งั่ม!!
“โอ๊ย!!”
ภาคีร้องลั่นอย่างลืมอาย เมื่อถูกพจนฝังคมเขี้ยวลงบนท้องแขนซ้ายเสียจนเลือดซิบ ตอนสะบัดแขนออกจากขากรรไกรคู่นั้นก็รับรู้ได้เลยว่าเนื้อของเขาฉีกขาด แม้จะมองเห็นไม่ชัดนักว่าแผลมันเหวอะหวะแค่ไหน แต่ไม่ต้องเดาก็สัมผัสได้ว่าคงได้เลือดแน่
ภาคีกัดฟันกรอด แววตาวาวโรจน์ดังเพลิงสุม ไอ้ตัวแสบมันกวนโอ๊ยนัก จนเขาเกือบจะเผลอบีบคอมันให้หักไปตรงหน้า ความไม่พอใจสั่งสมเป็นเพลิงแค้นมาตั้งแต่เรื่องที่ทำให้เขาต้องขายหน้าที่ร้านอาหาร ทั้งยังเรื่องที่ทำให้เกวลินเข้าใจผิดอีก ทั้งที่ตัวพจนเองก็มีความผิดเป็นชนักติดหลัง ทำไมถึงยังกล้าท้าทายเขาแบบไม่กลัวตายขนาดนี้กัน!
หรือมันคิดว่าเขาจะไม่กล้าทำอะไร?
หากคิดอย่างนั้นจริง
ก็คิดผิดอย่างมหันต์เลยล่ะ!!
เพราะเขาจะตอบแทนทุกอย่างให้อย่างสาสมทบต้นทบดอกเลย!!
“...หึหึ...ชอบเล่นแบบนี้ก็ไม่บอก” ภาคีพูดพลางยิ้มจนตาหยี แผ่รังสีมุ่งร้ายน่ากลัวข่มขวัญพจนมากขึ้นไปอีก!! “นิยมแนวซาดิสม์สินะ” ขู่จบร่างกายสูงใหญ่ก็โน้มลงคร่อมร่างคนที่เหมือนสติหลุดลอยไปแล้วในท่าทีคุกคามอย่างเต็มกำลัง ตั้งใจให้พจนกริ่งกลัวและสั่งสอนให้คนตรงหน้ารู้ว่าไม่ควรสอดจมูกเข้ามาวุ่นวายใด ๆ กับเข้าอีก
เมื่อเห็นว่าพจนยังไม่มีท่าทีตอบโต้ ภาคีก็ยื่นแขนขวาข้างที่ยังไม่โดนกัดส่งให้ถึงปากพจนอีกข้าง “กัดอีกสิ” พร้อมเชิญชวนราวกับท่อนแขนตนคือขนมหวาน “กัดจนกว่าจะพอใจ เอาเลย ฉันไม่ว่าอะไรหรอก” แล้วพอยิ่งเห็นพจนทำหน้าตาหวาดหวั่น เขาก็ยิ่งแกล้งข่มขวัญหนักข้อ...
...ไม่ใช่แกล้งสิ เอาจริงเลยต่างหาก!
เขาไม่ใช่คนใจดี แถมยังเจ้าคิดเจ้าแค้น แล้ววันนี้อีกฝ่ายก็ทำกับเขาไว้แสบนัก เขาจึงจะเอาคืนอย่างสาสม!
“เอ้า? ทำไมนิ่งเป็นปลาตายแบบนั้นล่ะ ฉันให้โอกาสนายแล้วนะ ชอบแบบเจ็บๆ ไม่ใช่เหรอ ได้เลือดแล้วเร้าอารมณ์ดีออก…”
“จ...จะบ้าเหรอ! เร้าอารมณ์บ้าอะไรวะ!!” เพราะมัวแต่กลัวเลยทำให้พจนไม่กล้าขยับแม้จะถูกส่งแขนมาถึงปาก จนได้แต่เบือนหน้าหนี อารามตกใจก็เยอะ อารมณ์โมโหก็มาก คนบนร่างนี่ยังไง ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าเขาเป็นอะไร ทำไมถึงยังตั้งหน้าตั้งตาทำแบบนี้กับเขาที่เป็น ‘ผู้ชายด้วยกัน’ อยู่อีก!?
“คุณรู้แล้วว่าผมเป็นอะไรไม่ใช่เหรอ! ยังจะทำบ้าอะไรแบบนี้วะ!?” ด้วยความอดรนทนไม่ไหวในที่สุดพจนก็ตวาดกร้าวออกไป ความลับมันก็แตกไปนานแล้ว จะต่อยจะตี จะจับส่งตำรวจหรืออะไรก็เอาสักอย่าง เขาจะยอมรับผลกรรมที่ทำไว้แต่โดยดีทั้งนั้น แต่ไม่ใช่ต้องมาถูกล้อเล่นบ้าบอด้วยการทำแบบนี้!
เสียงประกาศกร้าว ทำภาคีตกตะลึงอยู่ครู่ ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงดังด้วยความชอบใจ แล้วกดสองแขนของพจนลงกับเตียงให้แน่นหนาขึ้น พลางยั่วยุคนใต้ร่างเดือดดาลมากขึ้นไปอีก
เขาไม่ชอบรังแกคนที่อ่อนแอกว่า และมั่นใจอย่างที่สุดว่าพจนไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่นิด
เขาไม่ทำร้ายคนดี แน่นอนว่าคนที่วางแผนปลอมตัวเป็นผู้หญิงเที่ยวไปหลอกแต่งงานกับชาวบ้าน ย่อมเรียกว่าคนดีไม่ได้
เขาไม่รังแกผู้หญิง ข้อนี้ชัดเจน เพราะพจน ไม่ใช่ผู้หญิง!
แล้วนี่เขาตั้งใจจะทำอะไรล่ะ? แน่นอนว่าสิ่งที่คิดจะทำฉายภาพซ้ำไปซ้ำมาอยู่ในหัวราวกับการสะกดจิต จริงอยู่เขาไม่ได้สนใจผู้ชาย ไม่เคยคิดแตะต้อง แต่พจนแตกต่าง ร่างกายบอบบางกว่าชายทั่วไป ใบหน้าที่หวานจนเขายังเคยปักใจเชื่อว่าเป็นหญิงแท้ ๆ
…หญิงแท้ ที่เขาเคยเกือบล่วงเกิน ไม่สิ ทั้งที่รู้ว่าเป็นผู้ชาย เขาก็ยังเคยล่วงเกินเหมือนกัน รูปรสกลิ่นเสียงที่เคยได้สัมผัส ดูมันจะติดตรึงในความทรงจำจนสลัดไม่ออก ทั้งที่เขาพยายามถอยห่าง ไม่ยุ่งไม่เกี่ยวด้วยแล้วแท้ ๆ อุตส่าห์จะลืมความรู้สึกนั้นให้ได้แล้วแท้ ๆ แต่ไอ้ตัวแสบยังยุ่งวุ่นวายกับเขาไม่เลิก…เรื่องที่เกิดขึ้น ล้วนเป็นพจนที่รนหาที่เอง!
ใช่...เรื่องที่พัทยาเขาเป็นคนผิด…เขาเองก็รู้สึกผิด จนกระทั่งยอมไปขอนอนที่ห้องของชีตาร์เพื่อให้พจนได้นอนหลับสบาย ไม่ต้องกังวลเรื่องของเขา ทำถึงขนาดนั้น ทั้งที่ไม่เคยยอมลงให้ใครมาก่อน แต่ดูเหมือนเจ้าตัวแสบมันจะไม่ได้สำนึกถึงน้ำใจที่เขามอบให้เอาเสียเลย ทั้งที่ตัวเองก็มีความผิดติดตัว แทนที่จะสลด แล้วอยู่นิ่ง ๆ ตามทางของตัวเองไป ยังมาตามราวีกันไม่เลิก
แบบนี้แล้ว…ต่อให้คืนนี้มันจะเกิดอะไรขึ้น ก็มาโทษเขาไม่ได้หรอกนะ
เพราะพจน มาเสนอตัวให้ถึงที่เอง!!
“ไม่กัดแล้วแน่นะ...งั้นก็ถึงตาทางนี้บ้างแล้ว!”
!!?
“โอ๊ยยยยยยยย!!”
คราวนี้เป็นเสียงของพจนที่ร้องลั่นออกมา ในทันทีที่ภาคีพูดอะไรบางอย่างที่สมองเขายังไม่ทันประมวลจบร่างในเงามืดสลัวก็จู่โจมตะโบมกัดซอกคอเขาอย่างแรงโดยไม่มีการบอกกล่าว คมเขี้ยวบดขยี้ลงมารุนแรงจนพจนถึงกับน้ำตาเล็ด เจ็บขนาดที่ตัวเองยังรู้สึกได้ว่าเนื้ออ่อนตรงซอกคอของเขาต้องหลุดติดฟันของภาคีออกมาแน่!
“ปล่อย!!” เจ็บจนไม่อาจทนได้พจนหาทางบิดกายให้ได้องศาพอประมาณ แล้วกระทุ้งเข่าเข้าชายโครงของภาคีแบบเต็มแรง ถึงจะไม่ถนัดนัก แต่ก็พอมั่นใจว่าสามารถทำให้จุกไปได้พอสมควร เพราะอย่างน้อยก็สามารถทำให้อีกฝ่ายละฟันจากซอกคอของเขาไปได้
การถูกกระทุ้งทำภาคีจุกเสียดจนเสียจังหวะเล็กน้อย แต่เพียงแค่นั้นก็พอที่จะทำให้พจนมีเวลาในการหลบหนี ร่างที่มีเพียงกางเกงในชายตัวจ้อยติดกายดิ้นเร่า เร่งพลิกตัวหนีคนที่ยังคงเจ็บจุกอยู่เหนือร่างทันควัน แม้ทั้งตัวจะเหลือเพียงชุดชั้นในที่ไม่สามารถอำพรางอะไรได้ แต่หากไม่หนีในตอนนี้พจนเองก็ไม่อาจคาดเดาอนาคต
พจนดันตัวของภาคีออกไปอย่างสุดแรง ก่อนจะคลานหนีด้วยความทุลักทุเล แต่ก็ถูกภาคีกระโจนกลับขึ้นมาทับที่ด้านหลังไว้ได้อย่างทันท่วงทีทุกครั้ง
การต่อสู้เริ่มขึ้นอย่างดุเดือด พจนศอกหลังไปเต็มเหนี่ยวกะให้เข้าหางคิ้วของคนที่อยู่ด้านหลัง ภาคีหลบได้อย่างฉิวเฉียด แต่แม้แค่เพียงเฉียดคมศอกเป็นมวยก็สามารถทำให้คิ้วของเขาแตกซิบได้ ภาคีรู้ดีว่าพจนเองก็มีฝีไม้ลายมือไม่ยิ่งหย่อนกว่าตน หากจะจัดการให้อยู่หมัด เขาต้องไม่เผลอ ไม่เปิดโอกาสให้ได้หนีได้อีกเป็นครั้งที่สอง!!
แม้เขาเองจะรู้ดีว่าวิธีนั้นหยาบช้าแค่ไหน...
แต่ก็ช่างหัวมันแล้ว!!!
"เฮ้ย!! ปล่อย! ไอ้เชี่ยยักษ์มาร ปล่อยกู!! อื้อ!!?" พจนร้องลั่นเมื่อถูกรวบตัวได้จากด้านหลัง แล้วถูกลากมานอนคว่ำหน้าอยู่กลางสมรภูมิโดยมีภาคีซ้อนกายอยู่ด้านหลังในท่าทีที่ค่อนข้างอันตราย อึดใจต่อมาพจนยิ่งผวาเข้าไปใหญ่ เมื่อถูกจู่โจมในจุดที่ไม่ควรโดน
“หุบปาก!” ทันทีที่สยบพจนไว้ได้มือหนาของภาคีก็รีบอุดปากอีกฝ่ายไว้ไม่ให้ส่งเสียง ส่วนอีกมือก็ถือวิสาสะลูบไล้อยู่ตรงเป้ากางเกงของเหยื่อตนอย่างถือสิทธิ์ ยิ่งคนใต้ร่างดิ้นรนขัดขืน เขาก็ยิ่งกอดรัดรุนแรง ซ้ำยังพูดตอกย้ำการกระทำของตนให้พจนได้อับอายยิ่งขึ้นไปอีก “หืม...ขนาดใช้ได้เลยนี่ เมียพี่นี่ก็ไม่เบานะ”
"อื้อ!!" ทั้งโกรธทั้งอายที่ถูกพาดพิงถึงของรักซึ่งหน้า พจนจึงพยายามดิ้นรน แต่ยิ่งดิ้นมือของภาคีก็ยิ่งสัมผัสแนบแน่นกับของพึงสงวนของเขามากขึ้น และเพียงแค่อึดใจมือปลาหมึกของภาคีที่คลึงเคล้นอยู่แค่นอกกางเกงชั้นในนั้นก็รุกรานเข้าจนสัมผัสถึงเนื้อต่อเนื้อ พจนถึงกับสะดุ้งเฮือก จนแผ่นหลังโก่งชิดกับแผ่นอกของภาคีแนบสนิท
"หือ? อะไรน่ะ...ไวจังนะคุณเมีย...หึหึ" เห็นพจนดิ้นเร่า ภาคีก็ยิ่งสาแก่ใจ ทั้งที่โดยปกติ เขาคงไม่คิดจับของผู้ชายด้วยกันแบบนี้เป็นแน่ ตกใจตัวเองไม่น้อยเหมือนกันที่จู่ ๆ ก็บ้าบิ่นถึงขนาดนี้ แต่พอเห็นว่าสามารถทำให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้สิ้นท่า ความหฤหรรษ์ก็เข้ามาแทนที่ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีจนสิ้น...
ภาคีรู้สึกสะใจมากกว่าสงสาร เลยพาลให้ยิ่งแกล้งพจนหนักข้อขึ้น
หนักขึ้น...จนไม่รู้สึกตัวแล้วว่า ตัวเองก็กำลังจะพลั้งพลาดในเกมที่ตนสร้างขึ้นเช่นกัน
ตอนนี้ภาคีไม่รู้ตัวเลยว่า หลุมพรางที่อุตส่าห์ขุดไว้เพื่อหวังให้พจนร่วงหล่นลงไปนั้น...
จะเป็นหลุมเดียวกัน ที่มันดูดกลืนเขาลงไปด้วยเช่นกัน!!
“ฮว้า!! อ่ะ...ปล่อยนะโว้ย! ไอ้หัวค*ย! ไอ้ชาติหมา ไอ้สารเลว!!”
ดิ้นรนจนสามารถหลุดออกจากอุ้งมือที่ปิดปากอยู่ได้ พจนก็ไม่รอช้าที่จะผรุสวาทใส่ภาคีออกไปอย่างแรง เขาพูดดี ๆ ไม่ได้แล้วในอารมณ์นี้ ทั้งโกรธ ทั้งเกลียด จนอยากจะฆ่าอีกฝ่ายให้ตายคามือ หากที่เขาทำกับภาคีเป็นเรื่องที่แย่ สิ่งที่มันกำลังทำกลับมาตอนนี้ก็เลวไม่แพ้กันหรอก ขนาดนี้ คงไม่ต้องคุยกันดี ๆ แล้ว!!
“ปล่อยกู! ไปตายซะไอ้เหี้ย…!!? ”
หลับหูหลับตาด่าได้ไม่เท่าไหร่ ร่างที่ถูกกดไว้ก็ถูกพลิกกลับ แต่พจนไม่มีวันยอมง่าย ๆ การออกแรงขัดขืนอย่างสุดกำลังของพจน ทำภาคีเดือดหนัก สองร่างโรมรันพันตู เสียงตุบตับจากหมัดที่พจนปล่อยใส่ร่างของภาคีดังชัด ไม่ต่างกับเสียง บิดจับ ตะปบ ดึง ของภาคีที่กระทำต่อร่างพจนซึ่งดังไม่ต่างกัน อารมณ์เดือดพล่านทะยานสูง จากที่ภาคีคิดจะปรานี อารมณ์พ่อพระที่ไม่ได้มีอยู่แล้วแต่ต้นจึงยิ่งไม่หลงเหลืออีก
“แม่งง!!” ภาคีคำรามต่ำ ใช้เรี่ยวแรงที่เหนือกว่าจับพจนพลิกกายให้หันมาเผชิญหน้าจนได้ ความมืดสกัดกั้นความสามารถทางสายตาทุกอย่าง ทำให้เขาไม่อาจเห็นว่าผิวขาวจัดของพจนนั้นแดงช้ำเพราะน้ำมือเขาไปขนาดไหนแล้ว
อารมณ์ตอนนี้ มีเพียงสัญชาตญาณดิบเดือดพล่านพาไปเท่านั้น
“ปากเก่งนักนะ เก่งให้มันตลอดก็แล้วกัน!!”
“เฮ้ย!? อย่า!!”
ภาคีตวาดกร้าว พร้อมกระชากอาภรณ์ปิดกายชิ้นสุดท้ายออกจากร่างของพจน ชนิดที่เรียกว่าทึ้งจนขาดวิ่น พจนกรีดร้องด้วยความตกใจทว่าก็ไม่อาจห้ามยักษ์มารตรงหน้าไม่ให้กระทำหยามกันได้ ผิวกายซ่อนเร้นที่จู่ ๆ ก็ถูกเปิดโล่ง ทำเอาทั้งตัวของพจนสั่นระริกด้วยความอับอายระคนหวั่นวิตก
จากนี้ไปจะเกิดอะไรขึ้นมันไม่ยากนักที่จะคาดเดา ดังนั้นพจนจึงอ้อนวอนกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างเอาเป็นเอาตาย ขอให้สิ่งที่เขากำลังคิดเป็นเรื่องที่ผิดทั้งหมดด้วยเถิด...
แต่ดูเหมือนวันนี้สิ่งศักดิ์สิทธิ์จะไม่เข้าข้างเขาสักเท่าไหร่ เรียกได้ว่าโดนทอดทิ้งอย่างสมบูรณ์เลยจะดีกว่า!!
เพราะทันทีที่ภาคีโถมเข้ามาทับอีกครั้ง เสียงรูดซิปก็ดังบาดหูขึ้นทันใด พจนแทบลมจับ สองขาเตะถีบอีกครั้งทั้งที่แทบไม่เหลือแรงขัดขืน แรงสั่นบางอย่างที่กึ่งกลางร่างกายส่งสัญญาณชัดเจนว่าอีกฝ่ายกำลังจัดการบิ้วอารมณ์ของตัวเองให้พร้อมอยู่ เสียงครางต่ำกับลมหายใจที่ร้อนระอุขึ้นในทุกขณะของภาคี บ่งบอกให้พจนรับรู้ได้ทันทีว่าอีกฝ่ายกำลังจะพร้อมจู่โจม!!
“ไอ้ห่าเอ๊ย! ปล่อยกูนะ!!” สิ่งที่เกิดขึ้นสะเทือนใจอย่างร้ายกาจ งานนี้เขาตลกไม่ออกอีกต่อไป เมื่อดิ้นรนเท่าไหร่ก็ไม่สามารถหลุดพ้น มันคือผลกรรมหรือ? นี่คือสิ่งที่เขาต้องชดใช้หรือ?
หัวใจเต้นระส่ำราวกับจะหลุดออกจากทรวงอก ทุกครั้งที่ปัดป่ายจะถูกดึงรั้ง ทุกครั้งที่สะบัดจะถูกรัดรึงแน่นหนา ถูกโถมทับ ถูกจับกด ถูกลูบไล้ ถูกพูดจาข่มขวัญ
“จะหนีไปไหน อยากเป็นมากไม่ใช่เหรอเมียฉันน่ะ อยากท้องด้วยนี่…มาทำกันเลยแล้วกัน”
“ไอ้เหี้ย กุเป็นผู้ชายมึงก็เห็น จะท้องยังไง ไม่เอาโว้ย ปล่อยกูนะไอ้วิตถาร!!”
“เออ! แล้วจะรู้ว่าฉันวิตถารได้ยิ่งกว่าที่คิด!”
"!!?"
พจนสั่นเทิ้มไปทั้งร่าง เขาพยายามเตะถีบขาที่ยังอิสระไปที่กลางอกของภาคี วาดหวังจะดิ้นรนต่อสู้จนถึงที่สุด แต่ดูเหมือนการกระทำทุกอย่างเพื่อเอาตัวรอดจะไร้ผลอย่างสิ้นเชิง กลับเป็นการส่งเนื้อเข้าปากเสือเสียอีก เพราะแค่เพียงตั้งท่าจะยกขาขึ้นก็ถูกภาคีคว้าเข้าที่หน้าแข้ง คราวนี้ขาทั้งสองข้างถูกยกสูงขึ้นพาดกับไหล่ของผู้รุกรานอย่างง่ายดาย จะสะบัดหนีก็โดนสองแขนแข็งแรงกว่าล็อกเอาไว้ ก่อนจะถูกร่างสูงใหญ่โน้มลงมาทาบทับจนราวกับทั้งร่างถูกพับครึ่ง…สองมืออิสระพยายามทั้งทุบทั้งผลัก ก็ถูกแขนที่ล็อกขาคว้าจับกดไว้กับที่นอน หมดทางต่อสู้ดิ้นรนอย่างสิ้นเชิง จนตรอกในสภาพที่น่าสมเพช
“!!?” แล้วยิ่งต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อสิ่งที่ร้อนผ่าวราวไฟอังสัมผัสเข้าที่จุดเร้นลับอย่างไม่น่าให้อภัย หัวใจของพจนหวาดผวาขึ้นทันทีที่รับรู้ได้ว่าอวัยวะที่ตื่นตัวเต็มที่ของภาคีสัมผัสเข้ากับช่องทางที่ยังปิดสนิทของตนเอง
“อยะ…อย่านะ…คุณพอล…ไม่เอาแบบนี้…” เมื่อสถานการณ์เข้าตาจนพจนก็รีบอ้อนวอน ทว่าดูเหมือนเสียงของเขาจะเบาเกินกว่าจะหยุดยั้งการกระทำใด ๆ ของอีกฝ่ายได้
ภาคีขยับสะโพกไปมาพยายามบดเบียดชำแรกเข้ายังจุดที่ยังปิดแน่นและแห้งผาก ความคิดชั่ววูบผสานความต้องการเบื้องต่ำเร่งเร้าให้เขาย่ำยีคนใต้ร่างโดยไม่คิดฟังถ้อยคำทัดทานใด ในหูอื้ออึง สมองคิดเพียงล่วงล้ำเข้าสู่ร่างตรงหน้านี้
“อ๊ะ! โอ้ย!! อ๊า เจ็บ…เจ็บ…!!”
แค่เพียงส่วนปลายที่ฝืนมุดเข้ามาอย่างทารุณก็ทำให้พจนเจ็บเจียนใจแทบขาด เขาไม่เคยสนใจหรอกว่าเซ็กซ์ของผู้ชายด้วยกันต้องทำอย่างไร แต่ขนาดเปิดซิงสาวรุ่น ยังต้องทำความคุ้นเคยก่อนไม่ใช่หรือ? แล้วนี่…ที่ตรงนั้นมันใช่ที่ที่จะใส่เข้าไปได้ดื้อ ๆ เสียเมื่อไหร่!?
“โอ้ย!! ไอ้สัตว์! อ๊ะ! มึงไม่รู้จักเล้าโลมก่อนรึไง ไอ้สมองหมา! กูเจ็บ…อ๊า!!” พจนาสบถลั่น ทั้งก่นด่าสารพัดเพื่อทุเลาความเจ็บร้าว “ถ้าคิดจะทำ ก็ทำให้ดีสิโว้ย! โอ๊ย!!”
แต่ก็ไม่ได้ผล ความฝืดแน่นราวกับจะปริแตก ทำเอาทั้งร่างสั่นระริกจนหายใจหายคอไม่ได้ “ไอ้เชี่ยพอล! โอ๊ย!! หยุดขยับก่อน! อ๊ะ! มันจะฉีกอยู่แล้ว…!!”
ยิ่งตะโกนผรุสวาท คนบนร่างยิ่งขยับกายดึงดัน ภาคีดันสะโพกไปด้านหน้า ค่อย ๆ รุกคืบเข้าไปในกายของพจนอย่างเอาแต่ได้
“อึก! คับเกินไปแล้ว…” ใช่เพียงพจนที่ทรมาน ความฝืดแน่นก็ทำภาคีทรมานไม่ต่าง เข้าไปได้ยังไม่ถึงครึ่งทางก็ถูกรัดจนเจ็บระบมไปหมด ตอนนี้ในหัวหูของเขาอื้ออึงจนไม่ได้ยินเสียงก่นด่าหรือแม้แต่ถ้อยคำอ้อนวอนขอความเมตตาของพจนแม้แต่เศษคำ เพราะมัวแต่จดจ่อกับการเสือกไสแก่นกายเข้าไปในช่องทางรัดร้อน
“อะ…อย่า….อ๊า อึก…พอแล้ว…มันเจ็บ…!” แม้พจนจะพยายามขยับสะโพกดิ้นรนหนี แต่พอถูกเชื่อมโยงเอาไว้แล้วก็ไม่อาจสลัดหลุด เสียงที่เคยตะโกนก้อง เหลือเพียงเสียงร้องทรมาน น้ำตาของพจนไหลนองเนืองเนื่องจากความเจ็บระบมผสมความอัดอั้นทรมาน เสียงเหมือนสักที่ในร่างกายฉีกขาดดังก้องอยู่ในหู พร้อมความเจ็บแสบที่แล่นปลาบไปจนถึงก้านสมอง สัมผัสราวแท่งเหล็กร้อนที่ชำแรกเขาสู่ส่วนลึกที่อนุมานได้ไม่ยากว่าภาคีคงทำมันสำเร็จแล้ว…
ภาคีครางต่ำในลำคอ ก่อนผ่อนลมหายใจยาวเพื่อผ่อนความตึงเครียด เมื่อสามารถฝังร่างเข้าไปจนสุด หัวสมองขาวโพลน รู้สึกเพียงร่างของตนกระตุกน้อย ๆ เนื่องจากถูกร่างกายของพจนบีบรัดจนรู้สึกทรมาน…ความทรมานที่เจือความหวานติดปลายลิ้นหน่อย ๆ นี่มันทำให้ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันมีความรู้สึกดีอย่างที่ไม่เคยรู้สึกมาก่อนแฝงเร้นอยู่ด้วย เขาขบริมฝีปากอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตนช้า ๆ จากนั้นจึงเริ่มขยับโยกสะโพกเบา ๆ เพื่อสร้างความคุ้นชิน
“ฮึ่ก…ได้โปรด…”
พออารมณ์ที่คุโชนจากการรุกโหมโรมรันค่อยทุเลาลงเพียงน้อย เศษเสี้ยวสติที่ได้คืนกลับมาก็ทำให้ภาคีได้ยินเสียงร้องอ้อนวอนของพจนในที่สุด เสียงนั้นอ่อนแรงจนน่าสงสาร และนั่นก็ทำให้สติของเขาตื่นตัวอย่างสมบูรณ์!
“อยะ...อย่า...ฮึ่ก...ผมกลัวแล้ว”
“...!!?”
“ผมเจ็บ ฮือ...ผม...ฮึ่ก ไม่เอาแล้ว...”
“อ๊ะ! พึ่ง…!!?”
ภาคีเบิกตาโพลง เพราะเสียงร้องไห้บางเบาจากคนใต้ร่าง เรียกสติของเขาให้กลับมาฉายชัดในก้อนสมองว่างเปล่าอีกครั้งแล้ว
ยิ่งเสียงของพจนขาดห้วงมากเท่าไหร่ หัวใจของเขาก็สั่นรัวมากเท่านั้น ภาคีนิ่งอึ้งในสิ่งที่เกิดขึ้นไม่น้อย ร่างกายที่พยายามรุกรานอีกฝ่ายอย่างสุดกำลังอยู่เมื่อครู่ หยุดนิ่งราวกับถูกสาป ความสาแก่ใจที่ควรจะได้รับ จางหายไปพร้อมภาพตรงหน้าจนตั้งตัวไม่ติด ขนาดภายในห้องมีเพียงแสงสลัวเขายังสามารถรับรู้ได้เลยว่า พจนกำลังร้องไห้หนักขนาดไหน สัมผัสได้เลยว่าร่างกายของอีกฝ่ายสั่นเทิ้มไปหมด…แม้แต่ด้านใน
เมื่อรู้สึกตัวได้ภาคีก็ไม่รอช้า รีบขยับกายยื่นมือไปเปิดโคมไฟที่หัวเตียงเพื่อเช็กสภาพที่เกิดขึ้น เสียงสะอื้นดังขึ้นทันทีที่เขาขยับกายพร้อมแรงกระตุกรัด ทำเอาร่างของภาคีกระตุกเบา ๆ ไปด้วย พจนต้องเจ็บมากอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะข้างในรัดแน่นทันทีที่มีการเคลื่อนไหว
มันแน่นเกินไป จนภาคีไม่อาจถอนตัวออกมาได้ในตอนนี้…แค่ขยับนิดเดียวยังทำให้เจ็บขนาดนั้น แถมแก่นกายของเขามันยังไม่ยอมอ่อนตัวลงเลยแม้ในสถานการณ์นี้ หากจู่ ๆ ถอนพรวดพราดออกมา…คงได้เจ็บทั้งสองฝ่ายแน่
แสงไฟสีเหลืองนวลที่ส่องสว่างขึ้น ทำให้ภาคีมองเห็นได้ในที่สุด
ภาพของพจนที่กำลังสั่นเทิ้มด้วยความเจ็บปวดระคนหวาดกลัว สองแขนที่เพิ่งถูกปล่อยเป็นอิสระยกขึ้นพาดปิดหน้าปิดตาไว้ทำให้ไม่อาจเห็นสีหน้าที่ทรมาน แต่ถึงปิดบังด้วยสองแขน หยาดน้ำตาที่เปียกฉ่ำไปทั้งสองแก้มนั้นก็ไม่อาจอำพรางได้มิด
“อึ่ก!!”
แค่ขยับตัวเล็กน้อย พจนก็ดูเหมือนจะเจ็บขึ้นมาอีก จนภาคีเองอยากจะทุบกระหม่อมตัวเองสักสองสามหมัด ลงโทษที่ไม่ยอมอ่อนตัวลงเสียที แรงตอดรัดคับแน่นทำน้องชายเขาคึกคักไม่เลิก จนอยากสาปตัวเอง!
“อยู่นิ่ง ๆ นะ เดี๋ยวฉันเอาออกให้” เขาพยายามปลอบใจพจนที่ยังสะอื้น ส่วนตัวเองก็พยายามสูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ ผ่อนลมหายใจยาว ๆ ตั้งสมาธิอยู่ครู่ใหญ่กว่าสิ่งที่สอดคาอยู่ในร่างของพจนจะอ่อนตัวลงจนสามารถถอดถอนออกมาได้ในที่สุด แต่ก็ไม่วายยังทำให้เจ็บจนสะอื้นอยู่ดี
“…” แล้วสิ่งที่ปรากฏต่อสายตาก็ยิ่งทำให้ภาคีรู้สึกผิด เลือดแดงฉาน หยดเป็นดวงอยู่บนที่นอนสีขาว อันเกิดจากบาดแผลของพจนที่เขาเพิ่งข่มเหงรุกรานทรมานอีกฝ่ายอย่างเอาแต่ใจไปเมื่อครู่ ภาพตรงหน้าทำหัวใจของภาคีสลดหนัก ไหนจะรอยเขียวเป็นจ้ำตามเนื้อตัว ที่เกิดจากการโรมรันพันตูก่อนหน้านั้นอีก
เขาขาดสติเกินไป เขาไม่ควรทำถึงขนาดนี้
แบบนี้มัน…เกินกว่าเหตุ
ภาคีรู้สึกผิดจากใจจริง ชายหนุ่มก้มหน้านิ่ง จ้องมองร่างที่นอนย่อยยับจากสงครามที่เพิ่งสงบลงอีกครั้ง ก่อนหลับตาลง เพื่อกลั่นกรองคำว่า ‘ขอโทษ’
“พึ่ง…พี่ขอโท…”
ผล็อก!!
โครม!!
ยังไม่ทันที่คำว่าขอโทษจะหลุดออกจากปากของภาคี ร่างของเขาก็ถูกอะไรบางอย่างซัดเข้าจัง ๆ ที่ใบหน้า ก่อนที่จะร่วงลงไปกองอยู่บนพื้น อย่างหมดสภาพโดยไม่ทันตั้งตัว
อะไรบางอย่างที่ว่านั่นก็คือเท้าเบอร์ 41 ของพจนนั่นเอง!
+++++++++++++++++