เรียนวุ่น ธุรกิจรัก บทที่ 60 (10/11/09) อวสาน --- มีตอนพิเศษมาต่อให้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนวุ่น ธุรกิจรัก บทที่ 60 (10/11/09) อวสาน --- มีตอนพิเศษมาต่อให้  (อ่าน 213201 ครั้ง)

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
ข้อตกลงในการเข้ามาในเล้าเป็ดนะครับ กรุณาอ่านทุกคนนะครับ
เล้าแห่งนี้เป็นที่ที่คนชื่นชอบนิยาย boy's love หรือชายรักชาย หากใครหลงมาแล้วไม่ชอบ
กรุณากดกากบาทสีแดงมุมด้านขวาบนออกไปด้วยนะครับ

สรุปข้อสำคัญดังนี้

1.ห้ามละเมิดสิทธิส่วนตัวของคนแต่งและบุคคลในเรื่องทั้งหมด

2.ห้ามมิให้โพสต์ข้อความ รูปภาพ ใช้ลายเซ็นหรือรุปส่วนตัวหรือสื่อใดๆที่ก่อให้เกิดความขัดแย้ง ไม่แสดงความเคารพ, หมิ่นประมาท, หยาบคาย, เป็นที่รังเกียจ, ไม่เหมาะสม,ติดเรท x,ทำให้กระทู้กลายพันธ์,ไม่เกี่ยวพันกับนิยายที่ลง หรืออื่นๆที่ขัดต่อกฎหมาย,ห้ามโพสกระทู้ที่จะสร้างประเด็นความขัดแย้ง  ในเรื่อง การเมือง ศาสนา พระมหากษัตริย์  และสถาบันต่าง ๆ  รวมถึงกระทู้ที่จะสร้างความแตกแยก  ชวนวิวาท ของสมาชิกภายในเวปบอร์ด

3.การนำเรื่อง ข้อความ รูปภาพมาโพส หรือนำข้อความใดๆไปโพสที่นี่หรือที่อื่นๆ กรุณาพยายามติดต่อขออนุญาตเจ้าของเรื่องก่อนนะครับ

4.ห้ามแจกเบอร์ แลกเมล บอกเมล แลก msn บนบอร์ด
โดยเฉพาะการบอกเบอร์ หรือเมลของคนอื่นโดยที่เจ้าของไม่ยินยอม

เวปไซต์แห่งนี้เป็นเวปไซต์ส่วนบุคคลที่ได้รับความคุ้มครองจากกฏหมายภายในและระหว่างประเทศ การเข้าถึงข้อมูลใดๆบนเวปไซต์แห่งนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ให้บริการ ถือว่าเป็นความผิดร้ายแรง

ข้อความใดๆก็ตามบนเวปไซต์แห่งนี้ เกิดจาการเขียนโดยสมาชิก และตีพิมพ์แบบอัตโนมัติ ผู้ดูแลเวปไซต์แห่งนี้ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วย และไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ  โปรดใช้วิจารณญาณของท่านที่เข้าชม และ/หรือ ท่านผู้ปกครองในการให้ลูกหลานเข้าชม

กรุณาอ่านเพิ่มเติมที่นี่
http://www.thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0

Introduction
[/size][/color]

LUX ET VERITAS
อากาศเย็นๆของเดือนกันยายนนำความเหงาเข้ามาสู่ในหัวใจที่ว่างเปล่า ผมกวาดตามองไปรอบๆมหาลัยทันทีที่ผมเดินเข้ามาในประตูอันกว้างใหญ่ที่ถูกสลักไว้ด้วยคำสั้นๆว่า

“LUX ET VERITAS”

“YALE UNIVERSITY”

ผมคิดในใจ นี่ก็เป็นปีสุดท้ายแล้วที่ผมจะได้มาเหยียบอยู่ที่มหาลัยชั้นนำของโลกแห่งนี้ ผมยังจำวินาทีแรกที่ผมได้รับจดหมายซองใหญ่ๆจากมหาลัยแห่งนี้
“Congratulations, you are admitted………………………….. You should be proud of your achievement…..”

ใครจะไปคิดว่าคนที่เรียนเก่งปานกลางอย่างผมจะมีโอกาสได้เข้ามาเรียนในมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆของโลก คงเป็นเพราะว่าผมชอบทำกิจกรรมที่โรงเรียนแล้วเป็นคนที่มีบุคลิกภาพดีพอสมควร อาจารย์ที่นี่เลยคงเห็นว่าผมอาจจะปรับตัวเข้ากับธรรมเนียมของที่นี่ได้ภายในเวลาอันไม่ช้าเท่าไหร่

ผมมาเรียนอยู่ที่นี่เป็นเวลาสามปีก็มีเพื่อนต่างชาติเยอะแยะมากมายเพราะว่าคนที่นี่ นอกจากจะเก่งแล้ว ยังอัธยาศัยดีมากๆ จึงทำให้ผมไม่ค่อยคิดถึงบ้านเท่าไหร่นัก เพราะยังไงผมก็กลับบ้านมาที่เมืองไทยบ่อยๆอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นช่วงคริสต์มาส อีสเตอร์ และปิดเทอมใหญ่ รวมๆแล้วก็หลายวันอยู่ พ่อกับแม่ที่บ้านก็ยังแข็งแรงและมีความสุขดี แถมมีน้องสาวตัวดีคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ท่านก็คงไม่เหงาเท่าไหร่ ถึงเหงาเมื่อไหร่ก็มี msn กับ skype ที่ใช้คุยกันได้เรื่อย

เพราะเหตุนี้แหละ ผมจึงคิดว่าตัวเองโชคดีมากๆที่เกิดมาเพียบพร้อมไปด้วยทุกอย่างที่ใครๆหลายคนอยากได้

ผมเดินเข้าไปในหอ Berkeley แล้วก็เดินตรงเข้าไปสะกิด ซู กับ หวานหว่าน ที่นั่งคุยกันอยู่อย่างเมามันส์ พอผมสะกิดเท่านั้นแหละ พวกมันสองคนก็ตรงเข้ามากอดแล้วก็หอมแก้มผมอย่างสนิทสนม สองคนนี้มันเป็นคนจีนที่มาอยู่อเมริกาตั้งแต่เด็กๆ แล้วมันก็เป็นเพื่อนคนแรกๆที่ผมได้เจอตั้งแต่มาเรียนที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ ถ้าจำไม่ผิด รู้สึกว่าจะเจอกันครั้งแรกในห้องเรียนวิชา political science เพราะผมยังไม่รู้จักใคร เลยเดินไปนั่งกับสองคนนี้ ซึ่งพวกมันก็ต้อนรับผมเป็นอย่างดี
คุยทักทายกับพวกมันสักครู่ก็ขอตัวไปเก็บของในห้องก่อนเพราะว่าแบบขนมกลับมาฝากเพื่อนๆที่นี่เต็ม ไปหมด ไม่ว่าจะเป็น ทองม้วน มะม่วงกวน แถมผมยังแอบจิ๊ก ตับหมู ที่แม่ซื้อมาให้หมาที่บ้านอีก คิดแล้วก็รู้สึกทุเรศตัวเองที่ไปแย่งหมากินได้ เฮ้อออ
หลังจากผมเก็บของเข้าตู้เสร็จ ผมก็หย่อนตัวลงไปนั่งบนเตียงหอมๆ แล้วก็เอื้อมมือไปตั้งนาฬิกาปลุกเอาไว้ตอนทุ่มนึง
“อืม สักสองชั่วโมงคงหายเหนื่อยมั้ง เฮ้อ ยัง jetlag อยู่เลยอะ”
 ก่อนจะไปผมก็ไม่วายส่งเมสเสจไปหาหวานหว่านแล้วบอกกันมันว่า “see you around 7.05 pm at dinner honey!”
มันก็ตอบกลับมาว่า “sure darling”
แล้วผมก็ผล็อยหลับไป....
................................
ตอนนี้ไม่ต้องใส่หัวเรื่องแล้วนะ ว่านิยายหรือเรื่องเล่า นอกจากเรื่องสั้น ถึงจะใส่จ้า
Share This Topic To FaceBook
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 13-11-2009 14:34:25 โดย Poes »

BaBo

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] เรียนวุ่น ธุรกิจรัก
«ตอบ #1 เมื่อ24-02-2009 15:59:50 »

 :mc4: เรื่องใหม่ๆ

สู้ๆนะคะ เป็นกำลังใจให้

รออ่านๆ

anna1234

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] เรียนวุ่น ธุรกิจรัก
«ตอบ #2 เมื่อ24-02-2009 16:03:54 »

 :mc4: :L1: ด้วยดิ

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
Re: [นิยาย] เรียนวุ่น ธุรกิจรัก
«ตอบ #3 เมื่อ24-02-2009 16:18:48 »

 :mc4: :mc4:

ขออ่านด้วยคน

อิอิ

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 1
ตื่นมาก็ยังรู้สึกเหนื่อยและมึนหัวตึ้บๆนอนกลิ้งอยู่บนเตียงอยู่พักนึงเลยลุกขึ้นมาแล้วนั่งพักอยู่บนเตียง แกว่งขาไปมาสองสามรอบ แล้วค่อยเดินไปล้างหน้า แล้วก็รีบเดินตรงผ่าน Common room ไปที่โรงอาหารเพื่อไปหา ซู กับ หวานหว่าน

ในใจก็คิดว่าเพื่อนๆที่เหลือมันจะมาถึงกันรึยังเพราะหอยังดูเงียบๆอยู่เลย ไม่ค่อยคึกคักเท่าที่ควรเหมือนวันปกติ สงสัยเทอมนี้อาจจะกลับมากันช้าแน่ๆ นี่พึ่งวันเสาร์เอง เปิดเรียนก็ตั้งวันอังคาร ท่าจะแห่กลับมาวันจันทร์เย็นกันแหงๆ

จะว่าไปแล้ว หอปีนี้ก็ดูเปลี่ยนไปกว่าปีที่แล้วเยอะเลย อะไรๆดูใหม่ขึ้น ทั้งห้องน้ำ ห้องนอน ห้องสมุด และอีกหลายๆห้อง แต่ต้น ivy ทีพันรอบๆตึกต่างๆก็ยังคงความคลาสสิก ให้สมกับที่เป็นมหาวิทยาลัย เยล แล้วก็เมืองเก่าๆที่ชื่อว่า นิวฮาเวน

พอเดินผ่านประตูบานยักษ์ของ Dining hall เข้าไปก็เจอกับ ซู และ หวานหว่าน นั่งกินข้าวกันอย่างเอร็ดอร่อย ผมต้องบอกไว้ก่อนเลยว่า กับข้าวของ เยล อร่อยมากๆ อร่อยสุดๆ อย่างกับกินอาหารตามโรงแรม ห้องอาหารถูกแต่งไว้อย่างสวยงามด้วยน้ำแข็งที่ถูกแกะสลักเป็นรูปต่างๆ ทั้งดอกไม้ น้ำตก ผลไม้ และอื่นๆอีกมากมาย ผมเดินไปตักแครนเบอร์รี่สลัด กับ ซุปเห็ดแล้วก็มานั่งกินข้าวกับพวกมัน พวกเราสามคนนั่งคุยอย่างออกรส ทั้งเรื่อง ปิดเทอม ไปฝึกงาน ไปเที่ยว และอะไรอีกหลายๆอย่างที่พวกเราจะคุยกันได้

พอเริ่มอิ่ม ผมก็กวาดตามองไปรอบๆโรงอาหารที่มีคนอยู่เพียงแค่สิบกว่าคน จากปกติที่อยู่กันตั้ง 70-80 ในบ้านหลังหนึ่ง ผมถอนหายใจออกมาช้าๆ เอาเข้าจริงๆแล้ว จะพูดว่าไม่ค่อยคิดถึงบ้านก็ไม่ได้หรอกเพราะว่าใจจริงก็อยากอยู่ที่ไทยต่อเหมือนกัน ใจก็ยังนึกถึงตอนที่ไปเที่ยว ปาย กะ พ่อ แม่ แล้วก็ ยัยมุก น้องสาวตัวดีอยู่เลย

“dude, why so quiet? (ไมเงียบจังอะ)” หวานหว่านถาม

“Haha, I kind of miss Thailand. I don’t think I am that ready for classes yet (คือแบบว่ายังคิดถึงเมืองไทยอยู่อะ แล้วตอนนี้ก็ยังไม่พร้อมที่จะเริ่มเรียนด้วย” ผมตอบกลับไป

“Oh poor Armmy, It’s okay darling. We are here for you (โถ อาร์มมี่ที่น่าสงสาร ไม่เป็นไรนะจ๊ะสุดที่รัก เธอยังมีพวกเราเสมอ)” ซูแทรกเข้ามาแถมยังทำหน้ากวนตีนยังกับผมเป็นเด็กเล็กๆ ผมได้แต่ยิ้มแหยๆให้พรางคิดในใจว่า ถ้าไม่เห็นว่าเป็นผู้หญิงแล้วหน้าตาน่ารัก กูต่อยมึงแน่

จะว่าไปแล้ว ไอ้ซูกับไอ้หวานหว่านมันก็หน้าตาดีทั้งสองคนนะครับ มีหนุ่มๆทั้งเอเชียและฝรั่งมาชอบพวกมันเยอะเหมือนกันอยู่ แต่พวกมันก็ไม่มีทีท่าว่าจะชอบใครกลับ สงสัยคงอยากรักษาคานไว้ หึหึหึ

จะบอกให้ก็ได้ ว่าผมชื่อ อาร์ม แต่ว่าเพื่อนที่นี่บางคนโดยเฉพาะสาวๆมันก็ชอบเรียกผมว่าอาร์มมี่ โดยที่พวกมันบอกเหตุผลเพียงว่า มันดูน่ารัก ผมก็ไม่อยากไปคัดค้านอะไรพวกมันมากก็เลยปล่อยให้พวกมันเรียกชื่อนี้ไป ไม่ได้ขัดใจอะไรอยู่แล้ว ผมค่อนข้างมั่นใจในตัวเอง ว่าหน้าตาก็ดูดี ขาว สูง  ปากแดงๆ ไม่ได้น่าเกลียดน่ากลัวอะไร เพราะฉะนั้นใครจะเรียกยังไงมันก็น่ารักอยู่วันยังค่ำนะแหล่ะ (แอบหลงตัวเองหน่อยๆนะ ฮี่ๆๆ)

“So what are you guys planning to do tomorrow and on Monday? (แล้วจะทำอะไรกันวันพรุ่งนี้กับวันจันทร์อะ)” ผมถามพวกมันสองคน
พวกมันทั้งสองคนพยักหน้าเป็นแล้วก็ยิ้มให้ผม พร้อมกับตอบออกมาเป็นเสียงเดียวกันดังๆ ว่า “shopping around the town (ซื้อของรอบๆเมือง)”
นั่นไง กูว่าแล้ว มีเหรอที่ไอ้สองตัวนี้จะไม่ไปเดินรอบๆนิวฮาเวน ถึงแม้ว่ามันจะเป็นเมืองเล็กๆแต่มันก็มีอะไรหลายๆอย่างให้น่าเดินดู บรรยากาศดีๆ และตึกสวยๆ สไตล์ gothic revival ก็ทำให้ผู้คนที่ผ่านมาหลงใหลในเมืองนี้ไม่น้อยอยู่เหมือนกัน

“wanna come, armmie? (ไปด้วยกันไหมจ๊ะ อาร์มมี่)” ซูถามพร้อมยิ้มหวานให้ผม

ผมไม่มีแผนทำอะไรอยู่แล้ว ก็เลยตอบตกลงพวกมันไป

“I think we should go and buy some stationery because we will have lots of practical to write up this semester (เราว่าไปซื้อพวกเครื่องเขียนกันด้วยนะ เพราะว่าเทอมนี้มีแลปให้เขียนเยอะแน่ๆเลย)” หวานหว่านออกความเห็น

“Yea, I agree. I wonder how I could possibly survive this term. It will be so damn tough! Anyway, talking about it, I am really excited to see if any student from other college would transfer to our uni! What about you guys? (นั่นสิ นี่เรายังคิดอยู่เลยเนี่ยว่าเทอมนี้จะเรียนรอดไหม เอาเหอะ พวกเธออยากรู้ไหมว่าเทอมนี้จะมีนักเรียนใหม่มาจากไหนบ้าง ฉันอยากรู้จะแย่อยู่แล้ว หุหุ) ซูแทรก

“Yea, new students!! I hope there are more Thai!! (อื้มๆๆ นักเรียนใหม่ ขอให้มีคนไทยด้วยเหอะ)” ผมตอบกลับไปอย่างมีความหวัง

จะว่าไปแล้ว บอกได้เลยว่าที่เยลนี่คนไทยน้อยมากๆ ปีนึงก็มีอย่างมากแค่สามสี่คน แถมแต่ละคนไม่ได้อยู่หอเดียวกันด้วยก็เลยไม่ค่อยจะสนิทกันเท่าไหร่ แต่นานๆทีก็จะมี Thai club เกิดขึ้นที่นี่ เป็นพวกทำอาหารไทยกินกัน แล้วก็คุยเรื่องเมืองไทย อะไรประมาณนี้แหละครับ ไม่ได้มากมายอะไร

พวกเรานั่งคุยกันยาวจนถึงสี่ทุ่มกว่าๆ จึงเดินไปหยิบเบียร์คนละกระป๋องแล้วกลับเข้าหอไป…………….

พอ goodnight hug กับไอ้สองตัวนั่นแล้วก็ขึ้นไปอาบน้ำ  เตรียมเข้านอนเอาแรงไปเดินชอปปิ้งวันรุ่งขึ้น
 :m15: :m15:
ผมก้มลงไหว้พระบนเตียงแล้วก็หย่อนตัวลงไปในผ้าห่มช้าๆ
ในใจก็อธิษฐานว่า “ขอให้มีคนไทยด้วยเหอะ”

ออฟไลน์ เกริด้า(๐-*-๐)v

  • ไม่อยากคิดอะไรทั้งนั้นแหละ
  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3191
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +349/-29
รอดู(อ่าน)ต่อไปค่ะ   :กอด1:  :L2:

ออฟไลน์ TONG

  • เป็ดนักขาย
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2535
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +191/-4
คนเขียนเรียนอยู่เยลเหรอค่ะ

บรรยายละเอียดยิบเลย

จะรอดูว่าพระเอกเป็นฝรั่งตาน้ำข้าวหรือเปล่า

ออฟไลน์ SweetSacrifice

  • I always get,what I aim for
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +479/-1
 :z13:
เรื่องใหม่

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 2 วันอังคาร

วันอังคาร ตื่นเช้ามาประมาณ 10 โมงกว่าๆ ด้วยความรุกรี้รุกรน เพราะนึกว่าจะไปเรียนสายแล้ว ที่ไหนได้ ผมดันลืมไปว่าวันนี้มีเรียนแค่ core curriculum ตอนบ่ายโมงครึ่งถึงห้าโมงเย็น ผมถอนหายใจด้วยความโล่งอกแล้วนอนกลิ้งอยู่บนเตียงอีกสักครู่  เพราะว่ายังแฮงค์ๆจากการไปเที่ยวกับยัยสองคนนั้นอยู่เลย ผมมองไปรอบๆห้องด้วยความสบายใจเพราะว่าได้จัดการซื้ออุปกรณ์การเรียนใหม่ๆมาเรียบร้อยแล้ว ไม่มีเหตุต้องรีบให้ไปทำอะไรที่ไหน ผมก็เลยกดมือถือโทรหาบ้านที่เมืองไทย
“มุกหรอ” ผมถาม
“อ้าวๆๆเป็นไงมั่งพี่อาร์ม แหม โทรมารอบที่สามแล้วนะเนี่ย คิดถึงคนสวยอะเดะ” มุกตอบ
“โหย เค้าคิดถึงตัวเองตายล่ะ แล้วไอ้ที่บอกว่าตัวเองสวยเนี่ย ละอายใจบ้างมะ” ผมตอบเชิงแซวมันเล่นๆเพราะว่าจริงๆมันก็สวยเอาเรื่องอยู่
“เออๆ แล้วโทรมามีไรล่ะ สี่ทุ่มกว่าแล้วนะ” มุกมันเริ่มเสียงขุ่นๆ
“ป่าว ก็คิดถึงอะ พ่อกับแม่สงสัยหลับไปแล้วมั้ง ฝากบอกด้วยนะว่าพี่คิดถึง” ผมอ้อน
“จ้า มีอะไรอีกไหม เดี๋ยวเค้าจะไปนอนแล้ว พรุ่งนี้มีเรียนเช้า”
“เออ พี่วานมุกโหลด เป็นต่อ แล้วส่งมาให้หน่อยนะ อยากดูอ่ะ เนตที่หอตอนนี้มันยังไม่เข้าที่เลย”
“ได้ๆ รอพรุ่งนี้เย็นๆละกัน”
“จ้า กู้ดไนท์นะ สุดสวย”
“ไนท์ค่ะ” มันพูดเสียงหวานแล้วก็วางสายไป
มุกมันไม่อยากมาเรียนต่อเมืองนอกเพราะว่ามันเรียนสายเดียวกับธุรกิจของครอบครัว ทางด้านบริหารการตลาด มันเลยเลือกที่จะอยู่เมืองไทยแทนเพราะว่าจะได้ช่วยงานพ่อกับแม่ที่บ้าน มันบอกผมว่าพอจบ BBA จากจุฬา แล้วค่อยมาต่อโทที่นี่ ตอนนี้มันเรียนอยู่ปี 2 ผมก็เห็นด้วยกับความเห็นมันนะ เพราะว่าถ้าผมเรียนโทต่อที่นี่อีก 2 ปี พอผมกลับบ้านไป มันจะได้มีโอกาสมาเรียนที่นี่เหมือนกัน พ่อแม่ก็จะได้ไม่เหงาด้วยเพราะว่าอย่างน้อยๆก็ มีลูกอยู่เป็นเพื่อนอีกคนนึง
คุยโทรศัพท์จบผมก็มองไปรอบๆห้องอีกครั้ง  แต่คราวนี้ผมถึงกับต้องแปลกใจเมื่อตาตัวเองไปสะดุดกับกระเป๋าสีน้ำเงินเข้มใบใหญ่ที่วางอยู่บนเตียงตรงข้ามกับผม นั่งคิดไปคิดมาสักพักก็สรุปความได้ว่ารูมเมทเพิ่งมาถึง เมื่อคืน มั้ง?
“เอาเหอะวะ เป็นไงเป็นกัน” ผมนั่งบ่นพึมพำกับตัวเอง
ผมเปิดม่านเพื่อให้แสงแดดยามเช้าและลมเย็นๆพัดเข้ามาในห้อง ตึก Malone engineering centre ที่ตั้งอยู่ไม่ไกลช่างดูสง่างามจริงในเวลาเช้าๆอย่างนี้ ผมคิด
ผมนั่งมองวิวรอบๆ campus เห็นนักเรียนเดินไปเดินมา  บางคนวิ่งเข้ากอดกัน บางคนกำลังผิวปากขี่จักรยานเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องเรียน ทำให้ผมรู้สึกเสียดายอยู่เหมือนกันว่าปีนี้มันอาจจะเป็นปีสุดท้ายที่จะได้อยู่มหาวิทยาลัยแห่งนี้แล้ว แต่ก็เอาเหอะ ถ้าต่อโทติดอาจจะได้อยู่ต่อก็ได้ แต่ว่าตอนนี้ผมก็ยังไม่ได้อยากจะคิดอะไรมากมายไปกว่านี้ จึงตัดสินใจเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเดินตรงเข้าไปในห้องน้ำ
ผมเปิดประตูไม้สีน้ำตาลเข้มที่ทำด้วยไม้โอ๊ก แล้วก้าวขาช้าๆเข้าไปในห้องน้ำ
แต่ภาพที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าทำให้ผมถึงกับอึ้ง……………..
“holy shit, I’m so sorry dude (เวรแล้ว เฮ้ยโทษทีนาย)”
ภาพที่ผมเห็นอยู่ตรงหน้าคือภาพผู้ชายผิวขาว ผมดำๆ กำลังปลดผ้าเช็ดตัวเพื่อที่จะก้าวขาเข้าไปในห้องอาบน้ำ
แต่โทษทีเหอะ หัวสมองผมไม่ได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นเลย ให้ตายสิ แต่มันสั่งให้มือผมโยนผ้าเช็ดตัวทิ้งและให้เท้าผมหันหลังกลับแล้ววิ่งออกไปตรง corridor ด้วยความเร็วเข้าเกียร์หมา
“โอย ซวยอะไรของกูวะ เรียนวันแรกก็หาเรื่องเข้าตัวละ ไอ้อาร์มเอ้ย” ผมบ่นพึมพำกับตัวเอง
ผมคิดว่าถ้าผมวิ่งกลับเข้าไปในห้องตอนนี้สงสัยโดนไอ้คนนั้นเตะไส้ไหลแหงๆเลยเปลี่ยนใจวิ่งลงไปที่โรงอาหารเพื่อไปหาอาหารเช้าอร่อยๆกิน
พอลงไปที่โรงอาหารก็เจอ ยัยหวานหว่านนั่งหม่ำแครอทเค้กอยู่คนเดียว มันยิ้มให้ผมมาแต่ไกล
“morning!! Ready for class today honey? (อรุณสวัสดิ์ พร้อมเข้าเรียนยังจ๊ะ) มันถามผมพร้อมเล่นหูเล่นตา
“haha, not really. Oh well! Anyway, where is Su? (ยังอะ แต่ช่างเหอะ แล้วซูไปไหนอะ) ผมตอบไปแบบเซ็งๆ
“she already went to class because she has to help the professors with  the orientation program  (มันวิ่งแจ้นไปที่ห้องเรียนแล้วเพราะมันต้องช่วยอาจารย์ทำงานพวกปฐมนิเทศอะ)
“right (อืมๆ)”
ว่าแล้วผมก็นั่งกินแครอทเค้กกับมันต่อ
ในใจผมก็คิดว่า “ซวยแล้ว จะสู้หน้ามันยังไงหว่า…….แต่ก็นะ เราไม่ได้ผิดนิ มันไม่ยอมล็อกห้องเอง ไอ้เวรเอ้ย”
….. tbc

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
มาให้กำลังใจเรื่องใหม่  :L2: :L2: :L2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






optopusel

  • บุคคลทั่วไป
เรื่องใหม่วัย :mc4:ใส

133113

  • บุคคลทั่วไป
พระเอกออกโรงแล้ว..รึเปล่าาาาาาาา
o13

+1 เป็นกำลังใจให้ค่ะ

ออฟไลน์ cavalli

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5358
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +195/-19
inter


อีก เรื่อง


ฝึก อังกริด เต็ม ที่ งานนี้

ออฟไลน์ nana

  • 아주마 애기 두명 ㅋㅋ
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2759
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +138/-2

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
อิอิ กระทู้ฝึกภาษา คิคิ
บวก  1  ให้กำลังใจกันก่อนแล้วกันจ้ะ

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 3 (Hard?)core curriculum

หลังจากที่ผมทานอาหารเช้าเสร็จ ผมก็รีบขึ้นไปบนห้องแล้วรีบเก็บของเข้ากระเป๋าเรียน แล้วเดินเร็วๆออกไปเพื่อจะไปทักทายเพื่อนๆคนอื่นๆที่ยังไม่ได้เจอ
ผมโล่งอกที่ไอ้บ้านั่นมันไม่ได้อยู่ในห้อง เพราะไม่งั้นมีหวังผมคงโดนมันด่าไฟแลบ

ตอนนี้ก็เป็นเวลาเที่ยงกว่าๆแล้ว แต่อากาศก็ยังสบายๆอยู่ ในใจก็นึกเจ็บใจที่ไม่ได้อาบน้ำเพราะรู้สึกเหนียวตัวจากเหงื่อที่ไหลออกมาตอนที่วิ่งหนีมันออกมาจากห้อง แต่ก็เอาเถอะ ผมบอกกับตัวเองว่าค่อยอาบเย็นนี้ก็ได้ ที่นี่มันไม่ได้อบอ้าวอะไรมากมาย ฟันก็ยังไม่ได้แปรง เฮ้ออออ มันจะซวยอะไรอย่างงี้หว่า
ระหว่างทางที่ผมเดินไปที่ห้องสมุดผมก็เจอกับไอ้เพื่อนๆตัวแสบหลายคน ไม่ว่าจะเป็น สแตนลีย์ โซฟี่ อี๋ฟ่าน  ที่กำลังนั่งทำโปรเจคกันอยู่ แล้วก็เพื่อนๆคนอื่นอีกหลายคน แต่ละคนก็ดูเป็นหนุ่ม เป็นสาวขึ้น แต่ก็ยังดีที่หนุ่มไม่ได้โตเป็นสาว เหอๆๆๆ ผมกอดทักทายพวกมันอย่างสนิทสนมเพราะว่าอยู่หอเดียวกันมาตั้งสามปี จริงๆแล้วผมก็สนิทกับหลายๆคนในหอนะ พวกที่อยู่คนละหอก็สนิทเหมือนกันแหละ เพราะว่าบางทีก็เรียนคลาสเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้สนิทกับพวกนอกหอนั้นมากมายเท่าไหร่ อย่างมากก็แค่โบกมือโบกไม้ให้เวลาเดินผ่าน หรือ เวลาเจอกันตอนทานข้าวกลางวันก็ไปนั่งแจมด้วยกันเพราะว่ามื้อกลางวันต้องหากินในตัว campus ที่หอไม่ได้จัดไว้ให้

เหลือเวลาอีกเกือบๆครึ่งชั่วโมงกว่าจะเข้าเรียน ผมเสียบหูฟังจากไอพอดทัชเข้าหูผมและนั่งฟังเพลงสบายๆไปเรื่อยๆ

“อยู่ๆก็มีเรื่องราวให้นอนไม่หลับ ให้กลับมาคิดวกวนทั้งคืนวุ่นวาย อยู่ๆก็มีเรื่องเธอรบกวนหัวใจ……..”

“….ฉันยังต้องรออีกนานไหม ต้องรอเธออีกนานไหม ถึงจะได้เจอกับรักที่เธอเคยบอกฉัน……”

“……..ได้เป็นคนที่เธอเคยรักก็ดีแค่ไหน ฉันต้องยอมเข้าใจ เกิดมาแค่เพียงได้รักกัน……”

ผมคิดในใจ เวลาเราอยู่เมืองนอกคนเดียว แล้วนั่งฟังเพลงไทยมันก็รู้สึกหวิวๆใจอยู่เหมือนกันนะ ฟังๆอยู่มันก็เกิดคิดถึง ยัยมุกขึ้นมาซะงั้นทั้งๆที่พึ่งกลับมาได้แค่ 3 วัน

นั่งฟังไปฟังมาก็หลับตาเพลิน พอมองนาฬิกาอีกทีก็เพิ่งรู้ว่ามันใกล้เวลาที่จะได้เข้าเรียนแล้ว ผมก็เลยตรงไปที่ คันเนติคัต ฮอลล์ ซึ่งเป็นตึกแรกที่ถูกสร้างในเยล แล้วก็เป็นตึกที่ใช้ทำกิจกรรมหลายๆอย่างภายในตัวโรงเรียน ผมเดินเข้าไปในห้องแล้วทักโปรเฟสเซอร์ด้วยความคุ้นเคย เรายืนคุยกันหน้ากระดานดำเกี่ยวกับเรื่องโครงการของนักเรียนต่างๆที่เยลได้วางแผนไว้รวมไปถึงกิจกรรมต่างๆที่ประธานนักเรียนได้วางแผนไว้ตั้งแต่ตอนปิดเทอม

เวลาผ่านไปสิบนาที นักเรียนเริ่มทยอยเข้ามาในห้อง แต่ละคนมีสีหน้าที่เปี่ยมไปด้วยความสุขเพราะว่าได้กลับมาเจอเพื่อนๆอีกครั้งหลังจากที่ห่างกันไปสองเดือนกว่าๆ ทุกคนทักทายกันอย่างสนุกสนานเฮฮา กอด จูบ อุ้ม ไล่เตะ กลายเป็นเรื่องธรรมดาระหว่างพวกเราไปแล้ว

กริ๊งงงง!! เสียงกริ่งดังขึ้นภายในห้องเรียนเป็นระยะเวลาสั้น แต่มันก็น่าประหลาดใจที่ห้องเรียนที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะครึกครื้นจะเงียบกริบลงทันทีหลังจากสิ้นเสียงกริ่งดังขึ้น เพียงไม่นานหลังจากที่โปรเฟสเซอร์กล่าวทักทายนักเรียนทุกๆคน ความเงียบที่ปกคลุมห้องก็ได้จางหายไป แต่กลับถูกทดแทนด้วยเสียงดังเจื้อยแจ้วที่แย่งกันพูดจนหลายๆคนหูหนวกตาลายไปตามๆกัน ซึ่งนี่ก็คือส่วนหนึ่งในการใช้ชีวิตเป็นนักเรียนที่นี่

“All right ladies and gentlemen, I do not want to take the class too seriously today so I guess we should not go into too many details today. But first of all, I would like to introduce this guy to you. He is transferred from Stanford U and he will be joining us this year before he goes back to complete his degree at Stanford for the last two months (เอาล่ะทุกคน ผมไม่อยากทำให้คลาสมันน่าเบื่อเกินไปในวันแรกเพราะฉะนั้นผมคงจะไม่ขอสอนอะไรมาก แต่ก่อนอื่นผมขอแนะนำให้คนรู้จักก่อน เขามาจากมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและเขาจะมาเรียบกับเราปีนี้ก่อนที่เขาจะกลับไปสแตนฟอร์ดในสองเดือนสุดท้าย)”

สิ้นเสียงโปรเฟสเซอร์ เสียงนุ่มๆก็แทรกขึ้นมา

“Hi guys, I am Bank and I come to Yale to do some research project I was investigating early on at Stanford. Nice to meet y’all (สวัสดี เราชื่อแบงค์ เรามาจากสแตนฟอร์ดเพื่อมาทำรายงานที่เราทำค้างไว้ที่นี่ ยินดีที่ได้รู้จักทุกคนนะ)” ชายหนุ่มผมสั้นกล่าว

เพื่อนๆในห้องปรบมือกันดังเกรียวกราวที่จะได้เพื่อนใหม่ ผมคิดในใจ อืม ชื่อแบงค์หรอ สงสัยจะเป็นคนไทยแน่ๆเลยอะ เดี๋ยวต้องหาโอกาสเข้าไปคุยกับมันหน่อยดีกว่า แต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไรมันมากมายหรอก ไว้คลาสเลิกค่อยไปคุยกับมันละกัน

แต่…….ผมก็ลืมจนได้เพราะด้วยความที่อยากเจอเพื่อนเก่าๆทำให้ผมรีบวิ่งออกจากห้องแล้วเดินกลับไปที่หอด้วยความตื่นเต้น เดินไป ร้องเพลงไป แล้วก็ยิ้มไป คิดในใจว่าคืนนี้มียาว ไม่ได้หลับได้นอนแน่ๆ หึหึ

พอเดินเข้าไปใน common room ก็เจอไอ้หวานหว่านกับไอ้โซฟี่นั่งคุยกันอยู่ หยอกกันไปกันมาจนผมหมั่นไส้อดแซวไม่ได้

“Sup? lesbian couple (หวัดดี เลสสองคน)” ผมพูดปนฮาๆ

“Hi Armmy! How was the core curriculum today? (หวัดดีอาร์มมี่ core curriculum สนุกไหม)” โซฟี่ถามพร้อมกับใบหน้าที่ยิ้มร่า ให้ตายเหอะ เพราะอยู่ที่นี่แล้วมันมีแต่ความสุขอย่างงี้ตลอดเวลา ผมถึงอยากอยู่ไปนานๆไง

“Oh great! There’s a new student transferred from Stanford today. I think he is Thai” ผมตอบไปอย่างตื่นเต้น เออ เวรกำ ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้เข้าไปถามมันเลยว่าเป็นใครมาจากไหน เป็นคนประเทศอะไร แต่ก็เอาเหอะ ยังไงเดินๆใน campus อาจจะได้เจอมันอีกก็ได้ ใครจะไปรู้

“Seriously, a Thai? That’s pretty rare. (คนไทยเนี่ยนะ โหหายากนะเนี่ย)” หวานหว่านแทรกเข้ามา

“ Yea I know, really rare (อือ หายากจริงๆแหละ)” ผมตอบ

นาฬิกาที่ข้อมือบอกเวลาห้าโมงกว่าๆ ผมตั้งใจว่าจะขึ้นไปนอนสักงีบก่อนอาหารเย็น ผมเลยขอตัวสองคนนั้นออกมาแล้วบอกว่าเจอกันที่ Dining hallละกัน พวกนั้นตอบตกลงแล้วผมก็ลากขาที่เมื่อยล้าขึ้นบันไดไปยังห้องนอน

พอขึ้นมาถึงห้อง ผมตรงเข้าไปปิดผ้าม่านแล้วก็นอนคิดไปคิดมาบนเตียงและก็เพิ่งรู้ว่าตัวเองยังไม่ได้เจอเพื่อนๆอีกหลายคนเลย ผมหลับตาอยู่สักครู่หนึ่ง แล้วผมก็เผลอหลับไป ตอนไหนก็ไม่รู้
เวลาคงผ่านไปอย่างรวดเร็วตอนที่ผมหลับอยู่ แล้วผมก็ถูกปลุกให้ตื่นโดยแสงไฟในห้องนอนที่สว่างขึ้น

“Ah fuck! My eyes (โอ้ย เชี่ย ตากู)” ผมบ่น

“Are you all right? I’m sorry (เป็นอะไรป่าว ขอโทดนะ)” เสียงนุ่มๆพูดออกมา
ผมลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ แล้วสิ่งที่ยืนอยู่ข้างหน้าก็ทำให้ผมต้องตกใจเป็นรอบที่สองของวันนี้

“errrrrrrrrrrrrrrrr………………………………………..”

tbc

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
แล้วพระเอกของเราจะเป็นยังไงบ้างเนี่ย

มหาวิทยาลัยเยล

มหาวิทยาลัยในฝัน(ต่อไป)

อยากไปเรียน

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
มา +1  ให้กับความขยัน   :L2:

แบงค์ที่ว่านี่ใช่คนที่เจอที่ห้องอาบน้ำปล่ะ   :z1:

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
ต่ออออออออออออออออออออ

133113

  • บุคคลทั่วไป

กำลังสนุกเลยยยยยยยยยยยยยยยยย
ต่อๆๆๆ
 :z3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ Simply Blue

  • เป็ดนักโพสมือดี
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1107
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +120/-3
ว้าววววววว มหาวิทยาลัยในฝัน  อยากให้เล่ายาวๆๆ จนถึงชีวิตหลังเรียนจบจนทำธุรกิจจริง  (ไม่ได้จะท้าทายความสามารถนะ กรุณาอย่าเข้าใจผิด)

เล่าได้ละเอียดดีจริง  (แอบเก็บไปจินตนาการว่ามีโอกาสได้เข้าไปเรียนด้วยจริงๆๆ555)  เคยได้ยินมาบ้างว่าสังคมในนั้นดี  ถึงจะเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นๆๆของโลก  แต่คนเรียนไม่ต้องต่อสู้กับใคร นอกจากตัวเอง.....

 :laugh:อ่านด้วยความสุขใจ

mecon

  • บุคคลทั่วไป
ตามทันแล้วคะ

เจอรูมเมทวันแรกก็ เห็นของดีเลย อิอิ

แล้วนี่จะเจออะไรให้ตื่นเต้น ตื่นตา ตื่นใจอีกมั๊ยเนี่ย

สู้ๆนะคะจะเป็นกำลังใจให้ +1  :z13: :z13:

Bessonova

  • บุคคลทั่วไป
เจิมๆๆๆๆๆๆ

PEAK

  • บุคคลทั่วไป
 :mc4:   ต้อนรับเรื่องใหม่

ลงเรื่องยาวต่อเนื่อง  อ่านแค่ไม่กี่ตอนก็รู้สึกชอบเรื่องนี้เป็นที่สุดแล้วววว ...  บวก  1 

...  มาต่อเรื่อยๆ  นะคร้าบ  ...  อยากอ่านครับ^^

ขอบคุณนะครับ 

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
อัพให้อีกรอบค่ะ ก่อนออกไปหาข้าวทาน

บทที่ 4 – ให้ตายเหอะ

“errrrrrrrrrrrrrr………..” ผมอ้าปากค้าง ยังเบลอๆและงงๆอยู่เพราะเพิ่งตื่น

“Hi, I am Bank (สวัสดี เราแบงค์)” มันทักขึ้นมา

“Hi, I’m Arm. Nice to meet you. I guess you must be from Thailand (สวัสดี เราชื่ออาร์มนะ ยินดีที่ได้รู้จัก นายเป็นคนไทยหรือเปล่า)”

“อ่า ใช่ๆ นายเป็นคนไทยหรอ?”

“อื้มๆ เราก็คนไทยเหมือนกัน ไม่นึกเลยว่าจะเจอคนไทยที่นี่ แล้วนายมาที่นี่มีอะไรหรือเปล่า เห็นเหนื่อยๆ” ผมยิ้มให้มัน

“อ๋อ เปล่าๆ คือเราเพิ่งวิ่งหนีฝนมาจากข้างนอกน่ะ แล้วนี่ก็ห้องที่เราย้ายมาอยู่  ไมหรอ” มันตอบแบบหน้ากวนๆ ยักไหล่

“อ๋อ อ๋อ…… เหอๆ เฮ้ย” ผมหน้าซีดลงไปในทันใด

“เป็นอะไรนาย”

“อ๋อๆๆ พอดีลืมให้อาหารหมาที่บ้านอะ”

“ฮะ อะไรนะ หมา……..”

“เปล่าๆๆๆๆ กำลังนึกถึง น้าหงา คาราวานน่ะ แฮ่ๆ ไม่มีอะไรหรอก แฮ่ๆ” ผมยิ้มเหงื่อตก หน้าจ๋อยหน่อยๆ

 “ท่าจะปัญญาอ่อน สอบเข้ามาอยู่เยลได้ไงวะ” มันหันหลังกลับไปพูดอ้อมแอ้มกับตัวมันเอง ทิ้งให้ผมที่ยืนอยู่ตรงปลายเตียงตัวชาไปทั้งตัว เออ กูรู้น่ะว่ากูไม่ได้ฉลาดอะไรแต่อย่างน้อยกูก็ไม่ได้โง่เป็นเต่าล้านปีล่ะวะ

สงสัยว่าไอ้นี่ท่าทางจะไม่เบาซะแล้วแฮะ มาถึงไม่ทันไรก็ปากเสียเลยนะเนี่ย สงสัยจะอยู่ไม่ยาว ไอ้เวรนี่ ผมจ้องไปทางมันด้วยสายตาอำมหิต

ผมถอนหายใจแรงๆ แล้วก็เดินตรงเพื่อเข้าไปแปรงฟันที่ไม่ได้แปรงมาตั้งแต่เช้า แล้วก็จัดการล้างหน้า สระผมจนเสร็จเรียบร้อย ค่อยรู้สึกสบายตัวหน่อย อึดอัดมาทั้งวัน พอออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าในห้องไม่มีใครอยู่แล้ว ผมเดินไปตากผ้าเช็ดตัวที่ราวตากผ้าที่ถูกขึงโดยตู้สองใบที่อยู่ฝั่งตรงข้ามของห้อง หลังจากจัดการเคลียร์ของในห้องเสร็จผมก็เดินลงไปหาไอ้หวานหว่าน โซฟี่ กับซูที่ตอนนี้กำลังตักไอติมกินกันอยู่

“You guys don’t wait for me (โห ไม่รอกันเลยอะ)” ผมอ้อน

“Well too bad Arm, who asks you to sleep for this long? Your problem, hahaha (อ้าว ช่วยไม่ได้ ใครขอให้อาร์มหลับไปนานเองล่ะ เรื่องของเธอ ฮ่าๆๆ) ซูตอบกลับมาอย่างอารมณ์ดี

“Fine fine, I now know that my friend is very selfish (เออ ก็ได้ๆ เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้ล่ะว่ามีเพื่อนเห็นแก่ตัว)” ผมตอบกลับไปแบบงอนๆ
“okay enough, two of you! Why don’t you go get some food (พอๆสองคนนี้  ไปเอาอาหารสิ)” ไอ้หวานหว่านรีบเบรกก่อนผมกับซูจะได้เถียงกันยาว เพราะไม่ค่อยยอมน้อยหน้าอยู่แล้ว หึหึ

ผมเดินไปตักอาหารหลายอย่างใส่จานมา ระหว่างทางไปทางกลับผมก็ทักเพื่อนๆผมหลายคน ทำให้ความง่วงที่มีอยู่ตะกี้หายเป็นปลิดทิ้ง และเปลี่ยนมาเป็น ความตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นแทน

ผมตักอาหารหลายอย่างจนพูนจาน ใจจริงๆก็อยากจะเอาน้ำแข็งที่ถูกแกะสลักเป็นรูปดอกไม้ออกมาด้วย แต่ก็ไม่หน้าด้านพอเพราะที่บ้านสอนมาดี แต่ถึงยังงั้นก็เหอะ ในใจผมก็ยังนึกเสียดาย เพราะคิดว่าถ้าเอาน้ำแดงราดคงอร่อยชื่นใจแน่ๆ พอตักอาหารเสร็จก็มุ่งหน้าไปที่มุมเครื่องดื่ม ที่มีทั้งน้ำแครนเบอร์รี่ เกรฟฟรุ๊ต องุ่นแดง แอปเปิ้ล แล้วก็สมูธธี่อีกหลายอย่าง รวมไปถึงเบียร์และไวน์แบรนด์ดังๆด้วย พอรินน้ำแครนเบอร์รี่ใส่แก้วแล้วก็ยืนทักทาย กับ Dean ของบ้านสักครู่ แต่ยังไม่ทันที่ผมจะหันหลังกลับ

“Be careful (ระวัง)” ผมตะโกน แต่ก็รู้สึกว่ามันสายไปซะแล้วเพราะน้ำสีชมพูแดงได้หกไปอยู่บนเสื้อสีฟ้าอ่อนๆของคนที่อยู่ข้างหน้า และพอผมพยายามเงยหน้าขึ้นด้วยความหวาดกลัว ผมก็ต้องช็อกเป็นครั้งที่สามเพราะว่าคนที่ยืนอยู่ข้างหน้าคือ
.
.
.
.
..
.
.
.
.
.
.
.
..
.
.
.

.
..
.
โปรเฟสเซอร์เดอฟลาวิส หนึ่งในผู้คุมหอเบอร์เคอลีย์นั่นเอง!! :m20:

“I am really sorry (ผมขอโทษ) ผมพูดอะไรไม่ได้นอกจากคำว่าขอโทษ

“Oh hi Arm, it’s okay! I’m fine. Nothing serious! Just relax (โอ้ หวัดดีจ้ะอาร์ม ไม่เป็นไรหรอก ช่างมันเหอะ)” เธอตอบกลับมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม โห ให้ตายเหอะ ทำไมคนที่นี่ถึงได้ดีกับผมขนาดนี้นะ เสื้อก็ดูรู้ว่าราคาแพงหลายพันอยู่หรอก แต่ถ้าเค้าให้อภัยแล้วจะกลัวอยู่ไย

ผมก็เลยขอโทษไปอีกรอบตามระเบียบแล้วก็ยืนคุยกับแกนิดหน่อยก่อนที่แกจะขอตัวออกไปเปลี่ยนเสื่อ
ผมรินน้ำแก้วใหม่ให้กับตัวเองแล้วก็เดินกลับไปหาเพื่อนๆที่นั่งกันเต็มโต๊ะ

“สงสัยจะสติไม่ดี” ผมได้ยินเสียงใครคนนึงพูดลอยๆขึ้นมา ได้ยินเสียงนุ่มๆก็รู้ทันทีว่าเป็นเสียงใคร
ผมพยายามจะไม่ต่อล้อต่อเถียงกับมันเลยพยายามเดินผ่านๆไป

“เฮ้อ เลอะเลือน” อ่าว ไอ้เวรนี่ อุตส่าห์ไม่ยุ่งด้วยแล้วยังจะมาแขวะกูอีก
ผมเลยพูดลอยๆกลับไปว่า

“สติไม่ดีก็ดีกว่าคนพิการละกัน”

มันทำหน้างงๆแล้วสำรวจตัวเองก่อนจะพูดว่า “เฮ้ย มาว่ากันแบบนี้ได้ไง ใครพิการอะไร อวัยวะก็ครบ”

“ใช่ อวัยวะน่ะครบ แต่ปากอะมีมากเกิน” ผมหัวเราะในคอ

มันหน้าเสีย จ้องหน้าผมอย่างอาฆาตสักพัก แล้วก็เดินฟุดฟิดออกไป

ส่วนผมก็ได้แต่พูดกับตัวเองว่า
“สงสัยจะไม่ใช่ย่อยๆ แค่วันแรกทิงเจอร์ก็เรียกพี่ละ เฮ้อ”


tbc

============


ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
ขอบคุณทุกคนมากๆที่ชอบเรื่องนี้ จะพยายามสื่อสารออกมาให้ดีทีสุด  :กอด1: o22

ออฟไลน์ ka[ze]na

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3767
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +192/-6
กร๊ากกกกกก

สุดยอดมากมาย อิๆๆ
 :m20:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :mc4: :mc4: :mc4: :mc4:
+1 ให้เลยชอบเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆๆ
ก่อนอื่นแนะนำตัวก่อนนะ ชื่อ นิว อิๆ
อยากจะบอกว่าการเล่าเล่าได้ดีมากๆเห็นเป็นฉากๆได้ค่อนข้างชัดเจน
อ่านแล้วได้ความรู้ทางภาษาด้วย(อันนี้ชอบเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วที่จะได้อ่านฟิคภาษาอังกฤษ)
สิ่งที่น่าสนใจ และขอพูดถึง คือการบรรยายที่นำมาใช้ในเรื่องค่อนข้างดีมากแล้ว
มีจุดที่รู้สึกขัดๆบ้าง ตรงเวลาที่เล่า เรื่องรู้สึกจะบรรยาย แบบเร่งๆให้เร็วมันเลยดูเร็วไป
ไม่แน่ใจว่าจะเข้าใจรึเปล่านะ ส่วนการใช้ภาษาอย่างที่บอกชอบมากมีประเด็นที่น่าสนใจอยู่ตรงที่
มีการใช้คำทับศัพย์เยอะไปหน่อยโดยรวมยังถือว่าดีอยู่ อย่างคำว่า political sciences
จริงๆเราสามารถใช้คำไทยแทนได้ ก็เข้าใจนะว่าอาจเป็นความเคยชินก็ไม่ว่ากัน อิๆ
สิ่งหนึ่งที่ชอบมาก คือเรื่องคำผิด กล้าบอกนะว่าเราอ่านดีแล้วไม่มีเลยสักคำ แสลงก็ถูกหมด
ส่วนในแง่ของเนื้อเรื่องคงต้อง o13 ให้เลยเดินเรื่องไวพอควรตัวเอกโผล่ใน 2 ตอนครบ
ถามว่ามีปมเรื่องไหม เรื่องนี้คงไม่น่ามีปมให้คิดมากนัก น่าจะเป็นไปในแนวที่ว่าเล่าเรื่องไปเรื่อยๆ
ตัวเอก ตัวพระ ตัวนาย คงไม่ถูกกันในช่วงแรก แล้วคงมีเหตุการณ์ต่างๆเกิดขึ้นรอบตัวที่เยล
ทำให้ทั้งคู่เกิดความเข้าใจกันมากขึ้น สนิทกันขึ้น และไปจนถึงรักกัน ประมาณนั้น
ประเด็นที่น่าจะถูกยกนำมาคิดอีก ก็คือว่า หลังจากที่คนทั้งคู่รู้สึกดีๆต่อกันแล้วเรื่องจะเป็นเช่นไร
ครอบครัวจะยอมรับได้ไหม...
และ เนื่องจากแบงค์ เรียนอยู่ที่สแตนฟอร์ด ซึ่งอยู่คนละยูกัน ย่อมต้องมีระยะห่าง...
ไม่แน่แบงค์อาจมีคนรักอยู่ที่นั่นก็เป็นได้ ไม่ว่าจะคบอยู่แล้วจากมาทำงานที่เยล
หรือ แยกทางกันไป แต่ ฝ่ายนั้นยังมีเยื่อใยอยู่ก็จะมาช่วยทำให้เรื่องเดินได้อย่างน่าสนใจ
ส่วนทาง ฝ่ายอาร์มก็คงมีเพื่อนที่มาแอบชอบเช่นกันแต่อาจจะยังเล่าไปไม่ถึง...
จากที่อ่านมาเป็นไปได้มากว่าคนเขียนคงเคยมีประสบการณ์อยู่ที่เยล หรือมีเพื่อนที่ศึกษาอยู่
ทำให้บรรยายในส่วนของสถานที่ได้ค่อนข้างดีมาก นิว เองก็เคยรู้จักพี่คนหนึ่งที่เรียนอยู่ที่
Oxford U. ซึ่งพอมาอ่าน เรื่องนี้แล้วให้ความรู้สึกนึกไป ถึงบรรยากาศที่พี่คนนั้นเคยเล่าให้ฟัง
อ่านแล้วก็คิดถึงพี่คนนั้นจัง แต่เสียดายที่ไม่ได้ติดต่อกันแล้ว เรื่องนี้จึงเหมือนเป็นตัวกระตุ้น
ความทรงจำเก่าๆที่เคยเกือบจะเลือนหายไปให้กลับมาอีกครั้ง นี่พล่ามมาเยอะมากเลยนะเนี่ย
ปกติเม้นท์แรกของ ทุกเรื่องที่ไปเม้นท์ให้จะสั้นๆแต่เห็น เรื่องนี้คนเขียนขยันลงเหลือเกิน
ขนาดก่อนออกไปกินข้าวยังมาลงไว้อีก แล้วจะรออ่านต่อเพราะชอบตัวเอกเรื่องนี้มากๆๆๆๆๆๆ
ปล.เป็นไปได้ อยากขอให้มีฉากไปเที่ยวรอบเมืองด้วยอยากรับบรรยากาศของ สถานที่มากขึ้นอิๆ
                         ขอเวลาทุกนาทีที่สละมาเพื่องานเขียนนี้จงอยู่เป็นเสมือนเพื่อนแด่เราเสมอไป
                                                                   นิว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 25-02-2009 05:19:16 โดย newykung »

mecon

  • บุคคลทั่วไป
แบงก์ ทำไมถึงได้แรงแบบนี้ล่ะ เจอกัีนแค่ครั้งแรกก็ทำตัวน่าผูกมิตรมากๆ

อาร์มจัดการสอยให้ร่วงเลยนะ ปากเสียดีนัก

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด