เรียนวุ่น ธุรกิจรัก บทที่ 60 (10/11/09) อวสาน --- มีตอนพิเศษมาต่อให้
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: เรียนวุ่น ธุรกิจรัก บทที่ 60 (10/11/09) อวสาน --- มีตอนพิเศษมาต่อให้  (อ่าน 187963 ครั้ง)

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
นายแบงค์ คงกำลังสับสนกับชีวิต เลยยังลังเลที่จะตัดสินปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่

ให้เวลาซึ่งกันและกันอีกสักพัก อะไร ๆ คงลงตัว เด่นชัดขึ้น แน่ ๆ

ขอบคุณนะครับ ที่ลงให้ตามสัญญา  :กอด1:

ออฟไลน์ [N]€ẃÿ{k}uñĢ

  • ~ῲเจ้าแม่Dramaῴ~
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 5186
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +740/-5
 :z2: :z2: :z2: :z2:
อ่านแล้วอยากอ่านไปเรื่อยๆอะเอม ชอบเรื่องนี้จัง
อ่านได้เรื่อยๆการเขียนไหลลื่นมากๆชอบๆ
เพิ่งเห็นว่ามาอัพตอน 10 เลยมาอ่านใหม่ อิๆ
ไม่นึกว่าความสัมพันธ์ของคนทั้งคู่จะเดินเร็วขนาดนี้นะเนี่ย บางเรื่องเห็นต้องใช้ตั้ว 20กว่าตอนแน่ะ
ก็ดีแล้วที่เดินไวแต่เท่าที่ดูยังไม่ถึงกลางๆเรื่องเลยนะ ท่าทางคนที่ชื่อเอยคงยังไม่มีบทบาทมากนัก
ในช่วง สามถึงสี่ตอนต่อจากนี้ เพราะดูแล้วคงต้องการจะใส่ลายละเอียดในเรื่องของการแสดงออก
ของคนทั้งคู่เสียมากกว่า ในตอนนี้เราก็จะเห็นว่า แบงค์เริ่มแสดงออกชัดเจนละ
ในขณะที่ตัวของอาร์มเองก็เริ่มรู้สึกแปลกๆบ้างละ ถือเป็นสัญญาณที่ดีนะเนี่ย
กลัวจังว่าเมื่อถึงวันที่ปัญหารักสามเศร้าจะมาถึงมันจะเป็นอย่างไร
ไม่แน่นะแบงค์อาจจะมองความรู้สึกของตนเองออกแล้วก็ได้สังเกตจากการโทรไปหาอาร์มบ่อยๆ
แล้วพอตอนปิดเทอมที่เจอ เอย แล้วพออาร์มกลับมาที่เยล ทำให้แบงค์เริ่มที่จะคิด
จัดการกับปัญหาที่มันไม่สารถแก้ไขได้ง่ายๆ เพราะอย่างว่าแหละมันเป็นเรื่องของความรู้สึก
ทำให้ในตอนนี้ทุกคนจะสังเกตเห็นแบงค์เครียดกันไปหมด แต่การตีความของเพื่อนๆ
แต่ละคนดูจะไม่ค่อยดุลกัยสภาพการณ์ในเรื่องสักเท่าไรดังนั้นนี่คือการตีความอย่างที่ถนัด
เพื่อให้อ่านแล้วรู้สึกกระตุ้นทางความคิดให้อ่านไปคิดไปอย่างเป็นระบบจะทำให้สนุกมากขึ้น
เพราะมันเหมือนกับว่าเราลองไปนั่งเดาใจคนเขียนดู แล้วจะรออ่านต่อไปนะ
                                                                                                             นิว
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2009 08:10:01 โดย newykung »

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
รอเป็นเพื่อนน้องนิว  :z10:

133113

  • บุคคลทั่วไป
เวลาจะพิสูจน์ทุกอย่าง
อิอิ

กอดคนแต่งแน่นๆ
ขยันมากมาย
 :กอด1:

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีค่ะ ขอบคุณทุกคนนะคะที่เข้ามาให้กำลังใจกันมากมายขนาดนี้ ยังไงก็อยากให้ติดตามกันต่อไปนะคะ เอมขอบอกเลยว่าเรื่องนี้ยาวมากๆเลยค่ะ  ตอนนี้ก็อ่านไปเรื่อยๆก่อนละกันนะคะ พยายามจะเก็บเกี่ยวเอาบรรยากาศของมหาวิทยาลัยเยลและความผูกพันระหว่างเพื่อนๆมาให้ก่อน ทำไมหรอคะ? เพราะว่าเอมรู้ดีค่ะ 5555 :m20: :m20:

อ่านเรื่องนี้แล้วก็อยากให้ทุกคนได้ข้อคิดหลายๆอย่างนะคะ ความรักมันไม่ได้มีแค่กับแบบแฟนหรือคนรัก แต่กับพวกเพื่อนๆแล้วก็ครอบครัวด้วยเพราะว่ามันเป็นส่วนหนึ่งในการดำรงชีวิตของคนเรา สถานที่และความทรงจำจะเป็นเครื่องมือนำพาความรักไปเองค่ะ

ส่วนตัวเอกสองคนนี้จะเป็นยังไงก็ลุ้นกันไปก่อนละกันนะคะ จะพยายามไม่ให้ทุกคนอ่านแล้วค้างค่ะ เข้าใจในความรู้สึกดีว่ามันเป็นยังไงเวลาค้าง

แล้วเอมจะเอามาลงให้เรื่อยๆนะคะ
ขอบคุณค่ะ
 :L1: :pig4: :pig4: :bye2:

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
อาร์มทำอารายผิดพลาดไปอ่ะ

งง

แต่ก็เป็นกำลังใจต่อผู้เขียนต่อไปนะครับ

อิอิ

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 11 – ความสุขคือการเดินทาง ไม่ใช่ชัยชนะ

ผมตื่นมาวันรุ่งขึ้นตอนประมาณแปดโมงกว่าๆด้วยความสดชื่นเพราะว่าผมได้นอนไปอย่างเต็มอิ่มเมื่อคืน สักประมาณ 6 ชั่วโมงกว่าๆได้มั้ง พอลืมตาขึ้นมาก็ไม่เห็นไอ้แบงค์อยู่ที่เตียงแล้ว สงสัยว่ามันคงจะไปเข้าเรียนเรียบร้อยแล้วเพราะว่าวันนี้มันมีวิชา Architectural Theory ตั้งแต่ตอน 7 โมงเช้า จะว่าไปแล้ว การเข้าเรียนที่นี่ก็แปลกนะครับ บางวิชาก็เริ่มเรียนตั้งแต่ตอนเช้าๆ ในขณะบางวิชากว่าจะเสร็จก็ตั้งทุ่มกว่าๆ ห้องเรียนก็มีเป็นห้องเล็กๆตั้งแต่ 3-4 คนไปจนถึงเป็น 200 คน ซึ่งห้องที่มีคนเยอะๆส่วนใหญ่ก็คือวิชาที่นั่งฟังบรรยายจากอาจารย์นี่เอง นักเรียนทุกคนจะจริงจังและตั้งใจฟังคุณครูสอนมากๆทำให้การเรียนการสอนไม่น่าเบื่อเลย ห้องเรียนมีกระดานดำติดอยู่รอบๆห้องแปดอัน สามารถดึงขึ้นลงขวาซ้ายได้ตลอดเวลาทำให้อาจารย์ไม่ต้องเสียเวลามานั่งลบเวลาเนื้อที่หมด สามารถสอนได้อย่างต่อเนื่อง

ผมนำเสนองานกับศาสตาจารย์เลอวิสเสร็จก็ได้รับทั้งคำติและคำชมมาจากท่าน  ท่านบอกว่าผมสามารถเก็บรายละเอียดได้ดีและสามารถนำทฤษฎีไปใช้ในสถานการณ์จริงได้ดี แต่ว่ายังขาดการนำเสนอตัวอย่างที่เห็นผลชัดเจนอยู่ ซึ่งท่านก็เข้าใจเพราะวิชา Quantitative analysis นี่ยากพอสมควรและอาจจะไม่ได้ถูกนำไปใช้ในชีวิตจริงมากมายเท่าไหร่

พอผมเรียนเสร็จก็รีบบึ่งกลับไปเข้าร่วมประชุมกับที่หอเรื่องที่จะจัดงานคริสต์มาสขึ้นว่าใครจะทำอะไรมั่ง ผมก็คิดๆไว้แล้วล่ะว่าจะทำ Secret Santa กับโซฟี่ เพราะว่ายังติดใจกับความสนุกของกิจกรรมนี้ตั้งแต่ปีที่แล้วอยู่ มันก็เป็นเกมเล่นกันแบบเด็กๆแหละครับ ประมาณว่าเราต้องไปจับฉลากหยิบชื่อของเพื่อนคนหนึ่งขึ้นมา เราก็ต้องคอยซื้อของขวัญแล้วแอบเอาไปให้เขาโดยไม่ให้เขารู้จนกว่าจะวันสุดท้ายที่เปิดเผยตัวตนออกมา ผมคิดว่ามันเป็นอะไรที่น่าประทับใจมากๆเพราะมันทำให้เรารู้สึกถึงความรักและห่วงใยทีเพื่อนมีให้เรา แถมบางทีผมก็ยังทึ่งกับความคิดของบางคนอีกด้วยว่ามันเอาไอเดียดีๆเก๋ๆมาจากไหน

ผมกับโซฟี่นำเสนอไอเดียให้กับกรรมการอีกหกคนก็ได้รับความเห็นชอบด้วยทำให้เรื่องนี้ดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ผมเดินกลับไปที่ห้องแล้วก็รีบกลับไปปริ้นท์กับตัดชื่อของเพื่อนๆเพื่อเอาไปใช้ในการจับฉลาก ระหว่างที่กำลังตัดอยู่เพลินๆไอ้แบงค์มันก็เดินเข้ามาในห้องพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก

“เป็นไรวะ ดูอารมณ์ดีจังนะมึง” ผมยักคิ้วให้มัน

“ก็ present งานเสร็จแล้วอะ เลยสบายใจ ไม่เหมือนใครบางคนที่มีงานต้องทำ” มันตอบแล้วก็ยิ้มกวนๆให้

“งั้นมึง jump out the window ไปเลยปะ ไอ้เวรนี่” ผมด่า

“โอ๋ๆ เดี๋ยวกูช่วยทำก็ได้ มีอะไรที่กูพอทำได้มะ”

“งั้นมึงช่วยตัดรายชื่อนี่หน่อยนะ ตัดดีๆล่ะ อย่าให้เบี้ยวอย่าให้แหว่ง”

“โห กูเป็นถึง artist นะเว้ย ไม่ต้องห่วง เรื่องแค่นี้มันเบสิคๆ” นั่นไง หลงตัวเองเหมือนไอ้มุกไม่มีผิด

“เออๆ เก่ง”

“ถ้าให้กูเดา มึงต้องทำ Secret Santa แน่ๆเลย ถูกมะ”

“เออ ฉลาดเหมือนกันนิ”

“มันแน่นอนอยู่แล้วล่ะ ไม่งั้นจะเก่งแล้วหน้าตาดีขนาดนี้หรอ”

“ดีดีทีสิมึงอะ แมลงสาบเห็นยังวิ่งหนี” ผมแซวมันไป จริงๆไอ้แบงค์มันก็เป็นคนหน้าตาดีนะครับ ผมสีดำสั้นๆ ตาคมๆ ปากสีชมพูกับแก้มแดงๆของมันรับกับใบหน้าที่ขาวใสได้เป็นอย่างดี

“เออ มึงหล่อตายล่ะ กูเห็นหน้าทีไรนึกว่ากำลังให้อาหารปลาดุกอยู่” มันกัดผมกลับ

“โอเคๆ พอเหอะ รีบๆตัดซะ อย่าพูดมาก”

“คร้าบบ………..เออ ว่าแต่..... ปกติของขวัญแอบไปให้กันยังไงอะ”

“อ๋อ ก็แวบกันลงมาตอนดึกๆอะ พยายามไม่ให้ใครเห็นแล้วก็เอาไปใส่ใน pigeon hole ของแต่ละคนที่อยู่ตรงห้องนั่งเล่น”

“โห งั้นหรอ น่าเบื่อจังเลย ที่สแตนฟอร์ดก็ทำเหมือนกันเป๊ะๆ ไม่ครีเอทีฟเลย” มันทำเสียงแบบเซ็งๆ

“แล้วมึงจะให้ทำยังไงล่ะวะ ว่ามาสิไอ้ artist” ผมถามแบบเคืองๆ

“เอางี้มะ…….กูว่ายังไงก็ลองทำอะไรให้มันมีความน่าสนใจขึ้นมาหน่อย…..กูว่านะ เราลองของบที่หอไปซื้อถุงเท้าสีแดงๆของซานต้ามาสักร้อยคู่แล้วก็เขียนชื่อของคนที่จะได้รับของขวัญไปบนนั้นไง แล้วเราก็บอกให้คนที่จับฉลากมารับชื่อไปพร้อมกับถุงเท้าสีแดงของคนที่จับได้ แล้วเอาไปซ่อนตามมุมต่างๆของบ้าน มันจะได้บรรยากาศครึกครื้นหน่อยเพราะว่าคนที่ได้ของขวัญต้องคอยตามหาว่าถุงเท้ามันไปอยู่มุมไหนของบ้านอะ สนุกทั้งคนให้แล้วก็คนรับเลย” มันพูดจบแล้วมันก็จ้องหน้าผมอยู่สักพักนึง ตาเป็นประกาย ประมาณว่ารอฟังความเห็น

ผมฟังมันพูดแล้วก็งงๆนิดหน่อยนะครับ แต่ก็พอเข้าใจและคิดว่าเป็นไอเดียที่ดีไอเดียนึง ผมกับมันเอาไอเดียนี้ไปปรึกษากับโซฟี่ซึ่งโซฟี่มันก็บอกว่าชอบมากๆ แล้วก็ขอให้แบงค์มาเข้ากลุ่มเป็นคนจัดด้วยกันเลย ชมกันไปกันมาเสร็จพวกเราก็ไปของบของอาจารย์ที่หอเพื่อเอาไปซื้อถุงเท้าซานต้าในกิ๊ฟช็อปของนิวฮาเวนตรงแถวๆถนนฮิวเฮ้าส์ ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับที่ดีเยี่ยมแถมไอ้แบงค์ยังได้รับคำชมจากอาจารย์จนมันตัวลอยไปเลย………น้อยๆหน่อยเหอะ แค่นี้ทำเป็นดีใจ……..

เราสองคนแวะไปทานข้าวกลางวันในตัวโรงเรียนแล้วก็นั่งคุยกับเพื่อนๆอีกสักครึ่งชั่วโมงก่อนที่จะเดินออกไปซื้อถุงเท้าซานต้า ระหว่างทางเราก็เดินคุยกันไปร้องเพลงไปตามประสาเพื่อนรัก ลมเย็นๆกับหิมะที่ตกลงมาเบาๆในตอนนี้ทำให้พวกเราสองคนเดินจนตัวแทบจะติดกัน

“…..There is freedom within; there is freedom without…there’s a battle ahead, many battles I lost….”

สักยี่สิบนาทีผ่านไปเราก็เดินมาถึงกิ๊ฟช็อปที่ตั้งอยู่ใต้ต้นสนต้นเบ้อเร่อ อากาศอุ่นๆจากฮีตเตอร์ภายในร้านทำให้เราสองคนหายหนาวได้ภายในเวลาอันรวดเร็ว เรารีบๆซื้อของแล้วก็เดินไวๆกลับมาที่ตัวโรงเรียนเพราะว่าผมยังมีเรียนตอนบ่ายอยู่ ขืนโอ้เอ้มีหวังได้เข้าเรียนสายแน่ๆ  ส่วนไอ้แบงค์ตัวดีมันก็ขอตัวกลับไปนอนพักที่หอก่อนเพราะว่าเหนื่อยมาทั้งเช้าแล้ว ก่อนจะแยกทางกันมันก็บอกให้ผมตั้งใจเรียนแล้วก็เรียนให้สนุกๆซึ่งผมก็ยิ้มรับแล้วพยักหน้า

............

...

........

.................

….เวลาผ่านไปเนิ่นนาน……….

…………………

เสียงกริ่งดังขึ้นรัวๆตอนประมาณหกโมงเย็นท่ามกลางความเหนื่อยล้าในของสมองผม ให้ตายเหอะ วันนี้นั่งดูตัวเลขทั้งวันเลย ปวดตาจัง ว่าแล้วผมก็เดินออกมาจากห้องเรียนเพื่อที่จะได้กลับไปนอนพักที่หอก่อนถึงเวลาอาหารเย็น พอผมเข้าไปในห้องแล้วเห็นไอ้แบงค์มันไม่อยู่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร เลยเอนลงไปนอน ......สงสัยว่ามันคงเล่น Pool กับไอ้พวกอี๋ฟ่านอยู่ข้างล่าง….....

zzz

zzzz

zzz……….

...........

........

..........

...............

นอนไปสักพักใหญ่แล้วเริ่มหายเหนื่อยก็เลยตื่นขึ้นมาเอง………ลืมตาขึ้นมาก็เห็นไอ้แบงค์มันมานั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆเตียงผมตรงที่ผมจัดไว้เป็นมุมทำงาน………

“โห มึงทนอ่านไหวได้ยังไงวะไอ้อาร์ม เป็นกูคงตายไปนานละ มีแต่ตัวเลขกับหลักการห่าไรไม่รู้” ไอ้แบงค์บ่น

“….งืมม…..”

“เออๆ เอาเหอะ กูเขียนชื่อบนถุงเท้าเกือบเสร็จละ เหลือหลักๆก็แค่เย็บมันเข้ากับชื่อคนจับแค่เนี้ยแหละ”

………….มันตั้งใจขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย.......

............

....

“………โห ขอบใจนะ ไม่เห็นต้องลำบากคนเดียวเลย ปะๆไปกินข้าวกันเหอะ แล้วเดี๋ยวกูกลับมาช่วยทำต่อ”ผมตอบเสียงเหนื่อยๆ รู้สึกผิดเหมือนกันที่ไม่ได้ช่วยอะไรมันเท่าไหร่เลย

“สำนึกด้วยหรอ” มันพูดเชิงแหย่เล่นๆ

“อือๆ” ผมตอบไปโดยไม่ได้ลีลาอะไรเพราะยังมึนๆอยู่

ผมโทรไปหาซูกับหวานหว่านแล้วก็บอกให้ไปเจอกันที่ Dining Hall เลยละกันเพราะว่าผมกับแบงค์กำลังจะลงไปแล้ว จะได้กินเลย ไม่ต้องมาเสียเวลานั่งคอยกันเพราะนี่ก็สองทุ่มนิดๆละ

ในตอนนี้ ถึงแม้ว่างานทุกอย่างมันจะยังไม่เสร็จสมบูรณ์หมด แต่ผมก็รู้สึกดีมากๆที่ได้ร่วมงานกับเพื่อนรักทั้งสองคน ผมเห็นไอ้แบงค์กับโซฟี่มันทุ่มเทกับงานนี้มากๆก็พลอยทำให้ผมใจชื้นไปด้วย นี่แหละครับ คือความสุขของผมในการได้ทำอะไรสักอย่าง เราไม่ต้องไปหวังผลตอบแทนอะไรมากมาย แค่ได้ทำงานที่เรามีความสุขและสบายใจก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว


tbc
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2009 12:38:42 โดย foozeballz »

133113

  • บุคคลทั่วไป
เราไม่ต้องไปหวังผลตอบแทนอะไรมากมาย
แค่ได้ทำงานที่เรามีความสุขและสบายใจก็เป็นอะไรที่ดีที่สุดแล้ว

เรื่องจริงเลยค่ะ
 o13

PEAK

  • บุคคลทั่วไป
อ่านข้อความนี้ของคุณเอม "สถานที่และความทรงจำจะเป็นเครื่องมือนำพาความรักไปเองค่ะ"  แล้ว   :-[    ยิ่งอยากอ่านเพื่อเก็บความทรงจำ ความประทับใจ ของสองคนจัง

เป็นการใช้ชีวิตเรียนในต่างประเทศที่มีความสุข น่าอิจฉาเป็นที่สุด :impress3:

ขอบคุณนะครับ ..  มีความสุขกับการอ่านเรื่องคุณเอมมากครับ

ออฟไลน์ โน๊อา

  • อยู่เป็นคู่ เช่น ฉันคู่เธอ
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1419
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +99/-1
ยาวยาว ไม่ว่า จ้ะ

ลงมาได้เรื่อย ๆ เลยนะ ตามอ่านจ้ะ  :กอด1:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






mecon

  • บุคคลทั่วไป
เห็นแล้วน่าสนุกจัง คนคิดก็ช่างคิด

คือปกติก็ลุ้นอยู่แล้วอ่ะนะว่า ใครจะให้ของขวัญกับเรา แต่นี้ ซ้อนค.ตื่นเต้นไปอีกระดับ เยี่ยมๆ คงครื้นเครงกันน่าดูเลยอ่ะ ชอบๆ

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
น่าสนุกจังแฮะ อยากเล่นมั่งจัง  :impress2:

imageriz

  • บุคคลทั่วไป
ดูแล้วน่าสนุก  อยากเล่นด้วยจังเลยอ่ะ   o18

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
รักคนเขียนอ่ะ

ขยันมากๆๆๆๆๆๆๆเลย

จะรออ่านต่อไปนะครับ

ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
เดี๋ยวมาลงให้นะคะ ขอตัวออกไปเรียนก่อน :O :-[ :-[

foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 12 – ไปด้วยกันไหม?

อากาศที่เยลตอนนี้เย็นเฉียบ อุณหภูมิตอนนี้ก็ติดลบประมาณ 5 องศาในตอนกลางวันเพราะมันเข้าสู่ฤดูหนาวเต็มตัวแล้ว มองไปทางไหนก็ขาวโพลนไปหมดเพราะทั้งตึกและต้นไม้ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะ ความหนาของหิมะในตอนนี้ก็ประมาณเกือบๆครึ่งเมตร ทำให้เวลาเดินไปไหนมาไหนต้องใส่รองเท้าบูทกันลื่น ไม่งั้นมีหวังก้นช้ำแน่ๆ

วันนี้ Core curriculum จบเร็ว ศาสตาราจารย์ก็เลยให้อนุญาตนักเรียนออกมาก่อน ผมก็เดินออกมาพร้อมกับไอ้แบงค์เพื่อที่จะตรงกลับไปที่หอ

“มึง ใกล้ถึงคริสมาสต์ดินเนอร์แล้วอ่ะ น่าตื่นเต้นจังเนอะ” มันทำเสียงใส

“เออ กูก็อยากรู้ว่าปีนี้จะมีใครทำอะไรมั่ง”

“นั่นสิ จะเหมือนที่สแตนฟอร์ดหรือเปล่านะ”

“ก็คงไม่เหมือนหรอกมั้ง ที่นี่ไม่มีเอยอยู่ด้วยนิ” ผมตอบแกมประชดๆมัน ตอนนี้ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรแล้วล่ะเวลาที่เพื่อนๆหรือตัวมันเองพูดถึงเอย ไม่รู้ว่าจะมีเหตุผลอะไรที่ต้องทำให้ผมอารมณ์ไม่ดี….แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ผมควรจะเข้าไปยุ่งด้วย

“แหมๆ แต่ที่นี่เราก็มีอาร์มน้า” มันพูดแล้วยิ้มกรุ้มกริ่ม

“เออๆ มาทำเป็นปากดี กูละหน่ายกับมึง” ผมพูดแล้วก็ยิ้มน้อยๆพร้อมกับส่ายหัวเบาๆ

เราสองคนเดินเข้าไปในหอแล้วก็ไปชงโอวัลตินกินกับขนมปังปิ้งทาชีสร้อนๆ ระหว่างที่ทานของว่างพวกเราสองคนก็คุยกันเรื่องเรียนแล้วก็เรื่องคริสต์มาสดินเนอร์ที่หอแหละครับ เห็นไอ้แบงค์มันบอกว่ามันได้ยินมาว่าปีนี้จะมีอะไรที่พิเศษกว่าปีก่อนๆเยอะทำให้ผมรอคอยค่ำคืนนี้อย่างใจจดใจจ่อเพราะว่าปกติมันก็เป็นคืนที่แสนวิเศษสำหรับทุกๆคนอยู่แล้ว ผมคุยกับมันสักชั่วโมงกว่าๆได้มั้ง คุยกันหลายเรื่องมาก…แต่คุยเรื่องไหนก็ไม่ทำให้ผมตื่นเต้นเท่ากับที่จะได้กลับบ้านแล้วต่างหาก ผมคิดถึงพ่อแม่แล้วก็ไอ้น้องสาวตัวดีเหลือเกิน ปิดคราวนี้ก็ร่วมๆสามอาทิตย์ครับทำให้นักเรียนในหอหลายคนตัดสินใจบินกลับบ้านซึ่งนั่นก็รวมถึงผมกับไอ้แบงค์ด้วย พอพูดถึงบ้านแล้วเราก็คุยกันต่อว่าจะเที่ยวไหนด้วยกันที่เมืองไทยดีเพราะพวกเราสองคนยังไม่ค่อยได้ไปไหนด้วยกันนานๆเลย
และแล้ว อะไรบางอย่างมันก็แทรกเข้ามาในหัวสมองของผม……..ไอ้ซูกับหวานหว่าน…….

..................


……. ใช่แล้วครับ ผมเคยบอกกับตัวเองไว้แล้วว่ายังไงผมก็ต้องพาพวกมันไปเที่ยวเมืองไทยให้ได้ก่อนที่พวกเราจะเรียนจบ ผมเลยคิดว่าจะถือโอกาสนี้ถามพวกมันเลยว่าจะมาเที่ยวด้วยกันรึเปล่า พอผมลองถามเรื่องนี้กับไอ้แบงค์แล้วมันก็เห็นดีด้วยทำให้ผมต้องหาทางไปถามไอ้ซูกับหวานหว่านให้ได้ เอาอะไรมาล่อพวกมันดีน้า? ไอ้แบงค์มันก็บอกว่าให้รอถามตอนอาหารเย็นละกันเพราะตอนนี้มันสองคนกำลังซ้อมเต้นที่ คลับดนตรีละตินอยู่ พอผมกับไอ้แบงค์ตกลงกันเรียบร้อยก็ขึ้นห้องไปนอนกันคนละงีบครับเพราะว่าวันนี้รู้สึกเพลียๆนิดหน่อย พอขึ้นมาถึงห้องแล้วก็กระโดดขึ้นเตียงกันเลยครับ ก่อนจะหลับก็ไม่ลืมตั้งนาฬิกาปลุกแล้วก็ส่งเมสเสจไปหาไอ้สองคนนั้นว่าให้เจอกันที่ Dining Hallตอนทุ่มครึ่งเพราะว่าเดี๋ยวพวกมันสองคนจะถือโอกาสไปกินข้าวก่อน

…………………

.........

...............

ที่ Dining Hall ตอนประมาณทุ่มยี่สิบห้า

“Wan, are you going anywhere during the Christmas break? (หวาน เธอไปไหนตอนหยุดคริสมาสต์ป่าว)” ไอ้แบงค์เริ่มครับ

“I don’t think so, why? (ไม่มั้ง ทำไมหรอ)” หวานหว่านตอบกลับมา ปากก็เคี้ยวลสัดตุ้ยๆ

“Just curious! what about you Su? (แค่สงสัยน่ะ เธอล่ะซู)” ไอ้แบงค์ถามต่อ

“I don’t think so too! (คงไม่เหมือนกันอะ)” ไอ้ซูตอบแล้วก็หันไปพยักหน้ากับหวานหว่าน

“Right! (อื้ม)” ไอ้แบงค์ตอบแล้วก็หันมายิ้มให้ผมนิดๆ

……………….

………….

………………………

…………ทุกคนเงียบไปสักครู่เพราะว่ากำลังเพลินกับการกินข้าวอยู่………………..

………….

…..

และแล้วไอ้แบงค์มันก็ทำลายความเงียบอีกครั้ง

“Su, Wan, do you guys wanna come to Thailand during the Christmas break? (ซู หวานหว่าน พวกเธออยากมาเมืองไทยระหว่างปิดคริสต์มาสไหม?)”

“Ehh? (อะไรนะ?)” หวานหว่านทำหน้างง

“Do you?.........(อยากไหม?)” ไอ้แบงค์พูดน้ำเสียงเรียบๆ

“Er….. Of course, but I don’t know whether my parents will allow me or not (เอ่อ อยากสิ แต่ไม่รู้ว่าพ่อกับแม่จะให้ไปรึป่าว)” ไอ้ซูรีบแทรก
ขึ้นมาแถมทำน้ำเสียงจริงจัง ประมาณว่าอยากไปมากๆ

“Me too! But I will try calling my mom now!! (ฉันก็เหมือนกัน เดี๋ยวโทรหาแม่เดี๋ยวนี้ล่ะ)” พอหวานหว่านมันพูดจบมันก็รีบวิ่งแจ้นออกจาก Dining Hall ไปเลย

“Wan, wait for me!! (หวาน รอด้วยดิ)”ไอ้ซูตะโกนไล่หลังแล้วก็วิ่งตามออกไปเหมือนกัน............

ผมล่ะเซ็งกับไอ้สองคนนี้จริงๆ เวลามีเรื่องอะไรที่มันน่าตื่นเต้นมันจะดี๊ด๊าออกไปโดยที่ไม่บอกหรือรอคนอื่นๆเลย ไอ้แบงค์มันก็คงตกใจกับความไวของไอ้สองสาวเพราะเห็นหน้ามันอึ้งๆไปเหมือนกัน ผมก็ได้แต่นั่งยิ้มแห้งๆแล้วก็นั่งกินข้าวต่อไป พอกินกันจนอิ่มก็ออกไปเดินเล่นสักพักนึงกับไอ้แบงค์ อากาศตอนสามทุ่มเย็นจัด พูดออกมาทีเห็นควันเลย แถมข้างนอกก็มืดสนิทจนแทบจะมองไม่เห็นอะไรซึ่งทำให้ตัวแคมปัสมีความน่าสนใจและน่าค้นหามากยิ่งขึ้น
 เราสองคนนั่งมองดูหิมะที่โปรยลงมาช้าๆจากท้องฟ้าที่มืดมิดจนเป็นสีดำ แสงไฟสีเหลืองอ่อนจากโคมไฟตรงทางเดินส่องผ่านมาทางผมทำให้ผมได้เห็นใบหน้าอันขาวเนียนของไอ้แบงค์ จมูกโด่งๆกับขนตายาวๆของมันทำให้ใจผมสั่น มันก้มหน้าแล้วมองต่ำลงไปที่พื้นเบื้องล่าง หน้ามันดูเครียดๆเหมือนกับว่ามันกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ เราสองคนนั่งอยู่เนิ่นนานท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาเรื่อยๆ เสียงเพลงเบาๆจากไอพอดทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายได้ดีจริงๆ ผมอยากจะใช้เวลาอยู่ตรงนี้ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้……………….ผมกับไอ้แบงค์

……………..

......................

แอด แอด………….เสียงของมือถือผมดังขึ้นเบาๆจนแทบจะไม่ได้ยินเพราะตอนนี้มันถูกห่อไว้ด้วยซองหนังอย่างหนาเพื่อกันมันพังตอนหน้าหนาว

ผมกดเปิดเมสเสจที่ไอ้หวานหว่านมันส่งมาให้……………

“See you in Thailand soon, Wan&Su XD (แล้วเจอกันที่ประเทศไทยเร็วๆนี้  หวานกับซู XD)”

ผมยิ้มออกมาอย่างดีใจแล้วก็ยื่นมือถือของตัวเองไปให้ไอ้แบงค์ดู ไอ้แบงค์มันก็ยิ้มๆแล้วก็หันมามองหน้าผม……………….

…………

.. มันจ้องผมนิ่งๆเป็นเวลาเกือบๆนาที…………ตอนนี้ผมทำอะไรไม่ถูก ทั้งตัวมันชาไปหมด

…………..

….

……….

อยู่ดีๆมันก็ยื่นจมูกมันเข้ามาหอมผมที่แก้มด้านซ้าย……………ผมช็อกจริงๆแล้วคราวนี้

……………แต่แล้ว…มันก็หลบหน้าผมแล้วก็เดินหายเข้าไปในความมืด

…………..

ปล่อยให้ผมนั่งงงเป็นไก่ตาแตกอยู่คนเดียว นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย?………..

ผมไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้นไปสดๆร้อนๆมันคือความจริงหรือความฝัน แต่ผมก็รู้สึกดีใจลึกๆอย่างบอกไม่ถูก…….ทำไมนะ…….ถึงผมจะไม่เข้าใจแต่ผมก็ไม่อยากรับรู้อะไรทั้งนั้น………

………………..

เสียงของลมที่พัดแรงๆผ่านตัวผมเปรียบเสมือนความสุขที่พัดผ่านเข้ามาในชีวิต ผมไม่รู้ว่ามันเป็นเวลากี่ปีแล้วที่ผมไม่เคยได้รู้สึกอะไรแบบนี้……………….หรือผมอาจจะไม่เคยได้รับรู้ถึงความสุขเหล่านี้ตลอดทั้งชีวิตของผมเลยด้วยซ้ำ……….. แสงไฟทางเดินที่ส่องไสวเข้ามาสะท้อนกับนาฬิกาข้อมือของผมได้เปลี่ยนเป็นภาพสะท้อนเข้าตาที่ทำให้ผมได้มองเห็นอะไรบางอย่างที่เปลี่ยนไป


Tbc
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 27-02-2009 19:51:12 โดย foozeballz »

111_1

  • บุคคลทั่วไป

Donpopper

  • บุคคลทั่วไป
คนแต่งแรงดีจริง

อย่างนี้รักตายเลย

อิอิ

mecon

  • บุคคลทั่วไป
อั๊ยยยยยยยยยยย  :-[ :-[ :-[

แบงก์ มาเคลียร์ตัวเองก่อน  หอมเค้าแล้วตีจากไป ไม่อธิบายว่ามันหมายความว่ายังไง

ปล่อยให้อาร์มยืนใจสั่นแบบนั้นได้ยังไง  ม่ายยยยยยยยยยยยยย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






imageriz

  • บุคคลทั่วไป
แล้วตกลงแบงค์คิดอะไรกับอาร์มหรือเปล่า มาหอมแก้มกันแบบนี้  :impress2:

133113

  • บุคคลทั่วไป
แบงค์
นายคิดอะไรอยู่คร๊าาาาา
:m13:


ออฟไลน์ 4559

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3978
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +119/-8
หรอกให้อยากแล้วจากไปหรอ

 :seng2ped: :seng2ped: :seng2ped:

mma419109

  • บุคคลทั่วไป
    บรรยากาศแปลกใหม่ดี คนเขียนก็ขยัน +1 เป็นแรงใจ
     

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
สงสัยรู้ใจตัวเองแล้ว  อยากรู้ว่าตอนต่อไปจะเป็นอย่างไร

รีบมาต่อด่วนนะ คนสวย +1 ให้เพื่อเร่งเร้า  :z2:

ออฟไลน์ woradach

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 717
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +27/-1
ปล่อยให้เค้าค้าง มารับผิดชอบเรยย  :o12:

ออฟไลน์ loveyous

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 583
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +38/-4
    • Aphrodite Shop

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
แบงค์มาเคลียร์ด่วนนนนน

KiKuMon

  • บุคคลทั่วไป
ตอน 13!!!

รอครับ

จะมามั้ยคืนนี้



foozeballz

  • บุคคลทั่วไป
บทที่ 13 – คริสต์มาสที่รอคอย

หลังจากวันนั้น ผมกับไอ้แบงค์ก็ยังทำตัวปกติเวลาเจอหน้ากันเพราะผมไม่ได้ถือสาอะไรมันมากมาย จริงๆแล้วผมพยายามไม่คิดถึงมันต่างหาก มันคงง่วงๆเบลอๆเลยเผลอตัวทำยังงั้นไป เวลาล่วงเลยมาอาทิตย์กว่าๆก็มาถึงวันคริสมาสต์ ดินเนอร์ ไอ้กิจกรรม Secret Santa สองวันที่ผ่านมาก็ดำเนินไปอย่างราบรื่นครับ แต่ละคนในหอมีสีหน้ายิ้มแย้มเพราะได้ของขวัญไปเยอะมากๆ ส่วนไอ้พวกผู้จัดอย่างเราสามคนก็คงต้องยอมอดแหละครับ แต่ถึงกระนั้นก็เหอะ แค่พวกเราเห็นคนอื่นๆมีความสุขพวกเราก็มีความสุขตามไปแล้ว ส่วนใครได้ใครเป็น Secret Santa ก็คงจะรู้คืนนี้แล้วล่ะ

ตอนนี้ทั้งหอแล้วก็มหาวิทยาลัยถูกประดับไปด้วยเครื่องประดับหลากสีสัน ไม่ว่าจะเป็นกระดิ่ง โบว์ โคมไฟเรืองแสง แล้วก็ต้นคริสต์มาสอีกมากมาย ดูๆไปแล้วก็รู้สึกเหมือนกับว่าตัวเองอยู่ในโลกของนิทาน มันช่างเป็นอะไรที่สามารถเรียกความทรงจำในวัยเด็กเวลาดูการ์ตูนกลับมาได้อีกครั้ง วันนี้ผมแทบไม่อยากเข้าเรียนเลยเพราะว่าอยากให้วันมันผ่านไปเร็วๆเพื่อที่จะได้ไปฉลองคริสต์มาสดินเนอร์กับพวกเพื่อนๆคืนนี้ ผมว่าผมตื่นเต้นแล้วนะ แต่ไอ้หวานหว่านมันตื่นเต้นยิ่งกว่าผมอีก มันเอาสเปรย์หิมะไปฉีดตามกระจกและหน้าต่างจนขาวโพลนไปหมด ผมล่ะสงสารแม่บ้านจริงๆที่ต้องคอยมาเก็บกวาดเศษขยะฝีมือของมัน ส่วนไอ้แบงค์มันก็ไม่ยอมน้อยหน้า มันเล่นซื้อเสื้อมาซะหล่อเชียวเพราะคืนนี้ต้องแต่งตัวแฟนซีกันครับ ส่วนผมจะแต่งตัวเป็นอะไรนั้น ขออุบไว้ก่อนนะครับ

……………………………………………….

………………

………………………   

…………………..

……………………………………………….

“We wish you all every success in your academic endeavors in the years to come. May god bless you! (เราขอให้พวกท่านทั้งหลายประสบความสำเร็จในการศึกษา ขอพระเจ้าจงประทานพรแด่พวกท่าน)”

“Merry Christmas Eve (สุขสันต์วันคริสต์มาสอีฟ)”

“Yale College (วิทยาลัยเยล)”

“LUX ET VERITAS”

สิ้นเสียง Dean และ Master กล่าวคำแถลงการณ์และอวยพรสำหรับพิธีในคืนนี้เรียบร้อยแล้ว เสียงระฆังก็ดังขึ้นสองสามรอบเพื่อเป็นสัญญาณให้นักศึกษาได้รับรู้ว่าได้ถึงเวลาลงมือฉลองอาหารค่ำมื้อนี้ พวกนักเรียนต่างกรูไปกันไปเข้าแถวเพื่อตักอาหาร แต่ก็มีบ้างที่ขอไปเดินถ่ายรูปก่อน อย่างเช่น………ไอ้ซู กับไอ้หวานหว่าน…… แล้วก็รวมถึงผมด้วยครับ ฮ่าฮ่า คืนนี้ไอ้ซูแต่งตัวเป็นนางฟ้าครับ เดรสสีขาวๆที่ติดประกายเพชรอยู่ตรงแซคทำให้มันดูโดดเด่นแล้วก็สะดุดตามากๆครับ ส่วนไอ้หวานหว่านมันคิดอะไรของมันก็ไม่รู้ แต่งตัวเป็นคาวเกิรล์ใส่หมวกใบใหญ่ๆ เสื้อลายสก็อตสีแดงสลับกับดำแล้วก็กางเกงยีนส์ขาม้ามีขาว สวยคนละแนว แต่ก็ไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าไอ้ซูเลย

ไอ้แบงค์คืนนี้มันแต่งตัวย้อนยุค เหมือนกับพวกที่อยู่ในสมัย เซเวนตี้ ใส่เสื้อสีขาวลายจุดสีต่างๆแล้วก็กางเกงสแล็กสีเขียวอ่อน ดูแล้วก็ตลกดีเหมือนกันนะครับ นี่ถ้าไม่ติดว่ามันหน้าตาดีคงมีคนด่ามันไปแล้วล่ะ อย่างว่าคนหน้าตาดีแต่งชุดอะไรมันก็ดูดีไปหมดแหละ ส่วนผมน่ะหรอ วันนี้ก็ไม่ได้แต่งตัวอะไรมากมายหรอกครับ ก็แค่เป็นเทวดาคู่กับไอ้หวานหว่านเพราะเราสองคนเตี๊ยมกันมาโดยไม่ให้ใครรู้ อิอิ ไอ้ซูเห็นพวกเราก็กัดไม่ยั้งเลย ทั้งแซวว่าเป็น fake angel บ้างล่ะ แล้วก็ด่าพวกเราสองคนอีกว่านิสัยเหมือนเด็กๆไม่สมกับการเป็นเทวดาแล้วก็นางฟ้า แถมมันยังแอบงอนพวกเราสองคนอีกที่แอบเตี๊ยมกันมาโดยไม่ได้บอกมัน….เง้อ อย่างงี้ก็มีด้วย แปลกคนจริงๆ

ไอ้แบงค์มันเดินกลับมาที่โต๊ะอาหารพร้อมกับอาหารที่น่าทานโคตรๆมากมากหลายอย่าง แล้วก็น้ำมะม่วงอีกแก้ว ตะกี้ตอนผมไปถ่ายรูปก็ไปเหลือบๆมองเห็นหลายอย่างเหมือนกันครับ ที่ขาดไม่ได้เลยก็คงเป็นไก่งวง นอกจากนี้ก็มีเป็นพวก พายต่างๆ ข้าวอบชีส พิซซ่าหลากหลายหน้า ปลานึ่งซีอิ๊ว เทมปุระ โซบะเย็น ซาชิมิ บิลิมบับ แล้วก็ซุปต่างๆอีกมากมายก่ายกอง……………. ที่บอกกล่าวมานี่ยังไม่ถึงหนึ่งในห้าของรายการอาหารเลยนะครับเพราะว่าหอเค้าทุ่มทุนจริงๆเพื่อความสุขของนักเรียนทุกๆคน

Dining hall วันนี้ถูกประดับไปด้วยกล่องของขวัญมากมายก่ายกองที่นักเรียนสามารถหยิบนำออกไปได้เลยพอพิธีเสร็จเรียบร้อย ต้นคริสมาสต์ที่มีโคมไฟติดประดับอยู่ส่องแสงวิบวับทำให้งานศิลป์เก่าๆของตัวโรงอาหารเด่นชัดขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นทั้งรูปปั้นสไตล์ Palladian Revival และพวก Neoclassical ร่วมสมัยที่เยลตั้งใจทำขึ้นมาเพื่อให้ได้รับรู้ถึงบรรยากาศของสมัยก่อน  เพดานของ Dining hall ถูกตกแต่งไปด้วยลูกไฟหลากสีสันที่พอชะเง้อมองขึ้นไปแล้วเหมือนกับท้องฟ้าในยามวิกาล

.....................

“Bank! Where is my Christmas present? (แบงค์ ของขวัญวันคริสต์มาสของเราอยู่ไหนอะ)” ไอ้หวานหว่านเริ่ม

“Being a tour guide for two of you in Thailand!! (ก็เป็นไกด์นำเที่ยวพวกเธอตอนไปเมืองไทยไงเล่า)” ไอ้แบงค์ตอบแล้วก็ยิ้มเจ้าเล่ห์ เหมือนกับเป็น
การดักคอซูไปด้วยว่า ‘มึงไม่ต้องถามหาของขวัญจากกู’ ผมสังเกตเห็นว่าไอ้หวานหว่านมันหุบยิ้มทันทีเลยครับ อิอิ

“How lucky are we to have a friend like you? (พวกเราโชคดีแค่ไหนทีมีเพื่อนอย่างแก?)” ไอ้ซูพูดทำนองประชดๆครับส่วนไอ้แบงค์ก็หัวเราะชอบใจ ผมกับไอ้หวานหว่านก็ได้แต่นั่งทำตาปริบๆแล้วก็ส่ายหน้าให้กับความน่ารักของไอ้สองคนนี้ อีกใจนึงก็นึกหมั่นไส้ไอ้ซูที่มาว่าผมกับไอ้หวานหว่านว่านิสัยเด็กๆ ผมว่ามันอะเด็กกว่าตั้งเยอะ

ดินเนอร์มื้อนั้นเป็นมื้อที่ทุกคนในหอมีความสุขกันมากๆครับ พวกเรานั่งกินกันจนอิ่มแล้วก็ออกไปเดินเล่นหิมะกันข้างนอกต่อ ตรงลานนอกบ้านมันจะมีเป็นซุ้มเบียร์แล้วก็เครื่องดื่มต่างๆตั้งไว้ พวกเราสี่คนเดินออกไปหยิบเครื่องดื่มคนละกระป๋องแล้วก็เดินออกไปในความมืด เราเดินผ่านตึกเมอโลนแล้วก็เลยไปยังสนามหญ้าใกล้ๆห้องสมุดครับ ตรงนั้นมีเก้าอี้ยาวๆให้นั่งครับ พวกเราปัดหิมะออกแล้วก็นั่งคุยกันสบายใจเฉิบ

“I really can’t wait to go to Thailand (ฉันรอที่จะไปเมืองไทยไม่ไหวแล้ว)” ไอ้หวานหว่านพูดพร้อมกับทำหน้าดีใจสุดๆ

“Me too! Oh my god, I love these two so much!! (เหมือนกันๆ ให้ตายเหอะ รักไอ้สองคนนี้จัง)” ไอ้ซูพูดแล้วก็ชี้นิ้วมาที่เราสองคน

“If you really love us, I have a favor to ask you guys! (ถ้ารักพวกเราจริงอะนะ ทำอะไรให้หน่อยสิ)” ไอ้แบงค์พูดขึ้นมา

“What? (อะไร)” ไอ้สองคนนั้นพูดขึ้นพร้อมกัน

“Don’t come to Thailand, hahahhahaha, waste my time (ก็อย่ามาเมืองไทยสิ ฮ่าๆๆ เสียเวลาเรา)” ไอ้แบงค์พูดแล้วก็หัวเราะดังลั่น
ผมก็ขำไปกับมันด้วย ส่วนไอ้สองคนนั้นหน้าบูดไปเลยครับ รู้สึกว่าไอ้ซูมันจะหมั่นไส้ไอ้แบงค์มากลุกเดินจากเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วก็มาตบหลังไอ้แบงค์ดังผลัวะ!

“Aaa, You  bitch! (ไอ้บ้า)” ไอ้แบงค์บ่น

ไอ้สองคนนั้นมันก็ไม่ได้โกรธอะไรหรอกครับ มันมีความสุขมากกว่าที่ได้หยอกกันเล่น เพราะอีกไม่ถึงปีพวกเราก็อาจจะไม่เจอกันอีกแล้วก็ได้…………………..อะไรๆมันไม่แน่นอนเสมอ

เราสี่คนนั่งคุยกันอย่างนั้นจนเนิ่นนาน พอนึกสนุกขึ้นมาก็เอาหิมะมาปาใส่กันแล้วก็ยัดใส่เสื้อกันมั่ง ไอ้หวานหว่านมันเอาหิมะหยอดเข้าไปในคอเสื้อไอ้แบงค์จนไอ้แบงค์ร้องจ๊ากเลยครับ.... เหนื่อยจากการวิ่งเล่นหิมะแล้วพวกเราก็มานั่งจิบเบียร์กันต่อเพื่อให้คลายหนาว อีกสามวันก็จะได้เวลากลับเมืองไทยแล้วทำให้พวกเราต้องรีบไปเตรียมตัวเก็บของ ผมกับไอ้แบงค์ในฐานะเจ้าบ้านที่จะนำเพื่อนสองคนเที่ยวก็เลยต้องคอยถือของตอนขึ้นเครื่องไปให้พวกมัน หรือพูดง่ายๆก็คือต้องเอาของใช้พวกมันสองคนใส่กระเป๋าเดินทางของพวกเรานั่นแหละ

พอเที่ยงคืนก็เป็นวันคริสต์มาสพอดี เราบอกราตรีสวัสดิ์แล้วก็แยกย้ายกันกลับห้อง พอผมกับไอ้แบงค์ขึ้นไปถึงห้องมันก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำก่อนเพราะเดี๋ยวมันจะโดนหิมะกัดแล้วไม่สบายเอา ผมนั่งเก็บของเข้ากระเป๋าไปพลางๆ พอผ่านไปสักยี่สิบนาที มันก็เดินนุ่งผ้าเช็ดตัวออกมาแล้วมันก็ยื่นอะไรบางอย่างมาให้ผม

“อะไรวะ ไอ้แบงค์?”

“Merry Christmas นะ…………. เหมือนที่กูบอกไปเมื่อวันก่อนอะแหละว่าปีนี้มันมีอะไรพิเศษ ที่จริงมันไม่ได้มีอะไรหรอก กูขอโทษ กูแค่อยากให้ของชิ้นนี้กับมึง...... สำหรับกูแล้ว แค่ได้มีเพื่อนดีๆอย่างมึงก็เป็นอะไรที่โชคดีมากๆแล้ว ขอบคุณสำหรับทุกอย่างนะ อาร์ม”

……………

………….

……

…………

ผมอึ้งไปสักครู่

“โห ขอบใจมากนะแบงค์ ไม่เห็นต้องเอาอะไรมาให้เลย”

“ไม่ได้หรอก กูทำอะไรไว้ก็ต้องรับผิดชอบสิ”

“อะไรวะ?” ผมเริ่มงง

“มึงยังจำวันแรกที่กูมาถึงที่นี่ได้ไหม…………ตอนที่กูกำลังจะอาบน้ำแล้วอยู่ๆมึงก็เปิดประตูเข้ามาอะ” มันพูดทำเอาผมอึ้งไปอีกรอบ สงสัยวันนี้จะซวยแล้ว

“นั่นแหละ พอกูออกเปิดประตูห้องน้ำออกมาก็เห็นผ้าเช็ดตัวมันกองอยู่หน้าห้องแล้ว แถมยังโดนประตูหนีบจนขาดรุ่งริ่งอีก กูก็เลยเอาไปทิ้งอะ ขอโทษนะ”

อ๋อ ถึงว่าสิ ทำไมผมไม่ได้ใช้ผ้าเช็ดตัวผืนนั้นอีกเลย เพราะมันแท้ๆ

“อืมๆ ไม่เป็นไรหรอก กูก็ขอโทษนะที่ไม่ได้สารภาพกับมึงไปวันนั้นอะ” ผมพูดแล้วก็หันหน้าไปทางอื่น

“ช่างมันเหอะ เป็นกูก็คงตกใจแล้วก็วิ่งหนีเหมือนกัน…………………ว่าแต่ตูดกูขาวปะ” มันถามแล้วก็ยักคิ้วให้

“ไอ้บ้า มึงถามแป๊ะอะไรเนี่ย ไปไกลๆเลย กูจะอาบน้ำ” ว่าแล้วผมก็สะบัดหน้าแล้วเดินถือผ้าเช็ดตัวอันนั้นเข้าไปในห้องน้ำ ส่วนไอ้แบงค์ก็นั่งหัวเราะคิกคักอยู่บนเตียง มือก็หยิบขนมเข้าปากไปเรื่อยๆ

ผ้าเช็ดตัวผืนสีขาวถูกคลี่ออกมาช้าๆ กลิ่นหอมๆของมันชวนให้น่านอนกอดเป็นยิ่งนัก มุมขวาล่างของผ้าเช็ดตัวผืนนี้มีคำสลักเขียนไว้ว่า

“FRIENDS FOREVER”


Tbc
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-02-2009 00:52:34 โดย foozeballz »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด