สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด

สนใจโฆษณาติดต่อ laopedcenter[at]hotmail.com คลิ๊กรายละเอียดที่ตำแหน่งว่างเลยครับ

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด

โพลล์

๑.   สนใจสั่งจอง
5 (55.6%)
๒.   ขอคิดดูก่อน
4 (44.4%)
๓.   ไม่สนใจ
0 (0%)

จำนวนผู้โหวตทั้งหมด: 5

ปิดการโหวต: 31-05-2012 00:47:21

ผู้เขียน หัวข้อ: สานฝันนิรันดร : ขอบคุณทุกคน  (อ่าน 212745 ครั้ง)

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

เอ้ยยย อ่านทันและ

คุณบุหรงหายเร็วๆนะ  :L1: :L1: :L1:

เจ้าปูนี่ไม่ไหวๆ  โจชัวร์ ยังน่าเห็นใจกว่าตั้งแยะ

kongkilmania

  • บุคคลทั่วไป
น้องตั้มหายป่วยไวๆนะจ๊ะ  :L2:

อ่านตอนล่าสุดแล้วปรี๊ดสสสส   :m16:
แวมไพร์ชั่วยังไงก็มีแต่ความคิดชั่วๆเจงๆ
จะเอาสานฝันกลับมาเป็นทาสยังไม่พอ
ยังคิดจะจัดการภูริทัตอีก   :serius2:
สานฝันชิงลงมือก่อนดีกว่า
ใช้กรีนอายส์จัดการโจชัวร์ให้ม่องเลย เหอะๆๆ

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

คุณบุหรงหายป่วยยังอ่ะ  :L1: :L1: :L1:

แอบมาดัน จร้า

จับโจชัวร์มาดูดเลือด เอาให้แห้งกรอบเลย   รอคุณบุหรงมาต่อนานและ  เลยกระหายเลือด  อยากกินเลือดแวมไพร์ น่าจะอ่าหร่อยนะ อิอิ :fire:

yaoifan

  • บุคคลทั่วไป
ช่วงนี้ไม่สบายอะ เป็นหวัดมาตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว ตอนนี้หลอดลมอักเสบไปเรียบร้อยแล้ว  :o12:
มึนหัวอย่างแรง นอนทั้งวันเลย แย่ๆๆ ตอนนอนไม่ได้กิน ตอนกินไม่ได้นอน
ถ้าทำได้พร้อมกัน คงกลายเป็นมนุษย์ในตำนานที่อยู่ในป่าหิมพานต์แล้ว...



ตัวกินนอนไง (กินร) o22

ช่างกล้าเล่นนะมุก กินนรเนี่ย 5555

ไม่สบายพักผ่อนเยอะๆนะคะ เป็นห่วง ช่วงนี้ไข้หวัดใหญ่ สายพันธ์ใหม่ กำลังอาละวาด

ไม่ค่อยได้เข้ามาเม้นต์ แต่ก็คิดถึงนะคะ

เป็นกำลังใจให้ค่ะ


namtaan

  • บุคคลทั่วไป
สุขภาพเป็นไงบ้างจ๊ะ
หายป่วยหรือยัง  :L2:

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ป่วยนานเลย หายไว ๆ นะคะ :L2:

TinaJunior

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาเยี่ยม :L2:

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

เข้ามาช่วยดัน
คุณบุหรงหายยยยยยยยยไปไหนนนนนนนน   คิดถึงอย่างแรงแย้วววววววววววววววววววว
กลับมานะ กลับมานะ  มัวแต่ทัวร์คอนเสริตอยู่มั้ยเนี่ย
หรือว่าติดเชื่อไวรัสจากแวมไพร์   ไม่เป็นไรเดี๋ยวกิมตี้ไปดูดเลือดมันเอง  รับรองแห้งหมดตูดดดดดดด เหอะๆๆ 
:m20:

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
คิดถึงคนแต่งจังเลย

ถ้าป่วยก็ขอให้หาย
ถ้าไม่เปนไรแต่ติดธุระก็ขอให้ทำให้เสร็จ

แต่ถ้าไม่มีทั้งสอง 

โปลดกลับมาด้วยเถิด  :call:

 :L1:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๓๔

“โอ๊ย ... ค่อยสบายหน่อย” ภูริทัตสูดหายใจเข้าเต็มปอด นั่งลงไปบนเก้าอี้โซฟายาวในห้องลอบบี้ของโรงแรม
“พูดได้ซะทีนะเอ็ง” รังสรรค์พูดกลั้วหัวเราะ พลางนั่งลงข้างๆภูริทัต

ระหว่างอาหารค่ำมื้อนั้น ภูริทัตกินอาหารเงียบๆไม่พูดคุยกับใครบนโต๊ะอาหารเลย แม้กระทั่งหัวหน้าแผนกที่เข้ามานั่งลงบนเก้าอี้ตัวที่ว่างอยู่ แล้วเอ่ยปากถามภูริทัต
“เพื่อนไปไหนล่ะ เห็นเดินเข้ามาด้วยกันนี่”
“กลับไปแล้วน่ะครับ คงมีธุระด่วน” รังสรรค์ตอบแทน เมื่อเห็นว่าภูริทัตเงียบไปนาน
“อ้าวเหรอ คิดว่าจะให้ทัตแนะนำให้รู้จักซักหน่อย น่าเสียดายนะ” หัวหน้าแผนกพูดคุยกับคนบนโต๊ะอยู่อีกครู่หนึ่ง จึงลุกขึ้นเดินจากไป
ปรีชาและรังสรรค์สบตากันแว่บหนึ่ง รู้แล้วว่าอาการ ‘ดื้อเงียบ’ ของภูริทัตเกิดขึ้นแล้ว ตามปรกติอาการแบบนี้เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก นอกจากภูริทัตเกิดอาการไม่พอใจอย่างมาก จนสุดจะทน ดูเหมือนกรกฏจะรู้ตัวในเวลาต่อมา เพราะสียงพูดจ้อยๆ เริ่มเงียบลง คล้ายจะรู้สึกว่าอาการของภูริทัต แพร่เชื้อไปยังเพื่อนรักทั้งสองคน เพราะนอกจากภูริทัตที่ไม่พูดกับตนแล้ว รังสรรค์ก็พลอยเป็นไปด้วย และสักพัก ปรีชาก็ไม่พูดกับเขาด้วยอีกคนหนึ่ง เมื่อรังสรรค์เห็นว่าภูริทัตกินอาหารเรียบร้อยแล้ว จึงแกล้งชวนออกมาจากห้องอาหารเพื่อเข้าห้องน้ำ แต่ทั้งสองคนกลับเดินออกมายังลอบบี้โรงแรม ราวกับนัดกันไว้ล่วงหน้าแล้ว

“รุ่นน้องเอ็งทำไมเป็นแบบนี้วะ น่ารำคาญฉิบ” ภูริทัตพูดอย่างเบื่อหน่าย
“ข้าก็รู้มานานแล้วว่าฤทธิ์เยอะ แต่ไม่นึกว่าจะขนาดนี้ มันก็ช่วยไม่ได้หว่ะ เอ็งเสือกเสน่ห์แรง” รังสรรค์พยายามพูดติดตลก หวังว่าเพื่อนจะอารมณ์ดีขึ้น
ภูริทัตหันไปมองหน้ารังสรรค์ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“อย่าลำบากใจไปเลยวะ” รังสรรค์ตบไหล่เพื่อน “จำได้รึเปล่า ตอนมาทำงานใหม่ๆคนรุมจีบเอ็งขนาดไหน”
“ไอ้บ้านี่” ภูริทัตปัดมือบนไหล่ออก “คนยิ่งหงุดหงิดอยู่ทำมาเป็นล้อเล่นอยู่ได้”
“เอาน่า ทนๆหน่อย สเตฟานเค้าก็ยังบอกว่าให้อดทนไม่ใช่เหรอไง”
“เอ็งรู้ได้ยังไง” สีหน้าของภูริทัตเปลี่ยนเป็นสงสัย
“เดาเอา” รังสรรค์พูดเหมือนเป็นเรื่องธรรมดา “เค้าคงบอกให้เอ็งอดทนเพราะเป็นงานเลี้ยงของบริษัท เอ็งควรจะอยู่ในงาน ส่วนเค้าควรจะออกไป เพราะถ้ายังอยู่ต่อ ไอ้ปูมันคงหาเรื่องไม่หยุด”
“สานฝันบอกกับข้าแบบนั้นจริงๆ” ภูริทัตพูดเบาๆ “ความจริงเค้าก็ไม่อยากมาตั้งแต่ตอนที่ข้าชวนเค้าเมื่อตอนบ่าย แต่ข้าเองแหละที่ตื้อ จนต้องยอมมาด้วย แล้วมันก็เป็นเรื่องจริงๆ”
“สเตฟานเค้าเป็นผู้ใหญ่มากเลยนะ เหมาะที่จะมาดูแลเด็กอย่างเอ็ง ... พูดถึงเด็กแล้ว เมื่อกี้ข้านึกว่าเอ็งจะเดินหนีออกมา เหมือนที่เอ็งเคยหนีออกจากบ้านเมื่อตอนเด็กซะอีก”
“นั่นมันตอนข้าเด็กๆเว๊ย ตอนนี้ข้าโตแล้ว”
“โตแต่ตัวน่ะสิวะ” รังสรรค์หัวเราะร่วน “กลับเข้าไปกันเถอะ ออกมากันนานแล้ว”
พูดจบ รังสรรค์ก็ลุกขึ้น เดินนำภูริทัตพากันกลับเข้าไปในห้องเลี้ยงอาหาร ซึ่งกำลังมีการกล่าวขอบคุณพนักงานของบริษัท ที่ร่วมมือร่วมใจกันทำงานให้กับบริษัท ในช่วง ๑ ปีที่ผ่านมา ภูริทัตนั่งฟังอย่างเงียบๆ แต่ในใจกลับคิดถึงเรื่องเก่าๆในวัยเด็ก ช่วงที่เขาตัดสินใจหนีออกจากบ้าน โดยมีเพียงเสื้อผ้าเพียงชุดเดียวที่สวมใส่อยู่ กับเงินในกระเป๋าอีกไม่กี่บาท ด้วยสาเหตุเพียงเพราะเขาไม่ได้ในสิ่งที่ต้องการ

“แค่สเก็ตบอร์ดอันเดียว ทำไมพ่อซื้อให้ผมไม่ได้ แต่ทีเมียใหม่ของพ่ออยากได้อะไร ก็ควักเงินให้เค้าทันที” ตอนนั้นภูริทัตไม่พอใจจริงๆ เพราะพอแม่บังเกิดเกล้าของเขาเสียชีวิตไปได้เพียงปีกว่าๆ พ่อก็แต่งงานใหม่
“แกอย่าคิดอะไรเหลวไหล ชั้นไม่ซื้อให้แก เพราะมันอันตราย แล้วสเก็ตบอร์ดมันต้องเล่นในที่กว้างๆ บ้านเรามีที่อยู่แค่นี้ แกจะเล่นได้ยังไง”
“ผมจะเอาไปเล่นกับเพื่อน” ภูริทัตไม่ยอมแพ้
“แกหมายถึง พวกที่เล่นสเก็ตบอร์ดกันอยู่บนถนนในซอยนี้น่ะเหรอ แกรู้มั๊ยว่ามันอันตรายแค่ไหน”
“ไม่เห็นจะมีอะไรเลย ถ้ามันอันตรายจริงๆ ป่านนี้ต้องมีคนเจ็บกันบ้างแล้ว ... ตกลงพ่อจะซื้อให้ผมรึเปล่า”
“ไม่ ... ชั้นบอกแกแล้วว่ามันอันตราย ชั้นไม่ซื้อให้”
เด็กชายจ้องมองพ่อด้วยความโมโห เดินเข้าห้องนอน ซึ่งอยู่ด้านหนึ่งของบ้านชั้นเดียว สักพักก็ออกมาด้วยชุดที่เหมือนจะออกไปข้างนอก แล้วเด็กชายออกจากบ้านไป โดยไม่สนใจเสียงเรียกของพ่อ และสายตาที่มองตามหลังด้วยความห่วงใย ของหญิงวัยกลางคนที่เดินมายืนอยู่ข้างๆพ่อของเขา
... แค่ไม่กี่ร้อย หาเงินเองก็ได้วะ ...
นั่นคือสิ่งที่อยู่ในความคิดของเด็กชาย และทำให้คืนนั้นไปนั่งอยู่กับกลุ่มเด็กชายวัยใกล้เคียงกันหลายคน หน้าห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง เป็นที่รู้กันดีว่า เป็นเหมือนตลาดนัดสำหรับคนชอบสินค้าประเภทนี้ โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ตอนนั้นความรู้สึกตื่นเต้น ความกลัว ความต้องการประชดประชัน ประสมปนเปกัน ความจริงเขาก็ไม่ค่อยอยากได้ของเล่นชิ้นนั้นสักเท่าไร แต่เขาต้องการเอาชนะ ... เอาชนะผู้หญิงคนนั้น

ผู้หญิงคนนั้น คนที่ก้าวเข้ามาในครอบครัวของเขา คนที่พ่อของเขาบอกว่าจะมาเป็นแม่ของเขาอีกคนหนึ่ง ทั้งการกระทำ การพูดจา ผู้หญิงคนนั้นทำราวกับเป็นแม่ของเขาจริงๆ แต่เขาคิดว่า มันเป็นเพียงแค่การเสแสร้ง ผู้หญิงคนนี้คงจะมาแกล้งทำดีกับเขา แล้วสุดท้ายก็จะมาพรากความรักของพ่อจากเขาไป เขาเสียแม่ไปคนหนึ่งแล้ว เขาจะไม่ยอมเสียพ่อไปอีกเป็นอันขาด

“เฮ๊ย เหม่ออะไรอยู่ เค้าให้แยกไปพักผ่อนตามสบายแล้ว” เสียงเรียกของปรีชาทำให้ภูริทัตกลับมาสู่โลกปัจจุบัน
ภูริทัตลุกออกจากที่นั่ง เดินตรงไปยังทางออก ผ่านห้องลอบบี้แล้วเดินออกจากตัวอาคารโรงแรม เดินผ่านถนนซึ่งเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่เรียงรายอยู่ทั้งสองฟาก ตรงไปยังอาคารที่พักอีกหลังหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ห่างกันนัก เดินไปได้สักพักก็ต้องหยุดยืนนิ่ง แล้วหันหลังกลับไปมองเจ้าของเสียงฝีเท้าที่เดินตามหลังมา เมื่อเห็นว่าเป็นใครก็อดขมวดคิ้วถอนหายใจไม่ได้
“ตามมาทำไม” ภูริทัตถามอย่างไม่พอใจ
“ก็อยากรู้ว่าพี่ทัตพักที่ไหน” กรกฎตอบแล้วก็ก้มหน้ามองพื้น
“เลยตามกันมาเป็นพรวนเลยนะ” ภูริทัตเหลือบสายตามองไปยังรังสรรค์กับปรีชา ซึ่งกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมา
“ปู กลับห้องพักกันเหอะ” รังสรรค์ชักชวน เมื่อเดินมาถึงตัวกรกฏ
“ไม่ก็ไปนั่งฟังเพลงกันที่ลอบบี้ก็ได้ ถ้ายังไม่อยากกลับห้อง” ปรีชาพูดเสริม
“ปูอยากไปดูห้องที่พี่ทัตพักมากกว่า เห็นพวกพนักงานโรงแรมบอกว่า ห้องพักในอาคารโน้นสวยกว่าห้องพักในอาคารที่พวกเราพัก”
“ปูจะไปกวนพวกเค้าทำไม ทำอย่างนี้ไม่น่ารักเลยนะ” รังสรรค์เริ่มไม่พอใจ
“ก็ใช่น่ะสิ ผมมันไม่น่ารัก ผมมันตัวเล็ก หน้าจืด ไหนจะไปเหมือนฝรั่งผมทองนั่นล่ะ” กรกฏแค่นเสียง
“ที่ว่าน่ะ มันเรื่องที่ปูทำอยู่ตอนนี้ต่างหาก ไม่ได้เกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาหรอกนะ” รังสรรค์พยายามพูดอย่างใจเย็น
“ทำไมล่ะ ปูแค่อยากไปดูห้องที่เค้าพักอยู่ด้วยกันเท่านั้นเอง” กรกฏพูดเสียงอ่อย
“มีอะไรกันเหรอครับ” เสียงนุ่มๆที่แทรกขึ้นมา ทำให้ทุกคนหันไปมองทางด้านหลังของภูริทัต
สเตฟานนั่นเองที่ยืนยิ้มอยู่ ทุกคนต่างก็แปลกใจในการปรากฏตัวอย่างกระทันหันของชายหนุ่ม
“คุณมาได้ยังไงเนี่ย” ปรีชาเป็นคนแรกที่เอ่ยถาม
“ก็เดินมาน่ะสิครับ” สเตฟานตอบกลั้วหัวเราะ
“เดินมาจากไหน ถ้ามาจากอาคารนั้น” ปรีชาชี้ไปทางอาคารที่เป็นห้องพักของสเตฟาน “ทำไมพวกเราถึงเพิ่งรู้สึกตัวว่าคุณมาอยู่ตรงนี้ล่ะ”
“อ๋อ” สเตฟานก้มหน้าหัวเราะเบาๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นตอบพร้อมกับรอยยิ้มน้อยๆ “ผมเดินเล่นอยู่ตรงนี้พอดีน่ะครับ ในดงไม้นี่ไงครับ” สเตฟานเหลือบตาไปที่หมู่ไม้ริมถนน “แล้วพวกคุณเหมือนจะคุยอะไรกันง่วนอยู่ ตอนผมเดินเข้ามาถึงได้ไม่รู้สึกไงครับ”
“ไม่มีอะไรหรอก” ภูริทัตเดินเข้าไปโอบไหล่สเตฟาน “เดี๋ยวพวกเค้าก็ไปกันแล้ว พวกเราไปกันเหอะ” พูดแล้วภูริทัตก็ดันตัวสเตฟานให้เดินออกไปจากกลุ่ม แต่สเตฟานไม่ยอมเดินตาม ภูริทัตจึงหันมามองด้วยความสงสัย
“ผมได้ยินแว่วๆ ว่าเพื่อนๆคุณอยากไปเที่ยวที่ห้องพักของพวกเราไม่ใช่หรือครับ” สเตฟานถามกับภูริทัต “ทำไมไม่ชวนเพื่อนๆไปนั่งคุยกันที่ห้องล่ะ”
“ไม่เป็นไรหรอกครับ” รังสรรค์รีบบอก “พวกคุณกลับไปพักเถอะ พวกเราก็จะกลับห้องเหมือนกัน ไปชา ปู พวกเรากลับห้องกันเหอะ” พูดจบรังสรรค์ก็รีบดึงข้อมือกรกฏให้เดินตามไป ปรีชาหันมายิ้มแล้วโบกมือให้ทั้งสองคน ก่อนจะหันหลังเดินตามรังสรรค์และกรกฏไปอีกคนหนึ่ง

“มานั่งทำอะไรครับเนี่ย” เสียงทักทายดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของเสียงนั่งลงบนเก้าอี้ตรงข้าม
รังสรรค์เงยหน้าขึ้นดู ก็เห็นว่าเป็นทรงเดชนั่นเอง
“เบื่อๆน่ะครับ เลยมานั่งกินกาแฟ แล้วคุณล่ะมาทำอะไรที่ลอบบี้ ไม่อยู่ที่ห้องพัก”
“เบื่อๆเหมือนกันมั๊งครับ” ทรงเดชตอบ พลางกวักมือเรียกพนักงานมาสั่งกาแฟสำหรับตัวเองบ้าง
“เบื่ออะไรล่ะครับ”
“พวกคุณมากับเพื่อนๆ ผมมากับเจ้านาย แต่ตอนนี้เจ้านายผมอยู่กับ” ทรงเดชหยุดพูดแล้วอมยิ้ม “นั่นแหละครับ ผมก็เลยเบื่อๆ”
“ทำไมล่ะ อิจฉาพวกเค้าเหรอ”
“อิจฉาทำไมล่ะครับ” ทรงเดชยิ่งหัวเราะมากขึ้น “ผมน่ะดีใจซะอีกที่คุณท่านมีความสุข ที่เบื่อๆน่ะเพราะมันว่างๆไม่มีอะไรทำมากว่า”
พนักงานนำกาแฟมาเสริฟ ทรงเดชจึงหยิบซองน้ำตาล ฉีกซองออกเทน้ำตาลลงไปในแก้วกาแฟ ตามด้วยครีมเทียม และนมสดเล็กน้อย คนให้เข้ากัน แล้วยกแก้วกาแฟขึ้นจิบเบาๆ
“งั้นไปห้องคุณกันมั๊ยครับ เรามาหาอะไรทำแก้เบื่อกัน” รังสรรค์พูดแล้วก็ยักคิ้วหลิ่วตา
“แค๊กๆๆ” ทรงเดชสำลักกาแฟทันทีทีรังสรรค์พูดจบ
“หรือว่าคุณจะไม่ได้ชอบเหมือนที่ผมชอบ” รังสรรค์แกล้งถามยิ้มๆ ทั้งๆที่เขาก็พอจะรู้คำตอบ
“คุณอย่าล้อผมเล่นแบบนี้นะครับ หัวใจผมจะวายตาย” ทรงเดชวางแก้วกาแฟลง แล้วหยิบกระดาษทิชชู่ขึ้นมาเช็ดกาแฟที่หกเลอะตามมุมปาก “ผมน่ะผู้ชายปรกติคร๊าบ ชอบผู้หญิง ไม่ได้ชอบผู้ชายด้วยกัน แล้วคุณจะไปห้องผมทำไม ห้องคุณมีคุณก็กลับไปสิ”
“พอดีเพื่อนผมมันขอไว้น่ะ มันจะเผด็จศึก” รังสรรค์ทำหน้ากวนๆใส่คนตรงข้าม “เอาน่า คืนนี้ขอผมนอนที่ห้องด้วยคนแล้วกัน เพราะผมยังไม่รู้จะไปนอนที่ไหนเลย”
“คุณจะอันตรายเกินไปหรือเปล่า” ทรงเดชพูดพลางมองอย่างไม่ไว้วางใจ
“ฮ่าๆๆ คุณนี่ ผมน่ะไม่ปล้ำคุณหรอกถ้าคุณไม่ยอมน่ะ”
“โห ยิ่งพูดอย่างนี้อย่าไปห้องผมเลยครับ” ทางเดชทำท่าขนพองสยองเกล้า ทำเอารังสรรค์อมยิ้มด้วยความขบขัน “เดี่ยวผมเปิดอีกห้องให้คุณแล้วกัน”
“เปลือง” รังสรรค์แย้ง “เอาน่า ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ขอผมไปอาศัยนอนด้วยคนนะ”
“ไม่จริงๆนะ” ทรงเดชมองหน้ารังสรรค์อย่างไม่ค่อยไว้ใจ
“สัญญาด้วยเกียรติ” รังสรรค์ชูมือขึ้น กางนิ้วชี้กับนิ้วกลางออกเป็นตัววี
“เกียรติของอะไร” สีหน้าของทรงเดชแสดงว่าเริ่มไว้ใจขึ้นบ้าง
“เกรียติของอะไรดี” รังสรรค์เปลี่ยนเอามือมาลูบคางเบาๆ “เกียรติของเพื่อนคนรักของเจ้านายคุณแล้วกัน”
“ฮ่าๆๆ ... ผมจะลองเชื่อดูแล้วกัน” ทรงเดชพูดพลางยกแก้วกาแฟขึ้นจิบพร้อมกับหัวเราะเบาๆ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE

ประกาศที่สำคัญ


ตั้งบอร์ดเรื่องสั้น ขึ้นมาใครจะโพสเรื่องสั้นให้มาโพสที่บอร์ดนี้ ถ้าเรื่องไหนไม่จบนานเกิน 3 เดือน จะทำการลบทิ้งทันที
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=2160.msg2894432#msg2894432



รวบรวมปรับปรุงกฏของเล้าและการลงนิยาย กรุณาเข้ามาอ่านก่อนลงนิยายนะครับ
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=459.0



สิ่งที่ "นักเขียน" ควรตรวจสอบเมื่อรวมเล่มกับสำนักพิมพ์
https://thaiboyslove.com/webboard/index.php?topic=37631.0






salapaw

  • บุคคลทั่วไป
มาแล้วมาแล้วๆๆๆๆๆๆๆดีใจจัง

คุณบุหรงหายดีแล้วหรือคะ

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
มาแล้วมาแล้วๆๆๆๆๆๆๆดีใจจัง

คุณบุหรงหายดีแล้วหรือคะ
หายป่วยมาสัปดาห์นึงแล้วครับ จนตอนนี้อาจจะเริ่มป่วยอีกรอบ เพราะโดนฝนมา ๒ วันแล้ว  :sad4:
พอดีงานเยอะด้วยน่ะครับ ตอนนี้งานก็เรียบร้อยหมดแล้ว คงอีกหลายเดือนกว่างานลอตใหม่จะเข้า เดี๋ยวจะรีบปั่นต้นฉบับต่อ

ขอบคุณทุกๆคนที่เป็นกำลังใจให้นะครับ  o1

ออฟไลน์ Shumi

  • เป็ดมหาวิทยาลัย
  • *
  • กระทู้: 423
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +16/-0
รักษาสุขภาพดี ๆ นะครับ ฝนตกบ่อย ใกล้จะเข้าหน้าฝนจริง ๆ แล้วด้วย ^^

ทรงเดช กับ รังสรรค์ 555+ (จินตนาการล้ำเลิศ)

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
ไม่ได้เข้ามาอ่านหลายตอนเลย อ่านรวดเดียว

ได้ข่าวว่า ตั้มไม่สบายหรือครับ ยังไงรักษาสุขภาพด้วยนะ

ระยะนี้ฝนตกทุกวัน ถ้าวันไหนโดนฝน กลับบ้านรีบสระผมแล้วกินยาพารา

กันไว้ก่อนนะครับ เป็นห่วง ( กลัวไม่ได้อ่านอะ ) เป็นกำลังใจให้นะครับ

+1 อีกด้วย

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
ไม่สบายเช่นกันค่ะ...นอนซมมา 1 วัน 2 คืนแล้ว....

รักษาสุขภาพกันด้วนนะคะ

ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

ขอบคุณ คุณบุหรง

รักษาสุขภาพด้วยนะ

คุณบุหรงเขียนบทยัยปูได้น่า  :z6: มั้กๆๆๆๆ

เรื่องนี้คงไม่จบแบบ  พลัดพราก จากตายนะ  พอดีอ่าน ผู้มาเยือนยามวิกาล เพิ่งจบ  ยังสงสารพี่ต้นไม่หายเล้ยยย

น่ากลัวตอนจบเรื่องนี้จริงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง  เห็นแววมาแต่ไกลลลลลลลลลลลลลลลล


 :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ mist

  • เป็ดArtemis
  • *
  • กระทู้: 4505
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +263/-3
เฮ้อ เจ้าปูนี่มันไม่ยอมแพ้จริง ๆ สิน่า

namtaan

  • บุคคลทั่วไป
รำคาญปูมากๆ ไม่เลิกราซะที
อืมมมม ทรงเดช กะ รังสรรค์ เหอๆๆๆ

ขอบคุณมากนะจ๊ะที่มาต่อ
ขอให้สุขภาพแข็งแรงๆนะจ๊ะ เป็นกำลังใจให้เรื่องงานด้วยจ้า
บวก 1 แต้ม ขอบคุณอีกครั้ง

ออฟไลน์ nOn†ღ

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4390
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +502/-6
ช่วงนี้ฝนเริ่มมาอีกแล้ว รักษาสุขภาพด้วยนะคะ  :L2:

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
กลับมาแร้วววว

รักษาสุขภาพด้วยครับ

CoMMuNiTY Of ThAiBoYsLoVE






imageriz

  • บุคคลทั่วไป
 :เฮ้อ: เซ็ง ปูจริง ๆ  คนเขาไม่รักยังจะไปยุ่งอะไรกับเขามากมาย


ปล. ดูแลสุขภาพด้วยนะ  :L2:

ออฟไลน์ THIP

  • Global Moderator
  • เป็ดApollo
  • *
  • กระทู้: 7674
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +986/-10
เขามารอน้องตั้ม  :z2: ดูแลสุขภาพดีๆนะจ๊ะ ช่วงนี้ฝนตกบ่อย  :z2:

TinaJunior

  • บุคคลทั่วไป
เข้ามาเป็นกำลังใจให้คุณบุหรง

ออฟไลน์ dahlia

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAphrodite
  • *
  • กระทู้: 4239
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +695/-4
ปู ทำตัวไม่น่ารักเลยนะ

หายป่วยไวๆ นะคะ

salapaw

  • บุคคลทั่วไป
มาไวๆๆนะคะ

ปล. มาช้าเพิ่มฉาก...เลย  o13 :bye2:

ออฟไลน์ บุหรง

  • เป็ดนักเขียน
  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 854
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +709/-3
    • My FB
บทที่ ๓๕

“พรุ่งนี้ พวกเราจะเดินทางไปกรุงเทพฯ”โจชัวร์บอกกับคนทั้งสอง ทั้งๆที่ดวงตายังฉายแววของความโกรธ
“สเตฟานอยู่ที่นั่นเหรอ” ไป่เทียนถามเบาๆ
“ใช่” โจชัวร์แค่นเสียงออกทางไรฟัน พลางยกแก้วเหล้าขึ้นกรอกเข้าปากไปจนหมด แล้ววางแก้วกระแทกลงบนโต๊ะ จนเกิดเสียงดังก้องไปทั่วทั้งบาร์เหล้าภายในโรงแรมหรูแห่งนี้ จากนั้นก็ลุกจากที่นั่ง เดินออกจากบาร์ไป
“นาซิสซัส แท้ๆเลย” ไลล่าพูดแล้วก็หมุนแก้วเหล้าในมือเล่น
“อะไร นาซิสซัส” ไป่เทียนยื่นหน้าเข้าไปถามด้วยความสงสัย
“ก็นาซิสซัสไง ดอกไม้ที่ขึ้นอยู่ในน้ำตื้นๆ แล้วดอกมันจะคว่ำหน้าลงไปในน้ำ เหมือนคนที่มองดูแต่เงาของตัวเอง เป็นคำเปรียบเทียบถึงคนที่หลงแต่รูปของตัวเอง ชั้นว่า เจ้านายน่ะเหมือนนาซิสซัสไง” ไลล่าอธิบายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “ที่แท้ก็ชอบเจ้าสเตฟานนั่นเพราะหน้าตาเหมือนกันซะจนแทบแยกไม่ออก”
“อ๋อ” ไป่เทียนพยักหน้าหงึกๆ แสดงว่าเข้าใจในสิ่งที่ไลล่าต้องการบอก “แต่มันคงไม่ใช่แค่นั้นหรอก”
“ทำไม” ไลล่าหันมาแหวใส่ “มันจะมีอะไรมากกว่านั้นอีกล่ะ”
“หล่อนไม่ได้เจอกับสเตฟานนั่นจังๆหน้าแบบข้า” ไป่เทียนเคาะแก้วในมือช้าๆ “ถึงข้าจะติดตามเจ้านายที่หลังหล่อน แต่นับเวลาแล้วก็นานพอดู เจอแวมไพร์มาก็หลายตน แต่ไม่เคยรู้สึกแบบนี้มาก่อนเหมือนกัน” ไป่เทียนหลับตาลง แล้วถอนหายใจช้าๆ ใบหน้ายิ้มน้อยๆเหมือนมีความสุขเสียเหลือเกิน
“ทำไม” ไลล่าถามพลางมองดูท่าทางของไป่เทียนด้วยความประหลาดใจ
“จะว่ายังไงดี” ไป่เทียนลืมตาขึ้น ดวงตาส่งประกายแวววับ “แวมไพร์ที่พวกเราเคยเจอมา ส่วนใหญ่เต็มไปด้วยความกระหาย ความอยาก ความดุร้าย ความหยิ่งทะนง แต่สเตฟานไม่ใช่ รอยยิ้มตอนที่ได้เห็นครั้งแรก มันทำให้ข้ารู้สึกได้ถึงความอ่อนโยน ความมั่นคง ความอบอุ่น”
“เช๊อะ ... ความรู้สึกแบบมนุษย์แบบนั้นน่ะ พวกเราไม่ควรไปนึกถึงมันด้วยซ้ำ ตอนนี้ข้าเองยังนึกไม่ออกเลยว่ามันเป็นยังไง”
“นั่นสิ แต่มันก็น่าแปลก พวกเราเหล่าแวมไพร์ยากจะมีอารมณ์ความรู้สึกแบบนั้น ข้าเองก็ลืมความรู้สึกแบบนั้นไปนานแล้วเหมือนกัน แต่ทำไมตอนนั้นข้าถึงได้รู้สึกขึ้นได้ แถมยังจำความรู้สึกนั้นได้จนถึงบัดนี้ มันทำให้ข้ารู้สึกอยากช่วยให้เจ้านายได้ตัวสเตฟานกลับคืนมา”
“ถึงตอนนั้นพวกเราก็ตกกระป๋อง เจ้ายอมได้เหรอ”
“เจ้าพูดเหมือนไม่รู้จักนายท่าน” ไป่เทียนเสียงแข็งขึ้นมาทันที “เจ้านายอาจสนใจพวกเราน้อยลง แต่เจ้านายไม่ทอดทิ้งพวกเราเด็ดขาด ข้ามั่นใจ”
.................................................................................
........................................
“วันนี้ข้าไปด้วยไม่ได้นะ พวกเอ็งไปเที่ยวกันให้สนุกก็แล้วกัน” ภูริทัตพูดกับรังสรรค์เมื่อเดินออกมาจากลิฟท์
“อ้าว ทำไมล่ะวะ” รังสรรค์หยุดเดิน หันมาถาม
“พ่อกับน้ามาหว่ะ สุดสัปดาห์นี้เลยต้องเป็นเด็กดี” ภูริทัตตอบด้วยสีหน้าและน้ำเสียงเซ็งๆ เพราะะวันหยุดสุดสัปดาห์นี้ คงไม่มีโอกาศไปหาคนที่ตนคิดถึง “พวกเอ็งก็เที่ยวเผื่อด้วยแล้วกัน แล้วนี่นัดกันไปไหนล่ะ”
“ไม่ได้นัด” รังสรรค์ทำสีหน้าเบื่อหน่าย “ไอ้ชามันไปกับปูแล้ว”
“อ้าวเหรอ ตั้งแต่กลับมาจากไปเที่ยวนี่ ไอ้ชามันติดไอ้ปูหนึบเชียว หรือมันเรียบร้อยกันไปแล้ววะ”
“เออ ... คืนก่อนกลับนั่นแหละ ข้าไปนอนที่อื่น ไอ้ชามันเลยรวบซะเลย” พูดแล้วรังสรรค์ก็หัวเราะเบาๆ
“งั้นคืนนี้เอ็งก็ฉายเดี่ยวสิ”
“คงงั้น”
“งั้นก็ขอให้โชคดีนะเว๊ย” ภูริทัตตบบ่าเพื่อนเบาๆ “ไปกันดีกว่า พ่อข้าสั่งให้กลับเร็วๆซะด้วย”
พูดจบ ทั้งสองคนก็ชวนกันเดินออกไปจากอาคารสำนักงาน แล้วก็แยกย้ายกันไปตามทางของตน
.................................................................................
.......................................
รังสรรค์พาตัวเดินเรื่อยๆจนมาถึงจุดหมาย ลังเลอยู่ชั่วครู่ก่อนจะเดินเข้าประตูของโรงแรมเข้าไปยังห้องลอบบี้ เวทียกพื้นยังคงตั้งแกรนด์เปียโนหลังใหญ่อยู่เช่นเดิม นักเปียโนสาวในชุดกระโปรงยาวสีครีม กำลังบรรเลงเพลงเบาๆขับกล่อมคนที่นั่งพักผ่อนอยู่ในห้องลอบบี้ รังสรรค์กวาดสายตาไปก็พบกับโต๊ะว่าง จึงเดินไปนั่งลงบนโซฟา และกวักมือเรียกพนักงานเข้ามาสั่งกาแฟร้อน และเมื่อเครื่องดื่มถูกยกมาเสริฟ รังสรรค์ก็นั่งจิบกาแฟไปเรื่อยๆ พร้อมกับปล่อยความคิดให้ล่องลอยไปกับเรื่องราวต่างๆ จนกระทั่งความคิดหยุดลงที่คนคนหนึ่ง
“สวัสดีครับ คุณรังสรรค์” เสียงทักทายดังขึ้น พร้อมกับชายหนุ่มเจ้าของเสียงนั่งลงบนโซฟาตรงข้าม “นั่งใจลอยคิดอะไรอยู่ครับ”
“ถ้าบอกแล้วคุณจะเชื่อมั๊ย” รังสรรค์พูดพลางยิ้มให้คนตรงข้าม “ผมกำลังคิดถึงคุณอยู่พอดีเลย คุณทรงเดช”
“อึ๊ย ...” ทรงเดชเบ้หน้า “งั้นผมไปดีกว่า” พูดแล้วก็ทำท่าจะลุกขึ้น
“เดี๋ยวสิครับ จะรีบไปไหนกัน นั่งคุยกันก่อนสิครับ ผมกำลังเหงาพอดี”
“อย่างคุณน่ะมีเหงาด้วยเหรอครับ” ทรงเดชพูดกลั้วหัวเราะ “วันนี้วันศุกร์ นี่ก็เพิ่งจะหัวค่ำ ดึกอีกหน่อยก็ครึกครื้นแล้ว ขี้คร้านคุณจะหายเหงา”
“นั่นสินะครับ เดี๋ยวดึกอีกนิด ผมไปเที่ยวผัปทที่ไปประจำก็คงหายเหงาลงหน่อย แต่ตอนนี้ผมยังเหงาอยู่นี่ครับ อยู่คุยเป็นเพื่อนผมก่อนแล้วกัน”
“อ้าว แล้วเพื่อนๆไปไหนหมดล่ะครับ คุณทัต คุณชา คุณปู”
“ทัตกลับบ้านไปแล้วครับ พ่อกับแม่เลี้ยงมาหา ก็เลยต้องกลับไปทำหน้าที่ลูกที่ดีซะหน่อย ส่วนไอ้ชา มันไปกับปู ตอนนี้เลยเหลือผมคนเดียว” รังสรรค์พูดสายตาละห้อย
“ผมถามคุณจริงๆเหอะ” ทรงเดชชะโงกหน้าเข้าไปพูดเบาๆ “คุณจะคุยกับผม หรือจะให้ผมตามใครให้มาคุยกับคุณกันแน่”
“เกลียดคนรู้ทันจริงๆเลย” รังสรรค์ยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี “แล้วอยู่มั๊ยครับ”
“อยู่น่ะอยู่”  ทรงเดชยักคิ้วหลิ่วตา “แต่ผมว่ามันคงไม่ค่อยจะดีมั๊ง”
“อะไรไม่ค่อยดีหรือครับ” เสียงนุ่มๆดังขึ้น พร้อมกับคนอีกคนหนึ่งนั่งลงบนโซฟาที่ว่างอยู่
“ทรงเดชเค้าบอกว่า คงไม่ดีถ้าผมจะชวนคุณออกไปข้างนอกกันน่ะสิครับ” รังสรรค์พูดด้วยดวงตาเป็นประกาย “คืนนี้เจ้าทัตต้องอยู่บ้าน ให้ผมพาคุณสเตฟานไปเที่ยวนะครับ”
“ไปไหนหรือครับ”
“ก็ไปเดินเล่น ฟังเพลง เราไม่ได้ไปด้วยกันนานแล้วนะครับ”
“งั้นพวกเราก็ไปด้วยกันดีมั๊ย” สเตฟานพูดแล้วหันไปทางทรงเดช
“ผมขอตัวดีกว่าครับ พรุ่งนี้คุณปู่ให้ผมไปหาแต่เช้า เดี๋ยวผมคงต้องกลับไปพักผ่อน” ทรงเดชตอบยิ้มๆ

ทั้งสามคนนั่งคุยกันอยู่อีกพักใหญ่ๆ ทรงเดชจึงแยกตัวออกไป แล้วรังสรรค์ก็ชวนสเตฟานเดินออกจากโรงแรมตรงไปยังจุดหมาย ซึ่งก็คือผัปที่รังสรรค์ไปกับเพื่อนๆเป็นประจำนั่นเอง

“เป็นยังไงบ้างครับ ที่นี่” รังสรรค์ถามสเตฟานที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างๆ โต๊ะตัวเล็กๆสำหรับวางเครื่องดื่มเท่านั้น ทำให้มีโต๊ะเก้าอี้จำนวนพอเพียง ที่จะรองรับผู้มาเที่ยวได้จำนวนหนึ่ง ซึ่งก็มีมากราวๆสิบกว่าตัวทีเดียว
 “ก็คงจะดีมั๊งครับ ปรกติผมเองก็ไม่ได้เข้ามาในสถานที่แบบนี้” สเตฟานตอบพลางมองไปรอบๆ
โต๊ะที่คนทั้งสองนั่งอยู่ตั้งอยู่ใกล้ๆที่ว่าง ซึ่งทางร้านจัดไว้สำหรับให้คนที่มาเที่ยวได้เต้นรำ หรือทำกิจกรรมซึ่งทางร้านจะจัดขึ้นในบางช่วงเวลา วงดนตรีซึ่งกำลังบรรเลงเพลงในจังหวะค่อนข้างเร้าใจ ทำให้ในลานที่ว่างนั้นมีคนเต้นรำกันอยู่หลายคนทีเดียว ขณะที่สเตฟานมองไปรอบๆ ก็มีคนส่งยิ้มให้และทำท่าเหมือนจะทักทาย แต่สเตฟานก็เฉยเสีย
“คุณรู้ตัวมั๊ย ว่ามีคนสนใจคุณเยอะ” รังสรรค์ถามยิ้มๆ
“คุณเองก็มีไม่น้อยเหมือนกันนะครับ” สเตฟานตอบด้วยเสียงไม่เบานัก เพราะท่ามกลางเสียงเพลงของวงดนตรี การสนทนาจึงต้องใช้เสียงดังในระดับหนึ่งจึงจะคุยกันรู้เรื่อง

เวลายิ่งผ่านไป คนในผัปก็ยิ่งหนาแน่นมากขึ้น โต๊ะทุกตัวเต็มไปด้วยคนที่มาเที่ยว คนที่เต้นรำกันอยู่บนลานว่างก็วาดลวดลายกันอย่างสนุกสนาน ตามจังหวะดนตรีและเสียงเพลง ที่ราวจะปลุกเร้าอารมณ์ดิบของผู้ฟัง ให้ทวีมากขึ้น คนทั้งสองก็ยังเป็นที่สนใจของผู้คนในผัป มีคนเดินเข้ามาทักทายและชวนคุยอยู่เรื่อยๆ สเตฟานก็จะพูดในเชิงปฏิเสธความสัมพันธ์ไปอย่างสุภาพ หลายคนก็ปลีกตัวออกไปโดยดี แต่บางคนก็ยังรุกเร้าจนรังสรรค์ต้องออกตัวว่าเป็นคนรักของสเตฟาน นั่นแหละคนเหล่านั้นจึงจะยอมหยุด
“มิน่าเจ้าทัตมันถึงไม่ยอมให้คุณมาเที่ยวด้วย” รังสรรค์พูดราวกับบ่น แต่ก็ยังยิ้มแย้ม
“ทำไมล่ะครับ” สเตฟานถามด้วยสีหน้าแสดงความสงสัย
“ก็ดูสิ ขนาดผมทำหน้าที่แทนยังเหนื่อยขนาดนี้ นี่ถ้าเป็นเจ้าทัตนะ ผมว่าคงจะมีเรื่องกันเลยด้วยซ้ำ” พูดแล้วก็หัวเราะเบาๆ
ทั้งสองคนยังคนสนทนากันต่อไป โดยไม่รู้ว่ามีคนคนหนึ่งกำลังจ้องมองรังสรรค์ จากทางด้านหลังของสเตฟานอยู่ด้วยความสนใจ

หญิงสาวผิวสีชอคโกแลตรูปร่างอวบอิ่ม ที่เพิ่งจะเข้ามาในผัปได้ครู่หนึ่ง หล่อนเดินสำรวจดูผู้คนไปทั่ว บางครั้งก็โปรยยิ้มให้คนที่หล่อนเดินผ่าน บางครั้งก็หยุดทักทายคนที่หล่อนสนใจ แต่ยังหรอก ... หล่อนยังไม่ตกลงใจที่จะเลือกใครเป็น ‘เหยื่อ’ สำหรับคืนนี้ เพราะหล่อนยังมีภาระกิจที่จะต้องทำอยู่ และหล่อนเองยังรู้สึกว่า คนเหล่านี้ยังไม่น่าสนใจเพียงพอ หล่อนจึงยังใช้เวลานี้สำหรับ ‘ทำงาน’ และเลือกดูคนที่หล่อนพอใจไปด้วยในคราวเดียวกัน ไม่แน่หรอก หากหล่อนพอใจใครมากๆ หล่อนอาจจะขอเสพสุขกับเหยื่อของหล่อนจนพอใจก่อนที่จะทำงานต่อก็ได้ ซึ่งหล่อนเองก็ทำมาหลายครั้งแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้รับลงโทษหรือแม้กระทั่งการกล่าวตำหนิจาก ‘นายท่าน’ แม้แต่ครั้งเดียว ... แล้วหล่อนก็พบกับคนที่หล่อนต้องการ

ชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ ดูแล้วน่าจะสูงมากกว่า ๑๘๐ เซนติเมตร หล่อนนึกไปถึงเรือนร่างภายใต้เสื้อเชิต คงจะเต็มไปด้วยมัดกล้ามขนาดกำลังดี แผงอกหนั่นแน่นชวนให้ลูบไล้ มองสำรวจท่อนข้อมือซึ่งโผล่พ้นออกมาจากแขนเสื้อที่พับไว้ รวมทั้งมือใหญ่โตดูแข็งแรง หล่อนก็คิดไปถึงความสุขที่จะได้รับจากการลูบไล้ของฝ่ามือคู่นี้ เมื่อมองต่ำลงไปถึงโคนขาที่อวบแน่น ทำให้คิดไปถึงสิ่งที่อยู่ระหว่างกลางขาคู่นั้น มันคงจะทำให้หล่อนสำลักความสุขทีเดียว แล้วหล่อนก็รู้สึกขัดใจขึ้นมาเมื่อพบว่า ชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้มาเพียงคนเดียว โต๊ะตัวที่ชายหนุ่มนั่งอยู่ ยังมีชายหนุ่มนั่งอยู่อีกคนหนึ่ง และกำลังสนทนากับชายหนุ่มที่หล่อนหมายตาไว้ ซึ่งหล่อนเห็นแต่เพียงแผ่นหลังของชายหนุ่มคนนั้น
“เช๊อะ ถึงจะมาด้วยกันฉันก็ไม่สนหรอกนะ” ไลล่า แค่นเสียงเบาๆ “เอ๊ะ ...” หล่อนอุทานเมื่อสังเกตได้ถึงความผิดปรกติของผู้ที่หันหลังอยู่

ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่ง ในชุดลำลองกางเกงสีครีม เสื้อเชิตสีเหลืออ่อนปล่อยชายไว้ตามสบาย มือที่ถือแก้วเครื่องดื่มอยู่นั้นสวมถุงมือสีครีมไว้ แต่ช่วงแขนที่โผล่พ้นแขนเสื้อออกมาทำให้รู้ว่า ชายหนุ่มมีผิวขาว เนียนใสราวกับหินอ่อน ต้นคอที่เนียนขาวดูเหมือนจะเป็นประกายอยู่ในความมืด เช่นเดียวกับเรือนผมสีทองของชายหนุ่มผู้นั้น  แต่สิ่งที่หล่อนเพิ่งสังเกตุเห็นก็คือ ออร่าที่บางเบารอบๆตัวชายหนุ่มผู้นั้น มันบางเบาจนหล่อนต้องตั้งสมาธิให้แน่วนิ่ง เพื่อจะมองเห็นและรู้สึกได้ถึงออร่านั้นให้ชัดเจนมากขึ้น

ไลล่าสามารถแยกแยะเผ่าพันธ์เดียวกัน ออกจากเหล่ามนุษย์ได้อย่างง่ายดาย เพราะในดวงตาของแวมไพร์จะมองเห็นออร่าของแวมไพร์ด้วยกัน เพียงแต่ออร่าที่ไลล่าเคยเห็น มันมองเห็นและรู้สึกได้อย่างชัดเจน ส่วนใหญ่มักเต็มไปด้วยความกระหายอยากในตัณหารูปแบบต่างๆ บ้างก็แฝงความดุร้ายตามแบบฉบับของแวมไพร์โดยทั่วไป มีน้อยมากที่จะมีออร่าที่ดูสงบเยือกเย็น แต่ไม่เคยเลยที่หล่อนจะรู้สึกได้ถึงความอ่อนโยนอบอุ่น ... สิ่งที่หล่อนเกือบจะลืมเลือนไปแล้ว ... เหมือนออร่าของแวมไพร์ตนนี้


ออฟไลน์ กิมตี๋หัดขับ

  • เป็ดHephaestus
  • *
  • กระทู้: 1466
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +167/-3

ชอบจังเลยเรื่องนี้
 :L1: :L1: :L1:

ออฟไลน์ jannie

  • เป็ดHestia
  • *
  • กระทู้: 782
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +62/-0
เจอแล้ววววว

ออฟไลน์ wan

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดAthena
  • *
  • กระทู้: 5575
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +643/-10
อะไรจะเกิดขึ้นกับไลล่า เมื่อเจอสเตฟาน

หรือรังสรรค์ จะโดนดูดเลือดจนกลายเป็นแวมไพร์

เป็นกำลังใจให้นะครับ ตั้ม รักษาสุขภาพด้วยนะครับ +1 เช่นเคย

ออฟไลน์ zandwizz

  • เป็ดแสนดี
  • เป็ดHermes
  • *
  • กระทู้: 2245
  • ให้คะแนนชื่นชมคนนี้: +148/-7
เอากับเค้าสิ

งานเข้าแน่ สเตฟาน

 

สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด สนใจลงโฆษณา คลิกดูรายละเอียด


สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด
สนใจ คลิกดูรายละเอียด สนใจ คลิกดูรายละเอียด