แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: แค่สบตา ก็รู้ว่ารัก - ตอนพิเศษ P.25 [18.11.13]  (อ่าน 368973 ครั้ง)

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
บอกให้ไปทะเลใกล้ๆ กรุงเทพฯ ไง   :z3:  :z3:

ใจเย้นนนนน ป้าปั่นยู้ (อารมณ์ประมาณปั่นจักรยานไปทะเลน่ะเจ้าค่ะ กรั๊กๆๆ)

ฮืออ ทำไมออฟฟิศเค้ามันไม่หยุดชดเชยวันแรงงานฟร้า จะได้ปั่นนิยายซะหน่อย เสาร์นี้ก็ต้องทำงานอี๊กกก
 :z3:

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
พิจารณาจากเวลาที่แปะ
คุณเชษฐ์กำลังจะพาน้องภัทรไปทะเล
แต่ตอนนั้นเราก็อยู่ทะเลแล้ว

ตอนนี้สองหนุ่มเขากำลังซ้อมฮันนิมูนที่ทะเลแห่งไหนน้อ
คุณเชษฐ์ก็ไม่ธรรมดา เล่นเอาน้องภัทรเขินได้ อายได้เป็นระยะๆ
แบบนี้ไปทะเลจะพาน้ำทะเลหวานไปด้วยมั้ยเนี่ย หุหุ

ขอบคุณมากนะคะ
ช่วงนี้นานๆเข้าเล้า เพิ่งจะได้มาอ่านเลยค่ะ
บวก 1 แต้มจ้า จุ๊บๆ

ออฟไลน์ LalaBam

  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2864
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +227/-2
อืม
เพิ่งเข้ามาอ่านจร้า
ชอบชื่อภัทรกรมากๆเลย

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ป้าย่องมาลงครึ่งแรกให้ตกใจเล่น  :m32:


9. (1/2)

ทะเล?
 
ภัทรเลิกคิ้วมองคนตรงหน้าอย่างไม่ค่อยอยากเชื่อหู ก็จริงอยู่หรอกที่สุดสัปดาห์นี้ทั้งคู่ไม่มีธุระปะปังที่ทำให้ไปเที่ยวต่างจังหวัดด้วยกันไม่ได้ แต่แค่การที่จู่ๆเขาก็โดนชวนแกมบังคับให้มาค้างที่บ้านด้วยเมื่อคืนก่อนโดยไม่ได้เตรียมตัวก็ทำให้ประหลาดใจมากอยู่แล้ว พอมาได้ยินว่าวันนี้กำลังจะถูกพาไปทะเล ภัทรเลยยิ่งงุนงงหนักเข้าไปใหญ่ เพราะปกติเชษฐ์จะเป็นคนที่วางแผนในการทำอะไรล่วงหน้าเสมอ แต่คำชวนเมื่อครู่นั้นราวกับอีกฝ่ายก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้เอาเมื่อครู่นี่เอง แถมปุบปับก็จะทำตามที่เพิ่งคิดทันทีอีก จู่ๆนึกอะไรของเขาขึ้นมาเนี่ย?
 
"คุณเชษฐ์ เดี๋ยวก่อนครับ จะไม่ถามผมก่อนเหรอว่าจะไปด้วยหรือเปล่าน่ะ?"
 
ภัทรยื้อแขนที่กำลังโดนจูงเข้าบ้านไว้ เขาไม่ได้มีเรื่องติดขัดจนทำให้ไปเที่ยวไม่ได้ก็จริง แต่ดูเหมือนถ้าหากเขาไม่พูดอะไรบ้าง อีกฝ่ายคงย่ามใจว่าเขาว่าง่ายหัวอ่อน จะจูงไปทางซ้ายก็ไปทางซ้าย จะพาเลี้ยวไปทางขวาก็ไม่มีปากเสียงเสียกระมัง
 
เชษฐ์หยุดฝีเท้า ก่อนจะหันกลับมาถามด้วยน้ำเสียงเรียบๆ
 
"หมายความว่าเธอจะไม่ไป?"
 
"ก็...เอ่อ..."
 
พอถูกถาม ภัทรก็ตอบตะกุกตะกัก พลันมือใหญ่ก็ผละไปจากมือของเขา พอเงยหน้าขึ้นและเห็นสีหน้าเรียบเฉยของคนถาม คราวนี้คนที่ทำท่าอิดออดเลยจะชักร้อนใจขึ้นมาเสียเอง
 
อย่าบอกนะว่านี่เขายังโดนงอนเรื่องบ่ายวานนี้ที่ออฟฟิศอยู่น่ะ หรือว่า...จะเป็นเรื่องท่าทางของเขาตอนที่ได้เห็นคนรักเก่าเมื่อคืนกันแน่
 
ชายหนุ่มหลบตาลงมองมือที่โดนเชษฐ์เกาะกุมไว้จนถึงเมื่อครู่ ไออุ่นที่ยังห่อหุ้มมือเรียวเริ่มเจือจางจนภัทรใจหาย แล้วก็ให้นึกระอากับความเป็นคนช่างใจอ่อนของตัวเองขึ้นมา
 
"...ไปครับ"
 
ภัทรตอบแล้วก็เหลือบตาขึ้น ทำให้ทันเห็นรอยยิ้มที่แต้มอยู่บนมุมปากและนัยน์ตาของคนตัวใหญ่ขณะที่กำลังหมุนตัวกลับเข้าไปในบ้าน ชายหนุ่มจึงฉุกคิดได้ว่าความจริงแล้วเชษฐ์ไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจเขา แต่แกล้งหลอกถามเพื่อให้เขาออกปากว่าจะไปด้วยความตั้งใจของตัวเองต่างหาก
 
ร่างเพรียวยกมือขึ้นกอดอก ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะยิ้มหรือจะทำหน้าบึ้งใส่คนตัวใหญ่ที่หยุดรอเขาอยู่หน้าบันไดดี เสียงเครื่องดูดฝุ่นที่เมื่อครู่ดังก้องอยู่ในห้องนั่งเล่นแผ่วลงไปแล้ว คงเพราะป้าแย้มย้ายที่ไปทำความสะอาดในห้องครัวแทนแล้วนั่นเอง
 
เจ้าเล่ห์เหลือเกินนะ....คุณผู้จัดการ
 
ภัทรนึกค่อนแบบไร้เสียง ก่อนจะเร่งฝีเท้าตามขึ้นบันไดจนแซงคนตัวใหญ่และเข้าไปในห้องนอนได้ก่อน จากนั้นก็รีบฉวยกางเกงแสล็คที่ใส่ไปทำงานเมื่อวานซึ่งพาดไว้บนราวแขวนข้างตู้เสื้อผ้า ถึงแม้เขาสองคนจะกำลังคบกัน แถมเมื่อคืนยังนอนใต้ผ้าห่มผืนเดียวกันแล้วด้วย แต่ภัทรก็ยังทำใจถอดเสื้อผ้าเพื่อผลัดเปลี่ยนโดยมีคนตัวใหญ่ยืนอยู่ในห้องด้วยไม่ไหว เชษฐ์ที่เดินตามเข้ามาเลิกคิ้วเมื่อเห็นภัทรเดินสวนกับตนที่หน้าประตูเพื่อจะออกไปเข้าห้องน้ำ แต่โชคดีที่อีกฝ่ายดูจะเข้าใจความต้องการความเป็นส่วนตัวของเขาอยู่บ้าง จึงไม่ได้เอ่ยค้านแถมยังเบี่ยงตัวหลบให้ ถึงแม้รอยยิ้มที่สะท้อนในแววตาหลังเลนส์แว่นนั้นจะทำให้ภัทรนึกหมั่นไส้อยู่นิดๆก็ตามที
 
หลังเข้าห้องน้ำและปิดประตูลงกลอนเรียบร้อย ร่างเพรียวก็ถอดกางเกงวอร์มออกแล้วเปลี่ยนเป็นกางเกงแสล็คที่หยิบมา ส่วนเสื้อนั้นก็ตัดสินใจใส่เสื้อยืดคอกลมตัวเดิมที่ใส่นอน เนื่องจากเนื้อผ้ายืดสีเทาอ่อนไม่ได้บางจนถึงกับไม่เหมาะจะใส่ออกไปข้างนอก และที่สำคัญ เสื้อเชิ้ตที่เขาใส่ไปทำงานเมื่อวานก็ยับหลังจากโดนถอดตอนอาบน้ำไปแล้ว เมื่อเปลี่ยนกางเกงเสร็จเรียบร้อย ภัทรจึงพับกางเกงนอนที่ถอดออกแล้วก็ถือกลับไปที่ห้องนอน จากนั้นก็ผลักประตูที่แง้มไว้นิดๆเข้าไปเพราะคิดว่าเชษฐ์คงกำลังจัดเสื้อผ้าใส่กระเป๋าอยู่ แต่แล้วคนที่เพิ่งเข้ามาก็ต้องชะงักฝีเท้าอย่างกะทันหัน
 
ดูเหมือนภัทรจะประเมินสปีดในการจัดของของเชษฐ์น้อยไป เพราะท่าทางเจ้าของห้องจะจัดเสื้อผ้าเสร็จไปนานแล้ว หลักฐานก็คือกระเป๋าผ้าใบซึ่งมีสองหูหิ้วแบบที่นักกีฬาชอบใช้กันซึ่งวางอยู่บนเตียง ซิปที่รูดปิดไม่สนิททำให้เห็นเสื้อที่ถูกใส่ไว้ข้างใน ส่วนแว่นตากรอบเงินที่เชษฐ์ใส่ประจำก็วางอยู่บนเตียงไม่ห่างจากกระเป๋านัก แต่สิ่งที่สะกดให้ภัทรยืนนิ่งคือร่างที่ยืนหันหลังให้เขาอยู่กลางห้องและกำลังรูดซิปกางเกงยีนส์อยู่ต่างหาก
 
แม้แสงอาทิตย์ที่สาดเฉียงๆเข้ามาทางหน้าต่างจะทำให้ไม่เห็นรายละเอียดบนแผ่นหลังชัดเจน แต่แสงเงาที่เกิดขึ้นก็ช่วยขับเน้นเส้นสายของโครงร่างสูงใหญ่ได้ดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ส่วนโค้งนูนของมัดกล้ามตั้งแต่ช่วงคอไปจนถึงบ่ากว้าง ลาดต่อกับลำแขนแข็งแรง และแสงเงานั้นก็ยังทำให้เห็นร่องแนวกระดูกสันหลังที่ลากยาวลงจนหายไปใต้ขอบกางเกงยีนส์อีก ถึงแม้ร่างกายของเชษฐ์จะไม่ได้บึกบึนจนน่ากลัวเหมือนนักกีฬาเพาะกล้าม แต่ว่าก็ดูแข็งแรงและอัดแน่นไปด้วยพลังและเสน่ห์ของชายหนุ่มเต็มตัวอย่างที่คนเพศเดียวกันเห็นแล้วยังต้องอิจฉา
 
และนั่นก็รวมไปถึงคนที่กำลังหยุดยืนตัวแข็งอยู่หน้าประตูห้องตอนนี้เช่นกัน ถึงแม้ว่าการใช้คำว่าอิจฉาจะไม่ค่อยตรงเท่าไรนักก็ตาม จริงอยู่ว่าเมื่อคืนนี้ภัทรก็เห็นเชษฐ์เปลือยท่อนบนไปครั้งหนึ่งแล้ว แถมยังได้แนบชิดกับแผงอกอุ่นนั้นไปแล้วด้วย แต่เพราะแสงไฟสลัวในห้องนอนยามกลางคืน ประกอบกับความที่ภัทรเองก็เอาแต่เบนสายตาหนีอีกฝ่าย ทำให้เขาไม่ได้มีโอกาสสำรวจเรือนร่างของเชษฐ์ชัดๆเหมือนกับตอนนี้ และภาพที่ได้เห็นก็ทำเอาภัทรรู้สึกว่าผิวหน้าร้อนวูบวาบไปหมด ทั้งที่คนตรงหน้าก็เป็นบุรุษเพศไม่ต่างกับเขา และใช่ว่าเขาจะไม่เคยเห็นร่างกายของผู้ชายคนอื่นมาก่อนแท้ๆ
 
ภัทรละล้าละลัง ขณะคิดว่าจะแอบถอยออกไปก่อนแล้วกะเวลาว่าอีกฝ่ายน่าจะใส่เสื้อเสร็จค่อยกลับเข้ามาดีไหม ชายหนุ่มก็ต้องสะดุ้งที่ได้ยินเสียงคนตัวใหญ่หัวเราะเบาๆในคอ
 
"จะยืนอยู่หน้าประตูอีกนานมั้ย? เดี๋ยวป้าแย้มขึ้นมากวาดชั้นบนแล้วเห็นว่าฉันไม่ใส่เสื้อก็ได้นึกว่าเราทำอะไรกันอยู่หรอก"
 
"หา!?"
 
พอโดนทัก ภัทรก็รีบหันกลับไปปิดประตูทันทีเพราะเกรงว่าแม่บ้านสูงวัยจะเดินขึ้นมาเห็นแล้วสงสัยพวกเขาอย่างที่เชษฐ์บอกจริงๆ และถ้าหากทำให้คนแก่หัวใจวายขึ้นมาเขาคงรู้สึกผิดแน่ๆ แต่เมื่อนึกอะไรขึ้นได้ก็ต้องหันขวับไปหาคนตัวใหญ่ตรงกลางห้อง
 
"คุณเชษฐ์ รู้ตั้งแต่ตอนไหนว่าผมเดินเข้ามา?"
 
ชายหนุ่มถามด้วยความสงสัย เพราะสาเหตุที่เขาเดินเข้าห้องมาเลยโดยไม่เคาะบอกก่อนก็เพราะอีกฝ่ายไม่ได้งับประตูให้สนิทนั่นแหละ เขาจึงไม่ทันเอะใจสักนิดว่าเชษฐ์อาจกำลังเปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ แถมยังคิดว่าจะแอบออกไปโดยที่เจ้าของห้องไม่รู้ได้ด้วยซ้ำ
 
คนตัวใหญ่หันไปหยิบเสื้อแขนสามส่วนสีเขียวขี้ม้าซีดแบบเจาะกระดุมตรงคอแต่ไม่มีปกขึ้นสวม จากนั้นก็หยิบแว่นที่ถอดวางไว้บนเตียงขึ้นสวมพลางตอบคนถามยิ้มๆ
 
"ก็ตรงที่ฉันยืนอยู่นี่มันมองเห็นประตูจากกระจกโต๊ะแต่งตัวได้น่ะสิ ฉันเลยเห็นตั้งแต่ตอนเธอเดินเข้ามาแล้ว นี่ไง"
 
ไม่เพียงอธิบายด้วยคำพูด เชษฐ์เดินมาจูงภัทรให้ไปยืนตรงกลางห้องที่เจ้าตัวยืนเมื่อครู่ เพียงแต่คราวนี้ยืนซ้อนร่างเพรียวจากด้านหลังแล้วจับไหล่ทั้งสองข้างให้หันหน้าเข้าหากระจกเหนือโต๊ะแต่งตัวตรงๆ ไม่ใช่ยืนหันข้างให้กระจกเหมือนตอนที่เจ้าตัวยืนเปลี่ยนเสื้อผ้า ภัทรจึงได้เห็นว่าเพราะมุมที่แสงตกกระทบ คนที่ยืนตรงนี้จึงสามารถมองเห็นประตูได้จริงๆด้วย
 
ทั้งที่รู้ แต่ก็ยังปล่อยให้เขายืนใจหายใจคว่ำอยู่หน้าประตูได้ตั้งนานเนี่ยนะ ภัทรไม่อยากคิดเลยว่าอีกฝ่ายแอบเหลือบมองกระจกแล้วกลั้นหัวเราะอยู่นานแค่ไหนที่เห็นเขาทำท่าเก้ๆกังๆ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาให้ได้ยินจริงๆ ตาบ้า โรคจิต ไอ้ลุงลามก...
 
สรรพนามมีสีสันต่างๆนานาเรียงแถวอยู่ในหัวภัทรได้ไม่เท่าไหร่ ชายหนุ่มก็หายใจสะดุดเมื่อคนด้านหลังปล่อยมือจากไหล่ทั้งสองของเขา ทว่าแทนที่จะปล่อยสองแขนนั้นลงข้างตัว เชษฐ์กลับสอดแขนแข็งแรงทั้งสองข้างมาประสานไว้ตรงช่วงเอวผอมบาง ใบหน้าคมก้มลงจนคางเกยบ่าของคนตัวเล็กกว่า ขาแว่นที่สวมจึงสัมผัสกับผิวแก้มของภัทร รวมทั้งลมหายใจอุ่นที่พรูลงมาอย่างแผ่วเบาด้วย ภัทรพยายามจะคิดว่าอุณหภูมิอุ่นจัดที่รู้สึกบนบริเวณนั้นมาจากลมหายใจของคนตัวใหญ่ มากกว่าที่จะเป็นเพราะเลือดที่ไหลไปสูบฉีดรวมกันอยู่ใต้ผิวหน้าของเขา ถึงแม้ว่าภาพที่สะท้อนจากในกระจกจะฟ้องว่าเขาหลอกตัวเองไม่สำเร็จก็ตาม
 
"จะกลับไปเอาเสื้อผ้าที่คอนโดเธอก่อนมั้ย? หรือจะไปกันเลยแล้วค่อยไปหาเอาที่โน่นดีกว่า เดี๋ยวฉันซื้อให้ก็ได้ ค้างคืนเดียวใช้เสื้อผ้าไม่กี่ชิ้นหรอก"
 
สัมผัสผะแผ่วจากริมฝีปากที่ขยับอยู่ไม่ห่างผิวแก้มทำให้ภัทรจั๊กกะจี้ แต่แล้วก็ให้รู้สึกใจไม่สงบกับประโยคที่อีกฝ่ายพูดออกมา อะไรบางอย่างในแววตากับน้ำเสียงของคนตัวใหญ่ทำให้เขารู้สึกว่าต้องพูดอะไรสักอย่าง จึงรีบขืนตัวออกจากอ้อมอกอุ่นแล้วหันกลับไปหาคนด้านหลัง

เชษฐ์เลิกคิ้วกับท่าทางที่แปลกไปอย่างกะทันหันของคนตัวเล็กกว่า ภัทรจึงเม้มปาก ถึงแม้เขาจะไม่มั่นใจนักว่าตัวเองคิดมากเกินไปหรือไม่ แต่ยังไงก็ควรจะป้องกันไว้ก่อนดีกว่า
 
"ผมว่ากลับไปเอาเสื้อผ้าของผมก่อนดีกว่าครับ อีกอย่างเลยคอนโดผมไปหน่อยเดียวก็ขึ้นทางด่วนออกนอกเมืองได้แล้ว คุณเชษฐ์จะได้ไม่ต้องซื้อเสื้อผ้าใหม่เพิ่มให้ด้วย สิ้นเปลืองเปล่าๆ"
 
จริงอยู่ว่าภัทรเคยคบกับชายอื่นมาก่อน แม้จะห่างเหินความสัมพันธ์ทางกายไปถึงสองปีจนเรียกได้ว่าแทบจะไม่ชินจนกระทั่งเชษฐ์ก้าวเข้ามา แต่เขาก็พอจะรู้ว่าความหมายของการที่ฝ่ายหนึ่ง 'ซื้อเสื้อผ้า' ให้อีกฝ่ายสื่อความหมายแบบไหน ถึงแม้ว่าแม้แต่เสื้อตัวที่ใส่อยู่ตอนนี้ก็เป็นของที่อีกฝ่ายซื้อให้ก็ตาม แต่เขาก็ไม่อยากให้เชษฐ์คิดว่าเขาง่าย...เพียงเพราะเขาเคยมีประสบการณ์แล้ว เขายอมรับว่าความอ่อนโยนของอีกฝ่ายทำให้เขาหวั่นไหว แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เขาถลำลึกไปกับความสัมพันธ์ทางกายโดยไม่นำความเจ็บปวดของรักแรกมาเป็นบทเรียน
 
เชษฐ์ยืนมองคนตัวเล็กกว่าอยู่ครู่หนึ่ง ส่วนภัทรได้แต่ยืนนิ่งมองแผ่นอกกว้างตรงหน้า เสื้อยืดที่เชษฐ์ใส่ไม่ได้ถึงกับเข้ารูปจนเน้นสัดส่วนชัดเจน แต่เพราะเนื้อผ้าที่ทิ้งตัวแนบกับช่วงไหล่และแผงอกทำให้เห็นโครงร่างแข็งแรงที่ซ่อนอยู่ใต้เสื้อได้ลางๆ แรงผลักดันบางอย่างทำให้เขาอยากขยับเข้าไปหาและแนบหน้าลงกับแผงอกกว้างที่อบอุ่นนั้น แต่ภัทรก็พยายามเตือนตัวเองให้หยุดเอาไว้ เพราะถึงแม้การกระทำของเขาจะเป็นไปเพียงเพราะโหยหาความอบอุ่นจากอีกฝ่ายโดยไม่ต้องการอะไรมากกว่านั้น แต่นั่นอาจจะทำให้เชษฐ์ตีความหมายการกระทำของเขาผิดไปก็ได้
 
ทั้งสองยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ ก่อนที่ภัทรจะเงยหน้าขึ้นเพราะถูกมือใหญ่ข้างหนึ่งยกขึ้นบีบไหล่เบาๆ ชายหนุ่มจึงได้เห็นแววตาและรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความเข้าใจของคนที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
 
"ถ้าอย่างนั้นก็ตามใจ งั้นก็ไปกันเถอะ จะได้รีบเดินทางกันก่อนจะบ่าย"
 
 
++------++
 
 
“อ้าว? จะไปแล้วเหรอคะคุณเชษฐ์? ป้านึกว่าจะออกกันตอนบ่าย ว่าจะถามอยู่เชียวว่าจะให้ทำข้าวกลางวันให้ก่อนหรือเปล่า”

หญิงชราทักขึ้นเมื่อเห็นทั้งสองเดินลงจากบันได ดูจากตะกร้าผ้าในมือทำให้รู้ว่าคงกำลังจะเอาผ้าที่เพิ่งซักเสร็จออกไปตาก เชษฐ์จึงเดินเข้าไปหาแล้วก็ส่ายหน้า

“ไม่ต้องหรอกครับป้า เดี๋ยวพวกผมไปหาทานเอาข้างนอก ยังไงผมฝากเปลี่ยนเครื่องนอนในห้องผมกับซักผ้าเช็ดตัวให้ด้วยก็แล้วกัน แล้วถ้าพรุ่งนี้ไม่มีอะไรป้าก็ไม่ต้องเข้ามาก็ได้ เพราะกว่าพวกผมจะกลับก็คงมืดแล้ว”

“อ๋อ งั้นเดี๋ยวป้าแวะมาให้อาหารปลาตอนเช้ากับตอนเย็นก็แล้วกันค่ะ นั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างมาแค่แป๊บเดียวไม่ลำบากหรอก”

แม่บ้านสูงวัยยิ้มพลางถามเรื่องจิปาถะอีกนิดหน่อยจากเชษฐ์เกี่ยวกับงานบ้านส่วนอื่นๆ ภัทรสังเกตได้ว่า แม้ว่าอีกฝ่ายจะเป็นแม่บ้านที่ถูกจ้างมา แต่เชษฐ์ก็จะพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนราวกำลังคุยกับญาติผู้ใหญ่ และงานที่เจ้าตัวเอ่ยฝากฝังนั้นก็เป็นเพียงงานบ้านง่ายๆที่ไม่ต้องใช้แรงมากมาย ส่วนท่าทางยิ้มแย้มและกระตือรือร้นของคนรับฝากก็ทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเต็มใจจะทำงานที่เจ้าของบ้านบอกด้วยความยินดีเช่นกัน หลังจากลาผู้สูงวัยและขึ้นรถออกมาพ้นรั้วบ้านแล้ว ภัทรจึงหันไปชวนคนข้างตัวคุย

"ดูป้าแย้มแกชอบทำงานมากเลยนะครับ"
 
คนที่กำลังขับรถหยิบแว่นกันแดดสีเข้มขึ้นมาเปลี่ยนใส่แทนแว่นสายตา จากนั้นก็ตอบยิ้มๆโดยไม่ละสายตาจากถนน "แกเป็นคนขยันมาแต่ไหนแต่ไรแล้วล่ะ สมัยยังสาวกว่านี้แกก็ทำงานเป็นแม่บ้านอยู่ที่ออฟฟิศของเรานั่นแหละ แต่พอลูกหลานเรียนจบมีงานทำกันหมดก็ขอให้แกหยุดอยู่บ้าน อีกอย่างเพราะว่ามันต้องเดินทางไกลด้วย แต่ป้าแย้มแกเคยทำงานมาก่อนก็เลยติดนิสัยอยู่เฉยๆไม่ได้ ฉันเลยจ้างให้มาช่วยดูแลบ้านให้นี่แหละ"
 
ภัทรนั่งฟังแล้วก็พยักหน้าโดยไม่ได้แสดงความเห็นเพิ่มเติม แต่จากข้อมูลที่ได้ยินก็ทำให้เขาเรียนรู้ว่า ที่แท้คุณผู้จัดการโปรเจ็กต์ที่ลูกน้องชอบบอกว่าดุและเข้มงวดนั้น ความจริงเป็นคนเอาใจใส่คนอื่นกว่าที่ใครๆรู้
เพราะแม้แต่แม่บ้านที่เคยทำงานที่บริษัทและตอนนี้เกษียณอายุแล้ว อีกฝ่ายก็ยังช่วยหางานให้และไม่ได้ปฏิบัติด้วยอย่างถือตัวว่าเป็นคนที่มาจากคนละระดับชั้น ภัทรจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมป้าแย้มจึงให้ความชื่นชมและเคารพเจ้านายคนนี้อย่างจริงใจ แถมยังดูยินดีจะทำทุกอย่างที่อีกฝ่ายบอกโดยไม่บ่นอีกด้วย
 
"ยิ้มอะไรน่ะ?"
 
คนกำลังขับรถเหลือบตามองคนตัวเล็กกว่าแล้วก็ถามขึ้น ภัทรถึงได้รู้ตัวว่าตัวเองกำลังยิ้ม จึงตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่รู้ไม่ชี้ ทว่าก็ไม่สามารถหุบยิ้มบนใบหน้าได้อยู่ดี
 
"เปล่าครับ คุณเชษฐ์คิดไปเองน่ะสิ"
 
ภัทรได้ยินเสียงเชษฐ์หัวเราะในคอเบาๆ แต่ว่าก็ไม่ได้พูดอะไรต่ออีก ไม่นานทั้งสองก็มาถึงคอนโดเนื่องจากการจราจรในวันเสาร์ไม่ค่อยติดขัด ภัทรจึงให้คนตัวใหญ่รอในรถระหว่างที่เขาขึ้นไปเก็บเสื้อผ้า แม้จะรู้ว่าการไม่เชิญอีกฝ่ายขึ้นไปที่ห้องอาจจะดูเสียมารยาท แต่เขาไม่แน่ใจนักว่าตัวเองกล้าให้เชษฐ์เข้าไปเยี่ยมห้องตอนนี้ ก็ตั้งแต่วันหยุดที่แล้วเขาก็ยังไม่ได้ทำความสะอาดเลยนี่นา
 
เชษฐ์ขมวดคิ้วเมื่อเห็นคนตัวเล็กกว่ายืนกรานว่าจะให้รอในรถ แต่สุดท้ายก็ยอมพยักหน้า ทว่าก่อนภัทรจะก้าวลงก็ยังไม่วายเอ่ยสำทับ
 
"ถ้าเกินสิบนาที ฉันจะขึ้นไปตามเองนะ"
 
ภัทรหยิบกระเป๋าของตัวเองขึ้นมาพาดไหล่แล้วก็กลอกตา อดค่อนในใจไม่ได้ว่าไม่มีคีย์การ์ดแล้วจะเข้าไปได้ยังไงเล่า แต่เขาก็รู้ดีว่าอีกฝ่ายแกล้งทำเป็นขู่เพื่อล้อเล่นเท่านั้น ซึ่งก็คงจะมาจากความที่เขาเรื่องมากนั่นเอง แต่อีกใจหนึ่ง ภัทรก็อดคิดไม่ได้ว่าเชษฐ์คงจะนึกว่าที่เขาอิดเอื้อนนักก็เพื่อเอาคืนเรื่องที่โดนบังคับให้ไปนอนบ้านอีกฝ่ายเมื่อคืนนี้กระมัง
 
เมื่อเข้าไปในอาคารแล้ว ภัทรก็รีบกดลิฟต์ขึ้นไปที่ห้องซึ่งอยู่บนชั้นสิบสอง พอไขกุญแจเข้าได้ก็เห็นกองผ้าที่เขาซักแล้วแต่ยังไม่มีเวลาพับวางกองอยู่บนมุมหนึ่งของโซฟา และในบรรดาเสื้อผ้าพวกนั้นก็มีบางชิ้นที่ค่อนข้าง 'เป็นส่วนตัว' ทำให้เขาคิดได้ว่าดีแล้วที่ไม่ปล่อยให้เชษฐ์ตามขึ้นมาด้วย เพราะถึงแม้มันจะเป็นส่วนหนึ่งของเครื่องแต่งกายที่ผู้ชายคนไหนๆก็ต้องใส่ แต่ก็เขายังไม่อยากให้อีกฝ่ายมาเห็นข้าวของพวกนี้นี่นา
 
ตั้งแต่ที่แพนแต่งงานและย้ายออกไปอยู่กับสามีชาวญี่ปุ่นเมื่อห้าปีก่อน ภัทรก็อาศัยในห้องนี้คนเดียวมาตลอด ความจริงพี่สาวเขาก็เคยแนะนำเหมือนกันว่าน่าจะจ้างแม่บ้านมาทำความสะอาดให้แบบรายสัปดาห์ แต่ภัทรเห็นว่าตัวเองอยู่คนเดียว ข้าวของก็ไม่ได้เยอะแยะมากมาย จึงตัดสินใจประหยัดค่าใช้จ่ายและทำทุกอย่างด้วยตัวเอง ซึ่งแม้ว่าอาจจะไม่เรียบร้อยไร้ที่ติเหมือนการมีแม่บ้านมืออาชีพมาทำให้ แต่ก็ถือว่าสะอาดและมีระเบียบในระดับหนึ่ง เพียงแต่เขาก็ยังเขินๆกับการจะให้เชษฐ์มาเห็นห้องของเขาเท่านั้นเอง
 
ความที่เกรงใจคนรอ บวกกับเขาเองก็ไม่มีแก่ใจจะมาทำงานบ้านตอนนี้ ภัทรจึงเอาเสื้อผ้าที่ซักสะอาดแล้วทั้งหมดใส่ตะกร้ารวมกันไว้ก่อนแล้วเอาเข้าไปไว้ในห้องนอน หลังจากเปลี่ยนกางเกงแสล็คที่ใส่กลับมาเป็นกางเกงผ้ายีนส์แทนแล้วก็เปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อเลือกชุดสำหรับไปค้างทะเลหนึ่งคืนออกมา ขณะกำลังจะหยิบกางเกงสำหรับใส่นอนที่พับไว้ตรงมุมหนึ่งของตู้ขึ้นมานั่นเอง สายตาก็สะดุดเข้ากับกล่องสี่เหลี่ยมซึ่งภายในบรรจุของขวัญปีใหม่ที่เขาจับสลากได้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา
 
ภัทรวางกางเกงลงที่เดิม จากนั้นก็หยิบกล่องกระดาษตรงมุมตู้มาเปิดออก กระเป๋าหนังสีน้ำตาลที่ไม่เคยถูกนำมาใช้สักครั้งยังคงดูใหม่เหมือนตอนที่เขาแกะดูครั้งแรกไม่มีผิด

เอาไงดีนะ...

ภัทรเหลือบตามองเสื้อผ้าที่ตั้งใจจะเอาไปทะเลซึ่งวางอยู่ข้างตัว จากนั้นก็มองกระเป๋าหนังสีน้ำตาลในมืออีกครั้ง พอนึกถึงหน้าของคนที่รอเขาอยู่ในรถที่ลานจอดด้านล่าง ชายหนุ่มก็ตัดสินใจได้

หลังจากจัดเสื้อผ้าเสร็จเรียบร้อย ภัทรก็หยิบอุปกรณ์สำหรับอาบน้ำอีกสองสามชิ้นใส่ลงกระเป๋า หลังตรวจดูความเรียบร้อยของห้องอีกครั้งแล้วก็ปิดล็อกประตูและลงลิฟต์ไปชั้นล่าง ส่วนรถยุโรปสีเทาควันบุหรี่คันใหญ่ก็ยังจอดรออยู่ที่เดิม ร่างเพรียวจึงรีบก้าวยาวๆเข้าไปหา
 
"มาแล้วครับคุณเชษฐ์ ขอโทษครับที่ให้รอ"
 
ภัทรเอ่ยหลังจากเปิดประตูรถและก้าวขึ้นนั่งประจำที่ พอวางกระเป๋าลงบนตักแล้วก็หันไปดึงสายเข็มขัดนิรภัยมาคาด แต่แล้วก็ต้องแปลกใจที่เชษฐ์ไม่ได้เอ่ยทักเรื่องที่เขาใช้เวลาเกินสิบนาที แถมยังไม่ออกรถจากลานจอดทันทีอีก พอหันไปหาจึงทำให้ประสานสายตากับอีกฝ่ายที่มองเขาอยู่ก่อน เชษฐ์พยักหน้าไปที่กระเป๋าหนังสีน้ำตาลบนตักของภัทรแล้วก็ทักขึ้นยิ้มๆ
 
"กระเป๋าสวยดีนี่"
 
"อ๋อ..ครับ"
 
ภัทรตอบรับเสียงอุบอิบพลางหลบตาคนข้างตัว เพราะเชษฐ์คงจำได้ตั้งแต่แว่บแรกที่เห็นว่ากระเป๋าที่เขาเอามาใช้ก็คือใบที่จับสลากได้เมื่องานเลี้ยงปีใหม่นั่นเอง ตอนแรกเขาก็ชั่งใจอยู่ว่าจะใช้ใบนี้ใส่เสื้อผ้าไปทะเลดีไหม ในเมื่อลักษณะรูปทรงมันดูเหมาะสำหรับใส่ของหรือเอกสารสำหรับไปทำงานมากกว่า แต่ในเมื่อคนซื้อของขวัญเองก็เคยบอกว่าอยากเห็นเขาใช้กระเป๋าใบนี้บ้าง และภัทรก็เห็นว่าเสื้อผ้าสำหรับไปทะเลคืนเดียวนั้นมีเพียงไม่กี่ชิ้น จึงตัดสินใจเอามาประเดิมใช้กับทริปนี้ไปเสียเลย
 
เชษฐ์ยิ้มแล้วก็เข้าเกียร์ออกรถ ซึ่งขณะนั้นหน้าจอนาฬิกาดิจิตอลในรถก็บอกให้รู้ว่าเป็นเวลาจวนเที่ยงแล้ว หลังออกจากตัวเมืองกันได้ไม่นาน ทั้งสองจึงแวะทานอาหารกลางวันกันระหว่างทาง ปกติภัทรต้องถามแล้วว่าอีกฝ่ายจะพาไปไหน แต่ก็คิดได้ว่าไหนๆวันนี้ก็โดนลากตัวออกมาจากกรุงเทพฯโดยไม่ได้รับการบอกกล่าวล่วงหน้าตั้งแต่ต้น คนพาจะพาไปไหนก็ตามใจแล้วกัน ทว่าเมื่อนั่งรถมาเรื่อยๆจนถึงป้ายทางแยกที่ชี้บอกเส้นทางระหว่างระยองกับจันทบุรี ร่างเพรียวก็ส่งเสียงในลำคอขึ้นมา เชษฐ์จึงหันมามองอย่างสงสัย
 
"มีอะไรหรือเปล่า?"
 
"เปล่าครับ ไม่มี..."
 
เชษฐ์ยังขมวดคิ้ว แต่ว่าก็ไม่ได้ถามซักไซ้ต่อ ภัทรลอบระบายลมหายใจยาวเมื่อทิศทางที่อีกฝ่ายขับรถมุ่งหน้าไปคือทิศที่ไประยอง แต่จะด้วยความรู้สึกโล่งใจหรือเสียดาย...ชายหนุ่มก็ไม่แน่ใจเท่าไหร่นัก
 
หลังจากเข้าไปถึงอำเภอบ้านเพ คนตัวใหญ่ก็ขับรถตรงไปบนถนนที่สองข้างทางถูกขนาบด้วยแนวต้นสนร่มรื่น ฟากหนึ่งของถนนเป็นบ้านพักริมทะเลที่เรียงรายต่อๆกัน ส่วนอีกฟากเป็นชายหาดที่มีเกลียวคลื่นอ่อนๆกำลังม้วนตัวเข้าหาหาดทราย ผืนน้ำสีฟ้าล้อเปลวแดดยามบ่ายจนเป็นประกายระยิบระยับ ภัทรเคยมาเที่ยวทะเลระยองมาก่อนก็จริง แต่ครั้งสุดท้ายที่เขาจำได้นั้นก็ค่อนข้างจะนานมากแล้ว ภาพทิวทัศน์ที่ได้เห็นจึงทำให้ทั้งรู้สึกตื่นเต้นและปลอดโปร่งไปพร้อมกัน
 
หลังผ่านถนนที่ถูกโอบด้วยแนวต้นสนและมีต้นหูกวางขึ้นแซมได้ไม่นาน คนขับก็เลี้ยวรถเข้าไปยังรีสอร์ทแห่งหนึ่งซึ่งมีป้ายทำจากไม้สีเข้มปักบอกไว้ที่ด้านหน้า ตรงทางเดินเล็กๆที่เชื่อมระหว่างลานจอดรถกับล็อบบี้นั้นมีรั้วไม้โค้งที่มีเถาไม้เลื้อยและดอกไม้สีขาวอมม่วงขึ้นปกคลุมจนแทบไม่เห็นโครงรั้ว ส่วนบรรยากาศโดยรอบที่เต็มไปด้วยไม้ยืนต้นก็ช่วยกรองแสงแดดยามบ่ายที่สาดส่องลงมา และช่วยบรรเทาความร้อนระอุให้คนที่เพิ่งออกมาจากรถที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไปนัก หลังจากหยิบกระเป๋าลงจากรถและเดินเข้าไปที่ล็อบบี้กันแล้ว ภัทรก็ได้เห็นว่ารีสอร์ทแห่งนี้มีชายหาดส่วนตัวด้วย ซึ่งต่างจากที่พักอื่นๆในละแวกเดียวกันซึ่งจะมีถนนคั่นกลางระหว่างชายหาดกับบ้านพัก แขกที่มาพักที่นี่จึงสามารถเดินลงไปเล่นน้ำได้อย่างสะดวกสบายโดยไม่ต้องเดินข้ามถนน
 
เชษฐ์เดินนำภัทรเข้าไปที่เคาน์เตอร์สำหรับเช็คอิน พนักงานรีเซฟชันสาวที่นั่งประจำอยู่ซึ่งภัทรคาดว่าน่าจะอายุไม่ต่างจากตนนักยิ้มและเอ่ยทักทายเมื่อเห็นทั้งคู่ โชคดีว่าสุดสัปดาห์นี้ไม่ใช่ช่วงวันหยุดยาว ทางรีสอร์ทจึง
มีห้องว่างหลายห้องสำหรับแขกที่ไม่ได้จองเข้ามาก่อน

หลังจากเชษฐ์บอกจำนวนวันที่จะพักแล้ว พนักงานสาวก็ยื่นกระดาษให้คนตัวใหญ่เขียนชื่อและเลือกวิธีชำระเงิน จากนั้นก็รับกระดาษแผ่นนั้นไปคีย์ข้อมูลเข้าคอมพิวเตอร์ สักครู่ก็เงยหน้าขึ้นถาม
 
"ไม่ทราบว่าจะเลือกห้องแบบไหนดีคะ?"
 
เชษฐ์ปรายตามองโบรชัวร์ราคาและรูปตัวอย่างห้อง จากนั้นก็ชี้ที่รูปรูปหนึ่ง "ถ้าห้องบีชฟร้อนท์สวีทยังว่างก็ห้องนั้นครับ"
 
พนักงานสาวทวนคำแล้วก็คลิกเมาส์เพื่อเช็คข้อมูล จากนั้นจึงละสายตาขึ้นมาอีกครั้ง
 
"ว่างค่ะ งั้นตกลงเป็นห้องบีชฟร้อนท์สวีทนะคะ อาหารเช้าพรุ่งนี้จะเริ่มเสิร์ฟที่ห้องอาหารตั้งแต่เจ็ดโมงเช้าถึงสิบโมง เช็คเอ๊าท์ได้ตอนบ่ายโมง เดี๋ยวตามน้องเค้าไปที่ห้องได้เลยค่ะ”

พนักงานสาวยื่นกุญแจห้องซึ่งทำจากแผ่นไม้ขนาดเท่าฝ่ามือและมีลูกกุญแจร้อยเชือกไว้ให้ จากนั้นทั้งสองก็เดินตามพนักงานโรงแรมที่ช่วยยกกระเป๋าและเดินนำไปที่ห้องพักซึ่งอยู่ติดชายหาด แต่พอไปถึงและไขประตูห้องเข้าไปด้านใน ภัทรก็ต้องขมวดคิ้วมุ่น

เชษฐ์หันไปจ่ายทิปให้กับพนักงานโรงแรมก่อนจะปิดประตู  พอหันไปเห็นสีหน้าของภัทรที่กำลังทำหน้ามุ่ยก็ยิ้มและเดาได้ทันทีว่ามาจากสาเหตุอะไร จึงเดินเข้าไปใกล้แล้วก้มลงกระซิบข้างหู

“ไม่ชอบเตียงควีนไซส์เหรอ? แต่เตียงห้องฉันที่นอนกันเมื่อคืนมันเล็กกว่านี้อีกนะ”

ภัทรนึกอยากให้เขาอายุเท่าเชษฐ์ขึ้นมาทันที เผื่อจะทำให้กล้าทุบไหล่คนช่างแกล้งที่อายุมากกว่าได้อย่างสะดวกใจ ไม่ใช่แค่ทำหน้างอใส่อย่างตอนนี้ ตอนที่อีกฝ่ายเลือกห้องเมื่อกี้เขาก็ไม่ทันฉุกคิดว่าปกติเตียงห้องสวีทจะเป็นแบบดับเบิ้ล แต่ที่สำคัญกว่านั้นก็คือ คืนนี้พวกเขาสองคนก็ต้องนอนข้างกันอีกแล้วน่ะสิ คืนที่ผ่านมานั้นไม่ได้มีอะไรที่ทำให้หนักใจนักเพราะว่าต่างคนก็ต่างเพลีย แถมยังเรื่องที่เจอหลังจากทานมื้อเย็นที่ร้านอาหารอีก พอกลับไปถึงบ้านของเชษฐ์แล้วต่างคนจึงต่างอยากพักผ่อนเท่านั้น แต่ท่าทางครึ้มอกครึ้มใจเหลือเกินของคนที่ตอนนี้ผละจากเขาไปเข้าห้องน้ำทำเอาภัทรต้องรีบห้ามตัวเองไม่ให้คิดอะไรฟุ้งซ่าน

ใจเย็นไว้น่ะ คุณเชษฐ์แค่พามาเที่ยวทะเลเปลี่ยนบรรยากาศเฉยๆหรอก ว่าแต่ทำยังไงหัวใจมันถึงจะหยุดเต้นแรงได้สักทีล่ะเนี่ย...

tbc. in 2nd part
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2010 23:29:08 โดย bellbomb »

ออฟไลน์ Poes

  • คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต
  • Administrator
  • เป็ดZeus
  • *
  • กระทู้: 11342
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +2405/-22
:z3: ต่อไม่ติืดเลย ขอไปตามเก็บช่วงแรกๆก่อนนะ

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
^
^
โชคดียังมีให้ตามแค่ 9 ตอนนะจ๊ะพี่หนึ่ง หุหุหุ
  :z1:

ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1: ภัทรกับคุณเชษฐ์
ขอน้ำทะเลหวานๆที่นึงค่าาาาา

เป็นกำลังใจให้นะคะ ^ ^

ออฟไลน์ BeeRY

  • ❤。◕‿◕。ยิ้มเข้าไว้นะ。◕‿◕。❤
  • เป็ดHades
  • *
  • กระทู้: 9404
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +897/-8
เดี๋ยวบรรยากาศก็พาไป อิอิ  :haun4:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 12-05-2010 22:39:21 โดย BeeRY »

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
สงสัยงานนี้ทะเลจะหวานนนนนน
คุณเชษฐ์เจ้าเลห์ไปไหมเนี่ย
นารักได้อีกอ่ะ อย่างนี้ภัทรหลงแย่เลย

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ป้าอย่ามัวแต่ย่อง เอาอีกครึ่งหลังมาต่อด่วนเลย กรี๊ดดดดด ป้ามาช้า แล้วทำ ค้าง อีกอะ  :z3:   :z3:

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
คุณเชษฐ์ เจ้าเล่ห์มากกกกกกกกกกกกกกกก

รอครึ่งต่อไปนะคะคุณป้า  :m1:

ออฟไลน์ M@nfaNG

  • ชีวิตคือการตรวจสอบ...
  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4453
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +847/-18
ช่วงแรกๆอ่านไปก็นึกว่าตัวเองเป็นภัทรที่แอบมองคุณเชษฐ์แล้วน้ำลายไหล  :jul3:
ช่วงหลังๆแอบลุ้นว่าจะไปฮันนีมูนกันยังไง
รอลุ้นต่อไปค่ะบีบี รู้สึกว่าคุณเชษฐ์นี่ยิ่งนานๆไปยิ่งแผนเยอะนะ :z1:

ออฟไลน์ moonlight

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 985
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +85/-0
ภัทรจะเสร็จคุณเชษฐ์ไม๊หว่าคืนนี้  :z1:

ป้ามาต่อเร็วๆๆนะ มันค้างๆ อิอิ

yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
เค้าพามาเปลี่ยนบรรยากาศหรือเปล่าภัทร ฮิ ฮิ ฮิ

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
คุณเชษฐ์มาแล้วววววว :mc4:

ทะเลหวาน ๆ มาต่อไวๆ นะจ้ะ

เปลี่ยนจากปั่นจักรยาน มาเป็นเช่ามอไซด์บึ่งมา เถอะจ้าน้องสาว

จะได้ไวๆ  :กอด1:


samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
แอร๊ยมีแอบมาต่อด้วย หุหุ มาต่ออีกทีมะไหร่จ๊ะจะได้แวะมาอ่านอีกเรื่อยๆ หนุกๆๆๆๆ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
อยากอ่านต่ออออออออออออออ  :serius2:

samsoon@doll

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาวิ่งรอครึ่งหลังเจ้าค่ะ อิอิอิ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
คุณเชษฐ์ แวร์ อาร์ ยู นาวววววววววววววววววววววววววววววววว  :dont2: :dont2:

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
ป้ามาละค่ะ ขอออกตัว+ขออภัยล่วงหน้าก่อนว่าตอนนี้จะสั้นหน่อยเน้ ยอมรับว่าเป็น "ครึ่งหลัง" ที่เข็นออกมาได้ลำบากยากเย็นมากๆ คือที่จริงเคยได้ร่างไว้ก่อนนี้แล้วล่ะ แต่ช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา มันเกิดเรื่องแบบที่ทุกคนก็รู้ว่าเรื่องอะไร ดังนั้นถึงจะได้หยุดยาวอยู่บ้านแต่ก็ทำใจเขียนอะไรไม่ค่อยออก พออะไรๆเริ่มสงบแล้วถึงได้มาเขียนต่อได้ แต่ก็ต้องจูนอารมณ์กันพอสมควร ทีนี้ดูท่าเรื่องต่อจากเหตุการณ์ตอนนี้มันจะยาว เลยขอปัดไปเป็นตอนหน้าเลยก็แล้วกัน อาจขัดตาทัพไปนิด แต่อย่างน้อยคนอ่านก็จะได้ไม่ต้องรอนานล่ะเน้อ แหะๆ (แก้ตัวไปเรื่อยเลยแฮะ)  :z10:   :z2:

++------++


ตอนที่ 9. (ครึ่งหลัง)

“ออกไปเดินเล่นกันมั้ย?”

ภัทรเงยหน้ามองคนถามที่มายืนข้างโซฟาที่เขานั่งตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ จากนั้นก็เหลือบมองไปยังทิวทัศน์ภายนอกผ่านกระจกหน้าต่าง จึงได้เห็นว่าแดดที่สาดแสงเมื่อครู่เริ่มอ่อนลงกว่าตอนที่เพิ่งเดินทางมาถึงมากแล้ว ภัทรจึงปิดนิตยสารท่องเที่ยวที่อ่านค้างไว้แล้วก็ลุกขึ้นยืนบ้าง

“ก็ดีเหมือนกันครับ”

ตอบแล้วชายหนุ่มก็เอานิตยสารไปเก็บที่ชั้นใต้ที่วางโทรทัศน์ตามเดิม เนื่องจากตอนที่เดินทางมาถึงรีสอร์ทนั้นอากาศภายนอกยังร้อนและแดดก็ยังแรง เชษฐ์กับเขาจึงตกลงว่าจะนั่งพักในห้องกันก่อนโดยต่างก็เปลี่ยนกางเกงยีนส์ขายาวที่ใส่มาเป็นกางเกงขาสั้นลำลอง ระหว่างนั้นภัทรเจอนิตยสารท่องเที่ยวที่ทางรีสอร์ทจัดไว้ให้ในห้องพักจึงหยิบมานั่งอ่านที่โซฟาริมหน้าต่าง ส่วนเชษฐ์นั่งเช็คอีเมล์งานอยู่บนเตียงผ่านคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊คที่เอามาด้วย

หลังจากล็อกประตูห้องเรียบร้อย เชษฐ์ก็เอาแผ่นป้ายที่ร้อยกุญแจไว้ใส่ในกระเป๋ากางเกงด้านหลัง เนื่องจากห้องที่ทั้งสองเข้าพักนั้นอยู่ติดชายหาดอยู่แล้ว เพียงเดินลงจากระเบียงด้านหน้าไปไม่กี่ก้าวก็ถึงหาดทราย ทั้งคู่จึงตัดสินใจทิ้งรองเท้าไว้ที่ห้องพักแล้วก็เดินเท้าเปล่า เมื่อออกจากห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำเอาไว้ ความอบอุ่นของอากาศภายนอกก็ปะทะเข้าบนผิวทันที แต่โชคดีที่มีลมซึ่งพัดมาจากทะเลจึงช่วยลดความอบอ้าวไปได้มากทีเดียว

บริเวณชายหาดหน้ารีสอร์ทซึ่งมีเก้าอี้วางอยู่เป็นระยะนั้นไร้ผู้คน อาจเพราะแขกที่มาพักคนอื่นยังอยู่ในห้องหรือไม่ก็ไปเดินเที่ยวตลาดแถวท่าเรือกัน และกลุ่มคนที่กำลังเล่นน้ำที่พอจะเห็นได้ก็อยู่ไกลออกไปหลายร้อยเมตร ดังนั้นตลอดแนวชายหาดของรีสอร์ทจึงไม่มีคนอื่นอยู่เลยนอกจากพวกเขาเท่านั้น

ภัทรเดินเคียงข้างไปกับเชษฐ์ที่เดินล้วงกระเป๋าด้วยท่าทางสบายๆ ทรายที่ทั้งสองเหยียบย่ำเป็นสีเข้มและชื้นนิดๆ เมื่อก้าวลงไปก็จะทิ้งรอยเท้าไว้เป็นทาง แต่ผืนน้ำยามบ่ายลดระดับลงจนอยู่ห่างออกไป ลมที่พัดมากระทบผิวหอบเอาไอชื้นมาด้วย ชายหนุ่มจึงแหงนหน้ามองท้องฟ้าแล้วเอ่ยขึ้นเปรยๆ

“ท่าทางคืนนี้ฝนจะตกนะครับ”

เชษฐ์หันมาเลิกคิ้วมองคนพูดแวบหนึ่ง จากนั้นก็เงยหน้ามองท้องฟ้าบ้าง มวลเมฆที่ลอยเหนือบริเวณรีสอร์ทยังไม่รวมตัวกันหนาแน่นก็จริง แต่ขอบฟ้าสีเทาเข้มที่เห็นอยู่ลิบๆก็ทำให้คนตัวใหญ่พยักหน้า

“ก็คงจะอย่างนั้น ฟ้าตรงโน้นมืดเชียว”

ทั้งสองหยุดยืนดูทะเลเมื่อเดินกันมาได้ครู่หนึ่ง เชษฐ์ยังคงยืนล้วงกระเป๋า แต่สองตาทอดมองออกไปเหนือผืนน้ำกว้างซึ่งสามารถมองเห็นเกาะต่างๆได้จากระยะไกล

“จะว่าไป...ไม่ได้มาเที่ยวทะเลหลายปีแล้วเหมือนกันนะ”

ภัทรที่ยืนอยู่ข้างๆเลิกคิ้วแล้วก็หันไปถามด้วยความสงสัย “เอ๊ะ? แต่พี่ป๋วยเคยบอกผมว่าที่ออฟฟิศเคยพาพนักงานไปเอ๊าท์ติ้งที่ภูเก็ตเมื่อสองปีก่อนไม่ใช่เหรอครับ? เห็นว่าตอนนั้นให้เอาสมาชิกครอบครัวไปด้วยก็ได้นี่”

ภัทรยังจำได้ที่รุ่นพี่สาวเคยเล่าให้ฟัง ว่าเมื่อสองปีที่แล้วซึ่งเขายังไม่เข้าบรรจุเป็นพนักงานที่นี่นั้น ทางบริษัทได้พาพนักงานไปเที่ยวประจำปีไกลถึงเกาะทางใต้เนื่องจากผลประกอบการดีมาก แถมหากใครที่ต้องการพาครอบครัวไปด้วยก็สามารถทำได้ เพียงแต่ต้องออกค่าใช้จ่ายในส่วนของคนที่พาไปด้วยเพิ่มเอง แต่เนื่องจากปีที่เขาเข้ามานั้นเป็นช่วงที่เศรษฐกิจไม่ค่อยดี ทางบริษัทจึงเพียงพาพนักงานไปทำบุญและเที่ยวเมืองเก่าในอยุธยาแบบไปเช้าเย็นกลับเท่านั้น เขายังจำได้ว่ารุ่นพี่หลายคนบ่นกันอู้เรื่องนี้

เชษฐ์ยกมือขึ้นกอดอกแล้วก็ส่ายหน้า จากนั้นจึงยิ้มให้กับคนที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ไปเที่ยวกับบริษัทมันก็เหมือนโดนบังคับไปนั่นแหละ หรือถึงจะบอกว่าให้พาคนในครอบครัวไปได้ แต่ปีนั้นเธอยังไม่เข้ามานี่นา”

ภัทรพยายามบังคับสายตาให้มองตรงไปข้างหน้าและบังคับใจให้ไม่หันไปค้อนคนพูด แล้วก็พยายามคิดว่าจะชวนคุยหัวข้อไหนให้พ้นจากตัวเองได้บ้าง ไอ้เรื่องที่คนคบกันจะหยอกล้อหรือแซวกันมันไม่แปลกหรอก แต่เพราะเขามักจะโดนอยู่ฝ่ายเดียวเลยรู้สึกเสียเปรียบชอบกล แต่ยังไม่ทันจะคิดอะไรออก เสียงทุ้มต่ำของคนตัวใหญ่ก็ลอยมาเข้าหูเสียก่อน

“ว่าแต่อุตส่าห์มาทะเลกันทั้งที ไม่ลงเล่นน้ำก็น่าเสียดายนะ”

ภัทรสะดุ้งเมื่อจู่ๆเจ้าของเสียงก็ขยับเข้ามาใกล้ พอเหลือบตาขึ้นมองก็เห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอมยิ้มเจ้าเล่ห์ และรอยยิ้มนั้นก็ดูไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย เขาจึงรีบรัวคำตอบออกไปทันทีที่ตั้งตัวได้

“อยากลงก็ลงสิครับคุณเชษฐ์ เดี๋ยวผมนั่งรออยู่แถวนี้แหละ พอดีผมไม่ได้เอากางเกงมาเปลี่ยน”

ร่างเพรียวปรายตาไปทางเก้าอี้ชายหาดซึ่งตั้งเรียงเป็นระยะราวกับนั่นคือที่หลบภัย แต่เชษฐ์กลับยักไหล่อย่างไม่เห็นเป็นเรื่องสำคัญ

“ก็ไม่เห็นจะเป็นไร ไม่ได้เอากางเกงมาเปลี่ยนก็ใส่ตัวนี้ลงไปเลยสิ"

คราวนี้ประกายตาหลังเลนส์แว่นทำเอาภัทรเริ่มก้าวถอย เพราะแววตาของอีกฝ่ายทำให้เขานึกถึงสัตว์ป่าที่เตรียมจะเข้าขย้ำเหยื่อยังไงยังงั้น และท่าทางเหยื่อที่ว่าก็ไม่แคล้วจะเป็นเขาเสียด้วย

“ไม่เอาครับคุณเชษฐ์ ผมบอกว่าไม่ลงไง เฮ้ย! คุณเชษฐ์! ปล่อยผมลงนะ!!”

ยังไม่ทันจะได้หมุนตัวแล้ววิ่งหนีตามที่สัญชาตญานบอก จู่ๆภัทรก็เห็นพื้นทรายตีลังกาไปอยู่เหนือหัวแทน กว่าเขาจะตั้งตัวได้และรู้ว่าโดนอีกฝ่ายอุ้มขึ้นพาดบ่า เชษฐ์ก็พาเดินลงไปที่ทะเลแล้วราวกับไม่รู้สึกถึงน้ำหนักที่อยู่บนไหล่สักนิด แถมอีกฝ่ายยังถอดแว่นออกแล้วโยนลงบนผืนทรายอย่างไม่ไยดีอีกด้วย

“คุณเชษฐ์! เดี๋ยวแว่นหายนะครับ!”

แม้จะตกใจ แต่ภัทรก็ยังไม่วายร้องเตือนเมื่อเห็นแว่นกรอบเงินที่ตกอยู่บนพื้น แต่เชษฐ์กลับตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แถมยังไม่ชะลอฝีเท้าลงเลยสักก้าว

“ไม่มีใครเอาไปไหนหรอกน่า”

ภัทรสะดุ้งเมื่อรู้สึกถึงละอองน้ำที่กระเซ็นขึ้นมาบนขาเมื่ออีกฝ่ายเริ่มก้าวลงน้ำ จึงพยายามจะยึดไหล่หนาไว้แล้วผงกหัวขึ้นเพื่อดิ้นหนี แต่ถึงแม้ว่ายิ่งเชษฐ์เดินลุยน้ำลงไปลึกเท่าไหร่ ฝีเท้าของอีกฝ่ายก็ยิ่งช้าลงเพราะถูกแรงน้ำต้านก็ตาม ทว่าลำแขนแข็งแรงที่ยึดขาเขาไว้แน่นก็ไม่ยอมผ่อนแรงลงเลยสักนิด จนกระทั่งคนตัวใหญ่พาเขามาถึงจุดที่น้ำน่าจะลึกประมาณอก ภัทรก็รู้สึกได้ว่ากางเกงที่ตัวเองใส่เริ่มเปียกน้ำจนแนบไปกับต้นขา ชายหนุ่มรู้สึกว่าผิวหน้าร้อนไปหมดขณะพยายามจะดิ้นเพื่อให้เป็นอิสระอีกครั้ง เพราะการโดนเนื้อตัวกันผ่านผ้าที่เปียกจนแนบเนื้อก็ให้สัมผัสไม่ต่างจากการไม่สวมเสื้อผ้าสักเท่าไหร่

“คุณเชษฐ์!...ปล่อยผม! หวา!!”

ภัทรร้องขึ้นอีก แต่เสียงยังหลุดจากปากไม่ทันขาดคำ คนที่อุ้มเขาอยู่ก็เอียงไหล่แล้วปล่อยร่างที่ถูกอุ้มให้หล่นลงจนเกิดเสียงน้ำแหวกกระจายดังตูม การถูกปล่อยลงน้ำอย่างกะทันหันทำให้ภัทรเตรียมกลั้นหายใจไม่ทัน น้ำทะเลเค็มๆจึงทะลักเข้าปากและโพรงจมูกจนแสบไปหมด ส่วนหูทั้งสองข้างก็อื้อด้วยแรงกดของน้ำ แต่พอตั้งสติได้ เขาก็รีบเหยียดขาแล้วถีบตัวขึ้นเหนือน้ำทันที ชายหนุ่มไอโขลกเพราะยังสำลักน้ำที่ตกค้างอยู่ในจมูกและคอ แต่พอลองพยายามจะใช้เท้าหยั่งพื้นก็พบว่าระดับน้ำตรงนั้นเพียงปริ่มไหล่เท่านั้น ภัทรรีบยกมือข้างหนึ่งขึ้นลูบน้ำทะเลออกจากหน้าก่อนจะหยีตาขึ้น ตั้งใจว่าจะต่อว่าคนที่แกล้งตัวเองให้ตกใจอย่างเต็มที่ แต่แล้วนัยน์ตาเรียวก็ต้องเบิกกว้างเมื่อรอบตัวมีแต่ความว่างเปล่า ไม่ว่าจะหันมองไปทางไหนก็ไม่มีแม้แต่เงาของร่างสูงใหญ่ที่บังคับอุ้มเขามาลงน้ำเลย

คุณเชษฐ์!!

ภัทรมองไปรอบตัวอย่างตื่นตระหนก เพราะแค่ถูกแกล้งโยนลงน้ำก็ทำเขาตกใจพอแล้ว พอได้พบว่าคนที่น่าจะอยู่ด้วยกลับหายไปก็ทำให้ใจเสียขึ้นมาทันที แต่แล้วขณะที่ภัทรกำลังตัดสินใจจะตะโกนเรียกชื่ออีกฝ่ายนั่นเอง ชายหนุ่มก็ต้องร้องเสียงหลงเพราะจู่ๆก็ถูก ‘ใครบางคน’ ฉุดให้ลงไปใต้น้ำอีกครั้ง

ร่างเพรียวรู้สึกได้ถึงอ้อมแขนแข็งแรงที่โอบรัดเอวตัวเองอยู่ แล้วก็ให้ตระหนักขึ้นมาทันทีว่าเสียรู้เข้าแล้ว จึงพยายามจะดิ้นหนีและดีดตัวขึ้นเหนือน้ำสุดชีวิต แต่ดูเหมือนเจ้าของอ้อมแขนจะยังไม่อยากปล่อยเขาให้เป็นอิสระง่ายๆ เพราะว่ายิ่งภัทรดิ้นมากเท่าไหร่ก็ยิ่งโดนกอดแน่นขึ้นเท่านั้น ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงมือใหญ่ข้างหนึ่งที่เลื่อนขึ้นไปรั้งท้ายทอยเขาไว้ขณะที่อีกข้างยังโอบอยู่รอบเอว จากนั้นสัมผัสนิ่มๆหยุ่นๆก็ทาบลงมาบนริมฝีปากของเขาอย่างเอาแต่ใจ

ภัทรรู้แล้วว่าเพราะอะไรอีกฝ่ายถึงดึงเขาลงมาใต้น้ำ จึงได้แต่หลับตาแล้วก็เม้มปากแน่น ส่วนสองมือก็ทุบไหล่กว้างอย่างประท้วง ทว่ามือใหญ่ที่ยึดท้ายทอยไว้ก็ทำให้ไม่สามารถหันหนีหรือขัดขืนได้เลย และก่อนที่ภัทรจะรู้สึกเหมือนกลั้นหายใจต่อไม่ไหว เจ้าของอ้อมแขนแข็งแรงก็รั้งร่างเขาแล้วดีดตัวพาขึ้นเหนือผิวน้ำด้วยกัน พอโผล่พ้นน้ำขึ้นมาอีกครั้งและสูดอากาศเข้าปอดอย่างเต็มที่ได้ ร่างเพรียวก็รีบผลักแผ่นอกกว้างของอีกฝ่ายแล้วถีบตัวออกห่างทันที

ภัทรถลึงตาใส่คนตัวใหญ่และรักษาระยะห่างระหว่างทั้งคู่ร่วมเมตร โหนกแก้มทั้งสองข้างของเขาซับสีเลือดจนแดงซ่าน ทั้งอายทั้งโมโหจนไม่รู้จะพูดอะไรดี ยิ่งเห็นอีกฝ่ายมองมายิ้มๆขณะเสยผมที่ปรกตาขึ้นไปก็ยิ่งนึกขวางมากเข้าไปอีก

“เปียกหมดอย่างนี้ก็ไม่ต้องเปลี่ยนชุดแล้วจริงมั้ย?”

เชษฐ์เอ่ยขึ้นเป็นเชิงถาม แต่ภัทรได้ยินแล้วก็ขมวดคิ้ว ก็เล่นบังคับอุ้มลงน้ำแบบนี้ เขามีทางเลือกให้ไม่เปียกได้ที่ไหนกันเล่า!

“แหงสิครับ คุณเชษฐ์จับผมลงมาเองนี่”

เชษฐ์มองอีกฝ่ายที่ทำท่าเหมือนลูกแมวที่โดนแกล้งจนเริ่มพองขนขู่ ริมฝีปากบางจึงหยักยิ้มมากขึ้น ก่อนที่จะเหลือบมองไปยังเรือประมงที่ทอดสมออยู่ห่างออกไปไม่ถึงร้อยเมตร

“สนใจจะว่ายน้ำแข่งไปถึงเรือลำนั้นกันมั้ย?”

คนตัวใหญ่เอ่ยถามขณะที่ภัทรกำลังจะหมุนตัวหนีและว่ายน้ำกลับขึ้นฝั่ง ชายหนุ่มจึงหันกลับไปมองคนถาม จากนั้นก็มองไปยังเรือลำที่ถูกพาดพิงถึง นัยน์ตาเรียวเบนกลับมายังคนตรงหน้าอีกครั้งด้วยความระแวงอย่างไม่ปิดบัง นี่คุณเชษฐ์จะมาไม้ไหนของเขาอีกนะ?

“ผมเลือกได้ด้วยเหรอครับ?”

คราวนี้เชษฐ์เลิกคิ้ว แต่แล้วก็หัวเราะในคอเบาๆ เพราะดูเหมือนเขาจะแหย่มากไปจน ‘ภัทรกร’ ที่ปกติเก็บอารมณ์เสมอเริ่มหงุดหงิดเสียแล้ว แต่ว่าภัทรไม่ได้รู้ตัวเลยว่านั่นก็เป็นแผนของอีกฝ่ายเหมือนกันที่อยากเห็นเขาแสดงอารมณ์อื่นนอกจากความเกรงใจออกมาบ้าง

“ไหนๆก็ลงน้ำมาแล้วนี่นา หรือเธอกลัวแพ้เลยไม่กล้าแข่ง?”

เชษฐ์พูดแล้วก็ยิ้ม ส่วนคนถูกท้าก็ให้นึกหมั่นไส้รอยยิ้มท้าทายบนหน้าคนตัวใหญ่เป็นกำลัง ภัทรเบนสายตากลับไปยังเรือลำที่เป็นจุดหมายอีกครั้งแล้วก็คะเนระยะทาง ถึงแม้ว่าโดยนิสัยแล้วเขาจะเป็นคนไม่ชอบการแข่งขัน และปกติก็จะนั่งมองดูคนอื่นเวลาเล่นกีฬามากกว่า แต่สำหรับเรื่องว่ายน้ำนั้นเขาค่อนข้างถนัดพอตัวเพราะโดนพี่สาวชวนแข่งอยู่บ่อยๆตั้งแต่เด็ก และถึงแม้จะห่างหายการว่ายน้ำแบบเอาจริงเอาจังไปนาน แต่ถ้าหากระยะประมาณนี้เขาก็น่าจะพอแข่งไหว อีกอย่างถ้าหากว่าเขาปฏิเสธ สงสัยคุณเชษฐ์ก็คงไม่ยอมให้เขาได้ขึ้นจากน้ำแน่ และเขาก็ไม่อยากคิดว่าอีกฝ่ายจะใช้วิธีไหนรั้งให้เขา'เล่นน้ำต่อ'ด้วย

“ระยะแค่นี้ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ แต่แข่งเสร็จเมื่อไหร่ผมจะขึ้นแล้วนะ”

ภัทรตอบเสียงสะบัดก่อนจะหันหน้าไปทางเรือลำที่เป็นเส้นชัย แต่ฉับพลันก็ให้นึกสังหรณ์ใจขึ้นมา เชษฐ์บังคับเขามาลงน้ำแบบนี้ แล้วยังมาท้าแข่งว่ายน้ำอีก เป็นไปไม่ได้ที่อีกฝ่ายจะไม่มีจุดประสงค์แอบแฝงอยู่แล้ว ดูจากที่เมื่อกี้ยังกล้าฉุดเขาลงไปทำอะไรทะลึ่งๆใต้น้ำนั่นปะไร

ร่างเพรียวหันไปมองคนตัวใหญ่ข้างๆทันที เรียวคิ้วโก่งที่เมื่อครู่คลายไปแล้วกลับขมวดมุ่นขึ้นใหม่ อดหวังไม่ได้ว่าถ้าเขาถอนตัวตอนนี้ยังจะทันหรือเปล่า

“คุณเชษฐ์ แข่งนี่แข่งเล่นเฉยๆไม่มีการให้รางวัลหรือทำโทษใช่มั้ยครับ?”

คนตัวใหญ่หันมาเลิกคิ้วให้คนถาม จากนั้นก็ยิ้มก่อนจะหันกลับไปด้านหน้าอีกครั้ง

"ไม่มีไม่ได้หรอก ขืนทำอย่างนั้นก็ไม่ใช่การแข่งน่ะสิ"

คำตอบที่ได้ทำเอาภัทรหันหลังหนีทันที แต่ก็ยังช้ากว่ามือแข็งแรงที่ยื่นมารั้งต้นแขนเขาเอาไว้ และถึงแม้จะพยายามบิดแขนออกแต่ว่าก็สู้แรงไม่ได้

"คุณเชษฐ์ ไม่เอาผมไม่แข่งแล้ว"

ภัทรส่งเสียงโอดครวญ ทว่าเชษฐ์ก็ไม่ปล่อยมือ แถมยังหัวเราะกับท่าทางลนลานของเขาเสียอีก

"ฉันยังไม่ได้บอกสักคำว่ารางวัลคืออะไรแล้วจะรีบหนีไปไหนล่ะ อีกอย่างลูกผู้ชายบอกว่าจะแข่งแล้วก็ห้ามคืนคำสิ"


+---tbc---+


 
ขออภัยหากทำให้คนอ่านอารมณ์ค้าง...  o18



yunjaejoong

  • บุคคลทั่วไป
เล่นกันแบบนี้เลยน่ะเชษฐ์ แต่ก้อน่ารักดี ความรักแบบผู้ใหญ่

อันนี้ของไรเตอร์นะ....นาน นานมากๆเลยนะที่ไม่มาต่อง่ะ นึกว่าลืมไปซะแล้ว

lasom

  • บุคคลทั่วไป
 :z1: เหอๆๆ จูบรสทะเล อิอิ เค็มมั้ยจ๊ะนู๋ภัทร

อ้ายๆๆๆ ตอนแข่งไม่อยากดู อยากดูแต่ตอนประกาศผลรางวัล ไม่ทราบว่าจะมอบกันที่ไหนคร้า จะไปตั้งกล้องไว้

กรี๊ดๆๆๆๆ o18

p.s รอตั้งนานอ่ะกว่าจะมาต่อ อ่าน๙ไปสามรอบแล้วเนี้ย ชอบคุณเชษฐ์จัง

pattybluet

  • บุคคลทั่วไป
กล้องจับภาพไปที่ แว่นที่ถูกถอดจากหน้าของผู้ชายหน้าตาดี กำลังลอยอยู่กลางอากาศ ก่อนจะตกลงอย่างสวยงามที่พื้นทราย
ภาพถูกซูมไปใกล้ๆ ระหว่างแว่นกับพื้นทราย
เพ้อ ~~ ไม่รู้เป็นไรชอบฉากนี้ 55+ แบบ.. ให้ความรูู้สึก คล้ายๆคุณเชษฐ์สลัดคราบผู้บริหารได้อย่างแท้จริงอ่ะค่ะ

รอตอนหน้านะคะ เป็นกำลังใจให้ค่ะ

anajulia

  • บุคคลทั่วไป
คุณเชษฐ์จอมเจ้าเล่ห์ เจ้าเล่ห์ที่สุดในบอร์ดแล้วมั้งเนี่ย กร้ากกกกกกกส์

กอดโอ๋ภัทรน้อยๆดีกว่า :กอด1:
ขอบคุณนะคะคุณป้า ^o^

ออฟไลน์ bellbomb

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1561
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1261/-7
    • Bellbomb's Blog
เล่นกันแบบนี้เลยน่ะเชษฐ์ แต่ก้อน่ารักดี ความรักแบบผู้ใหญ่

อันนี้ของไรเตอร์นะ....นาน นานมากๆเลยนะที่ไม่มาต่อง่ะ นึกว่าลืมไปซะแล้ว

:z1: เหอๆๆ จูบรสทะเล อิอิ เค็มมั้ยจ๊ะนู๋ภัทร

อ้ายๆๆๆ ตอนแข่งไม่อยากดู อยากดูแต่ตอนประกาศผลรางวัล ไม่ทราบว่าจะมอบกันที่ไหนคร้า จะไปตั้งกล้องไว้

กรี๊ดๆๆๆๆ o18

p.s รอตั้งนานอ่ะกว่าจะมาต่อ อ่าน๙ไปสามรอบแล้วเนี้ย ชอบคุณเชษฐ์จัง

แหะๆๆ ถ้าดูจากสปีดช่วงหลังๆของป้า นี่ก็ถือว่า record breaking ละค่า ยังไงจะพยายามปรับให้เร็วขึ้นละกันนะ (เง้อ)   :z13:

Little Devil

  • บุคคลทั่วไป
น่าจะมีโหวตพระเอกเจ้าเล่ห์  :laugh:
น้องภัทร ยอมยอมไปเถอะ
+1

ออฟไลน์ jasmin

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1801
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +174/-1
ลากกันไปจูบใต้ทะเล เค็มไหมนั้น
พระเอกเรื่องนี้เจ้าเลห์ไปไหมเนี่ย
แข่งเองตั้งกติกาเองและตั้งรางวัลเอง
ภัทรเอ้ย จะทันพี่ท่านทันไหมล่ะเนี่ย

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
คุณเชษฐ์พยายามย่นระยะห่าง และลดความเกรงอกเกรงใจของภัทร
เจ้าตัวจะตกหลุมอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ระแวงระวังจริงๆเชียว
แล้วรางวัลของผู้ชนะคืออะไรกันคะ
บวก 1 แต้ม ขอบคุณมากๆ และรอลุ้นต่อค่ะ

น้ำค้าง

  • บุคคลทั่วไป
โอย อยากอ่านต่อ ไม่ยกโทษให้หรอก ที่ทำให้ค้างงงงงงง

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด