Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]  (อ่าน 497829 ครั้ง)

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป




บทที่ 24  Back at One  [Endind Cp]





            ผมบอกจะรอมันไปจนวันตาย  แต่จะมีใครรู้ไหมว่าการเฝ้ามองคนที่ไม่รู้ว่าจะตื่นขึ้นมาเมื่อไร   มันทรมานแค่ไหน

 

            นั่งอยู่ในห้องเงียบๆ  เหม่อมองออกไปนอกหน้าต่าง  ท้องฟ้าปลอดโปร่ง  ลมกำลังพัดเย็นสบาย  ผมอยากจะยิ้มให้กับความสดชื่นของวันนี้  อยากจะหัวเราะแล้ววิ่งเท้าเปล่าไปบนพรมหญ้าที่ถูกตัดไว้อย่างเป็นระเบียบ   แต่ราวกับร่างกายถูกพันธนาการไว้ไม่ต่างจากหัวใจ  ผมขยับไม่ได้  หัวเราะไม่ออก  หรือแม้กระทั่งยิ้มก็ยังเค้นออกมาได้ยากเหลือเกิน

 

            มันนอนหลับอย่างนี้มาเกือบอาทิตย์แล้ว

 

            ผมทำอะไรไม่ได้เลยนอกจากรอ..ไม่สิ  สิ่งที่ผมทำตลอดในทุกวันนี้คือ  กระซิบบอกมันว่าผมยังรอมันอยู่เสมอ  บอกให้มันรีบตื่นขึ้นมาซะที    แต่คนบนเตียงทำราวกับไม่รับรู้อะไร  มันนิ่งเสียผมนึกกลัว...กลัวว่าหากคลาดสายตาไปเพียงนิด  ลมหายใจแผ่วเบานั้นอาจหยุดไปตลอดกาล

 

            “พี่เวย์!!  ทำอะไรน่ะพี่  เดี๋ยวเฮียก็กัดเอาหรอก”  เสียงไอ้เป้ที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาทำให้มือที่กำลังจะสัมผัสจมูกคนหลับชะงัก  ที่จริงจะเรียกว่าสัมผัสจมูกคงไม่ถูกนักหรอกครับ  ต้องเรียกว่าสัมผัสลมหายใจมากกว่า  บ้าใช่ไหมครับ  ผมน่ะ   ถึงรู้ว่ามันแค่หลับลึก  มันแค่...กำลังพักผ่อน  แต่ผมก็ยังกังวลเสมอ   ความรู้สึกไม่มั่นคงแทรกซึมในใจมันเพิ่มขึ้นทุกๆ วัน

 

            “หุบปากซะ”  ไอ้ประโยคคำสั่งกับเสียงเครียดๆ แบบนี้ไม่ใช่ของผมหรอกครับ  แต่เป็นของไอ้คนสวดอวยพรให้เพื่อนมันไปทักทายท่านยมเร็วๆ อย่างไอ้เนมมากกว่า  มันว่าเพื่อนมันเสร็จก็หันมามองผมอย่างขอโทษแทน

            “ ทำไมต้องว่า” ไอ้เป้จับมือไอ้เนมไว้ไม่ยอมให้มันเดินต่อ  แถมยังทำหน้าคาดคั้นจะเอาคำตอบให้ได้  แต่ไม่รู้ว่าผมคิดไปเองหรือเปล่า  ผมว่าไอ้เป้มันยื่นหน้าเข้าไปใกล้จนเกินพอดีไปหน่อยนะ

            “ปล่อยกู”  ไอ้ไนมกระซิบเสียงเย็นแล้วเบี่ยงตัวหลบ  แต่หน้ากลับขึ้นสีแดงเรื่ออย่างน่าเอ็นดู  ผมเข้าใจเลยละครับว่าทำไมไอ้เป้มันถึงอดใจไม่ไหว  คนปากไม่ตรงกับใจอย่างไอ้เนม  แต่สีหน้าท่าทางกลับแสดงสิ่งที่อยู่ในใจออกมาหมดอย่างนี้  มันน่าแกล้งน้อยเสียเมื่อไร

 

            “ก็ตอบมาสิ  ทำไมชอบดุกูอยู่เรื่อย  ตกลงกูเป็นแฟนหรือเป็นหมากันแน่วะ”  คำพูดของไอ้เป้ทำเอาผมยิ้มค้าง  กลายเป็นตกใจแทน   อะไรกันวะ!!  เผลอแป๊บเดียวพวกมึงตกลงปลงใจเป็นแฟนกันแล้วเรอะ  มันจะไวไฟเกินหน้าเกินตากูไปหน่อยละมั้ง

            “พูดบ้าอะไรของมึง” คนหน้าแดงกระทุ้งศอกใส่ไอ้คนช่างแกล้ง (ที่มันคงเจอมาเยอะครับ  มันเลยเบี่ยงตัวหลบทัน)  แล้วเดินมานั่งโซฟาด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ

            “อุ๊ก! ศอกมาได้ (มึงหลบทัน  กูเห็น = =;; )  กูยังไม่ได้พูดว่าบ้าสักคำ  มีแต่มึงนี่แหละทำกูจะบ้าได้ทุกวัน”  ผมว่าเรามอบตุ๊กตาทอง  สาขานักแสดงเนียนยอดเยี่ยมให้มันกันเถอะครับ  หลบก็หลบทันเสือกเอามือกุมท้อง  ทำท่าเจ็บซะเต็มประดา  น่านนน   มีการเซเข้าไปซบเพื่อนมัน  -*-  ทำอะไรช่วยเกรงใจกูที่นั่งมองอยู่หน่อยได้มั้ยวะ   สงสัยชิบว่าถ้ากูไม่นั่งหัวโด่  (ขนาดนี้มันยังไม่เห็นหัวเลยครับ)  มึงจะจับไอ้เนมกดบนโซฟาเลยไหม

 

            “ไอ้เชี่ยเป้!!?”  มันกดจริงๆ ครับ  - -

            “คร้าบบบบ”  รังสีอำมหิตขนาดนี้  มึงยังสามารถกวนต่อได้อีก  กูล่ะนับถือมึงจริงๆ

            “ลุกว้อย!!”  ไอ้เนมสบถแล้วผลักหัวไอ้เป้ออกห่าง   ผมเห็นแบบนี้แล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้  ตั้งแต่มีไอ้เป้มาวุ่นวายอยู่ใกล้ๆ  ไอ้เนมมันก็เริ่มแสดงอารมณ์ออกมามากขึ้น  ถึงแม้มันจะยังคงปิดปากเงียบเรื่องบางเรื่อง   แต่อย่างน้อย...วันนี้คนที่มักจะเก็บทุกเรื่องไว้ในใจอย่างมัน  ก็เริ่มดูมีชีวิตชีวาเหมือนคนอื่นเขาสักที 

 

 

 

            “ไอ้เวย์!  ข้าวไข่พะโล้มาแล้วโว้ยยยยย”  เสียงไอ้นุตะโกนเข้ามาแต่ไกล  ตัวมันยังไม่พ้นประตูเลยครับ  ผมเห็นถุงใส่ข้าวโผล่มาก่อนเลย   แถมยังแหกปากประกาศของชอบผมเสียงดัง  มันคงลืมไปแล้วว่ามันอยู่โรงพยาบาล  ไม่ใช่ร้านข้าวแกง

            “เออ  ใจว่ะ  แต่ทีหลังไม่ต้องตะโกน  กูกลัวห้องข้างๆ มาขอแบ่ง”  ผมว่าแล้วยิ้มให้มัน  ทำไมผมจะไม่รู้ล่ะครับว่ามันกำลังพยายามจะให้ผมยิ้ม   ผมก็เลยต้องสนองกลับด้วยการกวนมันเสียหน่อย   เผื่อว่าผมจะได้เห็นรอยยิ้มจากมันบ้าง...แล้วก็เป็นอย่างที่คิด  มันยิ้ม   เหมือนๆ กับที่คนอื่นๆ ในห้องยิ้ม   แค่นั้นก็พอแล้วล่ะครับ   แค่ทุกคนยิ้ม...   เหลือแค่มึงคนเดียวนะไอ้ไนท์  มึงยัง..ไม่ได้ยิ้มเลย

 

            “กินเลยมั้ยวะ”  ไอ้นุมันชูถุงกับข้าวที่ซื้อมาเต็มสองมือ  แล้วทำท่าดมกลิ่นฟุดฟิด  นี่ตกลงเพื่อนผมมันตัดสินใจเปลี่ยนสปีชี่แล้วใช่ไหม

            “เออ  มีบริการใส่จานป่ะวะ”  ก็ในเมื่อมันอุตส่าห์เป็นคนดี  ลงทุนไปซื้อข้าวให้ผม  ผมก็เลยถือโอกาสให้มันได้สร้างบุญเยอะๆ  โดยการบริการเพื่อนฝูงต่อเลยไงครับ  เฮ้ย!!  แต่ที่จริงผมก็มีส่วนช่วยมันนะวันนี้น่ะ  เพราะผมอุตส่าห์ไล่ไอ้แชมป์ออกให้ไปช่วยมันอีกแรง  แต่ไม่รู้จะช่วยให้ดีขึ้นหรือเลวลงนะครับ  เพราะตั้งแต่กลับมาไอ้แชมป์มันยังไม่อ้าปากให้เส้นเสียงได้ทำงานสักครั้ง

 

            “กูใส่  มึงล้าง  เครป่ะวะ”  - -;;  ข้อเสนอมึงเหมือนกูจะขาดทุนนะ  ไม่ต้องมาแบ่งบุญให้กูหรอก  มึงพยายามทำให้เต็มที่เลย  กูมันสะสมมาเยอะแล้ว

            “ฟาย  งั้นมึงไม่ต้องเลย  เดี๋ยวกู...”

            “กูทำเอง  เถียงกันอยู่ได้  ปัญญาอ่อน”  ไอ้แชมป์มันคว้าหมับเข้าที่ถุงกับข้าว  แล้วเดินลิ่วๆ ไปหยิบจาน   ส่วนพวกผม...คนปัญญาอ่อนสองคนก็ได้แต่มองหน้ากันอย่างจนด้วยคำพูด  สรุป..ที่กูให้พวกมึงออกไปด้วยกันนี่  ไม่ได้อะไรกลับมานอกจากคำว่า ‘ปัญญาอ่อน’ ใช่ไหม

 

 

            “ซื้อร้านไหนวะ  อร่อยโคตรๆ”  ด้วยความที่ไม่ได้กินไข่พะโล้มานาน  ไอ้ผมก็ถึงกับยกชามเทน้ำพะโล้ใส่จานตัวเองอย่างหน้าตาเฉย  ไม่มีเกรงใจใครครับ  เคยได้ยินสำนวนนี้ไหม ไข่(พะโล้)ข้า  ใครอย่าแตะ  = =;;    ไม่ได้งกครับ  แต่หวง

            “เหอะ  กูทำเอง”  ไอ้นุมันยักคิ้วแล้วยิ้มอวดภูมิ

            “พูดอะไรช่วยดูหนังหน้าตัวเองก่อนได้มั้ยมึง”  ถ้าหน้าอย่างมันทำไข่พะโล้เป็น  ป่านนี้ผมหุงข้าวสวยกลายเป็นข้าวสารได้แล้วล่ะครับ 

            “เชี่ย  กูอุตส่าห์ไปซื้อให้”  เมื่อกี้มึงเพิ่งบอกทำเอง  กลับคำเร็วชิบ  ไอ้นุมันทำหน้ามุ่ยแล้วสะบัดหน้าหนีจนหัวไปชนกับไอ้คนที่มันหันมาจะตักกับข้าวอีกคนอย่างแรง  เล่นเอาคนที่กำลังจะขำกับการประชดได้น่าถีบของมันอย่างผม  ถึงกับขำค้างเลยทีเดียว   ชนใครไม่ชนเสือกไปชนไอ้แชมป์   ทำตัวเองนะมึง  งานนี้กูไม่มีเอี่ยว

 

            “โอ้ย /อูย  หัวกู”  แต่แล้วไอ้บรรยากาศมาคุที่ผมคาดเอาไว้กลับไม่เกิดขึ้น  กลายเป็นบรรยากาศแปลกๆ ที่หาคำจำกัดความไม่ได้แทน  เมื่อหัวพวกมันสองคนคงมีแรงดึงดูดซึ่งกันและกันเหมือนแม่เหล็กขั้ว S กับ N  มาเจอกัน  บรรจบกันนิ่งอยู่อย่างนั้น...นานกว่าต่างฝ่ายจะรู้สึกตัวและผละออกจากกัน    ใบหน้าแดงๆ ที่หาได้ยากยิ่งจากไอ้คนหน้าหนายิ่งกว่าพื้นคอนกรีตของไอ้นุ  และไอ้คนเก็บความรู้สึกเก่งอย่างไอ้แชมป์ก็ได้ออกมาเผยโฉมให้พวกผมเห็นกันเป็นบุญตา

 

            “ขอโทษ”  O.O!!!!  ไอ้นุมันพูดคำว่าขอโทษครับ  ‘ขอโทษ’ เชียวนะครับ  นี่ผมหูฝาดหรือมันสมองเสื่อมจากการประสานงาเมื่อครู่นี้กันแน่ครับเนี่ย

            “ซุ่มซ่าม”  O.O!!!!!!!!!!!!!    ไอ้นุขอโทษผมว่าน่าตกใจแล้ว  แต่ไอ้แชมป์มัน เอ่อ..จะว่าด่ากลับก็ไม่น่าจะใช่  จะว่าแซว  ก็จะดูน่ารักไปหน่อย  อ๊ากก  จะอะไรก็ช่างเถอะครับ  แต่พวกมันดีกันแล้วใช่ไหม??   เอ่อ..สงสัยจะยังนะครับ  เพราะไอ้คนตกใจกว่าผมนะ  มันยังอ้าปากค้างอยู่อย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

            “ม่ะ..มึง  พูด?”   ไอ้นุมันพ่นคำพูดแสดงสติปัญญาของตัวเองออกมา  เออ  ไอ้แชมป์มันพูดสิวะ  จะให้มันตดออกมาเป็นความหมายให้มึงได้ยินหรือไง  ไอ้บ้า   ไอ้แชมป์มันก็คงคิดเหมือนผมครับเพราะมันกำลังทำหน้าเมื่อยอย่างเห็นได้ชัด  แล้วหันไปสนใจข้าวในจานแทน   ไอ้นุมันก็เลยหันมามองผมหวังให้ช่วยยืนยัน   สรุปผมต้องทำให้มั้ย

            “เออ”  ช่วยยืนยันก็ได้ครับ

 

 

            เก๊งงง  เสียงช้อนกระทบกันทำให้ผมต้องเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาอีกครั้ง   ทำไมวันนี้ฟ้าช่างเป็นใจให้เกิดแรงดึงดูดของขั้วเหนือแล้วขั้วใต้บ่อยนักก็ไม่รู้สิครับ   ดูสิครับไอ้สองขั้วมันกำลังสร้างโลกส่วนตัวกันอีกแล้ว  นี่มันในนิยายนะโว้ยยย  ไม่ใช่ในละคร   พวกมึงจะจงใจตักกับข้าวอย่างเดียวกันเพื่อ???    เอาเถอะครับ  ปล่อยพวกมันไป  ผมจะกลับเข้าสู่โลกส่วนตัวเองของผม

            “เอ่อ..กูตักให้แล้วกัน”  ทีกูขอแค่ให้เอาข้าวใส่จาน  มึงมีต่อรอง  ทีไอ้แชมป์..ขยันสร้างบุญกับมันเหลือเกินนะมึง  ไอ้ชายนุ

            “ไม่ได้ขอ”  กร๊ากกก  เป็นไงล่ะมึง  สม!!

            “.....อ่า..คือ”

            “แต่ก็ดี”   พอไอ้แชมป์อนุญาตปุ๊บไอ้นุมันก็ยิ้มร่า  รีบตักกับข้าวใส่จานให้ไม่มียั้ง  จนไอ้แชมป์ต้องทำหน้าดุใส่มันนั่นแหละ  มันถึงยอมหยุด   หูตกหางตกอย่างเห็นได้ชัด  สรุปมันเปลี่ยนสปีชี่แล้วจริงๆ ครับ

 

            “พี่เวย์  อยากได้มะนาวมั้ยพี่” ไอ้เป้มันสะกิดถามผมอย่างรู้ใจ 

            “กูกำลังจะขอมึงอยู่พอดีเลยว่ะไอ้เป้  รู้สึกไข่พะโล้มันหวานขึ้นมากะทันหัน”

 

            เรียกหามะนาวมาดับความหวาน   มะนาวก็มาทันทีครับ   เมื่อโทรศัพท์ไอ้นุมันดัง  และคนที่โทรมาก็ไม่ใช่ใครอื่น   นอกจาก...คนที่มันเคารพประดุจแม่คนที่สอง   งานเข้าแล้วไงมึง

 

            “เอ่อ...ฮัลโหล  ครับ”

            “เอ่อ...ก็ดี  เอ๊ย!  คือดี  ทุกอย่างเรียบร้อยดี  นี่กำลังกินข้าวกันอยู่  งั้นเดี๋ยวกินข้าวก่อนนะครับ”

            “หา!!  ป่าวนี้  พูดเพราะที่ไหนกัน  ปกติๆ   ครับๆ  ได้ครับ  บายครับ”  (เคยดูมิวสิกสักมิวสิกหนึ่งไหม  ว่ากันว่าถ้าแฟนคุณพูดเพราะผิดปกติ  เป็นสัญญาณว่าเขากำลังจะนอกใจน่ะ  แต่ในกรณีของไอ้นุนี่ผมขอเรียกว่า  รู้สึกผิดหรือมีชนักติดหลังดีกว่านะครับ  เพราะผมยังจินตนาการภาพที่มันขอเลิกกับไอ้ส้มไม่ออกเลยจริงๆ และยังคงเชื่อว่าเพื่อนผมมันจะไม่ทำอย่างนั้น  ปัญหาตอนนี้ก็คือว่า...แล้วมันจะทำยังไง)

 

            แต่จะว่าไปแล้ว  มึงพูดเพราะผิดปกติจริงๆ ด้วยไอ้นุ  ลงท้ายครับตลอดเลย  ปกติมึงจะต้องมี “จ๊ะจ๋า”  ให้กูได้ยินแล้วนะ   แถมยังไอ้พวกเขาหวานๆ  อ้อนตีนแบบน่าขนลุกพวกนั้นอีก  แต่ดีแล้วที่มึงไม่พูด  เพราะแค่นี้กูก็หนาวจะตายแล้ว   พูดถึงมะนาว  มะนาวก็มา  แต่ทีหลังกูยอมกระอักความหวานตายดีกว่าว่ะ   กูมันคงขี้หนาวด้วย   ไม่ค่อยปลื้มกับการหนาวตายเท่าไร

 

            “อ่า..เอ่อ...”  กูให้ยืมผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อไหมมึง

            “ว่าไงล่ะวะ  ส้มมันโทรมาทำไม”  นี่ผมจะช่วยหรือฆ่ามันกันแน่ครับเนี่ย 

            “อ๋อ  มันบอกจะเข้ามาค่ำๆ  นี่ทำรายงานส่งให้พวกมึงอยู่”

            “โหหห  มีแฟนประเสริฐมากพี่  นับถือๆ”  ไอ้เป้มันโพล่งออกมาได้ถูกเวลายิ่ง  แค่นี้ไอ้นุมันยังไม่ถึงตายใช่ไหมวะ  ยังแค่สะบักสบอม  มึงพูดมาทีเดียวกะเหยียบมันให้ตายไปเลย  เอาให้ไม่เลยเกิดกันล่ะทีนี้   ไอ้นุมันเลยเปลี่ยนเป้าหมายในการจ้องตาอาฆาตไปที่ไอ้เป้แทน

            “เอ่อ..ผมพูดไรผิดเหรอพี่??”  มึงยังไม่รู้ตัว  = =;;

            “ถึงบอกให้หุบปากไงเล่า”  ไอ้เนมมันบ่นพึมพำ  แล้วส่ายหัวปลงๆ   ไม่รู้ว่าปลงกับปากไอ้เป้  หรือกำลังสงสารตัวเองที่มีแฟน?? (หรือหมา??)  อย่างไอ้เป้กันแน่นะครับ

 

            “อ้าว!!  นี่ผมพลาดเหรอ  งั้นแก้ตัวแล้วกัน  มุกเด็ดผม  เล่นทีฮากระจาย  ไอ้ชินเพิ่งสอนผม  ต้องเล่นก่อนมันมา  เดี๋ยวมันหาว่าขโมยมุกมัน”  อ้าว!  ไอ้เวร  มึงเล่นบอกมาซะหมดอย่างนี้  พวกกูก็รู้สิวะว่าขโมยมุกมา  - -   ไอ้เนม  มึงช่วยบอกกูอีกทีสิว่าไอ้คนที่กำลังทำโง่ตรงนี้น่ะ  คือคนที่กดมึงได้จริงๆ

 

            “พร้อมมั้ยพี่  ตั้งใจฟังนะ”  มันยิ้มอวดภูมิอย่างมีตั้ก (ลีลา >>  รู้ว่าแป้ก  แต่จะเล่น)  ไอ้ผมก็ตั้งใจฟังเต็มที่  หวังว่าเล่นมาทีเดียวช่วยกู้บรรยากาศได้เลยนะมึง  มาเลยมุกเด็ดของมึงน่ะ   กูพร้อมจะฮาแล้ว

           

            “เม็ด – ดุก” 

            .

            .

            .

 

            “ไอ้เวย์  เอาจานไปเก็บกันเหอะ  เจอแบบนี้  กูอิ่มว่ะ”  ไอ้นุทำหน้ายิ่งกว่าเมื่อย  แล้วลุกขึ้นเก็บจานตัวเอง  อีกมือคว้าแก้วน้ำมาดื่มอึกใหญ่ด้วยสีหน้าปลงชีวิต  เข้าใจคำว่ามุกไม่ฮาพาเพื่อนเครียดก็ตอนนี้แหละครับ

            “เออ  แป้กเต็มท้องกูเลยเนี่ย”  มันกล้าเล่นได้ยังไงล่ะครับ  เม็ด – ดุก    มุกเด็ด   = =;;  คนเราถ้าไม่ด้านจริงเล่นมุกนี้ไม่ได้หรอกครับ  เชื่อผม   มุกตั้กลีลากูยังฮากว่าอีก  (นั่นก็แป้กพอกัน)

 

......................................

 

 

            ตกเย็นหลังจากที่ผมย่อยมุกเด็ดไอ้เป้ไปเกือบหมดแล้ว  ไอ้ชินกับอานพก็มาพร้อมข้าวของเต็มสองมือ  แน่นอนว่าไม่ใช่อะไรอย่างอื่นนอกจากของกิน  ตั้งแต่ข้าว  ขนม  นม ยันผลไม้  มีแม้แต่บ๋วยเค็ม   จนห้องนี้แทบจะแปรสภาพเป็นร้านขนมย่อมๆ ไปแล้วล่ะครับ   แต่ทั้งที่มีของกินตั้งมากมาย  มันก็เหมือนขาดอะไรไปบางอย่างที่ทำให้รสชาติที่ควรอร่อยนั้นกร่อยลง  คงจะขาด...คนคอยดุเวลากินเลอะ  แต่ก็ยื่นผ้าเช็ดหน้ามาให้  คงจะขาด...คนคอยถามว่าอยากกินอะไร  แต่สุดท้ายก็เลือกหยิบให้ตามใจตัวเองเสมอ   ความอร่อยมันคงจะขาดไปเพราะคนๆ นั้นล่ะมั้ง

 

            “พี่เวย์เป็นไรพี่”

            “ฮะ..หา  อ๋อ  ปล่าวๆ  กูนั่งหารอยแตกที่พื้นอยู่  ว่าแต่มึงเห็นมั้ย” 

            “ฮะ??  พี่จะบ้ารึไง”  เออ  ถ้ากูไม่บ้ากูจะนั่งหาไหมไอ้รอยแตกที่พื้นเนี่ย  มึงลองใช้สมองที่มีเยอะจนเหลือใช้ของมึงนั่งตรองดูหน่อยสิ  แล้วช่วยบอกกูด้วยว่าสรุปกูบ้าหรือไม่บ้ากันแน่

           

            “อานพให้มาตามไปกินข้าวอ่ะพี่  ซื้อไข่พะโล้ของชอบพี่มาด้วย”  มันว่าแล้วเริ่มดันหลังผมไปที่โต๊ะ  เห็นอานพยกถุงไข่พะโล้ชูแกว่งเบาๆ แล้วยิ้มให้  เหมือนเวลาผมเรียกหมาที่บ้านมากินข้าว  เขย่าถุงอาหาร  แล้วเคาะจาน  เฮ้ย!! ไม่ใช่แล้ว  นี่ผมต้องกินไข่อีกแล้วเหรอเนี่ย???   ทั้งที่เป็นอย่างนั้น  แต่ผมกลับพบว่าตัวเองกำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดี   ก็จะมีสักกี่คนล่ะครับที่รู้ว่าผมน่ะชอบกินไข่พะโล้ขนาดไหน   อาหารพื้นๆ แต่ก็ย้ำเตือนถึงเรื่องราวดีๆ   เพราะมันเป็นอาหารมื้อแรกที่แม่นิ่มทำให้กินในวันที่ผมเข้าไปอยู่บ้านหลังนั้น   แม่เลี้ยงที่ดูแลผมดียิ่งกว่าลูกในไส้

 

            “หึหึ  เอ้า!  ข้าวเช้า  กินซะ” 

          “ค่อยๆ กินก็ได้  ข้าวมันไม่หนีไปไหนหรอก” 

 

ผมยิ้มให้กับตัวเองเมื่อนึกถึงภาพที่มันซื้อข้าวไข่พะโล้มาให้  แล้วย่อตัวนั่งลงข้างๆ  ปากก็กวนตีนรับมุกไอ้นุไป  แต่ตามันก็คอยมองผมอยู่เสมอ  ...ไม่ลืมหรอกน่าว่าคนแรกที่รู้เรื่องนี้  และยังคอยซื้อให้กูกินเสมอก็คือมึง  ไม่ลืมหรอก  เพราะฉะนั้น..ทำไมไม่ตื่นมากินด้วยกันล่ะ   พ่อมึงซื้อของมาให้เยอะขนาดนี้  ก็เพื่อรอมึงนะ  รู้ไหมนอกจากของที่กูชอบแล้วก็มีแต่ของที่มึงชอบทั้งนั้น  รีบๆ ตื่นมาเจอพ่อมึงได้แล้ว   พ่อดีๆ แบบนี้จะไปหาได้ที่ไหนวะ

 

“พี่เวย์  พี่เวย์  เหม่ออะไรพี่”  พอเห็นไอ้ชินมันทำท่าเป็นห่วงอย่างนั้นแล้ว  ผมก็เลยได้แต่ยิ้ม  จะให้บอกได้ยังไงล่ะครับว่าตัวเองกำลังอ่อนไหวเพียงเพราะเห็นของที่มีคนตั้งใจซื้อมาให้   จะให้บอกได้ยังไงว่าความทรงจำเก่าๆ กำลังรุมเล่นงานจนลืมไปแล้วว่าตัวเองกำลังถือช้อนค้างไว้ในมือ

 

“อ้อ..เอ่อ  กำลังคิดว่า   ต่อไปมึงอย่าได้สอนมุกเด็ดๆ ให้ไอ้เป้อีกนะ”

“มุกเด็ด??  หรือว่า..ไอ้เป้มัน....”  ผมพยักหน้าให้โดยมีไอ้นุช่วยยืนยัน  ทำให้ไอ้ชินทำหน้าปุเลี่ยนๆ อย่างไม่รู้จะขำหรือเครียดดี   ส่งผลให้เกิดเสียงหัวเราะขึ้นรอบโต๊ะ

 

ดีแล้วล่ะ   ในเมื่อทุกคนยังยิ้มได้  ผมเองก็จะยิ้มเหมือนกัน   ไม่รู้หรอกครับว่าเราจะยังต้องนั่งกินข้าวกันในห้องแบบนี้ไปถึงเมื่อไร   แต่ตราบใดที่ยังคงมีหวัง  ผมเชื่อว่า..เราก็คงนั่งล้อมวงกินข้าวรอมันแบบนี้ต่อไป...

 

 แล้วมึง...จะให้กูรอไปถึงเมื่อไร   รีบตื่นขึ้นมาได้แล้ว

 


whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

ต่อค่ะ



Night’s talk

 

                ผมรู้สึกตัวอยู่ในความมืดอันหนาวเหน็บ    ร่างกายเบาสบายอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อน  เหมือน...ไม่ใช่ร่างกายที่คุ้นเคย   มองไปรอบตัวมีแต่ความมืดจนมองไม่เห็นแม้กระทั่งมือของตัวเอง  เขาว่ากันว่าคนตายมักไม่รู้ว่าตัวเองตาย  แต่ผมรู้นะ   มันอาจจะดูเป็นการยอมรับที่ง่ายดายไปหน่อยแต่มันจะไปยากอะไรสำหรับที่คนคิดว่าตัวเองอยู่อย่างคนตายมาตลอดหลายปี

 

            หึ  มันช่างเป็นการจากลาที่เรียบง่ายดีจริงๆ   ไม่มีงานเลี้ยง  ไม่มีคำบอกลา  ไม่มีน้ำตาของใคร  แต่ก็ช่างมันเถอะ  ดีแล้ว   หวังว่ามันคงไม่ร้องไห้และคงลืมผมได้ในไม่ช้า   อยากกลับไปบอกว่าขอโทษ   อยากบอกว่ารักสักครั้ง  แต่เอาเถอะ...ในเมื่อผมพลาดเอง  ทิ้งโอกาสสุดท้ายไปเอง  แถมยังทิ้งชีวิตไปแล้วด้วย   ยังจะมีสิทธิ์หวังอะไรอีก   ทำได้แค่รู้สึกอึดอัดจนอกแทบระเบิดเท่านั้น

 

            ป่านนี้มึงจะรู้รึยังว่ากูตายไปแล้ว   แปลกนะครับทั้งที่คิดว่าทำใจยอมรับได้ง่ายๆ  แต่กลับรู้สึกโหวงในใจแถมยังอุตส่าห์ปวดแปลบขึ้นมาได้อีก   น่าสมเพชชะมัด  ไม่เท่เลยผม  ไม่เด็ดขาดเลย   ไม่ว่าจะตอนมีชีวิตหรือตอนนี้...ก็ยังไม่เด็ดขาดอยู่เหมือนเดิม  ยังลังเล  ยังอาวรณ์  หึ    คนตายไปแล้วจะยังอยากอยู่กับคนเป็นได้ยังไง  ผมนี่มันบ้า  ตอนที่ยังมีโอกาสทำไมไม่รีบตักตวงความสุขไว้   เกิดมาเสียดายเวลาเอาตอนนี้มันจะได้อะไรขึ้นมา

 

            ก็ได้แต่หวังว่าเมื่อผมจากมาแล้ว  จะมีใครสักคนดูแลมัน  เหอะ!  ประโยคโคตรพระเอก  ที่จริงแล้วมันไม่ใช่หรอกครับ  ผมมันคนเห็นแก่ตัวจะทนเห็นมันไปอยู่กับคนอื่นได้ยังไง   จะทนเห็นมันรักคนอื่นได้ยังไง  เพราะทนไม่ได้ทางเลือกจึงเหลือแค่อย่างเดียวก็คือ...ไปซะ  ไปในที่ที่ควรอยู่  แน่นอนว่าคนอย่างผมคงไม่มีบุญได้ขึ้นไปมองมันจากบนสวรรค์   สงสัยคงต้องทนเมื่อยคอแหงนมองจากในนรกแทน   ถ้าทำได้นะน่ะ  จะมอง...ไม่ให้คลาดสายตา   ถ้าทำได้..จะไม่มีวันปล่อยไปเลย

 

            และถ้าหากย้อนเวลากลับไปได้  จะไม่ยอมให้มันจบลงแบบนี้...จบลงด้วยการที่ผมทิ้งมันไว้ข้างหลัง  ไม่ได้แม้แต่จะบอกว่ารัก    ถ้าทำได้ล่ะก็..อยากจะลืมเรื่องราวทุกอย่างที่ทำให้เกิดกำแพงระหว่างเรา   จะลืมทุกคน  ทุกเรื่องที่ทำให้เรารักกันไม่ได้   ที่ทำให้หัวใจดวงนี้ปิดกั้นคำว่า ‘รัก’

 

            ถ้ามันทำให้เรารักกันได้ล่ะก็   จะลืมว่าเราเป็นเพื่อนกันก็ไม่เป็นไร   เพราะผมเข้าใจแล้วว่าไม่ว่ามันจะเป็นใคร  จะเป็นเพื่อนหรือเป็นคนรัก  ขอแค่มีมันอยู่ข้างๆ ก็พอแล้ว   เพราะฉะนั้นถ้าคำว่าเพื่อนมันเกะกะนัก   ผมก็จะลบมันทิ้งไปเอง  แล้วเริ่มต้นกันใหม่ด้วยคำว่าคนรู้จัก  ผมจะไม่ยืนมองปล่อยความรักจากไปง่ายๆ  แต่จะก้าวไปคว้ามันมาด้วยมือของตัวเอง

            ถ้าได้กลับไปอีกครั้ง...จะแลกด้วยอะไรก็ยอมทั้งนั้น   

            .

            .

            .

            แต่ในเมื่อมันทำไมได้  กูก็คงต้องลามึงตรงนี้   คำว่ารักที่ยังไม่ได้บอก  กูจะขอเก็บไว้กับตัวไปตลอด  จนกว่าจะได้พบกันใหม่   ถึงวันนั้น...มึงรอฟังนะ  คำบอกรักจากกู  คนที่รักมึงมากที่สุด  ผมยิ้มอย่างที่คิดว่าดีที่สุด  เป็นรอยยิ้มของไนท์คนที่ได้เจอมันวันแรกบนสถานีรถไฟฟ้า  เป็นรอยยิ้มของไนท์...คนที่พร้อมจะรักใครสักคน

 

            ...ลาก่อน...

 

            ไนท์ ...กล  ..สิ   มา...

          ไนท์  กลับ..    กูบอก   มึง .. มา  ได้...

          ไนท์!!  กลับมาสิ  กลับมา   กูบอกให้มึงกลับมา  ได้ยินมั้ย  กลับม๊-า

 

            ไอ้เวย์!!!   

 

................................................

 

            ขยับเปลือกตาช้าๆ  กระพริบตาถี่ๆ เพราะยังไม่ชินกับแสงสว่าง  ลำคอแห้งเป็นผง  ร่างกายหนึกอึ้งจนขยับไม่ได้  ที่นี่มันที่ไหนกัน??

            “น่ะ..น้ำ”  เสียงแหบแห้งราวกับไม่ใช่เสียงตัวเอง  แต่ก็ไม่มีเวลาให้แปลกใจมากนักเมื่อได้ยินเสียงผู้คนตะโกนโหวกเหวกอยู่ข้างหู

 

            “ไนท์ลูก!!”

            “เฮียฟื้นแล้ว  ฮ่าๆ  เฮีย  หมอๆ  อานพครับกดเรียกหมอที”

 

            “น้ำ”  ผมยังคงบอกความต้องการของตัวเองต่อไป  จนได้รับสิ่งที่ร้องขอในที่สุด  มือที่หมดแรงจนไม่สามารถยกขึ้นรับแก้วน้ำ  ได้แต่รอให้อีกคนพยุงขึ้นมาโดยที่ผมไม่ได้สนใจว่าเขาคือใคร  สิ่งที่ต้องการตอนนี้มีอย่างเดียว  คือน้ำใสๆ ตรงหน้าเท่านั้น

 

            “ไนท์เป็นไงบ้างลูก  เจ็บตรงไหนไหม” 

            “พ่อ  ทำไม...ผมมาอยู่ที่นี่  เกิดอะไรขึ้น”  ร่างกายที่อ่อนแรงเหมือนคนไม่ได้ขยับมานานนี่มันอะไรกัน   แล้วยังหัวที่ปวดหนึบๆ เหมือนมีบางอย่างบีบไว้นี่อีก  เกิดอะไรขึ้นกับผม

            “ลูกจำไม่ได้???”  จำเหรอ??  จำได้สิ  ก็ผมกำลัง...  ผมกำลัง..  ทำอะไรกันนะ  อะไรทำให้ผมต้องเข้าโรงพยาบาลกันแน่   เกิดอะไรขึน??

 

            “ผมโทรบอกพี่เวย์แล้ว  กำลังรีบวิ่งขึ้นมา  เราได้เห็นคนร้องไห้อีกแน่ๆ เลยงานนี้”   เด็กหนุ่มหน้าตาออกแนวญี่ปุ่นแต่ก็แฝงความคมเข้มแบบไทยที่ผมไม่รู้จักกำลังบอกเรื่องที่ทำให้หัวใจผมเต้นโครมคราม  แต่ทำไมล่ะ  ทำไมต้องดีใจด้วย  ทำไม??  แค่ได้ยินว่าคนชื่อเวย์กำลังมาหัวใจผมมันก็แทบจะกระโจนออกมานอกอก   ทั้งที่ไม่รู้จักเสียหน่อย   ทำไมถึงได้อยากเจอนัก

            “คุณเป็นใคร”

            “ผม??”  เขาเอานิ้วชี้หน้าตัวเองอย่างไม่เชื่อสายตา  ตกใจอะไรกัน  ก็เพราะผมไม่รู้จัก  ถึงได้ถามน่ะสิ   ในห้องนี้มีแค่ผม  พ่อ  และก็เขา  จะให้ผมถามใคร??  อ่อ..แล้วก็หมอที่เพิ่งเปิดประตูเข้ามาพร้อมกับนางพยาบาลอีกคน

 

            “เฮียจำไม่ได้???”

            “ผมไม่รู้จักคุณ”  ทันทีที่พูดจบ  หมอนั่นก็ทำหน้าไม่อยากเชื่อ  นี่ผมพูดอะไรผิดหรือไง  หรือเขาเป็นเพื่อนสมัยเด็กๆ  เท่าที่จำได้  ผมไม่มีเพื่อนหน้าเหมือนเด็กญี่ปุ่น

 

            “ไนท์  แล้วพ่อ  จำพ่อได้ใช่ไหม?”

            “ก็จำได้สิครับ  แม่ล่ะ  แม่อยู่ไหน”  ผมพูดอะไรแปลกไปอย่างนั้นหรือ  ทำไมต้องทำท่าตกใจขนาดนั้น  แค่ถามหาแม่..มันแปลกอย่างนั้นเหรอครับ

 

            “หมอ!!   นี่มันหมายความว่ายังไง  เขาจำผมได้  แต่...”  พ่อถามหมอด้วยสีหน้าสับสนและเป็นกังวลอย่างเห็นได้ชัด   ผมไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย  ถึงจะไม่รู้ว่ามานอนอยู่ที่นี่ได้ยังไงก็เถอะ   แต่นอกจากหัวที่ปวดตึบๆ แล้ว  ร่างกายก็ดูจะปกติดี

            “ขอหมอตรวจคนไข้ก่อนแล้วกันนะครับ”

 

 

            “ไนท์!!!!”  เพราะหมอยืนบังทัศนวิสัยของผมอยู่จึงไม่อาจเห็นหน้าเจ้าของเสียงเรียกนั่น  ทว่าหัวใจกลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาอย่างประหลาด   แค่ได้ยินเสียงนี้...ทำไมกันนะ  เหมือนผมลืมเรื่องสำคัญไป  เรื่องสำคัญที่ติดค้างอยู่ในใจ   เสียงนี้...เหมือนเสียงที่ผมเคยได้ยิน  เหมือนเสียง..ที่เรียกให้ผมกลับมา  แต่...จะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไงในเมื่อผมไม่ได้จากไปไหน  และผมไม่รู้จัก...

 

            “ว่ะ..” ดวงหน้าหวานกำลังยิ้มอย่างยินดี  โล่งอก  เหมือนคนกำลังมีความสุขที่สุดในโลก  ทำให้หัวใจผมแกว่งไกวอย่างห้ามไม่ได้  และไม่รู้ว่าตัวเองพยายามพูดคำบางคำตั้งแต่เมื่อไร  คำบางคำที่ติดอยู่ที่ริมฝีปาก   ชื่อของเขางั้นหรือ??  ชื่ออะไรกันล่ะ

 

            “ ไนท์  กู  กู..อึ่ก” เขาเรียกชื่อผมแล้วร้องไห้เงียบๆ  ทำไมกันนะ  ผมรู้สึกปวดใจเหลือเกิน  ไม่อยากเห็นคนๆ นี้ร้องไห้   แขนที่ไม่ค่อยมีแรงกลับผลักหมอให้พ้นทาง  เอื้อมมือไปหาอย่างห้ามใจไม่ไหว  อยากกอด  อยากสัมผัส  คิดถึงเหลือเกิน.....

 

            “อย่าร้อง” เพียงคำพูดเดียวของผมกลับทำให้เขาร้องไห้มากกว่าเดิม  ร่างนั้นก้าวเข้ามาหาผมช้าๆ    จนในที่สุดผมก็เอื้อมถึง  ผมคว้าข้อมือเล็กๆ นั่นไว้แน่น   ไม่รู้เมื่อไรที่ออกแรงดึงร่างนั้นเข้ามาซบแนบอก   กอดไว้อย่างที่ใจโหยหา   คิดถึงสัมผัสนี้...

 

            ความอบอุ่นแบบนี้...ที่ผมโหยหามาตลอด   กลิ่นหอมแบบนี้...ที่ผมเฝ้าคอยเสมอมา   คำพูดหนึ่งที่เก็บไว้รอเพียงเพื่อเวลานี้   คำพูดที่รอจะพูดมาตลอด

 

            คำว่ารักที่ยังไม่ได้บอก  กูจะขอเก็บไว้กับตัวไปตลอด  จนกว่าจะได้พบกันใหม่   ถึงวันนั้น...มึงรอฟังนะ  คำบอกรักจากกู  คนที่รักมึงมากที่สุด 

 

            “รัก..ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรักคุณ”

 

 

I could stay awake, just to hear you breathing
ฉันจะตื่นอยู่อย่างนั้น เพียงเพื่อฟังเสียงลมหายใจของเธอ

Watch your smile while you are sleeping
เฝ้ามองรอยยิ้มของเธอยามหลับใหล

While you're far away dreaming
ในยามที่เธออยู่ในดินแดนแห่งฝัน  อันแสนห่างไกล

I could spend my life, in this sweet surrender
ฉันพร้อมจะใช้ทั้งชีวิตอยู่ในการจำนนอันแสนหวานนี้

I could stay lost in this moment... forever
ยอมหลงอยู่ในนาทีนี้...ชั่วนิรันดร์

Every moment spent with you, is a moment I treasure
ทุกนาทีที่ได้อยู่กับเธอ เป็นช่วงเวลาที่มีค่าของฉัน

Don't want to close my eyes
ฉันไม่อยากจะหลับตาลง

I don't want to fall asleep
ฉันไม่อยากจะเผลอหลับไป

Cause I'd miss you baby
เพราะฉันนั้นอาจจะต้องพลัดพรากจากเธอ

And I don't want to miss a thing
และฉันก็ไม่อยากพลาดไปแม้เพียงสิ่งเดียว
Cause even when I dream of you
เพราะแม้แต่ยามที่ฉันได้ฝันถึงเธอ

The sweetest dream will never do
ความฝันที่ว่าสุดแสนหวาน....ก็ยังไม่อาจเทียบเทียมได้

I'd still miss you baby
ฉันยังคงคิดถึงเธอ..ที่รัก

And I don't want to miss a thing
ฉันไม่อยากจะพลาดสิ่งใดไปแม้เพียงสิ่งเดียว

Lying close to you, feeling your heart beating
ยามที่นอนข้างเธอ ฉันรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจของเธอ

And I'm wondering what you're dreaming
ฉันได้แต่สงสัยว่าใช่ฉันหรือเปล่าที่เธอกำลังฝันถึง

Wondering if it's me what you're seeing
...ใช่ฉันไหม..ที่เธอกำลังเห็น

Then I kiss your eyes
แล้วฉันก็จุมพิตเปลือกตาของเธอ

And thank God we're together
และขอบคุณพระเจ้าที่ทำให้เราได้อยู่ด้วยกัน

I just want to stay with you in this moment forever
ฉันเพียงอยากอยู่กับเธอ ในเวลานาทีนี้ตลอดไป

Forever and ever.
ตราบนานเท่านาน





I don't want to miss one smile
ไม่อยากจะพลาดไปจากสักรอยยิ้มเดียว

I don't want to miss one kiss
ไม่อยากสูญเสียจุมพิตไหนๆ

I just want to be with you
เพียงอยากอยู่กับเธอ

Right here with you, just like this
ณ ที่ตรงนี้... แบบนี้

I just want to hold you close
อยากสวมกอดเธอไว้ให้แนบแน่น

Feel you heart so close to mine
สัมผัสหัวใจเธออยู่แนบชิดใจฉัน

And just stay here in this moment
แค่อยู่ด้วยกันตรงนี้...ณ นาทีนี้

For all the rest of time
ตราบจนหมดเวลาของสองเรา




..................The End   .................

 

 

ในที่สุดก็เดินทางมาถึงตอนจบ ( ของภาคแรก ) ^^  เย้ๆ

            ตอนแรกก็คิดตอนจบไว้หลายอย่าง  แต่สุดท้ายมันก็กลายเป็นตอนจบแบบปลายเปิด  ฮ่าๆ  นุ่นคิดว่าบางครั้งตอนจบมันก็ไม่จำเป็นต้องจบลงอย่างมีความสุขเหมือนในเทพนิยายที่ตัวเอกต้องครองรักกันตลอดไป   บางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องจบลงที่การจากลาหรือความตายเหมือนในทราจิดี้   แต่เชื่อว่า...บางครั้งตอนจบก็คือการกลับไปเริ่มต้นอะไรสักอย่างเหมือนชื่อตอน  Back at one   

            หวังว่าทุกคนคงจะมีความสุขกับนิยายเรื่องนี้  ซึ่งเป็นเรื่องแรกในชีวิตที่นุ่นแต่งจบ  ฮ่าๆ ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาตลอดจนถึงตอนนี้   ขอบคุณที่ทำให้เรื่องนี้เป็นนิยายที่สมบูรณ์  ขอบคุณมากค่ะ

 

            หวังว่าจะได้พบกันอีก ^o^


ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
เย่ๆ

จิ้มพี่นุ่น จึ้กๆ

 :z13:

HBDด้วยนะคร้าบ

ขอให้พี่นุ่นมีความสุขมากๆนะ  :3123:

(รุรึยังว่าผมคือใคร?)

รักพี่นุ่นเน่อออ

รอภาค2ครับ  :n1:

Pecca_Suracora

  • บุคคลทั่วไป


ว๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!!

อีนังนู๋นุ่น ไหงแกจบแบบนี้วะเนี่ย
ฉันอุตส่าหืไมอ่านมานานสองนาน
ดันเปิดมาเจอพอดี   ให้ตายสิ
ไนท์ความจำเสื่อม  งั้นสรุปน้องเวย์ว่างใช่มะ 555+
มามะน้องเวย์ ป๋ารอมานานล่ะ (ผว้ะ)
แล้วภาคสองนี่ ตามที่แกบอกไว้ไหม ว่าเป็นคู่ของ.....
รึว่าแกจะโลเลเปลี่ยนใจอีก
นี่มันตอนที่23 เองนะเว้ยเฮ้ย
ไหนแกบอกว่า 30 Upไงเพื่อน เอิ๊กๆ

ช่างมานเหอะ ไว้จะตามไปอ่านละกัน -*-

Pecca_Suracora

  • บุคคลทั่วไป

อ๊างงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง!!
โดนใจอย่างแรงเพื่อนเลิฟ
น่าสนมากมาย จบแบบนี้
ฮ่าๆ นิยายฉันได้แนวคิดดีๆอีกแล้ว เอิ๊กๆ

kittyfun

  • บุคคลทั่วไป
อ๊ากทำไมไนท์จำเวย์ไม่ได้อย่างนี้ล่ะ

ใจของคนรอก็เศร้าเหมือนกันนะคะ

อ๊าก ภาคสองมาต่อเร็วๆ เลยค่ะ

สงสารเวย์เหลือเกิน

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
กรี๊ดดดดดดดดดดด จบแบบนี้ได้ไง

แต่ บอกว่าภาคแรกใช่ไหม งั้นเอาภาคสองมาเลย เร็ว ๆ ให้ว่อง อย่างไวเลย  :fire:

melon_jung

  • บุคคลทั่วไป
ไนท์จำไม่ได้...เพราะอยากจะลืมทุกอย่างที่ทำให้รักกันไม่ได้สินะ
แต่ไม่ว่ายังงัย....ความรู้สึกที่มีต่อเวย์ก็ยังคงอยู่เสมอ

 “รัก..ไม่รู้ว่าทำไม  แต่ผมรักคุณ”

 :L1: :L2: :L1:

ป.ล. รอภาค 2 นะค่ะ...ยังงัยก็ยังอยากให้ไนท์จำทุกอย่างได้อ่ะ

+1 เป็นกำลังใจค่ะ

ออฟไลน์ insomniac

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1482
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +111/-3
Happy Birthday น้องนุ่นครับ  :L2:
ขอให้มีความสุขมากๆ
แล้วก็ขอสมัครเป็นแฟนนิยายภาค 2 ต่อเลย

hatchi

  • บุคคลทั่วไป
เห็นเพื่อนๆข้างบนบอกว่าเศร้า แต่เราว่าเราแอบแฮปปี้นะ (อ้าว อินี่ซาดิส ...มะช่ายน๊า)
ก็ถ้าอดีตมันโหดร้ายเกินจะจดจำ ลืมๆมันบ้างก็ดี
ถ้าตื่นมารู้ว่าจริงๆแม่ที่รักมาก โกรธพ่อแทนแม่มาตลอด แต่แม่กลับจ๊ะทิงจากับพ่อของชินแบบเนี๊ย
ชีวิตมันเลวร้ายไปไม๊นายไนท์ เหอ เหอ แบบนี้อย่าจำดีกว่าอ่ะ
แต่ไนท์ก็จำเวย์ได้นี่ ซึ้งนะ จำได้ด้วยหัวใจและความรู้สึกทั้งหมดกันเลยทีเดียว
สนุกมากเลยค่ะนุ่น แล้วจะติดตามภาค 2 นะ ภาค 2 ไม่ใช่เรื่องของสองคนนี้เหรอ งืออออ
ถ้างั้นขอแบบมีตอนพิเศษได้มั๊ยอ่า อยากรู้ว่าจะมีวันที่สวีทกับเค้าบ้างม๊ายยยย
 

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ranaways

  • บุคคลทั่วไป
ถึงจะจำไม่ได้


แต่ก็บอกรักแล้วนี่

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4

alterlyx

  • บุคคลทั่วไป
จบ แบบนี้ ก็น่ารักดี .......... แต่ จบแค่นี้ จิงเหรอค่ะ ...
ยังไม่ได้สวีทกันเลยง่ะ ... อยากอ่าน เวย์ ที่ยิ้มๆ อายๆ เขินๆ อีกง่ะ  :z3:

อื้มนะ ... บางทีสมอง ก็ไม่ได้อยากจำอะไรมากมาย
แค่ หัวใจ ยังรู้สึกว่า "รัก" เหมือนเดิม ก็เพียงพอแล้ว

ค่อยๆสร้างความทรงจำดีๆ ร่วมกันใหม่ก็ได้ นี่เน้อะ ...
แค่ใจของคน 2 คน รู้สึกเหมือนกัน ... ก็เพียงพอแล้วจริงๆ


ปล.พอเพลงตอนจบขึ้นมา ... เรายิ้มเฉยเลย พอดี ชอบเพลงนั้นอยู่ด้วย อิอิ
จะตามอ่านต่อๆๆๆไป นะคะ

ออฟไลน์ ДηοηγМ

  • 出会えて、よかった
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 517
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
เปิดปลายทิ้งให้แบบนี้
ก็จิ้นเหนื่อยแย่สิค๊า ตะเองงงง

ไหนจะ ไนท์ เวย์

ไหนจะ เป้ เนม

ไหนจะ นุ แชมป์

ไหนจะ ชิน ....

มีภาคแรกแล้วก็ช่วยมีภาคต่อๆ ไปเถอะนะค๊า



นิยายสนุกมากค่ะ  รอลุ้นจนจุดสุดท้ายแห่งการเริ่มต้นใหม่
ขอบคุณมากๆ สำหรับนิยายค่า
ยังรอตอนต่อไปอยู่เสมอนะคะ
 :L2:

bakabong

  • บุคคลทั่วไป
:sad4:

น้ำตาไหลพรากกกก

ภาคสองขอคู่ หมอนะ อิอิ

ออฟไลน์ Turn_righT

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 492
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +24/-0
เวย์ได้ฟังคำบอกรัก...ไนท์ได้พูดในสิ่งที่อยากจะพูด  แม้จะยังจำเวย์ไม่ได้
พูดออกมาจากจิตใต้สำนึกกันเลยทีเดียว  โอ๊ย!!!....โรแมนติกจะตาย 

เราว่าจบแบบนี้เราแฮปปี้อ่ะ  ฮ่าๆๆๆ 
ขอบคุณสำหรับภาคหนึ่งค่า   :L2: :L2:
ปล.แอบชอบคู่น้องเนมอ่ะ...ใช่คู่ต่อไปมั้ย  แอบลุ้น

ออฟไลน์ Ryze

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1003
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
เอ มันก็แฮปปี้เอนดิ้งนะ
แต่อยากอ่านต่ออ่ะ

jokirito

  • บุคคลทั่วไป
 :sad11:  ภาค 2 จะมาเมื่อไหร่อ่ะครับ

ออฟไลน์ ปี้ปี้ปี้~PalmY

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2427
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +273/-1
HBD ด้วยคน อิอิ

การจบของเรื่องนี้ คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง
เพราะไนท์เอง ก็บอกแล้วว่าจะแลกอะไรก็ยอม ขอแค่ได้บอกรักเค้า
ซึ่งไนท์เองก็ทำได้แล้ว จะจำไม่ได้ แต่ความรู้สึกว่ารัก ก็คือรัก ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าเป้นใคร แต่ทำไม "ผมรักคุณ"
การจบครั้งนี้ คือการเริ่มต้น ของความรัก ระหว่าง ไนท์ กับ เวย์

ซึ้งมาก กินใจ  :o12:

ออฟไลน์ OitJi

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1012
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +39/-1
อย่างน้อยก็ยังได้รักกันนะ สักวันต้องจำได้แหละ :m15:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
ถือว่าจบแอปปี้ค่ะ
อย่างน้อยก็ได้บอกรักแล้ว
แล้วช่วยกันสร้างความทรงจำกันขึ้นมาใหม่นะ

ขอบคุณนุ่นจ้า หวังว่าจะได้อ่านภาค2ในไม่ช้านะคับ
ขอเป็นแรงผลักแรงดันให้นุ่นเขียนได้เรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
แล้วก็สุขสันต์วันเกิดด้วย มีความสุขมากๆนะ
 :L2:

Ekk_J

  • บุคคลทั่วไป
ขนาดจำไม่ได้ยังบอกรักเฉย   เอางี้ก็ได้นะ  เจอกันภาค 2 ครับ  :bye2:

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

+1 ให้ครับสำหรับภาคแรก

รอภาคสองครับบบบบ

HBD คนแต่ง :L2:

ออฟไลน์ shiro_niji

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 515
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
อ้าวอย่างนี้ไนท์ก็จำเวย์ไม่ค่อยได้อะดิ
มาต่อภาคสองไวๆนะค่ะ

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

ออฟไลน์ ● MaYa~Boy ●

  • ฉันมันคนขี้อิจฉา
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3992
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-2
รีบเอาภาคต่อมาให้อ่านเร็วๆ ด้วยนะคับ

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
อยากรู้เรื่อง เป้กะเนม แล้วก็นุกะแชมป์
 :really2:

ออฟไลน์ BaoBao

  • Moderator
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1509
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +485/-2
กำลังสนุกเลยอ่ะ รอภาคสองอยู่น๊า  o18

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
ดีๆน้องนุ่น เพิ่งเห็นว่าเอานิยายลงเว็บนี้ด้วย

ต้องจำไม่ได้แน่เลยยย

ใช้นามแฝง angiotensin ในเว็บเด็กดีอ่ะ

ไม่รู้นุ่นจะจำได้ป่าว

เปนกำลังใจให้เสมอนะ

จะรออ่านภาค 2 อย่างใจจดจ่อเลยล่ะ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
แล้วก็กลับไปจุดเริ่มต้นอีกครั้ง  :m4:

รอติดตามภาค 2 นะคะ  :L2:


:a13: น้องนุ่นด้วยค่ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด