สัญญารัก สัญญาสวาท -- ตอนพิเศษ บทที่1 หลังมรสุม (After the Storm)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: สัญญารัก สัญญาสวาท -- ตอนพิเศษ บทที่1 หลังมรสุม (After the Storm)  (อ่าน 903460 ครั้ง)

subaru

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ขอบคุณครับที่มาต่อ เห็นแล้วรีบเม้นเลย แต่ยังไม่ได้อ่าน

ปล. มาเดากันมั้ยว่าที่บอกว่าจะมาต่อเร็วๆนี้ จะคืออีกกี่วัน

ออฟไลน์ maew189870

  • รักทุกคนนะคับ
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 736
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +41/-4
ยังไงก็จะรักพี่ดิว  และพี่อี้เหมือนเดิมคับ

@21

  • บุคคลทั่วไป
อย่างน้อยดิวก็พ้นขีดอันตรายแล้วเนอะ

ทีี่่เหลือก็คือเยี่ยวยา พยายามรักษาดิวให้กลับมาเหมือนเดิม

LoFT

  • บุคคลทั่วไป
แล้วความจำจะคืนไหมอ่ะ

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
รอตอนต่อไป
ที่อาจจะเศร้ากว่านี้ หรือ ดีกว่านี้ T^T

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
นั่งรอกันต่อไป   :t3:
 :call:

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6
ให้กำลังใจเสมอนะครับ ขอให้ผ่านเรื่องราวร้ายๆไปได้

ชีวิตคเรามีทั้งสมหวังและผิดหวังเป็นของธรรมดาครับ

 :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2: :L2:

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามารออีกคน
 :t3: :t3: :t3: :t3:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6





สวัสดีคร๊าบบบบบบบบบบบบ ทุกๆคน


เพิ่งกลับจากไปเที่ยวเกาะเสม็ดมาเมื่อวันก่อน


สนุกมากๆ แถมมีเหตุการณ์ประทับใจอีกต่างหาก อิอิ


ไว้ว่างๆผมจะมาเขียนเป็นเรื่องสั้นให้อ่านนะครับ



ปล.น้องต้าร์ครับ แซวกันอย่างนี้ ผมก้อน้อยใจเป็นนะครับ แงๆๆๆ

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
อิอิ   :laugh:

ไม่ชวนบ้างเลยน่าค่า    :serius2:

หนูกลับมาระยองพอดี      :impress2:


หุหุ     :กอด1:

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0
ไม่แซวแล้วๆ
อยากจะบอกว่า ทนคิดถึงไม่ไหว เลยย้อนกลับไปอ่าน
ตั้งแต่ตอนที่อี้กับดิวโดนรถชน แล้วมันอินอะ อยากให้มาต่อ
เฮ้อ อ่าน2รอบก็เรียกน้ำตา เฮ้ออ T^T

มาต่อเร็วๆนะครับพี่  :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad: :monkeysad:

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
มายืนรอ...............

นั่งรอ..................

นอนรอ................

และจะรอต่อไป.......


 :กอด1: :กอด1: :กอด1: :กอด1:

ออฟไลน์ โดดเดี่ยวแต่ไม่

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1582
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +178/-6

ออฟไลน์ kyoya11

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4680
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +340/-12
รอต่อไป
อยากอ่านเร็วๆจัง ^^

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ranyoo

  • บุคคลทั่วไป
รอมาหลายวันแล้วน๊า..
เฮ้อออออออ!!!!

ออฟไลน์ barahi

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 270
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +5/-0

ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6



กำลังปั่นอยู่เลยครับ


อีกครึ่งชัวโมงได้อ่านแน่..........




รอหน่อยๆๆๆ

ออฟไลน์ chompoonut139

  • สุดท้ายก็ไม่เหลือใคร
  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 268
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-2
จะนั่งรอค่า


อิอิ


 :call: :call: :call: :call: :call:

ออฟไลน์ Alexie333

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1448
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +324/-6









 :m31: :m31: :m31: :m31:








“ ดิวเป็นอะไร  แม่บอกฝ้ายมาสิ ฮือๆ ไหนบอกว่าดิวดีขึ้นแล้วไง “

“ ใช่ครับ คนไข้พ้นขีดอันตรายแล้วก้อจริง แต่ด้วยอาการก่อนหน้านี้ของคนไข้หนักมาก มีทั้งเลือดคลั่งในสมอง ทั้งความบอบช้ำทางร่างกาย จนเป็นผลทำให้สมองของคนไข้ส่วนนึงได้ถูกทำลายไป คนไข้อาจจะหายเป็นปกติ แต่ก้ออาจจะไม่เหมือนเดิมอีกครั้ง ซึ่งนี่หมอก้อได้ทำการช่วยยื้อชีวิตสุดๆแล้ว เราก้อทำได้แค่นี้ ณ ตอนนี้นะครับ “

“ ไม่นะ คุณหมอหมายความว่ายังไง ที่ว่าดิวจะไม่เหมือนเดิม “ พี่ฝ้ายถามต่อทั้งน้ำตา

“ ก้อถ้าโชคเข้าข้างพวกเรา เค้าก้อจะเดินเหินได้ปกติ แต่ต้องใช้เวลาหน่อย ต้องทำกายภาพเป็นประจำ แต่ด้านความรู้สึก ความทรงจำนั้น หมอคิดว่า คนไข้ต้องสูญเสียมันไปอย่างถาวร เพราะก่อนที่จะผ่าตัดนี้ คนไข้ได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง แต่ถ้ามองในแง่ดีนะครับ คืออาการโดยรวมดีขึ้นแล้ว แต่อาการทางสมอง เราต้องจับตาดูอีกระยะ “

   ผมเข่าอ่อนอีกคนทันที ตกลงนี่มันอะไรกันนี่..........ทำไม ทำไมเรื่องมันถึงได้เป็นอย่างนี้ ????

“ ตอนนี้หมออยากให้คนไข้พักผ่อนมากๆ ญาติๆด้วยก้อเช่นกันนะครับ เดี๋ยวทางนี้ ทางผมจะเป็นเป็นดูแลเอง แล้วจะตรวจเช็คอาการของคนไข้เป็นระยะๆ ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ “

    ผมนั่งแบบไร้ความรู้สึกอยู่ตรงนั้น น้ำตาไหลพรากลงมาอีกที....ทำไม ทำไมนะ ในเมื่อสวรรค์จะช่วยให้ทุกอย่างดีขึ้นแล้ว ทำไมยังต้องทำให้ดิวเป็นอย่างนี้ด้วย .........ผมเห็นน้าเนตรแล้ว ยิ่งอดสงสารไม่ได้ ท่าทางน้าเนตรจะทำใจไม่ได้หนักกว่าเดิมอีก รวมไปถึงคนอื่นๆด้วย ร้องไห้กันระงม ก้อมีแต่มอสนั่นแหละ ที่ยืนหน้านิ่งอยู่ตรงนั้น แบบไม่แสดงอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น

   สักพัก พี่ชายของผมก้อเดินมาหาผม มาบอกว่าให้ผมกลับไปพักผ่อนได้แล้ว ที่บ้านเป็นห่วง ผมก้อเลยต้องเดินไปกับเค้าแบบไร้ความรู้สึกสุดๆ ผมร้องไห้จนน้ำตาแทบจะหมดไปจากตัวแล้ว ผมเดินกลับไปที่ห้องพัก ก้อเจอแม่ผมนั่งหน้าเครียดรอผมอยู่ ด้วยความรู้สึกแย่ๆที่มีอยู่ในใจอยู่แล้ว พอเห็นหน้าแม่ผมก้อโผเข้ากอดและร้องไห้ทันที แม่ผมก้อคงที่จะรู้สึกสงสารผมอยู่แล้วก้อเลยร้องไห้ตามออกมาอีก เราสองคนกอดกันร้องไห้อยู่สักพัก แม่ก้อพูดขึ้นว่า

“ ลูกเอ๋ย ถึงลูกจะเศร้าเสียใจไปก้อไม่เกิดประโยชน์หรอก มาจนถึงป่านนี้แล้วคงไม่มีอะไรทำให้เค้าดีขึ้นได้ แม่ว่าอี้ต้องรู้จักหักห้ามใจบ้างนะลูก อี้รู้ไหมว่าทุกคนเค้าเป็นห่วงอี้มาก รวมทั้งดิวด้วย ถ้าดิวเค้ารู้ว่าอี้เป็นหนักขนาดนี้นะ เค้าคงไม่สบายใจ “ แม่ผมพยายามปลอบผมอย่างมาก ท่านคงจะทนเห็นผมในสภาพนี้ไม่ค่อยได้

“ แม่ครับ อี้ขอโทษ ที่อี้ทำใหทุกคนเป็นห่วงขนาดนี้ แต่อี้ อี้ทำใจยังไม่ได้ ดิวเค้าไม่น่าจะเป็นหนักขนาดนี้ “ ผมพูดแบบเศร้าๆ

“ เอาเถอะลูก ถึงแม้ว่ามันจะเป็นยังไงต่อไปนะ ยังไงอี้ก้อยังอยู่ตรงนี้ อี้ต้องเข้มแข็ง ไม่ใช่แค่ตัวของอี้ แต่เพื่อทุกๆคน ที่เค้ารักและเป็นห่วงอี้นะจ้ะ รู้มั้ยลูก “ แม่ผมพูดพรางลูบหัวผมเบาๆ ผมก้อค่อยๆคลายอาการเศร้าลงไปบ้าง แต่ก้อยังกอดแม่อยู่อย่างนั้นไปเรื่อยๆ เหมือนผมต้องการใครสักคนที่อยู่ข้างๆผมตอนนี้ ผมกอดแม่นานเท่าไหร่ไม่รู้จนหลับไป

   ตื่นเช้ามา วันนี้ผมรู้สึกึนหัวนิดๆ ผมได้ยินเสียงแม่ผมกับหมอคุยกันอยู่ข้างๆเตียงของผม เค้าพูดถึงเรื่องอาการของผม ซึ่งหมอบอกว่า วันนี้ผมก้อกลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้ว อาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ก้อต้องดูแลรักษาตัวเองดีๆ เพราะว่าอาการของผมเพิ่งจะหายดี แล้วยังมาเจอเรื่องอีก เลยทรุดไปบ้าง แต่ถ้ารักษาตัวเองดีๆกว่านี้ น่าจะมมีปัญหาอะไร และคงจะกลับมาเป็นปกติได้ในเร็ววัน ผมดูท่าทางแม่ของผมจะรู้สึกดีขึ้นมา ยิ้มและขอบคุณคุณหมอไป........จะว่าไป นี่เป็นรอยยิ้มแรกในรอบหลายๆวันของแม่ผมก้อว่าได้ ผมคงทำให้แม่ผมลำบากใจมากหลายวันแล้วสินะ ผมคิดในใจว่า ต่อจากนี้ไป ผมจะต้องเข้มแข็งขึ้นให้ได้ในเร็ววัน เพื่อให้คนอื่นๆที่ผมรัก และเค้ารักผม ไม่ต้องมาเป็นห่วงในตัวผมอีก

  ตอนสายๆ หลังจากที่ผมตื่นและอาบน้ำแต่งตัวแล้ว คุรหมอก้อมาตรวจอาการของผมอีกที ซึ่งก้อไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม่และพี่ชายของผม เลยช่วยกันเก็บข้าวของและพาตัวผมกลับไป พักที่บ้านของผม.....ใจนึง ผมก้ออยากที่จะอยู่รอดูอาการของดิวไปเรื่อยๆ แต่อีกใจนึง ถ้าผมยังอยู่อย่างนี้ ทางบ้านของผมต้องเป็นห่วงผมแน่ๆ ผมเลยคิดว่า ผมกลับไปพักที่บ้านดีกว่า เพื่อความสบายใจของทุกคน แล้วว่างๆ หรืออาการดีขึ้นกว่านี้ค่อยมาเยี่ยมเค้าอีกที.....

   แต่ก่อนจะกลับบ้าน ผมขออนุญาตแม่ผมว่า ผมขอไปดูหน้าดิวอีกที ผมอยากรู้ว่าเค้าเป็นยังไงบ้าง แม่ผมก้ออนุญาตให้ไป ว่าแล้วผมก้อเดินไปที่ห้องฉุกเฉินที่ดิวนอนพักอยู่ ซึ่งผมก้อเป็นครอบครัวของดิวอยู่แถวๆนั้นเต็มไปหมด ท่าทางทุกคนคงจะเป็นห่วงดิวมากๆ จนไม่ได้หลับได้นอน โดยเฉพาะน้าเนตร ที่ร่างกายดูทรุดโทรมมากๆ ขอบตาดำคล้ำไปหมด น้าเค้าคงจะร้องไห้มาตลอด เพราะคงจะยังทำใจไม่ได้ ผมเห็นดังนั้นเลยเดินไปหาเค้าสักหน่อย เพื่อปลอบใจน้าเค้าบ้าง....

“ น้าเนตรครับ น้าเนตรทำใจดีๆไว้นะครับ ดิวเค้าปลอดภัยแล้ว ต่อจากนี้ไป ผมว่าคุณหมอเค้าคงจะหาทางทำให้ดิวกลับมาเป็นเหมือนเดิมให้เร็วที่สุด อี้เชื่อว่าอย่างนั้นนะครับ “

“ น้าขอบใจอี้มากนะ ที่คอยเป็นห่วงดิวมาตลอด ดิวนี่โชคดีจริงๆเลย ที่ได้รู้จักกับอี้ น้าดีใจแทนดิวจริงๆ “ คำพูดนี้ ช่างเสียดแทงใจของผมนัก จะว่าไปแล้ว เพราะดิวต้องมารู้จักกับผมนี่แหละ ถึงทำให้เค้าต้องเป็นอย่างนี้ ............ถ้าไม่มีผมสักคน ชีวิตของเค้าคงจะดำเนินไปอย่างปกติ และคงไม่ต้องมาโชคร้ายขนาดนี้ คิดแล้วมันเศร้าใจยิ่งนัก

“ น้าเนตรต้องดูแลตัวเองด้วยนะครับ ต้องพักผ่อนและทานอาหารบ้าง เดี๋ยวถ้าดิวตื่นขึ้นมาแล้วเจอแม่เค้าในสภาพนี้ล่ะก้อ เค้าอาจจะตกใจก้อได้นะครับ และอาจจะจำแม่เค้าไม่ได้ด้วยนะ “ ผมพยายามหาทางปลอบใจน้าเนตร

“ น้าไม่เป็นไรหรอกอี้ ขอบใจมากๆนะ ที่เป็นห่วงน้า แล้วนี่อี้ หมอให้กลับไปพักผ่อนที่บ้านได้แล้วใช่ไหม “ น้าเนตรหันมายิ้มเจื่อนๆให้ผม ประมาณว่าคงอยากจะให้ให้ผมรู้สึกดีขึ้นมั้ง

“ ใช่แล้วครับคุณน้า แต่ไม่ต้องห่วงนะครับ ไว้ถ้าอี้หายดีเมื่อไหร่ อี้จะมาเยี่ยมดิวบ่อยๆ “

“ ขอบใจนะจ้ะอี้ น้าว่าอี้กลับไปพักผ่อนได้แล้วนะ เดี๋ยวทางบ้านจะรอนาน “

    ผมพยักหน้าเป็นการตอบรับ จากนั้นผมก้อเดินไปที่ประตูหน้าห้องที่ดิวนอนอยู่ ผมมองเข้าไปในห้อง เห็นเค้านอนแน่นิ่งไม่ไหวติง มีสายระโยงระยางอยู่เต็มไปหมดเหมือนเคย ผมเห็นแล้วใจหายนัก น้ำตาพาลจะไหลอีกที แต่ผมก้อต้องหักห้ามใจไว้ เดี๋ยวคนอื่นเค้าจะเป็นห่วงผมอีก ผมมองอยู่แป๊บนึง จากนั้นผมก้อเดินกลับไปหาแม่และพี่ชายขงผมที่ยืนรออยู่แถวๆนั้น จากนั้นเราก้อเดินทางกลับบ้านกันไป.........ผมรู้สึกว่า หัวใจของผมนั้น มันไม่ได้กลับตามผมมาเลย มันยังอยู่ที่หน้าห้องที่ดิวนอนพักอยู่ตรงนั้นต่างหาก มันไม่ยอมกลับตามตัวผมมา เพราะว่า หัวใจของผม มันไม่ได้เป็นของผมอีกต่อไปแล้ว จะว่าไป มันก้อไม่ได้เป็นของผมมาตั้งนานแล้ว มันอยู่กับชายคนนั้น คนที่นอนแน่นิ่งในห้องนั้น ตั้งแต่วันแรกที่ผมเจอเค้าด้วยซ้ำไป................

   




     ผมกลับมาพักผ่อนอยู่ที่บ้านได้อาทิตย์กว่าๆแล้ว จนอาการผมดีขึ้นมากๆ สามารถเดินเหิน ทำอะไรได้ปกติแล้ว ว่างๆ ผมก้อมักจะมาช่วยคนที่ร้านดูแลลูกค้าบ้าง มาช่วยทำอาหารบ้าง ตอนแรกๆ ทางบ้านผมเค้าก้อไม่ยอมให้ผมทำ แต่ผมก้อต้องบอกพวกเค้าไปว่า ถ้าปล่อยให้ผมอยู่เฉยๆ ไม่ผมเป็นง่อย ก้อต้องเป็นบ้าแน่ๆ ผมก้อหาอะไรทำไปเรื่อย เพื่อไม่ให้ใจของผมต้องคิดถึงแต่ดิว ซึ่งมันก้อช่วยได้อยู่เหมือนกันนะครับ แต่ในใจลึกๆ ผมก้อเป็นห่วงดิวเค้าเสมอ ไม่เคยเปลื่ยน

   ในระหว่างที่ผมพักฟื้น ผมก้อคอยเอาสมุดบันทึกของดิว ที่เค้าเคยเขียนไว้เกี่ยวกับตัวผม มาอ่านอยู่เรื่อยๆ อ่านที่ไร น้ำตาผมก้อไหลทุกที เมื่อผมได้รู้ว่า ดิวเค้ามีความทรงจำที่ดีกับผมแค่ไหน ดิวเค้าเป็นคนละเอียดมาก เค้าจดทุกอย่าง ทุกเหตุการณ์ ที่เราเคยประสบเคยพบกันมา ผมเพิ่งจะมารู้สึกเอาเต็มๆหัวใจหลังจากที่ได้อ่านว่า คำว่ารักจากเค้านั้น ที่เค้าเคยพูดให้ผมฟัง มันเทียบไม่ได้เลยกับความรู้สึกที่เค้าได้เขียนบรรยายไว้ในหนังสือ เพราะดิวเขียนบรรยายได้อย่างซาบซึ้งยิ่งนัก และนี่ล่ะครับ เป็นอีกอย่างนึง ที่เป็นแรงบัลดาลใจให้ผม ยังมีความหวังอยู่ต่อไป ผมหวังว่า สักวันดิวจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แล้วเราก้อคงจะ.....

    อยู่มาวันนึง ขณะที่ผมกำลังดูแลลูกค้าอยู่ง่วนๆ เพราะว่าวันนี้มีลูกค้าจะมาจัดงานเลี้ยงที่ร้านอาหารของผม คนในร้านก้อช่วยกันจัดเตรียมนั่นนี่อยู่วุ่นวายไปหมด จู่ๆก้อมีโทรศัพท์เข้ามา ตอนแรกผมก้อกะว่าจะไม่รับ เพราะว่าผมยังทำอะไรไม่เสร็จตั้งหลายอย่าง แต่ผมได้ยินเสียงโทศัพท์มันดังนานมาก และหลายครั้งแล้วด้วย แล้วจู่ๆมือผมก้อไปจับมือถือของผมมาดูว่าใครโทรมา ปรากฏว่าเป็นเบอร์ของน้าเนตรนั่นเองที่โทรมา ผมเลยต้องรับไปแบบงงๆ เพราะตามปกติแล้ว จะเป็นผมเองที่เป็นฝ่ายโทรไปหาน้าเนตร เพื่อถามอาการของดิว แต่มาวันนี้ทำไมน้าเนตรโทรมาเองนะ....

“ สวัสดีครับ อี้พูดสายอยู่ครับ น้าเนตรมีอะไรหรือเปล่าครับ “ ผมถามไป

“ อี้ อี้จ้ะ อี้ทำอะไรอยู่อ่ะ ยุ่งอยู่หรือเปล่า ตอนนี้ ตอนนี้ดิวเค้ารู้สึกตัวแล้วนะ เค้าฟื้นแล้ว อี้ อี้มาหาน้าได้ไหมจ้ะ ที่โรงพยาบาล น้าเชื่อว่า เชื่อว่าอี้น่าจะช่วยได้ “ คำพูดของน้าเนตร ยิ่งทำให้ผมงงไปใหญ่ จากตอนแรกผมก้อดีใจมากๆ ที่ได้ยินว่าดิวเค้าฟื้นแล้ว แต่ประโยคหลังนี่สิครับ มันคืออะไร ????? ทำไมผมถึงจะช่วยน้าเนตรได้

“ ช่วยอะไรเหรอครับ อี้จะช่วยอะไรได้ น้าเนตรครับ อี้งงไปหมดแล้ว “

“ น้าไม่มีเวลาจะอธิบายตอนนี้มากนะจ้ะ เดี๋ยวอีกไม่นานกรณ์เค้าจะไปรับอี้ที่ร้าน ยังไงน้าก้อขอรบกวนอี้อีกครั้งได้ไหมจ้ะ ถือว่าน้าขอร้องล่ะ อี้ต้องมาให้ได้นะจ้ะ “ น้าเนตรเสียงพูดร้อนรนมากๆ จนผมอดแปลกใจไม่ได้

“ ได้ครับๆ แล้วอี้จะรีบไปทันทีเลย น้าเนตรรออี้แป๊บเดียวนะครับ “จากนั้นน้าเนตรก้อวางสายไป


   ผมจากที่คิดเรื่องงานเลี้ยงวันนี้ จู่ๆในใจผมก้อลืมไปจนหมดสิ้น คิดถึงแต่เรื่องดิวขึ้นมาทันที ว่าแล้วผมก้อรีบไปบอกกับทางบ้านถึงสิ่งที่ผมได้ยินมา ตอนแรกพวกเค้าก้อทำหน้าแปลกใจ แล้วเหมือนจะไม่อยากให้ผมไปหาดิว แต่ผมยืนยันว่า ผมขอไปดูเค้าแป๊บเดียว เดี๋ยวจะรีบกลับมาทันที พวกเค้าเลยต้องยอมปล่อยผมมา ซึ่งไม่นานนัก พี่กรณืก้อมาถึงร้าน แล้วเราก้อรีบออกเดินทางตรงไปหาดิวที่โรงพยาบาลทันที........ผมหวังในใจไว้ว่า คงไม่มีอะไรร้ายแรงไปกว่านี้แล้วนะ !!!!!!!

    ในระหว่างที่นั่งรถไปนั้น พี่กรณ์ก้อเล่าให้ฟังคร่าวๆว่า เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ ดิวเค้าจู่ๆก้อฟื้นขึ้นมา แล้วจากนั้น เค้าก้อทำตาลอยๆ เหมือนคนที่ไม่มีชีวิตชีวา น้าเนตรพยายามพูดคุยกับเค้า แต่เค้าก้อจำใครไม่ได้แม้กระทั่งน้าเนตร แม่ของเค้าเอง แต่น้าเนตรก้อพยายามรื้อฟื้นความจำของเค้าต่อไป และแล้ว เค้าก้อมีอาการปวดหัวมากๆ เพราะว่าเค้าพยายามจะจำ แต่เหมือนว่ามันไปบีบสมองของเค้า คุณหมอพยายามมาเช็คแต่ก้อยังสรุปอาการไม่ได้ แล้วน้าเนตรก้อพยายามติดต่อผมตลอด แต่ผมไม่ว่ารับสาย จนน้าเนตรต้องโทรหาพี่กรณ์เพื่อให้มาบอกข่าวผมถึงที่ร้าน ประจวบกับที่ผมเพิ่งรับสายของน้าเนตรไป จึงได้รู้เรื่องคร่าวๆ ในใจของผมนั้น ไม่มั่นใจว่าตัวเองจะช่วยอะไรเค้าได้มากนัก แต่ผมก้ออยากจะลอง เผื่อว่าเค้าจะอาการดีขึ้น

   พอถึงโรงพยาบาล พวกเราก้อรีบวิ่งไปห้องที่ดิวพักอยู่ ผมเห็นน้าเนตรเดินวนไปวนมา สลับกับคนอื่นๆในครอบครัวด้วย พวกเค้าคงจะวิตกกันมาก พอน้าเนตรเห็นผมแล้ว ก้อรีบวิ่งมาหาผมทันที

“ อี้ อี้ อี้เข้าไปคุยกับดิวหน่อยสิ เผื่อเค้าจะจำอี้ได้ นี่พวกเราพยายามแล้ว แต่เหมือนกับว่ามันไปซ้ำรอยแผลของเค้า แล้วเค้าก้อเริ่มปวดหัวมากๆ พวกเราเลยไม่รู้จะทำยังไง ก้อคิดแต่ว่าอี้คงจะช่วยได้ ตอนนี้คุณหมอก้อตรวจอาการของดิวอยู่เรื่อยๆ อี้รอคุณหมอออกมา แล้วลองหน่อยนะจ้ะ อี้ช่วยพวกเราด้วยนะ “ น้าเนตรดูร้อนรนจนผมเองก้อรู้สึกอย่างนั้นไปด้วย

“ น้าเนตรไม่ต้องเป็นห่วงครับ อี้จะพยายามให้ถึงที่สุด “

    เรานั่งรอคุณหมอออกมาสักพัก คุณหมอก้อเดินเข้ามราคุยกับพวกเรา คุรหมอบอกว่า ตอนนี้ดิวเค้ายังสับสนกับตัวเองว่า เค้าเป็นใคร เป็นอะไร มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง เพราะนี่คืออาการของคนที่สมองได้รับการกระทบกระเทือนอย่างหนักตอนที่ช็อคในวันนั้น เลยทำให้เกิดผลข้างเคียงแบบนี้ รอสักพักนึง ค่อยให้ญาติสนิทเข้าไปลองพูดคุยกับเค้าดูใหม่ แต่อย่าไปเร่งรัดเค้ามาก เดี๋ยวเค้าจะอาการแย่ไปกว่านี้ พวกเราเลยนั่งรอข้างนอกสักพัก จากนั้น ผมก้อเป็นคนเดินเข้าไปหาเค้าเอง

    ผมเปิดประตูเข้าไป ผมก้อเห็นดิวนั่งอยู่ริมเตียง ตาเหม่อลอยออกไปนอกหน้าต่าง เหมือนคนไม่มีจุดหมายใจชีวิต ท่าทางดิวดูแย่เอามากๆ ร่างกายดิวดูผอมไปถนัดตา ผิวซีดๆเหลืองๆ เหมือนกับคนละดิวที่ผมเคยรู้จัก จนผมเกือบจะอดใจไม่ไหว เกือบจะร้องไห้ออกมา แต่ผมก้อกลั้นมันไว้ เพราะว่าเดี๋ยวดิวเค้าจะตกใจ

    ว่าแล้วผมก้อทำเป็นถือถาดผลไม้ไปให้เค้า ทำทีเป็นว่าจะเอาไปให้เค้าทาน พอดิวเห็นหน้าผม ตาเราจ้องมองกัน.......ผมรู้สึกเหมือนผมเห็นดิวในแววตานั้น แต่ชั่ววินาทีเดียวนั้นมันก้อหายไป กลายเป็นว่าดิวพูดกับผมอย่างเหม่อลอยออกมา

“ คุณ คุณเป็นใครครับ คุณรู้จักผมด้วยเหรอ แล้วคุณรู้ไหมว่ผามเป็นใคร “

“ อ้ออออ ผมชื่ออี้นะ เป็น เป็น เป็น เอ่ออออออ เป็นเพื่อนของดิวไง และคุณก้อชื่อดิวนะ คุณจำชื่อตัวเองได้ไหม ว่าคุณชื่อดิว และคนข้างนอกนั่น ก้อคือคนในครอบครัวของคุณนะ คุณจำพวกเค้าได้ไหม “ ผมพยายามพูดช้าๆ เพื่อรื้อฟื้นความทรงจำของเค้า แต่เมหือนว่าเค้าไม่รับรู้ ส่ายหน้าไปมาเหมือนกับว่าจำไม่ได้

“ ผมชื่อดิวเหรอ แล้วพวกเค้าข้างนอกเป็นครอบครัวของผมเหรอ จะเป็นไปได้ยังไง ถ้าเค้าเป็นคนในครอบครัวของผม ผมต้องจำพวกเค้าได้สิ แต่ทำไมผมจำพวกเค้าไม่ได้เลยล่ะ ทำไม “ ดิวหน้านิ่งขึ้นแล้ว ผมต้องทำให้เค้าใจเย็นลง

“ คุณป่วยอยู่นะดิว คุณอาจจะยังจำใครไม่ได้ตอนนี้ แต่ไม่เป็นไร เดี๋ยวอะไรๆมันก้อจะดีขึ้นเอง ตอนนี้คุณทานผลไม้ก่อนนะ ผมนำมาให้คุณ คุณทานเยอะๆ ร่างกายคุณจะได้แข็งแรงไง “

“ ไม่จริงอ่ะ คุณอย่ามาหลอกผมเหมือนพวกเค้าเลย คุณบอกมาดีกว่าว่าผมเป็นใคร มาจากไหน ผมไม่เชื่อหรอกว่าผมจะจำอะไรไม่ได้เลย แต่ถ้าผมได้เจอครอบครัวผมจริงๆ ผมต้องจำได้สิ คุณไปพาพวกเค้ามาหาผมหน่อยนะ ได้โปรดล่ะ อย่าทรมานผมอีกเลย ผมปวดหัวมาก นะครับ นะๆ  “ อาการของดิวดูแย่จริงๆ จนผมไม่รู้ว่าจะต้องพูดยังไงแล้ว

“ ดิว คุณต้องฟังผมนะว่า คุณป่วยอยู่ คุณเลยยังจำอะไรไม่ได้ตอนนี้ ไม่เป็นไรนะ ถ้าคุณยังจำพวกเค้าไม่ได้ รออีกสักพักไว้อาการคุณดีขึ้น คุณคงจะจำพวกเค้าได้เองแหละ เชื่อผมสิ “ ผมพยายามปลอบเค้าไป

“ ไม่ ผมมเชื่อคุณ แล้วคุณเป็นใครกันแน่ ผมถึงต้องเชื่อคุณ คุณบอกผมมาสิ แล้วทำไมพวกเค้าต้องส่งคุณมาคุยกับผมด้วย คุณสำคัญกับชีวิตของผมยังไง “ ท่าทางดิวเกรี้ยวกราดมากๆ จนผมตกใจไปหมด แต่ผมก้อต้องทำใจดีสู้เสือเข้าไว้ เดี๋ยวมันจะแย่ไปกว่านี้

“ ผมเป็นเพื่อนของคุณไง ผมชื่ออี้ จำได้ไหม “ ผมยิ้มให้เค้า แต่ดิวทำตาขึงใส่ผม

“ ไม่จริง คุณไม่ใช่เพื่อนของผม “ จากนั้นดิวก้อก้มหน้างุดลงไปที่ฝ่ามือของเค้าทั้งสองข้าง พรางส่ายหัวไปมา ผมเห็นอาการของเค้าจะแย่แล้ว ผมเลยกะว่าจะออกไปก่อนให้เค้าพักผ่อน แต่จู่ๆ ดิวก้อเงยหน้าขึ้นมาอีก

“ คุณบอกผมมา ว่าคุณเป็นอะไรกับผม ทำไมบางช่วงในความคิดของผม ถึงมีคุณอยู่ แต่ผมดันจำคนอื่นไม่ได้ หรือ หรือว่า.........คุณเป็นคนที่ทำร้ายผม บอกมานะ ใช่ไหม “ ดิวตะคอกใส่ผม จนผมสะดุ้งไปหมด

“ มะ มะ ไม่นะ ผมไม่ได้ทำร้ายคุณ ผมเป็นเพื่อนคุณจริงๆนะดิว “ ผมพูดระล่ำระลั่ก

“ อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกก “ เสียงดิวตะโกนออกมาอย่างดังอีกครั้ง คราวนี้เค้าดูเจ็บปวดมากๆ
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 10-04-2012 02:13:49 โดย Alexie333 »

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด