มาอ่านสองตอนรวดอิๆ
อ่านตอนพิเศษแล้วก็รู้สึกดีขึ้นแต่ก็จะขอ วิเคราะห์ในตอนที่ 32แล้วกันนะ
อ่านแล้วตอนนี้มีข้อความที่น่าสนใจอยู่หลายจุดด้วยกัน
จะเลือกยกมาพิจารณาเฉพาะจุดที่โดนใจมากๆเท่านั้น
เคยลองขับรถไปที่คอนโดที่เคยไปส่งมัน....
แค่จอดรถไกลๆ แล้วมองอยู่ในรถ.....
ข้อความนี้มีจุดประสงค์ คืออะไร...มันหมายความว่าแค่ความเคยชินที่ไม่เคยได้ลองให้คำตอบที่ชัดเจน
รู้เพียงแต่ว่าเด็กมันน่ารักดีมาตามให้รับให้ส่ง
คอยมาอยู่ใกล้ๆก็เท่านั้นไม่ได้มีเจตนาอื่นใด
แต่มันก็เป็นการยืนยันได้อย่างว่า เมลล์มีความสำคัญขึ้นมาในจิตใจของ มาร์ช
แล้ว ไม่มากก็น้อย ยิ่งมาดูข้อความต่อไป
เบอร์โทรศัพท์ที่มี...ผม ไม่กล้าโทรไป...
เป็นเบอร์โทรศัพท์อีกเบอร์ที่ผมกดซ้ำๆ แต่ไม่เคยกล้ากด...โทรออก...จะยิ่งดูมีความหมายลึกๆให้ได้คิด...
ถ้าเราลองนำมาเปรียบเทียบกับอีกข้อความละ
หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ที่ไม่จำเป็นต้องมีนามบัตรก็จำได้ขึ้นใจ....
แล้วลองคิดตามนี้ว่าดูนะ
ที่ทำนี่หมายความว่าอะไร....
มาร์ชตัดสินได้แล้วหรือ... จากคำถาม และคำพูด กับเพื่อนสาวมิ้งค์
"มิ้งค์...มึงว่า ปลามันจะยังรอ...ขนมปังอยู่ไม๊?"ถามเพื่ออะไร ถามเพื่อต้องการคำตอบที่ถูกต้อง
หรือ ถามเพื่อให้ความลังเลที่มีอยู่มันดูชัดขึ้น
...ทีนี้กูก็เลือกได้แระว่ากูอ่ะ จะเอาตัวไหนมาต้มแดก
...ตัวที่เรื่องมากลีลา
...หรือตัวที่เปิดเผยจริงใจ...คำตอบที่ดูไม่มีอะไรมากมาย แต่มันแฝงไว้ให้เห็น
ถึงการเปรียบเทียบว่า ถ้าเราต้องเลือกระหว่าง
คนเห็นแก่ตัวไม่เลือกที่จะยอมรับ ความจริงเมื่อเสียไปก็ต้องการได้คืน
ต้องการเก็บเกี่ยวสิ่งที่เคยปิดบัง และหลบหลีกอีกครั้ง กับ
คนที่ยอมทำหลากหลายวิธีเพื่อความรัก ด้วยความบริสุทธิ์ใจ
และยอมตัดใจไปเพราะไม่ต้องการรอฟังคำตอบที่รู้คำตอบอยู่แล้ว
ตัวเลือกทั้งสองที่เกิดขึ้น มันเกิดจากจิตใจ และจิตใต้สำนึกทั้งนั้น
ว่า รักนี้ที่เกิด คือ ... แล้วเราจะยอมรับได้หรือ ...
กับคำว่ารักที่ไม่เหมือนคนทั่วไป
คำว่ารักที่ดูแตกต่าง และไม่เป็นที่ยอมรับอย่างแท้จริงในวงกว้าง
ในเมื่อต่างคนต่างมีเรื่องที่ต้องคิด
คนสองคนนั้นเลยเลือกที่จะคิดต่างกัน
คนหนึ่งคิดด้วยเหตุผลมาก่อน กับ
อีกคนคิดด้วยความรู้สึกก่อนเหตุผล
แล้วการที่ มาร์ช เลือกที่จะโทรไปหา นะ
มันก็เป็นความคิดอีกอย่างหนึ่ง ซึ่งเต็มไปด้วยคำถามหลังอ่านจบ
"พี่นะ....มาร์ชนะครับพี่..."โทรไปเพื่อจะพูดว่าอะไรหรือ...
เพื่อกลับไปยืนในจุดเดิมที่เคยยืนอยู่ และห่างหายออกมา ซึ่งดูจะเป็นไปไม่ได้เท่าไรนัก
หรือ
เพื่อบอกความคิด และความรู้สึกที่ควรจะบอกตั้งนานแล้ว
และบอกว่ามันเป็นความทรงจำที่ดีที่เคยมี และยังคงมีอยู่
แต่ มาร์ช ได้เลือกแล้วที่จะยอมเปิดใจรับรักครั้งใหม่
กับคนอีกคนหนึ่งที่ใช้ความรู้สึกตัดสินเรื่องราว
คนที่ตรงไปตรงมาจริงใน และเป็นเด็กน้อยคนนั้น
แม้ว่าตอนนี้อาจทำให้เครียดแต่เจ๊มิ้งค์ก็ปรากฎตัวได้อย่างรู้สถานการณ์
คลี่คลายอารมณ์ที่เครียดเกินไปให้บรรเทาลงไปในช่วงกลางตอน
แต่สุดท้ายตอนนี้เรื่องก็จบด้วยปมให้คิด และเครียดตามไป
หลายคนอ่านแล้วอาจรู้สึกติดใจ และถมึงทึง
อยากให้ลองอ่านแล้วคิดดูจะรู้ว่าตอนนี้มีปมให้นั่งนึกเล่นๆ
รวมกับคำพูดต่างๆในตอนก่อนหน้าที่ถูกแพลนเอาไว้ ทั้งเรื่องของขนมปัง ปลา และอื่นๆที่ยกมา
ล้วนแล้วแต่มีจุดเชื่อมโยงทำให้เรื่องดูน่าติดตามมากกว่าคำว่า ค้าง ก็เท่านั้น
แล้วจะรออ่านต่อไป
นิว