซัดกันอุตลุตอีกครั้งกระทั่งธารเป็นฝ่ายถูกผลักลงไปนอนแล้วโดนคร่อมไว้อีก
ผมขาสั่น ใจสั่น เป็นห่วงจนแทบทนไม่ไหว ภาวนาในใจขอให้ตำรวจหรือใครก็ได้รีบมาห้ามเด็กพวกนี้เร็วๆ แต่เหมือนคำอธิษฐานของผมจะไม่สัมฤทธิ์ผล เพราะแค่คิดเท่านั้น เสียงร้องด้วยความเจ็บปวดก็ดังลั่นไปทั่ว ดึงให้หัวใจผมร่วงไปอยู่ตาตุ่มพลัน
“โอ๊ย!”
“ไอ้ธาร!”
“ไอ้ซัน!”
เด็กหนุ่มพวกนั้นหยุดตีกันกะทันหันทันทีที่ได้ยินเสียงนั้น ผมเองก็ชะงักเช่นกันเมื่อสายตาเหลือบไปเห็นรอยเลือดกองใหญ่บนพื้น ทั้งคู่หยุดนิ่ง สีหน้าตกใจพอๆ กัน แต่คนที่ตกใจมากกว่าคือผม เพราะทันทีที่ผมละสายตาจากกองเลือดบนพื้นไปมองยังตัวธาร ก็เห็นว่ามีรอยเลือดเป็นวงกว้างบริเวณสีข้างบนตัวเด็กนั่น
“ธาร!”
ผมโพล่งสุดเสียงทันที วิ่งเข้าไปหาชนิดทิ้งทุกอย่างที่ถืออยู่ในมือ ตั้งใจจะเข้าไปลากตัวมันออกมาจากเด็กอีกคน ขณะที่มันหันมามองหน้าผม พลางส่งเสียงเครือ
“พะ...พี่เหนือ...”
ผมคว้ามือเปื้อนเลือดมาจับไว้มั่น เห็นบาดแผลบนฝ่ามือแล้วก็อยากจะตบกะโหลกมันชะมัด แต่ก็ทำไม่ได้ ได้แต่ปลอบมันทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ใจเย็นไปกว่ามันเลยสักนิด
“มะ...ไม่เป็นไร พี่เหนืออยู่นี่แล้ว...พี่อยู่นี่แล้ว”
เด็กเวรเอ๊ย! มาให้ทำกูเป็นห่วงเจียนตายอย่างนี้ได้ยังไงวะ!