]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1711438 ครั้ง)

PeeraDHa

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10

gneuhp

  • บุคคลทั่วไป
นนท์ อย่านอกใจ นัท นะ

เชียร์ นัท สุดใจขาดดิ้นอ่าา

ป๊อป & ยิ่ว ป๊อป & ยิ่ว ป๊อป & ยิ่ว  :pig4:

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
พูดตรงๆ นะ
ที่นนท์เลือกนัทหน่ะ
ก็เพราะว่าเข้าใจผิดเรื่องโจกะพลอยด้วยส่วนนึง
และก็เข้าใจว่านนท์มีแฟนแล้วก็ไม่ควรจะทำแบบนี้
ประโยคหลังนี่เห็นด้วยมากๆ
แต่ก็เข้าใจนนท์เหมือนกัน
เพราะว่าเอาจริงๆ แล้ว ตามความคิดของผม
นนท์ก็ชอบโจเหมือนกันอ่ะแหละ
แต่ว่า...
1. นัทเหมือนจะมาก่อน อยู่กลุ่มเดียวกัน คบแล้วปัญหาน้อยกว่า
2. ตอนตัดสินใจขอนัทเป็นแฟน ก็เพราะแอบจะน้อยใจโจเรื่องหลอกนนท์เรื่องพลอย
ทีนี้พอเป็นแฟนนัทไปแล้ว จะมาคุยกับโจหรือทำอะไรแบบที่แต่ก่อนทำกัน มันก็ดูจะไม่ถูกต้อง
แต่ก็ห้ามใจตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
3. แอบมี "อะไรๆ" เล็กๆ น้อยๆ กับนัทไปแล้วเหมือนกัน
ทั้งหมดนี้ก็เลยทำให้นนท์ "สับสน" อย่างแรง
ไม่เชื่อก็ต้องดูวายุ
คนที่มองทุกอย่างในเรื่องนี้ออกหมด วายุยังไม่ห้ามนนท์เรื่องนี้เลย
อาจจะเพราะว่าเคารพในเรื่องส่วนตัวของนนท์
แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า วายุก็คงเข้าใจความรู้สึกนนท์เหมือนกัน
เผลอๆ จะมองออกด้วยซ้ำ ว่านนท์มันก็ชอบโจไม่มากก็น้อย
วายุถึงได้พูดกับนนท์บ่อยๆ ไงว่า แน่ใจหรือว่าไม่ได้คิดอะไรกับโจ

แต่สุดท้ายแล้วก็รอคนแต่งครับ ว่าจะให้นนท์เลือกใคร
รออ่านครับพี่ต้น  :กอด1:

เจ้าชายรองเท้าแตะ

  • บุคคลทั่วไป
^
^
^
รีบนวิเคราะห์ถูกทุกอย่าง
 o13

Phichchii

  • บุคคลทั่วไป

DexTunG

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
นนท์จะหวั่นไหวไหมนะ

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
เวลาอ่านโจ กะ นนท์ แล้วรู้สึกมันมีสีสันดีอะ หลากหลายดี

ว่าแล้วก็เชียร์ โจ ต่อไป  :a9: :a2:

ออฟไลน์ ┗◎┗◎

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2899
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +734/-7
“ทำปากแข็งไปเหอะมึง สักวันนึงกูจะเป็นลูกเขยบ้านนี้ให้ดู”

ฮุววววววววววว  :-[

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






Tongfangpupai

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์โจค่ะ :impress2:

เมื่อไหร่พวกอีแม็คจะโดนโจกระทืบบ้างค่ะ :fire:

ออฟไลน์ shoky_9

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 512
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +35/-1
 :m16:

เหมือนโจจะค่อยๆ ทำให้นนท์รู้สึกดีๆ ขึ้นทีละนิด มีการถ่ายทอดความรู้สึกที่ไม่เคยบอกใครให้กันฟัง

ซึ่งเราว่ามันต่างกับนัท

แต่ที่ไม่บอกนัทแบบนี้ไม่ดีเลยนะ ถึงจะมีข้อแลกเปลี่ยนก็ตาม

ตอนหน้ามีนัทมั๊ยอะ  เชียร์นัทคับผม   :z3:

Ultramann

  • บุคคลทั่วไป
 :z1: :z1:
คู่นี้น่ารักจริงๆๆ

โจ โจ๊ โจ

ออฟไลน์ ~prince™~

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 1116
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +161/-2

ออฟไลน์ HydrA

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAres
  • *
  • กระทู้: 2684
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +159/-2
โจคงรู้ว่าผิดแต่ก็ยากจะหักห้ามใจล่ะมั้ง แล้วถ้านนท์ทำตามที่โจบอก แล้วนัทมารู้ทีหลัง คงมีการงอนกั้นบ้างล่ะ

ออฟไลน์ nopkar

  • เป็ด indy
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2159
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +163/-3
อ่านบทสนทาโจนนท์แล้ว อึดอัดทุกทีเลยอ่ะ

Tongfangpupai

  • บุคคลทั่วไป

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 79


เช้าวันรุ่งขึ้น ผมลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะแสงแดดที่ลอดผ่านผ้าม่านเข้ามาแยงตา ลมเย็นๆจากเครื่องปรับอากาศที่เป่าตกลงมากระทบบนตัวของผมพอดีทำให้ร่างกายของผมต้องสั่นเทิ้มออกมาเล็กน้อย ผมหยีตาและเหยียดแขนขึ้นไปรูดผ้าม่านเหนือหัวเตียงให้ปิดสนิทก่อนจะกลับลงมานอนซุกอยู่ใต้ผ้าห่มและกอดคนข้างๆเอาไว้เหมือนเคย

หือออ....... เดี๋ยวก่อนนะ

ผมลืมตาขึ้นแล้วก็ต้องตกใจเมื่อพบว่าผมกำลังนอนกอดโจจากทางด้านหลังเอาไว้อยู่ ถึงเขาจะยังไม่ตื่นและไม่มีใครเห็นในสิ่งที่ผมทำ แต่ผมกลับรู้สึกเขินขึ้นมาเอาเสียดื้อๆ ผมรีบชักมือกลับแล้วพลิกตัวเป็นนอนหันหลังให้กับเขาทันที ในตอนแรกที่ผมตกใจ ผมตกใจเพราะลืมไปว่าเขามานอนกับผมด้วยและตกใจที่พบว่าตัวเองไม่ได้กำลังนอนอยู่คนเดียว แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องรีบชักมือกลับนั้นก็ไม่ใช่เป็นเพราะผมไม่อยากจะกอดเขาหรือรู้สึกว่าผมไม่ควรทำแบบนั้นอะไรหรอก........ ไม่สิ คือไอ้เรื่องที่ว่าผมไม่ควรทำแบบนั้นมันก็คงมีส่วนอยู่ แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องคิดหนักกว่านั้นมันคือ “ความเคยชิน” ที่ผมเริ่มจะคุ้นเคยมากขึ้นเรื่อยๆแบบนี้ต่างหาก

ผมชักจะเริ่มเคยชินกับการถูกเนื้อถูกตัวเขามากเกินไปซะแล้ว และผมก็รู้สึกไม่ชอบสิ่งที่กำลังเป็นแบบนี้เลยจริงๆ

ผมพยายามข่มตาให้หลับลงไปอีกครั้ง แต่ผมก็ทำไม่ได้เลยในเมื่อใจของผมมันเอาแต่จะคิดว่า ทำไมผมถึงได้รู้สึกสบายใจที่นอนกอดเขาเอาไว้แบบนั้นได้นะ ทั้งๆที่ในตอนแรกผมยังไม่ค่อยอยากให้เขามานอนกับผมหรือแม้แต่มาที่บ้านของผมเลยด้วยซ้ำ แต่นี่ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ผมจำไม่ได้เลยว่าผมนอนกอดเขาไปนานหรือบ่อยขนาดไหนบ้าง

หรือบางทีผมอาจจะเคยชินกับการที่ได้นอนกอดนัทมาทั้งอาทิตย์ แล้วก็เลยติดนิสัยไปเผลอกอดคนข้างๆซึ่งคราวนี้คือโจเข้าโดยไม่รู้ตัวก็เป็นได้ล่ะมั๊ง

ใช่ มันคงต้องเป็นแบบนั้นแน่ๆ

โจพลิกตัวหันมาหาผมพร้อมกับส่งเสียงอือในลำคอเบาๆ จากนั้นเขาก็เหยียดแขนออกมาทั้งกอดและทั้งใช้ขาก่ายผมไว้อีกด้วย ผมอยากจะเขยิบตัวหนีเขาแต่ก็ทำไม่ได้และไม่รู้ว่าควรจะทำแบบนั้นหรือเปล่า ผมพยายามนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืนตอนที่เรากำลังนอนอยู่ด้วยกันว่าเขายังมีฝันร้ายแบบเดิมอยู่มั๊ย แต่ผมก็จำไม่ได้เลยว่าเขาละเมอ ร้องไห้ คราง หรือเพ้ออะไรแบบนั้นออกมาอีกหรือเปล่า ผมกลัวว่าผมอาจจะหลับไม่รู้เรื่องจนไม่รู้ว่าเขาต้องทรมานกับฝันร้ายแบบเดิมทั้งๆที่ผมก็ยังนอนอยู่ข้างๆเขา แต่ผมก็มาคิดอีกว่าแบบนั้นมันก็ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะถ้าหากเขาฝันไม่ดีจริงๆ อย่างน้อยผมก็ควรที่จะรู้สึกตัวขึ้นมากลางดึกบ้างสักนิดอยู่ดี

เมื่อผมรู้สึกสบายใจขึ้นนิดหน่อยแล้ว ผมก็นอนคิดถึงเรื่องอื่นไปอีกสักพักจนกระทั่งเผลอผล็อยหลับลงไปอีกครั้ง..........

“ตื่นได้แล้ว ไอ้ขี้เซา”

ผมได้ยินเสียงของโจพูดขึ้นข้างๆหูพร้อมกับร่างกายที่ถูกเขย่าเบาๆ “หือออออ”

“ตื่นได้แล้ว แปดโมงแล้วเว้ย” เขาหยิกแก้มผม

“โอ๊ยยยๆๆๆ เหี้ยไรของมึงเนี่ยยยยยย!!” ผมปัดมือเขาออกและหยิบหมอนมาปิดหน้าตัวเองไว้

“ถ้าไม่ยอมตื่นอย่าหาว่ากูโหดนะมึง”

“หึ” ผมไม่สนใจและยังคงนอนโดยมีหมอนปิดหน้าเอาไว้แบบนั้นต่อ

“ถ้าไม่ตื่นกูจะปล้ำ”

ผมลืมตาขึ้นพร้อมกับปัดหมอนออกจากหัวของตัวเองทันที “ตื่นแล้วๆๆๆ”

“แล้วเสือกทำเป็นลีลา” เขายืนมองผมอยู่ที่ข้างเตียง

ผมค่อยๆชันตัวขึ้นนั่งเบาๆ ทุกเช้าพอหลังจากตื่นนอน ผมจะต้องรู้สึกเจ็บข้อมือของตัวเองแบบนี้ทุกครั้ง และมันก็น่ารำคาญมากๆเลยด้วย

“เป็นเหี้ยไร”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

“งั้นก็ไปแดกข้าว แม่เค้ารออยู่ อาบน้ำแปรงฟันเองได้ใช่มั๊ยล่ะ”

“อือออ” ผมลุกออกจากเตียง “แล้วมึงง่ะ แปรงฟันยัง”

“เสร็จหมดแล้ว”

“อือออ งั้นกูไปอาบน้ำแปรงฟันก่อนนะ ช้าหน่อยนะเว้ยมึง ถ้าหิวก็ลงไปกินข้าวก่อนได้เลยล่ะ” ผมบอกเขาพร้อมกับเดินตรงไปที่ประตูห้อง

“ไอ้นนท์”

“รายวะ” ผมเปิดประตูห้องออก

“ขอบใจ”

“ไม่เป็นรายย.....” ผมตอบก่อนจะอ้าปากหาว เดินออกจากห้อง และปิดประตูลง

ผมเดินไปที่ห้องน้ำ เปิดก๊อกน้ำ บีบยาสีฟันใส่แปรง เริ่มต้นแปรงฟัน เงยหน้าขึ้นส่องกระจก แล้วก็ฉุกใจคิดขึ้นมาได้ว่าเมื่อกี๊เขาขอบใจผมเรื่องอะไรนะ ไอ้ตอนที่เขาพูดผมก็ดันลืมคิดถึงเรื่องนี้ไปซะสนิท

หลังจากที่อาบน้ำเสร็จ ผมก็เดินกลับเข้าไปในห้อง โจกำลังนอนอ่านหนังสือเล่มเดิมที่เขาเคยอ่านค้างเอาไว้ตั้งแต่มาบ้านผมครั้งก่อนๆอยู่บนเตียง ผมจึงเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและหยิบชุดที่จะใส่ออกมา

“ชอบหนังสือเล่มนั้นเหรอวะ” ผมถาม

“ก็ดี”

“มึงเอามั๊ยล่ะ กูให้ยืม เอาไปอ่านที่หอหรือที่บ้านก็ได้”

“ไม่รู้..... คิดดูก่อน” เขาตอบโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาจากหนังสือเลย

ผมปล่อยให้เขาอ่านหนังสือไปแบบนั้นและเดินออกจากห้องพร้อมเสื้อผ้าเพื่อไปแต่งตัวในห้องน้ำ หลังจากที่ผมใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้ว ผมก็เดินกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง เมื่อเขาเงยหน้าขึ้นจากหนังสือและเห็นว่าผมแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว เขาจึงวางหนังสือลงบนเตียง และเดินตรงเข้ามาหาผม

“เมื่อคืนกูไม่ได้ฝันร้าย” เขาพูดเบาๆ

ผมพยักหน้า “อืออ กูรู้”

เราสองคนยืนมองหน้ากันแบบนั้นครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็เดินเลยผมไปเปิดประตูห้องออก “ไปเหอะ แดกข้าว กูหิว”

ขณะที่เรากำลังกินข้าวเช้ากับแม่กันอยู่นั้น แม่ก็เล่าเรื่องที่ไปกินข้าวกับเจ้านายของพ่อเมื่อคืนให้พวกเราฟังไปด้วย แม่บอกว่าแม่จะเริ่มงานได้เลยตั้งแต่วันจันทร์เป็นต้นไป ซึ่งนั่นก็หมายความว่าหลังจากนี้พี่โก๋จะต้องเป็นคนไปรับไปส่งผมที่โรงเรียนแค่คนเดียว ซึ่งผมก็รู้อยู่แล้วว่ามันจะต้องเป็นแบบนั้น แต่ถึงยังไงปกติคนที่ทำหน้าที่นี้ส่วนมากก็จะเป็นพี่โก๋อยู่แล้วน่ะนะ ดังนั้นจะว่ามันมีอะไรที่เปลี่ยนไปจากเดิมมากมายนักก็คงไม่ใช่ซะทีเดียว แถมแม่ยังบอกอีกด้วยว่า หลานชายของทนายคนนี้ที่ไปกับแม่เมื่อวานก็เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกับผมด้วย แต่ผมก็ไม่ได้สนใจรายละเอียดเรื่องนั้นอะไรมากมายนักหรอก เพราะสิ่งที่ผมกำลังคิดอยู่แค่เพียงเรื่องเดียวในตอนนี้นั้นก็คือ ผมอยากจะรู้ให้ได้จริงๆว่าแม่เคยคุยอะไรกับโจไปแล้วบ้าง

แต่แล้วความคิดเหล่านั้นทั้งหมดของผมก็ต้องหายไปทันทีเมื่อโจพูดสิ่งๆหนึ่งขึ้น

“แม่ครับ แถวนี้มีสระว่ายน้ำรึเปล่าครับ”

ผมชะงักและเหลือบไปมองหน้าแม่ทันที

แม่สบตากับผมแค่เพียงครู่หนึ่งก่อนจะหันไปมองหน้าโจอีกครั้ง “ก็มีนะ แต่ทำไมเหรอลูก”

“เปล่าครับ ก็แค่ถามเฉยๆ” เขาตอบ “เพราะผมอยากจะชวนนนท์ไปว่ายน้ำด้วยกันน่ะครับ”

“มือกูเป็นแบบนี้กูจะไปว่ายได้ยังไง” ผมชูมือซ้ายขึ้น “มึงบ้าป่ะเนี่ย”

“กูไม่ได้หมายถึงวันนี้สักหน่อย”

“กูไม่ไป” ผมปฏิเสธ

“ทำไมวะ”

“กูไม่อยากไป”

“ลูกแม่นี่โคตรเอาแต่ใจเลยนะครับ” โจหันไปพูดกับแม่ “โคตรดื้อเลย”

แม่หัวเราะเบาๆ “เอาเถอะ เรื่องนี้เอาไว้ก่อนก็แล้วกัน รอนนท์หายดีก่อนแล้วค่อยว่ากันก็ได้”

“หายดีนนท์ก็ไม่ไป” ผมยืนกราน

“อะไรของมึง มึงว่ายน้ำไม่เป็นรึไงวะ ไอ้นนท์”

ผมวางช้อนส้อมลงและลุกขึ้นยืนทันที “นนท์อิ่มแล้วครับ แม่ นนท์ขึ้นห้องก่อนนะ”

“อย่าลืมกินยานะลูก”

“ครับ” ผมตอบสั้นๆ และจากนั้นก็เดินออกจากโต๊ะอาหารเลยทันที

ผมขึ้นไปบนห้องแล้วล้มตัวนอนคว่ำหน้าลงบนเตียง ผมอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองมันกำลังสั่นไหวออกมาเล็กน้อย ภาพความทรงจำในอดีตที่เลือนลางแต่ก็ยังดูแจ่มชัดจนน่ากลัวเริ่มกลับมาวนเวียนอยู่ในหัวของผมอีกครั้ง ผมดึงผ้าห่มขึ้น งอขา ขดตัว และนอนกอดตัวเองไว้......

หูของผมเริ่มได้ยินเสียงของลมที่พัดโหมกระหน่ำดังขึ้นเรื่อยๆทีละน้อยจนกลายเป็นเสียงคำราม ภาพตรงหน้าของผมสั่นไหวอย่างรุนแรงจนน่าเวียนหัว เสียงของสายฝนที่ตกกระทบลงบนแผ่นเหล็กฟังดูน่ากลัวราวกับเสียงของปืนกลที่สาดกระหน่ำ ความหนาวเย็นที่บาดลึกเข้าไปถึงโครงกระดูกทุกซี่ และความหวาดกลัวที่ครอบงำไปทั้งจิตใจของผม ทำให้ผมต้องหลั่งน้ำตาออกมาอย่างห้ามไม่ได้

“ไม่เป็นไรนะครับ นนท์ ไม่ต้องกลัวนะ........” เสียงทุ้มต่ำอันหนักแน่นแต่ก็ยังฟังดูอ่อนโยนช่วยปลอบประโลมผม ชั่วครู่หนึ่งนั้นผมได้เผลอเชื่อไปแล้วว่าสิ่งที่เขาพูดจะเป็นความจริง

“ฮืออออ!! นนท์กลัวอ่ะครับ ฮือออๆๆ” ผมร้องไห้และซุกหน้าลงบนอกของเขาพร้อมกับกอดเขาเอาไว้แน่น “พ่อฮะะ!!"

“ไม่ต้องกลัวครับ พ่ออยู่ที่นี่กับนนท์ นนท์จะไม่เป็นอะไรแน่นอน เชื่อพ่อสิ”

ผมเงยหน้าขึ้นสบตากับดวงตาคู่นั้น “พ่ออย่าทิ้งนนท์ไปไหนนะ นนท์กลัว”

เสียงฟ้าผ่าดังเปรี้ยงขึ้น ผมจึงรีบโผกลับไปซบลงบนแผ่นอกของผู้เป็นพ่ออีกครั้งอย่างรวดเร็ว

“ไม่ต้องกลัวครับ เดี๋ยวมันก็สงบลงแล้ว พ่อจะดูแลนนท์เอง มีพ่ออยู่ทั้งคนนนท์ยังจะกลัวอะไรอีก ฮึ”

“พ่ออย่าทิ้งนนท์ไปไหนนะ สัญญากับนนท์นะฮะ พ่อ”

พ่อลูบหัวผมเบาๆ “พ่อสัญญาครับ พ่อจะดูแลนนท์และไม่ทิ้งนนท์ไปไหนแน่นอน”

“สัญญานะ” ผมชูนิ้วก้อยขึ้น

พ่อใช้นิ้วก้อยเกี่ยวเข้ากับนิ้วของผม แล้วก็ส่งยิ้มให้ผมอย่างอ่อนโยน

“แย่แล้วครับนาย!” ผู้ชายคนหนึ่งโผล่หน้าเข้ามาหาเราสองคนแล้วพูดขึ้น

“พ่อจะไปไหนครับ!” ผมรีบร้องขึ้นทันทีที่พ่อลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวพ่อกลับมา แป๊บเดียวครับ”

“แต่พ่อบอกว่าพ่อจะอยู่กับนนท์นี่ฮะ!”

“ไม่เอาน่า พ่อไปแป๊บเดียวเอง นนท์เป็นลูกผู้ชายไม่ใช่เหรอครับ” พ่อย่อตัวลงแล้วใช้สองมือประคองหน้าผมเอาไว้ มือของพ่อทั้งเปียกชุ่มและเย็นเฉียบ “ไหนนนท์เคยบอกพ่อว่านนท์อยากเข้มแข็งและตัวใหญ่เหมือนพ่อไง เพราะงั้นรอพ่อแป๊บเดียวนะครับ เดี๋ยวพ่อมา” เมื่อพูดจบ พ่อก็ยืดตัวขึ้นและหันหลังให้กับผมทันที

“พ่อออ!” ผมร้องห้ามอีกครั้ง แต่พ่อก็เดินจากผมไปแล้ว

ผมชะโงกมองออกไปนอกหน้าต่างแล้วก็รีบหันกลับมานั่งกอดเข่าแล้วร้องไห้อยู่คนเดียวอีกครั้งด้วยความกลัว ผมสะอื้นกับตัวเองเบาๆและพร่ำบอกตัวเองว่ามันจะต้องไม่เป็นอะไร สายฝนที่สาดกระเซ็นทำให้ผมเปียกไปหมดทั้งตัว พื้นที่โคลงเคลงไปมาอย่างรุนแรงมาทำให้ผมเริ่มรู้สึกอยากจะอ้วก และผมก็ทำได้แค่เพียงภาวนาขอให้ฝันร้ายนี่มันจบลงไวๆสักที.........

“นนท์!”

ผมสะดุ้งและลืมตาขึ้นหันไปหาเสียงที่เรียกชื่อผมอย่างรวดเร็ว ผมมองเห็นโจกำลังนั่งมองหน้าผมอยู่ด้วยแววตาและสีหน้าเป็นห่วง เมื่อผมกลับมาก้มมองดูตัวเองก็พบว่าผมกำลังนอนอยู่บนเตียงโดยมีผ้าห่มคลุมร่างกายท่อนล่างเอาไว้อยู่ ผมรู้สึกว่าบริเวณลำคอ หน้าอก และแผ่นหลังของผมมันชื้นแฉะไปด้วยเหงื่อ ฝ่ามือของผมก็เปียกชุ่ม และแถมเมื่อผมยกมือขึ้นแตะที่ใบหน้าของตัวเอง ผมถึงได้รู้ตัวว่าผมเพิ่งจะร้องไห้ไปด้วย

“มึงเป็นอะไร ฝันร้ายเหรอวะ” เขาถาม

“กู....... กูไม่รู้......” ผมชันตัวขึ้นนั่งและใช้คอเสื้อเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบแก้มออก

“ไม่รู้ได้ยังไง มึงทั้งละเมอ ทั้งร้องไห้ แถมกูยังเรียกมึงตั้งหลายครั้งนะเว้ย”

“กูหลับไปเหรอวะ......” ผมหันไปดูนาฬิกา

“กูก็ไม่รู้ ก็มึงนอนคลุมโปงแล้วก็ครางอือๆ พอกูเปิดผ้าออกก็เห็นมึงเป็นแบบนี้เนี่ย”

“เพิ่งจะครึ่งชั่วโมงเอง.........” ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆ “ถ้างั้นกูคงไม่ได้หลับไปหรอก แต่กูแค่.........”

“แค่อะไร” เขาขมวดคิ้ว

“ไม่รู้ว่ะ กูคงคิดถึงเรื่องตอนกูเด็กๆมั๊ง แล้วมัน...... มันเหมือนกูกลับไปอยู่ในสถานการณ์ตอนนั้นอีกครั้งเลยอ่ะ มันเหมือนจริงมาก...... กู........” ผมก้มหน้า รู้สึกขนแขนลุกชันไปหมด ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะความกลัวหรือความหนาวจากเครื่องปรับอากาศอันแน่

“ว่าแต่นี่มึงแดกยารึยัง”

“โจ มึงออกไปก่อนได้ป่าววะ” ผมเงยหน้าขึ้นกลับไปพูดกับเขา

“ทำไมวะ”

“เหอะนะ กูขอร้อง”

เขามองหน้าผมอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลุกขึ้นออกจากเตียงและเดินตรงไปที่ประตู “อย่าลืมแดกยาด้วยล่ะ แล้วกูจะไปรออยู่ข้างล่าง” เขาหันมาพูดกับผมก่อนจะเดินออกจากห้องไปและปิดประตูลง

ผมลุกออกจากเตียงและเดินไปที่โต๊ะเขียนหนังสือ ผมเปิดลิ้นชักชั้นบนสุดออกและหยิบรูปถ่ายใบหนึ่งออกมาจากข้างใน จากนั้นผมก็เดินกลับลงมานั่งอยู่ที่ริมเตียงพลางนั่งมองดูรูปใบนั้นไปด้วย

ในรูปเป็นรูปของผมที่กำลังยืนกอดคอพ่อที่กำลังนั่งอยู่บนชาดหาดจากทางด้านหลังอยู่ ตอนนั้นผมเพิ่งอายุได้เจ็ดขวบ ส่วนพ่อยุทธที่เป็นพ่อแท้ๆของผมก็กำลังยิ้มกว้างไม่ต่างจากผมที่กำลังหัวเราะอย่างมีความสุข ผมจำได้ว่าเราสองคนสนิทกันมาก และผมก็จะชอบบอกให้พ่อนั่งลงเพื่อที่ผมจะได้กอดคอพ่อจากทางข้างหลังแบบนี้ได้ แล้วจากนั้นพ่อก็จะยืนขึ้นและเดินไปไหนต่อไป แกล้งให้ผมต้องเกาะห้อยอยู่บนหลังของพ่อแบบนั้นเสมอๆ

พ่อเป็นคนตัวสูงใหญ่และใจดี เสียงของพ่อคือเสียงที่ผมชอบฟังในเวลาที่ผมไม่สบาย ในยามที่ผมต้องการใครสักคนมาปลอบโยน หรือแม้แต่แค่ส่งผมเข้านอน ทุกครั้งที่ผมได้ยินเสียงของพ่อบอกให้ผมหลับฝันดี ผมก็จะสามารถนอนหลับอย่างสบายใจได้ทุกครั้ง พ่อเป็นคนตาสวยและยิ้มหวาน ซึ่งแม่และคนอื่นๆต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าผมเหมือนกับพ่อตรงเรื่องนี้มากที่สุด

ในรูปนั้นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราสามคนพ่อแม่ลูกได้ไปเที่ยวทะเลด้วยกัน แม่เป็นคนถ่ายรูปนี้ให้กับพวกเรา และผมจำได้ดีว่าก่อนหน้านั้นสองสามวันเราต่างก็ยังมีความสุขด้วยกันมาก จนกระทั่งเมื่อมาถึงคืนก่อนวันสุดท้ายที่เราจะต้องกลับบ้านกัน ใครจะไปคาดคิดว่าเหตุการณ์แบบนั้นจะสามารถเกิดขึ้นกับพวกเราได้........

“พ่อครับ........” น้ำตาของผมเริ่มไหลออกมาอีกครั้ง “ไหนพ่อบอกว่าพ่อจะไม่ทิ้งนนท์ไปไหนไง ไหนพ่อสัญญาว่าจะดูแลนนท์ไปตลอดไม่ใช่เหรอครับ พ่อ........” ผมแนบรูปถ่ายใบนั้นเข้ากับอกของตัวเองและล้มตัวนอนลงบนเตียงอีกครั้งพร้อมกับปล่อยให้น้ำตารินไหลออกมาอย่างไม่คิดที่จะหยุดมัน

หัดดิน เอ้ยหัดกิน

  • บุคคลทั่วไป
:z13: :z13: :z13:
ก่อนย่องไปอ่าน
อิอิ

เกิดอะไรขึ้นตอนนั้น
ชักจะอยากรู้แล้วหล่ะสิ
เรื่องที่สอง... โจคุยอะไรกับแม่บ้างอ่ะ
เหมือนกับว่าจะสนิทกันพอสมควร
ถึงใช้คำว่า "โคตร" กับผู้ใหญ่ได้
เรื่องสาม... เรื่องรู้สึกมาขึ้นเรื่อยๆ
ว่า
ว่า
ว่า
นนท์ชอบโจเข้าแล้วววววววว
 :laugh: :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 20-02-2010 21:25:14 โดย F[i]sH[O] »

ออฟไลน์ โมโม่ที่รัก

  • ٥ﻻ ﻉ√٥ﺎ ٱu
  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 942
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +19/-1

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ จันทร์ผา

  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2264
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +286/-2
น้องนนท์ฝันเห็นคุณพ่อแท้ๆ

มันจะป็นลางบอกเหตุอะไรรึป่าวคับ :เฮ้อ:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page

เรื่องที่สอง... โจคุยอะไรกับแม่บ้างอ่ะ
เหมือนกับว่าจะสนิทกันพอสมควร
ถึงใช้คำว่า "โคตร" กับผู้ใหญ่ได้



อ้าว ปกติเค้าไม่พูดกันเหรอครับ คำว่า "โคตร" กะผู้ใหญ่เนี่ย 5555

ล้อเล่นๆ แหม ไอ้โจมันก็ประมาณนี้แหละครับ สำหรับมันนี่ก็เรียกได้ว่าพูดเพราะแล้วนะเนี่ย  :laugh:

แต่เรื่องของเรื่องคือ พอมานึกๆดู นี่ผมใช้เวลากว่า 80 ตอนในการปูเรื่องเข้าอดีตของนนท์เลยเหรอเนี่ย นานไปนิสสสสป่ะ 5555  :z1:

สงสัยนิยายเรื่องนี้ไม่จบง่ายๆแน่นอน เอิ๊กกกส์ส์


ปล. เรื่องโจกับนัทสำหรับนนท์...... ใครเลยจะรู้ดีเท่านนท์ (และกรู) จริงมะครับ เอิ๊กๆ  :pigha2:
ปลล. ใกล้สอบอ่ะครับ อาจจะดีเลย์นิดนึงนะ ขอโทษล่วงหน้าก่อนเลยนะคร้าบ  :3123:


น้องนนท์ฝันเห็นคุณพ่อแท้ๆ

มันจะป็นลางบอกเหตุอะไรรึป่าวคับ :เฮ้อ:

น่าจะไม่นะครับ เพราะผมไม่ได้คิดไว้เผื่อขนาดนั้น (ฮา)


ออฟไลน์ thaitanoi

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1451
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +70/-2
มาทำให้สงสัยเล่นเหรอเนี่ย รอตอนต่อไปนะครับ

Xerxes

  • บุคคลทั่วไป
หลานชายของทนายคนนี้
กับเรื่องราวในอดีตของนนท์
จะเป็น...
สาเหตุที่ทำให้เกิดจุดพลิกผันของเรื่องรึเปล่านะ?

andy_kwan

  • บุคคลทั่วไป
เชียร์โจต่อไป

ทั้งนนท์และโจต่างก็มีเรื่องฝังในใจ  ดูเหมือนทั้งคู่จะเติมเต็มกันได้ลงตัวดีกว่านัท
ว่าแต่หลานชายของทนายที่เรียนโรงเรียนเดียวกัน  คงจะไม่บังเอิญเป็นพวกเวรที่แกล้งนนท์ด้วยนะ

ป้าเชียร์โจต่อไปจ๊ะ    อิอิ

Ultramann

  • บุคคลทั่วไป
สงสัยนนท์คงติดโรคมาจากโจ
ตอ่ไปคงมีแค่โจเท่านั้นที่นอนกอดนนท์แล้วฝันดี
เกมือนที่นนท์เคยทำกะโจไง นนท์จะได้ลืมๆนัทไปซะ
แล้วก้อมาอินเลิฟกะโจ อิอิ :-[ :-[

 :z13: :z13: :z13:คนแต่งฮะ

Koa-ka

  • บุคคลทั่วไป
สวัสดีครับ

โถ.....
ชาตินนท์

น่าสงสาร
นัทต้องรีบไปปลอบนะ
หึหึ

/สมาคมคนเชียร์นัทนนท์/

ขอบคุณและจะติดตามครับ

gneuhp

  • บุคคลทั่วไป
น่าสงสาร นนท์ อ่าา

นนท์ คงรู้สึกแย่มากเลยอ่ะ

ว่าแต่ หลานชายของทนาย

นี่คงไม่ได้มาแรงแซงทางโค้งใช่ม๊ะ พี่ต้น  :L2:

ออฟไลน์ K2KARN

  • เป็ดEros
  • *
  • กระทู้: 3084
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +393/-6
สงสารนนท์แต่โจเองก็ไม่รู้เรื่องอะัไรถึงพูดไปแบบนั้นน่ะนะ


ยังงัยก็จะ เชียร์ "โจ" ค่ะ
คุณต้นเอ็นดูโจด้วยเนอะ  :laugh:
ให้โจเป็นพระเอกไวๆ ฮ่าๆ

mantdash

  • บุคคลทั่วไป
เอ้าไปๆมาๆนนท์กลับมาความหลังที่เลวร้ายซะเอง เหมือนสลับกันกับโจเลยแหะ :z2:

เหมือนตอนนี้โจอยู่ผิดที่ผิดทางทั้งตอนเลย o18

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด