ขอบคุณทุกเม้น
มีสองคำตอบเลย ไม่บอกว่าใครถูก เอิ้กเอิ้ก ตามหากันเอง
สี่ตอนจัดไป
ปล...มิกซ์(เปลี่ยนเลเวลแล้วนา) บอกว่าภูมิยุง๊าย ง่าย มิกซ์ก็ยุง่ายเหมือนกันนา ยุให้เขียนก็เขียนทันที เอาไว้จะยุบ่อยๆ
เรื่องมิกซ์กับไอ้หน้าแมว ตามแต่มิกซ์สะดวกเลย ถ้าลงเมื่อไหร่ก็จะตามไปอ่านจ๊ะ
ไม่สนุกไม่เป็นไรเตรียมใจเศร้าไว้แล้ว จากกันตั้งสองปียังไม่ลืมลง
......
ตอนที่ 10 : พรสองข้อ
.........
ผมใช้เวลาทั้งเช้าไปกับการขอโทษไอ้ภูมิที่ผมไปยั่วอารมณ์มันแต่เช้า
ผมคุมตัวเองไม่ได้จริงๆ เวลาอยู่ใกล้มัน อารมณ์ผมออกทะเลไปเรื่อย
มันชอบเถียงผมไปข้างๆ คูๆ และบางทีก็ทำร้ายร่างกายผมด้วยเหตุผลเล็กๆ
ผมเองกำลังพยายามปรับตัวยอมๆ มันอยู่ ผมไม่อยากให้มันโกรธจนเป็นไรไป
แต่เมื่อเช้านี้ แม้จะเจ็บจนหัวเกือบแตก แต่ผมว่าสุดคุ้มได้ดูน้องชายของไอ้ภูมิที่แข็งโด่ ชัดเจ๋วทุกขุมขนนี่ หัวแตก ขาหักผมก็ยอม
.....
"กูขอโทษ คุยกะกูหน่อยดิ" ผมกระซิบมันที่ข้างหูทุกสิบนาทีตั้งแต่เช้าจนจะเที่ยงไอ้ภูมิมันก็เฉยนั่งเลคเชอร์ไปเหมือนผมไม่มีตัวตน
"เฮ้อ" ผมถอนใจเอนหลังพิงผนักเก้าอี้หลับตาลงอย่างเหนื่อยใจ กูเป็นบ้าอะไรนี่เกิดมายี่เอ็ดปีไม่เคยง้อใคร
แต่ตอนนี้ดันมาง้อไอ้คนที่นั่งเก๊กท่าข้างๆ นี่ เราง้อมันเพราะอะไรนะ สวยก็ไม่สวย
เฮ้ย ก็มันเป็นผู้ชาย เราง้อมันเพราะหล่อเหรอนี่ กลุ้มๆ
"ตอนบ่ายไม่มีเรียน กูพามึงไปช๊อปปิ้งดีไหม อยากได้อะไรกูซื้อให้ทุกอย่างเลย" ผมยังไม่ลดละเดินตามไอ้ภูมิหลังเลิกเรียน เพื่อไถ่โทษที่ตัวเองทำไว้
"มึงจะไปไหนรอกูด้วยดิ" ผมวิ่งตามไอ้ภูมิที่มันวิ่งหน้าตั้งหนีผมไปที่ชั้นล่างของตึก
ผมกับมันวิ่งไล่กันตามบันไดลงมาจากชั้นหกกว่าจะถึงชั้นหนึ่งก็เล่นเอาหอบทั้งคู่
ขณะที่เรายืนพักหายใจอยู่ เสียงโทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าเสื้อไอ้ภูมิดังขึ้น "ดีครับแม่ มีไรเหรอ"
"หาน้องพีเข้าโรงบาลเป็นไรมากไหม ขาหัก ครับๆ ได้ๆ ครับๆ ผมจะไปเดี๋ยวนี้แหละ"
เมื่อมันวางสายผมก็เอ่ยขึ้น "รถกูอยู่ทางนี้" ผมดึงแขนไอ้ภูมิไปยังลานจอดรถข้างตึก
"โรงบาลไหนวะ" ผมถามมันเมื่อขึ้นรถเสร็จ
"ศิริราช" ไอ้ภูมิบอกผมพลางหลับตาพิงเบาะเหมือนคนหมดแรง
"ไปโรงบาลศิริราช ด่วนหน่อยนะ " ผมสั่งคนขับรถแล้วหยิบมือถือมากดหาคุณศรเลขาผม
"ไอ้ภูมิ ตั้งสติหน่อย น้องมึงชื่อ นามสกุล เต็มๆ ว่าอะไร เข้าโรงบาลตอนกี่โมง บอกรายละเอียดหน่อย"
"พีระยา พัทธรธรรมรงค์ ประมาณสองชั่วโมงที่แล้ว" ไอ้ภูมิลืมตาขึ้นมาบอกรายละเอียด พลางจ้องหน้าผมไม่วางตา
"คุณศร ช่วยติดต่อหมอที่รับผิดชอบคนไข้ที่ชื่อ....ให้เวลาห้านาทีนะ เดี๋ยวผมโทรกลับ" ผมหันไปมองไอ้ภูมิที่ดูผมคุยโทรศัพท์อย่างไม่วางตา
"ใจเย็น" ผมตบไหล่มันเบาๆ
"มึงมีพี่น้องกี่คน"ผมชวนมันคุย
"สามคน พี่สาวกะน้องสาว กูคนกลาง น้องพีเป็นน้องสาวคนเล็กของกู น้องพีเดินตามกูต้อยๆ ตั้งแต่เด็ก
ตอนกูแยกมาอยู่ห้องพักคนเดียวตอนปีหนึ่ง ร้องไห้งอแงเหมือนเด็กอนุบาลเลยนะ ทั้งที่อยู่มอหนึ่งแล้ว"
ผมปล่อยให้ไอ้ภูมิพูดไปเรื่อยๆ เพื่อให้มันคลายความกังวล สักพักมือถือของผมก็ดังขึ้น
"อืมส์ ว่าไง ต่อสายเลย " ผมบอกเลขาให้ต่อสายถึงหมอเจ้าของไข้
"สวัสดีครับ คุณหมอ ผมเป็นพี่ชายน้องพีนะครับ ช่วยเล่ารายละเอียดให้ผมฟังที ตอนนี้ผมกำลังเดินทางไปโรงพยาบาล อีกสักชั่วโมงครึ่งคงถึงครับ ครับ ครับ ขอบคุณมากครับ ครับ เดี๋ยวเจอกันครับ สวัสดีครับ"
"เป็นไงบ้าง"ไอ้ภูมิถามผมอย่างร้อนรน ทันทีที่ผมวางโทรศัพท์
"ปลอดภัยดีทุกอย่าง มีแผลฟกช้ำบริเวณขาเท่านั้น ตอนนี้น้องนายรอเราอยู่ที่โรงบาล เราไปถึงก็รับกลับบ้านได้เลย"
ผมยิ้มให้กับยิ้มแรกที่ไอ้ภูมิมันให้ผมในวันนี้
.......
"พี่ภูมิ พีไม่เป็นไรจริงๆ ค่ะ พี่กลับมหาลัยเถอะค่ะ ไม่ต้องห่วงพี พี่พาตอนนี้กลับมารอที่บ้านแล้ว"
น้องพีหันหน้ามาบอกไอ้ภูมิที่นั่งอยู่เบาะหลังกับผมขณะเราเดินทางไปส่งน้องพี
"แน่ใจนะ พี่อยู่เป็นเพื่อนได้นะ" ไอ้ภูมิย้ำ
"แน่ใจสิคะ หนูมอสองแล้วนะคะ" น้องพีตอบก่อนพูดกับผมต่อ
"พี่ภูมิเป็นโรคติดน้องสาวค่ะพี่เอก กว่าจะไล่ให้มาอยู่หอคนเดียวได้แทบตาย ต้องอ้างสารพัดเหตุผล"
"อ้าว ไหนบอกพี่ตอนไปหาเราที่โรงบาลว่า น้องพีเดินตามเขาต้อยๆ" ผมถามพลางมองหน้าอายของไอ้ภูมิที่ทำท่าไม่รู้ไม่ชี้อยู่ข้างๆ
"เดินตามตอนอนุบาลสิคะ ตั้งแต่ขึ้น ป. หนึ่งคนที่เดินตามหนูก็เป็นพี่ภูมิแทนแล้วค่ะ"
"เป็นงั้นเหรอภูมิ" ผมหันมาถามคนข้างๆ
"กูห่วงน้องโว้ย" ไอ้ภูมิพูดโดยไม่มองหน้าใคร เวลามันอายนี่ ผมล่ะอยากจับมันมากอดจริงๆ
"พี่เอกช่วยหาแฟนดีๆ ให้พี่ภูมิด้วยนะคะ หนูล่ะเป็นห่วงเห็นหม้อสาวไปทั่วกลัวได้คนไม่ดีมาเป็นพี่สะใภ้"
"เอางั้นเหรอ"
"งั้นสิคะ มีแฟนจะได้เลิกตามห่วงหนูซะที" น้องพีพูดพลางหัวเราะ
"เอ๋ ว่าแต่พี่เอกมีแฟนยังคะ" น้องพีวกมาหาตัวผม
"ยังครับ" ผมตอบพลางยิ้มให้
"ว้ายๆ เป็นไปได้ไงคะนี่ หล่อๆ อย่างพี่ทำไมมีคนปล่อยให้เป็นโสด ถ้าน้องพีโตกว่านี้ พี่เอกเสร็จน้องพีแน่นอน"
ผมขำกับท่าทางน้องพีจนหัวเราะออกมาเบาๆ
"พี่ภูมิขา ช่วยน้องพีหน่อยสิ" เธอหันไปอ้อนพี่ชายตัวเอง
"อะไรเล่า" ไอ้ภูมิพูดพลางหันมามองหน้าน้องสาวอย่างเอ็นดู
"ช่วยจีบพี่เอกหน่อยสิ หนูอยากได้พี่เอกมาเป็นพี่สะใภ้ เสียดายคนหล่อๆ ต้องตกเป็นของคนอื่นอ่ะ นะๆๆๆ"
"เฮ้ยๆ หยุดคิดบ้าๆได้แล้ว" ไอ้ภูมิโวยวายใส่น้อง แต่หน้าแดงก่ำ
"ไม่เป็นไรน้องพี ไม่ต้องจีบพี่หรอกพี่เต็มใจ" ผมได้ทีคว้าคนข้างๆ มากอดพลางหันไปยักคิ้วให้น้องพีที่หัวเราะชอบใจอยู่
........
กว่าผมกับไอ้ภูมิจะจัดการเรื่องน้องของมันเสร็จก็ปาเข้าไปห้าโมงเย็น
"มึงหิวไหม เอก" ไอ้ภูมิถามผมขณะที่เรานั่งรถกลับที่พัก
"หิวดิ ขนมที่ทานโรงบาลมันอยู่ท้องที่ไหน"
"พี่ๆ ช่วยแวะห้างข้างหน้าหน่อย" ไอ้ภูมิบอกคนขับรถผม
"ไปกินเอ็มเคกัน กูเลี้ยงเอง" ไอ้ภูมิหันมาบอกผมพร้อมรอยยิ้มที่ทำให้ผมอยากจะจับมันกดลงตรงเบาะหลัง
เราสองคนจัดการกับอาหารตรงหน้าอย่างหน้ามืดด้วยความหิวไม่สนใจต่อสายตาเชิญชวนของสาวๆที่จ้องเรามาตั้งแต่เข้าร้าน
ผ่านไปประมาณสามสิบนาที เมื่อพลังงานเต็มสูบไอ้ภูมิมันจึงเงยหน้ามามองผม
"มึงบอกจะซื้อของให้กู ทุกอย่างตามแต่ใจกูใช่ป่ะ"
"หือ อ้อ อือ ใช่" แม่ง แสดงว่าฟังเราทุกคำอยู่นี่หว่า ฟอร์มจัดนักนะไอ้ภูมิ ผมขำมันในใจ
"วันนี้กูติดหนี้มึง กูไม่เอาไรจากมึงหรอก แต่มึงขอจากกูได้สองอย่าง ยกเว้นให้กูไปตายกับทำผิดกฏหมาย นอกนั้นกูจะทำให้มึงทุกอย่าง"
"พูดจริงป่ะ" ผมถามย้ำมัน
"ดูตากูดิมันโกหกมึงไหม กูให้เวลามึงคิดหนึ่งนาที" ผมหยุดทานสบสายตากับมันตามที่มันเชื้อเชิญ
ผมก็ส่งสายตาเชื้อเชิญชวนมันทำบางอย่างเหมือนกัน ใจผมอยากบอกมันว่า "กูขอมีอะไรกับมึงสองครั้ง"
แต่มันคงจะทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าหายไปจากชีวิตผมตลอดกาลแน่
"คืนนี้ค้างคอนโดกู คืนพรุ่งนี้ย้ายของจากห้องมึงมาพักอยู่กับกู" ผมพูดไปอย่างรวดเร็วกลัวมันเปลี่ยนใจ
"ตกลง" มันตอบเรียบๆ แต่หัวใจผมกระตุกเต้นระบำไม่เป็นส่ำ มันอิ่มจนกินอะไรไม่ลง
ผมกับไอ้ภูมิจะอยู่ห้องเดียวกัน ตั้งแต่คืนนี้และตลอดไป แค่นี้ให้ผมอดข้าวเป็นเดือนก็คุ้ม
จบตอนที่ 10