Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: Wait หรือ เมิง จะ เล่น เพื่อน : ปกค่ะ [13/04/54]  (อ่าน 498221 ครั้ง)

gumrai

  • บุคคลทั่วไป
เห็นใจนุ กับ แชมป์ สุดๆเลยอ่ะ :z3:

Twister

  • บุคคลทั่วไป

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

มาต่อแล้วจ้า  พอดีติดงานที่มหาลัย  ขอโทษด้วยนะคะ


ตอนพิเศษนุ- แชมป์ (เส้นขนาน 2)
Champ ‘s talk

ผมคิดเสมอว่าหากเราแกล้งทำเป็นลืมบางอย่าง  ไม่นานเราก็จะลืมมันได้จริงๆ   ไม่นานความรู้สึกที่ฝังใจกับภาพที่ตามหลอกหลอนนั้นก็จะจางหายไปราวกับละลายผงหมึกในแม่น้ำ   ทั้งที่ความจริงแล้ว   สิ่งที่ผมทำก็แค่...หนีความจริง  หนีจาก...หัวใจตัวเอง

ผมโทรให้ไอ้ป้องรูมเมทผมมารับที่หน้าคอนโด  แล้วกลับมาหลังจากที่ผมไล่มันไปมหาลัย  ผมไม่รู้ว่านี่ใช่การหนีหรือเปล่า  รู้แค่ว่าผมยังไม่พร้อมจะเจอหน้ามันตอนนี้  ไม่ใช่เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนหรอกครับ  นั่นไม่ใช่ความผิดของไอ้นุคนเดียว  ผมเองก็ผิดไม่น้อยไปกว่ามัน  ดังนั้นผมไม่สิทธิ์ไปต่อว่ามัน  แต่เรื่องที่ทำให้ผมไม่พร้อมจะเจอหน้ามันตอนนี้ก็คือความรู้สึกเก่าๆ ที่ควรจะหายไปแล้วมันกำลังจะกลับมา
ผมเคย...คิดกับมันมากกว่าเพื่อน

“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่ามายุ่งกับกู” แต่มันยังไม่เข้าใจ  ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย  มันมาหาผมถึงที่หอ  ซื้อข้าวซื้อยามาให้  ความเป็นห่วงเป็นใยกับสีหน้าทุกข์ร้อนที่ผมไม่ต้องการ
รำคาญ! ผมต้องให้คำจำกัดความการกระทำของมันด้วยคำนี้  ผมจำเป็นต้องรำคาญมัน  จำเป็นต้องตีสีหน้าหงุดหงิด  จำเป็นต้อง...ออกปากไล่
“แต่มึงยังไม่หาย”
“หายแล้ว”  กูจะหายแล้วถ้ามึงไม่มา  กูลบมันออกไปได้หมดแล้วถ้าไม่เกิดเรื่องนี้ขึ้น  เวลาสองปีที่กูใช้เพื่อหลุดพ้นจากความรู้สึกบ้าๆ นั่น  มึงกำลังจะทำให้มันสูญเปล่า
“ยัง  ก็เห็นๆ อยู่  แค่กินยา  กินข้าวที่กูซื้อมาให้  มึงยังทำไม่ได้  แล้วเมื่อไรมึงจะหาย  รู้มั้ยมีคนเป็นห่วงมึงมากแค่ไหน”
“....”  ผมเงียบเมื่อข้างในใจความรู้สึกสองอย่างกำลังต่อสู้กันอย่างหนัก  หนึ่งคือความดีใจที่รู้ว่ามันเป็นห่วง  ดีใจที่มันเอาใจใส่  สองคือความรู้สึกผิดที่เกาะกุมอยู่ทุกขณะ
ต่อให้ดีใจแค่ไหนก็ทำได้แค่กดมันไว้ให้ลึกที่สุด
ลึกจนไม่มีใครมองเห็น...แม้แต่ตัวเอง
“เอ่อ..  กูขอโทษ  กูแค่..เฮ้อ! กูไปก็ได้  มึงกินยา  กินข้าว  แล้วห่มผ้าหนาๆ นะ  พรุ่งนี้เช้ากูมารับ”
“....”
“ฝันดี”
ผมหลับตาลงทำเป็นไม่สนใจคำพูดของมัน  ทำเป็นไม่รับรู้การคงอยู่ของมัน  จนคำพูดสุดท้ายที่ไม่ได้ฟังมานานนั่นแหละ  ผมถึงได้ลืมตาขึ้นมาพบกับแผ่นหลังชุ่มเหงื่อทั้งที่ห้องนี้เปิดแอร์เย็นฉ่ำ   แม้ไม่อยากแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่ามันรีบมาหาผม  รีบมาเพราะไม่เห็นผมอยู่ที่คอนโด
ถึงจะเป็นแค่ความรู้สึกผิดของมันก็ตามที


ตอนเช้ามันมารับผมจริงอย่างที่ปากว่า  ทั้งที่ปกติคนไปถึงมหาลัยก่อนคือผมเสมอ  แต่วันนี้มันกลับเป็นฝ่ายมารอ  เพราะไม่อยากให้ไอ้ป้องจับสังเกตได้ผมจึงยอมมากับมันแต่โดยดี  นั่งมาบนรถคันหรูที่มันแทบไม่เคยเอาออกมาใช้
แอร์เย็นในรถถูกหรี่จนดูเหมือนไม่มี  มันเปิดกระจกข้างตัวเองลงเล็กน้อยเพื่อระบายอากาศ  พร้อมกับเสื้อหนาวคลุมลงมาบนตัวผมโดยปราศจากคำพูด   ทำ...ทั้งที่ไม่มีใครขอ  แต่ความใส่ใจเล็กๆ น้อยๆ นี้กลับมีอำนาจมากมายต่อผมอย่างที่ตัวมันไม่มีวันเข้าใจ

“ไปกินข้าวก่อน” มันดึงไหล่ผมไว้ทันทีที่ผมลงจากรถแล้วกำลังจะเดินขึ้นตึก  หึ! ข้าวเช้า  นานเท่าไรแล้วที่ไม่เคยมีใครบอกให้ผมกิน  นานเท่าไรแล้วที่ทุกๆ วันผมต้องซื้อขนมปังไปนั่งรอพวกมันในห้อง  รอไอ้ไนท์เดินมากับไอ้เวย์  แล้วก็รอมันเดินมากับผู้หญิงที่มันเลือก  ผู้หญิงที่มันรัก
ส้ม...มันเป็นคนดี  เป็นเพื่อนที่ดี  เป็นผู้หญิงที่เข้าใจไอ้นุมากกว่าใครๆ  เป็นคนที่ผมเชื่อว่าสามารถหยุดคนเจ้าชู้บรรลัยอย่างไอ้นุไว้ได้  และมันก็ทำได้จริงๆ

“กูไม่หิว”
“ไม่ได้  คนเราต้องกินข้าวสามมื้อ  มึงไม่รู้หรือไง”  ผมน่ะเหรอไม่รู้  มันต่างหากที่ไม่เข้าใจ  ผมไม่เคยบอกใคร  ไม่เคยยอมให้ความรู้สึกนั้นอยู่เกินระดับที่ควบคุมได้
 “....”  สองปีที่ผ่านมา  นอกจากข้าวกลางวันผมจะไม่ไปกินกับพวกมัน  พวกมันชอบเรียกผมว่าไอ้ไอโซเลท  เหอะ  ใช่ว่าผมอยากอยู่คนเดียวเสียเมื่อไร  แต่ถ้าให้เลือกระหว่างการอยู่คนเดียวกับการอยู่ในวงล้อมของเพื่อนที่มีระยะห่างเพิ่มขึ้นทุกวัน
ผมเลือกจะอยู่คนเดียวดีกว่า  อย่างน้อยผมก็ยังได้ชื่อว่าเป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่ง
เป็นเพื่อนที่ยินดีกับความสุขของเพื่อนเสมอ

“ไป  ถ้าไม่หิวจริงๆ  กินขนมปังกับนมร้อนๆ ก็ยังดี” มันมองผมเหมือนเมื่อก่อนตอนปีหนึ่ง  ตอนที่เรารู้จักกันใหม่  ดื้อดึงแต่ก็ห่วงอย่างจริงใจ  เป็นคนลากผมที่พูดน้อย  มนุษยสัมพันธ์ย่ำแย่ไปเข้ากลุ่ม  พาไปกินข้าวทุกเช้า  กลางวัน  เย็น  ไม่มีมื้อไหนที่ผมไม่ได้กิน  มันบอกคนเราต้องกินข้าวสามมื้อเหมือนอย่างที่มันพูดกับผมในวันนี้ 
มันทำให้ผมติดใจขนมปังกับนมร้อน  ทำให้ขาดข้าวเช้าไม่ได้  เช่นเดียวกับที่ขาดมันไม่ได้  แต่แล้ววันหนึ่งคนที่มันพาไปกินข้าวด้วยเสมอก็ไม่ใช่ผม   มันทำให้ผมเริ่มเกลียดข้าวเช้า  เริ่มเกลียดขนมปังกับนมร้อน  เริ่มเกลียดการอยู่อย่างพร้อมหน้าพร้อมตาในกลุ่มเพื่อน
เริ่มเกลียดการอยู่กับมัน  พอๆ กับการอยู่คนเดียว
แล้ววันนี้...ถ้าผมเกิดอยากกินขนมปังกับนมร้อนๆ อีกครั้งเพราะอากาศหนาว  มันจะผิดปกติไหม


“เดี๋ยว! เป่าก่อน  มันร้อน” ไอ้นุมันร้องโวยวายขึ้นมาแบบไม่ดูตาม้าตาเรือเล่นเอาผมเกือบสำลัก  กะไอ้แค่ไม่เป่านมก่อนกินมันยังโวยวายเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด  ความเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้ผมแอบยิ้มกับตัวเองแต่แล้วก็ต้องเปลี่ยนให้มันเป็นเหมือนเรื่องตลกเมื่อเห็นสายตาแปลกๆ กับใบหน้างงๆ ของเพื่อนร่วมโต๊ะ
“ฮ่าๆ  ผีเข้ารึไงมึง  ไม่ต้องมาทำเป็นคนดีจะยืมเงินกูอีกล่ะสิ  ของเก่ายังไม่ได้คืน”
“อ้าวๆ  ไอ้นุ  เงินกูด้วย  ยังไม่ได้คืนนะมึง” ไอ้เวย์ได้ทีรีบฉวยโอกาสสร้างเสียงเฮฮาอย่างที่มันทำของมันทุกวัน  หรือใจจริงแล้วมันอาจจะพูดไปเผื่อฟลุ๊กได้เงินจริงๆ ก็ไม่รู้นะครับ  แต่สำหรับคนที่อยู่ๆ ก็เป็นฝ่ายถูกทวงเงินกลับทำหน้ามึน   ไม่เข้าใจสถานการณ์
“นุ  ยืมเงินพื่อนอีกแล้วเหรอ?”  จนเมื่อไอ้ส้มมาร่วมวงนั่นแหละครับ  มันถึงได้ตาสว่าง  หัวเราะเฮฮา  ปฏิเสธไปตามน้ำอย่างที่มันสมควรจะเป็น
“เฮ้ย! เปล่าน้า” มันว่าพลางโบกไม้โบกมือเป็นพัลวัน  ทำหน้าตาตื่นอย่างสมบทบาท  หึ! ก็ดีแล้วนี่ครับ  ที่มันทำแบบนี่  ทั้งที่เป็นอย่างนั้นผมกลับรู้สึกว่าหัวใจเต้นผิดจังหวะ  คล้ายคนสะดุดแต่ไม่ยอมล้ม  ต่อสู้ดิ้นรนจนยืนตรงๆ ได้อีกครั้ง

“ไม่ต้องมาเนียน  ยืมมาได้ไม่มีแบ่ง  เดี๋ยวเย็นนี้ไม่ต้องกินข้าวนะ  นอนนอกบ้านด้วย” ส้มเอามือตีไหล่แฟนมัน  แล้วสะบัดหน้างอนอย่างที่รู้กันว่ามันแกล้งทำ  น่ารัก..มันน่ารัก  ท่าทางหยอกล้อที่นานๆ ทำทีของมันเป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนทั้งโต๊ะยิ้มได้
และเป็นสิ่งที่ผมทำไม่ได้ 
ผมอมยิ้มน้อยๆ  เลือกที่จะกัดขนมปังในมือแล้วดื่มนมร้อนๆ นั่นจนหมดแก้ว  ทั้งดีใจและเสียใจที่ได้เห็นภาพนี้  ภาพที่เมื่อวานยังเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับผม  แต่วันนี้กลับเป็นบอระเพ็ดชิ้นใหญ่ที่ถูกบังคับให้กิน
“กร๊ากกก  ไอ้นุ  ตกลงมึงไปแจ้งเปลี่ยนสปีชี่ส์ใหม่เป็นหมาที่อำเภอแล้วใช่มั้ยวะ”
“เชี่ยเวย์  กวนแล้วมึง” 
เสียงเฮฮากลับมาเยือนพวกเราอีกครั้ง  ภาพอบอุ่น  มิตรภาพที่ทำให้หลายคนอิจฉา  ดีแค่ไหนแล้วที่คนอย่างผมได้นั่งอยู่ตรงนี้  ดีแค่ไหนแล้วที่ได้พวกมันมาเป็นเพื่อน


ขณะที่พวกผมกำลังจะขึ้นเรียน  ไอ้นุมันก็ลากผมออกมาด้วยท่าทางปกติของมัน  บอกคนอื่นว่าจะพาผมไปไถเงินรุ่นน้องชดใช้ที่มันยืมเงินผมมา   เหตุผลบ้าๆ บอๆ ที่ไม่มีใครติดใจสงสัยเพราะคิดว่าเป็นมุกตลก  ผมได้แต่หัวเราะเออออตามมันไป  สุดท้าย...ก็เรื่องตลก
“เมื่อไรมึงจะเลิกทำแบบนี้สักที”  ตลกเสียจนผมทนไม่ไหว  ดูเหมือนมันกำลังสนุกกับอะไรบางอย่าง  ทั้งที่ผมกำลังจะบ้า
“ทำอะไร”
“มึงอย่ามาแกล้งโง่  กูบอกมึงว่าอย่ามายุ่งกับกูถ้าไม่จำเป็น”
“จำเป็นสิ  กูทำผิด  กูต้อง..ชดใช้”
นี่แหละคือสิ่งที่ผมคิดมาตลอด  กลัวมาตลอด  และก็เดาถูกมาตลอด  มันเป็นคนดีเกินไปจนทำใจไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น  มันโทษตัวเอง  คิดว่าเป็นความผิดของตัวเอง  และต้องการชดใช้ความผิดนั้น  เป็นคนดีในแบบที่ผมไม่ต้องการ
ผมไม่ต้องการคนดี  แค่อยากได้คนรัก
เพราะผมรักมัน  เพราะผมไม่เคยลืมว่าเคยรักมัน  ไม่เคยลืมว่าเพราะมันผมถึงได้มีเพื่อนดีๆ มากมาย  เพราะมันผมถึงไม่ต้องใช้ชีวิตในมหาลัยอย่างโดดเดี่ยว  เพราะมัน...
และเพราะผมเป็นคนเลวแบบนี้  เพราะผมยังเลิกรักมันไม่ได้
ผมถึงเกลียดคนดีอย่างมัน

“มึงอยากชดใช้นักใช่มั้ย” มันไม่ตอบแต่มองผมด้วยสายตาจริงจังโดยไม่พูดอะไร  ก็ได้ถ้ามึงอยากชดใช้  ถ้านี่จะทำให้มึงหลุดพ้นจากความรู้สึกผิดได้  ต่อให้มึงจะเกลียดกูทีหลัง  กูก็จะทำ
พลั่ก!  ผมต่อยมันเต็มแรง  หมัดขวาชาเมื่อกระทบกับใบหน้าที่สะบัดไปตามแรง  “เจ็บมั้ย”  ผมถามทั้งที่รู้คำตอบดี  ขนาดคนต่อยอย่างผมยังเจ็บ  มันจะไม่เจ็บได้ยังไง
“....”
“เราหายกัน”  ผมเดินออกมาโดยไม่หันหลังกลับไปมอง  จบแล้วเรื่องทุกอย่าง  จบแล้ว  ไม่มีเรื่องที่ทำให้มันต้องกังวลอีกต่อไป  ไม่มีเหตุผลอะไรที่มันต้องมาห่วงผม  มาคอยดูแลอีกแล้ว
จบแล้ว  จบแล้วจริงๆ  ผมพร่ำบอกตัวเองอย่างนั้น  เก็บซ่อนความรู้สึกหลากหลายในใจ  ก้มมองมือขวาที่ยังหลงเหลืออาการชาของตัวเอง
มือนี้...ที่ทำร้ายมัน   เป็นเหมือนสิ่งที่น่าขยะแขยงเหลือเกินสำหรับผม  ขยะแขยงเสียจนอยากทำลาย  อยากตัดมันทิ้งไป
รู้ตัวอีกทีก็เห็นมือข้างนั้นแปะอยู่กับต้นไม้ใกล้ๆ  ความเจ็บพุ่งริ้วๆ จนต้องเผลอขมวดคิ้ว  แผลถลอกมีอยู่เต็มข้อนิ้ว  เหอะ! นี่ผมกำลังทำบ้าอะไร   นอกจากทำร้ายคนอื่นแล้วยังทำร้ายตัวเองอีก  นอกจากรักคนอื่นไม่ได้  ยังจะไม่รักตัวเองด้วย
ความรักทำให้คนโง่  ทำให้คนบ้า  ไม่นาน...อาจทำให้คนตาย
................................................

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

“การ์ดเร็ว!!”  ใครสักคนตะโกน  แต่ไม่ทันแล้ว  ผมที่ยังตั้งตัวไม่ติดถูกไหล่แข็งๆ กระแทกเข้าเต็มรัก  ลูกบาสในมือหลุดกระเด็นกลิ้งไปกับพื้นสนาม
“อึ่ก!” 
“เฮ้ย! เป็นไรมั้ย  ไอ้เชน  ทำเชี่ยไรของมึงวะ” ไอ้นุตวาดรุ่นน้องเป็นครั้งแรกในรอบปี  สีหน้าร้อนรนที่คิดว่าจะไม่ได้เห็นอีกแล้วของมันปรากฏชัด
อยากถามเหลือเกินว่ามันโกรธผมหรือเปล่าที่ต่อยมัน  อยากรู้ว่าทำไมยังเป็นห่วงผมนัก   แต่ก็รู้ว่าทำไม่ได้
ในเมื่อเลือกเดินออกมาแล้ว  จะให้กลับไปทางเก่าได้ยังไง
“ผมขอโทษพี่” ไอ้เชนเข้ามาพยุงผมให้ลุกขึ้น  ผมพยักหน้ายิ้มให้มัน  รู้ว่ามันไม่ตั้งใจ  คนที่ผิดคือคนเหม่ออย่างผมต่างหาก  ผมบอกให้ไอ้เชนช่วยพาออกไปข้างสนามเพราะจุกเกินกว่าจะเล่นต่อ   โดยไม่ลืมทำเรื่องร้ายกาจลงไปอีกครั้ง
“กูบอกมึงแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่ง”  กระซิบเสียงเบาที่มีแค่ผมกับมันเท่านั้นจะได้ยิน

ใครจะคิดว่าคนเหม่อไม่ได้มีแค่ผม  หลังจากที่ผมออกมานั่งดูอยู่ข้างสนามไม่ถึงห้านาทีก็มีไอ้บ้าคนหนึ่งยืนเซ่อให้ลูกบาสลอยมากระแทกหัวจนได้
ผมลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ  สองเท้าเดินเข้าไปหาอย่างไม่รู้ตัว  ถ้าไม่ติดว่ามีผู้หญิงอีกคนข้างๆ ผมลุกขึ้นวิ่งเข้าไปหามันเสียก่อน  ผมได้แต่ยืนตัวแข็ง  ด่าทอตัวเองในใจที่อยากจะเข้าไปดูคนเจ็บ  ไม่ใช่เรื่องเลย  ไม่ใช่เรื่องของผมเลย
ผมนั่งลงช้าๆ  พยายามเบนสายตาไปทางอื่น  แต่มันกลับทรยศเลือกรับภาพตรงหน้ามากกว่าทิวทัศน์ที่ผมแกล้งทำเป็นสนใจ
ผมเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเรื่องของผมกับมันก็ไม่ต่างจากเส้นขนาน  ไม่วันบรรจบ  ต่อให้ได้อยู่ใกล้กันแค่ไหน  สุดท้ายปลายทางของมันก็คือความว่างเปล่า


ความสัมพันธ์ของเราดูเหมือนจะเป็นปกติในสายตาคนอื่นยกเว้นไอ้เวย์กับไอ้ไนท์  ผมไม่รู้หรอกว่าพวกมันรู้ตื้นลึกหนาบางแค่ไหน  แต่ผมเลือกที่จะเงียบและก็ต้องขอบใจพวกมันที่ไม่ถาม
แต่แล้วเรื่องราวไม่คาดฝันก็เกิดขึ้นจนได้
ผมไม่เคยคิดเลยว่าอยู่ๆ เพื่อนสนิทคนหนึ่งจะประสบอุบัติเหตุเป็นตายเท่ากัน  ไม่สิ  ต้องบอกว่ามันตายไปแล้วครั้งหนึ่งก่อนจะฟื้นขึ้นมาได้อย่างปาฏิหารย์เพราะเสียงของเรียกของอีกคนหนึ่ง
ความรักของเพื่อนผมสองคน   ลึกซึ้ง  ยิ่งใหญ่  เสียจนกระทั่งความตายก็ไม่อาจแยกพวกมันได้
ผมไม่เคยเห็นไอ้เวย์ร้องไห้  ฟูมฟายจนสลบไปแบบนี้  ไม่เคยเห็นท่าทางทุกข์ทรมานจนเหมือนคนไม่มีวิญญาณ  ไม่กิน  ไม่พูด  ได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลเงียบๆ  ตอนที่ผมเห็นมันสลบไปในอ้อมกอดของไอ้ชิน  ตอนที่หมอบอกว่าไอ้ไนท์ตายแล้ว   เหมือนโลกทั้งโลกพังลงตรงหน้า
นอกจากพวกมันผมไม่มีใคร  ผมวิ่งเข้าไปกอดมันไว้  กอดทั้งที่มันยังสลบอยู่ตรงนั้น  น้ำตามากมายไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้   สักพักผมก็รู้สึกถึงอ้อมแขนของใครอีกคนที่เข้ามาโอบผมไว้แน่น  ไอ้นุ...มันก็กำลังร้องไห้เหมือนกัน  นั่นทำให้ผมไม่อาจกลั้นเสียงสะอื้นได้อีกต่อไป
พวกเรากอดกันร้องไห้อยู่อย่างนั้น   ร้องไห้หนักอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน
ณ  วินาทีนั้น  ผมบอกตัวเองว่าจะไม่ยอมเสียคนที่ผมรักไปอีกแล้ว   ไม่รู้เมื่อไรที่อ้อมแขนของพวกเราขยับเข้าหากันแน่นขึ้น  จนกระทั่ง....
เสียงชีพจรดังขึ้นอีกครั้ง  แม้จะเป็นเพียงลมหายใจแผ่วเบา
แต่กลับทำให้ห้องทั้งห้องสว่างไสว
ไอ้ไนท์...มันกลับมาแล้ว

เป็นเวลาเกือบอาทิตย์ที่พวกผมมาเฝ้าไข้คนหลับเป็นตายรอให้ฟื้นขึ้นมา  พวกเรารอคอยด้วยความหวัง  ปลอบประโลมกันและกันด้วยรอยยิ้ม
มีใครบางคนบอกให้ผมเชื่อในสิ่งที่คิด  และมันจะเป็นจริง
ดังนั้นเพราะเราจึงเชื่อว่าพรุ่งนี้ไอ้ไนท์จะฟื้น  ไม่ว่ามันจะผ่านไปกี่พรุ่งนี้ก็ตาม


จากวันนั้นดูเหมือนระยะห่างระหว่างผมกับไอ้นุจะแคบลงเรื่อยๆ  อาจเป็นเพราะว่าเราไม่ต้องการลิ้มรสความสูญเสียอีกแล้วก็เป็นได้
เวลาของมนุษย์สั้นนัก  ทำไมจึงไม่ยอมลดทิฐิแล้วตักตวงแต่ความสุขไว้บ้าง
    “ไอ้เวย์!  ข้าวไข่พะโล้มาแล้วโว้ยยยย”  ไอ้นุมันตะโกนตั้งแต่ยังไม่พ้นประตู  มันพยายามทำตัวร่าเริงเสมอ  บางครั้งก็ออกจะร่าเริงเกินพอดีจนลืมไปว่าที่นี่คือโรงพยาบาล 
   “เออ  ใจว่ะ  แต่ทีหลังไม่ต้องตะโกน  กูกลัวห้องข้างๆ มาขอแบ่ง”  ไอ้เวย์มันตอบยิ้มๆ  ใบหน้าเหนื่อยอ่อนของมันดูร่าเริงขึ้นเมื่อเห็นพวกผม  มันก็เป็นอย่างนี้เสมอ  ไม่ชอบให้ใครเป็นห่วงทั้งที่ผมอยากให้มันอ้อนบ้าง  อ่อนแอบ้าง  ไม่อยากให้มันอดทนเอาไว้
   เหลือบไปอีกทางเห็นไอ้เป้ฉุดให้เนมให้ลุกขึ้นจากโซฟา  แล้วยิ้มแหยๆ ส่งมาให้ผม   ปิดตอนนี้...ก็ดูจะไม่ทันแล้วมั้งพวกมึง
   ผมอวยพรให้พวกมันสองคนมีความสุข

   “กินเลยมั้ยวะ”  ไอ้นุมันชูถุงกับข้าวที่ซื้อมาเต็มสองมือ  แล้วทำท่าดมกลิ่นฟุดฟิดเหมาะกับสปีชี่ส์ใหม่ที่ไอ้เวย์เพียรมอบให้เป็นอย่างยิ่ง 
   “เออ  มีบริการใส่จานป่ะวะ” 
   “กูใส่  มึงล้าง  เครป่ะวะ” 
   “ฟาย  งั้นมึงไม่ต้องเลย  เดี๋ยวกู...”
   “กูทำเอง  เถียงกันอยู่ได้  ปัญญาอ่อน”  ผมคว้าหมับเข้าที่ถุงกับข้าว  แล้วเดินลิ่วๆ ไปหยิบจาน   เมื่อเห็นว่าคนปัญญาอ่อนสองคนอย่างพวกมันคงตกลงกันไม่ได้ง่ายๆ 
   ท่าทางผมคงจะเหมือนคนหงุดหงิดเต็มที่  แต่ในใจผมกลับกำลังยิ้ม
ดีใจที่ได้เห็นพวกมันเถียงกันเหมือนเด็กๆ

   “ซื้อร้านไหนวะ  อร่อยโคตรๆ”  ผมมองไอ้เวย์กินด้วยความเร็วมหาศาล  อาการยกชามไข่พะโล้เพื่อซดน้ำเล่นเอาผมไม่กล้าแตะของมันอีกเลย   ท่าทางจะชอบจริงครับ  ไอ้นุหันมายักคิ้วอวดๆ ให้ผม  อาจะแปลได้ว่า  ‘เห็นมั้ย  ไอ้เวย์มันชอบ’
   “เหอะ  กูทำเอง”  แล้วมันก็ยังด้านเอาความดีเข้าตัวต่อไป
   “พูดอะไรช่วยดูหนังหน้าตัวเองก่อนได้มั้ยมึง” 
   “เชี่ย  กูอุตส่าห์ไปซื้อให้” จำได้มั้ยครับ  เมื่อกี้ไอ้บ้าตัวไหนมันบอกว่ามันทำเอง
 
   “โอ้ย /อูย  หัวกู”  ผมสบถออกมา  แล้วก็ต้องนิ่งค้างเมื่อเงยหน้ามาพบกับใบหน้าของคนที่ผมยังไม่พร้อมจะเถียงด้วย   เหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้เราไม่อาจละสายตาออกจากกันได้ง่ายๆ ...นานกว่าต่างฝ่ายจะรู้สึกตัวและผละออกจากกัน   
   “ขอโทษ”  ไอ้นุพูดเสียงอ่อย
   “ซุ่มซ่าม”  ผมพูดออกไปโดยไม่รู้ตัว  พอนึกได้ก็เห็นดวงตาโตเท่าไข่ห่านของไอ้นุเบิกรออยู่  แค่ผมพูดกับมันนี่น่าตกใจมากขนาดนั้นหรือไง  ผมได้แต่แกล้งตีหน้าเฉยขณะที่อยากหัวเราะออกมาดังๆ กับท่าทางไม่อยากจะเชื่อของมัน
   ไอ้นุมันบ้า  ไอ้บ้าขนานแท้
   “ม่ะ..มึง  พูด?”   ดูมันทำปัญญาอ่อน  ร้อนถึงไอ้เวย์ต้องช่วยตบบ่าพร้อมคำยืนยัน
   “เออ” 


   เก๊งงง  เสียงช้อนกระทบกันทำให้ผมต้องเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมาอีกครั้ง   ทำไมวันนี้ผมกับมันจะมีเรื่องบังเอิญให้ได้สบตากันบ่อยนักก็ไม่รู้สิครับ
   “เอ่อ..กูตักให้แล้วกัน”  ไอ้นุพูดเสียงเบา  พลางเลื่อนช้อนที่มีแกงหมูอยู่เต็มมาใกล้จานผม
   “ไม่ได้ขอ”  ท่าทางกล้าๆ กลัวๆ อย่างนั้นทำให้ผมนึกอยากแกล้งมันขึ้นมา
   “.....อ่า..คือ”
   “แต่ก็ดี”   พอผมอนุญาตปุ๊บไอ้นุมันก็ยิ้มกว้างอย่างไม่เก็บอาการ  รีบตักกับข้าวใส่จานให้ไม่มียั้ง  จนไอ้ผมต้องทำหน้าดุใส่มันนั่นแหละ  มันถึงยอมหยุด   หูตกหางตกอย่างเห็นได้ชัด  สรุปมันเปลี่ยนสปีชี่ส์อย่างที่ไอ้เวย์บอกแล้วจริงๆ ครับ

   “พี่เวย์  อยากได้มะนาวมั้ยพี่” ไอ้เป้มันสะกิดถามไอ้เวย์  มันสองคนเหมาะจะอยู่ด้วยกันแล้วครับ  จะได้ช่วยกันกวน 
   “กูกำลังจะขอมึงอยู่พอดีเลยว่ะไอ้เป้  รู้สึกไข่พะโล้มันหวานขึ้นมากะทันหัน” อ้าว!  มึงเองก็รู้สึกเหรอ  นึกว่ากูจะรู้สึกไปคนเดียวเสียอีก

   สำหรับผม...เรื่องดีๆ มันจะเป็นความสุขชั่วคราว  มาไวไปไว  อยู่ได้ไม่นาน  แค่เสียงโทรศัพท์ของไอ้คนข้างตัวมันดังเป็นเพลงที่ผมรู้ได้ทันทีว่าใครโทรมา  ความสุขก็ผมก็หมดเวลาลงแล้ว
   เพลงพิเศษสำหรับคนพิเศษ...ที่มีได้แค่คนเดียว
   

   คืนนั้นไอ้เวย์มันขออยู่เฝ้าไนท์กับลุงนพ  มันบอกมีเรื่องอยากคุยกันให้เข้าใจ  ผมว่าคงไม่พ้นเรื่องของไอ้ไนท์นั่นแหละครับ  ผมกับไอ้นุก็เลยถือโอกาสกลับบ้านไปปั่นรายงายในส่วนของตัวเองเพื่อช่วยลดภาระของส้มกับหยกที่ยังตามเคลียร์งานให้ไอ้เวย์กับไอ้ไนท์ไม่หมด
   พวกเราหกคนเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันจนใครๆ ต่างก็อิจฉา  ผมรู้เพราะผมเองก็เคยนึกอิจฉาบ้างเหมือนกัน  แต่จากนี้ไปจะไม่มีอีกแล้วครับ  ผมจะรักพวกมันทุกคนให้มากๆ  จะใช้เวลาที่เหลือทั้งหมดอย่างมีค่าที่สุด  เพราะผมไม่อยากเสียใจทีหลังหากใครสักคนต้องจากไป
   เมื่อเดินมาถึงสนามหญ้าหน้าโรงพยาบาลก็เป็นเวลาดึกมากแล้ว   ผมรู้สึกถึงสัมผัสบางเบาที่หัวไหล่  พร้อมกับคำพูดที่ตรงกับสิ่งที่ผมกำลังคิดราวกับมานั่งอยู่ในใจ
 “มึงรู้มั้ย  เพราะไอ้เวย์กับไอ้ไนท์ทำให้กูคิดอะไรได้บางอย่าง”
“...” ผมเลือกที่จะเงียบแล้วฟังมันพูดต่อไป
“ถ้าคนที่ถูกรถชนเป็นกู  ถ้ากูกำลังจะตาย”
“....”
“กูอยากเจอหน้ามึงสักครั้ง  อยากบอกว่า..กูรักมึง”
หัวใจผมแทบหยุดเต้นกับคำพูดบอกรักของมัน  มัน..รักผม  รักอย่างที่ผมก็รักมันอย่างนั้นเหรอ?  ความยินดีมากมายจนแทบจะเอ่อล้นออกมา  ทว่าในนั้นกลับมีความหนักใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน   ผมไม่สามารถพูดอะไรออกไปได้ราวกับคนหาเสียงตัวเองไม่เจอ
หัวใจที่เต้นแรงด้วยความยินดีกำลังเหนื่อยอ่อนกับความรู้สึกผิด
ผิดที่รักมัน  ผิดที่มันรักผม  ผิด  ผิดทุกอย่าง

ยามที่เราต้องพบกัน    เจ็บในใจฉันทุกครา
ที่ต้องคอยหลบสายตา    เพื่อซ่อนรักในใจ


จนมันดึงให้มันหันไปเผชิญหน้ากับมันนั่นแหละผมถึงได้รู้สึกตัว
“กูมีเรื่องอยากบอกมึงหลายเรื่อง  แต่มีเรื่องอยากถามแค่เรื่องเดียว” ดวงตาคมกล้าที่จ้องมาทำให้ผมรู้สึกกลัว  กลัวหัวใจตัวเอง  กลัว..คำถามของมัน
“มึงรักกูหรือเปล่า” นี่แหละที่ผมไม่อยากได้ยิน  เพราะผมไม่มีคำตอบให้มัน  เพราะผมตอบมันไม่ได้  บอกมันไม่ได้ว่าผมก็รักมัน  รักมันมานานแล้ว
“มึงก็รู้...ว่าเรารักกันไม่ได้” พยายามควบคุมเสียงตัวเองไม่ให้สั่น  กลั้นน้ำตาที่แทบจะไหลออกมาอยู่รอมร่อ   แบบนี้มันเจ็บยิ่งกว่าการรักมันข้างเดียวเป็นไหนๆ
ถ้ารักข้างเดียว...อย่างน้อยผมก็รู้ตัวว่าควรยืนอยู่ตรงไหน  รู้ตัวว่าสิ่งที่ทำได้ก็คือคอยมองอยู่ไกลๆ  คอยบอกรักอยู่ในใจ  และอาจ...ตัดใจอวยพรให้มันได้ถ้ามันต้องการ
แต่การได้รู้ว่ามันก็รักผมเหมือนกัน  มันทำให้ผมทั้งเจ็บ  ทั้งอึดอัดที่ไม่อาจทำให้รักครั้งนี้เป็นรักที่สมหวัง
ทั้งที่รักมากขนาดนี้

อยากมีเธออยู่ข้างกาย    เก็บเธอไว้ไม่ให้ไกล
แต่ความจริงช่างโหดร้าย   ที่ไม่อาจมีเธอ


“กูแค่อยากรู้ว่ามึงรักกูบ้างไหม  มึงเริ่มรักกูบ้างหรือยัง” น้ำเสียงคาดคั้นกับดวงตาที่เหมือนพร้อมรับความเจ็บปวดทุกอย่างทำให้ผมไม่อาจฝืนตัวเองได้อยากต่อไป  ไม่อาจต้านทานความรักมากมายที่ต้องเก็บไว้มาตลอด  ไม่อาจอดกลั้นทำเป็นไม่รู้สึกได้อีกแล้ว
ผมพยักหน้าลงอย่างเงียบงัน  มันยิ้มกว้างที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็น  ดวงตาคู่นั้นมีน้ำใสๆ เอ่อคลอไม่ต่างจากผม  น้ำตาแห่งความยินดี   มันดึงผมไปกอดแน่นและผมก็กอดมันตอบอย่างที่อยากทำมาเสมอ
มันเป็นความยินดีในความเจ็บปวด  เจ็บที่รู้ว่าเราต่างรักกัน  แต่เรา...รักกันไม่ได้

ต่างคนต่างรู้หัวใจ     มากมายเพียงไหน รักกัน
ปิดบังซ่อนไว้   ทุกวัน   มันปวดร้าวใจ


 “แค่นี้เราก็รักกันได้แล้ว” มันกระซิบที่ข้างหูผม  แต่ผมรู้ดีว่ามันเป็นไปไม่ได้  ผมมันเลวอยู่แล้ว  จะเลวดื้อดึงรักมันต่อไปก็ไม่เป็นไร  แต่คนดีอย่างมันจะกลายเป็นคนเลวเพราะผมไม่ได้  ผมยิ้มได้เสมอเมื่อเห็นเพื่อนสองคนมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น  และคงทนไม่ได้หากเราสองคนจะต้องทำให้ผู้หญิงดีๆ คนหนึ่งที่ไม่มีความผิดอะไรเลยต้องร้องไห้  ต้องเสียใจ
ผู้หญิงดีๆ ที่ตอนนี้ก็กำลังทำเพื่อพวกเรา
“กู..ทำไม่ได้”
มันลูบหัวผมเบาๆ  แล้วกระซิบถ้อยคำที่ชาตินี้ผมคงไม่มีวันลืม  ถ้อยคำที่ต่อให้มีคนมากมายมาพูดให้ฟังก็คงไม่ซึ้งได้เท่านี้
“กูไม่ได้ขอให้เราเป็นแฟนกัน  แต่อย่างน้อยกูดีใจที่ได้รู้ว่ามึงก็รักกูเหมือนกัน  ได้มีช่วงเวลาที่มีมึงอยู่ในอ้อมกอดแบบนี้ให้จดจำ  จะผ่านไปอีกกี่สิบปี  จนกูกับมึงกลายเป็นตาแก่  กูก็จะไม่ลืม”
ผมร้องไห้ออกมาเงียบๆแล้วกอดมันแน่นขึ้น  ความรู้สึกมากมายทอดผ่านการสัมผัสโดยไม่ต้องอาศัยคำพูด
นี่สินะครับ...เรียกว่าความสุขของการรักและได้ความรักตอบ
ถึงแม้วันพรุ่งนี้ความสุขจะแปรเปลี่ยนเป็นความทุกข์  แต่อย่างน้อย...ก็ยังมีเวลาแบบนี้ให้จดจำในหัวใจ

แค่หนึ่งนาทีให้เราได้รักกัน    ต้องแลกอะไรก็ยอมและพร้อมใจ
ดีกว่าไหวหวั่น อยู่กันใกล้ๆ
แต่ไม่ได้รักเลย

อ้อนวอนทุกอย่าง   ช่วยเปิดทางหัวใจ
ให้เราได้รักกัน

ความรักของเรา...ยังคงเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ  แต่ผมจะไม่ลืมเลยว่าเคยมีเส้นตรงเส้นหนึ่ง  มั่นคง  ยืนหยัดอยู่เคียงข้างผมเสมอ


...............................................
•   เพลงหนึ่งนาทีจากเรื่องคู่กรรม  หาฟังได้ที่นี่ http://music.siamza.com/music.php?k=64K&id=216

whitedemon

  • บุคคลทั่วไป
จบเรื่องราวของเส้นขนาน  อาจเป็นความรักที่หาจุดลงตัวแบบคู่อื่นๆ ไม่ได้  แต่ก็เป็นความรักที่มั่นคงและมีอยู่จริงในนิยายเรื่องนี้  ขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้พวกเขาทั้งสองคน  และขอบคุณที่เป็นกำลังใจให้นุ่นแต่งนิยายเรื่องนี้มาโดยตลอด  ^^
ภาคสอง...อาจจะไม่ได้มาเร็วๆ นี้  เพราะภาระกับงานมากมายฉุดแข้งฉุดขาอยู่  อีกทั้งพล็อตก็ยังไม่มา  มีแต่ธีมมาอย่างเดียว  ฮ่าๆ  อาจจะลงช้ามากๆ ก็เลยฝากลิงค์ไว้เผื่อใครอยากติดตามนะคะ
http://writer.dek-d.com/mediodia/story/view.php?id=448527
ขอบคุณอีกครั้งที่ติดตามและเป็นกำลังใจให้ค่ะ ^^


ออฟไลน์ Chatcha

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-0
เข้าไปอ่านในเด็กดีมาแล้วละ

มาจิ้มที่นี่อีกรอบ

ยังไงก็อยากให้ 2 คนนี้ ลงเอยกันอะ

แบบเป็นแฟนกันเลย

แบบนี้มันค้างคาไงไม่รู้


ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
เป็นความรักแบบที่ ซาบซึ้งจริงๆค่ะ

ทั้งคู่ต่างก็รักกัน

ขอบคุณที่มาต่อนะคะ :bye2:

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8

melon_jung

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ SoN

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2965
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +123/-15

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ kitty

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +258/-7

Bronc

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วน้ำตาซึม  รักกันแต่ครองคู่กันไม่ได้  :o12:

แต่งได้ดีมากเลย ชอบอ่ะ  ใจจริงอยากให้คู่นี้สมหวัง แต่อ่านแล้วจบแบบนี้ก็สมบูรณ์
ถึงแม้จะเป็นแฟนกันไม่ได้ แต่ก็รักกัน เป็นความรู้สึกที่ดีและยิ่งใหญ่นะ

"ความรักของเรา...ยังคงเป็นเส้นขนานที่ไม่มีวันบรรจบ  แต่ผมจะไม่ลืมเลยว่าเคยมีเส้นตรงเส้นหนึ่ง  มั่นคง  ยืนหยัดอยู่เคียงข้างผมเสมอ" ชอบประโยคนี้มากจ้ะ โดนใจอย่างจัง

ออฟไลน์ maxtorpis

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1442
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-4


van

  • บุคคลทั่วไป
 :monkeysad:  อยากให้เส้นขนานคู่นี้มีซักวันที่มาบรรจบกันค่ะ
แม้ว่าจะยาวไกลซักแค่ไหน ...  ก็อยากให้มีวันนั้น

ขอบคุณคนเขียนมากค่ะ  ส่งกำลังใจให้มีตอนต่อไปทั้งของเวย์-ไนท์
และนุ-แชมป์นะคะ  :L1:

ออฟไลน์ a_tapha

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4981
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +397/-1

ออฟไลน์ Tumz

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +30/-4
ทั้งเศร้า และซึ้งเลยครับ

ผมว่าอย่างน้อย นุกับแชมป์เปิดใจกัน ก็ทำให้รู้ว่ามีเส้นขนานเส้นหนึ่งที่เคียงข้างเราเสมอ แม้อาจจะไม่ได้มาบรรจบกันก็ตาม

แต่ทุกอย่างก็เป็นเรื่องอนาคตเสมอ ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง...

เป็นกำลังใจสำหรับเรื่องดีๆ ที่ได้อ่านนะครับ

 o13


whitedemon

  • บุคคลทั่วไป

อยากทราบว่านิยายจบแล้ว  จะต้องย้ายหมวดยังไงคะ?

หรือว่ารอพวกพี่ๆ ย้ายให้  ไม่ต้องทำอะไรใช่ไหมคะ


อ้อ...   ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามมาจนจบนะคะ  ^^

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
อ่านในเด็กดีมาแล้วแระ

ตามมาจิ้มให้ที่บอร์ดนี้อีก

นิยายนุ่นจะได้ reply เยอะๆไง

จบแล้ว รอภาคสอง  :z2:

ออฟไลน์ i_lost in..

  • ' ในเมื่อเรามีความรักอันเต็มเปี่ยมจากครอบครัว แล้วทำไมต้องไปขอเศษเสี้ยวจากใคร '
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 922
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +166/-0
 :m15:

ขอบคุณสำหรับนิยายดีดีค่ะ

ชอบเรื่องนี้มากเป็นเรื่องโปรดเลยก็ว่าได้

รออ่านภาค 2 ค่ะ  :impress:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






bakabong

  • บุคคลทั่วไป
รอภาค2นะค๊าฟฟฟฟ

 :เฮ้อ:

เรารักกันแต่มันเป็นไปไม่ได้ เกลียดคำนี้เนอะ

Salim021

  • บุคคลทั่วไป
 o13

บทจะฮาก็ฮาได้ใจ

บทจะซึ้งก็ล่อซะ....... :o12:


สรุป....เยี่ยมค่ะ  o13 o13 o13

Twister

  • บุคคลทั่วไป
รอภาคใหม่

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
จะมีภาคใหม่จริงๆ ช่ายมะ??

ออฟไลน์ EverGreen™

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-1
ภาค2ละพี่นุ่นนน



"เหมือนคนสะดุดแต่ไม่ล้ม"  เป๊ะ  :o12:

แมววาย

  • บุคคลทั่วไป
รักกันแบบเส้นขนาน  อนาคตไม่รู้ว่าใครจะเจ็บปวดกว่ากัน  เจ็บปวดจากการรอ

รอภาคต่อ ไปจ๊ะ

ออฟไลน์ nunda

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3004
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +51/-2
เฮ้ออ กะแล้วมันน่าจะต้องจบประมาณนี้ เศร้าๆๆๆ  :เฮ้อ:
ก็คงเป็นทางออกของความรักอีกรูปแบบหนึ่งล่ะมั้ง
แต่แชมป์ก็คงทรมานน่าดูนะ ที่ต้องเห็นคนที่เรารักอยู่กับผู้หญิงอีกคน
ถ้าจัดการกับความรู้สึกของตัวเองได้ก็ดีอยู่หรอกนะ

ขอบคุณนุ่นด้วยจ้า สำหรับเรื่องดีๆ(อีกเรื่องหนึ่งในใจเราเลยนะ)  :L2:

ออฟไลน์ ToeyTato

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1289
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-1
 :laugh: :o12: :-[ :m31: :z3: :เฮ้อ: :m25:  <<<<< คืออารมณ์ที่ได้อ่านมาตั้งแต่ต้นจนจบ มีหมดเลยอ่ะ
ชอบเวย์ ฮาได้อีก ขนาดอยู่ช่วงที่ควรจะเครียด แต่กลับป่วงซะงั้น 555
ชอบไนท์ ดูจิงใจดี การกระทำมันก็สื่อไรได้เยอะดีจากไนท์
ชอบชิน ไม่มีใครเอา เค้าเอาเอง หุหุ กร๊ากกกก
ชอบนุ ที่รักแฟนตัวเองมาก แล้วก็กลัวเมียดี 555 สงสารที่มารู้ตัวช้าไป
ชอบแชมป์ที่รักนุมาตลอด แต่ก็รู้จักหักห้ามใจ เฮ้ออ สงสารอ่ะ จิงๆก็อยากให้สมหวังกันนะ
ทำให้ได้เห็นมุมมองความรักและรูปแบบความรักที่แตกต่างกันไปแต่ละคู่
แต่สุดท้ายทุกๆคู่นั้น ก็เกิดมาจากความหมายเดียวกันคือ ความรัก
ปล.แล้วเมื่อไหร่เราจะมีกับเค้าบ่าง กรรมเจงๆ :o11:

ออฟไลน์ @BUA@

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2602
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +427/-8
 :L2:
มากมายค่ะ

ออฟไลน์ kangkaw

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 392
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +25/-2
อ่านแล้วซึ้งมากมาย (เก็บไว้นึงขนมจีบได้อีกเป็นปี)  :impress2:
เป็นการจบที่ดีอีกแบบหนึ่งเนอะ ยังไงก็ผูกพันกันตลอดไป  :กอด1:

ภาค 2 ภาค 2 

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด