บดินทร์วิ่งหนีออกจากห้องของดนัยสุดฝีเท้า ไม่สนว่าจะถูกเหล่าบอดี้การ์ดที่ยืนเฝ้ายามอยู่หน้าห้องนั้นมองมาอย่างไร ทั้งเจ็บปวดและเจ็บใจกับสิ่งที่ถูกกระทำ ทั้งยังสับสนในตัวเองจนหาทางออกไม่ได้ วิ่งมาได้จนเกือบถึงหัวมุมห้องของตนก็หยุดพักหอบหายใจสะท้าน ก่อนที่ครู่ต่อมาจะมีทั้งน้ำตาและเสียงสะอื้นตามขึ้นมา
น้ำตาแห่งความพ่ายแพ้
เพราะต้องการหนีความจริงที่เมืองไทย จึงตกหลุมพรางที่ดนัยสร้างภาพมายาปิดเอาไว้ พามาทำงานด้วยกันเพื่อใช้หนี้ งานอะไรก็ได้ในวงการมายาที่พอจะทำได้ เขาเชื่อและตามอีกฝ่ายมาทั้งที่รู้ว่าตัวตนที่แท้จริงของดนัยเป็นใคร
ถึงตรงนี้บดินทร์รู้สึกตัวแล้วว่าตัวเองช่างโง่เง่า ที่เผลอไปหลงวางใจปีศาจตนนั้นเข้า
[งานที่ผมพาคุณมาทำที่นี่...คือการเป็นผู้หญิงของผม]
ดั่งคำสาปสรรอันเหี้ยมโหด ร่างของบดินทร์สั่นเทิ้มไปตั้งแต่ปลายผมจรดปลายเท้า คิดไม่ออกเลยว่าชีวิตจากนี้ไปจะเป็นอย่างไร มันมืดมนอนธการไปหมดจนหาทางออกไม่ได้ เป็นผู้หญิงของเจ้าพ่อทั้งที่เป็นตัวผู้ เรื่องน่าอัปยศอดสูแบบนั้นมันเกินกว่าที่บดินทร์จะรับไหว จะหนีได้ยังไง? จะหลุดพ้นได้ยังไง?
“กรุณาเข้าห้องได้แล้วครับ คุณบดินทร์”
“!!?”
เสียงที่ดังขึ้นตรงหน้าอย่างกะทันหัน ทำเอาบดินทร์สะดุ้งไปทั้งตัว พอเงยหน้าขึ้นไปมองแล้วเจอกับมานพลูกน้องคนสนิทของดนัยเข้า บดินทร์ก็รีบปาดหยาดน้ำที่ยังนองหน้าแบบลวก ๆ
“ไม่ต้องมายุ่ง”
บดินทร์สบถก่อนจะรีบเดินผ่านร่างของมานพไปด้วยความหงุดหงิด พ้นเจ้านายมาแล้วยังต้องมาเจอลูกน้องอีก!
“ก็ไม่ได้อยากยุ่งหรอก แต่นายท่านสั่งให้คอยจับตาดูคุณไว้”
“หึ! เป็นหมารับใช้ที่ซื่อสัตย์ดีนี่ ทั้งที่เกลียดฉันจะแย่”
บดินทร์เยาะเย้ยอีกฝ่าย เพราะเขารู้ตัวมานานแล้วว่ามานพเกลียดตนมากแค่ไหน ซึ่งเขาไม่สน เพราะให้ตายในชีวิตนี้เขาก็ไม่ขอญาติดีทั้งกับดนัยและพรรคพวกของมันเด็ดขาด
“ถ้ารู้ตัวก็อย่าทำตัวมีปัญหาให้มันมากนัก เพราะถ้าวันไหนที่นายท่านไม่เมตตาขึ้นมา...คุณจะลำบาก”
มานพตอกกลับอย่างแสบสันไม่น้อยหน้า บดินทร์กัดฟันกรอดหันกลับไปมองอีกฝ่ายที่กำลังมองเหยียดกันอยู่ก่อนแล้ว จริงอยู่ว่ากับดนัยนั้นเขาไม่มีอำนาจต่อรองใด ๆ แต่กับคนที่เป็นขี้ข้าไม่ต่างกันแบบมานพ เขาไม่จำเป็นต้องกลัว ไม่จำเป็นต้องทนถูกมันเหยียดหยาม!
“ปากดีนักนะ ไม่รู้เหรอว่านายมึงให้กูมาอยู่ในฐานะอะไร? หมารักนายอย่างมึงน่าจะรู้นะว่านายมึงให้กูอยู่สูงกว่า!”
บดินทร์กดเสียงต่ำ คำรามขู่อีกฝ่ายด้วยความโกรธเกรี้ยว ทั้งที่เขารังเกียจตำแหน่งผู้หญิงของเจ้าพ่อยิ่งกว่าอะไร แต่กลับอดใช้ประโยชน์จากมันไม่ได้ น่าสมเพชเหรอ? เฮอะ! เขาเลยจุดนั้นมานานแล้ว
แต่มานพกลับไม่ได้รู้สึกกริ่งกลัว บอดี้การ์ดหนุ่มทำเพียงเหยียดยิ้ม แล้วเผชิญหน้ากับบดินทร์ตรง ๆ
“ครับ...คุณบดินทร์ ตอนนี้คุณอาจเหนือกว่าผม แต่ผมก็อยากให้คุณรู้เอาไว้เหมือนกันว่าคุณไม่ใช่คนแรกที่เป็นผู้หญิงของนาย...แน่นอนว่าไม่มีทางเป็นคนสุดท้ายด้วย ผมเอาหัวเป็นประกัน หึ หึ ผมเองก็อยากรู้เหมือนกันนะ ว่าเด็กใหม่ของนายท่านคนนี้...จะเป็นคนโปรดได้สักกี่วัน”
“ไอ้สัตว์!”
บดินทร์ผรุสวาท พร้อมเหวี่ยงหมัดหลุน ๆ เข้าหามานพทันที แต่ด้วยชั้นเชิงที่ต่างกัน มวยหมัดของอดีตดาราย่อมไม่อาจต่อกรกับบอดี้การ์ดมืออาชีพได้ สุดท้ายคมหมัดทื่อ ๆ ของบดินทร์ก็ถูกหยุดไว้อย่างง่ายดายเพียงแค่มานพเบี่ยงตัวหลบ
พอพลาดเป้า แรงหมัดที่เหวี่ยงออกไปอย่างเต็มกำลังจึงทำให้บดินทร์เสียหลักไปชนกับเสาเรือนเข้าโครมใหญ่ แต่แม้จะเจ็บจุกเท่าใดเขาก็ไม่ยอมส่งเสียงน่าอดสูออกมาให้ใครได้ยิน
บอดี้การ์ดหนุ่มพูดขึ้น ขณะใช้มือปัดฝุ่นเล็ก ๆ บนไหล่ ก่อนส่งสายตาเยาะหยันให้บดินทร์ที่จ้องมองมาก่อนแล้ว
“ไม่ต้องรีบหาเรื่องผมหรอกคุณบดินทร์ เพราะเมื่อถึงวันที่คุณหมดราคา...เราได้คุยกันยาวแน่”
มานพพูดทิ้งท้ายเพียงแค่นั้นแล้วเดินจากไป ทิ้งบดินทร์ไว้กับความเจ็บใจจนตัวสั่นเทิ้มที่ไม่อาจต่อกรอะไรได้เลย เขาอยากชนะ! ไม่ว่ายังไงก็ตามเขาไม่อยากเป็นไอ้ขี้แพ้ต่อหน้าลูกน้องของดนัย แต่จะให้พร้อมใจยอมตกเป็นทาสบำเรอกามของอีกฝ่ายนั้นก็ไม่อาจทนทำใจได้
บดินทร์ได้แต่เดินกลับเข้าห้องของตัวเองด้วยความเหนื่อยล้า ถูกความท้อแท้จู่โจมจนแทบไม่เหลือแรงยืน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะเช้าวันใหม่ นี่เพิ่งจะคืนแรกเท่านั้นทำไมมันถึงยาวนานราวชั่วกัปชั่วกัลป์เช่นนี้ แล้วเวลาที่เหลือจากนี้เล่า ชีวิตของเขาจะเป็นอย่างไรต่อไป?
ลมหายใจที่เหลืออยู่นี้...จะได้รับอิสระเมื่อไหร่กัน?
++++++++++++++++