ตอนที่21
หลังจากที่คุยกับเจ้ปลาย ผมก็เบาสมองลงไปอีกเพราะเจ้แกบอกให้บวกไปเลย นี่ผมเป็ยผู้ชายหรือเจ้ปลายเป็นกันแน่ เอะอะ บวกตลอด
แต่เรื่องรั้นมันจบไปแล้วครับ ผมเคลียร์กับทุกคนเรียบร้อยหมดแล้ว เป็นผมเองที่คิดมากจนเกินไปจริงๆ
ตอนนี้ผมมากับป๊าครับ ป๊าชวนมาตีกอล์ฟวันหยุด เพื่อนป๊าอยากเจอผม ทำไมต้องอยากเจอ ผมอยากเล่นกับลูกชายผมมากกว่า กะว่าวันนี้กะว่าจะชวนออกไปซื้อของด้วยกัน จะให้พี่แพรวสอนทำเค้ก อดเลย เจ้าหมูแสบหน้าบูดหนักสุด
"ทำหน้าให้มันดีๆสิอาตี๋"
ป๊าแหย่ครับ เพราะเจ้าหมูแสบโทรมาบ่นใหญ่เลย ป๊าผมก็ชอบแกล้งสะด้วย
"ดีแล้วนี่ครับ จะให้ดีกว่านี้ก็ไม่ได้แล้ว"
ผมบุ้ยปากใส่ป๊า ก่อนจะหวดไม้กอล์ฟสุดแรง ลงไม่ลงไม่รู้ รู้แต่ว่า ร้อนโว้ยยยย เมื่อไหร่เพื่อนป๊าจะมาเนี่ย
"มากันนานยัง"
เสียงทุ้มดังมาจากทางด้านหลัง ผมหันไปมอง เจอกับชายวัยกลางคน รุ่นราวคราวเดียวกับป๊า และผู้หญิงน่าตาน่ารักคนนึง
"สักพักแล้ว ปาล์มมานี่สิ นี่ลุงมาติณเพื่อนป๊า"
ป๊าผมตอบ
"สวัสดีครับคุณลุง"
ผมยกมือไหว้เพื่อนป๊า
"นี่ลูกสาวฉัน มาร์กี้น่าจะอายุน้อยกว่าปาล์มนะ"
ลุงแกแนะนำลูกตัวเอง
"สวัสดีค่ะคุณลุง สวัสดีค่ะพี่ปาล์ม"
เธอยกมือไหว้ป๊า แล้วไหว้ผม รับไหว้แทบไม่ทัน
"มาดวนกันสักหน่อยมั้ย ให้เด็กๆไปนั่งคุยกัน"
ลุงแกว่า
"ก็เอาสิ มายืดเส้นยืดสายกันหน่อย"
แล้วเขาสองคนก็เอาแต่คุยเรื่องงาน หวดแต่ไม้กอล์ฟ
"พี่ปาล์มอายุเท่าไหร่ค่ะ"
เธอชวนคุย
"25ปีนี้ครับ เราละ"
"20ค่ะ"
"ครับ"
ผมไม่รู้จะคุยอะไรกับเธอ เลยตอบแค่นั้น ผมคุยไม่เก่งอยู่แล้วนิ
"พี่ปาล์มมีแฟนยังค่ะ"
ผมหันไปมองเธอ เออดี ถามคนอื่นแล้วตัวเองมาเขิน นี่มันอะไร เด็กนี่
"มีแล้วครับ"
ผมตอบๆไป ดูก็รู้ว่าจะบอกว่าชอบ
"อ๋อค่ะ"
เธอหน้าจ๋อยไปเลย
หลังจากนั้นก็เงียบกันไป ผมรู้ว่าเธอนั่งมองผมอยู่ ผมทำเป็นไม่สนใจ เล่นมือถือต่อ
"จะกลับกันเลยมั้ย หรือจะไปทานข้าวที่บ้านฉันก่อน"
ป๊าผมพูด
"ไปค่ะคุณลุง หนูกำลังหิวพอดีเลย"
เธอรีบตอบทันที อะไรของยัยเด็กนี่
"ไปสิ งั้นไปเจอกันที่บ้านฉันละกันนะ"
แยกย้ายกันครับ บ้านใครบ้านมัน เจอกันอีกที ทุ่มตรง
"ป๊า ตี๋ไม่อยู่ทานด้วยนะ ตี๋จะไปง้อลูกชาย"
ผมได้รับข้อความจากหมูแสบ ว่า.... งอลลลล แค่คำเดียวครับ ผมรู้เลยว่างอลจริง
"จะเสียมารยาทนะตี๋"
"ป๊าก็บอกคุณลุงไปสิ ว่าตี๋มีธุระด่วน นะๆ"
ผมอ้อนป๊า
"แกนี่มันน่าทุบจริงๆ ไปๆ ง้อเผื่อป๊าด้วยละกัน เดี๋ยวจะอดบีบแก้มอีก555"
ผมขำตามป๊า กลัวหลานไม่ให้เล่นแก้มน่ะสิ พูดเป็นขนาดนั้น ใครไม่หลงก็บ้าแล้ว
ถึงบ้านผมอาบน้ำเสร็จ รีบขับรถออกจากบ้านทันที กลัวยัยเด็กนั่นจะมาถึงก่อนที่ผมจะทันได้ออกไป
30นาทีต่อมา
ผมเลี้ยวรถเข้าบ้านหลังใหญ่ตามความเคยชิน จอดรถเสร็จ ผมรีบเข้าไปทันที จะง้อคนขี้งอล มันต้องทำเวลาครับ เดี๋ยวอีกคนตะบอกว่าหมดเวลาสะก่อน แสบจะตาย
"ป๊ะป๋า เมื่อไหร่มี๊จะมาละครับ"
เสียงหมูอ้วน
"เดี๋ยวก็มา จะถามบ่อยไปละนะหมูวิน"
เฮียวิคพูดขำๆ
"ก็วินคิดถึงมี๊ อยากให้มี๊มาง้อเร็วๆ"
หน้าบูดๆนั่น แก้มป่องๆนั่น น่าฟัดจริงๆ
"ป๊าก็คิดถึงเหมือนกัน รอเหมือนกันนั่นแหละ เลิกถามได้แล้วน่า"
เรื่องที่ชอบทำให้ผมเขิน เขาก็ทำได้ตลอดเวลานั่นแหละครับ คนอะไร หน้าด้านเกินไปแล้ว
"ใครนินทามี๊รึป่าวน้าาา"
ผมเอ่ยขึ้นขัดก่อนที่สองพ่อลูกจะเริ่มเถียงกัน ทุกวันนี้จะไม่ใช่พ่อลูกกันแล้วครับ จะเป็นเพื่อนกันสะมากกว่า
"มี๊~~~~~"
มาแล้วครับ สิ่งมาพร้อมลากเสียงยาว
หมับ
"คิดถึงจังเลยครับ"
คนงอลที่ไหนมาบอกคิดถึง งอลไม่จริงนี่แบบนี้ ร้ายกาจทั้งพ่อทั้งลูกเลย
"คิดถึงเหมือนกันครับ"
"ไม่คิดถึงเฮียบ้างหรอ น่าน้อยใจจัง"
ผมละอยากจะบีบคอตัวเองให้ตายตรงนี้เลย
ทำตัวเป็นเด็กแข็งกับลูก
"คิดถึงสิครับ"
ผมพูดเสียงดังๆ อีกคนตาเหลือกไปแล้วครับ ผมไม่เคยพูดนี่หน่า หูแดงแล้วนั่น
"จริงหรอ ไม่หลอกนะ"
เขาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง ผมที่อุ้มวินอยู่ก็พยักหน้าให้ พร้อมเดินไปนั่งลงข้างเขา วินเนอร์นั่งบนตัก กอดคอผมแน่น กลัวหายหรอลูก เกาะแน่นเป็นลูกลิงเชียว
"แล้วนี่ทานอะไรกันรึยัง"
ผมถาม เพราะอีกคนเหม่อลอยไปแล้ว อะไรจะขนาดนั้น555
"ยังครับ มี๊ทำให้วินกินหน่อย วินอยากกินหมูหวานครับ"
เด็กอ้วนกับหมูสามชั้นหวานของเขา
"เอาสิ เดี๋ยวมี๊ทำให้"
"เย้ๆ"
ง้อด้วยของกินที่เขาอยากกินละครับ เด็กน้อเด็ก
"เดี๋ยวๆ"
ผมกับหมูอ้วนที่ลุกขึ้น แต่อีกคนเหมือนเพิ่งได้สติ
"คิดถึงจริวก็หอมแก้มก่อนถึงจะเชื่อ เร็วๆ"
เจ้าเล่ห์มากมาย ไม่มีใครเกิน
ฟอด ฟอด
ผมหอมจริงแหละ ทุกวันนี้ได้สิกลหน้าด้านมาจากเฮียวิคเต็มๆ และผมก็ทำตามความรู้สึก ไม่ได้ฝืน
"งุ้ยยย ทำไรกันอะ"
วินเนอร์ร้องงุ้ย แล้วเอามือปิดตา ผมกีบเฮียมองตัวแสบแล้วขำ เด็กนี่มันกวนครับ รู้เยอะสะด้วย
ตอนนี้เราสามคนมาอยู่ในครัวกันแล้วครับ มีแม่บ้านคอยช่วยหาขอมาเตรียมไว้ให้ ผมทำกับข้าวเป็นทุกอย่างแหละครับ เพราะอยู่หอกัน ส่วนมากจะทำกินกันเอง ส่สนคนสอนก็คือไอ้ก้านกับไอ้ตั้มครับ มันสองคนทำอร่อยมาก ผมคอยเป็นลูกมือ จนสุดท้ายมันก็สอน เพราะมันสองคนจะคอยกินเพราะขี้เกียจทำ
สามหนุ่มใส่ผ้ากันเปื้อนลายเดียวกัน มีหมวกเชฟด้วย เพราะพวกเขาเพิ่งซื้อมาเหมือนอาทิตย์ที่แล้วนี่เอง
มือถือถูกยกขึ้นมาอัดวีดีโอไว้ แพรวเป็นคนจัดการทุกอย่าง เขาชอบเขาเป็นสาววายเลยด้วยซ้ำ ภาพถ่ายทุกมุม วีดีโอสั้นๆทถูกแพรวส่งต่อให้นายหญิงของบ้าน เขาทำงานเป็นทีมนะ รู้ยัง555
ทำไปหยอกกันไป เสียงพูดคุยเสียงหัวเราะดังไปทั่วห้องครัว สร้างความสุขให้คนในบ้านไปด้วย
"มี๊ๆ เอาผักออกๆ"
นายน้อยคนเล็กของบ้านพูดพร้อมชี้ผักชีสีเขียวที่ตกแต่งอยู่ในจาน ให้หม่ามี๊เขาเอาออก
"ผักมีประโยชน์นะครับ จะกินแต่หมูไม่ได้"
เสียงนุ่มทุ่มอบอุ่นบอกกับลูกชายของเขาอย่างอ่อนโยน
"แต่วินไม่ชอบสีเขียวนี่ครับ อี๋จะตาย"
ทำหน้าทำตาประกอบไปด้วย คนมองก็พากันเอ็นดูไม่เลิก เด็กอะไรน้อ ทำอะไรก็น่ารักไปสะทุกอย่าง
"งั้นต่อไปนี้ มี๊จะบังคับให้กินผักเอง ใครไม่กินมี๊จะโกรธมากๆด้วย"
สองพ่อลูกตาเหลือก
ความคิดคนลูก:ถ้ามี๊โกรธ จะต้องไม่ดีแน่ๆเลย
ส่วนคนพ่อ ถ้าน้องโกรธจะต้องอดกอด อดหอมแน่ๆเลย
มองตาละห้อย
"งั้นเมนูต่อไป ผัดผักรวมมิตร พี่สาช่วยเตรียมของให้ปาล์มทีนะครับ"
ปาล์มกลั้นขำสุดฤทธิ์ แต่ต้องตีหน้านิ่งไว้ ไม่งั้นสองพ่อลูกจะอ้อนให้เขาใจอ่อนจนได้
"ค่ะคุณปาล์ม"
สาสาวใช้อีกคนรีบเดินไปจัดแจงของตามสั่ง ที่พวกเธอชอบคุณปาล์มไม่ใช่เพราะเป็นแค่คนรักของของเจ้านาย แต่เป็นเพราะความเอาใจใส่ของเขา ไม่ว่าจะเรื่องเล็กหรือเรื่อใหญ่ ก็มั่งจะใส่ใจองพ่อลูกเสมอ อบอุ่น อ่อนโยน แต่เผด็จการ
"ป๊ะป๋าครับ"
สองพ่อลูกมองกันตาละห้อย เหล่าแม่บ้านที่อยู่ในห้องครัวและนอกห้องครัวเห็นแล้วอดสงสารไม่ได้ แต่ก็ทำได้แค่ให้กำลังใจ
สู้ๆนะคะคุณชาย
สู้ๆนะคะนายน้อย
พวกเธอชู้สองนิ้วให้พ่อลูก สองพ่อลูกคอตก
ตอนนี้บนโต๊ะอาหาร มีกับข้าววางอยู่4อย่าง
หมูหวาน , ปลาราดพริก , ผัดผักรวมมิตร , ต้มจืดวุ้นเส้น
แม่บ้านทำหน้าที่ตักข้าวให้ เตรียมน้ำดื่ม แล้วกลับไปทำงานอื่นต่อ เหลือแค่สาที่คอยให้บริการอยู่แถวนั้น แพรวก็ทำเนียนทำนั่นทำนี่ไปเรื่อยแต่มือก็อัดวีดีโอไปด้วยอีก
สองพ่อลูกตักแต่อาหารที่ตัวเองชอบ ยกเว้นผัดผัก ปาล์มยิ้มมุมปากก่อนจะตักผัดผักใส่จานให้สองพ่อลูก
"ทานให้หมด ถ้าใครไม่ทาน มี๊จะเสียใจมากและโกรธทั้งสองคนเลย"
คำพูดแกมบังคับพร้อมรอยยิ้มหวานที่อาบยาพิษนั้น สองพ่อลูกกลืนน้ำลายแทบไม่ลงคอ
"ครับ"
เสียงหงอยๆสองเสียงตอบพร้อมกัน
วันนี้เป็นวันที่ทานข้าวได้ทรมานที่สุด ถึงจะอร่อยที่สุดก็เถอะ
"เก่งมาก"
สองพ่อลูกเหมือนจะติดใจ หลังจากตักผัดผักเข้าปากและค่อยๆเคี้ยวนั้น ผักไม่มีรสขมเลยสักนิด รสชาติก็อร่อย มันเข้ากันมาก หลังจากนั้น สองพ่อลูกก็ซัดสะเกลี้ยงจาน ไม่มีอาหารจานไหนที่เหลือเลย
"อิ่มจัง"
สองพ่อลูกนั่งลูบท้องปอยๆ ปาล์มยิ้มขำๆ ไหนบอกไม่ชอบไง กินสะไม่เหลือเลย
"เก่งมา เดี๋ยวจะให้รางวัล"
สองพ่อลูกตาลุกวาว ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าใครเป็นคนเลี้ยงมา เหมือนกันกระทั่งนิสัย
"ถ้าอาหารย่อยแล้ว รบกวนขึ้นไปอาบน้ำกันด้วยนะครับเพราะคืนนี้ หม่ามี๊จะค้างที่นี่"
"เย้ๆ"
วินเนอร์ตัวแสบกะโดดเด่งๆอย่างดีใจ ส่วนคนพ่อ อืม ไม่ต้องบอกก็น่าจะเดาออกนะ ตาลุงหื่นกามนี่
พอพูดคุยกันเสร็จ ก็ได้เวลาไปอาบน้ำ
หลังจากนั้น ผมก็มานอนอยู่บนเตียงกับลูกชาย ที่นอนรอผมเล่านิทานให้เขาฟัง ยังเล่าไม่ถึงครึ่งเรื่อง เด็กน้อยก็หลับไปแล้ว
การเล่านิทานให้เด็กฟังก่อนนอนมันไม่ได้ทำให้เด็กนอนหลับได้ไวแต่มันเป็นการผ่อนคลายสมองให้เขา ในแต่ละวันเขาต้องเรียนรู้และจดจำอะไรไปบ้าง เขาก็เหมือนเรานี่แหละครับ ต่อให้เหนื่อยล้าแค่ไหนก็หลับเลยไม่ได้อยู่ดี อย่างน้อยก็เปิดเพลงหรือไม่ก็เปิดหนัง เพื่อให้สมองผ่อนคลายและหลับได้อย่างสนิท
"ตี๋ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มานอน"
เฮียวิคเดินไปแต่งตัวแล้ว ผมก็รีบลุกไปเข้าห้องน้ำทันที ไม่ลืมหยิบเสื้อผ้ามาใส่ด้วย
ถ้าผมมานอนนี่ วินเนอร์จะมานอนด้วยครับ เฮียแกเลยสั่งเตียงเด็กมาต่ออีก เพราะวินเนอร์จะนอนริม ส่วนผมนอนกลาง พี่วิคนอนอีกฝั่ง สรุป จะเนียนกอดผมน่ะสิ สองพ่อลูกนี่ร้ายจะตาย