32
เช้านี้ผมตื่นขึ้นมาพร้อมไปรับพี่เสือเต็มที่
ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้นเพราะว่าผมมีไม้กันหมาตัวใหญ่มาด้วย
พี่ชาตินั้นเอง ที่จริงผมชวนพี่ชาติมาค้างก็เพราะสาเหตุนี้นี่แหละ
แต่ก็ได้แต่สงสารรถตัวเอง อุสาได้มาแล้ว ยังไม่ได้ขับได้เต็มที่
ก็ได้แต่จอดไว้เฉยๆที่บ้าน เพราะต้องเอารถพี่ชาติไป
น่าเศร้า น่าเศร้าจริงๆ
.
.
.
ผมไปถึงบ้านพี่เสือปรากฏว่าพี่เสือก็ออกมารออยู่แล้ว
แต่เท่าที่ผมสังเกตจากสีหน้าพี่เสือตอนเห็นรถพี่ชาติแทนที่จะเป็นรถผม
ดูแกตกใจเหมือนกัน
“เห่ย ขึ้นรถมา”พี่ชาติเปิดกระจกตะโกนเรียกพี่เสือ
“อ้าว มึงมาได้งัยว่ะ แล้วโซ่ล่ะ ไหนมันบอกว่าจะมารับกูงัย”พี่เสือทวงถามพี่ชาติทันที
“ก็ใครบอกว่าเค้าไม่มาล่ะ นี่งัย นั่งข้างกูเนี้ย”พี่ชาติเปิดกระจกลงอีกเพื่อให้พี่เสือมองเห็นผม
“ขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวกูต้องรีบไปทำงานอีก”พี่ชาติพูดต่อ
.
.
.
“มึงมาได้ยังงัยว่ะ”พี่เสือถามขึ้นทันทีที่รถเคลื่อนตัวออกมา
“เมื่อคืนกูนอนกับโซ่”พี่ชาติตอบออกไป
“มึงว่างัยนะ”พี่เสือร้องออกมาอย่างตกใจ
“กูว่ามึงได้ยินแล้วนะ”พี่ชาติพูดเชิงเหนือกว่า
“ไอ้ชาติ แต่ว่ามึง..”พี่เสือกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง
“แต่ว่าอะไร ไม่มีแต่เว้ย ไม่ต้องพูดมากเลยมึง มึงสนแต่อรไปเถอะ”พี่ชาติขึ้นเสียงกลับไป
ทำเอาผมแปลกใจว่ามันมีอะไรกันแน่ แสดงว่าสองคนนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ
ผมก็ได้แต่สงสัยไป
.
.
.
“โซ่ เย็นนี้จะกลับบ้านยังงัย”พี่ชาติถามขึ้น
“อ้าว แล้วพี่ไม่มารับผมหรอ”มาด้วยกันก็ต้องกลับด้วยกันดิ
“วันนี้พี่ต้องไปสิงคโปว์น่ะ”พี่ชาติตอบกับมา
“อ้าว ไม่เห็นบอกกันเลย แล้วจะกลับเมื่อไหร่”ทำไมมันกะทันหันจัง
“วันจันทร์”พี่ชาติตอบกลับ
“ไม่เป็นไรพี่ เดี๋ยวบอกให้คนที่บ้านเอารถมาให้ก็ได้ ไม่ยากหรอก”ผมตอบพี่ชาติกลับไป
แล้วไอ้เสือล่ะจะเอางัยดีว่ะ ผมได้แต่นึกในใจ แต่เหมือนพี่ชาติจะรู้ถึงความคิดผม
“ส่วนไอ้เสือไม่ต้องกลัวนะ พี่บอกอรไปแล้ว เดี๋ยวอรมารับเอง”พี่ชาติกระซิบบอกผม
ให้มันได้แบบนี้สิ
“มึงจะไปสิงคโปว์หรอว่ะ มึงไปทำไมว่ะ”พี่เสือพูดแทรกขึ้น
พี่ชาติไปมองหน้าพี่เสือทันที แต่ก็ไม่ได้ตอบอะไร
“อ้าวกูถามก็ไม่ตอบ อย่างนี้มันน่าสงสัยนะ”พี่เสือพูดย้ำอีกครั้ง
คราวนี้พี่ชาติหันไปจ้องหน้าพี่เสือ
“อ้าว กูก็ถามเฉยๆ ไม่อยากตอบก็ไม่ต้องตอบ งั้นกูขึ้นบริษัทก่อนนะ”แล้วพี่เสือก็ขึ้นบริษัทไป
พี่ชาติหันมายิ้มให้ผม
“งั้นพี่ไปก่อนนะ แล้วพี่โทรหานะ”พี่ชาติรีบพูด
“เดินทางปลอดภัยล่ะกันพี่”ผมพูดกลับไป พร้อมเก็บความสงสัยนั้นไว้ในใจ
ทำไมไอ้พี่ชาติต้องมีลับลมคมในขนาดนั้นด้วย
ก็แค่ไปสิงคโปว์ ทำไมจะบอกพี่เสือไม่ได้ว่าไปทำไม
แต่พี่เสือก็แสดงออกเหมือนกับว่า รู้อยู่แล้วว่าพี่ชาติไปทำไม
โอ้ยงงว่ะ ช่างมันเถอะ เรื่องของพี่ชาติเค้า..
.
.
.
วันนี้ไอ้พี่เสือใช้งานผมยังกับทาสเลยครับ
มันเรียกใช้นู้นใช้นี้
สอนโน้น สอนนี้ทั้งวัน
เล่นเอาผมเหนื่อยสุดๆ
“คุณโซ่ค่ะ คุณเสือให้หนูเอาแฟ้มนี้มาให้คุณโซ่ตรวจค่ะ”เอาอีกแล้วครับ นี้เป็นแฟ้มที่30ของวันได้
นี่มันจะฆ่าผมใช่มั้ยเนี้ย
“ได้ครับ”ผมตอบกลับไปโดยไม่ได้มองหน้าพนักงานคนนั้น
“เหนื่อยก็พักก่อนก็ได้นะค่ะ คุณโซ่”น้องคนนั้นคงเข้าใจหัวอกผมตอนนี้
ผมก็ได้ยิ้มตอบกลับไปให้น้อง
“วันนี้คุณเสือเค้าแปลกๆนะค่ะ ปกติจะเอางานไปทำเองหมด แต่วันนี้กลับโยนมาให้คุณโซ่หมดเลย”น้องคนนั้นพูดต่อ
“ไม่เป็นไรครับ สบายมาก เรารีบกลับไปทำงานเถอะ”ผมพูดกับน้องคนนั้นไป ก่อนที่มันจะอู้แล้วนินทานายต่อ
“หน้าเครียดเชียวน้องโซ่”พี่อรนั้นเองครับ
“อ้าวพี่อร หวัดดีครับ”ผมทักกลับไป
“งานยุ่งหรอวันนี้”พี่อรถามต่อ
“ครับพี่”ผมตอบกลับไป
“เก็บงานไว้ก่อนดีกว่า ไปกินข้าวเที่ยงกัน”พี่อรเอ่ยปากชวนกินข้าวอีกแล้ว
ถ้าพี่อรมาถึงนี่ชวนกินข้าว คงไม่ไปกับผมสองต่อสองแน่ๆ
ไอ้พี่เสือก็ต้องไปอีกแน่นอน เรื่องอะไรจะไป
“ผมว่าผมไม่ดีกว่าครับ กะว่าจะทำให้เสร็จก่อนบ่ายนะครับ”ผมตอบปฏิเสทกลับไป
“พี่ว่าแล้วเราต้องปฏิเสทพี่อีก นี่งัยพี่ถึงซื้อข้าวเข้ามางัย”แล้วพี่อรก็ชูถุงอาหารขึ้นให้ผมดู
“พี่ซื้อมาฝากเผื่อโซ่แล้วด้วย”พี่อรพูดต่อ
“อ่ะ ป้าศรี เอานี้ไปใส่จานทีนะ แล้วเอาเข้าไปในห้องคุณเสือนะค่ะ”พี่อรพูดกับแม่บ้านที่กำลังเดินมาหาผม เพราะปกติมื้อกลางวันผมจะให้ป้าศรีนี่แหละครับ ไปซื้อข้าวมาให้กิน
“ค่ะคุณอร”ป้าศรีรับถุงอาหารไปแล้วรีบเดินหายไปในห้องครัวบริษัท
“ป่ะ วางปากกาแล้วไปกินข้าวกัน”พี่อรเดินมาหยิบปากกาออกจากมือผมแล้วก็ดึงผมให้ลุกขึ้น
พร้อมเดินเข้าไปในห้องพี่เสือ
.
.
.
บรรยากาศอาหารกลางวันของผมวันนี้
เต็มไปด้วยบรรยากาศของความรักของพี่เสือกับพี่อร
ที่จริงผมไม่ควรอยู่ตรงนี้ด้วยซ้ำ
ผมไม่เข้าใจว่าพี่อรจะชวนผมเข้ามากินด้วยทำไม
ในเมื่อเค้าทั้งสองคนก็คุยกันอยู่สองคน
ผมก็ได้แต่ตักข้าวใส่ปากพร้อมนั่งฟังเรื่องของเค้าทั้งสองคน
ความสนิทสนมที่เค้าทั้งสองคนมีให้กัน
ผมอยากจะหายไปจากตรงนี้ให้มากที่สุด
และผมก็จะหายจากตรงนี้แล้ว
“ผมไปทำงานก่อนนะพี่”ผมพูดขึ้น
“อ้าวอิ่มแล้วหรอ”พี่อรหันมาพูดแบบงงๆ
“ครับ”
“ผมขอตัวนะครับ”ผมพูดต่อ
“อ้าว นั่งคุยกันก่อนสิ ยังไม่ถึงบ่ายเลยนะ”พี่อรพูดต่อ
“ไม่ดีกว่าครับ ถ้ารอบ่ายผมว่างานผมวันนี้ไม่เสร็จแน่ๆ อีกอย่างจะได้เป็นตัวอย่างให้ลูกน้องด้วยน่ะครับ
ขนาดเจ้านายยังรอบ่ายค่อยเริ่มงาน พนักงานก็จะเอาอย่างนะสิครับ อย่างงี้ก็เจริญแย่สิครับ”ผมแอบเหน็บพี่อรไปหนึ่งที
ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องไปหัวเสียขนาดนั้น
ดูพี่อรเหว่อไปเลยครับ
“ผมขอตัวนะครับ อ้อ ขอบคุณสำหรับข้าวเที่ยงนะครับพี่อร”พูดเสร็จผมก็เดินออกมา
.
.
.
ผมนั่งทำงานไปได้สักพัก พี่อรก็เดินออกมาจากห้องพี่เสือ
“โซ่ พี่ติดต่อช่างเรื่องทำห้องให้เราเรียบร้อยแล้วนะ เค้าจะมาเริ่มงานวันจันทร์หน้านะ”พี่อรพูดกับผม
“ครับ ขอบคุณครับพี่อร”ผมตอบกลับไป
“อ้อ อีกเรื่องเย็นนี้พี่มารับเสือไม่ได้น่ะ ยังงัยพี่รบกวนให้โซ่ไปส่งเค้าทีนะ”พี่อรพูดต่อ
“ครับ”ผมจำใจตอบกลับไป แล้วค่อยคิดอีกทีล่ะกันว่าจะเอายังงัย
ตอนนี้พี่อรก็ออกไปแล้ว ผมก็ตั้งหน้าตั้งตาทำงานต่อ
“มาพบพี่ที่ห้องสิ”ไอ้พี่เสืออีกแล้วครับ
มึงจะเอางานอะไรให้กูทำอีกเนี้ย
“มีอะไร”ผมถามออกไปอย่างเซ็งๆ
“นายไปพูดแบบนั้นทำไม”มันพูดขึ้นมาลอยๆ
“พูดอะไร”งงสิครับ
“นายไปพูดแบบนั้นใส่อรทำไม อรเค้าไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์นายนะ”พอจะเข้าใจแล้วว่าเรื่องอะไร
“หึ พี่พูดเรื่องนี้ก็ดีแล้ว เอางี้ล่ะกันผมขอโทษที่ไปพูดกับแฟนพี่ไม่ดี แต่ผมวานไปบอกพี่แฟนพี่ทีนะว่าอย่ามาวุ่นวายกับผมนัก ให้เค้าสนใจแต่พี่คนเดียวเถอะ”ผมตอกกลับไป ดูพี่เสือชะงักไป
“นายนี่มันพาลชะมัด เค้าดีด้วยก็หาว่าเค้ายุ่ง นายเคยเห็นใครเค้าดีบ้างมั้ย”พี่เสือพูดเสียงดังใส่ผม
“นายนี่มันเหลือขอจริงๆ นายอย่าเอานิสัยจากที่นู้นมาใช่ที่นี่นะ นี่มันเมืองไทย มีความเคารพยำเกรงคนอื่นเค้าบ้าง
ถ้าพาลใส่คนอื่นเค้าไปทั่วอย่างนี้ จะเป็นนายคนได้ยังงัย”พี่เสือมันพูดเสียงดังใส่ผมต่อ
“ถ้างั้นก็ดี เพราะผมคงทำงานที่นี่อีกไม่นานหรอก”ผมพูดกลับไป
“นายพูดอะไรของนาย อย่ามาทำนิสัยเด็กๆน่ะ นี่มันบริษัทนาย เงินที่นี่ก็ของนายครึ่งนึง”ไอ้พี่เสือพูดต่อ
“ไม่ใช่ของผม ของพ่อผม”ผมตอกกลับไป
“ยังงัยมันก็ของนายอยู่ดี ถ้าพ่อนายไม่ให้นาย จะเอาไปให้ใคร”พี่เสือสวนทันควัน
“ก็ให้พี่งัย เห็นแคร์กันนักนิ สงสัยจะรักกว่าลูกตัวเองด้วยซ้ำมั้ง”ผมประชดกลับไป
“นายนี่มันจริงๆเลย นิสัยแย่มาก ทำไมนายเป็นคนแบบนี้ ไม่มีเหตุผลเลย ทำงานกับเด็กอย่างนายพี่ทำด้วยไม่ไหวหรอก”ไอ้พี่เสือด่าผมต่อ
“งั้นดีเลย พี่ช่วยไปบอกพ่อผมที่ว่าอยากจะไล่ผมหรอ และก็ไม่อยากร่วมงานกับผมแล้ว พ่อผมจะได้ปล่อยผมไปเรียนต่อเอกซะที จะได้ไม่ต้องรั้งผมไว้อย่างนี้ แล้วรีบๆหน่อยนะพี่ เพราะผมจะได้ตอบกลับจดหมายกลับไปหาProfessorที่นู้นซะที เค้ารอผมอยู่”ผมตอกกลับไป พร้อมเดินออกมาจากห้องน้นทันที
ดีเหมือนกัน ถ้าผมได้กลับไปSydney อีกครั้ง
ผมจะได้ไปเรียนต่อ
และผมจะได้ใช้ชีวิตอย่างที่ผมอยากเป็น.............................