แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]  (อ่าน 368978 ครั้ง)

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
หงะ ไม่ค้างเป็นไม่มี กำลังหวานกันอยู่เชียวท่ามกลางสายลม สองเรา กลางคลื่น หวานไปไหนนี่

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
จะเอารางวัล :interest:
คุณพี่เชษฐ์แอ๊บเด็กอ่ะ คิคิ
ขอบคุณค่าาาา...เอาอีกอ่ะ อยากอ่านอีก :impress:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
อยากรู้จักเลยว่ารางวัลจะเป็นอะไรน๊าาาาาาาาาาาา

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คุณเชษฐ์ ดูพยายามจะทำให้ภัทรผ่อนคลาย เปิดใจมากขี้นหน่อย ไม่เกร็งเท่าไร
สรุปแล้วคุณเชษฐ์น่ารักอะ  :o8:

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
สนุกมากกกกก ลุ้น ๆ ว่าใครจะชนะ อิ ๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
 :z12: ประกาศๆๆๆ ตามหาคนหาย 2 คน ชื่อ คุณเชษฐ์ กับ ภัทร อะ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
สถานการณ์ปกติแล้ว ไรท์เตอร์กลับมาต่อด่วนจ้า
อยากรู้ผลแข่งขัน และของรางวัลจะแย่แล้วววววว  :oni2:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
:z12: ประกาศๆๆๆ ตามหาคนหาย 2 คน ชื่อ คุณเชษฐ์ กับ ภัทร อะ

สถานการณ์ปกติแล้ว ไรท์เตอร์กลับมาต่อด่วนจ้า
อยากรู้ผลแข่งขัน และของรางวัลจะแย่แล้วววววว  :oni2:

อ่า กองบัญชาการหาคนหาย ณ ป้า bellbomb กระซิบมาว่าคงจะตามหาสองคนนี้พบในสัปดาห์นี้ หรือต้นสัปดาห์หน้านะเจ้าคะ เหอๆ  :o8:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
 :interest: รับทราบนะฮ้า ถ้าไม่มาละก็............. o18

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
มาตามสัญญา...ภายในอาทิตย์นี้อย่างเฉียดฉิว อิ๊ๆๆๆ แต่มาครึ่งแรกก่อนนะจ๊ะ (อีกแล้ว ช่วงนี้อิป้าครึ่งๆกลางๆชอบกล) แต่คราวนี้ครึ่งหลังจะตามมาไม่เกินกลางอาทิตย์หน้า เพราะเกรงว่าถ้าให้รอจนกว่าจะเต็มบท อาจมีหลายคนอยากปาดคอป้าน่ะค่ะ กั๊กๆๆ (ยิ่งดึกยิ่งเพี้ยนเข้าทุกที) แต่นี่เป็นหนึ่งในนานๆครั้งที่จะได้ข้อความว่า The message exceeds the maximum allowed length (20000 characters). จนต้องแบ่งเป็นสองโพสต์ เก๊าะแปลว่าคราวนี้ก็เป็นครึ่งแรกที่ค่อนข้างยาวละน้า


เอาล่ะ จากที่ทิ้งท้ายคราวที่แล้วเอาไว้ให้ลุ้น คราวนี้คนอ่านจะได้พบกับสิ่งที่คาดหวังไว้หรือไม่...ไปอ่านกัน
 :impress2:



10. (ครึ่งแรก)


ในที่สุดการแข่งขันว่ายน้ำก็จบลง พร้อมๆกับที่เม็ดฝนเริ่มโปรยลงมาจากฟ้า ดูเหมือนระหว่างที่ทั้งสองแข่งกันนั้น ลมจะพัดเร็วขึ้นอย่างกะทันหันจนมวลเมฆครึ้มลอยมาเหนือแถบรีสอร์ทโดยไม่รู้ตัว ภัทรยกมือหนึ่งแตะข้างลำเรือซึ่งเป็นเส้นชัยขณะที่อีกข้างลูบน้ำออกจากหน้า ชายหนุ่มหอบหายใจหนักหน่วง ทรวงอกเพรียวสะท้อนขึ้นลงอย่างแรงเนื่องจากเพิ่งออกกำลังว่ายน้ำอย่างสุดตัวจนแทบหายใจไม่ทัน

“ฝนลงเม็ดแล้วสิ กลับขึ้นไปที่ห้องกันมั้ย?”

เชษฐ์ที่ลอยตัวอยู่ในน้ำไม่ห่างจากเขานักแหงนมองท้องฟ้าแล้วก็ถามขึ้น ภัทรจึงเบนสายตาไปยังคนพูด จากนั้นก็ขมวดคิ้วและทอดตาลงต่ำ ทั้งที่เมื่อครู่ใหญ่ก่อนหน้านี้เขายังอิดออดที่จะลงน้ำ แต่หลังจากที่ผลการแข่งขันออกมาแล้ว ตอนนี้เขากลับไม่ค่อยอยากกลับไปที่ห้องสักเท่าไหร่

“ภัทร”

คงเพราะเห็นว่าเขาไม่ตอบ คนตัวใหญ่จึงเรียกชื่อเขาแล้วก็ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้ ภัทรเหลือบตาขึ้นมองใบหน้าคมที่มีรอยยิ้มติดอยู่จางๆและมือที่อีกฝ่ายหงายมาตรงหน้าด้วยแววตาอ่านยาก ทว่าแทนที่ภัทรจะยื่นมือกลับไปหา เขากลับฉีกตัวว่ายน้ำไปอีกทาง

“ก็กลับสิครับ”

ภัทรเอ่ยขณะที่ว่ายน้ำผ่านหน้าเชษฐ์ ทำให้ได้ยินเสียงหัวเราะในคอเบาๆจากคนที่ว่ายตามมาข้างหลัง และยิ่งได้เห็นคุณผู้จัดการอารมณ์ดีมากเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งหายใจไม่ทั่วท้องมากขึ้นเท่านั้น แต่หากใครที่ได้รู้เงื่อนไขของการแข่งขันก็คงไม่แปลกใจที่ฝ่ายนั้นจะอารมณ์ดี เพราะว่าตอนนี้คนที่ตกหลุมพรางต้องทำตามเงื่อนไขของการเป็นผู้แพ้ด้วยการ ‘ทำอะไรก็แล้วแต่ที่คนชนะสั่ง’ ดันเป็นเขานี่น่ะสิ

ทำไมเมื่อกี้ตอนโดนท้าให้แข่งถึงไม่รู้จักบอกปัดไปนะ คุณเชษฐ์ก็เหลือเกิน รู้ว่าตัวเองได้เปรียบยังจะมาสร้างเงื่อนไขแบบนี้กับเขาอีก นี่ถ้ามาขอให้เขาทำอะไรแผลงๆล่ะได้มีโกรธกันจริงๆแน่

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ภัทรก็ต้องรีบหยุดตัวเองไม่ให้คิดต่อ เขาไม่กล้าจินตนาการว่าจะโดน ‘ขอ’ ให้ทำอะไรที่ไม่อยากทำหรือไม่ จึงได้แต่รีบจ้วงแขนว่ายน้ำให้ทิ้งห่างจากเชษฐ์มากเข้าไปอีก ลมที่พัดแรงทำให้ฝนที่เป็นเพียงหยดน้ำเปาะแปะเมื่อครู่เริ่มทวีความแรงจนมองเห็นบ้านพักได้เพียงลางๆ ขณะที่เดินขึ้นไปบนชายหาด ภัทรก็นึกขึ้นได้ว่าอีกฝ่ายถอดแว่นทิ้งเอาไว้แถวนั้นก่อนจะพาเขาลงน้ำ ชายหนุ่มจึงรีบเดินตรงไปยังจุดที่จำได้ว่าเห็นแว่นครั้งสุดท้าย พอพบแล้วก็รีบหยิบขึ้นมาแล้วใช้ปลายนิ้วปัดทรายออกอย่างเบามือ เพราะถ้าเกิดพลาดพลั้งทำให้เลนส์มีรอยขีดข่วนจะทำให้ต้องไปตัดเลนส์ใหม่ ภัทรเหลือบมองคนที่เดินตามขึ้นมาจากน้ำแล้วก็ยื่นของในมือให้โดยไม่สบตาด้วย

“ทีหลังอย่าโยนแว่นทิ้งแบบเมื่อกี้อีกนะครับคุณเชษฐ์ ถ้าเกิดหายไปหรือเลนส์เป็นรอยมันจะยุ่ง”

น้ำเสียงของคนพูดซึ่งคล้ายจะดุอยู่ในทีทำให้เชษฐ์เลิกคิ้ว แต่น่าแปลกที่ท่าทางและน้ำเสียงของภัทรไม่ได้ทำให้คนตัวใหญ่รู้สึกไม่พอใจเลยสักนิด ตรงกันข้าม ใบหน้าคมเข้มยิ้มอ่อนๆขณะที่รับแว่นกลับไปสวม

“จะจำไว้ก็แล้วกัน”

ทั้งสองรีบเดินกึ่งวิ่งกลับไปที่ห้องพักท่ามกลางพายุฝนที่กรรโชกแรงขึ้นเรื่อยๆ กว่าจะไปถึงหน้าชานพักและเชษฐ์หยิบกุญแจมาไขเปิดห้องได้ ฟ้าก็คะนองและมีสายฟ้าแลบแปลบให้เห็นเป็นระยะ  ขนาดทั้งสองเข้าไปในห้องและงับประตูปิดสนิทแล้ว เสียงฟ้าร้องและเสียงน้ำฝนที่ตกกระทบสรรพสิ่งภายนอกก็ยังดังแทรกเข้ามาให้ได้ยินอย่างชัดเจน

เชษฐ์กดสวิตช์เปิดไฟในห้องก่อนจะปรายตามองคนข้างตัว จากนั้นก็ก้าวเร็วๆเข้าไปในห้องน้ำขณะที่ภัทรยืนกอดตัวเองด้วยความหนาวอยู่บนพรมเช็ดเท้าหน้าประตู เสื้อกับกางเกงที่ใส่อุ้มน้ำจนแนบติดกับเนื้อตัว และน้ำส่วนที่เนื้อผ้าดูดซับไม่ไหวก็หยดลงเป็นสายตามเรียวขาจนชุ่มผืนพรมที่รองอยู่ ปกติเขาก็เป็นคนไม่ค่อยได้ออกกำลังกายอยู่แล้ว เมื่อไปโหมออกแรงว่ายน้ำและวิ่งฝ่าฝนบนพื้นทรายเมื่อครู่จึงทำให้ใช้พลังงานไปมาก กล้ามเนื้อทั่วร่างจึงเมื่อยล้าไปหมดด้วยความไม่คุ้นชิน แต่ถ้าหากเขาทรุดตัวลงนั่งตอนนี้ ภัทรก็คิดว่าคงต้องใช้เวลาหลายนาทีแน่กว่าตัวเองจะลุกกลับขึ้นมาไหว

ชายหนุ่มได้ยินเสียงน้ำไหลดังซู่มาจากในห้องน้ำ ความแรงของน้ำและเสียงยามตกกระทบพื้นทำให้เดาได้ว่าเชษฐ์คงกำลังเปิดน้ำในอ่างอยู่ ไม่นานนักอีกฝ่ายก็เดินออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูผืนใหญ่สองผืนที่ทางรีสอร์ทเตรียมไว้ให้ ผืนหนึ่งคล้องอยู่รอบบ่าหนาที่ถอดเสื้อเปียกโชกออกไปแล้ว ร่างกายท่อนบนดูเหมือนจะโดนซับน้ำออกไปจนหมาด แต่กางเกงขาสั้นที่เจ้าตัวใส่ลงน้ำยังไม่ถูกถอดออกไป น้ำจึงหยดจากชายกางเกงลงบนพื้นเป็นทาง ภัทรกะพริบตาปริบๆเมื่ออีกฝ่ายใช้ผ้าขนหนูอีกผืนคลุมลงบนไหล่เขาแล้วก็ช่วยซับน้ำตามเนื้อตัวให้ จากนั้นก็ยกชายผ้าขึ้นมาเช็ดผมที่เปียกชุ่มของเขาให้อีกด้วย

"หนาวล่ะสิท่า ปากซีดเชียว เมื่อกี้ฉันเปิดน้ำอุ่นไว้ในอ่างแล้ว เดี๋ยวไปแช่ซะจะได้หายหนาว"

เชษฐ์พูดพลางใช้ปลายนิ้วโป้งไล้ริมฝีปากที่ซีดจนเกือบเขียวให้ภัทรอย่างแผ่วเบา เรียวคิ้วเข้มขมวดเข้าหากันเล็กน้อยด้วยความเป็นห่วง ครู่หนึ่งภัทรก็รู้สึกว่าผิวกายที่เย็นเฉียบของตนเริ่มอบอุ่นขึ้นมาบ้าง แต่เขาก็ไม่แน่ใจนักว่าเป็นเพราะผ้าขนหนูนุ่มฟูที่อีกฝ่ายใช้เช็ดตัวให้ หรือเพราะไออุ่นจากร่างที่ยืนใกล้จนสัมผัสได้ถึงลมหายใจแผ่วๆที่เป่ารดลงบนหน้าผากกันแน่

ร่างเพรียวรวบชายผ้าทั้งสองด้านมาห่มตัวจนกลมดิก จากนั้นก็เอ่ยขึ้นช้าๆ สองตาจับแน่วนิ่งที่ช่วงบ่าของอีกฝ่ายเพราะไม่อยากมองต่ำลงไปกว่านั้น

"เดี๋ยวผมรอก็ได้ครับ คุณเชษฐ์เข้าไปอาบให้เสร็จก่อนเถอะ"

ภัทรพูดแล้วก็กระชับผ้าขนหนูรอบตัวมากขึ้น ไอเย็นจากแอร์ซึ่งหลงเหลือในห้องก่อนที่ทั้งสองจะออกไปเดินเล่น เมื่อรวมกับความเย็นจากพายุฝนภายนอกก็ทำเอาคนที่สวมเสื้อผ้าชื้นๆถึงกับตัวสั่น แต่ถึงจะต้องทนหนาวต่ออีกหน่อย เขาก็ยังยินดีจะรออาบน้ำโดยลำพัง ทว่าดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่เห็นดีด้วย เพราะเชษฐ์ส่ายหน้าแล้วก็ออกแรงรั้งไหล่ภัทรให้เข้าไปในห้องน้ำด้วยกัน

“ขืนรอให้ฉันอาบเสร็จก่อนเธอจะได้ไม่สบายเอาน่ะสิ ไม่รู้หรือไงว่าตัวเองหนาวจนสั่นไปหมดแล้ว อาบพร้อมกันไปเลยนี่แหละ”

เสียงของอีกฝ่ายตำหนิเขาราวกับเป็นเด็กๆ ภัทรจึงนึกอยากจะเอ่ยแย้งและขืนตัวออก แต่ว่าก็จนใจเพราะตอนนี้เขาทั้งเหนื่อยทั้งหนาว ต่อให้อยากดื้ออย่างไรก็ดิ้นหนีมือใหญ่ที่ยึดไหล่ไว้แน่นไม่ไหวแน่

พอเข้าไปในห้องน้ำได้แล้ว เชษฐ์จึงยอมปล่อยมือจากร่างเพรียวแล้วหันไปล็อกประตู คราวนี้ภัทรจึงได้แต่ทำหน้ามุ่ย  

“คุณเชษฐ์ ผมรอได้จริงๆนะครับ”

ชายหนุ่มพยายามจะขอร้อง แต่ดูเหมือนว่าคู่กรณีจะเริ่มหมดความอดทนเข้าไปทุกที เพราะว่าเชษฐ์ยกแขนทั้งสองขึ้นกอดอกแล้วก็ถามเสียงเฉียบขาด

“จะอาบด้วยกัน หรือให้ฉันอาบให้ก่อน?”

คราวนี้ภัทรหุบปากฉับ เพราะถึงแม้อีกฝ่ายจะยื่นข้อเสนอให้ แต่ไม่ว่าตัวเลือกเอหรือบีก็ไม่เข้าท่าสำหรับเขาทั้งนั้น สุดท้ายภัทรจึงได้แต่ตอบรับเสียงอุบอิบ ดูเหมือนว่าเขาจะดื้อกับคุณผู้จัดการไม่ขึ้นเลยจริงๆ

“...อาบด้วยกันก็ได้ครับ”


++------++


น้ำที่เชษฐ์เปิดรอไว้เริ่มเอ่อขึ้นจนเกือบถึงขอบอ่าง ภัทรเหลือบตามองคนที่หันไปปิดก๊อกน้ำก่อนจะถอดแว่นออกวางไว้ จากนั้นก็ดึงสายตากลับมาและเริ่มถอดเสื้อตัวเองออกช้าๆอย่างไม่ค่อยเต็มใจ หลังจากที่ยอมตกลงว่าจะอาบน้ำด้วย ชายหนุ่มก็เอาผ้าขนหนูที่ห่มตัวเมื่อครู่ไปแขวนบนราวพาดข้างอ่างล้างหน้า เพราะถึงอย่างไรก็คงต้องฟอกสบู่และสระผมในห้องกระจกซึ่งกั้นไว้สำหรับอาบน้ำฝักบัวก่อนจะไปลงแช่น้ำอุ่น ความจริงถ้าคุณผู้จัดการจะยอมฟังเขาสักนิด เขาก็คงขอให้ต่างคนต่างแยกกันอาบในอ่างกับในห้องกระจกไปแล้วในเมื่ออีกฝ่ายกลัวเขาจะไม่สบายนัก แต่ก็คิดว่าพอจะเดาคำตอบได้จึงไม่ได้เอ่ยออกมา

ภัทรเลื่อนมือลงปลดกระดุมกางเกงแล้วก็หยุดมือนิ่ง ไม่ว่าอย่างไรก็ยังทำใจรูดซิปกางเกงลงไม่ไหว ถึงแม้เขาจะใส่กางเกงในแบบบรีฟไว้ข้างในอีกชั้นก็ตาม แต่เขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะต้องมาถอดเสื้อผ้าให้อีกฝ่ายดูในสภาพมะล่อกมะแล่กแบบนี้

เอาเถอะ...คุณเชษฐ์ตอนนี้ก็ไม่ได้ดูดีไปกว่าเขาเท่าไหร่หรอก...

ภัทรพยายามปลอบใจตัวเอง พลันหางตาก็เห็นการเคลื่อนไหวของอีกฝ่ายแวบๆ เช่นเดียวกับหูที่ได้ยินเสียงรูดซิปกางเกง ตามด้วยเสียงเฉอะแฉะของผ้าเปียกที่โดนรูดออกพ้นขาคนตัวใหญ่ และทั้งๆที่ไม่ได้ตั้งใจจะรับรู้ แต่ความที่ทั้งสองอยู่ในห้องน้ำด้วยกัน ภัทรจึงได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวทุกอิริยาบถของคนร่วมห้องเต็มสองหู หลังจากเชษฐ์โยนกองเสื้อผ้าที่เฉอะแฉะไว้มุมหนึ่งของห้องน้ำแล้วก็เปิดประตูเข้าไปในห้องกระจก จากนั้นภัทรก็ได้ยินเสียงเปิดน้ำฝักบัวซึ่งเป็นแบบที่ยึดติดไว้กับฝาผนัง ไอสีขาวลอยอวลขึ้นจากกระแสน้ำอุ่นที่สาดลงมาเป็นฝอยละเอียดจนทั้งห้องอุ่นขึ้น และภัทรก็รู้สึกได้ว่าสายตาของอีกฝ่ายกำลังจับจ้องมาที่ร่างของเขาไม่วางตา  

“ต้องให้ถอดให้หรือเปล่า?”

คราวนี้เสียงคนถามไม่มีแววหงุดหงิดโมโห ฟังแล้วเหมือนกำลังอารมณ์ดีมากเสียด้วยซ้ำ ภัทรจึงได้แต่เม้มริมฝีปากแน่น ผิวแก้มเริ่มร้อนขึ้นมาเพราะรู้ว่าสายตาของอีกฝ่ายยังไม่ละจากเขาไปไหน แต่ถ้าเขายังปักหลักยืนอยู่ในกางเกงเปียกๆแบบนี้ต่อไปล่ะก็ได้เป็นหวัดแน่ สุดท้ายภัทรจึงข่มใจแล้วบอกกับคนข้างหลังโดยไม่หันกลับไปมอง

“คุณเชษฐ์ก็หันหลังไปสิครับ เดี๋ยวผมถอดเสร็จก็ตามเข้าไปเองน่ะแหละ”

ถึงจะยังไงก็ต้องอาบน้ำด้วยกัน แต่ตอนถอดก็ขอความเป็นส่วนตัวบ้างก็ยังดี...

“งั้นก็ตามใจ”

ภัทรได้ยินเสียงเชษฐ์ตอบรับ จากนั้นก็ตามด้วยเสียงฟื้ดเหมือนอีกฝ่ายกดแชมพูจากขวดปั๊มไปขยี้บนผม ทำให้รู้ว่าอย่างน้อยอีกฝ่ายก็ยังฟังเขาบ้าง ชายหนุ่มระบายลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ จากนั้นก็ตัดสินใจถอดเสื้อผ้าที่เหลืออยู่บนร่างกายให้เสร็จเสียที

จะช้าจะเร็วก็ต้องโดนเห็นอยู่แล้ว ขืนมัวแต่กระบิดกระบวนเหมือนผู้หญิงอยู่ก็คงน่าหัวเราะมากกว่ากระมัง...

เมื่อคิดตกแล้ว ชายหนุ่มก็รูดซิปแล้วดึงกางเกงทั้งตัวนอกตัวในออกพร้อมกันทีเดียว ถึงจะทุลักทุเลนิดหน่อยเพราะกางเกงทั้งสองชิ้นอุ้มน้ำจนหนักและแนบเนื้อจนรูดลงยาก หลังจากที่ร่างกายเปลือยเปล่าไร้อาภรณ์ใดปกคลุมอีก ภัทรก็ขยุ้มเสื้อผ้าเปียกๆของตนวางกองที่มุมห้องข้างเสื้อผ้าที่เชษฐ์ถอดทิ้งไว้ ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะเดินไปเปิดประตูกระจกของส่วนที่กั้นไว้แล้วก้าวเข้าไปด้านใน

ดูเหมือนเชษฐ์ที่เข้ามาก่อนจะสระผมเสร็จแล้ว เพราะว่าภัทรเห็นแต่เรือนผมเปียกน้ำที่โดนเสยขึ้นไปจนลู่ มีเพียงคราบฟองสายเล็กๆบนไหล่ที่บ่งบอกว่าอีกฝ่ายเพิ่งจะล้างแชมพูออกไป และเนื่องจากห้องกระจกที่กั้นไว้สำหรับอาบน้ำนี้ไม่ได้กว้างขวางนัก แค่เพียงพอให้คนสองคนเข้ามาอาบน้ำพร้อมกันได้โดยไม่ถึงกับต้องยืนตรงเท่านั้น เชษฐ์ที่รับรู้ว่าภัทรเดินเข้ามาแล้วจึงหันมาหา สายตาคมกริบตวัดลงมองเขาทั้งร่างแวบหนึ่งก่อนจะยิ้ม และคนถูกมองก็รู้สึกว่าความร้อนแล่นลามไปทั้งหน้า

“ยิ้มอะไรครับคุณเชษฐ์ ผมก็มีเหมือนที่คุณเชษฐ์มีนั่นแหละ”

ภัทรพยายามบังคับสายตาให้มองแต่ใบหน้าของอีกฝ่ายเท่านั้น ถึงแม้ว่าจะอายกับแววตาที่ทอประกายกรุ้มกริ่มชัดเจน แต่ก็ยังดีกว่าให้มองต่ำลงจนสายตาอาจไปปะทะกับ ‘อะไรๆ’ เข้า เพราะแค่เพียงเมื่อครู่ที่ได้มองด้านหลังอีกฝ่ายทั้งตัว เขาก็แทบอยากเดินหนีออกไปรอหน้าห้องน้ำอยู่แล้ว

ชายหนุ่มพยายามทำเป็นไม่สนใจสายตาของคนที่ยืนอยู่ก่อนแล้วก็เบียดตัวเข้าไปยืนใต้ฝักบัวบ้าง ภัทรหลับตาแหงนหน้าให้สายน้ำชะลงบนใบหน้าและลำตัวเพื่อจะได้ลืมว่าตัวเองยืนเปลือยอยู่กับใคร กระแสน้ำอุ่นจัดจนเกือบร้อนช่วยขับความหนาวออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี ผิวเนียนที่เย็นจนซีดเมื่อครู่จึงเริ่มมีสีเลือดฝาดขึ้นบ้าง แต่แล้วเสียงของเชษฐ์ที่เอ่ยถามกลั้วหัวเราะก็ทำเอาเขาต้องหันขวับไปมอง

“ใครบอกล่ะว่าเหมือนกัน?”

“คุณเชษฐ์!”

ภัทรตวาดแว้ด แต่เมื่อได้ประสานสายตากับนัยน์ตาคมกริบที่ทอประกายลึกซึ้งอย่างไม่ปกปิดความรู้สึก เขาก็รู้สึกว่าลมหายใจติดขัดขึ้นมาอย่างกะทันหัน ภัทรเริ่มตระหนักว่าคนที่อยู่ตรงหน้าเขาในเวลานี้เป็นเพียง ‘ผู้ชาย’ ธรรมดาคนหนึ่งที่ไม่ใช่ผู้จัดการ ไม่ใช่คนที่อายุมากหรือวุฒิการศึกษาสูงกว่า ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บซ่อนอารมณ์หรือปิดบังความต้องการเหมือนกับเวลาที่พวกเขาอยู่ต่อหน้าคนอื่นๆ เพราะในยามนี้ ณ ที่ตรงนี้มีแต่พวกเขาสองคน และสิ่งที่เพิ่งตระหนักก็ทำให้ภัทรพูดอะไรต่อไม่ออก ร่างเพรียวรีบหลบสายตาที่จ้องมองแล้วก็ยื่นมือไปหมายจะเปิดประตู เพราะสายตาร้อนแรงที่มองมาทำให้เขารู้สึกเหมือนหากไม่ถอยให้ห่างคงจะถูกหลอมละลาย แต่ก็ยังช้ากว่าอ้อมแขนกำยำที่เหนี่ยวเอวเขากลับไปโอบเอาไว้

“ยังอาบน้ำไม่เสร็จ จะรีบไปไหน”

เชษฐ์เอ่ยถามขณะที่กอดภัทรแน่นจากด้านหลัง ทว่าร่างเพรียวตกใจจนไม่ได้เอ่ยตอบ การแนบชิดที่เกิดขึ้นนั้นกะทันหันเกินไปจนเขาไม่ได้เตรียมตั้งรับ ถึงแม้ละอองน้ำจากฝักบัวจะยังคงหลั่งไหลมาโดนผิวกายของทั้งคู่ แต่ความอุ่นร้อนนั้นก็เทียบไม่ได้เลยกับอุณหภูมิของเลือดเนื้อที่กำลังแนบชิดกันอย่างไร้ที่ว่างในขณะนี้

ภัทรรู้สึกว่าหัวใจเต้นแรงจนแทบจะกระดอนออกมาจากอก จริงอยู่ว่าอ้อมแขนแข็งแรงวงนี้เคยโอบกอดให้ความอบอุ่นแก่เขามาแล้วไม่รู้ต่อกี่ครั้ง แต่ก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่ทั้งสองจะชิดใกล้กันแนบแน่นโดยปราศจากสิ่งกั้นขวางเช่นครั้งนี้ ร่างที่ยืนตัวแข็งสะดุ้งเฮือกเมื่อรับรู้ถึงความรุ่มร้อนที่กำลังเบียดเนินเนื้อของเขาจากด้านหลัง

“คุณเชษฐ์...”

ภัทรเอ่ยเสียงสั่น ไม่กล้าแม้แต่จะขยับปลายนิ้ว ถึงอย่างไรเขาก็เป็นผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่เต็มตัว และใช่ว่าจะไม่ประสีประสาจนไม่รู้ว่าเพศชายด้วยกันนั้นปลดปล่อยความต้องการที่มีต่อกันอย่างไร แต่กระนั้นความหวาดหวั่นที่สลัดไม่หลุดก็ทำให้เขาไม่พร้อมจะรับมือกับอะไรก็ตามที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ที่สำคัญที่สุด สถานการณ์ตรงหน้าก็ทำให้ภัทรได้คำตอบให้กับสิ่งที่เขาเฝ้าถามตนเองมาตลอดตั้งแต่เมื่อเย็นวาน

เขายังไม่พร้อมจะทำเรื่องนี้กับเชษฐ์...

อย่างน้อยก็ไม่ใช่ในนาทีนี้ ไม่ใช่เพราะว่ารังเกียจหรือต่อต้าน แต่อะไรบางอย่างทำให้เขายังไม่กล้าพาตัวเองไปสู่ขั้นนั้น และสมองที่กำลังมึนงงของภัทรก็สับสนเกินกว่าจะวิเคราะห์ว่าคำตอบของอะไรบางอย่างนั้นคืออะไร

ทันทีที่ตระหนักถึงความจริงข้อนี้ ภัทรก็ให้ยิ่งลนลานกับสิ่งที่ยืนยันความปรารถนาในตัวเขาจากร่างแกร่งที่ยืนซ้อนอยู่มากยิ่งขึ้น เสียงหัวใจที่ถ่ายทอดมาทางแผ่นหลังทำให้วงจรความคิดของภัทรว้าวุ่น เขากลัวว่าถ้าหากพูดอย่างที่คิดออกไปจะทำให้เชษฐ์โกรธ แต่ถ้าไม่พูด คนที่อาจจะเสียใจทีหลังก็จะเป็นเขาเอง ชายหนุ่มเกร็งไหล่แล้วก็ปิดตาแน่นเมื่อรู้สึกถึงสัมผัสอ้อยอิ่งจากริมฝีปากบางที่จรดอยู่ข้างใบหู

ได้โปรดเถอะ อย่าเพิ่งขออะไรจากเขาตอนนี้เลย...

“...อยู่นิ่งๆสิ เดี๋ยวมันก็หายไปเองนั่นล่ะ”

เสียงกระซิบทุ้มต่ำที่แหบพร่าเล็กน้อยดังขึ้นข้างหู สิ่งที่ได้ยินทำให้ภัทรลืมตาขึ้นช้าๆอย่างงุนงง แล้วก็ให้แปลกใจที่จู่ๆอ้อมแขนที่รัดรอบเอวเขาไว้แน่นก็คลายออกและเปลี่ยนเป็นโอบไว้เพียงหลวมๆ ร่างเพรียวสูดหายใจเข้าลึกก่อนจะค่อยๆพรูออกมาแผ่วเบา แต่แล้วก็ลมหายใจสะดุดอีกเมื่อคนตัวใหญ่ก้มลงใช้คางเกยไหล่เขาไว้ แต่ว่านอกเหนือไปจากนี้แล้ว เชษฐ์ก็เพียงยืนกอดเขานิ่งๆโดยไม่ได้ขยับตัวอีก

หัวใจของภัทรที่เต้นแรงจนเจ็บอกเมื่อครู่ค่อยผ่อนจังหวะ จากรัวถี่ก็ช้าลง เนิ่นนาน...จนภัทรรู้สึกว่าลมหายใจของตัวเองกลับมาเป็นปรกติ ชายหนุ่มสูดหายใจเข้าลึกและยาวติดต่อกันหลายครั้ง คิ้วที่ขมวดมุ่นเมื่ออึดใจก่อนค่อยคลายตัวลงหลังจากได้รับรู้ความเปลี่ยนแปลงอีกหนึ่งอย่าง

ความแข็งแกร่งและร้อนรุ่มที่กดดันเขาเมื่อครู่หายไปแล้ว

« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2010 23:33:27 โดย bellbomb »

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ภัทรค่อยๆเอียงหน้ากลับไปหาคนที่เกยคางอยู่บนไหล่ ถึงแม้ท่าทีที่เปลี่ยนไปของเชษฐ์จะทำให้เขาโล่งใจ แต่ความงุนงงที่ตามมาก็ทำให้ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี ร่างเพรียวย่นคอด้วยความจั๊กกะจี้เมื่อโดนริมฝีปากบางก้มลงประทับบนบ่าอย่างรวดเร็วหนึ่งครั้ง ทว่าสัมผัสนั้นอ่อนโยนและไร้การรุกเร้าจนไม่ทำให้ตื่นกลัวอีก

“หายกลัวหรือยัง?”

เชษฐ์ถามพลางไซ้ปลายจมูกโด่งเข้าที่เรือนผมเปียกชื้นเหนือกกหูบาง ทว่าอ้อมแขนที่ยังโอบรอบเอวภัทรก็ยังคงอยู่อย่างเดิม ไม่ได้เปะป่ายจาบจ้วง ทว่าก็ไม่ได้ละเลยเย็นชา ราวกับเพียงจะสื่อว่าอีกฝ่ายพร้อมจะให้ความอบอุ่นแก่เขาอยู่อย่างนั้น และจนกว่าเขาจะอนุญาตให้ล่วงล้ำได้ เชษฐ์ก็จะไม่ทำอะไรเกินเลยไปกว่านี้ และการตระหนักในความจริงข้อนี้ก็ทำให้ความรู้สึกเต็มตื้นเอ่อท้นขึ้นมาในอกของภัทร

“ครับ...”

ชายหนุ่มหลับตาลงแล้วตอบเสียงเบา มือทั้งสองที่เมื่อครู่เตรียมจะผลักไสเจ้าของอ้อมแขนออกห่างกลับเพียงทาบทับบนลำแขนแกร่งราวจะยึดเอาไว้ ความหวาดกลัวในใจเมื่อครู่หายไปจนไม่เหลืออีกแล้ว กล้ามเนื้อทั่วร่างที่เกร็งเครียดเมื่อครู่ค่อยผ่อนคลายลง และภัทรก็ยอมปล่อยตัวเองให้พิงกับอกอุ่นที่รออยู่ด้านหลังแต่โดยดี เพราะเขารู้แล้วว่าเจ้าของแผ่นอกนี้จะไม่ทำร้ายเขาอย่างเด็ดขาด

ลมหายใจและจังหวะหัวใจของทั้งคู่ราวจะสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน ภัทรสูดกลิ่นสบู่อ่อนๆจากตัวของอีกฝ่ายด้วยความสบายใจก่อนจะระบายลมหายใจยาว นัยน์ตาเรียวปรือขึ้นช้าๆอีกครั้งแล้วทอดมองผ่านประตูกระจกไปยังอ่างซึ่งมีน้ำอุ่นเต็มอ่าง ชายหนุ่มยิ้มแล้วก็เอี้ยวคอไปมองเจ้าของเรือนร่างแข็งแรงที่ยืนเป็นหลักให้เขาพิง

“ไปแช่น้ำกันไหมครับคุณเชษฐ์ ขืนปล่อยไว้นานๆเดี๋ยวน้ำอุ่นจะเย็นหมด”

คนถูกถามเลิกคิ้วเล็กน้อย แต่แล้วใบหน้าคมก็ยิ้มให้ก่อนจะกระชับอ้อมแขนและแนบริมฝีปากลงบนเรือนผมหมาดน้ำของภัทรอีกครั้ง

“ไปสิ แต่ต้องหลังจากฉันอาบน้ำให้เธอเสร็จก่อนก็แล้วกัน”

คราวนี้คนตัวใหญ่เปลี่ยนมายิ้มขี้เล่นให้อีกครั้ง ใบหน้าของคนฟังจึงซับสีเลือดเป็นสีเรื่อขึ้น แต่ภัทรก็เพียงยิ้มเขินๆและไม่ได้ปฏิเสธ เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำอะไรที่ฝืนใจเขาอย่างแน่นอน และหลังจากนั้นเชษฐ์ก็ช่วยอาบน้ำให้เขาโดยไม่ได้แสดงเจตนาที่จะหักหาญน้ำใจหรือครอบครองอีกเลยจริงๆ อาจมีบ้างที่มือใหญ่อ้อยอิ่งหรือหยุดอยู่ตรงไหนนานเกินกว่าที่ควร แต่ว่าอีกฝ่ายก็เพียงแต่หัวเราะเมื่อโดนภัทรเตือนหรือยกมือทุบไหล่ และสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ภัทรรู้สึกราวกับเขาและเชษฐ์คบกันมายาวนานมากกว่าจะเป็นเพียงช่วงเวลาสามเดือนสั้นๆเช่นในความเป็นจริง

หลังจากที่จัดการล้างฟองสบู่และแชมพูให้ภัทรจนหมดแล้ว เชษฐ์ก็ปิดฝักบัวและผลักประตูกระจกที่โดนไอน้ำเกาะจนเป็นฝ้าพลางจูงร่างเพรียวไปที่อ่าง โชคดีว่าอีกฝ่ายเปิดอุณหภูมิน้ำไว้ค่อนข้างสูงตั้งแต่แรก ดังนั้นแม้ว่าทั้งคู่จะเสียเวลาอาบน้ำนานไปสักนิด แต่ว่าน้ำก็ยังคงอุ่นพอเหมาะจะนั่งแช่เพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ และจังหวะที่ทั้งคู่ก้าวลงในอ่างนั่นเอง ภัทรก็ไม่พ้น ต้องก้มไปเห็นสิ่งที่ตอนแรกหลบเลี่ยงที่จะเห็นจนได้ แต่ถ้าเขาไม่ก้มก็คงกะไม่ถูกแน่ว่าต้องก้าวสูงแค่ไหนถึงจะพ้นขอบอ่าง

ดูเหมือนเชษฐ์จะรู้ว่าภัทรเป็นอะไรจากการที่อีกฝ่ายเบนสายตาไปทางอื่นกะทันหันแล้วก็รีบหันหลังย่อตัวลงนั่งในน้ำ หลังจากที่ขยับตัวจนร่างสูงใหญ่พิงกับขอบอ่างและให้ภัทรนั่งเอนลงบนอกตนได้โดยที่ต่างคนต่างไม่เมื่อยแล้ว เชษฐ์ก็ยกแขนขึ้นวางพาดไปตามแนวขอบอ่างทั้งสองด้านแล้วกระซิบถามคนตรงหน้ายิ้มๆ

“บอกแล้วว่าไม่เหมือนใช่ไหมล่ะ?”

ภัทรหันไปทำตาเขียวใส่คนข้างหลังก่อนจะหันขวับกลับไปด้านหน้า เพราะเขารู้ดีโดยไม่ต้องถามว่าคนพูดเอ่ยถึงอะไร นึกเสียดายที่นั่งท่านี้ทำให้หันไปทุบไหล่อีกฝ่ายไม่สะดวกเท่าไหร่ แต่ถ้าให้นั่งหันหน้าเข้าหากันก็คงจะทุลักทุเล จึงได้แต่ต้องยอมให้เชษฐ์แซวเขาอยู่อย่างนั้นโดยที่โต้ตอบไม่ได้

เอ้า...แซวเขาแล้วสนุกนักก็ปล่อยให้แซวไปแล้วกัน ปกติอยู่ที่ออฟฟิศมีแต่ต้องเครียดกับงานและลูกน้องตลอด อย่างน้อยถ้าหากหัวเราะได้เวลาอยู่กับเขาก็ดีแล้วล่ะ...  

ภัทรคิดพลางยกมือทั้งสองข้างรองน้ำอุ่นขึ้นแล้วก็ปล่อยให้ไหลลงผ่านง่ามมือ ฉับพลันก็ต้องครางในคออย่างประหลาดใจเมื่อถูกข้อนิ้วแข็งแรงกดลงบนแผ่นหลังให้

“คุณเชษฐ์นวดเป็นด้วย?”

คนถูกนวดเอี้ยวคอกลับไปถาม แรงที่ถ่ายมาจากมือของเชษฐ์นั้นจัดว่าค่อนข้างหนัก แต่พอกดลงบนเส้นประสาทที่เมื่อยล้าของเขาแล้วก็ทำให้รู้สึกสบายจนไม่อยากเบี่ยงตัวหนี คนถูกทักจึงตอบยิ้มๆโดยไม่หยุดออกแรงตามปลายนิ้วไปบนแผ่นหลังเนียนขาว

“แน่ล่ะสิ ฉันเคยเป็นนักกีฬาโรงเรียนมาก่อนนี่ สมัยเรียนก็ต้องช่วยกันนวดให้เพื่อนในทีมเองแบบนี้แหละ”

ภัทรนึกถึงรูปถ่ายของอีกฝ่ายในชุดนักกีฬาเทนนิสซึ่งเขาเคยเห็นในห้องนั่งเล่นที่บ้าน รูปนั้นน่าจะเป็นรูปสมัยมัธยม แต่เขาจำได้ว่าในรูปนั้นเชษฐ์ไม่ได้ใส่แว่น ความสงสัยที่ผุดขึ้นทำให้ภัทรเอ่ยถาม

“คุณเชษฐ์สายตาสั้นเท่าไหร่ครับ? ผมเห็นรูปสมัยเรียนบางรูปก็ใส่แว่น บางรูปก็ไม่ใส่”

ทั้งที่เรื่องเหล่านี้เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่คนใกล้ชิดในสถานะเช่นเขาควรจะรู้ แต่ที่ผ่านมาภัทรไม่เคยถามเลยเพราะเกรงใจ และคิดว่าเชษฐ์อาจจะมองว่าเขาอยากรู้อยากเห็นกับเรื่องไม่มีสาระ แต่ตอนนี้เขากลับรู้สึกว่าอยากรู้จักคนคนนี้ให้มากขึ้นกว่านี้

เชษฐ์ใช้ปลายนิ้วโป้งกดคลึงให้บนช่วงคอที่ต่อกับแผ่นหลังของภัทร จากนั้นก็ตอบเสียงเนือยๆ “ถ้าตอนนี้ก็ประมาณสามร้อยกว่าทั้งสองข้าง แต่ตอนที่เล่นเทนนิสนั่นสั้นแค่สองร้อยเลยไม่ได้ใส่แว่นตลอด  เพิ่งจะมาใส่ประจำก็หลังเข้ามหาลัยนั่นแหละ”

“สามร้อยกว่า? ก็ไม่สั้นมากนี่ครับ ทำไมไม่ใส่คอนแทคต์เลนส์ไปเลยล่ะ ขนาดพี่สาวผมสายตาสั้นตั้งห้าร้อยยังใส่คอนแทคต์มาตั้งแต่ม.ปลายเลย”

ภัทรถามขึ้นอีก เพราะเขาเชื่อว่าเชษฐ์ก็คงรู้ตัวว่ารูปร่างหน้าตาของตัวเองนั้นค่อนข้างโดดเด่นทีเดียว แล้วขนาดเขาเอง เวลาเห็นอีกฝ่ายไม่สวมแว่นยังรู้สึกว่าบรรยากาศรอบตัวดูผ่อนคลายและให้ความกันเองขึ้นตั้งขนาดนี้ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าถ้าพวกสาวน้อยสาวใหญ่ที่ออฟฟิศได้เห็นใบหน้าเกลี้ยงๆของคุณผู้จัดการโปรเจ็กต์ทุกวัน มีหวังคงไม่ได้เป็นอันทำงานกันแน่

คำถามของภัทรทำให้เชษฐ์หัวเราะ มือที่นวดต้นคอและท้ายทอยให้เมื่อครู่ถูกปล่อยลงมาโอบไว้รอบเอวบางหลวมๆแทน

“ทำไมล่ะ ใส่แว่นแล้วไม่ชอบหรือไง?”

คนถูกถามหน้าแดงขึ้นเมื่อโดนกระซิบถามเสียชิดริมหู ก็จริงที่เขาชอบเวลาได้เห็นอีกฝ่ายไม่สวมแว่น เพราะมันทำให้ภัทรรู้สึกว่าเชษฐ์ในเวลานั้นปล่อยวางภาระการงานไว้เบื้องหลังแล้วได้ปลดปล่อยตัวเองต่อหน้าเขาจริงๆ แต่ภัทรก็ไม่ปฏิเสธว่าเขาก็ชอบยามที่คุณผู้จัดการยกมือขยับขาแว่นหรือใช้ปลายนิ้วดันแว่นขึ้นไประหว่างที่ทำงานหรือคุยกันเหมือนกัน เพราะเขาเห็นภาพเหล่านั้นประจำจนชินตาไปแล้ว และหากอีกฝ่ายเลิกสวมแว่นไปเลย เขาก็คงจะรู้สึกเหงาๆเหมือนอะไรบางอย่างขาดหายไปอย่างแน่นอน

“เปล่าครับ...ผมแค่ถามดูเฉยๆ”

ภัทรตอบเสียงอ้อมแอ้ม แล้วก็เหลือบสายตาลงเมื่อเชษฐ์จับมือของเขาข้างหนึ่งขึ้นพลิกดู

“นิ้วย่นหมดแล้วสิ น้ำก็เริ่มไม่อุ่นแล้วด้วย งั้นไปแต่งตัวแล้วหาข้าวเย็นกินกันดีกว่า”

“อ๊ะ ครับ”

ภัทรตอบเหมือนเพิ่งรู้ตัว พอเชษฐ์พูดขึ้นมา เขาจึงได้รู้สึกว่าน้ำในอ่างเริ่มหายอุ่นไปกว่าตอนแรกที่ลงแช่เยอะแล้วจริงๆ แต่เพราะว่าเขานั่งพิงอกอีกฝ่ายอยู่ ไออุ่นที่ได้รับจึงทำให้ไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่าน้ำเริ่มเย็นแล้ว

เชษฐ์รอจนทั้งคู่ก้าวออกจากอ่างแล้วจึงบิดล็อคเพื่อระบายน้ำให้ไหลออกทางปลายอ่าง ระหว่างนั้นภัทรก็รีบหยิบผ้าขนหนูของตัวเองมาพันเอวอย่างแน่นหนา จากนั้นค่อยหันไปหยิบผ้าขนหนูอีกผืนส่งให้เชษฐ์ใช้เช็ดตัว แต่แทนที่อีกฝ่ายจะใช้ผ้านั้นปกปิดร่างกายเหมือนกัน คนตัวใหญ่กลับเอาผ้าขยี้ผมที่เริ่มหมาดและซับน้ำตามเนื้อตัวโดยไม่สนใจจะปิดบังร่างกายที่เปลือยเปล่าเลยสักนิด

“คุณเชษฐ์...ไม่เกรงใจผมบ้างเลยเหรอครับ”

ภัทรถามเสียงอ่อนโดยพยายามไม่หันไปมอง ถึงเมื่อกี้เขาจะได้เห็นแบบเต็มๆตาไปแล้วก็ตาม แต่เขาก็ไม่ใช่คนโรคจิตชอบมองเรือนร่างคนอื่นเวลาไม่ใส่เสื้อผ้าเสียหน่อย ทว่าคำตอบของเชษฐ์ทำเอาเขาอยากจะวางมือจากเสื้อผ้าเปียกที่กำลังจะคลี่ออกผึ่งแล้วหันไปทุบไหล่หนาสักบึ้กใหญ่ๆ

“จะเป็นไรไปล่ะ เดี๋ยวต่อไปเธอก็ต้องได้เห็นจนชินอยู่แล้วนี่ รีบทำให้ชินไว้ก่อนจะเป็นไรไป”

“คุณเชษฐ์”

ภัทรเอ่ยปรามเสียงดุ แต่แก้มเนียนทั้งสองข้างแดงก่ำ เขารู้ดีว่าความหมายแฝงที่ซ่อนในคำพูดของอีกฝ่ายคืออะไร แต่ป่วยการจะเถียงกับคุณผู้จัดการถึงเรื่องในอนาคตตอนนี้ จึงไม่ได้พูดอะไรอีกแล้วก็รีบเดินออกจากห้องน้ำไปหยิบเสื้อผ้าสำหรับใส่เปลี่ยน และคราวนี้ก็ยังขอกลับเข้าไปแต่งตัวในห้องน้ำคนเดียวเหมือนเดิม ไม่ใช่เพราะว่าอายหลังจากที่ก็อาบน้ำด้วยกันไปแล้ว แต่เพราะเขาอายที่จะต้องเห็นอีกฝ่ายเปลี่ยนเสื้อผ้าแบบเต็มๆตาต่างหาก

ถ้าจะชินก็ให้มันเป็นเรื่องในอนาคตเถอะ ตอนนี้เขายังห้ามใจไม่ให้เต้นแรงเวลาเห็นร่างกายของคุณเชษฐ์ไม่ได้นี่...



TBC. in ครึ่งหลัง...
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 11-06-2010 02:39:36 โดย bellbomb »

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ป้ามาแล้ว คุณเชษฐ์กับภัทร น่าร้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เขินมากมาย เขินๆๆๆๆๆๆๆจังเลยค่ะ  :-[

ออฟไลน์ dukdikdukdik

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2520
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +233/-3
รอเอ็นซี  จะมีมั้ยน๊อ อิอิ

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
หวานๆ น่ารัก อ่านไปเขินไป
รออีกครึ่งที่เหลือน๊า
ปล. +1 ให้ไรทเตอร์แล้ว

lasom

  • บุคคลทั่วไป
:-[
ยิ้ม ยิ้ม
ทะเลหวาน



yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
อ้า อ้า น่ารักง่ะ :o8: ถ้าเป็นเราน่ะคงอดใจไม่ไหวแล้วล่ะฮิ ฮิ ฮิ ไม่ได้หื่นน่ะ :haun4:

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คุณเชษฐ์ อ่อนโยนเนอะ แสนดี สุภาพ แอร๊ยยยย เพอร์เฟ็กเกินไปแหละ อยากได้มั้งอะ  :-[

beybeybeymylove

  • บุคคลทั่วไป
 :-[ :o8: :impress2:
หวานเกินห้ามใจ

นี่แหล่ะ ประโยชน์ของการที่มีคนรักเป็นคนแก่กว่า

อาาาาา  คุณเชษฐ์เฟอเฟ็กแมนจริงๆๆๆ

อิจฉาภัทร :z3:

ออฟไลน์ iforgive

  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 6805
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +844/-80
หวานจัง ชอบผู้ชายที่อบอุ่น  อ่อนโยน  เป็นผู้ใหญ่ แบบนี้แหละ ใช่เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
อ่านแล้วหัวใจละลายกลายเป็นน้ำเลย ผู้ชายอาไร้ น่ารักขนาดนี้ นู๋ภัทรจ๋า  หายกลัวเร็วๆ นะ

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
 :m3: คุณเชษฐ์น่ารักที่สุดเลย
อ่านแล้วแอบเขินไปกับนู๋ภัทร :o8:

รออีกครึ่งนะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
จะน่ารัก น่าตีไปไหนคะ คุ๊ณณณณณณณณณณณณณณณณณณณณณณณณ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ตัวเอง....วันนี้วันพฤหัสฯ แล้วนะ  :z3:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
ใช่ๆๆๆ วันนี้วันพฤหัสแล้วนะคร้า หงิงๆ  :m17:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
วันนี้วันศุกร์ ขอเป็นคืนนี้ได้ไหมค้าสาวๆ คริคริ

(เห็นใจป้านิดนะคะ เมื่อคืนช่วยงานที่ออฟฟิศ ได้ออกมาตอนตีสี่เมื่อเช้า นี่ก็ต้องกลับเข้าไปอีกและ ฮ่วย!)
  :z3:

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
แวะมาเยี่ยมป้ารินคนงาม
ขอบอกว่ายังไม่ได้ตามเก็บเลยเรื่องนี้  :z3: แต่ยังไม่เยอะหน้า เรายังมีโอกาส  :laugh:

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ครึ่งหลังมาแล้วเจ้าค่า ขออภัยที่ล่าช้ากว่าที่บอกไว้มากมาย ทั้งเพราะงานเข้า + เข้าเรียน (ป.โทกั๊บ ป้ากลับไปเป็นนักศึกษาแล้วนะ ฮุฮุฮุ) หลังจากนี้ก็คงยิ่งยุ่งๆมากเข้าไปอีก ยังไงถ้ามาต่อช้าก็อย่าเพิ่งทิ้งสองคนนี้ไปไหนนะจ๊ะ   :impress:

10. (ครึ่งหลัง)


พายุที่หอบเอาสายฝนกระหน่ำมาเมื่อครู่ก่อนพัดผ่านบริเวณรีสอร์ทไปแล้ว ปุยเมฆบนฟ้าเริ่มกระจายตัวออกจากกันมากพอจะเผยให้เห็นแสงอาทิตย์สุดท้ายของวัน ละอองฝนประปรายที่ยังเหลือตกค้างทำให้บรรยากาศภายนอกชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำ แม้แต่สีเขียวของต้นไม้ใบหญ้าที่ขึ้นอยู่รอบรีสอร์ทก็ดูจะเข้มขึ้นกว่าเดิมเนื่องจากได้รับน้ำฝนจนอิ่ม

หลังจากแต่งตัวกันเรียบร้อยและเห็นว่าพระอาทิตย์เริ่มลับขอบฟ้าแล้ว เชษฐ์ก็ขับรถพาภัทรออกไปหาร้านอาหารเพื่อทานมื้อเย็นด้วยกัน ทั้งคู่ตัดสินใจไม่ทานที่ห้องอาหารของรีสอร์ท เพราะจะได้เปลี่ยนบรรยากาศจากการอยู่แต่ในบริเวณที่พักกับชายหาดหน้าห้องบ้าง และหลังจากที่ขับรถวนสำรวจถนนเลียบหาดไปหนึ่งรอบ ทั้งคู่ก็เห็นพ้องกันว่าจะเลือกร้านริมทะเลร้านหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากที่พักออกไปราวสองกิโลเมตร เพราะดูแล้วไม่ถึงกับโหรงเหรงหรือมีลูกค้าแน่นเกินไปจนต้องรออาหารนาน

ร้านที่เชษฐ์กับภัทรเลือกนั้นมีทั้งส่วนที่เป็นห้องอาหารหลักและศาลามุงจากหลังย่อมๆอีกจำนวนหนึ่งสำหรับรับลูกค้าที่มาเป็นกลุ่มเล็ก โต๊ะและเก้าอี้สำหรับที่นั่งตรงศาลาก็ทำจากไม้ไผ่ที่ประกอบกันเป็นแคร่ ซึ่งต่างจากโต๊ะและเก้าอี้เหล็กพับในส่วนของห้องอาหารหลัก โชคดีที่ทางร้านนำผ้าพลาสติกมาคลุมศาลาเหล่านี้เอาไว้ระหว่างที่มีพายุฝน โต๊ะและที่นั่งซึ่งถูกคลุมเอาไว้จึงไม่เปียกเฉอะแฉะ

พนักงานของร้านเดินนำทั้งคู่ไปนั่งที่โต๊ะริมทะเลซึ่งประกอบขึ้นจากไม้ไผ่และมีหลังคามุงจากบนเสาไม้ทั้งสี่ด้าน หลังจากได้ที่นั่งแล้ว ทั้งสองก็สั่งเมนูที่ทางร้านแนะนำให้และอาหารทะเลเผาอีกสองสามอย่าง ลมเย็นที่โชยมาในยามค่ำให้ความรู้สึกสดชื่นโดยไม่ทำให้เหนียวตัว ทั้งสองจึงนั่งทานอาหารและคุยกันไปเรื่อยๆโดยมีตะเกียงที่ให้แสงสว่างตั้งอยู่กลางโต๊ะ จวบจนเวลาผ่านไปสองชั่วโมงและดวงจันทร์ลอยขึ้นสูงแล้วจึงเรียกพนักงานมาเก็บเงินและเดินทางกลับ

เนื่องจากที่รีสอร์ทแถมน้ำดื่มให้แขกที่มาพักเพียงห้องละสองขวด ทั้งสองจึงแวะซื้อน้ำจากร้านสะดวกซื้อซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทางก่อนจะกลับที่พัก หลังจากเชษฐ์จอดรถและล็อกประตูแล้วก็ฉวยถุงใส่ขวดน้ำไปถือและเดินนำไปก่อน ขณะที่กำลังเดินไปตามทางเดินเพื่อกลับห้องพักนั่นเอง ภัทรที่เดินตามหลังร่างสูงใหญ่ไม่ห่างนักก็แหงนหน้ามองผืนฟ้าสีน้ำเงินเข้มจนเกือบดำ ดวงดาวที่กำลังกะพริบแสงดูแล้วเหมือนกับมีใครเอากากเพชรสีทองไปโปรยไว้ ชายหนุ่มจึงเร่งฝีเท้าไปแตะข้อศอกของคนที่เดินนำหน้าเบาๆ

“คุณเชษฐ์ ผมยังไม่ง่วงเลย เดี๋ยวผมไปเดินเล่นก่อนนะครับ”

ภัทรเอ่ยขึ้น เพราะนับตั้งแต่ย้ายมาทำงานที่บริษัทนี้ เขาก็แทบจะไม่ได้ออกจากกรุงเทพฯมาเที่ยวต่างจังหวัดบ่อยนัก ดังนั้นเมื่อมีโอกาสจึงอยากจะซึมซับช่วงเวลาและบรรยากาศของการพักผ่อนให้นานขึ้นอีกหน่อย เพราะวันพรุ่งนี้ทั้งคู่ก็ต้องกลับกรุงเทพฯกันแล้ว

เชษฐ์ปรายตามองมือเรียวที่ยังแตะอยู่บนข้อศอกของตน จากนั้นก็เหลือบตาขึ้นแล้วถามเจ้าของมือยิ้มๆ

“แล้วฉันล่ะ?”

“เอ๊ะ?”

คำถามของอีกฝ่ายทำให้ภัทรเลิกคิ้วอย่างงุนงง เชษฐ์จึงอธิบายต่อให้

“ก็เห็นเธอพูดเหมือนอยากจะไปเดินเล่นคนเดียว ใจคอจะไม่ชวนกันเลยหรือไง?”

พอได้ยินคำอธิบาย ภัทรก็ให้นึกอยากจะจิกเล็บลงบนแขนแข็งแรงที่ตัวเองวางมือทาบอยู่ขึ้นมาติดหมัด เพราะเขายังไม่ได้พูดแบบนั้นเลยสักคำ มีแต่คุณเชษฐ์นี่ล่ะที่ชอบเอาคำพูดเขาไปตีความใหม่อยู่เรื่อย

“...อยากมาก็มาสิครับ ผมไม่ได้บอกว่าไม่ให้ตามมานี่”

ชายหนุ่มปล่อยมือข้างที่ยื่นออกไปเมื่อครู่ลงข้างตัว หัวคิ้วทั้งสองข้างมุ่นขึ้นเล็กน้อยโดยไม่ตั้งใจ เชษฐ์ที่ได้เห็นสีหน้าเช่นนั้นจึงหัวเราะเบาๆ

“เข้าใจละ งั้นเธอไปรอที่หาดก่อนก็แล้วกัน เดี๋ยวฉันเอาน้ำไปเก็บที่ห้องเสร็จแล้วจะตามไป”

คนตัวใหญ่เอ่ยพลางชูถุงใส่ขวดน้ำในมือขึ้น ภัทรจึงค่อยยิ้มและพยักหน้า จากนั้นก็ปลีกตัวเดินย้อนไปตามทางที่เดินมาเพื่อจะเลี้ยวลงชายหาด ดูเหมือนว่านอกจากพวกเขาสองคนที่เลือกพักที่ห้องสวีทริมทะเลแล้ว แขกที่มาพักกลุ่มอื่นๆจะเลือกพักในส่วนที่เป็นตึกโรงแรมซึ่งอยู่ใกล้ล็อบบี้มากกว่า เพราะว่าภัทรเห็นแสงไฟและเงาที่ลอดผ่านผ้าม่านของห้องบางห้องได้ลางๆ ซึ่งเหตุผลหนึ่งก็คงเป็นเพราะราคาห้องพักที่ถูกกว่าห้องบีชฟร้อนท์สวีทแบบที่เชษฐ์เลือกอยู่หลายพันบาทนั่นเอง

ลมทะเลยามค่ำที่ค่อนข้างแรงคงทำให้แขกคนอื่นเลือกจะอยู่ในห้องมากกว่าออกมาเดินเล่น ดังนั้นนอกจากเสียงลมแล้วก็มีเพียงเสียงคลื่นที่กำลังม้วนตัวเข้าซัดหาดทรายให้ได้ยิน แสงจากดวงจันทร์ข้างขึ้นสีเงินยวงช่วยให้มองเห็นจุดที่เส้นขอบฟ้าบรรจบกับท้องน้ำได้ลางเลือน นอกจากนี้ก็มีแสงสว่างจากโคมไฟดวงเล็กที่ทางรีสอร์ทเปิดไว้เป็นระยะบริเวณรั้ว บริเวณหน้าหาดจึงไม่ถึงกับมืดมิดจนมองอะไรไม่เห็น

พื้นทรายที่ภัทรเหยียบย่ำลงไปนั้นยังชื้นเพราะพายุฝนเมื่อช่วงบ่าย ชายหนุ่มจึงถอดรองเท้าแตะออกแล้วเดินเท้าเปล่าลงไปบริเวณที่คลื่นซัดขึ้นมาจนน้ำปริ่มข้อเท้า ร่างเพรียวเหยียดแขนขึ้นสูงก่อนจะสูดกลิ่นอายทะเลและอากาศบริสุทธิ์ยามค่ำคืนเข้าเต็มปอด ความจริงแล้วตอนเด็กเขาก็โตมากับทะเลภาคตะวันออก และชอบเล่นน้ำทะเลเวลาที่อารมณ์ครึ้มพอ แต่เพราะว่าเมื่อตอนบ่ายนั่นเขาโดนเชษฐ์บังคับอุ้มลงไป ทำให้ไม่ได้สนุกกับการเล่นน้ำอย่างเต็มที่เท่าไหร่นัก

นัยน์ตาเรียวทอดมองออกไปยังผืนทะเลกว้างที่มีเงาของดวงจันทร์สะท้อนอยู่เป็นวง เงาสีขาวนวลเต้นระยิบไปมาตามริ้วคลื่นลูกแล้วลูกเล่าที่โถมเข้าหาฝั่ง ชายหนุ่มยืนนิ่งขณะทอดสายตามองไปยังแสงไฟจากเหล่าเรือหาปลาที่อยู่ไกลจนเห็นเป็นเพียงกลุ่มแสงจุดเล็กๆ หลังจากใช้เวลาอยู่กับเชษฐ์มาทั้งวัน เมื่อได้มายืนมองทะเลตามลำพังเช่นนี้ ภัทรก็ให้นึกถึงผู้มีพระคุณในครอบครัวที่เขารักและเคารพที่สุดขึ้นมา

…ป่านนี้น้าจินกับน้าบรรณเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้ ตั้งแต่สิ้นปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้โทรไปหาเลย ถ้าจู่ๆโผล่ไปเยี่ยมจะเป็นยังไงนะ อุตส่าห์มาถึงระยองทั้งที ขับรถต่อไปอีกหน่อยก็ถึงจันทบุรีแล้ว

แต่ว่า...จะให้พาคุณเชษฐ์ไปแนะนำเลยน่ะหรือ.... จะเร็วเกินไปหรือเปล่า

ชายหนุ่มหวนนึกถึงตอนที่เชษฐ์ขับรถพาเขาออกมาจากกรุงเทพฯเมื่อเที่ยงวัน ตอนนั้นเขาไม่ได้บอกว่าสาเหตุที่แสดงท่าทางแปลกๆตอนเห็นป้ายบอกทางไปจันทบุรีก็เพราะนึกถึงน้าขึ้นมา นับตั้งแต่พ่อกับแม่เสียไปเพราะอุบัติเหตุทางเรือตอนที่ภัทรยังเรียนมัธยมนั้น ก็เป็นน้าจิน น้องสาวของแม่ กับน้าบรรณซึ่งเป็นสามีที่คอยดูแลและช่วยเหลือสองพี่น้องเหมือนเป็นลูกแท้ๆ ความที่ทั้งสองไม่มีลูกจึงเอ็นดูพวกเขามาก แม้กระทั่งยามที่ภัทรสอบติดมหาวิทยาลัยและย้ายตามแพนไปอยู่กรุงเทพฯแล้ว ญาติผู้ใหญ่ทั้งสองก็ยังคงติดต่อมาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบอยู่เสมอ ตอนที่เขาท้อถอยเพราะถูกคนรักเก่าทอดทิ้งจนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานต่อ ก็เป็นบ้านของน้าจินกับน้าบรรณที่เขาหลบมาพักเพื่อเยียวยาแผลที่เกิดขึ้นและเพื่อเรียกความเข้มแข็งกลับมาจนมีกำลังใจกลับไปสู้ชีวิตที่กรุงเทพฯอีกครั้ง ทั้งที่น้าจินซึ่งเขาเคารพเหมือนแม่คนที่สองก็เคยแนะนำว่าให้หางานทำที่จันทบุรีแล้วพักอยู่ที่บ้านด้วยกัน แต่ถ้าหากว่าตอนนั้นเขาไม่ได้กลับเข้ากรุงเทพฯ เขาก็คงไม่ได้พบกับเชษฐ์...และไม่ได้รู้ว่าตัวเองก็ยังมีค่าให้ใครอีกคนเอาใจใส่ดูแลดังเช่นตอนนี้

ภัทรล้วงมือข้างหนึ่งเข้าไปในกระเป๋ากางเกงที่ใส่โทรศัพท์มือถือไว้ ปลายนิ้วเรียวลูบตัวเครื่องไปมา ขณะที่ความคิดในใจกำลังขัดแย้งระหว่างจะโทรหรือไม่โทรหาผู้มีพระคุณนั่นเอง ชายหนุ่มก็สะดุ้งกับเสียงทุ้มลึกที่ดังมาจากด้านหลัง

“อยากว่ายแข่งแก้มืออีกรอบมั้ย?”

ภัทรสะดุ้งชักมือออกจากกระเป๋าแล้วก็หันไปทางต้นเสียง ทำให้พบว่าเชษฐ์กำลังยืนมองเขาอยู่ ร่างสูงใหญ่เอาสองมือล้วงกระเป๋ากางเกงผ้าฝ้ายที่ม้วนชายขึ้นเหนือข้อเท้าจนเห็นสายคาดรองเท้าแตะสานทำจากหนัง ใบหน้าคมที่มองเห็นใต้แสงจันทร์สลัวอมยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็บุ้ยคางไปแถวกลางทะเลเลยจุดที่ภัทรยืนอยู่ออกไป

ร่างเพรียวเบนสายตาตามไปยังทิศทางนั้น ทำให้ได้เห็นเรือลำที่เป็นเส้นชัยการแข่งขันเมื่อตอนบ่ายยังคงทอดสมออยู่ที่เดิม ลำเรือโยกเอียงไม่อยู่นิ่งตามแรงคลื่นที่ซัดเข้ากระทบ ชายหนุ่มจึงหันกลับไปหาคนถามอีกครั้ง

“เรื่องอะไรล่ะครับ แพ้รอบเดียวก็พอแล้ว อีกอย่างคราวนี้ผมไม่มีเสื้อผ้าเปลี่ยนแล้วจริงๆนะ บอกไว้ก่อน”

ชายหนุ่มพูดดักคอโดยเอ่ยเป็นนัยๆถึงเรื่องที่เขาโดนอุ้มลงน้ำทั้งที่ไม่เต็มใจเมื่อช่วงบ่าย แต่เรื่องที่เขาไม่มีเสื้อผ้าจะเปลี่ยนแล้วนั้นเป็นเรื่องจริง เพราะภัทรตั้งใจจะใส่เสื้อยืดที่ใส่นอนคืนนี้กลับบ้าน เนื่องจากเสื้อผ้าเปียกที่เขาผึ่งเอาไว้คงไม่มีทางแห้งทันพรุ่งนี้เช้า และถ้าจะให้ถอดเสื้อลงเล่นน้ำตอนกลางคืนที่ลมค่อนข้างแรงแบบนี้ คราวนี้เขาก็คงไม่แคล้วจะไม่สบายเอาจริงๆ

เชษฐ์หัวเราะแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ภัทรจึงเดินขึ้นจากน้ำไปบนหาดแล้วก็สวมรองเท้าที่ถูกถอดทิ้งไว้ ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อร่างสูงใหญ่เดินเข้ามาหาแล้วก็ยื่นมือข้างหนึ่งมาให้

นัยน์ตาเรียวตวัดลงมองมือแข็งแรงข้างนั้นก่อนจะช้อนสายตาขึ้นมองเจ้าของมือ ทว่าอีกฝ่ายเพียงยืนรอเงียบๆโดยไม่พูดอะไร และไม่ได้บังคับคว้ามือเขาไปจับเองโดยพลการ ราวกับจะรอให้ภัทรเป็นฝ่ายยื่นมือกลับไปหาด้วยตัวเอง

หลังจากเวลาผ่านไปชั่วอึดใจ มือเรียวจึงถูกยื่นออกไปวางทาบลงบนมือใหญ่อบอุ่นที่รออยู่ ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่อเชษฐ์ดึงตัวเขาเข้าไปใกล้ จากนั้นก็ปล่อยมือและยกแขนขึ้นโอบไหล่เขาไว้หลวมๆขณะพาออกเดินไปบนหาดทรายด้วยกัน

กลิ่นบุหรี่อ่อนจางโชยมาเข้าจมูกภัทร ทำให้ชายหนุ่มรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายคงจะเพิ่งสูบบุหรี่มาก่อนจะลงมาหาเขาที่หาด และทั้งที่นึกขึ้นได้ว่าตั้งใจจะคุยเรื่องนี้กับเชษฐ์ตั้งแต่เมื่อเช้า แต่ภัทรก็เริ่มไม่แน่ใจว่าถ้าหากทำอย่างนั้น เขาจะล้ำเส้นอะไรไปหรือเปล่า ถึงอย่างไรนี่ก็คือส่วนหนึ่งของ ‘ตัวตน’ ของเชษฐ์ซึ่งเขาไม่มีสิทธิ์ไปกะเกณฑ์ แค่การที่อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาไม่ชอบและพยายามหลีกเลี่ยงการจุดบุหรี่ให้เห็นต่อหน้า บางทีนี่ก็อาจเป็นวิธีแสดงการยอมรับในสิทธิ์ที่ภัทรพึงได้รับแล้วก็ได้

แต่ว่า...ถึงยังไงสูบบุหรี่ก็ไม่ดีต่อสุขภาพอยู่ดีนั่นแหละ

ภัทรมุ่นหัวคิ้วขณะที่โต้เถียงกับตัวเองในใจ มือหนึ่งยกขึ้นจับชายเสื้อด้านหลังของเชษฐ์แน่นโดยไม่รู้ตัว ความที่กำลังใช้ความคิดติดพัน ชายหนุ่มจึงไม่รู้ตัวสักนิดว่าสายตาของอีกฝ่ายกำลังจับจ้องตนอยู่

“ว่าจะลดลงแล้วล่ะ”

จู่ๆคนตัวใหญ่ก็ทะลุกลางปล้องขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ภัทรที่ยังเถียงกับตัวเองจึงไม่ทันได้สนใจจับใจความของประโยคที่ได้ยิน แต่ครู่หนึ่งชายหนุ่มก็ชะงักฝีเท้าแล้วกะพริบตาด้วยความงุนงง เชษฐ์ที่เดินโอบไหล่เขาอยู่จึงหยุดเดินตามไปด้วย

“อะไรนะครับ?”

ภัทรเหลือบตาขึ้นแล้วก็เอ่ยถาม เพราะเขาไม่แน่ใจนักว่าเชษฐ์กำลังพูดถึงเรื่องเดียวกับที่เขาคิดอยู่หรือเปล่า เชษฐ์จึงยิ้มแล้วก็ส่ายหน้า

“ไม่รู้ตัวล่ะสิท่า เมื่อกี้ตอนฉันดึงเธอมาใกล้ๆน่ะเธอย่นจมูกทันทีเลย ทีหลังถ้าหากไม่ชอบอะไรก็บอกกันตรงๆสิ มัวแต่เกรงใจแล้วคนอื่นจะรู้เหรอว่าเธอคิดอะไรอยู่?”

ภัทรทำหน้าเหลอ เขาไม่รู้ตัวจริงๆว่าเผลอแสดงกิริยาแบบนั้นออกไป แต่ปกติเขาก็ไม่ถูกกับบุหรี่อยู่แล้ว ยังดีที่ไม่ได้แพ้ควันจนถึงกับผื่นขึ้นก็เท่านั้น แต่ดูเหมือนปฏิกิริยาตอบสนองทางกายของเขาจะเป็นไปเองโดยที่ตัวเองก็ควบคุมไม่ได้

“ขอโทษครับ...แต่คุณเชษฐ์ก็เคยได้ยินผมพูดว่าไม่ชอบบุหรี่ไปตั้งแต่ตอนเจอกันแรกๆแล้วนี่”

ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นก่อนจะก้าวขาต่อ ทำให้เพิ่งรู้ตัวว่าตนเองกำลังกำเสื้อด้านหลังของอีกฝ่ายแน่น แต่จะให้ปล่อยมือตอนนี้ก็คงอิหลักอิเหลื่อพิกล จึงแสร้งทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วก็ยังคงจับยึดชายเสื้อของอีกฝ่ายไว้อย่างนั้น

ดูเหมือนเชษฐ์จะเข้าใจทันทีว่าภัทรหมายถึงตอนที่เขาเพิ่งย้ายมาทำงานที่บริษัทเดียวกันใหม่ๆ และเคยแสดงความเห็นเรื่องนี้กับเพื่อนร่วมงานตอนที่กำลังจะไปทานข้าวกลางวันกัน ซึ่งบังเอิญเหลือเกินที่คุณผู้จัดการดันยืนสูบบุหรี่อยู่แถวนั้นตอนที่เขากำลังพูดพอดี หากฟังเผินๆจึงเหมือนภัทรตำหนิอีกฝ่ายทั้งที่ไม่ได้ตั้งใจจะพาดพิงถึงใครเป็นพิเศษ

“ตอนนั้นเธอพูดกับคนอื่นแล้วฉันบังเอิญได้ยินต่างหาก มันไม่เหมือนกับการที่เธอมาบอกฉันด้วยตัวเองนี่นา ถ้าหากเธอพูด...ฉันอาจจะยอมคิดอย่างจริงจังก็ได้”

ภัทรฟังแล้วก็ทบทวนคำพูดของอีกฝ่ายในหัว งั้นก็หมายความว่า...ต่อให้เขาขอร้อง คุณเชษฐ์ก็อาจจะไม่ได้ยอมทำตามทันทีเสียหน่อยน่ะสิ แต่หากพิจารณาจากบุคลิกของเจ้าตัวและความรั้นที่แทบจะไม่ยอมลงให้ใครในเวลางาน ซึ่งขัดแย้งเหลือเกินกับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนทั้งสองอาบน้ำด้วยกันเมื่อตอนบ่าย นี่อาจจะหมายถึงการ ‘ยอม’ มากที่สุดเท่าที่อีกฝ่ายเคยทำมาแล้วก็ได้

ยิ่งเมื่อนึกได้ว่าเมื่อครู่ก่อนเชษฐ์พูดว่าอะไรตอนที่เขากำลังเหม่อ ภัทรก็เหลือบตาขึ้นมองคนข้างตัวอีกครั้ง และคราวนี้ริมฝีปากบางเผยอยิ้มขึ้นน้อยๆ

อย่างน้อยที่สุด...คุณเชษฐ์ก็กำลังพยายามเหมือนกันล่ะนะ…

“เข้าใจแล้วครับ”

ภัทรเอ่ยพลางเอนศีรษะลงบนไหล่หนาขณะที่ทั้งสองออกเดินต่อ มือข้างที่เมื่อครู่กำชายเสื้ออีกฝ่ายค่อยๆคลายออกแล้วเปลี่ยนเป็นเลื่อนไปโอบเอวแกร่งไว้แทน และเขาก็รู้สึกได้ว่าแขนที่โอบอยู่บนไหล่ของตัวเองก็กระชับแน่นขึ้นเหมือนกัน

ชายหนุ่มแหงนหน้าขึ้นมองท้องฟ้ายามค่ำที่มีเมฆพาดผ่านเป็นริ้วและมีหมู่ดาวระยิบระยับลอยสูงเหนือขึ้นไป วูบหนึ่ง เขาอดคิดไม่ได้ว่า หากสามารถหยุดเวลาไว้ตรงนี้ตลอดไปได้ก็คงดี

หลังจากเดินกันมาจนไกลพอสมควร ทั้งสองก็หมุนตัวย้อนกลับทางเดิมเพื่อกลับไปที่ห้องพัก แต่ครั้งนี้ไม่ได้โอบไหล่กันเช่นขามา ภัทรเพียงใช้นิ้วชี้เกี่ยวไว้กับนิ้วก้อยของเชษฐ์ ระหว่างทาง นัยน์ตาเรียวก็ทอดมองไปยังผืนทะเลและเรือลำที่ทอดสมออยู่อีกครั้ง ความทรงจำของเมื่อยามบ่ายที่หวนคืนมาทำให้ภัทรหันกลับไปหาคนที่เดินอยู่ข้างๆ

คุณเชษฐ์ลืมไปแล้วหรือยังไงนะ ตอนที่อาบน้ำก็ไม่เห็นพูดถึงเลย...

ความสงสัยทำให้ภัทรกระตุกนิ้วที่ไขว้เกี่ยวกับนิ้วแข็งแรงเพื่อเรียกความสนใจ พออีกฝ่ายหันมาหาก็เอ่ยถาม

“คุณเชษฐ์...แล้วเรื่องของรางวัลที่คุณเชษฐ์แข่งชนะล่ะครับ?”

ร่างสูงใหญ่เลิกคิ้วขึ้น และภัทรก็จ้องตาอีกฝ่ายนิ่งท่ามกลางแสงจันทร์สลัวที่ทอดลงมาโอบล้อมคนทั้งคู่ จริงอยู่ว่าเขาไม่ได้ชอบใจนักที่ตัวเองแพ้ แต่ว่าก็ไม่ได้ถึงกับยอมรับความพ่ายแพ้ไม่ได้ และถึงแม้ว่าการแข่งขันเมื่อตอนบ่ายจะไม่ใช่การแข่งแบบจริงจัง แต่ในเมื่อเชษฐ์ชนะ อีกฝ่ายก็มีสิทธิ์ที่จะทวงสิ่งที่ตนพึงได้

และที่สำคัญ…ภัทรก็อยากจะรู้ว่าถ้าหากจะต้องขอรางวัลจากเขาจริงๆ อีกฝ่ายจะขออะไร

เจ้าของนัยน์ตาคมมองคนถามราวกำลังใช้ความคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยกปลายนิ้วชี้ของมือข้างที่ไม่ได้กุมกันไว้ขึ้นดันแว่นและตอบเสียงเรื่อยๆ “ไม่สำคัญหรอก เพราะตอนนี้ฉันได้ของดีกว่าที่อยากขอไปแล้ว”

คำตอบที่ได้ทำให้ภัทรทำตาโตอย่างประหลาดใจ และที่ตามมาหลังความประหลาดใจก็คือความงุนงงสงสัย ในเมื่อเขายังไม่ได้ให้อะไรกับอีกฝ่ายเลยสักอย่าง จะมาบอกว่าได้ไปแล้วได้อย่างไรกัน?

“หมายความว่าไงครับ? แล้วตอนแรกคุณเชษฐ์ตั้งใจจะขออะไรกันแน่ ในเมื่อผมยัง...ไม่ได้ให้...อะไรเลย”

ชายหนุ่มจบประโยคอย่างตะกุกตะกัก ในชั่ววินาทีที่รู้ตัวว่าแพ้หลังการแข่งขันจบลงนั้น เขามั่นใจว่าเชษฐ์คงจะขอให้เขายอมให้ทั้งคู่นำความสัมพันธ์ก้าวหน้าไปอีกขั้นอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ว่าอีกฝ่ายกลับไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้ขึ้นมาเลยสักครั้ง ทั้งๆที่มีโอกาสจะทวง ‘รางวัล’ อย่างเต็มที่ตลอดเวลาที่อาบน้ำด้วยกัน

เชษฐ์เงียบไปครู่หนึ่ง มือใหญ่ที่เกาะเกี่ยวนิ้วกับภัทรเอาไว้ถูกปล่อยลงก่อนที่อีกฝ่ายจะก้าวเดินช้าๆไปข้างหน้า และนั่นก็ทำให้ภัทรใจหายวูบ นี่เขาพูดอะไรผิดไปหรือ?

“จริงอยู่ว่าถ้าหากจะยึดเอาการแข่งนั่นเป็นจริงเป็นจัง ฉันก็มีสิทธิ์ออกคำสั่งกับเธอได้จริง แล้วก็ที่คิดน่ะไม่ผิดหรอก ที่ฉันอยากจะขอก็คือสิ่งที่เธอคิดนั่นแหละ”

เชษฐ์เอ่ยจบก็หันกลับมาหา ตอนนี้อีกฝ่ายหยุดยืนห่างจากเขาไปประมาณห้าช่วงก้าว มือทั้งสองข้างไขว้หลังไว้หลวมๆ ทว่าสีหน้าไม่บ่งบอกความรู้สึก มีเพียงนัยน์ตาเท่านั้นที่จับจ้องผู้อ่อนวัยกว่าไม่วางตา

ภัทรขมวดคิ้วกับสิ่งที่ได้ยิน ร่างเพรียวก้าวช้าๆเข้าไปหาคนตัวใหญ่ทีละก้าว ลมทะเลที่พัดมาไม่หยุดทำให้เกิดเสียงยามปะทะกับเสื้อและผมของทั้งคู่ ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าลงเมื่ออยู่ในระยะที่ห่างจากอีกฝ่ายเพียงเอื้อมมือถึง

“แล้วคุณเชษฐ์รู้เหรอครับว่าผมคิดว่าคุณเชษฐ์จะขออะไร?”

ภัทรกลั้นใจทำปากแข็ง รู้สึกเสียหน้านิดหน่อยที่ถูกอีกฝ่ายอ่านความคิดออกอีกแล้ว แต่หากจะให้ยอมรับตรงๆก็จะดูเหมือนเขาหลงตัวเองเกินไป เชษฐ์ที่ทอดสายตามองมาจึงยิ้มบางๆ

“อยากให้พูดจริงๆรึ?”

ร่างสูงใหญ่ถามพลางยกนิ้วโป้งข้างหนึ่งขึ้นไล้แก้มของภัทรอย่างแผ่วเบา ภัทรจึงเหลือบตาขึ้นสบกับนัยน์ตาคมตรงๆ แต่เมื่อได้เห็นประกายที่สะท้อนออกมาในดวงตาหลังเลนส์แว่นก็ต้องส่ายหน้า ผิวแก้มบริเวณที่ถูกสัมผัสร้อนวาบราวกับกำลังยืนอังไฟกองใหญ่อยู่

ก็แววตาแบบนั้น...มันเหมือนกับตอนที่อีกฝ่ายมองเขาในห้องอาบน้ำไม่มีผิด

“ไม่ต้องก็ได้ครับ”




ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ภัทรเบนสายตาลง แววตาที่บ่งบอกถึงความปรารถนาในตัวเขาอย่างชัดเจนทำให้เขาไม่กล้าสบตาคู่นั้นกลับ ต่างคนต่างก็ยืนนิ่งไปชั่วครู่ สักพักเชษฐ์ก็ลดมือข้างที่แตะแก้มภัทรลงแล้วเลื่อนไปกุมมือเรียวข้างหนึ่งไว้แทน

“ฟังให้ดีนะ ที่เมื่อกี้ฉันบอกว่าได้สิ่งที่สำคัญกว่าสิ่งที่จะขอมาแล้ว...เพราะตอนนี้เธอเลิกกลัวฉันแล้วใช่ไหมล่ะ?”

ภัทรตวัดสายตากลับขึ้นมองคนพูด เรียวคิ้วโก่งขมวดมุ่นเพราะสิ่งที่ได้ยิน “ผม? เคยกลัวคุณเชษฐ์?”

เจ้าของใบหน้าคมพยักรับบางเบา “เธออาจจะไม่ทันคิด แต่ฉันก็รู้สึกว่าตั้งแต่เราตกลงคบกันมา ยังมีกำแพงที่ทำให้ฉันเข้าถึงเธอไม่ได้สักที และถ้าหากฉันอยากจะทำลายกำแพงนั่นให้ได้ ถ้าไม่ใช่อดทนทำให้เธอค่อยๆเชื่อใจ ก็มีแต่จะต้องทำให้เข้าใจกันด้วยร่างกายเท่านั้น ถ้าจะให้พูดตามตรง เมื่อตอนบ่ายนั่นฉันก็ไม่ได้ผ่านมันมาง่ายๆหรอกนะ”

ภัทรทบทวนสิ่งที่ได้ยินในหัว เป็นอย่างนั้นหรือ...แต่อีกฝ่ายอาจพูดถูกก็ได้ บางทีเขาอาจจะรู้สึกแบบนั้นมาตลอดตั้งแต่ที่เริ่มคบกัน เพียงแต่เขาไม่เคยเอาเวลามานั่งวิเคราะห์เรื่องความสัมพันธ์ของพวกเขาสองคนอย่างจริงจัง จึงทำให้ไม่เคยรู้ตัวก็เท่านั้นเอง

เมื่อนึกถึงสิ่งที่เชษฐ์พูดช่วงท้ายประโยค ภัทรก็ให้รู้สึกว่าอุณหภูมิบนผิวแก้มที่ลดลงแล้วกลับสูงขึ้นมาอีก เพราะเขาเข้าใจดีว่าเรื่องที่อีกฝ่ายบอกว่าไม่ได้ผ่านมาง่ายๆคือเรื่องไหน และถ้าหากจะว่ากันตามจริงแล้ว ถ้าตอนนั้นอีกฝ่ายดึงดันจะใช้กำลังขึ้นมา ต่อให้เขาขัดขืนอย่างไรก็คงไม่มีประโยชน์แน่ๆ

“ถ้างั้น...เรื่องรางวัลอะไรนั่นก็จะให้ถือว่าเป็นโมฆะเหรอครับ?”

ชายหนุ่มเอ่ยถามขึ้นอีก เขาไม่แน่ใจนักว่าตนเองเสียดายหรือโล่งอกกับการที่เชษฐ์จะทิ้งไพ่ที่เหนือกว่าใบนี้ไปจากมือ แต่ที่เขามั่นใจโดยไร้ข้อกังขาก็คือ อย่างน้อยเชษฐ์ก็ได้สิ่งที่สำคัญกว่าร่างกายเขาไปแล้วจริงๆ และเป็นสิ่งที่เขาทำหายไปตั้งแต่ที่เลิกกับธรเมื่อสองปีก่อนด้วย

ความเชื่อใจ...

อาจเพราะธรเป็นรักครั้งแรก เป็นคนที่ทำให้ภัทรรู้สึกว่าตัวเองได้เป็นคนพิเศษของใครเป็นคนแรกนอกจากครอบครัวที่เหลืออยู่ การที่ถูกฝ่ายนั้นทอดทิ้งเพื่อไปหาคนอื่นในภายหลังจึงเป็นการทำลายความเชื่อมั่นในใจจนไม่เหลือชิ้นดี และถึงแม้เขาจะถอยกลับมาจากปากเหวแห่งความสิ้นหวังได้และยืนหยัดขึ้นใหม่อีกครั้ง แต่ก็เป็นเรื่องยากที่ภัทรจะมอบความไว้วางใจให้ใครง่ายๆอีกเป็นครั้งที่สอง ดังนั้นถึงแม้ว่าเชษฐ์จะเป็นคนแรกหลังจากนั้นที่เข้ามากะเทาะน้ำแข็งที่เกาะกุมหัวใจเขาและเรียกความรู้สึกหวั่นไหวให้กลับมา แต่ลึกลงไปในใจ ภัทรก็ยังคงหวาดระแวงอยู่ตลอดว่าเมื่อคบกันไปจนอีกฝ่ายได้ในสิ่งที่ต้องการแล้ว ท้ายที่สุดเขาก็จะหมดค่าและถูกทิ้งเหมือนที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วอีกครั้งหรือเปล่า และคงเพราะความกลัวนี้เองที่ยังฉุดรั้งเขาไว้ไม่ให้กล้าก้าวเดินต่อไปอย่างเต็มตัว ทั้งๆที่อีกฝ่ายไม่มีจุดไหนที่คล้ายกับคนรักเก่าของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ ภัทรก็รีบกะพริบตาไล่หยาดน้ำที่เอ่อขึ้นมาอย่างกะทันหันออกไป แต่ก็เหมือนกับทุกครั้งที่คนข้างตัวดูจะเดาออกว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่ ร่างสูงใหญ่จึงก้าวเข้าไปหาและรั้งร่างของภัทรเข้าไปกอด ริมฝีปากอุ่นแนบลงข้างขมับก่อนจะเอ่ยเสียงทุ้มที่ข้างหู

“ยังไม่เป็นโมฆะหรอก ถึงยังไงฉันก็ไม่ปล่อยเธอไปง่ายๆแน่ ดังนั้นสิทธิ์นี่น่ะไม่ต้องรีบทวงตอนนี้ก็ได้”

น้ำเสียงที่ยึดมั่นในความคิดอย่างไม่ยอมให้โต้แย้งทำให้ภัทรหัวเราะออกมาเบาๆทั้งที่ขอบตายังร้อนผ่าว ร่างเพรียวยกมือขึ้นทาบบนแผ่นหลังกว้างแล้วก็ซุกตัวเข้าหาอ้อมอกของคนตรงหน้ามากขึ้น มือใหญ่ที่ลูบแผ่นหลังให้เขาถ่ายทอดความอบอุ่นมาให้ เช่นเดียวกับที่ภัทรได้รับมาตลอดตั้งแต่วันแรกที่เริ่มคบกัน และนั่นก็ทำให้เขารู้สึกราวกับอะไรบางอย่างที่คอยหน่วงรั้งในอกได้รับการปลดพันธนาการออกจนตัวเบาไปทั้งร่าง

ถ้าหากเป็นคนคนนี้...ถ้าเป็นคุณเชษฐ์...เขาเชื่อว่าตนเองจะยินดีรอวันที่อีกฝ่ายทวงสิทธิ์ ‘ของรางวัล’ ในอนาคตอันใกล้นี้ได้แน่

“ครับ…”

“ฉันรักเธอนะ”

ภัทรตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินจนยืนตัวแข็ง จริงอยู่ว่าตลอดสามเดือนที่ผ่านมา เชษฐ์ใช้ถ้อยคำและการกระทำต่างๆที่แสดงออกถึงความรู้สึกที่มีให้เขาอยู่เสมอ แต่ว่านี่เป็นครั้งแรกจริงๆที่เขาได้ยินคำว่า 'รัก' จากปากอีกฝ่ายอย่างเต็มสองหู และความรู้สึกที่ตามมาหลังได้ยินคำนี้ก็ผสมปนเปไปหมดจนภัทรคิดคำพูดโต้ตอบไม่ออก

“ผม...”

ภัทรอ้ำอึ้ง เขาควรจะตอบรับออกไป หรืออย่างน้อยก็ทำให้เชษฐ์รู้ว่าเขาคิดเหมือนกัน แต่ภัทรกลับไม่สามารถเปล่งเสียงคำนั้นออกมาได้อย่างง่ายดายอย่างที่ต้องการ และความกลัวว่าเชษฐ์จะเข้าใจผิดที่เขาไม่ตอบรับก็ทำให้ภัทรรีบเงยหน้าขึ้นสบตาอีกฝ่าย ริมฝีปากบางเผยอขึ้น ทว่าไม่มีเสียงใดหลุดลอดออกมา

พูดสิ ภัทร…พูดอะไรสักคำ อะไรก็ได้

ทั้งที่บอกตัวเองเช่นนั้น แต่ชายหนุ่มกลับยิ่งรู้สึกว่าในหัวตื้อมากขึ้น หัวคิ้วเรียวโก่งมุ่นเข้าหากันด้วยความร้อนรน มือทั้งสองกำเสื้อผ้าฝ้ายบนบ่าของคนตรงหน้าแน่นจนเหมือนกับจะทึ้ง แล้วร่างเพรียวก็สะดุ้งเมื่ออีกฝ่ายก้มลงใช้ริมฝีปากแนบลงประทับริมฝีปากของเขาไว้

“อื้อ...”

ชายหนุ่มพูดอะไรไม่ออกอีก ทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้อยู่ในคอ แต่แล้วหัวใจที่เต้นรัวเพราะความกระวนกระวายก็ค่อยผ่อนจังหวะลงจากริมฝีปากอุ่นที่แตะแนบลงมาซ้ำๆราวจะเอ่ยปลอบเขาว่าไม่จำเป็นต้องรีบร้อน มือใหญ่ข้างหนึ่งที่เลื่อนจากเอวผอมขึ้นแนบบนแก้มราวจะตอกย้ำสารนั้นให้ชัดเจนยิ่งขึ้น

ริมฝีปากบางเลื่อนช้าๆจากริมฝีปากของภัทรไปบนโหนกแก้ม ก่อนจะหยุดอ้อยอิ่งอยู่บนเปลือกตา ชายหนุ่มสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นจากปลายจมูกโด่งที่ระอยู่บนหน้าผาก กว่าจูบที่อวลด้วยความหวานซ่านจะจบลง เขาก็ไม่รู้สึกถึงความหนาวของลมทะเลยามค่ำเลยสักนิด วงแขนแกร่งกระชับรอบร่างของภัทรแน่นขึ้นก่อนที่เชษฐ์จะเกยคางลงบนกระหม่อมของคนในอ้อมแขน

ทั้งสองยืนเงียบในอ้อมแขนของกันและกันอยู่ครู่ใหญ่ เสียงทุ้มอ่อนโยนจึงเอ่ยขึ้นเบาๆ “ถ้ายังไม่พร้อมจะพูดก็ไม่ต้องบังคับตัวเองหรอก แค่เธอไม่รังเกียจเวลาฉันจูบก็พอแล้ว”

เชษฐ์พูดพลางลูบท้ายทอยของภัทรไปด้วย แม้คำพูดของอีกฝ่ายจะสะท้อนความเอาใจใส่อย่างเต็มเปี่ยม แต่เมื่อภัทรนึกย้อนกลับไปถึงความทรงจำของทั้งคู่นับตั้งแต่จูบแรก ชายหนุ่มก็อดย่นจมูกแล้วติงเสียงเบาไม่ได้

"คุณเชษฐ์ จูบผมไปกี่ครั้งแล้วล่ะครับ เพิ่งจะมาพูดเอาป่านนี้เหรอ?"

คนถูกถามเลิกคิ้ว ร่างสูงใหญ่ถอยตัวออกแล้วมองเข้าไปในดวงตาเรียวตรงๆ

"แล้วก่อนหน้านี้เคยมีปัญหาไหมล่ะ?"

น้ำเสียงกวนๆกับรอยยิ้มของคนถามทำให้ภัทรนึกอยากแกล้งกลับด้วยการตอบว่ามี แต่ความจริงก็คือ ถึงแม้ว่าจะขัดเขินหรือลำบากใจในบางครั้ง แต่ภัทรไม่เคยนึกรังเกียจสัมผัสของอีกฝ่ายอย่างจริงจังเลย และเขาก็ไม่อยากโกหกในเรื่องสำคัญเช่นนี้

เพราะคุณบอกว่ารักผมหรอกนะ...

"กลับห้องกันดีกว่าครับคุณเชษฐ์ ผมง่วงแล้ว"

ภัทรตัดสินใจเลี่ยงที่จะตอบด้วยการเฉไฉไปเรื่องอื่นแทน ชายหนุ่มปล่อยมือจากบ่ากว้างแล้วก็ปลีกตัวเดินนำกลับไปที่ห้องพัก เชษฐ์ที่เดินตามหลังโดยเว้นระยะห่างสองสามก้าวจึงหัวเราะในคอ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดกระเซ้าเย้าแหย่คนที่เดินนำอยู่ข้างหน้าอีก

หลังจากถึงห้องซึ่งขณะนั้นเป็นเวลาเกือบสี่ทุ่ม ทั้งสองก็เปิดโทรทัศน์ดูรายการข่าวอีกนิดหน่อยก่อนจะทำธุระส่วนตัวและปิดไฟเตรียมเข้านอน แต่แม้ว่าจะเพลียจากการแข่งว่ายน้ำเมื่อยามบ่าย ภัทรก็ยังไม่ได้ปิดตาหลับลงในทันที ชายหนุ่มยังคงนอนหงายโดยประสานมือทั้งสองไว้เหนืออก นัยน์ตาเรียวจับจ้องเพดานห้องขณะที่นอนฟังเสียงทะเลและเสียงหายใจของคนที่นอนอยู่ข้างตัวไปเรื่อยๆ

วันนี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นเยอะเหลือเกิน เยอะจนเขาทำใจให้นอนหลับไม่ได้ง่ายนัก

"นอนได้แล้ว ไหนเมื่อกี้บอกว่าง่วงไง"

ภัทรสะดุ้งเมื่อจู่ๆก็ได้ยินเสียงของเชษฐ์ทั้งที่คิดว่าหลับไปแล้ว พอเอียงหน้าไปหา แสงจากโคมไฟตรงระเบียงที่ลอดม่านหน้าต่างเข้ามาก็ทำให้เห็นว่าอีกฝ่ายนอนลืมตามองเขาอยู่

ร่างเพรียวตะแคงตัวไปหาคนข้างๆทั้งตัว ตอนนี้เขาไม่นึกหนักใจกับการนอนเคียงข้างคุณผู้จัดการแล้ว เพราะถึงแม้บางครั้งอีกฝ่ายจะชอบมัดมือชกเขา แต่กับเรื่องที่ละเอียดอ่อนจริงๆ เชษฐ์จะไม่บังคับ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในห้องน้ำเมื่อตอนบ่ายเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดี

"ขอโทษครับ ผมทำให้ตื่นหรือเปล่า?"

ภัทรถามเสียงเบาเพราะไม่แน่ใจว่าคนข้างตัวง่วงอยู่หรือไม่ แต่แล้วก็ต้องสะดุ้งอีกเมื่อมือใหญ่เลื่อนลงไปรั้งสะโพกของเขาให้เข้าไปเบียดกับหน้าขาของตัวเอง

"ตอนนี้น่ะยัง แต่ถ้าเธอยังไม่ยอมนอนอีกล่ะก็…ไม่แน่"

"คุณเชษฐ์!!"

ภัทรโวยวายแล้วก็รีบปัดมือใหญ่ให้พ้นตัวเป็นพัลวัน เพราะถึงจะบอกว่ายังไม่ตื่น แต่ด้วยสรีระของผู้ชาย ไม่ว่าใครที่โดนกระตุ้นเข้าก็ตื่นตัวได้ง่ายๆกันทั้งนั้น นัยน์ตาที่ฉายรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ยิ่งทำให้ภัทรนึกอยากถองคนที่นอนอยู่ข้างๆมากเข้าไปอีก

“เธอก็นอนสักทีสิ ทีเมื่อกี้ยังบอกว่าเหนื่อยอยู่เลย หรือว่ามัวแต่คิดมากเรื่องอะไรอยู่ถึงนอนไม่หลับ?”

คราวนี้คนตัวใหญ่รั้งเอวเขาไปกอดเอาไว้หลวมๆ แต่ว่าไม่ได้แกล้งเบียดร่างกายเข้าหาเหมือนเมื่อครู่อีก ภัทรจึงเหลือบตามองคนถามแล้วก็เม้มริมฝีปากอย่างชั่งใจ

คงไม่เป็นไรมั้ง...ก็แค่ลองถามดูเฉยๆเท่านั้นเอง

“พรุ่งนี้เราต้องรีบกลับกันหรือเปล่าครับ? ผมกำลังคิดว่า...ถ้าหากจะชวนไปเยี่ยมน้าของผมที่จันทบุรีด้วยกัน คุณเชษฐ์จะสะดวกไหม”

ภัทรถามพลางสบตาคนตรงหน้านิ่ง ที่เขายังนอนไม่หลับเมื่อครู่ก็เพราะมัวแต่คิดเรื่องนี้ ความจริงการไปเยี่ยมครอบครัวเขาไม่ใช่เรื่องใหญ่เพราะว่าทั้งน้าสาวและน้าเขยต่างเป็นคนใจดี เพียงแต่ภัทรก็ไม่แน่ใจว่าเชษฐ์จะพร้อมทำความรู้จักกับญาติผู้ใหญ่ของเขาหรือยัง

“น้าของเธอ? ที่เคยบอกว่าช่วยดูแลเธอกับพี่สาวหลังจากพ่อกับแม่เสียน่ะเหรอ?”

เชษฐ์ถามขึ้น ภัทรจึงพยักหน้า เขาเคยเล่าให้อีกฝ่ายฟังถึงเรื่องครอบครัวของตัวเองบ้าง แต่ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องทั่วๆไปเท่านั้น เขาไม่เคยเล่าถึงเรื่องที่หลังจากเลิกกับธรแล้วก็ไปอาศัยที่บ้านสวนของน้าเพื่อทำใจเรื่องนี้ เพราะเพียงแค่นึกถึงเรื่องในตอนนั้นเมื่อใดก็จะรู้สึกเหมือนมีอะไรจุกในอกจนไม่อยากเอ่ยถึง

“ครับ...พอดีผมเห็นว่าขับไปจากนี่อีกหน่อยเดียวก็จันทบุรีแล้ว แต่ถ้าหากคุณเชษฐ์ต้องรีบกลับ…ก็....เอาไว้คราวหน้าก็ได้”

ภัทรเอ่ยอย่างเกรงใจพลางเหลือบตาลงต่ำ เขาคิดถึงน้าทั้งสองก็จริง แต่ก็ไม่ต้องการทำให้อีกฝ่ายรู้สึกเหมือนเขากำลังบังคับให้ไปเจอครอบครัว เพราะนั่นไม่ใช่ความตั้งใจของเขาแม้แต่นิด นัยน์ตาเรียวกะพริบถี่เมื่อจู่ๆอีกฝ่ายก็ยกนิ้วขึ้นเกลี่ยผมที่ลงมาปรกหน้าผากให้ เมื่อภัทรเหลือบตาขึ้นก็พบว่านัยน์ตาคมกำลังทอยิ้ม

“ไปสิ ญาติคนสำคัญของเธอใช่ไหมล่ะ? งั้นก็รีบนอนซะ พรุ่งนี้เช็คเอ๊าท์กันแต่เช้าหน่อย จะได้มีเวลาเยี่ยมน้าเธอได้ทั้งวัน”

“คุณเชษฐ์ไม่มีปัญหาเหรอครับ?”

ภัทรเอ่ยถามอย่างแปลกใจ เขาไม่คิดว่าเชษฐ์จะตอบตกลงง่ายดายเช่นนี้ เพราะขนาดมาเที่ยวกันแท้ๆ อีกฝ่ายก็ยังติดคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คมาทำงานด้วย ภัทรได้รู้มาบ้างว่าโปรเจ็กต์ใหม่ที่ท่านประธานมอบหมายให้เชษฐ์ดูแลทำให้ต้องติดต่อสปอนเซอร์หลายรายเพื่อหาเงินมาสนับสนุนงบประมาณที่ค่อนข้างจำกัดของบริษัท ซึ่งทั้งนี้ก็มาจากผลประกอบการโดยรวมที่ลดลงตั้งแต่ปีที่แล้วนั่นเอง ดังนั้นที่อีกฝ่ายพาเขามาทะเลคราวนี้ก็อาจจะเพื่อพักผ่อนทิ้งท้ายก่อนที่จะต้องกลับไปลุยงานใหญ่ก็เป็นได้

“ไหนๆก็มาถึงนี่กันแล้วนี่นา อีกอย่างกว่าฉันจะมีเวลาพาเธอไปไหนได้อีกก็คงต้องหลังจบโปรเจ็กต์ที่คุณปรีชาให้มาก่อนนั่นแหละ อุตส่าห์มีโอกาสได้ไปเยี่ยมครอบครัวของเธอด้วยกันทั้งทีก็ต้องไปสิ”

เชษฐ์เอ่ยพลางลูบหลังของภัทรไปมา และคราวนี้คนในอ้อมแขนก็ยิ้มออกมาได้ ภัทรพยักหน้าแล้วก็ขยับตัวเข้าหาร่างสูงใหญ่ที่นอนอยู่ข้างๆ แขนเรียวข้างหนึ่งยกขึ้นโอบเอวอีกฝ่ายบ้างก่อนจะซุกหน้าลงและเอ่ยเสียงเบา

“ขอบคุณนะครับคุณเชษฐ์”

ภัทรระบายลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก ชายหนุ่มตั้งใจว่าวันรุ่งขึ้นจะรีบตื่นมาโทรหาน้าจินแต่เช้า จะบอกให้รู้ว่าเขาจะไปเยี่ยม และจะพาคนสำคัญของเขาในตอนนี้ไปหาด้วย น้าจินคงดีใจที่เห็นว่าเขามีคนที่ดีคอยดูแลอยู่ข้างๆแล้ว

เสียงคลื่นทะเลกับอ้อมแขนอุ่นทำให้ภัทรผ่อนคลายจนเริ่มรู้สึกง่วง นัยน์ตาเรียวปิดลงช้าๆด้วยความรู้สึกสบายใจอย่างที่ไม่ได้รู้สึกมานาน และสิ่งสุดท้ายที่เขารับรู้ก่อนจะหลับสนิทก็คือริมฝีปากอุ่นของคนข้างตัวที่แนบลงบนหน้าผาก


TBC. in next episode นะ จ๊ะ

ออฟไลน์ kun

  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 3592
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +122/-10
จิ้มๆๆๆ

คุณเชษฐ์เนี่ยทำให้ทะเลหวานได้ด้วยอ่ะ


 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด