]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

ผู้เขียน หัวข้อ: ]|เรื่องไม่สั้นและไม่เล่า|[ กระดานดำหลังรั้วโรงเรียน ... ชาย (ภาค 2: เม้นแรก)  (อ่าน 1708615 ครั้ง)

ออฟไลน์ myxt

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
ขอให้คุณต้นผ่านปัญหาทุกอย่างไปได้ด้วยดีนะคะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ  :กอด1:

patz

  • บุคคลทั่วไป
ขอให้ทุกปัญหา ผ่านพ้นไปด้วยดีนะครับ

เป็นกำลังใจให้ครับผม  :L2:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ขอบคุณทุกคนมากนะครับ วันนี้ผมกลับมาแล้ว แต่คงยังเอาเรื่องมาลงให้ไม่ไหว เหนื่อยมากจริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะครับ......

ตอนนี้ผมดีขึ้นมากแล้วล่ะครับ กำลังใจจากทุกคน ไม่ว่าจะจากทั้งหน้าไมค์และหลังไมค์ ผมได้รับมาอย่างครบถ้วนครับ
ทุกๆถ้อยคำที่ส่งผ่านมา ทุกๆความห่วงใย ผมต้องขอบคุณมากจริงๆ

ผมอ่านทุกๆรีพลายแล้ว ผมอยากจะบอกว่า ผมต้องขอโทษด้วย ที่มาบ่นในกระทู้นิยายตัวเองแบบนี้
ผมเองก็เขียนนิยายมาหลายเรื่อง แต่ผมไม่เคยเอาเรื่องส่วนตัวจากภายนอกที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับนิยายมาบ่นมาเล่าอะไรแบบนี้เลยจริงๆ

ในตอนนั้นผมไม่ได้อ่อนแอหรอกครับ แต่ผมคงเข้มแข็งมากจนเกินไป คงแก้ปัญหาอย่างมีเหตุผลมามากเกินไป มากเสียจนผมเก็บอารมณ์ที่อ่อนแอที่สุดเอาไว้ให้มันลึก..... ลึกเสียจนผมไม่สามารถควานหามันได้เจอในยามที่ผมต้องการ

ผมไม่ได้เจอปัญหาแล้วผมเครียดจนทำอะไรไม่ถูก แต่ว่าช่วงหลังๆนี้ผมเจอปัญหามามากมายอยู่เรื่อยๆ และผมก็พยายามแก้มันไปเรื่อยๆด้วยเหมือนกัน
ทำได้มั่งไม่ได้มั่ง ช้าบ้างเร็วบ้าง ถูกมั่งผิดมั่ง แต่ผมก็รับมือกับทุกๆอย่างได้ดีในระดับหนึ่งมาตลอด
จนกระทั่งวันนั้น วันที่ผมไม่เคยรู้ตัวเลยว่าผมแบกรับมันมากจนเกินไปแล้ว

ก็อย่างที่ผมบอกล่ะครับว่า ผมหัวเราะอย่างปกติ ทำให้คนอื่นหัวเราะได้เหมือนเคย
แต่ทำไมพอถึงตอนท้ายของวัน ผมกลับวิ่งไปอ้วก ทั้งๆที่ไม่ได้กินอะไรลงท้องไปเลยนอกจากข้าวแค่ครึ่งจาน
ผมนั่งแท็กซี่กลับบ้านทั้งๆที่เวียนหัวคลื่นไส้อยากอาเจียน ปวดหัวแทบระเบิด โลกมันหมุนไปหมด เครียดที่ตัวเองไม่เคยเครียด อยากจะร้องไห้ อยากจะฟูมฟาย แต่ทว่ามันก็กลับไม่มีน้ำตา.......

ปัญหาร้อยแปดมันตกลงมาที่ผม..... ไม่ใช่ผมคนเดียว ผมรู้ดีว่าคนใกล้ตัวผมเค้าก็เครียด แต่สิ่งที่ผมกำลังเครียด มันไม่ได้เกิดมาจากตัวผมเลย และผมก็ยิ่งเครียดเมื่อคิดว่าแม่ผมและคนอื่นๆก็กำลังเครียด ผมไม่อยากให้เค้าเครียด ผมอยากจะแบ่งเบาอะไรๆมาบ้าง เอามาให้ผมเครียดคนเดียวก็พอแล้ว ผมสงสารแม่
แต่ในขณะเดียวกันผมก็รู้สึกว่าผมไม่ไหวแล้ว ผมอยากจะปลดมันออกไปบ้างเหมือนกัน......

และแล้วพอถึงวันพฤหัส ผมก็พยายามทำอะไรให้ตัวเองสบายใจขึ้นบ้าง อย่างแรกเลยคือผมไม่รับโทรศัพท์ใครเลยสักคน

แต่พอในตอนเย็นผมรับปุ๊บ ผมก็เจออีกสองปัญหา......

วันต่อมาผมรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย อาการเวียนหัวคลื่นไส้เริ่มดีขึ้น ปวดหัวนิดหน่อย แต่คิดว่าคงไหว
ผมนั่งรถไปต่างจังหวัดเหมือนอย่างเคย ไปเพื่อเผชิญกับปัญหา และเพื่อกลับสู่กิจวัตรปกติของตัวเราเอง ผมคิดว่าอะไรๆมันคงดีขึ้นแล้ว
แต่แล้วผมก็คิดผิด เมื่อพอกลับไปถึงบ้านปุ๊บ ผมก็ต้องเครียดและมานั่งเคลียร์ปัญหาแทนแม่ของผมอีกหนึ่งปัญหา
ผมสงสารแม่ผมมาก เพราะผมรู้ว่าแม่กำลังเครียดมากขนากไหน และนั่นก็ยิ่งทำให้ผมเครียดขึ้นไปอีก

วันเสาร์ผมเข้าสอนด้วยความรู้สึกปกติ ผมไม่เคยเอาเรื่องจากนอกห้องเรียนเข้ามาปะปนกับสิ่งที่ผมกำลังจะถ่ายทอด
ทุกอย่างดูดีขึ้น แต่ผมก็ยังคงกินข้าวไปแค่จานเดียวจากทั้งวันเหมือนเคย
ผมเข้านอนตอนห้าโมงเย็น ตื่นมารอบหนึ่งตอนราวๆทุ่มตรงและกว่าจะหลับลงไปอีกครั้งก็สามทุ่ม วันรุ่งขึ้นผมตื่นขึ้นมาหกโมงตรงและทุกอย่างก็กลับสู่ภาวะปกติ เตรียมตัว เตรียมสอน สอนหนังสือ จากนั้นก็กลับกรุงเทพ

(ถึงผมจำเป็นต้องแคนเซิ่ลเด็กตอนบ่ายไปเพราะผมรู้ตัวว่าผมไม่ไหวก็เถอะ)

จิตใจผมเริ่มดีขึ้น ร่างกายผมเริ่มฟื้นตัว ความเหนื่อยล้าสะสมเริ่มจะค่อยๆหายไปบ้างหลังจากได้พักผ่อนเต็มที่

แต่ว่าผมรู้ดีว่าสักวันหนึ่งผมก็คงต้องเป็นแบบนี้อีก.......

ถึงยังไงก็ตาม ผมคิดว่าผมพร้อมที่จะรับมือกับมัน ..... รับมือกับอะไรหลายๆอย่าง
ผมจะรับมือกับทุกๆเรื่องด้วยรอยยิ้ม ด้วยเสียงหัวเราะ ด้วยเหตุผล และด้วยความอบอุ่นจากรอบๆข้างที่ผมเคยได้รับมาเหมือนเคย
อย่างน้อยๆผมก็คิดว่าผมทำได้จนกว่าจะถึงวันที่ผมอ่อนแอและเรียกหาน้ำตาอีกครั้ง.....

ต้องขอโทษด้วยนะครับ มันอาจจะน่างงไปนิดนึงกับความรู้สึกของผม
ผมไม่ได้เครียดอะไรหรอกครับ แต่ผมแค่เหนื่อย
เหนื่อยที่เข้มแข็งเกิน เหนื่อยที่เป็นคนใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์เกินไป เหนื่อยที่ต้องแบกรับ และเหนื่อยที่รักและห่วงความรู้สึกคนอื่นจนยอมทำร้ายตัวเองมากจนเกินไป

แต่ผมก็ขอบคุณมากจริงๆที่รับฟัง ผมไม่ได้ต้องการความเห็นใจหรืออะไรหรอกครับ พูดตรงๆ ผมก็แค่เก็บอะไรๆไว้มากจนวันนั้นมันอยากจะระบายออกไปบ้าง
แต่ผมก็แทบไม่ได้โทรหาใครเลย คนที่สนิทที่สุดกับผม ใกล้ชิดกับผมที่สุด ก็ยังไม่รู้เลยครับว่าผมเป็นอะไร
ผมแค่อยากพูด อยากพิมพ์ออกไป เพื่อระบายอะไรออกไปบ้าง
เพราะอย่างน้อยๆ...... สิ่งที่ผมทำอยู่ทุกวันนี้ การแต่งนิยาย มันคือการได้ระบายและถ่ายทอดความรู้สึกของผมผ่านตัวหนังสือออกไป และผมก็รู้สึกดีที่ได้ทำมันลงไปมากๆด้วย

ดังนั้นนอกจากขอบคุณทุกคนแล้ว ผมยังต้องขอบคุณ เมฆ ซัน นัท นนท์ โจ และคนอื่นๆอีกด้วยเหมือนกันนะครับเนี่ย ที่ทำให้โลกแห่งความเป็นจริงของผมมันสดใสขึ้นได้บ้าง มากกว่าที่ใครหลายๆคนคิดเลยทีเดียว

ขอบคุณมากนะครับที่ยอมอ่านผมบ่น ที่ให้กำลังใจ ที่ห่วงใย ที่อ่านนิยายของผม ที่หลังไมค์ไปหาผม และที่รอคอยให้ผมกลับมา

พรุ่งนี้เจอกันแน่นอนครับ

ฝันดีครับผม  :กอด1:

pae_tekung

  • บุคคลทั่วไป

เป็นกำลังใจให้คุณต้นครับ


สู้ๆ ครับ


 :L2:




zene

  • บุคคลทั่วไป

wattanai

  • บุคคลทั่วไป
 :กอด1:...............

นนท์ร๊ากกกกกกกกกกพี่ต้นเสมอนะงับ...........อิอิ

pequena

  • บุคคลทั่วไป
อยากให้พยายามคิดว่า
"อีกนิดเดียว มันก็จะผ่านไป" 
คนเราใช่ว่าต้องเข้มแข็ง หรือ อ่อนแอ ตลอดเวลา
ถ้าเหนื่อย.....ก็พักนะคะ
มีแรงก็ลุกขึ้นสู้กันต่อไป

คุณต้นให้ความสุขกับคนอ่านที่นี่มามาก
เวลาที่คุณต้นไม่สบายใจหรือมีปัญหา
ถึงจะช่วยแก้ไขอะไรไม่ได้
แต่เชื่อว่าหลายๆคนในนี้ พร้อมจะเป็นกำลังใจให้นะคะ
ถ้าช่วยให้สบายใจขึ้น ก็อยากให้คุณต้นมาแบ่งปันกันค่ะ

พี่ขอส่ง  :กอด1: และกำลังใจมาให้นะ  :L2:
สู้ๆๆ นะ

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เข้ามา  :กอด1: และส่งน้องต้นเข้านอน หลับฝันดีน้า  :L2:

blueclystals_

  • บุคคลทั่วไป

mantdash

  • บุคคลทั่วไป
ในที่สุดก็ผ่านพ้นมันมาได้นะครับ

เป็นกำลังใจให้คนไม่ยอมแพ้ครับ  o13

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






ออฟไลน์ tae1234

  • เป็ดเด็กช่าง
  • *
  • กระทู้: 380
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +10/-0
 :L2:เป็นกำลังใจให้ครับ

ออฟไลน์ myxt

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 655
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +37/-1
แล้วมันก็จะผ่านไปนะคะ สู้ๆน๊า  :กอด1:
พักผ่อนเยอะๆนะคะ
พรุ่งนี้เจอกันค่ะ  :L2:

ออฟไลน์ ❝CHŌN❞

  • เหงา เหงา :(
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1924
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +213/-3
สู้ๆน้า พี่ต้น


เป็นกำลังใจให้เสมอ    :L2: :L2:

artkung

  • บุคคลทั่วไป
สู้ๆ นะพี่ต้น


แล้วเจอกันคร้าบบ  :L2:

schteuben

  • บุคคลทั่วไป
ไม่เป็นไรหรอกคับ
มีปัญหาก็มีบอร์ดเหมือนเป็นที่ปรึกษา
มีปัญหาอารายก็มาเล่าสู่กันฟังได้
พวกเราเป็นกำลังใจให้เพื่อนที่ใจดีแบบนี้เสมอคับ :n1: o13

ออฟไลน์ august_may

  • เป็ดHera
  • *
  • กระทู้: 998
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +81/-0
เข้ามารับฟังปัญหาของพี่ต้นคะ ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ 

patz

  • บุคคลทั่วไป
ดีใจที่คุณต้นบอกว่าไม่เป็นอะไรแล้ว แต่ก็ยังเป็นกำลังใจให้เสมอครับผม

 :L2:

ISACBTMN

  • บุคคลทั่วไป
 :man1: ดีใจเหมือนกันที่ไม่เป็นไรแล้ว

เป็นกำลังใจให้ผ่านช่วงเวลานี้ไปได้อย่างสวยงามจ้า

Caution

  • บุคคลทั่วไป


จะมืดยังไง

อดทนหน่อย

เด๋วก็เช้าแล้วคับ

อดทนไว้....

 o13

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
ระวัง....... นากีสกำลังจะมา


CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
:z13: น้องต้น และ  :กอด1: เป็นกำลังใจให้ทุกเรื่องนะจ๊ะ
 :L1:

ออฟไลน์ ExecutioneR

  • จุ๊บ จู๊บบบบบ ~~ ♥
  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4243
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +1722/-40
    • FB Page
A 24


พอไปถึงบ้านผมก็ต้องไม่ลืมที่จะกำชับแม่และทุกๆคนเอาไว้ก่อนว่าไม่ให้ใครหลุดพูดเรื่องที่โจเคยมานอนกับเราออกมาให้นัทได้ยินโดยเด็ดขาด สำหรับโจ มันอาจจะเป็นเพราะว่าเขาเคยขอร้องผมเอาไว้ว่าเขาไม่อยากให้ใครรู้ แต่สำหรับผมเอง มันเป็นเพราะผมไม่อยากให้นัทรู้ว่าโจเคยมานอนที่นี่มากกว่า ถึงมันอาจจะฟังดูต่างกันแค่เพียงนิดเดียว แต่สำหรับทางด้านความรู้สึกของผมแล้ว มันกลับแตกต่างกันมากเหลือเกิน

“ตอนแรกนัทนึกว่านนท์จะพูดภาษาเหนือกับแม่ซะอีกนะ” นัทหันมาพูดกับผมหลังจากที่เราเข้ามาอยู่ด้วยกันในห้องนอนของผมเรียบร้อยแล้ว

“ก็นนท์เคยบอกแล้วไงว่าแค่บางครั้งเท่านั้นเอง แถมนี่มีนัทอยู่ด้วย แม่เค้าก็คงกลัวนัทฟังไม่ออกน่ะสิ” ผมวางกระเป๋าลงแล้วเดินไปนั่งลงบนเตียง “นั่งก่อนดิ่ ยืนอยู่ได้ ไม่เมื่อยเหรอ”

นัทยิ้มแล้วเดินมานั่งลงข้างๆผม “แล้ววันนี้จะนอนกันยังไงดี เดี๋ยวนัทนอนข้างล่างเองก็ได้นะ”

“ไม่ต้องหรอกน่า” ผมส่ายหน้า “อุตส่าห์มาถึงนี่แล้ว แถมเตียงนี่ก็ใหญ่กว่าเตียงที่หอตั้งเยอะ เพราะงั้นก็นอนด้วยกันบนเตียงนี่แหละ ไหนว่า.........” ผมชะงัก

“ไหนว่าอะไร”

“เปล่า ไม่มีอะไร”

“ไหนว่าอะไร” นัทหันมาหาผมพร้อมรอยยิ้มกว้าง

“ปล่าวว....... ไม่มีอะไร” ผมลุกออกจากเตียง แต่แล้วก็ถูกนัทดึงข้อมือเอาไว้เสียก่อน

“ไหนว่าอะไร บอกมาเดี๋ยวนี้!” เขาดึงผมให้ล้มกลับลงมาบนเตียงพร้อมกับใช้นิ้วจี้ตามส่วนต่างๆบนร่างกายของผมอย่างเมามัน จนทำให้ผมต้องหัวเราะและดิ้นออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“โอ๊ยยๆๆ ฮ่าๆๆๆ ไม่เอาๆ อย่าจี้!” ผมพยายามดิ้นให้หลุดจากนิ้วและมือของเขา “ฮ่าๆๆๆ พอๆๆ! หายใจไม่ทันแล้ว!!”

“ยอมรึยัง!” นัทเริ่มผ่อนมือลงแต่ก็ยังคงไม่ยอมหยุดจี้เอวผมอยู่ดี

“ยอมแล้วๆๆ!!” ผมหอบ และเมื่อได้ยินอย่างนั้น นัทก็ยอมปล่อยมือที่ล็อคผมเอาไว้อยู่ออกจนได้

“ตกลงว่าไหนว่าอะไร....... บอกมา”

ผมหันไปมองหน้าเขาทั้งๆที่มีน้ำตาปริ่มอยู่ขอบตา “ได้ทีล่ะเอาใหญ่เชียวนะ”

“อ้าวแน่นอน” นัทหัวเราะ

และเมื่อผมเห็นว่าเขาลดการ์ดลงแล้ว ผมจึงรีบกระโดดขึ้นไปนั่งทับคร่อมอยู่บนตัวของเขาทันที

“เฮ้ยย!!” นัทร้องออกมาเมื่อถูกน้ำหนักตัวของผมกดทับจนล้มลงไปนอนหงายอยู่บนเตียง

“ทีใครทีมันเว้ย!” ผมรัวนิ้วลงบนร่างกายของเขาอย่างเมามันทันที และแน่นอนว่านัทเองที่บ้าจี้ไม่แพ้ผมก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลยนอกจากนอนหัวเราะ ดิ้น และร้องขอความเมตตาจากผมอย่างหมดทางสู้ จนกระทั่งผมรู้สึกสะใจพอแล้ว ผมจึงยอมยกมือออก แต่ก็ยังไม่ยอมลุกออกจากตัวของเขาอยู่ดี

“แฮ่ก แฮ่กก..... โอยยย........” นัทหอบออกมาเบาๆพร้อมน้ำใสๆที่ไหลรินออกมาจากดวงตาทั้งสองข้าง

“เป็นไงล่ะ สะใจดีมั๊ย”

“พอแล้ว...... ไม่ไหวแหล่วว........” นัทส่ายหน้าเบาๆ

“เลิกเล่นแล้วนะ โอเค๊” ผมถามเพื่อความแน่ใจว่าเขาจะไม่เอาผมคืนอีกครั้ง

“ก็ได้ๆ เลิกๆ” นัทยิ้ม

“ถ้านนท์ลุกแล้วจะไม่มีการเอาคืนแน่นะ........” ผมถามย้ำอีกครั้ง

“เออๆ ครับๆ ไม่เอาคืนแล้วว” นัทหัวเราะแห้งๆ “......จริงๆ”

เมื่อได้ยินดังนั้น ผมก็เลยเริ่มที่จะขยับตัวออกจากบนตัวของนัท แต่แล้วจู่ๆผมก็รู้สึกถึงบางอย่างแข็งๆที่กำลังดุนอยู่ที่ก้นของผม และเมื่อผมนึกได้ว่าสิ่งที่ผมกำลังนั่งทับอยู่นั้นมันคืออะไร ผมก็รีบยกตัวขึ้นแล้วกระโดดลงไปยืนอยู่ข้างๆเตียงทันที

เมื่อผมลุกขึ้นยืนแล้ว เราสองคนก็สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง และไม่ใช่แค่ผมเพียงคนเดียวที่กำลังหน้าแดงอยู่ในตอนนี้ เพราะแม้แต่นัทเองก็ยังมีท่าทางเขินอายกับสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่นี้อยู่ด้วยเลย

“คือ.......” ผมอึกอัก “ขอโทษที........”

นัทดันตัวขึ้นนั่ง จากนั้นก็ยิ้มแล้วส่ายหน้าเบาๆ “ตกลงจะยอมบอกนัทได้ยัง ว่าเมื่อกี๊จะพูดอะไรน่ะ”

“โอ๊ยย ลืมไปหมดแล้ววว” ผมหัวเราะ “ก็เพราะนัทน่ะแหละมาจี้นนท์ นนท์เลยลืมไปหมดแล้วอ้ะ”

“ขี้โกงนี่หว่าาาาา”

“ไปเหอะ ไปอาบน้ำกัน แล้วจะได้ลงไปกินข้าว” ผมเปลี่ยนเรื่อง

“หือออ” นัทเลิกคิ้วขึ้น

“เอ๊ย ไม่ใช่ นนท์หมายถึง ไปอาบน้ำก่อน แล้วเราจะได้ลงไปกินข้าวกัน”

“ก็แล้วไป......” นัทหัวเราะเบาๆ “แล้วให้ไปอาบที่ไหนล่ะ”

“ห้องข้างนอกนี่อ่ะ ออกไปแล้วอยู่ซ้ายมือ เดี๋ยวนนท์ไปอาบอีกห้องเอง”

หลังจากที่เราสองคนอาบน้ำเสร็จ ผมก็พานัทลงไปกินข้าวพร้อมกันกับแม่ที่ชั้นล่าง และดูท่าทางว่าแม่เองก็คงจะชอบนัทขึ้นมาในทันทีเลยด้วยเหมือนกัน เพราะว่าเขาเป็นคนที่ขี้เล่นแล้วก็สุภาพมาก ซึ่งผมคิดว่าเป็นอะไรที่ต่างจากโจลิบลับ......

แต่มาคิดๆดูดีๆ เวลาที่โจอยู่กับแม่ของผมเขาก็ทำตัวสุภาพแล้วก็ดูขี้อ้อนเอาใจไม่น้อยเลยเหมือนกันนี่นะ ต่างกับเวลาที่อยู่กับผมแค่สองคนหรือเวลาที่เขาอยู่กับเพื่อนลิบลับเลยทีเดียว

หลังจากกินข้าวเสร็จผมกับนัทก็ขึ้นมาอ่านหนังสือด้วยกันบนห้อง แต่ไปๆมาๆก็กลายเป็นว่าเราสองคนกลับมานั่งคุยนั่งเล่นกันซะมากกว่า เพราะว่าเราต่างก็เห็นว่ายังมีเวลาพรุ่งนี้อีกวันนึงเต็มๆที่จะใช้อ่านหนังสือและทบทวนบทเรียนด้วยกัน จนกระทั่งถึงเวลาประมาณสามทุ่มกว่า ผมก็เริ่มที่จะรู้สึกง่วงขึ้นมาแล้ว

“งั้นนอนเลยก็ได้ แล้วพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าๆมาอ่านหนังสือกัน วันนี้ยังไปไม่ค่อยถึงไหนเลย” นัทพูด

“เช้าเลยเหรอ เช้าแค่ไหนอ่าาาา”

 “โถๆ ไอ้ขี้เซา” นัทหัวเราะ “เอาเหอะ ตื่นเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้นและกัน แต่นัทขอตั้งนาฬิกาปลุกไว้ตอนเจ็ดโมงนะ โอเคป่ะ”

หลังจากนั้นเราสองคนก็แยกย้ายกันไปแปรงฟัน และเมื่อผมเดินกลับเข้ามาในห้อง นัทก็กำลังนั่งกอดหมอนรอผมอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว

“นอนฝั่งไหนอ่ะ” เขาถาม

“ฝั่งไหนก็ได้ ถนัดแบบไหนล่ะ” ผมตอบ จากนั้นก็เดินไปหยิบรีโมทแอร์มาถือไว้ในมือ “ร้อนมั๊ยอ่ะ ลดอุณหภูมิอีกนิดดีกว่าเนอะ”

“ก็ได้ แล้วแต่นนท์น่ะแหละ”

“งั้นนนท์ปิดไฟเลยนะ” ผมหันไปถามเขา และเมื่อเขาพยักหน้า ผมก็กดสวิตช์ไฟลง ทำให้ทั่วทั้งห้องมืดสนิทลงทันที

ผมเดินไปที่เตียงอย่างชินทาง ไม่เหมือนกับเมื่อตอนที่อยู่หอ แต่เมื่อผมกำลังจะคลานไปหาหมอนของตัวเอง ผมก็กลับล้มทับลงไปบนตัวของนัทเข้าให้อีกจนได้

“เฮ้ยย ขอโทษที นัท” ผมรีบดันตัวเองออกแล้วกลิ้งไปนอนอยู่ข้างๆเขา

“ไม่เป็นไร” เขาหัวเราะในลำคอเบาๆ

“แล้วผ้าห่มผืนเดียวนี่พอป่าวเนี่ย ห่มสองคนอ่ะ”

“พอๆ ผืนใหญ่ขนาดนี้ก็น่าจะพออยู่แล้วล่ะ แถมถ้านอนเบียดๆหน่อยก็เหลือเฟือแล้ว” นัทพูด แล้วก็ไม่ได้พูดเปล่าๆ แต่เขายังเขยิบเข้ามาเบียดชิดกับผมมากขึ้นอีกด้วย

เราสองคนนอนกันอย่างเงียบๆอยู่ครู่หนึ่ง ทั้งๆที่ก่อนจะปิดไฟลงเรายังมีเรื่องคุยกันมากมายหลายเรื่องอยู่เลย แต่พอเราได้มานอนอยู่บนเตียงเดียวกันตัวติดกันแบบนี้อีกครั้งแล้ว ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมผมถึงได้ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรกับเขาออกมาอีกดี จนกระทั่งนัทเริ่มขยับตัวเปลี่ยนท่าเล็กน้อย ผมจึงหันไปหาเขาแล้วถามเขาเบาๆ

“อึดอัดเหรอ” ผมขยับตัวออกจากเขานิดหน่อยเพื่อให้เขามีที่ว่างเพื่อที่จะได้นอนได้สบายตัวมากขึ้น

“เปล่า” เขาตอบ จากนั้นจู่ๆเขาก็ตะแคงตัวมาทางผมแล้วเหยียดแขนออกมากอดผมเอาไว้ “หนาวน่ะ..... ขอกอดหน่อยนะ” เขากระซิบออกมาเบาๆ

ผมรู้สึกว่าใบหน้าของผมมันร้อนผ่าวขึ้นมาในทันที นอกจากแขนของนัทที่พาดอยู่บนตัวของผมแล้ว ขาข้างซ้ายของเขาก็ยังก่ายอยู่บนหน้าขาของผมอีกด้วย ลมหายใจอุ่นๆของเขาที่รดอยู่บนต้นคอของผมมันยิ่งทำให้ผมรู้สึกเขินและตื่นเต้นยิ่งกว่าเดิมเสียอีก ความใกล้ชิดในครั้งนี้มันทำให้ผมรู้สึกถึงเจ้าน้องชายของผมที่มันกำลังเริ่มตื่นตัวมากขึ้นเรื่อยๆจนผมเริ่มกังวลว่าเขาจะรู้สึกถึงมันเข้าให้หรือเปล่า

“นนท์อึดอัดเหรอ” นัทถามผมเบาๆ เมื่อเขาเห็นว่าผมขยับตัวเล็กน้อย

“ปล่ะ เปล่าหรอก.......” ผมตอบ จากนั้นก็พลิกตัวเป็นอนตะแคงหันหลังให้แก่เขา

เมื่อผมเปลี่ยนท่าแบบนั้น นัทจึงคลายมือออกจากตัวของผม ทำให้ผมต้องคว้าข้อมือของเขาเอาไว้และจับมันมาวางพาดลงบนตัวของผมเหมือนเดิม

“ถ้าจะกอดอ่ะ กอดแบบนี้มันน่าจะถนัดกว่าไม่ใช่เหรอ.......” ผมพูด

และถึงผมจะมองไม่เห็นใบหน้าของเขา แต่ผมก็มั่นใจเลยว่านัทคงจะต้องกำลังนอนยิ้มกว้างอยู่แน่ๆ

“อื้มมม” เขาตอบออกมาในลำคอเบาๆ จากนั้นก็กระชับตัวผมเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดของเขาแน่นขึ้นอีก

ถึงแม้การที่ได้อยู่ใกล้ชิดกับเขาแบบนี้มันจะยิ่งทำให้ผมสับสนและรู้สึกกังวลกับทั้งความรู้สึกของตัวเองและของเขาอยู่บ้าง แต่ผมก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าความอบอุ่นที่ผมได้รับจากเขานี้ มันเป็นความอบอุ่นแบบที่ผมไม่เคยได้รับจากใครมาก่อนเลย แม้แต่จากแม่ของผมเองก็ตามที........

เมื่อถึงตอนเช้า ผมก็ลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงนาฬิกาปลุกจากมือถือของนัท และเมื่อนัทลุกขึ้นนั่งแล้วเอี้ยวตัวไปหยิบมือถือมากดปิดเสียงลงแล้ว ผมก็ค่อยๆบิดขี้เกียจแล้วชันตัวขึ้นนั่งตามเขาด้วย

“อ้าว เป็นไรไปอ่ะ” ผมถาม เมื่อเห็นว่าเขามีสีหน้าแปลกๆ

“อืมมม ปวดคอนิดๆอ่ะ” เขาใช้มือวางบนหลังคอของตัวเองแล้วบิดคอซ้ายขวาเบาๆ “เอ๊ะ หรือว่าปวดบ่าวะเนี่ย”

“อ้าว เป็นเพราะอะไรอ่ะ นอนตกหมอนเหรอ”

นัทหันมายิ้มให้ผม “ก็สงสัยอ่ะนะ เพราะเมื่อคืนแม่งมีใครก็ไม่รู้ จู่ๆก็ดึงเอาหมอนนัทไปหนุนเฉยเลย กว่านัทจะรู้สึกตัวก็นอนคอพับไปตั้งค่อนคืนแล้วแน่ะ”

“ใครวะ แม่งเหี้ยยจริงๆ”

นัทหัวเราะแล้วจับหัวผมโยกเบา “ปากดีจริงๆ ไอ้แมวเซา”

“แล้วไหวมั๊ยอ่ะเนี่ย”

“อืมม ก็คงไหวแหละ ไม่ได้เป็นไรมากหรอก....... มั๊ง”

“อ้าวเฮ้ย อย่ามั๊งดิ่”

“แหมก็ใครจะไปรู้ล่ะ แต่อีกสักพักก็น่าจะหายแล้วล่ะ ไม่ต้องห่วงหรอก” เขาลุกขึ้นยืน “งั้นไปอาบน้ำกันเหอะ จะได้เริ่มอ่านหนังสือกันสักที”

“อาบน้ำ ‘กัน’ เหรอ” ผมเลิกคิ้ว

นัทหัวเราะ “อย่ามารีไซเคิ่ลแก๊กได้ป่ะ เดี๋ยวปั๊ดคิดตังค์ซะนี่”

หลังจากเราสองคนอาบน้ำเสร็จ เราก็ลงไปกินข้าวด้วยกันข้างล่าง โดยที่นัทก็ต้องค่อยๆเดินคอแข็งๆลงไปช้าๆ แถมตอนกินข้าวเขายังก้มไม่ได้ หันไม่ถนัด จนแม่ต้องถามออกมาว่าเกิดอะไรขึ้น และผมเองก็ยังต้องหลุดหัวเราะในท่าทางของเขาออกมาอีกหลายครั้งด้วยเหมือนกัน แต่แล้วหลังจากนั้นเรื่องตลกก็กลับกลายเปลี่ยนเป็นความน่าวิตกกังวลไปในทันที เพราะเมื่อเวลาผ่านไปเรื่อยๆ อาการของนัทที่เขาบอกว่าน่าจะดีขึ้นมันกลับแย่ลงมาก มากจนถึงขนาดที่ว่าเขาต้องร้องโอดโอยออกมาทุกครั้งที่ต้นคอของเขาเกิดการกระเทือนแม้เพียงแค่เล็กๆน้อยๆออกมาเลยทีเดียว

“ไหวป่าวเนี่ย นัท.......” ผมหันไปถามเขาที่กำลังนั่งคอตั้งอ่านหนังสืออยู่ที่โต๊ะ

“อืมมม” นัทหันทั้งตัวมามองผมด้วยสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี “สงสัยจะแย่ว่ะ นนท์ นี่ท่าทางจะไม่ใช่แค่คอเคล็ดหรือนอนตกหมอนแล้วนะเนี่ย มันเจ็บมากๆเลยอ่ะ”

ผมที่นอนอ่านหนังสืออยู่บนเตียงชันตัวขึ้นนั่ง “มันแย่ขนาดนั้นเลยเหรออ่ะ ให้นนท์นวดให้ป่าว นนท์ว่าสงสียนัทคงต้องกินยาแล้วล่ะมั๊ง”

“นัทว่าไม่น่านวดอ่ะ นัทเคยได้ยินมาว่าถ้ากล้ามเนื้ออักเสบหรืออะไรพวกนี้เค้าไม่ให้นวดนะ มันอาจจะทำให้แย่ลงได้อ่ะ........ แต่ถ้าได้ยากินสักหน่อยก็คงดีเหมือนกัน”

“งั้นเดี๋ยวนนท์ไปบอกแม่ให้ก็แล้วกัน” ผมลุกออกจากเตียง แต่แล้วก็ต้องชะงักลงเมื่อจู่ๆนัทก็ร้องเสียงดังออกมาเพราะความเจ็บปวด

“โอ๊ยยๆๆ!”

“เฮ้ย เป็นไรอ่ะ” ผมถามเขา

“เจ็บอ้ะ!” เขาทำสีหน้าเหยเก “เมื่อกี๊พยายามจะลุกขึ้นยืนแล้วมันยืนไม่ได้อ่ะ นนท์ เจ็บชิบหายเลยยย”

“จะลุกออกจากเก้าอี้เหรอ”

“อืออ แต่ลุกไม่ขึ้นอ้ะะะ เจ็บตรงบ่าเหี้ยๆๆๆเลย พอออกแรงจะดึงตัวขึ้นแล้วมันลั่นเปรี๊ยเลยอ่ะ ไม่มีแรงเลย”

“ขนาดนั้นเลยเหรอ” ผมถามด้วยความเป็นห่วง “งั้นนนท์ช่วยพยุงนะ”

“อืมม”

ผมค่อยๆสอดมือไปที่ด้านหลังของนัทแล้วก็ออกแรงช่วยดันตัวของเขาให้ลุกออกจากเก้าอี้ นัทส่งเสียงร้องโอดโอยอย่างเจ็บปวดออกมาอีกสองสามครั้งจนกระทั่งเขาลุกขึ้นยืนได้

“เจ็บมากเลยเหรอ นนท์ขอโทษนะ”

“เฮ้ย นนท์จะขอโทษทำไม”

“ก็นนท์เป็นต้นเหตุนี่หว่า แถมเมื่อกี๊นนท์ยังทำนัทเจ็บอีกด้วยอ่ะ”

“คิดมากน่า แถมเมื่อกี๊ถ้านนท์ไม่ช่วยนัทล่ะก็ นัทคงลุกออกจากเก้าอี้เองไม่ได้แน่ๆ”

“แล้วนี่จะลุกมาทำไมเนี่ย” ผมถาม

“อ้าว ก็เมื่อกี๊นั่งอ่านหนังสือคอแข็งมาตั้งนานมันก็เมื่อยคอเมื่อก้นกันมั่งดิ่”

“ก็ได้ งั้นเราลงไปข้างล่าง.......” ผมนิ่งลงไป เมื่อคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้ “เดี๋ยวนะ แต่ถ้าเกิดว่าแม่นนท์เห็นนัทเป็นแบบนี้ล่ะก็ แม่เค้าคงต้องพานัทไปหาหมอแน่ๆเลย แบบนั้นนัทจะว่าไงอ่ะ”

“อืมมม......” นัททำท่าครุ่นคิด “ขนาดนั้นเลยเหรอ แต่ว่านัทไม่ค่อยอยากไปหาหมอเลยนะ”

“นนท์เข้าใจ แต่ถ้าถามนนท์ล่ะก็ นนท์ว่านัทก็น่าจะไปนะ มันจะได้ดีขึ้นไวๆไง แล้วดูท่าทางว่าตอนนี้นัทเองก็คงจะเจ็บมากเลยด้วยนี่”

“ไอ้เจ็บมันก็เจ็บอยู่หรอก....... แต่นัทไม่อยากหาหมอจริงๆนะ ไม่อยากรบกวนอ่ะ แถมไม่อยากเสียเวลาด้วย นัทว่าถ้าแค่ได้ยามากินมันก็คงดีขึ้นแล้วล่ะมั๊ง”

“งั้นเดี๋ยวนนท์ลงไปคุยกับพวกพี่โก๋ดูก่อนละกันนะ ว่าพวกเค้ามียารึเปล่าน่ะ”

“อืมม โทษทีนะ”

ผมหันไปยิ้มให้เขาก่อนจะเดินออกจากห้องและลงไปข้างล่างเพื่อตามหาพี่โก๋ ผมถามพี่โก๋ว่าอาการของนัทเป็นแบบนี้ต้องกินยาอะไร และโชคดีที่พี่โก๋ก็กำลังจะออกไปซื้อของให้ป้ายวนอยู่พอดี พี่เขาเลยรับปากว่าจะแวะซื้อยาเข้ามาให้ และแน่นอนว่าเขาก็รับปากที่จะไม่บอกแม่เรื่องนี้ด้วย

“ไหวป่าวเนี่ย นัท” ผมถามนัทที่กำลังนั่งกินข้าวกลางวันทั้งๆที่ไม่สามารถก้มหน้าได้เลยแม้แต่น้อย

“ก็พอไหวอ่ะ.......” เขาทำหน้าเหยเก “ยานี่มันต้องกินหลังอาหารใช่มั๊ย”

“อืออ” ผมพยักหน้า จากนั้นก็แกะยาออกจากซองให้เขา “อ่ะนี่ ยา สองเม็ดนะ กินอย่างละเม็ด”

นัทรับยาจากมือของผมไปแล้วก็ค่อยๆกินลงไปอย่างยากลำบากเนื่องจากเขาไม่สามารถแหงนหน้าได้ และยังขยับช่วงคอและช่วงบ่าได้ไม่สะดวกอีกด้วย ทุกๆครั้งที่เขาขยับตัวผิดท่า เขาจะต้องส่งเสียงร้องโอ๊ยออกมาตลอด และหลังจากที่เขากินยาจนเสร็จหมดแล้ว เราสองคนก็เดินออกจากโต๊ะกินข้าวและเดินกลับขึ้นไปบนห้องเพื่ออ่านหนังสือด้วยกันต่อ

แต่เนื่องจากนัทกำลังเจ็บกล้ามเนื้อจนไม่สามารถขยับตัวได้มาก เขาจึงต้องช่วยติวให้ผมทั้งๆที่นั่งคอตั้งตรงอยู่บนเก้าอี้ ส่วนผมก็นอนฟังเขาอธิบายให้ฟังอยู่บนเตียง ทั้งๆที่ก็ทั้งสงสารเขาและเป็นห่วงเขา แต่ผมก็อดขำเมื่อเห็นเขาร้องโอ๊ยๆๆออกมาทุกครั้งที่ขยับตัวไม่ได้

เราสองคนนั่งๆนอนๆอ่านหนังสืออยู่ด้วยกันแบบนั้นจนกระทั่งเราอ่านจบไปทุกวิชา และในตอนเย็นที่เราต้องลงไปกินข้าวด้วยกัน แม่ก็สังเกตเห็นความผิดปกติของนัทที่ดูแย่ลงกว่าเมื่อเช้าเข้าจนได้ แต่เราก็บอกแม่ไปว่านัทแค่นอนตกหมอนเท่านั้นเอง แต่ว่าเรื่องที่แม่ถามนั้นมันก็ยังไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลเลยแม้แต่น้อยเมื่อเทียบกับสิ่งที่เราสองคนกำลังจะต้องทำกันต่อไปหลังจากนี้ นั่นก็คือ.........

“นนท์ นัทถอดเสื้อไม่ได้” นัทหันมาพูดกับผมด้วยสีหน้าและแววตาที่น่าสงสาร “ฮือออ ช่วยด้วยเด่ะ”

“ยกแขนไม่ขึ้นใช่มั๊ยอ่ะ” ผมถาม พลางช่วยเขาดึงเสื้อขึ้นออกจากตัวของเขาด้วย

“โอ๊ยยๆๆๆ!” เขาร้องออกมา ผมจึงต้องรีบปล่อยมือออก “อืออ ไม่ใช่แค่ยกแขนขึ้นนะ แต่เอี้ยวตัวก็ไม่ได้ ก้มก็ไม่ได้ เงยหน้าก็ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้เลย ขนาดแขนขวาที่ไม่ได้เจ็บก็ยังเคลื่อนไหวมากไม่ได้เลยด้วย มันเจ็บโคตรๆๆๆๆ นี่มันไม่ใช่แค่ตกหมอนแล้วจริงๆ”

“ทนหน่อยนะ อีกนิดเดียว” ผมค่อยๆดึงเสื้อออกเพื่อให้หลุดออกจากหัวของเขา เราพยายามกันอย่างทุลักทุเลและนัทเองก็ต้องส่งเสียงร้องอย่างเจ็บปวดออกมาอยู่อีกหลายครั้ง จนกระทั่งผมช่วยเขาถอดเสื้อออกได้สำเร็จ

“โอยยย ฮืออๆ” นัทครางออกมาอย่างเหนื่อยอ่อน ผมเห็นว่าเขามีน้ำตาปริ่มอยู่ที่ขอบตาของเขาด้วย

“เจ็บมากเลยเหรอ ถึงขนาดร้องไห้เลยเหรอเนี่ย”

“โคตรๆเลย” เขาใช้นิ้วชี้ปาดน้ำตาและหันมายิ้มให้ผมอย่างอ่อนแรง จากนั้นเขาก็พึมพำกับตัวเองออกมาเบาๆ “แล้วนี่กูจะอาบน้ำยังไงวะเนี่ย..........” เมื่อพูดจบ เขาก็หันมามองหน้าผมครู่หนึ่ง

“เหออ........” ผมเลิกคิ้วขึ้น

“อ๊ะ เปล่าๆๆ ไม่มีอะไร” เขารีบปฏิเสธ “งั้นเดี๋ยวนัทไปอาบน้ำก่อนนะ”

“เดี๋ยวนัท” ผมร้องห้ามเขาไว้ “แล้วนี่ตกลงจะอาบน้ำไหวเหรอ ไม่เจ็บรึไง”

“อืมม ก็คงต้องลองดูอ่ะนะ.......” เขาตอบ “ไม่งั้นจะให้ทำไงได้อ่ะ ไม่อาบน้ำก็คงไม่ไหวอ่ะ ใช่มั๊ยล่ะ”

“ไม่ใช่แค่เจ็บรึเปล่า แต่นัทก้มไม่ได้ เอี้ยวตัวไม่ได้ ยกแขนไม่ได้ แล้วจะสระผมยังไง ถูหลังยังไง........” ผมถาม

“เรื่องนั้นมันก็ใช่.........”

เราสองคนมองหน้ากันอยู่ครู่หนึ่ง ผมรู้ว่าเขากำลังคาดหวังบางอย่างจากผมอยู่ และผมก็คิดว่าผมรู้ด้วยว่าผมควรจะทำอย่างไรต่อไป เพราะผมคิดว่าผมเองก็กำลังต้องการที่จะทำแบบนั้นอยู่แล้วด้วยเหมือนกัน แต่ทว่าผมไม่มั่นใจเลยจริงๆว่าผมจะสามารถ.........

คือ........ เรื่องแบบนี้ มันก็น่าที่จะคิดมากอยู่หรอกนะ

“ไม่เป็นไรหรอก นนท์ ก็อาบเท่าที่อาบได้อ่ะ ก็ทนเจ็บเอา คงไม่เป็นไรมากหรอก” นัทพูดขึ้นหลังจากที่เราต่างก็เงียบกันไปพักหนึ่ง

ผมส่ายหน้า “ไม่ได้หรอก ถ้ากล้ามเนื้ออักเสบจริง จะไปยิ่งทนฝืนจนมันอักเสบหนักกว่าเดิมก็ใช่เรื่อง”

“งั้นแล้วจะให้ทำไงอ่ะ ถ้านัทไม่อาบน้ำ นนท์จะเหม็นเอาด่ะดิ่ ใช่ป่าว” เขายิ้ม

“เหม็นเด่ะ” ผมทำหน้ายี้ใส่เขา จากนั้นก็เปลี่ยนมาเป็นสีหน้าจริงจังเหมือนเดิมเพื่อให้เขารู้ว่าผมไม่ได้กำลังล้อเล่นอยู่ “เพราะงั้น........ นนท์ไปช่วยนัทอาบน้ำให้เองก็ได้ ถ้าแบบนั้นนัทจะโอเคมั๊ยล่ะ”


ออฟไลน์ DEMON3132

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1704
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +170/-1
วิ่งตามกลับมาอ่านตอนล่าสุด ตกลงจะเลือกใครดีระหว่างนัทกับโจ แต่ยังไง ๆ ก็เชียร์นัทอยู่ดี เพราะนัทเป็นคนดีทั้งรักทังห่วงใยและ
ดูแลนนท์ได้เป็นอย่างดีด้วย นนท์จะช่วยอาบน้ำให้นัทแล้ว ตานี้แหละจะเกิดอะไรขึ้นเนี่ย .... อยากรู้ ต้องคอยวิ่งกลับมาดูเป็นระยะ ๆ
แล้วสิเนี่ย  :pig4:

ออฟไลน์ l3iZal2l2e

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1549
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +103/-0
อยู่กับน้องนัทแล้วรู้สึก
มันเย็น ๆ หอม ๆ หวาน ๆ ในใจ ยังไงไม่รู้ค่ะ

:]]

ออฟไลน์ lomekung

  • เป็ดDemeter
  • *
  • กระทู้: 1762
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +84/-1

ในที่สุดก็มาต่อจนได้  :man1: :man1:


แอบเชียร์โจ  :a5: :a5:

mackerel

  • บุคคลทั่วไป
มอบแต้ม+ ที่ 345 คร้าบ
*****
หวานกันดี อิอิ
แต่แม๊คคิดถึงแมกซ์อ่ะ--คนเถื่อนสุดตรีนหายไป อิอิ

ขอบคุณคร้าบ  :3123:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เข้ามาบอกว่า ยังเชียร์โจอยู่   :z2: :z2:

okotba

  • บุคคลทั่วไป
 :o8: :o8: :o8:

มารอดูว่านัทจะอาบน้ำยังไงคับ...

mole eye man

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามากรี๊ด!!!!!
เข้ามากรี๊ด!!!!!!!!!!
เข้ามากรี๊ด!!!!!!!!!!!!!!!
 :haun4:
(ใจเย็นดิ  มันยังไม่มีอะไรเลย....)

แล้วเค้าคุยอะไรกันเนี่ย  นนท์ยอมนัทก่อน  จากนั้นก็นัทยอมนนท์เหรอ   :m25:

รออ่านตอนต่อไปแบบใจจดใจจ่อและรอคอยไม่ถอยหนี~  (อะไรของมันเนี่ยวันนี้....)  :-[

ป.ล.  สเป็คพี่ต้นนี่เพื่อนผมเลยนะ  เตี้ย ล่ำ อั๋ม(น่าจะ)สั้น  หน้าตาดีด้วย  แต่ไม่รู้มันเป็นรึเปล่า  (ยังสงสัยอยู่จนทุกวันนี้  ถึงตอนถามมันมันจะตอบปัด ๆ ก็เถอะ)   :laugh:
« แก้ไขครั้งสุดท้าย: 28-04-2009 00:52:17 โดย mole eye man »

zene

  • บุคคลทั่วไป
น่ารักกันที่สุดอ่ะ....อ้อมกอดอุ่นๆเป็นออเดิร์ฟ
อาบน้ำเป็นเมนคอร์สจานแรกป่าวนะ...... :-[

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด